HEARTBREAKER
40
(ต่อ)
ที่หน้ากระดานบอร์ดประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษาในคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ของมหาวิทยาลัยรัฐบาลอันดับต้นๆของประเทศคราคร่ำไปด้วยฝูงชนที่มารอดูผล ร่างสูงของเฟียซชะเง้อมองอยู่ข้างหลังด้วยความตื่นเต้น แต่เพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆกันกลับนิ่งเงียบ หน้าถอดสี เหงื่อซึมขึ้นเต็มฝ่ามือเพราะความกลัวว่าตัวเองจะไม่มีรายชื่อติดอยู่ในบอร์ดประกาศ พอกลุ่มคนเริ่มบางตา เฟียซก็รีบแทรกตัวเข้าไปอยู่แถวหน้าและไม่ลืมที่จะดึงมือเพื่อนตามไปด้วย นัยน์ตาคมไล่ดูรายชื่อของตัวเองตั้งแต่ลำดับแรกลงมา คิ้วเข้มขมวดเป็นปมพลางไล่นิ้วไปที่ละแถวก่อนที่เสียงตะโกนลั่นจะดังขึ้นจนผู้คนรอบๆบริเวณพากันหันมามองด้วยความตกใจ
“เหยด!!! ต้าร์!!! กูสอบติดโว้ย!!! ไอ้เหี้ย!!! นี่ชื่อกู!!!”
“ดีใจด้วยนะ”
ต้าร์บอกแสดงความยินดีกับเพื่อนด้วยรอยยิ้มบาง ไม่กล้าตรวจดูรายชื่อตัวเอง ยิ่งเห็นเพื่อนโห่ร้องกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจหัวใจมันก็พาลจะห่อเหี่ยวลง เฟียซเรียนเก่งต้องสอบติดอยู่แล้ว แต่คนเรียนไม่ค่อยเก่งอย่างเขาเนี่ยสิ จะสอบติดไหม?
“มึงดูยัง” เฟียซหันมาถามเพื่อนหลังระเบิดความดีใจจนเต็มอิ่ม
ต้าร์ส่ายหน้าช้าๆ ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองกระดานบอร์ด
“กลัวอะไรวะ มึงสอบติดอยู่แล้ว เชื่อกูดิ”
เฟียซบอกอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยมแล้วจับมือบางวางไว้บนกระดานบอร์ดก่อนสั่งสำทับ
“ดูเดี๋ยวนี้”
คนถูกสั่งพยักหน้ารับเบาๆ ถอนหายใจเฮือกนึงก่อนเงยหน้ามองกระดานบอร์ด ไล่ปลายนิ้วเรียวหารายชื่อตัวเองด้วยเสียงหัวใจที่เต้นรัวเร็วราวกับมันจะระเบิดออกมานอกอก ยิ่งได้เห็นชื่อเพื่อนสนิทผ่านตาไป ความกดดันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
“เฟียซ” ในที่สุดก็ทนไม่ไหว ต้องหันไปเรียกเพื่อนเสียงแผ่ว
“อะไร เจอชื่อมึงแล้วเหรอ ไหนๆ” เฟียซถามหน้าตาตื่น
“ไม่กล้าดู เฟียซดูให้หน่อย”
“อ้าว…สลัดผัก มึงต้องดูเองสิวะ มาถึงนี่แล้ว ดูเองเลย เร็วๆ”
เฟียซไม่ยอมช่วย สั่งเร่งให้เพื่อนรีบตรวจดูรายชื่อ ต้าร์หน้ามุ่ย หันไปมองกระดานบอร์ดอีกรอบ สูดลมเข้าปอดเฮือกใหญ่อย่างเรียกขวัญกำลังใจแล้วค่อยๆระบายๆลมหายใจออกมาก่อนจะไล่ปลายนิ้วดูชื่อตัวเองต่อ ริมฝีปากบางเม้มแน่นจนแทบจะเป็นเส้นตรงเมื่อไล่นิ้วลงมาเกือบจะสุดกระดานแล้วยังไม่เจอชื่อตัวเอง น้ำตาก็พานจะไหล ในใจหวาดกลัวไปสารพัด คิดไปต่างๆนาๆว่าถ้าสอบไม่ติดที่นี่แล้วจะไปเรียนที่ไหน แต่แล้วนัยน์ตากลมก็เบิกโพลง ริมฝีปากบางอ้าค้าง นิ้วเรียวหยุดชะงักที่ก่อนลำดับสุดท้าย ก่อนจะร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจแล้วหันไปเขย่าแขนเพื่อน
“ติดแล้ว!!! เฟียซ!!! ต้าร์สอบติดแล้ว!!!”
“ไหน” เฟียซหันขวับมามองเพื่อนแล้วยิ้มกว้าง “กูบอกมึงแล้ว กูติดมึงก็ต้องติด”
“ดีใจโว้ย!!! ดีใจโคตรๆ!!!” ต้าร์ร้องอย่างลิงโลด กระโดดอยู่หน้ากระดานบอร์ดอย่างลืมตัว
“ไปเว้ย ฉลองกันหน่อย มีที่เรียนแล้ว กูจะกินแม่งให้อ้วกแตกกันไปข้าง”
เฟียซบอกพลางยิ้มกว้าง กอดคอเพื่อนแล้วเดินออกจากกลุ่มคนที่ทยอยกันเข้ามาดูรายชื่อ
“ลุ้นชะมัด นึกว่าจะไม่ติดซะแล้ว” ต้าร์ว่า ถอยหายใจอย่างโล่งอก
“จะไม่ติดได้ไงวะ ใครเป็นคนติวให้มึง ให้มันรู้ซะบ้าง ระดับกูแล้ว ไม่มีพลาด”
เฟียซบอกพลางทุบอกตัวเองอย่างโอ้อวดแล้วหันไปเขกหัวเพื่อนด้วยความหมั่นเขี้ยว
“เออ…รู้แล้วคร้าบว่าเก่ง เก่งโคตรๆ”
ต้าร์ยิ้มบอก แต่ในใจกลับคิดไปถึงคนที่ไม่ควรนึกถึง ผู้ชายสองคนที่ช่วยติววิชาเลขให้จนเข้าใจ นี่ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายวันนั้น ก็ไม่ได้เจอพวกเขาอีกเลย เมเปิ้ลก็เหมือนกัน หลังจากวันนั้นก็ขาดการติดต่อไปเลย โทรไปก็ปิดเครื่อง เหมือนจงใจหนีกันไปดื้อๆ โรงเรียนก็ไม่ได้มา จนเขาสอบปลายภาคกันเสร็จแล้ว ได้ยินว่าอาจารย์ที่ปรึกษาสั่งให้เพื่อนร่วมห้องไปตามเมเปิ้ลที่บ้าน แต่พอไปสอบถามก็ไม่เจอใครอยู่บ้านสักคน ไม่รู้หายตัวไปอยู่ที่ไหน ยิ่งกำลังท้องอยู่ด้วย หายตัวไปแบบนี้ยิ่งน่าเป็นห่วง ที่สำคัญ ไม่รู้ว่าพวกเขาสองคน จะตามไปรังแกเมเปิ้ลหรือเปล่า บางที สาเหตุที่เมเปิ้ลขาดการติดต่อไปแบบนี้ อาจเป็นเพราะว่ากลัวหรือถูกพวกเขาสองคนข่มขู่ก็เป็นได้
“ต้าร์…ต้าร์!”
เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงตกใจกับเสียงเรียกดังอยู่ข้างหู
“เหม่ออะไรของมึงวะ โบกแท็กซี่เร็วๆ”
“ครับผม โบกครับโบก” ต้าร์ผงกหัวให้เพื่อนอย่างนอบน้อมแล้วเดินไปโบกรถแท็กซี่ที่ขับผ่านมา
“หมูกระทะมั้ยวะ ไม่ได้กินนานแระ” ขึ้นรถมาได้เฟียซก็หันไปถามเพื่อน
“แล้วแต่ อยากกินไรก็กิน เดี๋ยวโทรไปบอกข่าวดีกับพี่เนสก่อน”
“เออ ชวนพี่มึงไปกินด้วย เดี่ยวกูโทรชวนเพื่อนในห้อง”
“อืม ตามนั้น”
**************************************************
เสียงพูดคุยจอแจดังอยู่ในร้านหมูกระทะที่เต็มไปด้วยลูกค้าแน่นขนัด ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนและนิสิตนักศึกษานั่งอยู่เต็มโต๊ะ ร่างสูงโปร่งของเนสเดินกอดคอน้องชายตามหลังพนักงานที่หาโต๊ะว่างให้ พอได้โต๊ะก็กวักมือเรียกกลุ่มเพื่อนๆของน้องให้มานั่งด้วยกัน แต่จำนวนคนเยอะเพราะมากันเกือบหมดห้องเลยต้องแบ่งไปนั่งโต๊ะอื่น พนักงานเดินเข้ามาวางเตาถ่านติดไฟแดงร้อนๆพร้อมกระทะย่างไว้ตรงกลางโต๊ะ เนสหันไปยิ้มละมุนให้น้องชาย
“ลุกไปตักดิ มีเนื้ออะไรตักมาให้หมด กุ้ง หอย ปู ปลา ก็เอามา มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง เต็มที่เลย”
“เฮ้!!! เย้!!! พี่เนสใจดีที่สุดเลย ขอบคุณคร้าบพี่ ขอบคุณนะคะ หล่อด้วยน่ารักด้วย แถมยังใจดีอีก”
สารพัดเสียงโห่ร้องอย่างดีใจและเสียงชื่นชมของเหล่านักเรียนม.ปลายเพื่อนร่วมห้องของต้าร์ คนถูกชมยิ้มกว้าง ผลักไหล่น้องชายให้ลุกไปตักอาหาร
“เฟียซ ลุกดิ” ต้าร์บอกเพื่อนที่ยังนั่งนิ่งอยู่
“เออๆ” เฟียซรับคำแล้วลุกขึ้น
สองเพื่อนซี้เดินไปตักอาหาร ซึ่งเปิดบริการแบบบุฟเฟ่ต์ ต้าร์หยิบถาด แล้วหยิบจานวางใส่ก่อนเดินไปที่ถาดเงินซึ่งมีสารพัดเนื้อวางเรียงรายให้เลือก มือเล็กจับที่คีบสแตนเลสคีบเนื้อใส่จาน ทั้งเนื้อหมูหมัก ทั้งเนื้อไก่ เบคอน กุ้ง หอย ปู ปลา ตักใส่จนเต็มจานแล้วก็หันไปมองเพื่อน อีกฝ่ายกำลังตักใจตักน้ำจิ้มใส่ถ้วย มองไปที่ถาดในมือก็เห็นตะกร้าผักวางอยู่ด้วย
“ไปก่อนนะ เต็มถาดแล้ว” ต้าร์บอกเพื่อนแล้วเดินไปที่โต๊ะ
เนสรีบลุกขึ้นช่วยน้อง หยิบจานสารพัดเนื้อออกมาวางบนโต๊ะรอบๆเตาย่าง เฟียซเดินตามมาแจกถ้วยน้ำจิ้มพร้อมกับผักก่อนจะนั่งลงเตรียมตัวย่างเนื้อทาน
“เครื่องดื่ม เอาไร เฟียซกินเบียร์ก็ได้นะ พี่ไม่ว่า เต็มที่เลย เลี้ยงฉลองที่เรียนจบกับสอบติด”
เนสบอกพลางยิ้มอย่างใจดี คนฟังตาโตรีบกวักมือเรียกพนักงานแล้วสั่งเบียร์อย่างไว ต้าร์หัวเราะเพื่อน แกะพลาสติกที่หุ้มตะเกียบออกแล้วจัดการคีบเนื้อในจานใส่กระทะย่าง
“พี่สั่งเป็ปซี่ให้แล้ว” เนสบอกน้องพลางคีบกุ้งตัวโตใส่ตะแกรงเหล็กย่าง
“ขอบคุณครับ” ต้าร์ยิ้มกว้างตอบพี่ชายพอดีกับที่พนักงานเดินเข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่ม
บรรยากาศบนโต๊ะเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ เนสคีบเนื้อที่ย่างสุกแล้วใส่จานให้น้องก่อนบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ลุกเดินออกมาจากโต๊ะได้ไม่ไกลนัก หางตาก็เหลือบไปเห็นคนคุ้นเคย เนสหยุดเดิน หันขวับไปมอง นัยน์ตากลมกระตุกวูบก่อนแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว สองขาเรียวเปลี่ยนทิศทางจากห้องน้ำไปทางโต๊ะของเป้าหมายทันที
“พวกมึงตามมาทำไม” เสียงแข็งถามเพื่อนแล้วตวัดสายตาขุ่นเคืองให้อีกหนึ่งหนุ่ม
“ใครตามมึงมา นี่ร้านหมูกระทะ พวกกูก็อยากกินบ้างอะไรบ้าง”
ร็อคเกอร์ตอบเสียงนิ่ง แต่นัยน์ตามองคนถามพราวระยับ
“ไอ้สัดร็อค! มึงหุบปากไปเลย กูถามพวกมัน ไม่ใช่มึง!”
“ก็กูอยากเสือก มีไรป่ะ”
เนสกัดฟันแน่นอย่างข่มกลั้นอารมณ์ไม่ให้อาละวาดใส่ไอ้คนยียวนกวนประสาท นัยน์ตาดุหันไปมองเพื่อนแล้วเอ่ยถามต่อ
“นี่มันเขตบ้านกู พวกมึงขยันขับรถมากินถึงนี่ ไม่แปลกไปหน่อยเหรอ”
เนสถามพลางหรี่ตามองอย่างจับผิดเพื่อนด้วยความไม่ไว้ใจ
“แล้วแต่มึงจะคิด” แซทตอบเสียงเรียบ แสยะยิ้มแล้วยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม
“กูคิดแน่ สันดานพวกมึงเป็นยังไงก็รู้ๆอยู่ หายหัวไปเกือบเดือน กูนึกว่าพวกมึงเลิกสนใจน้องกูแล้ว สรุปพวกมึงจะเอายังไง”
เนสถามพลางนั่งลงบนเก้าอี้หินอ่อนที่ว่างอยู่
“อย่ามาหาเรื่อง กูกำลังหิว”
ควินบอกอย่างรำคาญ ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแล้ววางกระแทกแก้วลงบนโต๊ะเสียงดัง
“หวังว่าพวกมึงคงไม่ลืมเรื่องที่รับปากกูไว้”
เนสมองหน้าเพื่อนอย่างกดดันแล้วลุกขึ้นเดินออกไป ร็อคมองตามหลังด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มือหนากำแน่นจนเส้นเลือดปูนนูน
“เมื่อวานกูเห็นมันไปดูหนังกับหมอฟัน คนที่มึงก็รู้จักดี”
แซทเอ่ยขึ้น ยกยิ้มมุมปากที่เห็นเพื่อนตากระตุก
“เนสหลอกกู เมื่อวานกูชวนมันไปดูหนัง แต่มันบอกว่ายุ่ง”
ร็อคเค้นเสียงบอกอย่างเจ็บปวดที่ถูกหลอก
“มันก็หลอกมึงตลอด ตัดใจซะ ถ้ามึงไม่อยากเจ็บไปมากกว่านี้”
ควินบอกผสมโรง ยั่วยุให้เพื่อนโมโห
“ไม่! กูรักของกูมาตั้งนาน ไอ้หมอเหี้ยนั่นมันมาทีหลัง เรื่องอะไรกูจะปล่อยเนสไปให้มัน ไม่มีทาง!”
ควินกับแซทหันมองกันแล้วแสยะยิ้ม รินเบียร์ใส่แก้วให้เพื่อน
“ถ้าไม่ตัดใจ แล้วมึงจะทำยังไง จะยอมโง่ให้ไอ้เนสหลอกมึงต่อไปเหรอ”
แซทถาม นัยน์ตาคมจ้องหน้าเพื่อนอย่างรอฟังคำตอบที่ถูกใจ
“กูโง่ให้มันหลอกมานานแล้ว พอกันที!” ร็อคเค้นเสียงต่ำ ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มด้วยอารมณ์โกรธ
“คืนนี้ ทำยังไงก็ได้ให้ไอ้เนสอยู่กับมึง พวกกูมีเรื่องต้องเคลียร์กับต้าร์” ควินบอกด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
ร็อคมองหน้าเพื่อน เข้าใจความหมายที่บอกโดยไม่ต้องถามย้ำให้เพื่อนอธิบาย
“พวกมึงแน่ใจนะ ว่าจะทำแบบนี้ ไม่สงสารน้องมันเหรอวะ”
ร็อคถามเสียงเบา รู้ว่าเพื่อนเหี้ย แต่ก็รู้ว่าตัวเองก็เหี้ยไปต่างกัน
“ไม่ต้องห่วง มึงก็รู้ว่าพวกกูจริงจัง ไม่ได้ฟันแล้วทิ้งเหมือนคนอื่น”
แซทว่า แม้เสียงในใจจะร้องบอกว่าเรื่องที่คิดจะทำมันเลวร้ายมากแค่ไหน และคนที่จะต้องเจ็บไม่ใช่แค่ต้าร์คนเดียว เขาเองก็เจ็บไม่ต่างกัน แต่พอเสียงแข็งๆที่ตะโกนด่าและสายตาผิดหวังที่มองกันของต้าร์ในวันนั้น มันก็ทำให้เขาบอกปัดความรู้สึกนั้นออกไป
ให้ต้าร์เป็นของเขา
ขอแค่ให้ต้าร์เป็นของเขาก็พอ เรื่องอื่น…ช่างมัน!
หลังจากกินอิ่มจนแน่นท้องไปตามๆกัน เนสก็เรียกพนักงานเช็กบิล ระหว่างนั้นต้าร์ก็ลุกขึ้นตั้งท่าจะเดินไปเข้าห้องน้ำโดยไม่บอกพี่ เนสรีบจับมือน้องไว้
“รอพี่ก่อน”
ต้าร์พยักหน้ารับ พอเคลียร์บิลค่าหมูกระทะเสร็จแล้วเนสก็คว้ากระเป๋าสะพายบ่าพร้อมหยิบกระเป๋าของน้องมาด้วย
“กลับบ้านเลย” เนสบอกแล้วหันไปมองบรรดาเพื่อนร่วมห้องของน้องชาย
“กลับบ้านดีดีนะ ดึกแล้ว”
“ครับพี่ ขอบคุณมากครับที่เลี้ยง”
“กลับก่อนนะคะพี่เนส สวัสดีค่ะ ต้าร์ เฟียซ กลับก่อนนะ”
ต้าร์โบกมือลาเพื่อนด้วยรอยยิ้ม พอทุกคนเดินออกจากร้าน เนสก็ดึงมึงน้องพาเดินไปที่ลานจอดรถด้านหลัง
“ปวดมากมั้ย ถ้าไม่มากก็ไว้ไปฉี่ที่บ้าน” เนสถามน้องก่อนเหลียวมองข้างหลัง
“ไหวครับ ไปฉี่ที่บ้านก็ได้ ใกล้ๆแค่นี้เอง แป็ปเดียวก็ถึง” ต้าร์ยิ้มตอบเดินไปตามแรงจูงของพี่ชาย
“เฟียซ ไหวมั้ย ดื่มไปเยอะนะเรา” เนสหันมาถามอย่างเป็นห่วงเพราะเห็นเพื่อนสนิทน้องเดินเซ
“ไหวครับพี่ สบายมาก ให้ผมขับรถยังได้เลย” เฟียซยิ้มตอบตาเยิ้ม
“ไม่เป็นไร พี่ขับเองดีกว่า” เนสส่ายหน้า
ดูจากสภาพแล้ว ถ้าปล่อยให้ขับรถคงกลับไม่ถึงบ้าน
“มีนัดกับเพื่อนต่อหรือเปล่าฮะ ผมเห็นพี่ดูรีบๆ”
ขึ้นรถมาได้ต้าร์ก็ถามพี่ชายอย่างสงสัย เพราะดูท่าทางเขาเร่งรีบแปลกๆ
“เปล่า” คนเป็นพี่ตอบเสียงสูง แต่เท้าเหยียบเร่งเครื่อง
ต้าร์ยู่ปาก เอนหลังพิงเบาะแล้วชะโงกหน้าไปมองเพื่อนที่เบาะหลัง เห็นอีกฝ่ายนั่งหาวพร้อมกับเรอจนได้กลิ่นเบียร์คลุ้งออกมา
“โทษครับพี่” เฟียซรีบบอกพลางยกมือไหว้ขอโทษพี่ชายเพื่อนที่เผลอเรอออกมา
“ไม่เป็นไร คนกันเอง ขอโทษทำไม” เนสไม่ถือสา
รถแล่นเข้าจอดเทียบป้ายรถเมล์หน้าปากซอยบ้านเฟียซ ร่างสูงยกมือไหว้ขอบคุณเจ้าของรถแล้วขยี้หัวเพื่อนจนผมยุ่งก่อนเปิดประตูลงจากรถ
“เดินดีดีนะ อย่าล้มล่ะ” ต้าร์บอกเพื่อนอย่างเป็นห่วง
“เออ”
เฟียซบอกแล้วปิดประตูรถ ยืนโบกมือให้จนรถแล่นออกไปไกลสายตาถึงได้เดินเข้าซอยบ้านไป
พอรถจอดนิ่งต้าร์ก็เปิดประตูออกจากรถไปยืนรอพี่ชายอยู่อีกฝั่ง พอเสียงสัญญาณล็อคดังพร้อมไฟกระพริบ เนสก็เดินอ้อมหน้ารถมาหาน้อง โอบไหล่เล็กเดินเข้าบ้านไปพร้อมกัน
“ขึ้นไปอาบน้ำไป เหม็นเหงื่อ” เนสไล่น้องพลางทำหน้ายี้ยกมือขึ้นบีบจมูก
“ตัวเองก็เหม็นเหมือนกันแหละ” ต้าร์ว่าแล้วแลบลิ้นใส่ก่อนรีบวิ่งตึงตังขึ้นบันไดไป
เนสส่ายหน้ายิ้มขำน้องแล้วจะเดินไปที่ห้องครัวหาอะไรอุ่นๆดื่ม แต่เสียงรั้วบ้านเลื่อนเปิดทำให้ต้องหยุดชะงักแล้วหันไปมองหน้าบ้านก่อนดวงตาจะเบิกกว้าง สองขารีบเดินออกไปดู
“พวกมึงมาทำไม!” เนสแผดเสียงดังลั่น
อุตส่าห์รีบพาน้องเดินหลบออกมาจากร้านหมูกระทะ นึกว่าจะหนีพวกมันพ้นแล้ว ที่ไหนได้ พวกมันกลับขับรถตามมา!
ผู้ชายร่างสูงสามคนลงมาจากรถหรูกันคนละคัน เดินหน้านิ่งเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า เนสเผลอก้าวถอยหลังด้วยความระวังตัวก่อนตะคอกถามอีก
“กูถามว่าพวกมึงมาทำไม!”
“มาหามึง” ร็อคบอกเสียงเรียบแล้วเดินเข้าหา
“หยุด! มึงหยุดอยู่ตรงนั้นเลย!” เนสชี้นิ้วสั่งคนตรงหน้า นัยน์ตากลมแข็งกร้าว
“ออกไปคุยกับกูหน่อย กูมีเรื่องจะคุยกับมึง”
ร็อคยอมหยุด บอกอีกฝ่ายดีดี แต่เสียงตวาดที่ตอบกลับมาทำให้ความใจเย็นที่มีอยู่น้อยนิดพังทลายลงอย่างง่ายดาย
“กูไม่มีอะไรจะคุยกับมึง! ไสหัวกลับไป!!!”
สองหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่แสยะยิ้มมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่ทุกข์ร้อน เห็นเพื่อนเดินเข้าหาอีกฝ่ายแล้วใช้กำลังที่มีมากกว่ารวบตัวไว้ แม้จะโดนทั้งหมัดทั้งเท้าประเคนเข้าใส่แต่ไอ้เพื่อนนายแบบดังมันก็ยังถึกลากตัวอีกฝ่ายไปขึ้นรถจนได้
“ปล่อยกู! กูบอกให้ปล่อย! ไอ้เหี้ยร็อค!! ปล่อยกูสิวะ!!!”
เสียงร้องโวยวายของเนสดังมาก่อนที่เจ้าของรถหรูจะปิดประตู ชายหนุ่มหยิบกุญแจมือที่คอนโซลรถแล้วเอามาคล้องสองมืออีกฝ่ายที่ดิ้นพล่านติดเบาะ เพราะกำลังที่มีมากกว่า เลยจับคนฤทธิ์เยอะใส่กุญแจมือได้สำเร็จ เสร็จแล้วก็ลดกระจกโผล่หน้าออกมาตะโกนบอกเพื่อน
“คุยกันดีดีนะพวกมึง กูไปแระ”
ควินยิ้มมุมปากแล้วล้วงเอาซองบุหรี่พร้อมไฟแชคในกระเป๋ากางเกง จุดสูบด้วยใบหน้านิ่งๆ มองรถหรูของเพื่อนขับออกไป หูยังแว่วได้ยินเสียงร้องตะโกนอย่างโกรธจัดของเนส
“เอามาดูดบ้างสิวะ” มองจนรถเพื่อนขับออกไปพ้นสายตา แซทก็หันมาขอบุหรี่จากเพื่อน
ควินยื่นให้ทั้งซองแล้วเงยหน้ามองขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน เห็นห้องของเป้าหมายเปิดไฟอยู่ก็แสยะยิ้มออกมา พี่ชายแหกปากร้องโวยวายลั่นบ้านขนาดนี้แล้ว น้องชายกลับไม่รีบลงมาดู แสดงว่าคงไม่ได้ยินเสียง เดาเอาว่าถ้าอีกฝ่ายไม่ได้ใส่หูฟังเพลงหรือเล่นเกมอยู่ก็คงกำลังเข้าห้องน้ำ
“หวังว่ามันจะยอมฟัง” แซทพูดขึ้น พ่นควันพิษออกมากลุ่มใหญ่
“กูก็หวังอย่างนั้น” ควินตอบ ดูดบุหรี่อีกรอบแล้วทิ้งลงพื้นยกเท้าขยี้
แซททำตามเพื่อนแล้วทั้งคู่ก็เดินเข้าบ้านไปโดยที่เจ้าของบ้านไม่ได้เชื้อเชิญ
“อ้าวคุณควิน คุณแซท เมื่อกี้ป้าได้ยินเสียงคุณหนูเนส เลยเดินออกมาดู”
แม่บ้านเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าสองหนุ่มด้วยชุดนอนแบบเสื้อคอกระเช้าและผ้าถุงตามถนัด ใบหน้าอวบอูมปะแป้งหอมที่สมัยแกนิยมใช้กัน
“ครับ เนสออกไปธุระกับเพื่อนอีกคนน่ะครับ เดี๋ยวก็กลับมา คุณป้าไปนอนเถอะครับ วันนี้พวกผมมาค้างกับเนสมัน”
ควินยิ้มบอก โกหกได้อย่างแนบเนียนจนคนแก่หลงเชื่อยอมเดินกลับไปนอน พอไม่มีใครมาขวางอีก สองหนุ่มก็เดินขึ้นบันไดไป เป้าหมายคือห้องของเด็กหนุ่มหน้าหวาน
ก็อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังทำให้คนที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จวางผ้าขนหนูไว้บนปลายเตียงแล้วเดินไปเปิด ด้วยคิดว่าเป็นพี่ชายที่มาเคาะเรียก เจ้าตัวเลยฉีกยิ้มหวาน แต่พอเห็นว่าไม่ใช่ นัยน์ตากลมโตก็เบิกกว้างอย่างตกใจด้วยคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอพวกเขาที่นี่ ที่บ้านของตัวเอง แถมยังยืนอยู่หน้าห้อง อยู่ตรงหน้า!
“พี่ควิน…พี่แซท”
-----------------------------------------------------------------------------------------
กราบขออภัยมิตรรักนักอ่านทุกท่าน ที่ไม่สามารถยัด 'ฉากนั้น' ใส่ในตอนนี้ได้
แค่ตอนนี้ตอนเดียวก็ปาเข้าไป 15 เวิร์ดแล้วววว ยาวอลังการ ยาวเกินหน้าเกินตาตอนอื่น
เอาเป็นว่า ขอแก้ตัวในตอนหน้านะคะ จะไม่ตัดฉากไปที่โคมไฟแล้วให้จินตนาการเองเหมือนในละครแน่นอน
ถ้าใจร้อนอยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆ แนะนำให้ย้อนกลับไปอ่านอินโทรเปิดตัวอีกครั้ง
(โดนตบรัวๆ
)
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์และการติดตาม เจอกันตอนหน้าค่ะ