บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)  (อ่าน 914502 ครั้ง)

ออฟไลน์ POPEA

  • Blood Type :: Y
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • http://writer.dek-d.com/popae/writer/view.php?id=794488
อ๊ายยย >///<
จะรออ่านแบบยาวๆ รวดเดียวเลยน๊า~
เดือนเมษาๆๆ  :o8:

ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
รออยู่นะค่ะ สัญญานะว่ามาลง ต้องยาวววววววววววว  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
เข้ามาลงชื่อว่ารออ่านด้วยคนเน้ออ

สัญญาแล้วนะ  จัดมายาวๆๆ  แถมหวานๆๆด้วย

ออฟไลน์ romsai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1

Lipoil

  • บุคคลทั่วไป

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป

totoken

  • บุคคลทั่วไป
ใจเย็นๆ นะครับ กะลังรีบปั่นให้อยู่ครับ น่าจะวันมะรืนนะครับ ถึงจะลงให้รวดเดียวหลายๆ ตอน ช่วงนี้มีเวลาขออ่านทวนคำผิด ตรวจทานเนื้อเรื่องให้เรียบร้อยก่อนลงให้อ่านกันนิ้สนุงนะค๊าบบบ

ออฟไลน์ CHOKUN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
ใจเย็นๆ นะครับ กะลังรีบปั่นให้อยู่ครับ น่าจะวันมะรืนนะครับ ถึงจะลงให้รวดเดียวหลายๆ ตอน ช่วงนี้มีเวลาขออ่านทวนคำผิด ตรวจทานเนื้อเรื่องให้เรียบร้อยก่อนลงให้อ่านกันนิ้สนุงนะค๊าบบบ

มารออ่าน...รอลุ้น :m13:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 80 “ณัฐวนิช”
วันนึงมันไม่เคยมีใคร แต่ในวันนึงมันต้องดีดังใจ สักวันนึงวันที่โลกอันยิ่งใหญ่ จะมองว่าฉันมีความหมาย อาจมองดูเหมือนยังไกลห่าง อาจดูพร่ำเพ้อละเมอ แต่ต้องลองให้รู้ไปเลย คิดว่ารวย จะรวย จะดี จะดัง จะลุย ไม่ท้อ ไม่ยอม ไม่หยุด จะรวย จะรวย

         พวกเราทุกคนได้แต่นั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ผมได้แต่โทษตัวเองอยู่ในใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น หากคุณแม่เป็นอะไรไปผมจะมีหน้าไปอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่พีทได้ยังไงกัน ผมทำอะไรลงไป เริ่มต้นทุกอย่างด้วยดีแท้ๆ แต่เพราะความงี่เง่าของตัวเอง จึงทำให้เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นมา ในตอนนี้ผมไม่กล้าเงยหน้ามองใครทั้งนั้น ได้แต่ซบใบหน้าลงบนฝ่ามือตัวเองอยู่อย่างนั้น

         “คุณ...คุณพลัสค่ะ” เสียงป้าแก้วทำให้ผมจำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นมามอง ป้าแก้วไม่มีสีหน้าจับผิด หรือโกรธเคืองใดๆ เลย สายตาของป้าแก้วกลับดูอบอุ่น และมีแต่ความห่วงใยให้มา ป้าแก้วเพียงจับปลายนิ้วผมขึ้นไปพิจารณาแผลที่โดนแก้วบาดเมื่อตอนทานอาหาร

         “ป้าว่าคุณพลัสไปทำแผลก่อนดีไหมค่ะ ป้ากลัวแผลจะติดเชื้อ นี่เลือดก็แห้งหมดแล้วด้วย” ป้าแก้วพยายามดึงผมให้ไปทำแผลที่โดนแก้วบาด แต่ในใจผมยังอยากรอว่าคุณหมอจะออกมารายงานอาการคุณแม่ว่าอย่างไรบ้าง

         “ไปเถอะนะคะ คุณแม่แค่เป็นลมเท่านั้น ตอนนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์ด้วย ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอกค่ะ ห่วงตัวเองก่อนนะคะ หากคุณมลเห็นแผลที่มือคุณพลัสคงต้องดุป้าแก้วแน่ๆ ไปทำแผลใช้เวลาไม่นานหรอกค่ะ” ผมต้องยอมเดินจามป้าแก้วไปให้พยาบาลล้างแผล และทำแผลสดให้ในห้องฉุกเฉิน หลังจากทำเสร็จเราไม่ได้กลับไปนั่งที่เดิม แต่ป้าแก้วดึงแขนผมให้มานั่งคุยกันอีกมุมหนึ่ง

         “คุณพลัสคะ ป้ามีเรื่องอยากปรึกษาค่ะ ตอนแรกป้าคิดว่าคุณเป็นคุณพีทเสียอีก เกือบจะเรียกไปว่ากันแล้วเชียว” ป้าแก้วเปิดประเด็นจนผมงง

         “อ้าว...นี่ป้าแก้วไม่ได้จับผมได้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วเหรอครับ ผมเข้าใจว่าป้าแก้วรู้แล้วเสียอีกว่าผมไม่ใช่พี่พีท” ผมสับสนขึ้นมาทันที เพราะเดาได้เลยว่าเรื่องที่ป้าแก้วจะเรียกมาคุยต้องไม่ใช่เรื่องของผมแน่นอน

         “ป้าก็ตกใจแทบเป็นลมเหมือนกันค่ะ ป้าดีใจมากจริงๆ ที่รู้ว่าคุณพลัสกลับมาแล้ว ป้าอยากคุยกับคุณพลัสมากมายว่าที่ผ่านมาคุณพลัสมีความเป้นอยู่ยังไง แต่ตอนนี้เรื่องที่สำคัญกว่านั้น คือ...ป้าไม่กล้าเล่าให้คุณผู้หญิงฟังเท่าไร เป็นเรื่องที่คุณพีททำเอาไว้น่ะสิคะ” ป้าแก้วเหลียวซ้ายแลขวาเหมือนกับกลัวใครมาได้ยิน ทำเอาผมต้องตั้งใจฟัง

         “ป้าทราบทันทีเลยค่ะว่านี่คือแผนของคุณพีทแน่นอน ที่ให้คุณเข้ามาอยู่ในบ้านแล้วบอกทุกคนว่าเป็นคุณพีท กลับมานะคะ ป้าจะเอาเรื่องให้หนักเลยเชียว แถมยังมีเรื่องแฟนคุณพีทอีกค่ะ ที่ป้าจะจัดการให้หนักเลย” ป้าแก้วดูมีท่าทีเป็นกังวลมากกับเรื่องนี้ ส่วนผมยังจับต้นชนปลายไม่ถูก

         “วันมะรืนนี้คุณผู้ชายจะกลับมาแล้ว ป้าอยากขอให้คุณพลัสไปจัดการเรื่องหนึ่งให้เรียบร้อยก่อนที่คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงจะรู้เรื่องน่ะค่ะ” ป้าแก้วดึงมือผมมากุมเอาไว้ เหมือนว่าเรื่องนี้สำคัญมาก ผมจึงได้แต่พยักหน้ารับปากไปก่อน ถ้าเป็นเรื่องของพี่พีท ยังไงผมก็ต้องช่วยอยู่แล้ว

         “คุณพีททำแฟนเก่าท้องค่ะ เธอมีลูกฝาแฝดด้วย แต่เป็นชายและหญิง เรื่องนี้คุณพีทยังไม่ทราบ” ผมทำตาโตทันทีที่ได้ยิน เรื่องนี้คงเป็นเหตุให้ป้าแก้วมองผมอย่างจับผิดมาตลอดสองวันที่ผ่านมานั่นเอง

         “แล้วป้าทราบได้ยังไงล่ะครับ” ผมอยากรู้ที่มาที่ไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมาทันที และในส่วนหนึ่งก็รู้สึกดีใจมากที่ผมมีหลานชายกับหลานสาวเป็นฝาแฝดเช่นกัน

         “พี่ชายของแฟนเก่าคุณพีท เธอมาหาคุณพีทที่บ้านเมื่ออาทิตย์ก่อนค่ะ เธอมาโวยวายเรื่องที่คุณพีททำน้องสาวเธอท้อง แล้วหนีไปเรียนต่อที่อเมริกาโดยไม่รับผิดชอบ แถม..เอ่อ...คือ...คุณพลัสอย่าเพิ่งตกใจนะคะ” ป้าแก้วเล่ามาถึงจุดนี้ก็กลืนน้ำลายเสียงดัง แถมยังมีแววตาที่เศร้าหมองขึ้นมาทันที

         “คุณหนิงแฟนเก่าคุณพีท พอเธอคลอดลูกแล้วเธอก็เสียชีวิตค่ะ เธอตัวเล็กมาก และคลอดแบบไม่ถูกอนามัยจึงเสียเลือดมากจนทำให้เสียชีวิต” ป้าแก้วน้ำตาซึมออกมา

         “ฮ้า...แล้วทำไมถึงเป้นอย่างนั้นล่ะครับ” ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเธอไม่ไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล

         “คือ...เธอไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอท้องค่ะ จึงได้แต่อยู่ในหอพักจนกระทั่งคลอดเอง โชคดีที่มีคนในหอพักมีอาชีพเป็นพยาบาลมาช่วยเด็กไว้ทัน แต่กว่าจะตามรถพยาบาลจะมาก็ช่วยชีวิตคุณหนิงไว้ไม่ได้เสียแล้ว ตอนนี้เด็กยังอยู่ในตู้อบที่โรงพยาบาล พี่ชายคุณหนิงก็เลยจะมาเอาเรื่องกับคุณพีทน่ะสิคะ ป้าให้เด็กในบ้านเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แต่คิดว่าคงปิดไว้ได้ไม่นานหรอกค่ะ” ป้าแก้วเล่าไปด้วยท่าทางหดหู่เสียเหลือเกิน

         “แล้วป้าจะให้ผมช่วยยังไงล่ะครับ” ผมยังนึกไม่ออกว่าจะช่วยพี่พีทได้ยังไง ในเมื่อตัวผมเองยังเอาตัวไม่รอดเลย

         “ป้าอยากให้คุณพลัสไปแสดงตัวเป็นน้องชายคุณพีทกับทางฝั่งนั้น เพื่อขอรับผิดชอบหลาน และขอรับผิดชอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อน เมื่อคุณพีทกลับมา ป้าจะหาทางอธิบายกับคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายเอง คงต้องไปขอขมากันชุดใหญ่อีกทีค่ะ” ป้าแก้วดูมีท่าทีหนักใจเสียเหลือเกิน

         “ได้ครับ ผมทำแทนพี่พีทได้แน่นอนในเรื่องนี้ ยังไงผมก็อยากเห็นหน้าหลานเหมือนกัน” ผมรับอาสากับสิ่งที่ป้าแก้วต้องการทันที โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ

         “แต่เรื่องนี้อย่าเพิ่งบอกคุณพีทเธอเลยค่ะ ป้ากลัวมีผลกระทบกับการเรียนของเธอ อีกไม่กี่วันเธอก็จะเรียนจบแล้วแท้ๆ ป้าคิดว่ารอเธอกลับมาแล้วค่อยบอกเรื่องนี้จะดีกว่านะคะ” ป้าแก้วมีเหตุผล ทำให้ผมไม่กล้าเล่าให้น้องหยกฟังเหมือนกัน ไว้รอให้พี่พีทกลับมาก่อนค่อยว่ากันอีกทีจะดีกว่า

         “พลัส...ป้าแก้วครับ อยู่นี่เอง แม่นายฟื้นแล้วพลัส เรียกหานายใหญ่เลย รีบไปดูเถอะ” โตโต้วิ่งมาตามหาผมพร้อมร้องเรียกเสียงดัง

         “ป้าแก้ว รีบไปหาคุณแม่กันเถอะครับ” ผมฉุดป้าแก้วให้วิ่งตามโตโต้ไปที่เตียงคุณแม่อย่างเร่งรีบทันที คุณแม่นอนอยู่บนเตียงมีสายน้ำเกลือติดอยู่ที่แขน ทำให้ผมนึกถึงคุณตาคุณยายตัวเองในตอนนั้น น้ำตาเลยไหลพรากออกมาอย่างไม่รู้ตัว

         “ตาพลัส...ตาพลัสลูกแม่ มานี่เร็วๆ ลูก มาให้แม่กอดลูกเร็วๆ แม่อยากเจอลูกเหลือเกิน” คุณแม่ร้องบอกผมพร้อมยื่นสองแขนอ้าออก เหมือนจะไขว่คว้าตัวผมอย่างร้อนรน ใบหน้าคุณแม่ดูอิ่มเอิบไปด้วยความดีใจ น้ำตาแห่งความปิติไหลนองออกมาเต็มใบหน้า

         “พลัสอยู่นี่ครับแม่ พลัสขอโทษนะครับที่ทำให้แม่ต้องตกใจ พลัสอยากเจอแม่เหลือเกิน พลัสดีใจนะครับที่แม่ไม่เป็นอะไร พลัสขอโทษอีกครั้งครับ” ผมถลาเข้าไปโอบกอดคุณแม่พร้อมยกมือพนมไหว้ขอโทษหลายครั้ง รู้สึกเสียใจที่ทำให้คุณแม่ต้องตกใจจนเป็นลมเข้าโรงพยาบาลแบบนี้

         “ไม่เป็นไรลูก แม่ไม่โกรธเลย แม่ไม่ได้ฝันไปใช่ไหมลูก ลูกพลัสของแม่จริงๆ ใช่ไหม” คุณแม่รีบกุมมือผมเอาไว้ พร้อมส่ายหน้าแรงๆ จากนั้นก็ใช้สองมือประคองใบหน้าผมมาพิจารณาใกล้ๆ ท่านยิ้มให้ผมอีกครั้ง ผมจึงยิ้มตอบพร้อมพยักหน้าเบาๆ เราสองคนประสานสายตากันเนิ่นนาน แม่บังเกิดเกล้ามองผมด้วยแววตาไหวระริก ไปทั่วใบหน้าเหมือนจะเก็บความทรงจำอันนี้ไว้ให้นานที่สุด

         “คุณหมอบอกให้คุณแม่กลับบ้านได้แล้วล่ะครับ ท่านบอกว่าคุณแม่ไปเป็นอะไร แค่ตกใจมากเกินไป แล้วเพลียจากการเดินทางหลายชั่วโมงบนเครื่องบิน จึงทำให้เป็นลมไปเท่านั้น” พี่บาสเข้ามาบอกเราสองคน ไม่นานพยาบาลก็เข้ามาถอดสายน้ำเกลือ  พร้อมช่วยผมพยุงให้คุณแม่ลุกขึ้นจากเตียง คุณแม่ปฏิเสธที่จะนั่งรถเข็นแต่บอกให้ผมเป็นคนพาท่านไปขึ้นรถกลับบ้านแทน

         ป้าแก้วยืนคุยกับคุณหมอพร้อมรับยาจนเรียบร้อยแล้วเดินตามเรามาขึ้นรถเบนซ์คันใหญ่ ป้าแก้วนั่งด้านหน้ากับคนขับ ส่วนผมนั่งข้างหลังกุมมือคุณแม่ไปตลอดทาง โตโต้กับพี่บาสกลับไปด้วยรถอีกคัน จนมาถึงบ้าน เรานั่งคุยกันที่ชุดรับแขก ผมเล่าเรื่องราวชีวิตต่างๆ นานาที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดให้คุณแม่กับป้าแก้วฟัง ท่านทั้งสองลงความเห็นว่ารอคุณพ่อกับพี่พีทกลับมาแล้ว จะไปกราบคุณตาคุณยาย และแม่ทิพย์ของน้องหยก และจะไปเที่ยวอัมพวาด้วยเลย ผมดีใจมากที่ท่านตอบรับแบบนี้ ผมจะได้มีโอกาสไปแนะนำให้รู้จักไอ้ทอง น้องพลอย และทุกๆ คนที่เคยมีบุญคุณกับผมทั้งหมดที่นั่นด้วย

         “แล้วน้องหยกนี่เป็นอะไรกับเราหรือเปล่าตาพลัส เวลาเล่าให้ฟังเรื่องน้องหยกตั้งแต่ตอนเล็กๆ จนมาเจอกันอีกครั้งนี้ดูเรามีความสุขมากเลยนะจ้ะ แม่รู้สึกว่าเราเล่าข้ามไปบางช่วงบางตอนนะ” คุณแม่พูดทำทีเหมือนจับผิดผม ทำให้รู้สึกกระอักกระอวนใจมากที่จะยอมรับ จึงได้แต่เงียบไม่กล้ารับหรือปฏิเสธอะไรออกไป

         “ไหน...มานี่สิลูก” คุณแม่เรียกให้ผมขยับเข้าไปใกล้ พี่บาสกับโตโต้ได้แต่มองตาม ทำหน้าเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะช่วยผมยังไงดี ป้าแก้วก็อมยิ้มมองผมอย่างนั้น รู้สึกเขินชอบกล

         “ไม่ว่าเราจะเป็นอะไร จะรักจะชอบใครแบบไหน ขอให้ลูกของแม่เป็นคนดี คนที่ลูกของแม่รักเป็นคนดี เท่านี้แม่ก็พอใจแล้วจ้ะ อย่าคิดมากเลย วันนี้แม่ได้ลูกของแม่คืนมา แม่ไม่อยากได้อะไรมากกว่านี้อีกแล้วในชีวิต” คุณแม่ลูบหัวผมเบาๆ พร้อมกับพูดปลอบโยนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ทำเอาผมมีกำลังใจมากขึ้น

         “คุณแม่ครับ คือ...ผมกับน้องหยก เอ่อ...” เอาเข้าจริงผมก็ไม่กล้าสารภาพ ได้แต่มองหน้าคุณแม่ที มองคนอื่นที จะพูดต่อก็พูดไม่ออก

         “คุณป้าน้องหยกทราบไหมจ้ะว่าลูกเป็นอะไรกับหลานชายของเขา ให้แม่พาลูกไปอธิบายให้คุณป้าของน้องหยกเข้าใจดีไหม แม่ช่วยลูกได้นะ แม่เต็มใจจ้ะ” คุณแม่พูดเองเออเองเสร็จสรรพ ทำเอาผมอึ้งจนพูดไม่ออก

         “รอให้คุณพ่อกลับมาก่อน แม่จะอธิบายให้คุณพ่อเข้าใจเอง แล้วเราจะพาลูกไปอเมริกา ไปขอตัวน้องหยกมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทย หรือจะส่งลูกไปเรียนต่อที่อเมริกาก็ค่อยว่ากันอีกที แล้วแต่วามเห็นของทางฝั่งนั้นดีไหมจ้ะ” คุณแม่ยังพูดต่อ ทำให้ผมซึ้งใจในความรักที่คุณแม่มอบให้อย่างสุดซึ้ง

         “ลูกอยากให้แม่ขอน้องหยกมาเป็นลูกชายแม่อีกคนก็ยังได้นะ แม่...อุ๊ย...โถ...เรื่องแค่นี้เอง ไม่เอาน่า ตัวออกจะใหญ่นะพลัส อย่าขี้แยนักสิลูก” คุณแม่ยังพูดไม่จบ แต่ผมว่ามันมากพอแล้วจึงถลาตัวไปกอดคุณแม่เอาไว้ ผมต้องร้องไห้ด้วยความดีใจอย่างห้ามไม่อยู่ ผมดีใจจังเลยที่ชีวิตของผมยังมีช่วงเวลาแห่งความสุขนี้อยู่

         “คุณมลใจดีจังเลยนะคะ รอฟังคุณพลัสพูดบางสิคะว่าจะเอายังไง เล่นคิดเองเบ็ดเสร็จแบบนี้ เจ้าตัวยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย” ป้าแก้วพูดพลางยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ท่าทางเหมือนไม่ได้รังเกียจที่ผมรักชอบกับผู้ชายเลยแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้ผมมีความสุขมากขึ้นไปอีก

         “นี่มลตั้งใจทำนะคะ อยากทำให้ลูกมีความสุขแค่นี้ไม่เห็นจะเป็นไรเลย” คุณแม่ยิ้มแย้มเหมือนมีความสุขเหลือเกิน ผมอยากรีบบอกข่าวดีในเรื่องนี้ให้กับน้องหยกได้ฟังเป็นคนแรกเหลือเกิน ในมือเผลอกำโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงแน่น

         “อยากโทรบอกแฟนเหรอลูก ไปสิจ้ะ ฝากบอกด้วยนะว่ามาเที่ยวเมืองไทยคราวหน้าแม่ชวนให้มาพักที่บ้านเรา แม่จะพาไปกราบตากับยาย และคุณแม่ทิพย์ของน้องหยก แม่จะทำบุญใหญ่ให้พวกท่านเลยจ้ะ” คุณแม่พูดจบ ผมทรุดตัวลงไปกราบขอบคุณท่านแทบเท้า ทำเอาทุกคนตกใจ

         “พลัส ลุกขึ้นมาก่อนลูก” คุณแม่ดึงตัวผมขึ้นมากอดเอาไว้

         “พลัสขอบคุณแม่มากครับ ลำพังแค่ไม่รังเกียจน้องหยกพลัสก็ดีใจมากแล้ว แม่ยังกรุณากับคุณตาคุณยาย และแม่ทิพย์อีก พลัสดีใจมากเหลือเกินครับแม่” ผมยังคงนั่งคุกเข่าอธิบายความในใจ

         “โธ่...ลูกแม่ พวกท่านมีบุญคุณกับลูกขนาดนั้น แม่จะไม่สนใจเรื่องนี้ได้ยังไงกัน ยังไงท่านกก็ไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว แม่คงทำได้ดีที่สุดเท่านี้ล่ะลูกแม่” เราสองคนยิ้มให้กันจนได้ยินเสียงสะอื้นของป้าแก้ว

         “ตายแล้ว...ขอโทษค่ะ ป้าซึ้งมากไปหน่อยเลยเผลอสะอื้นเสียงดังไป ขอโทษนะคะ” ป้าแก้วรีบดึงกระดาษทิชชู่ที่โต๊ะรับแขกมาเช็ดหน้าเช็ดตา ทำเอาพวกเราพลอยขำกันเบาๆ วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดในชีวิต คุณแม่เตือนผมด้วยการสะกิดให้ออกไปโทรศัพท์หาน้องหยกได้แล้ว ผมยิ้มรับแล้วรีบออกไปด้านนอกทันที

         “หยกครับ พี่มีข่าวดีจะบอก” พอหยกรับสายปุ๊บผมก็รีบชิงพูดทันที

         “ข่าวดีบ้าอะไรพลัส โทรมาทำไมเช้ามืดแบบนี้ ไว้สายๆ ค่อยคุยสิวะ” เสียงพี่พีทดังเข้ามาในสาย แล้วพี่พีทไปอยู่กับน้องหยกได้ยังไง ผมไม่ได้รู้สึกหึงแต่รู้สึกงงมากกว่า ว่าทำไมพี่พีทถึงไปรับสายน้องหยกได้

         “พลัส...พีท พลัสโทรมาเหรอลูก ขอพ่อคุยด้วยหน่อยสิ” เสียงผู้ชายดังเข้ามา ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดคงเป็นคุณพ่อ แล้วคุณพ่อไปอยู่ที่นั่นด้วยได้ยังไง ยิ่งทำให้สับสนมากขึ้นไปอีก

         “ลูก...เอ่อ...พลัส พลัสใช่ไหมลูก พีทโทรมาเล่าให้พ่อฟังหมดแล้ว วีซ่าอเมริกาของพ่อยังไม่หมดอายุพ่อก็เลยบินด่วนมาหาพีทเมื่อวานนี้ ตอนนี้พ่อกับพีทอยู่ที่บ้านน้องหยกนะลูก คือ...” ผมกดตัดสายทันทีด้วยความตกใจ พี่พีทโทรไปเล่าให้พ่อฟังทำไม แล้วพ่อรู้อะไรเกี่ยวกับน้องหยกบ้าง ทำเอาผมตกใจหมดเลย นี่จะทำยังไงดี ผมเดินไปเดินมาด้วยความว้าวุ่นใจ ดันเผลอไปกดตัดสายทั้งที่ยังไม่ได้ทักทายคุณพ่อสักคำ เรื่องนี้ไม่ทันตั้งตัวเอาจริงๆ งงไปหมดแล้ว

         “ตาพลัส...พลัสอยู่ไหนลูก” เสียงคุณแม่ดังแว่วเข้ามา ผมจึงรีบโผล่หน้าไปดู คุณแม่เดินถือโทรศัพท์มือถือมาด้วย ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแบบนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าคงเป็นคุณพ่อโทรเข้ามาหาคุณแม่แน่ๆ แล้วผมจะอธิบายคุณพ่อยังไงดี

         “พ่อโทรมาจ้ะลูก พ่อตื่นเต้นมากเลยรู้ไหม นี่บินไปหาพีทที่อเมริกาทันทีที่ทราบเรื่องของลูกเลยนะ ตาพีทนักวางแผนตั้งใจจะแอบบอกให้คุณพ่อไปสู่ขอน้องหยกกับคุณป้าที่นั่นโดยไม่บอกลูก แล้วจะพากันกลับมาเมืองไทยเพื่อให้เป็นของขวัญลูกน่ะจ้ะ คุณพ่อมีข่าวดีจะบอกลูกด้วยตัวเองด้วยนะ รับโทรศัพท์สิลูก” คุณแม่พูดจบโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นทันที

         “สะ...สวัสดีครับ” ผมเกิดอาการประหม่าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ข่าวดีเรื่องอะไรกันก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตื่นเต้นที่ได้คุยกับคุณพ่อ และตื่นเต้นยิ่งกว่าที่คุณพ่อทราบเรื่องน้องหยกแล้ว แถมยังจะไปสู่ขอให้ผมอีก

         “พลัส อย่าเพิ่งตกใจนะลูก พอดีพีทวางแผนให้พ่อมาขอน้องหยกไปเป็นลูกบุญธรรม และขอให้ลูกได้แต่งงานกับน้องหยกที่เมืองไทย นี่พ่อมาเจรจากับทางคุณป้าของน้องหยกแล้ว ทางนี้เปิดรับทางเราดีมาก และยอมยกให้โดยไม่ขอสินสอดอะไรเลย แต่ขอให้พ่อสัญญาว่าจะดูแลน้องหยกให้ดีเท่านั้นก็พอ” คุณพ่อเปิดฉากด้วยการพูดเรื่องน้องหยก ผมไม่ทันตั้งตัวจริงๆ ในใจอยากจะพูดคุยกับคุณพ่อในเรื่องของเราพ่อลูกกันมากกว่า แต่มีเรื่องนี้เข้ามาเพราะฝีมือพี่พีทจอมแสบแน่ๆ กลับมาจะอัดให้น่วมเลย

         “เอ่อ...ครับ แล้ว เอ่อ...คือ...คุณพ่อไม่โกรธเหรอครับที่ผมรักกับผู้ชายด้วยกัน” ผมเอ่ยปากถามออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ไม่แน่ใจว่าทั้งหมดนี้ คุณพ่อจะเต็มใจทำให้ผมจากใจจริงหรือเปล่า หรือแค่ดีใจที่ผมกลับมาแล้วเท่านั้น ก็เลยยอมให้ผมคบกับน้องหยก

         “ลูกพ่อ ต่อให้ลูกจะรักจะชอบเพศไหน หรือชอบใครพ่อก็ไม่ว่าหรอก ขอให้เป็นคนดีก็พอ พีทมันรับรองให้ลูกแล้วว่าน้องหยกเป็นคนดีมาก นี่พ่อก็มาเจอกับตัว แถมคุณป้าของหยกก็น่ารักมากจริงๆ พ่อดีใจด้วยซ้ำที่ได้ลูกชายของพ่อกลับคืนมา ตอนที่รู้ข่าวจากพีทพ่อแทบจะบินกลับเมืองไทยไปคืนนั้นเลย แต่ไอ้พีทมันห้ามพ่อไว้ ให้มาขอน้องหยกให้ลูกกลับไปด้วยกัน พ่อเลยตัดใจยอมมาอเมริกานี่ไง พ่ออยากเจอหน้าลูกพ่อแทบแย่แล้วรู้ไหม” คุณพ่อพูดยาวจนแทบไม่หายใจ แต่ผมก็ตั้งใจฟังทุกคำ

         “คุณพ่อครับ ผมขอบคุณมากครับ ผม...ฮึก ผมดีใจที่สุดในชีวิตเลยครับพ่อ ผมรักพ่อกับแม่มากครับ” ผมกลั้นน้ำตาแห่งความดีใจเอาไว้ไม่อยู่ พ่อกับแม่แท้ๆ ผมช่างประเสริฐแท้ๆ ผมไม่เสียใจเลยที่เพิ่งได้เจอท่านทั้งสอง ชีวิตนี้ผมคงไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

         “โธ่...ลูกพ่อ อย่าร้องไห้สิลูก เราเป็นลูกผู้ชายนะ ยังมีแฟนเราที่ต้องดูแลอีกคนรู้ไหม เข้มแข็งหน่อยนะลูก คิดว่าพรุ่งนี้คงได้เจอกันพร้อมหน้าแล้วล่ะ พ่อจองเที่ยวบินแรกไว้แล้ว คุณหลินกับน้องหยกจะไปกับเราด้วย พ่อจัดการเรื่องค่าเดินทางและที่พักไว้แล้ว เราจะทำการสู่ขอให้เป็นเรื่องเป็นราวนะลูก จัดกันในครอบครัวเรา พ่อให้พีทเชิญเพื่อนๆ ลูกทุกคนมากหมดแล้ว วันมะรืนนี้เราก็จะได้อยู่กับน้องหยกแล้วดีใจไหม ส่วนพ่อดีใจมากที่จะมีลูกชายเพิ่มอีกสองคน” คุณพ่อพูดไม่เว้นวรรคให้ผมได้ตอบอะไรเลย

         “ขะ...ขอบคุณมากครับพ่อ พ่อครับ ถ้าพ่ออยู่ตรงนี้ ผมอยากจะก้มกราบแทบเท้าคุณพ่อจังเลยครับ” ผมพูดออกไปจากใจจริง น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

         “เอาไว้พรุ่งนี้นะลูก พ่อจะไปให้ลูกของพ่อกราบถึงที่บ้านแน่นอน พ่อรักลูกนะ” คุณพ่อพูดจบผมก็ได้แต่พยักหน้า เพราะพูดไม่ออก ลืมไปเลยว่าเราคุยกันทางโทรศัพท์ คุณพ่อคงไม่รับรู้ว่าผมพยักหน้าตอบ เพราะมันตื้นตันจนพูดอะไรไม่ออกจริงๆ สักพักพ่อก็วางสายไปโดยที่ผมยังไม่ทันได้คุยกับน้องหยกเลย ไม่นานเสียงโทรศัพท์อีกเครื่องก็ดังใกล้ๆ ที่ผมยืนอยู่

         “คะคุณพี่” คุณแม่ยืนแอบดูผมคุยกับคุณพ่อนานแค่ไหนก็ไม่รู้ ผมเดาว่าคุณพ่อคงโทรศัพท์หาคุณแม่ และคุยกันเรื่องของผมกับน้องหยกแน่ๆ พอคุณแม่วางท่านก็ยิ้มมาให้ผม ท่านดูมีความสุขมาก มากเสียใจผมรู้สึกกลัวว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันจะกลายเป็นความฝันไป

         “ตาพลัส มานี่สิลูก” คุณแม่พาผมเดินไปยังห้องของท่านที่อยู่บนชั้นสามของบ้าน เราเดินกันมาไกลมาก บ้านหลังนี้ช่างใหญ่โตจริงๆ ห้องคุณแม่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์หลุยส์ ซึ่งมีเอกลักษณ์ลวดลายเฉพาะตัวเหมือนสั่งทำพิเศษ รูปแบบดูคลาสสิคอย่างมีเสน่ห์ เน้นความงดงามของลายกนกของขอบไม้ ไม่ว่าจะเป็น เตียงนอน ตู้ โต๊ะเครื่องแป้ง หรือแม้กระทั่งกระจกแต่งหน้า ให้ความรู้สึกที่หรูกว่า แถมยังมีชุดโคมไฟระย้า ขนาดใหญ่ ที่ให้แสงระยิบระยับ แววดั่งเพชรเม็ดงามอยู่กลางห้อง พื้นที่ห้องคุณแม่ใหญ่มากกว่าห้องของผมรวมกับห้องของพี่พีทอีก

         คุณแม่เดินไปเปิดรูปภาพใบใหญ่ขอบหลุยส์สีทองที่อยู่ติดผนังใกล้เตียงนอนออกมา ด้านหลัวเป็นประตูตู้เซฟ เมื่อเปิดดูข้างในเป็นกล่องอัญมณี และเงินสดใบละหนึ่งพันบาทหลายปึก ท่านหยิบเครื่องเพชรออกมาหลายกล่อง และเงินสดอีกสิบปึก ท่านกองทุกอย่างเอาไว้บนเตียง

          “นี่คุณพ่อโทรมาสั่งแม่ให้เตรียมไว้ให้ลูกไปสู่ขอน้องหยกนะจ้ะ ทั้งหมดนี่เลย มีทั้งชุดมรกต ทับทิม บุษราคัม มุข เครื่องเพชรแม่จัดเป็นสี่ชุด ส่วนทองคำแท่งแม่จะให้ธนาคารเตรียมไว้ให้พรุ่งนี้หนึ่งร้อยบาท แล้วนี่เงินสดอีกสิบล้าน” ผมได้ยินคุณแม่พูดเท่านั้น ขาแข้งแทบหมดแรงยืน

         “คะ...คุณแม่ครับ อะไรมันจะมากมายขนาดนี้กันครับ ไม่เยอะเกินไปเหรอครับ” ผมไม่กล้าปฏิเสธน้ำใจของคุณพ่อคุณแม่โดยตรง แต่รู้สึกว่ามันมากมายจนเกินไป ผมคิดไว้แล้วว่าจะถอนเงินสดที่สะสมมาทั้งชีวิตมอบให้คุณป้าน้องหยกไปเป็นสินสอด แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เตรียมไว้ เงินที่ผมสะสมมาทั้งชีวิตมันดูเป็นเศษเสี้ยวไปเลย

         “อะไรกันลูก นี่แม่เตรียมแค่เงินกับทองเองนะ ยังมีโฉนดที่ดินอีก ไม่มากไปหรอกลูก ลูกใครหลานใครก็ต้องให้กันสมน้ำสมเนื้อกับที่ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างมีคุณค่าทั้งนั้น ยิ่งน้องหยกนะ คุณพ่อชมใหญ่เลยว่าหน้าตาน่ารัก แถมยังดูเป็นเด็กดีมีความกตัญญู อ่อนน้อมกับผู้ใหญ่ด้วย” คุณแม่ดึงแขนผมให้นั่งลงบนเตียงของท่านด้วยกัน

         “ตาพีทจอมวางแผนตั้งใจให้คุณพ่อเข้าไปทานอาหารในร้านคุณป้าน้องหยก แล้วบอกให้คุณพ่อเรียกให้น้องหยกมาดูแล คุณพ่อชอบน้องหยกมากเลยนะ คุณป้าน้องหยกดูจะดีใจด้วยที่ทางเราไปพูดจาสู่ขอเป็นเรื่องเป็นราวแบบนั้น ทางนั้นไม่ยอมเรียกร้องอะไรเลย แถมยังจะออกค่าเดินทางกับค่าที่พักเองเสียอีก แบบนี้แม่ยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ สินสอดพวกนี้เทียบกับสิ่งที่พ่อแม่ได้ลูกคืนมาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ลูกปล่อยให้พ่อกับแม่จัดการเองเถอะนะ” คุณแม่ท่านอธิบายเสียยืดยาว ทำให้ผมพูดไม่ออก

         “แม่จะให้ช่างมารับเครื่องเพชรพวกนี้ไปขัดทำความสะอาด แล้วจะให้เลขาเตรียมจัดงานที่บ้านเรา อ้อ...แม่เพิ่งนึกขึ้นได้ ตาพลัสตามแม่ลงมาข้างเร็วลูก” คุณแม่ลุกพรวดขึ้นมาจนผมตกใจ ท่านเปิดประตูห้องนำผมออกมา แล้วพากันเดินกลับไปที่ห้องรับแขก ทุกคนยังนั่งคุยกันในเรื่องของผมอย่างสนุกสนาน

         “ไหนคะคุณมล รวบรวมสินสอดรับขวัญลูกชายบุญธรรมอีกคนไปเท่าไรค่ะ” ป้าแก้วเห็นผมเดินจ๋อยตามคุณแม่ลงมาก็แซวเข้าให้

         “แค่เกือบๆ ร้อยล้านน่ะค่ะ ส่วนใหญ่เป็นทองคำ กับอัญมณี ที่ดินยังไม่ได้ให้ตีราคาแน่นอนว่าเท่าไร” คุณแม่พูดเรียบๆ แต่พี่บาสกับโตโต้ตกใจแทบตกเก้าอี้ ผมได้ฟังก็ใจหายวาบไปเหมือนกัน ไม่ใช่เสียดายเงิน แต่มันน่าตกใจที่คุณพ่อคุณแม่ทุ่มทุนให้ผมมากขนาดนี้ ทั้งที่เราเพิ่งเจอหน้ากันแค่วันเดียว

         “โตโต้ บาส แม่วานอะไรเราสองคนหน่อยสิจ้ะ” คุณแม่หันไปมองสองคนที่นั่งมองหน้ากัน ซุบซิบเรื่องสินสอดของน้องหยกกันอยู่ ทำเอาสองคนนั้นสะดุ้งตกใจรีบหันมาพยักหน้ารับ

         “แม่อยากให้ทางโรงแรมคุณหนึ่งช่วยจัดงานสู่ขอ ให้ที่บ้านแม่หน่อยสิจ้ะ เอาแบบเรียบๆ แต่หรูหรา ให้แขกที่มาจากอเมริกาประทับใจให้ได้ แล้วช่วยเชิญเพื่อนน้องหยกกับเพื่อนตาพลัสให้แม่ด้วย ของชำร่วยแม่จะให้ทางบริษัทของเราเตรียมเป็นพวงกุญแจฝังมุข และเพชรแท้ใส่กล่องอัญมณีไปให้ช่วยแจกด้วยนะ คิดว่างานนี้แม่จะไปเชิญคุณหนึ่งด้วยตัวเองด้วย และไปดูแผนงานด้วยตัวเองที่โรงแรมเลย สามวันเตรียมงานทันไหมลูก ราคาเท่าไรแม่จ่ายไม่อั้น แม่เซ็นต์เช็คมัดจำให้ก่อนสามล้านบาท” คุณแม่ทำท่าจะเดินออกไป เหมือนจะไปหยิบสมุดเช็คในห้องทำงาน

         “เดี๋ยวครับคุณแม่ ใจเย็นๆ ครับ สามล้านนี้ถ้าจัดงานที่บ้านนี้คงจัดงานได้เป็นสัปดาห์เลยครับ มันมากเกินไปครับ เดี๋ยวรอผมทำแผนงานมาเสนอก่อนก็ได้ครับแล้วค่อยว่ากันเรื่องค่าใช้จ่าย” โตโต้รีบบอกคุณแม่ด้วยความตกใจ ท่าทางคุณแม่ดูตั้งใจกับงานนี้มาก ผมได้แต่นิ่งเงียบเพราะพูดอะไรไม่ออกเลย

         ไหนบอกจะจัดงานกันเรียบๆ ง่ายๆ ในครอบครัว แต่นี่ลงทุนค่าสินสอดเป็นร้อยล้าน ค่าจัดงานมัดจำไปสามล้าน แล้วมันจะเรียบง่ายได้ยังไงกัน นี่ผมกลายเป็นลูกชายมหาเศรษฐีไปแล้วเหรอ ทำยังไง คิดยังไงก็ยังไม่ชิน หากถามความต้องการผมสักนิด ผมอยากจัดงานเลี้ยงอาหารง่ายๆ ที่โรงแรมของไอ้ทองมากกว่า ทานข้าวกันสนุกๆ ในครอบครัว และเพื่อนฝูงเท่านั้น ไม่ได้อยากมีงานหรูหราอะไรอย่างนี้เลย

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
อ๊ากกก พี่พลัสมาแล้ว อ่านก่อน//อื้อหือ รวยโคตรๆ คุณพ่อคุณแม่จัดหนักจริงๆ พี่พลัสใจเย็นๆนะเดี๋ยวก็ชิน นึกถึงหน้าน้องหยกไว้ แล้วท่อง "เพื่อเมียๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2012 19:11:41 โดย Still_14OC »

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมตอนหลังๆ มันรวบรัดรวดเร็วมากๆ
ยังมีเรื่องพีทมีลูกอีก มันเหมือนไม่เคยมีวี่แววมาก่อนเลย

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป
อลังการเกินคาด  พี่พลัสถึงขั้นอึ้งเลย

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
แอบอึ้งกับพี่พลัสด้วยยยย
คุณแม่กับคุณพ่อสุดยอดดดดดดดด :-[


กลับมาแล้วก็มีเรื่องให้ตกใจตลอดเลย
ตกลงพี่พีทนี้คือยังไงมีลูกแล้วสอง แอบงงเล็กๆ o18

tawan

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ aishiteru.

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
อื้อหื้ออ คุณแม่คะ จะเว่อร์ไปไหนค๊าาาา =[]= เข้าใจนะว่าดีใจ แต่ว่ามันสิ้นเปลืองเกินไปมั้ยเนี่ย
สรุปว่ามีแต่เรื่องน่ายินดีทุกเรื่องเลยย ยกเว้นพีทแอบไปทำสาวท้องมีลูกแฝด =[]=
อืมมม ดีเหมือนกัน ได้ลูกมา ก็จัดการยกให้เป็นลูกของพี่พลัสกับน้องหยกซะเลย ฮ่าฮ่า
แต่งงานก็มีลูกปั๊ป พอดีเป๊ะ อิอิ ครอบครัวจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ววว
แล้วจะยังไงต่อไปล่ะนี่ รออ่านตอนต่อไปค่าาา
ต้อนรับการกลับมาอีกครั้งน๊าาา ได้หยุดพักยาวๆน่าอิจฉาจังเลยน๊าาา ^^
 :กอด1:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
ถ้าคุณแม่รู้ว่าแฝดพี่ทำหญิงท้องแล้วทิ้ง แถมแม่เด็กเสียไปแล้ว และมีลูกแฝดมาให้  คุณพ่อคุณแม่จะมีอารมณ์จัดงานอลังการงานสร้างแบบนี้อยู่อีกหรือเปล่า   

จริงๆ อยากให้จัดแบบที่พลัสต้องการมากกว่า รู้กันภายในครอบครัวและคนสนิท  ไม่ต้องหรูหรา ฟูฟ่าแบบนี้อ่ะ

กด + ให้กับคนเขียน สุขสันต์วันหยุดยาวนะคะ




ออฟไลน์ slmzaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
อยากรู้ว่าเรื่องลูกพีทจะทำยังไง.......ไม่อยากให้พลัสต้องมารับผิดแทน

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
คุนแม่ทุ่มมากกกกกกก

เด๋วเรื่องพีทจะทำยังไงเนี่ยยยยยย

ลูกแฝดดดดดด

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 81 “ภัทรดิษ”
คืนวันที่ผ่านมา ได้แต่หาคำตอบ ว่าฉันเกิดมาเพื่อใคร หัวใจมันเหนื่อยล้า มีปัญหาเข้ามา ไม่เห็นคนที่เข้าใจ ทุกวัน มันเหมือนใจจะขาด ไม่รู้เลย พรุ่งนี้ต้องทำยังไง เป็นอะไรที่ทรมาน ที่อยู่กับการตัวคนเดียว ตรงนี้ไม่มีใคร ขอ ถ้ามันไม่มากเกินไป โปรดเถอะฟ้า ได้ไหม อยากจะขอใครบางคนมาอยู่ตรงนี้ รอความรัก... จากใครแค่เพียงสักคน ที่เข้ามาทำให้หัวใจหลุดพ้น วังวน ความเหงาไป รอคนรัก... สักคนที่มาเข้าใจ ที่ให้ฉันเป็นความรักครั้งสุดท้าย แต่มันจะเจอเมื่อไร คนคนนั้น

         วันนี้ผมกับคุณพ่อมาพักอยู่ที่บ้านน้องหยก ชั้นบนของร้านอาหารไทย ญี่ปุ่น ของคุณป้าน้องหยก เพราะผมวางแผนให้คุณพ่อมาสู้ขอน้องหยกก่อนที่พลัสมันจะรู้ตัว แล้วเราตกลงกันว่าจะค้างที่นี่ เพื่อเตรียมตัวกลับเมืองไทยพร้อมกันในวันพรุ่งนี้ แต่คุณพ่อดันทำเสียแผน แค่รู้ว่าพลัสมันโทรมาหาน้องหยกก็ดันตื่นตกใจแย่งรับสายไปคุยกัน อย่างนี้ทางบ้านผมก็รู้เรื่องกันหมดพอดี

         “ไม่ต้องมาทำหน้าตาไม่สบอารมณ์แบบนั้นเลยพี่พีท หยกรู้นะว่าพี่ไม่พอใจที่คุณพ่อทำเสียแผน ระวังไว้เถอะพี่พีท ชอบวางแผนแกล้งคนอื่นดีนัก สักวันจะโดนเอาคืน ชอบจัดการอะไรแทนคนอื่นดีนัก” น้องหยกยังทำหน้ามุ้ยใส่ผมอีก คไม่พอใจที่ผมแย่งรับสายคนรักตัวเองไป กะว่าจะไม่ให้ได้คุยกัน แล้วพรุ่งนี้กลับเมืองไทยค่อยไปเจอกันเลยทีเดียวคงจะตกใจไม่น้อย ผมเริ่มรู้สึกว่าช่วงนี้แกล้งคนอื่นเรื่องไอ้พลัสมากเกินไปเหมือนกัน

         “แหม...ตอนที่พี่พาคุณพ่อมาคุยกับคุณป้าเราก็ดูท่าทางดีใจไม่น้อยเหมือนกันล่ะ ทำมาเป็นว่าพี่เรื่องแกล้งไอ้พลัสมัน พรุ่งนี้ก็ได้เจอมันแล้ว พี่รู้น่าว่าเราอยากคุยกับพลัสมันใจจะขาด อดใจหน่อยเถอะน้อง เดี๋ยวก็ได้ไปอยู่กินกับมันที่นั่นแล้ว แถมยังได้ใช้นามสกุลเดียวกันอีก เราน่าจะขอบคุณพี่มากกว่านะ” ผมชวนน้องหยกคุยให้หายอารมณ์เสียกันทั้งคู่ ส่วนคุณพ่อคนทำเสียแผนนอนหลับต่อไปแล้ว

         “หยกนอนไม่หลับเลยนะพี่พีท ทำไมมันรวดเร็วอย่างนี้ล่ะพี่ นึกยังไงถึงไปบอกคุณพ่อให้มาคุยกับป้าของหยกแบบนี้ ตอนแรกหยกนึกว่าลูกค้าคนไทยมาที่ร้าน ก็เลยรีบเข้าไปดูแลเป็นพิเศษ ที่ไหนได้ดันเป็นคุณพ่อของพวกพี่ ดีนะที่หยกไม่ทำอะไรเปิ่นๆ ออกไป” น้องหยกยังไม่วายมาว่ากล่าวผม

         “กลัวอะไรล่ะ พ่อพี่ออกจะชอบหยก แถมยังคุยกับคุณป้าเราเข้าขากันดีเสียอีก นี่ก็ยังมีคุณแม่พี่ตื่นเต้นจะได้ลูกชายเพิ่มอีกคน เตรียมสินสอดไว้รอรับตั้งหลายสิบล้าน ไม่ได้ยินพ่อพี่บอกเหรอว่าให้เอาเครื่องเพชรกับเงินสดจากเซฟมาเตรียมไว้ พรุ่งนี้ให้คุณแม่ไปเอาทองคำแท่งจากธนาคารพร้อมโฉนดที่ดินมาเป็นสินสอดอีก รับรองว่านายสองคนไม่ต้องทำมาหากินไปเลยทั้งชาติ” ผมเริ่มอิจฉาน้องชายขึ้นมาแล้วสิ แต่ไม่เป็นไร สิ่งที่ผมทำกับน้องชายเมื่อยี่สิบปีก่อนนั้นมันแทบจะชดเชยด้วยสิ่งนี้ไม่ได้เหมือนกัน ยังไงผมก็ต้องช่วยให้น้องผมมีความสุขมากที่สุดตามความตั้งใจให้ได้

         “หยกว่ามันมากเกินไปนะครับ ดูเว่อร์ไปไหมพี่ แค่พ่อกับแม่พี่รับหยกกับพี่พลัสได้ แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว คุณป้าหยกก็บอกแล้วว่าไม่ต้องการสินสอดอะไรเลย ยังไงมรดกที่พ่อของหยกทิ้งไว้ให้ก็อยู่ได้สบายๆ ไปทั้งชาติแล้ว หยกไม่อยากให้พ่อแม่พี่ต้องมาเดือดร้อนขนาดนี้” น้องหยกลุกขึ้นมานั่งที่ปลายเตียงผมแถมบ่นเสียยืดยาว

         “อย่าคิดมากน่า ผู้ใหญ่เตรียมไว้ให้ก็รับไว้เถอะ แค่นี้พ่อแม่พี่ไม่เดือดร้อนหรอก ปีๆ หนึ่งกำไรของบริษัทเป็นพันล้าน นี่มูลค่าสินสอดของเรารวมๆ กันน่าจะแค่ร้อยล้านเองล่ะ คิดมากทำไม คิดเรื่องที่จะได้ไปอยู่ด้วยกันกับน้องชายพี่ดีกว่า ต่อไปนี้นายสองคนก็รักกันนานๆ แล้วกัน อย่าให้ผู้ใหญ่ต้องผิดหวังในตัวพวกนาย พี่ดีใจนะที่มีนายมาเป็นน้องชายอีกคน  แล้วก็ถ้านายทำน้องชายพี่เสียใจ รับรองพี่เอาเรื่องนายแน่ ส่วนถ้าน้องชายพี่ทำให้นายเสียใจ พี่ก็จัดการมันให้เอง” ผมเอามือไปตบบ่าว่าที่น้องชายคนใหม่พร้อมยิ้มให้อย่างจริงใจ

         “ขอบคุณครับพี่พีท ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้พี่กับผู้ใหญ่ทุกคนผิดหวังอย่างแน่นอน แต่ถ้าเป็นไปได้ พี่ช่วยบอกคุณพ่อคุณแม่ได้ไหมครับว่าอย่าจัดงานใหญ่โตเอิกเกริกเกินไป หยกเสียดายเงิน ขอร้องนะครับพี่พีทช่วยพูดให้หยกหน่อย หยกคิดว่าหยกรู้ว่าท่าทางพี่พลัสก็คงไม่ชอบแบบนี้หรอกครับ” น้องหยกมีสีหน้าวิงวอนจนผมเริ่มใจอ่อน ความจริงผมอยากลงทุนจัดงานแต่งให้เองด้วยซ้ำ แต่กลัวจะกระทบชื่อเสียงของคุณพ่อคุณแม่มากกว่า ผมเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่คงไม่ว่าอะไร แต่ยังไงผมก็ยังไม่อยากให้เป็นแบบนั้นอยู่ดี

         “ก็ได้ครับ พี่จะคุยกับคุณแม่ให้ แล้วเราอยากจัดงานแบบไหนล่ะ ถ้าไม่ยอมให้พวกพี่ทำอะไรเลยพี่ไม่ยอมหรอกนะ เราอยากได้ยังไงว่ามาดีกว่า” ผมให้น้องหยกเป็นฝ่ายเสนอเองเพื่อความสบายใจขอทั้งสองฝ่าย น้องหยกเพียงเข้ามากระซิบผมเบาๆ เหมือนกลัวว่าคุณพ่อที่หลับไปแล้วจะตื่นขึ้นมาได้ยิน

         “อ้าว...มันไม่ดูเรียบเกินไปเหรอ แน่ใจนะว่าต้องการแบบนั้น” พอฟังจบแล้วผมรู้สึกว่ามันดูง่ายจัง งานที่น้องหยกต้องการดูไม่มีอะไรเลย แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าสนับสนุนมาก จึงไม่อยากขัดใจเมื่อน้องหยกพยักหน้ารับ

         “ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้พี่จะบอกคุณแม่ให้แล้วกันนะ” ผมเริ่มอิจฉาน้องชายขึ้นมาจริงจังก็ตรงนี้ล่ะ แฟนน้องชายผมนี่ช่างเป็นคนดีเหลือเกิน ชักอยากได้มาเป็นแฟนตัวเอง ลองคิดอีกทีไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย หากนิสัยดี น่ารักแบบนี้ ยังไงผมก็หลงรักแน่นอน แต่ก็ได้แค่คิดเอา หากพูดออกไปมีหวังไอ้พลัสเอาผมตายแน่ๆ

         เช้าวันนี้คุณลุงของน้องหยกที่เป็นชาวญี่ปุ่นอาสามาส่งพวกเราที่สนามบิน เราทั้งสี่คนมีคุณพ่อผม ตัวผม น้องหยก และคุณป้าหลินเดินทางไปเมืองไทยกันอย่างเร่งด่วน ระหว่างที่พักเปลี่ยนเครื่องบินที่ประเทศญี่ปุ่นผมโทรไปหาคุณแม่เพื่อบอกความต้องการของน้องหยกให้ฟัง ท่านปลาบปลื้มใจมากกับความคิดของว่าที่ลูกชายคนเล็ก และเห็นด้วยกับความคิดของน้องหยกทุกประการ จึงไม่ขัดใจอะไร

         เมื่อเรามาถึงเมืองไทยก็เป็นเวลาเช้ามืดของอีกวัน ทุกคนดูอ่อนเพลียมาก แต่น้องหยกมีท่าทางสดชื่นอยู่คนเดียว ทั้งที่นอนพักน้อยที่สุดด้วย สงสัยจะตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นวันนี้ เรารอรถมารับไม่นานก็ถึงบ้าน ผมเห็นป้าแก้ว คุณแม่ พลัส ยืนใส่บาตรอยู่หน้าบ้านเสร็จพอดี

         “พลัส...พลัสลูกพ่อใช่ไหม” พ่อผมตะโกนทันทีที่เปิดประตูรถอออกไป ท่านเดินอย่างเร่งรีบไปหาพลัสที่ยืนนิ่งไม่ขยับอยู่ตรงนั้น ในมือยังอุ้มขันใส่ข้าวสวยพร้อมทัพพีอยู่ คุณพ่อเดินไปกอดพลัสเอาไว้แน่น ป้าแก้วจึงรีบเข้าไปรับขันใส่ข้าวที่พลัสอุ้มอยุ่ออกมา พลัสมันยกมือไหว้คุณพ่อด้วยท่าทีเขินๆ สงสัยจะไม่เคยโดนพ่อกอด เพราะพ่อเลี้ยงของพลัสเป็นคนไม่ดี ไม่เคยดูแลพลัสมันตั้งแต่เด็ก คงจะไม่ชินที่มทีคุณพ่อมาทำแบบนี้

         “สวัสดีครับคุณพ่อ สวัสดีครับป้าหลิน” พลัสไหว้คุณพ่อเสร็จก็หันมาไหว้ป้าหลิน ผมกับน้องหยกก็รีบไหว้คุณแม่กับป้าแก้วเหมือนกัน ป้าแก้วรับไหว้แล้วดูหน้าตึงๆ กับผมยังไงชอบกล ไม่ยิ้มอย่างอ่อนโยนเหมือนทุกที หรือผมจะคิดมากไปเอง ทักทายกันไม่นานคุณแม่ก็รีบชวนให้ทุกคนเข้าบ้านไปรับประทานอาหารเช้ากัน

         “รับทานข้าวต้มทะเลแบบไทย หรืออาหารเช้าแบบอเมริกันดีคะ” ป้าแก้วถามป้าหลินกับน้องหยก ทั้งสองบอกรับข้าวต้มเหมือนกัน จึงทานข้าวต้มทะเลกันทั้งโต๊ะ ผมเดาได้เลยว่าเป็นฝีมือทำอาหารของเจ้าพลัสแน่ๆ ยังอร่อยเหมือนเดิม ใครได้กินก็ต้องติดใจแน่นอน

         “ข้าวต้มอร่อยจังเลยค่ะ น้ำซุปเป็นสีทองสวย ใสด้วย ข้าวเรียงเป็นเม็ดแต่นุ่ม อาหารทะเลก็สดกรอบกำลังดี รสชาติเบาสบายท้องเหลือเกิน คุณแก้วเป็นคนทำเองเหรอคะ” ป้าหลินชมพร้อมวิเคราะห์อาหารในถ้วยตรงหน้าเสียละเอียด เราทุกคนหันไปมองคนที่ทำอย่างรู้กัน ไอ้พลัสนั่งหน้าแดงอยู่ข้างๆ น้องหยกจนน่าหมั่นไส้

         “ไม่ใช่หรอกค่ะ ฝีมือของคุณพลัสเธอน่ะค่ะ ลุกขึ้นไปตลาดด้วยตัวเองแต่เช้า พอดีไม่มีปลาทูสด เลยซื้อเป็นเครื่องทะเลมาแทนกลับมาก็รีบทำข้าวต้มทะเลแล้วออกไปใส่บาตรกัน เธอบอกว่าคุณหยกชอบทานข้าวต้มฝีมือเธอที่สุด” ป้าแก้วพูดแทนไอ้พลัสเสร็จสรรพ คุณพ่อคุณแม่ได้แต่นั่งยิ้ม คงปลื้มใจที่ลูกชายทำอาหารถูกใจแขกขนาดนี้

         “เก่งจังเลยลูก เห็นหยกบอกเราทำอาหารไทยอร่อยหลายอย่าง ว่างๆ สอนป้าทำบ้านนะ ป้าจะเอาไปลงในมนูที่ร้าน เผื่อแขกจะติดใจมากขึ้น” คุณป้าหลินยิ้มให้น้องชายผม เจ้าตัวได้แต่เขินบิดไปมาจนน่าถีบให้ตกเก้าอี้ แค่ป้าแฟนมันชมเท่านั้นเอง

         “แค่นี้ร้านคุณหลินก็รับแขกไม่ทันแล้วนี่ครับ อาหารก็อร่อยทีเดียว สงสัยคงต้องขยายสาขาเพิ่มอีกแล้วละครับ” คุณพ่อชวนป้าหลินคุยบ้าง สงสัยจะอยากช่วยลูกชายที่มัวแต่เขินอยู่ พอผมหันมามองที่ป้าแก้วก็รีบหลบตาผมทันที ท่าทางวันนี้ป้าแก้วดูแปลก เหมือนมีอะไรจะคุยกับผมหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ

         “ทานอาหารเสร็จแล้วเหรอคะ มลเดินไปส่งคุณหลินพักผ่อนที่ห้องก่อนดีไหมคะ สายๆ ค่อยลงมาคุยกันอีกที ตาพลัสไปส่งน้องหยกที่ห้องพักด้วยสิ น้องเดินทางมาเหนื่อยๆ พาไปพักผ่อนก่อน อย่าเพิ่งชวนน้องคุยมากล่ะ เดี๋ยวสายๆ ค่อยลงมาคุยกัน” คุณแม่อาสาพาแขกคนสำคัญไปห้องพักด้วยตัวเองเลยทีเดียว

         “พลัส นายคุณกับพ่อก่อนดีกว่า ส่วนน้องหยกให้พี่ไปส่งที่ห้องเอง ยังไงวันนี้นายสองคนก็กำลังจะเป็นทองแผ่นเดียวกันอยู่แล้ว อดใจอีกหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกนะ” ผมอยากจะแกล้งน้องชายอีกหน่อย ขืนให้พลัสมันไปส่งน้องหยก มีหวังได้ปิดห้องคุยกันยาวแน่ๆ วันนี้ผมขออีกวันแล้วกัน

         “ใช่ๆ พลัสมาคุยกับพี่ที่ห้องทำงานดีกว่าลูก พ่อมีเรื่องอยากคุยกับเราเยอะแยะเลย มาเล่าให้พ่อฟังหน่อยสิว่าเราอยู่ยังไง ชีวิตที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง พ่ออยากคุยกับลูกมากนะ” คุณพ่อเหมือนรับมุขผม จึงรีบดึงเจ้าพลัสให้ตามไปที่ห้องทำงาน ส่วนผมก็พาน้องหยกไปส่งที่ห้องพักสองคน

         “พี่พีทคุยกับคุณแม่ให้หยกหรือยังครับ เรื่องงานวันนี้” น้องหยกยังไม่วายเป็นกังวลเรื่องงานนี้อีก

         “เรียบร้อย รับรองว่าเราต้องถูกใจแน่ๆ เชื่อมือพี่สิ” ผมให้ความมั่นใจว่าที่น้องชายคนเล็กเท่านั้น เจ้าตัวก็ยิ้มรับเดินเข้าห้องพักตัวเองไป ผมจึงรีบลงไปหาคุณแม่เพื่อตามงานที่เหลือ พอลงมาด้านล่างก็เจอคุณแม่อยู่กับคุณพ่อ คุยกับพลัสอยู่ในห้องทำงาน

         “มานี่เลยตัวดี เล่นอะไรไม่รู้ทำเอาแม่ตกใจแทบช็อกรู้ไหม มานี่เลยลูกแม่มาให้แม่กอดพร้อมๆ กันหน่อย” คุณแม่เห็นผมเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาก็รีบดึงแขนผมมาข้างๆ พลัส ท่านโอบกอดเราสองคนเอาไว้ คุณพ่อก็ลุกจากเก้าอี้เดินมากอดเราไว้สี่คนพ่อแม่ลูกเช่นกัน

         “พีทขอโทษครับแม่ แค่อยากทำให้แม่แปลกใจเท่านั้นเอง” ผมรีบบอกไปทันที อยากจะเขกหัวไอ้พลัสเหมือนกัน ที่ดันหลุดปากจนเสียเรื่องแบบนั้น นิสัยมันช่างเหมือนคุณพ่อเหลือเกิน ทั้งซื่อ ทั้งใจดี ทั้งขี้อ้อน ส่วนผมเป็นนักวางแผนเหมือนคุณแม่

         “พลัสก็ขอโทษอีกครั้งนะครับ ทีดันไปเชื่อพีทมาหลอกแม่แบบนั้น” ไอ้พลัสมันโบ้ยความผิดมาให้ผมทันทีเหมือนกัน จนผมต้องหันไปทำหน้าดุใส่มัน อยากจะเตะให้สักที

         “ไม่ต้องโทษกันหรอกลูก พ่อกับแม่ดีใจมากจนโกรธใครไม่ลงหรอก ต่อไปนี้ครอบครัวของเราจะกลับมาสมบูรณ์แบบอีกครั้งแล้วนะ” คุณพ่อพูดตัดบทขึ้นมา ทำให้เราทุกคนต้องยิ้มให้กันอย่างมีความสุขสมบูรณ์ที่สุดในชีวิตครอบครัวที่เคยประสบมา วันนี้คงเป็นวันที่ผมรู้สึกมีความสุขที่สุดที่ได้อยู่บ้าน

         “เย็นนี้เพื่อนของลูกกับน้องหยกจะมาทานข้าวด้วยกันที่บ้านเรานะ แม่ยกเลิกการจัดงานเลี้ยงไปแล้ว แค่ทานข้าวพร้อมกัน และมาเป็นสักขีพยายานในการจดทะเบียนรับน้องหยกเป็นลูกบุญธรรมก็พอ แม่เชิญเจ้าหน้าที่เขตมาทำธุรการที่บ้านเราเป็นกรณีพิเศษ มีทนายประจำตระกูลเรามาเดินเรื่องขอรื้อฟื้นคดีคนสาบสูญ ให้ลูกพลัสได้กลับมาใช้ชื่อนามสกุลเดิมของเราในวันเดียวกันเลย” คุณแม่รายงานคร่าวๆ ให้ทุกคนเข้าใจว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

         “ส่วนสินสอดของน้องหยก เราตกลงกันใหม่เป็นเงินสดทั้งหมดจะมอบให้กับสิบมูลนิธิที่เกี่ยวกับมูลนิธิสงเคราะห์เด็กกำพร้า เงินส่วนหนึ่งจะพาเด็กจากมูลนิธิต่างๆ ไปเที่ยวสวนสัตว์ซาฟารีเวิร์ล สวนสนุกดรีมเวิร์ล สวนสยาม และ สยามโอเชี่ยนเวิร์ล สยามพารากอน โดยมีนายกับน้องหยก นำทีมเพื่อนๆ พาเด็กๆ พร้อมครูผู้ดูแลไปเที่ยวตามที่ต่างๆ เป็นการฮันนีมูน โดยการสนับสนุนจากบริษัทไดมอนด์ เจมส์ แอนด์ จิวเวอร์รี่จำกัด มหาชน” ผมบอกโครงการทั้งหมดให้ทุกคนได้ฟัง ทำเอาเจ้าตัวตาโตหน้าตาดูอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน จนผมไม่แน่ใจว่าน้องชายผมมันดีใจหรือรู้สึกยังไงกันแน่

         “สุดยอดเลยพีท นายทำให้ฉันภูมิใจในตัวนายมาก ขอบคุณมากพี่ชาย” ไอ้พลัสพูดจบก็กระโดดเข้ามากอดผมแน่นจนเกือบหงายหลัง เห็นแบบนี้ผมค่อยรู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย ในเมื่อน้องหยกกับพลัสมันชอบแบบนี้ ผมก็รู้สึกดีไปกับมันด้วย พ่อกับแม่ก็เห็นดีด้วยเหมือนกัน

         “เราไปเตรียมงานกันเถอะ ไหนลูกพลัสบอกแม่ว่าอยากทำอาหารเลี้ยงเพื่อนเองไม่ใช่เหรอ แม่ให้ป้าแก้วเตรียมลูกมือของเรารออยู่ในครัวเป็นสิบเลย พลัสกับแม่ไปสั่งงานในครัวกันดีกว่า ส่วนคุณพี่กับตาพีทก็ไปเตรียมสถานที่ให้พร้อมรับแขกนะคะ” คุณแม่สั่งการเสร็จสรรพก็พาพลัสออกจากห้องไป

         ผมจึงโทรศัพท์ไปหาเลขาคุณแม่ตามงานที่ให้ไปประสานงานกับสถานสงเคราะห์ และมูลนิธิต่างๆ ส่วนคุณพ่อก็ออกไปสั่งคนให้ไปจัดตกแต่งสถานที่ วันนี้บ้านเราค่อนข้างวุ่นวายพอสมควร สายหน่อยป้าหลินก็ตามมาช่วยงานในครัวด้วย ส่วนน้องหยกมาช่วยผมโทรไปหาเพื่อนๆ อธิบายเส้นทางพร้อมส่งแผนที่ทางดทรศัพท์ให้ทุกคน

         “จัดงานแบบนี้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเลย เหลือเงินไปทำบุญจะดีกว่านะครับพี่พีท” น้องหยกพูดออกมาระหว่างที่เราสองคนนั่งพักจากการบอกเส้นทางแขกทั้งหมด ใบหน้าของน้องหยกดูมีความสุขเสียเหลือเกิน นึกแล้วช่างน่าอิจฉาคนมีความรัก ตัวผมเองนอกจากจะต้องมาไถ่บาปที่ทำไว้กับน้องชายแล้ว เหตุการณ์ที่ผมต้องทำตัวมีปัญหาไมว่าจะหนีวันเกิดตัวเอง การคอยตามสืบหาตัวไอ้พลัส ทำให้ผมมีปัญหากับแฟนมาตลอด

        “พี่พีทเป็นอะไรครับ” น้องหยกเรียกผมเสียงดังจนตกใจ จนต้องรีบส่ายหน้าว่าไม่ได้เป็นอะไร ผมมัวแต่คิดเรื่องตัวเองเพลินไปหน่อย ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดีแล้วในตอนนี้ ต่อไปนี้ผมก็คงมีความสุขเหมือนคนปกติทั่วไปได้เสียที ไม่ต้องมาคอยรู้สึกผิดกับบาปบริสุทธิ์ที่เคยทำไว้ในตอนยังไร้เดียงสาแบบนั้นอีกแล้ว

        “ไปหยก อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันดีกว่า เดี๋ยวเพื่อนๆ เราก็ทยอยมากันแล้ว” ผมชวนน้องหยกกลับห้องตัวเองหลังจากเสร็จธุระของพวกเรากันแล้ว ตัวผมเดินไปดูความเรียบร้อยที่ริมสระว่ายน้ำ บริเวณนี้จะถูกจัดเป็นงานกลางคืน ส่วนห้องโถงจะมีพิธีทำเอกสารรับพลัสกลับมาเป็นลูก รับหยกเป็นลูกบุญธรรม ส่วนห้องอาหารจะมีการเลี้ยงอาหารค่ำให้กับแขกทุกคน เมื่อทุกห้องดูเรียบร้อยดี ผมก็เดินเข้าไปดูในครัว อาหารทุกอย่างถูกเซทเอาไว้แล้ว เหลือเพียงการจัดตกแต่งลงจานพร้อมเสิร์ฟเท่านั้น ดูเหมือนทุกคนจะกลับไปแต่งตัวที่ห้องของตัวเองกันแล้ว ผมจึงขึ้นไปจัดการตัวเองบ้าง

        ผมลงมาด้านล่างหลังจากแต่งตัวเสร็จแล้ว คุณพ่อกำลังต้อนรับเจ้าหน้าที่เขต และทนายของครอบครัวเราที่ห้องทำงาน ผมจึงเดินไปห้องรับแขกมีคุณแม่ ป้าแก้ว ป้าหลินช่วยกันจัดการดูเอกสารของมูลนิธิ และสถานสงเคราะห์ต่างๆ ที่เลขาคุณแม่นำมาให้ ผมจึงเดินเข้าไปช่วยดู

        “ตาพีท ไปช่วยน้องรับแขกด้านหน้าดีกว่าลูก เอกสารพวกนี้แม่จัดการเอง ไหนๆ จะทำบุญให้เป็นสินสอดน้องหยกทั้งที ขอแม่ทำด้วยตัวเองดีกว่าจ้ะ” คุณแม่รีบบอกปัดความช่วยเหลือของผม ทำให้ผมต้องเดินไปดูพลัสกับหยกที่หน้าบ้าน

        “ไงจ้ะน้องหยก พี่ชวนเรามาเป็นเพื่อนเจ้าสาวในงานแต่งพี่ปลายเดือนนี้แท้ๆ เราดันมาชิงตัดหน้าแต่งก่อนพี่ได้ยังไงล่ะเนี่ย” สาวสวยลุกครึ่งเกาหลี ยืนคู่กับหนุ่มหล่อลูกครึ่งฝรั่งกำลังคุยกับน้องหยกอยู่ ยังมีเพื่อนไอ้พลัสอีกหลายคน ผมจึงยังไม่เดินเข้าไปแทรกระหว่างที่เพื่อนๆ น้องหยกกำลังคุยกันอยู่

        “โธ่...งานแต่งอะไรกันล่ะครับพี่แชริม คุณพ่อคุณแม่พี่พลัสแค่จะขอหยกมาเป็นลูกบุญธรรมเท่านั้นล่ะครับ อย่าแซวแบบนี้สิครับ” น้องหยกรีบปฏิเสธ ทองหล่อกับน้องพลอยสวย ที่ยืนคู่กับน้องเจก็พลอยหัวเราะเสียงดังกับอาการเขินของน้องหยก ผมจึงได้แต่ยืนยิ้มอยู่คนเดียวตรงนี้

        “มันก็เหมือนกันละครับน้องหยก ขอมาเป็นลูกอีกคน จะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันยังไงล่ะ ใช่ไหมพลัส” หนุ่มลูกครึ่งฝรั่งแซวพลัสเข้าให้ด้วย ไอ้พลัสก็มัวแต่ยืนเขินไม่มีใครหันมาสนใจผม ทำให้ผมไม่มีช่องจะแทรกเข้าไปคุยด้วยเลย ผมจึงเดินเลี่ยงไปอีกทางจากบริเวณที่พวกนั้นกำลังคุยกันอยู่

        “พีท มึงมาเดินอะไรตรงนี้คนเดียววะ ไม่ไปช่วยดูแขกข้างใน” เสียงไอ้โตโต้ทักผมมา จึงหันไปดูก็เห็นมันนั่งที่ม้าหินในสวนหน้าบ้านหลังต้นไม้ประดับบังสายตาอยู่กับพี่บาส ผมจึงเดินไปนั่งด้วย ผมชักเริ่มสังเกตว่าสองคนนี้ดูติดกันยังไงชอบกล แถมอาหนึ่งที่ใครๆ ก็รู้ว่าเป็นเพลย์บอยอันดับหนึ่งของเมืองไทย ดันมารักกับเพื่อนสนิทไอ้พลัส ทำไมรอบๆ ตัวผมถึงมีแต่เกย์ก็ไม่รู้

        “โตโต้ มึงกับพี่บาสเป็นแฟนกันหรือเปล่าวะ” ผมรู้สึกเซ็งกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวก็เลยถามไอ้เพื่อนสนิทออกไป พี่บาสนั้นหน้าแดงยังกับจะระเบิดออกมาได้ยู่แล้ว ส่วนไอ้โตโต้กลับนิ่งอึ้งอยู่แบบนั้น ทำให้ผมเริ่มรำคาญ จะตอบก็ไม่ตอบ จะปฏิเสธก็ไม่ทำ อะไรของมัน

        “กูบอกไว้ก่อนว่ากูไม่ได้รังเกียจ น้องชายกูก็เป็นเกย์ กูยังพาพ่อไปสู่ขอถึงอเมริกาเลย กูแค่อยากรู้ว่าการตัดสินใจไปรักกับผู้ชายทั้งที่เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงมาก่อนนี่มันง่ายหรือยากยังไงวะ แล้วมึงรู้ได้ยังไงว่ามึงรักผู้ชายด้วยกันตอนไหน” ผมไม่รู้จะถามใครจริงๆ เพราะทั้งชีวิตนี้มา ผมมีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว ไม่เคยเห็นมันคบกับผู้ชายเป็นแฟนมาก่อน มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น จนมาวันนี้ผมมีเพื่อนสนิทเป็นเกย์ มีน้องชายเป็นเกย์ แถมยังเห็นเพื่อนรักของน้องชายไปคบกับเพลย์บอยชื่อดังของเมืองไทย มันจึงอดคิดเรื่องนี้ขึ้นมาไม่ได้

        “ก็...คือกูรู้สึกว่ากูอยากดูแลพี่บาส กูรู้สึกดีเวลาได้ปกป้องพี่บาสทั้งเวลาทำงาน เวลาส่วนตัว กูก็เป็นห่วงพี่บาสตลอดเวลาที่ไม่ได้เจอกัน แล้วกูก็รู้สึกมีความสุขดีมากที่ได้อยู่ใกล้ๆ กันทุกวัน แค่นี้มันเรียกว่ารักได้หรือยังวะ กูไม่สนหรอกว่าพี่บาสจะเป็นหญิงหรือชาย ขอแค่กูรู้สึกแบบนี้กูก็ปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ได้แล้ว” โตโต้มันพูดจบพี่บาสก็ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ผมได้ฟังก็เข้าใจทันที จึงเดินออกมาให้สองคนนี้ได้นั่งคุยกันต่อไป

        เมื่อไรผมถึงจะมีความรู้สึกแบบนี้กับใครสักคนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายผมก็ไม่สนใจแล้ว ขอแค่ให้ผมได้มีความรักบ้างก็คงเพียงพอ แฟนคนล่าสุดที่ผมเพิ่งเลิกไปก่อนจะไปเรียนคอร์สพิเศษที่อเมริกา ผมไม่ได้รู้สึกรักหนิง เพียงแต่ผมรู้ว่าหนิงรักผมมาก ผมแค่คิดว่ามีคนที่รักผมอย่างเดียวคงพอ แต่สุดท้ายผมไม่เคยรู้สึกรักหนิงเลย ผมจึงต้องขอเลิกกับหนิงหลังจากมีอะไรกันครั้งสุดท้าย เราเลิกกันด้วยดี และผมก็ยังไม่มีใครจนทุกวันนี้ หวังเพียงสักวันผมคงจะมีคนทำให้ผมรู้สึกรักได้อย่างหมดหัวใจบ้าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2012 01:08:01 โดย AxCiO@ToToKeN »

ออฟไลน์ POPEA

  • Blood Type :: Y
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • http://writer.dek-d.com/popae/writer/view.php?id=794488
ครอบครัวอบอุ่น
ดีใจกับพี่พลัสด้วยน๊า~
 :-[

ออฟไลน์ romsai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
เอาอีกกกกกกก หยกน้อยจัง ชอบน้องหยกกกกกก

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
พ่อกับแม่ดูตื่นเต้นกว่าพลัสเสียอีก
พีทยังไม่รูเรื่องหนิงและยังไม่รู้เรื่องลูกด้วย
ถ้ารู้ขึ้นมาคงตกใจแน่ๆ

ปล.ขอเดานะว่าพีทจะคูกับพี่ชายหนิงหรือเปล่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2012 00:11:23 โดย tuek »

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด