- 2 - พระลักษมณ์พยายามขัดขืนแต่เหมือนปาจาจะรู้ว่าต้องยึดร่างคนข้างใต้ยังไงให้หยุดดิ้น พร้อมกับบดจูบดูดลิ้นลิ้มรสความหวานอย่างหลงไหล ทำเอาค่อยๆสงบลงช้าๆ เคลิ้มไปกับจูบดูดดื่ม
ที่ปีศาจล่าสวาทปลุกเร้าให้เกิดความรู้สึกร่วมจนได้
ก่อนจะรับรู้ถึงนิ้วแกร่งลูบไล้สะกิดหัวนมให้ลุกตั้งชูชัน ในขณะที่ปากหนาได้รูปก็ทำหน้าที่
ป้อนจูบหวานต่อเนื่อง เล่นเอาร่างโปร่งต้องแอ่นอกหยัดสู้นิ้วโดยไม่รู้ตัว
“อ่า~” เสียงครางแผ่วสร้างความพึงพอใจให้กับปาจาเป็นอย่างมาก ก่อนจะค่อยๆ ดึงรั้งเสื้อนอน
ของพระลักษมณ์ให้หลุดออก ในขณะที่ปากหนาก็ทำหน้าที่ฉกจูบดูดหัวนมแทนนิ้วที่สะกิดอยู่ตอนแรก
เล่นเอาเสียวสะท้านไปทั่วสรรพางค์กาย ถึงกับเผลอขยุ้มศีรษะสวยของปาจาอย่างไม่รู้ตัว
“อือออ~” เสียงที่หลุดครางออกมากับปฏิกิริยาลดการต่อต้านของพระลักษมณ์ทำให้ปาจาได้ใจ
ละเลงลิ้นชื้นกระหวัดกลืนหัวนมสีสดสลับต่อเนื่องซ้ายขวา ในขณะที่มือหนาก็เคลื่อนลงต่ำลูบไล้แผ่วเบา ก่อนจะค่อยสอด
เข้าไปในกางเกงนอนอย่างไม่เร่งร้อน แล้วลูบไล้ยังแก่นกายที่โป่งพองจนคับแน่น ทำเอาพระลักษมณ์ถึงกับสะดุ้งเฮือก
เสียววูบตั้งแต่ท้องน้อยยันปลายเท้า
“ซี๊ดดด~อ่า~” อารมณ์นี้ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่ารู้สึกดีมากแค่ไหน ยามเมื่อมือใหญ่รวบจับ
อย่างนุ่มนวลแล้วขยับรูดรั้งช้าๆ สลับวนนิ้วโป้งยังส่วนปลายที่ปริ่มน้ำเพิ่มความรู้สึกให้ร่างข้างใต้ไต่อารมณ์สูงขึ้นเรื่อยๆ
ถึงกับบิดตัวส่ายเอวร่อนเกินควบคุมความต้องการที่ปีศาจรูปงามปรนเปรอให้
สุดท้ายถึงกับเผลอหลุดครางกระเส่าเมื่อสัมผัสถึงความอุ่นชื้นที่ครอบครองยังแก่นกายแกร่ง
จนต้องแขม่วท้องเกร็งกล้ามเป็นลอนสวยยังกะลูกระนาดดูเซ็กซี่ยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนริมฝีปากหนายังคงทำหน้าที่ดูดกลืน
และรูดรั้งแทนมืออย่างต่อเนื่อง
“โอวววว~ซี๊ดดดด~” เสียงครางพร้อมกับเด้งเอวสวนรับจังหวะรูดริมฝีปากสร้างความต้องการให้ปาจา
อยากครอบครองร่างโปร่งไร้ที่ติของพระลักษมณ์จนทนต่อไปไม่ไหว ค่อยปลดพันธนาการออกจากร่างตนไปพร้อมกับ
ทำหน้าที่ปรนเปรอโอษฐ์กามอย่างต่อเนื่อง
พระลักษมณ์พริ้มตารับสัมผัสที่ได้รับอย่างยากปฏิเสธถึงความรู้สึกสุขสมที่ได้รับ แทบไม่ได้รู้ตัวสักนิด
ว่าขณะนี้ร่างตนไร้ซึ่งอาภรณ์ห่อหุ้มกายเปลือยเปล่าล่อนจ้อนขาวโพลนในความมืด ในขณะที่ร่างสูงใหญ่ของปีศาจรูปงาม
ก็ไม่ต่างกัน กล้ามเนื้อสมส่วนของชายชาตรีแข็งแกร่งอุดมด้วยซิกแพ็คสวยยังกะรูปปั้นลูซิเฟอร์ ใบหน้าคมเข้มงามสมชาย
ที่สามารถกระตุกหัวใจใครต่อใครให้หวั่นไหวทุกครั้งยามเผลอมองเข้าให้
และแล้วสัมผัสเย็นลื่นทางช่องประตูหลัง ทำให้พระลักษมณ์ตัวแข็งชะงักไปชั่วขณะก่อนจะหดเกร็ง
เมื่อนิ้วยาวสอดแทรกเข้ามา ถึงกับส่ายหน้าร่อนสะโพกหนี แต่เพราะแรงดูดรูดรั้งจากริมฝีปากด้านหน้าทำเอาอารมณ์เตลิดลิ่ว
เผลอแอ่นสะโพกยัดตามริมฝีปากของปีศาจรูปงาม เปิดโอกาสให้นิ้วแกร่งสอดแทรกเข้าไปจนสุดก่อนหมุนคว้านหาจุดพิเศษ
จนเจอในที่สุดเมื่อร่างโปร่งกระตุกเฮือก หลุดเสียงซี๊ดปากอย่างแรง เป็นสัญญาณให้รู้ว่าตรงนี้คือส่วนไวต่อสัมผัส
ต้องเน้นย้ำทันที
“ซู๊ดดด!!! อื้อออๆๆๆ!!” การส่งนิ้วกดเน้นบริเวณดังกล่าว ทำให้บิดตัวเกลียวด้วยความเสียว
ทั้งข้างหน้าข้างหลัง ในขณะที่ปาจาเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปอีก เมื่อช่องทางผ่อนคลายลื่นไหลสะดวกกว่าเดิม
ดวงตาคมเข้มเหลือบมองหน้าหล่อใสที่พริ้มหลับ เชิดคางสูงอ้าปากหอบกระเส่าตามอารมณ์ แต่ก่อนที่จะเดินทางสู่ฝั่งฝัน
ปาจาผละออกยกขาขาวแข็งแกร่งขึ้นพาดบ่าแล้วโน้มตัวดันสูงไปข้างหน้า ทำให้ก้นขาวกลมลอยเด่นขึ้นล่อตาอย่างชัดเจน
ช่องทางสีพีชกระชับแน่นจนทำให้คนมองใจเต้นรัวกระหน่ำ ก่อนจะจับแก่นกายใหญ่โตสมกับ
รูปร่างเจ้าของจ่อชิดแล้วกดส่วนหัวชำแรกแทรกเข้าไปช้าๆ พระลักษมณ์เผลอจับไหล่หนาบีบอย่างแรงเพราะความเจ็บที่ได้รับ
แต่ก็ยังรู้สึกน้อยกว่าคืนที่ผ่านมา คงเนื่องจากเจลเย็นที่นำร่องและความลื่นไหลไม่ฝืดมากนัก ถึงแม้ความคับแน่น
อุ่นร้อนที่กำลังเบียดแทรกจะทำให้เจ็บจุกอึดอัดไปหมด แต่ก็ให้รู้สึกตื่นเต้นอยากเอาชนะต่อความรู้สึกนี้เช่นกัน
พระลักษมณ์เม้มปากแน่น ก่อนจะหายใจลึกยาวผ่อนการเกร็งของกล้ามเนื้อ กลับต้องสะดุ้งเฮือก
เมื่อปาจาดันพรวดทีเดียวมิดยันโคน
“โอ้ย!..อืมม!!!” แม้จะเจ็บไม่น้อย แต่ความอดทนสูงทำให้ไม่ยอมร้องออกมา
คงมีแต่หางตาที่ชุ่มน้ำแสดงให้เห็นว่าร่างโปร่งทรมานไม่น้อย
ปาจาเห็นความอดทนที่มี และความพยายามในการผ่อนเกร็งร่างกายทำให้รู้สึกสงสารเห็นใจ
แต่ความรู้สึกสุดท้ายทั้งรักและหลงไหลมากมายท่วมท้นจนล้นทะลักแล้ว ตัดสินใจยกขาขาวแข็งแรงของพระลักษมณ์
ลงแนบสะโพกแล้วโน้มศีรษะลงบดจูบเพื่อให้คลายการเม้มริมฝีปาก ก่อนสอดแทรกลิ้นชื้นเข้าไปกวาดต้อน
กระตุ้นความรู้สึกซ่านเสียวขึ้นมาอีกครั้ง
มือใหญ่ยังคงทำหน้าที่รวบจับแก่นกายแกร่งที่พาดหน้าท้องขาวของร่างโปร่งสาวรูด
เดินเครื่องให้อีกครั้ง เรียกความรู้สึกเสียววูบจนต้องเหนี่ยวคอหนาลงมาบดจูบอย่างเร่าร้อน
ร่างงดงามสมชายของทั้งคู่สีผิวตัดกันยังกะภาพเขียนหายาก ผิวสีแทนตัดได้ลงตัวกับผิวขาว
ซึ่งกำลังบดคลึงสะโพกโยกเบียดไปมา ในขณะที่ริมฝีปากนัวจูบอย่างเร่าร้อน ก่อนสะโพกแกร่งของปีศาจรูปงาม
จะยกสูงและอัดกระแทกกลับเข้าไปเน้นๆ หนั่นเนื้อบดกระทบกันสร้างความรู้สึกเสียววาบไปทั่วทั้งตัว
“โอววว...ซี๊ดดดด!!!..” สองเสียงครางประสาน ก่อนจะถอยสะโพกสุดความยาวแล้วอัดกระแทก
กลับเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ระยะห่างการถอยและกดกระแทกเข้าใส่ยังกะลูกสูบเครื่องยนต์ที่ออกตัวก่อนจะรัวเร็วกระชั้นขึ้น
จนร่างข้างใต้ซึ่งรองรับการกระแทกกระทั้นสั่นคลอนไปตามจังหวะปะทะสนั่นหวั่นไหว
“พั่บบๆๆ..ปั๊ปปปปๆๆๆ!!! อ่า~ซี๊ดดดๆๆๆ” ไม่ต้องสนอีกแล้ว เมื่อสัญญาณความพึงพอใจที่เร่งเร้ามา
มีผลกระตุ้นให้ความฮึกเหิมของปีศาจรูปงามเดินเครื่องเต็มลูกสูบ พาเอาทั้งคู่ครางระงมกับความเสียวกระสันที่ได้รับประหนึ่ง
มีประจุไฟฟ้านับแสนนับล้านวิ่งกระจายไปทั่วทั้งร่าง
การเร่งเครื่องกระชันถี่มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่มือหน้าคอยรูดรั้งชักสาวให้ร่างโปร่งไปด้วย ซึ่งตอนนี้
แหงนหน้าเชิดคาง อ้าปากปล่อยเสียงครางกระเส่าอย่างลืมตัวไปแล้ว
“ซี๊ดดดๆๆๆอ่าๆๆๆ..อืมมมๆๆ” และแล้วในที่สุดอกขาวเนียนแกร่งก็ดันสูงกล้ามทองสวยเกร็ง
เป็นลูกระนาดก่อนจะกระตุกพ่นน้ำรักขาวขุ่นส่งแรงถึงปลายคาง พาลเผื่อแผ่เลอะทั่วหน้าท้องปีศาจรูปงามที่แหงนหน้า
กัดกรามแน่นจนเส้นเลือดเอ็นคอปูน เสยส่งแรงกระแทกแก่นกายใหญ่รัวกระหน่ำต่อเนื่อง ก่อนจะรวบบีบสะโพกกลมขาว
ของพระลักษมณ์แน่นกระตุกปล่อยธารร้อนระอุเข้าไปยังผนังนุ่มด้านในที่ตอดรัดถี่ยิบ สัมผัสรู้ถึงชีพจรจากแก่นกาย
กระตุกตึกๆๆๆ ก่อนร่างเกร็งแน่นจะค่อยๆ ผ่อนทรุดโอบร่างโปร่งซึ่งนอนหายใจโยน ไม่ลืมระดมจูบซับตามลำคอขาว
แก้มเนียนใส ขมับชื้นเหงื่ออย่างรักใคร่หลงไหล
กลิ่นเหงื่อกลิ่นกายกลิ่นน้ำรักคาวคลุ้งผสมผสานตลบอบอวลห้อมล้อมทั้งสองคนให้เคลิบเคลิ้ม
ยังกะทั้งคู่หยุดโลกไว้ในวินาที ไม่สนใจสรรพสิ่งรอบข้างนอกจากเสียงกระซิบทุ้มส่งผ่านข้างหูของพระลักษมณ์แว่วหวาน
“ผมรักคุณ ผมรักคุณพระลักษมณ์” ริมฝีปากหนาพรมจูบสลับเสียงกระซิบที่กระแทกหัวใจให้รัว
กระหน่ำรู้สึกพองโตขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ก่อนร่างใหญ่แข็งแกร่งจะค่อยถอดถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วรวบอุ้ม
เอาร่างโปร่งของพระลักษมณ์เดินโทงๆ เข้าไปชำระล้างในห้องน้ำทันที เราต่างไม่รู้ว่าบทเพลงพิศวาสอันเร่าร้อน
สิ้นสุดลงแล้วหรือยัง หรืออาจมีต่อในห้องน้ำอีกก็อาจเป็นได้ ตราบใดที่ปีศาจรูปงามสามารถร่ายมนต์สะกดให้
หัวใจของมานูเอลรูปหล่อลุ่มหลงมนต์พิศวาสจนยากไถ่ถอนหัวใจตนได้เช่นกัน....
เช้าลืมตาตื่นในอ้อมกอดของอกหนา รู้สึกอุ่นใจเกินบรรยาย แอบจ้องหน้าหล่อปานรูปสลัก
ของปาจาแล้วให้ร้อนวาบไปหมด เมื่อนึกถึงคืนที่ผ่านมาว่าตนเร่าร้อนไปกับบทรักของปีศาจตนนี้แค่ไหน
ค่อยขยับตัวเตรียมเลื้อยออกมาอย่างเนียนๆ แม้จะรู้สึกขัดยอกบั้นท้ายไม่น้อย แต่ก็ไม่กระไรมากสำหรับมนุษย์
ที่ผ่านการฝึกฝนร่างกายมาอย่างหนัก
“อืม จะไปไหนครับ” คำถามแสนสุภาพของคนที่ตายังพริ้มหลับ แต่สัมผัสรู้ว่าร่างในอ้อมกอด
กำลังขยับออกจากอก
“จะเจ็ดโมงแล้ว ต้องรีบลุกคุณก็เหมือนกัน ไม่รีบแต่งตัวพากันหายหัวไม่ทันอาหารเช้า
คนได้สงสัยทั้งบ้านแน่” พระลักษมณ์บอกกลับไป
“หึ..ใครจะสงสัย ในเมื่อกายันต์ ธรรมตรัย และนมอ่อนเค้ารู้กันแล้วนี่ว่าคุณเป็นของผม” ตายห่า!
ฟังพี่ท่านพูด อยากถีบคนขี้เซาที่เอาแต่พูดไม่ลืมตาให้ตกเตียงชะมัด
“ช่างเหอะ! อย่างน้อยคุณสิตากับหนูผาก็ไม่รู้นิ แค่นี้ผมก็วางหน้าไม่ถูกแล้ว
รักษาหน้าผมหน่อยดิครับด๊อกเตอร์” เป็นครั้งแรกที่พระลักษมณ์เรียกตำแหน่งทางวิชาการของปาจา
“หึหึ! เรียกซะเต็มยศเลยนะคุณ ไม่สิจะให้ครบจริงๆ คุณต้องมีพันตำรวจเอกต่อท้ายให้ผมด้วย
นะครับ ผู้กองพิษณุทรงพล” ปาจาก็เล่นกลับเช่นกัน ไม่ไหวเหลือจะทนกับมาดเล่นหัวของปาจา
ดันร่างหนาออกให้พ้นแล้วเบี่ยงตัวลุกแต่กลับถูกรวบกอดดึงลงไปหอมแก้มอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ฟอดดดด!!” เล่นเอาหน้าเหวอไปทันที
“เฮ้ย! อย่ามาหื่นแต่เช้าขอร้อง เมื่อคืนคุณก็ล่อผมจนขาสั่นแล้วหยุดเลย ปีศาจบ้ากาม” เปลี่ยนสรรพนามให้เรียบร้อย ปาจาจ้องหน้าแดงก่ำของพระลักษมณ์อย่างนึกรัก ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ผมกลายเป็นปีศาจบ้ากามเพราะใครยั่วผมหละ” คำพูดที่โยนคำถามกลับแบบไม่ต้องหาคำตอบ
ทำให้พระลักษมณ์เอ๋อแดกไปอีกรอบ เหมือนสมองสั่งการช้าเสียแล้วในการโต้กลับปีศาจรูปงามที่นอนเปลือยท่อนบน
ให้เสียวสันหลังตรงหน้า
“คุณนี่มัน..ชิ..ผมจะอาบน้ำปล่อยได้แล้ว” พอเห็นว่ายั่วพระลักษมณ์หน้าแดงจนหาทางเถียงไม่ออก
รู้สึกพอใจแล้ว ปาจาก็ยอมปล่อยให้ไปอาบน้ำทำธุระส่วนตัวตามความต้องการ ส่วนตนนอนเอาแขนหนุนหัว
มองตามร่างโปร่งผิวขาวที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อสมส่วนอย่างไร้ที่ติจนเพลินตา และต้องยอมรับว่า
พระลักษมณ์เป็นชายคนแรกที่ปลุกความรู้สึกของหัวใจตนซึ่งหลับไหลให้ตื่นขึ้นมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง รอยยิ้มอย่างมีเสน่ห์
จึงผุดขึ้นบนริมฝีปากหนาได้รูปโดยที่อีกคนไม่มีโอกาสได้เห็น หากแม้จะเอะใจหันมามองคงได้ตะลึงกับยิ้มพิฆาต
ปล่อยฟีโรโมนจนอ่อร่ากระจายรอบตัวปีศาจรูปงามที่โชว์แผงอกแกร่งหนั่นแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง
ปานรูปสลักลูซิเฟอร์
จังหวะปาจาเปิดประตูห้องออกมาพร้อมกับร่างโปร่งต่างต้องชะงัก เมื่อเจอสิตา
กำลังเปิดประตูห้องตรงข้ามออกมาเช่นกัน
ใบหน้าสวยเรียบเย็นขมวดคิ้วแปลกใจไม่น้อย ที่เห็นปาจากับพระลักษมณ์
ออกมาพร้อมกันในห้องของหนุ่มหล่อหน้าใส แต่โดยมารยาทสิตาก็ไม่ได้ถามแค่ทักทายปกติ
“สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณจา คุณพระลักษมณ์” ปาจายิ้มให้ ไม่แสดงอาการใดๆ ในขณะที่อีกคน
แทบเก็บอาการไม่อยู่ ต้องเนียนแกล้งทักกลับไปว่า
“คุณสิกำลังจะไปทานมื้อเช้าใช่เปล่าครับ” คำถามของพระลักษมณ์ ทำให้สิตาต้องยิ้มตอบ
พร้อมกับพยักหน้าตอบรับ
“ดีเลยงั้นไปพร้อมกันสิครับ ผมกับคุณจากำลังจะไปพอดี” พระลักษมณ์พูดจบ ปาจาผายมือ
ให้เกียรติสิตาเดินนำในขณะที่ทั้งสองตีคู่ตามหลังร่างสวยเอวบางได้สัดส่วนของสิตา ปาจาหันมาสบตาร่างโปร่ง
แถมอมยิ้มล้อเลียนให้อีก ในขณะที่พระลักษมณ์ถลึงตาใส่ประมาณเกือบไปแล้วไหมละ แต่ปาจาหาได้สน
มียักไหล่แบบไม่แคร์อีกต่างหาก อย่างถีบก้นปาจาให้กระเด็นติดข้างฝาจริงๆ ท่าทางน่าหมั่นไส้ชะมัดให้ตายเหอะ
มื้อเช้าเป็นปกติ สิตาก็ไม่ได้มีคำพูดอะไรเกี่ยวกับที่พบทั้งสองออกจากห้องด้วยกัน
ทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเป็นไปแบบทุกวัน หลังจากนั้นต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ตนเอง ส่วนพระลักษมณ์
โดนปาจาลากให้มาช่วยงานเอกสารในห้องทำงาน
ปาจาให้ช่วยตรวจเอกสารต่างๆ ซึ่งเป็นธุรกิจของคุ้มดงพญามีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่พระลักษมณ์ก็ทำความเข้าใจไม่ยากและช่วยงานปาจาโดยไม่บ่น ความจริงหน้าที่นี้เป็นของธรรมตรัย วันนี้เป็นวันสำคัญ
ซึ่งธรรมตรัยต้องไปจัดเตรียมพิธีชำระล้างจิตมารให้กายันต์ ดังนั้นทั้งคู่จึงขลุกกันอยู่ในห้องใต้ดิน
พระลักษมณ์เลยต้องอยู่ช่วยงานปาจาแทน
“คืนนี้ผมไปดูพิธีชำระล้างจิตมารให้คุณยันต์ได้หรือไม่” คำถามของพระลักษมณ์
ทำให้ปาจาชะงักมือที่กำลังจรดปากกาไล่เซ็นเอกสาร ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบว่า
“ได้สิ คุณไปพร้อมผมแหละ แต่หลังจากนั้นต้องปล่อยให้ธรรมตรัยกับกายันต์
เค้าอยู่ตามลำพังกันสองคน เราดูจนจบพิธีไม่ได้” ปาจาตอบกลับมาพาให้สงสัยเข้าไปใหญ่
“อ้าวทำไมละ? พิธีชุบกระสุนเงินกับหัวใจมารก็ดูไม่ได้เหรอ” อดไม่ได้ต้องถามกลับไปทันที
“นั่นมันเริ่มทำก่อนได้ดูอยู่แล้ว แต่ตอนชำระล้างจิตมารคุณอาจได้เห็นกายันต์คืนร่างกับตา
ปกติจะคืนร่างเฉพาะคืนพระจันทร์ดับ แต่ผมบอกแล้วไง หากนำหัวใจมารต้นแบบแช่ในอ่างพิธีแล้วกายันต์ลงน้ำเมื่อไหร่
เค้าจะคืนร่างมารทันที แต่พอชำระล้างคืนสู่ร่างมนุษย์แล้วเราต้องกลับออกมา ทีเหลือเป็นหน้าที่ของธรรมตรัยที่จะต้อง
ถวายพรหมจรรย์ดึงหัวใจมนุษย์คืนให้กายันต์อย่างถาวร” คำตอบของปาจาทำเอาพระลักษมณ์อึ้งไปเลย
ก่อนจะถามตามที่สงสัย
“อย่าบอกพวกเค้าต้องร่วมรักเหมือนที่เราทำ” คำถามซื่อๆทำให้ปาจาต้องชะงัก
อดยิ้มไม่ได้ เพราะพระลักษมณ์พูดคำว่าเราไม่ขัดเขินสักนิดหรือไม่รู้ตัวละมั้ง
“ใช่ แตกต่างตรงที่ทั้งคู่ไม่มีร่างแฝงเหมือนเรา ธรรมตรัยครองเพศพรหมจรรย์มาเพื่อพิธีนี้โดยเฉพาะ
เค้าไม่เคยยุ่งเกี่ยวทั้งหญิงทั้งชายมากว่า28 ปี เค้ายอมสละพรหมจรรย์เพื่อรับใช้ตระกูลผมตั้งแต่ต้น หากกายันต์ไม่ได้ร่วมรัก
กับธรรมตรัย พิธีชำระล้างจิตมารดึงหัวใจและวิญญาณความเป็นมนุษย์ก็ไม่สมบูรณ์ วันใดที่จิตมารอีกตัวใช้คาถาสะกด
กายันต์ได้ก็สามารถบังคับไปเป็นบริวารมันได้เช่นกัน เพราะงั้นพวกเค้าจึงต้องอาศัยศีลพรหมจรรย์ของธรรมตรัย
ที่รักษามากว่า 28 ปีเป็นการตัดสายสัมพันธ์มารออกจากร่างและวิญญาณกายันต์ให้สิ้นซาก” คำตอบของปาจา
ทำให้พระลักษมณ์ถึงกับหน้านิ่ว อดตั้งคำถามต่อไม่ได้
“ไม่อยากเชื่อว่ามีคนเสียสละตนเองเพื่อเรื่องนี้ไม่น้อย ผมแอบสงสัยทำไมไม่ใช่พรมจรรย์ผู้หญิง
ใยถึงใช้ของผู้ชายหืม” พระลักษมณ์ถามตามข้อสงสัยไม่จบไม่สิ้น แต่ปาจาก็ไม่นึกรำคาญที่ไขข้อกังขาให้ฟัง
“ไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะผู้หญิงใช้กับพิธีนี้ไม่ได้ เนื่องจากผู้หญิงเป็นพรหมจรรย์ที่มีมลทินทางเลือด
และฤดูขาว ไม่บริสุทธิ์และไม่ขลังเท่ากับศีลพรหมจรรย์ของบุรุษ นอกจากจะถือครองพรหมจรรย์แล้ว ยังต้องรักษาศีลห้า
ให้ครบด้วยตรงนี้แหละคือหัวใจหลักเลยเชียวหละ ผมเองยังทำไม่ได้เต็มร้อยเลยสำหรับศีลห้า” คำตอบของปาจา
ทำให้พระลักษมณ์ถึงกับพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็อดเปรยออกมาอีกจนได้ตามนิสัยช่างคิดของตน
“มิน่าคุณเลขาถึงทำชีวิตไม่มีสีสันปั้นหน้าเย็นชาได้ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง
คุณกายันต์กับคุณนี่ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องเลยเนอะ” ไปๆมาๆ ลงท้ายแขวะปาจาซะงั้น
“ใครบอกคุณ เสร็จพิธีผมเชื่อว่ากายันต์จะรับผิดชอบธรรมตรัยเหมือนที่ผมรับผิดชอบคุณแน่นอน
เพราะหัวใจมนุษย์ของกายันต์จะไม่สามารถรักใครได้อีกแน่ยามที่ได้เสพสังวาสรับเอาพรหมจรรย์ของธรรมตรัยไปแล้ว
เพราะนั่นคือลิขิตเดียวที่ไม่มีใครหลีกพ้นเหมือนผมที่หลงรักคุณเข้าให้เช่นกัน” แต่สุดท้ายคำพูดที่ตั้งใจหยอดพระลักษมณ์
ก็ทำให้ร่างโปร่งรีบก้มหน้าสนใจเอกสารต่อทันที แบบไม่สามารถหาคำมาโต้แย้งได้อีก แพ้ทั้งคำพูดทั้งสายตาคมเข้ม
ที่ส่งมาให้จนแก้มใสร้อนซะแทบระเบิด ให้ตายไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลยจริงๆ สุดท้ายวนเข้าตัวจนได้
“ก๊อกๆ ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตู เบรคอาการเขินจนอยากมุดกองเอกสาร
ของพระลักษมณ์ไว้ได้ทัน ทำให้ปาจาต้องเอ่ยอนุญาตให้เข้ามาได้
“เชิญ” และแล้วเป็นร่างของเลขาเย็นชาที่เปิดประตูเข้ามา มีเหลือบมองพระลักษมณ์
และยักหน้าให้เป็นการทักทาย ก่อนจะหันไปหาปาจาแล้วพูดขึ้นว่า
“สิงห์คำหัวหน้าคนงานแจ้งว่า พบศพครูรัสสากับรถยนต์ของเธอเลยทางเข้าคุ้ม
ประมาณกิโลกว่าอยู่ข้างทาง ตอนนี้แจ้งสารวัตรคมสันแล้วครับ” คำรายงานไม่แสดงความตื่นเต้นกับสิ่งที่บอกสักนิด
แต่คนฟังอย่างพระลักษมณ์ถึงกับอึ้งแดกไปแล้ว เป็นไปได้ยังไงครูรัสสาแสนสวยรวยเสน่ห์เห็นกันอยู่หลัดๆ
จะมาตายกระทันซะงั้น ปาจานิ่งไปเป็นครู่ก่อนจะตอบกลับไปว่า
“ไปดูกัน” พูดจบเจ้าคุ้มรูปงามลุกพรวดจากเก้าอี้ ก่อนจะก้าวเดินออกประตู
พระลักษมณ์รีบร้องตามทันที
“ผมไปด้วย” ???????????????มาต่อให้แล้วนะคะ หวังว่าคงถูกใจทุกท่าน
ขอบคุณกับทุกเป็ดทุกกำลังใจที่กดให้อย่างต่อเนื่อง
เพราะกำลังใจดีเช่นนี้ ข้าพเจ้าจึงไม่อยากให้พวกท่านรอนาน
ขอให้มีความสุขกับตอนนี้ สัญญากำลังใจมีให้รับรองไม่ทิ้งนานแน่นอน
Luk.
