__________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: __________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]  (อ่าน 571535 ครั้ง)

ออฟไลน์ rainystreet22

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
เพิ่งตามมาอ่านค่ะ :hao5:

ชอบแนวการเขียนของพี่โอมากๆเลยยยยยย  เรื่องนึงก็หวานมาก อีกเรื่องก็อบอุ่นมาก เรื่องนี้ก็ซึ้งมากกกก :hao5:

มันหน่วงดีจังเลย การที่เรารู้ว่าคนที่เรารักกำลังจะตายแต่เราทำอะไรไม่ได้นี่มันรู้สึกเจ็บปวดดีจริงๆเลยเนอะ :m15:

มาต่อเร็วๆน้าาาา :กอด1:


ความรักเหมือนดอกมะนาว

  • บุคคลทั่วไป
สมัครสมาชิกเพื่อคุณโอเลยทีเดียว

อ่านมาตั้งแต่ สีคราม + กานดา // ปีใหม่ + กลอน // XY

มาลงต่อเร็วๆนะคะ รออยู่ๆ

  :3123:

ออฟไลน์ Turn_righT

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 492
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
 :o12: ติดตามอยู่นะคะ เม้นอะไรไม่ออก เศร้า...

ออฟไลน์ from_mars

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-0
ขอให้มันเกิดกับอักษร
ความสุขกำลังจะเข้ามา ขอให้คงอยู่กับคู่นี่ไปนานๆ นะ

รออ่านต่อ และขอบคุณจ้า

ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog








15th Day : Secret Relations












   ..จะบอกว่าตื่นเช้าก็คงจะใช่..

   ..แต่ถ้าพูดให้ถูกกว่าเดิมก็คือนอนไม่ค่อยหลับเสียมากกว่า..




   พ่อกับแม่ของอักษรกลับไปหลังจากที่ผมเอ่ย 'คำขอ' เช่นนั้นไปได้ไม่นานนัก  หลังจากโทรบอกยาย...อะไรหลายๆอย่างก็ดูจะเรียบร้อยดี  ยายบอกผมว่าจะหาเวลาว่างมาเยี่ยม..และอย่างว่า  ผมที่พยายามบอกยายว่า 'เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก' นั่นก็แค่คำโกหก  และยายก็รู้เรื่องนั้น  ถึงได้ดึงดันจะมาให้ได้แบบนี้

   อักษรยังคงนอนหลับอยู่บนเตียงในขณะที่ผมตัดสินใจลืมตาตื่น  โรคนอนไม่หลับในสถานที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้ของผมยังแก้ไม่หายสักที...นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมักมีปัญหาบ่อยๆเวลาออกค่ายหรืออะไรต่อมิอะไร  เดินออกจากห้อง  ไปตามการกวักมือเรียกของผู้หญิงบางคน  แล้วก็เดินกลับมาในสภาพเหมือนถูกดูดพลังวิญญาณ  ก่อนจะผลอยหลับไปแบบฝืนตัวเองสุดๆ...แต่เออ..นี่มันที่โรงพยาบาล  จะเดินไปหาใครมันก็ใช่ที่  แถมตอนนี้ผมเองก็ต่างกับเมื่อก่อนแล้วด้วย
   บางที..อาจจะเป็นเพราะคนที่นอนร่วมห้องกับผมก็ได้กระมัง...
   ความรู้สึกในอกมันเต้นโครมครามยังคงค้างจากเมื่อคืน  ที่ผมบอกเขาว่าราตรีสวัสดิ์  จูบหน้าผากให้  เดินไปปิดไฟ...และเฝ้าทอดสายตามองร่างเปราะบางนั่นจมลงสู่ห้วงนิทรา....จนกระทั่งตื่นมาในตอนเช้าก็ยังพบว่าอีกฝ่ายสบายดี

   ...ความสุขในเรื่องง่ายๆแบบนั้นทำให้ผมรู้ตัวว่า...ตนเองอาการหนักพอสมควรแล้ว...




   ผมล้างหน้าล้างตาอยู่ในห้องน้ำตอนที่เสียงเปิดประตูดังขึ้น  คุณหมอเจ้าของไข้และพยาบาลเดินตามเข้ามา  ผมยกมือไหว้..เขายิ้ม  ยกมือรับไหว้ผม  ก่อนจะเดินนำผมเข้าไปใกล้เตียงผู้ป่วย

   อักษรลืมตาอยู่

   เขามองออกไปนอกหน้าต่าง  มองแสงสีส้มสว่างที่กำลังโผล่ขึ้นมาจากเส้นขอบฟ้าด้วยดวงตาเป็นประกายสุกใสเหมือนเด็กทารกอีกครั้ง...และสิ่งนั้นเจิดจ้ากว่าโลกทั้งใบด้วยซ้ำ
   “เป็นยังไงบ้างครับ?”
   นั่นเป็นคำแรกของหมอ  ที่เรียกให้อักษรหันกลับมายกมือไหว้
   “สวัสดีครับคุณหมอ"
   คนถูกทักยิ้ม  แล้วรับไหว้ "ปวดมั้ยครับ?”
   อักษรก้มหน้าลง  แวบหนึ่งที่ผมเห็นว่าเขาเหลือบมองผมด้วยสาเหตุบางอย่างหลังจากคำถามนั้น
   ......และเรื่องนั้นเดาได้ไม่ยากเลย

   “ผม...ออกไปรอข้างนอกนะครับ"

   ที่จริง..คำพูดนั้นแค่พอเป็นพิธีเท่านั้นครับ  พวกเขาทั้งหมดไม่ได้ฟังผมเท่าไหร่หรอก...เลยเลือกที่จะเดินออกมาแบบให้พวกเขารู้ตัวมากกว่า  อักษรคงยังทำใจไม่ได้ที่จะบอกหรืออ้อนผมอะไร...มันค่อนข้างลำบาก  และผมยอม  ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา...จะมากขนาดไหนก็จะรอ


   ผมเดินออกจากห้องนั้น  ยืนรออยู่หน้าประตูไม่เกินสิบนาที...พ่อกับแม่ของอักษรก็มาถึง  หลังจากทักทายเรียบร้อยผมก็บอกเรื่องหมอ  พวกท่านรีบกุลีกุจอเปิดประตูตามเข้าไป

   ...ตอนนั้นเองที่ผมเพิ่งรู้ตัวว่ามีเยื่อบางๆกั้นอยู่ระหว่างผมกับคำว่า 'ครอบครัว' …

   ผมหลับตาลง  พยายามถึงที่สุดที่จะไม่เผลอเงี่ยหูฟังบทสนทนาจากภายใน  ผมคิดว่าผมควรจะกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าดี..หรือกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและหอบข้าวของมาเตรียมพำนักที่นี่เลยดี..โอเค  จุดเริ่มต้นดูเหมือนจะไม่ต่างกันเท่าไหร่  ดังนั้นสิ่งที่ผมทำต่อมาคือการเดินเข้าลิฟท์  โบกแท๊กซี่  และกลับบ้าน



   เมื่อคืนไม่มีอะไรผิดปกติ..


   ..หรือต้องใช้คำว่า...ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติ..มากกว่า..




   อักษรนอนหลับก็จริง  แต่ไม่ได้แปลว่าเขาหลับสบาย...และผมเองก็ไม่ได้ลืมตามองเขาทั้งคืน  ห้องทั้งห้องนั้นเรียกได้ว่ามืดสนิทหลังจากที่ปิดไฟแล้ว  แสงไฟจากภายนอกก็ไม่ได้ทำให้อะไรมันสว่างขึ้นเท่าไหร่นัก  เสียงเครื่องปรับอากาศ..เสียงขยับตัวเป็นระยะๆ..และเสียงลมหายใจ...ทุกอย่างพวกนั้นไม่ได้ช่วยบอกอะไรผมได้เลย
   ผมมันเป็นคนเฝ้าไข้ที่แย่มาก
   มันเป็นความจริงอยู่แล้วที่ว่าอักษรไม่อยากให้ผมกังวล  เขาไม่อยากให้ผมเป็นเช่นนั้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้วและ...สิ่งที่ผมทำลงไปก็แค่การให้เขาอดทนมากกว่าเดิมเท่านั้นเอง...

   ...อดทน...เพื่อไม่ยอมให้ผมเห็นช่วงเวลาที่เขาเจ็บปวด...



   อยู่เคียงข้าง...บ้าอะไร...






   คนที่ต้องทนทรมานต่อไป...คือเขาไม่ใช่เหรอ...











   'จากนี้...'




   ถ้อยคำเหล่านั้นหวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง...
   แต่เสียงที่สะท้อนอยู่ในหูครั้งนี้ทำให้ผมคิดอะไรได้มากขึ้น...




   'อย่ามาที่นี่อีกเลยนะครับ...'






   เราไม่ได้คุยกันเรื่องนี้มากพอ...หรือว่าเรายังปรับตัวไม่ได้กันแน่  สิ่งที่ผมทำอยู่มันสร้างความลำบากใจให้กับเขามากขึ้นรึเปล่า  หรือบางทีผมควรทำตามที่เขาขอร้อง  ผมไม่ควร..จะเหนี่ยวรั้งเขาไว้....

   ถ้าเพียงแต่เขายิ้ม...
   เพียงแค่เขายิ้ม...และบอกผมว่าไม่เป็นไร....


   ผมก็คงจะเชื่อเต็มหัวใจ  ถึงแม้จะรู้ดีว่าคำพูดนั้นคือคำโกหกที่แสนบริสุทธิ์ก็ตาม




   วูบนั้นที่ใบหน้าของอักษรเมื่อเช้าหวนกลับมาในความทรงจำ  ตั้งแต่ใบหน้าเหม่อลอยที่มองออกไปนอกหน้าต่าง  จนกระทั่งดวงหน้าขาวที่ก้มงุดเหมือนพยายามจะบอกอะไรสักอย่าง...และดวงตาเป็นประกายเหมือนเด็กทารกนั่นก็ด้วย...ทุกอย่างให้ความนัยที่แตกต่างกัน  แต่โดยรวมแล้วที่เขาพยายามกักเก็บเอาไว้....คือ 'ความเจ็บปวด'



   ไม่มีทางที่ต่อจากนี้...เรื่องราวของเราทั้งคู่จะหวานหอมเหมือนในนิยาย

   รู้อยู่แล้วแท้ๆ...



   ...แต่...






   ....ทำใจไม่ได้










----------------










   “…ช่อดอกไม้ครับ”

   คำนั้นทำให้หล่อนหันมาหา  แล้วจึงค่อยฉีกยิ้มให้ผม "กุหลาบสีขาว..ใช่มั้ยคะ?”

   ผมยิ้มตอบ  พยักหน้า  และยืนรอเหมือนเช่นที่ทำเป็นปกติ




   “ซื้อดอกไม้ให้อักษรเหรอจ้ะ?”

   นั่นเป็นคำถามที่ทำเอาไอ้หัวใจที่พองโตเมื่อครู่ร่วงหล่นลงไปกระแทกตาตุ่ม  แล้วกระดอนกลับขึ้นมาแทบจะในทันทีที่ตั้งสติได้ว่า..ยายเองก็ยืนอยู่ตรงนั้นเช่นกัน
   “..อ...ครับ"
   สาบานได้ครับ  ผมไม่รู้จะตอบรับอะไรนอกจากคำนั้นจริงๆ

   ยายยิ้ม  และดูเหมือนว่ายายจะรู้อะไรบางอย่างโดยที่ผมไม่ต้องพูด...ส่วนผมก็เก้อสิครับ  เล่นเอาไม่รู้เลยว่าจะไปทางไหนต่อ  เลยได้แต่พายายไปนั่งรอที่เก้าอี้  การจัดช่อดอกไม้ไม่ได้ใช้เวลานานอย่างที่คิด  แต่ก็ไม่ได้เร็วจนน่าตกใจ...พี่สาวเจ้าของร้านดูท่าจะจัดช่อนี้จนชินมือแล้วล่ะครับ  แถมยังมีการเหลือบมองผมแล้วอมยิ้มคล้ายจับผิดอีกด้วย...ให้ตายสิ  คนรอบตัวผมเป็นอะไรกันหมดนะ...

   หลังจากดอกกุหลาบที่ถูกแต่งช่อด้วยสีขาวล้วน...ขาวบริสุทธิ์อย่างที่ผมตั้งใจไว้...และงดงามจนผมอดที่จะยกขึ้นมาแตะจมูกไม่ได้..เธอหัวเราะเบาๆ  ให้ส่วนลดพิเศษด้วยอีกนิดหน่อย  กับคำพูดที่ว่า

   “หวังว่าคนสำคัญของคุณจะหายเร็วๆนะคะ"
   ผมชะงัก  แต่เพียงไม่นาน
   แล้วพยักหน้าให้หล่อนแทนคำตอบทั้งหมด


   ...ผมก็หวังเช่นนั้น...เหมือนกัน...


   ผมเดินนำยายออกจากร้านดอกไม้  ก่อนจะเปลี่ยนมาเดินข้างๆเยื้องไปด้านหน้าเพียงเล็กน้อย  บนทางเดินเดิมๆที่เริ่มเปลี่ยนมาคุ้นเคยช้าๆในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน  ผู้คนแปลกตาเดินผ่านไปผ่านมาไม่เคยซ้ำกัน  ตึกเดิม...ลิฟท์ตัวเดิม...ในขณะที่ยายไม่ได้พูดอะไรเลย  เพียงแค่เดินตามผม  มองผม  และมอบความเอ็นดูให้ผมผ่านทางสายตา

   อักษรเป็นเพื่อนคนแรกที่ผมพามาบ้าน
   ..หรือจะพูดให้ถูกคือเขาไปของเขาเอง  และผมยอมให้เขาเข้าไปในบ้าน...ทั้งๆที่ถ้าเป็นคนอื่นคงโดนผมโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปแล้ว


   ถ้าการกระทำทั้งหมดคือนิยามของการเป็น 'คนสำคัญ' ล่ะก็....ยายคงจะเข้าใจเรื่องนั้นได้โดยไม่ต้องอธิบายอะไรให้วุ่นวาย





   ลิฟท์แล่นขึ้นมาถึงชั้นเป้าหมาย  ผมก้าวออกมา  หันกลับไปมองยายที่ก้าวตามออกมาด้วย

   เมื่อเช้าผมรีบกลับบ้านมากเกินไปหน่อยจนไม่ทันได้บอกลาอักษร  แต่ก็มาภายในเวลาไม่ถึงสามชั่วโมงด้วยซ้ำ..ดังนั้นสิ่งนี้คงจะไม่ใช่ปัญหา...และการที่พายายมาด้วยก็คงจะเป็นหลักฐานให้พ่อกับแม่ของเขาเห็นว่าผมให้ความสำคัญกับคนๆนั้นมากแค่ไหน  อา...แค่คิด...ก็รู้สึกพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าได้แล้วล่ะครับ...
   ผมสูดลมหายใจ  ก่อนจะค่อยเอื้อมมือไปประคองมือยายเอาไว้  แล้วพาเดินไปตามทาง

   พยาบาลคนนั้นจำหน้าผมได้  หล่อนพยักหน้าทักทายผม...ผมทำตอบ  และก้าวเดินผ่านเคาน์เตอร์พยาบาลไปวินาทีเดียวกับที่ประตูห้องของอักษรเปิดออกมา


   ผมยกมือไหว้คุณพ่อกับคุณแม่ของอักษรอีกครั้ง  ครั้งนี้ทำได้ดีและเป็นไปโดยธรรมชาติมากกว่าครั้งก่อนหน้านัก


   “เอ่อ...คุณพ่อคุณแม่ครับ...นี่ยายผมครับ"
   ผมแนะนำพอเป็นพิธีก่อนจะหันกลับไปมองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของตัวเอง  ก็ตามมารยาทน่ะครับ...ผมเห็นว่าคนปกติเขาก็ทำแบบนั้นน่ะแหละ
   "ยายครับ...นี่....”


   ก่อนที่เสียงของผมจะหายไปในลำคอ...


   ใบหน้าของยายทำให้ผมต้องหันกลับไปมองคุณพ่อคุณแม่ของอักษรอีกครั้งหนึ่ง  ถึงได้รู้ว่าพวกท่านทั้งหมดทำสีหน้าไม่แตกต่างกันเลยสักนิด...พวกเขาไม่ได้แสดงอาการตกใจอะไรออกมาเกินพอดีนัก  เพียงแค่เงียบไป  และมีกระแสอะไรบางอย่างไหลเวียนจนเวลาแทบจะหยุดนิ่ง

   ระหว่างที่ผมกำลังคิดหนักว่าจะพูดอะไรต่อไปดี  คนที่ควบคุมได้ก่อนก็ไม่ใช่ใครเลย  ยายของผมเองครับ


   ท่านก้าวออกมาข้างหน้าจนชิดตัวพวกเขา  เอื้อมมือไปกุมมือของคุณแม่คุณพ่ออักษร

   แล้วเอ่ยคำนั้นขึ้นมาด้วยใบหน้าที่แปรเปลี่ยนเป็นความตื้นตันในระดับที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นมาจากการเสแสร้งแต่อย่างใด




   “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ  คุณอิศวร  คุณเกศรา"










----------------










   คนที่รู้จักยายของผม  จะเรียกเธอว่า 'คริส'

   อืม...ผมขอบอกเลยว่าตัวเองคงเป็นหลานที่ไม่ดีเท่าไหร่ที่ไม่รู้ว่าชื่อของยายมาจาก 'คริสติน' หรือ 'คริสต้า' ...รู้แค่ว่าไม่ชื่อใดก็ชื่อหนึ่งเนี่ยแหละ  ท่านมักจะเซ็นใบขออนุญาตผู้ปกครองให้ผมด้วยลายเซ็นยุ่งจนอ่านไม่ออก  แต่อย่างที่รู้กัน...ผมเรียกยายว่า 'ยาย' ซึ่งเป็นภาษาไทยแท้แต่โบราณ  เลยไม่ค่อยได้ใส่ใจชื่อของท่านมากนัก

   และคุณพ่อคุณแม่ของอักษรเรียกท่านว่า 'คริส'

   กับบทสนทนาภาษาต่างชาติที่ทำให้ผมอยากแหวกกระโหลกตัวเองออกมาแล้วหย่อนพจนานุกรมฝรั่งเศส-ไทย ลงไปให้รู้แล้วรู้รอด
   ...เสียชาติเกิดลูกครึ่งจริงๆให้ตาย...



   และความจริงที่ว่าผมไม่ใช่ประเภทที่สอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านมันทำให้ผมต้องมานั่งเคาะนิ้ว  ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่แบบนี้ยังไงล่ะ...

   ...เรื่องชาวบ้านอะไรกัน...


   …...นั่นมัน 'เรื่องของตัวเอง' ชัดๆ  ไอ้ทีปพิพัฒน์ประสาทกลับนี่...!





   สิ่งแรกที่คนปกติทำคือถามออกไปตรงๆว่า 'นี่มันเรื่องอะไร?' และนั่นคือเหตุผลที่ผมเริ่มรับรู้ว่าตัวเองไม่ค่อยปกตินัก...แถมยังไม่เจ้าเล่ห์มากพอจะคิดหาวิธีให้อีกฝ่ายคายความลับอะไรนั่นออกมา  ไม่สิ...ต้องบอกว่าผมแสดงท่าที 'เฉยเมย' ได้เก่งเกินไปแล้ว!
   ..น่าหงุดหงิดชะมัด..!
   ผมไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้พวกท่านทั้งหลายเปลี่ยนภาษาที่ใช้คุยคืออะไร  แต่ก็คงหนีไม่พ้นอะไรเทือกๆที่ว่า 'ไม่อยากให้ผมรู้'  พระเจ้า...ผมอายุจะ18ปีอยู่แล้วนะ  เลิกทำเหมือนผมสัก6-7ขวบยังไม่รู้ภาษาอะไรหน่อยเลย  ไม่สิ..เด็กอายุราวๆนั้นมักจะรับรู้เรื่องได้ดีกว่าที่ผู้ใหญ่คิด  เพราะงั้นช่วยกรุณาบอกมาตามตรงทีเถอะ...ไอ้ที่ทำอยู่มันไม่มีประโยชน์เลย

   น้ำเสียงรื่นเริงที่คุยกันอยู่ด้านนอกทำให้ผมคิดว่าบทสนทนาพวกนั้นคงไม่จบลงง่ายๆ  คงไม่เหมาะนักที่จะมานั่งภาวนากับพระผู้เป็นเจ้า  เอาละ..มนุษย์จะมีสมองไว้ทำไมถ้าไม่รู้จักวิเคราะห์ด้วยตัวเอง
   ..มีอะไรไม่ชอบมาพากลตั้งแต่เมื่อวานแล้ว...ที่พ่อแม่ของอักษรทักเรื่องผม  ราวกับเรารู้จักกัน..เพียงแต่ผมจำอะไรไม่ได้
   บทสรุปนั้นไม่มีอะไรเพิ่มเติมเลยพับผ่าเถอะ...

   ...พวกท่านรู้จักกันได้ยังไง?
   



   “เทียน?”



   กึก..
   ผมหยุดเคาะนิ้วโดยรู้ตัว  และคิดว่าตัวเองคงระบายอารมณ์กับโต๊ะกาแฟนั่นหนักมือเกินไปหน่อย

   ร่างบอบบางที่นอนอยู่บนเตียงกำลังเอียงหน้ามาทางผมพร้อมดวงตาใสแจ๋วนั่นอีกครั้ง  เขายิ้ม..และเอ่อ...ผมอยากจะบรรยายไอ้สิ่งที่เต้นตูมๆอยู่ในอกนี่หรอกนะครับเพียงแต่มันคงจะน้ำเน่าไปนิด  เขาทำให้ผมนึกคำพูดรับเขาไม่ออก...ผมรู้แค่ว่าตอนที่ผมเข้ามาขณะที่เขานอนอยู่  แต่หลับไปนานแค่ไหนแล้วนะ...ตั้งแต่คุณหมอออกจากห้องเลยรึเปล่า?

   คิดไปก็ป่วยการ...เห็นจะต้องพูดอะไรสักอย่างก่อน...
   “ขอโทษ...ครับ...เอ่อ...ผมทำให้ตื่นรึเปล่า?”
   ..พอมานึกย้อนดูแล้ว  คำพูดนั้นเห่ยชะมัด  ผมต้องปรับปรุงเรื่องการพูดการจาแล้วสิ..
   อีกฝ่ายส่ายหน้าช้าๆ "เปล่าครับ...เอ่อ...”
   “ยายผม..” ผมคิดว่าเขาคงหมายถึงเสียงพูดคุยด้านนอกนั่น "มาเยี่ยม...ก็เลย...คุยกับพ่อแม่คุณ"
   เขายิ้ม  ไม่พูดอะไรอีก
   แต่อะไรบางอย่างกลับทำให้ผมพูดต่อ "คุณรู้อะไรรึเปล่า?”
   “ครับ?” คนถูกถามทำท่าตกใจมาก  เล่นเอาผมตกใจไปด้วย...แต่เขาก็กระแอมกระไอ "เรื่อง...อะไรเหรอครับ?”
   ..ผมว่ามันมีอะไรอยู่ในการกระทำนั้นนะ...ไม่เนียนเอาซะเลย... “...ผม..เอ่อ..ถ้าผมจำไม่ผิดคุณ...ภาษาฝรั่งเศส....”

   “ครับใช่" เขาพยักหน้า "ค่อนข้าง...ถนัด...”



   ..เงียบ..



   เราสองคนสบตากัน..นาน..เรียกได้ว่าเป็นเกมจ้องตาเลยทีเดียว  มันไม่ได้ทำให้ผมอึดอัด...กว่าจะรู้ว่าเวลาผ่านไปสักพักก็เพราะหัวคิ้วที่ปวดตุบๆเพราะเผลอเกร็งมันมากไปหน่อย  เห็นชัดเลยว่าการจ้องดุเขาแบบนี้ต่อไปคงไม่มีอะไรดีขึ้นมา

   ในที่สุดก็ต้องถอนหายใจ  แต่ใครว่าผมจะยอมแพ้กัน
   ผมขยับตัว  ลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ..แน่นอนว่าอีกฝ่ายเองก็มองตามผมไม่ยอมถอย  จนในที่สุดผมก็เดินมาจนถึงที่นั่งประจำ  คือบนเตียงข้างๆตัวเขานั่นเอง

   “อักษร...”
   “ครับ..”
   ..แน่ะ..ยังแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้อีกนะ..
   ผมรู้จักอักษรมาได้ไม่นาน  แต่ต้องเรียกเลยว่ารู้จักมากพอที่จะประเมินได้...ว่าอีกฝ่ายจะสรรหาทุกวิธีที่จะทำให้เขาไม่พูดในเรื่องที่ไม่สมควรพูด..เขาฉลาดกว่าผมมาก
   ...แต่ก็ใช่ว่าไม่มีจุดอ่อน...
   “อักษร...”
   ผมลดเสียงต่ำลง..จนอยู่ในระดับที่เรียกว่าเสียงแหบพร่า  จะเรียกว่างัดลีลาทุกเล่มเกวียนออกมาประชันก็ว่าได้
   เขายังจ้องตาผมอยู่ตอนที่กระซิบอ้อแอ้ "...แอบฟังผู้ใหญ่คุยกัน...มัน...ไม่ค่อยดีเท่าไหร่...”
   ผมยิ้ม "แต่คุณก็ทำบ่อย...ใช่มั้ย?”

   และนั่นทำให้เขายิ้มเช่นกัน




   “รู้อะไรมั้ยครับเทียน...”


   อีกฝ่ายว่า  เขายังคงยิ้มอยู่..แม้จะหลุบสายตาลงต่ำก็เถอะ


   “...เรื่องที่ผมรักคุณ  มันไม่ใช่เหตุบังเอิญหรือพรหมลิขิต...ไม่ใช่อะไรแบบนั้นเลย...”



   ผมเลิกคิ้ว...และซ่อนความประหลาดใจเอาไว้ในอก

   เขาเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง  ยิ้มให้ผม...ยิ้มแบบที่ผมแทบลืมข้อข้องใจทั้งหมดพวกนั้นไปเสียให้หมดเพื่อดึงเขาเข้ามากอด  หรือทำอะไรก็แล้วแต่ให้เขารับรู้ว่าผมหลงใหลในรอยยิ้มแบบนั้นของเขามากแค่ไหน
   ...แต่ก็นั่นแหละ  อย่างที่พวกคุณเดาออก...ผมไม่ได้ทำมันออกไป...
   …........น่าเสียดายชะมัด...

   เขาอ้าปากเหมือนจะพูดต่อ  นั่นทำให้ผมดึงสติตัวเองกลับมาได้ทันควัน


   แต่ยังไม่ทันที่จะมีเสียงออกมา  ผู้ปกครองของเราทั้งคู่ก็หยุดบทสนทนาลง...และความเงียบนั้นที่ทำให้ผมต้องหันกลับไปมอง  พวกท่านคุยกันเสร็จแล้ว  ทุกคนมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า..แต่ให้ตาย  บรรยากาศเช่นนั้นผมกลับยิ้มไม่ออก  และปล่อยให้เสียงหัวใจเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆไม่เป็นจังหวะ

   ผมเงียบ...และกำลังรอฟัง


   “เทียนคงรู้จักดีอยู่แล้วล่ะเนอะ  แต่ยายไม่เคยแนะนำอย่างเป็นทางการซะที..."

   ยายพูดก่อน  นั่นทำให้ผมแทบจะหยุดหายใจ
   ขณะผายมือไปทางคุณพ่อของอักษร...ที่พยักหน้าให้ผมราวกับเราเพิ่งจะได้รู้จักกันครั้งแรก




   “คุณอิศวร...เอ่อ...พ่อของหนูอักษร  เป็น 'ผู้อุปถัมภ์' ครอบครัวของเราจ้ะ"










----------------










   ผมหลงคิดว่าเงินสวัสดิการที่ทางรัฐบาลให้คือสิ่งที่สนับสนุนพวกเรามาตลอด

   แต่พอคิดให้ลึกลงไปกว่านั้น  คือยายของผมไม่ได้ถือสัญชาติไทย...และต่อให้เกษรวิทยาจะอุ้มชูผมแค่ไหนมันก็ไม่มีทางพอต่อค่ากินค่าใช้จ่าย...ทั้งของผม  ของยาย  และไหนจะของก้านธูปอีก...ที่สำคัญ  ผมไม่เคยเห็นยายพูดเรื่องเงินหรือมีสภาพไม่มีอันจะกินทั้งๆที่ยายแก่เกินกว่าจะไปทำงานแล้ว
   ...ผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองโง่ขนาดนั้นก็ตอนนี้เนี่ยแหละ...



   จะบอกว่า 'ช็อค' มันก็ใช่...

   ...ไม่สิ  มันไม่ใช่แค่นั้น....





   ความตกใจมันจุกอยู่ในอกจนผมพูดอะไรไม่ออกเลยมากกว่า...




   ผมก้มกราบพวกท่านอย่างเป็นทางการครั้งแรก...มันเป็นครั้งแรกจริงๆ  และผมก็ทำมันไปทั้งๆที่สติไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วด้วยซ้ำ  เพียงแค่ยายบอก  และผมขอบคุณพวกท่านด้วยเสียงสั่นเครือแบบที่ไม่เคยพูดมาก่อน  จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

   ...อาจจะฟังดูบาป  แต่สมองกลับขาวโพลนเกินกว่าจะรับรู้ความจริงใดๆต่อจากนี้  ผมฟังพวกท่านบอกกล่าว  ฟังพวกท่านสนทนากัน(ซึ่งครั้งนี้เป็นเวอร์ชั่นภาษาไทย)...รวบรวมสมาธิแค่ไหนก็ดูจะไม่เป็นผล  ผมจับใจความได้เพียงคร่าวๆ...คร่าวชนิดที่ว่าหาสาระแทบไม่ได้  ประเด็นสำคัญดูเหมือนจะมีไม่มากนัก
   ...พ่อของผม....พ่อแท้ๆของผมเนี่ยแหละ....
   พ่อที่เป็นคนต่างชาติเต็มตัว  อาศัยอยู่ฝรั่งเศสแท้ๆ...สรุปออกมาได้แค่ว่าผมไม่ใช่ 'ลูกครึ่ง' ...ไม่ใช่อย่างแน่นอน  และท่านยังมีชีวิตอยู่  แม้จะปฏิเสธที่จะรับผมไปอยู่ด้วยด้วยสาเหตุสำคัญคือท่านมี 'ครอบครัว' แล้ว  แต่ก็ฝากฝังผมไว้กับผู้ชายคนนี้...คุณอิศวร อัครมณฑา...หรือก็คือพ่อของอักษร

   นั่นแหละที่ผมรวบรวมได้...

   ที่เหลือมันก็เหมือนคำพูดไหลผ่านหูซ้ายทะลุหูขวา  ไม่มีตาข่ายกรองเก็บข้อมูลไว้ในสมองเลยสักนิด
   ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริงด้วยซ้ำ


   มันแย่ตรงที่ที่ผมเงียบ..ไม่ใช่เพราะความตื้นตัน

   แต่เป็นเพราะความตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น




   พระเจ้า...

   ...นี่มัน...บ้าอะไรกัน...




   ผมไม่ได้หันไปมองอักษร  ที่แน่ๆคือผมตั้งใจว่าจะไม่หันไป...อะไรบางอย่างในอกมันเจ็บ  และความปวดร้าวนั้นทำให้ผมมีน้ำใสๆคลออยู่ในตา  ดูเผินๆราวกับว่าผมกำลังแสดงความเคารพนับถือพวกท่านทั้งสอง  แต่จริงๆ...มันไม่ใช่  และถึงแม้มันจะดูน่าประทับใจมากขนาดไหนแต่ทุกส่วนของร่างกายของผมมันแข่งกันเปล่งเสียงร้องว่า 'ไม่ใช่!!'

   เพราะกะอีแค่คนที่ให้กำเนิดผมฝากฝังผมไว้กับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ที่ผมไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเขาเลยสักครั้ง

   เพราะกะอีแค่เรื่องราวเหล่านี้อยู่ดีๆก็โผล่ขึ้นมาเหมือนในละครน้ำเน่าบ้าๆที่ผมไม่เคยเข้าใจว่ามันจะซึ้งจัดทำห่าอะไร

   เพราะกะอีแค่ความสัมพันธ์ที่เป็นความลับแบบนั้นน่ะ...ความลับที่ทุกคนในที่นี้รู้มาตลอดยกเว้นผม




   ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นมากกว่า 'ไอ้โง่'





   นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมอักษรถึงรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวผมดีนัก  นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนทั้งคู่ถึงเคยพูดเปรยๆราวกับรู้จักผมมานานแสนนาน  นี่เป็นเหตุผลที่ว่าการที่เราได้พบกันแบบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยสักนิด  นี่เป็นเหตุผลที่เราสองคนได้มีโอกาสใกล้ชิดกันขนาดนั้น
   นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมเลิกศรัทธาในพรหมลิขิต...

   และเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันแสนจะมีเหตุจงใจ...











   …....แล้วที่อักษรบอกว่า 'ชอบ' ผม...........










   …........มันเคยมี 'ความหมาย' อะไรบ้างมั้ย..........















   “เทียน..?”



   คำทักนั้นทำให้ผมดึงสติกลับขึ้นมาได้  จึงสัมผัสถึงความเย็นชื้นที่ข้างแก้ม...พอยกมือแตะ...ถึงได้รู้ว่าสิ่งนี้คือ 'น้ำตา'
   ...และมันทรมานมากกว่าที่หลายๆคนคิด...
        พวกเขามองมาที่ผม  ทำสีหน้าประหลาดและตกใจ...ผมใช้แขนเสื้อซับมันเอาไว้รวกๆ  ดันตัวเองลุกขึ้นจากพื้น  รู้สึกว่าต้องพูดอะไรสักอย่าง...แต่ไม่ได้พูด  เลยทำได้แค่ยกมือไหว้คุณพ่อคุณแม่ของอักษร...แต่การยกแขนมันช้ากว่าที่เคย  ผมกำลังสั่น

   ..กลางอกบีบตัวแรง...ทั้งๆที่สมองรู้ดีอยู่แล้วว่าไอ้ 'ความเจ็บ' บ้าๆนี่มันมาผิดที่ผิดเวลาเหลือเกิน..

   และทั้งๆที่รู้ว่าไม่ควรทำตัวแย่แบบนี้  แต่ก็ยังทำ






   ผมเดินจากมา



   และก่อนที่จะก้าวผ่านธรณีประตู  เป็นครั้งหนึ่งที่ผมเบือนหน้ากลับไปมองเขา...เขาคนที่เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผม

   อักษรทำหน้ายิ่งกว่าจะร้องไห้



   ผมหลับตาลง  ไม่อยากเห็นภาพๆนั้น

   “....คุณไม่เคยบอกผมเลย....”





   '...เรื่องที่ผมรักคุณ  มันไม่ใช่เหตุบังเอิญหรือพรหมลิขิต...'

   หลายครั้งที่อักษรแสดงให้เห็นถึงศักยภาพสมองอันดับหนึ่งนั่น  จนผมเดาไม่ถูกเลยว่าสิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดเพราะสมองสั่งให้ทำหรือแค่ทำตามหัวใจอย่างที่เขาเคยว่า


   ความเจ็บปวดมันเกิดขึ้นจากความจริงที่ผมไม่อาจบิดเบือนได้....











   ...ว่าทุกคำพูดของเขา  ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเรา...







   ...สิ่งเหล่านั้น...มี 'ความหมาย' กับผมมากแค่ไหน...










TBC



=====================

ดราม่าอย่างต่อเนื่อง...





ว้ายบอกให้อัพแก้เครียด อินี่ว่าพาลจะเครียดกว่าเดิม ;__;
ชอบปรารถนารักฯตรงที่ว่าในหนึ่งตอน ทั้งหวาน และดราม่า อย่างเท่าเทียมกัน
ไม่มีแบบคลื่นดราม่าโหมกระหน่ำซัดทำนบน้ำตาพังแน่นอน! (มั้ง..)
รสชาดของความรัก..มันก็ขมขื่นแบบนี้แหละ.... :hao5:

ดูตารางเรียนแล้วคิดว่าเทอมนี้จะสบายๆค่ะ แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลย
มีเรียนแค่3ตัวเอง..แต่งานหนักชะมัด! กำลังจะจบจากชีวิตการเป็นนักศึกษาแล้ว!
เริ่มรู้สึกตัวเองจะโตค่ะ 5555555 <<ควรโตได้ตั้งนานแล้วล่ะเอ็ง

เจียดเวลาให้กับอะไรหลายๆอย่าง วันๆนึงมีพลังและไฟในการทำงานเต็มไปหมดแต่เวลาไม่ทัน
อดนอนมากๆก็ไม่ดีต่อสุขภาพอีก
พักนี้ทำงานนั่งโต๊ะตลอดค่ะ รู้สึกปวดหลังปวดก้นบ่อยๆ
แม่บอกให้ออกกำลังกายบ้าง ให้แบ่งเวลาไปฟิตเนส
ทีนี้เราก็ทำงานอยู่บ้าน จะให้ออกไปข้างนอกเสียเวลารถติดเป็นชั่วโมงๆมันก็ไม่ใช่ ;v;
นี่เป็นเหตุผลที่คอนโดต้องมีฟิตเนสใช่มั้ยย!! ;;[];;
...กลับมาตายรังที่เดินหน้าบ้านเนี่ยแหละค่ะ....  :z6:


ฝนตก รักษาสุขภาพกันนะคะ
สำหรับคนที่ทำงานนั่งโต๊ะเหมือนกันก็อย่าลืมออกกำลังกายนะ!!


ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ค่ะ

ozaka*




 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:




ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
โอ้ยดีใจมากกก มาอัพแล้ว คิดว่าตาฝาด :heaven

เรื่องนี้ช่างดราม่าได้กระหน่ำซัมเมอร์เซลล์จริงๆ :mew6:
ตั้งแต่อักษรป่วยแล้วไม่พอ เทียนยังมาเข้าใจผิดอีก โอย เครียด :katai1:

มาต่ออีกเร็วๆน้าาา :mew2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2013 22:18:43 โดย Theomen »

ออฟไลน์ raluf

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
แง๊ ร้องไห้เลยอ่า เทียนจ๋า อย่าข้องใจในรักของน้องอักษรเลยนะ พี่สงสารน้องอักษรใจจะขาดแล้ว

Yukisae

  • บุคคลทั่วไป
พออ่านจบก็คิดได้ว่า ยังไม่น่าอ่านเลยยยย TT__TT
ดราม่ายิ่งกว่า3เรื่องที่ผ่านมา
แต่ก็ดีใจที่มาต่อนะคะ
 :o12:

ออฟไลน์ Thezetiv

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เครียดกว่าเดิมจริงๆ 555555555555
โอยยย ดราม่าอ้ะะะ
ตอนนี้หาความหวานไม่มี ฮืออออ
ดราม่าสุด ฉันสงสารลูกชายฉัน  :hao5: :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






aphro_dite

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกเหนียวคอเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างไรก็ไม่รู้
รู้สึกว่าคลื่นลมสงบแล้วมันต้องมีพายุแหงๆ คลื่นใต้น้ำนี่ก่อตัวกันเป็นพัลวัน ขยันซะจริงๆ

เดาไม่ถูกเลยว่าจะมีความสัมพันธ์กันแนวนี้ (จริงๆต้องบอกว่าไม่เคยเดามากกว่า)
อักษรดูยังไงก็เป็นคนฉลาดอย่างที่ว่าจริงๆ ทำอะไรถูกที่ถูกเวลาเสมอ
ขอแค่เทียนไขช่วยเข้าใจอักษรแล้วกัน หนูว่าอักษรคงรักเทียนจากหัวใจจริงๆ

...
รออ่านตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ #สรุปได้อ่านตอนสอบไฟนอลเทอมหน้านู้นล่ะ #มาเทอมละตอน OTL

ออฟไลน์ corn_rain

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เครียดที่ไม่อัพนะ
แต่พออัพทีนี่เครียดยิ่งกว่าเดิมเลยอ่า :sad4:

ออฟไลน์ fuwa79

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านๆดูพ่อเทียนจะเหมือนคนอ่านเข้าไปทุกที เอ๊ะ หรือคนอ่านเหมือนเทียน
แบบมองโลกในแง่ร้าย ดูเหมือนจะคิดเรื่องไปในทางที่แย่ลง ชอบสร้างดราม่าให้ตัวเองไงไม่รู้
อ่านๆไปก็โดนตัวเองเข้า จึก จึก 555

และอ่านๆไปอักษรก็เป็นตัวละครที่มีเงื่อนขำและเก็บความลับได้เก่งดีแท้
ห่างไกลจากตัวเองไปอีกมากโขเลย ในบางสถานการณ์ที่อำพะนำได้ขนาดนั้น
ทำให้รู้สึกว่าอะไรทำให้ใจเย็นได้ขนาดนี้กันแท้หนอ

คนอ่านสิจะคลั่งตาย อยากรู้

ตอนนี้อินไปกับหลายๆประโยคเลย
แบบมันโดน
เช่นการมีความสุขเรื่องเล็กๆ แค่รู้ว่าเฝ้าเขาตอนนอน จนตื่นมาแล้วเขายังสบายดีอยู่นี่มันมีความสุขขนาดไหน
โอ มายก็อด มันจี๊ดใจหลายยย
แบบนายเริ่มติ่งความรักแท้เข้าให้แล้วเทียน นายไม่รอดแล้ว

เพียงแต่นายมีเส้นคั้นบางๆที่เรียกความสงสัย อยากรู้ และความจริง
คือคนอ่านคิดว่าปกติเทียนมีทิฐิมากๆอยู่แล้ว ออกจะใจร้อนด้วย
เรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง ไม่ใช่ชาวบ้าน แถมเกี่ยวกับคนสำคัญที่สุด
ยังไงก็ทำใจให้เย็นได้ยากมากอยู่แล้วละนะ

ตอนอ่านตอนเทียนหันไปเห็นหน้าอักษรทำหน้าจะร้องไห้แต่เดินจากมา นีบ่อน้ำตาแตกเลย
นายนี่ดราม่าไปแล้วนะ เอสเหรอ เอ็มอีก บ้าๆๆๆ
แต่จะว่าไป ก็ชอบนะ ตอนนี้ 555
เริ่มรับได้กับความเยอะของเทียน เอ๊ะ เทียนบอกเอ๊ะยังไง

แต่เป็นใครก็ช็อคอะนะ รู้เรื่องหมดแต่ตัวเองมารู้ึคนสุดท้าย
แถมเหตุผลที่ไม่อยากให้รู้ ก็เพราะจะทำให้รู้สึกแ่ย่แบบนี้ด้วยแระนะ
เฮ้ออออ

เอาเป็นว่า ไม่เดา ว่าอะไรยังไง เพราะเดาก็ไม่ถูก แต่เรื่องน่าติดตามมั๊กๆๆๆ
อยากรู้ว่าทำไมอักษรถึงรักเทียนที่เป็นครอบครัวอุปถัมภ์ของพ่อแม่ตัวเอง
ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ไม่ได้เกิดจากปาฎิหารย์
แต่จะมีอะไรปาฏิหารย์ไปกว่าการที่คนสองคนใจตรงกัน
จริงไหมเทียน อย่าแต่ซึนไปเลย อักษรร้องไห้แล้วตัวเองก็เจ็บด้วยนะ เดี๋ยวจะหาว่าคนอ่านไม่เตือนน้าาาา อิๆ

หลังอีโม้บอร์ดนี้เยอะจัง ไม่รู้จะใช้รูปไหนเลย ขอใช้ อักษร มาบรรยายอย่างเดียวเลยแระกันนะคะ อิๆ

ออฟไลน์ ❥ʞαxiќɒ。

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ความรู้สึกหลังจากอ่านตอนนี้จบคือ...
ส่งตอนต่อไปมาเดี๋ยวนี้น้าาาาาาาาา!! ฮือออออออออ ค้างกว่าเดิมอีกกกเค่อะ!!! แงงงง T[ ]T
 :z3: :z3:

กำลังหวานๆอยู่ดีๆ.. ทำไมหลังๆดราม่าขนาดนี้..

สงสารทั้งเทียน ทั้งอักษร..
อยากให้เทียนเชื่อใจอักษรนะ เชื่อในความรักของอักษรสิ!  :sad4:

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ลงมาอ่านคอมเม้นต์ด้านล่างก่อนเลย มันดราม่าเหรอแงงงงงงงง ไม่กล้าอ่าน เอาเป็นว่าจะรอตอนหน้าอัพก่อน แล้วค่อยอ่านรวบเดียวดีกว่านเอะ T^T

ดีใจที่มาต่อค่ะ

ออฟไลน์ raviiib❁

  • คนเขียนนิยาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
ดราม่าน้ำตาแตกอย่างต่อเนื่องค่ะ พฮรืออออออออ
รอตอนต่อไปค่ะ เทียนอย่าเพิ่งโกรธอักษรน้า :m15:

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
โอ้โหหหหหหหหห ถึงต้องขยี้ตาซ้ำๆว่าอัพจริงๆ
เกือบลืมตอนก่อนหน้านี้ไปเลยนะเนี่ยยย พี่โอซากะคะหนูขอโทษ 5555555555
เพราะแท็กรักร้ายในทวิตรึเปล่าคะ ที่ทำให้พี่ฮึดมาแต่งได้
แต่ทำไมดราม่าขนาดนี้ T_____T
ต้องภาวนาให้มะรืนนี้พี่กลับบ้านเร็วแล้วล่ะ

ออฟไลน์ isBelle__

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
บางทีที่อักษรเค้าไม่ยอก เค้าอาจจะรู้ว่าถ้าเป็นคนบอกเทียนเอง เทียนจะเจ็บมากกว่าเดิมป่าว ไม่รู้
แต่ไม่อยากให้ดราม่าเลยอ่ะ แค่เรื่องความเจ็บปวดจากอะไรก็ตามที่อักษรเป็นอยู่ก็สงสารแล้ว
เทียนอย่าหนีหายไปเลยนะ เป็นตอนที่เปิดมาหวาน แต่จบแบบดราม่าคลุมเครือ ครบรสจริงๆค่ะ

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
ไม่นะ เทียน อย่าช็อคมาก กลัวหนูษรจะช็อคก่อนนี่สิ :katai4:

ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 746
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
นี้มันอะไรกันเนี่ย

เทียนคงช๊อคสุดๆอ่า  อย่าคิดไปเองเน้อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
กลับมาก็มาดราม่าต่อเลยสินะ TT^TT

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
อ่านแล้วในอกมันจิ๊ดๆแปลกๆ

หายไปนานเลย สู้ๆนะครับ ปีสุดท้ายเหมือนกัน :L2:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
ต้องให้เวลาเทียนบ้าง มันเกินกว่าเด็กคนนึงจะรับและเข้าใจมันได้ในสภาพที่จิตใจของเขาซึ่ีงจริงๆแล้วไม่ได้แข็งแกร่งอะไรเลย


และสภาพจิตใจตอนนี้ ก็แกว่งไกว จากอาการของคนที่ ถือว่า้เป็นคนที่รักและสำคัญ แล้วก็ต้องมารู้มาตอกย้ำว่าพ่อ ไม่เคยคิดจะรักหรือดีใจกับการเกิดมาของเขา


เลยทำให้พาลสงสัยไปกับความรักขององศาอีก สู้ๆนะเทียน

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
มันหน่วงใจ เทียน&องศา สู้สู้  :o12:

ออฟไลน์ uzosou

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ตามอ่านรักร้ายมาตลอดเลย แต่เรื่องเทียนไขกับอักษรนี่

แอบรอให้พี่โอแต่งจบนะตอนแรก ฮ่าๆๆ แต่ก็อดใจไม่ไหว

คือเพื่อนอ่านไงแล้วมันมาไซโค เทียนไขหล่ออย่างงั้นอย่างงี้ ไอ้เราก็ต้องมาพิสูจน์หน่อย

ซึ่งพอมาอ่านแล้ว เป็นชีวิตรักที่แตกต่างจากรักร้ายคนอื่นๆเลยนะ

เราว่าไม่หวือหวา และไม่ใช่ดราม่าน้ำตาแตกด้วย ความรู้สึกตอนอ่านแล้วเหมือนเมฆฝนก่อในใจอ่ะพี่ แต่ฝนไม่ตก

แต่มันครึ้ม อึนๆ เทาๆ ไปหมด คืออาจจะเพราะสำหรับเรา อักษรเป็นคนแปลกๆ แต่ไม่ใช่ไม่ดีนะ น่ารักมาก ฮ่าๆๆ

เก่งมากด้วยที่เจาะเข้าใจเทียนไขได้ไวมาก น่าจะมาขอคบแต่แรกนะลูกนะ

แต่อ่านตอนที่15แล้วนี่รู้สึกทะมึนของจริงเลยค่ะ

คืออินกะเทียนไขมาก สงสารนะเข้าใจความรู้สึกแบบเห้ย มีไรไม่บอกวะ นี่กุไม่รู้คนเดียวเลย

เศร้าอ่ะ แล้วอักษรก็วิ่งมาอธิบายไม่ได้ด้วย อย่าโกรธกันนนานนะลูก ใช้เวลาให้คุ้ม T^T(ไม่ๆ!อักษรต้องไม่เป็นไร พี่โอใจดี )

เรื่องที่ช็อคที่สุดที่อ่านในเรื่องนี้คือ องศาหนุ่มน้อยของป้า เป็นน้องอักษร ฮ่าๆๆๆ

ช็อคจริงๆนะ แบบเห้ยยยยย นึกว่าอักษรลูกคนเดียวอ่ะ ฟีลไม่น่าเป็นพี่ได้ และไม่น่ามีน้องแบบองศา ฮ่าๆๆ

คืออักษรดูหวานๆนะ บอกไม่ถูก ไม่เหมือนคนที่เป็นพี่ แล้วน้องชายจะติดงอมแงมด้วย

เรื่องนี้สีกาม เอ๊ยสีครามแอบออกเยอะนะยะ >< คิดถึงกานดา (ไม่เกี่ยว)

มาต่อไวๆนะคะ หนูใจจะขาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :mew2:

ออฟไลน์ sunshine538

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
กำลังเชียร์ให้เทียนรุก (??!!) อักษรอยู่ดีๆ เทียนก้าวหน้าถึงขั้นขออยู่เฝ้าห้องให้ทั้งคืนแล้วนะ
วิมานพังทลายเฉยเลย  :z3:

อักษรผู้น่าสงสาร... เทียนผู้น่าสงสาร...

ว่าแล้วก็เดินออกไปทำใจเงียบๆ  :sad2:

รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :call:

ออฟไลน์ krit24

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
มาม่าอย่างต่อเนื่อง อ่านแล้วน้ำตาแตก

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
เศร้ากว่าเดิม เหอะๆ

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
ที่ว่า   '...เรื่องที่ผมรักคุณ  มันไม่ใช่เหตุบังเอิญหรือพรหมลิขิต...'
แล้วมันยังไง ทำไมเทียนต้องคิดแง่ร้ายด้วย
อักษรอาจจะมองเทียนมานาน และค่อยๆเกิดเป็นความรู้สึกดีๆ มากขึ้นเรื่อยๆก็ได้นะ
แต่เข้าใจว่าเทียนคงรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เสียศักดิ์ศรี ว่าครอบครัวตัวเองต้องรับความช่วยเหลือจากครอบครัวอักษรน่ะ

ออฟไลน์ amito

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-0
เทียนจ๋า ฟังอักษรก่อน อย่าเพิ่งไปแบบนี้เลย โฮ    :hao5: อักษรไม่สบายอยู่นะ อย่าไปทั้งๆที่เทียนยังเจ็บแบบนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด