“อีฝิ่น พี่ไผ่มาแน่เหรอ”อีออยถามผมหลังจากออกจากผับหลังเข้าไปแค่สองชั่วโมง มันรู้สึกเนือยๆกัน บอกเอาไว้คราวหน้าจัดเต็มดีกว่า
“อืม มันกำลังมา”ผมบอกมันที่นั่งข้างๆ อีโมนิคลากอีนีสองตัวกลับไปก่อนแล้ว ไอ้โอมไอ้อาร์มสยืนยิ้มเล่นไอโฟน สงสัยแกล้งไอ้ต้าร์แน่ สักพักมันก็มาผมก็ลุกขึ้นโบกมือให้พวกมันก่อนจะขึ้นรถไป
“ห้ามอ้วก”มันหันมาบอกยิ้มๆ
“เยี่ยวได้ไหม”ผมก็กวนมันกลับ “เห่ย ไปไหนเนี่ยะ”ก่อนจะรู้สึกว่าไม่ใช่ทางกลับห้อง
“โรงแรม”มันบอกมียิ้มกริ่มด้วย ผมชอบเวลามันยิ้มและทำตาเจ้าชู้ใส่ มันเซ็กซี่ดีต่างจากเวลาที่มันทำหน้านิ่งๆ
ผมขยับเข้าไปใกล้ เอามือลูบคางมัน”ขอห้องสวีทนะ เตียงมันน่าจะเด้งดี”กระซิบข้างหูมันไปด้วย
“มันอยู่ที่คนทำไม่ใช่เตียง”มันก็บอกผมกลับมาบ้าง เอามือลูบหัวผมที่พิงไหล่แต่ตามองข้างหน้าตลอด
“คนถูกทำก็มีส่วนนะ”ผมบอกมันไปอีกยกยิ้มใส่
“ไม่เชื่อ ต้องลอง”มันก็พูดอีก ผมเอามือโอบคอกระซิบใส่หู
“ยังไม่พ้นโทษเลยนะ คริคริ”ผมก็ยักคิ้วให้มันไปสองจึ๊ก
“เซ็งว่ะ กูอุตส่าห์บิ้วยังไม่หลงกลอีก”มันผลักหัวผมออกทันทีเลย ผมหัวเราะชอบใจที่ทำมันเซ็งได้ แต่มันอมยิ้ม ก่อนจะเลี้ยวเข้าโรงแรมหรูมากริมแม่น้ำ ก่อนลงไปผมหยิบน้ำหอมมาแต้มอีกหน่อย ฉีดสเปรย์ดับกลิ่นเหล้า
“ที่จริงกูกลับพร้อมไอ้พวกนั้นก็ได้ มึงจะได้ไม่ต้องลำบาก”ผมเดินไปกอดข้างหลังมัน ที่ล็อครถอยู่ มันหันมากอดรวบผม ก่อนจะจูบปิดปากสอดลิ้นให้ผมจูบตอบ เรารู้อยู่แล้วว่าต้องการอะไร ผมแกล้งมันไปงั้นแหละถ้าคืนนี้มันต้องการผมก็สนองให้อยู่แล้วไม่ใช่ด้วยความอยากแต่เป็นด้วยความรัก
“ไม่อยากนอนคนเดียว”มันบอกก่อนจะจูบปากที่เผยอยิ้มอย่างพอใจของผม
“ก็เหมือนกันแหละ”ผมบอกมันกลับไปบ้าง จะว่าติดแล้วมั้งถ้านอนไม่ได้กอดมันผมนอนไม่ค่อยหลับ ยิ่งเวลามันกล่อมโดยการเกาหลังให้ยิ่งชอบ อารมณ์ดีก็จะร้องเพลงให้ฟังด้วย มันก็ยิ้มรับ
”ไปข้างในก่อน”มันจูงมือให้ผมเดินแต่ยังไม่ถึงไหนมันเดินกลับไขรถอีกครั้ง ผมก็มองว่ามันทำอะไร พอได้เห็นทำเอาอดหัวเราะน้อยๆไม่ได้ มันหยิบเสื้อคุมที่ติดรถไว้มาใส่ทับเสื้อกล้ามลายธงชาติสหรัฐที่ผมใส่อยู่
“กลัวกูหนาวเหรอ”ผมถามยิ้มๆ มันเอามือกอดคอ
“ต้องให้บอกเหรอ กูหวง”มันก็ตอบกลับเรียบๆ แต่ยิ้มทั้งปากทั้งตา ก่อนจะเดินจูงมือผมเข้าไปในนั้น
“น้อง มิสเตอร์โทนี่ เจ้านายพี่”มันแนะนำผมให้รู้จักโทนี่ ที่ยิ้มยื่นมือมาแต่ผมลืมตัวยกมือไหว้ ก็เลยคาดกัน ก่อนจะรีบยื่นมือไปจับใหม่
“ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไร ดีๆๆ มารยาทไทย หล่อไม่ใช่เล่นนะเนี่ยะ”โทนี่หัวเราะอย่างเอ็นดูพร้อมชมผมไปด้วย ยายป้าพิมยืนอยู่ตรงนั้นกับแขกอีกสองคนหันมามองนิดหน่อย ก่อนจะหันไป สักพักก็เดินกลับมา
“อ้าว มาได้ไงล่ะ”ยายคุณพิมทำเป็นอุทานที่เห็นผม
“ผมไปรับมาเองครับ”พี่ไผ่ของผมเป็นคนตอบแทน
“เหรอ พิมก็นึกว่าไผ่ไปไหนซะอีก”หันไปยิ้มและพูดเสียงหวานมือก็เริ่มจับมันอีกแล้ว ผมยอมรับว่าเธอสวยจริงๆ หน้าตาห่างจากคำว่าป้ามาก ถ้าไม่คิดจะมางาบไอ้ไผ่นะ ผมไม่เรียกอย่างนี้หรอก ก่อนจะพากันนั่งแต่ไม่คุยเรื่องงานหรอกคุยเรื่องอื่นซะมากกว่า ไอ้ไผ่บอกว่าโทนี่เลี้ยงที่งานผ่านไปด้วยดี ไม่มีใครรู้มาก่อนเรียกว่าเซอร์ไพรส์พนักงานมากกว่า พี่แน็คกับพี่อาร์ทพอเห็นผมก็เดินมาคุยด้วยทันที ถามหาพวกเพื่อนมันด้วย งานก็เป็นไปอย่างสนุกสนานดี ยายป้าตอนนี้ดูเป็นผู้บริหารที่ดีมากไม่มีทีท่าว่าจะเป็นอย่างที่คิดเลย คุยให้คำปรึกษาแบบเป็นกันเองไม่ได้ทำโดยเสแสร้งด้วย ทำไมต้องมายุ่งกับคนของผมด้วยนะ
“เมายัง”มันกระซิบถามผม หลังจากเห็นผมจิบไวน์ไปหลายอยู่ รสชาติกลมกล่อมมาก นึกไปถึงตอนที่ไปงานวันเกิดพี่โดมและคืนนั้นเราก็มีอะไรกัน ขำที่มันขอผมตรงๆไม่มีประเลาะด้วยถ้อยคำหวานๆ จนอดหัวเราะไม่ได้
“ขำอะไร”มันถามอีก ดูมันไม่สนใจใครเลยที่มองมา
“เปล่า เขยิบไปหน่อยสิ”ผมบอกก่อนจะดันมันนิดหน่อย ผมไม่ได้อายที่เราเป็นแฟนกัน แต่ผมกลัวคนที่ทำงานมันเขาจะว่าเอาได้ คนชอบก็ดีไป คนไม่ชอบก็ว่าเราเสียหาย ผมไม่อยากให้ใครมองพี่ไผ่ของผมไปในทางไม่ดี
“ทำไม”มันถามแต่มือกระชับเอวผมเข้าไปอีก พี่แน็คกับพี่อาร์ทรู้อยู่แล้วเลยทำเป็นคุยกันไม่สนใจ โทนี่กับแขกที่เป็นฝรั่งเหมือนกันก็ไม่ได้สนใจ ยายพิมมองแต่ไม่แสดงอาการอะไร พี่ไปป์กับพี่รินทร์ก็ยิ้มๆ พี่วิวที่ออกสาวยิ้มพร้อมทำหน้าแบบอิจฉาหน่อยๆ พอกับพี่สองสาวที่ทำเสียงวี๊ดว้ายเบาๆ ไม่ได้มีทีท่าไม่ชอบแต่อย่างใด แต่ผมก็อายอยู่ดี
“พี่ไผ่ ไม่ใช่ที่ห้องนะ”ผมเตือนมัน ก่อนจะมองไปรอบๆให้มันรู้จะได้ผละออก แต่ไม่มีประโยชน์เลยกลับโน้มหน้าเข้ามาอีก
“แล้วไง”มันก็หน้าตายเช่นเคย
“ก็คนมอง น้องไม่รู้จักเลยไม่ชิน”ผมบอกออกไปถ้าเป็นต่อหน้าเพื่อนมันเพื่อนผมหรือที่บ้านผมไม่อายหรอกเต็มที่เลย
“อายเป็นด้วย”มันก็ถามยิ้มๆอีก
“เออสิ เอาไว้ชินก่อนจะจูบปากโชว์เลย”ผมบอกแกมเหน็บไปด้วย
“จูบเลยไหม”มันก็ยื่นเข้ามาอีกทำท่าจะทำจริงๆ
“เฮ้ย”ผมร้องเบาๆ ก่อนจะเมินหน้าออกไปทางริมน้ำแก้เขิน
“รู้นะว่าคิดอะไร”มันก็หันมาพูดใส่ผมอีก
“อะไร”ผมย้อนถามมัน
“ถ้าทายถูกล่ะ”นึกแล้วฟรีไม่มีหรอก สำหรับพี่(หื่น)กาม
“ไม่ได้อะไร”ผมก็ลอยหน้าบอกมัน
“หึ ทนให้ได้แล้วกัน”มันบีบจมูกผมพูดจาดูได้ถูกมาก
“ตอบมาสิ”ผมท้ามันอีก
“นึกถึงวันที่เสียตัวให้กูล่ะสิ”มันตอบด้วยความมั่นใจมาก ผมอึ้งเงิบไปเลย
“ไม่ถูก”ผมบอกมันหยิบไวน์กระดกเข้าไปอีก ไม่ละเลียดแล้วกู
“ไอ้หนอน กูทายถูกก็บอกมาเถอะ”มันทำเสียงล้อผมอีก ผมเลยบิดมันแทน รู้ได้ไงวะ หน้ากูนี่ปิดบังอะไรมึงไม่ได้เลยไง
“คุยอะไรกันคิกคักเชียว คุยด้วยได้ไหม”เสียงขัดขึ้นทำเอาผมหันไปมอง ไอ้ไผ่ทำหน้าเฉยๆ ผมอยากจะบอกว่าคุยเรื่องได้กันครั้งแรกและก็ไม่อยากให้นั่งด้วย แต่เกรงว่าจะกลายเป็นการทำร้ายจิตใจสตรีสูงอายุได้
“เชิญครับ”ไอ้ไผ่เลยต้องตอบไม่ให้เธอเสียหน้า เธอนั่งลงตรงข้ามมัน ว่าแต่ลุงวัฒน์ไปไหนวะไม่ยักกะมาขัดคอ ไอ้ไผ่บอกมันคุยกับลุงแกรู้เรื่องแล้ว มันไม่ได้บอกอะไรมากพูดแค่ว่าดูลุงจะมีใจให้ยายพิมแต่ทางนี้ไม่เห็นใจเท่าไร ผมก็รับทราบอย่างเดียว มันกำชับผมว่าเจอก็อย่าเรียกเขาว่าลุงอีกล่ะ ผมก็ทำหน้าเอ๋อใส่มันไป
“เออ ไผ่ โทนี่เรียกแหนะ”คุณพิมทำท่าเหมือนนึกขึ้นได้ ก่อนจะชี้ไปทางโทนี่ที่พยักหน้าให้มัน
“เดี๋ยวมานะ”มันบอกผมด้วยประโยคธรรมดา แต่แววตาสั่งว่าอย่ามีเรื่องนะจ๊ะจะบอกให้ มันก็เดินไป ไม่ต้องสงสัยอยู่กันสองคนจะปรองดองหรือคุยเรื่องธรรมมะสยบราคะคงไม่ใช่ ผมก็เงียบไว้ก่อนผัวบอกไว้
“ไผ่ นี่ดูดีนะทั้งการวางตัว การทำงาน คิดอย่างนั้นไหม”เธอเอ่ยออกมาอย่างชื่นชมมัน
“ครับ”ผมก็ตอบเธอสั้นๆ ยกไวน์ขึ้นจิบอีก
“แถมมีน้ำใจคอยช่วยเหลือตลอดเวลาออกไปข้างนอกสองคนทีไร ไม่ใช่แบบที่ทำต่อหน้านะ ลับหลังนี่ต่างกันเลย ฉันชอบมากรู้สึกดีที่มีคนดูแล เป็นผู้ชายที่อบอุ่นขัดกับบุคลิคมาก”เธอยังพูดเรื่อยๆ ชมไม่ขาดปาก ยกยิ้มใส่ อีกแล้วเริ่มจะให้กูปากเสียใส่อีกแล้ว
“อืม ผมก็ว่างั้นเวลาพี่ไผ่เขาช่วยเหลือคนมีอายุทีไร พวกป้าๆยายๆก็ชื่นชมอย่างนี้ทุกที ไม่คิดว่าคุณพิมจะรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน”ผมพยักหน้ารับก่อนจะพูดต่อไปด้วยความชื่นชมผัวไม่ต่างจากเธอ หุหุ เธอชักสีหน้าก่อนจะพูดต่อ
“เธอคงจะภูมิใจสินะมีพี่ชายแบบนี้”เธอพูดกับผมยิ้มๆ ทำเอาผมอึ้งนิดหน่อยว่าเธอไม่รู้จริงๆเหรอ
“ผมภูมิใจ แต่คุณคงเข้าใจผิดเรื่องที่เขาเป็นพี่ชาย ผมว่าอายุขนาดนี้ผ่านอะไรมาคงไม่ใช่น้อย ไม่น่าจะไม่รู้นะ”ผมก็พูดกลับเธอยิ้มๆเหมือนกัน
“อ้าว เหรอ เห็นเรียกแทนตัวว่าน้อง ก็เลยนึกว่าพี่น้องกัน”เธอยังทำเสียงทำหน้าแอ๊บนอมอล์ต่อไป
“สถานะอื่นเขาก็ใช้เรียกกัน อย่างผัวเมียไง คุณพิมมีโอกาสได้ใช้เรียกไหมล่ะ”ผมก็บอกไปอีก ทำเอาเธอหุบยิ้ม
”ผมเบื่อที่จะอ้อมค้อมถอนงอกคุณเต็มทีแล้ว พูดตรงๆมาเลยดีกว่า”ผมพูดออกไปอย่างไม่รักษามารยาทแล้ว
“เก่งนี่ ฉันดูเธอผิดไปจริงๆ วัยขนาดนี้พูดจาวางตัวฉลาด ไม่โวยวายเหมือนเด็กเสียของทั่วไป”เธอยักไหล่พูดใส่ผม ก่อนจะจิบบ้างหลังจากฟังมานาน
“ผมยังไม่ได้เสียของ และไม่มีทางจะเสีย แน่นอน”ผมก็เน้นทุกถ้อยคำบอกไปอีก ผมสองคนไม่มีเรื่องแบบนี้มานานแล้ว ถึงที่ผ่านมาจะแทรกแซงให้ระคายใจระคายปากบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ครั้งนี้ก็ไม่ใหญ่สำหรับผมแต่มันติดที่ว่าไอ้ไผ่มันเพิ่งเริ่มต้นทำงานที่นี่ ผมไม่อยากสร้างความลำบากให้มัน อยากให้มันแสดงความสามารถในงานที่มันรักให้เต็มที่ กลับกลายเป็นคนในที่สร้างความอยากจะดันมันซะเอง
“แน่ใจขนาดนั้นเลยเหรอ เด็กน้อย”เธอยื่นมือจะมาจับปลายคางผม แต่โดนผมจับไว้ซะก่อนดึงเธอเข้ามาใกล้ๆ ทำเอาเธอผงะไปเมื่อผมยกยิ้มพูดใกล้ๆเธอ
“คุณพิม กับคนอื่นๆคุณใช้เวลานานไหมกว่าจะได้น่ะ บอกหน่อยสิ”ผมจับบีบข้อมือเธอลงไปอีก ไม่แรงนักหรอกแต่ทำเอาเธอนิ่วหน้าได้ “ทำไมล่ะ พูดไม่ออกเหรอ ผมไม่ได้แอ๊บแบ๊วอย่างที่คุณคิดหรอกนะ แค่สงเคราะห์ความสนุกให้ชั่วครั้งชั่วคราว”ผมบอกเธอไปอีก ตอนนี้คนเริ่มทยอยกลับไปบ้างแล้ว โอกาสโคตรดีเลย
“เธอไม่กลัวว่าฉันจะยกเลิกงานของเขาเหรอ ฉันสนใจเขาก็จริงแต่ฉันจะไม่เอาก็ได้ถ้ายังไม่ปล่อยข้อมือฉัน”เธอพูดขู่ผมโดยเอาเรื่องงานมาอ้าง ผมหัวเราะออกมาทำเอาเธออึ้งไป
“นี่ คุณพิม คิดว่าบริษัทคุณแน่แค่ไหน ถึงเขาไม่ทำงานบริษัทคุณก็ไม่เดือดร้อนอะไรเลยสักนิด ผมโล่งใจด้วยซ้ำถ้าเขาจะบอกเลิกตอนนี้เลยก็ได้ แต่ที่เขายังทนอยู่ไม่ใช่เพราะคุณหรือว่าค่าจ้างที่มันยั่วใจหรอก เขาแค่ต้องการรับผิดชอบงานให้มันเสร็จ ถ้าคุณไม่ย้ายสมองและลูกตาไปที่ตาตุ่มคงจะดูรู้นะ”ผมแสยะยิ้มพูดใส่เธอแบบชัดถ้อยชัดคำไปเลย
“เด็กเมื่อวานซืน คิดว่าฉันจะกลัวเหรอ”คุณพิมสะบัดมือออกผมก็ยอมปล่อย
“ใช่ ผมเป็นเด็กเมื่อวานที่จะโตเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า แต่คุณเนี่ยะสิเป็นผู้ใหญ่คงไม่โตแล้วนอกจากจะรอไปเกิดเป็นเด็กใหม่ในชาติหน้าอย่างเดียว”ผมเน้นฟันพูดใส่เธอไปอีก ทำเอาเธอเม้มปาก กำมืออย่างระงับอารมณ์”จุ๊ๆ ระวังความดันขึ้นนะเกร็งซะขนาดนี้”ผมทำมือพร้อมกับยื่นหน้าไปบอกอีกไม่ให้เธอพูดแทรก
“อย่ามาฝากอะไรไว้กับผม ๆ ไม่ชอบรับฝาก ถ้าคุณยังดื้อดึงยื้อให้เรื่องมากตามเหนียงคุณล่ะก็ ผมจะบอกตรงนี้เลย อายุ เพศ และสถานะภาพคุณไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม อีกอย่างชีวิตคู่ผมหรือของคนอื่นไม่ใช่ของเล่นหรือก๊อตทาเล้นที่คุณมีสิทธิ์จะกดให้ผ่านหรือไม่ให้ผ่าน”ผมพูดขัดเธอขึ้นมาอีกด้วยสีหน้าที่จริงจัง ต่างจากทุกครั้งที่ยั่วประสาทเธอเล่นๆ เธอผงะไปนิดเมื่อได้ฟังจนจบ
“หึ ฉันจะรอดูว่าขาเตียงของพวกเธอมันแข็งแรงแค่ไหนถึงไม่หักน่ะ ขนาดหินมันยังกร่อนได้เลย”เธอยังมีแรงแช่งผมต่อพูดใส่แบบเหยียดๆอีก
“อยู่ให้ถึงนะครับและผมมีวิธีป้องกันถ้ากลัวเตียงหักก็นอกฟูกสิ จะไปยากอะไร แค่มีที่รองรับเวลาทำกันแล้วไม่เจ็บหลังก็พอแล้ว”ผมก็พูดกวนเธอไปอีก
“เด็กเวร ก้าวร้าวที่สุดเกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ มารยาททราม”เธอเหลืออดลุกขึ้นชี้หน้าว่าผมที่นั่งกอดอกยกขาไขว้ห้าง
“แหม แม่คนพูดเพราะมารยาทงามแต่การกระทำตรงกันข้ามสิ้นดี จำเอาไว้ก็ดีนะครับ หาดูไม่ได้ง่ายๆ”ผมพูดยิ้มๆใส่เธออีก ก่อนจะยกไวน์ขึ้นมาจิบทำเอายายป้าเชิดหน้าจะเดินไปอยู่แล้ว
“น้อง คุณโทนี่จะกลับแล้ว” พี่ไผ่ของผมเดินกลับมาพร้อมกับบอก ผมเลยต้องลุกไปลาเขา คุยกันนิดหน่อยก่อนโทนี่จะเดินออกไป ที่เหลือก็เริ่มแยกย้ายกัน ยายป้าพิมก็เดินมาหามันทันที
“ไผ่ พิมขอคุยด้วย”เธอพูดเสียงเรียบๆ
“เชิญครับ”ไอ้ไผ่มันก็ตอบรับ
“น้องไผ่พูดจาก้าวร้าวพิมมาก ไม่สนใจเลยว่าจะกระทบกับงานไผ่แค่ไหน ทั้งที่รู้ว่าพิมเป็นใคร ก็ยังทำพูดจาหมิ่นประมาทใส่”เธอพูดออกมาอย่างคงจะเหลืออดกับผมแล้ว มันหันมามองหน้าผม
“พูดจริง”มันเลิกคิ้ว ยายคุณพิมเหมือนจะยิ้มๆ
“เออ”ผมก็รับคำ ทำเอาเธอมองผมเหมือนจะงง ว่าทำไมรับง่ายจัง
“พิมบอกตามตรง รับไม่ได้กับกิริยามารยาทของน้องไผ่”เธอพูดใส่ผมเข้าไปอีก
“แล้วจะให้ทำยังไงครับ”ไอ้ไผ่หันไปถามเธอ ที่ยิ้มออกมาได้
“ก็ขอโทษพิมซะ แล้วจะไม่เอาความ เราก็ยังทำงานร่วมกันได้ พิมพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว”เธอเอ่ยความต้องการออกมา เอามือกอดอกมองผมด้วยท่าทีที่เหนือกว่า
“ว่าไง”มันหันมาถามผม
“ไม่ว่าไง ไม่ขอโทษ และออกจากงานนี้ซะ”ผมยักไหล่ก่อนจะเน้นเสียงบอก จ้องหน้าเธอเขม็ง
“เอางั้นเหรอ”มันถามผมอีก
“อย่าให้น้องพูดซ้ำ”ผมบอกไปอีก ยายคุณพิมหน้าเหวอเลยครับ
“ก็ได้ นี่ไม่ได้กลัวนะบอกไว้ก่อน”มันยอมรับก่อนจะพูดยิ้มๆใส่ผมที่ยิ้มแป้นเกาะแขนมัน
“ไผ่ เธอจะบ้าเหรอ แล้วงานเธอล่ะ”ยายป้าพิมร้องท้วงทันที
“ก็หาใหม่”มันก็ตอบสั้นๆ
“ไผ่ นี่ ธะ”ยายพิมเรียกมันอีกจะพูด แต่โดนขัด
“ผมคุยกับโทนี่แล้ว เขาไม่ได้ว่าอะไร ถ้ามีงานเขาจะติดต่อผมเอง”พี่ไผ่ของผมบอกเหตุผลเธอไป ทำเอาเธออึ้งพูดไม่ออก”ผมขอบคุณสำหรับความกรุณาที่มีให้ ผมยอมรับคุณในเรื่องงาน แต่ถ้างานที่ทำร่วมกันมันทำให้ผมกับ เมีย มีปัญหาและลามไปถึงคุณ ผมก็คงต้องพิจารณาตัวเองโดยการลาออกไปเอง ลานะครับ”มันพูดต่อไปเน้นสถานะภาพผมให้เธอฟังชัดๆ อีกก้มหัวให้นิดหน่อยเป็นการลาและจูงมือผมเดินไป
“ไผ่ เดี๋ยวก่อน ไผ่”เสียงเธอเรียก แต่พวกผมก็ไม่ได้หันกลับไป พอพ้นตรงนั้นมันกอดไหล่ผม ๆ มองหน้ามันเอามือกอดเอว
“ทีนี้มีเวลาให้พอไหม”มันถามผมยิ้มๆ
“เหลือเฟือเลย”ผมก็ตอบมันยิ้มๆ ก่อนจะพูดต่อ”แต่ดีแล้วเหรอ”
“ดีแล้วล่ะ ถึงไม่เกิดเรื่องกูก็ว่าจะไม่ทำต่อแล้ว มันก็แค่เป็นการเริ่มต้น เอาไว้เรียนจบค่อยวางแผนใหม่”มันบอกผมอีก ทำเอากอดมันแน่นเลย”มึงก็ทำใจหน่อยนะ”มันพูดต่ออีก ผมขมวดคิ้ว
“อะไรอีกล่ะ”ผมเลิกคิ้วถาม มันอมยิ้ม ก้มมากระซิบใกล้ๆ
“ก็มีผัวหล่อไง”พูดจบมันจูบหัวผมดังฟอด
“ฮ่าๆๆๆ หลงตัวเองว่ะ”ผมหัวเราะว่ามันพูดต่อไปอีก “แต่ก็เรื่องจริง มึงก็เหมาะกับคนหน้าตาดีอย่างกูแล้วล่ะ”ทำเอาหัวเราะกับความหลงตัวเองด้วยกันทั้งคู่
“ไอ้กากเอ้ย”มันว่าผมอย่างหมั่นไส้เอามือโยกหัวไปมา
“เฮ้ย ไม่ไปที่รถล่ะ”ผมท้วงเมื่อเห็นมันพาผมเดินเข้าลิฟท์ พอปิดได้มันจูบผมทันที แม่ง ไม่อายกล้องไงวะกลัวน้อยหน้าต้องตอบรับไป
“ไหนๆก็มาแล้ว ลองห้องสวีทก็ดีนะ”มันผละออกบอกผมที่ทำหน้านึกไม่ถึง
“จริงอ่ะ”ผมถามย้ำ มันก็ยักคิ้ว”แต่มันแพงนะ เปลืองเงิน ไม่เอาหรอก มึงบอกเองไม่ใช่เหรอว่าอยู่ที่คนทำไม่ใช่เตียงสักหน่อย”ผมแย้งมันเพราะคืนหนึ่งโรงแรมระดับห้าดาวราคาไม่ใช่เล่นๆ มันหัวเราะชอบใจกับประโยคหลังทำเอาคิดได้ว่าพูดเรื่องน่าอายออกไปอีกแล้ว
“เถอะน่า นานๆผลาญเงินกันสักที กูจองไว้แล้วด้วย หรือจะให้คนอื่น อุ๊บ”มันบอกชิวๆก่อนจะทำหน้าเจ้าเลห์บอก ผมเลยต่อยท้องมัน
“ฝันไปเถอะมึง เรื่องอะไรจะให้คนอื่นมาผลาญ”ผมเน้นฟันบอกมัน พอลิฟท์เปิดเดินถึงหน้าห้องที่มันบอกจองไว้”เดี๋ยวน้องจะผลาญเองทั้งเงินทั้งตัวเลย อย่าพูดนะว่าพอแล้ว ไม่ปล่อยหรอก”ผมบอกมันยิ้มๆ โน้มคอมันลงมาจูบแม่งตรงหน้าห้องนั่นแหละ มันก็จูบตอบกลับมา มือก็รูดคีย์การ์ดไปด้วย
“ใครกันแน่ ครวญเมื่อไรมีซ้ำ”มันบอกผมด้วยเสียงที่ผมชอบ
“แล้วถ้าครางล่ะ”ผมถามมันเสียงยั่วๆมือก็ลูบหน้าไล่ลงมาอก มันยกยิ้มอุ้มผมเข้าเอว
“ก็ดีสิ แจกโบนัสเพิ่มให้อีก หึหึ”ก่อนจะดึงเข้าห้องไปฟัดต่อทันที เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้ว่าเข้าห้องแล้วผมทำอะไรกัน ให้พี่ไผ่เขาเล่าให้ฟังเองแล้วกันเน๊าะถ้าเขาอยากเล่านะ ตอนนี้ผมพูดไม่ออกแล้วครับตื้นตันเพราะกำลังจะโดนผลาญทั้งตัวทั้งใจ หุหุ
**********************************************************************************************
ปล. จะเคลียร์ยังไง ผัวเมียคู่นี้เขาก็นอนเคลียร์ให้เพลียกันไปข้างเลย พอดีเขาปิดห้องตามไปส่องมาเล่าไม่ทัน เอาไว้คราวหน้านะ ขอไปถามพีไผ่ก่อนเดี๋ยวเขาว่าเอา แต่คิดว่าคงเบื่อไม่อยากฟังหรอกมั้งเน๊าะ เขาแอบน้อยใจที่มีแต่คนสงสารก้นหนูฝิ่นไม่มีใครเห็นใจหูพี่ไผเลย หุหุ แว่บมาลงก่อน อ่านโลด
********เจอกันช่วงเย็นๆคะ ไม่น่าจะเกินห้าโมง ขอบคุณคะ