ตอนที่ 28วินแสงแดดยามเช้าส่องกระทบผิวน้ำระยิบระยับเมื่อเรือหางยาวแล่นผ่านส่งให้เกิดเป็นระลอกคลื่นเคลื่อนกระทบริมฝั่งน้ำ กระดานไม้ปูเป็นลานยื่นเหนือผืนน้ำเพื่อรองรับผู้คนขึ้นลงเรือ ผมและกลุ่มเพื่อนนั่งมองจากเรือนไม้ไร้ซึ่งผนังกั้นเปิดโล่งทั้งสี่ด้านรับแสงแดดอ่อนและลมเย็นสดชื่นยามเช้า แต่ละคนมีแก้วกาแฟกลิ่นหอมกรุ่นวางเบื้องหน้า เว้นก็แต่ไอ้หนุ่มตี๋ขี้เล่นที่นั่งหลับตาพิงพนักให้รู้ได้ว่ายังไม่ตื่นเต็มตาแต่มันโดนเพื่อนร่วมห้องอย่างไอ้ปรัชลากออกมาเพื่อมารอตักบาตรในช่วงเช้า ส่วนคนอื่นๆที่แม้ไม่ชินในการตื่นเช้าแต่ก็ออกอาการสดชื่นเมื่อจะได้ทำบุญร่วมกัน
“อ่ะธี มึงมากินกาแฟก่อนจะได้ตื่นเต็มตาเดี๋ยวพระก็มาแล้ว” สาวเท่ของกลุ่มวางกาแฟลงตรงหน้าเพื่อนสนิท
“ขอบคุณคร้าบบบ” แม้ง่วงต่อมขี้เล่นของไอ้ธีก็ยังทำงานอยู่มันลืมตามายิ้มกว้างให้มนและจิบกาแฟตรงหน้า
“อาหารใส่บาตรทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้แล้ว ห้องละชุดนะครับ” พนักงานของรีสอร์ทเดินมาแจ้งที่กลุ่มของผมให้ทราบ
“กัสใส่คู่กับวินนะครับ วินอยากทำบุญคู่กับกัสนะ” ผมส่งสายตาออดอ้อนไปให้คนร่างบางข้างกายที่นั่งจิบกาแฟชมสายน้ำเบื้องหน้า กัสหันมามองผมและพยักหน้าให้ยิ้มๆ ‘อืม คนอะไรน่ารักจัง’ วันนี้ผมยังไม่ได้ชื่นใจคนน่ารักตรงหน้าเลย ขนาดรีบตื่นแต่เช้าและมาหากัสที่ห้องเพื่อชวนกันออกมารอใส่บาตรเช้าแต่ยังไม่มีโอกาสอยู่ตามลำพังเลย ขณะที่ผมมองหน้าใสเพลินก็มีเสียงดังขึ้นจนผมต้องหันมามองต้นเสียง
“อ้าวกัสใส่กับวินเหรอ งั้นมายเดียร์มาใส่คู่กับมิคนะ” มิคหน้ามุ่ยมองผมอย่างขัดใจก่อนหันไปชวนมายด้วยเสียงออดอ้อน ส่วนสาวที่โดนอ้อนก็อมยิ้มพยักหน้าน้อยๆอย่างยินดี
ผมเหลือบมองเพื่อนสนิททั้งสองคนไอ้ปรัชกับไอ้ฟินมองหน้ากันเองก่อนคิ้วขมวดฉับ ถ้าให้ผมเดามันสองคนก็คงอยากใส่บาตรทำบุญร่วมกับคนที่ตัวเองมีใจให้แน่ๆ ผมจึงเอาขาเขี่ยขาเพื่อนใต้โต๊ะพวกมันหันมามองหน้าผมทันที เราปรึกษากันทางสายตาอยู่พักไอ้ปรัชก็ยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์หน้าตาแบบนี้แสดงว่ามันคงมีแผนสำหรับแก้ไขสถานการณ์นี้ได้แล้ว ผมหันกลับมามองที่โต๊ะยังไม่มีใครสนใจเราสามคนเพราะสามหมอตัวเล็กมัวแต่สนใจชี้ชวนกันถ่ายรูปเรือที่แล่นผ่านไปมา และเพื่อนอีกสองคนของผมก็มัวแต่เถียงกันเรื่องความขี้เซาของไอ้ตี๋ธี มนถึงขั้นลงไม้ลงมือเรียกสติไอ้ตี๋ให้ตื่นเต็มตาจนมันร้องโอดโอย เพื่อนผมสองคนนี้มักหยอกกันแรงๆแบบนี้เสมอกับเพื่อนคนอื่นในกลุ่มมนก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ด้วยอย่างมากก็แค่เสียงดังใส่เท่านั้น
“เรือของพระท่านมาใกล้แล้วครับ เชิญพวกคุณได้เลยครับ” พนักงานคนเดิมเดินมาตามพวกเราไปที่ชานไม้ที่ใช้ขึ้นลงเรือ
ไอ้ปรัชส่งสายตาและพยักหน้ามาให้ผมกับไอ้ฟินให้ลุกตามไป เราสามคนเดินไปที่พนักงานที่จัดเตรียมชุดอาหารไว้รอแล้ว ก่อนไอ้ปรัชจะหยิบชุดอาหารที่จัดวางบนกระจาดเล็กๆแยกเป็นชุดไว้แล้วส่งมาให้ผมและไอ้ฟินคนละชุด เมื่อไอ้ธีเดินมาก็ส่งอีกชุดให้ส่วนผมก็เดินเข้าหากัสยืนรออยู่ด้านหลัง
“ตั้งจิตอธิษฐานด้วยกันก่อนนะครับ” ผมจับมือบางมากุมช่วยกันประคองกระจาดบรรจุอาหารและนั่งลงยกกระจาดขึ้นจบระดับศีรษะตั้งจิตอธิษฐานร่วมกัน
“อ้าวแล้วของเรากับมายเดียร์ล่ะ นายฟินนายส่งมาให้ชุดหนึ่งสิ” เสียงมิคทวงของใส่บาตรจากไอ้ฟินที่ยืนยิ้มเจ้าเล่ห์และไม่ยอมส่งให้ตามที่คนน่ารักของมันร้องขอ
“นี่ของฟินครับ มิคอยากมาช้าเองถ้าจะใส่ต้องมาใส่กับฟินนะ” ไอ้ฟินฉวยข้อมือของมิคเดินออกมาตามมาด้วยเสียงโวยวายไม่ยอมจากมิค แต่ไอ้ฟินมันก็แน่จับแน่นไม่ปล่อยฉุดให้นั่งลงและตั้งจิตอธิษฐานร่วมกันจนได้
“อย่าทำหน้ามุ่ยสิครับมิค เดี๋ยวไม่ได้บุญนะมาอธิษฐานก่อนเร็วพระมาแล้ว” มิคหน้ามุ่ยจ้องไอ้ฟินอย่างเอาเรื่องแต่ก็จำใจยอมทำตาม ส่วนไอ้หนุ่มขี้บังคับมันยิ้มกว้างอย่างสมใจ เราสบตากันก่อนมันจะยักคิ้วให้อย่างกวนๆ และเราก็ต้องเหลือบตาไปทางไอ้ปรัชเมื่อได้ยินเสียงมันพูดกับสาวน้อยข้างกาย
“มายครับมาใส่กับปรัชนะเหลือที่ปรัชชุดสุดท้ายแล้วนะครับ” มายสบตาไอ้ปรัชที่ทำหน้านิ่งจริงจังไม่ยิ้มแต่มีแววตาอ่อนโยนให้ ทำเอาสาวน้อยต้องก้มหน้าแก้มแดงไม่เอ่ยรับหรือปฏิเสธ ไอ้ปรัชส่งกระจาดใบเล็กให้และจับข้อศอกมายส่งสัญญาณให้นั่งลงตั้งจิตอธิษฐานร่วมกัน
แผนการลุล่วงไปด้วยดีงานนี้ต้องยกความดีความชอบให้ไอ้กุนซือปรัชมันครับ พระสงฆ์นั่งบนเรือรอรับของใส่บาตรพวกเราต่างทยอยลงบันไดไปทีละคู่จนครบและนั่งพับเพียบพนมมือบนชานไม้เพื่อรอรับพรจากพระท่าน ‘อายุ วรรณะ สุขขัง พลัง’ พวกเรามองพระสงฆ์พายเรือออกไปจนลับสายตาจึงลุกขึ้น ผมหันกลับไปมองสีหน้าเพื่อนแต่ละคนนั้นอาบไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขเพราะวันนี้เราเริ่มด้วยการทำบุญมันทำให้เราอิ่มเอิบใจอะไรที่จะทำในวันนี้คงราบรื่นและเริ่มต้นอย่างมีความสุข พนักงานมาแจ้งให้เราไปทานอาหารเช้าในเรือนไม้ที่เรานั่งกันเมื่อเช้าได้เลยเพราะอาหารจัดเตรียมพร้อมแล้ว ผมจึงหันไปยิ้มให้กัสที่ยืนเคียงข้างก่อนจับจูงไปทางเรือนไม้เพื่อทานอาหารร่วมกันกับเพื่อนๆที่รออยู่ หลังจากนั้นพวกเราต่างแยกย้ายไปเก็บของเพื่อเดินทางต่อไปยังหาดหัวหิน
...........................
