แสงสุรีย์ แนวจักรๆวงศ์ จร้า ตอนจบ 4/9/12 P 3 ^_^
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แสงสุรีย์ แนวจักรๆวงศ์ จร้า ตอนจบ 4/9/12 P 3 ^_^  (อ่าน 43756 ครั้ง)

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
 :3125:ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง
ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,
ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง
ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก
ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ
กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว
ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง
ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะ
เสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น
คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว
ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย
และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย
เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ
ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ
ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ
โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2012 03:31:21 โดย pita »

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
เรื่องสั้นเรื่องนี้เกิดจาก อารมณ์ชั่ววูบของพิตเองค่ะ
บังเอิญว่ากลับบ้านแล้ว ได้ดูละครจักรๆวงศ์ๆ เข้า
ก็เลยเกิดอยากจะเขียนขึ้นมา
เพิ่งเขียนแนวนี้เป็นครั้งแรก ภาษาและราชาศัพท์ป่วยมาก
แต่อยากลง ฮ่าๆๆ ยังไงก็ช่วยอ่านกันด้วยนะคะ
มีอะไรก็ติได้ ชมได้ เหมือนเดิมค่ะ


[/color]

ตอน 1


กัญจานคร เมืองที่อุดมสมบรูณ์ไปด้วยพืชพรรณ บ้านเมืองสงบร่มเย็นไร้สงครามประชาชนอยู่ดีกินดี
ด้วยท้าวกัญจานั้นทรงปกครองบ้านเมืองด้วยทศพิศราชธรรม แลนครน้อยใหญ่ที่อยู่โดยรอบต่างต้องการผูกไมตรีทั้งสิ้น 

ขึ้นแปดค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง

พระมเหสีจันทนี ทรงมีพระประสูติกาลองค์รัชทายาแห่งกัญจานคร วันนั้นเองเกิดอาเพศใหญ่หลวง
 ฟ้าผ่าทั้งสี่มุมเมือง ลมพายุกรรโชกแรง จนพืชสวนนาไร่วอดวาย พระอาทิตย์มืดมิดราวกับยามรัตติกาล
ท้องฟ้าบังเกิดสีแดงฉานคล้ายย้อมไปด้วยเลือด  ท้าวกัญจาร้อนใจเป็นอย่างมากจึงต้องให้โหรทำทายดวงพระชะตาของพระโอรส

“ท่านโหร เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์เยี่ยงนี้ในวันที่ลูกเราเกิด มันเรื่องอันใดกัน”
สุระเสียงร้อนรนอย่างไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อนของเจ้าเหนือหัวทำเอาเหล่าเสนาอำมาตย์ต่างหวั่นวิตกไปตามๆกัน

“ขอเดชะ พระอาญามิพ้นเกล้า เอ่อ คือจากการตรวจดวงพระชะตาพระโอรส เอ่อคือว่า กระหม่อม”

“ท่านโหร จงบอกมาเถิด เรายินดีรับฟัง”

“ตามดวงพระชะตานั้น พระโอรสจักนำความพินาศย่อยยับมาสู่นครกัจญาพระเจ้าค่ะ”
 โหรหลวงทำนายอย่างกล้าๆกลัวๆ

“จะ เจ้า หมายความว่าเยี่ยงไร” ตรัสถามด้วยสุระเสียงแผ่ว พระเนตรกล้าแกร่งฉายแววแห่งความตระหนกแลหวาดหวั่นยิ่งนัก

“หากต้องการให้บ้านเมืองรอดมีทางเดียวคือ ต้องทรงประหารพระโอรสพระเจ้าค่ะ”
วรองค์สูงของเจ้าเหนือหัวแห่งกัญจานครทรุดลงบนพระแท่นคล้ายกับทรงมิอาจรับได้กับคำทำนายนั้น
แต่พระองค์ย่อมตระหนักดีว่า การปกครองบ้านเมืองนั้นจักเห็นแก่ความสุขส่วนองค์มิได้

“เราจักไปเยี่ยมจันทนีกับลูกของเรา”
วรองค์สูงเสด็จออกจากท้องพระโรงทันที พระองค์ได้ตัดสินพระทัยแน่วแน่แล้วว่าจักต้องเลือกบ้านเมืองมาก่อนสิ่งใด
 แม้นว่าการตัดสินพระทัยจักทำให้พระองค์ต้องเจ็บปวดราวกับควักเอาดวงหฤทัยของพระองค์ไปก็ตาม

“เจ้าพี่เพคะ” 

“อย่างเพิ่งลุกเลยจันทนี” วรองค์สูงตรัสพลางโอบกอดผู้เป็นดวงหทัยของพระองค์ไว้ราวกับต้องการปลอบโยน

“เรื่องลูกของเราเป็นอย่างไรบ้างเพคะ ” พระมเหสีจันทีตรัสถามพระสวามี

“คือว่า จันทนีเจ้าฟังพี่นะ พี่มิอาจปล่อยให้บ้านเมืองวุ่นวายได้ พี่..”

“เจ้าพี่เลือกที่จะฆ่าลูกหรือเพคะ เขาเป็นลูกของเรานะเพคะ เจ้าพี่พระทัยร้ายเหลือเกิน”
วรองค์บอบบางนั้นดิ้นรนออกจากอ้อมพาหาของผู้เป็นสวามี ก่อนจะดำเนินไปหาลูกน้อยที่ยังมิยอมลืมตาตื่น
  โอบกอดแก้วตาดวงใจของพระองค์ไว้แน่น

“จันทนี ฟังพี่นะ มิใช่พี่ไม่รักลูกแต่พี่ก็มิอาจทิ้งประชาชนของพี่ได้ พวกเขาก็ต่างมีครอบครัวมี พ่อ แม่ พี่ น้อง ที่ต้องปกป้องเช่นกัน”
ทรงตรัสอธิบายอย่างใจเย็น ผู้ใดเหล่าจะเข้าใจจิตใจของพระองค์ว่าทรงเจ็บปวดเพียงใด ทรงมิได้ยินดีสักนิดที่ต้องประหัตประหารเลือดเนื้อเชื้อไขของพระองค์เอง

“ไม่ หม่อมฉันไม่ยอม ไม่ยอมเด็ดขาด ไม่ยอม” วรองค์บางนั้นตะโกนราวกับคนเสียสติ

“จันทนีพี่ขอร้อง ส่งลูกมาเถิด”

“เจ้าลองตรองดูเถิด หากเจ้ายังยืนกรานที่จะปกป้องลูกประชาชนจักต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสเพียงใด เจ้าทนเห็นประชาชนต้องทุกข์ทนได้หรือ พี่เชื่อว่าลูกของเราก็คงยินดีหากชีวิตของเขาจักทำให้ประชาชนเป็นสุขได้”

“ฮื่อๆๆๆๆๆๆๆๆ เจ้าพี่เพคะ แม้นลูกของเราจักต้องตายหม่อนฉัน ขอให้พระองค์ทรงประทานชื่อให้ลูกของเราด้วยเถิดเพคะ”

“หากเป็นความต้องการของเจ้าพี่ก็จะตั้งชื่อให้ลูกของเราเอง”

“ท่านอำมาตย์ ประกาศออกไปว่า พระโอรสแห่งกัญจานคร มีนามว่า “แสงสุรีย์”
ตรัสจบทรงอุ้มพระโอรสตัวน้อยไว้แนบพระอุระ ก่อนจะส่งดวงใจของพระองค์ให้อำมาตย์แสงนำไปประหารที่ชายป่า

ร่างของอำมาตย์วัยกลางคน ควบม้าพลางอุ้มหน่อเนื้อแห่งกัญจานครไว้แน่นน้ำตาแห่งความอาดรูไหลมาเป็นสาย
เจ้านายพระองค์น้อยๆที่ยังทรงแบเบาะเยี่ยงนี้หรือจักเป็นกาลีบ้านกาลีเมือง

“แง้ๆๆๆ”
ร่างทารกน้อยส่งเสียงจ้า น้ำตาจากดวงตากลมโตนั้นช่างน่าสงสารจับใจ
 แม้นว่าผู้ใดได้เห็นคงมิอาจหักห้ามความโศกเศร้าไว้ได้

พลัน!! เมื่อมาถึงแม่น้ำใหญ่กลับเกิดพายุรุนแรงโหมกระหน่ำโดยไม่มีผู้ใดคาดคิด
อำมาตย์แสงได้แต่ประคองร่างของทารกน้อยไว้ในอ้อมแขนแม้นจักมีคำสั่งประหาร
แต่ความจงรักภักดีที่ยังคงอยู่ทำให้มิอาจปล่อยให้หน่อเนื้อขัตติยะแห่งกัญจานครเป็นอันตรายได้

แต่มนุษย์ธรรมดานั้นหรือจะสามารถต้านแรงแห่งกรรมได้ พลันทารกน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนก็ถูกพายุพัดตกลงไปในแม่น้ำทันที

“พรโอสร!!!” อำมาตย์แสงได้แต่ตะโกนเรียก แต่มิอาจ ลงไปช่วยได้เพราะพายุโหมพัดแรงเหลือเกิน

‘ได้โปรดเถิดเทพยดาทั้งหลาย ได้โปรดจงปกป้องคุ้มครองพระโอรสของข้าด้วยเถิด’

………………………………………………………………………………..


ภายในนครใต้บาดาล ร่างบุรุษผู้สวมอาภรณ์สีเขียวรอบกายเปล่งรัศมีเรืองรอง งดงามราวกับแก้วมณี
 ร่างนั้นนั่งสงบนิ่งราวกับมิมีลมหายใจ   “กนธีนาคา” นั่งสงบนิ่งเพื่อบำเพ็ญเพียร
จำต้องออกจากการภานาเพราะเสียงบางอย่างที่ตกลงมาใกล้ๆบริเวณถ้ำ

“แง้ๆๆๆ” เสียงร้องไห้ของทารกน้อยดังขึ้นที่หน้าถ้ำ ทำให้ร่างที่อยู่ในถ้ำแห่งนั้นมิอาจทนต่อไปได้
 จำต้องใช้นิมิตเพื่อดูความเป็นไปของเจ้าทารกน้อย

“เจ้าเด็กน้อย ช่างน่าสงสารเหลือเกิน มาเถิดต่อไปนี้ข้าจักเลี้ยงเจ้าเองนะแสงสุรีย์” กนธีนาคา เอ่ยก่อนจะอุ้มร่างทารกน้อยเข้าไปในถ้ำ

15 ปีผ่านไป

พระโอรสน้อยแสงสุรีย์เติบโตมาในถ้ำแก้วโกมลภายในนครใต้บาดาล ได้รับการฟูมฟักเลี้ยงดู
 แลได้รับการสั่งสอนคาถาอาคม เวทย์มนต์ต่างๆจากกนธีนาคา ผู้ที่แสงสุรีย์เคารพเยี่ยงบิดา

“เสด็จพ่อ ลูกกลับมาแล้ว” วรองค์เล็กของพระโอรสแสงสุรีย์วิ่งเข้ามาภายในถ้ำ
 แม้นจักเติบโตได้ 15ชันษาแล้วแต่รูปร่างบอบบางเกินจะเป็นชายของพระโอรสนั้น
 ทำให้ผู้เป็นบิดาบุญธรรมอดกังวลมิได้ว่า ร่างเล็กนั้นจักต้องพบกับความทุกข์เช่นตน

“เจ้าออกไปเล่นซนมาอีกแล้วหรือแสงสุรีย์” กนธีนาคากล่าวอย่างอาทร ยิ่งนับวันความรักแลสิเน่ห์หาต่อร่างเล็กๆนี้ยิ่งมากขึ้น

“ลูกมิได้เล่นซนนะเสด็จพ่อ ลูกอออกไปลาดตระเวนกับพี่ต้วมเตี้ยม ขอรับ”
สุรเสียงเล็กเอ่ยกับกนธีนาคา พร้อมกับชี้ไปที่เต่ายักษ์ที่ชื่อต้วมเตี้ยม

“จริงหรือต้วมเตี้ยม” วรองค์บอบบางตรัสถามเต่ายักษ์

“จะ จะ จริงพระเจ้าค่ะ ”

“ครั้งนี้พ่อจักไม่ว่าอันใดเจ้า แต่คราวหน้าเจ้าห้ามออกไปไกลจากถ้ำเกิน 100 เส้น เข้าใจหรือไม่”

“พระเจ้าค่ะ ”

“เจ้าก็กลับไปได้แล้วต้วมเตี้ยม” รับสั่งกับเจ้าเต่ายักษ์เบาๆ ก่อนจะพาลูกน้อยกลับเข้าไปในถ้ำแก้วโกมล

“เสด็จพ่อ พระเจ้าค่ะเหตุใดลูกจึงมิเคยเห็นเสด็จพี่เสด็จออกนอกถ้ำเลยพระเจ้าค่ะ”
 วรองค์เล็กตรัสถามพระบิดาบุญธรรมอย่างสงสัย ตั้งแต่แบเบาะจนเจริญวัยได้ 15ชันษา
พระโอรสแสงสุรีย์มิเคยเห็นเสด็จพ่อกนธีนาคาเสด็จออกนอกถ้ำเลย

“พ่อมิอาจออกไปจากถ้ำนี้ได้ดอก แสงสุรีย์ เหตุเพราะพ่อถูกจองจำในถ้ำนี้เป็นเวลา 500ปี ”

“เหตุใดเสด็จพ่อจึงถูกจองจำเล่า แล้วผู้ใดกันที่จองจำเสด็จพ่อ”

“เจ้ายังเด็กนัก แสงสุรีย์เอ๋ย เจ้ามิอาจเข้าใจดอกว่าความผิดของพ่อนั้นร้ายแรงนักการถูกจองจำเพียงเท่านี้เป็นโทษที่แสนเบาบางเหลือเกิน ”
 วรองค์บอบบางตรัสบอกพระโอรส แต่สุระเสียงนั้นกลับแผงไปด้วยความเศร้าแลสะเทือนใจยิ่งนัก
เจ้ายังเด็กนักแสงสุรีย์เอ๋ย เจ้าอย่าได้รับรู้เรื่องอัปยศของพ่อเลย หากแม้นว่าเจ้าล่วงรู้ความจริงแล้วนั้น
เจ้าอาจจะเกลียดชังพ่อ นั่นคือสิ่งเดียวที่พ่อมิอาจให้มันเกิดขึ้นได้

“ลูกมิใคร่เข้าใจที่เสด็จพ่อตรัสเลยพระเจ้าค่ะ แต่ไม่ว่าเสด็จพ่อจักต้องโทษด้วยความผิดอันใด ลูกนั้นยังเคารพเสด็จพ่อเสมอพระเจ้าค่ะ”

“ขอบใจเจ้ามากนะ แสงสุรีย์ลูกรัก จำไว้ว่าพ่อรักเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด”

..............................................

เหมือนเดิม ลิงค์เรื่องเก่าค่ะ
คืนข้ามปี
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=21167.0
ใจฉันเป็นของเธอ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=21268.0
หมอดูแม่นๆ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27943.0
ได้ยินไหมว่ารักเธอ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=28058.0
ผู้กองที่รัก
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=28796.0
ขอรักคืนใจ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29506.0
อาจเป็นรัก & อย่าปีนเกลียว (เบส-นะ ,ทัพ-เป้, ตาร์-พี)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31148.0

ทั้งหมดอ่านไปอ่านมา น่าจะเป็นซีรียส์นะ ฮ่าๆๆ เหมือนจะรู้จักกันหมด
เอิ๊กๆๆๆ ยกเว้น ขอรักคืนใจกับเรื่องนี้เพราะคนละยุคกัน ^^

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-03-2012 03:34:00 โดย pita »

ออฟไลน์ moneza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
 :กอด1: ชอบแนวจักร์ๆวงศ์ๆสุดๆ รอพระเอกเปิดตัวคะ

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
ตอน 2

ระหว่างที่พระบิดาบุญธรรมทรงบำเพ็ญเพียรอยู่นั้น วรองค์เล็กของพระโอรสแสงสุรีย์แอบหนีเที่ยวซุกซนในมหานทีเสมอ วันนี้ก็เช่นกัน

“พี่ต้วมเตี้ยมๆ” สุระเสียงเล็ก ร้องเรียกสหายสนิท

“พระเจ้าค่ะ พระโอรส”

“พี่ต้วมเตี้ยมออกไปเที่ยวกับเรานะ เราอยากจะเที่ยวเล่นที่ฝั่งตะวันตก”

“ไม่ได้พระเจ้าค่ะ เป็นตายร้ายดีพี่ต้วมเตี้ยมก็จักมิให้พระองค์เสด็จไป” ร่างใหญ่โตบอก ก่อนจะพาตัวบังปากถ้ำไว้

“ทำไมจักไม่ได้ เราจักไปพี่ห้ามเรามิได้ดอก” วรองค์เล็กหลับตาพลางร่ายคาถาที่ได้ทรงร่ำเรียนจากกนธีนาคา
ครานั้นผืนน้ำพลันปรากฏเป็นร่างงูใหญ่ยาวกว่าร้อยโยชน์เกี่ยวรัดเต่ายักษ์มิให้หลุดหนีไปได้
 เมื่อเห็นว่าเจ้าเต่ายักษ์เพลี่ยงพล้ำแล้ว วรองค์เล็กแสนซุกซนจึงลอบออกจากถ้ำแก้วโกมลมา

“ท้องน้ำฝั่งตะวันตกช่างสวยงามอะไรเช่นนี้”  พระโอรสแสงสุรีย์ ตรัสกับองค์เอง
ด้วยสิ่งที่ประจักษ์แก่สายพระเนตรนั้นช่างงามหาใดเปรียบมิได้
ท้องน้ำใสสะอาด หมู่ปลา แหวกว่ายกันไปมา ลึกลงไปใต้มหานที ปรากฏถ้ำใหญ่ที่มี
 อัญมณีล้อมรอบมิต่างจากสรวงสรรค์ วรองค์เล็กนั้นมิคิดเลยว่าจักมีสิ่งสวยงามเช่นนี้อยู่

“หยุดนะ เจ้ามนุษย์น้อย” เสียงตะหวาดก้องจนวรองค์เล็กแทบมิอาจคุมสติอยู่
ก่อนที่ร่างๆหนึ่งจักปรากฏต่อพระพักตร์ พระเนตรเบิกกว้างราวกับต้องมนต์สะกด
เมื่อร่างยาวสีเขียวนั้นส่งเสียงคำรามลั่น ตาแดงดั่งไฟนั้นช่างน่ากลัวราวกับทะเลเลือด

“เสด็จพ่อช่วยลูกด้วย!!!”

……………………………………………………………

“แสงสุรีย์!!!” วรองค์บางมิอาจทรงนิ่งเฉยอยู่ได้ เมื่อในนิมิตนั้นเห็นลูกน้อยกำลังจักถูกปองร้าย

“ต้วมเตี้ยม” สุระเสียงหวานหากแต่มีแววตื่นตระหนก รับสั่งหาสหายของลูกน้อย

“กระหม่อม อยู่นี้พระเจ้าค่ะ” ร่างของเต่ายักษ์เอ่ยเสียงแผ่ว
 เพราะต้องดิ้นรนออกจากแรงรัดมหาศาลของเจ้างูแปลงที่พระโอรสแสงสุรีย์ทรงเสกไว้

วรองค์บาง หลับพระเนตรก่อนจักบริกรรมคาถา เพียงครู่ร่างของงูยักษ์จึงกลับกลายเป็นน้ำดังเดิม

“แสงสุรีย์เล่าต้วมเตี้ยม” ตรัสถามเสียงสั่น หากลูกน้อยเป็นอันตรายพระองค์จักมีชีวิตอยู่ได้เยี่ยงไร
 แสงสุรีย์คือสิ่งเดียวที่พระองค์มีอยู่ คือแสงสว่างเพียงแสงเดียวที่ทำให้พระองค์ยังอยากพระชนม์ชีพอยู่

“พระโอรส เสด็จไปฝั่งตะวันตกพระเจ้าค่ะ ”

วรองค์บางนั้นแทบสิ้นสติเมื่อได้ยินคำของเต่ายักษ์ เหตุใดเจ้าจึงดื้อเช่นนี้หนอแสงสุรีย์
 ใยเจ้าไม่เชื่อฟังพ่อบ้าง วรองค์บางได้แต่สะอื้นไห้อยู่เพราะมิอาจออกไปช่วยลูกน้อยได้ พระองค์จักทำเช่นใด กัน

“เทพยดาทั้งหลาย หากบุญกุศลใดที่เราได้ทำไว้ในชาตินี้ เราขออุทิศให้แก่แสงสุรีย์ลูกของเรา ขอให้ลูกของเราปลอดภัยด้วยเถิด”
 สุระเสียงหวานเอ่ย





“เจ้าคิดว่าพ่อ จักใจไม้ไส้ระกำ เช่นนั้นเชียวหรือกนธี” สุระเสียงทุ้มตรัสถาม ก่อนที่วรองค์สูงจักดำเนินเข้ามาภายในถ้ำแก้วโกมล

“เสด็จพ่อ” วรองค์บางตรัสทั้งน้ำตา มิเคยคาดคิดเลยว่าจักมีวันนี้ วันที่เสด็จพ่อเสด็จมาหาลูกทรพีด้วยองค์เอง

“เจ้ายังมิได้ตอบคำถามพ่อเลยนะ กนธี” วิรุณปักษ์นาคราช ผู้เป็นใหญ่ในนครใต้บาดาลตรัสกับพระโอรส
 แม้นว่าจักผิดสักเพียงใด คนเป็นพ่อก็มิอาจตัดเป็นตัดตายไปได้ดอก

“ลูก มิบังอาจ”

“นี่เจ้าคงจักเห็นว่าพ่อ ใจร้ายถึงกลับต้องประหัตประหารเด็กตัวเล็กๆเยี่ยงแสงสุรีย์แล้วหรือ”

“ลูก ลูก”

“พอเถิดกนธี  พ่อมิได้อยากให้เจ้ามุสา ” สุระเสียงทุ้มตรัส ก่อนจักจูงมือเล็กๆเข้ามาภายในถ้ำแก้วโกมล

“เสด็จพ่อ!!” วรองค์เล็ก โผเข้าสู้อ้อมพาหาของพระบิดาบุญธรรม ด้วยความหวาดกลัวภยันตราย

“แสงสุรีย์ ปลอดภัยไหมลูก”

“ลูกมิเป็นไรพระเจ้าค่ะ แต่ลูกกลัว นาคตัวใหญ่จักทำร้ายลูก” วรองค์เล็กสะอื้นไห้

“โถ่เอ๋ย ลูกรักของพ่อ”

“แสงสุรีย์ มาหาปู่สิลูก” วรองค์สูงรับสั่งกับพระนัดดา

“เจ้ากลัวอันใดรึแสงสุรีย์ เสด็จปู่รับสั่งลูกได้ยินหรือไม่”

“ลูกกลัวพระเจ้าค่ะ เสด็จปู่เป็นพญานาค เสด็จปู่ เสด็จปู่ จะกินลูกหรือไม่พระเจ้าค่ะ”
สุระเสียงเล็กตรัส กนธีนาคาแลท้าววิรุณปักษ์นาคราชทรงสรวลเบาๆ เจ้าเด็กน้อยเอ๋ย อยู่กับวงศ์นาคามานับ10ปี
แต่กลับหวาดกลัวนาคาถึงเพียงนี้เทียวหรือ

“แสงสุรีย์ ลูกลืมไปแล้วหรือว่าพ่อ ก็เป็นวงศ์นาคา”

“แต่เสด็จพ่อมิเคยทำร้ายลูก”

“มาเถิด แสงสุรีย์ปู่มิทำร้ายเจ้าดอก”

วรองค์เล็ก ค่อยๆดำเนินเข้าใกล้ผู้เป็นเสด็จปู่ก่อนจักโผเข้าสู่อ้อมพาหาแกร่งที่อบอุ่นมิแพ้พระบิดาบุญธรรม

“เด็กคนนี้ น่าเอ็นดูจริงเชียว” สุระเสียงทุ้มรับสั่ง พลางแย้มพระโอษฐ์ ให้กับโอรสแลนัดดา

“ไหนบอกปู่สิ เหตุใดเจ้าจึงกลัวนาค”

“เหตุเพราะนาคานั้น มีตาแดงดั่งเพลิง แลดุดันยิ่งพระเจ้าค่ะ”

“เจ้าจงดูให้ดีเถิด แสงสุรีย์” สุระเสียงทุ้มตรัสก่อนจักคลายอ้อมพาหา หลับพระเนตรลงพลางบริกรรมคาถา
 พลัน ร่างแกร่งนั้นกลับกลายเป็นพญานาค 5 เศียร ลำตัวยาวจนมิอาจคะเนได้
เกร็ดสีทองสุกปลั่งต้องแสงจันทร์นั้นดูสวยราวกับภาพฝัน แม้จักมีดวงตาสีแดงดั่งที่พบเจอ
 หากแต่พระเนตรของท้าววิรุณปักษ์กลับมีแววเยือกเย็นแลน่าเลื่อมใส วรองค์เล็กแย้มพระโอษฐ์พลางสรวลเสียยกใหญ่
 ก่อนร่างเสด็จปู่จักกลับคืนเป็นมนุษย์ดังเดิม

“เจ้ากลัวปู่อยู่หรือไม่ แสงสุรีย์”

“ไม่พระเจ้าค่ะ หลานมิหวาดกลัวเสด็จปู่อีกแล้ว”

“เจ้าอยากนิมิตกลายเป็นนาคาหรือไม่แสงสุรีย์”

“หลานทำได้หรือพระเจ้าค่ะ” สุระเสียงเล็กเจือความซุกซน ตรัสถาม

“แม้นเจ้าจักมิใช่วงศ์นาคา แต่กระนั้นเจ้าก็คือหลานของปู่ ใยจักทำมิได้เล่า”

ท้าววิรุณปักษ์นาคราช ตรัส ก่อนจักประทานสาหร่ายใบเล็กให้แก่พระนัดดา

“นี่คือ ว่านนาคานิมิต เมื่อใดที่เจ้าต้องการจักนิมิตกลายเป็นนาคา จงอมไว้ในปากแลล้วนตั้งจิตนึกถึงปู่จักทำให้เจ้านิมิตกลายเป็นนาคาได้สามราตรี”

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ เสด็จปู่”

“กนธี” ผู้เป็นใหญ่แห่งสายน้ำตรัสเรียกผู้เป็นโอรส

“เจ้าอยู่ที่นี่สุขสบายดีหรือไม่”

“ลูกสบายดีพระเจ้าค่ะ”

“เจ้าเองก็ถูกจองจำที่นี่มาเป็นเวลา 400 ปีเศษแล้ว บัดนี้จักถึงเพลาที่เจ้าจักพ้นโทษเสียที”

“เสด็จพ่อ” วรองค์บางเอ่ย ก่อนจักก้มลงกราบบาทผู้ให้กำเนิด  ด้วยสำนึกในความผิดที่ตนเองได้กระทำ

ท้าววิรุณปักษ์นาคราชผู้เป็นใหญ่ในนครใต้บาดาล เข้าพระทัยดีว่าแม้นจักสามารถป้องกันได้400
 ปีแต่แรงกรรมของกรธีนาคานั้นมากมายเหลือเกิน มิช้าด้วยแรงแห่งกรรมนั้นจักทำลูกรักของพระองค์จักต้องพบกับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส แม้นจักช่วยเพียงใดคงได้เพียงยืดเพลาแห่งกรรมไว้เท่านั้นเพราะมิเคยมีผู้ใด หลบลี้ เส้นทางแห่งกรรมได้
‘กนธีเอ๋ย พ่อมิอาจช่วยเจ้าได้อีกแล้วเพลานี้ หนี้เวรกรรมนั้นได้หวนคืนมาอีกครั้งเจ้ามิอาจหลีกหนีได้อีกแล้วลูกเอ๋ย’





ออฟไลน์ reborn23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ชักอยากให้เป็นเรื่องยาวอะ  อ่านแล้วสนุก
อยากรู้ด้วยเรื่องของ  กนธี  พ่อของ  แสงสุรีย์  ไปทำผิดอะไรไว้
รออ่านต่อ

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
:กอด1: ชอบแนวจักร์ๆวงศ์ๆสุดๆ รอพระเอกเปิดตัวคะ

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ยังไงก็รอหน่อยนะคะ เดี๋ยวพระเอก??
จะออแล้ว เย้ๆๆๆ



ชักอยากให้เป็นเรื่องยาวอะ  อ่านแล้วสนุก
อยากรู้ด้วยเรื่องของ  กนธี  พ่อของ  แสงสุรีย์  ไปทำผิดอะไรไว้
รออ่านต่อ

อืมเรื่องนี้ คงเป็นเรื่องสั้น ซ้อนเรื่องสั้นมั้งคะ
อันที่จริงก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะสั้นหรือจะยาว เพราะยังเขียนไม่จบฮ่าๆๆ
ยังไงก็ขอบคุณมากๆนะคะ ที่เข้ามาอ่าน เรื่องนี้คนอ่านน้อนซะจนท้อ
แต่ช่างมันเถอะ ยังไง พิตก็จะลงถึงจะมีคนอ่ายแค่ คนหรือ สองคน ^^



ออฟไลน์ moneza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
 :กอด1: มาอ่านต่อ

กรรมอะไรหว่า จะร้ายแรงป่าว   :เฮ้อ:

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
คนแต่งอย่าเพิ่งท้อนะคะ
เปิดเรื่องมาก็น่าติดตามแล้ว ดูเหมือนมีปมหลายปมรอการคลี่คลายอยู่
มาต่อนะคะ จะรออ่าน
+1  :กอด1:

ออฟไลน์ lighter

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อัพๆๆ ค่ะ ชอบๆๆ แต่งต่อนะค่ะ

อยากอ่านมากๆๆ ชอบแนวนี้สุด ๆ

แต่งเนื้อหาดีนะค่ะ น่าติดตามมาก ๆ + 1 นะค่ะ สู้ๆ

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
เมื่อวันเสาร์ดูเหมือนกัน ละครแบบนี้
แม่บอกว่าพระเอกตัวเล็กเกิน น่าจะเป็นนางเอกมากกว่า จิ้นเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
มารอน้า มาต่อนะคะ

underscoreONES

  • บุคคลทั่วไป
น่าติดตามมากค่ะ รอตอนต่อไปด้วยคน : )

kakashiget

  • บุคคลทั่วไป
 :m24: :m24: มาต่อด่วนสนุมากๆๆๆ  o13 o13

ออฟไลน์ lighter

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อัพๆๆ มารอนะค่ะ มารอ ๆ

คนเขียนอยู่ไหน

ต่อหน่อยนะ อยากอ่านมากๆ ๆ

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
ขอโทษจร้า  :impress3:
ตอนนี้พิต ฝึกงานอยู่ ไม่มีเวลาอัพ
ร้านเน็ตที่หอไม่ให้ เสียบแฟลตไดร์ ด้วยง่ะ
หนูจาทำยังไงดี เนี่ย จะลองๆหาดูร้านที่มันให้ใช้แลตไดร์นะ
ขอโทษ จริงๆ T^T
อยากอัพใจจะขาดรอนๆๆ  :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2

KAME

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาดูทุกวันเลย ยังไม่มาต่อ T^T

KAME

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
ตอน 3


เปรี้ยงๆๆ เสียงสายฟ้าจากพระเวทแก่กล้า ดั่งสนั่นไปทั่วพื้นพสุธา เป็นที่หวาดหวั่นแก่ผู้ที่ได้พบเห็นยิ่งนัก
 คงมีเพียง ท้าวราพสูญ ผู้เป็นใหญ่แห่งนครเวหล เท่านั้นที่ทรงแย้มสรวลแลปรีดายิ่ง

“เจ้าช่างเก่งกาจนัก ฤทธิรุทร สมแล้วที่เป็นโอรสแห่งเรา” ตรัสชมผู้เป็นโอรส

“ลูกยังห่างไกลเสด็จพ่อนัก พระเจ้าค่ะ”
สุรเสียงทุ้มตรัส อย่างถ่อมตน พระโอรสฤทธิรุทร เป็นพระโอรสพระองค์โตแห่งนครเวหล
แม้นจักมีพระชนมายุเพียง 20 ชันษาแต่กลับมีฝีมือด้านการรบเยี่ยมกว่าผู้ใด
ร่างกายกำยำสมชายชาตรีพระเนตรคมวาวแผงไปด้วยอำนาจ แลเป็นหน่อเนื้อวงษ์ยักษาด้วยแล้ว
ยิ่งเพิ่มความยำเกรงจนแม้เทพยาดายังมิกล้าต่อกร

“ฮ่าๆๆ พ่อภูมิใจในตัวเจ้านัก ฤทธิรุทร”
ผู้เป็นใหญ่แห่งวงศ์ยักษาตรัส ก่อนจักเสด็จกลับพระตำหนักเหลือเพียงวรองค์สูงที่ยังคงฝึกอาคมมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย

“พระโอรสพระเจ้าค่ะ ทรงพักบ้างเถิดพระเจ้าค่ะ”
ร่างหนากล่าวเพราะตนเองนั้นอยู่ในอุทยานมานานโขแล้วแต่พระโอรสก็ยังไม่เสด็จกลับพระตำหนักเสียที

“ไม่ได้ดอกพี่ไวย แม้นตัวเราจักเก่งกาจเพียงใดถ้าไม่หมั่นฝึกฝนสักวันอาจพลาดพลั้งได้”

“พระโอรสพระเจ้าค่ะ ข้าพระองค์ว่าพระโอรสทรงไปเที่ยวเล่นบ้างเถอะพระเจ้าค่ะ อย่าทรงหักโหมเลยข้าพระองค์เป็นห่วง”

หน่อเนื้อแห่งพระยายักษ์สรวลเบาๆอย่างรู้ทัน ว่าคนสนิทของพระองค์นั้นต้องการที่จะไปเที่ยวเล่นเองเสียมากกว่า

“พี่อยากไปที่ใดเล่า”

“เมืองมนุษย์พระเจ้าค่ะ” ร่างหนาทูล ก่อนจักลอบยิ้มน้อยๆ 

“เอาเถิด ครานี้เราจักตามใจพี่สักครั้ง พรุ่งนี้เช้าเราจักพาพี่ไปเที่ยวเมืองมนุษย์ดีหรือไม่”

“เป็นพระมาหากรุณายิ่งแล้วพระเจ้าค่ะ”
วรองค์สูงแย้มสรวลกับท่าทางตื่นเต้นของคนสนิท แต่ผู้ใดเล่าจักรู้ว่ากงล้อแห่งโชคชะตาได้หมุนมาบรรจบอีกเพลาแล้ว
 แม้นจักหลีกหนีเพียงใด ก็มิอาจต้านทานอำนาจแห่งพรหมได้


…………………………………………..


“พี่ต้วมเตี้ยมๆ ตื่นได้แล้ว” วรองค์เล็กปลุกเจ้ายักษ์ตัวโต เบาๆ

“อืม” เจ้าเต่ายักษ์ ครางอือ อย่างขัดใจแต่ก็มิยอมตื่นจากนิทรารมย์

“พี่ต้วมเตี้ยมื่นเดี๋ยวนี้!!!” สุรเสียงเล็กยังคงตะโกนปลุกเจ้ายักษ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ถ้าพี่ไม่ตื่นเราจัดเสกอสรพิษรัดพี่เหมือนกาลก่อนดีหรือไม่”

“จ๊ากกกกกกกก พระโอรส ตื่นแล้วพระเจ้าค่ะ ตื่นแล้วๆๆ”

“พระโอรสมีพระประสงค์อันใดพะเจ้าค่ะ” เจ้าเต่ายักษ์ผงกหัวขึ้นถามผู้เป็นนาย

“เราอยากไปเที่ยว” วรองค์เล็กตรัสอย่างรื่นรมย์

“เอ๋ ที่ใดพระเจ้าค่ะ พระองค์จักไปฝั่งตะวันตกอีกหรือพระเจ้าค่ะ”

“มิใช่ดอกพี่ เราจักขึ้นไปเที่ยวบนเมืองมนุษย์”

“เมืองมนุษย์!!!” เจ้าเต่ายักษ์แทบสิ้นสติ เมื่อได้ยินนายเหนือหัวตรัส

“ไม่ได้เด็ดขาดพระเจ้าค่ะ หากเสด็จพ่อแลเสด็จปู่ทรงรู้เข้า พี่ต้วมเตี้ยมตายแน่พระเจ้าค่ะ”

“เราไม่พูด พี่ไม่พูดก็มิมีผู้ใดล่วงรู้ดอก ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เราจักขึ้นไปเมืองมนุษย์ให้จงได้”

ด้วยแรงกรรมแลโชคชะตา นำพาทั้งให้พระโอรสแสงสุรีย์มิอาจฟังคำทัดทานใดๆ
วรองค์เล็กที่แสนดื้อดึงนั้นจักรู้หรือไม่ว่าการเที่ยวเล่นซนครั้งนี้จักนำพาให้พระองค์เข้าสู่บ่วงกรรม



“โอ้โห พี่ต้วมเตี้ยมเมืองมนุษย์เป็นเช่นนี้เองหรือ” วรองค์เล็กตรัสด้วย สุรเสียงรื่นเริง

“อย่าวิ่งนะพระเจ้าค่ะ” เต่ายักษ์ที่บัดนี้อยู่ในร่างของบุรุษหนุ่มรูปร่างอ้วนกลมกล่าว

“พี่ต้วมเตี้ยมเราสั่งแล้วมิใช่รึว่าให้พูดกับเราอย่างสามัญชน”

“พระ เอ่อ ขอรับ”

วรองค์เล็กเที่ยวเล่นซุกซนอย่างสนุกสนานแม้จักเกิดมาในวงศ์วานของมนุษย์แต่กลับเติบโต
ในนครใต้บาดาลทำให้พระโอรสแสงสุรีย์มิเคยมีโอกาสสักครั้งที่จักได้พูดคุยกับมนุษย์

“อย่าวิ่งขอรับ” ร่างอ้วนตะโกนพลางหอบร่างอุ้ยอ้ายวิ่งตามเจ้านายพระองค์น้อย
 แต่อนิจจาเจ้าร่างอ้วน ฤ จัก ตามวรองค์องค์เล็กที่แสนซุกซนทันไม่กี่เพลาวรวงค์เล็กก็คลาดกับเจ้าเต่ายักษ์

“แย่แน่ๆ เจ้าต้วมเตี้ยมเอ๋ย พระโอรสอยู่ที่ใดพระเจ้าค่ะ อย่าทรงแกล้งพี่เลย ออกมาเถิดพระเจ้าค่ะ”
 ร่างอ้วนพลางตะโกนพลางวิ่งเพื่อออกตามหาเจ้านายองค์น้อยให้เจอก่อนเพลาค่ำ
หาไม่แล้วชีวิตที่อยู่มาเกือบ500 ปีของต้วมเตี้ยมคงมีอันเป็นไป ร่างอ้วนร่ำไห้ในใจ

“คิกๆๆ” วรองค์เล็กสรวลเบาๆก่อนจัก ดำเนินออกจากที่ซ่อน

“เราขอโทษนะพี่ต้วมเตี้ยมแต่เราอยากเที่ยวเล่นโดยมิมีผู้ใดตามเราบ้าง”

ตลาดของมนุษย์ช่างแตกต่างจากนครใต้บาดาลจนวรองค์เล็กเพลิดเพลิน
ผู้คนเดินไปมาควักไขว่ สินค้ามีมากมายจนมิอาจนับได้ทั้งสินค้าแปลกๆใหม่ๆจากแดนไกลก็มีขายมิได้ขาด
วรวงค์เล็กทอดพระเนตรการสินค้าแลผู้คนจนล่วงเลยเวลาไปมากโข กว่าจักรู้สึกพระองค์รอบข้างก็มือมิดเสียแล้ว

“แย่แล้ว ” ตรัสกับองค์เองก่อนจักออกตามหาพระพี่เลี้ยง

“โอ้ย!!”

วรองค์เล็กสะดุดล้มแต่กลับมิได้รู้สึกเจ็บพระวรกายส่วนใดเลย   

“เป็นไปได้อย่างไรกัน เหตุใดเราจึงไม่เจ็บอันใดเลย”

“เจ้าจักเจ็บได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าทับเราอยู่” สุรเสียงทุ้มตรัส เป็นผลให้วรองค์เล็กรู้สึกพระองค์ว่าตนทับคนผู้หนึ่งอยู่

“ขออภัย” วรองค์เล็กตรัส ก่อนจักลอบมองเสี้ยวหน้าคมคายของบุรุษผู้นั้น
หากเพียงสบพระเนตรคมใจดวงน้อยกลับเต้นแรงจนไม่อาจห้ามได้


นี่เราเป็นอันใด ใยต้องใจเต้นแรงกับบุรุษเพศด้วยกันเช่นนี้


“เจ้าเจ็บหรือไม่เจ้าเด็กน้อย” สุระเสียงทุ้มตรัสถามอย่างห่วงใยพระโอรส ฤทธิรุทร
นั้นก็มิอาจเข้าใจพระทัยของพระองค์เช่นกันว่าเหตุใดจึงห่วงใยเจ้าร่างบางนี้นักหนา
 ทั้งๆที่ ร่างนุ่มนิ่มในอ้อมพาหาของพระองค์นั้นป็นบุรุษ

“เรามิใช่เด็กนะ” สุระเสียงหวานตวาดลั่น จนผู้อยู่เบื้องล่างอดที่จะแย้มสรวลมิได้ นี่หรือมิใช่เด็ก

“มิมีผู้ใหญ่ที่ไหน โวยวายเยี่ยงเจ้าหรอกนะเด็กน้อย”

“เจ้ากล้าดีอย่างไรมาว่าเราเป็นเด็กเราอายุ 15 แล้วนะ”

“ฮ่าๆๆ เช่นนั้นหรือ แล้วเจ้าหนุ่มชื่ออันใดหรือ ” วรองค์สูงรับสั่งถาม “เจ้าหนุ่มน้อย”ที่ยังอยู่ในอ้อมพาหาของพระองค์

“เราชื่อแสงสุรีย์ แล้วท่านเล่า” สุรเสียงหวานตรัสถาม
 แม้นพระพักตร์ของวรองค์เล็กนั้นจักมีแววแห่งความถือดีอยู่มากโขแต่กลับมิอาจบดบังความน่ารักของเจ้าร่างบางแม้แต่น้อยทำให้
 วรองค์สูงหลงอยู่ในห้วงความคิดจนไม่ทันตอบคำถามอีกฝ่าย

“เราถามว่าท่านชื่ออะไร”

“อะ เอ่อ เราชื่อ ฤทธิรุทร” สุรเสียงทุ้มตรัส

นี่เราเป็นอันใดไปหนอ  พระโอรสฤทธิรุทรรำพึงกับองค์เอง ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัยหนุ่มใช่พระองค์จักร้างสตรีข้างกาย
 ด้วยเป็นถึงหน่อเนื้อแห่งเจ้านครเวหล สตรีน้อยใหญ่ในเมืองต่างยอมศิโรราบต่อพระองค์ทั้งสิ้น
แต่กลับมิเคยมีนางใดทำให้พระองค์ปั่นป่วนได้เท่าเจ้าร่างบางนี้เลย

“ท่านจักกอดเราไปถึงเมื่อใด” สุรเสียงเล็กตรัส อย่างขัดใจ
ด้วยความถูกตามใจมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์จึงทำและตรัสอะไรตามใจองค์เองเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน

“เราขออภัยเจ้าด้วย แสงสุรีย์”

วรองค์สูงคลายอ้อมพาหาออกจากร่างนุ่มนิ่ม แต่ในพระทัยกลับเสียดายยิ่งนัก นี่พระองค์เป็นไปได้ถึงเพียงนี้เทียวหรือ

“เราคงต้องไปแล้วล่ะ ขอบคุณท่านมากที่ช่วยเราไว้”

“แสงสุรีย์” สุรเสียงทุ้มเรียก

“เราจักได้พบกันอีกหรือไม่”

“สุดแล้วแต่พระพรหมเถิด เราต้องไปแล้วขอให้ท่านโชคดี”

วรองค์เล็กดำเนินไปด้วยดวงหทัยที่สับสน ตั้งแต่ที่ได้สบตาคมนั้นจนกระทั่งเพลานี้
ดวงหทัยของพระองค์ยังมิหยุดสั่นได้เลย ดวงตาคมคู่นั้นแม้นสบกันเพียงเสี้ยวนาทีกลับยังคงฝังตรึงในจิตใจ
ราวกับเคยพบพานกันมานานแสนนาน นี่มันเรื่องอันใดกันหนอ

“พระโอรส ทรงไปซุกซนที่ไหนมาพระเจ้าค่ะพี่ต้วมเตี้ยม ตามหาพระองค์จนทั่วไปหมด”

“เราไปเล่นในตลาดมา กลับกันเถอะพี่ต้วมเตี้ยมหากเสด็จพ่อทรงรู้เข้า เราคงมิอาจได้เที่ยวเล่นอีก”

ร่างอ้วนแม้นไม่เข้าใจผู้เป็นนายเท่าใดแต่ก็จำใจต้องเดินตามวรองค์บางไป
เฮ้อ คงมิได้เกิดเรื่องอันใดกับพระโอรสของข้าพระองค์นะพระเจ้าค่ะ





“พระโอรส ทรงเหม่ออีกแล้วนะพระเจ้าค่ะ” ร่างหนาเอ่ยถามผู้เป็นนาย

“เราเหม่อหรือพี่ไวย”

“พระโอรสมีเรื่องอันใดขัดข้องพระทัยหรือพระเจ้าค่ะ บอกข้าพระองค์ฉันได้หรือไม่”

“ไม่มีอันใดดอกพี่ไวย เราง่วงแล้ว พี่กลับไปพักผ่อนเถิด”

วรองค์สูงดำเนินกลับพระตำหนักด้วยพระทัยที่นึกถึงเจ้าร่างบาง ป่านนี้เจ้าจักทำอันใดอยุ่หรือแสงสุรีย์
เจ้าจักคิดถึงพี่อย่างที่พี่คิดถึงเจ้าหรือไม่หนอ

“พี่จักได้เจอเจ้าอีกหรือไม่แสงสุรีย์”

จันทราลอยเด่นบนพื้นฟ้านั้นส่องแสงสีนวลราวกับมนต์สะกดให้ผู้คนหลงใหล
จันทร์เอ๋ยเจ้าช่างคล้ายกับความรักยิ่งนัก ลึกลับ น่าค้นหา เย้ายวนตาให้ลิ้มลอง
หากแต่ความจริงแสงจันทร์นั้นเป็นเพียงแสงสะท้อนของดวงสุริยัน
ผู้ใดที่หลงแสงแห่งจันทราก็มิต่างจากแมงเม่าที่หลงบินเข้าไปในกองไฟกาล
 ย่อมต้องมอดไหม้ไปกับความร้อนแรงแห่งพระเพลิง
แม้นว่ารู้ทั้งรู้ว่าพระเพลิงนั้นร้อนเพียงใดแต่แมงเม่าที่โง่เขลากลับยังคงบินเข้าสู่กองไฟ
เพียงหวังเพื่อได้เข้าใกล้แลรู้จักแสงสว่างเรืองรองนั้นสักครา






ใ..................................................
ขอโทษที่หายไปนาน อย่างที่บอก หนูเพิ่งมีเน็ตใช้ง่ะ
เอาไปอ่านกันก่อนนะ เวลามีไม่มาก ต้องไปแย้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2014 01:21:13 โดย pita »

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
มาต่อแล้ว
น้องแสงสุรีย์เจอเนื้อคู่แล้ว
กำลังสนุกเลย
+1  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lighter

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ชอบจ้า มาเป็นกำลังใจให้อยู่ มาอัพไวๆ นะ

ชอบเรื่องนี้จัง

แสงสุรีย์คนงาม อ๊าย~~ มีเสน่ห์จริงๆๆ

หนุ่มน้อยของฉัน อิอิ

อัพๆๆ นะจ้า เป็นกำลังใจให้อยู่

ออฟไลน์ moneza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
อ๊าย พระเอกมาแว้ววววว อยากอ่านต่อเค้าจะเจอกันอีกเมื่อไหร่น้าาา

kakashiget

  • บุคคลทั่วไป
 :oo1: :oo1: :oo1:  ในตอนต่อไปนะ  :o8: :-[ :-[

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
รอตอนต่อไปครับ

 o13

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
เสด็จพี่ทรงน่ารักยิ่งนัก

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
ตอน 4


“เป็นอันใดหรือ แสงสุรีย์” สุรเสียงหวานนั้นตรัสถามโอรส สายพระเนตรทอดมองวรองค์เล็กนั้นด้วยความปรานี

“ลูก…… ลูก   มิได้เป็นอันใดดอกพระเจ้าค่ะ” ทั้งๆที่ทรงรู้ว่า มุสาแต่กลับตรัสไป

“แล้ววันนี้ไปเล่นที่ใดรึ พ่อตามหาซะทั่ว”

“วันนี้ลูกไปเล่นที่ด้านใต้พระเจ้าค่ะ ออกไปไกลพอสมควร เสด็จพ่ออาจมิทันได้สังเกต”
 ตรัสจบวรองค์เล็ก มิกล้าแม้จักสบเนตรพระบิดาบุญธรรมเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พระองค์มุสาพระบิดา

“จำคำพ่อไว้นะ แสงสุรีย์เอ๋ย จงอย่าไว้ใจผู้ใดง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็น มนุษย์ ครุฑ เทพ ยักษา หรือแม้นแต่เผ่าพันธ์นาคา”

“เพระเหตุใดพระเจ้าค่ะ”

“อันว่าคำพูดนั้น จักกล่าวออกมาอย่างใดก็ย่อมได้ เรามิอาจล่วงรู้ได้เลยว่าในใจของผู้พูดนั้นคิดเช่นไร
 จงใช้เหตุผลตรองดูให้ดีก่อนจักเชื่อสิ่งใด จงจำคำพ่อไว้ให้ดี”
 ตรัสสั่งสอนลูกน้องแต่วรองค์บางกลับสะท้อนถึงองค์เอง หากเพราะมิหูเบา
 หากเพราะมิเชื่อใครง่ายๆ พระองค์คงจักไม่ต้องพบกับชะตากกรมเยี่ยงนี้
 เพลานี้ไม่อาจกลับไปแก้ไขอดีตได้จึงหวังเพียงแค่ลูกน้อยจักมีชีวิตในแดนนาคาอย่างไร้เภทภัยใดๆมากล้ำกลาย

“ลูกจักจำไว้พระเจ้าค่ะ”

“ไปนอนเสีย นี่ก็ใกล้ยามสองแล้ว”  ตรัสกับพระโอรสอย่างแผ่วเบาก่อนจักดำเนินออกจากถ้ำแก้วโกมล

เวิ้งน้ำกว้างใหญ่หาที่สิ้นสุดมิได้ ทำให้กนธีนาคา หวนย้อนถึงอดีตครั้งนั้น
ครั้งหนึ่งที่พระองค์ยังเยาว์ชันษานักแม้จักผ่านมาเกือบ500ปีแต่ในพระทัยกับประหวัดถึงเพียงคนผู้นั้น

“ท่านสบายดีหรือไม่ ราพฤทธิ” รำพึงกับองค์เองท่ามกลางเวิ้งน้ำที่มืดมิด
มิต่างจากชีวิตของพระองค์ที่แม้นจักพ้นจากคำพิพากษาแต่กลับมองไม่เห็นอนาคตเลย








วรองค์เล็กแอบลอบออกจากถ้ำแก้วโกมลแต่เช้าตรู่ เพราะมิอาจห้ามแรงคิดถึงที่อยู่ภายในพระทัยได้
เหตุใดพระองค์จักต้องคิดถึงคนผู้นั้นมากมายถึงเพียงนี้หนอ

“พระโอรสจะเสด็จที่ใดพระเจ้าค่ะ”  เสียงทุ้มคุ้นหูของเจ้าร่างยักษ์ทำให้วรองค์เล็กต้องหยุดพระบาทไว้

“เราเอ่อเรา”

“เฮ้ย พวกเจ้าอย่ามาแย่งขนมข้านะ” คำตวาดที่ออกจากปากคนสนิททำให้ ทรงรูว่าเจ้าเต่ายักษ์ละเมอเท่านั้น

“เฮ้อ เราขอโทษนะพี่ต้วมเตี้ยม” วรองค์เล็กร่ายมนตราที่ทำให้เจ้าเต่ายักษ์หลับลึกกว่าเดิม
เพื่อจักได้หนีเที่ยวซุกซนได้โดยไม่มีผู้ติดตาม







ตลาดเมืองมนุษย์ที่แสนคึกคักนั้นยังคงสร้างความสนุกสนานให้กับวรองค์เล็กได้เช่นเคย
 สินค้ามากมายที่ล้วนหาไม่ได้ในนครใต้บาดาลวางขายเกลื่อนกลาด ทำให้วรองค์เล็กเพลิดเพลิน
จนกระทั่งที่มือปริศนาคว้าที่ข้อพระกรของพระองค์


“ปล่อยนะ!!!”


“แสงสุรีย์ พี่เอง” สุรเสียงทุ้มตรัส


“ท่าน…ฤทธิรุทร” สุระเสียงแผ่วเบาคล้ายละเมอ ก่อนจะรับรู้ว่าดวงฤทัยของพระองค์เต้นแรงอีกครา

“เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกพี่ว่าพี่เล่าแสงสุรีย์”

“เหตุใดเราต้องเรียกท่านว่าพี่ด้วย” ตรัสอย่างเอาแต่ใจ

“เพราะพี่เป็นพี่อย่างไรเล่า”

“เหตุผลเพียงเท่านั้นไม่อาจพอให้เราเรียกพี่ได้ดอก”

“ตามใจเจ้าเถิด แล้วพี่จักทำให้เจ้าเรียกพี่ว่าพี่ให้จงได้ จำคำพี่ไว้นะแสงสุรีย์”
พระสุรเสียงทุ้มตรัสอย่างหนักแน่น สายพระเนตรที่มองมาทำให้วรองค์บางถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งพระวรกาย

“แล้วเราจะคอยดู”

“แล้ววันนี้เจ้าจักไปที่ใด”

“ไม่รู้ เราเพิ่งมาเมืองมนุ เอ่อ เพิ่งมาเมืองนี้เป็นครั้งที่สอง”

“ถ้าเช่นนั้น พี่จักพาเจ้าไปเที่ยวดีหรือไม่” ตรัสถามอีกคนแต่กลับไม่รอคำตอบ
พระหัตแกร่งคว้าข้อพระกรของพระโอรสแสงสุรีย์แน่นก่อนจักพาเจ้าร่างบางของพระองค์ดำเนินไปพร้อมกัน

“ท่านจักพาเราที่ใด” สุระเสียงเล็กตรัสถาม

“กัญจานคร” วรองค์สูงตรัสกับพระองค์ก่อนจักอุ้มวรองค์เล็กขึ้น

“ทะ ท่านจักทำอันใด”

“นครกัญจาอยู่ไกลจากที่นี้นัก พี่จักพาเจ้าเหาะไปอย่างไรเล่า”

“ท่านมีมนตราด้วยหรือท่านเป็นผู้ใดกันแน่”

“พี่จะไม่ตอบคำถามเจ้าจนกว่าเจ้าจะเรียกพี่ว่าพี่นะแสงสุรีย์” วรองค์สูงตรัสก่อนจักพาเจ้าร่างบางของพระองค์เหาะขึ้นไปในท้องฟ้า
เพียงชั่วลัดนิ้วทั้งสองก็สามารถมาถึงกัญจานครได้

“ลืมตาเถิดแสงสุรีย์” สุระเสียงทุ้มตรัสอย่างอ่อนโยนทรงรู้ว่าเจ้าร่างบางนั้นกลัวมากเพียงใด

“ถึงแล้วหรือ”

“เหตุใดท่านจึงไม่ปล่อยเราเสียทีเล่า” สระเสียงเล็กตรัสอย่างมิใครพอใจนักแต่มิใช่เพราะรำคาญแต่เพราะอ้อมแขนของ
ฤทธิรุทนนั้นอบอุ่นเกิดไป อบอุ่นจนพระทัยของพระองค์มิอาจทนได้
วรองค์สูงสรวลเบาๆก่อนจักปล่อยร่างในอ้อมพาหาของพระองค์เป็นอิสระแม้จักทรงเสียดายเพียงใดก็ตาม

“ท่านพาเรามาที่นี่ทำไม”

“กัญจานครเป็นเมืองที่รุ่งเรื่องที่สุดในแถบนี้ถ้าเจ้าอยากเปิดหูเปิดตาที่นี่น่าจะดีที่สุดอย่างไรเล่า”

“ถ้าเช่นนั้นเราก็เข้าไปกันเถิด” สุระเสียงที่เผยความตื่นเต้นแลซุกซนออกมาจนปิดไม่มิด
ทำให้เจ้าของวรองค์สูงต้องกลั้นสรวลจนพระพักตร์แดงกล่ำ

“เร็วๆสิท่าน”

“เจ้าวิ่งนำพี่เยี่ยงนั้น เจ้ารู้หรือว่าเราจักไปที่ใดกัน”

“ถ้า…ถ้าเช่นนั้น ท่านก็นำเราสิ”

“ได้ๆ พี่จักนำเจ้าเอง”

พระหัตแกร่งคว้าข้อพระกรของอีกองค์ให้เดินตามพระองค์มา แต่เพียงแค่พระหัตหนาแตะต้องพระวรกาย
วรองค์เล็กกลับรีบสะบัดออกราวกับถูกของร้อน จนอีกองค์ต้องมองด้วยความไม่เข้าพระทัย
เหตุใดเจ้าร่างบางจักต้องทำท่าทางรังเกียจพระองค์เยี่ยงนี้

‘หรือสิ่งที่พี่คิด พี่คิดไปเองเพียงผู้เดียวหรือความใกล้ชิดที่พี่เคยได้รับมันเป็นเพียงภาพลวงตา’ วรองค์สูงเอ่ยกับองค์เอง


“ท่าน ท่าน ท่าน ”

“มีอันใดหรือแสงสุรีย์ เจ้าเรียกเราด้วยเหตุใด”

“มะ ไม่มีอันใดดอก” สุรเสียงเล็กตรัส
แต่พระทัยกลับไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ‘เรา’ คนตรงหน้าแทนตัวว่าเราเช่นนั้นหรือ
 วรองค์เล็กไม่เข้าพระทัยสักนิดว่า คนตรงหน้านี้เป็นอันใด
ไม่เข้าพระทัยแม้กระทั่งองค์เองว่าเหตุใดจึงรู้สึกไม่ชอบเลยที่คนตรงหน้าแทนตัวด้วยคำห่างเหินเช่นนั้น

“ไปกันเถิด ” วรองค์สูงตรัสก่อนจักเดินนำพระโอรสแสงสุรีย์เข้าเมืองโดยไม่แม้แต่จัก สนใจวรองค์เล็กสักเพียงนิด

“ท่านเป็นอันใด” สุรเสียงเล็กตรัสถาม

“เราหรือ เรามิได้เป็นอันใด”

“แต่ท่านไม่ยอมพูดกับเรา”

“ไปเถิดเจ้า เดี๋ยวจักเย็นเสียก่อน” วรองค์สูงตรัสแต่กลับไม่แม้แต่มองอีกองค์เลย

“หากท่านไม่เต็มใจพาเรามา ท่านก็ไม่จำเป็นต้องฝืนใจเราไม่เข้าไปก็ได้” วรองค์เล็กตรัสด้วยสุรเสียงไม่พอพระทัย

“เจ้าอย่าดื้อได้ไหมแสงสุรีย์ ”

“ถ้าท่านเห็นเราเป็นคนไม่ดี ท่านก็อย่ามายุ่งกับเรา เราจักกลับบ้าน”

“ก็เจ้าเองไม่ใช่หรือรังเกียจมิอยากให้พี่เข้าใกล้” สุรเสียงทุ้มตัดพ้อ
 เจ้าเองมิใช่หรือแสงสุรีย์ที่ทำท่ารังเกียจพี่ แล้วเจ้าจักให้พี่ทำเช่นไร


“เรา เรา เรา มิได้รังเกียจท่าน”

“ถ้าเช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงทำท่าทางมิอยากให้พี่เข้าใกล้”

“ทะ  ท่าน มิรู้สึกว่ามันแปลกดอกหรือ เราสองคนนั้นเป็นบุรุษเพศเช่นเดียวกัน แล้วเราจักจับมือกันได้หรือ”

เมื่อทรงได้ฟังเจ้าร่างบางของพระองค์เอ่ย พระโอรสฤทธิรุทรแย้มพระโอษฐ์อย่างยินดีที่เจ้าร่างบางมิได้รังเกียจพระองค์

“ทำไมจักไม่ได้ ไปกันเถิด เจ้ามิอยากเข้าไปเที่ยวในเมืองหรือ”
พระหัตหนาคว้าข้อพระกรเล็กไว้แน่นก่อนจักจูงเจ้าร่างบางของพระองค์ให้ดำเนินไปด้วยกัน
 พระทัยของวรองค์สูงนั้นอิ่มเอมจนมิมีสิ่งใดเปรียบได้ หากความรู้สึกเช่นนี้เรียกว่าความรัก
พี่คงรักเจ้าแล้ว เจ้าร่างบางเอ๋ย


แม้นจักพบกันเพียงแค่สองครั้งแต่พระโอรสฤทธิรุทรนั้นก็ทรงแน่พระทัยว่า
ทรงหลงรักเจ้าร่างบางนี้เป็นแน่ แม้นแสงสุรีย์จักเป็นชายเหมือนกับพระองค์แต่พระองค์กลับมิอาจหักห้ามใจได้เลย



..................................................................

ขอบคุณที่ทุกคนชอบนะคะ ดีใจจัง อิอิ
อาจจะนานหน่อยน๊า เน็ตหายาก ฮ่าๆ
ฝึกงานเหนื่อย มัน มึนๆ คิดไรไม่ค่อยออก อ่ะจ๊ะ

ออฟไลน์ reborn23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
อยากอ่านต่อเจ้าค่า

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
รอตอนต่อไปนะครับ

น้องเองเริ่มชอบพี่แล้วละมั้งงง  :o8:

 o13

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
 :o8: ท่านพี่ชอบน้องหรือเจ้าคะ

KAME

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากกกกก รอ รอ ร้อ รอ ร้อ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด