Friend's brother Brother's friend 08, Z4
[NET's talk]
ผมลืมตาปริบๆท่ามกลางความมืด ไฟทุกดวงในห้องปิดสนิทหมดแล้ว แต่เสียงที่ดังแข่งกับเข็มนาฬิกาดัง แต่ก แต่ก คือเสียงทุ้มของเฮียเมื่อหัวค่ำซ้ำๆซากๆ
'เฮียจีบเน็ตได้ไหม?'ไม่ใช่ว่าไม่เคยถูกผู้ชายจีบ อย่างที่ไอ้พวกเพื่อนมัธยมพูดก็ถูกแล้ว ผมเป็นบุคคลประเภทฟีโรโมนแรงกับเพศเดียวกันมาก เคยมีครั้งหนึ่งที่ไปเล่นสงกรานต์กันกับไอ้พวกนั้นแล้วถูกฉุดขึ้นรถกระบะไปด้วยซ้ำ แต่ถึงจะเคยถูกจู่โจมกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทำให้ผมไปต่อไม่เป็นเหมือนวันนี้เลย
"ฮะฮะ... เมานมหรือไงเฮีย"ตอนที่ผมตอบมันไปเสียงหัวเราะนั่นเฝื่อนมากเหมือนกับคนพยายามจะขำมุกแป้กๆ เฮียบีมไม่พูดอะไรต่อ ขอบคุณพระเจ้าที่มันก้มลงไปดูดนมในแก้วอย่างละเมียดละไม ก่อนเปลี่ยนเรื่องคุย
อากาศร้อนคงทำให้คนเป็นบ้า แต่ถึงพยายามไม่เก็บมาคิดมากแค่ไหน ในหัว ก็มีแต่น้ำเสียง สีหน้า และแววตาที่วนอยู่ทุกครั้งที่หลับตาจนต้องนอนตาค้างให้ความมืดที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเป็นกำบังอยู่ดี
แสงเดียวที่สว่างวาบขึ้นมาเกิดจากจอมือถือ ผมหยิบขึ้นมากดๆดูเวลา ตีสามเศษแล้ว เขาว่ากันว่าประโยคบางประโยคคนพูดอาจพูดแล้วไม่คิดอะไร แต่คนฟังนี่เอามานั่งทบทวนแทงตัวเองฉึก ฉึก ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ยอมปล่อยวาง ผมเพิ่งเข้าใจก็ตอนนี้ ป่านนี้เฮียคงหลับสนิทโดยลืมคิดเรื่องนั้นไปแล้วมั้ง ผมก็เสือกเป็นคนคิดมาก คิดเล็กคิดน้อย เก็บมาคิดจนนอนไม่หลับ สงสัยจะโน่น ยันสว่าง โชคดีเหลือเกินเน็ตเอ๋ยที่พรุ่งนี้ไม่มีเรียน ไม่งั้นได้แบกตาหมีแพนด้าไปมหาลัยให้ไอ้โชติล้อตั้งแต่เช้ายันเย็นแน่ๆ
ความรู้สึกตอนนี้น่ะเหรอ? ผมไม่ได้รังเกียจอะไรนะ เหมือนจะกึ่งชอคกึ่งกลัวเสียมากกว่า ผมเพิ่งคอมเฟิร์มกับไอ้บอมเพื่อนรักไปว่าพี่ชายของมันแมนเกินร้อย ไม่มีวันเหลียวหางตามองผมแต่อยู่ดีๆกลับจู่โจมจนเสียหลัก แม่งรู้จักเรียงลำดับความสัมพันธ์บ้างรึเปล่าวะ เอะอะจูบแล้วค่อยมาบอกว่าจะจีบ พี่ชายมึงขาดหรือเกินกันแน่ครับปารณ
ผมยังคงพลิกตัวไปมาบนเตียงขนาดห้าฟุตระดับความสกปรกอยู่ที่เลเวล7 สุดท้ายไอ้เรื่องรกสมองก็ไม่ยอมหลุดไปได้เลยถือโอกาสลุกขึ้นเปิดไฟ เอาเก้าอี้เล็กชุดเดียวกับโต๊ะเครื่องแป้งมาวางหน้าตู้เสื้อผ้า แล้วปีนขึ้นไปหยิบอิเลคโทนฝุ่นเกาะที่วางซ้อนๆบนซากหนังสือกับสายไฟลงมา
สามปีเต็มของอายุเครื่องดนตรีที่ถูกวางทิ้งเอาไว้สงบนิ่ง ป่านนี้ปลายนิ้วของผมไม่ได้พลิ้วไหวเหมือนช่วง ม.ปลายแล้ว ถึงจะอ้างว่าไม่ว่างเล่นแต่ความจริงผมก็รู้อยู่ดีว่าเป็นเพราะไม่อยากจะรื้อฟื้นความหลังขึ้นมาต่างหาก
อิเล็กโทนที่แป้นสีขาวเปลี่ยนเป็นเหลืองตัวนี้ ผมเกือบลืมไปแล้วว่าใครเป็นคนให้และใครที่ใช้เปียโนของที่บ้านสอน ในหัวเหมือนจำไว้แค่ว่าใครเป็นแรงบันดาลใจให้ผมสนใจเครื่องดนตรีชนิดนี้จนลุกขึ้นมาฝึกจนเป็นเรื่องเป็นราว
ช่วงนั้นปันนภมันก้อร่อก้อติกรุ่นน้องที่เป็นนักเปียโนของโรงเรียนอยู่..
