กรุณาอ่านข้อความข้างล่างต่อไปนี้
ประกาศของอีเจ้คนงามเมือง....
เนื่องจากมีบุคคลจำนวนมากได้เข้าใจว่าข้าพเจ้า...อิเจ้ ผู้น่าสงสารนั้นได้กลายเป็นนายมารร้ายประจำเรื่องนี้ไปแล้วนั้น
จึงขอถือโอกาสชี้แจงว่า...ข้าพเจ้าหาไปได้เป็นอย่างเช่นนั้นไม่ ข้าพเจ้ายังคงความงามและความน่าสงสารอยู่อย่างครบถ้วน
ขอให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้พึงระลึกเอาไว้เสมอว่า ข้าพเจ้า....อิเจ้ คือ
นายเอก ห้ามเข้าใจเป็นอื่นโดยเด็ดขาด
ขอประกาศซ้ำอีกครั้ง ข้าพเจ้า..อิเจ้ คือ
นายเอก จำไว้ให้ดีๆนะเคอะ ถ้ามีการทักผิดอีก มีตบ สถานเดียว
จึงขอประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน
ลงชื่อ....อิเจ้คนงามเมือง
..........................
ว้ากๆๆๆๆ ผมกำลังเก็บกระเป๋าครับ อย่าเพิ่งถามนะว่าผมกำลังจะไปไหน คนมันกำลังรีบๆๆๆๆ
เฮ่อ! ขึ้นรถรีบร้อยแระครับ อ่อ! ผมกำลังจะกลับบ้านครับ...บ้านผมกะไอ้แมทมัน อิอิ แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนหรอกนะไอ้บ้านที่ว่านี่นะ แต่ก็อยากให้มันมีตัวเป็นๆ อยู่เหมือนกันนะ ไม่รู้ว่ามันจะเป็นไปได้หรือเปล่า แต่ใครจะรู้อนาคตอ่ะเนอะ ลุ้นๆๆๆ...
....“ข้าวเหนียวหมูทอดมั๊ยค้า”
อ๊ะ! เสียงอีป้ากระเทยขายหมูทอดเจ้าประจำของผมมาแล้วครับ ตอนนี้ผมมาถึงนครปฐมแล้วครับ รถจอดแป๊บเดียวเองยังไม่ทันได้ไหว้สาพระปฐมเจดีย์เลย (พูดยังกะคนเมืองเหนือ...ไหว้สาจุ๊ธาตุ )
“เดี๋ยวป้า! หมูสามข้าวเหนียวสอง”
“ได้เลยค่า นี่ตังค์ทอนนะคะ...ขอบใจนะค้า ข้าวเหนียวหมูทอดมั๊ยค้า” แล้วป้าแกก็เดินขายต่อไปก่อนกระโดดวุบลงจากรถไปอย่างมืออาชีพจริงๆ
หมูสามข้าวเหนียวสองก็หายไปในปากผมเรียบร้อย แหม่ๆ ยังไม่ค่อยทั่วถึงพยาธิน้อยผู้หิวโหยเลย งั้นอย่าเพิ่งหลับรอไปซื้อก๋วยเตี๋ยวแห้งที่ราชบุรีกับทองหยิบทองหยอดที่เมืองเพชรดีกว่าเนอะ อุอุ มีฟามสุขโว้ย...ได้กินของอร่อยๆ....
...กำลังจามืดแล้วครับ เมื่อกี้รถวิ่งผ่านหัวหินมาแล้ว ทำไหมเดี๋ยวนี้เค้าไม่ขายห่อหมกวังก์พงกันแล้วเหรอ ผมอยากกินอะ แต่ช่างเหอะ! นอนก่อนดีกว่า พนักงานเดินมาเตรียมจัดเตียงปูที่นอนให้แล้ว เก็บท้องไว้กินข้าวต้มที่สุราษฏร์ตอนดึกๆ คืนนี้ดีฟ่า คิกคิก คิดแต่เรื่องกินตลอดคืน....
...เถิงหนายแล้วว้า(งัวเงียๆ เพิ่งตื่น) มืดไปหมดเลย(เอาหน้าพร้อมน้ำลายบูดไปแนบกระจกหน้าต่างรถ) ทำไหมไม่มาวันเดือนหงายนะ? เจือกเดินทางมาวันเดือนมืดเดือนดับอย่างนี้ตูก็กลายเป็นไก่ตาฟางมองอะไรไม่เห็นเลยจิ...
...อ๊ะ! สถานีตากแดด( :oกรุณาอย่าผวนเด็ดขาด ทะลึ่ง! )
เมื่อกี้เห็นป้ายแว้บๆ คงจะถึงชุมพรสถานีหน้าแล้วมั่ง(ใช่อ๊ะเปล่าคนชุมพรทั้งหลาย) งั้นผมต้องรอไปอีก หนึ่ง สอง สาม ไม่สิ จากชุมพรไปสุราษฏร์มันแค่สองชั่วโมงครึ่ง งั้นนอนต่ออีกแป๊บดีกว่าเนอะ
จ้ากกกกกกกกกกกกกกก ถึงไชยาตอนไหนเนี้ย ตูเลยสุราษฏร์มาแล้วเหรอ อดกินข้าวต้มเลย เอ๊ะ! หรือว่ายังไม่ถึงนะ จำมะด้ายยยยยยยยยยยยยยย ฮื่อๆ....
...“กาแฟร้อนๆ อาหารเช้าไหมครับ”
เสียงใครวะดังอยู่ข้างนอก ออ! คนเดินขายกาแฟ อ๊ะ! เช้าแล้วนิ ตื่นๆ เดี๋ยวอดกินไก่ทอดปักษ์ใต้ที่ทุ่งสงอีกหรอก กรีดดดดดดดดดดดดดดดดด นั้นไงพอพูดแล้วก็ถึงเลยครับ รางรถไฟเริ่มแยกแตกแขนงแล้ว ตัวรถผ่อนชะลอช้าลงก่อนหยุดสนิทอย่างกะทันหันให้ผมหัวคะมำเล่นซะงั้น! ผมขอตัวไปซื้อกินก่อนนะ รถจอดนานไม่ต้องห่วง แต่เสียดายตื่นมาไม่ทันรถลอดเข้าถ้ำกะตอนวิ่งบนเขา ผมละช้อบชอบ อากาศมันสดชื่นดี ชอบเอาหน้ายื่นๆ ออกไปนอกหน้าต่างให้ลมตีหน้าเล่น(แล้วก็ต้องไปหาหมอเพราะสิวขึ้น แง!)
แฮ่กๆ เมื่อกี้เกือบตกรถ กำลังยืนเลือกปาท่องโก๋อยู่เลย นายสถานีดันตีระฆังเหงงๆ ซะงั้นเลยต้องวิ่งตาเหลือกมาขึ้นรถ อดกินไปซะฉิบ แล้วไง....นั่งรอไปอีกสามนาทีมันก็ยังไม่ออก แล้วจะรีบตีระฆังให้ตูวิ่งทำมายเนี้ยยยยยยยยยยย....
.....“เม็ดม่วงหิมพานต์หม้ายค๊า”
สำเหนียงคนบ้านบ้านผมเอง เขินลล์! ซื้อสักสองถุงดีกว่า กะจะเอาไปฝากไอ้แมทมัน (ของฝากมาไกลมากเลยนะ บ้านมันไม่ได้อยู่จังหวัดเดียวกะแกเรอะ? แฮ่ะๆ) เลยอุดหนุนของคนที่รู้จักกัน(กรุณาอ่านข้อความต่อไปข้างล่างนี้ด้วยสำเนียงเสียงในฟิลม์ด้วย...ขอบคุณจากใจ)
“เพ่สาวๆ เอาแบบที่ผัดน้ำผึ้ง(น้ำตาล)หนา เอาเท่(ที่)ใหม่ๆ หิดอั้น ของเก่าเติ้น(คุณ)อย่าเอามาขายแรงตะ กินไม่หร้อยนิ หืนมันอิตาย(เหม็นหืนน้ำมันจะตาย)”
“ของใหม่ๆ เพแหละน้องบาวเหอ รับรองหร้อยแหม่น(อร่อยแน่ๆ) เอาเก่ถุงอะ”
“สองพอ เดี๋ยวกินไม่เหม็ด(หมด) หม้ายเท่เอาไปไน๋หล่าว(อีก)”
“สามถุงร้อยน้องเหอ เอาไปให้ครบสามนา”
“ครับๆ”
“กล้วยฉาบอะเอาหม้าย เพ่สาวเพิ่งทำแรกวานิ”
“ไม่เอา! พอเดี๋ยวค่อยหลบ(กลับ)มาซื้อที่เริ่น(เรือน)เติ้นเลยแล้วกัน เนอะๆ”
“แล้วนี้อีไปไน๋นิ?”
“ไปธุระบ้านเพื่อนเดี๋ยว เพ่สาวอย่าเที่ยวไปบอกห่าน”
“เออๆ เพ่สาวไปก่อนนะ รถตีฆังแล้วเสียง”
“ครับโผม ไปต๊ะ”
“เออโชคดีหนา บอกแม่กานนะว่าเพ่สาวคิดเถิง”
แล้วผมก็ได้เม็ดมะม่วงหิมพานต์เคี่ยวน้ำตาลข้นๆ เหนียวๆ ราดบนใบของมันเองที่ตัดเป็นแผ่นกลมๆ มาสามถุง แกะออกกินเสียก่อนถุงหนึ่งดีกว่าเพราะว่าไม่อยากให้มันผิดจากที่ตั้งใจไว้ว่าจะเอาไปฝากไอ้เจ้าแมทมันแค่สองถุง คุณว่า....ไอ้แมทมันจะทำหน้ายังไงนะถ้าเห็นผมยืนยิ้มเฉ่งอยู่หน้าห้องพร้อมถุงเม็ดมะม่วงนี้ โอ้ย! ตื่นเต้นลลล์ๆ
ถึงแล้วครับสถานีปลายทางที่ผมจะลง คนลงเยอะเหมือนกันแหะ ว่าแล้วก็ต่อตุ๊กๆ ไปหอไอ้แมทดีฟ่า
“ไปประตูร้อยแปดเท่าใดครับ” (ยังเสียงในฟิลม์ไม่เลิกเลยครับ)
“....(บอกเป็นราคามา แต่แพงไปนิด ช่างมันเหอะ! ผมอยากไปเจอหน้าไอ้แมทมันจะแย่เลย...)”
“ครับผม ปะ! ลุงช่วยหิ้วป้าวทีต๊ะ”
“ไอ้ไหร ยังบาวๆ อยู่เหลย...ยกป้าวเท่านี่ก็ยกไม่รอดแล้ว”
“......” อืม!.....ขันติๆ ลุงเขาแก่แล้วท่องเอาไว้ในใจ....
..................................................................
.....แล้วผมก็ลงรถตรงหน้าหอไอ้แมทมัน....ท่าจะยังไม่ตื่น เดี๋ยวยกกระเป๋าไปยื่นเคาะประตูมันที่หน้าห้องดีกว่าพอมันเปิดประตูออกมาก็กระโดดเกาะหอมแก้มมันเลย มอร์นิ่งคิส อิอิ อุ้ย! คิดแล้วเขินลลลลล์ เน๊อะตะเอง?
‘อึ้บๆ หรือตูคิดผิดวะเนี้ย’ ผมเพิ่งจะมาคิดได้ว่าตัวเองอาจคิดผิดไปก็อีตอนต้องยกกระเป๋าหนักล้านแปดกิโลขึ้นบันไดมาสี่ชั้นเนี้ยละครับ หัวใจผมแทบเต้นแร๊บอยู่รอมมะล่อแล้วมั่งเนี้ย แฮ่กๆ เหลืออีกสองขั้นหน้าผมก็จะโผล่ถึงพื้นทางเดินชั้นสี่แล้ว เย้ๆ ช่วยดีใจกับผมหน่อยแล้ว
ไอ้แมทมันจะดีใจไหมนะที่ผมมาหามันที่นี่ก่อนกลับบ้าน อิอิ แล้วเราจะได้นั่งกุมมือกลับบ้านไปพร้อมๆ กัน ว้ากๆๆๆๆๆ โรแมนซ์สุดยอดดดดดดดด คิดได้ไงเนี้ยผม...ฉลาดไม่น้อยเลยตู อิอิ แล้วไอ้แมทมันจะรู้ไหมน๊าว่าผมกำลังจะมาหามันถึงห้องอยู่แล้ว มันจะทำหน้ายังไงอยากเห็นตอนมันทำหน้าเหวอๆ จัง คงตลกน่าดูชม คงขำสุดจะบรรยาย
เฮ้อ! ในที่สุดถึงหน้าห้องมันเสียที เคาะประตูสามครั้งดีกว่า เก๊าะๆๆ เปิดประตู เปิดออกดูแง้มหัวใจ (ฮัมเพลงสาวสาวสาวไปในใจพลาง) แล้วก็ยกมือขึ้น อ๊ะ! ประตูเปิดเอง โอ่แมทจ๋า..... เธอรู้หรอว่าฉันจะมาหา โอ้! ยอดดดดดด ร่ะ......
“เอ้า!” ผมยกมือที่จะเคาะประตูค้าง
“อ่ะ!อ้าว” เสียงใครบางคนที่กำลังจะเดินสวนออกมา
“เฮ้ย! ตัว” อันนี้ทายสิเสียงใคร
สามเสียง....ดังขึ้นไล่ๆ กัน แต่เสียงที่ผมได้ยินดังชัดเจนสุดคือเสียงหัวใจของผมที่คงหยุดเต้นเงียบไปแล้วตอนนี้
“ตัว” แมทพุ่งพรวดแทรกคนที่ยืนอึ้งคาประตูอยู่ออกมาหาผม แมทตอนนี้ที่อยู่ในสภาพกางเกงบ๊อกเซอร์ขาแสนกว้างตัวนั้นที่ผมเคยใส่...แมทใส่มันเพียงตัวเดียวบนร่างกายตอนนี้
ส่วนอีกคน...พี่ฐา...ผมยาวถูกรวบมัดไว้ด้านหลังการแต่งตัวดูเรียบร้อยกว่าแมทเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก
ผม...อีป้าที่ดูเหมือนคนสติบ้าบอคนหนึ่งที่ตอนนี้มือเย็นเฉียบและหน้าคงจะลดระดับความดำลงบ้างแล้ว...ไม่มากก็น้อย อีป้าหน้าเหี่ยวๆ มันๆ เพราะเพิ่งลงจากรถไฟแล้วก็ตรงมานี้เลยโดยไม่แวะที่ไหน มันมุ่งตรงมาที่นี้...มาหาหัวใจของมัน
“ตัว” ผมคิดว่าผมได้ยินเสียงแมทเรียกผมอีกครั้งนะ แต่ตอนนี้ผมไม่...ไม่รับรู้อะไรแล้วจริงๆ ผมเริ่มตัวสั่นและหายใจไม่ออกอีกครั้ง ผมมองภาพข้างหน้าไม่ชัดเจนเลยเหมือนภาพมันเต้นริกๆ ไหวๆ ยังไงไม่รู้ เหมือนมีน้ำขึ้นมากั้นฉากเอาไว้แล้วผมก็รู้สึกอุ่นวาบลู่ลงมาเป็นทางทั้งสองข้างแก้มปรุๆ เพราะหลุมสิวของผม
“เค้าเอาของฝากมาให้” ผมยื่นถุงเม็ดมะม่วงที่ซื้อเตรียมมาแมทมัน “เค้าไปก่อนนะ”ผมหันหลังเตรียมจะวิ่งออกมาจากตรงนั้น
“เดี๋ยวตัวอย่าเพิ่งไป” แมทมันเข้ามาคว้ามือผมเอาไว้ อีพี่ฐาก็ออกมายืนดูทำหน้างง
“ช่างเค้าเหอะ ไปดูคนของตัวเหอะ” แล้วผมก็ปลดมือมันออกแล้วก็วิ่งลงบันไดมาทันที
“ตัว...ตัว....ตัว.........” ผมได้ยินเสียงไอ้แมทตะโดกนตามหลังมา แต่ผมไม่อยากอยู่กับมันตรงนั้นแล้ว ผมวิ่งผลักประตูหอพรวดออกมาที่ถนนแล้วกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปตามทางเดินฟุตบาท
‘แล้วมรึงจะไปไหนวะเนี้ย มันมีที่ไหนให้มรึงไปได้วะตอนนี้’ ผมหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้แล้วก็นั่งลงเอาหน้าซุกเข่า ถ้าใครขับมอไซค์ผ่านประตูร้อยแปดในวันนั้นแล้วเห็นไอ้บ้าหน้าเถื่อนที่ไหนก็ไม่รู้นั่งเช็ดขี้มูกอยู่ข้างทาง นั่นแหละครับผม
.......................................................................ตอนนี้ขอให้อ่านด้วยความเศร้านะ