ตอนที่ 22
หลังจากสวีทวิดวิ้วข้างกำแพงวัด บรรยากาศระหว่างผมกับพี่ไทม์มันก็เหมือนเดิม ไม่มีออร่าสีชมพูวิ๊งๆแบบในการ์ตูนญี่ปุ่นหรือการ์ตูนตาแป๋วเลยอ้ะ แบบมองตาแล้วเขินอายสะเทิ้นสะท้านก็ไม่มี ฝ่ายหญิงซึ่งในกรณีนี้น่าจะเป็นท่านพี่แกก็ไม่ได้มีหน้าแดงระเรื่อแบบในนิยายสักนิดนึง จะมีหลบตงหลบตาเป็นสัญญาณบ้างก็ไม่ใช่ มีแต่ไอ้เดลเขินอยู่คนเดียว ฮึ่ย ! ชักจะทำหน้าที่เกินภรรยาแล้วนะพี่ไทม์ !
ผมเลยต้องมานั่งหน้าทีวีแต่ไม่ได้ดูทีวีเหมือนแม่หรอกครับ นั่งคิดว่าตกลงจะเอายังไงดี อารมณ์นี้โคตรอยากได้ รักไปแล้วก็อยากได้ อยากจอง อยากแต่งแม่ง !
“แม่ๆ … เดลว่า แบบว่าใช่อ่ะ”
ผมเขยิบจากปลายโซฟาตัวยาวไปใกล้ๆแม่
“หืม อะไรใช่ล่ะลูก”
แม่ก็เขยิบมาจนไหล่ชนผม แน่ะ มีชนไหล่กระเซ้าด้วยแฮะ
“ก็พี่ไทม์อ่ะแม่ …… อยากได้อ่ะ”
“หา อะไรนะ ? !!!!! ตายแล้วทำไมพูดจาไม่เป็นกุลสตรีเลยล่ะลูก”
“แม่ เดลผู้ชายเฮ้ย !”
“โอะ ลืมไปเลย ตายละลูกชายสุดหล่อของหม่ามี๊อยากได้ด็อกเตอร์มาทำสามีเอ้ย ทำภรรยาหรอลูก เอาแน่แล้วใช่มั้ยคนนี้”
แม่ผมแสร้งทำท่าตกอกตกใจแต่ทำไมสายตาแม่มันวิบๆวับๆตอนพูดคำว่าภรรยาเนี่ย
“เอาคนนี้ล่ะแม่ตกลงโอเคเซย์เยสไปขอให้หน่อย”
“หะ … หะ ? ขอเลยหรอลูก แต่หน้าที่สู่ขอมัน ….”
“ก็เดลเป็นสามีนะแม่ต้องเป็นฝ่ายไปขอเด้ … แม่พี่ไทม์เค้าจะยอมป้ะ ?”
ผมเริ่มกังวลหน่อยๆว่าด็อกเตอร์ที่อายุก็เลขสามไปแล้ว แม่ของด็อกเตอร์ก็ยิ่งต้องหัวเก่าแน่ๆ ไอ้การที่ผู้ช๊ายผู้ชายจะแต่งงานกันมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายแหงๆ
“อะ … แม่ว่า …. เดลกับด็อกเตอร์คบกันนานๆก่อนนะลูกนะ เดลหล่อมีเสนห์แบบนี้แม่ว่าเดลต้องจีบติดชัวร์ๆนะลูก ส่วนเรื่องแต่งงาน เอ่อ
แม่ว่ารอเดลเรียนจบก่อนนะจ๊ะ แล้วที่สำคัญแต่งก่อนแดนไม่ได้นะ เดลเป็นน้องไม่ดีนะเออ”
แม่ผมยิ้มกว้างแม้จะอึกๆอักๆ อืม … มันก็จริง จะให้สละโสดก่อนไอ้แดนมันก็ดูจะหยามหน้าพี่ชายไปหน่อย ว๊าคนมันเสน่ห์แรง แบบนี้ต้องเยาะเย้ย เฮ้ยเดี๋ยว ไอ้พี่ไทม์มันยังไม่ตกลงเลยนี่หว่า … แบบนี้โดนไอ้แดนสวนกลับก็ซวยสิ หรือจับพี่ไทม์ปล้ำดีจะได้เป็นการจองตัวไว้ก่อน ไหนๆจะอยู่ห่างกันคนละทวีปโลกแล้ว …. อืมมม น่าสนใจทฤษฎีนี้
“แม่ๆ งั้นเดลปล้ำพี่ไทม์ไว้ก่อนได้ปะ”
“กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ไอ้ลูกบ้า !”
เสียงแปดหลอดของแม่ดังจนผมสะดุ้ง ตามด้วยฝ่ามือพิฆาตฟาดลงมาทั้งตัวผม แค่นั้นยังไม่พอ ! คุณศจีสตรีหมายเลขหนึ่งเอาหมอนมาตีผมด้วยอ้ะ !
“อ้าว ทำไมเล่าแม่ โอ้ย แม่เดลเจ็บบบบบบบบบ”
“ใครเขาบ้าคิดแบบแกกันมั่งหา ไอ้ลูกโง่ ! ระดับด็อกเตอร์เขาคงยอมให้แกปล้ำหรอกย่ะ แถมเอะอะก็ปล้ำมันเชยชะมัด ยุคนี้สมัยนี้เขายัง
ใช้มุขนี้กันอีกหรอเนี่ย ขนาดฉันยังไม่ใช้เลย !”
อ้าว ก็เห็นนิยายเรื่องไหนมันเอะอะก็จูบ เอะอะก็ปล้ำ ก็เห็นยอมกันทุกทีนี่หว่า …. แถมบรรดากิ๊กเก่าๆที่เคยคบๆมาก็ได้ผลด้วยอ้ะ หน้านิ่งๆแบบท่านพี่ไทม์ต้องเจอของจริงรับรองร้องไม่ออก !
“นี่เดลฟังแม่นะลูก เราไฮโซมากไม่ทำแบบนั้นหรอก จะล่อคนแบบด็อกเตอร์ต้องทำให้สะอึกลูกเดียวแล้วติดหนึบโงหัวไม่ขึ้นจนแบบว่า
ขาดลูกไม่ได้อะไรแบบนั้นต่างหาก รับรองจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด เชื่อแม่สิ”
อืม … แม้จะไม่ค่อยเข้าใจแต่ไอ้คำว่าจะบีบก็ตายจะคลายก็รอดนี่มันน่าสนใจไม่หยอก … หึหึ จินตนาการภาพลูกไก่หน้าเหมือนพี่ไทม์ตะแง้วๆในกำมือผมสิ ! ภรรยาไก่ที่รักของเดล ก๊ากกกกกกกกก
“งั้นเดลควรไปขอน้ำมันพรายป้ะ ? แบบดีดทีเดียวติดหนึบ คงทน แยกไม่ออกไรประมาณนั้นเลย”
“ตายละ ออริจินอลมากลูกฉัน อันนั้นมันรักไม่จริงหรอกมันแค่ต้องมนตร์ย่ะ มานี้แม่จะสอนให้นะลูก ไหนๆจะกลับแล้วก็ทำให้คิดถึงจนต้อง
บินตามมาเลยสิยะ แม่จะได้พายัยหนูแองจี้ไปช็อปให้ทั่วลอนดอน อุ้ยหรือเลยไปปารีสด้วยดี ว้ายว่าที่หลานสาวของฉัน”
“แม่พอก่อนเลย เอาวิธีมาเดี๋ยวเดลไปจัดแบบว่าจัดเต็ม จัดหนัก !”
“ขั้นแรกต้องแน่ใจก่อนว่าอีกฝ่ายมีปฏิกิริยาสนใจในตัวลูก”
“เออทำไงอ่ะแม่ ด็อกแม่งโคตรนิ่งอ่ะ”
“จากตำราคนสวยของศจีต้องยั่วให้โกรธ แบบว่าทำให้หึงน่ะลูก เข้าใจมั้ยเนี่ย เล่นหูเล่นตากับชาวบ้านบ้างเค๊ ?”
“ของถนัดเลยแม่ ! ได้ เดี๋ยวเดลจัดให้”
ขั้นแรกต้องเอาให้หึง !!!