แต่สุดท้าย เพลงความลับ ที่ผมหัดเล่น มันก็ได้แต่เก็บเป็นความลับมาจนถึงตอนนี้
ผมวางคีย์บอร์ดลงบนเตียง คนให้เคยบอกว่าเล่นให้คล่องมือเมื่อไหร่จะซื้ออย่างดีให้ คงกลัวว่าผมจะเหยาะแหยะตามกระแสวัยรุ่นชายที่อยากเล่นดนตรีเอาหล่อ
ครับ มันคิดถูกแล้วที่ซื้อคีย์บอร์ดขี้กะโล้โท้มาให้ผมรับขวัญเพลงแรกที่เล่นจนจบ ผมยังจำได้แม่นว่าวันที่ได้รับเป็นวันเกิดไอ้บอม แต่ผู้ร่วมงานปาร์ตี้เล็กๆอย่างผมกลับได้รับกล่องอิเล็กโทนขนาดใหญ่จากพี่ชายคนโตจนเจ้าของงานมันเบะปากหมั่นไส้
'ตอนผมเล่นกีต้าร์เป็นเพลงแรกเฮียให้แค่หนังสือเพลง นี่ไอ้เน็ตมันได้เครื่องดนตรีไปชิ้นบะเริ่ม!'ผมยังจำประโยคนั้นของบอมได้ แต่สายตาตอนนั้นของผมกลับเหลือบมองไปยังแรงบันดาลใจของตัวเองที่กำลังมองเสี้ยวหน้าของเฮียนิ่งก่อนก้มลงกินเค้กในจานตัวเองเงียบๆโดยไม่แสดงความเห็นใดๆออกมา ปันมักจะเป็นแบบนี้ ไม่ท้วงติง’อะไรก็ตาม’ ที่เกี่ยวกับผม แต่เลือกที่จะมองห่างๆเหมือนเว้นระยะไว้พอตัว
เฮียบีมไม่ตอบไอ้บอม เหมือนมันเอาของขวัญที่ว่ามาวางๆแล้วก็รีบไปช่วยพี่ทรายเติมน้ำอัดลมใส่แก้วไม่ใส่ใจคำค่อนขอดของน้องตัวเองมากกว่า ส่วนผมตอนนั้นยิ้มแก้มปริเพราะถ้ารอเก็บตังค์นี่คงอีกสองสามเดือนกว่าจะได้ซื้อมาหัดเล่นสมใจอยาก
จะว่าไป ช่วงนั้นผมก็สนิทกับเฮียมากกว่าคนอื่นอยู่นิดหน่อย แค่มันตกสะเก็ดอยู่ลึกในความทรงจำ ไม่ได้มีค่าหรือความหมายอะไรมากพอให้นึกถึง แต่พอความสัมพันธ์ขาดๆเกินๆถูกสานต่ออีกครั้งในรูปแบบที่ต่างไป ผมก็อดเอามาคิดไม่ได้ว่าทำไมไอ้บอมถึงเจาะจงให้เป็นผมที่เข้าหาเฮียในทางชู้สาว
จีบ...อย่างนั้นหรือ?
ผมคงเป็นมนุษย์ที่เยี่ยวเหลืองที่สุดในโลกก็วันนี้ เพราะไอ้อดีตนายแบบห่าเหวอะไรนั่นกำลังทำให้ผมประสาทแดก โทรบอกไอ้บอมดีไหม? หนีหายหน้าไปเลย หรือว่าหน้าด้านหน้าทนทำตัวปกติต่อไปเหมือนไม่ได้ยิน ไม่ได้เกินอะไรประหลาดๆขึ้นระหว่างผมกับเฮีย
บ้าชะมัด ผมไม่ควรหงุดหงิด ไม่ควรเก็บมาคิดใส่ใจ แต่ก็อดไม่ได้
ผมต่อคีย์บอร์ดกับสายไฟ ตั้งเสียงให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้รบกวนผู้ร่วมอาศัยคนอื่นของตัวตึก พยายามจับคอร์ดด้วยมือขวาข้างเดียวให้ชินก่อนเมโลดี้จากมือซ้ายจะค่อยๆกดย้ำเงอะงะ
'ยิ่งฉันใกล้เธอ เท่าไร ยิ่งอยากจะเผยใจ ยิ่งสบสายตา ก็ยิ่งหวั่นไหว
มันยากเหลือเกินจะเก็บ ซ่อนความรักเอาไว้ แล้วความลับในใจของเธอ มีฉันอยู่บ้างไหม
โปรดบอกความในใจ ให้ฉันรู้ที นะเธอ...'เสียงโทรศัพท์ดังติดกันเป็นรอบที่สามของบ่ายวันเสาร์สราญรมณ์ ผมกดตัดสายอีกครั้งด้วยสัญชาตญาณก่อนจะปิดเครื่องโยนไอโฟนสีขาวไว้สักตำแหน่งบนเตียงกว้าง เพิ่งหลับไปตอนเกือบเช้าจะให้ถ่างตารับรู้เรื่องราวอันโหดร้ายของโลกในวันหยุดคงเกินกำลังกระผมมากไป ดังนั้นจึงเลือกทิ้งธุระปะปังของคนในสายไว้เบื้องหลังแล้วดำดิ่งสู่นิทราอีกรอบ
ราวกำลังค่อยๆล่องลอยอยู่เหนือปุยนุ่น
พระอินทร์กำลังดึงมือผมขึ้นไปเฝ้าอีกครั้ง.. หากแต่..
'ปังๆๆ ปังๆ...'ไอ้เหี้ย!!! ใครวะบังอาจมาก! ผมสะดุ้งหลุดจากความฝันราวโดนพระอินทร์ถีบตกสวรรค์ อาการเมื่อยขบตามเนื้อตัวเพราะนอนดึกทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้าแล่นริ้วทั่วร่างจนผมต้องนิ่วหน้า ถ้าไอ้เหี้ยที่มาบุกรุกห้องผมในเวลานี้ไม่ได้มีธุระขั้นพ่อตายแม่ขายยานะสาบานเลยว่าจะเพ่นกบาลมันแตกแน่ ผมเดินสวมบอกเซอร์ตัวเดียวลุกจากเตียงไปส่องตาแมว พอเห็นว่าเป็นไอ้โชติก็เปิดประตูให้มองหน้ามันเหวี่ยงๆ
"ไอ้บอมโทรหามึงล้านรอบแล้ว ไม่รับวะ" ไอ้เวอร์ รอบที่สามกูเพิ่งตัดสายไปเมื่อกี้เว้ย ผมมองค้อน "มีอะไรว่ามา กูง่วง!"
"จะนอนกินบ้านกินเมืองไปไหน ตื่นได้แล้วเว้ย ไปบ้านไอ้บอมกัน"
"ไม่ไป กูจะนอน"
"มันขอZ4ป๊าได้"
อื้อหือ พี่ขับSLK น้องขับZ4 บ้านมึงค้ายากันหรือไงครับ? จากที่งัวเงียๆเมื่อครู่ตื่นเลย Z4! BMW Z4 เลยนะเว้ย ไม่ใช่กระจอก รถห่าเหวนั่นราคาสี่ล้านกว่า เท่าที่รู้มาไอ้บอมขอป๊ามันตั้งแต่ม.ปลาย เห็นเฮียเรียนจบแล้วป๊าถอยเมอร์ซิเดสให้ตัวเองเอ็นท์ติดเลยจะเอาบีเอ็มบ้าง ตอนนั้นป๊ามันไม่ให้ครับ เพิ่งถอยให้เฮีย จะมาจ่ายให้บอมอีกคงไม่ไหว เดี๋ยวปีถัดมาไอ้บูมเอ็นท์อีกคน ป๊าได้ขายร้านทองทิ้งแน่ๆ ไอ้บอมมันงอแงพักใหญ่แล้วปล่อยให้เรื่องเงียบลงเหมือนยอมรับ วันดีคืนดี เตี่ยมันถูกหวยรางวัลที่1หรือนี่กระไรถึงได้ตามใจไอ้บอมแบบปัจจุบันทันด่วนขึ้นมาง่ายๆ
"เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน ป่านนี้ดีใจบ้านบึ้มไปแล้วมั้ง"
โชติพงษ์หัวเราะ ผมเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวที่พาดอยู่บนเก้าอี้หนังสือเดินเข้าห้องน้ำ ได้ยินเสียงไอ้โชติตะโกนเรียกไล่หลังไวไว
"นึกไงเอาไอ้นี่ลงมาวะ" มันคงหมายถึงอิเลกโทนที่ยังไม่ได้เก็บเข้าที่ ผมเปิดฝักบัวล้างหน้าล้างตาไม่ตอบมัน หยิบสบู่ขึ้นมาถูลวกๆเมื่อคืนก็อาบแล้วจะฟอกอะไรมากมาย ฟันก็แปรงก่อนนอน อมน้ำลายตัวเองไม่กี่ชั่วโมงไม่ต้องถูเยอะ ไม่ถึงสิบนาที ผมก็ใช้ผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวเดินออกมาจากห้องน้ำให้แขกมองตาค้าง
"ไอ้เหี้ย! ถือว่าตัวเองขาวแล้วดูสะอาดเลยวิ่งผ่านน้ำพอรึไง? กลับไปอาบใหม่เลยไอ้เน็ต"
อย่างที่โชติพูดแหละครับถูกแล้ว มันเป็นความอยุติธรรมของธรรมชาติ ที่คนขาวทำตัวสกปรกเท่าไหร่ก็ไม่ดูสกปรก ถ้าลองเข้มๆดำๆแบบไอ้โชติ อาบน้ำทีครึ่งค่อนชั่วโมงออกมาใครๆก็ยังคิดว่าตัวมันพอกขี้ไคลเอาไว้เต็มอยู่ดี ดำแล้วเจียมซะมึง อย่าริอ่านมาแขวะกูไม่มีใครเชื่อมึงหรอกว่าหน้าอย่างกูจะซกมก
ผมเดินผ่านหน้าอาคันตุกะไปเงียบๆ ปรายตามองท่าทางรังเกียจเดียดฉันท์ของมันที่แสดงออกใส่ผมจนอยากกระทืบ เปิดประตูตู้เสื้อผ้าได้ก็หยิบเอาเสื้อลายขวางเทาสลับดำมาสวม ไม่ได้กลัวผิวจะเสียอย่างที่พวกไอ้บอมชอบแซวหรอกนะครับที่ในตู้จะมีแต่เสื้อแขนยาวเป็นส่วนใหญ่ แค่เวลาสวมเสื้อแขนยาวแล้วจะดูตัวใหญ่ขึ้น อากาศเมืองไทยก็ร้อนฉิบหายเหอะ แต่อยากหล่อก็ต้องทนอันนี้แม่บอกไว้ ไอ้โชติพยายามจิ้มๆคีย์บอร์ดที่ยังวางอยู่บนเตียงให้เกิดเสียง ผมที่จัดแจงเตรียมของออกไปข้างนอกหันมาเห็นปลั๊กยังไม่เสียบก็ส่ายหัวปล่อยให้มันโชว์โง่หาปุ่มเปิดเสียงต่อไปพักใหญ่
"ไปกัน อยากนั่งZ4"
โชติพงษ์ละความตั้งใจจะบรรเลงเพลงรัก หน้ามันยังงงๆกับเครื่องเล่นดนตรีไร้เสียงของผมแต่ไม่อยากเสียเวลาอธิบายควายให้เป็นคนเลยชิ่งเดินหนีมาก่อน เวลาบ่ายแบบนี้แดดยังแรงอยู่พระอาทิตย์ไม่เคยหยุดพักเสาร์อาทิตย์ ผมกับมันเลยได้แต่เดินลัดเลาะไปตามเงาตึกที่ตกทอดลงมาบังแดดให้ระหว่างทางจากหอไปยังป้ายรถเมล์
มีรถขับน่ะเรอะ? ก็ผมกับโชติพงษ์นี่แหละครับที่ไม่มีกันแค่สองคนในกลุ่ม หมอโต๊ดลูกชายร้านขายของชำมีนิสสันสกายไลน์รุ่นปี2001 มรดกจากพ่อมัน ส่วนคุณชายปันกับเสี่ยบอมปล่อยมันรวยไปครับ ปันมีเชฟโรเลตครูซที่ว่างๆจะเอาไปสอยโน่นสอยนี่เป็นกิจวัตร ไม่ใช่มันขับรถห่วยแตกนะ แต่มันหาข้ออ้างเอาแคมรี่พ่อมาใช้เสียมากกว่า ส่วนไอ้บอม ป่านนี้คงดีใจเนื้อเต้นที่จะได้เปลี่ยนวีออสสีบลอนด์ทองมาเป็นZ4เสียที มันเป็นตัวอย่างภาสิตที่ว่า
'ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น'เลยครับ แต่ใช้ไม่ได้กับผมกะไอ้โชติหรอก เด็กหนุ่มจากบ้านฐานะกลางๆแบบอยู่่ไม่ให้มีหนี้สินต่อให้กราบแดดิ้นใต้ตีนแม่ ก็ไม่มีวันได้ถอยรถมาโชว์สาวเป็นแน่แท้
รถเมล์ฟรีมาพอดี โชคดีที่คนไม่หนาตาเท่าไรเราเลยไม่ต้องกลายเป็นปลากระป๋องจุความร้อนสูงเหมือนทุกครั้ง ผมกับโชติลงบีทีเอสแล้วนั่งต่อยาวไปจนข้ามฝั่งธน ไหนๆก็ไปบ้านไอ้บอมแล้วผมแอบคิดว่าถ้าเสร็จธุระจะไปเซอร์ไพรส์แม่สักหน่อย พี่เนยออกเรือนแต่งงานไปหลายเดือนแล้ว ปล่อยชีอยู่คนเดียวป่านนี้เหี่ยวเป็นยายแก่นั่งเหงาแล้วกระมัง
"โทรเรียกไอ้บอมมารับหรือยัง?"
ผมหันไปถามคนข้างๆที่เอาแต่เล่นPSPตั้งแต่ขึ้นรถไฟฟ้า มันพยักหน้าหงึกหงักเหมือนไม่ได้ใส่ใจ พอเดินลงมาจากด้านบนผมก็เห็นรถทะเบียนคุ้นจอดเลียบๆถนนต่อหลังแทกซี่สีชมพูรออยู่แล้ว
"ไงมึง"
ผมทักเจ้าของรถตอนที่สอดตัวเข้าวีออสเรียบร้อย บอมยิ้มร้ายรอผมคาดเข็มขัดเสร็จก็ทะยานรถกลับบ้าน โชติยังไม่พูดไม่จาเล่นPSPในมือเหมือนหลุดไปอีกโลก
"ขอยังไงป๊าถึงให้"
"เงื่อนไขเดียวกับเฮีย เรียนจบแล้วถอยให้รับขวัญ"
ห๊ะ?เงื่อนไขนี้มึงได้รับมาตั้งแต่ม.6แล้วนะครับ ผมหันขวับไปมองคนพูดที่มันกลั้นหัวเราะแทบตาย
มึงหลอกกู! ไม่... ไม่สิ จริงของมันที่บอกว่าขอz4ป๊าได้ คือขอได้แต่ยังไม่ได้ตอนนี้สินะ โอเคกูโง่ กูซื่อ ไอ้เหี้ยบอม!ปล่อยกูลงเอาเวลานอนอันมีค่าของกูคืนมาาา
ผมได้แต่โหยหวนในใจ นั่งไม่พูดไม่จาอมน้ำลายจนไอ้สุดยอดตอแหลใช้มือข้างหนึ่งมาผลักหัวผมเบาๆพอเห็นว่าผมทำท่างอนตุ๊บป่อง
"กูจองสนามบอลไว้สี่โมง โทรบอกไม่รับกูว่าชวนมึงตรงๆต้องเบี้ยวแน่เลยให้ไอ้โชติไปลากคอมึงมา"
ไม่ได้ลากคอหรอก กูเชื่องเดินตามมันมาโง่ๆเลยนี่แหละ คบแต่เพื่อนดีๆทั้งนั้น! ถึงว่าไง ไอ้เหี้ยโชติมาไม่ฝอยห่าอะไรเลย ชวนนิ่มๆให้ผมกระดี๊กระด๊าอยากมาบ้านไอ้บอมตัวสั่น ผมฟึดฟัดหัวเสียคนเดียวบนรถได้ไม่นานไอ้ทอง(ชื่อวีออสของบอม)ก็พาเราทั้งสามคนเข้ารั้วบ้านพาณิชยโชติ อย่าจินตนาการว่าเป็นวังหรือคฤหาสถ์ใหญ่โตอะไรครับ บ้านบอมเป็นบ้านขนาดกลางสำหรับอยู่อาศัยหกคนอันประกอบด้วยป๊า ม้า ลูกชายทั้งสาม และพี่วรรณ พี่เลี้ยงของมันที่อายุรุ่นๆเดียวกับแม่ผมได้พอดิบพอดี พอลงรถมาหมาไทยสีน้ำตาลหลังอานขนเกรียนสนิทเห่าเสียงขรมแต่หางกระดิกระริก มันโดดใส่ไอ้บอมที่ทำท่าจะถีบๆให้พ้นทางแล้วหันมาแลบลิ้นมองผมกับไอ้โชติห่างๆ
"ปุกปุยยยย"
ผมจำชื่อมันได้ ไอ้หมาที่ทำท่าตื่นคนนิดๆขมวดคิ้ว มันขมวดคิ้วจริงๆครับ เหมือนจะถามว่ามึงรู้จักกูได้ยังไง? ผมนั่งยองๆลงกับพื้นคอนกรีตให้ปุยมันทำจมูกฟุตฟิตๆเดินเข้ามาหากล้าๆกลัวๆ หมาไทยขี้ระแวง ผมเคยเลี้ยงอยู่สองตัวที่บ้านก่อนโดนรถชนตายในซอยใกล้ๆกัน ใช้เวลาแป๊บเดียวในการทำให้ไอ้ปุยหยุดเห่า หมามันรู้โดยสัญชาตญาณครับว่าใครชอบใครเกลียดมัน ตอนนี้ผมกับโชติที่ยังเล่นPSPไม่เลิกก็เดินเข้าบ้านได้สบายๆ
"ม้าหวัดดีครับ"
ผมยกมือไหว้ผู้หญิงวัยกลางคนที่นั่งขัดสมาธิกินส้มอยู่บนโซฟาหน้าทีวี ไม่ได้เจอกันเกือบ4ปีได้แต่ม้าไม่แก่ลงเลย ผมหยิกสั้นระติ่งหูมีสีขาวแซมประปรายยกมือข้างที่ไม่ได้ถือส้มแมนดารินรับไหว้ผมลวกๆ
"เป็นไงมาไงเนี่ย นั่งๆ ไม่ได้เจอกันนานเชียว ไม่โตขึ้นบ้างเลย" ม้าตบโซฟาหนังดังปุๆ ไอ้โชติยกมือไหว้ม้าอีกคน ม้าเลยหันไปพูดกับมันด้วย "ดำขึ้นหรือเปล่าโชติ"
"นิดหน่อยม้า ผมไม่ได้สำอางค์เหมือนไอ้เน็ตมัน"
จะแขวะกูทำซากอะไรครับโชติพงษ์ ผมหันไปแยกเขี้ยวให้มันหนึ่งทีก่อนยกมือไหว้พี่วรรณที่ยกน้ำชามาให้ม้าดื่ม
"อ้าว คุณเน็ต คุณโชติ ลมอะไรพัดกันมาคะนี่?"
"ลมคิดถึงพี่วรรณน่ะสิครับ สวยขึ้นนะเนี่ย"
อื้อหือ ไอ้โชติ มันรู้ครับพี่วรรณนี่อู่ข้าวอู่น้ำ ประจบประแจงมากๆเข้าไว้เดี๋ยวพี่แกก็หายไปหลังครัวทำขนมนมเนยออกมาแจก ผมส่ายหัวในความตะกละของมันแล้วเดินมานั่งข้างๆม้า
"ป๊าไม่อยู่หรือครับ?"
"ออกไปเฝ้าร้านแต่เช้าแล้ว แล้วนี่กินอะไรกันมารึยัง วรรณทำกับข้าวเผื่อเด็กๆมันหรือเปล่า? ยกมาเลยไหม?"
"เมื่อเช้าคุณบอมสั่งแล้วค่ะว่าให้ทำเผื่อแขกเพิ่ม4ที่ นี่วรรณก็เตรียมไว้แล้วแต่คุณตี๋เล็กดันออกไปข้างนอกเสียได้ ของโปรดคงอยู่ไม่ถึงเย็นแล้วล่ะมั้ง"
"อ้าว บูมมันไปไหนอะพี่วรรณ"
ไอ้บอมดูเหมือนไม่รับรู้ความเป็นไปของน้องชาย มันทำหน้าเป็นหมางง เหมือนไอ้ปุยเมื่อกี้แหละครับ แต่เสียงเลื่อนประตูรั้วดันดังขึ้นก่อนพี่วรรณจะตอบคำถาม โชติมันเป็นแขกที่เสือกชะโงกหน้าออกไปก่อนเพื่อนดูว่าคนมาใหม่เป็นใครแล้วหันมาบอกเจ้าบ้าน "ไอ้ปันมากับบูมได้ไงวะ"
"เออ ไหนมันบอกจะมาเย็นๆ"
โชติกับบอมมองกันงงๆ คือมึงมีข้อมูลนัดแนะกันเรียบร้อยอยู่แล้วว่าจะไปไหนทำอะไรกันมึงยังงง ไม่ต้องถามกูหรอก เหมือนกลายเป็นซากอารยธรรมโบราณนั่งโง่อยู่คนเดียวตั้งแต่รู้ว่าโดนหลอกให้มาหามึงแล้วบอม
"ไหงมาด้วยกันได้วะ?"
พอปันกับบูมเดินก้าวเข้าบ้านมา ชายกลางก็ถามทันที ปันไม่ตอบอะไรยกมือไหว้ม้ากับพี่วรรณแล้วเดินมานั่งโซฟาฝั่งที่ยังว่างอยู่ข้างม้า
"เจอกันที่ร้านกาแฟน่ะ บูมยังไม่ได้กินข้าวเลยตั้งแต่เช้า พี่วรรณทำอะไรกินครับ"
"หลายอย่างเลยค่ะ แต่เดี๋ยวรอคุณโต๊ดก่อนพี่ถึงยกสำรับมานะ คุณตี๋เล็กไปหาอะไรรองท้องก่อนดีกว่า"
"อ้อ ใช่ มีร๊อยซ์อยู่ในตู้เย็น แล้วนี่เฮียไปไหนครับ"
ไอ้บูมถามถึงพี่ชายคนโต ผมกำลังยกน้ำขึ้นดื่มถึงกับชะงักกึก ฉิบหายแล้ว ลืมไปเลย! แค่เมื่อวานหลังจากเฮียพูดประโยคชวนขนลุกก็ทำตัวไม่ถูกจะตายห่า มาหามันถึงบ้านแบบนี้จะวางตัวยังไงวะ พิรุจมากไอ้บอมจับได้ จะตีเนียนก็ยังไม่ได้เตรียมใจมา ไม่รู้ว่าผมตกอยู่ในโลกส่วนตัวนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีม้าก็ลุกออกไปจากโซฟาเหลือผมกับปันไว้แค่สองคนในห้องโถงรับแขกเสียแล้ว
“เป็นอะไร? ดูมึงลอยๆ”
“อ่อ เออ นอนดึก ไปไหนกันหมดแล้ววะ?”
ผมตอบไอ้ปัน สายตาพยายามชะเง้อออกไปด้านนอก ไม่บ่อยที่ผมจะใช้เวลาตามลำพังกับมันครับ เลี่ยงตลอด แต่เมื่อกี้มัวแต่กังวลเรื่องเฮียสิ่งมีชีวิตรกตาเมื่อครู่เลยอันตรธานหายตัวแบบที่ผมยังเบลอๆอยู่ว่าตอนนี้เหลือแค่ผมกับปันได้ยังไง
“ไอ้บอมไปไล่หมาให้โต๊ด บูมกับโชติไปช่วยพี่วรรณเตรียมสำรับ ม้าไปตามเฮียหลังบ้าน”
ผมพยักหน้าหงึกหงัก ใช้หางตาปรายมองไอ้ปันที่ดูโทรทัศน์นิ่งๆเป็นพักๆ ไม่ไหวว่ะ อยู่กันสองคนแล้วรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเลย
“กูไปช่วยพี่วรรณนะ”
“นั่งอยู่นี่แหละ มึงไปก็ดีแต่กวนเขา”
ไอ้ปันกดมือลงบนมือลงบนหน้าขา ผมงี้ชาไปทั่วหน้าแล้วครับ โชคดีมากๆที่ปันมันดูสารคดีในจอโทรทัศน์อยู่คงไม่ทันสังเกต สิ่งเดียวที่บอกว่าผมไม่ได้เป็นมนุษย์หินคือหัวใจที่เต้นตุบ ตุบ เหมือนจะหลุดออกมาข้างนอก ทั้งตัวแข็งทื่อไม่รู้จะขยับตัวไปทางไหนถูก
มันจะได้ยินเสียงหัวใจกูไหมวะ?
“แดกข้าวเสร็จก็ขึ้นไปนอนห้องไอ้บอมซะ เย็นไปเตะบอลแล้วเป็นลมเป็นแล้งเดือดร้อนพวกกูอีก”
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ มันเองก็เงียบเสียงไปเหมือนกัน เป็นเรื่องปกติธรรมดามาตั้งแต่มัธยมแล้วที่ความเงียบจะเป็นเครื่องมือสื่อสารระหว่างผมกับมัน ไม่ใช่ไม่อยากคุยนะครับ อยากคุยมาก แต่ไม่รู้จะพูดเรื่องอะไร จะคุยกับมันแบบไหน เหมือนดีมานด์ของเราต่างกัน ผมอยากจะคุยกับมันต่อหน้าเพื่อนหลายๆคนจะได้ดูเหมือนเป็นเรื่องเฮฮาปกติ แต่มันมักจะเลือกพูดกับผมมากกว่าปกติเวลาที่เราอยู่ตามลำพัง
ผมไม่รู้ว่ามันรู้ถึงความรู้สึกผมหรือเปล่า ได้แต่เฝ้าภาวนาว่าไม่
ไม่อย่างนั้น ผมคงไม่รู้จริงๆว่าจะวางตัวกับมันยังไงต่อไป
“เน็ต...”เสียงทุ้มต่ำของเจ้าบ้านอีกคนปลุกให้ผมสะดุ้งตัวเล็กน้อย ฉิบหายแล้วพอคิดถึงเฮีย ปันก็มา พอคิดเรื่องปัน เฮียก็โผล่ มือไอ้ปันที่วางอยู่บนหน้าขาผมดึงไปยกมือไหว้เฮียบีม ผมเองก็ทำแบบเดียวกันโดยที่เจ้าบ้านแค่พยักหน้ารับเท่านั้น
“พี่วรรณเตรียมสำรับเสร็จแล้ว ปันไปเรียกบอมกับโต๊ดให้หน่อย มัวแต่เล่นหมากันอยู่หน้าบ้าน”
ไอ้ปันรับคำแล้วลุกเดินออกไป พอเหลือกันสองคนกับเฮียผมยิ่งอึดอัดกว่าตอนแรกที่อยู่กับปันอีกครับ รายนั้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้ แต่กับไอ้พี่ชายเพื่อนตรงหน้านี่ผมไม่รู้จะทำหน้ายังไงใส่มัน ไม่กล้าสบตาจริงๆ กระทั่งมือใหญ่วางแปะลงบนหัวยีผมสีส้มแดงของผมเบาๆให้ผ่อนคลาย จึงเงยหน้าขึ้นมองมันเป็นครั้งแรก
ทว่าพอเห็นแววตาหยอกล้อสีดำขลับของเฮียก็เผลอเบนสายตาหลบอีกจนได้
“ผมเสียทรงหมด” ทำเป็นบ่นปอดแปด เบี่ยงตัวหลบจากสัมผัสของมืออุ่น
“เป็นไรรึเปล่า หืม? ดูเกร็งๆ ซึมๆ”
ได้ยินประโยคนั้นเท่านั้นแหละครับ ผมก็หันขวับไปมองเฮียตาเขียว ไอ้บีม ไอ้เหี้ย! กูอะไม่แปลกหรอก มีแต่มึง!! มึงนั่นแหละที่ทำท่าเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้นเมื่อวาน!!! แล้วก็มีแค่กูใช่ไหมที่คิดหน้าพะวงหลัง ว่าจะทำยังไงกับมึง ไม่ได้อยากช่วยปิดหรอกนะ แต่เรื่องของเรื่องคือถ้ากูช่วยไอ้บอม บอกมันไปว่ามึงเป็นเกย์คนที่ซวยไม่รู้จักจบจักสิ้นคือกูว้อย! ห่า! คือหาเรื่องเครียดมาให้กูแล้วยังทำหน้าระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่แม่งน่าโมโหกว่าเดิมอีก30%ได้เลยครับ
ผมกระฟัดกระเฟียดเดินนำหน้ามันไป เคยมาบ่อยๆเมื่อ4ปีก่อน จนถึงตอนนี้ทางระหว่างห้องโถงไปยังครัวยังคงชัดเจนในความทรงจำ ผมเลยเดินลัดเลาะเลี้ยวซ้ายทีขวาทีจนมาถึงที่หมายก่อนมัน ม้านั่งหัวโต๊ะ พี่วรรณกำลังตีมือไอ้บูมที่หยิบกุ้งชุบแป้งทอดในจานกินด้วยมือเปล่า ส่วนไอ้โชติ ไอ้เหี้ยนี่แหละปัญหาตอนที่เห็นผมทำหน้างอง้ำเข้ามาไล่ๆกับเฮียมันก็ยิ้มล้อ พอหันหน้าสะบัดมองไปทางเฮียว่ามันทำท่าอะไรแปลกๆหรือเปล่าก็ต้องรีบหันขวับกลับมา
เฮียบีม มึงจงใจมองกูมากเกินไปแล้ว!ไอ้โชติยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตักข้าวใส่จานให้ม้าก่อนไอ้พวกที่เหลือจะค่อยๆทยอยเดินเข้ามาในห้องอาหาร บอมเลือกที่นั่งประจำคือข้างผม ไอ้โชติซึ่งตอนแรกนั่งข้างบูมก็รีบกระดกก้นมานั่งข้างชายกลาง ผมเห็นมันดึงหูยานๆของเจ้าบ้านเข้าไปกระซิบกระซาบอะไรกันก่อนที่ตาสองชั้นหลบในของไอ้บอมจะปรายมองผมสลับกับเฮียที่นั่งฝั่งตรงข้ามกัน
พวกมึงช่วยอย่านินทาให้บุคคลที่ถูกกล่าวถึงรู้ตัวได้ไหมครับ ไอ้สัตว์!------------------------------------------
COMPLETE Friend's brother Brother's friend 0824/05/12
สวัสดีวันพฤหัสบดีคร๊าบบบ ตอนนี้แอบมีปันชะแว๊บให้เน็ตใจเต้นนิ๊ดส์หน่อย ออกมาเยอะเดี๋ยวเฮียจะไม่ได้ทำคะแนน แฮ่ๆ
รู้สึกปันจะเป็นขวัญใจแม่ยกพ่อยกกันมากเลย แม้แต่คนแต่งยังชอบปันเลยค่ะ
ตอนนี้เดินเรื่องไปเนิบๆ ไม่มีอะไรหวือหวาเลยเนอะ อยู่ในช่วงสับสนๆของเน็ต อย่าเพิ่งเบื่อกันไปก่อนนะจ๊ะ
สำหรับตอนหน้าจะพยายามต่อให้ทันดึกๆวันเสาร์ค่ะ เพิ่งบอกไปตอนที่แล้วว่าช่วงนี้ว่างไม่มีงาน พูดปุ๊บวันจันทร์โดนเอกสารถล่มปั๊บ เหมือนเรียกหาผี ผีก็มายังไงอย่างงั้น แต่ถึงงานยุ่งจะพยายามไม่ทิ้งช่วงเน่อ
สวดท้ายย
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม ขอบคุณทุกคอมเมนต์ จะใช้ทุกความคิดเห็นมาเป็นแรงในตอนต่อๆไปนะฮับ
สำหรับคืนนี้ ราตรีสวัสดิ์จ้า 