:: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5  (อ่าน 59886 ครั้ง)

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ทั้งหมดนั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนในปีก่อน ซึ่งตอนแรกผมก็เชื่อคำพูดของมันทุกอย่าง เชื่อในทุกๆ สิ่งที่เรามีให้แก่กัน และเชื่อว่าเราสองคนจะยังเป็นเพื่อนรักที่สนิทกันดีได้เหมือนที่ผ่านๆ มา แต่ทว่าความเป็นจริงมันโหดร้ายนัก เมื่อสุดท้ายแล้วคำสัญญาของมันก็ถูกบิดเบือนไปด้วยผลกระทบจากเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นเข้าจนได้

ผมก็ไม่คิดหรอกว่าสาเหตุที่ไอ้อาร์มมันเริ่มเปลี่ยนไปนั้นจะเป็นเพราะผม แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะการที่มันอกหักมากกว่า ถึงได้ทำให้มันเริ่มกลายเป็นคนเจ้าชู้และเที่ยวเก่งมากขึ้น มันเริ่มคบหาและจีบผู้หญิงมากหน้าหลายตาเยอะขึ้น ซึ่งสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับผมไม่ใช่การที่มันทำแบบนั้นหรอก แต่เป็นการที่ผมแทบไม่ได้รับรู้เรื่องเหล่านั้นจากปากของมันเองเลยมากกว่า
ภายนอกโดยรวม เราสองคนก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ยังคงเรียน ทำงาน ไปเที่ยว พูดคุยกันปกติ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปลึกๆ ก็คือ ไอ้อาร์มแทบไม่ได้ปรึกษาปัญหาอะไรกับผมอีกต่อไป มันแทบไม่เล่าเรื่องของผู้หญิงคนที่มันไปคบหาอยู่ด้วยให้ผมฟังเลย และสิ่งๆ นั้นก็เป็นตัวการใหญ่ที่ทำให้ระยะห่างภายในใจของเราสองคนเริ่มขยายกว้างออกไปมากขึ้นทีละน้อยๆ

หลังสอบกลางภาคของเทอมสองได้ไม่นาน ไอ้อาร์มประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์แถวๆ ร้านเหล้าที่มันไปกินจนแขนขวาหัก ซึ่งสุดท้ายก็เป็นผมอีกนั่นแหละที่มันโทรหาเป็นคนแรก และเป็นคนที่คอยดูแลพยาบาลมันเป็นส่วนใหญ่เวลามันอยู่ที่บ้าน สลับกับไอ้ด้าในเวลาที่มันจำเป็นต้องมานอนที่หอ และในช่วงเวลาระหว่างนั้นเราก็ได้กลับมาใกล้ชิดกันเหมือนเดิม ไอ้อาร์มจึงเริ่มเล่าเรื่องของผู้หญิงคนที่มันไปจีบๆ อยู่ให้ผมฟังมากขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าผมจะดีใจที่ระยะห่างของเราดูจะลดลงเล็กน้อย แต่มันก็เจ็บปวดเหลือเกินที่ต้องมารับรู้ว่าคนที่เราแอบรักกำลังมีความสุขอยู่อย่างปกติสุขดีกับผู้หญิงคนอื่นที่เราไม่รู้จัก

หลังจากจบปีหนึ่ง เกรดของไอ้อาร์มที่ตกลงอย่างฮวบฮาบก็ทำให้พ่อกับแม่ของมันเรียกตัวกลับไปอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมในที่สุด และนั่นก็เป็นอีกครั้งที่เราสองคนจำต้องห่างจากกันไปอีกเล็กน้อย แต่บางทีมันอาจจะเป็นแค่ความรู้สึกของผมคนเดียวก็ได้ เพราะที่จริงเราก็ยังได้คุยกันอยู่บ้าง ไม่ถึงกับหายหน้าจากกันไปเลย แต่ในช่วงปิดเทอมที่ผมไม่ได้เจอกับมันทุกวันเหมือนตอนมีเรียนก็ทำให้ผมรู้สึกเคว้งไปไม่น้อยเหมือนกัน

พูดได้เลยว่าช่วงปิดเทอมหน้าร้อนที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ผมรู้สึกเหงามากที่สุดของที่สุดจริงๆ เพราะไอ้เอกับไอ้ด้าก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัด ไอ้เพื่อนผู้หญิงอีกสองคนก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง อยู่กับครอบครัวบ้าง กับแฟนบ้าง ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ที่คณะ ผมก็ไม่ได้สนิทสนมมากถึงขนาดที่จะทำให้ผมรู้สึกคลายเหงาและสบายใจได้เท่ากับการอยู่กับพวกมัน นอกจากนั้น ไอ้คนที่ทำให้ผมรู้สึกเหงามากที่สุด ก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับรู้เลยว่าทั้งๆ ที่เราสองคนอยู่ใกล้กันมากกว่าเพื่อนคนอื่นๆ แต่ความรู้สึกและความห่วงใยที่เรามีให้แก่กันมันกลับดูห่างไกลกันเหลือเกิน

“มึงคิดมากไปรึเปล่า ไอ้ต้า” ไอ้เอพูดกับผมทางโทรศัพท์ในคืนหนึ่ง “บางทีมึงอาจจะน้อยใจ อาจจะคิดมาก ก็เลยทำให้มึงคิดแบบนั้นไปเองก็ได้นะเว้ย”

“กูก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่... ไอ้เอ มึงก็เห็นไม่ใช่เหรอวะว่าพักหลังมานี้ไอ้อาร์มมันก็ดูห่างๆ ออกไปจริงๆ และที่สำคัญ มันกับกูไม่ได้คุยกันแทบทุกวันเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วนะเว้ย มันไม่ปรึกษาปัญหากับกู ไม่เล่าเรื่องผู้หญิงของมันให้กูฟังเหมือนเมื่อช่วงที่มันแขนหัก แต่มันกลับไปคุยกับไอ้ด้าและกับมึงมากขึ้นแทน หลายครั้งนะเว้ยที่กูรู้สึกน้อยใจจริงๆ เวลาที่มึงสามคนคุยกันเรื่องคนอื่นๆ หรือเรื่องอะไรที่กูไม่รู้มาก่อนน่ะ แต่กูแค่ไม่เคยพูดเท่านั้นเอง”

“แต่กูรู้ ไอ้ด้าเองมันก็รู้”

“พวกมึงรู้เหรอวะ”

“เห็นหน้ามึงก็รู้แล้ว ไอ้ตูด”

“แล้ว... แล้วไอ้อาร์มมันไม่รู้รึไงวะ”

“อันนี้กูก็ไม่แน่ใจว่ะ แต่กูรู้แค่ว่ามันเองก็ไม่ใช่คนโง่หรอก”

“มึงหมายความว่าที่จริงมันก็รู้อยู่แล้วงั้นเหรอวะ แต่ถ้างั้นแล้วทำไมมัน...”

“นี่ ไอ้ต้า กูอ่านใจคนไม่ออกหรอกนะเว้ย กูไม่มีทางรู้ดีไปกว่าตัวไอ้อาร์มเองหรอก แล้วที่สำคัญคือกูเองก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างมึงสองคนด้วย เดี๋ยวก็ดูดี เดี๋ยวก็ไม่ดี อะไรก็ไม่รู้ และกูก็ไม่คิดจะถามด้วย แต่กูคงแนะนำมึงได้แค่อย่างเดียวว่า มึงลองไปคุยกับมันเองเลยดูดีกว่ามั้ยวะ เพราะยังไงไอ้อาร์มมันก็เป็นคนที่คิดอะไรก็มักจะพูดออกมาตลอดอยู่แล้ว และที่สำคัญกว่านั้น กูมั่นใจว่าถึงยังไง มันก็ยังคงรักมึงและแคร์มึงมากเหมือนเดิมอยู่ดีนั่นแหละว่ะ”

คำพูดของไอ้เอทำให้ผมต้องคิดหนักอีกครั้ง และมันยังทำให้ผมคิดไปถึงคำพูดของไอ้อาร์มที่มันบอกว่า ‘รัก’ ผม และ ‘จะไม่มีวันเปลี่ยนไป’ ในวันนั้นขึ้นมาอีกด้วย แต่ทว่ามันก็ไม่ได้ช่วยให้จิตใจของผมสงบลงได้เลย

ในช่วงต้นเทอมหนึ่งของการเป็นนักศึกษาปีสอง ผมก็เริ่มกลับไปหาเพื่อนคุยทางอินเตอร์เน็ตเพื่อคลายเหงาอีกครั้ง ไม่ว่าจะทั้งทางเฟซบุ๊ค เอ็มเอสเอ็น สไกป์ หรือแม้แต่แคมฟร็อก ซึ่งผมก็รู้หรอกว่ามันไม่ดี แต่อย่างน้อยๆ มันก็ช่วยทำให้ผมคลายเหงาลงไปได้อยู่บ้าง โดยคนที่รู้เรื่องนี้ก็มีไอ้เอแค่เพียงคนเดียว

ผมทำแบบนั้นอยู่พักใหญ่ๆ จนกระทั่งไอ้ด้าได้ตกลงรับปากเป็นครูสอนพิเศษให้ไอ้อ้วน และจนมันสองคนตกลงคบกันเป็นแฟนไปแล้วนั่นแหละ ความลับของผมถึงมาแตกเข้าจนได้ เมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งที่ผมรู้จักจากทางแคมฟร็อกมาโพสข้อความลงบนหน้าวอลล์ของผมในเฟซบุ๊ค และไอ้อาร์มก็ดันมาอ่านเจอเข้าพอดี ทำให้มันแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน

วันนี้ พวกเราสามคนได้แก่ ผม ไอ้อาร์ม ไอ้เอ และไอ้ด้า ก็กำลังนั่งกินข้าวกลางวันด้วยกันอยู่ที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัยด้วยบรรยากาศที่น่าอึดอัดอย่างที่สุด เพราะไอ้อาร์มมันยังคงโกรธผมอยู่

“ก็กูไม่ชอบ” มันพูดแบบห้วนๆ “และกูก็ไม่ชอบใจมึงด้วย”

“เออ กูรู้แล้ว... แต่กูก็บอกมึงไปแล้วไม่ใช่รึไงว่ามันไม่มีอะไรหรอก”

“กูจะรู้ได้ไงว่ามึงพูดความจริง ไอ้ต้า แต่ก็เอาเหอะ จริงๆแล้ว มึงจะเคยไปมีอะไรกับแม่งรึยังมันก็ไม่ใช่เรื่องของกูหรอก แต่มึงไม่อายมั่งเหรอวะ ที่เฟซมึงมีผู้ชายใส่กางเกงในตัวเดียวนั่งแหกแข้งแหกขามาโพสว่า ‘ยังน่ารักน่ากินเหมือนเดิม’ เหี้ยอะไรนั่นน่ะ”

ผมหน้าแดงขึ้นทันที เพราะว่าเรากำลังนั่งกันอยู่ในโรงอาหาร และมันก็ไม่ได้พูดเสียงเบาๆ ที่เราจะได้ยินกันแค่ในกลุ่มนี้ด้วย

“เฮ้ย ไอ้อาร์ม มึงไม่เห็นต้องพูดขนาดนั้นเลย” ไอ้ด้าปรามขึ้น ดูท่าทางว่ามันเองก็คงจะรู้สึกอายและกลัวคนอื่นจะได้ยินเหมือนกัน

“กูบอกไปแล้วไงว่ากูไม่เคยมีอะไรกับมัน และนี่มันก็ผ่านมาตั้งสามวันแล้วนะเว้ย มึงจะยังไม่หายโกรธกูอีกเหรอวะ แม่งงง” ผมส่ายหัวเบาๆ

“กูไม่ได้โกรธมึง แต่กูไม่ชอบ เหี้ยแม่งงง คนเป็นเกย์นี่แม่งน่ากลัวฉิบหาย มึงต้องเห็นรูปโปร์ไฟล์ที่มันใช้ว่ะ ไอ้ด้า แม่งโคตรทุเรศเลยว่ะ”

“มันก็ไม่ทุกคนหรอก” ไอ้เอพูดขึ้นบ้าง “กูว่านะ”

“กูว่าแม่งก็คงไม่ต่างกันนักหนาหรอกวะ” มันพ่นลมหายใจออกทางจมูก “แล้วตกลงมึงลบไอ้เหี้ยนั่นออกจากเฟรนด์มึงไปรึยัง ไอ้ต้า”

“ลบแล้ว...”

“เออ ดีแล้ว แล้วคนอื่นๆ ล่ะ ลบแม่งให้หมดเลยรึยัง แม่งงง มึงคุยกับไอ้คนพวกนี้ไปได้ยังไงวะ ไอ้เชี่ย แม่งมีแต่พวกหาเซ็กส์ หื่นๆ ทั้งนั้น”

สิ่งที่มันพูดก็มีส่วนถูกอยู่บ้าง เพราะผมคงปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเป็นเกย์หลายคนก็ทำตัวแบบที่มันบอกจริงๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะคุยและชอบคนแบบนั้นนี่นา ผมเองก็เลือกคนที่จะคุยด้วยอยู่เหมือนกัน และผมก็ไม่ได้คิดที่จะหาคู่นอนผ่านทางอินเตอร์เน็ตแบบที่มันอาจจะกำลังคิดอยู่ตอนนี้ด้วย

“นี่ถ้าไอ้อ้วนเห็นมันจะรู้สึกยังไงวะ น้องกูมันรักมึงมากนะเว้ย มันเคารพมึงมากกว่ากูด้วยซ้ำ แต่มึงเสือกทำตัวแบบนั้นน่ะเหรอ ไปคุยกับผู้ชายคนอื่นในแคมฟร็อกเนี่ยนะเนี่ย”

“พอได้แล้วน่า ไอ้อาร์ม” ไอ้ด้าปรามอีกครั้ง “ไอ้ต้ามันก็ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นนะเว้ย และไอ้กัสเองมันก็คงไม่คิดอะไรแบบนั้นหรอก”

“ช่างมันเถอะ ไอ้ด้า กูผิดเองจริงๆ นั่นแหละ กูมันเหี้ยเอง”

“นี่มึงประชดกูเหรอวะ ไอ้ต้า” ไอ้อาร์มนิ่วหน้าใส่ผม

“เปล่า... กูยอมรับผิดจริงๆ”

“ถึงน้องกูมันจะตกลงคบกับไอ้ด้าแล้ว และถึงกูจะยอมรับมันได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากูอยากให้น้องกูเห็นต้นแบบเหี้ยๆ จากมึงแบบนั้นนะเว้ย จะบอกให้”

“มึงพูดเกินไปแล้วนะ ไอ้อาร์ม!” ไอ้เอพูดเสียงเข้ม “นี่เพื่อนมึงนะเว้ย คนที่มึงกำลังพูดถึงอยู่นั่นน่ะ มึงจะพูดเหี้ยอะไรก็คิดถึงจิตใจคนฟังด้วยเว้ย!”

“ก็กูพูดความจริงนี่หว่า คนผิดมันก็ต้องยอมรับผิดสิวะ กูบอกแล้วไงว่ากูรับไม่ได้ ที่แม่งไปคุยกับผู้ชายในแคมฟร็อกอะไรแบบนั้น มันมั่วอะ กูว่ามันทุเรศ”

“เออ! ไอ้เหี้ย!!” ผมทุบโต๊ะเสียงดังพร้อมกับลุกขึ้นยืน ผู้คนที่อยู่รอบตัวพวกเราต่างก็เงียบลงและหันมามองที่ผมเป็นตาเดียวกันทันที “ตกลงคือมึงเห็นกูเหี้ย เห็นกูทุเรศแบบนั้นไปแล้วใช่มั้ย! สรุปว่าตลอดเวลาปีกว่าที่กูกับมึงรู้จักกันมา กูไม่เคยมีอะไรดีในสายตาของมึงเลยใช่มั้ยวะ ไอ้อาร์ม!! มึงคงคิดว่ากูมันมั่วมากเลยงั้นสิ! ก็ได้! ถ้าแบบนั้น มึงก็ไม่ต้องมายุ่งกับคนเหี้ยๆ อย่างกูอีกเลยก็แล้วกัน!!”

ผมตะคอกใส่หน้าของมันด้วยความโกรธ ผมไม่เคยรู้สึกโมโหใครมากขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต ความเดือดดาลที่พลุ่งพล่านไปทั่วทั้งร่างทำให้ร่างกายของผมสั่นเทาออกมาเล็กน้อย

แม่งงง! ที่จริงผมรู้สึกราวกับจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้วด้วยซ้ำ!

“ไอ้ต้า! มึงใจเย็นๆ ก่อนเว้ย” ไอ้ด้ารีบลุกขึ้นยืนแล้วจับแขนของผมเอาไว้ “ไอ้อาร์มมันก็ไม่ได้คิดขนาดนั้นหรอก”

“ไม่คิดเหี้ยอะไร!!” ผมสะบัดแขนออก “กูเย็นไม่ไหวแล้ว ไอ้ด้า! กูรู้ว่ากูทำไม่ดี กูรู้ว่ากูทำให้มันผิดหวัง แต่แม่งเคยรู้มั่งรึเปล่าล่ะว่าที่กูต้องเหงา ที่กูต้องเป็นแบบนั้น ที่จริงแล้วมันเป็นเพราะอะไร! แล้วขอโทษทีเหอะว่ะ! กูเองก็แค่ ‘คุย’ แต่ไม่เคย ‘เอามั่วซั่ว’ แบบที่มันทำมาตลอดด้วยซ้ำ!”

จู่ๆ เสียงของผมก็เริ่มสั่น และน้ำตาของผมก็เริ่มไหลรื้นขึ้นมาอยู่ที่ขอบตา

“เฮ้ย ไอ้ต้า...”

“โทษทีว่ะ ไอ้ด้า ไอ้เอ” ผมหยิบกระเป๋าขึ้นแล้วรีบเดินออกจากโต๊ะที่พวกเรานั่งอยู่ไปทันที

ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งผ่านผู้คนจำนวนมากมายด้วยดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตา ผมเพิ่งได้รู้เดี๋ยวนี้เองว่าที่ผมรู้สึกโมโหจนแทบจะร้องไห้ในตอนแรกนั้นแท้จริงแล้วไม่ใช่ความรู้สึกโกรธ แต่หากเป็นความรู้สึกเสียใจและน้อยใจอย่างถึงที่สุด

คำพูดแต่ละคำของไอ้อาร์มบาดและกรีดลึกลงไปในหัวใจจนผมไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้อีกต่อไป แต่ทว่าความเจ็บปวดที่เลวร้ายที่สุดนั้นกลับไม่ได้เกิดจากคำพูดเหล่านั้นของมัน หากแต่เป็นเพราะสิ่งเหล่านั้นถูกพูดออกมาจากปากของมัน คนที่ผมรัก และเคยบอกว่ารักผมต่างหาก

มัน... คนที่เคยบอกว่าเรื่องระหว่างเราจะไม่มีวันเปลี่ยนไป แต่ในวันนี้มันกลับมองผมด้วยความรู้สึกที่เลวร้ายและคงไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิม

“แม่งเอ๊ยยยย!!” ผมสบถออกมาเสียงดังและค่อยๆ ชะลอฝีเท้าลง จากนั้นก็ใช้แขนเสื้อปาดน้ำตาออกจากหางตาของตัวเอง

“ต้า! ต้า!!” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังกระชั้นขึ้นเรื่อยๆ จากทางด้านหลังของผม

ผมหันกลับไปมองคนที่กำลังวิ่งเหยาะๆ ตรงเข้ามาหาผมด้วยความประหลาดใจ

“พี่อาร์ท”

“เป็นอะไรเนี่ย ทำไมจู่ๆ ก็เดินพรวดพราดไม่สนใจใครแบบนั้น พี่เรียกเราตั้งหลายทีแล้ว ไม่ได้ยินพี่เลยเหรอ”

“ต้า... ต้าไม่...”

“ต้าร้องไห้เหรอ! เกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรต้ามาเนี่ย มีปัญหาอะไร”

“เปล่า ไม่มีอะไรครับพี่” ผมปฏิเสธและตั้งท่าจะเดินหนีไป

“เดี๋ยว” เขาคว้าแขนของผมเอาไว้ “ฟังพี่นะ ต้า พี่รู้ว่าพี่ทำไม่ดีกับต้าไว้ แต่พี่ยังคงรักและเป็นห่วงต้าเหมือนเดิมนะเว้ย ที่ผ่านมาพี่ขอโทษ พี่เห็นเราเป็นแบบนี้แล้วพี่ก็ไม่สบายใจจริงๆ อย่างน้อยๆ ก็คิดถึงวันเวลาดีๆ ที่เรามีด้วยกัน เชื่อใจพี่สักนิด แล้วระบายออกมาให้พี่ฟังบ้างก็ได้”

เมื่อผมได้ยินสิ่งที่พี่อาร์ทพูดแล้ว น้ำตาของผมมันกลับยิ่งจะไหลรื้นมากขึ้นไปอีก ผมจึงต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างเต็มที่ และหันไปมองหน้าของพี่เขา

“งั้นเราไปที่หอพี่ก็ได้ครับ ต้าไม่อยากอยู่ที่ที่คนเยอะๆ”

หลังจากที่เราไปถึงที่หอใหม่ของพี่อาร์ทแล้ว ผมก็ดื่มเบียร์ที่เหลืออยู่ครึ่งโหลในห้องของเขาเข้าไปคนเดียวจนหมด นอกจากนั้นพี่อาร์ทก็ยังซื้อกับแกล้มขึ้นมานั่งกินเป็นเพื่อนผมด้วย ซึ่งพอผมเริ่มจะรู้สึกมึนๆ ขึ้นมาแล้ว ผมก็เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้พี่อาร์ทฟัง ไม่ว่าจะเรื่องของผมกับไอ้อาร์มในห้องน้ำคืนนั้น เรื่องที่ผมเริ่มคุยกับคนในอินเตอร์เน็ต ไปจนถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่

ผมดื่มหนักมากทั้งเบียร์และเหล้าที่พี่อาร์ทซื้อเพิ่มมาให้ จนในที่สุดผมก็เริ่มจะไม่รู้ตัวแล้วว่าผมพูดหรือทำอะไรลงไปบ้าง จนกระทั่งสิ่งสุดท้ายที่ผมรู้สึกก็คือสัมผัสจากร่างกายของพี่อาร์ทที่แบกผมขึ้นไปนอนบนเตียง แล้วหลังจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2016 08:47:12 โดย ExecutioneR »

winnie_the_far

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งจะอ่านครั้งแรก... อ่านตอนล่าสุด สนุกอ่ะ เดี๊ยวไปตามอ่านแต่แรกดีกว่า

ออฟไลน์ Also

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
 :m15:เศร้าอ่ะทำไมคนรักกันต้องใช้คำพูดทำร้ายกันขนาดนี้ด้วย
เป็นกำลังใจให้ต้า และคนเขียนนะคะ

golfgab

  • บุคคลทั่วไป
อย่านะ ไม่ นะ ไอ้อาร์ท
พี่อาร์ม มาช่วยด่วน

มานอนรอ ตอนต่อไป ค้าง ๆ สุด ๆ อ่ะ พี่ต้น ^^

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
อย่าทำอะไรร้ายๆ นะพี่อาร์ท  อ่านแล้วกลัวใจคนเขียนจังเล้ย
เป็นกำลังใจให้นะ 
รออ่านตอนหน้าจ้า

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
เช้าวันต่อมา ผมตื่นขึ้นพร้อมด้วยอาการปวดหัวจนแทบระเบิดและคอที่แห้งจนเป็นผง ผมหยีตาขึ้นด้วยความทรมานและกวาดสายตามองไปรอบห้องก็ไม่พบใครคนอื่นในห้องอีกเลย ผมต้องใช้เวลาหลายสิบวินาทีกว่าจะนึกออกด้วยซ้ำว่าผมอยู่ที่ไหนและมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

ผมค่อยๆ ลากตัวเองคลานลงจากเตียง แล้วเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำข้างในมากระดกรวดเดียวจนหมด อาการปวดหัวอย่างหนักทำให้ในตอนแรกผมไม่ได้นึกถึงสภาพอาการอย่างอื่นของตัวเองอีกเลย แต่เมื่อผมพยายามจะเดินจากตู้เย็นไปเข้าห้องน้ำโดยใช้มือยันผนังห้องไปเรื่อยๆ ผมก็เพิ่งรู้สึกถึงอาการเจ็บที่ก้นของตัวเอง และยังรู้สึกถึงคราบเหนียวแปลกๆ แถวๆ บริเวณนั้นและต้นขาของตัวเองอีกด้วย

เมื่อผมเดินเข้าไปในห้องน้ำและถอดกางเกงออกแล้ว ผมถึงได้รู้ว่าคราบเหนียวๆ ที่เลอะอยู่ตรงก้นและขาของตัวเองนั้นคือคราบน้ำกามและคราบเลือดที่แห้งกรัง ผมยืนพิงผนังห้องน้ำอย่างอ่อนแรง รู้สึกกลัวความคิดของตัวเอง และขาของผมก็สั่นเทาจนในที่สุดมันก็ไม่สามารถค้ำยันรับน้ำหนักของผมได้อีกต่อไป ผมจึงทรุดตัวลงนั่งแล้วปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้

“ต้า อยู่ในห้องน้ำเหรอ พี่ซื้อข้าวเที่ยงมาให้แล้วนะ” เสียงของพี่อาร์ทดังขึ้นหลังจากที่สิ้นเสียงประตูห้องที่ปิดลง

ผมลุกขึ้นจากพื้นแล้วเดินไปล็อคประตูห้องน้ำทันที

“ต้า ทำอะไรน่ะ!” พี่อาร์ทเดินเข้ามารัวกำปั้นลงบนประตูห้อง “ล็อคประตูห้องน้ำทำไม!”

“เมื่อคืนพี่ทำอะไรต้า!!” ผมตะโกนตอบกลับไปโดยพยายามบังคับเสียงให้สั่นน้อยที่สุด แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่

พี่อาร์ทเงียบลงไปครู่หนึ่ง แต่แล้วจู่ๆ ผมก็ได้ยินเสียงไขกุญแจ และจากนั้นแค่เพียงอึดใจเดียว ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก

“ต้าลืมไปรึเปล่าว่าที่นี่มันห้องพี่ พี่มีกุญแจนะ”

“ออกไปเถอะพี่! ต้าขอร้อง!!” ผมพูดด้วยเสียงสั่นเครือ หัวของผมปวดจนแทบจะระเบิด

“ต้าฟังพี่ก่อนสิ เมื่อคืนต้าจำอะไรไม่ได้เลยรึไง....” เขาเดินเข้ามาจับแขนของผม “เมื่อคืนต้าเองก็มีความสุขจะตายไป ลืมแล้วเหรอครับ”

ผมสะบัดแขนออก “ไม่จริง! ต้าไม่เชื่อ!”

“ต้าจะไม่เชื่อก็ตามใจ แต่มันเป็นเรื่องจริง พี่ไม่ได้ฉวยโอกาสอะไรจากต้าเลยนะ แต่ต้ายอมให้พี่เองจริงๆ ต้าบอกว่าต้าอยากจะลืม และอยากจะมีอะไรกับพี่อีกครั้ง”

ผมรู้สึกสับสนไปหมด ความทรงจำของผมช่างดูเลือนลาง และยิ่งผมพยายามคิดถึงมันมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้สึกปวดหัวคลื่นไส้มากขึ้นเท่านั้น

“อุ๊... อ้วกกกก!!” จู่ๆ ผมก็อ้วกออกมาแบบควบคุมไม่ได้ พี่อาร์มที่นั่งยองๆ อยู่ข้างๆ จึงรีบกระโดดโหยงหลบทันที

“เอ๊า! เวรเอ๊ยยยย!!”

“ค่อกๆๆ!” ผมสำลักจนแสบคอ

“เฮ้ออออ เวรกรรมจริงๆ กู” เขานั่งลงมาตบบ่าผมเบาๆ “เลอะหมดแล้ว ต้าเอ๊ยย ไปอาบน้ำเถอะ พี่อาบให้”

ผมที่หมดเรี่ยวแรงจะต่อล้อต่อเถียงกับเขาอีก ยอมให้เขาถอดเสื้อออกอย่างว่าง่าย และในเมื่อผมเองก็เปลือยท่อนล่างอยู่แล้ว หลังจากที่ถอดเสื้อออกเรียบร้อย พี่เขาจึงสามารถพยุงผมไปยืนอยู่ใต้ฝักบัวได้ทันที

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ผมก็เดินกลับมาล้มตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้งทั้งๆที่ยังแก้ผ้าอยู่แบบนั้น

“ต้าอยากกลับบ้าน.....” ผมพูดเบาๆ

“อย่าเพิ่งกลับตอนนี้เลย นอนพักผ่อนไปก่อนเถอะ” พี่อาร์ทเดินไปทำอะไรบางอย่างตรงโต๊ะข้างตู้เย็น “พี่ซื้อข้าวต้มมาให้น่ะ จะแกะไว้ให้ก็แล้วกัน กินไหวก็ลุกขึ้นมากินซะล่ะ”

“แล้วพี่จะไปไหน”

“เดี๋ยวพี่จะออกไปโทร.... ออกไปธุระข้างนอกแป๊บนึงน่ะ อีกแป๊บเดียวก็กลับมาแล้ว”

ผมพยักหน้าเบาๆ และก่อนที่ผมจะหลับตาลงนั้นเอง ผมก็หันไปเห็นของบางอย่างที่ก่อนหน้านี้ผมไม่ทันได้สังเกตเห็นถูกวางอยู่บนพื้นห้อง ข้างๆ ถังขยะตรงโต๊ะเขียนหนังสือ

ซึ่งมันคือซองถุงยางที่ถูกฉีกออกแล้ว และ ‘ไอ้นั่น’ ปลอมขนาดเขื่อง

ผมหลับตาแน่นด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้าง แต่แค่นี้ผมก็พอจะรู้แล้วว่าอะไรคือต้นเหตุที่ทำให้ผมกำลังรู้สึกเจ็บแสบที่ก้นอยู่แบบนี้

“ทำไมล่ะ ทีเมื่อคืนต้ายังชอบที่พี่ทำให้อยู่เลย” พี่อาร์ทพูดขึ้นหลังจากที่คงรู้ว่าผมเพิ่งจะเห็นอะไรและกำลังคิดอะไรอยู่ “ไม่แน่นะ คืนนี้ต้าอาจจะอยากทำอะไรแบบเมื่อคืนอีกก็ได้” เขานั่งลงบนเตียงแล้วหอมแก้มผมเบาๆ

ผมสะบัดหน้าหนี “ต้าอยากนอน”

“ก็นอนไปสิ” เขาลุกขึ้น “ยากับน้ำอยู่บนโต๊ะนะ ข้าวต้มด้วย ถ้าอยากกินร้อนๆ ก็อุ่นเอาเองก็แล้วกัน พี่ไปละ”

เมื่อพี่ต้าเดินออกจากห้องไปแล้ว ผมก็คิดอยากจะหยิบโทรศัพท์มือถือที่ปิดไปตั้งแต่เมื่อวานขึ้นมาเปิดดูอีกครั้ง แต่ทว่าทิฐิของผมก็เป็นตัวที่สั่งห้ามเอาไว้ และผมเองก็ไม่รู้ว่าผมอยากจะโทรหาใครหรือเล่าให้คนอื่นฟังอย่างไรดีด้วย

ผมค่อยๆ ลุกออกจากเตียงและเดินไปกินยาแก้ปวดที่พี่ต้าเตรียมไว้ให้สองเม็ด จากนั้นก็เดินกลับมานอนที่เดิม ความสับสน ความเศร้า และความกังวลต่างเข้ามารุมเร้าผมจนรู้สึกไม่สงบ แต่ทว่าไม่นานหลังจากนั้น อาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยอ่อน ความเพลีย หรืออาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา ที่ค่อยๆ ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย และเริ่มจะเคลิ้มหลับลงไปในที่สุด

แต่ทว่าก่อนที่ผมจะหลับลงไปได้สนิทนั้นเอง ผมก็ได้ยินเสียงประตูห้องที่ถูกเปิดออก ผมพยายามจะลืมตาขึ้นแต่ก็ไม่สามารถทำได้ และเมื่อผมพยายามจะอ้าปากพูดออกมา ผมก็ยังทำไม่ได้อีกเช่นกัน คำพูดที่ออกมาจากปากของผมเป็นเพียงเสียงอ้อแอ้ๆ ที่จับใจความไม่ได้ ผมพยายามจะขยับตัว พยายามที่จะยกแขนขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำได้อีกเช่นกัน ความผ่อนคลายและความง่วงที่เคยครอบงำผมเมื่อครู่เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นที่ทำให้ผมรู้สึกกลัว ถึงแม้สมองของผมจะไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ทว่าความกลัวจากจิตใต้สำนึกที่ก่อตัวขึ้นจากเบื้องลึกนั้นกลับร้องเตือนผมดังมากขึ้นเรื่อยๆ

นี่พี่อาร์ทมันเอายาอะไรให้ผมกินเนี่ย!!

ผมพยายามจะอ้าปากร้อง อยากจะถามว่าเขาทำอะไรกับผม แต่ผมก็ทำไม่ได้ ประสาทการทำงานทุกอย่างของผมดูเหมือนจะถูกทำลายลงไปอย่างสิ้นเชิง มีแค่เพียงสิ่งเดียวที่ดูเหมือนจะยังพอใช้การได้เกือบเป็นปกติ นั่นคือ ประสาทการได้ยิน เพราะผมยังพอได้ยินสิ่งที่พี่อาร์ทพูดและยังพอจับใจความได้อยู่บ้าง

“ต้า... ต้า...” พี่อาร์ทพูดพร้อมกับเขย่าตัวของผมเบาๆ “กินยาที่พี่ให้ไปแล้วใช่มั้ย”

ผมพยายามจะตอบกลับเขาไป แต่ก็ทำไม่ได้

พี่ต้าผละออกจากเตียงแล้วเดินออกจากห้องไปอีกครั้ง แต่แล้วอีกไม่นานถัดมา เขาก็กลับเข้ามาพร้อมกับสิ่งที่ทำให้ความกลัวของผมกลับยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ

เพราะผมคิดว่าผมได้ยินเสียงของคนที่เดินเข้ามาในห้องมากกว่าหนึ่งคน

ผมพยายามจะลืมตาและถามว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น เขาคิดจะทำอะไรกับผม และเงาคนลางๆ ที่ผมเห็นนั้นคือใคร แต่ทว่าก็ไร้ประโยชน์ เพราะว่าผมไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย ตอนนี้แม้แต่ประสาทการรับฟังและการทำงานของสมองก็ดูเหมือนจะเริ่มถดถอยลงไปมากด้วยเช่นกัน

ขณะที่ผมกำลังรู้สึกสับสนอยู่นั้น มีใครบางคนช้อนหัวของผมขึ้น และป้อนน้ำให้ดื่ม ลำคอของผมที่เคยแห้งผากกลับชุ่มชื้นขึ้น ความเย็นของน้ำทำให้ประสาทการรับรู้ต่างๆ ของผมตื่นตัวขึ้นนิดหน่อย จนในที่สุดผมก็พอจะจับใจความของสิ่งที่ผมได้ยินได้บ้าง

“มึงไปจัดการตั้งกล้องสิวะ”

ผมอยากจะกรีดร้องและรีบลุกขึ้นหนีไปจากที่นี่ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ความคิดเหล่านั้นก็พังทลายลงไปเมื่อร่างกายของผมไม่ยอมทำตามคำสั่งของผมเลย

ผมถูกทิ้งให้นอนลงบนเตียงคนเดียวอีกครั้ง และสิ่งถัดมาที่ผมรู้สึกหลังจากนั้นไม่นานคือมือจำนวนมากที่ทั้งจับ ขยำ และลูบไล้ไปตามร่างกายของผมจนทั่ว ตามมาด้วยการโลมเลียไปตามส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะที่ซอกคอ ซอกขา หน้าท้อง และหัวนม

“อื๊อออออ!!” ผมร้องออกมาเมื่อจู่ๆ ก็ถูกกัดเข้าที่หัวนมอย่างแรง

“เฮ้ย! มึงอย่ากัดมันแรงนักสิวะ”

“ก็กูชอบนี่หว่า ว่าแต่ทำไมมันยังร้องได้วะ มันไม่น่าจะเจ็บแล้วไม่ใช่รึไง”

“มันยังเจ็บเว้ย แต่แค่จะขัดขืนไม่ได้แค่นั้นเอง”

เสียงของผู้ชาย 2-3 คนคุยกันอยู่ใกล้ๆ ผม และบทสนทนาที่ผมได้ยินก็ไม่ได้ช่วยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว
ผมพยายามร้องและดิ้นรนขัดขืนคนเหล่านั้น แต่ทว่าก็ไม่ประสบความสำเร็จ เสียงที่ดังออกมาจากลำคอของผมมีเพียงเสียงครางอืออาๆ ที่ดูเหมือนจะยิ่งทำให้คนเหล่านี้พอใจเข้าไปใหญ่ และแล้วในที่สุด สิ่งที่ผมหวาดกลัวก็เกิดขึ้นจริงจนได้ เมื่อผมรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ก้นจากการสอดใส่อย่างรุนแรง แต่เสียงร้องของผมก็ไม่ได้ช่วยให้ความเจ็บปวดนั้นทุเลาลงได้เลย เพราะคนที่กำลังสอดใส่ผมอยู่นั้นกระแทกสะโพกเข้าออกอย่างรุนแรงด้วยความสะใจ  และที่แย่ไปยิ่งกว่านั้นก็คือ นอกจากความเจ็บแสบจากการเสียดสีตรงบริเวณก้นกับอาการจุกในช่องท้องแล้ว ผมยังต้องทนเจ็บจากการถูกกัดที่หัวนมและซอกคอจำนวนหลายแผลอีกด้วย ถึงแม้ว่าผมจะขัดขืนไม่ได้ และถึงแม้ว่าผมจะไม่แน่ใจนักว่าตอนนี้สภาพร่างกายของผมเป็นอย่างไรบ้าง แต่ผมก็ภาวนาอยู่ในใจว่าขอให้ความรู้สึกแฉะๆ ที่ผมรู้สึกได้จากที่หัวนมทั้งสองข้างนั้นเป็นแค่เพียงน้ำลายเท่านั้นทีเถอะ

กิจกรรมอุบาทว์ที่มีผมเป็นของเล่นของพี่อาร์ทและเพื่อนๆ ยังคงดำเนินต่อไป ความเจ็บปวดเหล่านั้นลดลงเล็กน้อยและเริ่มเปลี่ยนเป็นความแสบจนชาไปทั่วทั้งร่างเมื่อผมถูกบังคับให้ดมสารอะไรบางอย่างอยู่ตลอด และเมื่อผมถูกปล่อยทิ้งเอาไว้บนเตียงคนเดียวด้วยสภาพที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำกามของคนเหล่านี้ ผมคิดมันคงจบลงแล้ว แต่กลับต้องรู้สึกเสียใจที่คิดแบบนั้น เมื่อจู่ๆ ผมก็ถูกอะไรบางอย่างยัดเข้ามาที่ด้านหลัง ซึ่งผมแน่ใจเลยว่ามันไม่ใช่แค่ไอ้นั่นของคนพวกนี้หรือแม้แต่ของเล่นที่ผมเห็นวางไว้บนพื้นก่อนหน้านี้ด้วย เพราะขนาดของมันใหญ่กว่ามาก

ผมร้องออกมาอย่างสุดเสียงและพยายามดิ้นหนีอย่างสุดแรงเกิดเท่าที่จะทำได้ แต่ทว่าก็ถูกมือเหล่านั้นกดเอาไว้ ความเจ็บปวดที่ผมรู้สึกมันเป็นอะไรที่ไม่สามารถบรรยายออกเป็นคำพูดได้เลย มันทั้งร้อน ทั้งแสบ และเจ็บยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ในชีวิต เจ็บจนผมเชื่อจริงๆ แล้วว่าช่องทางด้านหลังของผมมันต้องฉีกแน่ๆ และความเจ็บปวดที่มากเกินกว่าผมจะทานทนได้ก็ทำให้ผมสลบลงไปในที่สุด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-11-2014 22:18:43 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
-*- อ๊ากกกกกกกกกกก เกิดเรื่องแบบนี้จนได้ อาร์มมาช่วยต้าอย่างด่วนเลย

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
อาร์ทแม่งโคตรเลว :z6:ซักที :z6:

golfgab

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้มันเป็นแค่ ความฝัน ไม่อยากให้มันเศร้าแบบนี้เลยอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ watcharet

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
โห!!!สุดๆอ่ะ เลวมากๆๆ

ommaomma

  • บุคคลทั่วไป
เลววววววววววววววววววววววววววว T_T
กรี๊ดดดดดดดดดด สงสารต้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ kengjung23

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 เม้นให้ก่อนยังไม่ได้อ่านเลย เรื่องนี้คงสนุกไม่เเพ้กระดานดำน้อ

ออฟไลน์ kengjung23

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านจบเเล้ว ไม่อยากให้เป็นเรื่องจริงเลย ขอให้เป็นความฝันได้มั๊ย

ออฟไลน์ peppier

  • ขาดคนรักนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ มีแค่ใจที่รักตัวเองก็พอ.. ~ ♥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
สงสารต้าาาาาา

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ผมรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งในสภาพเปลือยเปล่า สมองของผมยังคงทำงานไม่เป็นปกติ แต่ผมก็ยังมีสติพอที่จะสำรวจร่างกายของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก และสิ่งที่ผมเห็นก็ทำให้ผมต้องทำหน้าเหยเกด้วยความขยะแขยง เพราะผมพบว่าทั่วทั้งร่างกายของผมมีแต่คราบเลือดและคราบน้ำกามที่แห้งกรัง ผมพยายามจะขยับมือและแขนทั้งสองข้าง แต่เพราะมันถูกมัดติดไว้กับหัวเตียงทำให้ผมไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นอกจากนั้นผมยังรู้สึกเจ็บแสบไปทั่วทั้งร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงบริเวณด้านหลังที่ผมเพิ่งจะนึกออกว่าถูกอะไรบางอย่างยัดเข้าไปจนทำให้ผมถึงกับสลบ

“เฮ้ยยย เด็กมึงตื่นแล้วว่ะ ไอ้อาร์ท!”

ผมสะดุ้งและรีบผงกหัวขึ้นเพื่อพยายามมองหาที่มาของเสียง แล้วก็พบกลุ่มคน 4 คนกำลังนั่งกินเหล้าและดูดบุหรี่ด้วยกันอยู่

“พอดีเลย กูกำลังเงี่ยนพอดีเลยว่ะ” คนๆ เดิมพูดซ้ำ

“เฮ้ยย อีกแล้วเหรอวะ มึงนี่มันขี้เงี่ยนจริงๆ ว่ะ ไอ้เหี้ยป๋อง” อีกคนหนึ่งหัวเราะขึ้นเบาๆ

“ก็เพราะยามึงนั่นแหละ ไอ้เหี้ย ทำกูเงี่ยนขนาดนี้น่ะ ของแม่งดีจริงๆ ไอ้สาดดด”

“แป๊บซิพวกมึง” คราวนี้พี่อาร์ทพูดขึ้นบ้าง เขาลุกขึ้นยืนและเดินตรงเข้ามาหาผมที่เตียงพร้อมรอยยิ้ม “เป็นยังไงบ้าง สนุกมั้ย”

“ไอ้... เหี้ย!” เสียงของผมที่ดังผ่านปากออกมาเหลือเพียงแค่ลมเบาๆ ไม่ต่างจากเสียงกระซิบเท่านั้น

“หืออ อะไรนะ อยากโดนอีกเหรอ” พี่อาร์ทหัวเราะเบาๆ

ผมมองหน้าของเขาด้วยความเจ็บใจและความเคียดแค้น

“เฮ้ย! แต่ตูดมันยังแหกอยู่เลยนะเว้ย! เลือดเพียบเลย มึงจะเอาลงเหรอวะ” เสียงอีกเสียงดังขึ้น

“ไม่เห็นเป็นไรเลย ไอ้เหี้ย แม่งโดนแค่กำปั้นยัดเข้าไปแค่นี้เสือกทำสำออย สลบไปเสียฉิบ แม่งงง ไม่เห็นเหมือนในหนังโป๊ที่มึงเคยให้กูดูเลยวะ ไอ้อาร์ท! แต่เดี๋ยวไงก็ใช้ครวยปลอมของมึงนำร่องดูก่อนก็ได้นี่หว่า คราวนี้กูจะยัดเข้าไปให้มิดลำเลย คอยดู”

ผมหน้าซีดเผือดทันที พี่อาร์ทที่นั่งมองหน้าผมอยู่อมยิ้มออกมาน้อยๆ เมื่อผมลองนึกดูดีๆ แล้วจึงคิดได้ว่าพวกเขาคงไม่ได้แค่กำลังกินเหล้าและสูบบุหรี่อย่างเดียวแน่ๆ

“ไม่... ไม่...” ผมบังคับให้เสียงลอดผ่านจากลำคอที่แห้งผากได้อย่างยากลำบาก “ไม่เอา...”

พี่อาร์ทก้มลงมาซุกลงบนซอกคอของผมพร้อมกับขบกัดเบาๆ กลิ่นที่โชยออกมาจากร่างกายของเขาทำให้ผมอยากจะอ้วก ผมพยายามบิดตัวหนี แต่ก็ไม่สำเร็จ และในอีกไม่กี่อึดใจต่อมา ผมก็ถูกคนอีกคนหนึ่งจับขาเอาไว้

“เฮ้ย กูว่าจับมันนอนคว่ำดีกว่าว่ะ” คนที่ชื่อป๋องพูดขึ้น “แบบนี้กูเอาครวยปลอมยัดไม่ถนัดว่ะ แม่งดิ้นไปดิ้นมาอยู่ได้”

“ไม่เอาอะ ไอ้เหี้ย!” คนสุดท้ายที่ยังนั่งอยู่บนพื้นพูดขึ้น “แบบนั้นกูก็เลียหัวนมมันไม่ได้ดิวะ แค่นี้มึงสู้แรงมันไม่ได้รึไง ไอ้สัตว์ป๋อง มึงก็ให้ไอ้เหี้ยเต๊ะ ไม่ก็ไอ้อาร์มช่วยจับขาไว้ก็ได้นี่หว่า”

“เฮ้ยๆๆ กูบอกมึงตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ ไอ้แมน ว่าให้กัดมันเบาๆ หน่อย ไอ้เหี้ยนี่ก็โรคจิตชิบหาย กัดแฟนกูจนหัวนมแทบหลุด เลือดท่วมแล้วเนี่ย” พี่อาร์ทเงยหน้าขึ้นหันไปพูดกับเพื่อนของเขา

“ไอ้เหี้ยย..ย...” ผมขบฟันแล้วพูดออกไปให้ดังที่สุดเท่าที่ทำได้

“หืมม ว่าไงนะ” พี่อาร์ทหันมาพูดกับผม “นี่น่ะเหรอ คำพูดของคนที่อุตส่าห์ให้ที่พักพิงหาข้าวให้กินน่ะ หือออ” เขาตบหน้าผมอย่างแรง แล้วใช้มือขวาช้อนคางพร้อมกับบีบแก้มทั้งสองข้างของผมให้เงยหน้าขึ้นไปสบตากับเขา “ทำตัวดีๆ แล้วพี่จะดูแลเราเอง เป็นแฟนพี่มันไม่ดีตรงไหนวะ ฮะ ถ้าตอนนั้นต้ายอมทำตามที่พี่เสนอซะก็คงไม่มีปัญหาไปตั้งนานแล้วแท้ๆ แต่ถ้าจะปฏิเสธพี่อีกล่ะก็ คลิปที่เราสนุกกันเมื่อตอนเย็นก็อาจจะหลุดไปทั้งมหาวิทยาลัย จนไอ้อาร์มมันมาเห็นเข้าก็ได้นา... ไม่สิ แต่ถึงมันจะเห็น มันก็คงไม่สนใจหรอกมั้ง เพราะมันก็ไม่ชอบคนสำส่อนแบบต้าอยู่แล้วนี่หว่า จริงมั้ย”

น้ำตาของผมมันรื้นขึ้นมาที่ขอบตาทั้งๆ ที่ผมไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของผมเลย

“เฮ้ย ไอ้เต๊ะ มึงไปเอากล้องมาดิ๊วะ เอามาให้มันดูสภาพของมันเมื่อเย็นหน่อย”

เมื่อพี่อาร์ทรับกล้องวีดีโอมาจากเพื่อนแล้ว เขาก็เปิดให้ผมดูภาพที่ผมคิดว่ามันคือหนังโป๊ใต้ดินเกรดต่ำ ที่มีผู้ชายคนหนึ่งถูกชายอีกสี่คนที่ใส่หน้ากากปิดหน้าปิดตาเอาไว้รุมเล้าโลมจนทั่วทั้งร่างกาย โดยที่คนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นไม่ได้มีท่าทีขัดขืนมากไปกว่าการส่งเสียงครางในลำคอเบาๆ และบิดตัวไปมาด้วยความเสียวซ่านเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เลย! คนที่อยู่ในวีดีโอนั้นก็คือผมที่พยายามจะดิ้นหนีแต่ทว่าไร้เรี่ยวแรงที่จะทำอย่างนั้นได้ต่างหาก!

“ใครเห็นก็ต้องคิดว่าต้ายินยอมทั้งนั้นแหละ จริงมั้ย” พี่อาร์ทส่งกล้องวีดีโอคืนไปให้กับเพื่อน “แล้วแบบนี้ยังจะขัดขืนพี่อยู่มั้ยนะ”

“ไอ้เหี้ยย!!” ผมคำรามออกมาอย่างสุดเสียงเท่าที่จะทำได้ และน้ำตาของผมมันก็เริ่มไหลรินลงมาบนแก้มทั้งสองข้างของผมแล้ว

“เฮ้ย คุยกันจบรึยัง กูเงี่ยนนะเว้ย!”

“จบแล้ว” พี่อาร์ทลุกออกจากเตียงไป “มึงจัดการเลย คราวนี้กูจะถ่ายให้เอง ไม่ให้ติดหน้าพวกมึงแน่นอน จะได้ไม่ต้องใส่หน้ากาก”

เมื่อสิ้นเสียงพี่อาร์ท ขาทั้งสองข้างของผมก็ถูกใครคนหนึ่งยกขึ้น และอีกคนก็เขยิบตัวเข้ามาซุกลงบนซอกคอของผมพร้อมกับกัดเนื้อของผมเบาๆ แต่ก็แรงกว่าที่พี่อาร์ทเพิ่งทำกับผมไปมากจนผมต้องบิดตัวเพราะความเจ็บปวด

“อึ๊กกก!!”

“ร้องดังๆ สิเว้ย ร้องดังๆ หน่อยยย กูชอบบ” คนที่กัดต้นคอของผมพูดพร้อมกับใช้มือชักให้ตัวเองไปด้วย จากนั้นเขาก็เลื่อนตัวลงต่ำและกัดลงบนหัวนมของผมอย่างแรง

“อ๊ากกก!! อื๊อออ!!” ผมสะดุ้งเฮือกและบิดตัวไปมา “เจ็บบบ!! พอ… แล้ว...ว..!”

ในขณะที่ผมถูกความเจ็บปวดเพราะถูกกัดดึงความสนใจไปอยู่นั้น ผมก็รู้สึกถึงอะไรเย็นๆ ที่ทาลงที่ช่องทางด้านหลัง ใจของผมหล่นหายไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที

“เอาละนะเว้ย ซี๊ดดดส์”

เมื่อสิ้นเสียงของคนที่นั่งอยู่ตรงหว่างขา ผมก็ถูกอะไรบางอย่างขนาดใหญ่ยัดเข้าไปทันที

“อ๊ากกก!!” ผมร้องออกมาอย่างสุดเสียง ความแสบร้อนที่ผมรู้สึกทำให้ผมแทบจะเป็นลมไปอีกรอบ และถ้าเป็นแบบนั้นผมก็คงจะรู้สึกยินดีกว่านี้เยอะ เพราะอย่างน้อยผมก็ไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดและความอับอายที่กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้

ผมเริ่มร้องไห้ออกมามากขึ้นเรื่อยๆ เชือกที่มัดข้อมือทั้งสองข้างของผมเอาไว้บาดผิวหนังของผมจนผมรู้สึกปวดแสบปวดร้อน เท่ากับว่าตอนนี้ผมบาดเจ็บไปทั่วทั้งร่างกายแล้วจริงๆ ผมรู้สึกราวกับว่าไม่มีตารางนิ้วไหนในร่างกายของผมเลยที่ไม่มีบาดแผล และผมก็เริ่มจะเหนื่อยอ่อนจนเกินกว่าจะขยับตัวหรือแม้แต่เปล่งเสียงร้องขอความเมตตาใดๆ อีกต่อไปแล้วด้วยเช่นกัน

ผมภาวนาให้ใครก็ได้มาช่วยผมไปจากที่นี่ที ผมนึกถึงไอ้อาร์ม แล้วก็ขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ช่วยดลจิตดลใจให้มันรู้ทีเถอะว่าผมอยู่ที่นี่ ผมกำลังทรมานจนแทบจะตายอยู่ในไม่กี่นาทีนี้แล้ว หรือถ้าหากว่าจะไม่มีใครมาช่วยผมจริง ผมก็ขอแค่ให้ผมตายๆ ไปเสียที เรื่องทุเรศๆ เหล่านี้มันจะได้จบลง ผมจะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดแสนสาหัสนี้อีกต่อไป

ช่วงที่สติของผมเริ่มจะเลือนรางลงไปอีกครั้ง จนผมเริ่มตัดใจและคิดว่าจะกัดลิ้นตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยนั้น จู่ๆ คนทั้งสามคนที่รุมอยู่บนตัวผมก็ขยับตัวพร้อมๆ กัน

“เสียงอะไรวะ!”

“เสียงคนเดินธรรมดามั้ง”

“แต่ห้องนี้อยู่ริมสุดนะเว้ย แล้วไอ้อาร์ท มันก็บอกเองไม่ใช่เหรอวะว่าไม่มีใครรู้ว่ามึงมาเช่าห้องนี้เอาไว้น่ะ”

ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างเหนื่อยอ่อน และในตอนนั้นเอง ที่จู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแรง คนทั้งสามคนที่เคยคร่อมอยู่บนร่างกายของผมต่างก็กระโดดลุกออกจากเตียงไปกันคนละทิศละทาง ดวงตาที่พร่ามัวของผมเห็นเงาคนๆ หนึ่งพุ่งตัวเข้ามาในห้อง ตามมาด้วยคนอีกจำนวนหนึ่ง และเสียงเอะอะโวยวาย ร่างของชายคนแรกที่ผมเห็นนั้นตรงดิ่งไปยังพี่อาร์ทที่ยืนอยู่ไม่ไกลแล้วเหวี่ยงกำปั้นต่อยเขาที่ใบหน้าอย่างเต็มรัก

“อั๊กก!!” พี่อาร์ทร้องออกมาพร้อมกับล้มลง

“ตายซะเหอะมึง!! ไอ้เหี้ยเอ๊ย!!” คนที่ต่อยพี่อาร์ทสบถออกมาเสียงดัง และผมก็ได้ยินเสียงของพี่อาร์ทร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอีกหลายครั้งด้วย

“พอแล้วไอ้อาร์ม! เดี๋ยวมันก็ตายจริงๆ หรอก!” เสียงของไอ้เอดังขึ้น

ผมเงยหน้าขึ้นมาเห็นภาพไอ้เอวิ่งเข้าไปรั้งตัวของไอ้อาร์มที่กำลังกระทืบพี่อาร์ทที่นอนกองอยู่บนพื้นเอาไว้

นี่ผมไม่ได้กำลังฝันไปใช่มั้ย... ไอ้อาร์มมาช่วยผมแล้วจริงๆ น่ะเหรอ

น้ำตาของผมเริ่มไหลออกมาอีกครั้ง และแล้วผมก็รู้สึกถึงใครบางคนที่กระโดดขึ้นมาคร่อมร่างกายอันเปลือยเปล่าของผมเอาไว้ ผมสะดุ้งและหดตัวหนีด้วยความกลัวทันที แต่แล้วอีกอึดใจหนึ่งผมก็รู้สึกถึงความเป็นอิสระจากเชือกที่เคยมัดมือทั้งสองข้างเอาไว้

“ไอ้ต้า นี่กูเอง มึงไม่ต้องกลัวแล้ว มึงปลอดภัยแล้วนะเว้ย กูขอโทษ... กูขอโทษ!” ผมถูกช้อนให้ลอยขึ้นจากเตียงด้วยอ้อมแขนของชายคนหนึ่ง

“อ... ไอ้อาร์ม... ไอ้อาร์มจริงๆ เหรอวะ...” ผมยกมือขึ้นลูบแก้มของมันเบาๆ อยากจะแน่ใจว่าสิ่งที่ผมเห็นไม่ใช่แค่เพียงฝันไป แต่ทว่าใบหน้าที่เคยหล่อเหลา และดวงตาที่เคยสดใสของมัน กลับดูหมองหม่นและเจ็บช้ำ

“ไอ้ต้า กูขอโทษ กูขอโทษมึงจริงๆ มึงอย่าเป็นอะไรนะเว้ย” น้ำใสๆ หยดหนึ่งที่ไหลออกจากตาของมันหยดลงบนแก้มของผม

“ขอโทษนะครับ น้องช่วยหลบหน่อยครับ ให้พี่ดูอาการของเค้าหน่อย” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้น

“ไม่! ผมจะไม่ปล่อยมันไปไหนอีกแล้ว!”

“ไอ้อาร์ม พี่เค้าจะปฐมพยาบาลให้ไอ้ต้านะเว้ย” ไอ้ด้าเขยิบเข้ามาจับหัวไหล่ของไอ้อาร์มเอาไว้

ไอ้อาร์มดูลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวางผมลงบนเตียง ที่จริงผมก็ไม่อยากให้มันห่างจากร่างกายของผมไปไหนเลยเหมือนกัน แต่ว่าอีกไม่นานหลังจากนั้น โลกของผมก็เริ่มพร่ามัว เสียงดังวุ่นวายต่างๆ ก็ค่อยๆ เงียบลง และดวงตาของผมก็ปิดสนิทพาผมจมลงกลับไปสู่ความมืดมิดอีกครั้ง

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8

ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

golfgab

  • บุคคลทั่วไป
มาช้าอ่ะ พี่ต้น งอน
แต่ก็ยังดีกว่าไม่มาอ่ะ ^^"

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
หมายถึงไอ้อาร์ม หรือหมายถึงมาต่อเรื่องช้าครับ 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
สงสารต้าอย่างสุดซึ้งค่ะพี่
เศร้ามากมายT^T

winnie_the_far

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมคนช่วย มาช้า ช้าไหม ช้าไหม มาช้าหรือไม่ช้า...

น่าสงสารต้าอะ สงสารไหม สงสารไหม สงสารหรือไม่สงสาร...

ออฟไลน์ beery25

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-0

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
ก็ดีแล้ว
.
สะใจ อาร์ม ดีมั๊ยล่ะ พอใจรึยังล่ะ อาร์ม ห๊าาา

Gulp

  • บุคคลทั่วไป
อาร์มมาช้าอ่ะ แล้วก้ค้างด้วยอ่ะY_Y

ออฟไลน์ jiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-2
โชคดีที่อ่านรวดเดียว3ตอนนะ. ไม่งั้น คงค้างตายกันไปข้างเลย

สงสารเออ่ะ. เจ็บหนักเลย ฮือ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
สงสารทั้งต้าทั้งอาร์ม
อ่านแล้วเศร้าโคตร

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4
น้ำตาท่วมจอแล้ว สงสารต้ามากมาย

ออฟไลน์ Also

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
 :monkeysad:
เศร้าจริงอะไรจริง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด