......
.....
....
...
..
.
พ้นช่วงสามสี่วันที่น้องหนูมาอยู่ด้วยไปแล้วผู้ใหญ่สองคนจึงเริ่มปรับตัวได้...
ช่วงเช้า...กินข้าวเสร็จ พวกเขาก็พาเด็กชายไปส่งที่โรงเรียน และไปรับกลับมาห้องพร้อมกัน ก่อนที่จะเปลี่ยนชุดไปรดน้ำแปลงผักที่บ้านนายศร หากวันไหนฝนตกก็ไม่วิ่ง แล้วอยู่กินข้าวบ้านนายศรแทน
การเลี้ยงเด็ก...ก็เหมือนได้ออกแรงกว่าปกติอยู่แล้วในตัว
‘น้องหนูดื้อน้อยหากอยู่กับพี่ใจดี’... คำที่นายภักดีมักได้ยินจากพี่สะใภ้และพี่ชายของตัวเอง
ทว่า ในสายตาของนายภักดีกลับเห็นเป็นภาพ-----ซนระเบิดเถิดเถิง ... ก็พี่ใจดีเล่นกับหลานชายของเขาแบบเต็มที่สุดๆ ชนิดไม่มีกั๊กไม่มียั้ง... จริงอยู่ว่าเวลาน้องหนูอยู่กับพี่ใจดีแล้วว่าง่ายขึ้น ไม่งอแง แต่ก็เสียงดังเป็นสามเท่าตัวด้วยเหมือนกัน
“มะยม! ดังไปแล้วครับ” นายภักดีเตือนสองคนที่เล่นหมุนคอปเตอร์อยู่กับพื้นห้อง
“อุ่ย อุ่ย....เม้มปากไว้นะ เอาล่ะน๊า” นายมะยมบอกเด็กชายแล้วเริ่มเล่นต่อ
นายภักดีมองภาพตรงหน้าด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ---วันนี้นายมะยมคลีเอทของเล่นใหม่ โดยเอาจานหมุนที่คนอื่นเค้าเหยียบและหมุนๆ ออกกำลังมาวางบนฝ่าเท้าตัวเองซึ่งนอนหงายกับพื้นยกขางอเข่าชี้ฟ้า...ส่วนหลานชายของเขาน่ะเหรอ โน่น!.... นอนกางแขนกางขาอยู่บนจานหมุน โดยสมมุติว่าตัวเองเป็นใบพัดของเฮลิคอปเตอร์!
แล้วมันส์กันขนาดนั้น...แล้วจะให้เล่นกันเงียบๆ ได้ยังไง!
“พอเลยครับ พอเลย” นายภักดีหมดความอดทนลุกขึ้นมาจากเตียง และเดินไปหานักเล่นทั้งสอง “น้องหนู...ไปอาบน้ำใหม่เลยนะครับ ตัวเปียกไปหมดแล้ว เห็นไหม?” พูดพลางยกตัวเด็กชายออกมาจากหมุน
“คุณพ่ออ่า------” น้องหนูสะบัดขากลางอากาศอย่างขัดใจ
“โหยยยยยย------ พี่อ่ะ กำลังมันส์เลย” นายมะยมสะบัดกลางอากาศอย่างขัดใจ
“คุณไปอาบกับน้องเลยนะ ดูเหงื่อชุ่มเสื้อหมดแล้ว อาบเสร็จออกมาเปลี่ยนชุดนอนตัวใหม่กันทั้งสองคนเลยนะครับ” นายภักดีสั่งเฉียบขาด
“คร๊าบบบ” นายมะยมลุกขึ้นจากพื้นมาอย่างเกียจคร้าน “ป๊ะ เล่นน้ำกัน!” ยื่นมือให้เด็กชาย
“อื๊อ!” เด็กชายพยักหน้าหงึกๆ และวิ่งนำเข้าไปก่อน
......
.....
....
...
..
.
เสื้อผ้าชุดใหม่วางอยู่แล้วตรงปลายเตียง แต่อีกคนที่อยู่ในห้องนั้น ย้ายไปคุยโทรศัพท์ตรงระเบียงห้อง
นายมะยมแกะสาหร่ายออกจากหมูและเอาชุดนอนตัวใหม่ใส่ให้เด็กชาย เสร็จแล้วก็ไล่เด็กชายขึ้นไปนั่งอยู่บนเตียงและเดินไปเปิด ‘มูกา มูก้า’ แผ่นใหม่ให้ดู
พอเด็กชายถูกตรึงอยู่กับจอทีวี เขาจึงเริ่มใส่ชุดนอนของตัวเอง...โดยไม่ติดกระดุมเสื้อ
......
.....
....
...
..
.
เขามองเด็กชายจนแน่ใจว่าเจ้าตัวเล็กเข้าไปอยู่กับมูกามูก้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเดินไปที่ระเบียง พร้อมรูดม่านปิด...จนมิด
“ครับ แล้วค่อยคุยกัน พี่รักกินเยอะๆ นะครับ ดูแลสุขภาพด้วยครับ” นายภักดีพูดจบ พี่ชายของเขาก็ลาและวางสายไป
“คุณรักเหรอครับ?” นายมะยมค่อยๆ เดินไปหาอีกคน
“ครับ...คุณจะใส่เสื้อกล้ามนอนไหม?” นายภักดีถามอีกฝ่ายเพราะคิดว่าเค้าเล่นเยอะจนร้อน
“ไม่อ่ะ เสื้อแบบนี้แหละ” นายมะยมส่ายหน้านิดๆ
“ก็ติดกระดุมให้ดีสิครับ ปล่อยแบบนี้แล้วนอนๆ ไปแล้วมันรัดตัว อึดอัดเปล่าๆ” นายภักดีบอก...ด้วยความเป็นห่วง
“ไม่อ่ะ...” นายมะยมปฏิเสธซ้ำ
“ดื้อ...” นายภักดีว่าให้
“อยากให้ติด พี่ก็ติดให้ผมสิ” นายมะยมบอก
นายภักดีระบายลมหายใจทิ้งทีหนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปกลัดกระดุมเสื้อให้นายมะยม...ทว่า ทันทีที่เขาเอื้อมมือไปจับที่สาบเสื้อ นายมะยมก็ยื่นแขนมารัดตัวเขาเข้าไปแนบชิด...โดยไม่แจ้งกันล่วงหน้า
“ไม่จูบนะครับ” นายภักดีบอกไว้ก่อน
“อื๊อ...” นายมะยมครางเสียงเหมือนคนถูกขัดใจอย่างหนัก “กี่วันแล้ว พี่นับมั้ยครับ?”
“ไม่ได้นับครับ” นายภักดีควานหาสาบเสื้อ...มาชนกัน
“ห้าวันแล้วน๊า...” นายมะยมบอก
“สี่วันครับ” นายภักดีแย้ง
“ไหนว่าไม่ได้นับ หายไปไหนวันนึงอ่ะ” นายมะยมท้วง
“ก็วันจันทร์ตอนไปส่งน้อง คุณจัดไปแล้วหนึ่ง” นายภักดีแถลงไข
“อันนั้นผมกินขนม ยังไม่ได้จูบสักหน่อย” นายมะยมแก้ต่าง
“เหรอ------” นายภักดีกลัดกระดุมเม็ดที่หนึ่ง
“ขอทีเดียวน๊า แป๊บเดียว...” นายมะยมออดอ้อน
นายภักดีกลัดกระดุมเม็ดที่สอง “ไม่เอาครับ เดี๋ยวผมหยุดใจตัวเองไม่อยู่”
“คิดถึงพี่จังครับ” นายมะยมบอกที่ริมใบหูของอีกฝ่าย
“เหมือนกันครับ” นายภักดีกลัดกระดุมเม็ดที่สาม
“พรุ่งนี้น้องมีเรียนพิเศษอะไรรึเปล่าครับ?” นายมะยมกระซิบถาม
“ปกติเวลาเสาร์อาทิตย์ก็เรียนกับคุณ พอไม่ได้เรียนกับคุณแล้ว พี่รักเค้าก็ไม่ได้ส่งไปเรียนอะไรอย่างอื่นนะครับ” นายภักดีกลัดกระดุมเม็ดที่สี่
“อื๊อ...” นายมะยมครางฮือ เพราะระยะห่างของกระดุมเม็ดที่สี่มันเริ่มต่ำ...ใกล้กับจุดไวต่อสัมผัส
“พาเค้าไปทำขนมด้วยกันที่บ้านนายศร แล้ววันอาทิตย์เราค่อยไปซื้อของใช้กันนะครับ” นายภักดีกลัดกระดุมเม็ดที่ห้า
“อูย------” นายมะยมกัดปากตัวเองทันที
“คุณเป็นอะไรน่ะ?” นายภักดีเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นมาสัมผัสที่แนวกรามของนายมะยม
“...ถ้าผมบวชพระนะ พี่อ่ะมารผจญดีๆ นี่เอง” นายมะยมพูดจบก็เดินตัวปลิวเข้าห้องไปทันที......
ปัง!------- เสียงปิดประตูห้องน้ำ....และสักพักนายภักดีก็ได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัวที่ดังกระทบพื้นกระเบื้อง
“คึก คึก คึก...” นายภักดีพยายามกลั้นหัวเราะ----- ก็รู้ว่าคนคนนี้ของขึ้นไว แต่ไม่คิดว่าแค่กลัดกระดุมให้จะถึงกับมีอารมณ์
นายภักดีเดินอมยิ้มเข้าไปในห้อง และเดินไปล้มตัวลงบนเตียง
“น้องหนูมานอนดูการ์ตูนกับคุณพ่อนะครับ” นายภักดีเรียกหลานชายมานอน...พาเด็กชายตะแคงตัวลงมานอน เขาก็รวบตัวเด็กชายมากอดและห่มผ้าให้
......
.....
....
...
..
.
มูกามูก้าจบแผ่นพอดีกับตอนที่นายมะยมเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาจึงบอกอีกฝ่ายว่า “คุณปิดทีวีให้ด้วยนะครับ น้องหนูนอนได้แล้วนะครับ”
เด็กชายพลิกตัวมาหานายภักดี “พรุ่งนี้เราจะไปทำขนมบ้านอาศรกันใช่มั้ยฮะ?”
“ครับ” นายภักดีเปลี่ยนมานอนคะแคงเข้าหา...หลานชาย
“หนูอยากกินเค้ก” น้องหนูบอก
“เอาเค้กอะไรครับ” นายภักดีถาม
“ไม่รู้ฮะ” น้องหนูบอก...หน้าซื่อๆ----ไม่รู้จักชื่อเค้ก รู้แต่ว่าอันไหนขนมปัง อันไหนเค้ก
ไฟของห้องถูกปิดลง....ความมืดเข้ามาครอบคลุมห้องแห่งนั้น เด็กชายรีบซุกหน้าเข้าไปในอกของ ‘คุณพ่อ’
“เอาสีอะไรล่ะครับ” นายมะยมนอนเอนลงมาพร้อมกับเอาผ้าแพรมาคลุมให้กับตัวเอง...คนเดียว
“เขาสีขาวนะฮะคุณพ่อ!” น้องหนูบอกอู้อี้กับอกของ ‘คุณพ่อ’
“ครับ ครับ...เอ้า หลับตาได้แล้วนะ” พอนายภักดีพูดจบปุ๊บเด็กชายก็หลับตาปั๊บ
......
.....
....
...
..
.
ทิ้งบรรยากาศในห้องให้เงียบไปชั่วหลายอึดใจ...เด็กชายก็จะหลับไป----เป็นสเตปปกติที่ชายหนุ่มสองคนเริ่มเรียนรู้
“ทำไมพี่จัดระเบียบนอนแบบนี้ล่ะครับ ใจร้ายอ่ะ” นายมะยมอุทรณ์ทันทีเมื่อแน่ใจแล้วว่าเด็กชายหลับไปแล้ว
“ก็ผมกลัวตัวเองไปเผลอจุดไฟคุณน่ะสิครับ” นายภักดีพูดทั้งที่อมยิ้มอยู่ในความมืด
“เฮ้อ! อีกตั้งหลายวัน....แย่แน่ๆ แย่แน่ๆ” นายมะยมยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผาก
“หึหึหึ...ฝันดีครับ” นายภักดีหัวเราะในลำคอก่อนที่จะปิดเปลือกตาของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
“ผมคงฝันร้ายทั้งคืนมากกว่า” เสียงอีกคนแหวกขึ้นมาในความมืด
......
.....
....
...
..
.