“เหนื่อยเหรอ”เจเอียงคอถามผมที่นั่งหลับตาอยู่ข้างๆ
“ไม่สบายน่ะน้องเจ เห็นบ่นว่าปวดหัวตั้งแต่เช้า”พี่บอลหันมาตอบเจแทนผม ปกติผมจะนั่งคู่เขาด้านหน้าที่ตอนนี้มีตุ๊กตาตัวใหญ่นั่งคู่อยู่
“ไม่เป็นไรมากหรอก มันเพลียๆ น่ะ”ผมพูดเสียงเบาๆ น้ำเสียงแห้งนิดๆ แต่ยังไม่ถึงกับแหบ
พี่บอลขับพาเรามาส่งที่หอแล้วก็ขับรถกลับไป ระหว่างทางเจบอกให้พี่เขาแวะซื้อโจ้ก บอกว่าผมคงกลืนอาหารที่ห่อมาไม่ได้หรอก เสียงแหบขนาดนี้ผมว่าเดี๋ยวคงจะเจ็บคอแน่ๆ เราแยกกันเข้าห้องใครห้องมัน ผมไขกุญแจเข้าห้องปุ๊ปก็เดินไปอาบน้ำสระผมทันที พออาบน้ำแล้วค่อยสบายตัว หายมึนหัวหน่อย
“พี่เอ็กซ์มีไข้ด้วย กินโจ้กแล้วค่อยกินยานะ”เสียงเจตะโกนออกมาจากด้านนอกห้องนอน พอผมเดินออกมาเจก็นั่งรอพร้อมชามโจ้กหอมๆ แล้ว
“อ้าว ไม่สบายแล้วสระผมทำไม”เจถามแกมบ่น ผมอดดีใจไม่ได้ที่รับรู้ถึงน้ำเสียงที่แฝงด้วยความห่วงใย อยากไม่สบายบ่อยๆ จัง
“มันมึนๆ หัว สระแล้วก็โล่งดี ไม่ได้ป่วยอะไรมากหรอก”ปกติผมไม่ป่วยง่ายๆ อย่างมากก็ปวดหัวตัวร้อนวันสองวันก็หาย แล้วงานวันนี้ค่อนข้างหนักเพราะไม่ได้เข้ามาดูแลเองหลายวัน ออกไปรับรองลูกค้าสองกลุ่ม ข้อมูลที่ต้องอ่านต้องศึกษามันก็เยอะ เล่นเอามึนหัวไปหมด
“อวดเก่ง... อ่ะ โจ๊ก”ตลกเจครับ ดุผมก็เป็น ถ้าไม่กลัวว่าจะติดไข้จะจับจูบซะเลย
“ป้อนหน่อย”ผมพูดจบเจทำตาโตเลย บอกให้ป้อนไม่ได้ให้จูบซะหน่อย
“ป้อนทำไม มือก็มี กินเองสิ”
“น่านะ ป้อนหน่อย ตัวมันหนักๆ รู้สึกวูบๆ ด้วย”เจทำหน้าเหมือนชั่งใจก่อนจะหยิบช้อนตักโจ๊กมาเป่าแล้วยื่นมาให้ผมกิน...เพิ่งเคยกินโจ๊กหวานๆ ก็คราวนี้แหล่ะ
“ไม่ต้องยิ้มเลย เดี๋ยวไม่ป้อนเลยนี่”ดูครับคนเรา ยิ้มก็ไม่ได้ด้วย มันก็ป้อนผมไปดูละครไป กินเสร็จก็กินยาเตรียมนอนครับ เหนื่อยกันมาทั้งวัน
“เจไปนอนห้องตัวเองสิ เดี๋ยวติดไข้พี่”เจมันเดินตามเข้ามานอนในห้องผมด้วย
“ไม่เอา นอนนี่แหล่ะ ไม่ติดหรอก”ดูมัน อุ้มตุ๊กตาตัวใหม่มาด้วยครับ
“ไม่ได้ ยิ่งไม่แข็งแรงอยู่ ไปๆ กลับไปห้องตัวเอง”ความจริงไม่อยากไล่หรอกครับ แต่ไม่อยากให้ป่วย ช่วงนี้ยิ่งสามวันดีสี่วันไข้อยู่
“ไม่เอา จะนอนแล้ว ถอยไปหน่อยให้พี่หมานอนด้วย”เจมันเอาตุ๊กตามานอนกอด ตัวใหญ่พอๆ กับมันเลย ก็ยังดีที่นอนตะแคงข้างกอดตุ๊กตาไม่ได้กอดผม จะได้ไม่ติดไข้....แต่มันเหงาๆ นะ
“......ไหนกลัวเจติดไข้ แล้วกอดทำไม”เจถามทั้งที่หันหลัง ก็...นอนกอดกันทุกวันมันชินแล้วนี่ อยากมานอนหันหลังให้ผมทำไมล่ะ
“ก็...อยากกอดตุ๊กตายั่วพี่ทำไมล่ะ”
“ตลกแร่ะ ไปยั่วตรงไหน ชิส์ อยากกอดเจก็บอกมาเหอะ ทำเป็นหาข้ออ้าง”อ้าวว แม่งพูดซะน่ารักเลย
“เออๆ อยากกอด อยากจูบด้วยตอนเนี๊ยะ ถ้าไม่กลัวติดไข้นะ ฮึ่ม”ผมออกแรงกอดเอวเจแน่นขึ้น เอาคางถูหัวเจเบาๆ ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจใหญ่
“ฮ่าๆๆ พอๆ นอนได้แล้ว ห้ามลักหลับเจด้วย”ไอ้เด็กบ้า จากที่ไม่คิดเริ่มคิดเพราะมันนี่แหล่ะ
วันต่อมาผมก็เป็นไข้หนักเลยครับ ไปเรียนไม่ไหว เจมันก็สมน้ำหน้าผมใหญ่ที่สระผมเมื่อคืน อยากจะบอกว่าน่าจะเป็นเพราะมันเปิดแอร์ซะแรงมากกว่า แถมยังดึงผ้าห่มไปห่มให้ตุ๊กตาตัวใหม่มันด้วย ผมเลยนอนหนาวคนเดียวเลย เจน่าจะเรียนเสร็จแล้ว ถ้าไปกินข้าวกับพวกตี๋ก็น่าจะกลับมาได้แล้ว นี่มันสองทุ่มกว่าแต่เจยังไม่กลับมาเลย ผมเปิดประตูไปดูในห้องเจก็ไม่เห็น โทรไปหาก็ไม่รับสาย มันน่าน้อยใจนะเนี่ย แทนที่จะรีบกลับมาดูแลผม ปล่อยให้หาข้าวหายากินเองคนเดียวเฉยเลย
“เป็นไงมั่ง ไข้ลดแล้วนี่”เจเดินมาแตะหน้าผากผมในห้องนอน ผมเผลอหลับไปเพราะฤทธิ์ยา ตอนนี้ก็จะสี่ทุ่มแล้ว
“กลับช้า...โทรไปก็ไม่รับ”ผมดึงเจเข้ามาหอมแก้มเบาๆ ไข้ลดแล้วเลยไม่กลัวติดไข้เท่าไหร่
“ไม่ได้ยินครับ เจคุยธุระอยู่กับเพื่อนน่ะ แล้วพี่กินข้าวหรือยัง”แค่เจทำหน้าสำนึกผิดผมก็หายน้อยใจแล้ว ผมนี่มันใจง่ายชะมัด
“กินมาม่าน่ะ พรุ่งนี้วันหยุด ไปค้างที่บ้านกันมั้ย ไม่ได้ไปนานแล้ว”
“ก็ดีเหมือนกัน แต่..ไปตอนบ่ายๆ นะ ตอนเช้าเจจะเข้าไปหาพี่เจมส์ที่บริษัท”
“....จะทำงานอีกเหรอ ไหนบอกว่าจะพักไง งานของพี่นุก็เสร็จแล้วนี่”ผมท้วงเลยครับ อีกไม่กี่วันก็จะปีใหม่ ผมจะชวนไปสวีทกันซะหน่อย เกิดไม่ว่างขึ้นมาผมก็แย่สิ
“ยังหรอก อยากพักเหมือนกัน แต่จะไปถามงานให้เพื่อนน่ะ พี่เอ็กซ์นอนต่อเถอะ เดี๋ยวเจไปอาบน้ำก่อน”เจเดินออกไปแล้วครับ ว่าจะถามเหมือนกันว่าเพื่อนที่พูดน่ะใคร ทำไมไม่พูดชื่อ ผมไม่รู้จักงั้นเหรอ แต่... ก็กำลังมึนเพราะยานี่ครับ เลยหลับก่อนเจจะกลับเข้ามานอน
ตื่นเช้ามาก็แยกย้ายกันครับ เจไปบริษัท ผมมาโรงแรม มาเอารถครับเมื่อวานจอดทิ้งไว้ ขับรถจากโรงแรมไปรับเจที่บริษัทแล้วตรงกลับบ้าน
“ป้านอมครับ แม่ไม่อยู่เหรอ”ผมเดินเข้าบ้านกับเจ ไม่เห็นแม่เลยครับ
“อยู่ในสวนค่ะ คุยกับแขกอยู่”ป้านอมกำลังเตรียมของว่างใส่จานผมเลยอาสายกไปให้ เดินไปถึงโต๊ะหินอ่อนในสวนอยากเอาจานของว่างขว้างใส่แขกของแม่ครับ
“มาได้ไงวะ”ไอ้โมทย์นี่ถามแปลก
“อ้าวว นี่มันบ้านผมนะครับ”
“งั้นแสดงว่าน้องเจกูมาด้วยสิ อยู่ไหนวะ แม่ครับ เดี๋ยวโมทย์ขอไปหาน้องก่อนนะครับ”
“ไม่ต้องเลยมึง นั่งๆ น้องมึงน่ะเป็นแฟนกูแล้ว เลิกพูดซะทีเถอะคำนี้น่ะ”ว่าจะบอกมันนานแล้ว ชอบพูดแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเสียจริงมัน
“แม่งแค่นี้ก็หวง แม่ดูลูกแม่สิครับ”โมทย์หันไปฟ้องแม่ผมแทน
“เถียงอะไรกันก็ไม่รู้สองคนนี้ แม่ไปหาน้องดีกว่า”อ้าวแม่ เดินลิ่วๆ เข้าบ้านไปแล้ว พวกผมต้องหยิบแก้วกับของว่างวิ่งตาม มองไปตรงประตูหน้าบ้านเห็นเจยืนคุยโทรศัพท์อยู่ครับ สงสัยไม่เห็นว่าแม่เข้ามานั่งที่โซฟาถึงได้ยังคุยโทรศัพท์อยู่
“....จริงสิครับ เจจะโกหกดาวทำไม...............แค่นี้เองเจทำให้ได้อยู่แล้ว....”
“เจ”ผมเรียกเจเบาๆ จากด้านหลัง เจหันมาเหมือนตกใจที่เห็นผม ผมว่าเมื่อกี้ได้ยินชื่อดาวนะ ดาวไหนเนี่ย จะดาวเดียวกันมั้ย เจเดินเลี่ยงผมไปคุยอีกสักพักก่อนจะเดินกลับมาอ้อนแม่ผม
“พี่โมทย์มาได้ไงครับ”
“เอาของฝากจากที่บ้านมาให้น่ะครับ น้องเจค้างรึเปล่า ไปนอนเล่นบ้านพี่มั้ย”อ้าวไอ้โมทย์ ไหงชวนแฟนเพื่อนอย่างนี้ล่ะ
“ไป”เจพยักหน้าตอบทันทีเลย
“เฮ้ยยย ไม่ให้ไป”ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยนะเจ อย่าไปนะ
“ฮ่าๆๆ ล้อเล่น คืนนี้เจจะนอนกับแม่”นี่ก็แย่เหมือนกันอ่ะ ได้แต่นอนกอดเฉยๆ มาหลายคืนแล้วนะ
“โธ่ น้องเจไม่โทรมาบอกแม่ก่อน คืนนี้แม่มีงานเลี้ยง คงค้างที่โรงแรมเลย”
“เยส!”เอ่อ...หลุดปากครับ มองผมตาเขียวปั๊ดทั้งสามคนเลย ผมก็ได้แต่ยิ้มๆ เอามือเกาท้ายทอยแก้เก้อ ตกเย็นแม่ก็ออกไปงานเลี้ยง โมทย์อยู่กินข้าวกับพวกเราแล้วก็กลับ แต่...ที่กลับนี่เพราะผมไล่นะ มันทำท่าจะขอนอนค้างลูกเดียว บ้านอยู่แค่นี้เองจะค้างทำไม ขัดขวางความสุขคนอื่นเขา
“ยิ้มอะไรพี่เอ็กซ์ ทำหน้าสยองอ่ะ”ดูเจมันหันมาว่าผมสิ ก็แค่ดีใจที่ได้อยู่กับเจในห้องสองต่อสองเอง
“ยิ้มก็ไม่ได้อีก งั้นทำหน้าบึ้งดีมั้ย ยิ่งกำลังคิดว่าแฟนแอบนอกใจอยู่ด้วย”ไม่ใช่ว่าผมลืมพฤติกรรมแปลกๆ ของมันเมื่อตอนเย็นหรอกนะครับ
“จริงเหรอ น่าดีใจแทนแฟนพี่จริงๆ ที่ได้ไปเจอคนที่ดีกว่าสักที”
“ดูพูดเข้า พี่มันเลวร้ายมากเลยหรือไง”
“เจล้อเล่นหรอกน่า พี่เอ็กซ์ออกจะดีแสนดีขนาดเนี๊ยะ ใครจะไปกล้าว่าอะไรได้”ดูมัน มีหยอดด้วย แกล้งปกปิดอะไรหรือเปล่าเนี่ย
“ไม่ต้องทำมาเป็นเปลี่ยนเรื่อง ตกลงเมื่อเย็นคุยกับใคร”
“คุย...อ้อออ..คุยกับที่ทำงานไง เรื่องงานน่ะ”
“แล้วทำไมต้องแอบไปคุยข้างนอก”ผมไม่ได้อยากเซ้าซี้หรอกนะครับ แต่อาการมันมีพิรุธจริงๆ คนไม่เคยโกหกอย่างมันมีเหรอผมจะไม่รู้ว่าเรื่องไหนโกหกหรือพูดจริง
“ก็...คลื่นในบ้านมันไม่ค่อยมีไง เสียงมันขาดๆ หายๆ พี่เอ็กซ์จะถามอะไรนักหนาเนี่ย ไหนดูซิ ไข้กลับมาอีกหรือเปล่า”เจพูดจบก็ยื่นหน้ามาหอมแก้มผมเฉยเลย วัดไข้แบบนี้ผมชอบนะ
“ใช้ได้ ปากไม่พอง”ดูมัน ยังมีหน้ามายิ้มใส่ผมอีก
“เอาเถอะ อย่าให้จับได้แล้วกันว่าไปเที่ยวหว่านเสน่ห์ใครอีก อืมม...เจ ปีใหม่อยากไปไหนเป็นพิเศษรึเปล่าครับ”ผมดึงเจที่นั่งดูทีวีให้นอนลงหนุนแขนผมแทน
“อืม...ไม่อ่ะ แล้วพี่กับแม่ล่ะ”
“แม่เขาไปนอกทุกปีน่ะแหล่ะ ถ้าเจไม่อยากไปไหนเป็นพิเศษ เรา...ไประยองกันมั้ย”ผมพูดจบเจแหงนหน้ามามองผมพร้อมกับอมยิ้มแบบขำๆ
“หึหึ...จะไปรำลึกความหลังเหรอ”รู้ดีอีก ก็...มันเป็นที่ๆ..ทำให้ผมเริ่มหวั่นไหวกับเจนี่นา ที่ๆ เราจูบกันครั้งแรก อีกอย่าง ก่อนที่เจจะหายไปวันนั้น ผมเตรียมตัวที่จะชวนเจไปอยู่แล้ว แต่เจดันหนีหายไปซะก่อน มันเลยเหมือนยังคาใจอยู่
“หนอยแน่ะ แกล้งแซวพี่เหรอ หือม์ ไอ้เปี๊ยก”ผมรัดคอเจเบาๆ ให้มันดิ้นไปดิ้นมา แกล้งไม่ให้มันดูโทรทัศน์ครับ
“โห ว่าปมด้อยอีกแล้วอ่ะ ใจร้ายว่ะ รู้งี้ไปนอนกับพี่โมทย์ดีกว่า”
“โหยย เจ อย่าพูดงี้ดิ พี่ไม่ชอบให้ประชด ฟังแล้วใจสลายเลย”รู้ว่าเจมันพูดเล่น แต่ผมเจ็บจี๊ดเหมือนกันนะ อย่าพูดว่าใครดีกว่าผมสิ
“มีงอนด้วย โอ๋ๆๆ พูดเล่นหน่อยเดียวเอง จุ๊บ”เจยื่นหน้ามาจุ๊บปากอีกแล้ว...ยิ้มออกเลยผม
“...อีกนิดได้มั้ย”ผมมองเจพร้อมพยักหน้า แต่เจส่ายหน้าตอบอ่ะ ไม่สนแล้วครับพลิกตัวนอนคล่อมเจไว้เลย
“ทำไร”
“จะให้ตอบจริงๆ เหรอ”
“ทะลึ่ง”โหยยย น่ารักว่ะ เจหันหน้าหนีทำแก้มป่องใส่ผมครับ แต่แก้มกับคอขาวๆ นี่แหล่ะเป้าหมายใหม่ ผมหอมแก้มเจเบาๆ ก่อนจะไล่จูบลงมาตามคอ สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ดมเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ ไซร้ไปตามซอกคอ ใบหู ขบเม้มที่ติ่งหูก่อนจะเลียซ้ำเบาๆ จนเจเริ่มดิ้นหนี มือเริ่มลูบไล้ไปทั่วตัว ดึงเสื้อเจให้หลุดออกไปตอนเจกำลังเคลิ้ม ตาปรือๆ ที่มองหน้าผม กับปากแดงที่ชื้นจากการจูบยิ่งทำให้ผมต้องจูบซ้ำแล้วซ้ำอีก ลิ้นเล็กที่สัมผัสตอบอย่างประหม่าถึงจะทำมาหลายครั้งแต่เจก็ยังไม่คุ้นเคย ทำให้ผมยิ่งอยากแกล้ง ได้ยินเสียงครางแกมประท้วงเบาๆ ผมจึงต้องละจากปากนุ่มมาที่เนินอกแทน เจขยับตัวหลีกหนีนิ้วมือผมที่คอยกระตุ้นอารมณ์อยู่ที่ยอดอก ผมก้มลงเม้มปากและดูดเบาๆ พร้อมใช้ปลายลิ้นสัมผัสที่ยอดอกจนเจส่ายหน้าไปมาและแอ่นรับปากผมโดยไม่รู้ตัว
“อื้ออ...อืมมมม”
มือผมเกี่ยวขอบกางเกงเจดึงให้หลุดออกทางปลายเท้า ก่อนจะปลดเสื้อผ้าตัวเองตาม มองคนตัวเล็กที่ผิวขาวๆ กลายเป็นสีชมพูด้วยความอาย ผมก้มลงประกบปากมอบจูบที่เร่าร้อนปลุกอารมณ์เจอีกครั้งก่อนที่มือจะค่อยๆ เลื่อนไปกอบกุมแก่นกายด้านหน้าที่เริ่มแข็งขืน ขาข้างหนึ่งยกขึ้นมากันสัมผัสจากมือแต่ผมรีบเบียดตัวแทรกกลางจนเจทำได้แค่บิดสะโพกไปมาเพื่อคลายอารมณ์ที่ผมกระตุ้น แต่นั่นกลับยิ่งกระตุ้นผมโดยที่เจไม่ตั้งใจ
“อ่าห์....”ผมครางเบาๆ เมื่อจับมือเจกอบกุมแก่นกายผมบ้าง เจขยับมือตามที่ผมขยับนำ หน้าหวานๆ เกลือกกลิ้งบนหมอนเมื่อผมเร่งมือให้เร็วขึ้น เจเม้มปากกัดฟันแน่นเพื่อกลั้นเสียง
“เจ....อย่ากลั้นเสียง....ให้พี่ได้ยิน...นะ”ผมจูบไซร้ตามซอกคอ มือก็เร่งสัมผัสทั้งส่วนล่างและยอดอกจนเจหลุดเสียงหวานออกมาให้ได้ยินอีกครั้ง
“อาาาา.....อ๊ะ...”น้ำเสียงครางหวานพร้อมกับสะโพกมนที่แอ่นรับสัมผัสอย่างห้ามไม่ได้ ผมรีบเคลื่อนตัวลงต่ำและครอบปากที่ส่วนอ่อนไหวทันที ปากและลิ้นพยายามปรนเปรอให้รู้สึกดีมากที่สุด ร่างกายบิดเกร็ง มือเล็กที่พยายามดันผมออกเมื่อใกล้ปลดปล่อย ผมยิ่งเร่งเร้าจนหยาดแห่งแรงอารมณ์ปลดปล่อยออกมาในโพรงปากและผมรับเอาไว้ทั้งหมดอย่างไม่นึกรังเกียจ
ตาโตปรือมองพร้อมแรงหอบหายใจ ปากแดงอ้างับอากาศเข้าปอดจน ผมก้มลงปิดปากและสอดลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปพันเกี่ยวเร่งเร้าให้สัมผัสตอบอีกครั้ง ในขณะที่จับมือเล็กให้กระตุ้นแก่นกายตัวเองอย่าเร่าร้อน และไม่นานก็ปลดปล่อยตามคนด้านล่าง ผมเลื่อนมือสอดลงไปผ่านไปที่ด้านหลังโดยใช้ของเหลวช่วยหล่อลื่น
“อ๊ะ!”เสียงครางและอาการเกร็งตัวพร้อมเบี่ยงสะโพกหนีด้วยความกลัวและตกใจ
“เจ...แค่นิ้ว...นะ”ผมกระซิบและพยายามไซร้จูบตามใบหูให้คลายกังวล
“เจ....กลัว....มันเจ็บ...”เจหวานปนหอบค้านเบาๆ
“เบาๆ..นะครับ พี่จะทำเบาๆ.....แค่นิ้วจริงๆ นะ...นะครับ”เสียงกระซิบผมที่พยายามข่มอารมณ์ตัวเอง มือข้างที่เหลือก็พยายามกระตุ้นด้านหน้าอีกครั้ง จนเจเริ่มหายเกร็งถึงค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วลูบไล้ด้านหลังเบาๆ จนเจเริ่มผ่อนคลายถึงค่อยๆ กดปลายนิ้วชี้เข้าสอดแทรกเข้าไปช้าๆ เพื่อไม่ให้เจ็บและตกใจ แค่เพียงนิ้วเดียวมันก็แน่นและคับจนผมทนแทบไม่ไหว
“เจ...แน่นมากเลย...อย่าเกร็งนะ”ผมเลื่อนมาขบเม้มตามยอดยกทั้งสองข้างจนร่างเล็กดิ้นพล่านและครางออกมาให้ได้ยินเรื่อยๆ ผมเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปเมื่อเห็นว่าเจเริ่มผ่อนคลาย
“อึ๊ เจ็บ!...”เสียงครางเครือ เจย้ายสะโพกหนีจนผมต้องรีบทับไว้ทั้งตัวและรีบประกบปากจูบให้เจคล้อยตาม มือก็เร่งเร้าด้านหน้าเพิ่มขึ้นเพื่อคลายเจ็บ
“อึ๊..จะ..เจ็บ...ไม่เอา......”ผมรีบถอนนิ้วออกทันทีเมื่อเจยังเจ็บอยู่ มือก็เร่งเร้าด้านหน้าจนเริ่มกระตุกและปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง
“อ๊าาา”เสียงหวานร้องครางอย่างห้ามไม่ไหว เมื่อแรงอารมณ์เริ่มจากหาย นัยน์ตาหวานเริ่มเอ่อคลอด้วยน้ำตา และไหลลงมาข้างแก้ม
“...พี่ขอโทษ...ขอโทษนะครับคนดี เจ็บมากเหรอ...”ผมจูบปลอบที่ขมับและแก้ม ก่อนจะจูบซับน้ำตาจากตาคู่สวย
“...ฮึก....ฮึก......เจ็บอ่ะ...เจเจ็บนะ”
“พี่ขอโทษนะครับ...ขอโทษ โอ๋ๆๆ ไม่ทำแล้วครับ”ผมดึงเจมากอดโยกตัวไปมา มือก็ลูบหลังเบาๆ จนเจหยุดร้อง
“ขอโทษนะครับ”ผมพูดอีกครั้ง เจก็พยักหน้ารับคำ ผมก็ช้อนตัวเจพาไปอาบน้ำในห้องเหมือนที่เคยทำ แรกๆ เจก็อาย ต้องปิดไฟอาบครับถึงยอม แต่เดี๋ยวนี้เปิดไฟได้แล้ว อาบน้ำเสร็จก็เอาผ้าเช็ดตัวมาห่อไว้แล้วอุ้มกลับมานอนที่เดิม เจทำท่าจะหลับตั้งแต่ตอนแช่น้ำแล้ว มาถึงเตียงก็หลับเลย ไม่รู้ว่าเหนื่อยเพราะร้องไห้หรือเพราะอะไรกันแน่
*****************************************************************************************
ตอนแรกกะว่าจะยังไม่อัพ จะรีไรท์ใหม่ก่อน แต่...ขี้เกียจอ่ะ อ่านๆ ไปเหอะนะ
ช่วงนี้ไม่ค่อยมีไฟในการแต่งต่อเท่าไหร่เลย