บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)  (อ่าน 914493 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
พึ่งตามมาอ่านครั้งแรก สนุกจังเลยค่ะ


ออฟไลน์ ChaBuShi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
นั่นสิพีทคือใครหน้าคล้าย+ท่าจะรวยด้วยเพราะไปเรียนถึงเมืองนอก

มีอาไรออกมา ให้ปวดตับอีกแล้วววว
:angry2: :angry2:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
คงไม่ใช่น้องพ่อเดียวกันของกฤษ นะ

เดาว่าใช่ไปแล้ว

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
Who is พีท ? คงไม่ใช่พ่อของกฤษหรอกนะ  :really2:
(แต่เดาไปเรียบร้อยแว้ว  :laugh: )
เอาล่ะสิเจ๊ทอง  โดนสอบสวนใหญ่แหงๆ  :mc4:

totoken

  • บุคคลทั่วไป
แฟนๆ นิยายจะงงกับตัวละครไหมอ่าาา
ช่วงนี้จะมีตัวละครออกมาครบเลยนะครับ
และกำลังจะเปิดเผยความลับอะไรบางอย่าง
ผมพยายามเขียนให้ได้ยาวๆ แล้วจะโพสต์ทีเดียว
เรื่องของเจ๊ทองจะเป็นยังไงต่อเดี๋ยวจะมาเล่าให้จบ
หลังจากช่วงนี้พระเอกของเรากำลังจะชิงบัลลังก์ตัวเอกกลับคืน
แล้วก็จะเข้าโหมดดราม่า เตรียมซับน้ำตาด้วยน๊าาา อิอิ

ปล.โหมดหื่นกระหายคลาดกำหนัดของตัวเอกเรายังไงก็ไม่ตกหรอกนะ อิอิ

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
พีทคงเป็นญาติกับกฤษ จะแค่ลูกพี่ลูกน้อง หรือถึงขั้นฝาแฝดล่ะเนี่ย
อิอิ มีปริศนามาให้สงสัยกันอีกแระ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ away3g

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-1

Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป
แฟนๆ นิยายจะงงกับตัวละครไหมอ่าาา
ช่วงนี้จะมีตัวละครออกมาครบเลยนะครับ
และกำลังจะเปิดเผยความลับอะไรบางอย่าง
ผมพยายามเขียนให้ได้ยาวๆ แล้วจะโพสต์ทีเดียว
เรื่องของเจ๊ทองจะเป็นยังไงต่อเดี๋ยวจะมาเล่าให้จบ
หลังจากช่วงนี้พระเอกของเรากำลังจะชิงบัลลังก์ตัวเอกกลับคืน
แล้วก็จะเข้าโหมดดราม่า เตรียมซับน้ำตาด้วยน๊าาา อิอิ

ปล.โหมดหื่นกระหายคลาดกำหนัดของตัวเอกเรายังไงก็ไม่ตกหรอกนะ อิอิ

เรื่องนี้ครบทุกรสจริงๆ  o13 o13
มาม่าบ้าง หวานซึ้งบ้าง กำลังดีค่ะ

อยากรู้แล้วว่า แท้จริง กฤษเป็นใคร??  :confuse: :confuse:
มารอกินมาม่าชามโตค่ะ  ชามโตมั้ย??  :impress: :impress:

totoken

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้ครบทุกรสจริงๆ  o13 o13
มาม่าบ้าง หวานซึ้งบ้าง กำลังดีค่ะ

อยากรู้แล้วว่า แท้จริง กฤษเป็นใคร??  :confuse: :confuse:
มารอกินมาม่าชามโตค่ะ  ชามโตมั้ย??  :impress: :impress:

ชามไม่โต แต่มีให้ซู๊ดได้เรื่อยๆ คับ อิอิ

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 50 “กฤษกร”
«ตอบ #613 เมื่อ30-01-2012 01:29:44 »

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 50 “กฤษกร”
นั่นๆๆๆ อย่างงี้สิน่า...บอกว่าความลับของฉันนะอย่าพูดไป โธ่ๆๆๆ ก็โธ่ ก็โธ่ บอกไปคนเดียว อีกไม่นานเท่าไร ก็รู้สิบคน นี่ๆๆๆ อย่าพูด อย่าพูด ก็พวกปาปาราซซี่มีอยู่ทั่วไป No No No อย่าเมาท์ อย่าเมาท์ บอกไปคนเดียวแต่ทำไมไม่รู้ รู้หมด

          “สวัสดีครับทุกคน ผมบาสเป็นเลขาของคุณหนึ่งนะครับ ผมทราบชื่อทุกคนหมดแล้วล่ะครับไม่ต้องแนะนำตัวก็ได้ เพื่อนๆ คุณแชริมนี่ก็คนกันเองทั้งนั้นนะครับบอส” คุณบาสท่าทางเป็นคนเข้ากับคนง่ายดีจัง หันมาแนะนำตัวกับพวกผมจบก็หันไปยิ้มหวานให้กับเจ้านายแบบแปลกๆ ไม่รู้มีอะไรแอบแฝงกันหรือเปล่า

          “แกไม่มีอะไรทำหรือไง มาวุ่นวายอะไรตรงนี้” คุณอาหนึ่งท่าทางไม่สบอารมณ์เท่าไร ที่เลขาหนุ่มมาตีซี้พวกผม

          “วันนี้ผมว่างครับ คิดว่าจะมาขอติดรถบอสกลับไปด้วย เพราะขามาผมก็มากับบอส แต่ขากลับผมไม่รู้ว่าบอสจะยอมให้ผมกลับไปด้วยหรือเปล่านี่ครับ” คุณบาสพูดด้วยท่าทางทะเล้นใส่คุณอาหนึ่ง จนพวกผมเริ่มให้ความสนใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าขึ้นมา

          “ไอ้...เอ่อ...ฉันจะไปอัมพวาว่ะ ไม่ได้เข้ากรุงเทพฯ คิดว่าช่วงนี้จะไปพักผ่อนต่อสักสองสามวันที่นั่น” คุณอาหนึ่งท่าทางไม่อยากจะพูดเสียงดังเท่าไร หน้าตาเหมือนจะไม่พอใจที่ต้องตอบคำถามคุณบาสเสียด้วย

          “อ้อ...ไปฮันนีมูน ถึงได้ฝากงานผมซะเพียบเลยเมื่อวาน” คุณบาสทำท่าทางเหมือนนึกออก แต่ผมคิดว่าคงกำลังกวนตีนเจ้านายมากกว่า และตอนนี้อาหนึ่งก็เหมือนอยากจะลุกขึ้นเตะคุณบาสยังไงอย่างนั้น

          “แกเข้าใจแล้วก็หาทางกลับเองซะไป แล้วก็คิดแผนงานเปิดตัวของโรงแรมที่เชียงใหม่มาด้วย” อาหนึ่งกัดฟันเหมือนข่มอารมณ์สั่งเสียงเด็ดขาด พอเข้าเรื่องงานแล้วดูคุณบาสจะไม่กล้าเล่นหัวกับจ้านายอีกเลย

          “คุณบาสกลับกับผมก็ได้ครับ ผมมีจะปรึกษาเรื่องงานเปิดตัวด้วย คิดว่าจะใช้ห้องอาหารเป็นไฮไลท์ของโรงแรมที่เชียงใหม่ดีไหมครับ” คุณโตโต้เอ่ยขึ้นมาเมื่อเห็นคุณบาสมีท่าทีสลดลง พอมีคนชวนกลับด้วยคุณบาสก็มีสีหน้าร่าเริงขึ้นมาทันที ดูแล้วน่าเอ็นดูเหมือนเด็กๆ ที่โดนดุก็จะหงอย แต่พอมีคนให้ของเล่นก็จะดีใจขึ้นมา

          “คุณโตโต้ใจดีจังเลยครับ ผมนึกว่าคุณจะกลับพร้อมสาวๆ ที่ไปเที่ยวด้วยกันเมื่อคืนเสียอีก ก็เลยไม่กล้าขอติดรถกลับ” คุณบาสพูดออกมาด้วยคงไม่ทันคิด คุณโตโต้ดูเงียบไปด้วยใบหน้าที่เริ่มมีสีแดงเรื่อ เหมือนอายกับเรื่องที่คุณบาสกำลังพูดถึงตอนนี้

          “เอ่อ...มะ...ไม่หรอกครับ ผมคงกลับคนเดียว คือเมื่อคืนเราก็แค่รู้จักกันที่บาร์เท่านั้น คุณบาสเห็นด้วยเหรอครับ” คุณโตโต้พูดจาตะกุกตะกักดูเลี่ยงๆ จนน่าสงสัย

          “ไม่นะครับ ผมเห็นคุณโตโต้กำลังพาผู้หญิงคนนั้นเข้าห้องด้วย เมื่อคืนผมออกจากห้องกำลังจะไปคุยกับบอสพอดีน่ะครับ แต่ไม่ได้กลับด้วยกันก็ดีครับ ผมจะได้ติดรถไปด้วย” คุณบาสพูดคุยอย่างร่าเริง  แต่คนที่โดนพูดถึงทำสีหน้ายังกับคิดผิดที่ชวนคุณบาสกลับไปด้วย แต่คงไม่ทันแล้วล่ะ คุณบาสท่าทางจะเป็นคนพูดจาไม่ได้ใส่ใจคนรอบข้างเท่าไร แต่ดูๆ แล้วผมคิดว่าคงไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่คิดอะไรเลยมากกว่า

          “เอ่อ...ผมขอคุณอาพาเชฟฝรั่งเศสของเราที่นี่ไปงานเปิดตัวโรงแรมที่โน่นได้ไหมครับ ผมลองเกริ่นกับหัวหน้าเชฟดูแล้วเค้าเห็นด้วย เราโปรโมทเรื่องดาวมิชลินของเชฟ แถมเชฟคนนี้ทำช็อกโกแลตเก่งมาก คิดว่าจะเอามาทำช็อกโกแลตโชว์เป็นไฮไลท์ด้วยดีไหมครับ” คุณโตโต้เปลี่ยนเรื่องเข้างานทันที เหมือนกลัวว่าจะมีใครถามเรื่องสาวที่พาเข้าห้องเมื่อคืน

          “เอาสิ ถ้าหัวหน้าเชฟอนุญาตอาก็ไม่ว่าอะไร แล้วจะโชว์ยังไงดีล่ะ คิดมาหรือยัง” คุณอาหนึ่งถามกลับ

          “ยังครับ คงต้องขอไอเดียจากเอเจนซี่ดูอีกทีครับ ว่าจะทำครัวโชว์ยังไงดี” คุณโตโต้ตอบแบบไม่มีข้อเสนอ

          “ขอโทษนะครับ พอดีผมเคยเห็นที่อเมริกาตอนไปออกร้านอาหารไทยที่โรงแรมดังๆ น่ะครับ เค้าจะทำเป็น Open Kitchen เป็นครัวรูปวงกลมแล้วใช้ผนังกระจกล้อมผมคิดว่าทางบริษัทรับออกแบบต้องทำได้แน่ โดยเราจัดโต๊ะรับลูกค้ารอบๆ ครัว เชฟก็จะสาธิตการปรุงอาหารแบบสดๆ แล้วก็ทำขนมผ่านกระจกให้ลูกค้าได้เห็น ยิ่งถ้าเป็นช็อกโกแลตนี่ทำโชว์ได้สบายเลยครับ” น้องหยกของผมที่เงียบมานาน เสนอความคิดน่าสนใจขึ้นมา ทำเอาทุกคนสนใจฟังจนเงียบกันไปหมด

          “ดีนะครับ แล้วเราก็สาธิตการทำอาหารเฉพาะที่โชว์ลีลาการปรุงได้ในครัวเปิด อย่างพวกจานเย็น หรือออเดิร์ฟ แถมตรงกระจกสามารถโชว์ขนม หรืออาหารพิเศษให้ลูกค้าได้ดูเมนูประจำวันได้ด้วย ยิ่งถ้าเป็นเทศกาลอย่างวาเลนไทน์ก็ทำขนมจากช็อกโกแลตโชว์รอบครัวได้เลย” เจ้าทองพูดเสริมความคิดน้องหยก ทำให้ทุกคนเห็นภาพมากขึ้น

          “เจ๋งเลยครับ ผมชอบนะ คิดว่าจะลองเอาไปทำเป็นแผนมาเสนอผู้ใหญ่ดูอีกที ดีไหมครับบอส” คุณบาสดีดนิ้วดังเป๊าะ เหมือนโดนใจ แล้วก็หันไปขอความคิดเห็นเจ้านายทันที

          “ดี...ดีมากเลยล่ะ น้องทองนี่เก่งนะครับ นี่ถ้าได้มาร่วมงานกันคงจะดีกว่านี้” คุณอาหนึ่งหันไปพูดชมไอ้ทอง แต่จริงๆ แล้วมันเป็นความคิดของเมียผมต่างหากล่ะ ไอ้ทองมันแค่พูดเสริมนิดหน่อย ทำไมชมแต่มัน ไม่เห็นหัวเมียผมเลยสักนิด รู้สึกหงุดหงิดกับคนลำเอียงจริงๆ

          “เอ่อ...ความจริงน้องหยกสิครับที่เก่ง ผมแค่พูดต่อจากน้องหยกเท่านั้นเองครับ” ไอ้ทองทำท่าเขินอายจนผมอยากลุกขึ้นถีบให้หงายหลัง

          “ยังไงต้องขอบคุณน้องหยกด้วยนะครับ ที่ช่วยเสนอไอเดีย พี่จะเอาไปให้บริษัททำเครื่องครัวออกแบบมาแล้วเอาไปให้น้องหยกช่วยดูด้วยนะครับ เผื่อจะได้มีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมให้พี่ได้ด้วย” คุณโตโต้หันมาชมน้องหยกแทนคุณอาหนึ่งที่ลำเอียงไปทางไอ้ทองจนน่าหมั่นไส้ แต่ผมก็ไม่ชอบเท่าไรที่จะให้ใครมาพูดชมเชยเมียผม แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใส่กันต่อหน้าผมแบบนี้ อารมณ์มันจะพาลขึ้นเอาง่ายๆ

          “ไม่ต้องเอามาให้ดูหรอกครับ แค่ไอเดียเล็กๆ ที่เหลือพวกคุณน่าจะไปต่อยอดเอาเองได้นี่ครับ โอ้ย...” ผมพูดไปแบบนั้น แต่เพิ่งรู้สึกตัวว่าชักสีหน้ามากเกินไป เพราะคนรักหันมากระทุ้งศอกเข้าให้เบาๆ เหมือนเตือนสติ ไม่ได้รู้สึกเจ็บเท่าไร แต่ต้องทำหน้าเจ็บปวดอ้อนคนทำร้ายร่างกายให้เห็นใจนิดหน่อย จนคนรักตกใจรีบเอามือมากุมท้องผม พร้อมเอ่ยคำขอโทษเบาๆ แค่นี้ผมก็ยิ้มออกด้วยความสุขใจแล้ว

          “อุ้ย...อยู่กันครบเลยเหรอคะ ขอพวกเรานั่งด้วยสิคะ” พี่แชริมมากับพี่แดน และน้องพลอยกับน้องเจ เราจึงขยับตัวให้นั่งกันได้ครบทุกคน วงสนทนาเราจึงใหญ่ขึ้น พนักงานรีบเดินมาเสิร์ฟเครื่องดื่มพร้อมเปลี่ยนแก้วเติมเครื่องดื่มที่หมดแก้วไปแล้ว พอได้เครื่องดื่มครบคุณอาหนึ่งก็หันมาแนะนำตัวคนแปลกหน้าให้น้องพลอยได้รู้จักกัน

          “ป๊าครับ ผมจะไปเที่ยวอัมพวาสักอาทิตย์หนึ่งนะครับ” น้องเจพูดกับคุณอาหนึ่งเป็นเชิงขออนุญาต ทำเอาผมกับน้องหยกมองหน้ากัน แล้วก็หันไปมองน้องพลอย จนเจ้าตัวมีอาการหน้าแดงซ่านแต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

          “ป๊าไปด้วย ป๊าก็จะไปเที่ยวสักอาทิตย์หนึ่งพอดีเหมือนกัน งั้นแดนนี่ไม่ต้องไปส่งเพื่อนหรอก อากับเจขับรถไปคนละคนพอดี ยังไงก็นั่งกันพออยู่แล้ว” คุณอาหนึ่งบอกน้องเจเสร็จก็หันไปพูดกับพี่แดนนี่

          “อ้าว...ไหบอสบอกว่าจะลางานแค่สองสามวันไงครับ นี่จะไปตั้งอาทิตย์หนึ่งนายท่านด่าผมตายเลยนะครับ” คุณบาสโอดครวญขึ้นมาหลังจากได้ยินอาหนึ่งบอกกับพวกเรา

          “งั้นเสร็จงานในโปรเจคนี้พวกผมขอตามไปเที่ยวด้วยสิครับ” คุณโตโต้โพล่งขึ้นมาบ้าง

          “ยินดีค่ะ น้องพลอยก็อยากให้คุณอากับพวกพี่ๆ ไปเที่ยวที่นั่นบ้าง เรื่องที่พักไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ พลอยรับผิดชอบเองค่ะ แม้ความสะดวกจะไม่เท่ากับพักที่โรงแรมนี้ แต่รับรองความประทับใจไม่แพ้กันแน่นอนค่ะ พี่แชริม พี่แดนหาโอกาสไปเที่ยวที่โรงแรมของพลอยบ้างสิคะ” น้องพลอยออกอาการดีใจที่รู้ว่าคุณพ่อของน้องเจ และนายโตโต้ก็อยากไปเที่ยวอัมพวาเหมือนกัน

          “ใช่ครับ ไอ้กฤษมันเป็นพ่อครัวของเรา ทำอาหารอร่อยมากเลยครับ พอๆ กับเชฟโรงแรมดังๆ เลยทีเดียว ลูกค้าบางรายมาพักกับเราเพราะอยากชิมอาหารฝีมือไอ้กฤษก็เยอะนะครับ” ไอ้ทองได้ทีพูดชมให้ผมเสียจนรู้สึกว่าเขินจนไปไม่ถูกเหมือนกัน จนผมต้องขยับปากให้มันอ่านได้ความว่ามันพูดมากไป

          “จริงค่ะคุณอา จำข้าวต้มทะเลเมื่อวันก่อนได้ไหมค่ะ ที่พลอยมาขอใช้ห้องครัวให้เพื่อนทำอาหารน่ะค่ะ ฝีมือน้องกฤษเองค่ะ” คุณแชริมพูดถึงวันที่ผมตื่นมาแต่เช้าขอให้วัตถุดิบ และห้องครัวของทางโรงแรมเพื่อที่จะปรุงข้าวต้มสูตรพิเศษให้น้องหยกของผมทาน แต่ก็ได้ทำหม้อใหญ่เผื่อให้ทุกคนทานดูเหมือนกัน

          “อ๋อ...วันนั้นที่ประชุมทานกันทุกคนเลยครับ ขนาดผมไม่ชอบทานอาหารเช้ายังทานไปสองถ้วย อร่อยมากเลยครับ ข้าวเม็ดบานสุกพอดีไม่เละไม่แข็ง น้ำซุปใสแจ๋วสีทองสวยหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ ดับกลิ่นคาวเครื่องอาหารทะเล แถมยังมีรสกลมกล่อม เนื้อปลาก็ลวกมาอย่างดีไม่เปื่อยยุ่ย ปลาหมึกบั้งมาสวยงามเนื้อกรอบด้วย กุ้งก็บรรจงแกะทั้งเปลือกทั้งเส้นดำเนื้อขาวเด้งดีดฟันให้รสหวานอร่อย ผมไม่ได้ปรุงเพิ่มเลยนะครับ โรยแค่กระเทียมเจียวที่ไม่มีน้ำมัน ตอนแรกนึกว่าทางครัวทำแต่พนักงานบอกว่าคุณกฤษเจียวเอง เหลืองกรอบพอดีไม่ขมด้วยครับ อร่อยมากจริงๆ คุณกฤษใส่ใจในรายละเอียดการทำอาหารเก่งมากเลยครับ” คุณบาสพูดรายละเอียดออกมาจนครบ ทำเอาผมเขินจนพูดไม่ออก

          “ผมก็ได้ทานเหมือนกัน ฝีมือดีนะครับ ไปเรียนมาจากที่ไหนเหรอครับ” คุณโตโต้เอ่ยชมพร้อมถามผม

          “ไม่ได้เรียนหรอกครับ ผมอยู่กับยาย ช่วยยายทำกับข้าวมาตลอดตั้งแต่เด็กครับ ยายผมเคยเป็นแม่ครัวในร้านอาหารมาก่อนน่ะครับ ก็เลยเรียนรู้มาจากตรงนั้น” ผมกล่าวตอบไปแบบนั้น ทำเอาคุณโตโต้เลิกคิ้วขึ้นมา ตนผมสงสัยว่านี่ยังไม่เชื่อคิดว่าผมเป็นเพื่อนเค้าอีกหรือเปล่า

          “อย่างนี้ต้องลองไปทานอาหารฝีมือคุณกฤษแบบเต็มสูตรที่อัมพวาดูแล้วล่ะครับ ขออนุญาตกันล่วงหน้าเลยนะครับ” คุณโตโต้ยิ้มให้ผมขึ้นมา ทำเอาเบาใจลง จึงยิ้มตอบกลับไปให้บ้าง

          “ถ้าอย่างนั้นเราเดินทางกันเลยไหมครับ เผื่อจะมีเวลาได้แวะเที่ยวที่ไหนกันได้บ้าง แดนกับแชริมกลับเลยก็ได้ เด็กที่อัมพวาให้อาดูแลต่อเองแล้วกัน” อาหนึ่งพุดขึ้นมาทำเอาเราทุกคนเห็นด้วย พวกผมจึงล่ำลาคุณแดนนี่กับคุณแชริมที่อาสาจะไปแจ้งพนักงานให้ย้ายสัมภาระไปไว้ในรถอาหนึ่ง และน้องเจแทน คุณโตโต้กับคุณบาสก็แลกเบอร์โทรศัพท์กับพวกเราแล้วก็ขอตัวไปเก็บสัมภาระ

          “รถอานั่งได้แค่สองคน อาไปกับน้องทองแล้วกันนะ เด็กๆ ที่เหลือก็ไปกับเจเราจะแวะที่ไหนก็โทรนัดกันโอเคไหม” อาหนึ่งคิดให้เสร็จสรรพ ทำเอาผมหมดโอกาสสอบถามไอ้ทองถึงความสัมพันธ์อันแปลกประหลาดอันนั้น แต่เหมือนน้องเจกับน้องพลอยจะรู้ที่มาที่ไปแล้ว จึงกระตุกแขนเสื้อของผมให้เดินตามไป ปล่อยสองคนนั้นให้เดินไปขึ้นรถอย่างอารมณ์ดี

          “พี่กฤษ พี่หยกคะ พี่แชริมแฉเรื่องพี่ทองกับอาหนึ่งให้เจกับพลอยฟังหมดแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวค่อยเม้าท์กันในรถ งานนี้อย่าเพิ่งกระโตกกระตาก เดี๋ยวไก่ทองจะตื่นตัวเสียก่อน สบโอกาสเมื่อไหร่หนูจะจับเข้าห้องสอบสวนเองค่ะ” น้องพลอยเชิดหน้าพูดด้วยเสียงอันเฉียบขาด ทำเอาพวกผมรีบเดินไปขึ้นรถเร็วขึ้น ไม่ใช่อยากรีบเดินทาง แต่อยากรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเจ้าทองกับอาหนึ่งต่างหาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-02-2012 00:08:49 โดย AxCiO@ToToKeN »

ออฟไลน์ silw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาตามอ่าน ห้าสิบตอนรวด ตาแฉะเลย ถูกใจมาก  o13

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20

ออฟไลน์ charapin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :o8:กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด ให้พี่หนึ่ง แม้พี่จะหื่น แต่หนูก็ปลื้ม อย่ามาหลอกอิเจ๊ให้ช้ำใจเป็นพอ

 จัดเต็มให้อิเจ๊เยอะๆนะคะ (ปันใจให้คู่นี้ไปเต็มๆ) :z2:


 :a5:เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้ว ตอนนี้แอบเดาอยู่ในใจ  แล้วก็รอลุ้นว่า ที่เดาไว้จะถูกรึเปล่า :serius2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: โค้งเป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยค่า

 

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 51 “กฤษกร”
«ตอบ #617 เมื่อ30-01-2012 02:52:41 »

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 51 “กฤษกร”
อยากเห็นเธอเป็นคนเก่าที่ยิ้มได้อีกครั้ง ให้ฉันได้ยืนเคียงข้าง ในวันที่ทุกข์ใจ เพราะฉันเป็นห่วงเธอ ไม่ต้องการอะไร ขอให้เธอเข้าใจในความหวังดี....ที่ให้เธอ

          สุดท้ายพวกผมก็ไม่ได้แวะเที่ยวที่ไหน เพราะมัวแต่คุยกันถึงเรื่องไอ้ทองกับอาหนึ่ง เราเพียงแวะเติมน้ำมัน หาซื้อของฝาก และหาอะไรทานในร้านสะดวกซื้อตรงนั้น แล้วรีบกลับขึ้นรถมาคุยกันต่อ สรุปความได้ว่าอาหนึ่งชอบไอ้ทองเข้าให้แล้ว เพราะหน้าตาดันเหมือนคนรักเก่าสมัยยังเรียนที่อเมริกา

          “เจก็ไม่แปลกใจอะไรมากหรอกครับ เพราะเคยเห็นรูปถ่ายผู้ชายในโต๊ะทำงานป๊า เคยถามแล้วป๊าก็บอกตรงๆ ตอนนั้นยังตกใจครับที่ป๊าเคยชอบผู้ชายแถมเคยมีอะไรกับผู้ชายแล้วด้วย ตอนนี้ก็เลยเฉยๆ น่ะครับ” น้องเจพูดไปขับรถไปอย่างสบายอารมณ์เหมือนไม่รู้สึกแปลกอะไรกับพฤติกรรมบิดา

          “แต่พี่แชริมบอกว่าอาหนึ่งเป็นคนเจ้าชู้ เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น อย่างนี้เจ๊ทองของหนูต่อไปจะเป็นยังไงไม่รู้สิ หนูพอดูออกว่าเจ๊ของหนูคิดจริงจังกับอาหนึ่งแน่ๆ ยิ่งเจ๊ของหนูนี่ชอบคนง่ายอยู่ด้วย แล้วมาเจอคนเจ้าชู้นี่สงสัยจะได้น้ำตาเช็ดหัวเข่า...เฮ้อ” น้องพลอยบ่นเพราะสงสารพี่ชาย ทำให้น้องเจต้องหันมามองหน้าคนพูดบ่อยๆ ดูอันตรายจนผมกลัวว่าสมาธิในการขับรถจะมีไม่พอเสียแล้วสิ

          “เอ่อ...แต่พ่อก็ส่วนพ่อนะครับ เรื่องเจ้าชู้นี่ยังไงก็ไม่ใช่กรรมพันธุ์แน่นอน” น้องเจรีบพูดต่อหลังจากที่น้องพลอยบ่นจบ ทำเอาน้องพลอยหน้าแดงขึ้นมา

          “เจพูดอะไรเนี่ย พลอยยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” น้องพลอยหันหน้าหนีด้วยความเขิน ทำเอาผมกับน้องหยกต้องกลั้นหัวเราะกันสองคน

          “แต่เท่าที่พี่แชริมบอกมา อาหนึ่งเก็บแต่รูปผู้ชายคนนั้นไม่เคยเก็บรูปผู้หญิงคนไหนเลยไม่ใช่เหรอครับ อย่างนี้อาจจะจริงใจกับพี่ทองก็ได้นะครับ คนเราจะบอกว่าเจ้าชู้ที่เปลี่ยนคนคบไปเรื่อยก็ไม่ใช่เสมอไปหรอกครับ เค้าอาจจะยังไม่เจอคนที่ตรงใจจริงๆ ก็ได้” น้องหยกแสดงความคิดเห็นช่วยทางอาหนึ่งออกมาบ้าง ผมว่าคนพูดน่าจะเอาความรู้สึกตัวเองใส่ไปด้วยต่างหาก

          “เหมือนพี่หยกน่ะเหรอครับ หึหึ แต่ก็จริงครับ ป๊าไม่เก็บไว้แม่แต่รูปของม๊าผม มีแต่รูปผู้ชายคนนั้นที่ป๊าหวงมาก แต่จะบอกอะไรให้นะครับ พี่บาสกระซิบมาว่าคราวนี้ป๊าเอาจริงแน่ เพราะว่าป๊าสั่งให้พี่บาสไปเอารูปใบนั้นทิ้งไปซะก่อนที่ป๊าจะกลับไปทำงาน สงสัยจะเอารูปพี่ทองไปเปลี่ยนแทนนะครับ” น้องเจแซวหยกเข้าให้ ทำเอาผมขำจนคนรักหน้างอทำปากยืนแก้มป่อง พอผมทำท่าจะก้มไปหอมเพื่อง้อให้หายงอนก็ผลักหน้าผมออกเบา เราสองคนหยอกล้อเล่นกันอยู่ด้านหลัง ไม่ได้สนใจคนข้างหน้า ปล่อยให้คุยกันไปแต่ยังฟังทุกรายละเอียด

          “อุ้ย...อย่างนี้เจ๊ขงหนูก็มีสิทธิ์เป็นแม่เลี้ยงเจน่ะสิ” น้องพลอยพูดขึ้นมาทำเอาน้องเจตกใจหักพวกมาลัยผิดจังหวะ พวกเราส่งเสียงร้องโวยวายกันลั่นรถ

          “ว๊าย...พลอยพูดเล่นนะคะ เจอย่าโกรธพลอยนะ” น้องพลอยรีบขอโทษขอโพยหลังจากที่น้องเจได้สติหันกลับมาขับรถอย่างเป็นปกติ

          “ปะ...ป่าว เจไม่ได้โกรธ แต่เจแค่ตกใจ เพราะไม่เคยคาดคิดว่าจะมีแม่เลี้ยงที่เป็นผู้ชายน่ะสิ แถมยังต้องเรียกพี่ชายแฟนว่าคุณแม่หรือเปล่า มันดูแปลกๆ อยู่นา” น้องระบายออกมาจนน้องพลอยต้องตีเพี๊ยะเข้าที่แขน ทำเอาเราทั้งหมดต้องขำจนเกิดเสียงหัวเราตามมาดังลั่นรถ

          เรามาถึงอัมพวากันแล้ว ผมและน้องหยกจึงรีบเข้าไปเอามอเตอร์ไซด์ที่จอดเอาไว้ในร้าน เจอป้านวลกำลังเฝ้าร้านให้ช่างมาตกแต่งเพิ่มเติมอยู่ ตัวร้านตกแต่งเสร็จหมดแล้วเหลือแต่เพียงจัดเก็บรายละเอียดนิดหน่อย เรายืนชื่นชมกับความเปลี่ยนแปลงได้สักครู่ก็ขอตัวกลับ เพราะผมคิดถึงตากับยายจะแย่แล้ว ผมพาหยกกลับมาถึงบ้านช่วงเย็น พอเอารถจอดใต้ถุนบ้านก็รีบขึ้นไปกราบยาย

          “สวัสดีครับยาย ยายสบายดีนะครับ กฤษคิดถึงยายจังเลย” ผมรีบก้มลงไหว้ที่ตักยายแล้วก็กอดให้หายคิดถึง น้องหยกก็ก้มไหว้ตามผม แล้วเราก็เอาของฝากมาอวดยายกัน

          “ไหว้พระเถอะพ่อ ไปเที่ยวกันสนุกไหม ยายสบายดีแต่ตาเอ็งนอนป่วยอยู่ในห้องไม่สบายมาสองวันแล้ว” หลังจากที่ยายบอกผมทำท่าจะลุกขึ้นไปดูตา ประตูห้องนอนของตาก็เปิดออกมา ผมจึงนั่งลงไปที่เดิมเพราะเห็นคุณตาเดินออกมาจากห้องพอดี

          “ได้ยินเสียงรถเอ็งก็รู้แล้วว่ากลับมา นี่ไปเที่ยวทะเลกันสนุกเลยสิวะ เจ้าหยกมันคล้ำแดดขึ้นเยอะเลย” คุณตาเดินมานั่งข้างๆ ยายก็พูดทักทายพวกเราที่ยกมือไหว้ คุณตาดูซีดเซียวลงไปเยอะ ผมเดาว่าระหว่างที่ผมไม่อยู่ คุณตาคงแอบทำงานทั้งหมดเอง เพราะถ้าผมอยู่จะไม่ให้คุณตาทำ ผมจะอาสาทำแทนทุกอย่าง

          “ตาไปปีนต้นมะพร้าวอีกแล้วใช่ไหมครับ ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องทำงานรอผมกลับมาก่อน” ผมอดต่อว่าไม่ได้ เพราะบอกเอาไว้แล้วว่าไม่ให้ตาทำงานหนัก กลัวว่าหากเป็นอะไรไปช่วงผมไม่อยู่จะทำยังไงกัน

          “ข้าปกติดีโว้ย แค่หน้ามืดนิดหน่อย ช่วงนี้เลือดลมมันไม่ค่อยดี” คุณตายังคงปากแข็ง พลางลุกขึ้นกำลังจะยืน ทำให้ผมสังเกตเห็นรอยถลอก และรอยเขียวช้ำตรงโคนขา จึงรีบลูกเข้าไปดูใกล้ๆ ด้วยความรวดเร็ว

          “ตา...นี่ตาตกต้นไม้มาเหรอ ตาไปโรงพยาบาลกับผมก่อนเร็ว” ผมเดาจากรอยเขียวช้ำก็รู้ได้เลยว่าตายังฝืนปีนต้นไม้ ทั้งที่รู้ว่าเรี่ยวแรงตัวเองนั้นไม่ไหวแล้ว ทำให้พลัดตกลงมาแน่นอน นี่ผมช่างอกตัญญูเสียจริง หนีไปเที่ยวมีความสุขแต่ปล่อยให้คนแก่สองคนใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังจนเกิดเรื่องขึ้นมาได้

          “โธ่...ข้าไม่เป็นไร แค่ลื่นล้มนิดหน่อย เอ็งโวยวายไปได้ ไอ้กฤษเอ้ย...ตาไม่ไปหรอกโรงพยาบาล นี่เอาน้ำมันมะพร้าวนวดๆ เดี๋ยวก็หาย” คุณตายังคงดื้อไม่ยอมรับว่าตกต้นไม้ รอยถลอกแดงเป็นทางยาว แถมบางส่วนยังตกสะเก็ดแล้วด้วย โคนขาก็ช้ำจนเป็นสีเขียวเหลืองชัดเจน ผมจะทำยังไงดี เห็นแล้วน้ำตามันพาลจะไหลออกมา

          “ตาครับ ผมขอร้องนะ ให้ผมพาไปหาหมอก่อนนะครับ ตาอย่าดื้อเลยนะ” ผมอ้อนวอนคุณตาที่ทำท่าจะไม่ยอมให้ผมพาไปหาหมอ หันมาอีกทียายก็หันหน้าหนีไม่ยอมมองหน้าผม เหมือนจะกลัวว่าผมจะเห้นน้ำตาของยาย น้องหยกหยิบโทรศัพท์แล้วเดินออกไปนอกชานบ้านคุยกับใครไม่รู้

          “กฤษเอ้ย...ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆ ข้ายังเดินได้เอ็งเห็นไหม แค่ปวดเอวปวดขานิดหน่อย พักแค่สองสามวันเอ็งก็จะเห็นข้าเข้าสวนได้แล้ว” ตายังดื้อดึง ไม่ยอมให้ผมสนใจเรื่องแผลที่ขา แถมยังเดินหนีเข้าห้องไปเหมือนเดิมอีก

          “ยาย...ทำไมปล่อยให้ตาไปปีนมะพร้าวอีกละครับ กฤษบอกแล้วไงว่าอย่าให้ตาทำงานหนัก” ผมหันไปคาดคั้นยายทันทีที่ตาเดินหนีผมเข้าห้องไป ยายก็เอาแต่ถอนหายใจแล้วส่ายหน้ามาให้ผมโดยไม่พูดอะไร ผมเข้าใจในทันทีว่าตานั้นเป็นคนหัวรั้นอยู่แล้ว พอผมไม่อยู่ก็ดื้อจะปีนต้นมะพร้าวไปเก็บน้ำตาลเอง เหมือนที่เคยทำเลี้ยงครอบครัวมาตลอด แต่ปัจจุบันตาแก่มากแล้ว ผมกลัวจะเกิดอันตราย แล้ววันนี้ วันที่ผมทิ้งตากับยายไปเที่ยวครั้งแรกก็เกิดเรื่องจนได้ ผมจะทำยังไง จะให้ผมทำยังไงดี น้ำตามันไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

          “พี่กฤษครับ หยกโทรศัพท์ให้พี่ทองเอารถมารับตาไปโรงพยาบาลแล้วครับ ตอนนี้พี่ทองถึงแล้วกำลังออกมารับตาครับ” น้องหยกบอกผมให้มีสติขึ้นมาทันใด ทำไมผมถึงนึกไม่ออกนะ ว่าคนป่วยจะเดินทางไม่สะดวกหากต้องนั่งรถมอเตอร์ไซด์ ผมจึงหันไปยิ้มให้สุดที่รักของผม แล้วไปเคาะประตูห้องตาทันที

          “ตาครับ ตา...ออกมาข้างนอกเถอะครับ ผมซื้อขนมมาฝากเต็มเลย ตามาชิมดูหน่อยสิครับ” ผมเอาขนมเข้าล่อไม่รู้วิธีนี้จะลวงให้คุณตาออกมาจากห้องได้หรือเปล่า เพราะมันเหมือนวิธีที่เอาไว้หลอกเด็กเลย แต่ตอนนี้คิดไม่ออกว่าจะใช้วิธีไหนให้ตาออกจากห้องมาได้

          “ไหน เอ็งซื้ออะไรมาฝากข้า นึกว่าเอ็งจะมัวแต่สนุกอยู่กับแฟนเอ็งจนลืมพวกข้าไปแล้ว” สำเร็จแฮะ คุณตาเดินออกมาจากห้อง พูดจาแซวผมกับน้องหยกเหมือนเคย ผมจึงรีบไปหยิบถุงขนมมาเปิดออก แล้วแกะถุงขนมต่างๆ มาให้คุณตาลองชิม นองหยกก็หยิบไปให้คุณยายลองชิมดูบ้าง เรากำลังเล่าเรื่องที่ไปเที่ยวให้ฟังกันอย่างสนุกสนาน

          “ตาครับ วันนี้มีคนมาทักกฤษผิดด้วย เค้าบอกว่ากฤษหน้าเหมือนเพื่อนเค้าที่เรียนอยู่ที่เมืองนอก แถมยังบอกว่าเหมือนกันมากๆ จนคิดว่าเป็นคนเดียวกัน ท่าทางเค้าไม่ยอมเชื่อว่ากฤษไม่ใช่เพื่อนเค้าด้วยนะครับ ต้องให้คนอื่นๆ มายืนยัน ตลกดีนะครับ” ผมเล่าให้ฟังแบบไม่คิดอะไร เพาะคนอะไรมันจะหน้าตาเหมือนกันได้ขนาดนั้น พูดไปแล้วตอนนี้ยังรู้สึกขำขึ้นมา

          “อะ...เอ็งว่าอะไรนะ แล้วเค้าบอกอะไรเอ็งบ้าง พ่อแม่เค้าล่ะ มาด้วยไหม เค้าพูดอะไรกับเอ็งบ้าง เอ็งบอกตามาเร็ว” คุณตากับคุณยายมีท่าทางตกอกตกใจ คุณายถึงกับปล่อยให้ขนมหลุดจากมือแล้วมองหน้าผมค้างไปอย่างนั้น ทำเอาผมงงกับอาการเหล่านี้

          “ปะ...เปล่านี่ครับ เค้าแค่เข้าใจผิด คนที่ทักกฤษเค้าเป็นเพื่อนของคนนั้นครับ พ่อแม่เค้าไม่ได้มาด้วยหรอกครับ แต่พ่อแม่เค้าก็เป็นลูกค้าใหญ่ของโรงแรมที่กฤษไปพักด้วยนะครับ” ผมตอบไปตามความจริง เพราะคุณตาดูคาดคั้นอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดเหมือนตกใจที่มีคนมาบอกว่ามีคนหน้าเหมือนผมมากขนาดนั้น

          “งั้นเอ็งไม่ต้องไปที่นั่นอีกเข้าใจไหม ข้าไม่ให้เอ็งไป” คุณตามีท่าทีโมโหอย่างเห็นได้ชัด จนคุณยายต้องเอามือไปแตะที่หน้าขา แล้วสบตาคุณตาไว้ส่ายหน้าให้เบา จนผมเริ่มสงสัยกับพฤติกรรมของท่านทั้งสองที่แสดงออกมา

          “ทำไมเหรอครับ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ บอกกฤษได้ไหม” ผมถามอย่างใจเย็น ส่วนน้องหยกได้แต่อ้าปากน้อยๆ เพราะเหมือนกำลังจับต้นชนปลายไม่ถูก

          “ไม่มีอะไรหรอกกฤษ ตาเค้าถือน่ะ โบราณเค้าว่าถ้ามีคนมาทักว่าเราหน้าเหมือนคนอื่น มันจะมีเรื่องไม่ดี ตาเค้าไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีน่ะลูก” คุณยายอธิบายให้ผมเข้าใจ ถึงมันจะดูแปลก แต่คนโบราณเค้าว่ากันมาผมก็ไม่กล้าลบหลู่ คุณตากับคุณยายอายุมากขนาดนี้คงจะถือเรื่องโชคลางพอสมควร ผมจึงคลายกังวลไม่ได้ติดใจอะไรอีก

          “มิน่าละครับ วันนี้ผมถึงกลับมาเจอตาเจ็บแบบนี้ สงสัยเพราะคนนั้นเข้ามาทักกฤษแบบนี้แน่ๆ เลยครับ” ผมพูดจบทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย ทานขนมกันได้ไม่นานเราก็ได้ยินเสียงรถของไอ้ทองเข้ามาในบริเวณบ้าน ผมจึงให้น้องหยกออกไปรับ

          “ตาครับ ไปโรงพยาบาลก่อนนะครับ ถ้าตาไม่ไปกฤษจะอุ้มตาไปให้ได้อยู่ดีนะครับ” ผมพยายามพูดบังคับคุณตาไปโรงพยาบาลให้ได้ คุณตาทำหน้าตาไม่พอใจ พยายามหันไปหาคุณยายที่กำลังอมยิ้มอยู่

          “ไปเถอะตา หลานมันเป็นห่วง ฉันก็เป็นห่วง นี่อุตส่าห์ให้เพื่อนเอารถมารับถึงบ้านกันแล้วนะ” คุณยายช่วยพูดให้ผมจนคุณตาได้แต่ส่ายหน้า แล้วบอกให้ยายไปหยิบเสื้อมาให้สวม เราจึงปิดบ้านไปโรงพยาบาลกันทั้งหมด ผมประคองคุณตาให้เดินลงบันไดไปขึ้นรถไอ้ทองได้แค่นี้ผมก็สบายใจขึ้นมาแล้ว นี่ทั้งหมดเพราะดันมีคนมาทักผมว่าหน้าเหมือนคนอื่นแท้ๆ

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยย
 :dont2:
เราไม่อยากกินมาม่าน้าาาาาาาาาาาาาาาาา
แต่ถ้าจำเป็นขอแค่ชามน้อยๆแบบตักกินทีเดียวหมดนะคะ
อิอิ
 o17

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






premkoe

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป
งานนี้มาม่าบานเต็มท้องแน่ๆ อย่าให้สองคนนี้ โกรธ เกลียดกันเลยนะ สาธุ :call:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3
อัมพวา บ้านเฮา o13

มันต้องมีมาม่าตามาแน่เลย :sad4:

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ away3g

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-1
ใครกันนะ หรือจะเป็นพี่ชายฝาแฝดของกฤษ :z2: :z2:

Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป
รอตอนต่อไปนะคะ   กำลังค้างคา :serius2: :serius2: :serius2:

totoken

  • บุคคลทั่วไป
ขลุกขลิกเข้มข้นงวดขึ้นทุกทีแล้วนะครับ

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
คุณตาคุณยายออกอาการมากมายนิ
โอ๊ย~อยากรู้ ความลับอะไรหนอ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด