ตอนที่223 เข้าค่ายธรรมะ 2
ผมอยู่คนเดียว มา2วันแล้ว โดยที่ผมก็รู้สึกดีนะที่อยู่คนเดียว หิวก็กิน ไม่หิวก็ไม่ต้องหาอะไรมากิน พูดง่ายๆคือสบายนั่นเอง
และวันนี้ผมตื่นแต่เช้า เพราะมีสอบ รีบไปแอบจดโพย อิอิ แต่ระหว่างรอเพื่อนมา ก็ไปกินข้าวที่โรงอาหาร แต่ระหว่างรออาหารนั่นเองก็จุดเริ่มต้น
ตี๊ดดดดดดดดดดด
ตี๊ดดดดดดดดดดด
ตี๊ดดดดดดดดดดด
โทรศัพท์ผมดัง
เบอร์ใครวะ ไม่คุ้นเลย แต่ก็กดรับนะ เผื่อเค้ามีธุระ
“สวัสดีคับ”
“สวัสดีคับ ผมเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครอง และเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ของนาย มนัส(วี)นะคับ”ไอ้นัดมันเคยบอกว่าอาจารย์จะเรื่อง แต่ มนัสๆๆๆๆ
“คับ ไม่ทราบว่ามัน เอ้ย เค้าไปก่อเรื่องอะไรหรือป่าวคับ”
(“ได้แล้วจ้า หนู”ป้าร้านข้าวตะโกนเรียก)
“อ้อเปล่าหรอกครับ คือทางโรงเรียนอยากทราบว่า เค้ามีโรคประจำตัวอะไรหรือป่าวคับ”มีคับ โรคกวนทีน
“โรคปะจำตัวหรอคับ ไม่มีนะคับ”
“คือตอนนี้นะคับ เค้าปวดหัวมาก แต่ไม่ต้องห่วงนะคับ ทางโรงเรียนนำส่งโรงบาลที่ใกล้ที่สุดแล้ว”ผมตกใจมาก มือสั่นๆ น้ำตาจะไหล เพราะก่อนไปมันก็บ่นๆปวดหัวด้วย
“คะ คับ”
“คุณพ่อสะดวกมารับ นายนัดกลับได้ไมคับ ไปรักษาตัวที่กรุงเทพน่าจะดีกว่านะคับ เครื่องมือ หมอพร้อมกว่า พอดีทางเรามีแต่รถทัวร์คันใหญ่นะคับ จึงไม่สะดวก”ผมเป็นเมียมันคับ เสียงผมแก่ขนาดนั้นเลยหรอ
“อ้อๆได้คับ แล้วผมจะรีบไปเลยคับ ไม่ทราบว่าอยู่วัดไหนหรอคับ”
“อยู่วัดป่า.......(ลืมชื่อแล้วอำเภอสูงนูน หรือสูงเนินเนี้ยแหละ)”
“อ้อ ได้คับ เดี๋ยวผมรีบไปเลย”
“ได้คับ ถ้ายังไงคุณพ่อโทรมาเบอร์นี้ได้ตลอดเลยนะคับ”บอกว่าไม่ใช่พ่อๆ อาจารย์นี่ เดี๋ยวๆ
“คับๆ”
ข้าวเพิ่งซื้อมา ยังไม่ได้แตะสักเม็ดเลย ต้องเอาไปทิ้ง
แล้วโทรหาเพื่อน บอกว่าติดธุระ เข้าสอบไม่ได้ มันก็ให้เบอร์อาจารย์มา แล้ว อาจารย์ก็บอกให้มาสอบตัวต่อตัวกับแก ในห้องพักอาจารย์ (แล้วผมก็สอบไม่ผ่าน ดีนะผมสอบย่อย ทำงานแก่เอาได้ ถ้าสอบพร้อมเพื่อน มันจะมีโพย ก็ทำได้กันทั้งห้อง เสียใจมากเลยตอนนั้น)
ผมรีบกลับไปเอารถ ที่บ้าน (ดีที่ตอนนั้น พี่มันไม่อยู่ รถใหญ่เลยยังจอดอยู่)
“อ้าว เพิ่งไปทำไมกลับไวจังละ”ลุงยามใต้ตึก ทักผม
“อ้ออ มีธุระคับ”
“อ้อ คับๆ”
ผมรีบเข้าไปหากุญแจ รีบบึ่งออกจากกรุ่งเทพทันที
แล้วงานก็เข้าผมอีก ไอ้จอ GPS ในรถ ใครมาใส่รหัสอะไร วะ เยสแมร่ง
ผมจอดรถนั่ง งมอยู่เกือบ10นาที ยังไม่ได้ เพราะผมขัยรถ นิดๆหน่อยๆก็หลงแล้ว เพราะผมไม่ค่อยขับรถหรอก ส่วนมากจะเป็นคนซ้อนซะมากกว่า
สุดท้ายก็ตามมี ตามเกิด ดีนะที่ยังมีแผนที่ อยู่ในเก๊ะหน้ารถ เฮ้อออออ
ไม่รู้นะว่าผมโง่หรือฉลาด ผมขับรถไปที่หมอชิต แล้วขับตามรถทัวร์ที่ไปทางภาคอิสาน
รถทัวร์แมร่งก็ขับช้า กรูยิ่งรีบๆอยู่
ผมเลยขับแซงไปเรื่อยๆ ดูข้างรถทัวร์ไปเรื่อยๆ ถ้าข้างรถมีบอกว่าไปจังหวังทางภาคอิสาน ตูก็รอดแล้ว
ไปถึงโคราช เกือบเที่ยง ออก จากบ้าน8โมงกว่า (ป่านี้เพื่อนคงสอบแล้ว) ถือว่าเร็ว สำหรับตัวเองนะ (แต่คนอื่นเค้าบอกว่าไม่เกิน3ช ม ก็ถึงแล้วไอ้ฟาย)
ผมถามทาง ตั้งแต่เด็กปั๊ม ยันแม่ค่าขายกล้วยปิ้ง แอ๊บๆไปซื้อของเค้า แต่จิงๆแล้วแอบไปถามทาง
ผมยังไม่กล้าโทรบอกที่บ้านมันเลย รอไปดูก่อนว่ามันเป็นหนักไม
แต่ตอนมา มันโทรบอกแม่มันแล้วว่าจะไปเข้าค่าย แม่มันก็ดีใจเหมือนกัน
ผมมาตามทางที่เค้าบอกๆมา จนมาอยู่กลางไร่มันสำปะหลัง
“เวรกรรมแล้วไง”ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ กรูจะโดนปล้นรถไมเนี้ย รถก็ไม่ใช่รถกรู
ผมก็ดันทุรังขับไปเรื่อยๆ จนไปเจอวัยรุ่น กลุ่มนึ่ง นั่งอยู่บนกำแพงงโรงเรียน
ไม่ถามพวกนี้ก็ไม่รู้จะถามใครแล้ว
คิดได้ดังนั้น จอดรถ แล้วลงไปถามพวกมันทันที ไม่ลืมที่จะล็อครถ
พวกมันมองผมทันที ที่เดินเข้าใกล้พวกมัน อย่าตีหัวกรูนะ กรูมาดี มาคนเดียวด้วย
“โทษนะคับ วัดป่า.................อยู่ที่ไหนอะคับ”พวกมันมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยคับ ถ้าพวกเมิงจะตีหัวกรู กรูก็ยอมวะ ตั้งเกือบ10คน ใครจะสู้วะ แต่น่าจะเป็นพวก ม ต้น กับ ม ปลาย คงไม่กร่างเหมือนไอ้นัดหรอก (พาดพิงถึงมันอีกแล้ว)
“เฮ้ย เมิงบอกพี่เค้าไปสิ/เมิงอะบอก/เมิงดิ /เมิงนั่นแหละ”กรูไม่ใช่หมานะ กรูไม่กัดหรอก
“อยู่ไกลนะพี่ พี่จะไปทำไม” แล้วยุ่งอะไรละ แค่บอกทางมาก็จบ
“พี่จะไปรับน้องอะ พอดีมันไม่สบาย”
“พี่มาจากไหน”
“เอ่อ กรุงเทพคับ” ตกลงกรูมาถามเมิงหรือให้มาเมิงถามกันแน่
“อ้อคับ”???????????????????แค่นี้ พวกเมิงถามกรูแค่นี้ แล้วที่กรูถามพวกเมิงไปละ ไม่ตอบกรูหน่อยหรอ
“แล้วพี่มาถูกทางไม น้องบอกทางให้พี่หน่อยดิ”
ผมเดินไปเอากระดาษ กับเศษใบเสร็จ อะไรไม่รู้เตรียมจะมาจด ซะดิบดีเลย
“มันซับซ้อนนะพี่ พี่ไป พี่หลงแน่ๆ”
“’งั้นน้องพาพี่ไปได้ไมละ”
“ไอ้ได้อะได้ แต่รถพวกผมไม่มีน้ำมันอะ พี่เติมให้ไมละ”รอดแล้วกรู
“ได้ๆ เอาเท่าไรดีละ”อย่าเอาถึงพันนะ กรูจะกระทืบให้
“100นึง น่าจะไปกลับได้”
“ได้ๆ”ผมก็ล้วงเอากระเป๋าตัง หยิบให้ไปร้อยนึง
“ พี่ ตั้ง4คัน ร้อยเดียวไม่พอหรอก 400ดิ”
“ห๊า”
“ ผมไม่กล้า ไปคนเดียวหรอก เดี๋ยวเด็กหมู่บ้านนั้นมันตีหัวเอา”สมควรแล้วกวนทีนกรูดีนัก
“เอาเท่าไรนะ”
“4คัน 400”
“ได้ๆ ส่งถึงที่นะ”
“okเพ่”น้ำเสียงบ่งบอกถึงความกวนทีน น่าโดนตีหัว
“ไม่มีแบงค์ย่อยอะ”
“เดี๋ยวผมทอนให้”สัส มีงี้ด้วย
“ได้”ไม่ต้องก็ต้องได้ กรูรีบนะเนี้ย
“พี่รออยู่นี่นะ เดี๋ยวผมไปเอาหมวกันน๊อคที่บ้านก่อน แล้วเติมน้ำมันแปป”
“okไวไวนะ พี่รีบ”
“คับพี่”
แล้วพวกมัน4คันก็ไป เหลืออยู่ อีก6-7คนมั้งที่ยังนั่งอยู่บนกำแพง
ถ้าพวกเมิงชิ่งเงินกรูไป กรูก็หมดตัวเลยนะนั้นอะ เพราะกรูเหลือติดตัว1,100บาทเอง เหรียญ”ไม่นับ
ผมเห็นร้านค้าอยู่ใกล้ๆ ว่าจะไปซื้อน้ำซะหน่อยแดดก็แรง คอแห้ง แต่ก็ไป ลองไปดึงประตูดูดิ ว่ามันล็อคจิงๆป่าว
วี๊วววววววว
วี๊วววววววว
วี๊วววววววว
วี๊วววววววว
วี๊วววววววว
สัญญาณกันขโมยดัง
เออ กรูโง่เอง ที่ไปดึงเมิง
รีบหารีโมทย์มากดปิดทันที
ผมไปซื้อน้ำ ยืนกินรอในร่มไม้ หน้าประตูโรงเรียนใกล้ๆกับที่เด็กพวกนั้นนั่งอยู่
“มาจากไหนเนี้ยพ่อหนุ่ม”ผมก็มองซ้าย มองขวา กรูยืนอยู่คนเดียวนี่หว่า
“ผมหรอคับ มาจากกรุงเทพคับ”
“มีน่าละ แต่งตัวหล่อเชียว”เออ คือผมยังอยู่ในชุดนิสิต เต็มยศอยู่เลยคับ ตั้งแต่รองเท้าหนัง กางเกงสเลค เสื้อแขนยาวติดกระดุมทุกเม็ดไม่เว้นยันกระดุมข้อมือ ไทด์ถึงคอเป๊ะๆ ถ้าไม่เรียบร้อยอาจารย์ไม่ให้เข้าสอบ ผมรีบเลยไม่ถอดออกเลย
“ไม่ขนาดนั้นหรอกป้า เนี้ยธรรมดาแล้ว”เขิน
“มาเที่ยวหรอ”ป้าก็ถามแปลกนะ ให้ผมมาเที่ยวทั้งชุดนิสิต แถมให้มาเที่ยวดงมันสำปะหลัง
“ป่าวคับ มารับ น้องคับ”
“จ้าๆ นั่งก่อนๆ เดี๋ยวป้าไปขายของก่อน” รอพวกมัน ไปนานเกือบ10นาทีแล้ว ยังไม่มาเลย หายไปแล้ว 1000กรู
“คับ ขอบคุณคับ ”ผมนั่งอยู่ม้าหินหน้าร้าน
“ป้า แถวนี้มีตู้ATMไมคับ”พวกเมิงทำกรูแสบมาก
“หนูต้องขับรถกลับไป อีก10โล จะปั๊มอยู่ ในปั๊มจะมีตู้กดเงิน 10โลเหรอ
คอยดูนะ ถ้าอีก10นาที เมิงไม่มา กรูจะไปกดเงินมาให้พวกเมิงหลอกอีก
วางตูดไม่ถึง5นาที รถพวกมันก็มาจอดใกล้รถผม
“พร้อมแล้วพี่ อะตังทอง585 บาท”เฮ้ย เมิงบอกว่า4คัน 400 มันต้องทอง600สิ หายไปไหนอีก15บาท เอาคืนมาเลย
“หายไปไหน15บาทละ”
“เติมลม3ล้อ ล้อละ5บาทอะพี่”เออ เมิงจะขูดรีดอะไร กรูก็ทำเหอะ กรูต้องเป็นเบี้ยเมิงแล้วนิ
“เออๆ ปะๆ”พวกเด็กนี้แมร่งคบไม่ได้เลย
“ขับตามผมนะ”
“อืม”
พวกมันไปหมดเลยคับ นั่งอัด3 เลย สวมหมวกกันน็อค
แล้วพวกมันทำผมแสบมาก มากพอๆกับไอ้นัดเลย
คือ ขับรถตามพวกมัน ไปไม่ถึง5กิโล ย้ำว่าแค่5กิโล เท่านั้น มันก็โบกให้ผมจอด
“มีอะไรอะ”ผมลดกระจกถาม
“พี่เห็น ไอ้ที่สีขาวๆบนโน้นไม”
“เห็น”เห็นตั้งแต่กรูถามจอดพวกเมิงแล้ว
“นั้นแหละพี่วัด พี่ขับตามทางนี้ไปนะ ไม่ต้องเล้ยวไหนเลย ตรงอย่างเดียวแล้วทางมันจะขึ้นเขาพี่ขับขึ้นไปเลย ไม่ต้องกลัวหลง เพราะ2วันก่อนมีรถทัวร์เกือบ20คัน ขึ้นไปแล้ว มีอะไรสงสัยไมพี่”
“ไม่มีอะ”ผมอึ่งมากกกกกกก
“ขอบคุณสำหรับค่าน้ำมันนะคับ”
“...........................”ผมอึ่งมาก พากรูมาไม่ถึง5โล เอาคันละร้อย สัสหมา
“พวกผมกลับนะคับ”
“เออ ขอบใจ ที่หลอกเอาตัง”
“5555ไม่ได้หลอกนะพี่ให้เอง”เออ กรูผิดเอง
เสียรู้ให้เด็ก ถ้ากรุกลับลงมา พวกเมิงอย่าอยู่ที่เดิมนะ กรูจะลงไปกระทืบแมร่งทั้งกลุ่มเลย
ผมขับรถต่อไปโดยทิ้งพวกเด็กห่านั้นไว้เบื้องหลัง พร้อมกับความเจ็บใจ
เสียค่าโง่ให้เด็ก ถ้ามันบอกว่าให้ขับไปตามทางมองไปที่ยอดเจดีย์(มั้ง)ที่ขาว ก็มาได้
ถ้ามันบอกงี้ ผมก็มาถูกไม่ต้องเสียตังด้วย
ผมขับขึ้นไป เงียบมาก เสียงนกเสียงกาดังระงม ถ้ามากลางคืนก็ไม่ยอมมาหรอก
ผมขับหาที่จอดอยู่นาน แต่ก็ไม่มี เพราะรถทัวร์เยอะมากจิงๆ
เพราะมาหลายโรงเรียน ผมอยากรู้มันอยู่ยังไงกันวะ เหมือนกันที่ผมเคยไปหรือป่าวนะ
ผมขับไปอยู่ก็ไปจอดอยู่หน้าศาลากลางเปรียน ที่ไม่มีผนังเลยสักด้าน เสียงยางรถเหยียบก้อนหินดังกร๊อบๆ
มองขึ้นไปก็รู้ว่าเค้าคงนั่งสมาธิกันอยู่ ผมขับไปกำลังจะจอดเลย
กร๊อบบบบ ปุ๊ ผมตกใจมาก เพราะเสียงมันดังมาจากใต้รถแน่ๆ
ผมจอดรถ แล้วลงมาดู
เสียงด้านในศาลาประกาศออกไมค์ว่า “เราไม่ต้องสนใจเสียงจากภายนอก จิตเราต้องอยู่ในสมาธิเท่านั้น”เหมือนด่าผมเลย ผมเลยมองขึ้นไป เจอสายตาเป็นร้อยๆคู่มองอยู่
อาจารย์ก็มองลงมา (ที่รู้ว่าเป็นอาจารย์เพราะหน้าแก่)
ผมยังไม่สนใจ ก้มมองใต้รถก่อนเกิดยางแตกได้นอนในวัดแน่
แต่สิ่งที่ผมเห็นคือ จานข้าว น่าจะเป็นจานข้าวหมา
“เฮ้อ กรู มาวัดทั้งที่ทำบาปเลย เหยียบจานข้าวหมาแตกอีก”ตอนขับไปไม่เห็นมีจานสักใบเลยนะ
ผมถอดรองเท้าเดินขึ้นศาลา (ไม่มีคิดจะลงมาถามเลยหรอว่าตูมาทำไม มาหาใคร มาเมื่อไร แล้วมายังไง)
แต่สายตาทุกคนมอง มองด้วยสายตาที่บอกไม่ถูกเหมือนกัน
“สวัสดีคับ อาจารย์”ผมยกมือไหว้
“สวัสดีคับ”
“ผมมารับเด็กกลับคับ”
“เด็ก เด็กคนไหน”
“เด็ก โรงเรียนXXXXชื่อ นัดอะคับ”
“อ้อผมเป็นอาจารย์โรงเรียนYYYYคับ อาจารย์โรงเรียนXXXXยืนอยู่โน้นคับ”เพร้ง หน้าแตก ผมต้องเดินอ้อมเด็กๆไปอีกฝั่งนึง
ดีนะที่ผมมาด้วยชุดนิสิต ที่เรียบร้อย ถูกกาลเทศะ ไม่งั้นนะ น่าอายกว่านี้อีก
เด็กมันก็ไม่ได้สมาธิหรอก มีการหรี่ตามองผมด้วย
“สวัสดีคับ อาจารย์อยู่โรงเรียนXXX หรือปล่าวคับ”
“ใช่คับ”
“ผมเป็นผู้ปกครองของนายมนัส(วี)คับ พอดีว่ามีอาจารย์โทรหาผมให้มารับ”สายตาอาจารย์มองผมแบบไม่เชื่ออย่างงั้นแหละ
“อ้อออ นายนัด เค้านอนพักอยู่ที่พักนะคับ เดี๋ยวผมให้เด็กไปตามให้”อ้อออ
“คับ ขอบคุณคับ”
“นั่งรอสักครู่นะคับ”ผมก็นั่งลงกับพื้นเหมือนคนอื่นนั้น
เค้าก็เดินไปสะกิดเด็กคนนึ่งแล้วเด็กคนนั้นก็ลุกไป
แล้วอาจารย์ก็เดินมากหาผม
“เป็นผู้ปกครองของนัดหรอคับ หรือเป็นพี่”
“อ้อเป็นพี่”
“งั้นคนที่ผมคุยด้วยก็คือคุณนะสิ”
“ใช่คับ ผมเอง”
“อ้าว ผมก็นึกว่าคุณพ่อสะอีก”เมียคับ
“อ้อป่าวคับ พ่ออยู่ที่บ้าน พวกผมอยู่หอ”
“เดี๋ยวถ้ายังไง รับนายนัดไปรักษาตัวที่กรุงเทพเลย ก็ได้นะคับถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น ผมได้ขอใบส่งตัวไว้ให้แล้ว เผื่อๆไว้คับ”
“อ้อแล้วเรื่องค่าใช่จ่ายละคับ”
“ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นคับ เพราะเด็กนักเรียนทุกคนมีประกันชีวิต ประกันภัยต่างๆ ทางโรงเรียนเรารับผิดชอบให้หมดคับ เพราะอยู่ในการดูแลของโรงเรียน”
“คับ ขอบคุณคับ”ผมยกมือไหว้
ผู้บรรยายธรรมก็บอกให้เด็กออกจากสมาธิ ยิ่งหันมามองผมกันเลยทีนี้
เสียงระงมเลย
ผมก็ออกอาการเขินๆ
“เดี๋ยวยังไง ให้นายนัดทานข้าวเที่ยง แล้วทานยาก่อนนะคับค่อยกลับ”
“คับ”
“เชิญ น้องทานข้าวร่วมกับพวกเราก่อนนะคับ”
“อ้อไม่เป็นไรคับผมทานมาแล้ว”อันที่จิงผมยังไม่กินตั้งแต่เช้า แต่อายไม่กล้าไปกินด้วย
“ไม่เป็นไรคับไปนั่งพูดคุยกับอาจารย์ด้วยก็ได้คับ”
“เอ่อ ไม่รบกวนดีกว่าคับ เชิญอาจารย์ตามสบายเลยนะคับ เดี๋ยวผมก็เดินเล่นดูรอบๆวัดรอดีกว่าคับ”
“เอางั้นหรอคับ”
“คับ เชิญอาจารย์เลยคับ”
ตอนนี้ผมจากเจอไอ้นัด กลัวมันจะเป็นอะไรมากกว่าเดิม
ผมเดินดูวัด นั่งเล่นใต้ร่มไม้
ประมาณบ่ายกว่าๆ เด็กๆก็เริ่มขึ้นศาลาอีกแล้ว
“เชิญผู้ปกครองของ นายมนัส มาที่ศาลาด้วยนะคับ”โห ผมนั่งอยู่ข้างศาลาเอง ประประกาศออกไมค์ทำไม๊
ผมรีบขึ้นไปเลย
เจอไอ้นัดสะพายกระเป๋าอยู่แล้ว
“ทางเราต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่ดูเด็กไม่ดี จนถึงได้ป่วย”อาจารย์ผู้หญิงยกมือไหว้ผมเลยคับ ผมยกมือไหว้แทบไม่ทัน
“ไม่เป็นไรคับ เห็นบ่นๆ ตั้งแต่ก่อนมาแล้วคับ ไม่คิดว่าจะอาการหนัก”
“เอ้า นัด ไปหยิบโทรศัพท์ตัวเองสิ จะได้รีบไปพักผ่อน”อาจารย์ผู้ชายบอก
“กล่องไหนละจารย์”ดูมันพูด
“เอ้าตอนเธอใส่ เธอใส่กล่องไหนละ”
“ผมก็ลืมเป็นนะคับ ท่านพ่อ”วกมันเรียนอาจารย์ฝ่ายปกครองว่าท่านพ่อ เพราะสนิทกันละมั้ง ผมก็ไม่รู้หรอก
กล่องใส่ของพลาสติกขนาดใหญ่ ประมาณ6-7กล่องวางอยู่ตรงหน้า ในนั้นบรจุโทรศัพท์เต็ม ทุกใบ ที่ฝามีชื่อโรงเรียน ที่ตัวโทรศัพท์มีกระดาษเขียนชื่อเอาหนังยางรัดไว้ มีเเต่รุ่นหรูๆทั้งนั้น ถ้าเอาทั้งหมดนั้นไปขายได้หลายแสนอยู่นะ สมมุติ เครื่องละ20000เอาไปขายมือสองน่าจะได้ 7000-8000 บาทรวม 6-7กล่องนั้น ก็รวยเละ
“ตัวเอง เอาโทรศัพท์มาโทรหาหน่อยดิ”ผมตาโต ไอ้สัส เมิงมาเรียกตัวเองต่อหน้าคนเป็นพันแบบนี้หรอ
ผมจ้องหน้ามันอยู่งั้นแหละ อาจารย์เค้าก็งงๆ
“เอ้ย พี่นิว เอาโทรศัพท์มายืมหน่อยสิคับ”ผมถึงได้ล้วงให้มัน
มันลาพระอาจารย์ ลาวิทยากร ลาอาจารย์ ลาเพื่อนๆมัน (มันโบกมือแบบรวมๆ คือ ใตรเพื่อนในก็จะยกมือตอบมันเอง แต่ผมว่ามีสาวๆยกมือให้มันด้วยนะ เพราะเพื่อนมันจะนั่งอยู่อีกโซน แต่ผู้หญิง ที่ยกมือ อยู่คนละโซนกะเพื่อนมันนะ มีประปรายซะด้วย
อาจารย์มาส่งถึงรถเลยนะคับ มีปิดประตูให้ด้วย
“นอนพักซะ เดี๋ยวถึงบ้านเดี๋ยวปลุก”
“อืออ”
“คาดเข็มขัดด้วย”
“อือออ”
ผมก็ให้มันนอนไปสักพัก แล้วก็ขับรถออกมาทางเดิม
ในใจก็คิดว่า อย่าให้กรูเจอพวกเมิงอีกนะไอ้พวกเด็กแสบบบ
กัดฟันกรอดๆเลย โมโห เคียง
“ถึงไหนแล้วอะตัวเอง”
“เกือบๆเข้าเมืองแล้ว”
“เหร๋ออ ว๊า เมื่อยจัง”
“ไม่นอนต่อละ ปวดหัวไม่ใช่หรอ”
“หายแล้ว”หือออออ
“ตอนออกมายังทำหน้าเหมือนจะตายอยู่เลย”
“ก็หายแล้วเนี้ย”
“เอาความจิง นัด”
“ฟอร์ม”
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ผมเปิดประตูฝั่งคนคับ แล้วเดินอ้อมไปหามันก้วยความโมโห
“เมิงลงมานี่เลยไอ้นัด ไอ้เลว (“โอ้ยๆๆ เจ็บๆ ยอมแล้ว” ) ไอ้ชั่ว หัวเมิงทำด้วยอะไรวะ ทำไมเมิงทำให้คนอื่นเดือดร้อนอย่างงี้ (“โอ้ยๆๆ เจ็บๆ ยอมแล้ว” ) รู้ไมว่ากรูมีสอบ รู้ไมว่ากรูหิวข้าว (“โอ้ยๆๆ เจ็บๆ ยอมแล้ว” ) เมิงรู้ไม ว่ากรูโดนเด็กหลอกเอาเงิน เพราะรีบไปรับเมิง (“โอ้ยๆๆ เจ็บๆ ยอมแล้ว” ) แล้วทำไมเมิงทำกับกรูแบบนี้ ไอ้ชั่ว ไอ้สัส เมิงนะเมิง (“โอ้ยๆๆ เจ็บๆ ยอมแล้วๆๆๆๆๆๆๆ” )”ผมทั้งทุบ ทั้งทีมัน มันก็นั่งเอามือมาป้อง เอาเข่ามากันไว้อยู่ในรถนั่นแหละ
โมโหหลายเรื่องมาก โมโหหิว โมโหโดนหลอกตัง โมโหที่ไม่ได้สอบ และอีกมากมาย
มันยังเอาเข่าขึ้นมากัน เอาแขนขึ้นมาป้องหน้าอยู่ แต่ยังแอบมองผมที่ยืนเท้าเอวมองมันอยู่
“โห เค้าจะตายก็ตอนนี้แหละ”
“ทำไม แค่นี้จะตาย อยู่วัดสบายกว่าทำไมอยู่ไม่ได้กะอีแค่4-5วันเนี้ย ดีไหนกรูก็เสียเวลาแล้ว กรูเอาเมิงไปส่งที่วัดเหมือนเดิมดีกว่า”ผมเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ
“ไม่ๆๆๆๆไม่ไปๆๆๆ”แต่มันก็กระโดดข้ามเกียร์มาฝั่งคนขับแทนผมแล้ว
“หลบไปนัด”
“ไม่นะ ตัวเองอะ”
“นัด หลบ”
“ไม่เอาไปขึ้นฝั่งโน้นดิ”
“ไม่ เมิงจะหลบไม”
“ไม่ ตัวเองอะไปขึ้นฝั่งโน้น”
“ดี งั้นกรูเดินกลับ เมิงขับไปเองแล้วกัน”
“โอ๋ๆ ขึ้นรถนะนะ”ผมเดินหนีมันก็กระโดดตาม ดีที่รถบรรทุกไม่เฉี่ยวประตูพัง
“เมิงจะมาโอ๋หาพ่องเมิงหรอ เมิงไม่อายคนหรอ” มันไม่มีคนหรอก มีแต่รถที่ผ่านด้วยความเร็วสูง
“อย่างอนดิ”
“แล้วเมิงทำตัวเองทำไมละนัด กรูอยากซ้อมเมิงมากเลยเมิงรู้ไม”
“กลับไปซ้อมที่บ้านดิ เดี๋ยวเค้าให้ซ้อมจนพอใจเลยนะนะนะ ขึ้นรถเหอะ ร้อน”
“ไม่ กลับใครกลับมันเลยแล้วกัน”
“ไม่ได้ มาด้วยกันก็กลับกันสิ”
“ใครมากับเมิง เมิงไปเลยนะไป”ผมไล่มันไปขึ้นรถ
“มาด้วยกันสิ”มันลากแขนผมกลับไปที่รถ
“ไม่ๆเมิงไปเองเลย”
“เดี๋ยวอุ้มนะ”หึหึ มันอุ้มผมไม่ไหวหรอก ตัวผมกับตัวมันก็ไม่ต่างกันเลย
“ไม่ เมิงอย่ามายุ่งกะกรู”
“เข้ารถก่อน ตรงนี้มันร้อน”เออ ร้อนจิงๆวะ
ผมก็เดินไปขึ้นรถ ไอ้นัดวิ่งไปฝั่งคนขับก่อน กลัวผมแย่งแล้วพามันไปส่งวัด
ผมหยุดเดิม มองหน้ามัน
“มองอะไรละครับ ขึ้นรถสิ”มันยังมาทำหน้ากวนส้นใส่อีกใครจะไม่โมโห รอถึงบ้านก่อนเหอะเมิง กรูทบต้น ทบดอกแน่
ผมก็ยอมขึ้นรถ เพราะเหงื่อเต็มหลังเลย
ไทด์ก็ยังไม่ได้ถอด โมโห จนลืม
“แวะกินข้าวไม”
“ไม่”
“แต่เค้าหิวนะ”
“กรูไม่หิว”
“หิวหน่อยดิ”
“ไม่ เมิงหิวก็กินคนเดียวสิ”ผมหลับตา หันหน้าออกกระจกข้างเลย เป็นอันรู้ว่ากรูไม่อยากคุยกะเมิง จบปะ
ผมไม่ได้หลับหรอก หิวหลับไม่ลง
โมโหด้วย
แต่ก็หลับตาอยู่อย่างงั้น มีแอบมองข้างทางด้วยบางครั้ง อยากรูว่าถึงไหนแล้ว
จนมาถึงหอ ถึงตื่น ผมหลับตั้งแต่รังสิตแน่เลย
ผมเดินขึ้นห้องไม่รอมันเลย
พอมันขึ้นมา แล้วเข้าไปอาบน้ำ
ผมก็หนีลงไปกินข้าวกินที่ร้าน กินคนเดียว และไม่ซื้อมาเผื่อมันด้วย แล้วขึ้นมาก็เจอมันนอนดูทีวีสบายใจเฉิบเลย
“ไปไหนมาอะ”กรูไม่ตอบ กรูโมโหเมิงอยู่
ผมไม่อาบน้ำ เปิดแอร์นอนแมร่งเลย นอนตั้งแต่บ่ายๆยัน5ทุ่ม แล้วก็ไม่สนมันอยู่วันกว่าๆอะ ผมไปเรียน มันก็นอนอยู่ห้อง จนทนรำคานมันไม่ไหว ถึงได้คุยกับมัน
เป็นไงละแสบไมละ หึหึ พูดแล้วยังโมโห