ขออภัยค่ะ ....หายไปชาติเศษ ง่ะ มาต่อแล้วค่ะ
มาม่า ~5
แสงยามเช้าค่อยๆ สาดส่องเข้ามาเรื่อยๆ ปลุกผมให้ตื่นจากความฝัน เป็นอีกวันหนึ่งที่ต้องตื่นขึ้นมาพร้อม
รอยแฉะชื้นบนใบหน้า ใช้มือเกลี่ยเบาๆ นึกถึงความฝันที่ทำให้ใจเจ็บปวด ........ กับการถูกทอดทิ้ง
วันนั้นผมไม่ต่างจากลูกหมาที่ไม่มีทางไป... ได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือ ช่วยตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ กลางป่า
ที่ไร้ซึ่งผู้คน หรือแม้แต่รถราที่จะวิ่งผ่าน ทั้งเจ็บ ทั้งกลัว แต่ที่มากกว่านั้นคือ......เสียใจที่ถูกทิ้ง นึกถึงทุกคำพูด
ทุกถ้อยคำ และการกระทำ มันช่างตอกย้ำให้หัวใจผมแทบแหลกสลาย ................ ผมเหม่อมองไปยังขอบฟ้า
ลมพัดมาเอื่อยเฉื่อยในยามเช้าช่างเย็นสบาย คงจะดีกว่านี้ถ้าหัวใจผมมันไม่มีเรื่องให้ร้อนใจ ผมที่เหม่อมองอย่างไร้จุดหมาย
แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่เห็นปลายทาง.......แต่ผมก็เลือกแล้ว......ที่จะไป ในสมองครุ่นคิดมองหาทางที่จะเดินต่อ
ผมหยิบมือถือขึ้นมา เสิร์ชหาข้อมูลที่พักบ้านเช่าราคาประหยัดสักอาทิตย์ ค่อยหาทางออกอื่น ร่างกายผมแข็งแรงขึ้น
เกือบจะสมบูรณ์เต็มที่หลังจากพักมาเสียหลายวัน.........คงเหลือแต่ใจที่ยังต้องทำให้แกร่งมากขึ้นกว่านี้
“ก็อกๆ ก็อกๆ น้องไนท์พี่จะเข้าไปแล้วนะคะ” เสียงประตูห้องดังขึ้น ผมเหลือบไปมอง เห็นพี่พยาบาลคนเดิมยิ้มร่าเริง
พร้อมยื่นซองเอกสารมาให้ผม ซองสีน้ำตาลที่คาดว่าคนส่งคงใส่ทั้งแฟ้มพลาสติกปกอ่อนมาให้อย่างนั้น
ผมมองลายมือที่คุ้นเคย ...ลายมือป้าแจ่ม ลูบไล้บางเบาราวกับได้สัมผัสเจ้าของลายมือ อยากกอด อยากขอบคุณ
ป้าใจดีกับผมเสมอ ไม่ว่าผมจะต้องผ่านเรื่องราวอะไรมา ไม่มีโอกาสที่จะกลับไปกราบขอบคุณในความเมตตา
แม้แต่ในวันนี้....ก็ยังต้องให้ป้าแจ่มช่วยผมอีกจนได้
“น่าจะเป็นเอกสารที่รอนะคะ พี่เห็นไปรษณีย์มาส่งเมื่อตอนสายๆ นี่เองเลยหยิบมาให้ค่ะ” เธอยิ้มสวยมากครับ
ทั้งอ่อนหวานและจริงใจ เสียงเพราะๆนั่น คงทำให้ผู้ป่วยหลายคนอารมณ์ดีได้อย่างไม่ยากนัก
“ขอบคุณมากนะครับพี่” ผมยกมือไหว้ ทำพี่เขารับไหว้แทบไม่ทัน ก่อนที่จะยิ้มขำบอกไม่ต้องไว้เธอก็ได้ ยังไม่อยากรู้สึกแก่
“ครับ แล้วไนท์จะออกได้เมื่อไหร่ครับ เอ่อ....แล้วค่ารักษาพยาบาล จะเช็คยอดค่าใช้จ่ายได้กับใครครับ” ผมเร่งถามเพราะ
พรุ่งนี้ผมอยากจะออกจากที่นี่แต่เช้า คงจะสะดวกกว่าหากวันนี้รีบจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย
“เห็นทางคุณหมอที่มาดูอาการท่านบอกว่าน่าจะเป็นอาทิตย์หน้าค่ะ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายคุณตะวันจัดการเรียบร้อย
ยื่นเรื่องชำระตัดผ่านบัตรเครดิตแล้วค่ะ น้องไนท์ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ คุณตะวันสั่งไว้ว่าให้น้องไนท์พักรักษาตัว
ให้หาย ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอะไรทั้งนั้นนะคะ.” เธอยิ้ม และผมก็ทำได้แค่ยิ้มตอบ
“งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่ขอตัวนะคะ”
“ขอบคุณมากครับ” ผมมองตามหลังพยาบาลคนสวยและใจดีจนลับตา แม้เริ่มจะมีอาการง่วงงุนจากฤทธิ์ยา
แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลานอนของผม ผมรีบแกะห่อเอกสารที่พึ่งได้รับเมื่อสักครู่ ด้านในเป็นแฟ้มพลาสติกปกอ่อน
ภายในแฟ้มบรรจุเอกสารจำเป็นมากมายตั้งแต่ทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน สมุดบัญชี หลักฐานการศึกษา
ผมสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะค่อยผ่อนลมหายใจออกมายาวเหยียดอยากผ่อนคลายความรู้สึกที่ตรึงเครียดอยู่
ตอนนี้
“พี่ซัน....ชาตินี้เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะครับ ” ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ใจหายอย่างบอกไม่ถูก ผมควรจะดีใจรึเปล่า
ที่ถูกคนที่แค้นแสนแค้น....ปลดปล่อย ควรจะดีใจไหม......ที่เค้าไม่แม้แต่....จะอยากเห็นหน้า
ควรจะดีใจใช่ไหม,,,ที่คนๆ นั้นไม่ปรารถนาจะทรมานผมแล้ว ไม่อยากที่จะสัมผัส ไม่อยากจะให้ผมอยู่ใกล้
คนๆ นั้น อาจจะหายโกรธแค้นแล้ว เพราะ.....ได้ขยี้หัวใจของคนที่แค้นที่สุดอย่างผม ให้จนตรอก แดดิ้นจนแทบสิ้นใจ
น้ำตาอุ่นๆค่อยๆ ไหลลงมาอีกแล้วเสียใจมากเท่าไหร่ .....มันก็ได้แค่ความสะใจของพี่ใช่ไหมครับ
ต่อไปนี้ผมสัญญา.....ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะร้องไห้ให้กับเรื่องนี้ เพราะพี่ได้ทิ้งผมแล้ว คำสัญญาที่ว่าผมจะอยู่กับพี่
จะดูแลพี่ตลอดไปนั้น ถือซะว่ามันจบแค่นี้ ก็พี่ได้หยิบยื่นเส้นทางนี้ให้ผมแล้ว และผมก็จะเริ่มต้นชีวิตใหม่
ด้วยตัวผมเอง ............... ในที่ที่ไม่มีเราอีกต่อไป ช่วยลืมผมไปเลยยิ่งดี ....พี่จะคิดว่าไนท์ได้ตายไปแล้วก็ไม่เป็นไร
ถ้ามันจะทำให้พี่มีความสุขกว่าที่เป็นอยู่ การไม่มีไนท์.....มันคงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่ผมจะทำให้พี่ได้ ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่น
ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้....ละลายความเสียใจที่มันฝังแน่นออกมาทีละน้อย ทั้งๆ ที่เคยอยากจะอยู่ตรงนี้ไม่ว่าจะเจ็บแค่ไหน
แต่สุดท้าย พี่.....ก็ผลักไสไนท์ออกไปจากชีวิตพี่จนได้ แค่อยากรู้....ที่ผ่านมาไนท์ ไม่มีค่าอะไร เลยใช่ไหมครับ
.
.
.
รุ่งเช้าอีกวันผมตื่นแต่เช้าตรู่ รีบอาบน้ำเปลี่ยนชุดและสัมภาระ กระเป๋าหนึ่งใบ แฟ้มเอกสารสำคัญ และเสื้อผ้าอีก 2-3ชุด
ในกระเป๋า ผมเดินออกไปจากโรงพยาบาลโดยที่ยังไม่มีใครสักเกตุ ผมตรงไปยังสำนักงานเขตไปถึงคนแรก ๆ เลยก็ว่าได้
มาทำบัตรประชาชน หลังจากทำเสร็จภายในเวลาไม่นาน ก็ยื่นเรื่องเปลี่ยนชื่อและนามสกุล
“คุณรัตติกรค่ะ ” เจ้าหน้าที่เอ่ยเรียก
“ครับ”
“แจ้งเปลี่ยนชื่อและนามสกุลนะคะ จากเดิม รัตติกร กิติโยธิน เป็น รัชตะวัน นิติภาคิน นะคะ ถูกต้องนะคะ”
“ครับ” เจ้าหน้าที่ทำดำเนินขั้นตอนต่อไป ผมเข้าไปเดินเรื่องทำบัตรประชาชนใหม่อีกครั้ง ผมมองดูเอกสารหลักฐานการ
การเปลี่ยนชื่อใจเสียนิด ๆ อยากจะขอโทษพ่อกับแม่ที่เปลี่ยนตามใจตัวเอง ทั้งที่ชื่อเดิมผมก็ชอบมันมาก แต่ในเมื่อมันจำเป็น
ผมก็เลยจำต้องเปลี่ยน สรุปวันนี้หมดเวลาไปเกือบ ๆ ครึ่งวันหมดไปสำหรับการเดินเรื่องเปลี่ยนชื่อนามสกุล จากนั้นผมตรงไปที่ธนาคาร
เปิดบัญชีเล่มใหม่ ปิดเล่มเก่าที่มีชื่อรัตติกร ถ่ายโอนมายังเล่มใหม่ ผมอยากให้นายรัตติกรได้หายสาบสูญไปจากโลกใบนี้
จะเหลือก็แต่ นายรัชตะวัน ที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวใดๆ ทั้งนั้น เป็นคนใหม่ .....ที่มีชิวิตใหม่
.
.
.
หลังจัดการธุรเรื่องธนาคารเสร็จสิ้นผมก็ตรงมาที่แถวๆอ่อนนุช ตอนที่หาข้อมูลมีห้องพักราคาประหยัดที่ยังว่างอยู่เมื่อเช้าผมโทรมา
สอบถามทำการจองโดยจะวางมัดจำวันนี้ ห้องมีเฟอร์นิเจอครบถ้วนพร้อมเข้าอยู่เจ้าของเปิดให้เช่าแค่เดือนเดียวเนื่องจาก
เจ้าของตัวจริงจะกลับมาจากต่างประเทศเดือนหน้าแล้ว ระยะเวลาเช่าจึงมีจำกัด แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาเพราะผมไม่คิด
จะอยู่ที่นี่นานอยู่แล้ว หลังจากจ่ายเงินมัดจำพร้อมค่าห้องแล้ว ผมก็นั่งรถไฟฟ้าไปพันธุ์ทิพย์ หาสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้
อย่างน้อยก็ควรจะมีคอมพิวเตอร์สักเครื่อง ผมเลือกโน๊ตบุคยี่ห้อหนึ่งกระทัดรัดพกพาสะดวก เพื่อใช้ในการหางาน
และไม่ลืมจะแวะไปยังร้านมือถือ เพื่อซื้อซิมการ์ดใหม่ ยกเลิกเบอร์เดิมทิ้งไป,,,,ไม่อยากติดต่อใครทั้งนั้น ก่อนจะไปเดินแถวๆ
แพทตินั่มเลือกซื้อชุดสำหรับใส่ไปสัมภาษณ์งาน 2-3 ชุด เมื่อได้ของที่ต้องการแล้วผมก็กลับมายังที่พัก .....หมดแรง
ผมเลยพักผ่อนไว้ค่อยเริ่มหางานในวันพรุ่งนี้ หลงจากอาบน้ำชำระร่างกายผมก็ล้มตัวลงนอนไฟในห้องมือสนิท
มองไม่เห็นอะไร แปลกจังที่เหงา...... เอื้อมมือไปกอดหมอนข้าง พยายามซุกหน้าลงกับหมอน โหยหาอ้อมกอดที่ว่างเปล่า
อ้อมกอดที่ไม่ว่าจะไขว่คว้าเท่าไหร่ก็ไม่มีทางเป็นของผม ผมหลับตานิ่งนึกทบทวนอนาคตตรงหน้าไม่มีเวลาเศร้าเสียใจ
กับเรื่องที่ผ่านไปแล้ว .....แม้จะเจ็บก็ต้องทนให้ได้ ค่อยกล่อมตัวเองให้หลับ ....ไม่ว่าจะเพราะความเหนื่อยล้า หรืออะไรก็
แล้วแต่ที่ตอนนี้ส่งผลให้ผมค่อยๆ หลับไหลสู่นิทราอย่างเชื่องช้า และแล้วทุกอย่างก็ค่อยๆ จางไป
.
.
.
เช้าวันที่สองของการใช้ชีวิตลำพังอดนึกถึงป้าแจ่ม พี่แทนไม่ได้ อยากจะขอโทษที่ผมทำตัวให้เป็นห่วง แต่ผมไม่มีทางเลือก
ก็ถ้าจะก้าวไปข้างหน้า,,,,,,เลือกที่จะลืมอดีต ผมถึงต้องเลือก....ที่จะลืมทุกคนไว้ข้างหลังเช่นกัน ขอโทษนะครับ
ผมจัดการตัวเองอาบน้ำแต่งตัว รวมไปถึงทานอาหารเช้าง่ายๆ แค่หยิบเข้าเวฟ ก็จัดการเปิดคอมพิวเตอร์
พิมพ์ประวัติการศึกษาและหน้าที่การงาน เสร็จสิ้น.... ก็เข้าเว็บต่างๆ เพื่อหางาน รวมถึงบริษัทที่รับจัดหางานก็ไม่เว้น
ที่ทำงานที่ไหนก็ได้ ขอแค่.....ไม่ใช่กรุงเทพฯ ยิ่งไกลก็ยิ่งดี สรุปว่าพรุ่งนี้มีบางบริษัทเรียกผมเข้าสัมภาษณ์งาน และ
รวมไปถึงมีนัดไปยังบริษัทจัดหางานบางแห่งแถวๆ อโศก ผมออกไปถ่ายรูปสำหรับใช้ในการสมัครงาน รวมถึง
จัดเตรียมเอกสารหลักฐานให้พร้อม .....
.
.
.
ผ่านไปเกือบ ๆ สามอาทิตย์ ผมได้งานแถวๆ ชลบุรี ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ เนื่องจากงานบางส่วนที่ผมเคยทำเป็นผู้ช่วย
คนๆ นั้น รวมถึงการคลุกคลีอยู่กับผู้บริหารตลอดดังนั้น มุมมองความคิดหรืออดุมการณ์ในเชิงบริหาร ผมก็มั่นใจมากพอสมควร
อีกสามอาทิตย์สำหรับการเตรียมตัว ....... ทางบริษัทฯมีบ้านพักพนักงานให้ แยกต่างหากจากพนักงานทั่วไป ตอนนี้
ผมกำลังเก็บของ เพื่อเตรียมย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัดอาทิตย์หน้า มีคำถามนึงที่ท่านประธานบริษัทฯ เอ่ยถาม
น่าจะเป็นครั้งแรกที่ท่านลงมาสัมภาษณ์เองขนาดนี้
“อาจจะเป็นการละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของคุณไปสักหน่อย แต่พอจะบอกผมได้ไหมว่าทำไมคุณต้องเปลี่ยนทั้งชื่อและ
นามสกุลด้วย?” ท่านเอ่ยถาม ผมยิ้มรับใบหน้ามองสบตาท่านประธาน ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย ผมเองก็อยากสร้างความ
มั่นใจให้กับนายจ้าง ว่าผมไม่ได้เปลี่ยนทั้งชื่อและนามสกุล เพราะว่าผมไปทำเรื่องไม่ดีไม่งาม หรือไปทำเรื่องเลวร้าย แค่อยาก
เริ่มต้นชีวิตใหม่
“ได้ครับท่าน นั่นเป็นเพราะว่าก่อนหน้านั้นผมใช้ชีวิตของผมทั้งหมดไปเพื่อใครคนหนึ่งและผมคิดว่าคงจะเป็นแบบนั้นตลอดไป
แต่ ณ ตอนนี้คนๆ นั้นไม่ต้องการผมแล้ว เค้าเลือกจะคืนชีวิตให้กลับมาเป็นของผม ดังนั้นผมอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่
อยากเป็นคนที่เหมือนเกิดใหม่ อยากจะใช้ชีวิตต่อไปนี้ให้เป็นของตัวเอง และเพื่อตัวเองเท่านั้น การเปลี่ยนชื่อกับนามสกุล
มันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่คอยเตือนให้ผมทราบว่า ณ ตอนนี้ เวลานี้ชีวิตที่เหลือมันเป็นของผมเท่านั้นเองครับท่าน ” ผมตอบตามตรง
“อืม...ดีแล้วคุณไนท์ ผมเองก็เคยเป็นเหมือนคุณเคยเจ็บ เคยเสียใจ แล้วก็เริ่มต้นใหม่เหมือนๆ กับคุณตอนนี้ พยายามนะ
ผมเป็นกำลังใจให้ และยินดีต้อนรับเข้าสู่บริษัทXXX ของเรา ผมต้องการคนแบบคุณเข้ามาช่วยพัฒนาบริษัท หวังว่าคุณจะมี
ความสุขที่ร่วมงานกับเรา” ท่านประธานยิ้ม ก่อนจะยื่นมือมาเพื่อต้อนรับ ผมยื่นมือจับมือท่าน เป็นการจับมือในแบบทางธุรกิจ
“ขอบคุณท่านมากครับ ที่ให้โอกาสผม”
,
,
,