Chapter 45 : ทายา & คันนม [กาย...♥] (Part 1)ไอ้พี่เอกบ้ามันทิ้งผมไว้กับฝาแฝดมันสองคนครับ
หลังจากมองตามจนพี่มันเดินหายไปแล้ว ผมถึงได้หันกลับมามองซ้ายทีขวาที มองพี่เอกเบอร์สองกับพี่เอกเบอร์สาม
“เอ่อ พี่ ๆ พอจะมีชุดให้ผมเปลี่ยนบ้างไหม”
ผมพยายามดึงเสื้อที่มันร่นไร้ระเบียบให้เข้าที่เข้าทาง
“โทษทีนะ เรามีแต่ไซส์ใหญ่ ๆ พอดีเสื้อผ้าเราเอาไปบริจาคทุกปีน่ะ เลยไม่มีไซส์เล็ก ๆ เหลือเลย”
โห ใจบุญกันจริงวุ้ย มิน่าล่ะ ถึงได้พากันหล่อได้หล่อดี
อืม กูจะได้ทำตามบ้าง
ผมพยักหน้า ยกเสื้อขึ้นมากลัดกระดุมลงหลุม
ถึงหน้าตาของพี่อาร์ตกับพี่อิฐจะเหมือนพี่เอกขนาดไหน แต่บรรยากาศผิดกันลิบลับเลยแฮะ พี่เอกดูมีอำนาจและกดดันกว่าเยอะ แต่พี่ ๆ ทั้งสองดูสบาย ๆ แล้วก็อบอุ่นกว่า
“ป่ะ”
พี่อาร์ตชวนเมื่อเห็นว่าผมพร้อมแล้ว ผมขอตัวเข้าไปเอาข้าวของในห้องก่อน แล้วเดินตามคนทั้งคู่ออกไป
หวิวครับ…
กางเกงในก็ไม่มี ไอ้พี่เอกมันเล่นขนเสื้อผ้าผมไปซักหมดเลย
พอเดินออกมาพ้นตัวบ้าน ลมโกรกแรงจนผมต้องรีบดึงชายเสื้อเอาไว้ ดีนะที่พวกพี่ ๆ เดินกันอยู่ข้างหน้า ไม่งั้น คงได้เห็นกายน้อยโผล่ออกมาหลอกหลอนแน่ ๆ
ตระกูลนี้เป็นสุภาพบุรุษกันมาก พี่อาร์ตเปิดประตูให้ ผมนั่งเบาะหลัง ส่วนพวกพี่ ๆ นั่งเบาะหน้ากัน
แอบเขินครับ เหมือนมีพี่เอกสองคนมานั่งอยู่ด้วยเลย
“ขอบใจอีกครั้งนะ สำหรับโฟโต้บุ๊ค สวยดี ได้ข่าวว่าแม่เห็นแล้วร้องไห้เลยนี่”
พี่อาร์ตหันมาชวนคุยขณะคาดเข็มขัดนิรภัย
ผมได้แต่ยิ้มแหะ ๆ ตอบรับ
แอบเขินนิดหน่อย
พี่อาร์ตสตาร์ทเครื่องยนต์ ขับเคลื่อนตัวรถไปเรื่อย ๆ ตามเส้นทางที่ผมบอก จนถึงหน้าปากซอย ก็มีคนโทรเข้ามา
“ถึงไหนแล้ว”
เป็นพี่เอกนี่เอง
“ใกล้ถึงแล้ว”
ผมเหลือบตามองถนน มือก็ชี้บอกเส้นทางอีกที
“อย่าไปหลงเสน่ห์อาร์ตกับอิฐเข้าล่ะ ถึงยังไงก็เป็นแค่ตัวก๊อปปี้ของพี่”
ดูพี่มันพูดเข้า
ผมเงียบไปพัก ก่อนหัวเราะออกมาเบา ๆ
ถึงพี่ไม่บอก ผมก็ไม่หลงเสน่ห์หรอกน่า หน้าตาเหมือนกันขนาดไหน แต่ภายในก็ยังเป็นคนละคนกันอยู่ดี
พี่อาร์ตจอดรถหน้าบ้าน ผมขอตัววางสาย ก้าวลงจากรถไปไขประตู ไม่ลืมเชิญพวกพี่ ๆ เข้าไปนั่งรอด้วย
“ตามสบายนะฮะ ผมขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
กำลังจะก้าวขึ้นบันได แต่ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากข้างนอก ผมชะงัก หันหลัง แล้วเดินกลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ไปยังไม่ทันจะถึงหน้าประตูด้วยซ้ำ ก็มีสิ่งหนึ่ง กระโจนเข้าใส่เต็มแรง
แรงโถมจากสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ตรงหน้า พาเอาผมเสียหลักถอยไปชนกับใครบางคนเข้า จนคนคนนั้นต้องโอบรับร่างของผมเอาไว้อย่างรวดเร็ว
ผมไม่ได้หันไปมองว่าเป็นใคร ตอนนี้กำลังปกป้องตัวเองจากการถูกรุกรานด้วยลิ้นเปียก ๆ แล้วก็สองขาหน้าที่อุดมไปด้วยขนปุยสีน้ำตาลเข้ม มันยืนด้วยสองขาหลังเกาะไหล่ผมอยู่
“หยุดนะ หมูตอน หยุด!!”
ผมร้องห้าม พยายามปกป้องตัวเองจากลิ้นที่กำลังตวัดเลียไปทั่วทั้งหน้าและผิวเนื้อที่โผล่พ้นคอเสื้อออกมาจนเปียกไปหมด คนที่ประคองผมอยู่พยายามรองรับน้ำหนักตัวผมพร้อมเจ้าสี่ขาเพื่อไม่ให้พวกเราล้มไปด้วยกัน
เขาก็คงไม่รู้จะช่วยผมยังไงดีเหมือนกัน
“หยุด!!!!”
ผมพยายามห้ามอีกที มันยังเลียอยู่ครับ หางที่ปกคลุมไปด้วยขนส่ายเร็วยิ่งกว่าเฮลิคอปเตอร์ตอนร่อนลงจอดซะอีก
“เฮงเฮง!!!”
ผมตวาดเรียกชื่อจริงมัน
มันชะงัก หยุดเลียหน้าผมทันที แต่ก็ยังยืนสองขาเกาะไหล่ผมอยู่ หน้าตามันยังยิ้มระรื่น หางก็ยังส่ายไม่หยุด
ผมยืนหอบแดก จ้องหน้าระรื่นของมัน
กูรู้ว่ามึงดีใจที่เจอกู แต่ดีใจให้มันน้อย ๆ หน่อยได้ไหม ทั้งตัวทั้งหน้ากูเปียกไปหมดแล้ว
หางมันส่ายหนักขึ้นเรื่อย ๆ บ่งบอกความอดทนที่เริ่มหมดลงเรื่อย ๆ ของมัน
“นั่งลง!!”
ผมรีบชี้นิ้วสั่ง มันนั่งลงตาม แต่ยังฟาดหางที่พื้นพับ ๆ ลิ้นยาว ๆ แลบออกมาจนสุด
“นั่ง!!!”
ผมเบรกมันเสียงเข้มเมื่อมันทำท่าจะลุกขึ้นมาอีก
แม่ง! ต้องให้กูดุ
เฮงเฮง หรือเจ้าหมูตอน มันเป็นหมาพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ครับ เป็นหมาของน้องดรีม คนข้างบ้านผมเอง
จำได้ว่าตอนเอามาใหม่ ๆ ตัวมันเล็กมาก อยู่บนฝ่ามือผมได้สบาย ๆ น่ารักน่าเอ็นดูดี ผมเลยติดมันหนึบ แต่พอผ่านไปได้แค่ปีกว่า ๆ มันก็กลายร่างจากหมาเป็นหมูยักษ์
เพราะผมชอบไปเล่นกับมันบ่อย ๆ มันเลยติดผมพอควร เห็นผมเป็นไม่ได้ ต้องวิ่งเข้ามาหาทันที ทั้งกระโดดกอด กระโดดเกาะ กระโดดเลียหน้าบ้าง บางทีมีกระโดดคร่อมเลย
แต่ก่อนตัวมันเล็ก ไม่ว่าอะไรหรอก แต่นี่ ตัวมันใหญ่เกือบเท่าผมเลย กระโดดใส่แต่ละที ผมแทบเดี้ยง
จริง ๆ ลุงเดชพ่อของน้องดรีม พามันไปอยู่กระบี่ตั้งครึ่งปีแล้วครับ ไปอยู่เป็นเพื่อนคุณยายน้องดรีม แต่สงสัยจะซนจัดเขาเลยเตะกลับมา (หมาอายุสองขวบกว่า ๆ แต่ดูขนาดตัวมันสิ)
ผมพ่นลมหายใจแรงเมื่อเห็นว่ามันสงบลงแล้ว กำลังจะหันไปขอบคุณคนที่รับผมไว้ (ซึ่งตอนนี้คนคนนั้นก็ยังไม่ได้ปล่อยมือ โอบเอวผมไว้อยู่ คงกำลังมองสถานการณ์ตรงหน้าเพลิน ๆ เหมือนกัน)
หันไปแต่ยังไม่ทันได้เห็นว่าเป็นใคร ไอ้หมูตอนมันก็ลุกขึ้นมากระโดดเกาะหลังผมอีกที จนผมเสียหลักล้มลงไปที่พื้น
พี่อิฐวิ่งมาจากไหนไม่รู้ มาจับปลอกคอมัน กึ่งลากกึ่งจูงมันออกไปจากบ้าน ผมเอี้ยวหน้ามองตามหลัง
ได้ยินเสียงมันเห่าใหญ่ แล้วก็ได้ยินเสียงน้องดรีมตะโกนด่ามันมาเป็นทอด ๆ แล้วตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วครับ ผมมองหน้าประตูด้วยความหวาดหวั่น กลัวว่ามันจะกลับเข้ามาอีก
ไปอยู่ต่างจังหวัด คิดว่าจะผอมลงบ้าง ที่ไหนได้ ตัวใหญ่กว่าเดิมอีก
ผมถอนหายใจแรง หันกลับมามองตรงหน้าอีกที
กรรม…
ผมล้มทับพี่อาร์ตเข้าเต็ม ๆ
แล้วล้มอยู่ในท่าวาบหวิวซะด้วย
คือ..
ตอนนี้พี่มันนั่งกึ่งนอนหงายอยู่ครับ ค้ำศอกพยุงตัวไว้ด้านหลัง ดวงตาแกยังจ้องอยู่ที่หน้าประตู
แล้วผมก็เอ่อ…
นั่งคร่อมเป้าพี่มันไว้อยู่
โห…ท่าส่อมากเลยกู
อย่าลืมนะครับ ผมไม่มีกางเกงใน
เพราะงั้น…
เต็ม ๆ ครับ T^T
แล้วทั้งหน้าและหุ่นพี่อาร์ตก็เหมือนพี่เอกน่ะนะ
พี่มันหันมามอง
มึง อย่ามามองกูด้วยดวงตาที่ถอดแบบพี่เอกมาเดี้ยะแบบนี้จะได้ไหม
กูแอบหวั่นไหว
พี่เอกยิ่งเตือน ๆ ไม่ให้หลงเสน่ห์พวกมึงอยู่ด้วย ผมหลุบเปลือกตา เขยิบตัวจะลุก แต่ได้ยินเสียงเห่าดังโฮ่งใหญ่ ผมผวาเฮือก แทนที่จะลุก ผมกลับยึดเสื้อแถว ๆ พุงพี่อาร์ตแน่น หันขวับไปมองทางหน้าประตู
กูไม่ได้กลัวนะเว้ยเฮ้ย
แต่กูหลอน
แม่ม…
เลียมาได้ หน้าหล่อ ๆ กูสิวขึ้นหมด
พอทุกอย่างเงียบลง ผมถอนหายใจแรง (กี่ครั้งแล้ววะเนี่ย) หันกลับมามองพี่อาร์ตอีกที
กรรมรอบสอง
ผมยังนั่งอยู่ท่าเดิม มือกำเสื้อที่พุงแกแน่นทั้งสองข้าง ที่สำคัญด้วยความกลัวจัด(ไหนบอกไม่กลัว - -) ผมเลยบดร่างตัวเองเข้ากับพี่แกมากขึ้นไปอีก
พอรู้ตัว ผมรีบคลายมือออกทันที
“ขะ ขอโทษฮะ”
ทำไมกูชอบทำร้ายเสื้อผ้าชาวบ้านเขานักวะ
พี่มันพยักหน้าทีเดียว ผมรีบลุกขึ้นยืน ก้มลงไปช่วยพี่มันลุกด้วย
“หมาของคนข้างบ้านน่ะ สงสัยมันเพิ่งกลับมาจากใต้ เห็นผมทีไร จะกระโจนใส่แบบนี้แหละ แต่ก่อนตัวมันเล็ก ๆ อ้าแขนรับได้อยู่หรอก แต่ตอนนี้ผมขอวิ่งหนีก่อนดีกว่า กระโดดเข้าใส่แต่ละที แขนขาผมแทบหัก”
ผมพูดติดตลก ลูบหน้าลูบตาสำรวจเนื้อตัวแขนขา ดูว่ามีส่วนไหนของร่างกายแตกหักหรือร้าวรึเปล่า
พี่อาร์ตเข้ามาช่วยดูด้วย แกจับคางผมไว้ พลิกไปพลิกมาเช็ค
เมื่อกี้จำได้ว่าไอ้หมูตอนมันเลียไปทั่วทั้งหน้าและคอผมเลย ตัวก็ใหญ่ เล็บก็ยาวอีกต่างหาก สงสัยไม่มีคนตัดให้ (ตัวมันโต มีแค่ไม่กี่คนหรอกที่จะจับมันตัดเล็บได้)
“มีรอยข่วนนิดหนึ่งนะ”
พี่มันขมวดคิ้วมองแถว ๆ ไหปลาร้า
“อืม แสบนิดหน่อย ไม่เป็นไรผมทนได้”
“ปล่อยไว้ไม่ได้หรอก ต้องทายาก่อน เกิดติดเชื้อพิษสุนัขบ้าขึ้นมาจะทำไง”
“มันฉีดยาแล้ว”
“ถึงฉีดยาก็ต้องทำแผลก่อน”
พี่มันพูดเสียงเข้ม มาดนี้แหละ พี่เอกเลย กูก็คิดว่ามึงจะอบอุ่นกว่านี้ซะอีก
แม่ม อย่าเอานิสัยพี่มึงมาใช้เดะ เดี๋ยวกูจะเผลอคิดว่าเป็นคนคนเดียวกันหรอก
“กล่องยาอยู่ไหน”
พี่มันถามต่อ
“ผมไปอาบน้ำก่อนก็ได้”
“ล้างแผลก่อนแล้วค่อยไปอาบ!!”
พี่มันทำเสียงดุจนผมหงอ
เอ้อ ก็ได้วะ
ผมเลยเดินตัวปลิว ไปหยิบกล่องยามานั่งที่โซฟา เปิดกล่องหยิบเอาแอลกอฮอล์มาเปิดฝา หยิบสำลีมาชุบ ๆ เตรียมเช็ด แต่พี่มันดึงไปถือไว้
คือกำลังจะบอกว่า ผมทำเองก็ได้ แต่เห็นสายตาดุ ๆ แบบนั้นแล้ว แอบเงียบครับ
กูไม่ได้กลัวมึงนะ!
ผมแอบซี้ดปากนิดหนึ่ง ตอนพี่แกลงแอลกอฮอล์
“ฆ่าเชื้อไปก่อน อาบน้ำแล้วพี่จะทายาให้อีกที”
ผมพยักหน้า พอล้างแผลเสร็จ ก็เดินขึ้นไปชั้นบนเพื่ออาบน้ำ พอเสร็จก็ลงมาครับ พี่อิฐกลับเข้ามาแล้ว ทั้งคู่นั่งดูอัลบั้มภาพต่าง ๆ ที่ผมเคยถ่ายเก็บไว้
และในนั้นก็มีภาพสามภาพที่ผมชนะการประกวดด้วย(แต่เป็นภาพเล็กนะฮะ) ส่วนภาพใหญ่ที่ผมขยายแล้ว วางพิงกำแพงห้องอยู่นู้น ตอนแรกก็กะว่าจะเอามาแปะฝาบ้านนั่นแหละ แต่เต็มครับ ผมกำลังคิดอยู่ ว่าจะเอาสามภาพนั้นไปแปะที่เชียงใหม่แทน
“เก่งนะ ถ่ายเองหมดเลยเหรอ”
พี่อิฐถาม ผมยิ้มรับ เดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้างกล่องยา พี่อาร์ตวางอัลบั้มลง หยิบยามาป้ายให้ทันที
“เจ็บหรือเปล่า”
คนทำไม่ได้ถาม แต่คนถามเป็นคนไม่ได้ทำ ผมซี้ดปากเบ้หน้าหน่อย ๆ ตอนส่ายหัวปฏิเสธ เห็นพวกพี่ ๆ มันพากันหัวเราะใหญ่
อะไร กูเป็นผู้ชายนะเว้ยเฮ้ย เรื่องแค่นี้กูทนได้
“ไปกันเถอะ สายพวกพี่เปล่า ๆ”
พอทายาเสร็จ ผมรีบชวนทันที พวกพี่ ๆ พากันพยักหน้ารับ
คราวนี้พวกพี่ ๆ ให้ผมเดินนำครับ เดินแบบประชิดตัวเลย สงสัยจะกลัวไอ้หมูตอนมันกระโดดเข้าใส่ผมอีก
เดิน ๆ ไปโดยมีผู้ชายตัวใหญ่ ๆ สองคนมาเดินตาม ทำเอารู้สึกเหมือนมีบอดี้การ์ดประจำตัวยังไงก็ไม่รู้
แถมบอดี้การ์ดยังหน้าตาเหมือนพี่เอกอย่างกับแกะอีกต่างหาก
ผมมาถึงมหา’ลัยโดยสวัสดิภาพครับ
เฮ้อ~ คิดถึงอีตาหื่นจัง
กูนี่เป็นเอามากแฮะ
ผมสะดุ้งกับเสียงมือถือที่ดังลั่น เสียงเป็นเอกลักษณ์แบบนี้ไม่ต้องดูเบอร์ครับ มีแค่คนเดียว
“พี่เชน”
“รับเร็วจัง”
“รับช้า เปลืองค่าโทรกลับ”
พี่มันหัวเราะใหญ่
“จำที่พี่เคยบอกว่าจะพาไปดูแกลของเพื่อนได้ไหม งานเขามีวันพรุ่งนี้แล้วนะ”
“ทำไมกะทันหันจัง”
ผมพยายามนึกอยู่ว่าพรุ่งนี้มีคิวว่างไปดูได้ตอนไหน
“โทษที พี่ไม่ได้โทรบอก พอดียุ่ง ๆ น่ะ”
มิน่าล่ะ หายไปเลย
“คิดว่าลืมผมไปแล้วซะอีก”
พูดไปแล้วก็อยากวิ่งไล่ตะครุบคำพูดตัวเองกลับคืน
กูมาพูดอะไรส่อ ๆ ให้เขาเข้าใจผิดรึเปล่าวะ
จริง ๆ ก็ไม่อยากคิดมากหรอก แต่ทั้งพี่เอก (อันนี้เชื่อไม่ค่อยได้ พี่มันเห็นใครอยู่กับผมก็หึงไปหมด) กับไอ้เต้ยก็เตือน ผมก็ควรจะระวัง ๆ เอาไว้บ้าง
ไม่อยากให้ความหวังใครครับ
เฮ้อ ถ้าเป็นสาว ๆ ก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ ผู้ชายทั้งนั้น ดู ๆ แล้ว น่าจะเป็นชายแท้ทั้งแท่งกันด้วย (ผมก็ชายแท้ครับ แต่เสร็จโจรภูเขาอย่างพี่เอกแค่นั้นเอง)
นี่กูมีเสน่ห์กับเพศเดียวกันด้วยเหรอวะ
หุ่นก็หุ่นแบบผู้ชาย หน้าตาก็แมน ๆ แบบผู้ชาย เอ้อ ถ้าหน้าตาน่ารักนิดหน่อยแบบไอ้เต้ยก็ว่าไปอย่าง ผมว่าสองคนนั้น ต้องคิดมากไปเองแน่ ๆ
พี่เชนเป็นคนใจดี สิ่งที่แกทำอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดก็ได้
ขอคิดในแง่ดีไว้ก่อนครับ
“พี่ก็ลืมจริง ๆ นั่นแหละ”
อ้าว มึง ให้ความหวังกูหน่อยก็ไม่ได้
“เพราะงั้นพี่ต้องทำโทษตัวเอง โดยการพากายไปเที่ยว แล้วเลี้ยงแบบไม่อั้นซะแล้ว”
เอ่อ.. กูว่าไม่ธรรมดาแล้วล่ะ
ผมนิ่งคิด
คันปากอยากถามตรง ๆ แต่มันจะดูเป็นการเสียมารยาทไป
เอาน่า คิดในแง่ดีไว้ก่อน
เขาแค่คิดกับมึงแบบน้อง พวกนั้นมันร้อนตัวกันไปเอง
ผมยิ้มแป้น ตอบตกลงทันที
*** ***
TBC..(เจ้าของเดียวกับ UBC หรือเปล่า?)
ฮาโหลวววววววว หายไปหลายวัน ยังมีคนอ่านกันอยู่ม้าย(ชาติหนึ่งมึงมาลงที ใครจะมาอยู่ตามอ่านวะ TT) เค้าขอโต้ดดดด จิมาให้ไว้ขึ้น เอาให้หอยทากเมายาวิ่งตามไม่ทันเลย เชื่อสิ เค้าสัญญา
แวร์ อิส ยัวร์ มือ ยก สูง ๆ ให้ ข่อย ส่อง แน่ จิได้ รู้ ว่า เจ้า รอ อ่าน อยู่ นะ เจ้าาา (มิกซ์ภาษาทุกภาค โทษ ๆ ช่วงนี้เมายาคุม)