ยกที่ 33" พี่ต้ามมมมม ช่วยผมด้วยยยย "
เสียงไอ้เต้โหยหวนมาทางโทรศัพท์
ระหว่างที่ผม กับไอ้หวายแล้วก็ไอ้หนิงกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ในตอนเที่ยงของสามวันถัดมาหลังจากเกิดเหตุการณ์คืนวิปโยค
ซึ่งวันนี้ไอ้ออยกับไอ้ไผ่ก็ยังเคลียร์เรื่องของมันไม่เสร็จเหมือนเคย
ซึ่งผมก็กะไว้แล้วว่า
ไม่เกินเที่ยงวันนี้มันต้องโทรมาแน่นอน
เพราะเมื่อเช้า
ไอ้ปังน้องรหัสสุดเลิฟของผม
มันก็รีบมาอธิบายให้ผมฟัง
มันมันถือว่าไอ้เต้ไม่ให้เกียรติมัน
ทำอะไรไม่นึกถึงใจคนอื่น
มันเลยจะงอนไอ้เต้ไปสักพักใหญ่ ๆ
ให้มันมาง้อซะให้เข็ด
พร้อมกับแผนการยั่วให้มันหึงอีกด้วย
ซึ่งผมเองก็รับฟังด้วยความหวาดผวา
เพราะมันจะเล่นกับใครไม่เล่น
ดันจะมาเล่นกับไอ้เด็กนรกหลานรหัสไอ้โหดซะงั้น
พอมันพูด
ผมก็เลยได้แต่เออออไปกับมัน
เพราะถ้าไปขัดเดี๋ยวจะพาลหาว่าไม่มีใครเข้าข้างอีก
" เออ ไรวะ "
จริง ๆ ผมก็ยังงอนไอ้เต้ไม่หายเหมือนกัน
แหมไอ้เราก็อุตส่าคิดว่าเป็นน้องเป็นนุ่ง
กัยมารวมหัวกันหลอกเราซะงั้น
" โหพี่ อย่าเสียงแข็งแบบนี้สิ แค่คนเดียวผมก็จะไม่ไหวแล้วนะ "
มันพูดมาตามสาย
" เออ รู้จักทนซะมั่ง จะได้รู้ว่าคนอื่นเค้ารู้สึกยังไง ทำอะไรเอาแต่ใจตัวเอง "
" พี่อ่ะ ช่วยผมหน่อนน้าาา ไอ้ปังมันงอนผมใหญ่แล้วเนี่ย ผมจะเข้าใกล้เกินสองเมตรยังไม่ได้เลย ดุชะมัด แล้วยังมีหน้ามาพูดอีกนะ ว่าจะไปมีกิ๊กอีก "
อ้าว
ไอ้ปังไหนบอกว่าจะยั่วให้หึง
เล่นมาบอกกันแบบนี้มันก็ไม่มันส์ดิวะ โธ่ ( สรุปแล้วผมเอาไงเนี่ย )
หน่อมแน๊มไปป่าวเนี่ย
" เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เองดิ "
" ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วเนี่ย ไปหาพี่แชมป์ก็บอกว่าไห้ใช้แผนเดิม ผมเลยโทรมาปรึกษาพี่นี่แหละ "
" นี่ อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะ แหม แนะนำกันแต่ละเรื่อง ดี ๆ ทั้งนั้น สมองมันไหลไปรวมกันที่ไอ้นั่นหมดรึไงวะ "
" พี่แชมป์ พี่ตั้มด่าพี่ว่าใช่แต่ไอ้นั่นคิด ไม่ใช้สมอง "
ผมได้ยินเสียงไอ้เต้มันพูดกับไอ้โหด
ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันอยู่ด้วยกันตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่ รู้อย่างเดียว
งานนนี้มีแต่ ซวย ๆ ๆ
" ไอ้เต้ ไอ้น้องเวร ได้พี่ใหม่แล้วลืมเก่าเลยนะ เด็กนิเทศเนี่ยไม่ได้แอ้มง่าย ๆ นะจะบอกให้ "
" ใครอยากได้มึงเป็นพี่ เสียศักดิ์ศรีเด็กถาปัดหมด แล้วมึงบอกว่าแมไม่ง่ายใช่ไหม แต่กูก็ได้แมมานานแล้วล่ะโว้ยย"
ไอ้โหดมันตอบกลับมา
สงสัยมันคงเสียหน้าที่เพื่อน ๆ มันได้ยินคำที่ผมด่ามันแน่นอน
เพราะหลังจากที่ไอ้เต้บอกไป ผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาตามสาย
ซึ่งคงจะเป็นพี่แบงค์ กับพี่ชายแน่นอน
" เด็กถาปัดมันมีศักดิ์ศรีมากรึไงวะ ทำไมตั้มจะบอกไม่ได้ ไอ้เต้มันก็น้องตั้มเหมือนกัน "
" แต่ตอนนี้มันเป็นหลานรหัสกู "
มันตะโกนเข้าหูผมเต็ม ๆ
" ทำไมต้องเสียงดังด้วย เรื่องแค่นี้เอง "
ผมเริมอ่อนให้มัน
เพราะไม่อยากทะเลาะกันด้วยเรื่องงี่เง่า
เพราะที่ผ่านมาก็มีแอบ ๆกัดๆกันบ้างเรื่องคณะของตัวเอง
ที่ไม่ค่อยจะถูกกันเท่าไหร่
ผมเองก็ไม่ค่อยสนใจมากนัก
จะกัดกันก็เรื่องของคนบางกลุ่ม
ไม่เห็นจำเป็นต้องเอาคณะไปเกี่ยวเลย
แต่ไอ้โหดมันไม่คิดแบบนั้นสิครับ
คณะมันน่ะศักดิ์ศรีเยอะเกิน
ก็มันเป็นว้ากเกอร์คณะนี่ครับ
แล้วเมื่อคืนผมก็เพิ่งทะเลาะกับมันไปหยก ๆ
แล้วเมื่อเช้าต้างคนก็ต่างไม่คุยกัน
บรรยากาศเลยอึน ๆ
" เออ รู้จักซะบ้างว่าใครเป็นใคร "
มันยังไม่เลิกอีกครับ
มันต้องอารมณ์เสียมาก่อนแน่ ๆ ถึงได้พาลแบบนี้
" พี่แชมป์ อย่ามางี่เง่านะ ไปอารมณ์เสียกับคนอื่นมาแล้วอย่ามาลงที่ตั้ม ตั้มไม่ใช่กระโถน "
ในเมื่อมันยังไม่เลิกผมก็เลยต้องเอาคืนมั่งครับ
" ใครบอกให้คณะมึงมางี่เง่ากับคณะกูก่อนวะ แม่ง ไม่เล่นตามกติกา ชอบปล่อยข่าวมั่ว ๆ "
" แล้วมันเกี่ยวอะไรกับตั้มล่ะ "
" ก็มึงเป็นเด็กนิเทศ "
" เออ เด็กนิเทศแล้วไงวะ "
" แล้วไง ไม่แล้วไงเดี๋ยวเย็นนี้ก็รู้ มึงมาดุกับตาแล้วกัน แล้วมึงจะรู้ว่าเมื่อนิเทศ กับถาปัดชนกัน แล้วใครจะเดี้ยง "
" เออ ไปดูแน่ "
ผมพูดเสร็จก็ตัดสายไป
ไอ้หวายกับไอ้หนิงที่นั่งข้าง ๆ มันคงสงสัยแน่นอนครับ
ว่าเกิดอะไรขึ้น
เพราะแรก ๆ ก็ดูเหมือนคุยดี ๆ
แต่หลัง ๆ กลับตะโกนด่ากันซะจนโต๊ะข้าง ๆ เนี่ยคงได้ยินชัดเหมือนอยู่ร่วมเหตุการณ์กับผมแน่ ๆ
" เป็นไรวะ คุยกับผู้ชาย แต่ไหงหน้าบูดเป็นตูดลิงแบบนั้นวะ "
ไอ้หนิงมันแซว
" ผู้ชายงี่เง่าน่ะสิ แม่ง แยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องคณะไม่ออก เซ็งว่ะ "
" พี่แชมป์ล่ะสิ "
ไอ้หวายมันพูดอย่างรู้ดี
" เออ จะมีใครที่ไหนล่ะ นี่ถ้ามันเอาตัวกูไปสังเวยศักดิ์ศรีคณะมันได้ มันคงทำไปแล้วแหละ เรื่องไม่เป็นเรื่อง "
" มึงไม่พูดกับเค้าดี ๆ ล่ะวะ มีไรก็บอกกันตรง ๆ "
ไอ้หนิงมันให้คำแนะนำ
" กูไม่ผิด มันผิด มันต้องเป็นคนพูด "
พอผมพูดจบไอ้หนิงกับไอ้หวายมันก็ส่ายหน้าพร้อม ๆ กัน
" เดี๋ยวเหอะ กูจะหาผัวใหม่แม่งให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แล้วมึงจะได้รู้ว่าใครเป็นใคร "
" อย่าน้าาาา "
ไอ้หวายกับไอ้หนิงมันตะโกนขึ้นพร้อมกัน
เรียกสายตานับสิบคู่ของคนที่อยู่ในร้านให้หันมามองที่โต๊ะของพวกผมเป็นจุดเดียว
แล้วผมก็นึกอะไรบางอย่างออก
แทนที่ผมจะไปดูการชนกันเฉย ๆ
ผมก็เข้าไปร่วมกบัเค้าเลยแล้วกัน
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว
คราวนี้มึงเสร็จกูแน่ ไอ้โหดดดด
" หนิง วันนี้กูจะไปขอเค้าลงลาน กูจะไปชนกับถาปัดด้วย "
ผมบอกพวกมันสองคน
ซึ่งมันก็เหวอไปอีกครั้ง
" กูไม่ได้พูดเล่นนะ เดี๋ยวกูจะไปหาไปมิ้น ( ประธานกรรมการคณะ ) มึงไปด้วยไหม "
" ไม่ดีกว่า กูขอไปดูอย่างเดียวแล้วกัน "
ไอ้หนิงตอบกลับมาเสียงอ่อย ๆ
" เออ อย่าลืมไปดูนะมึง เดี๋วกูไปชวนไอ้ปังก่อน ไปล่ะ "
แล้วผมก็เดินออกไปจากร้าน
เพื่อไปลากไป้ปังมาลงลานด้วยกัน
จริง ๆ แล้วเด็กปีหนึ่งก็จำเป็นต้องลงลานอยู่แล้ว
แต่น้องรหัสผมมันเป็นพวกชอบโดด
เหมือนพี่รหัสมัน
ช่วงหลัง ๆ หลังจากที่มันได้เพลง ได้ท่าเต้นแล้ว
มันก็เลยเลิกลงลานไปเลย
พอผมเข้าไปชวนมัน
พร้อมด้วยเหตุจูงใจที่สำคัญ
มันก็รีบตกลงทันที
อย่างงี้แหละครับ
พวกผมมันพวกมีไฟ(แค้น)สุมอก
พอผมคุยกับไอ้ปังเรียบร้อย
ตัวผมเองก็ต้องเข้าไปหาไอ้มิ้น เพื่อทำตัวแอ๊บแบ๊วเป็นน้องปีหนึ่งสักวัน
สาเหตุที่ผมไม่ไปเป็นพี่คุมน้องน่ะหรอครับ
ก็เพราะพี่คุมที่เรียกว่าพี่โซนนั้นจะต้องมีการซ้อม และมีหน้าที่ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว
ผมก็ไม่อยากเข้าไปวุ่นวาย
ซึ่งพอผมบอกไอ้มิ้นที่พอจะสนิทกับมันพอควร
มันก็ตอบตกลง
พร้อมกับบอกผมให้ไปเตรียมชุดซะ
คณะผมหลังจากที่ลงลานได้สองสัปดาห์
ก็จะมีการบอกโจทย์ให้น้อง ๆ รวมทั้งพี่ ๆ แต่งตัวตามโจทย์ไปเรื่อย ๆ
อย่างเช่น แต่งตัวชุดสีดำ( พื้น ๆ ) แต่งผี แต่งชุดนอน ชุดอาบน้ำ ฯลฯ
ซึ่งในครั้งนี้
ชุกที่มันบอกมาเล่นเอาผมอึ้งไปเลยครับ
ก็โจทย์วันนี้มันคือ
ชายแต่งชุดนักเรียนหญิง
หญิงแต่งชุดนักเรียนชายน่ะสิ
ซวย ผมแล้วสิครับ
จะหาชุดมาจากที่ไหน
แล้วใบหน้าของไอ้หนิงก้ลอยเด่นขึ้นมาในห้วงของความคิด
ผมจึงต้องรีบโทรศัพท์ไปหามันทันที
" หนิง โทรกลับด้วย "
หุหุหุ
โทษทีนะเพื่อน
ธุระกู
แต่เงินในโทรศัพท์กูไม่มีว่ะ
ซักพัก
ไอ้หนิงมันก็โทรกลับมา
" อะไรวะ ยิงมาทำไม งกนะมึงน่ะ จะโทรมาดี ๆ ก็ไม่ได้ "
มันด่าผมก่อนเลยครับ
" โทษทีนะมึง เงินโทรศัพท์กูไม่มี เออ กูจะรีบพูดแล้วกัน มึงมีชุดนักเรียนม.ปลายอยู่ไหม ที่ห้องมึงน่ะ "
มันเงียบไปพักนึง
" มี สองชุด "
" เออ ดี เอามาให้กูก่อนสี่โมงทั้งสองชุด แล้วเจอกัน "
" เออ "
แล้วมันก็วางสายไป
เป็นการพูดแบบสั้น ๆ
ได้ใจความ
เพราะว่ามันเป็นมารยาทของการยิง
เหอ ๆ ๆ
ไว้พอเจอกันค่อยตามมาเคลียร์เรื่องอื่นทีหลัง
พอวางสายจากไป้หนิงปุ๊บ
ผมก็ยิงหาไอ้น้องรหัส
ให้มันโทรกลับ
แล้วรีบบอกธุระ
พร้อมกับนัดแนะกันเรียบร้อย
ก็นัดเจอกันที่หน้าห้องสาขาก่อนสี่โมง
เพื่อมาเปลี่ยนชุด
.....................................
.....................................
" อ่ะ เอาไป โจทย์วันนี้แต่งแบบนี้สินะ "
ไอ้หนิงมันพูด พร้หมกับยื่นชุดนักเรียนม.ปลายให้ผมกับไอ้ปังคนละชุด
ซึ่งดูจากขนาดแล้วผมกับไอ้ปังใส่ได้พอดี
เพราะหุ่นก็เกือบ ๆ เท่ากันอยู่แล้ว
กระโปรงอาจจะสั้นเลยเข่าไปนิดหน่อย
อวดเรียวขาสวยของทั้งสองคนคงไม่เป็นไร ( แหวะ )
" เออสิวะ "
" ฮ่า ๆ ๆ วันอื่นมีให้ลงไม่ลง เสือกมาลงวันนี้ โอ้ มันช่างน่าดูเหลือเกิน "
" มึงจะขำอะไรวะ คนอื่น ๆ เค้าก็ใส่กัน "
ผมเริ่มพูดเพื่อระงับความอายและความประหม่าแล้วสิครับ
" มึงคิดหรอว่าวันนี้จะมีคนมาลงลานเยอะ มึงไม่สงสัยหรอ ว่าทำไมนังมิ้นมันถึงได้อนุญาตให้มึงลงลานง่าย ๆ ถ้ามันไม่เล็งเห็นแล้วว่ามึงมีประโยชน์ "
ไอ้หนิงมันพูดพร้อมกับหัวเราะอีกครั้ง
ซึ่งไอ้หวายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็พยายามกลั้นยิ้มอย่างเต็มที่
" เออ คนน้อยก็ไม่เป็นไรนี่หว่า ยังไงพวกกูก็สู้ไม่ถอย เพื่อศักดิ์ศรีของชาวเรา ใช่ไหมปัง "
ผมหันไปขอเสียงสนับสนุนจากผู้ร่วมอุดมการณ์ในทันที
" ใช่ครับ ยังไงพวกผมก็ต้องสู้ "
" เออ ดีแล้วแหละที่พวกมึงมั่นใจ เต็มที่นะมึง เดี๋ยวกูไปรอที่ลาน "
มันพูดแล้วเดินจากไป
ผมกับไอ้ปังเลยเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำทันที
พอผมสวมชุดออกมาแล้วก็รู้สึกแปลก ๆ
มันเย็น ๆ ที่หว่างขายังไงไม่รู้
" พี่ตั้ม ผมลืมใส่บ็อกเซอร์มา ทำไงดี "
เฮ้ย เชี่ยแล้วไหมล่ะ
ว่าแล้วว่าลืมอะไร
ลืมใสบ็อกเซอร์มา
เพราะเมื่อคืนฝนตก
มันเลยไม่แห้ง
เอาไงดีวะ
" พี่ก็ลืมเหมือนกัน "
ผมตอบกลับไปเบา ๆ พร้อมกับไอ้ปังมันเดินออกมาจากห้องน้ำ
โอ้โห
น่ารักว่ะ ถ้าผมเป็นพวกผู้ชายต้องเข้ามาจีบมันแน่ ๆ
หน้าตาไอ้ปังมันน่ารักเหมือนพวกเด็กญี่ปุ่นเลย
ปมมันที่ซอยสั้นก็ไม่สั้นมากเท่าไหร่
ตรงปลายก็ประมาณต้นคอหน่อย ๆ
" โห พี่ตั้ม ผมนึกว่าผู้หญิงที่ไหนซะอีก ดูดิ มีใส่เสื้อทับด้วย "
มันหมายถึงเสื้อกล้ามตัวเล้กที่ผมใส่ไว้ข้างใน
" บ้าหรอ นี่มันเสื้อกล้ามโว้ย ไม่ใช่เสื้อทับ "
ผมว่ามันพร้อมกับหันหน้าไปส่องกระจก
มันก็ยิ้มแห้ง ๆส่งมาให้

" แล้วเราจะเอาไงเรื่องบ๊อกเซอร์เนี่ย "
ผมหันมาปรึกษากับมัน
" ก็คงปล่อยไปแบบนี้แหละพี่ เต้นระวัง ๆ หน่อยแล้วกัน เพราะกลับไปเอาตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว เสียงกลองดังแล้วเนี่ย โทษทีนะพี่ "
มันพูดจบก็เดินมาจับผมของผมที่ตอนนี้มันยาวเลยไหล่ไปพอควร
มามัดรวบขึ้นพร้อมกับปล่อยข้างหน้าลงคล้าย ๆ กับเด็กผู้หญิงม.ปลายทำกัน
" เฮ้ย ไม่เอานะ ปล่อยไว้แบบนี้แหละดีแล้ว "
ผมพูดพร้อมกับเบ่ยงตัวหนี
" มัดเหอะพี่ จะได้เต้นสะดวก ถ้าพี่ไม่มัดผมไม่ไปด้วยนะ "
อ้าว ไอ้น้องนี่ก็แอบเวรแระ
" เออ เอาไงก็เอาวะ "
พอผมพูดจบมันก็จัดการมัดให้ผมเสร็จสรรพ
แล้วเราก็เดินออกไปรวมตัวกับคนอื่น ๆที่ลาน
พอไปถึงลาน
ก็เหมือนกับที่ไอ้หนิงว่าไว้จริง ๆ ครับ
คนที่เคยลงลานปกติมีประมาณ ร้อยคน
แต่ตอนนี้เหลือประมาณครึ่งเดียวเท่านั้นเอง
ซึ่งพอพวกผมนั่งลงแล้
พวกพี่ ๆ ( เพื่อน ๆผม ) ก็เข้ามาแต่งหน้าแต่งตาพอเป็นพิธี
แล้วก็ลุกขึ้นเต้นเพลงที่ซ้อมไว้ประมาณสองสามรอบเพื่อเป็นการอุ่นเครื่อง
ผมเองก็รู้สึกมันจริง ๆ ครับ
ทั้งเต้นทั้งร้องไม่หยุดเลยทีเดียว
แต่นี่มันเป็นแค่เศษเสี้ยวเดียวของพลังที่ผมมีอยู่
เพราะที่เหลือ
ผมกะจะเอาไปปล่อยที่ใต้ตึกสถาปัตย์
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
เดี๋ยวหลังเรียนเสร็จเอามาลงอีกตอนนะครับ
แล้วคงจะหายไปพอควร
คงจะเจอกันอีกอาทิตย์หน้า
เพราะผมต้องเอาคอมที่ห้องไปซ่อม
แล้วก็จะกลับไปเกณฑ์ทหาร
วู้วววววววว