ตอนที่ 16คอสยืนมองตั้งหนังสือโคลงกลอนรักหวานแหวว 10 เล่มที่หน้าเคาน์เตอร์ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“ของขวัญวันเกิดให้แฟน”
บาลีส่งเสียงอือตอบรับ ขณะที่คุณลูกค้านักเรียนมัธยมฯ ส่งนิตยสารเล่มใหม่ให้บาลีคิดราคาแล้วช่วยคอสตั้งข้อสังเกตหนังสือหน้าปกสีฟ้าหม่น
“เล่มนี้มันอกหักนะพี่ จะให้เป็นของขวัญเหรอ”
“เออ จริงด้วย แน่ใจเหรอพี่” คำเรียกพี่ของคอสมันค่อนไปทางเพ่ มากกว่าพี่
“คุณก้องเกียรติเขาก็ไม่รู้หรอกว่าเล่มไหนมันยังไง เขาหยิบ ๆ มา”
“หนูช่วยเลือกให้เอาไหม” นักเรียนสาวอาสา
“ขอบคุณมาก” บาลีส่งยิ้มให้กับลูกค้า คอสเดินตามไปช่วยเลือก แล้วหยิบกลับมา 5 เล่มเพื่อเปลี่ยนบรรดาเล่มอกหักรักคุดทั้งหลายที่ก้องเกียรติเลือกไว้
ก่อนจะออกจากร้านนักเรียนสาวหันมาถามคอส “วันนี้พี่ไม่ขายสร้อยเหรอ”
“ไม่อะ สอบ อาทิตย์หน้าสอบเสร็จมาดูสิ”
นักเรียนสาวยิ้มกว้างรับทราบแล้วออกไปจากร้าน คอสก็หันมาพลิกดูหนังสือ
“คนรวยนี่เขาไม่ซื้อของแพง ๆ ให้กันแล้วเหรอพวกกุชชี่ หลุยส์ บีเอ็มสักคัน เรือยอร์ชสักลำงี้อะ”
บาลีแค่ยกยิ้มที่มุมปาก
หนุ่มนักศึกษาเอียงหน้าเอียงคอมองหนังสือคิ้วขมวดแน่น
“แฟนเค้าอายุเท่าไหร่”
“ไม่รู้”
“งั้นทำงานหรือยัง”
“ไม่รู้”
“ไรวะ แล้วผมจะออกแบบแพ็กเกจได้ไงอะ”
คอสทำปากยื่นแก้มพองบ่นไปเรื่อย โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า เป็นหนึ่งกำลังยิ้มกว้างพยักหน้าเป็นกองเชียร์อยู่ใกล้ ๆ ส่วนปู่ไป ๆ มา ๆ ก็ได้แต่ส่ายหน้า
“...จะว่าไปไอ้หมอนี่มันก็ดีเหมือนกันนะ เถียงแกไม่มีตกฟาก...”
"คุณก้องเขาใส่เงินไว้ให้ซื้อของกับเป็นค่าขนมด้วย" บาลีชี้ไปที่หนังสือเล่มบาง
คอสเปิดหนังสือพอเห็นแบงค์พันก็ทำตาโต "โห คนแถวนี้นี่เขาใช้แบงค์ยี่สิบ แบงค์ร้อยไม่เป็นกันรึไงวะเนี่ย"
"รีบไปซื้อของก่อนที่ร้านเครื่องเขียนเขาจะปิด"
บาลีเตือนแต่คอสยังลังเล "ผมเคยเห็นคุณก้องวันที่เขามารับหนังสือ แต่ไม่รู้จักแฟนเขา"
หนุ่มนักศึกษาเหลียวมองซ้ายขวา แล้วเดินหน้ามุ่ย ออกไปจากร้าน
บาลีหันมาหาเป็นหนึ่ง "ตอนเรียนเคยคุยกันหรือเปล่า"
คำตอบคือท่าทีนิ่งคิดของร่างโปร่งใส
"จำไม่ได้หรือ"
เป็นหนึ่งส่งสายตาเสียใจ แล้วส่ายหน้า
"ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ พี่เห็นว่าเป็นหนึ่งชอบเชียร์คอส ก็เลยคิดว่าอาจจะเคยคุยกันหรือคุ้นเคย"
“...ระแวงว่าเขาเคยกิ๊กกันล่ะสิ...”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก ก็คอสชอบก้อย แต่ก้อยชอบเป็นหนึ่ง เป็นหนึ่งก็น่าจะรู้จักคอส”
เป็นหนึ่งขมวดคิ้ว พยายามคิดตามที่บาลีพูด แล้วกลายเป็นสับสน หวาดกลัว บาลีรีบยกมือจะกอดปลอบ แต่พบกับความว่างเปล่า ปู่ต้องลุกจากเก้าอี้ตัวโปรดมาช่วย
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร นึกไม่ออกก็ช่างมันเถอะ"
"...มันคงไม่น่าจำสักเท่าไหร่ ลืมมันได้ก็ลืมไปเถอะ...."
คอสกลับเข้ามาใหม่ พร้อมกับกล่องกระดาษ กระดาษสาหลากสี โบ และดอกไม้ประดิษฐ์ วางที่โต๊ะตัวเล็กแล้วก้มหน้าก้มตาทำงาน
บาลีมองเพลิน เป็นความเพลิดเพลินที่กลายเป็นความเคยชินที่ได้เห็นหนุ่มคนนี้ก้มหน้าก้มตาทำงานไปเรื่อย ๆ
พอหันไปมองข้าง ๆ เมื่อไหร่ก็จะเห็นเป็นหนึ่งมองตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม บรรยากาศเรื่อย ๆ เย็น ๆ ก็จะเกิดขึ้นเอง จนไม่อยากเชื่อเลยว่า นี่คือวันที่พบกับคนอย่างประกายและพัฒนะ
ไม่ถึง 10 นาทีกล่องของขวัญสวยงามเกินกว่าที่จะแกะออกก็เสร็จสิ้น
"แต่น แต๊น สวยงามมั้ยครับเจ้านาย~~~"
ปู่ถึงกับเดินเข้าไปชื่นชม "...ไอ้หมอนี่มันศิลป์มากกว่าศาสตร์ว่ะ เหมือนมันไม่ได้ตั้งใจหยิบนั่นจับนี่แต่ออกมาสวยทุกที..."
บาลีพยักหน้าให้กับคำถามของคอส และคำชมของปู่
คอสยิ้มกว้าง หยิบเงินทอนเอามาวางบนเคาน์เตอร์ "อะ ตังค์ทอน"
บาลีแค่มองเงิน “คุณก้องให้เป็นค่าขนมไง”
"พี่ เป็นไรปะ"
"เป็นอะไร"
"ก็ตอนที่ผมมาน่ะ หน้าพี่ไร้วิญญาณยิ่งกว่าผมที่ออกจากห้องสอบซะอีกน่ะสิ" คอสบอกแล้วเอียงหน้ามอง "แต่ตอนนี้เริ่มมีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตละ"
บาลีหัวเราะเหมือนพ่นลมออกทางจมูก เพราะขำทั้งภาษาไทยกร่อน ๆ และสีหน้าท่าทางของคนพูด ทำให้โดนคอสย่นจมูกใส่
"อารมณ์ดี ผมก็กลับละนะ พรุ่งนี้มีสอบบ่ายอีกวัน"
บาลีพยักหน้าขรึม ๆ เมื่อคอสโบกมือแล้วเดินออกไปจากร้านหนังสือ แต่ยังมีบางอย่างรบกวนจิตใจจนคอสต้องหันกลับมามองซ้ำ
อะไรบางอย่างที่มันไม่เหมือนเดิม ร้านนั้น คนในร้านนั้น หรือเพราะใจที่มันไม่เหมือนเดิม
คอสกลับมาถึงห้องพัก อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่เสื้อยืดสีเข้ม กับกางเกงยีน แล้วคว้าหนังสือเรียน พับเครื่องแบบใส่กระเป๋าออกมาจากห้องอีกครั้ง เจอกับเป้งที่หน้าหอพัก
"ไปไหนอีกน่ะคอส"
"ไปร้านหนังสือ"
"ค่ำแล้ว แล้วพรุ่งนี้มีสอบยังต้องไปทำงานอีกเหรอวะ"
"เออ" คอสบอกแล้วจะรีบออกมา แต่เป้งเรียกไว้
"กูไปส่ง"
เป้งขี่รถมอเตอร์ไซค์มาส่งคอสถึงหน้าร้านหนังสือ แต่ส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้เด็กนักเรียนที่โรงเรียนกวดวิชา
"วิวดีนี่หว่า ไว้มึงเรียกกูมาส่งได้ทุกเมื่อ"
“สัด ระวังเขาจะมาหาว่ามึงมาค้ายาแถวนี้หรอก”
“ห่าคอส อย่างกูน่ะผลิตใช้เอง ไม่ทำขายโว้ย”
“สัด เล่นมุกเสี่ยงคุกนะมึง”
“ก็ใครเริ่มก่อนละ” เป้งเถียง แต่ยิ้มหวานให้นักเรียนที่เดินผ่าน
คอสหัวเราะร่วน บอกขอบใจแล้วเดินกลับเข้ามาในร้านหนังสือ เจอกับเจ้าของร้านที่ยืนกอดอกมอง
"ลืมอะไร"
"เปล่า"
"แล้วมีอะไร"
"เปล่า" คอสยืนท่าทางยุกยิก
บาลีมองออกไปนอกร้าน หนุ่มมอเตอร์ไซค์ที่มาส่งออกไปแล้ว
...งั้นก็คงแค่มาส่ง...
"คอส"
"ไม่รู้อะพี่ มันเหมือนมีแมงมุมอยู่ข้างใน" คอสชี้ที่อกตัวเอง "กลับไปถึงห้องแล้ว แล้วมันยุบ ๆ ยับ ๆ เหมือนยังมีอะไรที่ยังทำไม่เสร็จ"
บาลีอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเป็นหนึ่งกับปู่ ทั้งคู่พากันส่ายหน้า
"มีอะไรหรือเปล่า"
"ก็บอกอยู่นี่ไงว่าไม่รู้ มันเป็นมาหลายวันละ จนถึงวันนี้ พอพี่โทรศัพท์ไปเรียก ผมก็...ไม่รู้เหมือนกันว่ามันอะไร"
บาลีพยักหน้า แล้วเดินไปปิดเครื่องฟอกอากาศ ปิดร้าน
"เอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องก่อน แล้วไปกินข้าวกัน"
บาลีมองผ่านรอยสักสีจางที่แขนของคอส
"รู้ไหมว่าไอ้ที่สักอยู่น่ะ มีความหมายว่าอะไร"
คอสยกแขนซ้ายขึ้นมองรอยสักแล้วยักไหล่ "ป้องกันสิ่งชั่วร้าย"
บาลีพยักหน้า เดินคู่กันไปร้านอาหารใกล้ๆ
"แต่ไม่เห็นจะจริงเลย สักวันแรกก็เจอเด็กช่างเช็กชื่อละ"
บาลีหยุดเดินหันมามอง "แล้วทำไง"
"ก็บอกว่าไม่ใช่คนที่มันตามหาหรอก ดูไม่ออกหรือไงว่านี่มันไม่ใช่ลายสักแบบคนเล่นของ"
"เพิ่งรู้ว่าพวกนี้มันเปิดโอกาสให้ตอบคำถามด้วย"
บาลีพาเดินต่อมาจนถึงร้านข้าว
"แล้วนึกยังไงถึงได้สักซะครึ่งซีกแบบนี้"
"พี่แม่ง พูดซะเสียราคา" คอสบ่นงึมงัม "ก็ลายเป็นแบบนี้ นั่งดู ๆ แล้วก็เออ อันนี้แหละ"
"แค่นี้"
"แค่นี้แหละ"
"ไม่คิดหรือไงว่าลายนี้มันจะอยู่บนตัวคอสไปตลอด"
คอสส่ายหน้า หันไปสั่งอาหาร
จนเมื่อกลับมาถึงที่พัก คอสก็ถอนหายใจแรงๆ "ผมไร้สาระว่ะ"
"ไม่หรอก มีเรื่องมากมายที่เราหาคำตอบไม่ได้"
"เพราะไม่สบายใจเรื่องอะไรก็ไม่รู้ มันยิ่งน่ารำคาญตัวเอง"
"บอกกับตัวเองไปว่า เดี๋ยวก็รู้"
"เหรอ"
บาลีพยักหน้า "ตามสบาย"
มีโทรศัพท์ดังขึ้น หนุ่มคอสทำหน้าประหลาดใจ
"นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันเลยนะเนี่ยที่ผมได้ยินเสียงโทรศัพท์ของพี่"
แซวแล้วก็เดินไปหยุดมองหนังสือที่บาลีเก็บสะสมไว้ในตู้ ก็ตู้กระจกแบบที่เปิด 2 บานธรรมดาไม่มีกุญแจ กระจกชัดแจ๋วมองเห็นเงาของบาลีที่กำลังคุยโทรศัพท์กับเพื่อน
...เป็นเหมือนกันไหม เวลานึกไม่ออกว่าเราลืมอะไรแล้วมันพาลให้รำคาญตัวเอง...
บาลีฟังปลายสายพูดแล้ว หันมาถามคอส
"พี่จะออกไปหาเพื่อน ไปด้วยกันไหม"
"จะกลับมาดึกปะ"
"ไม่หรอก เพราะพี่ก็ต้องตื่นไปส่งหนังสือแต่เช้ามืด"
"งั้นไป"
กลุ่มเพื่อนของบาลีนัดพบกันที่ร้านเหล้าชานเมือง แล้วก็นั่งกันอยู่ที่โต๊ะนอกร้าน ไม่ได้เข้าไปแออัด ฟังเพลงอบกลิ่นบุหรี่อยู่ในร้าน
ชายหนุ่มผมหยิกเป็นลอน โบกมือเรียกบาลีแต่ไกล
“นั่นฟอง แฟนแตงโม ส่วนอีกคนคือเท่ห์ เมียมันเป็นเพื่อนกับแตงโม ที่ไม่ได้มาเพราะกำลังท้อง ที่เหลือก็มีโอมกับเจ็ต” บาลีแนะนำเพื่อนระหว่างที่เดินมาที่โต๊ะ
“แล้วผู้กอง”
“เดี๋ยวคงตามมาทีหลัง”
“เพื่อนพี่หลากหลายดีเนอะ” คอสสรุปภาพรวมแล้วยกมือไหว้รอบโต๊ะ
“นี่คอส” พอมาถึงโต๊ะบาลีก็แนะนำอีกครั้ง
โอมชายหนุ่มสวมแว่นตากรอบหนาเรียกพนักงานยกเก้าอี้มาเพิ่มแล้วจัดที่นั่งกันใหม่ การสนทนาเริ่มต้นด้วยการถามเรื่องฟองกลับมาจากฝรั่งเศสตั้งแต่เมื่อไหร่ ถัดไปก็คือเรื่องของเท่ห์ว่าที่คุณพ่อและเจ้าบ่าว
คอสจิบเหล้านั่งมองกลุ่มเพื่อนเก่าคุยกัน
กำลังคุยกันอยู่ บาลีก็หันมามองทางด้านหลังคอส
เงาร่างวูบไหวจับภาพไม่ชัดเจนอยู่ใกล้พุ่มไม้ บาลีแค่ลุกขึ้นเดินเข้าไปด้านในร้าน แล้วกลับออกมาพร้อมกับน้ำขวดเสียบหลอดวางไว้ที่โคนต้นไม้ เสร็จแล้วเดินมาดื่มต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บรรดาเพื่อนเก่าของบาลีรอบโต๊ะก็ดื่มกินเป็นปกติ ไม่มีใครทักถามอะไร
แต่คอสเหลียวกลับไปมองซ้ำ บาลีโอบไหล่รั้งให้หันมา คอสก็ยังพยายามจะหันกลับไปมองอีก บาลีต้องกระแอมเตือนแล้วส่ายหน้า
ช่วงเวลาที่เหลือของการนั่งข้างวงเหล้านับจากนี้ ก็คือการที่คอสนั่งตัวแข็ง ได้แต่ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ ฟังทุกคนพูดคุยกันต่อไป
=======จบตอนที่ 16======
1 อย่าเพิ่งเขวี้ยงอะไรมา ตอนนี้แค่ 4 หน้า เหอเหอเหอ ช่างน้อยนิดจริงๆ
2 ขอบคุณจากใจที่ยังคงติดตามเรื่องของนายรักอ่านมาจนถึงตอนนี้ และยินดีอย่างยิ่งที่มีผู้อ่านใหม่ๆ เริ่มต้นรีแรกที่นี่ ยิ่งคุณที่งานเยอะเรียนหนัก ต้องอ่านรวบแล้วรีให้เรา ขอขอบคุณเป็นที่สุด
ขอบคุณๆๆๆ 
3 อากาศมัวซัว อย่าปล่อยให้หัวใจมัวหม่น อย่างน้อยอากาศมัวๆแบบนี้เราก็ไม่ต้องเจอแดดแรงใช่ไหม
4 พบกันครั้งต่อไปวัน อาทิตย์นะครับ
ขอบคุณครับ
ไจฟ์