“หรือไม่อยากไปต่อล่ะ ตรฤณ~”
“ไปสิ”เป็นคำตอบที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการทางทางสมองเลยล่ะ ใช้ไขสันหลังตบล้วนๆ
“นี่กร”เมื่อขับรถออกมาได้สักพักตรฤณก็เอ่ยถามขึ้น เมื่อกรหันมาสนใจตรฤณจึงถามต่อ
“แล้วถ้าเกิดสองคนนั้นมาแล้วไม่เห็นใครจะไม่เป็นอะไรเหรอ?”
“เขาเป็นแฟนกันให้เขาฉลองกันสองคนดีกว่าไม่ใช่เหรอ?”กรไม่ตอบคำถามแต่กลับถามกลับ
“มันก็ดี...แต่ฉันก็เป็นห่วงสอง หลานรหัสนายมันน่าไว้วางใจนักนี่” ตรฤณพูดไปเรื่อยตามประสา และตามความรู้สึกนึกคิด
“ไม่น่าไว้ใจน่ะสิดี...ก็เด็กมันอยากมีเมียจะไปขัดอะไร”กรพูดอย่างมีความสุขแต่นั่นทำเอาตรฤณเบรกรถดังเอี๊ยด! ดีเท่าไหร่ที่ทั้งสองต่างก็คาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ไม่งั้นหัวของกรอาจจะพุ่งทะลุกระจกหน้ารถก็เป็นได้
“นายว่าอะไรนะ?!”ตรฤณดูโมโหในแบบที่กรไม่เคยได้เห็น
“ก็...ภูเบศธ์มันอยากฉลองกับสองแบบสองต่อสอง”
“อ๋อ~ ที่นายวางยาไอ้วินเพราะจะปล่อยให้ภูกับไอ้สองอยู่ด้วยกันแบบไม่มีใครมาขัดงั้นสิ”ตรฤณชักโกรธคนที่ตัวเองรักซะแล้ว
“ตรฤณน่า~ ฉันก็แค่เป็นตัวช่วย ภูเบศธ์กับสองรักกัน...เรื่องอย่างนั้นมันจะเกิดบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมชาติไม่ใช่หรือไง?”กรเริ่มพูดเสียงอ่อน
“ไม่ได้...ฉันจะไปหาไอ้สอง”ตรฤณพูดเสียงเข้ม
“ตรฤณ....นายไม่อยากไปต่อกับฉันแล้วเหรอ?”กรออดอ้อน
แต่ตอนนี้เวอร์จิ้นไอ้สองสำคัญกว่า...ซะล่ะมั้ง!
“ไม่ล่ะ...เพราะครั้งนี้นายทำเกินไปแล้วจริงๆ”ตรฤณพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวังก่อนจะออกรถด้วยความเร็วเพื่อมุ่งหน้าไปสู่หอพักของสอง ใช้เวลาเพียงไม่นานออดี้สีน้ำเงินเข้มก็จอดอยู่หน้าหอพักของตรฤณพร้อมกับที่คนขับเปิดประตูแล้วลงจากรถทันที โดยมีกรวิ่งตามไปติดๆ
“ตรฤณ...”ในเมื่อเรียกแล้วไม่หัน แถมตัวพ่อมือวางอันดับสองกำลังจะเข้าไปขัดความสุขลูกรัก กรก็จำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับตรฤณ
ผลัวะ!!
เสียงท่อนแขนฟาดลงตรงท้ายทอยของร่างสูงใหญ่จนตรฤณทรุดตัวล้มหมดสติไปทันที กรทำหน้ารู้สึกผิดก่อนจะลูบแขนตัวเองเบาๆด้วยความเจ็บที่ฟาดเข้ากับท้ายทอยของตรฤณโดยไม่ยั้งแรง
ถึงใบหน้ากูจะสวยใส แต่อย่าได้ลืมไปว่ากล้ามกูก็ใหญ่ไม่ใช่หยอก!
“ขอโทษด้วยนะตรฤณ...ที่ครั้งนี้ฉันทำเกินไปจริงๆ”กรรีบพยุงร่างสูงของตรฤณเพื่อนำกลับรถ ก่อนจะขับรถกลับหอพักของตรฤณ___________________
“เรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างที่กูว่า”ถึงตรฤณจะเล่าด้วยสีหน้าเศร้าสลดแต่ทว่าคนฟังกลับหัวเราะแบบนอนสต๊อปตั้งแต่เริ่มยันจบเรื่อง
“เฮ้ย กูว่ากูฟังมึงเล่าแล้วเสียเวลาว่ะ..กูไปหาไอ้สองก่อนแล้วกัน”ชวินพูดจบก็ชักชวนหมอเขมออกจากห้อง
“อ้าวเฮ้ยมึง แล้วกูล่ะ?”
“มึงน่ะอยู่นี้แหล่ะไม่ต้องตามไปเป็นผีผ้าขนหนูหรอก ขืนผาหลุดมากูอายแทน!”ชวินพูดยิ้มๆก่อนจะเดินพาน้องหมอเขมออกจากห้องให้ตรฤณร้องโอดครวญอยู่คนเดียว
“อ่อ!”
ชวินวกกลับมาอีกครั้ง
“ส่วนมึง...ก็มีหน้าที่โกรธกรไปแล้วกัน...ทำตามที่กูบอกไม่ต้องถามอะไร เข้าใจ๊?”ชวินสั่งปิดท้ายแล้วปิดประตูห้องลงตามเดิม
“แค่กรคนเดียว กูจัดการได้แต่กูว่าใช้มึงร่วมด้วยอีกคนท่าจะมันส์กว่าเยอะ!” ว่าแล้วชวินก็เหยียดยิ้มที่มุมปาก
_______________________
“ภูเบศธ์!” เสียงเรียกจากทางด้านหลังทำเอาเจ้าของชื่อสดุ้งแถมรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆขึ้นมาเมื่อเหมือนจะรู้ว่าคนที่เรียกชื่อตนเองนั้นเป็นใคร
“คะ...ครับ”แต่ภูเบศธ์ก็ต้องทำใจดีสู้เสื้อแล้วหันหลังกลับไปขานรับ
ทำใจดีสู้เสือไว้ ไหนๆก็ได้ลูกเสือมาแล้วนี่!ชวินเดินเข้ามาประชิดภูเบศธ์ จนภูเบศธ์ต้องรีบถอยกรูดพร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆให้
“มาทำอะไรอยู่แถวนี้ นายไม่ได้อยู่หอนี้ไม่ใช่เหรอ?”น้ำเสียงเย็นยะเยือกของชวินทำเอาภูเบศธ์เริ่มสั่นๆ แต่ถึงสั่นก็เป็นสั่นสู้ก่อนจะกลั้นใจตอบคำถาม
“มาหาพี่สองครับ” ภูเบศธ์ตอบเจ้าของคำถามอย่างสุภาพ ชวินเองก็อดยิ้มอยู่ในใจไม่ได้ที่ไอ้เด็กตรงหน้ามีท่าทางกลัวเขาอย่างเห็นได้ชัดจริงๆแล้วชวินเองก็ไม่ได้กะจะมาต่อว่าอะไร เพราะความจริงแล้วเพื่อนตัวเล็กของเขาต่างหากที่รักเด็กผู้ชายตรงหน้า เพื่อนสนิทอย่างชวินและตรฤณจะมาว่าอะไรได้ อีกอย่างทั้งชวินและตรฤณต่างก็รู้ดีว่าถ้าสองมันไม่ชอบมันไม่ยอมซะอย่าง ป่านนี้ภูเบศธ์คงไม่ได้มาเดินเล่นแถวนี้หรอกเพราะเกรงว่าคงต้องไปนอนแหม็บกับเตียงที่โรงพยาบาล ฤทธิ์ของสองค่อนข้างเยอะ เพื่อนๆนั้นต่างก็รู้ดี
เอ๊ะ?...หรือว่าเมื่อคืนสองคนนี้ไม่ได้มีอะไร คงเป็นเพราะกูอาจหวงสองมากเกินไปซะล่ะมั้ง!หรือเพราะถ้าเกิดภูเบศธ์มันเกิดหาเรื่องปล้ำสองขึ้นมาจริงๆภูเบศธ์คงไม่ได้มาเดินลอยหน้าลอยตาเป็นลิงแฮปปี้อยู่แถวนี้หรอกว่ามั๊ย?
“เพิ่งมาหาหรืออยู่ด้วยกันตั้งแต่เมื่อคืน?”ชวินรุกถามต่อ ส่วนคนถูกถามก็ได้แต่อ้ำอึ้งตอบคำถามไม่ออก
ถ้าเกิดกูตอบว่าอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน กูจะโดนพี่วินเอาปืนยิงแสกหน้ามั๊ยวะ?!“เมื่อคืน...ครับ” แต่สุดท้ายก็จำเป็นต้องตอบความจริงพอพูดจบก็โดนกระชากคอเสื้อ ความเป็นจริงภูเบศธ์ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทักษะในการต่อสู้ เพราะมีดีกรีถึงคาราเต้สายดำ แค่โดนกระชากคอเสื้อยกมือขึ้นมาบิดนิดเดียวก็สามารถจับชวินทุ่มลงกับพื้นได้ง่ายๆ..แต่ภูเบศธ์เลือกที่จะไม่ทำไม่ใช่เพราะเกรงใจ...แต่เป็นเพราะรู้สึกผิดต่อชวินตอนนี้ภูเบศธ์เองก็พร้อมที่จะประกาศกับคนอื่นว่า เขาพร้อมที่จะรับสองในทุกๆอย่างที่ตนเองได้กระทำเอาไว้ โดยเฉพาะกับเพื่อนรักทั้งสองของสองด้วยแล้ว ตอนนี้ภูเบศธ์อยากให้ทั้งชวิน และตรฤณยอมรับเขาในฐานะแฟนของสองอย่างเปิดเผย
“นายทำอะไรสองหรือเปล่า?” ถึงจะเป็นคำถามแต่ภูเบศธ์รู้ดีว่าเหมือนเป็นคำขู่อยู่ในตัว
“.................”ภูเบศธ์หลบตาพร้อมกับแลบเลียริมฝีปากอย่างประหม่า เพียงเท่านี้ชวินก็คาดเดาได้ว่าเมื่อคืนคนสองคนที่อยู่ด้วยกันทั้งคืนคงไม่ได้‘นอน’เฉยๆกันทั้งคืนแล้วล่ะ เพราะว่าอาจจะมีกิจกรรมบางอย่างเข้ามาแทรกก่อนนอนแน่ๆ
“บอกฉันได้มั๊ยภูเบศธ์...ว่านายจะรักสอง..รักสองให้มากๆและจะไม่ทำให้สองของพวกพี่ต้องเจ็บ”น้ำเสียงของชวินแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังไม่ได้แฝงความโกรธเคืองใดๆเอาไว้เหมือนตอนต้น ภูเบศธ์จึงสบตากับชวินเพื่อย้ำความรู้สึกของตนเอง
“ถ้าผมทำพี่สองเจ็บ...พี่ลากคอผมไปฆ่าได้เลย”
ถือว่าเป็นคำสัญญาจากเด็กปากหมาแล้วกัน “แล้วอย่าหาว่าพี่ไม่เตือน ถ้าสองร้องไห้เพราะนาย พี่ฆ่านายแน่”ชวินพูดยิ้มๆไม่ได้มีทีท่าจริงจังกับสิ่งที่ตนเองพูดเสียเท่าไหร่ เพราะรู้สึกมั่นใจไอ้เด็กตรงหน้าเหลือเกินว่า ภูเบศธ์จะไม่มีวันทำให้เพื่อนรักของเขาต้องเจ็บ
“มันจะไม่มีวันนั้นครับ”ภูเบศธ์ยิ้มให้ชวินที่คว้าคอภูเบศธ์เข้ามากอดเอาไว้
“เอ่อ..คุณภูเบศธ์ครับผม ‘หึง’ พี่วินของผมครับ”เมื่อสองหนุ่มเข้าใจกันเลยมีเสียงๆหนึ่งขัดขึ้น
ขนาดไอ้นักศึกษาแพทย์เขมชาติมันหึง...มันยังพูดเพราะได้อีกอ่ะ! จะผู้ดีไปไหนวะ?“ไม่เอาน่าเขม...” ชวินปล่อยมือจากไหล่ของภูเบศธ์ก่อนจะคว้ามือของหมอเขมมากุมเอาไว้
“หึงมากเหรอ?”ชวินถาม แต่หมอเขมกลับส่ายหน้า
“ผมก็พูดไปอย่างนั้นล่ะครับ” ก่อนที่ทั้งชวินและหมอเขมจะสร้างโลกส่วนตัวขึ้นมาแล้วถีบภูเบศธ์กระเด็นออกจากวงโคจร
กูกลับห้องไปสวีทต่อกับสองก็ได้วะ~“นี่...ภูเบศธ์”พอภูเบศธ์จะปลีกตัวกลับห้องสอง ชวินก็รั้งไว้
“ฉันขอถามอะไรบางอย่างสิ”ชวินพูดจบก็โน้มเข้าไปกระซิบกับภูเบศธ์ ก่อนที่ภูเบศธ์จะกระซิบตอบคำถามคืน โดยที่ชวินเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
“คิดไว้แล้วเชียว ”ชวินพึมพำก่อนจะพูดต่อ
“นี่ฝากบอกสองด้วยว่า...มีแฟนแล้วอย่าลืมเพื่อนล่ะ”ภูเบศธ์ยิ้มกับคำบอกกล่าวของชวินก่อนจะพยักหน้ารับ ในขณะที่ชวินและหมอเขมเดินออกจากหอไป ความจริงชวินเองก็อยากจะเจอสองก่อนเช่นกัน...แต่ทว่าตอนนี้ชวินต้องกลับไปสะสางไอ้แกนนำผู้ก่อการร้ายซะก่อน
_____________________________
‘มึง...ทำไงดี..กรง้อกูจนกูจะอดใจไม่ไหวแล้วนะเว้ย’ ข้อความที่ตรฤณส่งมาหาชวิน ทำให้ชวินต้องรีบกลับไปสู้ศึกที่ตรฤณกำลังจะเจอ
“มึงก็ใจแข็งต่อไปเว้ย!กูอยากแกล้งกรซะบ้าง”ชวินพูดพร้อมกับพิมพ์ข้อความส่งกลับคืนให้ตรฤณ
“เขมรีบขับกลับไปหอไอ้ตรฤณเลย”พูดจบหมอเขมก็เร่งความเร็วจนในที่สุดทั้งสองคนก็กลับมาถึงที่หอพักของตรฤณอีกครั้ง
____________________
“ตรฤณ...อย่างอนสิ..ฉันขอโทษนะ..ตรฤณพูดกับฉันหน่อยสิ”
กูหายงอนตั้งแต่ที่กรกลับมาหากูพร้อมด้วยรอยยิ้มแล้วครับ แต่พอดีเพื่อนกูมันบังคับให้งอนใส่อ่ะทำไงได้!“ตรฤณ~ น้า..ถ้าฉันไม่ทำอย่างนั้น แล้วเมื่อไหร่ คู่นั้นจะสมหวังล่ะ..เห็นใจฉันหน่อยสิ”
งั้นคุณทิวากรก็ช่วยเห็นแก่ท้ายทอยกูบ้างก็ได้ครับ กระแทกมาได้ คอกูไม่หักก็บุญเท่าไหร่แล้ว!ท่าทางของกรยังดูร้อนรน เพราะเรื่องทั้งหมดกรเองจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจก็คงจะไม่ใช่ แต่พอทำแล้วโดนตรฤณโกรธขนาดนี้กรก็กลับรู้สึกผิดขึ้นมา
จะมีใครเคยรู้บ้างมั๊ย ว่าตลอดชีวิตในรั้วมหา’ลัย หัวใจของกรมีไว้สำหรับตรฤณคนเดียว.....ถึงได้ครองโสดมาตลอดสี่ปีเพื่อรอให้คนหน้าหมีมาสอยลงเอาจากคานตอนปีสี่นี่แหล่ะ!
“ตรฤณจะว่า จะด่าฉันยังไงก็ได้ แต่ขอให้นายแค่พูดกับฉัน...”ดวงตากลมโตเริ่มแดงก่ำจนตรฤณต้องเบือนหน้าหนีก่อนที่โรคหัวใจ(อ่อนแอ)จะกำเริบ
ไอ้วิน! ถ้ามึงยังมาไม่ถึง...กูจะเลิกงอนทิวากรแล้วนะเว้ย!“ไงล่ะ?....แกนนำผู้ก่อการร้าย”
แล้วก็เหมือนมีเสียงสววรค์มาโปรด เมื่อชวินเดินเข้ามาในห้องของตรฤณที่ไม่ได้ล็อค ตรฤณลอบถอนหายใจก่อนจะรีบเดินไปหาชวิน
“วิน!”กรหันไปมองคนที่เข้ามาใหม่ทันที
“แผนนายเหรอ? ที่ตรฤณโกรธฉันเพราะนายใช่มั๊ย?”กรถามเสียงดังในขณะที่ชวินหาได้เกรงกลัวแมวน้อยที่ออดอ้นตรฤณอยู่เมื่อครู่แล้วแปรสภาพตัวเองเป็นเสือสมิงเตรียมตะปบคอชวิน
“ก็แค่อยากเห็นนายโดนเอาคืนซะบ้าง”ชวินพูดสบายๆในขณที่ตรฤณทำคอหดทำตัวเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วหลบอยู่หลังชวินเพราะโดนกรใช้สายตาคาดโทษ
แต่การได้เห็นทิวากรหัวหมุนบ้าง ก็สนุกดีใช่หยอก!
“เอาคืนอะไร?”กรทำเป็นไขสือ
“อย่าคิดว่าคนอื่นไม่รู้...ว่าตัวเองทำอะไรไว้กับไอ้สองบ้าง”ชวินว่า
“ก็ฉันแค่ช่วยหลานรหัสฉัน...ฉันหวังดีหรอกนะ”
“อ๋อเหรอ? หวังดี? ขอบคุณมากนะที่หวังดีกับเพื่อนฉันเพราะฉะนั้นฉันก็อยากจะหวังดีกับนายบ้างเหมือนกัน” ชวินยิ้มร้ายโดยที่กรคาดเดาความหมายรอยยิ้มนั้นไม่ถูก
“หวังดี?”กรสงสัย
“นี่ตรฤณมึงรู้ตัวบ้างมั๊ย? ว่ามึงโดนใครบางคนจองตัวตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว”เพียงแค่ชวินเปรยขึ้นมา กรก็เริ่มแสดงอาการรุกรี้ลุกลนจนตรฤณสังเกตได้และก็ได้แต่ภาวนาอยู่ในใจว่าเรื่องที่ชวินจะพูดต่อไปนั้น คงไม่ใช่ความลับที่เขานั้นเก็บเอาไว้มานานหลายปี
“ใครวะ?”ตรฤณถามเหมือนอย่างคนไม่รู้จริงๆ
“ก็คนสวยของมึงไง”ชวินยิ้มร้ายก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อให้คู่รักได้เคลียร์กันเอง แต่ก่อนออกจากห้องก็ไม่วายแอบกระซิบกับกร
“นายรู้ใช่มั๊ยว่าฉันวางยานายแล้วจับนายลากขึ้นเตียงพร้อมกับไอ้ตรฤณ”
“ถ้าไม่รู้ก็คงไม่ใช่กรล่ะมั้ง~”กรยักคิ้วกวนๆ จนชวินอดยิ้มไม่ได้
“รู้งี้ไม่น่าเปิดโอกาสให้นายได้ไอ้ตรฤณมันซะก็ดีจะได้เห็นคนสวยแถวนี้ขึ้นคาน”
ชวินพูดปิดท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งไว้ให้ตรฤณได้แต่มองอย่างสงสัยคนทั้งสอง
สงสัยต้องไปขอบคุณเด็กไอ้สองที่บอกความลับสุดยอดของกูจนเอามาเป็นเรื่องแกล้งทิวากรได้!“คุยอะไรกันเหรอ?”ตรฤณเดินเข้าไปกระแซะตัวเข้าหากรพร้อมด้วยคำถามที่ข้องใจ
“คุยว่าฉันจะเอายังไงกับนายดีน่ะสิ..กล้าทำมาเป็นงอนฉันหรือไงห๊า!!!” กรหันไปขู่ฟ่อใส่ตรฤณ แต่คราวนี้ตรฤณไม่กลัวและรีบรวบคนตรงหน้าเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
“แล้วฉันควรจะทำยังไงกับกรดีล่ะ ที่ปล่อยให้ฉันแอบชอบนายมาตั้งนานโดยที่ไม่เคยรู้เลยว่านายก็ชอบฉันมาตลอดเหมือนกัน”ตรฤณพูดพร้อมกับกดจูบลงกับแก้มใสของกร
“ก็นายไม่เคยคิดจะจีบฉันแล้วจะให้ฉันไปจีบนายก่อนหรือไง?...นี่ถ้าวินไม่จับฉันกับนายลากขึ้นเตียงวันนั้น ฉันก็คงไม่ได้นายมาเป็นแฟนสักทีน่ะสิ อุ๊บ!”กรบ่นยืดยาวแต่สุดท้ายก็เพิ่งรู้ตัวว่าหลุดความลับอะไรออกมาเลยยกมือขึ้นมาปิดปาก แต่ก็ดูท่าว่าจะสายไปเสียแล้ว ดูได้จากรอยยิ้มของตรฤณได้เลย
“นายก็รู้เหรอ?...ว่าวันนั้นเราไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ...แต่ที่นายไม่ปฏิเสธก็เพราะ....รักฉันใช่มั๊ยล่ะ?”ตรฤณพูดพร้อมรอยยิ้มกว้างเพราะความลับนี้ตรฤณเองก็เพิ่งรู้จากชวินมาไม่กี่วันก่อนนี้เอง
“ร้ายนักนะ..กร” ตรฤณยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะช้อนตัวกรขึ้นมาเมื่อกรไม่ยอมพูดปฏิเสธข้อกล่าวหาใดๆ
“แต่ถึงร้าย...ฉันก็จะรัก”ตรฤณพูดเบาๆ
“อือ”กรรับคำพูดในลำคอ
“ไหนๆวันนั้นนายยังไม่ได้เป็นเมียฉัน..ถ้าอย่างนั้นก็เป็นมันวันนี้ซะเลยแล้วกันนะ ”พูดจบก็อุ้มคนสวยขึ้นเตียง...
โดยที่ไม่มีเสียงร้องขัดขืน จะมีก็แต่เสียงครางหวานๆของทิวากรแทน~
______________________
“ไปนานจัง...”เมื่อภูเบศธ์เข้ามาห้องสองก็ถามขึ้นทันที แต่พอสายตาเหลือบไปเห็นของที่ภูเบศธ์ซื้อมา เจ้าตัวก็เลิกคิดจะเอาคำตอบจากภูเบศธ์ แล้วเดินมาหยิบถุงของที่ภูเบศธ์ลงไปซื้อมาให้ทันที
“แซนด์วิซเหรอ?”สองถามพร้อมกับแกะถุงเพื่อจะได้กินแซนด์วิซได้ โดยมีภูเบศธ์หยิบขวดนมขึ้นมาเปิดฝาแล้วยื่นให้สอง
“อร่อยเหมือนกันแฮะ~”สองกัดไปเคี้ยวไปยิ้มไปอย่างมีความสุขส่วนคนที่มองอยู่ก็ได้แต่ยิ้มตาม ก่อนจะเริ่มลงมือทานส่วนของตนเองบ้าง
“อร่อยหรือหิว?” ภูเบศธ์ถามอย่างขำๆก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดมุมปากที่เปรอะเปื้อนเศษขนมปังให้สอง ก่อนที่มือเล็กจะยกขวดนมขึ้นมาดื่มจนคราบนมสีขาวติดที่ขอบปากบน ภูเบศธ์มองแล้วก็ต้องยิ้ม มือแกร่งกะจะเอื้อมไปเช็ดให้อีกครั้งแต่ทว่ากลับเปลี่ยนใจ ใช้ปากเช็ดให้คงจะดีกว่า~
ร่างสูงประทับจูบ ก่อนจะใช้ลิ้นเช็ดริมฝีปากให้ร่างเล็กแทนมือ คนตัวเล็กทำตาโต พอรู้สึกตัวก็ผลักอกกว้างออกจากตัว
“ทำบ้าอะไรของนาย!”ร่างเล็กใช้หลังมือเช็ดปากก่อนจะก่นด่าร่างสูงพร้อมด้วยใบหน้าหวานที่เริ่มขึ้นสีระเรื่อด้วยความเขิน
“นมจากปากพี่สอง อร่อยเหมือนกันแฮะ”ภูเบศธ์ยิ้ม แต่สองกลับยิ่งหน้าแดง
แค่นมเปื้อนปาก มันก็หาเรื่องจูบปากกูอีกจนได้!“พี่สอง”ภูเบศธ์เรียกชื่ออีกฝ่ายจนสองต้องให้ความสนใจ
“หือ?”
“รักนะ... ”ภูเบศธ์พูดพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น
“อื้อ~”สองตอบรับในลำคอเพราะปากยังเคี้ยวแซนด์วิซอยู่เต็มปาก
“เหมือนฝันเลยรู้มั๊ย?..”ภูเบศธ์นพูดพร้อมกับแย่งแซนด์วิซออกจากมือสอง เพราะดูเหมือนสองจะสนใจของกินมากกว่าตนเอง
“มาแย่งแซนด์วิซฉันทำไม?!”สองโวยวาย
“ก็สนใจผมบ้างสิ”ภูเบศธ์ว่าด้วยน้ำเสียงงอนๆ
“ก็สนใจอยู่นี่ไง..เอาแซนด์วิซคืนมา”
นี่ขนาดปากบอกว่าสนใจ แต่ก็ยังแย่งแซนด์วิซกลับไปจนได้~“รักผมหรือเปล่า?”
“ก็รู้อยู่แล้วจะให้พูดทำไม?”
“ก็อยากได้ยินจากปากนี่”ภูเบศธ์ตีหน้าเศร้า จนสองต้องเหลือบมองก่อนจะวางแซนด์วิซลงกับโต๊ะ แล้วยื่นมือไปจับใบหน้าคมให้หันมองตนเอง
“บางครั้ง....การกระทำก็สำคัญกว่าคำพูด....เข้าใจหรือเปล่าภูเบศธ์”สองพูดก่อนจะจับใบหน้าคมให้ก้มลงแล้วจูบเบาๆที่หน้าผากของภูเบศธ์
“เพิ่งเห็นว่าวัวแก่พูดจาเข้าท่าก็วันนี้แหล่ะ”ภูเบศธ์อมยิ้มทั้งที่รู้สึกดีกับจูบแผ่วเบาบนหน้าผากของตัวเองแต่ก็ไม่วายแอบจิกกัดตามประสาคนปากหมา
ไม่ชมกูเป็นวัวสักวัน มันจะตายหรือไงห๊า! ไอ้เด็กนี่ “ไอ้เด็กปากหมาเอ๊ย~!”
เพียงแค่ด่าจบประโยค ริมฝีปากสีสดก็ถูกริมฝีปากอุ่นชื้นของภูเบศธ์ทาบทับทันที ตามข้อสัญญาที่คนทั้งสองมีต่อกัน
(กูว่ากูไม่เคยไปตกลงสัญญานี้กับมันนะ..มันพูดเองเออเองตลอดอ่ะ!)
แต่ภูเบศธ์จะรู้หรือเปล่าว่า....
สอง กมลินทร์ก็แค่อยากด่า..ทั้งๆที่รู้ว่าจะโดนจูบนี่แหล่ะ! .
…
…..
The End! เฮ้ย~ อย่าลืมกูสิครับ! “นี่เขม”
“ครับ?”
“ไหนๆสองคู่นั้นก็ลงเอยกันด้วยดี...งั้นเราก็มาลงเอยบ้างกันบ้างดีมั๊ย?”
“อ้าวตอนนี้เรายังไม่ได้คบกันอีกเหรอครับ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ก็อย่างตรฤณกับกรเค้าก็รู้ใช่มั๊ยล่ะว่าใครเป็นอะไร ส่วนภูเบศธ์กับสองนี่คงไม่ต้องพูดถึง รู้ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว....แล้วเราล่ะ?”
“หมายถึง?”
“ใคร..เอ่อ....คือ....”ชวินกลับรู้สึกเขินขึ้นมานิดๆแฮะทั้งที่คิดว่าหน้าตัวเองฉาบปูนซีเมนต์มาหลายชั้นแล้วนะ
“จะผลัดกันบ้างก็ได้ ผมไม่มีปัญหา”
เฮ้ย~ กูเพิ่งรู้ว่านักศึกษาแพทย์ก็แรงได้ใจ!“เฮ้ย~เอางั้นเหรอ?...เอาจริงอ่ะ?”
“ทำไมต้องทำเสียงตกใจขนาดนั้นด้วยล่ะ?
ก็ผลัดกัน ‘ขับรถ’ ไงไม่ดีตรงไหนล่ะครับ?”
อ้าวก็จริงมั๊ยล่ะ? ก็อย่างคู่พี่ตรฤณพี่กร พี่ตรฤณก็เป็นคนขับรถ
พอคู่ ภูกับพี่สอง ก็ต้องเป็นภูอยู่แล้วเพราะพี่สองขับรถไม่เป็น...
แต่พอดีคู่เราก็ขับรถเป็นทั้งคู่ ก็
ผลัดกันไปรับไปส่งสิ.....
แฟร์ดี....ว่ามั๊ยครับ^^
(ว่าแล้วก็ยิ้มร้ายปิดท้าย)
Happy Ending~~เย้ๆๆๆๆ ในที่สุดเรื่องนี้ก็จบแล้ววววววววว
ดีใจๆๆๆ
แต่ว่ายังมีตอนพิเศษอีก ถึง 2 ตอนนะค้า
รู้สึกว่า คู่ของ หมอเขมกับชวิน จะฮอต...ฮ่าฮ่าาา ก็เลยกำลังคิดว่าอาจจะแต่งคู่นี้เพิ่ม อิอิ
(เพราะที่แต่งไว้ไม่มีของคู่นี้เป็นพิเศษ)
ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาตลอดเลยนะค้า
ขอบคุณมากๆค่ะ