[แจ้งข่าวหน้า1]红孔雀 นกยูงแดง (มาเฟีย?vsตำรวจ SMนะ!-จบ) แปะรูปp40 :9/9/2554
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ระหว่างพญานกยูงแดง หงคงฉ่วย กับนายตำรวจเถรตรง ลู่อี้เผิง ท่านๆ ชอบใครมากกว่ากันคะ^^

ต้องหงคงฉ่วยอยู่แล้ว ราชินีฉัน เริ่ด และแสบสนิทขนาดนี้!!
ต้องเผิงเผิงน้อยอยู่แล้ว เมะอะไร มันจะน่ารักน่าแกล้งขนาดนี้!!

ผู้เขียน หัวข้อ: [แจ้งข่าวหน้า1]红孔雀 นกยูงแดง (มาเฟีย?vsตำรวจ SMนะ!-จบ) แปะรูปp40 :9/9/2554  (อ่าน 616192 ครั้ง)

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
สูตรสาวสองพันปีนี่ มีจริงมั้ยอ่ะ  :z2:

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
สูตรสาวสองพันปีนี่ มีจริงมั้ยอ่ะ  :z2:

พูดอย่างจริงจัง วิธีดีท็อกซ์แบบอดอาหารมีอยู่นะคะ เป็นการล้างพิษในตัว แล้วทำให้ร่างกายสดใสขึ้นน่ะค่ะ ได้ยินมาว่าร่างกายคนเรา ถ้าดูแลรักษาดีๆ อยู่ได้สบายๆ ถึงอายุ140 และคงฉ่วยเล่นฝังเข็มทะลวงจุด ทำให้เลือดลมเดินดีเพิ่มเข้าไปด้วย (ไอ้การมีอะไรกับเผิงเผิงแบบนั้นเป็นการทะลวงจุดด้วยรึเปล่านะ :a5:) ดังนั้น... หงคงฉ่วยสงสัยจะอยู่ได้อีกนานค่ะ ฮ่าๆๆ

(เรื่องวิธีดีท็อกซ์แบบอดอาหาร ค้นเอาในอินเทอร์เน็ตน่าจะมีนะคะ มันมีหลายสูตรค่ะ^^)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-08-2011 20:51:53 โดย juon »

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
สูตรรักษาความงามภายใน1อาทิตย์  :m7:

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
 :serius2: สูตรไรอะรักษาความงามได้ภาย 1 อาทิตย์
ขอบ้างได้ไหมนั้น  o13
เลือดหมดตัวทุกตอนเลยขอบริจาคด่วน :m20:

ออฟไลน์ Cc-kun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
เอาฉากที่เผิงๆเท่ทั้งตอนค่ะ

เอาแบบให้หลงกันแบบโงหัวไม่ขึ้นทั้งคงฉ่วยทั้งคนอ่าน55

จะว่าๆไปเรื่องนี้ไม่เห็นจะsmเลย

แค่มีเทียนแส้ปลอกคอกุญแจมือ(?!)ก็แค่นั้นเอง


ตกลงเสี่ยวชิกเป็นเกย์รึนี่

ถึงคนอื่นจะไม่ชอบมาม่า

แต่เราชอบนะ!

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
เพิ่งตามมาอ่าน ชอบเรื่องนี้มากมายหลังจากหลงคุณไพฑูรย์อยู่พักใหญ่
ตอนนี้เผิงเผิงน่ารักน่าดู เสี่ยวซิกก็น่ารัก สรุปเสี่ยวซิกจะเอาทั้งสองคนเลยเรอะ  :laugh:

ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
เพิ่งเข้ามาอ่านนน
สนุกมากกกกก
ชอบความเจ้าเล่ย์ของคงฉ่วยจริงๆ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
红孔雀นกยูงแดง 15

   สี่ปีก่อน ลู่อี้เผิงเพิ่งเข้ารับราชการตำรวจได้เพียงปีเศษ ก็ได้รับคำสั่งให้ไปสืบเรื่องเกี่ยวกับการหายตัวไปของจางเจิ้ง อดีตเลขาฯของรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งลาออกจากตำแหน่ง ก่อนจะหายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อมีการเปิดเผยเกี่ยวกับคดีการทุจริตงบประมาณการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ในสมัยที่รัฐมนตรีคนนั้นดำรงตำแหน่งอยู่ ทางรัฐบาลจีนในตอนนั้นจึงประสานงานมาให้กรมตำรวจฮ่องกงช่วยสืบเรื่องนี้ ซึ่งสายข่าวรายงานมาว่าการหายตัวไปของจางเจิ้ง อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มมาเฟียเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานเกือบสามสิบปีซึ่งเรียกตัวเองว่าหงคงฉ่วย
   นายตำรวจคนก่อนหน้าที่ถูกมอบหมายให้ทำคดีนี้ หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยสักเกือบหนึ่งสัปดาห์ พบตัวอีกทีในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ในสภาพเอ็นข้อมือข้อเท้าถูกตัด และหลังจากที่ฟื้นขึ้นมาแล้ว ก็วิกลจริตไปเลย พูดแต่คำว่าหงคงฉ่วย (นกยูงแดง) ตลอดเวลา
   ในฐานะนักเรียนเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ซึ่งทำคะแนนรวมสูงที่สุดในชั้นปีที่เรียนจบมา ลู่อี้เผิงตั้งใจสืบเรื่องนี้เต็มที่ โดยเริ่มต้นจากการสืบบริษัทที่มีชื่อหงคงฉ่วยถือหุ้นอยู่ และสะกดรอยตามรถยนต์เลขาส่วนตัวของหงคงฉ่วย จนสามารถลอบเข้ามาในคฤหาสน์ได้สำเร็จ แต่ก็เผชิญหน้ากับกลไกที่วางเอาไว้ดักผู้บุกรุก และคนรับใช้ที่มีทักษะด้านกังฟูจนหน้าตกใจของหงคงฉ่วยจับตัวเอาไว้ได้
   ความจริงลู่อี้เผิงวางแผนเอาไว้ว่า จะยอมให้ถูกจับได้ เพื่อจะได้เจอตัวของหงคงฉ่วยโดยตรง หากสามารถจัดการกับตัวหัวหน้าได้ พวกลูกน้องก็คงไม่กล้าทำอะไร แต่ผิดคาดไปมากจริงๆ เขาเจอหน้าหงคงฉ่วยครั้งแรก ขนาดไม่ถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ ยังไม่สามารถแตะต้องผู้ชายคนนั้นได้เลยแม้แต่ปลายเล็บ   เพื่อรักษาชีวิต และจัดการภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ลุล่วง ลู่อี้เผิงแข็งใจเขียนตัวอักษรหงคงฉ่วยลงบนโคนขาอ่อนด้านซ้ายของตัวเอง โดยใช้เหล็กร้อนที่จี้ไฟจนแดง ความเจ็บปวดจากความร้อนเกือบทำให้นายตำรวจหนุ่มหมดสติไปหลายต่อหลายครั้งระหว่างการเขียนตัวอักษรพวกนั้น แต่ด้วยความมุ่งมั่น ลู่อี้เผิงเขียนตัวอักษรทั้งหมดจนครบถ้วน ก่อนจะหมดสติไปทั้งๆ ที่ยังถือเหล็กร้อนอยู่
------------------------------------------------
   นายตำรวจหนุ่มไม่ทราบว่าตัวเองสลบไปนานเท่าไหร่ แต่พอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็รู้สึกหัวสมองหนักอึ้ง มองเห็นเพดานสีหม่นๆ เพราะแสงเรืองจากโคมไฟที่อยู่ข้างตัวส่องไปไม่ถึง พอจะขยับตัว ก็พบว่าถูกล่ามติดเอาไว้กับอะไรซักอย่าง
   หลังจากตั้งสติได้ ลู่อี้เผิงถึงได้รู้ว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงนอน ให้ห้องพักแคบๆ ห้องหนึ่ง ซึ่งมีโคมไฟแบบโบราณดวงหนึ่งวางอยู่ข้างๆ และเปิดอยู่เสียด้วย เขาไม่ได้สวมเสื้อผ้า มีแต่ผ้าห่มฝ้ายสีขาวหม่นๆ คลุมตัวเอาไว้อีกชั้น ดูไปให้ความรู้สึกเหมือนศพรอฝังชะมัด
   นี่เขายังอยู่ในคฤหาสน์เขาวงตกของหงคงฉ่วยอยู่รึเปล่านะ แล้วนี่เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่?
   ลู่อี้เผิงนอนคิดอะไรได้ครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงเปิดประตู นายตำรวจหนุ่มเบือนหน้าไปมองทันที และพบกับผู้ชายตัวสูงใหญ่ ที่มีแผลเป็นตั้งแต่โคนผม ยาวลงมาจนจรดปลายจมูก พอต้องกับแสงไฟสลัวนั้นแล้ว ชวนให้นึกถึงภูตผีที่ถูกคมขวานจามศีรษะมาก็ไม่ปาน ด้านหลังผู้ชายคนนั้นยังมีผู้ชายอีกสองคนเดินตามเข้ามา   ลู่อี้เผิงลืมตาอยู่ชัดๆ แต่ไอ้หมอนี่ไม่พูดอะไรสักคำ ตรงมาก็เปิดผ้าห่มเขาออก ยกขาด้านซ้ายของเขาขึ้น จากนั้นก็เอาอ้างเคลือบที่ผู้ชายอีกคนถือเข้ามาสอดไว้ด้านล่าง จากนั้นก็หยิบโถน้ำเกลือจากชายอีกคนหนึ่ง ราดลงไปบนแผลของเขา
   ก่อนหน้านี้ตอนตื่นขึ้นมา ลู่อี้เผิงรู้สึกระบมที่โคนขาอ่อนด้านซ้ายอยู่แล้ว ยิ่งมาโดนน้ำเกลือราดแบบนี้ อย่าให้บรรยายกว่ารสชาติเป็นอย่างไร นายตำรวจหนุ่มขบฟันแน่น เหงื่อกาฬไหลอาบหน้า
   ผู้ชายตัวสูงคนนั้นราดน้ำเกลือบนแผลของเขาเสร็จ ก็เอาผ้าสีขาวที่ใส่ถาดมา ซับแผลของเขา ไม่หนักไม่เบา แต่พอซ้ำลงไปบนความแสบของน้ำเกลือ ก็ยิ่งทำให้นายตำรวจหนุ่มหน้าซีดเผือดกว่าเดิม ก่อนจะเปิดขวดยาทาแผล จากนั้นก็ราดลงไปอีกที
   ลู่อี้เผิงเจ็บจนตาพร่า ผู้ชายคนนั้นราดยาใส่แผลเขาเสร็จ ก็หยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเขาไว้เหมือนเดิม ก่อนจะเดินออกไป นายตำรวจหนุ่มเจ็บจนแทบไม่เหลือสติจะครุ่นคิดอะไร ไม่นานก็สลบไปอีกครั้ง
------------------------------------------------
   ลู่อี้เผิงรู้สึกตัวอีกที พร้อมกับได้กลิ่นหอมของอาหาร ดูเหมือนจะเป็นกลิ่นโจ๊ก พอลองขยับตัวก็พบว่ามือเท้ายังถูกล่ามเอาไว้เหมือนเดิม หันไปข้างตัวก็เห็นชามโจ๊กวางอยู่ ยังมีควันลอยกรุ่น ท้องไส้ของนายตำรวจหนุ่มร้องโครกครากขึ้นมาทันที ไม่รู้ว่าสลบไปกี่วันกันแน่ แต่ตอนนี้ลู่อี้เผิงรู้สึกหิวสุดๆ ปัญหาคือ นอกจากโจ๊กถ้วยนั้นแล้ว ไม่มีใครอยู่ในห้องอีก พอมองออกไปตรงหน้าต่างแคบๆ ที่ติดม่านอยู่ ก็คงเป็นเวลาสายจัดแล้ว นายตำรวจหนุ่มพยายามจะขยับมือเท้า และพบว่ามันถูกคล้องติดเอาไว้กับเสาเตียงด้วยกุญแจมือเหล็ก
   อาการท้องร้องทำเอานายตำรวจหนุ่มตาพร่า แทบจะคลั่งเสียให้ได้ โจ๊กถ้วยนั้นป่วนประสาทของเจ้าได้ดีกว่าความเจ็บของแผลที่ต้นขาเสียอีก ตอนที่เกือบจะน้ำลายฟูมปาก ใครบางคนก็เปิดประตูเข้ามา
   ลู่อี้เผิงไม่ทันมองด้วยซ้ำว่าคนที่เขามาเป็นใคร เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง สัญชาตญาณความต้องการอาหารอันเป็นสันดานพื้นฐานของมนุษย์บดบังทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาถูกสั่งสอนมาจนสิ้น ลืมกระทั่งว่าควรจะต้องระแวดระวังว่าในอาหารอาจจะใส่แปลกปลอมเอาไว้ คนคนนั้นลากเก้าอี้เข้ามานั่ง จากนั้นก็หยิบชามโจ๊กขึ้นมา คนช้าๆ ก่อนจะตักขึ้นมา เป่าเบาๆ จากนั้นก็ป้อนให้นายตำรวจหนุ่ม
   โจ๊กค่อนข้างจะร้อนอยู่พอสมควร แต่ลู่อี้เผิงไม่ได้สังเกตว่าคนคนนั้นถือชามโจ๊กด้วยมือเปล่าๆ มีแสดงอาการว่าร้อนเลยสักนิด นายตำรวจหนุ่มกินโจ๊กอย่างตะกละตะกราม แม้ว่ามันจะร้อนจนแทบลวกลิ้น แต่อาการหิวทำให้เขากลืนเอาๆ แทบจะไม่รู้รสชาติอะไรเลย นอกจากกลืนลงไปเพื่อหยุดความทุรนทุรายของกระเพาะอาหารที่กำลังร้องร่ำอยู่
   ชามโจ๊กนั้นใหญ่เท่ากับสองคนทาน ถูกลู่อี้เผิงกินเข้าไปจนหมดภายในเวลาไม่กี่นาที พอท้องเริ่มเต็ม นายตำรวจหนุ่มจึงพอมีสติมองดูคนที่ป้อนโจ๊กเขา ผู้ชายคนนั้นหน้าตาคมสัน พอมองตอนท้องเต็มแล้วถึงรู้ว่าหล่อเหลาเอาการ แต่ในความทรงจำเลือนราง ลู่อี้เผิงยังพอจะจำได้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร
   “หงคงฉ่วย!!” นายตำรวจหนุ่มโพล่งออกมา แล้วพยายามจะยันตัวลุกขึ้นทันที หงคงฉ่วยยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะยกถ้วยน้ำชาที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา “ดื่มน้ำชาก่อนไหม คุณตำรวจ”
   ลู่อี้เผิงถลึงตามองคนตรงหน้า และถ้วยชาในมือ กลิ่นใบชาชั้นดีหอมยั่วน้ำลายไม่น้อย นายตำรวจหนุ่มกลืนน้ำลายเฮือก ก่อนจะพูดออกไป “คุณจับผมล่ามแบบนี้ ผมจะดื่มได้ยังไง”
   คนถูกถามยิ้มนิดๆ ก่อนจะยกชาขึ้นมาดื่มเสียเอง จากนั้นก็โน้มใบหน้าลง แนบริมฝีปากลงไป
   กลิ่นใบชาหอมจนขึ้นจมูก แต่ลู่อี้เผิงเพิ่งเคยดื่มชาด้วยวิธีแบบนี้เป็นครั้งแรก นายตำรวจหนุ่มแทบจะไม่รู้รสชาติของชา รู้แต่หูอื้อไปหมด ทั้งตกใจ ทั้งโมโห ทำไมเขาถึงต้องถูกผู้ชายด้วยกันจูบด้วย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
   “ทำบ้าอะไรน่ะ ไอ้โรคจิต” นั่นคือประโยคแรกที่ลู่อี้เผิงตะคอกออกมาหลังจากหงคงฉ่วยถอนปากออกไปแล้ว คนถูกด่าทำหน้าย่น ก่อนจะพูดตอบ “ปากเสียจริงๆ คนอุตส่าห์ป้อนชาให้ ยังจะมาว่าอีก งั้นก็ดื่มเอาตามมีตามเกิดแล้วกัน” พูดจบก็ยกถ้วยชาเทใส่หน้าลู่อี้เผิง น้ำชาอุ่นจัดไหลทะลักเข้าปากเข้าจมูก ลวกผิวหน้าของนายตำรวจหนุ่มจนแสบไปหมด
   ลู่อี้เผิงไอแค่กๆ หน้ากลายเป็นสีแดงจัด หงคงฉ่วยเทน้ำชาจนหมดถ้วยก็วางไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็ขยับตัวลุกขึ้น มองดูนายตำรวจหนุ่มที่ถลึงตาใส่เขาราวกับจะฆ่าให้ตาย
   “หลับอีกสักพักแล้วกันนะ คุณตำรวจ” จากนั้นก็สอดมือเข้าไปตรงเชิงกรานด้านหลังของลู่อี้เผิง แล้วกดเบาๆ ตรงจุดหลับ จากนั้นภาพตรงหน้านายตำรวจหนุ่มก็ดับวูบลง
----------------------------------------
   คราวนี้ลู่อี้เผิงรู้สึกตัวในความมืด ไม่ใช่เพราะว่าค่ำแล้ว หรือใครปิดไฟในห้อง แต่เขาถูกปิดตาเอาไว้ด้วยผ้าผืนยาวๆ ผืนหนึ่ง ข้อมือข้อเท้ายังถูกล็อกตรึงเอาไว้เหมือนเดิม แผลที่ขาไม่เจ็บแล้ว แต่ท้องน้อยกลับร้อนวูบวาบอย่างไม่ทราบสาเหตุ จากนั้นถึงได้รู้สึกว่ามีใครบางคนคร่อมอยู่เหนือตัวเขา สันหลังของลู่อี้เผิงเย็นวาบขึ้นไปถึงศีรษะทันที
   !!!
   นายตำรวจหนุ่มอ้าปากพยายามจะพูด แต่กลับทำได้แต่ส่งเสียงอืออา เพราะปากถูกผ้าอีกผืนมัดอยู่ คนที่คร่อมอยู่ลูบมือลงมาบนแผงอกของเขา จากนั้นก็ขย้ำหนั่นเนื้อตึงแน่นจนเจ้าของสะดุ้งด้วยความเจ็บ ขยำขยี้หน้าอกเขาเล่นสักพัก มือนั้นก็เลื่อนต่ำลงมา ลูบไล้หน้าท้องที่เป็นร่องกล้ามนูนขึ้นมา ไล่ลงไปจนถึงกระดูกเชิงกราน ลงไปถึงขาอ่อน
   นายตำรวจหนุ่มสะดุ้งอีกครั้งเมื่อมือนั้นลูบลงไปบนแผลที่ขาของเขา ถึงตอนนี้มันจะไม่เจ็บแล้ว แต่ความรู้สึกเหมือนจะยังตกค้างอยู่บนรอยแผลนูนพวกนั้น
   คนคนนั้นลูบตัวเขาจนทั่ว จากนั้นก็กลับมาขย้ำหนั่นเนื้อแน่นบนอกเขาอีกรอบ แล้วขยี้ยอดอกสองข้างจนนายตำรวจหนุ่มสะดุ้งอีกรอบ ก่อนจะเลื่อนมือไปกำรอบส่วนสำคัญที่กำลังชูชันอยู่ตรงหว่างขา
   ลู่อี้เผิงสะท้านตัวอย่างแรง ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยถูกใครจับตรงนั้นมาก่อน แฟนเก่าที่เลิกกันไปตอนเข้ารับราชการใหม่ๆ ก็เคยทำอย่างนี้ให้เขา หนักเข้าใช้ปากด้วยเลยก็มี แต่พอมือนั้นจับลงไป ความร้อนขุมหนึ่งก็เหมือนจะแล่นผ่านตรงมายังไขสันหลังของเขา ร้อนวาบเข้าไปในท้องน้อย ปลุกอารมณ์กระสันของเขาให้พุ่งสูงขึ้นทันที
   ถูกลูบไล้ไปได้สักพัก นายตำรวจหนุ่มก็เริ่มส่งเสียงครางออกมา ถ้าไม่ถูกล่ามมือล่ามเท้าอยู่ เขาคงจะลุกขึ้นจับคนด้านบนข่มขืนไปแล้ว
   ขณะกำลังกัดฟันด้วยความอดกลั้น ฝ่ายนั้นก็หยุดมือ จากนั้นก็ขยับตัว แล้วลู่อี้เผิงก็รู้สึกถึงความเปียกชื้นของช่องปาก และปลายลิ้นร้อนจัดที่ตวัดโลมรอบส่วนสำคัญของเขา ร่างกำยำสะดุ้งอีกครั้ง
   ลู่อี้เผิงกำมือแน่น รู้สึกเหมือนทั้งข้อมือข้อเท้าโดนกุญแจมือบาดจนเจ็บ แค่ความหฤหรรษ์ตรงหว่างขาทำเอาลืมความเจ็บปวดพวกนี้ไปเลย ลิ้นและปากของอีกฝ่ายขยับอย่างคล่องแคล่ว แทบจะทำให้เขาหลั่งออกมาอยู่หลายครั้ง แต่พอเขาแอ่นสะโพก ทำท่าว่าจะถึง ทางนั้นก็จะหยุด เหมือนอยากจะหยอกกันเสียมากกว่า เจอแบบนี้ลู่อี้เผิงยิ่งอยากหลุดจากพันธนาการไวๆ จะได้จับทางนั้นปล้ำไปเสียเลย
   หยอกตรงนั้นของเขาด้วยปากอยู่สักพัก ฝ่ายนั้นก็ถอนปากออก จากนั้นมือก็เลื่อนลงไปตรงสะโพกของเขา คราวนี้ลู่อี้เผิงสะดุ้งเฮือก
   บ้าน่า.... คงไม่ใช่....!!
   เสียงเพี๊ยะดังขึ้น เมื่อฝ่ายนั้นฟาดมือลงไปบนก้นเขาอย่างแรงจนสะดุ้งอีกครั้ง จากนั้นสิ่งที่น่าจะเป็นถุงยางก็ถูกสวมลงมา แล้วบางอย่างที่ทั้งตึงทั้งแน่นก็เบียดเข้ามาตรงปลายยอดของเขา ลู่อี้เผิงเพิ่งนึกได้ว่า คนทีกำลังขึ้นคร่อมเขาอยู่ไม่น่าจะใช่ผู้หญิง
   ถึงอย่างนั้น......
   ช่องทางเล็กแคบนั้นค่อยๆ ดูดกลืนส่วนร้อนจัดไวสัมผัสของเขาไปทีละน้อย อย่างช้าๆ ลู่อี้เผิงรู้สึกถึงการตอดรัดที่ทำให้เขาต้องครางออกมา ส่วนนั้นของเขาถูกรัดจนแน่นไปหมด สอดไปได้แค่ครึ่งหนึ่ง เขาก็แทบจะถึงแล้ว ไม่เคยรู้สึกดีขนาดนี้มาก่อนเลย
   ตอนที่สอดเข้าไปจนสุด ลู่อี้เผิงอดไม่ได้ต้องขยับสะโพกกระแทกร่างด้านบนนั้น แล้วก็ได้ยินเสียงทางนั้นครางออกมา จากนั้นสองร่างก็ขยับเข้ากระแทกซึ่งกันและกันอย่างบ้าคลั่ง ปลายเล็บที่จิกแน่นอยู่บนต้นขาของเขา และการตอดรัดที่ยังความซ่านเสียวจนยากจะบรรยาย ทำเอาสมองของลู่อี้เผิงเบลอไปหมด รับรู้แต่ความสุขสมที่กำลังดำเนินอยู่ และถึงกับอยากให้มันดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
   ไม่รู้ว่าถึงจุดไปกี่ครั้ง ที่ลู่อี้เผิงจำได้คือรู้สึกเหมือนใกล้จะตายเพราะความสุขสมอยู่รอมร่อ ทางนั้นยัดเยียดความสุขให้เขาอย่างบ้าคลั่ง ไม่ยอมหยุดการเคลื่อนไหวเลยสักนาที ราวกับจะสูบพลังชีวิตของเขาผ่านส่วนนั้นก็ไม่ปาน ทั้งทรมานทั้งรู้สึกดีอย่างน่าใจหาย
   ถ้าต้องตายด้วยความสุขสมขนาดนี้ บางทีอาจจะไม่ค่อยน่าแค้นเท่าไหร่ก็ได้
----------------------------------------------------
   รู้สึกตัวอีกที ร่างกายก็เบาหวิว แทบจะลอยได้ ลู่อี้เผิงลืมตาขึ้นมาก็พบว่าฟ้าสว่างแล้ว ผ้าปิดตากับปิดปากถูกเอาออก มือเท้าก็เป็นอิสระแล้ว
   นายตำรวจหนุ่มหลับตาลงอีกรอบ ยังไม่สร่างจากความสุขสมที่ได้รับเมื่อลืมตาครั้งก่อน แต่นอนไปได้สักพัก สติก็พอจะกลับคืนมาอยู่บ้าง
   ลู่อี้เผิงลืมตาโพลงขึ้นมาทันที แล้วนึกขึ้นได้ว่า เขาเพิ่งผ่านการถูกทารุณกรรมทางเพศมาชัดๆ และที่สำคัญ เขาน่าจะยังอยู่ในเงื้อมมือของเจ้ามาเฟียลึกลับนั่น ถ้าอย่างนั้น เรื่องที่ทำทารุณเขา ก็อาจจะถูกถ่ายภาพเอาไว้แบล็กเมล์ก็ได้
   พอคิดได้ดังนั้น นายตำรวจหนุ่มก็นึกเสียใจกับความไร้สติของตัวเองจริงๆ แต่ก็ยังนึกแย้งไปว่า โดนขนาดนั้น ใครบ้ามันจะมีสติอยู่ได้กันล่ะ อีกอย่าง เจ้าหมอนั่นต้องใส่ยาอะไรเอาไว้ในน้ำชาหรือโจ๊กแน่ๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รู้สึกขึ้นมามากขนาดนั้นหรอก
   ขณะที่กำลังนึกวางแผนรับมือเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา ประตูก็ถูกเปิดออก จากนั้นผู้ชายอายุราวๆ ยี่สิบถึงสามสิบปีคนหนึ่ง ที่หวีผมแสกข้างและสวมเสื้อเชิ้ตสีแดงคล้ำก็เดินเข้ามา
   “อรุณสวัสดิ์คุณตำรวจ รู้สึกยังไงบ้าง?”
   สิ่งที่ลู่อี้เผิงทำคือกระโจนเข้าใส่ผู้ชายคนนั้น หวังจะต่อยสักหมัด เอาให้สลบแล้วจับตัวเอาไว้ ได้ยินเสียงทางนั้นรำพึงออกมา “ดุจริงนะ”
   จากนั้นลู่อี้เผิงก็เห็นพื้นรองเท้าอยู่ตรงหน้า แล้วหน้าของเขาก็ทิ่มลงไปบนพื้นดังปึก เล่นเอาตาพร่าสมองชาเลยทีเดียว คนคนนั้นขยี้เท้าลงบนไหล่เขา แล้วแค่นเสียงถาม
   “ตกลงเธอเข้ามาที่นี่ทำไมเนี่ย? จะมาจับฉันจริงๆ หรือไง? ไหนล่ะหมายจับ?”
   ลู่อี้เผิงพยายามจะยันตัวลุกขึ้น ทั้งๆ ที่ถูกเหยียบอยู่แค่หัวไหล่แท้ๆ แต่พอจะลุกก็เหมือนมีพะเนินเหล็กมาทับเอาไว้ สุดท้ายก็เลยต้องพูดอู้อี้ทั้งๆ ที่ยังนอนแบ๊บกับพื้นแบบนั้น
