:: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5  (อ่าน 59891 ครั้ง)

ljk_sj_lovelove

  • บุคคลทั่วไป
 :sad4: :m15: :monkeysad: :o12: :serius2:

สงสารต้ามากมายยย....ฮืออออ :z3:

ถ้าอาร์มมันจะมาช้าขนาดดนี้....... :o12:

อ่านแล้วจิตใจห่อเหี่ยว เลิกหวังว่าอาร์มมันจะมาแล้วนะเนี่ย :เฮ้อ:

อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ มาลงเร็วๆนะ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ผมรู้สึกตัวอีกครั้งและรับรู้ว่าตัวเองนอนอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อนสนิททุกคนยืนอยู่รอบเตียง รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ หมอ และพยาบาลอีกจำนวนหนึ่ง

“เฮ้ย ฟื้นแล้วเหรอวะ รู้สึกเป็นยังไงบ้างวะ ไอ้ต้า” ไอ้ด้าเป็นคนแรกที่พุ่งตัวเข้ามาหาผม

ตามร่างกายของผมมีผ้าพันแผล และผ้าก๊อตปิดเอาไว้หลายจุด นอกจากนี้ผมยังคงรู้สึกมึนหัวอยู่มาก ความทรงจำเลวร้ายที่เพิ่งผ่านมา เหตุการณ์ทั้งหมดที่เพิ่งเกิดขึ้นราวกับเป็นเพียงฝันร้ายอันยาวนาน แต่สิ่งที่ช่วยย้ำเตือนว่าเรื่องทั้งหมดคือความจริงก็คือร่องรอยบาดแผล ความเจ็บปวดที่ยังคงอยู่ และใบหน้าเศร้าหมองของไอ้อาร์มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง

“รู้สึกยังไงบ้างครับ ฟื้นเร็วกว่าที่หมอคิดนะเนี่ย ปวดหัวใช่มั้ย เดี๋ยวหมอให้พยาบาลจัดยาเผื่อไว้ให้เลยก็แล้วกันนะ” ผู้ชายในชุดขาวพูดขึ้น “ช่วงนี้จะยังเจ็บแผลหน่อยนะ แต่ตรงที่ร้ายแรงที่สุดหมอเย็บแผลให้แล้ว ยังไงก็อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวร่างกายเยอะก็แล้วกัน จะเข้าห้องน้ำจะอะไรก็ค่อยๆ หรือเรียกพี่พยาบาลเค้ามาช่วยดูแลก็ได้ เข้าใจนะครับ”

ผมพยักหน้าตอบรับไปอย่างงงๆ

“ถ้ายังไงผมว่าให้คนไข้พักผ่อนก่อนดีกว่ามั้ยครับ” หมอหันไปพูดกับตำรวจที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับไอ้เอ

“แล้วเดี๋ยวถ้าเพื่อนผมเค้าพร้อมจะคุย ผมจะติดต่อพี่ๆ ไปเองก็แล้วกัน ได้มั้ยครับ ผมว่าตอนนี้ไอ้ต้ามันคงยัง...” ไอ้เอหันไปพูดกับตำรวจทั้งสองนาย

“ได้ครับ พวกเราเข้าใจ แล้วหลังจากนี้ผมจะให้คนพาผู้ปกครองของน้องเขามาหาที่นี่ก็แล้วกันนะครับ”

“เดี๋ยวครับ” ผมรีบร้องห้ามขึ้นทันที “เรื่องนี้ไม่บอกพ่อกับแม่ของผมไม่ได้เหรอครับ...”

“ไม่ได้หรอกครับ ตอนนี้เพื่อนของน้องเองก็ได้ทำการติดต่อไปยังผู้ปกครองของน้องแล้ว เราอาจจะพอปิดปากนักข่าวได้บ้าง ซึ่งพ่อกับแม่ของเพื่อนเราคนนี้เค้าก็กำลังจัดการให้อยู่...” ตำรวจนายหนึ่งชี้ไปที่ไอ้อาร์ม “แต่ไม่ว่าจะยังไง ผู้ปกครองของน้องก็ต้องรับรู้เรื่องนี้แน่ๆ อยู่แล้วครับ อีกไม่เกินสองชั่วโมง พวกเขาก็น่าจะมาถึงโรงพยาบาลแล้วล่ะ”

“ขอบคุณมากครับ ถ้ายังไงผมรบกวนเรื่องที่เหลือด้วยนะครับ” ไอ้เอตัดความ จากนั้นตำรวจทั้งสองนายรวมทั้งหมอและพยาบาลก็เดินออกจากห้องไป

ห้องทั้งห้องถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบทันที

“กูหิวน้ำ...”

“ได้ๆ ค่อยๆ ดูดนะมึง” ไอ้ด้าจัดแจงช่วยยกหัวของผมขึ้นและช่วยป้อนน้ำให้แก่ผม

“เดี๋ยวกูออกไปโทรหาพ่อแม่ก่อนก็แล้วกัน” ไอ้อาร์มยืนขึ้น

“เออๆ ใช่ๆ งั้นเดี๋ยวกูสองคนออกไปโทรหาพ่อกับแม่ของไอ้ต้าให้ก็แล้วกัน” ไอ้นกพูดขึ้นพร้อมกับสะกิดไอ้ฝนที่นั่งอยู่ข้างๆ

“เออใช่ ลืมสนิทเลยว่ะ ตอนนี้มึงก็พักผ่อนเยอะๆ นะเว้ย ไอ้ต้า เดี๋ยวพวกกูกลับมา”

“มึงจะคุยอะไรกับพ่อแม่กูวะ ไอ้นก” ผมถาม

“ไม่ได้จะคุยอะไรหรอก มึงไม่ต้องห่วง พวกกูเล่าเรื่องคร่าวๆ ให้พวกเค้าฟังแล้ว นี่ตำรวจก็กำลังไปรับเค้ามาจากที่บ้านไง แต่ไอ้นกมันจะโทรไปช่วยปลอบใจและบอกพ่อกับแม่ของมึงไงว่ามึงฟื้นแล้วและสบายดีมากๆ อะไรแบบเนี้ย” ไอ้ฝนตอบพร้อมรอยยิ้มให้กำลังใจแบบฝืนๆ

ผมพยักหน้าเบาๆ “อืออ... ขอบใจมึงสองคนมากๆ ด้วยนะเว้ย”

ไอ้นกที่ยืนอึกอักๆ อยู่ครู่หนึ่งเดินตรงเข้ามาหาผม แล้วจากนั้นมันก็ทำสิ่งที่ผมคิดไม่ถึงเลย นั่นคือมันจุ๊บลงบนหน้าผากของผมเบาๆ พร้อมกับน้ำใสๆ จากดวงตาของมันที่หยดลงบนแก้มของผม

“มึง... พวกกูรักมึงมากนะเว้ย”

“กูก็รักมึงเหมือนกัน...”

“ไปเถอะ อีนก เดี๋ยวกูก็ร้องไห้ไปอีกคนหรอก อีห่านจิก” ไอ้ฝนพูดด้วยเสียงอันสั่นเครือพร้อมกับดึงแขนเพื่อนของตัวเอง
เมื่อทั้งสามคนเดินออกจากห้องไปแล้ว ไอ้เอก็ลากเก้าอี้มานั่งลงข้างๆ ผมด้วยอีกคน

“มันคงหนีไปร้องไห้กันอีกแน่ๆ เลยว่ะ กูว่า” ไอ้ด้าพูดพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ

“รู้สึกยังไงมั่งวะ ไอ้ต้า”

ผมส่ายหน้าเบาๆ “งงๆ ว่ะ ไอ้เอ กูรู้สึก... ไม่รู้ว่ะ ปวดหัวมาก แล้วมันก็เบลอๆ ยังไงไม่รู้ ไม่รู้เรื่องไหนจริง เรื่องไหนกูฝันไป...”

มันสองคนหันไปมองหน้ากัน แต่ไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมาก่อนเลย

“มีอะไรวะ มึงบอกกูมาเถอะ”

“กูว่ามึงอยากรู้อะไรแล้วมึงถามพวกกูดีกว่าว่ะ ไอ้ต้า” ไอ้ด้าพูด

ผมคิดอยู่ครู่หนึ่ง “...ไอ้พี่อาร์ทอยู่ไหนวะ มันเป็นยังไงแล้วบ้าง”

“ถูกจับไปแล้ว ทั้งก๊วนนั่นแหละ ไอ้พวกเหี้ยนี่ก็รอพ่อแม่มันมาประกันเหมือนกัน แต่ท่าทางจะยากว่ะ หลักฐานแม่งครบอะ ถ้าอย่างยาวก็คงต้องขึ้นศาลแน่ๆ” ไอ้ด้าตอบ

“แล้วพวกมึงเจอกูได้ยังไง...”

“พวกกูก็พยายามโทรหามึง ตามหามึงตั้งแต่วันนั้นนั่นแหละ พอข้ามคืนแล้วมึงยังไม่กลับมา ไม่ติดต่อมาเลย ไอ้อาร์มมันก็เริ่มประสาทเสียแล้ว พวกกูพยายามติดต่อหาเพื่อนทุกคน แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่ามึงไปไหน พอพวกกูรู้ว่าพ่อกับแม่มึงไม่รู้ว่ามึงหายไป พวกกูก็ไม่อยากให้พวกเค้าเป็นห่วง เลยพยายามตามหามึงกันเอง จนกระทั่งเด็กปีหนึ่งคนนึงมันบอกว่าวันนั้นมันเห็นมึงเดินไปกับผู้ชายคนนึง ไอ้อาร์มมันก็เลยรีบติดต่อไปหาไอ้เหี้ยอาร์ททันที” เมื่อไอ้เอเล่ามาถึงตรงนี้ น้ำเสียงที่เคยราบเรียบและใจเย็นของมันก็เปลี่ยนไปทันที “พอครั้งแรกที่มันรับสายและรู้ว่าเป็นไอ้อาร์มโทรไป มันก็รีบปิดเครื่องหนีทันที แค่นั้นพวกกูก็รู้แล้วว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ พอกูไปแจ้งตำรวจ แม่งก็บอกว่ายังทำอะไรให้ไม่ได้เพราะยังไม่ถึง 24 ชั่วโมง และมึงก็โตแล้วด้วยอีก แม่งก็คิดแค่ว่ามึงคงไปกินเหล้ากับใครที่ไหนแล้วแบ็ตหมดแค่นั้นไง แต่พอไอ้อาร์มหาหอของไอ้อาร์ทเจอ แล้วเจอยาเสพย์ติดในนั้นนั่นแหละ พวกตำรวจถึงเริ่มยอมเคลื่อนไหวน่ะ”

ไอ้ด้าที่เห็นผมทำหน้างงๆ เริ่มอธิบายต่อจากไอ้เอ “หอที่มึงโดนขังไว้น่ะ เป็นหอที่ไอ้อาร์ทมันเช่าเอาไว้กินเหล้าเมายาหรือมีปาร์ตี้เซ็กส์กับเพื่อนๆ มันน่ะ ส่วนหอเก่าที่มึงเคยไปนอนตอนยังคบกับมัน มันก็ยังใช้นอนปกติเหมือนเดิมนั่นแหละ”

“เออ นั่นแหละ แล้วพอพวกกูเริ่มคิดแล้วว่ามึงต้องโดนมันหลอกไปไหนแน่ๆ ไอ้อาร์มมันก็พยายามสืบหาให้ได้ว่าไอ้อาร์ทมันมีบ้านอยู่ที่ไหน หรือมีที่ซุกหัวอยู่ที่ไหนอีก จนกระทั่งมันหาเจอว่าเป็นที่นั่นน่ะแหละ พวกกูก็เลยไปรวมตัวกันที่นั่นพร้อมกับตำรวจ แล้วก็บุกเข้าไป ตอนแรกตำรวจก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งหรอก แต่พอเจอแบบนั้นเข้าไป ก็... นะ”

ผมพยายามคิดตามที่เพื่อนสองคนนี้เล่า มีรายละเอียดอีกมากมายที่ผมยังคงสงสัย แต่ผมคิดว่าพวกมันก็คงจงใจเล่าแบบข้ามๆ ย่อๆ เพื่อไม่ให้ผมต้องปวดหัวกับเรื่องพวกนี้มากไปกว่านี้มากกว่า

“มึงต้องเห็นไอ้อาร์มตอนมันพยายามตามหามึง ไอ้ต้า มันไม่ได้นอนตลอดสองวันเลยนะเว้ย เอาจริงๆ มันไม่ได้กลับบ้านเลยด้วยซ้ำ แม่งขับรถวนหามึงแทบจะทั่วทั้งกรุงเทพฯ เลย”

“กูหายไปสามวันเลยเหรอวะ”

“ก็ประมาณนั้นอะว่ะ คือมึงหายไปสองคืนเต็มๆ แล้วพวกกูไปเจอมึงที่ห้องนั่นก็ตอนจะรุ่งเช้าของวันนี้แล้วน่ะ...” ไอ้เอตอบ

“แล้วพวกมึงล่ะเป็นยังไงบ้าง กูขอโทษนะเว้ยที่ทำให้พวกมึงต้องเดือดร้อนกันอะ...”

“เฮ้ย มึงอย่าคิดแบบนั้นสิวะ ไอ้ต้า พวกกูเป็นเพื่อนมึงนะเว้ย กูจะทิ้งมึงไปได้ยังไง”

“ใช่ ไอ้ด้าพูดถูก มึงห้ามคิดแบบนั้นเด็ดขาดเลยนะเว้ย และที่สำคัญ คนที่เป็นเดือดเป็นร้อนที่สุดน่ะ ก็ไม่ใช่ใครหรอก แต่เป็นไอ้อาร์มต่างหาก”

“แต่... เมื่อกี้มันแทบไม่ยอมมองหน้ากูเลยนะ”

ไอ้ด้ากับไอ้เอหันไปสบตากันอีกครั้ง

“กูจะบอกว่า...” ไอ้ด้าหันมาพูดกับผม “ก่อนที่ตำรวจกับหมอจะเข้ามาน่ะ มันจับมือมึงเอาไว้ตลอด ไม่ยอมปล่อยเลยนะเว้ย ขนาดตอนพ่อกับแม่มันมา มันก็ยังไม่ยอมปล่อยมือเลยด้วยซ้ำ”

“ไอ้เหี้ย ตอนอยู่บนรถพยาบาลมันยังไม่ยอมปล่อยมือมึงเลยด้วยซ้ำเหอะ มันเอาแต่บอกว่ามันจะไม่ยอมปล่อยมึงให้ไปไหนไกลเกินสายตามันอีกแล้วน่ะ” ไอ้เอพูดเสริม

“กูว่า... มึงคงรู้แล้วนะ ไอ้ต้า ว่าที่จริงไอ้อาร์มมันรู้สึกยังไงกับมึงน่ะ” ไอ้ด้าพูดพร้อมกับล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือที่กำลังสั่นเบาๆ ออกมาจากกางเกง “ไอ้กัสโทรมาว่ะ กูขอไปรับสายน้องมันก่อนนะ”

“มึงตามไอ้เชี่ยอาร์มเข้ามาด้วย”

ไอ้ด้าพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

“กูว่าไม่ใช่แค่มึงหรอกที่ควรจะรู้ว่าอีกฝ่ายนึงคิดยังไง แต่เป็นไอ้อาร์มเองนั่นแหละว่ะ ที่ควรจะรู้ได้แล้วว่าตัวเองคิดยังไงกันแน่” ไอ้เอพูดพร้อมถอนหายใจเบาๆ จากนั้นมันจึงเริ่มเล่าอาการของผมให้ฟัง สรุปว่านอกจากแผลถูกกัดทั่วทั้งร่างกายแล้ว ผมยังต้องดูแลแผลที่ก้นของผมเป็นกรณีพิเศษอีกด้วย เพราะว่ามันฉีกขาดมาก และคงใช้เวลาอีกพักใหญ่ๆ กว่าจะหายดี นอกจากนั้นก็ยังมีปัญหาเรื่องยาที่ไอ้พี่อาร์ทมันให้ผมกินในครั้งแรก และปัญหาด้านจิตใจของผม ซึ่งผมถูกบังคับให้เข้าพบจิตแพทย์เป็นประจำหลังจากนี้ไปอีกสักระยะ

“แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกอย่างก็อยู่ที่จิตใจของมึงนั่นแหละเว้ย” ไอ้เอพูด “ถ้าจิตใจมึงเข้มแข็งพอ อีกไม่นานร่างกายมึงก็หาย ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอก พวกกูรักมึงมากนะเว้ย มึงมีกำลังใจจากพวกกูเต็มเปี่ยมนะ ไอ้ต้า อย่าลืมซะล่ะ ส่วนเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ พวกกูจะจัดการให้เอง มึงไม่ต้องกังวลอะไรเลย เข้าใจรึเปล่า”

ผมพยักหน้ารับเบาๆ อย่างอ่อนแรง รู้สึกเหนื่อยจนอยากจะหลับลงไปอีกสักครั้งจริงๆ

“มาแล้ว พระเอกของเรา” เสียงของไอ้ด้าดังขึ้นหลังจากที่ประตูห้องถูกเปิดออก

“มึงมานี่ ไอ้อาร์ม กูว่ามึงมีเรื่องต้องคุยกับไอ้ต้ามั้ง” ไอ้เอลุกขึ้นยืน “กูจะให้มึงอยู่กันสองคนสักพักก็แล้วกัน ถ้าจะเอาอะไรก็ออกไปตามกูล่ะ คงเดินเล่นอยู่แถวนี้แหละ”

ไอ้อาร์มเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ที่ไอ้เอเพิ่งลุกออกไป

“ไอ้ตูดเอ๊ย!” ไอ้เอตบหัวของไอ้อาร์มเบาๆ “ถ้ามึงทำเสียเรื่องอีกล่ะก็ คราวนี้ไม่ใช่แค่ตบหัวแน่นะมึง กูจะเอาปืนมายิงมึง ไอ้เชี่ยอาร์ม ถึงกูเองจะไม่ได้เป็นเกย์ ไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่กูยังเข้าใจอะไรๆ ได้ดีกว่ามึงเลย และมึงเองก็น่าจะรู้นะว่าทำไม คราวนี้มึงอยากจะพูดอะไรก็พูดออกไปซะ เพราะพ่อกับแม่มึงก็สอนมาไม่ใช่เหรอวะว่าถ้าหากมีอะไรอยากจะพูด ก็ให้รีบๆ พูดซะก่อนที่จะไม่มีโอกาสน่ะ”

เมื่อไอ้เอพูดจบ มันก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับไอ้ด้า ทิ้งให้ผมอยู่กับไอ้อาร์มตามลำพัง
แต่ทว่าเราสองคนกลับปล่อยให้ความเงียบเป็นคนบอกเล่าความในใจของกันและกันอยู่พักใหญ่ๆ เรื่องที่ไอ้เอกับไอ้ด้าเล่าให้ผมฟังมันแทบจะทำให้ผมคิดว่าไอ้อาร์มเองก็รักผมอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่อยากที่จะคิดเข้าข้างตัวเองไปมากกว่านั้นอีกแล้ว ผมไม่อยากจะเจ็บปวดอีก เพราะบางที มันเองก็อาจจะแค่เป็นห่วงผมมากในฐานะเพื่อนสนิท และรู้สึกผิดที่เคยพูดจาทำร้ายจิตใจผมก็เป็นได้ ใครจะไปรู้

บางทีมันอาจจะรังเกียจผมที่ผมกลายเป็น ‘สิ่งสกปรก’ แบบนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ...

“เฮ้ยย ไอ้ต้า มึงเป็นอะไร มึงร้องไห้ทำไมวะ” ไอ้อาร์มรีบขยับตัวทันทีที่เห็นน้ำตาของผม

“เปล่า แต่กู... กู... ขอโทษ ไอ้อาร์ม กูขอโทษ!”

“มึงจะขอโทษกูทำไม กูสิวะที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษมึง!” มันรีบลุกขึ้นยืน

“มึงดูสภาพกูสิ! มึงดูว่ากูเป็นยังไง! แบบนี้กูก็ไม่ต่างจากคนที่มึงเคยบอกว่ามึงรังเกียจแล้วจริงๆ กูมันสกปรก! กูมันโสโครก! กูมันมั่ว! กูขอโทษจริงๆ ไอ้อาร์ม ฮืออๆๆ” น้ำตาของผมมันไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ

“ไอ้ต้า มึงอย่าพูดอย่างนั้นสิวะ มึงไม่ได้สกปรก มึงไม่ได้โสโครกเว้ย คนที่สกปรกคือไอ้เชี่ยอาร์ทต่างหาก!” ไอ้อาร์มพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “มึงคือเพื่อนกูนะเว้ย เป็นคนที่กูรัก และเป็นคนที่มอบความรักที่บริสุทธิ์ให้กูเสมอมา เพราะฉะนั้น... มึงห้าม...” เสียงของไอ้อาร์มขาดห้วงไป

เมื่อผมหันไปมองหน้าของมัน ดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตาของผมก็เห็นว่ามันกำลังยืนร้องไห้อยู่ด้วยเหมือนกัน

“กูรักมึงนะ ไอ้อาร์ม ฮึก... กูขอโทษที่กูรักมึง แต่กูรักมึงจริงๆ ฮืออๆๆ”

ไอ้อาร์มไม่ตอบอะไร แต่ก้มลงมารวบตัวของผมเข้าไปกอดเอาไว้แน่น บาดแผลทั่วทั้งร่างกายของผมร้องอุทธรณ์ทันที แต่ผมก็พยายามอดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้เพราะไม่อยากจะให้มันคลายอ้อมกอดออกแล้วปล่อยผมทิ้งเอาไว้อย่างอ้างว้างอีกต่อไป
ร่างกายของไอ้อาร์มสั่นไหวน้อยๆ และสุดท้ายมันก็ค่อยๆ คลายวงแขนออกและปล่อยให้ผมนอนลงบนเตียงเหมือนเดิม

“กูขอโทษว่ะ มึงเจ็บแผลรึเปล่า...” มันพูดทั้งๆ ที่น้ำตายังคงอาบแก้ม

ผมพยักหน้าเบาๆ “...แต่กูทนได้”

“ไม่หรอก ไอ้ต้า ต่อจากนี้มึงไม่ต้องทนอะไรเพื่อกูอีกต่อไปแล้ว”

“มึงหมายความว่ายังไง”

มันเช็ดน้ำตาออก “กูขอโทษที่ตลอดเวลาที่ผ่านมากูทำตัวเหี้ยๆ กับมึง ทั้งๆ ที่กูก็รู้ว่ามึงคิดยังไงกับกู แต่กูกลับยังพูดจาหมาๆ กับมึงอีก กูรู้ว่ามึงต้องทนกับความจัญไรของกูมามากแล้ว...” มันคว้ามือของผมไปกุมเอาไว้ “แต่จากนี้ไปกูจะไม่ยอมให้มึงต้องทนเจ็บปวดอะไรแบบนั้นอีกแล้วเว้ย ไอ้ต้า ขอให้กูได้อยู่ดูแลมึงไปข้างๆ แบบนี้ตลอดไปนะ กูรู้แล้วว่ามึงรักกูมากแค่ไหน และมึงมีความสำคัญสำหรับกูมาเพียงใด กูจะไม่ทำให้มึงต้องเสียใจอีก กูสัญญา”

“ไอ้อาร์ม มึง...”

“เดี๋ยว กูยังพูดไม่จบ ไอ้ต้า กูขอโทษ แต่มึงให้กูพูดเถอะนะ”

ผมพยักหน้า

“พ่อกับแม่สอนกูกับน้องมาตลอดว่าเวลาที่กูรู้สึกอะไรยังไง ให้หัดพูดหรือแสดงออกไปเลย ไม่อย่างนั้นถ้าหากมันสายเกินไปแล้วคนที่จะเสียใจก็คือกู... ก่อนหน้านี้กูคิดว่ากูก็ทำแบบที่พ่อกับแม่บอกมาตลอดนะ กูรู้สึกยังไงกับมึงกูก็แสดงออกไปตลอด ทั้งเรื่องในคืนนั้น และเรื่องที่เราทะเลาะกันที่โรงอาหารด้วย กูไม่พอใจ กูก็บอกไปตรงๆ ว่ากูไม่พอใจ แต่ปัญหาคือกูกลับไม่เคยรู้ใจตัวเองอย่างแท้จริง ว่าที่จริงแล้วทำไมกูถึงต้องไม่พอใจมึงขนาดนั้น ทำไมกูถึงได้รักและห่วงมึงมาก จนกระทั่งตอนนี้กูถึงเพิ่งเข้าใจว่า ความรักและความห่วงใยที่กูมีให้กับมึง มันไม่ใช่แค่เพียงเท่านั้น แต่มันมีความผูกพันที่กูก็ไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไรแฝงอยู่ด้วย มันคือสายใยที่มาพร้อมกับความกลัวว่ากูจะคิดกับมึงเกินกว่าคำว่าเพื่อน กูจึงปฏิเสธตัวเองมาตลอดว่ามันเป็นเพราะกูกับมึงเป็นเแค่พื่อนที่รู้ใจกันจริงๆ และกูก็ยังชอบผู้หญิง ยังรักตุ๊กตากับนิ้งมาก และยังรักผู้หญิงคนอื่นๆ ที่กูเคยจีบด้วย แต่พอมาคิดดูดีๆ แล้ว ผู้หญิงที่กูสามารถใช้คำว่ารักด้วยได้ก็มีแค่สองคนนี้เท่านั้นเองว่ะ ความเป็นจริงคือถึงกูจะจีบใคร จะนอนกับใคร จะทำตัวมั่วแค่ไหน แต่คนที่ได้คำว่ารักไปจากกู ก็มีเพียงแค่สองคนนี้ที่ไม่เคยรักกูจริงเลย นอกจากนั้นก็มีอีกแค่คนเดียว ซึ่งคนๆ นั้นก็คือ... มึง”

ไอ้อาร์มเล่าด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและซีเรียส จนกระทั่งสุดท้าย มันที่ก้มหน้าพูดมาตลอดก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม

“กูก็ไม่รู้หรอกนะว่าไอ้ความรู้สึกที่กูมีให้มึงเนี่ย จะเรียกว่าความรักแบบที่กูเคยมีให้นิ้งหรือตุ๊กตาได้รึเปล่า กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากูรักมึงแบบไหน และคำว่ารักครั้งนี้ของกูที่มีให้มึงมันมีคำนิยามว่ายังไง แต่กูรู้แค่ว่ากูรักมึงจริงๆ ก็ใช่ ที่ก่อนหน้านี้กูอาจจะเคยบอกมึงไปแล้วว่ากูรักมึง แต่มันต่างไปว่ะ ไอ้ต้า ตอนนี้กูรู้แล้วว่ะว่ากูรักและเป็นห่วงมึงมาก กูไม่อยากใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีมึง กูกลัวที่จะต้องสูญเสียมึงไปอีก...” เสียงของมันเริ่มสั่นเครือขึ้นอีกครั้ง “ไอ้เหี้ยเอ๊ยยย! มึงรู้มั้ยว่าวินาทีที่กูเห็นมึงนอนอยู่บนเตียงในสภาพนั้นน่ะ กูคิดว่ากูเสียมึงไปแล้วซะอีก ยิ่งตอนที่มึงสลบไปอีกครั้งนั่น กูแทบจะหัวใจสลายเลยนะเว้ย กูกลัว... กูกลัวมาก... และมันก็ทำให้กูรู้เลยว่า กูไม่อยากให้มึงคลาดสายตาไปจากกูอีกต่อไปแล้ว ไอ้ต้า... กู...” มันบีบมือของผมแน่น

“ไอ้อาร์ม... กูเองก็รักมึงเหมือนกัน แต่...”

มันรีบปาดน้ำตาที่ทำท่าจะไหลออกมาอีกและนิ่วหน้าทันที “แต่อะไรวะ”

“แต่มึงแน่ใจเหรอวะว่าสิ่งที่มึงกำลังรู้สึกอยู่นี้เป็นความรักจริงๆ ไม่ใช่แค่ความรู้สึกผิดหรืออะไรอื่นน่ะ”

“โถ่เอ๊ยยย ไอ้ต้า... ถ้ากูไม่รักมึงจริงๆ แล้วล่ะก็ คืนนั้นกูก็คงจะไม่กอดมึง ไม่จูบมึง ไม่ทำแบบนั้นกับมึง และไม่ทำตัวเหี้ยๆ แบบที่ผ่านมากับมึงหรอกนะเว้ย ใช่มั้ยล่ะ” มันยิ้มน้อยๆ

“เออ ก็คงจะจริงของมึงว่ะ...” ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ

“กูว่ากูคงรักมึงมาตั้งนานแล้วล่ะว่ะ และคืนนั้นแหละ เป็นคืนที่กูได้กล้าทำสิ่งที่ตัวเองเคยสงสัยและอยากลองมานาน คงเพราะกูเมาด้วยแหละมั้ง หรือไม่กูก็แค่ใช้ความเมาเป็นเหตุผลในการทำแบบนั้น กูเฝ้าบอกตัวเองแบบนั้นมาตลอดจริงๆ นะเว้ย กูแม่งโคตรขี้ขลาดเลย...”

“ไม่หรอก กูเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้มันย่อมน่ากลัวสำหรับคนที่ไม่เคยคิดจะชอบผู้ชายมาก่อนแบบมึงอยู่แล้ว...”

“มึงยกโทษให้กูได้มั้ยวะ ไอ้ต้า”

ผมส่ายหน้า “คงไม่ได้หรอกว่ะ... เพราะมันไม่มีอะไรที่กูจะต้องยกโทษให้มึงสักหน่อยนี่หว่า”

ไอ้อาร์มยิ้มแห้งๆ และหลังจากนั้นเราสองคนก็ต่างคนต่างเงียบอีกครั้ง

“นี่ ไอ้อาร์ม กูนึกขึ้นมาได้อย่างนึงว่ะ คือตอนที่ไอ้อ้วนมันเล่าเรื่องของมึงกับนิ้งให้กูฟังอะ มันเคยบอกกูว่า ถ้ามึงรักใครเข้าสักคนแล้วล่ะก็...”

“กูก็จะรักและทุ่มเทให้กับคนๆ นั้นมากจริงๆ มึงจะพูดแบบนี้ใช่มั้ย”

“อืออ แล้วกับกูที่เป็นผู้ชายเนี่ย ก็จะอยู่ในกรณีเดียวกันด้วยมั้ยวะ”

“เอาเป็นว่า... กูจะรักมึงให้ดีที่สุดยิ่งกว่าคนไหนๆ ที่กูเคยรักเลย แบบนั้นโอเคมั้ยวะ”

“จริงเหรอวะ”

“มึงเชื่อใจกูมั้ยล่ะ”

ผมพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ไม่เคยมีสักวันที่กูจะไม่เชื่อในตัวมึงเลยด้วยซ้ำ”

เมื่อผมพูดจบ เราก็เงียบกันไปอีกอึดใจหนึ่ง

“นี่ ไอ้ต้า...”

“หืออ”

“มึงจะต้องหายดีนะเว้ย มึงต้องไม่เป็นอะไร ต่อจากนี้มึงห้ามคิดอะไรมากเด็ดขาดเลยนะเว้ย สัญญากับกูได้มั้ย”

“กูจะพยายามนะ...”

“ต่อจากนี้กูจะขอเป็นคนคอยดูแลปกป้องมึงเอง จากทุกอย่างเลย รวมทั้งจากความเสียใจที่อาจจะเกิดจากกูด้วย ได้มั้ยวะ...”

“มึง... นี่มึงกำลังขอกูเป็นแฟนรึเปล่าวะ ไอ้อาร์ม”

“กู... กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ” มันก้มหน้าแล้วบิดตัวไปมาท่าทางอึดอัดใจ “กูบอกตรงๆ ว่ากูก็ไม่รู้ว่ากูอยากจะเป็นแฟนกับมึงรึเปล่านะเว้ย”

ผมใจแป้วลงทันที

“แต่กูบอกมึงไปแล้วว่ากูจะรักมึงมากกว่าใครๆ กูอยากจะมีมึงอยู่ข้างกายกูตลอดเวลา ไม่อยากให้มึงหายไปไหนอีกแล้ว กูรู้สึกแบบนั้นจริงๆ กูอยากจะเดินไปข้างหน้าพร้อมๆ กับมึง มีมึงอยู่ในชีวิตของกู และอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของมึงด้วยเหมือนกัน อย่างที่กูเคยบอกไงว่ากูรู้สึกดีเสมอที่เรามีกันและกันแบบที่ผ่านๆ มา มึงไม่เคยทิ้งกูไว้คนเดียวเลย แต่กูเสือกเป็นฝ่ายผิดสัญญาที่ทิ้งมึงไปจนทำให้มึงต้องเจอกับเรื่องแบบนี้...” มันบีบมือผมแน่นจนผมเริ่มรู้สึกเจ็บ

ผมยกมือข้างขวาขึ้นมาวางลงบนมือของมันแล้วบีบเบาๆ “ไม่เป็นไรหรอก ไอ้อาร์ม มึงไม่ได้ทิ้งกูไปหรอก แต่กูเองต่างหากที่เดินออกไปจากมึงเอง จำได้รึเปล่า”

“แต่ก็เป็นกูเองไม่ใช่รึไงที่ทำให้มึงต้องเสียใจแบบนั้นน่ะ...” มันขบกรามแน่น

“แต่ตอนนี้กูมีความสุขนะเว้ย”

ไอ้อาร์มเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมงงๆ ส่วนผมก็ยิ้มตอบกลับไปให้กับมัน

“ใช่ กูมีความสุขจริงๆ กูดีใจที่มึงนั่งอยู่ตรงนี้กับกู กูดีใจที่มึงเป็นคนไปช่วยกูออกมาจากที่นั่น และกูดีใจที่ในที่สุดกูก็ได้ยินความในใจของมึง เพราะฉะนั้นมึงไม่ต้องคิดอะไรมากแล้วนะ ไอ้อาร์ม...” เมื่อพูดจบ ผมก็อ้าปากหาวออกมาทันที

“มึงเหนื่อยเหรอ ง่วงเหรอวะ นอนพักหน่อยมั้ย”

ผมพยักหน้า เพราะที่จริงในขณะที่ฟังไอ้อาร์มมันพูดอยู่นั้น สมองของผมก็ใกล้จะหยุดการทำงานไปหลายทีแล้วเหมือนกัน

“แล้วเดี๋ยวมึงจะไปไหนรึเปล่า...”

“ไม่ไปหรอกว่ะ กูจะนั่งอยู่ข้างๆ มึงแบบนี้จนกว่ามึงจะตื่นนั่นแหละ”

ผมยิ้มน้อยๆ “ขอบใจมากนะเว้ย ไอ้อาร์ม”

“กูก็เหมือนกัน ไอ้ต้า ขอบใจสำหรับทุกๆ อย่างนะเว้ย ขอบใจที่ไม่เคยทิ้งกู ขอบใจที่คอยดูแลดูมาเสมอ และขอบใจสำหรับความกล้าหาญที่มึงแบ่งปันให้แก่กูมาตลอดด้วยเหมือนกัน”

ผมนึกสงสัยอยู่ในใจกับความหมายของประโยคสุดท้ายที่มันพูด แต่ก็ตัดสินใจเก็บคำถามนั้นไว้ในใจ และหลับตาลง เพราะผมรู้ว่าหลังจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าผมจะรู้สึกอะไรหรือมีปัญหาใดๆ ก็ตาม ไอ้อาร์มก็จะยังคงอยู่เคียงข้างผมตรงนี้ เพื่อตอบคำถามและช่วยเหลือผมในทุกๆ อย่าง มันจะไม่มีวันทิ้งผมไปไหน และจะแบ่งปันทุกความรู้สึกที่มีต่อผมอย่างตรงไปตรงมา มันจะจับมือผมแล้วเราสองคนก็จะเดินไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคงตลอดไปแน่นอน

“พักผ่อนซะนะ กูรักมึงนะ ไอ้ต้า” เสียงของไอ้อาร์มกระซิบลงที่หูของผม จากนั้นมันก็หอมแก้มผมเบาๆ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ยังไม่จบนะเออ

อย่าอ่านเพลินล่ะ คิดกันไว้มั่งรึยังว่าภาคนี้ เรื่องราวระหว่างสองคนนี้ "ความรักคือ... อะไร"

ลป. ฝากไลค์ด้วย http://www.facebook.com/ExecutionerNovel เอาไว้ติดตามความคืบหน้านะคับ เพราะเรื่องนี้ก็ใกล้จะจบแล้ว ยังไม่ได้เขียน love is คู่ต่อไปเลย 55555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2011 20:57:04 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
น้องต้าแง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 :sad4:
กว่าจะได้คำว่ารักของอาร์มมา
ต้าต้องเสียอะไรไปมากขนาดไหนรู้บ้างมั้ย?
สงสารต้ามากเลย
ตอนนี้อยากจะเอามีดมาปาดไอ้นั่นของไอ้เชี้ยอาร์ท
แล้วแล้วเอาเกลือทาแผลมัน
 :beat:  :z6:  o18
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เกลียดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อาร์มก็ตาสว่างแล้ว
จริงๆไม่อยากจะให้อภัยอาร์มเท่าไหร่
แต่เห็นว่าต้ายกโทษให้นะ
ฮึ!!!!  :a14:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
คู่นี้เป็นความรักที่รันทดมาก :o12:
ถ้าเกิดในชีวิตจริงบาดแผลของทางใจของต้าร์คงฝังแน่น เป็ดก็เอาไม่อยู่ :m15:

winnie_the_far

  • บุคคลทั่วไป
โฮกกกกกก น้ำตาไหลเลยอ่ะ กว่าจะรู้ใจตัวเองก็เกือบสาย...

ออฟไลน์ watcharet

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
เฮ้อ... จบลงด้วยดี ขอให้รักกันมากๆน่ะ อินซะเหลือเกิน แต่เกลียดไอ้อาร์ทว่ะ ทำตัวได้อุบาทมากๆๆๆ

ออฟไลน์ jiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-2
ดีที่ยังไม่สายเกินกว่าจะบอกคำว่า"รัก"นะ
ดูแลหัวใจตัวเองให้ดีนะอาร์ม

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
พี่ต้นนนนน ขอหวานๆๆแบบเรทสักตอนสิ เหอๆ

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
อ่านแล้วรู้สึกหน่วงๆ??

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
กว่าจะบอกรัก
เจ็บกันทุกคน :กอด1:

ออฟไลน์ beery25

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-0
คู่นี้คือครึ่งชีวิตของกันและกันละมั้ง

ljk_sj_lovelove

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วเหนื่อยใจจจ  แต่ตอนล่าสุดนี้ช่วยทำให้ใจอบอุ่นขึ้นเยอะ ^^

รักของคู่นี้คือ........คืออะไรดีหว่า....ไว้มาบอกกับตอนจบละกันนะคะ หุหุ

รออ่านตอนจบนะคะ ขอหวานๆปิดท้ายด้วยยย ><

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ผมจำเป็นต้องใช้เวลาพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอยู่ประมาณหนึ่งเดือนเต็มกว่าจะออกมาพักฟื้นต่อที่บ้านและสามารถไปไหนมาไหนได้ ซึ่งสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในตอนนั้นกลับไม่ใช่ความเจ็บปวดทางร่างกายหรือจิตใจ แต่เป็นการที่ผมต้องเห็นความทุกข์และความเศร้าใจของพ่อและแม่ต่างหาก ย้อนไปในวินาทีแรกที่แม่เจอหน้าผม แม่ก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนักทันที ตอนนั้นพ่อกับแม่รู้รายละเอียดมาจากเพื่อนสาวทั้งสองคนของผมเกือบทั้งหมดแล้ว และผมก็เป็นคนที่ช่วยเติมเต็มข้อมูลส่วนสำคัญที่สุดที่ขาดหายไปให้พวกเขาได้รู้เพิ่มอีกในวันนั้น... ซึ่งนั่นก็คือเรื่องที่ผมเป็นเกย์นั่นเอง

ผมรู้ได้จากสีหน้าของทั้งคู่ว่าพวกเขาไม่ได้รับกับความจริงข้อนี้ได้อย่างทันที แต่ผมเชื่อว่าจะด้วยความเป็นพ่อแม่ ความสงสาร ความรู้สึกสมเพชในสภาพของผมในตอนนั้น หรืออะไรก็แล้วแต่เถอะ พวกเขาจะยอมรับผมได้อย่างแท้จริงสักวัน ซึ่งคนที่คอยอยู่เคียงข้างและคอยให้กำลังใจผมอยู่ตลอดเวลาไม่เคยห่างเลยก็คือไอ้อาร์ม

นับจากวันแรกที่เราได้เปิดอกคุยกัน มันก็มานอนอยู่กับผมทุกคืนจนกระทั่งผมออกจากโรงพยาบาล ผมยังจำคืนแรกที่มันหลับอยู่บนโซฟาข้างเตียงของผมได้เลยว่ามันหลับสนิทจริงๆ แถมยังกรนและละเมอเบาๆ ออกมาอีกด้วย ซึ่งก็คงไม่แปลก เพราะว่ามันต้องเหนื่อยกับการตามหาผมมาตลอดตั้งขนาดนั้นนี่นะ

“ไอ้ต้า... เฮ้ยย ไอ้กีตาร์!”

“หือ! อะไรวะ” ผมสะดุ้งเบาๆ และรีบหันไปหาไอ้นกที่นั่งกระทุ้งศอกใส่ผมอยู่

“มึงเหม่ออีกแล้วนะเว้ย พักหลังๆ นี้มึงเหม่อบ่อยขึ้นรึเปล่าวะ” มันมองผมด้วยสายตาเป็นกังวล

“เฮ้ย กูไม่ได้เป็นอะไรหรอก กูก็แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเฉยๆ”

“คิดอะไรวะมึง...” มันยิ่งทำหน้าเครียดหนักยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

“ไม่ใช่เรื่องเหี้ยๆ พวกนั้นหรอกน่า” ผมยิ้มให้กับมัน “กูพูดจริงๆ เว้ย ไม่ได้โกหก”

“แน่นะมึง มึงก็รู้นะเว้ยว่าถ้ามึงอยากพูดอะไร อยากระบายอะไรเกี่ยวกับเรื่องเมื่อตอนนั้น...”

“กูไม่เป็นไรจริงๆ” ผมจับมือมันแล้วบีบเบาๆ “แล้วสรุปที่มึงเรียกกูเนี่ย มีอะไรกันแน่วะ”

“อ๋ออ เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ไอ้อาร์มมันเพิ่งวอสแอพมาบอกกูว่ามันมาถึงแล้วน่ะ และมันโทรหามึงไม่ติด มึงปิดเครื่องเหรอวะ”

ผมรีบหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาจากกระเป๋ากางเกงทันที “เวร แบ็ตกูหมดว่ะ”

“เออ งั้นเรารีบเก็บของเหอะ จะได้ไปนั่งรอมันหน้าตึก” มันหันมายื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองให้กับผม “เอ้า โทรไปหา ‘ที่รัก’ ของมึงซะด้วย เดี๋ยวมันจะเป็นห่วงซะเปล่าๆ”

ผมหน้าแดงทันที “พวกมึงเลิกเรียกกูกับมันแบบนั้นซักทีเหอะวะ ไอ้เหี้ย น่าอายจะตายห่า”

“อ๊าววว แล้วมึงจะให้กูเรียกพวกมึงว่าอะไรล่ะค้าาา ก็ในเมื่อมึงสองคนไม่ได้เป็น ‘แฟน’ กันนี่หว่า”

“เออ ก็จริง แต่...” ผมอ้าปากจะเถียง แต่ทว่ามือถือของไอ้นกที่ผมถืออยู่ในมือก็ดังขึ้นเสียก่อน และแน่นอนว่าคนที่โทรเข้ามาก็คือคนที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี่เอง

“รับสิยะ ไอ้หอยทรงกระบอก” ไอ้นกทำเป็นยิ้มจิกๆ ใส่ผม

“เออๆ รู้แล้วน่า... ฮัลโหล”

“ไอ้ต้า! ทำไมปิดเครื่องวะ!”

“มึงใจเย็นๆ อย่าเพิ่งโวยวายดิ ไอ้เหี้ย กูแบ็ตหมดเฉยๆ เมื่อคืนกูลืมชาร์จอะ แล้วเสือกเปิดเน็ตคุยกับมึงเมื่อตอนเช้ากับตอนกลางวันซะนาน แม่งก็เลยแดกแบ็ตกูไปเกือบหมดเลยไง”

“กูไม่ได้โวยวาย กูเป็นห่วงมึง ไอ้ห่าเอ๊ยยย”

“มึงจะห่วงอะไรกูอีก ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลได้อาทิตย์กว่าๆ เนี่ย พวกมึงเคยปล่อยให้กูอยู่คนเดียวสักนาทีเหรอวะ”

“ก็กูรักมึง กูเป็นห่วงมึงไม่ได้รึไง” มันทำเสียงเศร้า

“พอเลยๆ ไม่ต้องมาทำเสียงแบบนั้นเลย ไอ้หำ”

“ทำไมอ่าคับบบ ที่รัก...” มันยังไม่ยอมเลิก

“พอๆ แค่นี้นะ! เดี๋ยวไปเจอกันหน้าตึกก็แล้วกัน มึงใกล้จะถึงแล้วใช่มั้ยล่ะ”

“โอเคคร้าบบบบ กูใกล้จะถึงแล้วล่ะ อีกไม่เกินสิบนาที”

ผมกดปุ่มวางสาย รู้สึกว่าตัวเองเขินจนหน้าร้อนผ่าวไปหมด และเมื่อผมหันไปเห็นไอ้นกกำลังยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ ผมก็แยกเขี้ยวใส่มันทันที

“มองเชี่ยไร!”

“เปล๊า” มันหันไปทางอื่น

เราสองคนเดินลงจากอาคารหอสมุดแล้วไปนั่งอยู่บนม้านั่งด้วยกัน

“นี่ ไอ้ต้า ทำไมพอมึงออกจากบ้านได้แล้วมึงถึงได้อยากมาที่มหาลัยเป็นที่แรกวะ”

“ไม่รู้ว่ะ... กูคงคิดถึงล่ะมั้ง และกูก็ไม่อยากไปที่ๆ คนเยอะๆ ด้วยว่ะ แถมวันนี้มันก็วันหยุด ในมอมันก็เงียบดี กูก็อยากมาที่นี่อะ”

“ตอนแรกกูก็คิดว่ามึงจะยังไม่อยากมาเพราะ...”

“จะทำให้กูคิดถึงไอ้พี่อาร์ทใช่มะ ไม่หรอกว่ะ เพราะกูมีเรื่องของคนอื่นให้คิดมากกว่านั้นอยู่แล้ว”

“เรื่องของใครอีกวะ”

“เอ้า มึงนี่ ก็แหงสิวะว่า...” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบคำถามของไอ้นก รถของไอ้อาร์มก็เข้ามาจอดเทียบตรงหน้าของเราเสียก่อน

“เอ้า มันมาแล้ว ไปกันๆ เร็ว”

เราสองคนรีบลุกออกจากม้านั่งแล้วกระโดดเข้าไปนั่งในรถของไอ้อาร์มทันที

“ขยับตัวเร็วๆ แบบนี้ ไม่เจ็บรึไง เดี๋ยวก็แผลฉีกหรอก ที่รัก” ไอ้อาร์มนั่งยิ้มหน้าแป้นแล้นอยู่ที่เบาะหลัง

“อ้าว! นี่มึงไม่ได้เป็นคนขับรถเหรอวะ ไอ้อาร์ม” ผมถามขึ้นด้วยความแปลกใจทันที

“ไปๆ มึงรีบออกไปนั่งข้างหน้าเลยไอ้นก” ไอ้อาร์มชะโงกตัวข้ามผ่านผมไปไล่ไอ้นก

“มึงไม่ต้องไล่กูก็จะไปอยู่แล้วย่ะ!”

“ไอ้อาร์มมันเพิ่งจะสลับกับกูเมื่อกี้นี้เอง” ไอ้เอพูดขึ้น

“ก็กูอยากนั่งดูแลที่รักกูนี่หว่า ไม่ได้เจอหน้าตั้งหนึ่งวัน คิดถึงจะแย่” ไอ้อาร์มหันมายิ้มแล้วยักคิ้วให้กับผม

“พอได้แล้ว ไอ้อาร์ม กูจะอ้วก”

“มิน่าล่ะว่าก่อนนี้ทำไมผู้หญิงแม่งถึงได้ติดมันกันนัก แล้วไหนบอกว่ามึงไม่ใช่คนเจ้าชู้ไง ไอ้เชี่ยอาร์ม แต่เท่าที่กูเห็นมาตลอดเนี่ย คารมมึงลิเกมากกกกกเลยนะยะ!”

“มึงสองคนหุบปากไปเลย คนนั่งหน้าก็ส่วนคนนั่งหน้าเว้ย ส่วนคนนั่งข้างหลังเค้าจะสวีทกัน”

“แต่กูเองก็คิดเหมือนไอ้สองคนนี้เหอะว่ะ ไอ้อาร์ม มึงนี่แม่งงง คารมคนเจ้าชู้จริงๆ กูล่ะจะอ้วก!”

“กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ได้เจ้าชู้ แต่กูแค่แสดงออกถึงความรักเท่านั้นเอง” มันคว้ามือของผมไปกุมเอาไว้ “กูจะชดเชยเวลาและสิ่งที่กูเคยทำพลาดไปทุกอย่างเท่าที่กูจะทำได้เว้ย ไอ้ต้า และกูก็จะบอกรักมึงทุกวันจนกว่ามึงจะเบื่อเลยด้วยเหมือนกัน” มันยกมือของผมขึ้นจุ๊บเบาๆ

“แล้วทีก่อนนี้ตอนกูอยู่โรงพยาบาล มึงยังทำเก้ๆ กังๆ แล้วบอกว่ามึงไม่เคยบอกรักผู้ชาย ก็เลยทำตัวไม่ถูกน่ะ จำได้มั้ย ไอ้ทุยเอ๊ยยย”

“โอ๊ยยย กูเลิกอายตั้งแต่ตอนที่ได้จับมึงแก้ผ้าอาบน้ำเป็นครั้งแรกที่โรงพยาบาลวันนั้นแล้วเหอะว่ะ”

ผมเขินจนหน้าร้อนไปถึงใบหู “ไอ้เหี้ยนี่! ไอ้นกมันก็นั่งอยู่นะเว้ย!”

“ก็เรื่องของมันดิ มันไม่ได้เห็นของมึงเหมือนที่กูเห็นสักหน่อย”

“ไอ้ห่าาาา!”

“ไม่เป็นไรหรอก มึงจะด่ากูแค่ไหนก็ได้ ขอแค่กูได้รักมึงก็พอ”

“แอ๊ยยย! พอๆ ไอ้เอมึงรีบๆ ขับไปบ้านไอ้พระเอกลิเกนี่ได้ละ! กูรู้สึกเลี่ยนนนน จนจะอ้วกแล้วว่ะ แถมยังรู้สึกเป็นส่วนเกินชอบกล”

“เออ” ไอ้เอหัวเราะในลำคอเบาๆ

วันนี้พ่อกับแม่ของไอ้อาร์มจะจัดงานเลี้ยงฉลองที่ผมได้ออกจากโรงพยาบาล และพวกเราทุกคนก็ถูกเชิญไปที่บ้านของมันอย่างพร้อมหน้า ซึ่งไอ้ฝนกับไอ้ด้าเองก็กำลังรอพวกเราอยู่ที่นั่นแล้ว

เมื่อเราไปถึงบ้านของมัน พวกเราก็ช่วยแม่ของไอ้อาร์มเตรียมอาหาร ทำขนม และจัดโต๊ะที่สวนหน้าบ้านกันอย่างครื้นเครง โดยนอกจากพวกเราแล้ว ก็ยังมีไอ้อ้วนกับเพื่อนของมันอีกสองคน รวมถึงพ่อแม่ของผมที่จะตามมาทีหลังอีกด้วย

ในตอนหัวค่ำ พวกเราก็เริ่มต้นกินอาหาร ร้องคาราโอเกะ และพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน พ่อกับแม่ของผมที่พลอยสนิทสนมกับครอบครัวของไอ้อาร์มไปด้วย ทำให้งานเลี้ยงเล็กๆ นี้เต็มไปด้วยความอบอุ่น ผมจึงคิดขึ้นมาว่า ถ้าหากจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกขอบคุณไอ้พี่อาร์ทแล้วล่ะก็ สิ่งๆ นั้นก็คงเป็นการที่พวกเราทุกคนได้สนิทสนมกันมากขึ้น ได้มีช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ และการที่ผมได้มีคนรักให้ได้รักและคิดถึงอย่างในทุกวันนี้นี่แหละ

“คิดอะไรอยู่วะ ฮึ...” ไอ้อาร์มหันมากระซิบลงที่หูของผม

“ก็คิดถึงมึงนั่นแหละ” ผมหันไปยิ้มให้กับมัน

นับตั้งแต่วันแรกที่ผมออกจากโรงพยาบาลจนถึงวันนี้ มันก็ยังไม่เคยทิ้งผมให้ห่างจากกายของมันอีกเลยอย่างที่มันเคยบอกเอาไว้
โอเค... ผมอาจจะพูดเกินไปหน่อย มันอาจจะไม่ได้เป็นความจริงตรงตามทุกตัวอักษรอะไรขนาดนั้นหรอก แต่อย่างน้อยๆ มันก็ยังไม่เคยทำให้ผมรู้สึกว่าเราสองคนอยู่ห่างกันเลยแม้แค่เพียงสักครั้ง

“คิดอะไรวะ กูก็นั่งอยู่ตรงนี้ไง”

“ก็แค่คิดว่ามึงจะรักกูแบบนี้ได้นานขนาดไหนแค่นั้นแหละมั้ง”

“นานจนกว่ากูจะหมดรักมึงไง โอเคปะ”

“นั่นไง”

“แต่ก็แค่ว่าวันๆ นั้นมันคงไม่มีทางมาถึงเท่านั้นเองอะว่ะ...” มันหอมแก้มผมเบาๆ ทั้งๆ ที่ทุกคนก็นั่งอยู่ล้อมรอบเรากันแบบนี้นะ

“ก็เพราะมึงชอบพูดจาโอเวอร์แบบนี้ไง กูถึงได้ไม่อยากจะเชื่อน่ะ ปากดีตลอดอะมึงอะ”

“โห มึงพูดแบบนี้กูเสียใจนะเนี่ย กูไม่ได้ปากดีเว้ย แต่กูคิดอะไรก็พูดแบบนั้นต่างหาก มึงก็รู้นิสัยกูไม่ใช่รึไง ไอ้ต้า”

“เรอะ จริงเหรอวะ”

“ก็เออสิวะ กูเคยบอกแล้วไง กูไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นยังไงน่ะ แต่ที่ผ่านมามึงดีกับกูมาก มึงรักกูมาก กูไม่สามารถย้อนเวลาที่ผ่านไปแล้วคืนมาได้ และกูคงจะแสดงออกอะไรมากกว่านี้ก็ไม่ได้แล้วด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นกูก็จะทั้งพูด ทั้งแสดงออก และทำทุกอย่างเพื่อชดเชยเวลาที่กูเสียไปและทำให้มึงมั่นใจที่สุดว่ากูรักมึงจริงๆ แค่นั้นเองอะว่ะ มึงรอดูต่อไปก็แล้วกัน” มันฉีกยิ้มกว้าง

ผมล่ะแพ้รอยยิ้มขี้เล่นของมันจริงๆ!

“พี่ต้าาาาาา!!” ไอ้อ้วนที่นั่งอยู่อีกข้างหันมาดึงแขนผม “พี่ต้าดูดิ! พี่ด้าแม่งใจร้ายกะกัสอีกแล้วง่าาา”

“อะไรอีกล่ะ ไอ้น้องคนนี้”

ที่จริงแล้วไอ้อ้วนเองก็แทบจะไม่ต่างจากพี่ชายของมันเหมือนกัน ในเรื่องของการเกาะผมติดหนึบจนแทบจะไม่ยอมปล่อยให้ผมห่างตาไปไหนเลยเนี่ย

“ก็คืนนี้กัสบอกให้พี่ด้านอนกะกัสแต่มันไม่ยอมนอนด้วยง่าาาา”

“นี่มึงเมาแล้วปะเนี่ย ไอ้อ้วน” ผมหัวเราะ

“ม๊ายยย ม่ายมาววว ไม่เมาเหล้าแต่เมาร๊ากกก”

“พอเลยๆ ไอ้ตัวแสบ หันมานี่เลย ไม่ต้องไปอ้อนไอ้ต้ามัน พี่บอกแล้วว่าไม่ให้กินเหล้าเยอะ ยังไม่ทันไรก็เมาซะแล้วเห็นมั้ยเนี่ย พ่อกับแม่ก็นั่งอยู่ตรงนี้แท้ๆ” ไอ้ด้าลุกออกมาแกะตัวแฟนของมันออกจากแขนของผม

“กัสปวดฉี่อะ พี่ด้าพากัสไปฉี่เป็นเพื่อนหน่อย”

“เอออ ครับๆ มาๆ ลุก” ไอ้ด้าจับมือของไอ้อ้วนแล้วก็ดึงมันให้ยืนขึ้น “เฮ้ออ มันพูดอะไรของมันวะ ‘พาไปฉี่เป็นเพื่อนหน่อย’ เนี่ย” มันส่ายหน้าพร้อมกับพึมพำเบาๆ ก่อนจะพาแฟนของมันเดินออกจากโต๊ะอาหารไป

ผมว่าภาพของไอ้ด้าที่เดินจูงมือไอ้อ้วน ซึ่งตัวใหญ่กว่ามันเยอะเดินเข้าไปในบ้านนี่ก็ดูเป็นภาพที่น่ารักและน่าตลกดีเหมือนกันนะ

“แม่งไม่ได้เมาหรอก มึงเชื่อกูปะ” ไอ้อาร์มพูดขึ้น “ไอ้เหี้ยนี่แม่งแผนสูง กูรู้สันดานน้องกูดี แม่งแรดจะตายห่า กูว่าไม่พ้นคืนนี้ไอ้ด้าก็ต้องนอนที่นี่แล้วก็โดนไอ้เชี่ยอ้วนแดกตามแผนของมันแน่นอน คอยดู”

“แล้วมึงรู้ได้ไงว่าคนอย่างไอ้ด้าจะไม่รู้ทันน้องมึง”

“เออออว่ะ กูก็ไม่ทันคิดนะเนี่ย เพราะกูก็คิดแต่ว่าไอ้อ้วนมันแรดและจ้องอยากจะแดกไอ้ด้ามาตั้งนานแล้วแต่ไอ้ด้าไม่ยอมสักทีเนี่ย”

“แรดเหมือนพี่มันอะเหรอวะ”

“ไม่เหมือนเว้ย กูไม่รู้จักคำว่าแรดหรอก กูรู้จักแต่คำว่ารัก” มันยิงฟันกว้าง

“กูจะอ้วก”

“อ้วกได้ แต่อย่าไอนะ...” มันทำเสียงเลียนแบบโฆษณา

“พอแล้วไอ้เหี้ย!! ฮ่าๆๆ!”

“แหมๆ สองคนนี้ก็มีความสุขกันอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองอย่างเดียวเลยนะ”

“แม่ ลูกแม่มันลิเกอะ! เสี่ยวสุดๆ!” ผมหันไปฟ้องแม่ของไอ้อาร์มที่เดินเข้ามาหาเราสองคน

“ก็เหมือนพ่อมันนั่นแหละ” แม่ยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน “ว่าแต่คืนนี้ต้านอนบ้านนี้กับแม่นะลูก ใช่มั้ย”

“นอนกับแม่อะไรล่ะ มันต้องนอนกับอาร์มสิ มันเป็นของอาร์มนะ ไม่ใช่ของแม่”

“ย่ะ! คราวหลังก็หัดดูแลคนรักของแกให้มันดีๆ ก็แล้วกัน”

“แน่นอน ไม่เชื่อแม่คอยดูได้เลย” ไอ้อาร์มยักคิ้วข้างขวาสองที

“แล้วฉันจะคอยดู ถ้าแกทำลูกฉันคนนี้เสียใจอีกนะ ฉันจะตัดไข่แกก่อนแล้วค่อยตัดแกออกจากกองมรดก!”

“งั้นคงไม่มีวันนั้นหรอกแม่ เชื่ออาร์มดิ” ไอ้อาร์มหันมายิ้มให้กับผม “มึงมานี่หน่อยมา ไปกับกูหน่อย”

“ไปไหนวะ”

“ห้องกู แป๊บนึง”

ผมกับมันสองคนขอตัวแม่และเดินหลบเข้าไปในบ้าน ก่อนจะตรงขึ้นไปยังชั้นสองและเดินเข้าไปในห้องของมัน

“เฮ้ออออ... จริงๆ อยู่กันลำพังแบบนี้ก็สบายใจดีนะ วุ่นวายกันมาแทบทั้งวันละ” ไอ้อาร์มเหยียดตัวนอนลงบนเตียง “มานี่มา!”

“เฮ้ยยย!” ผมถูกมันดึงล้มให้ลงไปนอนทับบนตัวของมัน

“นี่... มึงรักกูมั้ยวะ ไอ้ต้า”

“ถามควายๆ นะมึง”

“แล้วรักมั้ยล่ะ”

“ก็ต้องรักสิวะ ถามได้”

“กูก็เหมือนกัน” มันจุ๊บลงบนริมฝีปากของผมเบาๆ “ก่อนนี้กูไม่เคยคิดเลยนะว่าตลอดเดือนนึงที่ผ่านมา พอกูได้อยู่กับมึง และตัดคนอื่นๆ ที่เคยสร้างแต่ปัญหาให้กู ออกไปจากชีวิตแล้วเนี่ย กูจะรู้สึกสบายใจขนาดนี้อะ”

“ตัดหมดเลยเหรอวะ คนที่มึงเคยบอกว่ารักม๊ากมากสองคนนั้นก็ด้วยน่ะนะ”

“ก็เออสิวะ กูเคยบอกมึงไปแล้วไง”

“เออ กูรู้ กูแค่แซวเล่นเฉยๆ” ผมจุ๊บลงบนหน้าผากของมันเบาๆ

“ไม่เอา ไม่จุ๊บหน้าผากดิ จุ๊บนี่ ตรงนี้” มันทำปากจู๋

“ทุเรศว่ะ!” ผมหัวเราะ “กูก็ไม่เคยคิดเหมือนกันเหอะว่าพอได้อยู่กับมึงจริงๆ แบบนี้แล้วถึงจะรู้ว่ามึงแม่งโคตรปัญญาอ่อนเลยน่ะ”

“แล้วหลังจากนี้มึงจะยังอยู่กับกูต่อไปตลอดมั้ยวะ”

“หืออ กูมีทางเลือกอื่นด้วยเหรอวะ”

“ไม่มีอะ เรียนจบแล้วมึงก็ต้องอยู่กับกู ทำงานแล้วก็ต้องอยู่กับกู กูจะไม่ให้มึงไปไหนทั้งนั้นแหละ”

“เออ กูรู้หรอกน่า เพราะกูเองก็ไม่คิดว่ากูจะไปไหนแล้วเหมือนกัน... ก็กว่าจะได้มึงมาเป็น ‘คนรัก’ แบบนี้ กูต้องลำบากมาตั้งขนาดไหนนี่หว่า ต้องทนเจ็บปวดตอนเห็นมึงไปคบคนนั้นคนนี้มาตั้งนาน ต้องยอมเจ็บตัวตั้งเท่าไหร่กว่ามึงจะรู้ตั...”

“ชู่วววว...” มันรีบยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะลงบนริมฝีปากของผม “ไม่เอา ไม่พูดเรื่องพวกนั้นแล้วนะ เราสัญญากันแล้วไงครับ ที่รัก”

ผมยิ้มน้อยๆ “คร้าบๆ... ที่รัก”

“ดีมากกก เอ้า! ลุกหน่อยซิ กูมีอะไรอยากให้มึงด้วยนะ”

ผมพลิกตัวเป็นนั่งลงข้างๆ มันแทน “อะไรวะ”

มันลุกขึ้นออกจากเตียงแล้วเดินไปหยิบของเล็กๆ บางอย่างขึ้นมาจากบนโต๊ะ จากนั้นก็เดินกลับมานั่งลงข้างๆ ผม

“ขอมือขวาหน่อย เร็ว”

ผมทำตามที่มันสั่งอย่างว่าง่าย จากนั้นมันก็สอดแหวนสีเงินวงหนึ่งเข้ามาในนิ้วนางของผม

“ใส่ให้กูด้วยสิ” มืนยื่นแหวนอีกวงให้กับผม พร้อมกับยื่นมือข้างขวามาให้ผมด้วย

ผมสอดแหวนแบบเดียวกันลงไปในนิ้วนางของมันพร้อมด้วยหัวใจที่พองโต

“มึงให้แหวนกูเหรอวะ ไอ้อาร์ม”

“เออ แต่อันนี้เป็นแค่ของแทนคำสัญญาเฉยๆ นะเว้ย เอาไว้เราเรียนจบเมื่อไหร่ กูจะขอ ‘หมั้น’ มึง จริงๆ ดีๆ อีกครั้งก็แล้วกัน อันนี้ก็แค่ใส่ไว้ให้รู้ว่าเราเป็นของกันและกันไปก่อนพอ... เอ่ออ แค่นี้จะได้มั้ยวะ ไอ้ต้า” มันถามผมด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ “คือกูก็ไม่อยากจะเร่งรัดอะไรมึงมากอะ แล้วกูก็รู้ด้วยว่ากูมันดูตอแหล มึงก็คงยังไม่ค่อยอยากจะเชื่ออะไรกู กูก็เลยอยากจะใช้เวลานานๆ พิสูจน์อะไรหลายๆ อย่างให้มึงรู้น่ะ”

“เกินพอซะด้วยซ้ำ ไอ้อาร์ม!” ผมเหวี่ยงแขนขึ้นกอดมันเอาไว้ทันที “ขอบใจเว้ย... ขอบใจจริงๆ ขอบใจสำหรับทุกอย่าง กูเชื่อมึง กูเชื่อว่ามึงรักกู และกูก็รักมึงเหมือนกันนะเว้ย รักมากๆๆ เลยด้วย”

“กูก็รักมึงเหมือนกัน ไอ้ต้า ขอบใจที่ไม่เคยหมดศรัทธาในตัวของกู ขอบใจที่อยู่เคียงข้างกูตลอดมาและทำให้กูเข้มแข็งขึ้นได้อย่างในทุกวันนี้นะ” มันค่อยๆ ดันตัวของผมออกช้าๆ “เราจะอยู่ด้วยกัน เราจะมีกันและกันแบบนี้ตลอดไปนะ  ‘คนรัก’ ของกู”
มันจับไหล่ทั้งสองข้างของผมเอาไว้และชะโงกหน้าเข้ามาหาผมอย่างช้าๆ ผมค่อยๆ หลับตาลง จากนั้นริมฝีปากของเราสองก็สัมผัสกันอย่างแผ่วเบา

น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากดวงตาของผม ต่อแต่นี้การรอคอยของผมได้สิ้นสุดลงแล้ว...

......................(จบจ้า)......................

ความรักของ 2 คนนี้คืออะไร...?

 :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2016 09:04:04 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ลป. อย่าลืมติดตามว่าจะรวมเล่มเมื่อไหร่นะครับ คลิกที่แฟนเพจได้นะ เพราะผมจะอัพเดทที่นั่นบ่อยๆอยู่แล้ว แล้วในรวมเล่มจะมีตอนพิเศษเพิ่มให้เหมือนเดิมนะครับ ^___^

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
อ่านตอนจบแล้วรู้สึก เฮ้อ! โล่ง โปร่ง สบายใจจัง

ออฟไลน์ Also

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
จบซะแล้ว ขอบคุณคุณต้นสำหรับ Love is กีตาร์กะอาร์ม นะคะ
อ่านแล้วรู้สึกเต็มอิ่มกะตัวละครสองตัวนี้มากเลย
 :กอด1: :กอด1:

แล้วจะรออ่านเรื่องใหม่นะคะ


ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
กว่าจะรักกัน

เล่นเอาน้ำตาพราก

อยากอ่านตอนพิเสดหวานๆน่ารักๆหื่นๆบ้าง

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ทำไมมีแต่คนอยากได้สองคนนี้หื่นๆเนี่ย บุคลิกตัวเอกดูเป็นแบบนั้นเหรอ ของอ้วนกะด้าไม่เห็นมีคนขอเลย ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ peppier

  • ขาดคนรักนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ มีแค่ใจที่รักตัวเองก็พอ.. ~ ♥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
คู่นี้น่ารักง่าาา อ๊างงงงงง  :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ watcharet

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
จบแล้วอ่ะๆๆ  ไม่อยากให้จบเลยๆๆ

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
รักปนเศร้าเคล้าน้ำตามากค่ะพี่
แอบดีใจที่สุดท้ายก็หวานกันได้ 5555+

ออฟไลน์ beery25

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-0
ในที่สุดต้าก็ได้รักแบบไม่ต้องแอบรัก

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
ยินดีกับน้องต้าด้วย
ที่ความรักของต้าสมหวังซะที
 :m4:

name

  • บุคคลทั่วไป
สมหวังกันซักทีน้าา ลุ้นแทบแย่

ljk_sj_lovelove

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดก็จบลงแล้ว..... แหมม โล่งใจ

อ่านเรื่องนี้มันหน่วงๆ จบแฮปปี้ดีใจมากกก

ความรักของสองคนนี้คืออะไรหรอ...ก็หานิยามให้ไม่ได้สักที เหอะๆ

รอรวมเล่มนะคะ

ออฟไลน์ ThE_PaRaN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เรื่องนี้ รัก คือ ....... น้ำตา ....(ของคนอ่าน)  :m15:

สงสารต้าร์มากอ่ะ แต่สุดท้ายก็สมหวังสักทีนะ

แต่งดีมากเลยค่ะ T T (น้ำตายังไหลอยู่)   :m15:

temp.jr

  • บุคคลทั่วไป
รัก คือ การรู้ถึงคุณค่าของคนรักเมื่อสูญเสียเค้าไปแล้ว(รึป่าวคับ) เดาล้วน :D

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ยังไม่มีใครตอบถูกเลยยย สงสัยต้องอ่านใหม่อีกครั้งรวดเดียวตามด้วยอ่านตอนแถมในรวมเล่มล่ะมั้ง ถึงจะนึกออก ฮ่าๆๆ

yamikilling

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วแบบว่ามันรู้สึกบอกไม่ถูกเลยละค่ะ(อ่านไปก็คิดไปว่านี่ละชีวิต!)รู้แต่ว่าชอบมากๆๆๆๆๆ
เศร้าเคล้าน้ำตา  แต่ตอนจบก็สมหวัง(แถมยังหวานซะจนหน้าอิจฉา)

รัก  คือ   การที่เราต้องหันมาทบทวนตนเองและพูดในสิ่งที่เป็นความจริงออกไป  และการคอยช่วยเหลือกันและกันเพื่อก้าวผ่านสิ่งเลวร้าย   .....มั้งค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2011 23:21:45 โดย yamikilling »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด