เหยี่ยวหัวใจ
Part 5
มาแล้วมารหัวใจ!..50%.
.
.
.
.
.
“ฉึ่งๆ! ปะโล่งโป่งฉึ่ง...ปะโล่งๆ ปะโล่งโป่งฉึ่ง! ฉันเกิดบนแดนอิสาน ถิ่นกันดารที่เค้าดูหมิ่นดูแคลน จากไกลไปหากินต่างแดน
ก็อาลัยแสนที่จำต้องพรากบ้านมา...บลาๆๆๆ” เสียงร้องเพลง เสียงกลอง เสียงหัวเราะเฮฮา
บนรถทัวร์สามคันซึ่งขับตามกันมาติดๆ โดยมีรถของรุ่นพี่ปีสี่และปีสามขับไปแสตนด์บายรอที่รีสอร์ทเมืองกาญฯ
สถานที่พาพวกเราไปรับน้องวันสุดท้าย ผมนั่งอยู่กับไอ้หยก ไอ้อั้มนั่งกับไอ้ขุน ส่วนสาวแตน กับสาวพรนั่งด้วยกัน
สาวนิ่มไปมั่วนิ่มกับพี่ๆ หลังรถโน้น เธอไปร้องเล่นเต้นมั่วกับรุ่นพี่มีจุดประสงค์ไม่ใช่อะไรหรอก
ก็ไอ้ตัวดึงดูดสุดรั่วเมียผมนั่นแหละ มันนำทีมน้องๆ ร้องเล่นเต้นกันอย่างมันส์อยู่ด้านหลังรถร่วมกว่าสิบกว่าชีวิต
เบียดเสียดเต้นดื่มกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง ท่ามกลางสายตารุ่นน้องที่พากันอมยิ้มไปกับมันด้วย
ผมปล่อยเค้าเต็มที่เลย เพราะฐานะผมตอนนี้ก็แค่รุ่นน้องปีหนึ่ง คงต้องอยู่ในบทบาท
ตามความเหมาะสม หากไม่มีอะไรเกินเลยมากนักผมก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว สำหรับผมชิวๆ
เท่าที่ดูมีเหล้ากรอกกันตลอด มันก็หน้าแดงดื่มไปร้องไปพาเอาสาวๆ กรี๊ดกันกระจาย
เออ..เอาเข้าไปรู้ว่ามันหล่อแต่ดันเสือกปล่อยฟีโรโมนอีกด้วย อุตส่าห์ว่าจะไม่คิดแล้ว หากไม่บังเอิญไปสะดุดสายตาเพื่อนมัน
ที่ชื่อแซคดูแปลกพิลึกในสายตาผม จากการที่มันคอยเทคแคร์ไอ้จอมรั่วนั่นชักจะไม่ธรรมดาแล้วละเอาหัวเป็นประกันเลย
บางจังหวะที่มันมองเมียผม ไม่ใช่สายตาของเพื่อนที่มีให้กัน แต่เอาเถอะผมยังไม่มีข้อมูลสำหรับเพื่อนมันคนนี้
คิดได้ดังนั้นคงต้องหาข้อมูลไว้หน่อยแล้ว
“แตน ยุ่งอยู่เปล่า” ผมลุกมายืนข้างเบาะของแตน ซึ่งนั่งกับพรถัดจากผมไปสองแถว
“ไม่ยุ่ง มีไรกับเราละรัน?” แตนถามผมมา ในขณะที่สาวพรก็หันมองตาปริบๆ ด้วยเช่นกัน
“อืม..มีเรื่องถามหน่อย” ผมตอบกลับไป
“เรื่องไร ว่ามาสิ” แตนรอฟังผม ในขณะที่สาวพรตาโตจ้องฟังเช่นกัน
“พี่สต๊าฟที่ชื่อแซค แตนพอรู้จักหรือเปล่า?” ผมถามไปทันที ทำเอาทั้งคู่ขมวดคิ้วทำหน้าสงสัย
เป็นเรื่องที่ผมคาดการณ์ไว้ก่อนแล้ว เธอทั้งคู่คงเห็นว่าผิดวิสัยอย่างมากที่ผมถามเรื่องนี้ เพราะในสายตาคนอื่นมักมองผม
ไม่ค่อยสุงสิงวุ่นวายเรื่องของใครเค้าสักเท่าไหร่ พอมาถามแบบนี้ยิ่งสร้างความคลางแคลงใจให้กับทั้งคู่เป็นเรื่องปกติ
“เออเหะ..เอาเป็นว่าเราไม่ถามดีกว่า ทั้งที่ใจอยากรู้จริงๆ เกิดอะไรขึ้นนายแบบหน้านิ่งของเรา
ถึงได้สนใจถามถึงรุ่นพี่ขึ้นมา รันคงมีเหตุผลส่วนตัวจริงไหม?” สาวแตนเป็นผู้หญิงที่ฉลาดไม่ใช่เล่นในสายตาของผม
เธอรู้จักวิธีการพูดเสียด้วยสิ ผมจึงได้แค่พยักหน้าให้เป็นการยอมรับในคำพูดของเธอ ก่อนเธอจะยกยิ้มตอบผม
แล้วพูดต่ออีกว่า
“เท่าที่ทราบ พี่แซคย้ายกลับมาเรียนที่คณะเรา เพราะพี่เค้าโอนหน่วยกิตเดิมมา เห็นว่าเค้าเรียน
นิเทศน์แต่เคยซิวเรียนคณะเราตอนปีหนึ่งแล้วโยกไปเรียนนิเทศน์ สุดท้ายกลับมาเรียนเหมือนเดิมอะไรปานนั้น
เราก็รู้มาแค่นี้แหละ” สาวแตนให้ข้อมูลกลับมา แสดงว่าไอ้รุ่นพี่แซคความจริงควรอยู่ปีสาม แต่คงเพราะซิวไปเรียน
คณะนิเทศ ก่อนตัดสินใจกลับมาเรียนต่อคณะเดิมจึงอยู่ปีสอง ที่อยากรู้ข้อมูลเพียงแค่นี้เพียงพอแล้วสำหรับผม
“ขอบใจแตนมาก ไม่มีไรหรอกเราแค่คุ้นหน้าถึงว่าซิวมานี่เอง” ผมเฉเปลี่ยนเรื่องไปซะ
สองสาวพยักหน้าเข้าใจก่อนยิ้มกลับมา
“รันทานขนมไหม พรมีเลย์สามถุงแหนะ เลือกไปถุงสิ” สาวพร ยังคงมีน้ำใจให้ผมเสมอ
ผมได้แต่ส่งยิ้มไปให้ รู้ว่าเธอคิดยังไงแต่เมื่อยังไม่แสดงออกชัดเจนผมก็ไม่จำเป็นต้องแสดงท่าทางอะไรไปเช่นกัน
“ขอบคุณมากครับ พรเก็บไว้กินเถอะผมไม่ค่อยชอบขนมคบเคี้ยวเท่าไหร่” บอกความจริง
เพราะผมไม่ชอบทาน ดีหน่อยเธอเข้าใจไม่แสดงสีหน้าผิดหวังอะไร ก่อนที่ผมจะขอตัวกลับมานั่งกับไอ้หยกเหมือนเดิม
“ไปคุยกับสาวๆมามีไรหรือเปล่า?” ไอ้หยกถามผมทันที หลังจากหย่อนก้นนั่งเรียบร้อยแล้ว
“ไม่มีไรหรอก” ผมตัดบท ก่อนจะทำเป็นหลับตางีบแทน มันก็ไม่เซ้าซี้ไรมาก
“ผู้ชายที่ดีในสายตาหญิง : จีบจริง! จ่ายจริง! กลอกกลิ้งนิดหน่อย! กินตับแล้วอร่อย!! ยิ่งบ่อยยิ่งดี!!!” เสียงไอ้รั่ว พูดเหี้ยไรของมัน เล่นเอาทั้งรถฮากลิ้งกันอีกแล้ว
“ฮ่าๆๆๆๆ...แม่งพี่พรตโคตรฮาเลยวะ...คนอะไรว่ะ..ฮาไม่มีลิมิตจริงๆ..ฮ่าๆๆ..” ไอ้หยกมีเอาศอก
มาสะกิดผมอีก อยากจะบอกมันจริงว่ากูรู้เต็มอก นี่แค่น้ำจิ้มมึงลองมาอยู่กับมันแบบกูแล้วจะรู้ว่ามันฮาได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“เสียชีพอย่าเสียสัตย์...เสียเข็มขัดอย่าเสียกางเกงใน...เสียตัวอย่าเสียใจ...เสียถุงยางอนามัย...
อย่าเสียอธิปไตยให้..HIV" เอาเข้าไปเมียผม มันคงได้ที่แล้วแหละ ถึงได้รั่วออกเสต็ปเทพแบบนี้
“ฮ่าๆๆๆ กร๊ากกก...พี่พรตเอาอีกพี่ จัดไป...ฮ่าๆๆๆ...” เสียงร้อง เสียงแซวชอบอกชอบใจ
ของรุ่นน้องทั้งรถ ฮากันตรึมกับมุกรั่วของไอ้เหยี่ยวมัน
“อุตส่าห์ไม่รัก..เขา..เพื่อให้เราได้รักกัน..แต่ความตั้งใจต้องพัง เมื่อมึงรักมัน แต่กูยังรักมึง !..ฮิ้วววว!!” ยิ่งยุมันยิ่งเอาใหญ่ ทำเอาขำกันกระจายนี่แหละความรั่ว มาพร้อมกับความเมามันจะออกอาการนี้ทันทีหากมันดื่มจนเข้าเส้น
“พี่พรตแม่งเจ๋งว่ะ!...สุดยอดเลยฮู้ววววว!!!” ฮีโร่จอมรั่ว เรียกคะแนนความมันส์จากรุ่นน้องปรบมือ
ชอบอกชอบใจกันใหญ่
“นอนคว่ำ เป็น ผู้ชาย, นอนหงาย เป็น ผู้หญิงนอนตะแคง แสดงว่า ยังซิง, แต่ถ้านอนนิ่งๆ ระวังแฟนทิ้ง
ไม่รู้ตัว...ฮ่าๆๆๆๆ..เอิ้กกก!” เอาเข้าไป อดไม่ได้จนต้องยืดคอเหลียวหลังไปดูหน่อย ตอนนี้มันออกท่าทางยังไง ผมยอมรับ
หูอื้อขึ้นมาทันที ไม่ใช่เพราะเสียงหัวเราะขำกับคำพูดมุกรั่วพาจี้ของไอ้เมียจอมรั่วจากเพื่อนร่วมคณะทั้งคันรถหรอก
แต่เพราะภาพที่เห็นไอ้พี่แซคมันกอดคอเมียผมเหมือนสนิทกันเต็มประดา ทั้งที่จมูกของมันเฉียดแก้มไอ้เหยี่ยวรั่วไปมา
ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ส่วนเมียผมก็ไม่ได้รู้จักระวังตัวเลย หึ...ขืนปล่อยไว้แบบนี้คงหาเศษหาเลยกับเมียผมโดยอาศัยการนัวเนีย
ตบตาคนอื่นแทน แต่สำหรับสิงห์รันไม่ใช่จะมองไม่รู้ดูไม่ออก เฮ้อ!...ว่าจะนิ่งแล้วเชียว...
“ขอผมสักแก้วได้ไหมพี่?” ผมเนียนลุกเดินไปยังหลังรถ ก่อนจะเอ่ยปากถามไอ้เหยี่ยวของผม
พร้อมกับจ้องมันเขม็งทำเอามันมองผมตาโตแล้วตอบมาว่า
“เอ้า!..น้องรันอุตส่าห์ขอด้วยตัวเอง จัดให้เค้าหน่อยพวกเรา...ฮิ้วววว!!!” แล้วเสียงโห่ก็ดังรับ
กันกระจาย หลังจากไอ้รุ่นพี่จอมรั่วมันประกาศซะลั่นรถ ผมถือโอกาสเบียดเข้าไปใกล้มันก่อนจะจ้องไม่วางตาแล้วบอกมันว่า
“แก้วแรกผมอยากได้รับเกียรติจากพี่ชงให้ผมเองจะได้ไหมครับ..รุ่นพี่?” พอผมพูดจบ มันยิ้มหล่อ
โชว์ฟันขาวจั๊ว ก่อนจะพยักหน้ากวนส้นสุดๆ แล้วรีบตอบผมกลับมาว่า
“ได้เลยไอ้น้อง สำหรับน้องรันแล้วพี่พรตจัดให้” พูดจบ มันเบี่ยงตัวออกจากการกอดคอของ
ไอ้พี่แซคแล้วกุลีกุจอไปหยิบแก้วชงเหล้าให้ผมทันที ไอ้พี่แซคหันมาจ้องผมก่อนจะยกยิ้มมาให้ แล้วพูดกับผมว่า
“หึหึ...น้องรันเลือกคนชงได้อย่างคิดไม่ถึงจริงๆ ใช่เล่นเลยเนอะ” ท่าทางที่แสดงออกมา
เหมือนประกาศสงครามกับผมตรงๆ เราคงไม่ต้องอะไรกันมากแล้วเพราะไอ้พี่แซคมันแสดงความรู้สึก
ทางสีหน้าแววตากับผมซะขนาดนั้น
“ผมจำเป็นต้องเลือกหน่อยนานทีผมจะดื่ม ฉะนั้นคนชงต้องพิเศษจริงไหม?” ผมตอบหน้านิ่ง
ก่อนจะยักคิ้วกวนกลับไปให้ หน้ามันแดงขึ้นมาทันทีกับการโต้ตอบอย่างไม่แคร์ของผม ก่อนสงครามทางสายตาของเราทั้งคู่
จะปะทุมากไปกว่านี้ ไอ้ต้นเรื่องที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ามันกำลังโดนเพื่อนคิดไม่ซื่อก็แทรกเข้ามา
พร้อมกับถือแก้วสองใบก่อนยื่นให้ผมใบหนึ่ง
“เอ้า!..ของน้องรันพี่ชงให้กับมือเลยนะ มะ..มาชนกันหน่อย..เอ้าชน!..เกร๊ง!” พูดจบมันไม่รอฟังคำตอบ
ยกแก้วชนผมทันที แล้วก็กระดกเข้าปากรวดเดียวหมด ผมจึงต้องยกตามท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองอยู่อย่างสนใจ
“เยี่ยมเลย..พวกเราเมื่อน้องรันคนหน้านิ่งมาเยือนถึงถิ่นจะปล่อยให้กลับไปนั่งง่ายๆ ก็คงไม่ใช่พี่พรต น้องรันต้องร้องสักเพลงแล้วถึงจะกลับไปได้” มันหันมาประกาศซะเสียงดังลั่นรถ ก่อนจะพูดต่ออีกว่า
“พวกเราเห็นด้วยหรือเปล่า ใครเห็นด้วยปรบมือให้เค้าหน่อยเร็ว” แถมยังเรียกเสียงสนับสนุนในรถอีก
ซึ่งผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเกินครึ่ง รีบปรบมือพร้อมกับส่งเสียงเชียร์มาเต็ม
“เอาเลยๆๆๆๆ..ร้องแล้วเต้นด้วย...เต้นด้วยๆๆๆ...” พอเป็นแบบนี้ ผมจึงต้องสนองความต้องการ
เพื่อนร่วมรุ่นเค้าหน่อย
“ตกลง ผมร้องและเต้น แต่ผมต้องมีคู่เต้นไม่งั้นไม่บิ้ว” ผมพูดกลับไปเสียงดังพอประมาณ
“ฮิ้วววว!!..เลือกเอาเลยค๊า...จับคู่เลย..ขอสมัครได้เปล่า?...ฮิ้ววว...ฮ่าๆๆ” มีทั้งเสียงโห่..เสียงแซว
ผมหันไปคว้าข้อมือไอ้ตัวดีก่อนจะรวบเอวเข้าให้แล้วออกเสต็บเทพทั้งร้องทั้งเต้นตามเสียงเชียร์ เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นลั่นรถ
เพราะคงไม่คิดว่าผมจะเลือกคู่เต้นคือไอ้รุ่นพี่ขวัญใจสาวๆ เข้าให้ ส่วนไอ้ตัวดีหน้าเหวอไปนิดหนึ่งก่อนจะยิ้มร่า
แล้วเกาะไหล่ผมโยกย้ายส่ายเอวเต้นเข้าคู่ผม พาเอาทั้งรถขำกันกระจายไปกับเราตามระเบียบ
“กรี๊ดดดด!!!...ว้าววว!!...ฮิ้ววว!!...ฮ่าๆๆๆ....กร๊ากกกก...รำระบำชาวเกาะ..เสียงเพราะเสนาะจับใจ เสียงน้ำหลั่งไหล..กระทบหาดทรายดังตึงๆ” ทั้งท่าเต้นพร้อมกับเสียงร้องที่มีลูกคู่พากันร้องตามทั้งคันรถ เรียกเสียงหัวเราะ
ไปกับพวกเราดังสนั่นหวั่นไหว แต่สำหรับอีกคนซึ่งตีหน้าบึ้งจ้องผมเขม็งแบบเหวี่ยงสุดๆ คงไม่ต้องบอกว่างานนี้
ผมลงทุนทำอุบาทว์ขนาดนี้ ได้ความสะใจกลับมาก็ถือว่าคุ้มเกินคุ้มแล้วล่ะเนอะ....???????
มาต่อให้แล้วนะคะ สำหรับเหยี่ยวหัวใจ เอาไป 50% ก่อนนะคะ
ขอให้มีความสุขทุกคน ขอบคุณทุกกำลังใจ
จะมาต่อให้อีกเร็วๆ นี้
Luk.