ตอนที่258 ความลับไมมีในโลก
ว่าจะไม่เข้ามาเเล้ว เเต่นอนไม่หลับ อะไหนๆก็นอนไม่หลับละ ขอสักนึดนึงก็เเล้วกัน
คำว่า...............ความลับไมมีในโลก................
ยังใช้ได้ทุกยุค ทุกสมัยจิงๆ
เมื่อเย็นของวันที่19มั้ง
ผมก็เลิกงานปกติ เดินลงมาเจอไอ่นัดคุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้ อยู่แถวๆมอไซมัน(ส่วนผมยังไม่ออกจากตึก มันก็เลยยังไม่เห็น)
มันคุยโทรศัพท์แบบสีหน้าจิงจังมาก ถ้าไอ่คนที่คุยอยู่ตรงหน้า ผมว่าโดนมันต่อยไปละ แล้วจู๋ๆมันก็ปาโทรศัพท์ลงพื้น แบต ตัวเคส ปุ่ม ทุกอย่างกระจายไปคนละข้างเลย ถ้าเป็นคนก็คงต้องไปวัดอย่างเดียว ICUคงไม่รับแล้ว
มันปาลงพื้นไม่พอ มันยังไปเตะซ้ำอีก
รอยืนมองสักพัก เลยเดินออกไป
“มานานยังอะ”ผมแกล้งถามมัน
“เพิ่งมามะกี้เอง”สีหน้ามันปกติมาก ถ้าผมไม่เห็นกับตา ผมก็คงไม่สงสัยอะไร
“แล้วไอ่ธีร์ละ”
“ไม่รู้มัน ไม่ได้โทรหา”
“สงสัยกลับไปแล้วมั้ง ปะกลับกันเถอะ อยากอาบน้ำวะ”จิงๆผมจะลากมันขึ้นห้องแล้วถามมันให้รู้เรื่อง
“อืม ปะ”
ตลอดทาง ผมชวนมันคุย มันก็ฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง ตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง
พอถึงใต้ตึก
“ปะ......../เดี๋ยวเข้ามานะ”ผมกำลังจะบอกมัน ปะขึ้นห้อง แต่มันไวกว่าผมอีก ไม่รอฟังอะไรเลย
ผมจะทำยังไงดี
ตอนนั้นผมคิดไม่ออกเลย ว่ามันมีเรื่องอะไร แล้วกำลังจะไปไหน เพราะโทรศัพท์ ก็ไม่ได้เก็บมาด้วย ผมก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นโทรศัพท์นั้นด้วยแหละ
โทรหาไอ่กิจ มันก็ไม่รู้เรื่อง แต่มันบอกเดี๋ยวจะโทรถามให้ (แต่ผมก็ไม่ได้บอกนะ ว่ามันปาโทรศัพท์ทิ้ง)
ไปเคาะห้องไอ่ธีร์ มันก็ไม่อยู่
เลยโทรมามัน
“ธีร์ อยู่ไหน”
“อยู่....... อยู่บ้านเพื่อนคับ”
“เดี๋ยวนี้เหลวไหลใหญ่แล้วนะเมิง กลับมาเดี๋ยวนี้”
“โห พี่โหดวะ”
“บ้านเพื่อนอยู่แถวไหน จะให้ไปรับหรือกลับมาเอง”
“คับๆ กลับก็ได้ มีอะไรหรือป่าวพี่”
“ป่าว แค่ไปเคาะประตู ไม่เคยเห็นอยู่เลย เป็นห่วง”
“ขอบคุณคับ เดี๋ยวรีบกลับเลย”
“ok ให้เวลาไม่เกิน1ชั่วโมงนะ”
“30นาทีเลย”
“เออ ไวไว”
ประมาณ20นาทีมันก็มาเคาะประตูห้องผม
“เที่ยวเก่งนะเดี๋ยวนี้เนี้ย”
“โถ่พี่ ผมก็มีไปบ้านเพื่อนบ้างสิ”
“หึหึ แล้วไม่มีการบ้าน บ้างหรือไง”
“โถ่ ระดับนี้แล้ว พี่กินข้าวยัง”
“ยัง รอไอ่นัด”
“อ้าว มันไม่ได้ไปรับพี่หรอ”
“ไป แล้วมันก็ไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ถ้าหิว ก็ไปกินก่อนไป เดี๋ยวมันอาจจะกลับมาดึกแน่”
“ไม่เป็นไรพี่ ยังไม่ค่อยหิวอะ รอกินพร้อมกันก็ได้”
“แน่ใจ”
“อืม ผมไปกินแมคกับเพื่อนมาแล้วไง ยังอิ่มอยู่เลย ถ้ามันมาก็ไปเรียกผมนะ ผมเล่นเกมส์รอ”
“อืมๆ”
2ทุ่มมันก็เงียบ
3ทุ่มก็ยังไม่มา
4ทุ่มกว่า
กรี๊งงงงงงงงงงง
กรี๊งงงงงงงงงงง
กรี๊งงงงงงงงงงง
02xxxxxxx
เห็นเบอร์ 02 แบบนี้แล้วผมใจไม่ดียังไงไม่รู้
กว่าผมจะทำใจรับโทรศัพท์ได้ ตั้งนาน
“ส...... สวัสดีคับ”
“ตัวเองลงมาเปิดประตูให้หน่อยดิ เอาไอ่ธีร์ลงมาด้วย”
“เมิงไปไหนมานัด”
“เดี๋ยวเล่าให้ฟัง”
“อืมๆ”
ผมรีบไปเคาะห้องไอ่ธีร์
“ธีร์ๆลงไปข้างล่างกับพี่หน่อย”
“มีอะไรหรอพี่”
“พี่ก็ไม่รู้ ปะลงไปแปปนึง”
ผมไม่รอลิฟท์นะ พากันวิ่งลงบันไดเลย
เจอมันแบกลังเบียร์อยู่บนบ่า อีกมือหนึ่งมีถุงน้ำแข็ง แล้วก็กับข้าว
ผมควันออกหูเลย
“อย่าเพิ่งด่า ธีร์มึงมาช่วยถือดิ”ไอ่ธีร์ก็เชื่องจิงๆ
มันช่วยกันถือของขึ้นห้องไป โดยที่ไม่สนว่ากรูจะยืนอยู่ข้างล่างเลย
“เมิงเป็นอะไรนัด”
“ตัวเองกินข้าวยัง เค้าซื้อข้าวมาเผื่อละ”
“........................................”
พวกมันก็กินกัน ผมก็นั่งมองพวกมันบนเตียง มันชวนผมก็ไม่กิน
ผมอยากรู้ว่ามันเป็นอะไร
แต่มันก็ไม่ยอมพูด
จนตี1 ไอ่ธีร์ขอตัวไปนอน
ไอ่นัดมันก็นั่งกินอยู่คนเดียว
“จะพูดได้ยัง”
“....................................ที่บ้านรู้เรื่องของเราแล้วนะ” ใจผมสั่นเลย มันเต้นแรงมันเหมือนจะทะลุออกมา
“...........................................”
“เค้าไม่มีที่อยู่แล้ว ทั้งตัวเค้ามีแค่นี้” มันล้วงเอาเงินออกมาใส่มือผม แต่นอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร ผมงง สับสน ร้อนใจ กลัว
“เมิงไปเอาเงินมาจากไหน เยอะขนาดนี้นัด” ตอนนั้นผมคิดว่า ถ้ามันไม่ขายยา ก็เล่นบอล
“กดออกมาสิ”
“หมดนี้???????????”
“อืม”
“กรูว่าเมิงไปอาบน้ำนอนก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นมาค่อยคุยกัน ดีไม”ผมพยายามพูดกับมันดีๆแล้วนะ
ผมมานับดูทีหลังจึงรู้ว่าขาดอีก800บาท ครบแสนพอดี(เพราะมันเอาไปซื้อเบียร์แน่ๆ)
“เค้าไม่รู้หรอก ว่าใครบอกที่บ้านเค้า แต่พ่อแม่เค้าไม่ฟังเค้าเลย ตอนนี้เค้ามีแค่ตัวเองนะ”มันลุกขึ้นมากอดผม
“เมิงเมาแล้วนัด ไปอาบน้ำก่อนไม เดี๋ยวกรูเก็บของรอ จะได้นอน”
“อืม” ผมก็เชื่อนะ เพราะตอนเย็นผมก็เห็นว่ามันคุยโทรศัพท์ แต่ไม่รู้ว่าคุยกับใคร อาจจะเป็นพ่อหรือแม่มันก็ได้
ผมเก็บขวดเบียร์เปล่าใส่ลังไว้ ขวดที่ยังไม่เปิดอีก3-4ขวด ก็เอาไปซ่อนไว้
มันอาบน้ำเสร็จ ก็ล้มตัวลงนอนเลย ผมก็ไปอาบน้ำ นอน
ถามว่าผมนอนหลับไม
ตื่นเช้ามาผมก็ไปทำงานปกติ ไม่ใช่ตื่นสิ เพราะผมยังไม่ได้นอนเลย
“นัด จะเรียนไม”
“อืออออ”
“จะไปเรียนไม”
“อืมม ไม่ไป ปวดหัวอะ”
“งั้นก็นอนอยู่นี่แหละ กรูไปทำงานแล้วนะ ข้าวเทใส่จานกินเองนะ”ผมนอนไม่หลับ ลุกไปตลาดตั้งแต่ตี5
“เดี๋ยวเค้าไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอก ไหนบอกปวดหัวไง”
“ให้เค้าไปส่งนะ”
“อืม ก็ได้ เดี๋ยวขากลับซื้อแฮงค์มากินด้วยนะ”
“อืม”
มันไปส่งผมถึงที่ทำงานตั้งแต่7โมงกว่าๆซึ่งผมเป็นคนแรกที่ถึงที่ทำงาน ถามว่าผมกล้าเข้าไม ไม่อะ มันวังเวง ถึงจะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดอยู่ก็เถอะ แต่ก็ไปไม่กล้าอยู่ดี
“กลับไปนอนต่อเถอะปะ”มันมองหน้าผม แล้วก็เงยมองฟ้า ผมรู้ว่าน้ำตามันไหลแน่ๆ
“...................................”
“กินกาแฟสักแก้วไม ขอคุยด้วยหน่อย”
“อืม ก็ดีวะ เค้าอึดอัดมาก ตัวเองรู้ไม”
“อย่าร้องดิ ไอ่นัดคนที่กรูรู้จัก ไม่ใช่คนอ่อนแอแบบนี้ ลงมาจากรถก่อน”
ผมก็เข้าไปสั่งกาแฟ เลือกที่นั่งนอกร้าน เพราะเรื่องที่คุยกันน่าจะซีเรียสพอสมควรละมั้ง
“ไหนพูดมาดิ เมื่อวานมีอะไร”
“ก็อย่างที่บอกอะ ที่บ้านเค้ารู้เรื่องของเราแล้ว”
“แล้วเมิงเครียดทำไมละ ทีเมื่อก่อนเมิงยังไม่เห็นเครียดเลย ความจิง มันก็คือความจิงๆอยู่วันยันค่ำอะ เค้าไม่รู้วันนี้ พรุ่งนี้เค้าก็รู้ อยู่ดี อยู่ที่ว่าเค้าจะรู้ช้าหรือไวแค่นั้นแหละ”
“ไอ่รู้อะ เค้าไม่สนใจหรอก แต่แม่เค้าไม่เข้าใจอะสิ”
พอกาแฟมาเสิรฟ์ เราต่างคนต่างเงียบสักพัก
“เค้าไล่เมิงออกจากบ้านหรอ”ผมถาม
“ก็ป่าว แต่เค้าบอกให้....เรา....เลิก...กัน”
“..............แล้วเมิง....คิดยังไงละ”มันเป็นอะไรที่จุกอกมาก
“ไม่วะ เค้าเดินมาทางนี้แล้ว เค้าเลือกตัวเอง และเค้าก็มั่นใจว่าตัวเองก็เลือกเค้า”
“แล้วที่บ้านเมิงละ เมิงไม่สนไม่แคร์ไม่ได้นะนัด”
“ไม่ ตัวเองก็รู้ว่าเค้าเป็นคนยังไง ในเมื่อที่บ้านไม่สนจะฟังเค้า แล้วเค้าจะยังสนทำไม”
“นัด เมิงพูดอย่างงี้ก็ไม่ถูกนะนัด สรุป เมิงจะเอายังไง”
“เค้าจะมาอยู่กับตัวเอง เค้าเอาทุกอย่างคืนแม่ไปหมดแล้ว เหลือกุญแจคอนโด เค้าขนของเสร็จ เค้าก็จะเอาไปคืนแม่”
“เมิงคิดดีแล้วหรอ เมิงคิดว่าพ่อแม่เมิงเค้าจะไม่เสียใจหรอที่เมิงทำแบบนี้”
“แล้วทีพ่อตบหน้าเค้าละ พ่อยังไม่คิดเลยว่าเค้าจะรู้สึกยังไง”อันนี้ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกัน
“เฮ้อออ”
“ตัวเอง รักเค้าไมละ”
“.................รักดิ ทำไมถามแบบนี้ละ”
“แล้วทำไม ตัวเองพูดเหมือนไม่อยากให้เค้ามาอยู่ด้วยละ”เอ้า โยนความผิดมาให้กรูซะงั้น
“มันไม่ใช่อย่างงั้นนะนัด มันเรื่องใหญ่นะเว้ย”
“แล้วตัวเองจะทำยังไงละ ให้เราเลิกกันหรอ”มันตะคอกใส่หน้าผม
“..................................”
“......................................”
“....................................”
“.....................................”
ต่างคนต่างเงียบอยู่พักใหญ่ ผมไม่รู้จะพูดอะไร ผมไม่อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ถามว่าผมรักมันไม ผมก็รักแล้วก็อยากอยู่กับมัน แต่พ่อแม่เค้าละ เค้าก็รักลูกเค้าเหมือนกัน เค้าก็อยากให้ลูกเค้าเดินตามทางที่ถูกต้อง
แต่ถ้าเกิดผมให้มันเลือกทางที่ถูกต้องแล้วตัวผมและตัวมัน เราจะเดินไปทางไหนกัน
“เดี๋ยวเรื่องนี้เค้าจัดการเอง ตัวเองอยู่เฉยๆเหอะ ทำงานไป”
“เอ้า..................”แล้วมันก็กระโดดข้ามรั้วร้านกาแฟ บิดมอไซไปเลย
ผมก็นั่งมองแก้วกาแฟ2แก้วที่ละลายจนตกตะกอน คิดได้อย่างงั้น มองนาฬิกา เชี่ย สายละ สายไปเกือบ ชั่วโมง ผมนั่งตั้งแต่7โมงกว่า ยัน10โมงเลยหรอ รีบไปจ่ายตัง แล้วทำตัวเนียนเข้าที่ทำงาน
“อ้าวพี่ คิดว่าจะเปลี่ยนงานซะละ”ไอ้ต้าทักแต่ไกลเลย
“เปลี่ยนงานไรวะ”
“คิดว่าจะไปขายขนมจีบให้สาวร้านกาแฟ”
“ถุ้ย”
“เป็นไรป่าวพี่ มีแต่คนถามเห็นพี่นั่งอยู่ร้านกาแฟนานแล้ว ใครเดินผ่านก็ไม่ทัก เมาปะพี่”
“เมาห่าไรละ มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”
ทำงานได้ ชั่วโมงกว่า
“ต้าๆแอบไปกินข้าวกัน” ผมยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อเย็น
ผมกับไอ้ต้าแอบไปกินข้าวตั้งแต่ยังไม่เที่ยง
กินเตี๋ยวได้3-4คำมั้ง
ตี๊ดดดดดดดดดดดดด
ตี๊ดดดดดดดดดดดดด
ตี๊ดดดดดดดดดดดดด
ผมว่าแล้ว ไม่ช้าก็เร็ว เค้าก็ต้องโทรมา ก็โทรมาจิงๆด้วย
นั่นคือแม่ไอ่นัด
“ส...สวัสดีคับ”
“สวัสดีจ้า ยุ่งอยู่หรือเปล่า”
“อ้อป่าวคับ พักเที่ยงแล้วคับ แม่มีอะไรหรือป่าวคับ”ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอก แต่ก็ยังกลั่นใจถาม
“แม่รู้ ว่าเรารู้ว่าแม่จะคุยเรื่องอะไร”
“คับ”ขอบตาผมร้อนทันที
“มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงลูก แม่ไม่เคยรู้ไม่เคยเอะใจมาก่อนเลย”
“...............ผมก็ไม่รู้เหมือนกันอะคับ”ผมลุกจากก๋วยเตี๋ยว โบกไม้โบกมือ บอกไอ่ต้าว่าเดี๋ยวมาๆ
“แม่ว่าหนูก็โตแล้วนะลูก รู้ใช้ไม ว่าอะไรคือสิ่งถูกต้อง คือสิ่งที่ควร”
“ก็รู้คับ”
“แล้วลูกปล่อยใจ ให้เลยเถิดมาทำไมห๊ะ แม่คิดหนักไมเกรนจะขึ้นแล้วนะ”เค้าพูดกับผมเพราะเหมือนเคยไม่มีขึ้นเสียงไม่มี ตะคอกผมสักคำ ผมได้แต่ร้องไห้สะอื้น
“........................................”
“ตอนนี้ลูกๆยังเด็ก ลูกอาจจะยังคิดว่าวัยรุ่นเป็นอะไร ยังไงก็ได้ แล้วอนาคตละลูก ลูกจะทำยังไง”
“ผมคิดว่าผมดูแลนัดได้คับ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เวลาก็ช่วยพิสูจน์ว่าเรากันจิงๆคับ ไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ”ผมไม่ได้เถียงนะ แต่พยายามหาเหตุผลมาอธิบาย
“ลูกไม่คิดถึงอนาคตบ้างหรอ อนาคต เราจะยืนอยู่ตรงไหนของสังคม”
“ผมยอมรับคับ ว่าบ้านผมจนไม่ได้มีหน้ามีตาทางสังคมอะไรเลย แต่ผมกับนัด เราผ่านความลำบากมาพอสมควรในความคิดผมนะคับ และเราก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้ โดยที่เค้าไม่เคยบ่น หรืออะไรเลย จุดนี้ละคับที่ผมคิดว่านัด เค้าพร้อมที่จะยืนข้างผมได้”
“แล้วที่บ้านเรารู้เรื่องนี้ไม”
“รู้คับ รู้แค่ยายคนเดียว”เพราะไอ่นัดนั่นแหละบอก แต่ไม่มีรู้ว่ายายบอกใครอีกหรือเปล่า แต่ยายก็ปฎิบัติกับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เหมือนเป็นลูกหลานปกติ
“แล้วพ่อแม่เราละ”
“พ่อผมแยกทางกับแม่แล้วคับ ส่วนแม่ผมก็ไม่เคยบอกคับ เพราะผมคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลา ผมคิดว่ารอผมสร้างเนื้อสร้างตัวได้แล้วผม ผมค่อยบอก ผมอยากยืนให้มั่นคงด้วยตัวเองก่อนคับ ผมถึงจะบอกแม่ผม รวมทั้งแม่ด้วย(หมายถึงแม่ไอ่นัด)”
“เฮ้อออ แม่เหนื่อยใจจิงๆ แม่ขอพูดตรงๆนะ แม่ไม่อยากให้เราเดินไปทางนี้ต่อเลย”
“............ผม ผมก็ไม่ได้อยากเดินมาทางนี้หรอกครับ แต่เมื่อใจมันไปแล้วอะคับเดินกลับตอนนี้ก็ไม่ไหวแล้วคับแม่”ผมยอมรับก็ได้ว่าเถียงละ
“เราไม่คิดจะห่างกัน หรือแยกกันอยู่หน่อยหรอ เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น”ผมไม่เคยคิดเลยข้อ และไม่อยากคิดถึงข้อนี้ด้วย
“.........................................................................”
“เมื่อวานแม่บอกนัดแล้ว ว่าให้เค้าลองไปอยู่กับพี่สาวเค้าสักพักนึง แต่เค้าก็ดึงดันไม่ไป”พี่ชายตอนนี้อยู่ไทย ช่วยพ่อทำงาน ส่วนพี่สาวมันอยู่นอก เรียนต่ออะไรไม่รู้นักหนา
“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะบอกนัดยังไง ให้เค้าไป เพราะผมเองก็บังคับเค้าไม่ได้ทุกเรื่อง”
“แม่รู้ ว่านัดมันดื้อ แต่เค้าก็เป็นเด็กดี สนการเรียนเพราะหนู ตรงนี้แม่ก็ชื่นชมหนูนะ”แล้วทำไมแม่ไม่ให้เราคบกันละ
“ขอบคุณคับ”
“แม่ขอเบอร์ติดต่อ หรือที่อยู่แม่หนูหน่อยสิ”ผมมือไม้สั่นเลย
“.........................................ผม ผมต้องกราบขอโทษคุณแม่ด้วยนะคับ ผมไม่สะดวกจะให้จิงๆ แม่เข้าใจผมหน่อยนะคับ”
“แล้วลูกจะเอายังไงกับเรื่องนี้ละ”
“ผมไม่ทราบคับ แล้วแต่แม่ และนัดเลยคับผมยังไงก็ได้”
“เจ้านัด ไม่ต้องพูดถึงหรอก เมื่อคืนเถียงกันกับพ่อลั่นบ้านเลย จนโดนพ่อตบไปทีนึง ถึงได้เงียบ แล้วทิ้งบัตรATM บัตรเครดิตด้วย บอกไม่ให้พ่อกับแม่ยุ่งกับชีวิตเค้า เค้าโตแล้ว เค้าจะยืนด้วยขาของตัวเอง พ่อยิ่งโมโห ไล่ออกจากบ้านเลย อารมณ์ร้อนทั้งคู่ เล่นเอาแม่นอนไม่หลับเลยเนี้ย” แสดงว่ามันรู้สถานการณ์ก่อนแล้วว่า จะเกิดอะไรขึ้น เพราะมันบอกว่ามันกดเงินออกมาแสนนึง แต่แม่มันบอกว่ามันทิ้งบัตรไว้ที่บ้าน (แอบเลวนะเมิง) และแม่ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องเงิน แสดงว่าเค้ายังไม่รู้
“ผมขอพูดตรงๆนะคับแม่...........ผม ขอ ดู แล นัด เอง นะคับ”
“เฮ้อออ ลูกก็ดื้อพอๆกัน โตๆกันแล้วนะลูก คิดให้เป็นผู้ใหญ่สิ มองในมุมผู้ใหญ่”แล้วแม่ไม่คิดจะมองในมุมเด็กๆอย่างพวกผมบ้างหรอคับ
“ถ้าแม่ไม่เห็นด้วย ผมก็ไม่สามารถจะรบเร้าอะไรได้หรอกคับ แต่ผมอยากบอกแม่ว่าผมเรียนจบ ถึงเงินเดือนผมจะไม่ได้เยอะอะไร แต่ผมรับปากแม่ไว้ตรงนี้แลยนะคับ ว่าผมสามารถดูแล ไม่ให้เค้าลำบาก ผมจะส่งเค้าให้จบมหาลัยด้วยตัวเราสองคนเองคับ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ผมขออย่างเดียว แม่อย่าเกลียดพวกเราเลยนะคับ ถ้าเลิกได้ ผมกับนัดก็คิดเหมือนกันว่าไมเราคนใดคนนึงไม่เกิดมาเป็นผู้หญิง แต่มันก็ไม่สามารถจะเป็นไปได้ แต่ผมก็จะขอทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดคับ ผมยอมรับ ทุกข้อกล่าวหา แม่จะด่าจะว่ายังไงผมก็ยอมคับ แต่เรารักกันจิงๆคับ แต่ถ้าแม่อยากให้นัด ไปอยู่กับพี่ ผมก็จะคุยให้คับ ผมรับปาก”ผมร้องไห้จนพูดไม่เป็นภาษาคนเลยวันนั้น
“เอ้าเถอะ แม่ไม่จะให้เราไปคุยกับนัด เพราะรู้ว่ายังไงเค้าก็ไม่ฟังใครหรอก แต่ใจแม่ก็อยากให้เป็นอย่างงั้น ไม่อยากให้เราสองคนเดินทางผิด”อะไรคือทางที่ถูกต้องละคับ ในเมื่อผมสองคนก็ไม่ได้ไปฆ่าใครที่ไหนละ
“คับ ผมทราบคับ”
“บ่ายโมงกว่าแล้วลูก ไปทำงานเถอะ”
“คับ”
(ทั้งหมดแค่บทสนทนาคร่าวๆนะคับ จิงๆรายละเอียดเยอะมาก แต่ไม่อยากเก็บมาคิด แค่นี้ก็นอนไม่หลับแล้ว)
ผมงงตัวเองเหมือนกัน ผมเดินมาลานจอดรถชั้น2ได้ไง เดินมาตอนไหนวะ
ผมรีบเช็ดน้ำหูน้ำตา เข้าไปล้างหน้า
ผมหน้าด้านไปโกหกหัวหน้าว่าไม่สบาย ขอเลิกครึ่งวัน
เค้าเห็นผมตาเยิ้มๆเพราะเพิ่งล้างหน้ามาด้วยละมั้ง เลยให้กลับ
ผมกลั้นน้ำตามาตลอดทาง แท็กซี่ถามทาง ชวนคุยผมก็คับๆๆๆๆๆ อย่างเดียว
อยากบอกว่าลืมไอ้ต้าไว้ร้านก๋วยเตี๋ยว ไม่รู้มันกลับหรือยังตอนนั้น เพราะผมเดินหาหัวหน้าแล้วก็กลับเลย ที่สำคัญค่าก๋วยเตี๋ยวก็ไม่ได้จ่าย