เจ็บหนักๆ กับ รักเถื่อนๆ โดย MS.Shizuru Lesson36 END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เจ็บหนักๆ กับ รักเถื่อนๆ โดย MS.Shizuru Lesson36 END  (อ่าน 359836 ครั้ง)

dantonykung

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อเร็วๆๆๆนะครับ เรื่องสนุกมาก เป็นกำลังใจไห้นะครับ :L1: :3123: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ fastation

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
OoO! เผลอไปหน่อยเดียว ตอนที่ 29 เลย !!!
เฟียร์นายเจ๋งมากก เอาชนะใจแม่ได้อยู่หมัด ^^
หึหึหึ คราวนี้วินเตรียมตัวเตรียมใจรับศึกหนักได้เลย
เพราะเฟียร์มีแม่นายหนุนหลังแล้วละ ^^~

รออ่านต่อจ้า ~

ออฟไลน์ NY_JK

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 639
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :-[คุณแม่คงหลงเฟียร์น่าดู ว่าแต่สอนทำอาหารครั้งต่อไปครัวคงไม่พังใช่ไหม 5555 :laugh:

SuperDutchMilk

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
นับถือคนแต่งจริง


ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
แม่ยายกับลูกสะใภ้เข้ากันได้ดีจริงๆ  :laugh: :laugh:

มาลงทุกวันอย่างนี้ รักคนเขียนตายเลย  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ mickeynut

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-3

ออฟไลน์ wizard_tao

  • หนุ่มใต้อู้กำเมือง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 417
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
น่ารักจังอ่า.....

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
น่ารักมากเลยทั้งตัวละครทั้งเจ้าของเรื่อง

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
 :L2: :L2:

ดีใจที่เฟียร์ผ่านด่านของพ่อกับแม่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






nanao

  • บุคคลทั่วไป
ว้าว ๆ ท่าทางจะแฮปปี้เอนดิ้งแล้ว

สนุกครับ จะรออ่านตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
ยิ่งอ่านยิ่งชอบ

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 30

( Fear Part )

วันนี้ก็เป็นเช้าที่ปกติแต่มันไม่ปกติตรงที่ มีคนมากอดผมเอาไว้ จริงๆมันก็น่าจะชินๆด้แล้วอ่ะแหละ เพราะมันกอดผมได้ทุกคืนจริงๆ ขณะที่คิดอะไรเพลินๆ มันก็ตื่นครับ

“เฟียร์ ตื่นแล้วหรอ”

“เห็นว่าหลับหรือเปล่าล่ะ” ถามได้ก็เห็นอยู่

“มานอนเป็นเพื่อนหน่อย อีกนิดนึงนะ” พูดจบมันก็ดึงผมเข้าไปซุกไว้ตรงอกมันอีกทีครับ

“ปล่อยๆ จะลงไปทำกับข้าว”

“ไม่หิว” ใครถามเนี่ย

“ไม่ได้ทำไห้พี่กินนี่ ปล่อย” แม่งเป็นปลาหมึกหรือไงเกาะเหนียวแน่นจริงๆ

“อือ” บอกอือแต่เสือกหลับต่อ กวนตีนได้โล่

“ถ้าไม่ปล่อยจะไม่คุยด้วย หนึ่งเดือน!!!” ผมพูดชัดเจนมากครับ

“ยอมแล้วคร้าบบบ ปล่อยก็ได้   แต่....จุ๊บ”

“…” อึ้งสิครับอยู่ดีดีมาจุ๊บผมสะงั้นแหละ

ผมรีบจ้ำอ้าวลงมาจากห้องเลยครับ เขินด้วยหน่อยๆ แต่สงสัยผมจะเขินมากไปหน่อยป้าช้อยแกเลยถามว่าเป็นไข้หรือเปล่าแกบอกเห็นหน้าผมแดงๆ เหอๆ ผมยิ้มแหยๆ แล้วก็บอกแกว่าไม่เป็นไร  วันนี้ผมทำโจ๊กต้มยำครับ เป็นสูตรใหม่ที่ผมคิดขึ้นเอง

“วันนี้มีอะไรกินลูกเฟียร์” พ่อถามครับ ผมแปลกใจมาก ปกติคนลงมาก่อนน่าจะเป็นคุณแม่นี่นา แต่ผมก็เลิกสงสัยละครับ

“จะถามทำไมคะคุณ ฉันเห็นเฟียร์ทำอะไรคุณก็กินทุกอย่าง และก็กินเยอะด้วย” พอแม่พูดแบบนี้ผมก็ยิ้มสิครับ ภูมิใจในฝีมือตัวเอง

“แหมคุณก็....ก็อาหารที่หนูเฟียร์ทำน่ะ มักจะแปลกๆแล้วก็ไม่เคยเห็นผมกินแล้วอร่อยผมก็กินเยอะหน่อยเดียวเอง” พ่อพูดแก้เก้อไห้ตัวเองครับ

“ค่าาาา กินเยอะไปหน่อยเดียวเอง หน่อยมากเลยนะคะ เมื่อวานนี้ข้าวต้มทรงเครื่องสี่ชามเนี่ย หน่อยเดียวเองนะคะ” คุณแม่พูดประชดเล็กน้อย

“ฮ่าๆๆๆ” พวกเราที่อยู่ในครัวหัวเราะร่าเลยครับ ตอนนี้มีคนสถิตในครัวก็ ผม ป้าช้อย หลานป้าช้อย น้าโชค น้าชัย คุณพ่อ แล้วก็คุณแม่ ขาดไปอีกคน สงสัยยังไม่ตื่น

“แล้วนี่ลูกชายคุณยังไม่ลงมาหรอ” แม่ถามพ่อครับ

“ลูกชายผมไม่ไช่ลูกคุณหรอ” พ่อก็ตอบกลับครับ

“เอ่อ...สงสัยนอนต่อน่ะครับ ตอนผมลงมาเห็นบอกว่าจะนอนต่อ” ผมพูดจบก็มีเสียงนึงดังขึ้น

“มาแล้วครับ แหม พี่ไม่ได้ขี้เซาขนาดนั้นนะ” อ้าว ตายยากจริงๆพูดปุ๊บ มาปั๊บ เลย

“ใครจะไปรู้ล่ะ ก็เห็นบอกว่าจะนอนต่อ” ผมตอบกลับครับ

“ก็.....ทนคิดถึงคนแถวนี้ไม่ไหวเลยต้องรีบลงมา” ผมแทบจะเขวี้ยงชามใส่มันเลยไม่รู้การะเทศะพูดจาไม่รู้สถานการณ์

“อะแฮ่ม เกรงใจคนมีอายุหน่อยก็ดีนะลูก” เสียงแม่ครับ  แต่มันก็ไม่ได้ตอบอะไรยิ้มกวนๆซะไห้งั้นแหละ  เราก็นั่งกินข้าวกันครับ แต่แล้วก็มีเสียงรถอยู่ที่หน้าบ้าน

“ป้าช้อย ใครมาแต่เช้าเชียว” แม่ถามด้วยความสงสัย

“เดี๋ยวเฟียร์ไปดูให้นะครับ” พูดจบผมลุกเลยครับ ไม่สนใจคำทักท้วงใดๆทั้งสิ้น เมื่อผมเดินมาถึงหน้าบ้านก็พบกับผู้หญิงคนนึงเธอสวยมากครับ ผิวออกคล้ำๆ สูงกว่าผมอีก ดีกรีเป็นนางแบบได้เลยครับ ส่วนอีกคนเป็นผู้ชายแต่งตัวดีท่าทางจะเป็นเพื่อนกับคุณพ่อหรือไม่ก็คุณแม่

“เอ่อ คือมาหาใครครับ” ผมถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“ฉันต้องบอกคนใช้ด้วยหรอ” คนใช้ ใครวะ???

“ไม่เอาน่าลูก ลูซี่ นี่ไม่ไช่บ้านเราลูกจะมาวางอำนาจบาตรใหญ่แบบนี้ไม่ได้

“อะไรกันคะคุณพ่อ เวลาลูซี่พูดกับคนใช้ต้องไห้กราบมันก่อนหรือเปล่าคะ” เธอพูดจบพ่อเธอก็ส่ายหัวทันที บ่งบอกว่าคงระอาจนไม่อยากจะว่าแล้ว

“เธอ วินอยู่ไหม” อีห่ามาถึงก็ถามหาผู้ชายเชียวนะ

“กำลังทานข้าวกันอยู่ครับ” ผมบอกเธออย่างสุภาพเพราะอาจจะเป็นแขกคนสำคัญ

“อ้าว เห้ยไอ้ปองมาไงวะ ไม่ได้เจอตั้งนาน” คุณพ่อพูดครับ

“มึงก็ จะไห้เจอได้ไงวะ มึงกะคุณหญิงเล่นไปขลุกกันอยู่ต่างประเทศตั้งครึ่งปี” น้าปองตอบครับ

“เออ ๆ เข้ามาสิ กำลังกินข้าวกัน เอาซะหน่อยไหม อร่อยนะเว้ยยิ่งกว่าเชฟห้าดาวอีก ฮ่าๆๆ” คุณพ่อพูดล้อกับเพื่อน แต่ผมสิเขินแทน เชฟห้าดาวหรอ หุหุ

“วินขาาา” แหมยายนี้พอเห็นพี่วินก็วิ่งปรี่ไปหาเลยนะ

“เอ่อ ลูซี่”

“ลูซี่ คิดถึงวินมากเลยค่ะ วันนี้กะจะมาขอค้างด้วยสักหน่อย” พูดจบเธอก็หันมาหาผมครับ

“นี่เธอ เอากระเป๋าฉันไปเก็บที่ห้องคุณวินด้วยล่ะ แล้วก็ยกดีๆนะ มันแพง” พูดจบเธอก็สะบัดหน้าไปหาพี่วินทันทีครับ เห็นดังนั้นผมก็ยกกระเป๋าขึ้นมาทันทีครับ ทำไมรู้สึกแปลกๆ รู้สึกไม่ดีเลย

พอผมลงมาข้างล่างเพื่อไปที่จะไปกินข้าวต่อนั้นผมก็เห็นคุณแม่หน้าตาไม่รับแขกมากๆ คุณแม่ในตอนนี้ทำหน้าเหมือนผ่านสมรภูมิรบเสร็จใหม่ๆเมื่อผมจะไปนั่งที่ ก็เจอยังนี่นั่งชิดกับพี่วินแทบจะนั่งตักกันอยู่แล้ว หึ้ย หน้าด้าน!!!

ผมเลยย้ายไปนั่งที่ข้างคุณแม่ที่ว่างอยู่แทนครับ ผมอึดอัดมาก ไม่อยากเห็นภาพตรงหน้านี้เลย ยัยปลิงทะเลนี้ก็เก่งดีจริงๆแขนน่ะ

“วินขา ป้อนลูซี่หน่อยสิคะ” อ้อนเข้าไปอีปลวก!!!

“ลูซี่ก็ทานเองสิครับ” มันพูดจบแล้วเหลือบมามองหน้าผม ผมก็ทำหน้าไม่สนใจ

“วินขา เดี๋ยวนี้วินไห้คนรับใช้ทานข้าวร่วมโต๊ะกับเจ้านายด้วยหรอคะ” เมื่อพูดจบเธอก็หันหน้ามาทางผม

“อะแฮ่ม ไม่ทราบว่าที่หนูลูซี่พูดอยู่นี่ หมายถึงใครหรอจ๊ะ” คุณแม่ออกโรง ผมว่าท่าทางคุณแม่จะไม่ชอบยัยนี้เหมือนกัน

“ก็คนที่นั่งอยู่ข้างๆคุณแม่ไงคะ”

“อะ ฮะ ฮะ....ฉันว่าหนูเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะจ๊ะ เพราะคนที่หนูหมายถึงน่ะ ไม่ไช่คนใช้แต่เป็นคนสนิทของแม่ของ แล้วก็เป็นน้องรหัสของตาวินเค้าด้วย โฮะๆ คนใช้หรอ....อย่างงี้แหละน่า คนเรามีตาหามีแววไม่” คุณแม่พูดถูกใจผมมาก ยัยลูซี่ ลูซ่า อะไรนี่หน้าเจื่อนเลยครับ

“ขอโทษค่ะ พอดีลูซี่ไม่รู้” เธอชักสีหน้าเล็กน้อย

“คุณแม่ครับ เดี๋ยวเฟียร์ขึ้นไปเก็บของในห้องก่อนนะครับ” ผมพูดจบคุณแม่ยังไม่ทันพูดอะไรเลย ก็มีคนสวนขึ้นทันควันเลยครับ

“จะเก็บไปไหน” คุณน่าจะรู้ว่าเป็นเสียงของใคร

“จะกลับห้อง ผมไม่อยากเป็นก้างใคร”

“เดี๋ยวสิลูก เฟียร์ เป็นก้างอะไร” แม่ถามครับ แล้วก็มีอีกคนนึงที่สงสัย

“ก็พอดีคุณลูซี่เค้าจะมาค้างกับพี่วินน่ะครับ เฟียร์ว่าเฟียร์กลับห้องดีกว่า” พูดจบผมกำลังจะเดินออกจากโต๊ะ แต่...

“เดี๋ยว!!!” เสียงคุณแม่ครับไม่พูดเปล่าดึงมือผมไว้ด้วย

“ครับ” ผมขานรับ

“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ถ้าหนูลูซี่อยากพักที่ฉันก็จะไห้พักแต่ต้องเป็นห้องรับแขกเท่านั้น”

“คุณแม่คะ!!!” ยัยนี้มันเสียงแปดหลอดจริงๆเลยวุ้ย

“อ่อ ฉันไม่ใด้เป็นแม่หนูเรียกน้าก็พอจ๊ะ เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น” พอคุณแม่พูดจบยัยนี้ก็แทบกรี๊ดเลยครับ พี่วินก็ลุกหนีเธอเสียด้วยหุหุ สะใจเป็นบ้าเลย

“คุณ เย็นนี้เราจะมีปาร์ตี้กันนะ” เสียงคุณพ่อครับ

“ได้สิคะคุณ ฉันกำลังอยากจะชวนคุณพอดี ช่วงนี้เหงาๆ” คุณแม่พูดเสร็จผมเลยปรี่เข้าไปหาเลยครับ

“คุณพ่อครับ ให้เฟียร์ เป็นคนทำอาหารนะครับ” ตอนนี้กำลังคึกๆ

“ได้สิลูก เดี๋ยวแม่ช่วยนะลูกนะ” คุณแม่สวนขึ้นทันควันครับ

“ตายแล้วจะมีปาร์ตี้ ต้องสนุกแน่ๆเลยค่ะ” ยัยลูซ่า พูดขึ้นครับ

“ใช่จ๊ะหนูลูซี่ มันต้องสนุกมากแน่ๆ!!!” แม่พูดจบก็ยิ้ม แต่ผมไม่ได้โง่ที่ดูไม่ออกว่ารอยยิ้มนั้นแฝงอะไรไว้บ้าง

Chiren

  • บุคคลทั่วไป
นางมารมากยายลูซี่ (นางร้ายยังน้อยไป)

จัดหนักไปเลยค่ะคุณแม่ ใสห้ยายลูซี่มันทำอาหารแข่งกับน้องเฟียร์เลย

ส่วนคุณพี่วินก็จัดไปอีกคนเลยน้องเฟียร์ไม่ยอมปฏิเสธ

รักคนเขียน :L2: คืนนี้มาลงอีกหรือปล่าว

ออฟไลน์ Pigstar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ตายแน่ยัย.. อะไรนะ ลูขี่ ลูชี่ ลูซี่

ชื่อนี้ปะครับ แบบว่าเค้าไม่สำคัญพอจะจดจำ

ผมเลยจำไม่ได้ เอิ๊กๆๆ อ๊ะนอกเรื่องไปไกลแล้ว

เอาเป็นว่างานนี้ยัยนี่เละแน่ ท่าทางคุณแม่ที่รัก

จะไมปลื้มเธอนะ คงจะรอดมาเป็นสะใภ้บ้านนี้

ยากซะแล้วล่ะ   

:laugh: :laugh: //แบบว่าสะใจ

ออฟไลน์ Pa'veaw

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-1
 :z2: :z2: :z2:

รอดูคุณแม่

ออฟไลน์ BaII

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
ฮาอ่ะ อีปลวก ห้าๆ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เฟียร์ ปากร้ายไม่เบานะเนี่ย แต่ละอย่างที่ด่าในใจ หึหึหึ

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 31

ตอนนี้ในครัวก็มีผม มีคุณแม่ แล้วก็ป้าช้อย กำลังเม้าส์เรื่องของยัยลูซ่ากันอย่างมันส์ปากเลยครับบางครั้งผมฟังก็หัวเราะไปด้วย

“ป้าฉันน่ะพูดตรงๆเลยนะ ไม่เคยมีความคิดจะเอานังนี้มีเป็นสะใภ้หรอกนะ หน้าตาก็ดี การศึกษาก็สูง แต่กิริยา สัมมาคารวะ ไม่มีเลยสักนิด” คุณแม่ก็บ่นต่อไปเรื่อยครับ

“แหมคุณผู้หญิง ก็เค้าเรียนจบนอกสันดาร เอ้ย นิสัยอาจจะเป็นแบบชาวต่างชาติก็ได้มั่งคะ” ก็จริงของป้าแกนะ

“คุณแม่ครับ เราจะทำอะไรกันบ้างครับ” ผมถามตัดบทไปเลยครับ ไม่งั้นเดี๋ยวอาหารเสร็จไม่ทัน

“หึหึ” คุณพูดเสร็จก็หันหน้าไปหาป้าช้อยแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย

“เราจะทำอาหารรสจัดจ้านกันนะจ๊ะวันนี้ มีพริกเท่าไร ใส่ไปไม่ต้องยั้งเลยนะลูก” ผมงงกับคุณแม่รับ

“ถ้าเผ็ดมากไปเดี๋ยวจะกินกันไม่ได้นะครับคุณแม่” ผมเตือนสติของคุณแม่

“ไม่เป็นไรลูก งานนี้ใครกินไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน” ผมก็งงๆ แต่ก็จัดให้ครับเพราะผมโดยส่วนตัวก็ชอบทานอาหารรสจัดอยู่แล้ว ผมก็ทำอาหารไปหลายอย่างแต่ แต่ละอย่างที่แม่จดรายการไว้มีแต่อาหารรสจัดจ้านทั้งนั้นเลยครับเช่น ผัดเผ็ดหมูป่า ต้มโค้ง อะไรพวกนี้ และผมรู้สึกคุณแม่จะใส่พริกเยอะเป็นพิเศษ

และเมื่อถึงตอนเย็นก็เริ่มมีแขกมาที่บ้านครับ แต่คุณแม่บอกผมว่างานนี้คนไม่เยอะเชิญเฉพาะสนิทๆเท่านั้น และที่สำคัญ พวกเพื่อนพี่วินก็มาด้วยครับรวมทั้งไมโลกะโอด้วย

“เฮ้ย ไงวะ ไม่เจอนาน” พี่โชว์ทักพี่วินครับ

“สบายดีเว้ย มาๆพวกมึงเข้ามาก่อน” ไม่ต้องสงสัยทำไมพี่เค้าไม่ทักผมกัน เค้าคงไม่รู้ว่าผมอยู่นี้เพราะตอนนี้ผมอยู่ในครัว พวกมันอยู่กันหน้าบ้าน ตะโกนคุยกันหาเห็บหาหอกอทำไมไม่รู้ แล้วพวกนั้นก็คุยกันไปเรื่อย และอยู่ๆพี่ฟ้าก็ทักขึ้น

“เฮ้ย ไอ้วินมึงชวน หวาน ใจมึงมาเปล่า” ทุกคนเงียบและรอคำตอบ

“ไม่ได้ชวน จะชวนทำไม” ผมชะงักเลยครับแอบได้ยินเป็นคนหูดี

“อ้าว ทำไมไม่ชวนวะ” พี่ต้นสงสัยครับ

“จะชวนทำไม ก็คนทำอาหารที่พวกมึงกำลังแดกเนี่ยคือเฟียร์”

“อ้าว แล้วมันอยู่ไหนวะ”

“อยู่นี้ครับ...สวัสดีครับทุกคน” ผมก็ออกไปเลยครับ เดี๋ยวจะถามกันวุ่นวาย และคนแรกที่เข้ามาหาผมคือ

“แกไปไหนมา ฉันไปหาที่ห้องก็ไม่อยู่ ติดต่อแกก็ไม่ได้”

“...” จะตอบไงล่ะทีนี้ จะบอกว่าโดนลากมากระทำชำเราก็ใช่เรื่อง

“สรุปว่าไง ไปอยู่ไหนมา” ไมโลถามอีกทีครับ

“ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ เฟียร์เค้ามาอยู่บ้านพี่เองแหละ” อ้าวไอ้ปากหมา พูดแบบนั้นเดี๋ยวมีงานเข้าหรอกและก็เป็นไปตามคาดทุกคนหันมาหาผมแล้ว

“ฮิ้วววว มาปรับตัวก่อนอยู่จริงเหรอจ๊ะน้องเฟียร์ ฮ่าๆๆๆ” พี่ส้มพูดครับแล้วก็หัวเราะกัน แต่ผมนี่สิเขินจนจะม้วนแล้วเนี่ย

“บ้า พี่ส้มผมไม่มาอยู่หรอกที่นี่อ่ะ มาชั่วคราวเท่านั้นแหละ” ตอบแก้เก้อไปก่อนแล้วกัน

“อะไรใครจะมาอยู่นี้กันหรอคะ” มาแล้วเสียงภัยวิบัติ เกลียดเสียงอีนี้ชะมัด

“เอ่อ ทุกคนนี้ ลูซี่ นะ เป็นลูกของเพื่อนพ่อกูเอง”

“ตอนนี้แค่เพื่อนค่ะ แต่อีกนิดเดียวก็เกินเพื่อนแล้ว” อีลูซ่าพูดแล้วก็ยิ้มๆครับ แถมเดินไปควงแขนพี่วินเลย

“ขอตัวนะครับพี่ๆ” ผมพูดเสร็จก็ลุกเลยครับ

“จะไปไหน” พี่วินถามครับ

“ไปยกอาหารมาเพิ่ม” ผมบ่ายเบี่ยงครับๆ จริงๆแล้วผมทนเห็นภาพตรงหน้านี้ไม่ได้ต่างหาก มันรู้สึกไม่ดี

“เดี๋ยวให้ป้าช้อยยกมาก็ได้” พี่วินพูดสวนมาครับ

“…” ผมไม่ฟังครับแล้วเดินมาเลย

“เดี๋ยว...” พี่วินถูกอีมารร้ายขัดครับ

“พี่วินอย่าไปห้ามเค้าเลยค่ะ เค้าจะไปไหนก็ปล่อยเค้าเถอะ เรามาสนุกกันดีกว่านะคะ” ยัยนี่รั้งพี่วินไว้ครับ

“วิน ฉัน แป้ง ไมโล ขอตัวก่อนนะ” พูดครับ พี่วินมันก็ผยักหน้า พี่ส้ม พี่แป้ง ไมโล ก็วิ่งตามผมไปในครัวครับ

“เฟียร์ เป็นอะไรหรือเปล่า” พี่ส้มถามครับ

“เป็นอะไร เปล่านี้ครับพี่” ผมตอบเบี่ยงๆ

“ฉันไม่เชื่อแกหรอก รู้ไหมตอนแกเดินออกมาทำหน้ายังกับจะฆ่าคนตาย” ไมโลบอก

“เออนั้นสิ แล้วยัยนั้นท่าทางไม่เบานะ ถึงขนาดควงแขนไอ้วินกลางงานแบบนี้เลยอ่ะ”พี่แป้งเสริมครับ

“ชั่งเค้าเถอะ ไม่เกี่ยวอะไรกับผมนี่” ผมตอบแต่แอบเศร้านิดหน่อย ทำไมมีความรู้สึกกำลังจะสูญเสียของบางอย่างไป

“เฟียร์ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ถ้าแกมัวแต่ชักช้าอยู่ล่ะก็ ระวังจะมานั่งเสียใจทีหลังนะ” ไมโลพูดครับ

“…” ผมเลือกที่จะไม่ตอบครับ

“เฮ้อ” ไมโลถอนหายใจแล้วก็เดินกันออกไปเลยครับ

ผมยกอาหารออกไปที่งานก็เห็นวินยืนคุยอยู่กับผู้ใหญ่อย่างอารมณ์ดีโดยที่มียัยนั้นเกาะแขนอยู่ สายตาผู้ใหญ่หลายท่านก็เอ็นดู เพราะเข้าใจกันว่า พี่วิน กับลูซี่ เป็นแฟนกัน ผมเห็นภาพแบบนั้นก็อดคิดไม่ได้ว่า เค้าเหมาะสมกันดีเนอะ ถ้าเทียบกับผมแล้วไม่มีอะๆรสู้ได้เลย และที่สำคัญคือ ผมเป็นผู้ชาย!!!

เมื่องานเลิกตอนนี้ก็ประมาณเที่ยงคืน พวกพี่ส้มกลับไปแล้วครับ และไอ้พี่วินก็ท่าทางเมานิดหน่อยส่วนยัยลูซี่ก็ยืนยิ้มส่งแขกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของบ้านซะอย่างนั้นแหละ ยัยนี้ทานอาหารในงานไม่ได้เลยครับเพราะมันเผ็ดทุกอย่างเธอจึงโวยวายและโดนคุณแม่ด่ากลางงานในข้อหาโวยวายไปทั่ว อิอิ แอบสะใจ ผมเคลียร์ทำความสะอาดในครัวกว่าจะเสร็จก็เกือบจะตีสองแล้ว ผมจึงขึ้นห้องไปอาบน้ำนอน แต่ก็ไม่เจอพี่วิน สงสัยจะไปอยู่กับยัยลูซี่มั่ง ผมก็เลยนอนเลยครับ เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นมาทำอาหารเช้า ตอนนี้คุณพ่อและคุณแม่ติดฝีมือผมแล้ว เลยจำเป็นต้องทำทุกเช้าและเย็น

ผมตื่นขึ้นมาดูนาฬิกาก็หกโมงครึ่งเวลาตื่นปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือมึนหัวเล็กน้อย อาจจะเพราะเมื่อคืนนอนดึก หันไปข้างๆกับเจออีกคนนอนอยู่

“มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” ผมก็ไม่ได้สนใจมากลุกจากเตียงแล้วเดินไปข้างล่าง ซึ่งก็เจอป้าช้อยทุกเช้าเลย ป้าแกตื่นเช้าจริงๆ ขนาดเมื่อคืนก็นอนดึกเหมือนกัน

“วันนี้จะทำอะไรคะ หนูเฟียร์” ป้าช้อยถามครับ

“ทำโจ๊กทะเลแล้วกันนะ” นานๆผมจะทำครับ เพราะมันยุ่งยากต้องแยกเครื่องทะเลเอาไว้เพราะผมแพ้ แต่คนอื่นเค้าไม่แพ้กันเลยไม่เป็นปัญหาเท่าไร เมื่อผมทำอาหารเสร็จก็เดินขึ้นไปบนห้องกะจะปลุกอีกคนให้ลงมากินข้าวแต่

“อ้าว เฟียร์ตื่นนานหรือยังลูก” คุณแม่ครับ

“ตื่นได้สักพักแล้วครับ พึ่งทำอาหารเสร็จ วันนี้มีโจ๊กทะเลนะครับ” ผมตอบแล้วยิ้มให้แม่

“หรอ อื้ม  แม่ว่าจะไปปลุกลูกชายแม่อยู่ ไม่รู้จะนอนไปถึงไหน ไปด้วยกันซะนี่แหละ”

“ครับ” ผมตอบแล้วก็เดินตามกันไป แต่เมื่อผมเปิดประตูเข้าไปก็เจอกับภาพที่ทำให้ผมวูบเลยครับ

“เอ่อ....ขอโทษครับ” ภาพที่เห็นก็คือ ลูซี่ อยู่บนเตียงกับพี่วิน แทบจะขี่กันแล้วครับ

“ว้าย ขอโทษค่ะ พอดีฉันลืมล็อคห้อง” เธอตีหน้าซื่อตอบ โถ่ผมไม่ได้โง่นะ

“อะไรลูกเฟียร์ เข้าไปสิ” แม่ดันผมเดินเข้ามาพร้อมกับตัวเอง

“ว้ายยยยย อะไรเนี่ย ลูซี่ เข้ามาทำอะไรในห้องตาวิน ห๊ะ!!!” แม่ตะโกนสุดเสียงเลยครับ

“เอ่อ...ลงไป....เตรียมโต๊ะดีกว่านะครับ” ผมเดินลงมาจัดโต๊ะรู้สึกขอบร้อนร้อนผ่าว พร้อมกับมีน้ำใสๆ ไหลออกมา เมื่อจัดโต๊ะเสร็จผมก็เดินไปที่กระท่อมปลายสวนที่เคยทำแผลให้ลุงคนสวนนั้นแหละครับ นี่เราร้องไห้หรอ เฮ้อ ทำไมถึงอ่อนแออย่างนี้นะ

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 32

( Win Part )

ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเอ๊ะอะของใครบางคน ใครมากวนเนี่ยเมื่อคนยิ่งนอนดึกๆอยู่ เมื่อคืนนี้พองานเลี้ยงเลิก ผมก็ไปดูผับของพ่อ ลูกน้องพ่อโทรมาบอกว่า วัยรุ่นมันตีกันผมก็เลยไปเคลียร์แทน เพราะพ่อก็เมาไม่น้อย พอผมลืมตาขึ้น

“เห้ยยยย ลูซี่ มาอยู่นี่ได้ไง” ผมโดดหนีเธอแทบตกเตียง

“แหม วินค่ะก็ปกติลูซี่ก็มาหาคุณตลอดนี่คะ”

“ลูซี่ กลับห้องของหนูไปซะ” คุณแม่สั่งครับ

“แต่คุณแม่คะ…”

“เดี๋ยวนี้!!!” คำพูดของคุณแม่เป็นดั่งประกาศิตหากใครไม่ทำตามล่ะก็.....ผมคิดแล้วก็เสียวเลยครับ เพราะแม่ผม แอบโหดม้ากกกกกก

“แม่ครับ แล้วเฟียร์ล่ะ” ผมถามเมื่อตื่นมาแล้วไม่เห็น

“หึ เค้าคงไม่อยากเห็นอะไรอุบาดๆ เลยลงไปข้างล่างแล้ว แล้วแกนอนยังไงถึงไม่รู้เรื่องว่าแม่นั้นน่ะมันมาอยู่ในห้องด้วย”

“แม่ เฟียร์เห็นหรอ” ผมถามและตกใจ เฟียร์จะเข้าใจผมผิดมั้ย

“ใช่เฟียร์เห็น และแม่บอกแกไว้อย่างนะ ว่าแม่ไม่เอายัยลูซี่เป็นสะใภ้จำใส่หัวไว้ด้วย”

“แม่  ผมก็ไม่เอาหรอกน่าลูซี่น่ะ แต่ลูซี่เป็นลูกอาปองเพื่อนพ่อผมเลยไม่อยากจะทำลายน้ำใจเธอน่ะแม่” ผมตอบตามความจริง

“ฉัน  ไม่  สน......แล้วแกลงไปกินข้าวได้แล้ว” พูดจบแม่ก็เดินออกไปเลยครับ

เมื่อผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินลงมาข้างล่างเพื่อนกินข้าว แต่พอกวาดสายตาไปก็ไม่เห็นเฟียร์เลย

“วินขา ลงมาไม่รอลูซี่เลย” เสียงลูซี่ดังตามหลังผมมา ผมก็ไม่ได้สนใจเดินไปนั่งที่ประจำของผม

“แม่ เฟียร์ล่ะ” ผมถามเมื่อไม่เห็น

“ไม่รู้” แม่ผมตอบอย่างไม่พอใจนักที่เห็นลูซี่ตามมา แถมยังมานั่งที่ของเฟียร์อีก เห็นแบบนั้นผมจึงไม่ถามต่อ ไม่งั้นบ้านแตกแน่ พ่อผมซึ่งรู้ดีก็นั่งกินข้าวไม่ปริปากพูดสักคำ บรรยากาศตอนนี้มาคุมากเลยครับเหมือนโต๊ะนี้กำลังมีเพลิงนรกนิดหน่อย เมื่อทานข้าวเสร็จผมก็รู้สึกโล่งขึ้นเป็นกองเลยครับ ผมนั่งเล่นอยู่หลังบ้านก็เห็นเฟียร์เดินมาครับ

“เฟียร์ เฟียร์” ผมเรียกเสียงดังลั่น

“…” ง่ะมันไม่ตอบผม

“ฟังพี่ก่อน มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด”

“อะไร” มันหันครับ แต่สีหน้า เอ่อ....จะฆ่ากูตายไหมเนี่ย

“พี่ไม่ได้มีอะไรกับลูซี่นะ” ผมพยายามอธิบาย

“แล้วมาบอกผมทำไม” เฟียร์ตอบได้หน้าตายมาก

“ก็อยากบอกให้คนรักรับรู้” นี่แหละหยอดเลย

“วิน มีอะไรจะบอกลูซี่ หรอคะ” โอ้ยยยย มาทำไมตอนนี้วะ

“นั้นไง คนรักคุณมาแล้วผมไปก่อนนะครับ” มันเตรียมหนีผมแล้วครับ

“เฟียร์คือคนรักของพี่คนเดียว คนอื่นไม่ไช่!!!” ผมพูดอย่างหนักแน่น

“อะไรนะคะวิน วินจะบอกว่าวินรักมันหรอ” โอ้ย แส่จังวะ

“ใช่ ผมรักเฟียร์....คน เดียว” ผมเน้นคำหลังเป็นพิเศษ

“ไม่จริงใช่ไหม พี่วินแค่เล่นๆกับมัน เหมือนที่เคยเล่นกับใครอีกหลายๆคน ละอีกอย่าง ผู้หญิงก็ต้องคู่กับผู้ชาย  ไม่ไช่ผู้ชายเกิดมาคู่ผู้ชาย!!!” เธอหันไปพูดใส่หน้าเฟียร์ครับ แต่เฟียร์ไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาเลยครับ

“….คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ คุณลูซี่  ผมกับพี่วินไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วก็ไม่ต้องการเป็นด้วย” พูดจบมันก็เดินขึ้นห้องไปครับ

“เดี๋ยว เฟียร์ เฟียร์ เฟียร์!!!” ผมตะโกนเรียกเลยครับ เฮ้อ งานช้างอีกแล้ว

( Fear Part )

ผมขึ้นมาบนห้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งเลยครับ ตอนนี้ผมเก็บอารมณ์ไว้สุดขีดครับ ผมเก็บตัวเองนั่งทบทวนคำพูดของลูซี่ ‘ผู้หญิงต้องคู่กับผู้ชาย’ ก็จริง....แล้วเราล่ะเป็นผู้ชายจะไปคู่กับผู้ชายด้วยกันได้ยังไง ผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยก็มีเสียงดังขึ้นที่ประตู

“เฟียร์   เฟียร์ลูก” แม่นั้นเองครับ

“ครับแม่ มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมถามอยู่ในห้อง

“ขอแม่เข้าไปได้ไหม” ผมเดินไปเปิดประตูให้เรากลับมานั่งที่เตียง

“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าลูก” แม่ถามผมครับ

“เปล่าครับ” ผมตอบเบี่ยงๆ ทั้งที่ในใจมีเต็มไปหมด

“มีอะไรก็ระบายมาเถอะ แม่พร้อมรับฟัง อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเลยไม่ต้องเก็บมันไว้หรอกลูก” โหแม่เหมือนหมอดูอ่ะ มองได้เฉียบมากว่าผมกำลังเป็นอะไร

“…ฮึก...ฮืออออ” ผมร้องไห้แล้วโผเข้ากอดแม่เลยครับ

“ไม่เป็นไรนะ แม่รู้ว่าหนูคิดมากเรื่องอะไร” แม่พูดแล้วเอามือลูบหัวผม

“…” ผมไม่ตอบครับ ร้องไห้อย่างเดียว มันอึดอัดมากๆครับ

“ลูกชายแม่น่ะ ไม่เคยบอกรักใครมาก่อนรู้ไหม ถึงเค้าจะเคยเสเพมากขนาดไหนแต่เค้าก็รักหนูเฟียร์ เรื่องนี้แม่รู้ดีที่สุด” แม่บอกผมครับ

“แม่น่ะเลี้ยงวินมาตั้งแต่เกิด วินไม่เคยสนใจใคร หรือห่วงความรู้สึกใคร และไม่เคยแคร์ใครด้วย แต่นี้พี่เค้าแคร์ความรู้สึกเฟียร์มาก เฟียร์ไม่ต้องเชื่อที่แม่พูดก็ได้นะลูก พ่อกับแม่คุยกันเรื่องนี้ตอนแรกๆ ว่ามันสนใจความรู้สึกคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ และแม่ก็ได้คำตอบว่า ตั้งแต่พี่เค้าเจอเฟียร์ไงจ๊ะ”

“…” ไม่ตอบครับ กำลังอึ้ง นี่พี่วินรักเราจริงหรอ

“แล้วหนูล่ะ เฟียร์ รักพี่เค้ามั้ย อย่าโกหกแม่ แม่รู้นะว่าพี่เค้าไม่ได้รักเฟียร์ข้างเดียว” ผมเงยหน้ามองหน้าแม่ แม่ก็ยิ้มครับ

“ผมเป็นผู้ชายครับ พี่วินรักเฟียร์ไม่ได้หรอก ผู้หญิงยังไงก็ต้องคู่กับผู้ชายครับแม่” ยิ่งพูดคำนี้ก็ยิ่งเจ็บครับ เจ็บใจจริงๆ

“ไม่เกี่ยวนี่ลูก ความรักน่ะ มันไม่ได้จำกัดเพศหรอกนะ การที่เรารักใครสักคนนึงไม่สำคัญว่าจะเป็นหญิงหรือชาย แต่เป็นคนที่เราอยู่ด้วยแล้วมีความสุข และอบอุ่น” แม่พูดจบผมก็นิ่งครับ

“…” พูดไม่ออกเลย แต่ก็จริงอย่างที่แม่ว่า ทำไมเราโง่อย่างนี้นะ

“เฟียร์ ยังไม่ได้ตอบแม่เลย...ว่ารักพี่เค้าไหม” ผมเอ๋อกับคำถามนี้ครับ

“…” ผมผยักหน้าแทนคำตอบครับแล้วก็รู้สึกตอนนี้เลือดสูบฉีดหน้าผมดีจริงๆ

“หุหุ แม่ถามแค่นี้ต้องหน้าแดงด้วย....เอาละเดี๋ยวแม่ไปก่อนล่ะ แล้วก็เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปงานเลี้ยงกับแม่หน่อยนะ เค้าไปกันทั้งบ้านเลย” แม่หันมาบอกพร้อมกับยิ้ม

“จะดีหรอครับ” ผมถามเพื่อความแน่ใจ

“นี่ไม่ใช่คำชวนนะจ๊ะ....แต่เป็นการบังคับจ๊ะ” พูดจบแม่ก็เดินออกไปครับ

“ครับ” ผมยิ้มตอบรับ

ตอนนี้ผมก็นอนเล่นอยู่ในห้องนั้นแหละครับ คิดไปคิดมา ผมว่าผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมไม่ยกพี่วินไห้ยัยลูซี่นั่นหรอกครับ  ตอนเย็นผมก็เดินลงมาข้างล่างเพื่อทำกับข้าว ตอนเดินผ่านห้องนั่งเล่น ก็พบ พี่วินนั่งอยู่ และมีปลิงทะเลเกาะอยู่ด้วย อะไรจะเหนียวขนาดนั้น อย่าให้ผมทวงสิทธิ์บ้างนะ หึ้มมมมม เมื่อผมทำกับข้าวเสร็จ ผมก็ตะโกนเรียกทุกคนจากข้างล่างครับ

“คุณพ่อ คูรแม่ น้าโชค น้าชัย พี่วิน คุณลูซี่  อาหารเย็นเสร็จแล้วเชิญครับ” ผมตะโกนกลางบ้านเลยครับขี้เกลียดเดินขึ้นไปตามเอง

“เสร็จแล้วหรอลูก เดี๋ยวพวกแม่ลงไปนะจ๊ะ จะเสร็จงานแล้ว” เสียงมาจากห้องทำงานสงสัยคุยธุระกันอยู่

“ครับ คุณแม่ เร็วๆนะครับไม่งั้นอาหารจะเย็นหมด” พูดจบผมก็เดินไปในห้องทานอาหาร โดยมีคนตามมาอีกสองคน

“วินขา พรุ่งนี้ วินไปงานเลี้ยงกับคุณแม่หรือเปล่าคะ” ลูซ่า มันถามครับ

“ไปครับ” พี่วินก็ตอบมัน หึ้ย ชักเริ่มหงุดหงิด

“มาแล้ว ๆ ไหนมีอะไรกินบ้างเนี่ย” คุณพ่อครับ ดูท่าทางจะลุ้นกับอาหารผมแทบทุกมื้อว่าผมจะทำอะไรให้ทาน

“นั่งที่เถอะคุณ จะได้ทานกันสักที” แม่เอ่ยขึ้นครับ และเมื่อพี่วินนั่งลงที่พี่วินยัยลูซี่ก็เตรียมจะนั่งข้างๆพี่วินครับ แต่ขอโทษ มันที่ของผม!!!

“อุ้ยยย ตายอะไรกันคะคุณเฟียร์ นี่มันที่ของลูซี่นะคะ” เธอพูดแล้วมุ่ยหน้าครับ

“…” ผมเงียบไม่ตอบแต่นิ่งไว้

“วินคะ ดูรุ่นน้องวินสิ ลุกออกไปจากที่ฉันเดี๋ยวนี้นะ” เธอตวาดเสียงลั่นเลยครับ

“พี่วิน วันนี้เฟียร์ไม่ค่อยได้เห็นพี่เลย คิดถึ๊งงงง คิดถึง.....ฟอดดดด” ผมไปหอมแก้มพี่วินครับ ดูพี่วินเหวอนิดหน่อยแต่ก็ยิ้ม คุณแม่ก็หัวเราะ คิกคัก คิกคัก

“นี่เธอ ฉันพูดได้ยินไหม!!!!...ฟึ้บบบ” เธอกระชากข้อมือผมครับ

“จำเป็นมั้ยที่ผมต้องบอกคุณ ในเมื่อที่นั่งตรงนี้มันเป็นของผม แล้วคุณก็เลิกรังควานพี่วินได้แล้ว พี่วินเค้ารักผม คุณไม่ละอายบ้างเหรอที่มาคอยตามผู้ชาย ต้อยๆ แบบนี้” เอ๋อรับประทานทั้งโต๊ะอาหารแต่ผมแอบเห็นหัวเราะกันด้วย คริคริ

“อ้ายยยยยยยยย นี่แกด่าฉันหรอ” กรี๊ดดดดด ได้เหมือนเปรตมาก

“ชมครับ ผมชมคุณ” ผมยิ้มให้ครับ แต่เป็นยิ้มแบบเยาะเย้ย ในเมื่อเธอโง่เข้ามาอยู่ในเกมของผมเอง

“ป้าช้อย ตักข้าวเลยครับ ใครไม่นั่งก็ปล่อยเค้าไป คงตามกลิ่นธูปไม่เจอน่ะป้า” ผมพูดจบเปรตก็ร้องอีกแล้วครับ

 “กรี๊ดดดด  ฝากไว้ก่อนนะแก”

“อย่านานนะครับ เดี๋ยวลืม” ผมพูดจบเธอก็เดินออกจากบ้านไปเลย ดีหมดเสี้ยนหนามสักทีแต่สักพักก็...

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” คุณแม่ครับ อยู่ดีๆก็หัวเราะ

“เอ้าๆ คุณๆ เบาๆ เดี๋ยวก็ตายหรอกหัวเราะขนาดนั้นอ่ะ” คุณพ่อเตือน

แล้วเย็นนั้นเราก็กินข้าวกันอย่างอร่อยครับผมมองพี่วินแล้วก็ยิ้ม พี่วินก็ยิ้มตอบครับคุณแม่ก็นะ พูดอะไรไห้ผมอายกลางโต๊ะอาหารตลอด หึงบ้างล่ะ ปากแข็งบ้างล่ะ ผมนี่จะกินข้าวใต้โต๊ะอยู่แล้ว พอกินกันเสร็จผมก็ขึ้นไปนอนครับ แต่พอผมขึ้นมาก็เจอพี่วิน นอนอยู่บนเตียงแล้วครับ ผมก็เลยรีบไปอาบน้ำจะได้มานอน แต่ขณะที่ผมกำลังล้มตัวบนที่นอน

“เฟียร์ พี่มีเรื่องสงสัย”

“อะไร” หัวถึงหมอนแล้วครับ

“เฟียร์ หึงพี่หรอ”

“เปล่า” เปล่าห่าอะไรตาแทบกระเด็น(ด่าตัวเอง)

“หรอ แล้วรักพี่บ้างได้มั้ย” ถามแบบนี้เลยหรอ ถ้าตอบตรงๆจะได้ใจไป

“ขอกอดหน่อย” พูดจบไม่ทันได้คำตอบเลยผมก็พลิกตัวไปกอดมันไว้แล้วครับ

“อ้อนจัง” พอพี่วินพูดจบผมก็หลับเลยครับ เดี๋ยวถามเซ้าซี้จะยิ่งมากความ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lucifel

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
พระเอกเรื่องนี่งี่เง่ามาก ปล่อยชะนีทรามๆเกาะอยู่ได้ ตั้งแต่เริ่มเรื่องมา คุณพี่วินนี่หาสร้างแต่ปัญหาตลอด ไม่มีปกป้องน้องเฟียร์เลย ขัดใจ :m16:

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 33

( Fear Part )

วันนี้ตอนเย็นผมต้องไปงานเลี้ยงกับครอบครัว พวกพี่วินเค้า ผมเลยโดนบังคับให้มาซื้อเสื้อผ้าที่ห้างครับ

“เฟียร์  เอาตัวนี้เถอะสีขาวน่ารักดี”

“ไม่เอาเฟียร์ชอบสีดำอ่ะ” แต่สีขาวก็น่ารักดี

“งานแบบนี้มันใส่สีดำไม่ดีหรอก”

“…ก็ได้” ผมเลยยอมๆไปครับ

ตอนนี้ผมกำลังแต่งตัวอยู่ครับ พี่วินกำลังอาบน้ำอยู่ ผมมองดูตัวเองในกระจุก ผิวขาวๆ ผมสีดำขลับซอยยาวเลยต้นคอลงมานิดหน่อย เสื้อเชิ้ตพอดีตัวสีขาว พับแขนมาถึงข้อศอก กางเกงยีนขาเดฟ กับขาที่เรียวสวย เห้อ เกิดมาเป็นผู้ชายทำไมเนี่ย และแล้วเสียงโทรศัพท์ของพี่วินก็ดังขึ้น

“สวัสดีครับ” ผมรับแต่ไม่ทันได้ดูเบอร์กลัวรับไม่ทันเผื่อใครมีธุระสำคัญ

“วินล่ะ” ผมลองมองดูเบอร์ หนอยยัยลูซี่

“อาบน้ำอยู่ มีอะไรฝากไว้มั้ย” ผมตอบเสียงนิ่งๆ

“บอกวินไห้ฉันด้วย ว่าถ้าเสร็จไห้มารับฉันด้วย แล้วฉันจะรอ”

“ผมจะบอกให้นะครับ...แต่เค้าจะไปหรือเปล่าก็อีกเรื่องนึง” ผมพูดจบก็วางสายใส่เลยครับ เกลียดยัยนี้จริงๆ

“ใครโทรมาล่ะ เฟียร์” พี่วินถามผมหันไปมอง....เอ่อ เซ็กซี่อ่ะ หยดน้ำที่เกาะอยู่บนแผงอกกว้าง พันผ้าเช็ดตัวไว้ใต้สะดือ แล้วก็มีผ้าอีกผืนเช็ดหัวที่เปียกอยู่

“...หวานใจพี่โทรมานั้นแหละ” ผมชะงักไปครู่แต่รวบรวมสติทัน

“เค้าบอกให้พี่ไปรับด้วย”

“หรอ กี่โมง” ถามแบบนี้จะไปใช่ไหม ได้

“ไม่รู้โทรถามเอง” ผมโยนโทรศัพท์ลงบนเตียงแล้วก็จะออกจากห้อง

“โอ๋ ๆ พี่ล้อเล่นไม่ไปหรอก จะไปทำไม แค่นี้ก็งอล” แล้วไปนะ รอดไป

“ไม่ได้งอลสักหน่อย” เถียงไปก่อนดีกว่า

“งั้นพี่ไปรับลูซี่ดีกว่า” พรึ่บบบบ ผมหันไปมองหน้ามันครับ

“ก็ไปสิ....แต่ไปแล้วไม่ต้องเจอหน้ากันอีก” ผมเตรียมม้วนตัวออกจากห้องครับแต่

“อื้ม......อื้ออออออ” ผมโดนดึงไปจูบครับเง้อ มันจูบผมไปสักพักก็ถอนจูบอกไปครับ

“ไม่ไปหรอกครับ แค่เฟียร์ไปก็พอแล้ว”

“…” ผมเขินเลยหันหน้าหนีแล้ววิ่งลงมาจากห้องครับ

“ฮ่าๆๆๆๆ” ผมได้ยินเสียงหัวเราะตามมาครับ ทำอะไรไม่ทันไห้ตั้งตัวเลย แต่จูบเมื่อกี้มัน....หวานจริงๆ

ตอนนี้ผมกับคุณแม่แล้วก็คุณพ่อ พี่วินอีกคนได้เดินลงจากรถ ตอนนี้เราอยู่กันหน้างานแล้วครับ พอเราเดินเข้าไปถึงตัวงานก็มีแขกบรรดาคนไฮโซ มากกว่าครึ่งหมื่นยืนกันอยู่ในงาน และเสียงท่ไม่พึงประสงค์ก็ส่งเสียงออกมาอีกแล้วครับ

“วินคะ ลูซี่บอกให้ไปรับ ทำไมไม่ไปรับค่ะ หรือว่าไม่มีใครบอก” เธอพูดและเหล่มามองผมครับ แต่ ผมไม่สนใจอ่ะนะใครจะทำไม หุหุ

“มีคนบอกครับ แต่พี่ไม่ว่างครับ” พี่วินตอบได้ตัดพ้อมากเลยครับ ตอนนี้แม่กับพ่อเดินทั่วงานแล้วครับเพราะเป็นคนมีชื่อเสียงอยู่เหมือนกัน ผมกับพี่วินเลยเดินกันมาที่ซุ้มอาหาร มีแต่อาหารดีๆทั้งนั้นเลยอ่ะ แต่ยัยลูซี่นี่ก็เกาะแขนพี่วินตลอดเลยครับ ผู้ใหญ่บางท่านอวยพรให้รักกันนานซะงั้นน่ะ ผมได้ยินแล้วของขึ้นแต่...เย็นไว้ เค้าคงไม่รู้กันจริงๆ ยัยนี้ก็ทำท่าไห้เหมือนจริงๆ

“เอาล่ะครับ ท่านมีเกียรติทุกท่านครับ วันนี้เราขอเชิญทุกท่านพบกับ คุณ สมปอง เจ้าของธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับต้นๆของประเทศไทย และ คุณ เกรียงไกร เจ้าของธุรกิจอลังหาริมทรัพย์ อันดับต้นๆของไทยเช่นกันครับ” พิธีการพูดจบ ทั้งสองคนซึ่งก็คือพ่อพี่วิน กับพ่อยัยลูซี่ ขึ้นไปไห้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินธุรกิจ และเรื่องสัพเพเหระทั่วไป

“ผมได้ยินมาว่า ลูกชายของคุณเกรียงไกร คบกับ ลูกสาวของคุณ สมปอง จริงหรือเปล่าครับ” เสียงฮือฮาดังขึ้นเลยครับ

“ให้เจ้าตัวมาตอบกันเองละกันครับ” พ่อยัยลูซี่พูดครับ

“งั้นทางเราขอเชิญทั้งคู่ที่เวทีด้วยนะครับ” พี่วินทำท่าไม่พอใจนิดหน่อยแต่ผมบอกให้ขึ้นไปและเป็นคนส่งข้างเวทีเอง แต่ยัยลูซี่นำหน้าไปแล้วครับ

“ลูซี่ จะตอบให้นะคะ สำหรับคำถามเมื่อกี้ ใช่ค่ะ เรากำลังคบกันอยู่ และเราจะหมั้นกันเร็วๆนี้ค่ะ” ทั้งหมดบนเวทีเอ๋อ เลยครับ ช่างภาพกดชัตเตอร์รัวไม่หยุด  ไม่สนแล้วครับจะพังหรือเปล่าชั่งมันทนไม่ไหวแล้ว ผมเดินไปขอไมค์จากคนคุมเครื่องขยายเสียงครับแล้วเดินขึ้นเวทีทันที

“ขอโทษนะครับ ที่มาขัดการป่าวประกาศงานหมั้นของคุณว่าแต่ไหนล่ะครับคู่หมั้นของคุณน่ะ” ผมถามอย่างใจเย็นที่สุด

“ก็วินนี่ไงคะ คู่หมั้นฉัน” พูดจบเธอก็เดินไปเกาะแขนพี่วิน แต่ผมเห็นพี่วินพยายามแกะออก

“หรอครับ แต่ท่าทางคุณจะจับผิดคนแล้วล่ะครับ.....เพราะว่าคนเนี่ยของผมครับ” อึ้งหมดเวทีครับโดยเฉพาะพี่วิน คงไม่คิดว่าผมจะกล้าขนาดนี้ แต่ไม่ได้ของๆเราต้องรักษาสิทธิ์

“อะไรกันคะ วินจะไปรักกับผู้ชายได้ไง อีกอย่างคนที่ให้ความสุขวินได้ก็คือฉันซึ่งไม่ใช่คุณ” พูดแบบนี้ผมปรี๊ดดดครับ

“จริงหรอครับ ถ้างั้น...” ผมเดินไปประกบปากพี่วินครับ ซึ่งก็ตอบรับได้ดีเช่นกัน

“>e$#@^*&+!@#?/’.” เสียงอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ผมถอนจูบออกพี่วินก็ยิ้มครับ

“พี่วินมีความสุขไหมครับ” ผมถามพี่วิน

“ครับ พี่มีความสุขดี”

“แล้วถ้าเฟียร์ให้พี่เลือกระหว่างลูซี่ กับเฟียร์ พี่วินเลือกใครครับ” ผมถามพี่วินแล้วก็ยืนเกาะกันด้วย >///<

“พี่เลือกเฟียร์ครับ” พูดจบพี่วินก็ก้มลงมาหอมแก้มผมครับผมเลยเหลือบไปมอง หน้ายัยลูซี่ที่แทบจะเป็นภูเขาไฟแล้วครับ

“กรี๊ดดดดดดด  แกเป็นใครน่ะเป็นลูกเต้าเหล่าใครถึงหลุดมาในงานได้ เรียก รปภ ทีค่ะ มีคนก่อกวนในงานค่ะ” อ๋อเธอเล่นแบบนี้หรอ ผมยังไม่ทำอะไรเลยครับก็......

“ก็ลองยาม รปภ แตะต้องตัวลูกสะใภ้ฉันดูสิ ฉันรับรองว่าศพไม่สวยแน่” คุณแม่ครับ

“เอ่อ คุณหญิงครับเกี่ยวกับเรื่องนี้....”

“ฉันทราบดีค่ะ ว่าลูกฉันรักกับผู้ชาย”

“คุณหญิงรับได้หรอครับ”

“ความรักน่ะ มันไม่จำกัดเพศหรอกนะคะ ไม่ว่าจะชายจริงหญิงแท้ก็ต่างมีความรักกับใครก็ได้” แม่พูดจบก็หันหน้ามาทางเรา

“และฉันเชื่อว่า เด็กสองคนนี้รักกันจากใจจริงไม่ใช่จากฐานะ หน้าตา หรืออื่นๆ” คุณแม่พูดจบก็มีเสียงตบมือดังเกียวกราวแต่ตอนนี้ยัยลูซี่หายไปแล้วครับ ระหว่างนั้นพี่วินก็หันหน้ามาหาผม

“เฟียร์ พี่คนนี้รักเฟียร์มากนะ”

“…” ผมเงียบครับ

“แล้วเฟียร์ล่ะ รักผู้ชายคนตรงหน้านี้มั้ย”

“…” ไม่กล้าตอบครับเขิน

“ว่างไงครับ” ถามย้ำแถมยิ้มด้วย ตอนนี้สายตาทุกคู่จ้องมาที่เราสองคนครับ

“......ก็......” ผมยังพูดอะไรไม่ออกเลยอยู่ๆก็เสียงหนึ่งดังขึ้น

“ถ้าฉันไม่ได้แกอย่างหวังว่าจะได้!!!” เสียงยัยลูซี่ครับตวาดลั่นเลยครับ

“ระวัง!!!”เสียงพี่วินครับ พูดจบมันก็จับผมกอดไว้แล้ว แล้วหันหลังบังบางอย่างที่ผมไม่รู้

“ปัง ปัง ปัง” เสียงปืนนี่

“ว้ายยยยยยยยย” เสียงกรี๊ดกันทั้งงานครับ

“พี่วิน!!!”

ออฟไลน์ maxtorpis

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-4

ออฟไลน์ ต่ายน้อย

  • กระต่ายน้อยลอยคอ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-3
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27719.0
กรี๊ด พี่วิน~ พอจะเม้นนี่เลือดสาดทันที

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 34

( Fear Part )

ผมนั่งมองคนตรงหน้าที่ อยู่บนตักผม มีแต่เลือดเต็มไปหมด ผมอึ้งทำอะไรไม่ถูกและตกใจมากๆครับ

“พี่วิน พี่วิน พี่วิน!!!” ผมเรียกชื่ออีกคนแล้วร้องไห้อย่างไม่รู้ตัว

“เฟียร์...มะ..ไม่เป็น..ระ...ไรไช่ไหม แฮ่กๆ อึก...” พี่วินถามผม

“ไม่เป็นไรเฟียร์ไม่เป็นไร พี่วินหยุดพูดก่อน เชื่อเฟียร์นะ พี่วินต้องไม่เป็นไรนะ” พี่วินยิ้มให้ผมแต่หน้าผมมีแต่น้ำตาครับตอนนี้

“พี่...”

“บอกให้หยุดพูดก่อนไงเล่า ถ้าไม่เชื่อเฟียร์ เฟียร์จะโกรธ ฮึก...ฮืออออ” ผมตวาดลั่นเลยครับ ผมนั่งมองลงไปในใบหน้าของพี่วิน

“พี่....รักเฟียร์นะ” พูดจบพี่วินก็หลับตาลงครับ

“ไม่พี่วิน ไม่ ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!” ผมตะโกนเสียงดังลั่นเหมือนคนขาดสติ และอยู่ๆจอภาพของผมก็ดำลงอีกและมืดไปในที่สุด


ผมตื่นขึ้นมาในห้องสี่เหลี่ยมสีขาวที่แขนมีสายน้ำเกลืออยู่ ผมทบทวนเรื่องราวต่างๆอยู่สักพักก็นึกถึงพี่วิน ใช่เราต้องไปหาพี่วิน

“ตื่นแล้วหรอลูก” แม่เดินเปิดประตูเข้ามาครับ

“พี่วินล่ะครับแม่ พี่วินอยู่ไหน พี่วินไม่เป็นไรไช่ไหม” ผมถามแม่เป็นชุดเลยครับ

“โอ่ยๆ ทีละคำถามสิลูก ตาวินปลอดภัยแล้ว อยู่ห้องข้างๆกันนี่แหละลูก” ผมได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมา

“ขอผมไปหาพี่วินนะครับแม่” ผมบอกเชิงขออนุญาต

“เอ่อ....เอาไว้นอนพักให้หายก่อนแล้วค่อยไปนะลูก เดี๋ยวไปเป็นลมอีกจะทำยังไงนอนพักก่อนนะ” แม่บอกผม

“ครับ” เลยต้องจำใจตอบไปแบบนั้นทั้งที่จริงๆแล้วอยากไปใจแทบขาด ผมนอนพักตามที่แม่สั่งเช้าวันต่อมาผมก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วกำลังจะไปหาพี่วินอีกห้องเมื่อผมก้าวเข้ามาในห้องเห็นพี่วินนอนหลับอยู่ แต่มีเครื่องวัดการเต้นของหัวใจด้วย ผมเลยนั่งลงที่โซฟาสำหรับญาติ ซึ่งในห้องตอนนี้ก็มีแม่กับพ่ออยู่ในห้องครับ

“เฟียร์” แม่เรียกผมครับ

“ครับ” ผมเลยหันไป

“เอ่อ...ฟังที่แม่พูดแล้วใจเย็นๆนะ”

“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมถามด้วยความสงสัยคงมีอะไรไม่ดีแน่

“คือ เฟียร์พี่วินโดนยิงเฉียดๆเส้นประสาท ตอนนี้ยังไม่ฟื้น และไม่รู้จะฟื้นเมื่อไร หรืออาจจะกลายเป็นเจ้าชายนิทราไปกเลยก็ได้” คุณแม่พูดจบ น้ำตาของแม่ก็ไหลออกมา

“มะ..แม่”

“…”

“แม่หรอก เฟียร์เล่นไช่ไหมจริงๆพี่วินแค่หลับไปใช่ไหม บอกเฟียร์สิว่าแม่หลอกเฟียร์เล่น” ผมพูดเสียงสั่นเลยครับ และตอนนี้รู้สึกถึงความร้อนที่ขอบตาพร้อมกับหยดน้ำไหลออกมา

“…” คุณแม่ไม่ตอบอะไร ผมลุกขึ้นไปหาพี่วินที่ข้างเตียง และจับมือพี่วินขึ้นมา

“เพราะเฟียร์.....เพราะเฟียร์คนเดียว ฮึก...ฮืออออ” ผมนั่งร้องไห้ที่ข้างเตียงคนไข้และผมก็ผล็อยหลับไป

ผมตื่นขึ้นตอนนี้ก็เวลาประมาณ 4 โมงเย็น ตอนนี้ในห้องไม่มีใครเลยครับสงสัยพ่อกับแม่คงจะกลับไปแล้ว ผมเลยเดินไปโทรศัพท์หาแม่

“แม่ครับ เดี๋ยวเฟียร์จะนอนเฝ้า พี่วินนะครับ”

“จะดีหรอลูก แม่จ้างพยาบาลพิเศษก็ได้นะ” แม่บอกผม

“ไม่ครับ ผมจะดูแลพี่วินเอง...นะครับแม่” พี่วินต้องเป็นแบบนี้เพราะผม ผมจะรับผิดชอบเอง

“แล้วแต่เฟียร์ละกันนะจ๊ะ”

พอแม่วางสายไปผมเดินกลับเข้ามาในห้อง และผมก็นั่งมองใบหน้าของคนที่ไร้สติ อย่างมีความหวัง ว่าเค้าจะตื่นขึ้นเร็วๆนี้และเห็นหน้าผมเป็นคนแรก ผมนั่งคิดอะไรอยู่นั้นเสียงประตูห้องก็เปิดขึ้น

“พี่ส้ม” ผมเห็นพี่ส้มคนแรก เธอยิ้มแล้วเดินเข้ามา คนอื่นๆก็เดินตามมา

“เป็นไงบ้างเฟียร์ วินมันฟื้นหรือยัง”

“ยังเลยครับ” เมื่อผมพูดจบน้ำตาก็ไหล

“เข้มแข็งนะ เฟียร์ วินมันไม่เป็นไรหรอกตายยาก เดี๋ยวมันก็ฟื้นเชื่อพี่สิ”

“ใช่แกต้องเข้มแข็ง รอวันที่พี่วินตื่นขึ้นมาแล้วเห็นหน้าแกเป็นคนแรก รู้ไหม” ไมโลพูดขึ้น

“อื้ม ขอบคุณนะพี่ส้ม ไมโล” ผมปราดน้ำตาลวกๆ

“นี่วันนี้พี่ซื้ออาหารมาเพียบเลย แกะใส่จานกินด้วยกันเลยดีกว่า” พี่ฟ้าพูดจบก็เดินไปแกะอาหารใส่จานแล้วยกมานั่งกินไก่ พวกเราก็คุยกันเรื่อง อาการของพี่วินเป็นส่วนใหญ่ เมื่อกินอาหารสักพักพวกเค้าก็กลับกัน

“เดี๋ยวพวกพี่กลับก่อนนะเฟียร์” พี่ส้มบอกครับ

“ครับพี่” ผมตอบ

“อยู่คนเดียวได้ไช่ไหม”

“ได้ครับ” ผมตอบพี่ส้ม

“จ๊ะ งั้นพี่กลับก่อนนะ” พูดจบเธอก็เดินออกไปพร้อมกับคนอื่น ส่วนผมตอนนี้ร้องไห้อีกแล้วครับ

“พี่วิน รีบตื่นขึ้นมานะ มาฟังคำตอบเฟียร์ไง พี่วินไม่อยากฟังหรอ” ผมพูดกับร่างของพี่วิน

“ฮึก...อึก...ฮืออออ....” ผมอยากหยุดร้องแต่มันหยุดไม่ได้ หยุดไม่ได้จริงๆ

เฮ้ออออ ทำไมชีวิตผมตอนนี้มันน่าหดหู่เหลือเกิน ทั้งๆที่ปิดเรียนน่าจะได้ไปเที่ยวแต่ผมก็ไม่อยากไปถ้าไม่มีใครอีกคนที่นอนอยู่ไปด้วย

“หวัดดีจ๊ะ เฟียร์” พี่ส้มทักครับ พร้อมกับคนอื่นๆ

“หวัดดีครับ พี่ส้ม พี่แป้ง พี่โชว์ ฯลฯ” ผมหวัดดีทุกคนครับ ทุกคนก็ยังคงคอยเป็นกำลังใจให้ผมมาตลอด

“วันพี่ซื้อของมาเต็มเลย” พี่โชว์พูดแล้วโชถุงในมือขึ้น อาหารนั้นแหละครับ

“พี่แกะกินกันเลยครับ ผมกินแล้วเดี๋ยวจะไปเฝ้าพี่วิน” ผมพูดจบก็เดินไปนั่งข้างเตียงซึ่งมันกลายเป็นที่ประจำของผมแล้ว ผมนั่งดูหน้าพี่วินไปได้สักพักก็ลุกไปเข้าห้องน้ำและเมื่อผมกำลังจะออกจากห้องน้ำ ก็มีเสียงโวกเวกโวยวายมาจากข้าง

“เฮ้ยยย ไอ้วิน วิน เรียกหมอ เรียกพยาบาลดิเฮ้ยเร็วๆ” ผมรีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำและก็พบว่า เครื่องวัดการเต้นของหัวใจร้องเสียงดัง และเส้นขีดในเครื่องเรียบเป็นเส้นตรง ผมเหมือนโลกหยุดหมุน เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้

“พี่วิน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ถึงจะมีกลิ่นตุๆโชยมา
แต่ก็สนุกนะ

konan6688

  • บุคคลทั่วไป
เฟียฆ่ามัน

ออฟไลน์ ต่ายน้อย

  • กระต่ายน้อยลอยคอ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-3
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27719.0
 :sad4:กรี๊ดส์ อีกรอบ พี่วินอย่าเป็นไรน้า~

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 35

( Fear Part )

ผมตะโกนสุดเสียงเพื่อเรียกใครอีกคน ร้องไห้ เสียงดังอย่างไม่อายใคร ตอนนี้บางส่วนไปตามหมอ บางส่วนก็คอยเฝ้ามองอยู่รอบๆเตียง

“พี่วิน ฮืออออ พี่วินอย่าทำแบบนี้ อึกกกก อยู่กับเฟียร์สิ ตื่นขึ้นมา ถ้าพี่ไม่อยู่แล้วเฟียร์จะอยู่กับใคร ฮืออออ” ผมร้องไห้เหมือนคนกำลังจะตายรู้สึกเหมือนหัวใจแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

“พี่วิน เฟียร์สั่งไห้ตื่นเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้!!!!~ได้ยินไหม!!!!” ผมตะโกนใส่คนที่นอนอยู่ตรงหน้า

“เฟียร์ใจเย็นๆนะ หมอกำลังมาแล้ว” พี่ส้มครับพูดจบพี่แกก็เอามือมาจับไหล่ผมไว้

“ฮืออออ” ผมร้องไห้ไม่หยุด และแปปเดียวคุณหมอก็เข้ามาครับ

“ขอทางด้วยครับ” คุณหมอพูดขึ้น

“คนไข้หัวใจหยุดเต้นค่ะ คุณหมอ” นางพยาบาลพูด

“เตรียมเครื่องปั๊มหัวใจมาที่นี่เลยครับ” หมอพูดจบนางพยาบาลก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

“คุณหมอ พี่วินจะไม่เป็นอะไรไช่ไหม เค้าจะรอดใช่ไหม” ผมถามหมอแทบไม่เป็นภาษา หมอหันมามองหน้าผม

“หมอจะพยายามไห้สุดความสามารถนะครับ” พูดจบนางพยาบาลก็เข้ามาพร้อม กับเครื่องปั๊มหัวใจ และรูดม่านปิดทันที

“ผมนั่งมองม่านอย่างใจจดใจจ่ออยากเข้าไปหลังม่านเหลือเกินแต่ทำไม่ได้ สักพักคุณนางพยาบาลก็รูดผ้าม่านเปิดออก ผมรีบปรี่ไปหาหมอเลยครับ

“หมอครับ คนไข้รอดไช่ไหมครับ ใช่ไหม” ผมมองหน้าหมอ แต่หมอหน้าเฉยมากและคำตอบนั้นทำให้ผมทรุดลงไปกับพื้น

“หมอขอโทษนะครับ พวกเราพยายามสุดความสามารถแล้ว” พูดจบหมอก็หันไปคุยกับนางพยาบาลเรื่องการเคลื่อนย้ายพี่วิน

“ไม่ พี่วินต้องไม่ตาย” ผมโวยวายลั่นแล้วเข้าไปกอดพี่วิน ผมร้องไห้เหมือนคนจะตาย

“พอแล้วเฟียร์ วินมันไปสบายแล้ว” พี่ส้มพูดครับ

“ไม่ ม่ายยยยยยยยยยยยยย” ผมกรีดร้องเลยครับ

ตอนนี้ทุกคนในห้องเศร้าไปตามๆกัน บางคนก็น้ำตาไหล บางคนร้องไห้เลยอย่างพี่ส้มครับตอนนี้พ่อกับแม่ยังไม่มากำลังเดินทางครับ ผมกอดพี่วินไว้แน่นและพูดความในใจตัวเองออกมากทั้งหมด

“พี่วิน พี่วินรู้ไหมเรารู้จักกันแบบไม่ค่อยชอบหน้ากัน และพี่ก็คอยแกล้งเฟียร์มาตลอด แถมยังคอยป้วนเปี้ยนในชีวิตของเฟียร์ตลอด จนพี่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเฟียร์ พี่ทำให้เฟียร์ อึก.... มีความสุขมาก” พูดถึงตอนนี้น้ำตาไหลเป็นสายแล้วครับ ทุกคนในห้องเงียบแล้วฟังผมพูด

“เฟียร์รักพี่ แล้วจะรักตลอดไป...” พูดจบผมก็ก้มลงไปจูบปากพี่วินครับ ตอนนี้ไม่อายใครทั้งนั้น และเมื่อผมถอนจูบออก

“มะ...หมอคะ  คนไข้ หายใจแล้วค่ะ”

“เช็คการเต้นของหัวใจ วัดชีพจร ด่วนเลย!!!” คุณหมอสั่งแทบตะโกน ส่วนผมตอนนี้วิ่งกลับเข้าไปกอดพี่วินแล้วครับ

“พี่วิน พี่วิน กลับมาหาเฟียร์นะ พี่วิน” ผมพูดด้วยเสียงที่มีความหวัง

“นะ...น้ำ” ผมเงยมองหน้าพี่วิน

“พี่วิน พี่วิน!!!” ผมโผเข้ากอดแล้วร้องให้อีกครั้ง

“นะ...น้ำ...น่ะ...หน่อย”

“น้ำหรอ แปปนึงนะ” ผมรีบรินน้ำแล้วยื่นให้

( Win Part )

ผมตื่นขึ้นมารู้สึกได้ว่าการลืมตานั้นยากเหลือเกิน หนังตาหนักมาก และเมื่อผมได้ยินเสียงใครคนหนึ่งร้องไห้ผมจึงลืมตาก็เห็น เฟียร์ร้องไห้ และกอดผมอยู่

“พี่วิน พี่วิน กลับมาหาเฟียร์นะ พี่วิน”

“นะ...น้ำ”

“พี่วิน พี่วิน!!!”

“นะ...น้ำ...น่ะ...หน่อย”

“น้ำหรอ แปปนึงนะ” เฟียร์ รินน้ำแล้วส่งมาไห้ผมอย่าง รน รน เมื่อผมดื่มน้ำเสร็จก็หันไปหาเฟียร์

“พี่เป็นอะไร” จะไม่ค่อยได้ครับ จำได้ลางๆว่า ผมเห็นลูซี่ถือปืนแล้วเล็งมาทางเฟียร์เลยเอาตัวเองบังไว้

“พี่ถูกยิง แล้วสลบไปตั้ง 7 วันแล้ว รู้ไหมว่าทำให้คนอื่นเค้าเป็นห่วง!!!” เฟียร์พูดตวาดใส่ผมครับ

“พะ..พี่ขอโทษ” ผมไม่รู้จะพูดอะไร

“หึ้ยยยยย” พอมันทำเสียงอารมณ์เสียเสร็จ จู่ๆก็โผเข้ามากอดผม

“ทีหลังพี่ห้ามทำ บะ...แบบ นี้อีก...เฟียร์เป็นห่วงพี่ ไม่มีพี่วินเฟียร์เหมือนคนไม่มีชีวิต อย่าทิ้งเฟียร์ไปอีกนะได้ยินไหม!!! เฟียร์ไม่อยากสูญเสียพี่ไป ฮือออ” ร้องไห้อีกแล้วครับ

“…” ผมไม่ตอบแต่ลูบหัวเฟียร์แทน

“สัญญากับเฟียร์นะ ว่าจะไม่ทิ้งเฟียร์ไปอีก”

“ครับ พี่สัญญา พี่จะอยู่กับเฟียร์ไปตลอดชีวิตเลย” ผมพูดจากใจจริงครับ

“โห้ยยยยย พวกเราเป็นธาตุอากาศเว้ย ไม่มีตัวตน กลับๆ ไป” ไอ้เกียร์ครับกวนตีนนะมึง

“ถ้าไม่ติดที่กูพึ่งฟื้นนะจะจูบโชว์เลย” ผมบอกมันอย่างเย้ยๆ

“ไม่ทันแล้วเว้ย เฟียร์จูบมึงโชว์พวกกูแล้ว ฮ่าๆๆๆ” ผมหันไปมองหน้าเฟียร์ แต่มันหันหน้าหนีผมครับ

“จริงหรอเฟียร์”

“…” ไม่ตอบครับ

“ว่าไงครับ”

“ก็...เออะ..อือ จะถามทำไมนักหนาเล่า” พูดจบก็ปราดน้ำตาครับ หน้าแดงด้วย

“เดี๋ยวก่อนสิ” ผมกอดมันไว้ก่อนครับ

“หะ อะไร” มันหันมาถามแบบ งงๆ

“เอาไหม่นะ เมื่อกี้พี่ไม่รู้สึกตัว”

“อ๊ะ...อื้อออ” พูดจบผมก็ก้มจูบมันเลยครับ

“ฮุ้วววววววว” เสียงพวกมันนั้นแหละครับ จูบโชว์แม่งเลย

“อะแฮ่ม ทำอะไรน่ะ เกรงใจพ่อแม่บ้างนะลูก” เสียงพ่อกับแม่เองครับ พอได้ยินเสียงเฟียร์ก็ดิ้นจนหลุดจากอ้อมกอดผมไป แล้วมันก็ไปหาแม่คุยกันเรื่องที่ผมฟื้นขึ้นมานั้นแหละครับ ผมก็ทักทายเพื่อนๆนิดหน่อย แล้วพวกมันก็กลับไปบอกว่าอยากไห้ผมพักผ่อน

หลังจากฟื้นผมก็นอนโรงพยาบาลต่ออีกสองคืนก็กลับมาบ้านครับ ตอนนี้เหลือเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์มหาลัยก็จะเปิดแล้วครับ ส่วนลูซี่อยู่โรงพยาบาลศรีธัญญาครับ เห็นคุณแม่บอกว่าเธอกลัวความผิดจนเพ้อบอกแต่คนอื่นว่าไม่ได้ทำอะไรตลอด  ตอนนี้ผมอยู่ในห้องแล้วครับ กำลังจะนอน ผมก็รอใครอีกคนออกมาจากห้องน้ำครับ และแล้วมันก็ออกมาแล้วครับ

“ทำไมยังไม่นอนล่ะ” มันถามผมครับ

“รอเฟียร์นั้นแหละ” มันทำหน้างง

“รอทำไม”

“ก็ไม่ได้กอดตั้งหลายคืน มาขอนอนกอดหน่อย” พูดจบผมก็ดึงมันขึ้นมาบนเตียงเลยครับ มันก็ไม่ได้ขัดอะไรครับ

“ไปเที่ยวกัน” ผมชวนมันครับ

“ที่ไหนอ่ะ”

“หัวหิน”

“อื้อ ไปสิแต่รอให้พี่หายก่อนนะ”

“พี่ก็ไม่ได้เป็นไรนิ พี่จองรีสอร์ทไว้แล้ว อีกสองวันไป”

“อื้ม ก็ได้ ใครไปมั่งอ่ะ” มันถามครับ

“ก็พวกเรานี่แหละ แต่พ่อกับแม่ไม่ไป”

“อื้อ นอนเถอะเฟียร์ง่วงแล้ว”

“ครับ จุ๊บ” ผมก้มไปจุ๊บปากแล้วก็ปิดเปลือกตาของตัวเองลงทันที

DEVIL nures

  • บุคคลทั่วไป
อัพเร็วดีจัง ไม่ค้างด้วย  :3123:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด