พี่ครับ...ผมรักพี่
‘ยิ้ม เราเลิกกันเถอะ เราอยากมีลูกแล้วเรากำลังจะแต่งงาน’
“อึก!”ฝันถึงอีกแล้ว ทั้งที่เกือบจะหนึ่งปีแล้วที่เจอคำพูดแบบนั้น แย่ชะมัด!
“อ้ายยิ้ม ถ้าไม่หลับก็ลุกไปสิวะ ขยับตัวไปมาอยู่ได้ กูรำคาญครับเพื่อน”เสียงไอ้หมาในบ่นพร้อมยันให้ผมลงจากเตียงของมัน เมื่อคืนฝนตกหนักทันทีที่ผมพาไอ้ไนท์เมาเหมือนหมากลับมาถึงคอนโดของมันและผมที่ไม่มีรถจึงต้องค้างแรมอยู่กับมันด้วย ถ้ารู้ว่าตื่นมาจะถูกมันยันให้ลงจากตียงละก็ ผมจะไม่เอามันมาส่งที่คอนโดให้เป็นภาระเด็ดขาดเลย
“ชงกาแฟเผื่อกูด้วยนะ อีกสิบนาทีกูจะลุกไป”แหนะ! มีสั่ง
“เออ”
ผมขอแนะนำตัวนะครับ ผมชื่อ ยิ้ม ถึงผมจะหน้าเด็ก ตัวเล็ก แต่ปีนี้ผมอายุ 23 แล้วล่ะ เรียนจบและกำลังฝึกงานอยู่กับบริษัทของป๊าไอ้ไนท์ ไอ้ไนท์เองก็เหมือนกันครับ เห็นมันแบบนี้แต่ก็เอางานเอาการเหมือนกันนะ ถ้าไม่ใช่เพื่อนมันมาก่อนคงคิดว่ามันชอบเถลไถล เมาไปเมามาได้อย่างเดียว
“วันนี้ป๊าให้เข้าบริษัท”ไอ้ไนท์พูดพร้อมยกกาแฟขึ้นจิบ
“แล้วไง มันไม่เกี่ยวกับกูเพราะกูลาหยุด”ผมบอกมัน เนื่องจากวันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียของคุณแม่ของผม ผมจึงขอคุณป๊าของไอ้ไนท์หยุดเพื่อไปทำบุญให้คุณแม่
“เออ รู้แล้ว ก็กูจะบอกมึงนี่ไงว่าไปทำบุญด้วยไม่ได้”
“อ้าว เออ จริงด้วย ไม่เป็นไรหรอก กูไม่ถูกใครฉุดหรอกน่า กูไปคนเดียวได้”ผมยิ้มบอกมัน
“กูไม่ได้กลัวใครเขาฉุดมึง กูกลัวมึงไปฉุดเขาต่างหาก”
“ไอ้หมาใน เดี๋ยวกูเตะ”มันทำหูทวนลมเดินหนีผมเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง ผมจึงทำได้แค่กัดฟันด่ามันในใจ สักพักไอ้ไนท์ก็ออกมาด้วยชุดทำงานเต็มยศ ผมอิจฉาที่มันหล่อกว่านี่แหละ ให้มันใส่ชุดนอนธรรมดามันก็ยังหล่ออยู่ดี
“แหม มองกูตาเยิ้มเชียวนะ”ไอ้ไนท์พูดพร้อมดึงแก้มผมเล่น
“บ้าหรอ ไปได้แล้ว เดี๋ยวก็โดนป๊ามึงด่าหรอก”
“เออ ฝากปิดห้องด้วยนะ”
“อืม”ไอ้ไนท์บอกลาผมอีกครั้งแล้วเดินออกไปจากห้อง ผมรีบเดินไปเก็บแก้วกาแฟล้างแล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปวัดให้ทันพระฉันท์เช้า พอถึงวัดคุณพ่อที่อยู่ต่างประเทศก็โทรมาหาผมพอดีพร้อมชวนคุยหลายเรื่องจนผมเข้ามาถึงศาลาวัดเผื่อถวายสังฆทานผมก็บอกคุณพ่อ
(พ่อฝากบอกคิดถึงแม่ด้วยนะ ยิ้ม)
“ครับ ผมจะบอกให้นะ”
(คิดถึงลูกนะ)
“ครับ ผมเหมือนกัน รักษาสุขภาพด้วยนะครับ สวัสดีครับ”วางสาย ผมก็จัดการถวายสังฆทาน ฟังเทศน์และกรวดน้ำก่อนจะเดินไปทำความสะอาดเจดีย์ใส่กระดูกคุณแม่ เสร็จทุกอย่างก็เกือบเที่ยงพอดี
ติ๊ด ตี๊ด ติ๊ด
“ว่าไง”
(เสร็จยังวะ)
“อืม เสร็จแล้ว กำลังจะไปหาข้าวเที่ยงกิน”
(อ้าว หรอ เออ งั้นกูไม่กวนแหละ โทรมาถามเฉยๆ)
“อืม แค่นี้นะ บาย”ผมเดินออกมาจากตัววัดนิดหน่อยก็เจอกับตลาด กะว่าจะหาอะไรกินก็ที่ตลาดเนี่ยแหละพร้อมซื้อของสดเข้าคอนโดตัวเองด้วย แต่ไอ้ของสดที่ว่าเนี่ยมีไม่กี่อย่างหรอกเพราะผมทำอาหารเป็นไม่กี่อย่าง ที่พื้นฐานก็คงไข่เจียว ไข่ดาว ไข่ตุ๋น ประมาณนี้ ข้าวผัดที่ใส่ผักไม่กี่ชนิดกับผัดกระเพราอะไรแบบนั้น เดี๋ยวค่อยคิดอีกทีแล้วกันว่าจะซื้ออะไรบ้าง ตอนนี้ผมหิวมากเลยล่ะ
“เชิญจ้า”เจ๊เจ้าของร้านพูดพร้อมทำอาหารไปด้วย ผมเลือกนั่งที่มีพัดลมเป่าพอดีก่อนสั่งราดหน้าหมี่กรอบไก่กับน้ำเปล่าขวดนึง ที่จริงผมไม่ได้มากินอาหารในร้านแบบนี้นานแล้วนะเพราะปกติไม่กินที่ห้องผมก็กินที่ห้องไอ้ไนท์แต่ส่วนมากก็ห้องไอ้ไนท์นั่นแหละเพราะแฟนมันมาทำให้กินบ่อยๆ แฟนไอ้ไนท์เป็นถึงเชฟในโรงแรมชื่อดังเชียวนะทั้งเก่งทั้งสวยอีกต่างหาก ไม่รู้อะไรดลใจให้มารับรักไอ้ไนท์ได้
“ราดหน้าหมี่กรอบค่ะ”
“ขอบคุณครับ”ผมพูดแล้วจัดการกับราดหน้า ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็กินหมด นั่งย่อยสักพักก็จ่ายเงินแล้วออกมาเดินดูของสด ผมเลือกซื้อไข่ไก่ไปแผงนึงกะว่านั่งแท็กซี่กลับจะได้ไม่แตกและก็ผักสดอีกสามสี่อย่างเป็นพิธีว่าผมก็กินผัก อะ ขนมไทยด้วยเอาไปฝากน้ายามที่คอนโด จนบ่ายกว่าๆผมก็โบกพี่แท็กกลับคอนโดเพราะอากาศมันเริ่มอึมครึมเหมือนฝนจะตกและอย่างที่คิด รถแท็กซี่จอดหน้าคอนโดผมได้แค่สามวิ เจ้าฝนก็ตกลงมาอย่างหนักคล้ายจะต้อนรับผมกลับคอนโดแต่...เกรงใจจัง ไม่ต้องตกก็ได้เพราะมันทำให้ผมเปียกเกือบทั้งตัว
“อะ”ใครกันมานั่งแถวบันไดหน้าคอนโด คงไม่ใช่คนในคอนโดผมแน่เพราะผู้ชายในคอนโดนี้มีผมแล้วก็คนที่อยู่ชั้นสองซึ่งตัดออกไปได้เลย เนื่องจากรายนั้นเป็นกะเทยแอ๊บแมนและหุ่นของกะเทยคนนั้นก็ไม่ได้แมนบึกบึนขนาดนี้แถมคนที่มานั่งก้มหน้าอยู่หน้าคอนโดนี่เนื้อตัวยังมอมแมมอีกต่างหาก ไม่รู้ว่าไปฟัดกับใครมา แต่ช่างเถอะ มันไม่ใช่เรื่องของผม เขาอาจจะมารอเพื่อนหรือรอแฟนก็เป็นได้ ผมเลยเดินผ่านเขามาแล้วเปิดประตูเดินเข้าไปในคอนโด
“น้าครับ ผมซื้อมาฝาก”ผมพูดพร้อมยื่นถุงขนมให้น้ายาม น้าเขาก็รับแล้วขอบคุณผมใหญ่ พอให้ขนมน้ายามแล้วผมก็ขึ้นห้องเพื่อเก็บของสดใส่ตู้เย็นและอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ อาบน้ำเสร็จฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ผมจึงเปิดโน้ตบุ๊คตัวเก่งทำงานอีกนิดหน่อยก่อนเปลี่ยนเป็นเล่นเกมจนเวลาเลยเป็นหัวค่ำก็ปิดและเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าน้ำดื่มในตู้เย็นหมดแล้ว ถ้าไม่ซื้อคงหิวน้ำตายแน่ ผมเลยหยิบร่มสีชมพูจ๋าของแฟนไอ้ไนท์ที่เคยให้ผมยืมมาเมื่อหลายวันก่อนติดมือไปด้วยถึงตอนนี้ฝนเริ่มเบาบางลงแล้วแต่กันไว้ดีกว่าเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำกลับมา
ลงมาถึงหน้าคอนโด ผู้ชายคนนั้นที่ผมเห็นก่อนเข้าคอนโดก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมท่าเดิม โห ไม่เมื่อยเลยหรือไงกันนะ ผมมองเขาอีกแวบนึงแล้วเดินไปซื้อน้ำดื่มขวดใหญ่สามขวดจากเซเว่นหัวมุมถนนถัดมาจากคอนโดผมไม่เท่าไหร่ ชั่วคราวก่อนไว้พรุ่งนี้อ้อนไอ้ไนท์พาไปซื้อที่ห้าง พอเดินกลับมาหน้าคอนโด ผู้ชายคนนั้นก็ยังอยู่ไม่เปลี่ยนที่และกิริยาท่าทาง เฮ้อ ผมไม่คิดเลยว่าตัวเองจะใจบุญแต่เห็นว่าตัวสั่นเพราะโดนไอฝนหรอกนะ ผมจึงหยุดยืนอยู่หน้าเขา
“นายมาหาใครหรอ”ผมถาม เขาเงยหน้าขึ้นมองผมก่อนจะก้มลงไปเหมือนเดิม ถึงจะแค่แวบเดียวแต่ผมก็เห็นว่าใบหน้าของเขามีแผลฟกช้ำกับเลือดอยู่ไม่น้อยเลย
“ผมมาหาเพื่อน...”เสียงทุ้มเอ่ยตอบผมเบาๆ
“อ้าว แล้วเพื่อนนายล่ะ”
“เขาไม่อยู่”
“งั้นมาห้องฉันก่อนไหม”อืม ผมไม่คิดว่าตัวเองจะมีน้ำใจหรอกนะแต่ปากมันเผลอพูดออกไปซะแล้ว เขาตรงหน้าก็เงยหน้ามองผมอีกครั้งแถมแววตาเขามีประกายบางอย่างอีกด้วย
“เอ่อ...”
“ขอบคุณครับ”เท่านั้นแหละ เขาก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมหยิบกระเป๋าเป้สะพายหลัง เห็นแบบนั้นผมก็เดินนำเข้าคอนโดมาก่อนโดยมีเขาตามติด น้ายามที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ก็มองตามอย่างสงสัย ผมจึงหันไปบอกเพื่อลดการจับผิด
“แฟนผมครับ...”