ต้องขออภัยหลังจากทำงานข้ามวันข้ามคืน ต่อเนื่องเล่นเอาน็อคเลยค่ะ ไม่มีปัญญามาแต่ต่อจริง ๆ
..... ^^' ขออภัยมากๆ ค่ะ ใกล้แล้ว ๆ คิดว่าไม่เกิน 2-3 ตอนจะจบแล้วยังไงขอแต่งตอนจบใหม่เลยแล้วกัน
ค่ะ อ่านให้สนุกนะคะ แล้วขอขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ เป็นกำลังใจที่ดีจริงๆ ค่ะ
อ่านคอมเม้นต์ทีไรอยากจะรีบแต่งต่อซะเดี๋ยวนั้นเลย ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาอ่านนะคะ
ถึงไม่แสดงความเห็นก็ไม่เป็นไรค่ะ...... แต่ถ้าแสดงจะดีใจมากๆ คริคริ (เอาแต่ใจเล็กน้อย)
ยังไงอ่านให้สนุกนะคะ
มาม่า~7 (ต่อ)
พอกระดกเข้ามากๆ มันก็เมาเหมือนหมา เริ่มคร่ำคราญถึงน้องไนท์สุดที่รักของมัน ไม่ยอมกลับบ้าน เพราะป้าแจ่มงอน
มันเล่าเรื่องทั้งหมดให้ป้าฟังผู้ใหญ่ที่สุดในบ้าน เรียกว่าป้าแกช็อคแบบสุด ๆ ไนท์น่ะลูกรักแกเลย แกก็พอรู้ว่าไนท์กับไอ้ซันเป็นอะไรกัน
แต่ไม่คิดว่ามันจะทำเรื่องเลวร้ายกับน้องขนาดนั้นจนน้องหนีไป ป้าแกงอนตุ๊บป่องๆ มองมันแบบเมิน แถมสั่งให้มันไปตามหา
น้องให้เจอเลย ผมหันไปมองไอ้ซันที่หลับไปแล้วตอนนี้......หลับไปทั้งอย่างนั้นแหล่ะ บนโซฟาที่คอนโดผม ผมอยู่ที่นี่
เพราะมันสะดวกว่าและผมชอบความเป็นส่วนตัว หันไปมองไอ้เพื่อนตัวดีที่หลับสนิท เห็นอย่างนี้มันก็น่ารักเหมือนกันนะดูสินอน
กอดหมอนรูปนกเพนกวินแทนน้องไนท์ซะงั้น......ฮาว่ะ ผมแอบถ่ายรูปมันไว้เอาไว้ให้น้องไนท์ดู....คึคึ
เห็นไอ้ซันตอนนี้แล้วนึกถึงสมัยที่เรียนอเมริกาด้วยกัน .....ผมกับมันเป็นรูมเมทกัน มันคั่วสาวเป็นว่าเล่น พามานอนไม่ซ้ำหน้า
แต่เค้าก็มาเสนอตัวให้มันเองทั้งนั้น โดยที่มันไม่เคยต้องลำบากไปจีบ ขนาดผมเองที่เป็นเพื่ือนมันแท้ ๆ ยังอดอิจฉาไม่ได้
แล้วมันก็เลิกเลยไม่ติดต่อผู้หญิงเหล่านั้นอีก ผมเคยถามว่าทำไมมันถึงไม่คบใครสักคนให้เป็นเรื่องเป็นราว คำตอบน่ะเหรอ
"กุสงสารเค้า.....เพราะกุไม่ได้รัก" ที่มันรีบทิ้งเพราะไม่อยากให้ผู้หญิงมายึดติดกับมันนาน เพราะมีแต่จะเจ็บปวดเท่านั้นแหล่ะ
มันเป็นคนแปลก.....เก็บตัว ระวังตัวอย่างกับใครจะมาฆ่ามันยังงั้นแหล่ะ เรื่องไปเที่ยวแล้วเมานอกบ้าน หรือแม้แต่งานปาร์ตี้
คุณไม่มีทางจะได้เจอคุณตะวัน เสด็จไปjoy ด้วยเด็ดขาด อ้อ...มีงานนึงที่มันไปน่ะ งานเลี้ยงส่งมันตอนจบการศึกษาน่ะแหล่ะ
เล่นเอากรี๊ดกราดกันทั้งงานเลย ฮ่าๆ ทุกๆวันที่อยู่ที่นั่น ผมจะเห็นมันหยิบกรอบรูปน้องขึ้นมาดูไล้มือบางเบาไปมา
ราวกับมันคิดถึงคนในรุปใจแทบขาด แต่บางครั้งมันก็จ้องมองน้องด้วยสายตาที่คั่งแค้น ถ้าวันไหนเหม่อลอยก็คงมีแค่เรื่อง
น้องในสมอง เห็นมันยังงั้นแต่มันก็เรียนเก่งขนาดได้เกียรตินิยมเหรียญทองเลยทีเดียว เวลาใกล้สอบนี่ใครอย่าได้มาเข้าใกล้
ยกเว้นรูปน้องที่โชว์หลาวางอยุ่ใกล้ๆ ตัวมันนั่นแหล่ะไม่งั้น มันงาบหัวหมด ............มันจริงจังเหมือนคนบ้า แต่พอผมมารู้เรื่อง
ทั้งหมดทีหลังทำเอาผมสงสารมันมาก.....และเข้าใจความรุ้สึกของมันดี มันรักน้องมาก......ขณะที่น้องเป็นลูกของที่ฆ่าพ่อกับแม่มัน
มันคงสับสน....จนแยกไม่ออกระหว่าง "รัก" กับ "แค้น" ที่มันมาควบคู่กัน แต่สุดท้ายมันก็เลือกที่จะ "รัก" ผมเองก็ตอบไม่ได้
เหมือนกันว่ามันจะสายเกินไปรึเปล่า ................. เพราะไอ้เพื่อนเหี้ยมันรู้ตัวช้ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เอิ่ม....... กุว่าควายกิน หญ้า ไถนาเสร็จ 20 ไร่ กลับมานอนเคี้ยวเอื้องจนจะตื่นมาทำงานใหม่เป็นรอบที่ 100 มึงถึงพี่งจะรู้ตัว
แต่นะ........กุก็ยังสงสาีรทั้งน้องทั้งมึงอยู่ดี (หึหึ พระเอกจริงๆ กุ) อ้อ!!...เรื่องนี้น่าจะเปลี่ยนพระเอกมาเป็นผมดีกว่านะครับ )
กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ มือถือก็สั่นซะงั้น ..... ผมรับสายเดินออกไปที่ระเบียงไม่อยากรบกวนคนจิตตกที่เมาแล้วหลับอยู่ตรงหน้า
"สวัสดีครับ คุณฉาย" ผมกรอกเสียงไปตามสาย ก็จะใครซะอีกหล่ะครับนักสืบที่ไอ้คุณซันมันจ้างนะสิ
"สวัสดีครับคุณแทน ผมได้เบาะแสเรื่องคนที่คุณให้ตามหาแล้วครับ สะดวกที่จะออกมาคุยมั้ยครับผมอยากให้คุณมายืนยัน
ว่าคนที่ผมเจอเป็นคนๆ เดียวกันกับคนที่คุณตามหาจริงๆ รึเปล่าน่ะครับ"
"สะดวกอยู่แล้วครับ วันนี้ที่ไหนดีครับผมว่างแล้ว"
"ครับ...งั้นเป็นที่ผับ XXX แล้วกันนะครับ เป็นผับที่เปิดเพลงสบายๆ คุณคงไม่ว่าอะไร พอดีผมนัดเพื่อนต่อที่นั่นน่ะครับ"
"ได้ครับแล้วเดี๋ยวเจอกัน กี่โมงดีครับ"
"ถ้าทุ่มตรง คุณแทนสะดวกมั้ยครับ"
"ได้ครับผมจะออกไปตอนนี้เลย ..... โอเค แล้วเจอกันครับ" ผมรีบตรงดิ่งไปยังผับที่ว่าไม่นานมากก็ถึงครับ เรียกว่ามาก่อนเวลา
เกือบครึ่งชั่วโมงนึกว่าตัวเองจะต้องมานั่งรอ สายตาก็เหลือบไปเห็นคุณฉาย กำลังนั่งดริ้งมองอะไรเพลิน ๆ อยู่ด้านนอกร้าน
โชคดีที่ร้านนี้เป็นกระจกใสแทบทั้งร้าน บรรยากาศเรียบหรู เปิดเพลงเบาๆ ฟังสบาย ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
ผมชี้ไปที่คุณฉายให้พนักงานต้อนรับทราบว่าจะนั่งโต๊ะไหน แล้วเดินตรงไปหาคุณฉาย กระแอมเบาๆ เห็นคุณฉายสะดุ้งเล็กน้อย
ก่อนจะหันมายิ้มให้ผม ผมขำเลยแหล่ะ ....ไอ้ท่าตกใจของคุณนักสืบเนี่ย ผมนั่งลงฝั่งตรงข้าม
"สั่งอะไรดีครับ" คุณฉายเอ่ยถาม ผมเลือกเครื่องดื่มเบา ๆ คุณฉายยกมือขึ้นเรียกพนักงานแล้วสั่งเครื่องดื่มที่ว่าก็จะหันมาเริ่มงาน
คุณฉายหยิบแฟ้มเอกสาร ค้นอะไรยุกยิก ๆ สักพัก ก็หยิบรูปมาวางตรงหน้า พอเห็นคนในภาพก็รู้ทันทีว่าเป็นน้องไนท์
แต่ที่น่าตกใจ...น้องไนท์ไปยืนอยู่ข้างๆ คุณลุงพลรภ ได้ยังไง ผมเลิกคิ้วสูงมองไปยังคุณฉาย ..... รอฟังเรื่องราวต่างๆ
"ใช่คนนี้ใช่ไหมครับที่คุณแทนต้องการตามหา?" คุณฉายเอ่ยถามเพื่อยืนยันอีกครั้ง ผมพยักหน้าตอบ
"ครับ ตอนนี้น้องอยู่ที่ชลบุรีใช่ไหมครับ?" คุณฉายพยักหน้าตอบ และเริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆ เลยทำให้ผมทราบว่าทำไม
เราุึถึงตาหาน้องไม่เจอซักที น้องเปลี่ยนทั้งชื่อ-ทั้งนามสกุล ไอ้เรื่องเปลี่ยนชื่อนั้นก็ไม่เกินวิสัยทรรศที่ผมกับไอ้ซันจะคิดได้
แต่ไอ้เรื่องถึงขั้นเปลี่ยนนามสกุลนี่ เห้อ...........เกินคาดเดาแหล่ะครับ และแน่นอนทุกๆ อย่างของน้องถูกเปลี่ยนไปใช้ชื่อ
"รัชตะวัน นิติภาคิน" แทนชื่อ "รัตติกร กิติโยธิน" เรียกว่าหาให้ตายก็คงไม่เจอ ว่าแล้วคุณนักสืบ ก็สืบจากเส้นทางการเงิน
เห็นว่าน้องไปเช่าบ้านอยู่แถวๆ อ่อนนุชอยู่สัก 3-4 อาทิตย์ไม่ค่อยแน่ใจนัก ก่อนจะย้ายไปทำงานที่ชลบุรี ที่บริษัท XXX
ซึ่งผมรู้จักดี ทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ แสดงว่าน้องพึ่งทำงานที่นั่นแค่ 2เดือนเท่านั้นเอง ผมยิ้มแก้มแทบปริ เมื่อรู้
แล้วว่าจะตามหาน้องได้ที่ไหน ที่สำคัญบริษัทที่ว่านั้นเป็นบริษัทที่พ่อผมถือหุ้นอยู่ด้วย ก็คุณลุงพลรภที่ว่าน่ะ คือเพื่อนสนิทของพ่อ
ผมเอง .... ตอนแรกพ่อกับลุงตั้งใจเปิดบริษัทเกี่ยวกับการ renovate ตึกเก่า เพื่อนำมาทำเป็นโรงแรมอีกครั้ง พ่อผมสมัยหนุ่มๆ
ก็ดื้อพอตัว เพราะไม่ยอมรับช่วงต่อโรงพยายาทั้งๆ ที่ตัวเองจบแพทย์มาซะอย่างนั้น แต่เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ฮ่าๆ ว่าเข้านั่น
ทำไปทำมา พ่อก็กลับมาสืบทอดกิจการโรงพยาบาลอยู่ดีเพราะถนัดกว่า จะว่าถนัดคงไม่ใช่เพราะมันอยู่ในสายเลือดตะหาก
เหมือนผมตอนนี้ ส่วนทุนที่ลงไปกับธุรกิจกับคุณลุงพลรภก็ไม่ได้ถอนทุนแต่อย่างใด ยังคงดำเนินกิจการไปเรื่อย ๆ โดยที่คุณลุง
จะรายงานผลประกอบการให้ทราบเป็นระยะ ซึ่งก็เป็นที่น่าพอใจเสมอมา .... คุณลุงพลรภท่านจบวิศวะ แล้วมาเป็นเพื่อนคุณหมอ
แบบพ่อผมได้ไงเหรอ ก็เพราะไปเรียนต่างประเทศแล้วเป็นรูมเมทกันนี่แหล่ะ เหมือนผมกับไอ้ซันที่สนิทกันมากเพราะพออยู่ต่างที่
เวลาลำบากก็ต้องช่วยเหลือกันตลอดเลยทำให้สนิทกันมาก ผมยิ้มแก้มแทบปริเมื่อผลลัพธ์ออกมาเช่นนี้ หยิบเช็คที่กรอกตัวเลข
ตามที่ตกลงกันไว้ยื่นให้คุณนักสืบ คุณฉายกล่าวขอบคุณ และผมก็ขอบคุณกลับ งานนี้ปิดแบบสมบูรณ์ คุณฉายส่งรายละเอียด
ที่พักของน้องไนท์ให้ผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมตรงดิ่งกลับไปยังคอนโด ตอนนี้เกือบ 3 ทุ่มแล้ว ไอ้ซันนอนกลิ้งลงมาที่พื้น
กอดหมอนรูปนกเพนกวิ้นแน่น ไม่ใช่มันนอนดิ้นหรอกครับ แต่เป็นเพราะ .....ไอ้หมอนนกเพนกวิ้น (ตัวแทนน้องไนท์) หล่นลงมา
ที่พื้นมันเลยกลิ้งตามมาหาหัวใจตัวเอง โชคดีที่พื้นผมปูพรมไหว้ ไม่อย่างนั้นคงต้องรักษาแผลให้ไอ้เพื่อนบ้านี่อีกเป็นแน่แท้
................... ผมยิ้มอย่างอารมณ์ดี ร้องเพลงสบายอารมณ์ เข้าไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมเข้านอน เก็บความตื่นเต้นไว้ในใจ
วางแฟ้มไว้บนหัวนอน พรุ่งนี้จะได้เห็นท่า.....หมาดีใจ หึหึ ....แค่คิดก็ตลกแล้ว และแน่นอน ต้องเริ่มแผนการ ชิ่งตัวน้องกลับมา
"ล้า ...ลัลล้า....ล่ะ ลา....ลั้นลา" ผมครวญเพลงอะไรไม่รู้อยู่ในอ่างอาบน้ำ รู้สึกอารมณ์ดีชะมัด
.
.
.
พรุ่งนี้......หึหึ....
.
.
.
พรุ่งนี้
...