พวกเราเดินทางมาถึงที่พักยังหาดหัวหินเป็นบังกะโลหลังใหญ่ที่มีสี่ห้องนอนและห้องน้ำในตัว บริเวณส่วนหน้าของบังกะโลเป็นหาดส่วนตัวที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านนักมีแต่ลูกค้าของที่นี่เท่านั้น ต่างคนต่างขนของเก็บยังห้องพักส่วนตัวซึ่งจับคู่กันนอนเหมือนเมื่อคืน ซึ่งผมก็ปลงแล้วเพราะถึงแย้งไปก็คงไม่ได้ผล แผนที่คิดไว้ดิบดีว่าจะได้นอนกอดคนตัวหอมมีอันชวด
“เป็นอะไร หืม หน้ามุ่ยเชียววิน” มือนุ่มบีบจมูกผมเบาๆอย่างหยอกเย้า คนน่ารักยังกล้ามาถามด้วยหน้ายิ้มๆแบบนี้อีกรู้ทั้งรู้ว่าผมเป็นอะไร มันน่าจับมาฟัดให้หายมันเขี้ยวนักเชียว
“วินก็นั่งปลงสิครับ ทริปนี้ไม่ได้นอนกอดกัสเลย กัสทริปหน้าเราไปกันสองคนนะครับ” โอบรอบเอวบางที่ยืนอยู่ตรงหน้าและซบหน้าไปกับอกกัสเผื่อเจ้าของจะใจอ่อนกับผมบ้าง กัสหัวเราะในคอก่อนส่งมือมาลูบหัวผมให้อย่างอ่อนโยนจนผมต้องกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น
“ไปกันได้แล้วครับ เดี๋ยวเที่ยวไม่คุ้มน้า” ไอ้ปรัชเรียกทุกคนให้มารวมตัวกันเพื่อไปเที่ยว ‘เพลินวาน’ กันต่อ
ผมกดจูบไปที่อกบางก่อนผละออกจากอ้อมกอดหอมๆจับจูงมือนุ่มไปขึ้นรถร่วมกับเพื่อนๆ เพลินวานเป็นสถานที่ที่เราต้องมาเมื่อถึงหัวหินซึ่งเปิดให้ชมมาไม่นานนัก เหมาะกับคนชอบถ่ายรูปเพราะมีมุมให้ถ่ายภาพมากมาย ทั้งร้านที่ตกแต่งเป็นร้านขายของเล่นสมัยก่อน ร้านถ่ายรูปเก่า โรงหนังที่มีโปสเตอร์ภาพยนตร์สมัยคุณแม่ยังสาว แม้แต่ห้องน้ำยังให้บรรยากาศเหมือนหลุดไปสมัยก่อนเลย คนมาเที่ยวค่อนข้างเยอะทำให้ยากต่อการถ่ายรูปแต่ไม่พ้นความสามารถของไอ้ฟินที่ตามจับภาพของเพื่อนทุกคนโดยเฉพาะหนุ่มน้อยน่ารักของมัน
“กัส มาย มิคอยากกินไอศกรีมกะทิร้านนั้นอ่ะ ท่าจะอร่อยคนต่อเยอะเชียว”
“อืม เอาแบบนี้นะเดี๋ยวฟินกับเพื่อนไปซื้อมาให้พวกมิคนั่งรอก่อน ไปพวกมึงเดี๋ยวซื้ออย่างอื่นมาด้วยเลย” ไอ้ฟินรีบเอาใจเสนอตัวไปซื้อของกินให้คนตัวเล็ก
ผมเห็นดีด้วยจึงพากัสมานั่งที่โต๊ะว่างและออกมาซื้อของไปบริการคนของตัวเอง ที่โต๊ะจึงเหลือกัส มิค มาย และมนรอการบริการจากหนุ่มๆ พวกผมที่ออกมาซื้อของกินต่างแยกย้ายไปหาของมาให้
“ไอ้วินมึงรีบกลับโต๊ะเร็ว โน่นมีไอ้หน้าปลวกที่ไหนไม่รู้มาคุยที่โต๊ะ” หลังคำพูดไอ้ฟินผมแทบจะทิ้งของในมือที่ซื้อมา เมื่อเห็นผู้ชายกลุ่มหนึ่งดูท่ายังเรียนอยู่มาทำท่าจีบแฟนผมอยู่ เมื่อเดินมาถึงโต๊ะจึงใช้ไหล่กระแทกเปิดทางกลุ่มที่ยืนขวางอยู่ และวางของกินที่ซื้อมาอย่างแรงก่อนหันไปจ้องหน้าผู้ชายแปลกหน้ารายตัว
“มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ น้อง” ผมหันไปจ้องหน้าไอ้คนที่ทำท่าจีบกัสอย่างเอาเรื่อง มันมีสีหน้าสงสัยในคราวแรกก่อนเปลี่ยนเป็นตกใจตาโตเมื่อรับรู้ถึงรังสีพิฆาตจากผมเข้า
“เอ่อ ไม่มีครับพวกเราแค่เข้ามาทักทายพี่กัสกับเพื่อนๆ ว่าจะไปเที่ยวกันที่ไหนต่อ” ชายหนุ่มตรงหน้าตอบและส่งยิ้มเจื่อนๆมาให้ ผมจึงยิ่งถลึงตาเข้าใส่ก่อนวางมือบนไหล่บางของกัสที่นั่งอยู่
“พวกเราไม่ไปไหนต่อแล้วล่ะจะกลับที่พักกันเลย น้องมีอะไรจะถาม ‘แฟน’ พี่อีกมั้ย” ประกาศให้รู้กันไปว่าคนนี้น่ะของใคร ไอ้หน้าปลวกตรงหน้ายังไม่ทันตอบผมก็ต้องก้มหน้ามองคนที่กระตุกชายเสื้อผมแทน
“วิน ไม่เอาน่าน้องเค้าแค่เข้ามาคุยเฉยๆ” กัสเอ่ยปรามเบาๆส่งสายตาดุๆมาให้ผม ถ้าเราอยู่กันสองคนผมคงแกล้งงอนคนน่ารักไปแล้ว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าศัตรู หัวใจจึงทำได้แค่คลี่ยิ้มให้กัสก่อนเงยหน้าส่งตาดุให้ไอ้เด็กตาไม่มีแววแทน
ไอ้หนุ่มตรงหน้ามันพยักหน้าและทำหน้าเซ็งๆก่อนเอ่ยขอตัวจากไปพร้อมเพื่อน ผมหันไปมองหน้ากัสที่กำลังทำหน้ายุ่งเริ่มไม่พอใจที่ผมทำตัวกันท่า แต่จะไม่ให้ผมกันท่าแสดงความเป็นเจ้าของกัสได้ยังไงกัน แค่เดินไปซื้อของแป๊บเดียวก็มีไอ้หนุ่มที่ไหนไม่รู้มาจีบซะแล้ว ผมนั่งลงแตะหลังมือนุ่มและส่งสายตาขอโทษแทนการพูดเรามองตากันสักพักจนกัสเอ่ยออกมา
“อย่าทำแบบนี้อีกนะวิน ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกนะ” กัสพูดเสียงเข้มก่อนถอนใจออกมาทำให้ผมอดรู้สึกผิดไม่ได้จึงพยักหน้าอย่างยอมจำนน
“กัสอย่าโกรธไอ้วินมันเลย มันรักมากก็หวงมากน่ะ” มนพูดแทรกเพื่อช่วยผม ผมจึงพยักหน้ารัวๆก่อนยิ้มกว้างยืนยันสิ่งที่มนพูด
“อืม เรามาทานกันเถอะแล้วไหนไอศกรีมล่ะวิน กัสอยากชิมอ่ะ” กัสพูดอย่างอ่อนใจด้วยคงยกโทษให้ผมแล้ว ผมจึงรีบกลับไปซื้อไอศกรีมมาให้ทันทีก่อนกัสจะโมโหอีกรอบ
พวกเรานั่งทานกันจนเรียบร้อยจึงกลับมายังที่พักซึ่งแดดยังจัดอยู่มากและต่างแยกย้ายกันพักผ่อน ไอ้ฟินชวนมิคที่เหมือนยังมีแรงเหลือเฟือไปเดินถ่ายรูปกันสองคน ไอ้ธีกับมนนั่งฟังเพลงจากสเตอริโออยู่หน้าทีวีจอใหญ่ มายกับไอ้ปรัชนั่งดูภาพถ่ายจากโน้ตบุ๊คที่เอาภาพลงแล้ว ส่วนผมกับกัสน่ะเหรอเราออกมานอนรับลมทะเลใต้ต้นมะพร้าวหน้าบังกะโลที่มีเปลญวนผูกไว้กับต้นมะพร้าวสองต้น กัสนอนหนุนอกผมในมือถือหนังสืออ่านเล่นที่พกมา
“เย็นนี้กัสจะลงเล่นน้ำมั้ย” ปากพูดนิ้วก็เกลี่ยเส้นผมออกจากหน้าผากมนไปด้วย
“เล่นสิมาทะเลทั้งที และก็สัญญากับมิคไว้แล้วว่าจะสอนว่ายน้ำให้” กัสตอบผมโดยที่ตาไม่ได้ละไปจากหนังสือตรงหน้า
“งั้นรอวินกลับมาจากซื้อของสดก่อนนะแล้วค่อยลงพร้อมกัน” ผมต้องไปซื้อของสดเพื่อจะทำบาร์บีคิวคืนนี้
“อืม แต่มิคจะไม่ยอมน่ะสิ เพราะดูท่าอยากเล่นน้ำจะแย่แล้ว” ถูกของกัสเพราะเมื่อมาถึงบังกะโลในตอนสายมิคทำท่าจะลงทะเลเลยด้วยซ้ำ แต่โดนเพื่อนห้ามซะก่อนเพราะมีโปรแกรมไปเที่ยวต่อ ผมไม่อยากให้กัสและเพื่อนลงน้ำกันตามลำพังเลยเกิดมีอะไรขึ้นจะไม่มีใครช่วยได้ทันตัวก็แค่นี้ จะว่าผมเป็นห่วงจนเกินเหตุก็ได้ก็คนรักทั้งคนนี่ครับผมน่ะทั้งห่วงทั้งหวงเลย
“งั้นเดี๋ยววินไปชวนเพื่อนรีบออกไปซื้อเลยดีกว่าจะได้กลับมาอยู่กับกัส” กดจมูกที่หน้าผากคนในอ้อมกอดพร้อมส่งยิ้มให้และไม่รอคำตอบ อยากรีบไปรีบกลับจริงๆไม่อยากห่างนักแต่ที่ตลาดสดนั้นทั้งร้อนและแฉะไม่อยากให้กัสไปลำบาก
ผมออกตามหาไอ้ฟินและไอ้ปรัชให้ไปด้วยกันปล่อยไอ้ธีให้ดูแลคนที่เหลือ พวกเราใช้เวลาเดินซื้อของทะเลกันค่อนข้างนานเพราะต้องซื้อหลายอย่างและต้องเลือกของที่สดด้วย กลับมาถึงรีสอร์ทก็ให้ทางพนักงานดูแลบังกะโลไปจัดการเตรียมของให้เพื่อทำบาร์บีคิวซีฟู้ดเป็นอาหารเย็น พวกเรารีบกลับมาที่บังกะโลแต่ไม่เจอใครเลยคงหนีไปเล่นน้ำกันแล้วแน่ๆ
“สงสัยลงทะเลกันแล้วว่ะ” ไอ้ปรัชเอ่ยออกมาและชวนกันไปที่หาดหน้าบังกะโล กลุ่มคนในทะเลท่าทางสนุกกับการเล่นน้ำไม่ได้สนใจพวกผมสามคนที่ยืนบนหาดทรายเลย ไอ้ธีหันมาเห็นก็เดินเข้ามาหา
“กูบอกแล้วว่าให้รอพวกมึงแต่ไม่มีใครเชื่อกูอ่ะ โดยเฉพาะเด็กมึงไอ้ฟิน” ไอ้ธีหน้ามุ่ยรีบแก้ตัวก่อนมันคงกลัวโดนพวกผมเล่นงานที่อุตส่าห์ไว้ใจให้ดูแลแต่ก็ห้ามไม่ได้ มันจึงต้องเลยตามเลยและลงมาดูแลที่ทะเลแทน ก่อนมันจะโบ้ยไปให้หนุ่มน้อยที่เหมาให้เป็นของไอ้ฟินไปแล้ว ไอ้ฟินมันคงถูกใจคำพูดไอ้ตี๋ธีจึงยิ้มซะกว้างไม่คิดจะเล่นงานเพื่อนตัวเองเลย
ผมหันไปโบกมือตอบกัสที่เพิ่งเห็นผมก่อนรีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกางเกงขาสั้นมีเชือกผูกที่เอวไม่ใส่เสื้อโชว์กล้ามอกและกล้ามท้องแน่นๆ ไอ้ฟินก็ไม่ต่างจากผมนักมันมีแค่กางเกงขาสั้น เรามีหุ่นใกล้เคียงกันแต่ไอ้ฟินมีผิวสีแทนส่วนผมจะผิวขาวกว่ามัน เมื่อออกมาเจอเข้ากับไอ้ปรัชที่มาด้วยเสื้อกล้ามสีดำและกางเกงขาสั้น พวกเรามองหน้ากันยิ้มๆ
“มึงสองคนจะโชว์ไรหนักหนาวะ” ไอ้ปรัชแสยะยิ้มใส่ผมและไอ้ฟินก่อนเดินนำออกไปที่หน้าหาด
“ฮ่าๆ อิจฉาที่พวกกูมีกล้ามมากกว่ามึงดิ” ไอ้ปรัชที่หุ่นบางกว่าแต่ใช่ว่าจะไม่มี มันหันมาตบที่หัวผมและไอ้ฟินอย่างหมั่นไส้เรียกเสียงฮาจากเราทั้งคู่ เราสามคนออกมาที่หน้าหาดอีกครั้ง เรียกสายตาจากคนที่เล่นน้ำทะเลให้หันมามอง ผมสบตาสีดำสนิทคู่ที่เจ้าของลอยคออยู่ในทะเล ก่อนเดินเข้าหากัสและโอบเอวบางเข้าหาตัว
“หนีวินมาเล่นน้ำได้ไงครับ วินให้รอไงไม่รู้เหรอว่าเป็นห่วงน่ะ” กัสมองมาและเปิดยิ้มอ้อนๆมาให้ก่อนวางมือมาที่อกผมทั้งสองข้าง ผมก้มมองไปที่คนน่ารักที่ตั้งใจอ้อนและต้องใจหายวาบ ด้วยสิ่งที่เห็นตรงหน้าทำเอาความหวงของผมพุ่งสูง เพราะเสื้อยืดสีเหลืองอ่อนที่กัสสวมพอโดนน้ำมันก็แนบเนื้อตัวบอบบางของกัสแถมยอดอกสีสดก็ดันเสื้อออกมาให้เห็นรำไร
“กัสทำไมใส่เสื้อตัวนี้ครับ ดูสิโป๊หมด” กัสเลิกคิ้วทำตาโตยังงงกับสิ่งที่ผมพูดและก้มมองตามสายตาผมก่อนเงยสบกันอีกครั้ง
“ไม่เห็นโป๊เลยวินคิดมาก และกัสก็เป็นผู้ชายนะใครจะมาสนใจ” โฮ! ที่รักไม่รู้อะไรซะแล้ว ถึงกัสจะเป็นผู้ชายแต่ไอ้เสื้อผ้าที่โดนน้ำแนบร่างบางให้เห็นสรีระและผมที่เปียกน้ำลู่ลงกับศีรษะตาโตแก้มแดงเรื่อจากแดดอ่อนๆยามเย็นแบบนี้ มันทำเอาคนที่เห็นแบบผมแทบคลั่งคนอื่นไม่ต้องพูดถึง จนอยากจะหนีบกัสกลับไปขังที่ห้องไม่ให้ใครเห็นเลย
“ซ่าๆๆ / ฮิๆๆ คนคิดมาก มาวินมาเล่นน้ำกัน” กัสสาดน้ำใส่หน้าผมและสลัดตัวออกจากอ้อมกอดก่อนว่ายหนีห่างออกไป
“เล่นแบบนี้เหรอกัส อย่าให้จับตัวได้นะ มานี่อย่าหนี” ผมรีบว่ายน้ำตามจับร่างบางที่หนีไป เพื่อนคนอื่นๆก็สนุกกับการว่ายน้ำเล่นหยอกล้อกันไปมาเรียกเสียงหัวเราะก้องทะเล พวกเราเล่นน้ำกันจนหมดแสงแดดยามเย็นและท้องเริ่มหิวจึงชวนกันขึ้นจากน้ำ
“กัสรออยู่ในน้ำก่อน เดี๋ยววินไปเอาผ้ามาให้”
“ไม่ต้องหรอกขึ้นไปพร้อมกันนั่นแหละ”
“อย่าดื้อครับ นะรอก่อน” กัสหน้ามุ่ยที่โดนขัดใจแต่ก็พยักหน้าอย่างจำยอม
ผมจึงรีบกลับไปเอาผ้าเช็ดตัวที่ทางที่พักเตรียมไว้ให้มาหลายผืน ก่อนกลับมายื่นให้หญิงสาวและหนุ่มน้อยทั้งสามคน และหันไปคลุมผ้าให้คนของผมที่ยืนกอดอกรออยู่แล้ว กัสคงจะหนาวเพราะลมทะเลผมรีบห่อตัวให้และพากัสไปอาบน้ำที่ห้องผมส่วนห้องกัสให้มิคใช้แทน หลังอาบน้ำกันเรียบร้อยพวกเราก็มาย่างบาร์บีคิวซีฟู้ดที่ถูกจัดเตรียมไว้หน้าบ้านพัก บรรยากาศเป็นที่สนุกสนานและผ่อนคลายจากเสียงเพลงที่ไอ้ธีเป็นคนเล่นกีต้าร์โปร่งที่พกติดมาด้วย ทริปนี้แม้จะไม่หวานเหมือนที่คิดไว้แต่ก็สนุกเพราะมีเพื่อนและคนที่รักอยู่เคียงข้าง แต่ถ้าทริปหน้าผมตั้งใจจะพากัสไปกันแค่สองคนอยากสวีทหวานกับคนรักบ้าง ผมหันกลับไปมองคนข้างกันที่ไม่ได้รู้เรื่องถึงแผนการของผม กัสกำลังนั่งฟังเพลงอมยิ้มน้อยๆหันไปคุยกับเพื่อนสนิทข้างๆไม่ได้หันมาสนใจกันเลย ผมจึงเอื้อมมือกุมมือบางเรียกร้องความสนใจ เรียกสายตาพราวระยับอย่างคนมีความสุขให้หันมามองกันได้ ผมจึงยิ้มตอบเจ้าของตาสวยที่มองสบกันก่อนก้มลงกระซิบข้างหูหอม
“ทริปหน้าไปกับวินแค่สองคนนะครับ”
...........................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^
หวานกันไปเบาๆนะคะ

เจอกัสวินพรุ่งนี้ค่ะและมีเรื่องวุ่นๆนิดหน่อยด้วย
อย่าลืมมาให้กำลังทั้งคู่นะคะ
+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์แล้วค่ะ

ทุกการติดตามน้า
ปล.เหลืออีกสามวันแล้วใครอยากได้หนุ่มๆไปนอนกอดรีบหน่อยน้าติดตามรายละเอียดหน้าแรกค่ะhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่ วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55 
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
38 ตอน 5 ตอนพิเศษ
จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท