“ไอ้ตี๋ เป็นไรวะ”
“ห้ะอี่ อะไรเอ็นอะไร?”
“ทำไมเลอะสีไปทั้งตัวแบบนั้น พูดจาก็ไม่รู้เรื่อง อ้าวเชี่ย ปากแตกเลือดกลบเลย แล้วหน้าไปฟัดกับหมาที่ไหนมาวะ” พี่แบงค์รีบเดินเข้ามา เห็นมันเหวี่ยงแปรงสีลงถังไปเลย “ไอ้เจล ไปเอากล่องยามาหน่อยดิ อยู่ในสโมสร ตกตู้เก็บของหน่ะ”
“ไอ้ตี๋ ใครทำอะไรมึง”
“แหะๆ”
“ไม่ต้องมายิ้ม บอกกูมา ใครทำมึง”
พี่แบงค์พูดเสียงเข้ม ผมเห็นไอ้พี่ฟินกำลังเดินเข้ามา ขมวดคิ้วไม่ต่างกับปู่รหัสเลย หลายๆคนเริ่มเห็นเลยเดินเข้ามารุมกันใหญ่ รู้สึกเหมือนเป็นดาราดังก็คราวนี้นี่แหละ
“เอ็บอากหว่ะอี้”
“อะไรของมึง เจ็บดาก?”
“อากโว้ย”
ชี้ปากตัวเอง มันเลยพยักหน้า รอไม่นานกล่องยาก็มา ไอ้พวกพี่ผู้ชายไม่ชำนาญงานพยาบาลเลยเอาไอ้ฟ้ามาทำแทน ไม่เห็นจะต่างกันตรงไหนเลย “โอ้ย เอาหน่อย”
“เอาไรของมึงไอ้ตี๋ จะกินน้ำหรอ”
เหนื่อยใจไทยแลนด์เวิลด์
ส่ายหัว ไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น เจ็บปากสุดๆเลยครับ ตอนนี้เลยพูดไม่รู้เรื่องเลย ไอ้ฟ้าปิดพลาสเตอร์ให้ผมหลายแผ่น ไม่เห็นรู้เลยว่าโดนข่วนด้วย นึกว่าโดนตบอย่างเดียวซะอีก
“แก้มแดงอมสีเลือดแบบนี้สาวๆคงอิจฉา” ไอ้พี่ฟิน อย่าย้ำได้แผลในใจดิวะ “ใครทำไรมึงไอ้ตี๋ บอกกูมา” ไอ้พี่แบงค์นั่งประกบ ตอนนี้โดนทั้งสายรุมเลย ไอ้ปิ๊กก็ขมวดคิ้วนั่งมอง
ได้แต่ยิ้มแหยๆ “อ๋มไอกวนเขาเองอ้ะ”
ถ้ามันมีถ้วยพระเอกใจบุญยอดเยี่ยมยกให้ผมเลยนะครับ อยู่ดีๆก็ใจอ่อน ทำไมถึงรู้สึกสงสารพวกเธอก็ไม่รู้ หน้าสวยๆที่เปื้อนมาสคาร่าเป็นแถบนั้นยังติดตาผมอยู่เลย ถ้ามีแฟนจะไม่ยอมให้แฟนปัดขนตาแบบนี้เด็ดขาด สยดสยอง
“เออ เอ้าเข้าไปหลานกู ใจมึงหล่อมากกก แต่ช่วยพักความหล่อใจดีไว้เหอะ ยุคนี้เขาชอบโหดๆตบจูบๆ มึงทำตัวพระเอกอย่างนี้ถึงไม่มีใครเอาไง”
“อะไร ไอ้พี่ขนไม่รู้ มีคนเอามันนะเว้ย เอาหลายรอบด้วย” ไอ้พี่ฟิน หุบปากไปเลย พูดอะไรหมิ่นเหม่แถวขอบกางเกงขนาดนั้นวะ ผมส่งสายตาเขม่นยิกๆไปให้มัน
แอบเห็นว่าไอ้ปิ๊กมันหนีสายตาผมไปทางอื่น รีบๆทำใจให้ได้เลยเถอะไอ้ปิ๊ก กูนึกว่าแผลใจมึงปิดสนิทไปแล้วนะเนี่ย
“ไอ้ตี๋ มึงเตรียมตัวตายได้เลย ถ้าไอ้หมอกมาเห็น ยิ่งกว่านิวเคลียร์ลงฮิโรชิม่าอีก”
เออหว่ะ ลืมคิดไปเลย
“ไอ้คนที่ทำมึงคงไม่ต้องไปผุดไปเกิด เป็นสัมภเวสีอยู่ที่โลกนี้ไปจนถึงกาลดับสูญ”
เห็นพี่แบงค์กวักมือเรียกพี่ฟิน “ไอ้หมอกนี่ใครวะ ชื่อคุ้นๆ”
“เอ้า ไอ้ลูกบ้านติวากุลที่ทำฮาร์ดแวร์คอมขายไง รวยล้นฟ้า ชอบทำหน้าตูดไม่รับแขก” ฟังไอ้พี่ฟินบรรยายไอ้พี่หมอกแล้วขำหว่ะ กร๊ากกกก “พูดแต่ละทียังกะตดออกมา ฟังไม่รื่นหูเล้ยยย”
ถ้าไอ้พี่หมอกได้ยินเตรียมตัวเตรียมใจเป็นฟิชโช่เลยไอ้พี่ฟิน เขาสับมึงเละแหง
“เดี๋ยวตอนเย็นมึงก็ต้องไปหามัน เตรียมตัวโดน….” ไอ้พี่ฟินแม่งทำท่าปาดคอลิ้นห้อยใส่ ขวัญร่วงไปตาตุ่มเลยกู “มึง-ตาย-แน่”
แล้วทำไมกูตายแน่หว่ะ กูเป็นเหยื่อไม่ใช่หรอ!! กูผิดตรงไหนวะเนี่ย!!
“สู้ๆเว้ยหลานรัก”
“โชคดีนะพี่”
“ไอ้ตี๋ ชาติหน้าเจอกัน”
พี่แหละที่อย่ามาเจอกับผมอีกเลย!!!!!
……………………………………
………………………….
“เอากระเป๋าบังหน้าทำไม”
“อ๋อ ไอ๋อี๋อะไร”
“พูดอะไรของมึง กูฟังไม่รู้เรื่อง”
เฮ้ย อย่าดึงกระเป๋าสิวะ “อื้ออออ” ฉุดกันสุดแรงเกิด มือไอ้พี่หมอกจับเข้าที่แขนผมนี่เปียกเหงื่อไปหมด เดินมาไกลๆก็เห็นอยู่แล้วว่ามันซ้อมจนเหงื่อท่วม แต่ไม่คิดว่าขนาดนี้
อุตส่าห์มาตอนเย็นๆมืดๆ จะได้เห็นไม่ชัด เวรกรรม วันนี้ใครเอาสปอรต์ไลท์มาลองแสงวันนี้วะ สว่างโร่ทั้งสนาม เปิดไฟเจ็ดสีให้กูดูอีก
“อี๋ไอซ้อดิ”
“มึงติดภาษากะเหรี่ยงมาหรือไง เอากระเป๋าออกมา”
“…..”
“หนึ่ง”
เอาไงดีวะ ถ้ามันเห็นมันจะว่ายังไงวะเนี่ย
“สาม”
เห้ย สองไปไหน!!
มันกระชากตัวผมไปข้างหลัง อีกมือก็ดึงกระเป๋าผมออก เจ็บครับ มันบีบลงบนแผลที่แม่ประคุณรุนช่องคนนั้นทุบมาเต็มแรง เขียวเลย อย่าคิดนะครับสาวๆว่าแรงพวกคุณน้อย ช้ำไปหลายวันเหมือนกัน
“…….”
ผมเห็นมันมองตาโตเลย แล้วก็ขมวดคิ้ว แต่คราวนี้มันต่างกัน
มันขมวดคิ้วเหมือนเป็นตัวมัน..ที่เจ็บซะเอง
“ไปทำอะไรมา”
“….”
ก้มหน้า ไม่อยากเห็นหน้ามันตอนนี้เลย ผมจำได้ที่มันเคยพูดไว้ ว่าให้ผมลองนึกถึงความรู้สึกของมัน ตอนที่รู้ ว่าผมต้องเจ็บเพราะมัน
เห็นแสงสีเขียวกับสีน้ำเงินตัดผ่านพื้นหญ้าที่เหยียบอยู่ไป ตอนนี้ไฟหลายๆสีเปิดวนมั่วกันไปหมด พี่เอ็มตะโกนเรียกพี่หมอกจากด้านหลังให้ลงไปซ้อมต่อ แต่พี่หมอกไม่สน
“กูถามว่าไปทำอะไรมา”
เม้มปากแล้วเผลอสะดุ้ง ลืมไปว่าเจ็บปากอยู่ ที่ไหล่ก็อยากให้พี่เขาลดแรงบีบลงหน่อย ผมเจ็บ แต่ไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนก่อนดี
“มึงเจ็บตัวเพราะกูหรือเปล่า?”ผมรีบส่ายหัว เห็นตามันตอนนี้แล้วก็พูดบรรยายไม่ออก เป็นสายตาที่ผมเห็นแล้วอยากจะเข้าไปกอดมัน แต่ทำไม่ได้ เพราะตอนนี้เราไม่ได้อยู่กันสองคน
เป็นความสัมพันธ์ที่บางครั้งผมก็อึดอัด หลายๆครั้งทำอะไรก็ต้องมองสายตาคนรอบๆ เหมือนใช้ชีวิตอยู่ใต้ความคิดของผู้คนเหล่านั้น
มือข้างหนึ่ง ดันหน้าผมขึ้น แล้วย้ายมาประครองแก้มผมไว้ เผลอเอียงหน้าเข้าหามือนั้นอย่างเคยชิน ลูบนิ้วเบาๆไปกับแผล บางที่บวมจนเห็นชัด ก็แหงหล่ะ ฟาดมาซะเต็มแรง บางที่ก็เขียวๆ ให้ไอ้พี่แบงค์แซวว่าตะไคร่ขึ้นหน้า
พี่หมอกหยาบกระด้าง แต่พอเวลาอ่อนโยนด้วยก็ดีจนใจหาย
ผมไม่เจ็บแล้ว
พี่อย่าทำหน้าแบบนั้นเลยนะ
แต่ตอนนี้เหมือนเสียงทุกอย่างหายไปหมด พูดอะไรออกมาไม่ได้สักคำ
“…เพราะกูไม่ได้อยู่ข้างๆมึง เพราะแบบนั้นหรือเปล่า?”
ผมส่ายหัวอีก นิ้วโป้งมันเลื่อนมาถึงริมฝีปากผม ผมร้องซี้ด สายตาที่พี่หมอกมองมา วูบหนึ่งผมเห็นความโมโหที่ควบคุมไม่ได้อยู่ในนั้น แต่ก็เพียงแค่ครู่เดียว ตอนนี้พี่หมอกโตขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน อย่างน้อยก็คุมอารมณ์ตัวเองได้ดีขึ้น
ตอนนี้ผมไม่รู้ว่ารอบๆผมเกิดอะไร มีคนมองเราหรือเปล่า ผมไม่รู้ เพราะตอนนี้สายตาผมทั้งหมดถูกพี่หมอกตรึงไว้
มือพี่หมอกยังลูบหน้าผมเบาๆ รู้สึกสบายใจ แผลไม่ได้เจ็บน้อยลง แต่อะไรบางอย่างก็ทำให้คิดว่า ถ้าเป็นแบบนี้อาจจะหายเร็วขึ้นก็ได้
“ทั้งๆที่มึง…เป็นคนทำให้กูจำฝันของกูขึ้นมาได้แล้ว แต่กูกลับทำอะไรให้มึงไม่ได้เลย”ฝัน…อย่างนั้นหรอ?
“ฝันที่แม้แต่ตัวกูเองยังลืมไป…ฝันที่คนอื่นมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่มึงก็ไม่เคยคิดแบบนั้น”
“อันของอี้?”
เห็นพี่ขมวดคิ้วเหมือนฟังไม่ออก แต่สักพักก็ยิ้มจางๆเสียจนผมคิดว่าคนอื่นไม่น่าจะดูออก แต่ผมสัมผัสความรู้สึกของมันได้
“เจ็บมากไหม?”
พอเสียงเบาลงกว่าเดิม เลยรู้สึกว่าระยะห่างระหว่างผมกับมันลดลง
ผมส่ายหน้า ไม่เจ็บ ไม่เจ็บอีกแล้ว
คำพูดของพี่มันทำให้ผมลืมทุกอย่างไปซะหมด
รู้สึกได้เพียงแต่พี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม กับเสียงหัวใจของตัวเองเท่านั้น…
ในช่วงเวลาสั้นๆที่ เร็วเสียจนคนอื่นมองไม่ทัน
พี่หมอกจูบเบาๆลงบนแก้มผมแทนยาแก้ปวดที่กินแล้วไม่หายสักที….
…………………………….
……………………
[Coin 32 : complete]
[18.12.54]
โอเคหมดเรื่องค้างคาใจ ได้เขียนคำที่อยากเขียนออกไปแล้ว

ต่อจากนี้เปิดโอกาสให้กับคนที่ตามอ่านอยู่อย่างทรหด

(คนอื่นๆ :

)
นักเขียนตะลุยสอบหล่ะเด้อ !!!
ปัจฉิมลิขิต
สำหรับโพลล์ พูดได้สามคำว่า "
หมอก-ครอง-โพลล์"
อิดิทๆ ตอนนี้โดนตัดขาดครึ่งกลางตัว คนอ่านเร็วมาก!! 555+