ตอนที่ 20 ความหลังของสองเราตอนนี้ผมกับไอ้ฮักอยู่ในครัวทำกับข้าวกินกันอยู่ เนื่องจากตั้งแต่ไปรับมันที่สนามบินจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ผมก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย พวกเราสองคนช่วยกันทำซึ่งเคยทำด้วยกันบ่อยๆ ไม่อยากจะบอกหรอกว่าไอ้ฮักนี่แหละที่เป็นท่านเทพปรมาจารย์สอนผมในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำกับข้าว หรือเรื่องพวกต่อสู้
จะว่าไปแล้วในตอนเด็กๆ ผมน่ะติดมันอย่างกับตังเม อาทิตย์หนึ่งผมต้องไปนอนกับมันสักประมาณสี่ห้าวันได้ จนกระทั่งจุดเปลี่ยนมันมาเกิดขึ้นตอนมอปลายนี่แหละครับ ช่วงนั้นเหมือนกับเปลี่ยนนิสัยของผมพลิกตาลปัตรไปเลย คุณอาจจะไม่รู้ว่าสมัยก่อนมอปลายนั้นผมน่ะ อืม... จะเรียกว่ายังไงดีล่ะ ไอ้ฮักมันให้คำนิยามว่าคุณหนูผู้หน่อมแน้มปัญญาอ่อน แต่ตอนนี้กลายเป็นคนละคนอย่างเห็นได้ชัดเจน ใครได้เห็นผมตอนสมัยหน่อมแน้มกับตอนนี้ล่ะก็คงไม่มีทางเชื่อแน่ๆ!
“ชิมสิ แบบที่มึงชอบไง” ไอ้ฮักตักแกงมาให้ผมชิม อืม... ใช่ แบบที่ผมชอบเลย ไม่เผ็ดเกินไป เค็มนิดๆ ผมพยักหน้า ไอ้บ้าฮักยังทำอาหารได้ถูกปากชาวบ้านเขาเหมือนเดิม มันเหมือนเป็นคนที่ไม่ใส่ใจใคร แต่จริงๆ แล้วมันเป็นพวกเท้กแคร์ดีสุดๆ เลยล่ะครับ ไม่งั้นตอนเด็กๆ ผมจะติดมันเหรอ!?
“เมื่อไรจะเสร็จ!? จะทำเอาโล่หรือไงวะ?”
พวกผมหันไปมองไอ้พวกที่ทำให้ครัวดูคับแคบลงไปถนัดตา ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ไอ้โซโล่นั่นแหละ มันยังพ่วงไอ้วินเซอร์เข้ามาด้วยอีกคน จะเข้ามากันทำไมวะ ตัวใหญ่ๆ กันทั้งคู่ เกะกะขวางทางเดินฉิบ ออกไปกินเหล้ากับพวกเพื่อนมึงนู้นไป! พวกมันจ้องเขม็งอย่างกับจะมาจับผิดพวกผมอย่างไรอย่างนั้น
“เสร็จแล้วล่ะครับ อ๊ะ พรีสต์ หลีกหน่อย พี่จะหยิบชาม” ไอ้ฮักหันไปตอบไอ้โซโล่อย่างสุภาพ แล้วหันมาหยิบชามแต่จมูกดันมาชนกับแก้มผมอย่างตั้งใจโคตรๆ
“รีบหลีกสิพรีสต์!” ไอ้โซโล่แผดเสียงใส่ผมทันที ผมเลยต้องหลบมาด้านหลัง
เป็นการทำอาหารที่ดูแปลกๆ ดีนะ ไอ้ฮักทำอะไรไอ้โซโล่ก็คอยกัดคอยจิกจนน่าขำ พอผมเดินมานั่งรับสายตากดดันจากไอ้โซโล่ทันที ผมทำเป็นเมินไปมองทางอื่น ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นแล้วพวกเราก็เริ่มนั่งทานข้าวกัน ผมนั่งข้างไอ้ฮัก ส่วนไอ้โซโล่นั่งข้างไอ้วินเซอร์อีกฝั่ง
“ไม่เห็นจะอร่อยเลย” ไอ้โซโล่เริ่มหาเรื่องแบบเด็กๆ เมื่อตักเข้าปากไป
“นั่นพรีสต์ทำนี่ครับ” ไอ้ฮักหันไปมองแล้วเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ เสแสร้งสุดๆ แต่นั่นผมทำจริงๆ ด้วยแหะ ผมเงยหน้ามองไอ้โซโล่อย่างหาเรื่องทันที ไอ้บ้านั่นสะดุ้งตัวโหยงแล้วเงียบ ยกแรกไอ้ฮักวิน!
“ทำอาหารได้อร่อยไม่เข้ากับหน้าตาเลยนะครับ” ไอ้วินเซอร์เอ่ยขึ้นแบบปากเสียมากๆ หน้ามันน่ะกวนฉิบเป้ง! ผมมองไอ้วินเซอร์แล้วหันมามองไอ้ฮักที่ทำหน้านิ่งเหมือนเดิม มันตักข้าวกินราวกับไม่ได้ยินอะไรใดๆ จากไอ้วินเซอร์ เรียกว่าเมินขั้นเทพ!
“นั่นสิวะ ไม่น่าเชื่อเล๊ย” ไอ้โซโล่เอ่ยสนับสนุนเพื่อนอย่างแข็งขัน ไม่อร่อยแล้วพวกมึงมากินด้วยทำไมมิทราบ เหมือนด่ากูทางอ้อมเลยน่ะเนี่ย!
“พรีสต์ครับ ทานนี่สิ” ไอ้ฮักเมินใส่พวกนกพวกกา หันมาตักผัดหมูให้กับผม ไอ้โซโล่หนังตากระตุกรีบตักให้กับผมบ้าง
“กินหมูมีแต่ไขมันเดี๋ยวอ้วน กินผักดีกว่า”
“อย่างพรีสต์นี่อ้วนขึ้นนิดจะน่ารักกว่านะครับ”
“เสือก! แค่นี้เมียกูก็น่ารักจะตายห่าแล้ว” ไอ้โซโล่หันไปเถียงไอ้ฮักแบบว่าผมแอบยิ้มเลยอะ น่าร้ากกก! ทำหน้าเหวี่ยงๆ อีกต่างหาก ไอ้ฮอยฮักก็ไม่ยอมแพ้ พยายามตักนั้นตักนี้ให้ผม ไอ้โซโล่ก็เหมือนกันจนจานของผมล้นไปด้วยกับข้าวที่ผมตักกินไม่ทัน
“พอๆ แค่นี้กูก็กินไม่หมดแล้ว ไอ้โซโล่!”
“ด่าไอ้พี่เลิฟมึงบ้างสิวะ” ไอ้โซโล่แอบไม่พอใจเมื่อผมห้ามแต่มันคนเดียว พาลไปหาไอ้ฮักที่นั่งกินอยู่นิ่งๆ ผมถอนหายใจแล้วหันไปห้ามไอ้ฮักบ้าง
“พอแล้วพี่เลิฟ”
“อ๊ะ ข้าวติดมุมปากแน่ะ เด็กจริงๆ เลยนะพรีสต์เนี่ย” ไอ้ฮักมันยกมือมาปัดๆ ที่มุมปากของผมอย่างนุ่มนวลพร้อมกับแย้มยิ้มเล็กน้อยมองผมอย่างเอ็นดูโคตรๆ
เดี๋ยวๆ ไอ้ฮักมันมีมุมนี้ด้วยเหรอวะ!? มึงจะแสดงขั้นเทพเกินไปแล้ว ตัวจริงไม่ใช่แบบนี้! ไอ้โซโล่ได้แต่นั่งเอ๋อทำอะไรไม่ได้สักอย่าง สีหน้ามันใกล้จะระเบิดเต็มที หลังจากสงบสติอารมณ์ได้ครั้งหนึ่งแต่มันก็จวนเจียนจะระเบิดอีกครั้ง
เคว้ง~
เสียงช้อนกระทบกันดังขึ้น ทั้งสองเงยหน้ามาสบตากัน ไอ้โซโล่ทำสายตาหาเรื่องสิ้นดี ส่วนไอ้ฮักทำสายตาเยาะเย้ยอย่างเปิดเผย แล้วสงครามช้อนมันก็เกิดขึ้นกลางโต๊ะกินข้าว
“เฮ้ย จะเล่นหรือจะกินวะ?” ไอ้วินเซอร์เอ่ยปรามแล้วผลักจานนั้นไปให้ไอ้ฮัก ไอ้โซโล่มองเพื่อนอย่างไม่พอใจ
“เหี้ย ทำไมมึงไม่เอามาให้กู”
“ให้แขกก่อนสิวะ” ไอ้วินเซอร์ตอบกลับหน้าตาย
เพิ่งรู้ว่ามันมารยาทดีเป็นกับชาวบ้านเขาด้วย แต่คุณฮอยฮักกลับผลักจานนั้นกลับหันไปกินจานอื่นอย่างไม่สนใจสักกะนิด ไม่เหมือนตอนแรกที่แย่งกับไอ้โซโล่จะเป็นจะตาย ไอ้โซโล่กับไอ้วินเซอร์เริ่มส่อแววความไม่พอใจทวีคูณ การกินข้าวมื้อนี้เป็นอะไรที่ลำบากจริงๆ ครับ เผื่อผมจะกินข้าวที่พูนจานหมดแทบจะจุก ก็มีแก้วน้ำใสยื่นมาจากไอ้ฮัก ผมรีบฉวยแก้วน้ำมาดื่มแก้แค้นแล้ววางไว้ที่เดิม เฮ้อ เกือบตาย
“ถ้ากินอิ่มแล้วก็ไม่ต้องฝืน เดี๋ยวท้องจะแน่นเกินไป” ไอ้ฮอยฮักเอ่ยดุเล็กน้อยไม่จริงจังอะไร ก็เหมือนที่มันทำมาตลอดเมื่อผมทำอะไรผิดไป ผมยิ้มรับแล้วพยักหน้า
“รู้แล้วน่า”
“โว้ยยย! พวกมึงไม่ได้อยู่กันสองคนนะเฟ้ย!!” ไอ้โซโล่เลือดขึ้นหน้า มันตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจ ชี้หน้าไอ้ฮักอย่างหยาบคายมาก ไอ้ฮักไม่ว่าอะไร มันเมินไอ้โซโล่กลับไปทานข้าวของมันต่อเงียบๆ เจ้าของบ้านเอ็นกระตุกตุ้บๆ ถ้าทำได้มันคงอยากจะล้มโต๊ะกินข้าวไปแล้วแน่ๆ
“มีของหวานด้วยนะ พี่เลิฟกินเปล่า~?” ผมลุกขึ้นไปเปิดตู้เย็น หันหน้ามาถามไอ้ฮักด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าน่ารักสุดๆ ไอ้โซโล่กับไอ้วินเซอร์นี่มองหน้าผมอย่างไม่เชื่อสายตา ไอ้พวกนี้นิกูก็ทำตัวน่ารักเป็นเฟ้ย! ไอ้ฮักพยักหน้ารับแบบไม่เสียเชิงนักแสดง รู้คิวของตัวเองเป็นอย่างดี
“ก็ดีเหมือนกันครับ”
“กินของหวานตอนค่ำนี่นะ อ้วนตาย!”
“ถ้าพรีสต์อยากกินเดี๋ยวพี่กินเป็นเพื่อนก็ได้ แล้วคุณนี่มีอะไรฝังใจกับความอ้วนมากหรือไงครับ?” ไอ้ฮักพยายามพูดเอาใจผม แล้วหันไปกัดไอ้โซโล่หน้านิ่งมาก สายตาก็เย็นเยียบปานน้ำแข็ง พอไอ้ฮักพูดไปแบบนั้น ไอ้วินเซอร์ก็หัวเราะขำออกมา อะไรๆ! ไอ้โซโล่มันฝังใจเรื่องความอ้วนจริงเหรอ? หรือว่ามันเคยอ้วนมาก่อน มิน่าถึงห่วงนักว่าจะลงพุง ห่วงแต่จะอ้วน เอาแต่ออกกำลังกาย!
“ไอ้วินเซอร์ตอนเด็กๆ มึงน่ะตัวเล็กนิดเดียว ไม่ต้องมาหัวเราะชาวบ้านเขาหรอก”
“อ้าว ทำไมมึงพูดแบบนี้วะ กูยังไม่ได้พูดเลยว่าตอนเด็กๆ มึงน่ะอ้วนจะตาย ไอ้อ้วน!” ไอ้วินเซอร์ชะงักเมื่อไอ้โซโล่มันเผลอตัวแฉก่อน ไอ้วินเซอร์ไม่ยอม แฉตอบกลับทันที
“แล้วมึงจะพูดทำไมวะ!?”
“มึงพูดเรื่องกูก่อน!”
ระหว่างที่ผมกำลังมองไอ้สองคนนั่นทะเลาะกันเรื่องตอนเด็กๆ อย่างสนอกสนใจ ไอ้ฮอยฮักก็เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ มันหันมามองผมก่อนจะทำหน้าแปลกๆ ใส่ มันคิดอะไรได้วะ? แล้วไอ้ฮอยมันก็หัวเราะหึๆ ในคอจนไอ้คนทะเลาะกันหันว่ามองมันอย่างแปลกใจ ไอ้วินเซอร์นี่ดูจะตกใจมากที่เห็นไอ้ฮักมันหัวเราะ
“ฝังใจตั้งแต่เด็กจริงๆ นั่นแหละ ไอ้อ้วนเอ๊ย!” ไอ้ฮอยฮักพยักหน้าหงึกๆ เอ่ยออกมาเสียดแทงหัวใจคนเคยอ้วนอย่างไอ้โซโล่ ไอ้ฮอยฮักกลับมาทำหน้านิ่ง มันมองมาที่ผมก่อนจะหัวเราะอีกครั้ง อะไรของมัน!?
“หัวเราะอะไรนักหนาวะ ตอนเด็กๆ กูอ้วนแล้วมีอะไรน่าขำ!”
“ไม่ใช่แค่นั้นนะ เรื่องฝังใจของมึงน่ะไม่แค่อ้วนเท่านั้น กูทายว่ามีผมทองแล้วฝังใจเรื่องความสูงด้วย!”
“...” ไอ้โซโล่มองไอ้ฮอยฮักแล้วอ้าปากค้าง ส่วนไอ้วินเซอร์มองไอ้ฮอยฮักอย่างทึ่งๆ ผมทองอะไรวะ? พวกนี่มันคุยกันเรื่องอะไรกัน ทำไมไอ้โซโล่มันหน้าซีดแบบนั้นล่ะ ไอ้ฮอยฮักแสยะยิ้มชั่วร้าย
“ไอ้อ้วน จำได้หรือเปล่าว่าใครทำให้มึงกลัวความสูงแล้วอกหักจากเด็กผมทอง?”
ไอ้โซโล่ชี้หน้าไอ้ฮอยฮักขยับปากหงับๆ มันหน้าซีดเอาๆ อะไรวะ? ผมมองไอ้โซโล่สลับกับไอ้ฮอยฮัก ดูเหมือนว่าทั้งสองจะมีความหลังฝังใจร่วมกัน ไอ้ฮอยฮักไม่ใช้คำสุภาพแล้วครับ ขึ้นกูขึ้นมึงอย่างสนิทสนม ผมเอ่ยถามอย่างสงสัย
“พี่เลิฟรู้จักกับโซโล่งั้นเหรอ?”
“เราเคยสนิทกันตอนเด็กๆ ใช่ไหม?” ไอ้ฮอยฮักเดินมาตบไหล่ไอ้โซโล่ที่ทำหน้าเหมือนกำลังกินยาขม มันดูขมขื่นใจเป็นที่สุด ทำอย่างกับมันกลัวไอ้ฮอยฮักเสียเต็มประดา ผมทำหน้าบูดทันที ไม่รู้แหละ อย่ามาสนิทกันโดยที่กูไม่รู้เรื่องได้ไหม
“มึงก็รู้จักมันไอ้พรีสต์ ก็ตอนนั้นไง ไปเที่ยวทะเลตอนเด็กๆ นั้นไง แถมมึงกับมันน่ะสนิทกันมากไม่ใช่เหรอ?”
“...?” ผมกับไอ้โซโล่มองหน้ากันอย่างงุนงง มันกับผมนี่นะรู้จักกันมาก่อน ไอ้ฮอยฮักถอนหายใจเฮือก
“พวกความจำสั้น หรือจะให้ย้อนความให้ฟัง” มันเดินมานั่งที่เดิมแล้วเอ่ยขึ้นมาเรียบๆ
“ดูเหมือนตอนนั้นพ่อแม่พาพวกเราไปเที่ยวทะเลพร้อมกับพวกเพื่อนๆ ของท่านไง แล้วก็ไปเจอไอ้อ้วนนี้มากับพ่อแม่มันด้วย...”
“เดี๋ยว! ตอนนั้นเด็กผมทองเป็นผู้หญิงไม่ใช่เหรอวะ?” ไอ้โซโล่ยกมือขัดจังหวะไอ้ฮอยฮักที่กำลังเล่าความหลังอยู่ ผมคิดแล้วคิดอีกก็คิดไม่ออก โฮ เรื่องมันตั้งแต่เด็กแบบนั้น ใครจะไปจำได้!
“ถ้ากูบอกว่าตอนเด็กๆ แม่ไอ้พรีสต์ชอบแต่งให้มันเป็นเด็กผู้หญิงล่ะ มึงจะเชื่อปะ?”
“...สาวดุ้นอีกแล้ว”
ดูเหมือนไอ้โซโล่มันจะช็อกเรื่องนี้เอามากๆ มันยกมือปิดปากตัวสั่นคอตก สายตาผิดหวังกับชีวิตอย่างแรง ไอ้วินเซอร์หลุดหัวเราะแทบจะหงายหลังตกเก้าอี้ ผมมองไอ้วินเซอร์อย่างงงๆ มันจะขำอะไรของมันมากมายแบบนั้นวะ? แล้วดูท่าหัวเราะของมันสิ ทุเรศแท้ เสียภาพพจน์หนุ่มหล่อเลวหมดดด!
“ชีวิตไอ้โซโล่หนีสาวดุ้นไม่พ้นเลยว่ะ ก๊ากๆๆๆ!!!”
“แล้วอย่าบอกนะว่าไอ้เด็กผีนั่นคือ... มึง!” ไอ้โซโล่ถลึงตาใส่ไอ้ฮักถามอย่างตื่นๆ
“หยาบคาย ใครเป็นเด็กผีวะ โถ แค่โดนไอ้พรีสต์อกหักตอนเด็กเพราะมันชอบกูก็แค้นฝังใจว่ะ รู้สึกว่าตอนนี้มันก็ดูเหมือนจะเป็นแบบในอดีตอีกหรือเปล่าน่า?”
ไอ้โซโล่เงียบไปเลยครับ มันเงยหน้ามองผมด้วยสายตาคาดหวัง เอาล่ะสิ คาดหวังอะไรกับกูไม่ทราบวะ? สายตาดูอ้อนซะ แหม~ น่าไปปลอบใจจริงๆ เลยว่ะ! ผมหลบตามันหันไปพูดกับไอ้ฮอยฮัก ตอนนี้ขอตั้งหลักก่อนล่ะกัน
“พี่เลิฟครับ เดี๋ยวผมจะพาไปดูห้องนอน”
“แล้วจานพวกนี้ล่ะครับพรีสต์?”
“พรุ่งนี้จะมีคนมาจัดการเองแหละครับ พี่กลับมาเหนื่อยๆ น่าจะไปนอนพักผ่อนดีกว่า”
“ไอ้โซโล่ กูขอค้างด้วย” ไอ้วินเซอร์รีบหันไปขอเจ้าของบ้านที่ดูเหมือนจิตหลุดลอยไปนอกอวกาศ
ไอ้โซโล่พยักหน้าเชื่องช้าๆ แล้วลุกขึ้นเดินโซเซออกไป ผมมองตามอย่างเป็นห่วง ท่าทางไอ้บ้านี่มันจะฝังใจเรื่องตอนเด็กจริงๆ น่ะเนี่ย ชักจะสงสัยแล้วสิว่าไอ้ฮอยฮักไปแกล้งอะไรไอ้โซโล่ไว้บ้าง ไอ้คนที่โหดขนาดนั้นถึงงอเมื่ออยู่ต่อหน้ามัน แหม มึงแพ้ทางให้เพื่อนกูขนาดนี้ ระวังในอนาคตกูจะใช้มารังแกมึงนะ วะฮ่าๆๆๆ!!!
ผมพาไอ้ฮอยฮักไปดูห้อง แล้วขอตัวไปดูคุณสามีที่ไม่รู้ล่องลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้ว พอถามพวกเพื่อนๆ ของไอ้โซโล่ที่นั่งล้อมวงกินเหล้ากัน พวกนั้นก็บอกว่าเห็นมันเดินออกไปข้างนอก ผมพยักหน้าขอบคุณเมื่อได้คำตอบ ไอ้พวกนี้มันจะกินถึงเช้าเลยหรือไงวะ? ผมจิกตาใส่พวกมันอย่างไม่พอใจแล้วเดินออกไปข้างนอกเพื่อตามหาเจ้าคนที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“โซโล่? เฮ้ย! อยู่ไหนวะ?”
ผมเดินมาถึงสวนหลังบ้านก็เห็นไอ้โซโล่นั่งเหม่ออยู่ที่ศาลาริมบ่อน้ำ ทำอย่างกับมึงเป็นนางเอกแล้วให้พระเอกอย่างกูตามง้ออย่างนั้นแหละ พอผมเดินเข้าไปใกล้ มันหันมาเห็นผมแล้วสะบัดหน้าไปจ้องบ่อน้ำเหมือนเดิม แน่ะ มีค้อนงอนให้อีก ผมถอนหายใจเบาๆ มึงจะมองให้ปลาคราฟกลายเป็นปลาช่อนเลยหรือไง!?
“มึงยังชอบไอ้พี่เลิฟนั้นอยู่ใช่ไหม?”
พอผมนั่งลงตรงกันข้ามกับมัน ไอ้โซโล่ก็เอ่ยปากถาม ผมมองหน้ามันที่ยังมองบ่อน้ำนั้นอยู่แล้วตอบไป
“ทำไมจะไม่ชอบล่ะ”
นั่นเพื่อนกู แล้วทำไมกูจะไม่ชอบมันล่ะ
“...แล้วกูล่ะ?” ไอ้โซโล่หันมามองผมด้วยสายตาจริงจังมากๆ ผมต้องหลบสายตามันไป ก็ผมเขินอะ! จ้องตามันไม่ได้!!! ไอ้โซโล่เงียบ ผมก็เงียบเหมือนกัน ตอนนี้บรรยากาศระหว่างเราเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กๆ ผมเหลือบไปมองไอ้โซโล่ที่ก้มหน้าลงมองพื้น เหมือนกับว่ามันกำลังอดทนอะไรบางอย่าง
“แล้วมึงกับกูเป็นอะไรกัน?”
มันถามขึ้นมาเบาๆ ด้วยน้ำเสียงแบบไม่มั่นใจ ผมก็เงียบแล้วคิดเช่นกัน เออ นั่นสิ มึงกับกูเป็นอะไรกัน เพื่อนงั้นเหรอ? เหอะ ก็เพิ่งรู้จักกัน แล้วเพื่อนที่ไหนมันเล่นจ้ำจี้กันบนเตียง แฟนงั้นเหรอ? เหอะ! ก็ยังไม่ได้ตกลงหรือคุยเป็นทางการเลยนี่ จะเป็นได้ยังไง?
“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหละ” ผมตอบออกไป ไอ้โซโล่เงยหน้ามองผมทันที ผมชะงักตัวเล็กน้อย แปลกใจที่เหมือนจะเห็นมันกำลังจะร้องไห้ อะไร? ทำไมทำหน้าแบบนั้น กูก็พูดตามความจริง มึงกับกูไม่ได้เป็นอะไรกัน ใช่ ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ไอ้โซโล่ทำหน้าบิดเบี้ยวก่อนที่มันจะพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นเดินออกไป ไม่วายพูดเสียงประชดประชันทิ้งไว้อีก
“เออ มึงกับกูไม่ได้เป็นอะไรกัน!”
ผมมองมันเดินออกไปแล้วเคาะนิ้วที่โต๊ะตรงหน้า ไอ้บ้าเอ๊ย... แค่นี้มึงก็ไม่รู้อีก จะให้กูพูดมันทุกประโยคเลยหรือไงวะ!? ผมถอนหายใจ กูก็อายเป็นนะโว้ย หน้ากูบางในเรื่องแบบนี้! แค่ประโยคเดียวเนี่ยมันจะตายไหมเฟ้ย!!! แค่ถามมาว่า...
เป็นแฟนกันไหม มันจะตายงั้นเหรอ!!!?
ไอ้ปากหนักเอ๊ย!
“ไอ้เหี้ยโซโล่! แค่มึงพูดประโยคเดียวนี่มันจะตายหรือไงวะ!!!? มึงไม่เคยขอคนอื่นเป็นแฟนหรือไง?” ผมลุกขึ้นแล้วเดินมายืนอยู่หน้าศาลาตะโกนอย่างเหลืออด
ไอ้บ้านั่นหันกลับมาทำหน้าเหมือนกำลังจะยิ้ม แสร้งเหลือบไปมองทางอื่น ลีลามากนัก เดี๋ยวกูจะปฏิเสธแม่งเลยนิ! มันเดินกลับมาหาผมแล้วยิ้มที่มุมปาก กูก็เขินเป็นน่ะโว้ย จ้องอยู่นั่นแหละ ผมยืนเกาหัวแกรกๆ ไม่มีอะไร แก้เขินไปงั้นแหละ! ไอ้โซโล่ขยับตัวมาใกล้ๆ ผมแล้วกระซิบข้างหูเบาๆ
“เป็นเมียกูนะ?”
“เหี้ย! ให้ขอเป็นแฟน ไม่ได้ให้ขอเมียเฟ้ย!” ผมยกมือตีมันทันที ไอ้บ้านี่! เมียอะไรของมึงวะ!? ไอ้โซโล่มันหลบคว้าข้อมือของผมทั้งสองข้างไว้ มันก้มมองหน้าผมแล้วเอ่ยด้วยใบหน้าจริงจังมากๆ
“แฟนไม่เอา อยากได้เมีย จะเป็นปะล่ะ?”
“...ไอ้บ้า ไม่เป็นแล้วกูจะอยู่กับมึงทำเหี้ยอะไร” ผมเอ่ยเบาๆ ตอบกลับ ไอ้โซโล่มันยิ้มแป้นแล้วก้มหน้าลงมาจูบปากผมอย่างรวดเร็ว เรายืนจูบกันอย่างนาน ไอ้โซโล่มันจูบผมซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้จักจบ เฮ้ย! จูบนานกว่านี้เดี๋ยวโดนยุงห่ามไปนะโว้ย พอก่อน! ผมเริ่มขยับตัวแล้วผลักมันออก ไอ้โซโล่ผละริมฝีปากอย่างเสียดายแล้วก้มลงมาใช้หน้าผากชนหน้าผากผม ใบหน้าของเราใกล้กันมาก
“มึงเป็นเมียกูแล้วนะ อย่ายุ่งกับใคร ไม่งั้นกูเอาตาย”
“มึงนั่นแหละ ถ้ายุ่งกับใครล่ะก็ มึงเป็นศพแน่!”
“ผัวเมียคู่นั้นน่ะ โปรดเกรงใจคนกำลังเข้านอนด้วยครับ!” เสียงตะโกนดังจากระเบียงข้างบน ผมกับไอ้โซโล่เงยหน้าขึ้นไปมอง ก็เจอไอ้ฮอยฮักกับไอ้วินเซอร์ยืนผิงระเบียงห้องมองลงมาที่พวกผมด้วยสายตาเอือมระอาปนหมั่นไส้ ผมอ้าปากค้าง อย่าบอกนะว่าพวกมันยืนอยู่นานแล้วน่ะ! ไอ้พวกถ้ำมองเอ๊ย!!! แล้วทำไมไอ้เหี้ยวินเซอร์ถึงไปอยู่ห้องไอ้ฮอยฮักได้ล่ะ เฮ้ย!
“ไอ้พี่เลิฟอะไรนี่ มันเป็นอะไรกับมึง หา! คุณเมีย!!?” ไอ้โซโล่เหมือนนึกได้ มันกลับมาจับต้นแขนของผมเขย่าถามอย่างคาดคั้น ผมก็ได้แต่หัวเราะแหะๆ สายตาแม่งโคตรโหดอะ!
คุณสามี ใจเย็นก่อนครับบบบ!!!TBC.ช่วงต่อไปจะเล่าถึงความหลังฝังใจของโซโล่บ้างล่ะ
ฮอยฮักเขาแสบมาตั้งแต่เด็กแล้ว ขนาดโซโล่ยังหน้าซีด
แหมตอนเด็กๆ เนี่ย แต่ละคนดูเหมือนจะเปลี่ยนไปคนละทิศเลย
โซโล่ตอนเด็กๆ อ้วนมาก >>> โตมา...หล่อเลิศ 
พรีสต์ตอนเด็กๆ ไร้เดียงสา >>> โตมา...แรด เอ๊ย ช่ำชอง 
วินเซอร์ตอนเด็กๆ น่ารักม๊าก >>> โตมา...ไร้คำบรรยาย 
ฮอยฮักตอนเด็กๆ แสบ >>> โตมา...โหดกว่า เอ๊ะ ดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนคนเดียว!? 
ปล.ตอนหน้าฮอยฮักป่วนคู่พรีสต์กะโซโล่อีกครั้ง อย่าหวังว่าสูจะสวีทกัน!
