ตอนที่ 16
ตอนเย็นผมก็แยกย้ายกับว่าที่อัยการคนน่ารักที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหลังจากไปกินข้าวที่เซนทรัลลาดพร้าวกันเป็นที่เรียบร้อย ผมก็ไม่รอช้ารีบไปล้างรูปที่ร้านหน้าปากซอยก่อนเข้าบ้าน … มันตื่นเต้นไปหมด ในกล้องมีรูปมากมายที่ผมถ่ายตั้งแต่มาอยู่ไทย
หลังจากนั่งรอเกือบหนึ่งชั่วโมงอัลบั้มรูปที่รอก็ได้สักที ระหว่างเดินเข้าบ้านผมก็หยิบมาพลิกๆเปิดดูไปทีละรูป ตั้งแต่ผมถ่ายบนเครื่องบิน ก้อนเมฆสีขาวสวยมีแสงอาทิตย์เป็นฉากประกอบนี่มันอาร์ตจริงๆ
แล้วก็เปลี่ยนบรรยากาศตอนไปเที่ยวทะเลกับแม่ มีไอ้แดนทำหน้าป่วยอยู่ในหลายๆรูปทีเดียว แต่ก็ยังได้ภาพมันยืนมองไปที่ทะเลที่โคตรสวยมาอีกรูป …ไอ้แดนมันถ่ายรูปขึ้น น่าจะไปเป็นนายแบบมันดูดีจริงๆเวลามองผ่านเลนส์กล้อง
แล้วก็มีภาพบรรดากิ๊กผมในชุดวับๆแวมๆโพสท่าให้ถ่าย แค่เห็นหน้าอกหน้าใจที่ไม่เปิดเปลือยทั้งหมดก็แทบจะกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ๆ มันล้นดีจริงๆสงสัยแม่จะให้มาเยอะ
แล้วภาพต่อมาก็ทำผมใจหาย …ภาพของไอ้ลุงโหดที่ผมตามไปถ่ายมันวันแรกที่ได้พบกัน มันหล่อมาก ! โคตรขึ้นกล้องโคตรพ่อโคตรแม่ ออร่าดาราเจิดจรัสสุดยอด คนๆนี้น่าจะเกิดมาเป็นซุปเปอร์สตาร์ดาราฮอลีวู้ดได้เลย แต่ดันเลือกเป็นศาสตราจารย์ แต่ก็นะยังไงไอ้ลุงนั่นมันก็ไม่เลือกเป็นดาราหรอก ถึงเป็นก็คงไม่มีใครจ้างบ่นเก่งซะขนาดนั้น
เอาอีกละคิดถึงมันอีกละ …จะว่าไปทำไมมันไม่โทรมาเลยวะ ฮึ่ย … ไอ้ลุงนี่หนิบทจะเฉดหัวเขาก็ทำงี้ง่ายๆเลยเรอะ ! มองภาพแล้วอยากเจอตัวจริงจะกระโดดแจกหมัดหนักๆบนหน้าหล่อๆให้เลือดอาบข้อหาทำให้วุ่นวายใจ !
พลิกรูปสารพัดมุมที่ดูดีทุกมุมของไอ้ด็อกก็เจอรูปฌามคนน่ารัก …แต่ก็จริงๆนั่นแหละถ่ายรูปไม่ขึ้น ไม่ได้โดดเด่นในรูปเลยจริงๆ มันดูธรรมดาไปหน่อย แม้จัดแสงจัดมุมก็ไม่ได้ดูดีมากมาย มีเพียงรอยยิ้มสดใสที่แข็งๆไปบ้างอาจจะเพราะเกร็งเมื่อยามอยู่หน้ากล้อง ส่งเมลล์
ไปให้ดีกว่า
หลังจากส่งเมลล์ไปเรียบร้อยดูเวลาก็พึ่งจะสามทุ่มกว่าๆ ไอ้เดลก็เกิดอาการจิตตกมานั่งจ้องโทรศัพท์ครับพี่น้อง โทรไปดี หรือไม่โทรดี สองคำนี้วนเวียนในหัวผมไปมา เหมือนมีแองเจิ้ลกับเดวิลมายืนบนไหล่เถียงกันไปมา เอาไงดีวะไอ้เดล คิดไม่ออก
ถ้าโทรไปแล้วไม่มีอะไรก็อาจจะทำตัวเกรียนๆให้กลายเป็นเรื่องขำๆ แต่ถ้าตาลุงมันดันเงียบแล้วตูจะไปเกรียนใส่มันก็จะแป้กฝืดเคืองในลำไส้กันเข้าไปอีก ดีไม่ดีมันไม่คุยด้วยอีกจะทำยังไงเนี่ย มันจะน่าเศร้ามากเลยนะ
เดี๋ยวเบรกด่วน เบรก เบรก เบรกกกกกกกกกกกกกกกกก ทำไมช่วงนี้ถึงความคิดไปวนเวียนกับไอ้ด็อกบ่อยๆ ไม่นะ ไม่เป็นไปไม่ได้ … หรือจะเผลอไปมีใจให้ปิศาจ จะบ้าเรอะ ! สเปคเขามันต้องตัวเล็กๆน่ากอดน่าฟัดน่ารัก ไม่ใช่ตัวใหญ่กว่าควายเรียกพี่ ดุยิ่งกว่าหมาเรียกพ่อ แถมบ่นเก่งชิบหายอีก
แต่ความรู้สึกโหวงๆในใจกับก้อนเนื้อในอกซ้ายเต้นรัวแรงมันเหมือนเป็นการยืนยันว่าความคิดที่พึ่งค้นพบนั่นล่ะถูกต้องที่สุด มือไม้สั่นจนทำอะไรไม่ถูก … รัก เฮือกกกกกกกก รักหรอ ไม่ มันเร็วไป ไอ้เดลไม่เคยมีรักแรกพบ มันเป็นความโรแมนติคที่เพ้อฝันเกินไป แต่ถ้าเห็นหน้าแล้วชวนกันไปต่อทันทีอันนั้นยังมีเปอร์เซ็นสูงกว่า
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไอ้เชี่ยไทม์ !!!!”
ฮ้าดชิ่ว !
“คุณพ่อเป็นหวัดหรอคะ”
ร่างสูงขยี้จมูกตัวเองเบาๆก็ไม่ได้รู้สึกเหมือนมีอาการแต่อย่างใด คงแค่มีฝุ่นมาปลิวผ่านเลยอาจจะเผลอจามออกมา คิดโบราณๆหน่อยก็อาจจะไม่ใครกำลังนินทา
“เปล่าหรอกค่ะ รีบๆทานข้าวค่ะเดี๋ยวไปโรงเรียนสาย”
“คุณพ่อขา พี่เดลไปไหนหรอคะ ไม่มาหาเราอีกเลย”
คำพูดของลูกสาวทำเอาเขาไม่รู้จะตอบยังไง มันเหมือนกับคนมีความผิดติดตัว … ถึงจะอยากโทษอีกฝ่ายแต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาเป็นฝ่ายเย็นชากับเดลตัวแสบก่อนจริงๆ
“พี่เดลเขายุ่งๆค่ะช่วงนี้”
“แองจี้คิดถึงพี่เดลจัง พี่เดลบอกจะซื้อทามาก็อตให้ ยังไม่ได้เลยค่ะคุณพ่อ แองจี้คิดชื่อสัตว์เลี้ยงไว้แล้วด้วยนะคะ เมื่อไหร่พี่เดลจะว่างนะ”
ร่างสูงได้แต่ยิ้มตอบลูกสาว ละสายตาจากข้าวผัดอเมริกันตรงหน้าไปมองมือถือยี่ห้อดังที่เงียบสงบไม่มีเสียงเรียกเข้าพิเศษที่แอบตั้งไว้ดังขึ้นเลย
“เฮ้ออ”
“คุณพ่อคะ อย่าถอนหายใจค่ะ คุณครูบอกว่าจะแก่เร็วนะคะ คุณพ่ออยากแก่หรอคะ”
“เปล่าค่ะ ป่ะไปล้างมือเร็วเดี๋ยวพ่อไปทำงานสาย”
“โอเคค่า”
หึ นี่จะไม่โทรมาจริงๆใช่มั้ยไอ้เด็กบ้า ป่านนี้คงหนีเที่ยวสบายใจเลยล่ะสิ ใบขับขี่ก็ได้แล้วคงจะลืมไปแล้วสินะว่าใครเป็นคนพาไปทำ มันน่านัก !
- --------------------------------------------------
หลังจากผ่านมาเกินครึ่งเรื่อง เดลก็พึ่งรู้สึกตัว 555555555555555555555555555555555555555
- ----------------------------------------------------
ปล' คิดถึงนักอ่านทุกคนนะคะ จุ้บๆ