คนรักคนที่สอง ตอนที่ 6ให้โอกาสตัวฉันซักครั้งก่อนไป
อยากเก็บความทรงจำดีๆ
เพื่อฉันจะจำเพียงเธอเรื่อยไป
ไม่ลืมว่าใครทำให้ฉันมีความสุขเหลือเกิน “ยุนโฮไปเที่ยวกันนะ...”
เพียงเพราะประโยคข้างบนที่ดังออกมาจากปากคนรัก ก็ทำให้วันนี้ท่านประธานหนุ่มกลับต้องผันตัวเองมาใส่เพียงแค่เสื้อเชิ้ตแขนแขนยาว กางเกงยีนขาสั้น ซึ่งมันดูเข้ากันได้ดีจนใครๆรอบตัวต่างพากันอิจฉาในรูปร่างหน้าตา แต่มันกลับทำให้คุณชายชองรู้สึกขัดๆไม่น้อยทีเดียว เพราะปกตินอกจากสูทและชุดอยู่บ้านตามปกติแล้วเขาแทบไม่เคยแตะเสื้อผ้าตามสมัยนิยมแบบนี้เลย
“ทำไมต้องทำหน้าแปลกๆด้วย”เสียงหวานข้างกายดังขึ้นเพื่อทำลายความคิดในหัวที่ยังคงตีกันวุ่นของชายหนุ่ม ก่อนที่มือเรียวจะคว้าแขนร่างสูงมาควงไว้เพื่อให้อีกฝ่ายหันมาให้ความสำคัญกับตัวเอง
“อ เอ่อ ฉันแค่ไม่ค่อยมั่นใจเวลาใส่ชุดแบบนี้น่ะ”ยุนโฮบอกคนรักก่อนที่จะเอื้อมมือไปลูบผมคนตัวเล็กเบาๆพลางสำรวจการแต่งตัวของคนข้างๆที่ไม่ได้แตกต่างไปจากเขามานักยกเว้นเพียงแต่กางเกงที่แจจุงใส่นั้นเป็นขายาว
ไม่ว่ามองกี่ครั้งเสน่ห์ของคนๆนี้ก็ไม่เคยหายไปเลย...
“มั่นใจซ่ะเถอะ นายน่ะไม่ว่าจะใส่ชุดไหนก็ดูดีหมดแหละ! ไปกินไอศครีมกันดีกว่า”พอเอ่ยจบคุณชายคิมก็ออกแรงดึงแขนคนข้างๆให้เดินตามไปยังร้านไอศครีมสีหวานตรงหน้า
หนุ่มชองเดินไปพร้อมๆร่างบางโดยไม่ออกความคิดเห็นใดๆนอกเสียจากรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ในลึกๆแล้วความรู้สึกที่คิมแจจุงกำลังแสดงมันออกมาในวันนี้มันกลับทำให้เจ้าตัวถึงขั้นคิดไม่ตก เพราะอะไรกันทำไมอยู่ๆความสดใสที่หายไปเกือบ3เดือนนั้นถึงกลับมาหาคนรักของเขาได้เพียงแค่ชั่วข้ามคืน
ความสดใส รอยยิ้ม ทุกๆอย่างที่แจจุงแสดงออกมามันเหมือนกับช่วงเวลาที่พวกเขาเคยมีความสุขด้วยกัน แต่นักธุรกิจที่ช่างสังเกตก็ยังแอบเห็นความเศร้าที่จะปรากฏผ่านนัยน์ตาคู่สวยนั้นเพียงเสี่ยววินาทีที่คิมแจจุงเหม่อ
นายกำลังทำอะไรกันแน่แจจุง...
“ยุนโฮอ่ะ....”เสียงหวานของคนรักดังขึ้นพร้อมด้วยไอศครีมแสนหวานรสโปรดของคนข้างกายที่ถูกตักมาจ่อที่ริมฝีปากของชายหนุ่มผู้ไม่ชื่นชอบของหวานสักนิดแต่กลับต้องอ้าปากรับอย่างเลี่ยงไม่ได้
“หวานชะมัด”ร่างสูงแอบบ่นกับตัวเองเบาๆโดยที่คนข้างๆที่นั่งอยู่ด้วยกันนั้นถึงกับอมยิ้มบางๆเมื่อได้ยิน
“รู้ไหมยุนโฮ การกินของหวานน่ะมันจะทำให้เรามีความสุขนะ”แจจุงเอ่ยบอกคนรักพลางตักไอศครีมในถ้วยตรงหน้าเข้าปาก
“มีคนตั้งเยอะที่ไม่กินของหวานแล้วมีความสุขได้นะแจจุง”
ใช่...มีคนที่ไม่จำเป็นต้องกินของหวานแต่ก็มีความสุขได้ เพียงแค่พวกเขาจะไม่รู้เลยว่าความหวานที่ทำให้เกิดความสุขนั้นมันรสชาติเป็นแบบไหน
“ฉันรู้น่า ไปแม่น้ำฮันกันต่อดีกว่า...”ร่างบางหันไปบอกคนรักพร้อมด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะดึงแขนของอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น
.
“นานแล้วนะที่ไม่ได้มาที่นี่”ยุนโฮเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ ในขณะที่มือของเขายังคงกุมมือเล็กๆของคนข้างกายไว้ไม่ห่าง
“อื้อ นานมา เป็นปีแล้วมั้ง”ร่างบางกล่าวตอบคนรักพลางทอดสายตามองไปยังแม่น้ำข้างๆ สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่แห่งความทรงจำระหว่างเขาและยุนโฮ มันเป็นที่ๆเขาได้ยินคำว่ารักครั้งแรกจากปากของชายหนุ่ม
“แจจุงวันนี้ฉันบอกนายหรือยัง...ว่าฉันรักนาย”หนุ่มชองหยุดเดินและหันไปมองหน้าคนตัวเล็กที่เงยหน้าขึ้นมาสบตาเขานิ่งๆก่อนที่จะส่งรอยยิ้มบางๆมาให้ ดวงตาคู่โตฉายแววสับสนออกเล็กน้อยก่อนที่ร่างบางจะพุ่งเข้ากอดคนรักแน่นราวกับชองยุนโฮกำลังจะหายไป
มือหนายกขึ้นกอดตอบคนรักก่อนที่เจ้าตัวจะสัมผัสได้ถึงความชื้นที่เกิดขึ้นบริเวณไหล่ เสียงสะอื้นเบาๆดังขึ้นขณะที่แรงกอดรัดของคนตัวเล็กก็เพิ่มมากขึ้นไปอีก
อีกแล้ว...แจจุงร้องไห้อีกแล้ว...
“ย ยุนโฮขอโทษนะ...ขอโทษ ฉันพยายามเข้มแข็งแล้ว...”ใช่ วันนี้ทั้งวันคิมแจจุงพยายามเข้มแข็งแล้ว พยายามที่จะสดใส พยายามที่จะมอบรอยยิ้มให้ยุนโฮ พยายามที่จะสร้างความทรงจำที่ดี...แต่สุดท้ายเขาก็ยังอ่อนแอ่อยู่ดี
“อย่าร้องสิ นายเข้มแข็งมากพอแล้วแจจุง”เสียงทุ้มบอกคนรักพลางกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นจนพวกเขาทั้งคู่แทบจะรวมเป็นร่างเดียวกัน
คิมแจจุงเข้มแข็งมาก...มากที่สุดแล้วสำหรับชองยุนโฮ เพราะเขารู้ว่ามันยากแค่ไหนที่แจจุงไม่เอ่ยถาม หรือทำอะไรที่ไม่ดีต่อเขา ในขณะที่เขาทำร้ายร่างบางไปมากขนาดนั้น
คุณชายที่เคยเอาแต่ใจและรักศักดิ์ศรียอมทนเพื่อเขาขนาดได้นี้เพราะเจ้าตัวเข้มแข็งมากๆ มากกว่าผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนี้ ที่อ่อนแอ่เกินกว่าจะเลือกใครสักคน
ขอโทษนะ...แจจุง“ยุนโฮฉันรักนาย รักมากที่สุด...”แจจุงเอ่ยขึ้นเบาๆก่อนที่จะค่อยๆคลายอ้อมแขนที่กอดรัดชายหนุ่มเอาไว้และเงยใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาจ้องมองยุนโฮ พร้อมด้วยรอยยิ้มที่เจ้าพยายามที่จะแสดงมันออกมา
“......”
ริมฝีปากบางค่อยๆสัมผัสเบาๆที่ริมฝีปากของคนรักโดยที่ไม่มีการเกินเลย เพียงแค่สัมผัสเพื่อบอกและส่งผ่านความรู้สึกของคนทั้งคู่ ความรู้สึกที่ไม่จำเป็นต้องมีถ้อยคำใดๆเอ่ยออกมา
“ตัดสินใจแล้วสินะ?”ร่างสูงถามคนรักที่ถูกเขาดึงเขามาในอ้อมกอดอีกครั้ง
“อื้ม ฉันตัดสินใจแล้ว”เสียงหวานที่ถูกตอบกลับมาอย่างมั่นใจแทบจะทำเอาหนุ่มชองเกือบหยุดหายใจ ก่อนที่จะเจ้าตัวจะค่อยพยักหน้ารับและปล่อยคนในอ้อมแขนให้เป็นอิสระ
“......”
“ยุนโฮไม่ต้องห่วงนะที่อเมริกามีทั้งไอศรีม ช็อกโกแลต และของหวานตั้งเยอะตั้งแยะฉันมีความสุขได้แน่ๆ”
เมื่อคนอย่างคิมแจจุงตัดสินใจไปแล้วไม่ว่าใครก็เปลี่ยนความคิดของร่างบางไม่ได้ข้อนี้ยุนโฮรู้ดี เพราะรู้เลยต้องปล่อย...
ขอให้นายมีความสุขนะยุนโฮ.
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเพื่อปลุกให้ชายหนุ่มเจ้าของห้องที่ยังนอนนิ่งไม่ขยับกายลุกขึ้นมาในเวลาที่สมควร มือหนาเอื้อมไปคว้านาฬิกาปลุกเจ้าปัญหามากดปิดทั้งๆที่เจ้าตัวยังไม่ยอมลืมตาขึ้นมา ผ่านไปสักพักนัยน์ตาสีสนิมก็ค่อยลืมขึ้นเพื่อต้อนรับแสงของวันใหม่
ชองยุนโฮนอนลืมตานิ่งๆอยู่บนเตียงชั่วครู่ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นและหันไปมองข้างกายที่ว่างเปล่า ที่ซึ่งเคยเป็นของอีกคนที่จากเขาไป
นิ้วเรียวลูบสัมผัสเบาๆที่โลหะเงินเรียบซึ่งสวมอยู่ที่นิ้วก้อยข้างซ้ายของตนเองเบาๆ แหวนเงิน...ของวัญชิ้นสุดท้ายที่เขาได้รับในวันนั้น ของขวัญที่เป็นเหมือนกับสิ่งเตือนใจและตอกย้ำความเจ็บปวดให้คนเลวๆอย่างชองยุนโฮได้รู้สำนึก
“ฉันคิดถึงนาย...”หนุ่มชองเอ่ยขึ้นก่อนที่น้ำสีใสจะค่อยๆไหลรินออกมาโดยไร้ซึ่งเสียงสะอื้นหรือถ้อยคำใดๆมากไปกว่านี้
ทุกๆเช้าที่ตื่นขึ้นมาไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปยังไงความรู้สึกของชองยุนโฮกลับยังคงเหมือนเดิม ความรู้สึกที่จำเป็นต้องเก็บมันไว้เพียงลำพัง
“ยุนโฮคะ คุณตื่นหรือยัง?”เสียงหวานของหญิงสาวดังขึ้นก่อนที่ร่างบางของคุณหนูตระกูลปาร์คจะเปิดประตูเข้ามาในห้อง
“ครับ ตื่นแล้ว...”ร่างสูงกล่าวตอบคนรักก่อนที่จะหยิบหน้าห่มขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้หมดไปโดยที่ไม่ใช่หญิงสาวรู้
“สุขสันต์วันเกิดค่ะ”แฮริมบอกคนรักพร้อมด้วยยิ้มแสนหวานก่อนที่จะเดินตรงไปโอบกอดร่างของชายหนุ่มเอาไว้พลางหอมแก้มเบาๆหนึ่งทีด้วยความรัก
2ปีแล้วที่เขาทั้งคู่ได้อยู่ด้วย 2ปีที่แฮริมได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่แทนที่อีกคนโดยที่ไม่รู้อะไรเลย“ขอบคุณนะ...”มือหนายกขึ้นกอดร่างของหญิงสาวไว้ก่อนที่จะค่อยก้มลงจูบขอบคุณเบาๆที่หน้าผากเพื่อเรียกรอยยิ้มแสนหวานของคุณหนูตระกูลปาร์ค
“ปีนี้ส่งมารึเปล่า...?”เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัยและตั้งความหวังไว้ลึกๆว่าสิ่งที่เขาหวังเพียงอย่างเดียวในวันเกิดจะเป็นความจริง
“นึกแล้วเชียวว่าคุณต้องถาม ส่งมาแล้วค่ะรสเดิมยี่ห้อเดิม เพื่อนคุณนี้เป็นคนดีจริงๆนะคะฉันอยากเจอเขาจัง...”พอพูดจบแฮริมก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบสิ่งของที่ส่งตรงมาหาชายหนุ่มในวันเกิดทุกๆปีมามอบให้เจ้าของที่กำลังยิ้มรอรับมัน
ช็อกโกแลตราคาแพงส่งตรงจากอเมริกาโดยที่ไร้ชื่อผู้ส่งถูกห่ออย่างดี มีเพียงลายมือหวัดๆที่เขียนคำอวยพรสั้นๆลงในกระดาษการ์ดสีขาวที่พอจะทำให้ชองยุนโฮยิ้มทุกๆครั้งที่ได้อ่านมัน
Happy birthdayของขวัญวันเกิดและคำอวยพรที่ชองยุนโฮได้รับมาตลอดสองปีที่บุคคลผู้ชื่นชอบของหวานจากไป ของขวัญที่แม้ไม่ได้เห็นหน้าแต่มันก็เป็นสิ่งที่ตอกย้ำความรู้สึกทุกๆอย่างของชายหนุ่ม ความรู้สึกที่ลืมไม่ได้... ถึงแม้ว่ามันจะผิดต่อหญิงสาวที่อยู่ข้างกายมากมายแค่ไหนแต่ยุนโฮก็ต้องยอมรับจริงๆว่า เขาไม่มีทางที่จะลืมคนๆนั้นได้จริงๆ
ลืมไม่ลงเพราะยังรักอยู่ ลืมไม่ลงเพราะเขาสำคัญจริงๆ...ลืมไม่ลงเพราะชองยุนโฮเป็นคนเห็นแก่ตัว
‘รู้ไหมยุนโฮ การกินของหวานน่ะมันจะทำให้เรามีความสุขนะ’ เสียงหวานที่ยังคงเด่นชัดในความทรงจำ ชัดเจนทุกๆถ้อยคำ ที่ชองยุนโฮสาบานว่าจดจำมันตลอดไป
คิดถึง...ชองยุนโฮทำได้เพียงแค่นี้จริงๆ
.
.
.
จบ
ค่ะ จบแล้วนะคะ จบจริงๆ TT [ สงสารแจจ๋า...... ]
ที่ตัดสินใจจบแบบนี้เพราะมันยุติธรรมที่สุดแล้วค่ะ
ไม่ใช่แค่สำหรับแจจุง และยุนโฮ แต่ต้องคิดถึงแฮริมด้วย
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่กลับต้องโดนปิดบังแบบนี้ไปตลอดชีวิต .. เฮ้อ
ส่วนแจจุง(สุดที่รัก) น้ำว่าการที่แจจากไปมันดีที่สุดแล้ว
เพราะว่าถ้าให้แจอยู่ต่อ โดยที่อิป๋ายังเลือกใครสักคนไม่ได้นั้น มันเจ็บนะคะ
ถ้าถามว่าแจจุงรักยุนโฮอยู่ไหม ตอบได้เลยค่ะว่ารัก ไม่งั้นแจคงไม่ส่งช็อกโกแลตให้ยุนหรอกเนอะ
และความหมายแฝงที่แจส่งมาคือ แจเขาอยากให้ยุนมีความสุขค่ะ TT
**ดังนั้น เราไปหาของหวานมากินกันเถอะค่ะ !!
สุดท้าย พระเอก 'ชองยุนโฮ' ใครงงๆไหมค่ะว่าแหวนที่ป๋าใส่ที่นิ้วก้อยมาจากไหน
คือมันเป็นแหวนที่แจไปซื้อให้ในวันที่เจอกะแฮริมอ่ะคะ ที่น้ำแต่งไว้ว่าแจจุงถือถุงจากร้านเครื่องประดับ
เอาเถอะค่ะ นี่มันไม่ใช่ประเด่น... แต่ในความคิดน้ำ เรื่องนี้รู้สึกว่าคุณชายชองจะไม่ค่อยได้รับกรรม TT
เหอะๆ แต่ยุนมันก็ต้องเจ็บปวดนะคะ เพราะคิดถึงแจ แต่เอาแจกลับมาไม่ได้
ไม่ใช่ว่ามันไม่รักแฮริมนะคะ เพราะรักแฮริมด้วยไงคะ คนเห็นแก่ตัวอย่างอิป๋าเลยทำอะไรเรื่องแจไม่ได้
ค่ะ สุดท้ายฟิค "คนรักคนที่สอง" ก็จบลงแล้วนะคะ
แต่รู้สึกว่ายังมีเพลงเหลืออีกท่อน น้ำอาจจะแต่งตอนพิเศษมาให้ทุกๆคนอ่านกัน
แต่ตอนนี้ต้องขอขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ และคนกดคะแนนบวกทุกๆคนนะคะ
ขอบคุณที่เป็นกำลังให้กัน ขอบคุณมากๆค่ะ 
Always Keep the Faith . !

By NAM 15-08-11 