คุณกิต ตั้งใจทำงานนะครับ
ปล.คิดถึงคุณจัง
เอ่อ....ผมเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดูตามประสาคนอยากอู้ก็เจอข้อความนี้ส่งมาจากเบอร์แปลก จริง ๆ ก็ไม่ได้แปลกหรอกครับ เพียงแต่ผมไม่ได้เมมไว้ ผมเลยว่ามันแปลก ฮะๆ ผมกำลังใช้ความคิดอยู่ว่า...ใครส่งมา รู้จักชื่อผม อืม...เยอะแยะที่รู้จัก แล้วใครวะนั่น ช่างเถอะ คิดไปก็ปวดหัว เพราะยังไงก็ไม่รู้อยู่ดี ตั้งใจทำงานดีกว่า ฮะ ๆ อย่าคิดว่าผมขยัน ที่ผมตั้งใจทำงานเพราะผมไม่อยากทำโอที เหนื่อยแทบขาดใจอยู่แล้ว ยังจะให้ทำโอทีอีก ผมขอบายล่ะครับ
“กิตจ๊ะ พี่ขอวานอะไรหน่อยสิ”พี่สาวสุดน่าคนนี้คือพี่หน่อย พี่หน่อยเขาทำงานนี้มานานแล้วล่ะครับ นานจนได้เป็นหัวหน้าฝ่ายเลยทีเดียว แต่เขาไม่เคยใช้อำนาจ หรือโอ้อวดเลยนะครับ ว่าพี่เขาจะให้ทำอะไรเขาจะพูดแบบนี้กับทุกคนเสมอ สรุปว่าพี่หน่อยน่ารักโคตร ๆ
“ครับผม ได้อยู่แล้วครับ”
“ช่วยเอาเอกสารนี่ไปให้พี่ชัยที่หน้าบริษัทหน่อยนะ พอดีพี่ลืมบอกน่ะ แต่พี่โทรให้เขาหยุดรอแล้วล่ะ”
“ครับ”ผมพูดไม่ออกไปชั่วครู่ พี่ชัย...ทั้งบริษัทผมกลัวคนนี้รองจากประธานบริษัทเลยล่ะครับ
“ขอบใจนะจ๊ะ”ผมรับเอกสารจากพี่หน่อย ก็รีบเดินลงมาให้พี่ชัยที่เป็นคนส่งเอกสารทันที เดี๋ยวพี่เขาเหวี่ยงมาทำไงล่ะ อยากจะบอกว่า พี่ชัยนี่หน้าตาโหดใช้ได้เลยล่ะครับ หุ่นก็ใหญ่ ๆ (หมายถึงหุ่นอย่างเดียวนะ ตรงอื่นไม่รู้) ผมไม่อยากจะคิดตอนโดนต่อยเล้ย ผมนี่คงลอยละล่องไปหาหมู่ดาวบนท้องฟ้าล่ะมั้ง เมื่อผมลงมาถึงหน้าบริษัท ผมก็เจอพี่ชัย (หน้าโหด) ยืนรออยู่ ผมนี่แทบจะวิ่ง กลัวเขาโมโหสุด ๆ
“พี่ครับ เอกสารจากพี่หน่อยครับ”ผมก้มหน้าก้มตาพูด ก็คนมันกลัวนี่ครับ
“อืม ขอบใจ...นี่ ช่วยเงยหน้ามาหน่อยได้มั้ย เวลาพูดแล้วก้มหน้าเนี่ยมันเสียมารยาทนะ”พี่คร้าบ ผมกลัวแล้ว เฮ้อ!
“ครับ ๆ”ผมค่อย ๆ เงยหน้าแต่ก็ยังไม่กล้าสบตาพี่ชัยอยู่ดี
“อืม...หน้าตาก็ดูดี ทำไมชอบก้มหน้าล่ะฮึ”พูดเสร็จพี่ชัยก็เอามือมาลูบหน้าผม มือพี่เขาออกหยาบ ๆ แต่ก็อุ่น ๆ ดี พี่เขาจับหน้าผมให้หันไปมองเขา ผมก็เลยต้องมอง แต่พอมองจริง ๆ แล้ว พี่ชัยก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรมากหรอก เพียงแต่บุคลิก หรือรูปร่างทำให้คิดกันไปเองว่าน่ากลัว
“มองได้ซะที แบบนี้ต้องให้รางวัลหน่อย”พูดเสร็จพี่ชัยก็...
ก้มลงมาหาผม แล้ว...
(ฮั่นแน่ะ รู้นะว่าคิดอะไร)
จุ๊บ~
ผมนี่นิ่งเลยครับ ก็อยู่ ๆ พี่ชัยเขาก็...เอ่อ...จูบที่ตาของผม เขินสิครับงานนี้
“น่ารักดีนะเราเนี่ย ชื่ออะไรฮึ”
“เอ่อ...กิต...ครับ”
“กิต...งั้นเหรอ ไว้เจอกันนะ กิต....”
ผมเดินเข้าบริษัทด้วยความมึนงง ก็อยู่ ๆ คนที่ผมกลัวมากเกือบจะที่สุดในบริษัทกลับมาทำแบบนั้นกับผม อืม...สงสัยวันนี้ต้องเป็นวันที่ไม่ค่อยดีแน่ ๆ จริงสินะ ผมอายุ 25 แล้วนี่นา เบญจเพส เฮ้อ! คิดแล้วเศร้า ทำไมคนเราไม่อายุ 24 แล้วไป 26 เลยนะ (เหมือนที่คนตกเลขเขาคิด)
“ไงไอ้กิต ทำหน้ายังกับหอยแมลงภู่มีผักติดฟัน”เป็นยังไงวะครับคุณเพื่อน
“เคยเห็นด้วยรึไง เวลาผักติดฟันหอยน่ะ”
“ไม่เคยเห็นผักติดฟันหอย แต่เคยเห็นอย่างอื่นติดฟันหอย”ผมว่าผมก็ไม่ทะลึ่งนะ แต่ประโยคนี้มันฟังยังไง ๆ ผมก็ว่ามันทะลึ่ง
“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอก มึงคิดถูกแล้ว ฮ่า ๆ”เจ้านี่ชื่อนพ เป็นคนทะลึ่งตึงตังที่สุดในบรรดาเพื่อนทั้งหมด มันรู้ว่าผมเป็นเกย์ แต่ตัวมันก็หาแคร์ไม่ เพราะมันไบ มันชิว ๆ มากกับเรื่องพวกนี้
“มึงแค่เป็นเพื่อนกูก็พอ ไม่ต้องคิดเยอะ เดี๋ยวแก่เร็ว”ดูมันไม่แคร์สื่อจริง ๆ
“วันนี้กูว่ากูกลับช้าแหง งานเข้าเต็มประตู ลูกค้าขอเปลี่ยนแบบ ทำไมนะทำไม สวรรค์ต้องกลั่นแกล้งคนหล่ออย่างกูด้วยวะ”ผมว่ามันทำงานจนเพ้อแล้วล่ะครับ
“มีอะไรให้ช่วยก็บอก กูจะได้ไม่ช่วยมึง”นี่แหละครับ ในฐานะเพื่อนที่ดีก็ควรจะทำแบบนี้
“ไปไกล ๆ ส้นตีนกูเลยไอ้กิต ไอ้เพื่อนรัก ไอ้ใบตองแห้ง”มันชอบสรรหาคำแปลก ๆ มาด่าผมจริง ๆ
ครืด~ (เสียงโทรศัพท์สั่น ไม่ใช่แผ่นดินไหวแต่อย่างใด)
เย็นนี้ผมไปรับนะครับ
ปล.คิดถึงคุณทุกวินาที
ข้อความจากเบอร์เดิมกับเมื่อเช้า แถมเป็นอะไรที่ชวนอ้วกสุดหูรูด อืม...คนที่พูดจาหรือทำอะไรชวนอ้วกก็น่าจะมีอยู่ไม่กี่คน เย็นนี้บอกจะมารับนี่นะ เดี๋ยวก็ได้รู้ละว่าใครมันเน่าในได้ขนาดนี้
และผมก็ตั้งใจทำงานอีก (สัก) ครั้ง และในที่สุด ก็ถึงเวลากลับบ้านแล้วววววว (รวดเร็วปานน้ำไหล) ผมรีบเก็บของเพื่อจะได้กลับบ้านเร็ว ๆ
“กิต ฝากซื้อเจลหล่อลื่นกับถุงยางหน่อยดิ กว่ากูจะได้กลับ เฮ้อ! พรุ่งนี้กูมีนัดด้วย ฝากหน่อยนะมึง”เจ้าเก่าครับ สิ่งที่ไอ้นพมันฝากซื้อก็ไม่ได้แพงมากมายหรอกครับ แต่ว่า...เจลหล่อลื่นกับถุงยางนี่....
“อืม เอาเงินมาดิ”
“ไอ้งก”แต่มันก็หยิบเงินให้นะครับ
“ถุงเอากลิ่นอะไร แบบไหน”
“กลิ่นแล้วแต่ ผิวธรรมดาก็พอ เพราะของกูมันดีอยู่แล้ว ไม่ต้องเสริมออฟชั่น ไซส์มึงรู้ใช่ป่ะ กูจำได้ว่าเคยบอกไปแล้ว”
“เออ ๆ”มันเคยบอกผมครั้งนึงครับ บอกตอนไปซื้อถุงยางนี่แหละแต่มันเป็นคนซื้อนะ ผมแค่ไปด้วยเฉย ๆ คนขายมองผมกับนพแปลก ๆ ด้วย อาจจะคิดว่าซื้อมาใช้ด้วยกัน แค่คิดก็บรึ๋ยแล้ว ถ้าเกิดขึ้นจริง ๆ ผมคงต้องลาหมาตายแล้วล่ะครับ
ผมเดินออกจากบริษัทก็เจอพี่ชัยกำลังนั่งเก้าอี้หน้าบริษัทอยู่ ดูเหมือนพี่เขาจะเห็นผมแล้ว ถ้าผมไม่ทัก ผมจะผิดมั้ยเนี่ย... แต่อยู่ ๆ พี่ชัยก็ลุกขึ้นแล้วเดินตรงมาทางผม
“ไงกิต จะกลับบ้านแล้วเหรอ”พี่ชัยเดินมาทักผมก่อน ผมจะก้มหน้าอีกก็กลัวจะโดนเหมือนเมื่อตอนกลางวัน เลยได้ต้อง (พยายาม) มองหน้าพี่ชัย ความรู้สึกเขินก็แล่นเข้ามาทันที ปากของพี่ชัย เฮ้ย! ไปจ้องปากพี่เขาทำไม
“เอ่อ...ก็จะกลับแล้วล่ะครับ”
“งั้น...เดี๋ยวพี่ไปส่ง”สะดุ้งเฮือกเลยครับ พี่ชัยเนี่ยนะจะไปส่งผม ไปส่งที่บ้านหรือที่ไหนครับพี่ T^T
“เอ่อ...ไม่ต้องก็ได้ครับ ผม...เกรงใจ”ไม่รู้ทำไมผมไม่ค่อยกล้าปฏิเสธพี่เขาเลย สายตาเวลามองมามันปฏิเสธไม่ลงจริง ๆ นะ
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก พี่มีรถ ถึงจะเป็นมอเตอร์ไซค์ก็เถอะนะ”
“เอ่อ...”ระหว่างที่ผมไม่รู้จะปฏิเสธยังไงดี ก็มีเสียงเจ้าชายขี่เจสกีมาช่วย
“คุณกิต ขอโทษทีนะครับที่มาช้า พอดีรถติดนิดหน่อย รอนานมั้ยครับ”เจ้าของเสียงคนนี้น่าจะเป็นคนเดียวกับที่ส่งข้อความมา หันไปมองก็....โป๊ะเชะ! นายธันวา!!
“ก็...ไม่นานหรอก เพิ่งเดินลงมา”ผมก็เนียนสิครับ ไหลไปกับน้ำตามระเบียบ
“ใครเหรอครับคุณกิต”เอ่อธัน พูดอย่างเดียวก็ได้ ไม่ต้องมาโอบอะไรหรอก ตอนนี้ผมไม่กล้ามองหน้าพี่ชัยแล้วล่ะครับ
“เอ่อ...นี่พี่ชัย พี่ที่บริษัทน่ะ”ผมก็ต้องแนะนำสิครับ ในเมื่อมีคนถามมา แต่ทำไมผมต้องอยู่ในสภาวะกดดันแบบนี้ด้วย ถ้าเม็ดเลือดแดงมันกลัวจนหดหายไปจะทำยังไง T^T
“อ่อครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผมชื่อธันวา”
“อืม...ฉันชื่อชัย”อูย...เสียงโหดซะ แค่นี้ผมก็กลัวจะแย่อยู่แล้วคร้าบ
“งั้นขอตัวก่อนนะครับ ไปกันเถอะคุณกิต”ธันพูดลาพี่ชัยก่อนจะจับมือผมเดินไปที่รถ แต่ผมแอบเห็นสายตาของพี่ชัยด้วย พี่เขามองไปที่มือ แล้วสายตานี่....โคตรโหด!!
ผมหันไปมองพี่ชัยเล็กน้อยเพื่อที่จะลา แต่พี่ชัยเหมือนจะพูดกับผมแต่ไม่มีเสียง ไอ้ผมก็เก่ง ได้ฝึกวิชาอ่านปากจนเชี่ยวชาญจากการลอกข้อสอบ พี่ชัยเขาพูด (ไม่มีเสียง) ว่า
“สักวันกิตต้องเป็นของพี่”
ให้ตายเถอะชีวิตวัยเบญจเพสของผม ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้!!!! เฮ้อ!
จบตอน
*******************************
เอาตอน 2 มาฝากแล้วจ้า