“นี่นายเดลพาพี่มาทำอะไรที่นี่”
ไม่รู้ไอ้ตัวแสบนี่มันคิดอะไร อยู่ดีๆก็ลากผมมาเที่ยวผับย่าน RCA นี่อายุขนาดผมมันเลยวัยเที่ยวกลางคืนแล้วนะ แสงสีเสียงไม่ได้ดึงดูดใจเหมือนสมัยอายุยี่สิบต้นๆอีกต่อไปแล้ว
“เอาน่าพี่ไทม์ เดลอยากมาอ้ะ ! แองจี้ก็ให้ไปอยู่บ้านต่างจังหวัดแล้วไม่ใช่อ่อ”
ทุกๆเสาร์อาทิตย์ผมจะพาแองจี้ไปอยู่กับพ่อแม่ผมที่บ้านสวนกาญจนบุรีเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน แถมฝึกภาษาไทยให้แองจี้ไปในตัวครับ พ่อแม่ผมก็แสนจะเห่อหลายที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
“แต่พี่ไม่ชอบเข้าผับ เสียงมันดัง”
“เอาน่า … สักครั้งนะ นะ นะครับ”
เฮ้อดูไอ้ตัวแสบเกาะแขนผมส่งสายตาปริบๆ เหมือนลูกแมวชะมัด … นี่ต้องใจอ่อนใช่มั้ย ?
“อืมก็ได้ แต่ชั่วโมงเดียวพอนะ”
“โอเคคคคคค ป่ะเข้าผับกัน เดลไม่เคยเข้าผับที่ไทยเลยนะ”
“โกหก คราวก่อนที่ให้ไปรับเพราะเข้าผับไม่ใช่หรือไง”
หึหึ เห็นมั้ยล่ะชะงักเลยไอ้คนมีความผิดติดตัว มีอย่างที่ไหนแม่อยู่ไทยแท้ๆหาว่าแม่อยู่ต่างประเทศ อ้างว่าเขาเป็นญาติที่มาอยู่ด้วย
“ไม่เหมือนกานนน อันนั้นเข้าไปแบบ ธุระอ้ะ ธุระ แง่งงง พอๆเลิกพูด แดนซ์กันดีกว่า ผับนี้เขาดังมว๊ากกก”
“แสดงว่ามาบ่อยถึงได้รู้”
“ง่า … เค้าดังในเน็ตเฉยๆหรอกพี่ไทม์ เจ้าของผับเขาเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส เป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าที่ยุโรปด้วย พ่อแม่รู้จักกันน่ะ”
เราสองคนผ่านการตรวจของการ์ดเข้าไปข้างในสำเร็จ เรียกได้ว่าผับนี้หรูจริงๆ แบ่งเป็นสองชั้น ตรงกลางชั้นล่างเป็นฟลอร์เต้นสำหรับคนชอบแดนซ์ มีดีเจผมสีน้ำเงินแหวกแนวคอยจัดเพลงมันส์ๆตลอด บนเวทีก็กำลังจัดเครื่องเสียง
“นั่งชั้นสองแล้วกันพี่ไทม์ จะได้ไม่เบียด ข้างบนมันเป็นโต๊ะนั่งไม่ใช่ยืนแบบนี้อ่ะ เสียงเบากว่าด้วย เดี๋ยวจะแนะนำเจ้าของให้รู้จัก”
เสียงเพลงดังลั่นทำให้เวลาคุยกันผมต้องก้มหัวลงเพื่อให้ใบหูอยู่ในระดับที่ปากของไอ้ตัวแสบส่งเสียงเข้ามาได้ แต่ก็ยังต้องตะโกนอยู่ดี
“ไปเถอะ พี่ปวดหูจะตายอยู่แล้ว”
คิดผิดจริงๆคนก็เยอะ เบียดสุดๆ เสียงเพลงก็ดังลั่น มองอะไรก็ไม่ค่อยเห็น จนกระทั่งพาสังขารที่เริ่มจะไม่ไหวของตัวเองมาชั้นสองได้สำเร็จ คนดูไม่แน่นเท่าข้างล่าง และส่วนใหญ่น่าจะอยู่ในวัยทำงานมากกว่าวัยรุ่นนักศึกษาด้านล่างเยอะ แต่ละกลุ่มก็จับจองโต๊ะกันไป เน้นคุยกันมากกว่าแต่ก็มีโยกบ้างเป็นบางที
“โต๊ะในแล้วกันเนาะพี่ไทม์ มุมนู้นๆ”
“อืม … สักทีเถอะ พี่อยากกลับจะตายอยู่แล้ว”
“โหยยย ผ่อนคลายหน่อยๆ พรุ่งนี้ไม่มีสอนไม่ใช่หรอครับ มาๆสั่งอะไรดี เหล้าหรือเบีร์ยหรือไวน์ ?”
บริกรเดินมายื่นเมนูปกสีดำหรูให้ แน่นอนว่าไม่แปลกจากที่ผมคิดเท่าไหร่เมื่อรายการส่วนใหญ่มีแต่จำพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ราคาแพงกว่าขายข้างนอกเยอะ
“น้ำเปล่าครับ”
“เฮ้ย ! มาผับดื่มน้ำเปล่าได้ไงอ้ะพี่ไทม์ ไม่เอาๆ เหล้าดิเหล้า”
“พี่ไม่อยากดื่ม ต้องขับรถกลับ เราก็ไม่ควรดื่มด้วยเป็นเด็กเป็นเล็ก น้องครับเอาน้ำเปล่ามาสองขวด แล้วก็เลย์สองถุง ขอบคุณครับ”
ผมดึงเมนูจากไอ้ตัวแสบส่งคืนไปพร้อมๆกับของผมนั่นล่ะ บริกรก็อึ้งๆแต่ก็เดินจากไป เหลือแต่ผมกับไอ้ตัวแสบหน้างอง้ำ
“แม่ง อยากดื่มเหล้าอ่ะเหล้า ! พี่ไทม์โคตรจะไม่แฟร์”
“พี่ว่าแบบนี้ล่ะเจ๊ากันแล้ว”
“ยังไง ขี้โกงชัดๆ”
“ก็เรากำลังฝืนใจกันละอย่างไงล่ะ เดลบังคับพี่ให้มา พี่ก็บังคับเดลไม่ให้ดื่ม …. เสมอกันจริงมั้ย ? หืม ?”
หึหึ ยกนี้ผมชนะอีกแล้วครับทุกคน
“ก็เรากำลังฝืนใจกันละอย่างไงล่ะ เดลบังคับพี่ให้มา พี่ก็บังคับเดลไม่ให้ดื่ม …. เสมอกันจริงมั้ย ? หืม ?”
อึ้งแดก แดกจนอิ่มด้วย ใครหน้าไหนมันพูดวะ ! ว่าพวกด็อกเตอร์มันจะติ๋มๆบื้อๆคุยแต่เรื่องวิชาการ ทำไมนะทำไมกัน ด็อกเตอร์ไทม์นี่แม่งกวนตีน ! จะหลอกมอมเหล้าแอบถามสักหน่อยว่าคิดยังไงมันก็ไม่ยอมดื่ม สงสัยต้องใช้แผนแม่ว่าจริงๆ ทำให้หึง !
“เฮ้ยเดลพี่มาแล้ว”
“พี่ฟรองค์สวัสดีครับ พี่ฟรองค์ครับนี่ด็อกเตอร์ไทม์ พี่ไทม์นี่พี่ฟรองค์ซัวเจ้าของผับ”
“สวัสดีครับคุณฟรองค์ซัว”
“โอะ รังสีวิชาการมันกระแทกตาผมชะมัด ขออนุญาตเรียกด็อกเตอร์ว่าพี่ไทม์แล้วกันนะครับ”
“ยินดีครับ”
พี่ฟรองค์ขยิบตาให้ผมประหนึ่งว่าเริ่มแผนเลยนะไอ้เดล หึหึ ผมเตี๊ยมกับพี่แกมาก่อนแล้วเว่ย ! มันจะได้สมบทบาทกันหน่อย
“แล้วนี่สั่งอะไรกันหรือยังครับ หืม .. เดลของพี่ยังชอบเหมือนเดิมหรือเปล่า ? ฮะๆ พี่ไทม์ต้องทำใจนะครับน้องเดลเขาชอบดื่มจนเมาน่า
เป็นห่วงสุดๆ แต่มากับด็อกเตอร์ผมก็สบายใจครับเพราะผมคงยุ่งๆไม่มีเวลามาเทคน้องแน่ๆ”
“พี่ฟรองค์อ่ะเวอร์ว่ะ เดลดูแลตัวเองได้น่า”
เอาล่ะคราวนี่พี่ฟรองค์ก็ยกมือเกลี่ยแก้มผมเล่นๆส่งสายตาหวานซึ้งมาให้ แต่ผมแอบเห็นพี่แกเกือบจะหัวเราะนะเออ จนผมต้องแอบกระซิบ
“อย่าพลาดนะพี่”
“เออน่า”
“ดูจะสนิทกันดีนะครับสองคน เห็นน้องเล่าว่าพ่อแม่รู้จักกันหรอครับ”
น้อง ? เฮ้ยๆนี่มันสัญญาณแรกหรือเปล่า พี่ไทม์เรียกผมว่าน้องแถมมีจ้องพี่ฟรองค์เขม็ง ใช่มั้ย ? นี่กำลังเริ่มหึงใช่มั้ย อ๊ากกกกกกกกกกกก
กกกกกกกกกก
“ครับ เราสนิทกันตั้งแต่เด็กๆครับ แต่มาสนิทมากสุดๆตอนช่วงน้องเดลอยู่อังกฤษ ก่อนผมย้ายมาทำผับที่ไทยล่ะครับ เมื่อก่อนเราแทบจะ
ตัวติดกัน”
แขนพี่ฟรองค์โอบรอบเอวผมหลวมๆ ใบหน้าลูกครึ่งพราวเสน่ห์ยังคงยิ้มเรื่อยๆเอื่อยๆ
“แสดงว่าพึ่งมาอยู่ไทยไม่นานหรอครับคุณฟรองค์”
“ครับ มาได้สองสามปีครับ บินไปบินกลับในปีแรกบ่อยเหมือนกัน แต่ตอนนี้ลงหลักปักฐานแล้วครับ กลับไปเฉพาะตอนประชุมกับที่ห้องเสื้อเป็นคราวๆไป”
“ทางยุโรปนี่สมกับเป็นเมืองแฟชั่นนะครับ ผมไปเมื่อต้นปีมึนหัวกับพวกแบรนด์จริงๆ”
พี่ไทม์ยังคงปกตินั่งไขว่ห้างยิ้มๆมองบรรยากาศไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีท่าทางสนใจความสัมพันธ์ผมกับพี่ฟรองค์สักกระติ๊ด ! ฮึ่ยยยยยย
“น้ำเปล่าได้แล้วครับ”
“เอ๋ สั่งน้ำเปล่ากันหรอครับ ? ตายละ เดลไม่ชอบดื่มแล้วหรอ”
“เปล่า ก็อยากอ่ะ … แต่พี่ไทม์ไม่ยอม …”
“เด็กๆยังไม่ควรดื่มน่ะครับ ผมเลยสั่งน้ำเปล่ากับขนมมานั่งฟังเพลงดีกว่า”
“งั้นพี่ไทม์ไม่เด็กแล้วน่าจะดื่มได้นะครับ เฮ้ เอาแชมเปญฉันมาเปิดขวดรับแขกหน่อย อย่าปฏิเสธผมนะครับถือซะว่าเป็นมิตรไมตรีที่น้อง
เดลอุตส่าห์พามาแนะนำ”
“งั้นไม่เกรงใจนะครับ ผมชอบแชมเปญเสียด้วยสิ”
พี่ไทม์ส่งยิ้มแปลกๆมาให้ผมกับพี่ฟรองค์ออกจะขำเสียด้วย แต่ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะหึงเลยให้ตายเหอะ ทำไมเป็นอย่างนั้น หรือผมจะไม่มีหวังจริงๆ
พอแชมเปญมาสองคนก็คุยกันสัพเพเหระออกจะคุยกันถูกคอซะด้วย แผนผมล่มไม่เป็นท่า ! ไม่มีสักนิดไอ้การหวั่นไหวหรือหึง แถมยังฟังเขาคุยกันไม่รู้เรื่องด้วย เฮ้ออออ
“เดี๋ยวมานะครับ ไปห้องน้ำก่อน”
ดูเด่ะ ขนาดผมลุกออกมาสองคนนั่นยังคุยกันปกติเหมือนรู้จักกันมาสามชาติ ! แม่งงเคืองว้อย ไหนๆก็หลบมาแล้วไปเมาแม่งคนเดียวก็ได้แว้
ผมพาตัวเองมานั่งบนบาร์ริมขวาสุดของชั้นหนึ่ง บาร์เทนเดอร์หลายคนก็กำลังทำหน้าที่ตัวเอง ผมก็เลยจิ้มมั่วๆบนเมนูสั่งมาจิบแก้เซ็ง
“นี่ครับออนเดอะร็อค”
เวร พึ่งรู้ตัวว่าสั่งผิดพลาดอย่างแรง ! ถึงผมจะชอบเที่ยวมีดื่มบ้าง แต่อายุพึ่งจะผ่านพ้นยี่สิบนะครับ ประสบการณ์ด้านนี้มันเลยต่ำแบบต่ำโคตร แล้วออนเดอะร็อค ? เอาวะ ! สักครั้งให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลย แม่งงงง
รสชาติบาดคอทำผมแถบจะบ้วนออกมาถ้าไม่ติดว่า เอ่อ … มันแพงอ่ะนะ แรงมาก แรงสวดยอดเท่าที่เคยดื่มมาเลยไอ้ออนเดอะร็อคเนี่ย
“แฮ่กๆ … อีกแก้ว! จัดมา”
จากหนึ่งแก้ว สองแก้ว สามแก้ม จนผมเบลอหนักไม่รู้ว่ากี่แก้วไปแล้ว รู้แต่ว่าตอนนี้ไม่รับรู้อะไรนอกจากความเย็นของกระจก แหงสิผมยกหัวตัวเองไม่ไหวแล้วถึงต้องปล่อยมันฟุบอยู่บนโต๊ะเนี่ย แต่ยังครับ เรายังไม่ยอมแพ้เด็ดขาด ผมก็กำลังพยายามเอามือดันหัวตัวเองขึ้นมายกเหล้าต่อ จนกระทั่งแก้วถูกแย่งไปนั่นล่ะ
“พอได้แล้ว น้องครับเก็บเงินได้เลย”
“ไม่ต้องครับพี่ไทม์ ถือซะว่าผมเลี้ยง พาน้องกลับไปเถอะคงจะน้อยใจหนักแล้ว”
“งั้นก็ขอบคุณมากนะครับ อ้อ … ผมว่าคนของคุณฟรองค์ก็คงน้อยใจหนักเหมือนกัน คนเป็นสจ๊วตนานๆทีจะว่างนะครับมาเล่นตามแผนการ
เด็กแบบนี้ระวังโดนงอนนะครับ”
“โอ๊ะ …. งั้นผมต้องรีบไปเคลมแล้วครับ ฮ่าๆ ไว้เจอกันครับพี่ไทม์”
คุยอะไรกันวะ แล้วมาคุยใกล้ๆทำไม อุตส่าห์หนีมาไกลๆแล้วไง ไอ้พวกบ้าลืมเขาได้ลง ! เอาออนเดอะร็อคกูคืนมานะว้อยยย
“เดล เดินไหวมั้ย”
“อาวหล้าวคืนมาน๊า จาอาววววว”
“เฮ้อ”
เด็กหนอเด็กแกล้งกลับแค่นี้ทำเป็นน้อยใจ ดูสิเหล้าแค่สี่ห้าแก้วก็เมาล้มฟุบแล้วยังซ่าชวนมาเที่ยวที่อโคจรแบบนี้อีก เฮ้อ
“ไปเร็วกลับบ้านกันเดล”
“พี่ไทม์ … จายร้ายยยยย ไม่….แล้วววว … ”
หืมอะไรนะ ? พูดว่าอะไรนะ ?
“ม่ายยยยรักแล้ว …”
หืมมม … หึหึ เด็กหนอเด็ก เด็กจริงๆนั่นล่ะ
“อืม … เดี๋ยวพี่รักเดลเองโอเคมั้ยครับ”
แม้รู้ว่าคนขี้เมาคงไม่ได้ยินเสียงผมหรอก ถึงจะกระซิบข้างหูแล้วก็เถอะ …. ถือว่าพลาดเองนะเดลจะมาหาว่าไม่เคยบอกไม่ได้นะครับ
- ------------------------------------------------- -
ฮิฮิ -///////-
ขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่มาอัพห่างมาก พอดีแบมมีเวลาเปิดคอมแค่วัน ศุกร์ แล้วก็วันอาทิตย์ เท่านั้นเอง TT นอกนั้นก็เป็นวาระไป ฮือออ
ปล . หนังสือจัดส่งวันจันทร์นะคะสำหรับเรื่องเลิฟ !
สุดท้าย : ฝากนิยายเรื่อง ตำหนักรัก ... ผู้ชายทั้งเจ็ด ด้วยนะคะ >< กำลังมันส์ 555555555555
