“พี่ครับ.....ผมขอ(เอา)พี่ได้ไหมครับ” ตอนที่ 16คนก็อุตส่าห์เป็นห่วง ที่ไหนได้แอบมาสวีทกับแฟนเก่านี่เอง ให้มันได้อย่างนี้สิสุดที่รักของผม ผมควรจะโกรธดีไหม? ผมควรจะเข้าไปขวางดีไหม? ทำไมผมร้อนรุ่มอย่างนี้นะ? ทำไมจิตใจผมกระวนกระวายจัง? อ้าวเฮ้ย!!!!ผมเครียดได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องตกใจทันทีเมื่อทีรักของผมกำลังร้องไห้....
ผมอยู่เฉยไม่ได้แล้วงานนี้หลังจากที่แอบสุ่มดูด้วยความอดทนมานาน นั้นก็ได้ทำให้ผมเห็นว่าทีรักของผมไม่ได้ตามไอ้หมอนี่มาด้วยความเต็มใจเลย ผมพุ่งไปอย่างรวดเร็วคว้ามือไอ้ตี๋เสาไฟฟ้าไว้พร้อมใช้มืออีกข้างที่ที่ว่างอยู่ดึงที่รักของผมให้ลุกขึ้นสุดแรงเกิด คนสวยของผมปลิวขึ้นมาเลยครับ ตาลุกวาวเลยครับตกใจละสิ พระเอกขี่ม้าขาวมาแล้วครับ
พอเจอหน้าผมคนสวยก็ปล่อยโฮเลยครับแถมยังกอดผมแน่นเลยๆ บอกให้พากลับอย่างเดียวเลย ดูสิตาแดงหมดเลยครับ ผมว่าไอ้ตี๋นี่ต้องโดนสักหมัดหน่อยไหม? ก็อย่างที่คิดแหละครับตอนแรกก้เกือบจะมีเรื่องแล้ว แต่ดีนะที่ที่รักผมห้ามไว้ และผมก็รู้ดีว่าคนสวยของผมไม่ชอบการใช้กำลัง ผมจึงเชื่อฟังแต่โดยดีครับก็คนมันรักเมียนิครับไม่กล้าหือเลย ฮ่าๆๆ
หลังจากที่โดนห้ามทัพเอาไว้ไม่ให้มีเรื่องกันผมก็กลายเป็นผู้ชม แค่ผู้ชมจริงๆ นะครับ รอจนหนังฉายจบผมจึงมีตัวตน แต่ทำไมในช่วงที่หนังกำลังฉายผมรู้สึกว่าผมได้เป็นตัวละครในนั้นด้วย ผมสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่เกิดขึ้น พี่เขาบอกว่าเลือกผมแล้ว แล้วยังบอกไอ้ตี๋เสาไฟนั้นด้วยว่าผมเป็น “แฟน” พี่เขาด้วย........อ๊าก!!!!!!!! ไม่พอเท่านั้นนะครับยังคอยจับมือผมตลอดเวลาที่ผมยืนอยู่ข้างๆ ผมเองก็คอยบีบมือบางนั้นเป็นระยะๆ ...
อิอิ ผมขอคิดเข้าข้างตัวเองแล้วกันนะครับงานนี้ “เลือกผมแล้ว” “เป็นแฟนกับผม” อิอิ ยิ้มสิครับใครบ้างจะไม่ยิ้ม ฮ่าๆๆ ตอนแรกผมก็โมโหนะที่สุดที่รักของผมยอมมากับไอ้หมอนี่ แต่พอได้ยินแบบนี้ อิอิ หายโกรธเลยครับ
ไม่จบครับ ไอ้ตี๋นี่ถ้าจะอยากมีเรื่องแล้วไอ้คนของเราก็เถอะเดินเข้าไปหามันทำไมกัน ไอ้หมอนี่ก็ยังจะมาขอกอดแฟนผมอีก แล้วไอ้แฟนผมก็ใจง่ายเหลือเกินน่ารักอย่างเดียวก็พอเถอะ อย่าใจดีไปทั่วแบบนี้สิ...ยอมให้มันกอดอีก เห้อ!!!!!!! เรื่องนี้ต้องมีเคลียร์นะครับ เพราะยังไงซะผมก็ “ไม่ยอม” ผมจะลบรอยกอดนี้ให้หมดด้วยตัวผมเอง คอยดูสิ คอยดูนะครับที่รักเดี๋ยวเฟิร์สจะจัดการเอง กลับห้องก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที
“ไหนให้ผมดูหน่อยสิครับตาบวมหมดเลยเห็นไหมร้องไห้ทำไม หืมม์??” ผมดึงคนสวยตรงหน้าที่ตาปรือๆ มาลูบใบหน้าเนียนๆ ดูตาสิครับยังแดงอยู่เลยนี่ขนาดอาบน้ำล้างหน้าออกมาแล้วนะเนี่ย?
“อือ!!” เอาสิ มาทำแก้มบวมๆ ใส่ผมอีก
“ไปกอดมันทำไม?” ผมถามแกล้งๆ ดึงคนตรงหน้าเข้ามากอดอย่างรักใคร่ คนน่ารักของผมก็ไม่ได้ขืนตัวเลยลอยมาปะทะกับอกผมอย่างจัง แถมซบลงเอาหน้าถูไปมาด้วย โอยๆๆๆ ซี๊ดมากครับ
“ไม่รู้.....ห๊าววว!!” ฮ่าๆ น่ารักจังแฟนผมนี่ว่าจะลงโทษสักหน่อย แต่ดูท่าแล้วน่าจะไม่ไหวนะครับ
“ป่ะนอนกันเถอะครับ ผมอยากนอนกอดพี่แล้วครับ” ผมโยกตัวคนในอ้อมแขนไปมาเบาๆ
“ห้ามเบื่อนะ กอดไปนานๆ กอดตลอดไปด้วยน้า......ห๊าววววว!!!” เออนะยังจะพูดอีก ถึงไม่บอกผมก็จะกอดพี่ไปอย่างนี้ครับ พี่นั้นแหละอย่าเบื่อผมก่อนแล้วกัน
“ครับสัญญาครับ.....นอนดีกว่าเนอะเดี๋ยวจะตื่นสายน้า”
“อือ..!!อุ้มด้วย!!” เหอๆๆ อ้อนจังวันนี้ ผมอุ้มคนที่ขอร้องผมขึ้นวางลงบนพื้นเตียงนุ่มๆ อย่างละมุนละไม ด้วยความห่วงใยและรักยิ่ง ผมใช้มือเกลี่ยไรผมที่ปิดหน้าคนสวยอยู่ออกไปเพื่อที่จะได้ยลยินดวงหน้าคนตรงหน้าอย่างชัดเจนที่สุด ให้ผมได้สัมผัสความจริงได้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน
“ฝันดีนะคับที่รักของเฟิร์ส” ผมจูบเบาๆ ตรงหน้าผากเนียนก่อนจะล้มตัวลงนอนเคียงข้าง
“ครับ!!ฝันดีครับ!” จุ๊บ!!!!!!!!เฮ้ย.....อย่ายั่วผมนะ มาจุ๊บปากผมอีก ถ้าตื่นและคึกขึ้นมาง่วงแค่ไหนผมก็จะงัดขึ้นมาเป็นคู่ซ้อมนะครับขอบอกไว้ก่อน (ดันละมะดันดองตีหนึ่งตีสองปลุกน้องมาดันแน่ เอาสิ!!ฮ่าๆๆ)
“ครับผมรักพี่นะครับ เมื่อไหร่พี่จะบอกคำนี้กับผมสักที!?” เหอๆ ไม่ฟังแล้วครับมุดหน้าเข้ากับอกผมแล้วครับ ดูจากการหายใจที่สม่ำเสมอ และหน้าอกที่ขยับเป็นจังหวะ หลับไปแล้วไวจริงๆ สงสัยจะง่วงจริงๆ
วันนี้ผมไม่ได้หูฝาดใช่ไหมครับ? ผมได้ฟังผิดไปใช่ไหม? ที่พี่เขาบอกว่าเลือกแล้ว เขาเลือกผมแล้ว แถมยังบอกว่าผมเป็นแฟนพี่เขาด้วย ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหมครับ? จากนี้ไปต่อให้นานแค่ไหนกว่าที่ผมจะได้ยินคำว่ารักจากพี่ ผมก็จะรอครับ ผมรอได้ แค่วันนี้ที่ได้ยินพี่บอกว่าเลือกผมแล้ว บอกว่าผมเป็นแฟนพี่แล้ว มันก็เกินพอแล้วครับ ผมไม่อยากคิดอะไรให้มาก ขอนอนกอดคนน่ารักคนนี้ไปแบบนี้ตลอดก็พอแล้ว “ผมรักพี่นะครับ”
***********************************************************
“เห้ยบัส!!!!!!!”
“ว่าไง?”
“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“อะไร? ไม่เห็นมีอะไรเลยก็ปกติดีนิ?”
“อย่ามาอำหน่อยเลย ฉันได้ยินมาว่าเมื่อคืนเกิดศึกรักนักศึกษาเหรอ?”
“ศึกรงศึกรักอะไรของแกกัน?”
“อย่าเลยตอนนี้เด็กทั้งมอเขาดำลังลือกัยแซ่ดเรื่องแกนะเว้ย!....ดังใหญ่แล้ว”
“เวอร์ไปล่ะเรื่องอะไร?” ผมก็ยังนึกไม่ออกว่าเรื่องอะไร แต่ถ้าจะเป็นเรื่องเมื่อคืนมันก็ไม่ได้มีอะไรนิครับ...
“อ้าวก็เมื่อคืนพวกแกมีเรื่องกันไม่ใช่เหรอกับไอ้วิช!?” อ้อ.........เรื่องนี้จริงๆ ด้วย
“อ้อ ไม่ได้มีอะไรนิแค่ไปคุยกันเฉยๆ”
“เหรอ เห็นเด็กปีหนึ่งมันคุยกันบอกว่ามีบทเศร้าเคล้าน้ำตาด้วยนิ?”
“ไอ้บ้า ฉันไม่คุยกับแกแล้วเลิกคุย!!!!!” เริ่มไม่อยากคุยกับมันแล้วครับเข้าตัวยังไงชอบกล
“เอาน่าเล่ามาหน่อยแล้วกันแค่อยากรู้ความจริง!” ยังคะยั้นคะยอไม่เลิกนะ
“ก็มันไม่มีอะไรจริงๆ”
“ว่าไงนายสองคน?” มาแล้วครับเพื่อนสาวสุดที่รักของทั้งสองคน
“อืม ว่าไง?”
“มาเลยแกสองมาช่วนเค้นเอาความจริงจากไอ้บัสหน่อย?!!!!!” อ้าวซวยล่ะสิผมจะเดินหนีไปตอนนี้เลยได้ไหมหนอ?
“ช่ายๆ กำลังจะมาถามเรื่องนี้แหละ!!” เจี๊ยบเอ่ยขึ้นสำทับ
“เรื่องอะไรล่ะ?”
“อย่าทำเป็นทองไม่รู้ร้อนนะคุณเพื่อน?”
“ก็เรื่องนี้ แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ เพราะฉันยังคงนึกไม่ออกเลยว่าเรื่องอะไร?”
“ก็เรื่องของแก วิช แล้วไอ้น้องเฟิร์สไง!!!!!!!”
“อ่อ.........ไม่เห็นมีอะไรนิ!!”
“มีสิ ตอนที่ฉันกับเจี๊ยบเดินผ่านมาทางตึกคณะเห็นเด็กมันคุยกันอยู่นะ”
“อืมนะ......”
“คงเม้ากันกระจายไปหลายวันแน่เลย!!” ไอ้ต้อนี่แกจะช่วยให้กำลังใจหรือซ้ำเติมว่ะเนี่ย? ดูหน้ามันสิครับ น่าเอาฝ่าเท้าเนียนๆ ขาวๆ นุ่มของผมลูบหน้าสักทีสองทีนะ
“เห้อ!!!!!!!!มันก็ไม่มีอะไรร้ายแรงสักนิดเลยนะ?”
“อือ งั้นก็เล่ามาว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไรไม่อยากฟังจากปากคนอื่น!!”
“ช่าย!!!!!!!!!” สองสาวพร้อมใจกันตอบเสริมกำลังให้กับเพื่อนต้อสุดเลิฟของซะเหลือเกินนะเนี่ยยยย????
“อือ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังก็ได้!!!!!”
อยากรู้เดี๋ยวบัสจะเล่าให้ฟังจนจบแล้วกัน แล้วอย่ามาล้อกันนะว้อย ดูสิครับเพื่อนผมแต่ล่ะคนดูท่าจะไม่ค่อยอยากรู้เรื่องของผมสักเท่าไหร่เลยเนอะ
ดูหูสิตั้งกันเป็นแถบนั่งฟังกันอย่างใจจดใจจ่อ แสนดีจังเพื่อนผม ทีไอ้เรื่องแบบนี้ละชอบกันจัง ดูสิตาแป๋วเลย แถมพยักหน้างึกๆ เหมือนว่าเข้าใจกับเหตุการณ์ไปด้วย ทีเวลาอาจารย์สอนนะพากันเม้าท์แตกน้ำลายกระจายทั้งคาบ พอเรื่องไม่เป็นเรื่องล่ะ เห้อ!!!!!!!!!!!!เพลียกับพวกมันจริงๆ แต่ก็ไงได้ครับ เพื่อนนิครับ รักกันมาตั้งนานแล้ว เพราะที่คบกันได้ก็เพราะรักและเข้าใจกันมาตลอดอีกทั้งพวกมันก็ไม่เคยจะรังเกียจที่ผมเป็นแบบนี้เลยด้วยซ้ำแถมยังคอยเป็นกำลัง ปกป้องกันมาตลอด โดยเฉพาะต้อน่ะถึงจะปากปีจอไปหน่อย นิสัยก็ดุดันมุทะลุไปบ้างแต่ก็ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี แล้วสองสาวก็เหมือนกันเห็นห่ามๆ แบบนี้ เกรดดีทุกเทอมนะครับ ผมเลยพลอยได้อานิสงส์ไปด้วย รักพวกมันจังครับ.......................
“เหรอ!!!!!!!!!!!?????????” ปุ๋ยโพลงขึ้นมาทันทีที่ผมพูดจบลิ้นยังไม่ทันเข้าปาก
“แกบอกว่าแกเลือกแล้ว.....ใช่ไหม?” ย้ำมาอีก
“ใช่เลือกแล้ว” ดูสิครับเพื่อนผมสามคนนั่งยิ้มกันใหญ่เลย ดีมันดีใจกับผมอยู่ใช่ไหมครับ?
“งั้นแสดงว่า....ฮั่นแน่????!!!!!!!” ไอ้ต้อ!!!!!!!ผมเพิ่งนึกชมมันไปนะเนี่ย?? มาทำเสียงกรุ้มกริ่ม ใส่ผมอีก
“อะไรๆ ของพวกแกที่ชั้นบอกว่าฉันเลือกน่ะ คือเลือกจำความเจ็บที่ผ่านมาต่างหาก ฉันกินข้าวนะไม่ได้กินหญ้า เจ็บแล้วจำ!!!!!!” ผมบอกไปว่าแค่เลือกกับพวกมันมันยังคิดกันได้ขนาดนี้ถ้าเกิดผมบอกว่าผมเรียกน้องมันว่า “แฟน” ไปแล้วพวกมันคงปิดมอเลี้ยงฉลองแน่เลยครับ ดูแต่ละคนจะส่งกำลังแรงใจให้ไอ้บ้าหมาน้อยล่ำบึกของผมกันซะเหลือเกิน ถ้ามันรู้ว่าเพื่อนสนิทผมเชียร์มันขนาดนี้มันคงดีใจมากแล้วคงทำอะไรต่อมิอะไรกับผมต่อหน้าเพื่อนผมแน่............ใช่ไหมครับ ผมคงคาดไว้ไม่ผิดหรอก เอ๊ะ!!!!!!แต่ทำไมผมถึงได้ยิ้มอยู่นะ อิอิ
“อ้าว!!!!!ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แล้วเป็นบ้าหรือเปล่านั่งยิ้มอยู่ได้?”
“เปล่านิ!!” ผมรีบแก้ตัวแล้วหุบยิ้มอันน่าสงสัยไว้ในส่วนลึกของหัวใจ
“เมื่อสักพักฉันเจอน้องมันด้วยดูสดใสเป็นพิเศษเลยนี่ขนาดมีเรื่องมาเมื่อคืนนะ”
“เหรอ....ที่ไหน!!!???”
“อยากรู้ไปทำไมกัน?”
“...........................” จนคำตอบจริงๆ ครับ ผมอยากรู้ไปทำไมกัน
“ฉันเห็นมันโดนรุ่นใหญ่คั่วอยู่นะเท่าที่จำได้!!” ดูสิครับคุณเพื่อนปุ๋ยพูดด้วยแอคติ้งเป็นเลิศที่เห็นแล้วอยากกระโดดถีบสองขามากเลยครับ
“เหรอ!!???” ผมเองครับเสียงผมเอง...........
“ช่ายๆๆๆๆ!!!!!!!”
“พอเหอะสงสารมันดูสิตาโตแล้วนั่น!! ไม่มีอะไรหรอกน้องมันก็นั่งคุยกับเพื่อนตามปกติแหละ” เจี๊ยบเอ่ยขึ้นมันทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง ฉันรักแกที่สุดเลยเจี๊ยบ
“อ้าวทำไมละเนี่ยอุตส่าห์แกล้งจะให้มันอกแตกตายซะหน่อยดูสิดูทำสิ ฮ่าๆๆ” จริงครับแค่ผมได้ยินว่ามันอยู่กับคนอื่นผมก็รู้สึกตกใจนะ
“อะไรล่ะเนี่ยอยากรู้อะไรก็เล่าให้ฟังหมดแล้วยังจะมาแกล้งกันอีกนะ”
“ก็แกเล่ามาไม่หมด???” ไอ้ต้อเอาอีกแล้ววว!!!!!!!!
“ไม่หมดตรงไหนอีกล่ะบอกมาสิ??”
“งั้นเดี๋ยวไปถามตอนซ้อมบาสก็ได้ว่ะ อาจจะมีเรื่องที่น่าฟังกว่านี้เยอะแน่!!”
“ไอ้ต้อ!!!!ฉันจะเคืองแกจนลูกบวชเลยคอยดู”
“อ้าวไหนบอกไม่มีอะไรไงทำไมต้องเคืองด้วยล่ะ??????”
“ช่ายๆ หน้าแดงด้วย โหย!! อย่าบอกนะว่าแอบไปแซ่บกันมาเรียบร้อยแล้ว” ทำตาวาวเลยปุ๋ยสงสัยวิญญาณสาววายจะซึมเข้าร่างไปแล้ว
“ฉันว่าชัวร์!!!!!!!!” เห้ย...เจี๊ยบเมื่อกี้แกยังอยู่ข้างฉันอยู่เลยนะเนี่ย?
“โป้งว่ะ!!!!!!ฉันไม่คุยกับพวกแกแล้ว” ลุกขึ้นทำท่าชู้นิ้วโป้งใส่พวกมันด้วยพร้อมหน้าบูดๆ อ้าวแล้วทำไมพวกมันไม่ยักจะกลัวผมกันนะ ยังจะพากันหัวเราะรวนอีก เห้อเพลียกับพวกมันจริงๆ แล้วผมคบกับพวกมันมาได้ยังไงเนี่ย????สุดท้ายก็ต้องเพลียกับตัวเองอีกรอบ...........
วันนี้ผมเรียนไม่รู้เรื่องเลยครับเอาแต่นั่งเหม่อตลอด จนเจี๊ยบต้องสะกิดหลายรอบ นั่นสิทำไมผมถึงได้แต่นั่งเหม่อลอยคิดถึงเรื่องเมื่อวานอยู่แบบนี้นะครับ
ผมพูดไปอย่างนั้นแล้ว แสดงออกไปขนาดนั้นแล้วมันจะดีไหม?
ผมไม่ได้คิดผิดและตัดสินใจผิดไปใช่ไหม?
ผมไม่ผิดใช่ไหมที่เลือกแบบนั้น?
ก็ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ นะครับ ผมไม่รู้ว่าคนที่เขาได้ยินและได้เห็นอาการของผมเขาจะรู้สึกอย่างไรบ้าง?
จะดีใจไหมหรือแค่เฉยๆ?
กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผมอยากให้เขารู้ว่าผมได้เลือกแล้วเลือกแล้วจริงๆ เลือกเขาแล้ว ผมรู้สึกแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?
ผมยอมให้เขาเข้ามาอยู่ในใจผมได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
แล้วเขาจะจริงใจกับผมสักแค่ไหน?
หากผมรับรักเขาไปแล้วเขาจะทำให้ผมเสียใจอีกไหม?
เสียใจกับความรักครั้งใหม่ในครั้งนี้?
ผมได้แต่คาดหวังเท่านั้น เพราะผมเองก็ยังรู้สึกไม่แน่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่าไหร่?..........
..........ขอให้อยู่กับผมนานๆ หน่อยนะครับกับความรักในครั้งนี้ ความรักที่ผมจะก่อตัวขึ้นใหม่อีกครั้ง ผมจะรดน้ำดูแลเอาใจใส่มันเป็นอย่างดี...................อย่าเพิ่งด่วนจากไปนะครับ ขอร้อง
*****************************************************************
สั้นๆ ไม่มีอะไรมากมายนะครับ........................ที่บอกว่าอีก 2 ตอนน่าจะผิดครับ อิอิ