   “ผมมาถามเรื่องจางเจิ้ง”
   “อ้อ... เจ้าแว่นนั่นน่ะรึ?” คนด้านบนว่า ลู่อี้เผิงนึกอับอายจริงๆ ที่ต้องมาถามคำถามหรือพูดอะไรโดยที่ตัวเองโดนเหยียบเอาไว้แบบนี้ ไอ้หมอนี่!!
   “คุณรู้เรื่องของเขาใช่ไหม?”
   “ใครบอกเธอว่าฉันรู้ล่ะ? เธอรู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร?”
   “หงคงฉ่วย” ลู่อี้เผิงว่า และพูดต่อ “สายของเรารายงานว่าคุณเป็นคนเดียวที่น่าจะรู้ว่าจางเจิ้งหายไปไหน เพราะเขามีสายสัมพันธ์กับคุณอยู่”
   “อ้อ... ขยันสืบดีเหมือนกันนะ” หงคงฉ่วยว่า แล้วยกเท้าขึ้น ลู่อี้เผิงดีดตัวขึ้นมาทันที แต่ยังไม่ทันได้ยืน ก็ถูกเตะล้มลงอีกรอบ
   “ยังไม่ได้บอกให้ยืนสักหน่อย ฉันแค่เมื่อย อยากเปลี่ยนข้างเท้าน่ะ” หงคงฉ่วยว่า ลู่อี้เผิงรู้สึกถึงรองเท้าอีกข้างที่ขยี้ลงมาบนหัวไหล่ด้านขวาของเขา
   “เงยหน้าขึ้นมาหน่อยสิ”
   นายตำรวจหนุ่มขบกรามกรอด แล้วยันตัวขึ้นได้หน่อยหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง เห็นทางนั้นยิ้มตรงมุมปาก “บอกชื่อตัวเองให้ฉันฟังอีกทีซิ”
   “ลู่อี้เผิง”
   “ลู่อี้เผิง” ทางนั้นทวนคำ แล้วยิ้มอีก “เรื่องที่อยู่ของจางเจิ้ง ฉันบอกเธอไม่ได้ แต่ถ้าเรื่องข้อมูลทุจริตที่เขาเก็บไว้ ฉันเอาให้เธอได้ ว่าไงล่ะ?”
   “ทำไมถึงบอกที่อยู่เขาไม่ได้ล่ะ” ลู่อี้เผิงว่า ทั้งๆ ที่หน้ายังแนบพื้นอยู่ “อ้อ... ก็เพราะขืนบอกไป ตำรวจอย่างพวกเธอ นอกจากไม่มีปัญญาจะคุ้มครองชีวิตเขาแล้ว ยังจะพาศัตรูไปจัดการปิดปากเขาอีกน่ะสิ นี่ อย่าคิดนะว่าไม่มีสายของรัฐบาลอยู่ในกรมตำรวจน่ะ ฉันให้เธอเลือก จะกลับไปพร้อมหลักฐานเด็ด หรือจะกลับไปมือเปล่าล่ะ?”
   ลู่อี้เผิงเงียบไปพักหนึ่ง ก็พูดตอบขึ้นมา “คุณมีเอกสารพวกนั้นให้ผมดูรึเปล่าล่ะ”
   “แน่นอน ไม่งั้นฉันจะพูดให้เธอฟังทำไมล่ะ” หงคงฉ่วยว่า “หลักฐานพร้อมใบรับรองสมบูรณ์ สามารถใช้เป็นพยานในศาลได้ จะเอารึเปล่า”
   “ขอผมดูก่อน” นายตำรวจหนุ่มว่า
   “ก็ได้ บอกก่อนนะว่า ถ้าเธอคิดจะกระโดดใส่ฉันหลังจากฉันยกเท้าออกล่ะก็ ฉันจะเตะเธอให้สลบ แล้วเอาไปขึงบนดาดฟ้า ทำเนื้อแดดเดียวเสียเลย”
   “อืม” ลู่อี้เผิงส่งเสียง จากนั้นหงคงฉ่วยก็ยกเท้าออก นายตำรวจหนุ่มจึงลุกขึ้นยืน “ไหนล่ะเอกสาร”
   หงคงฉ่วยตบซองสีน้ำตาลซองหนึ่งบนแผ่นอกเปลือยของนายตำรวจหนุ่ม “เอ้า... อกเธอแน่นดีนะ ด้านล่างก็เร้าใจฉันน่าดู อยากได้แบบเมื่อคืนอีกไหมล่ะ?”
   ลู่อี้เผิงถลึงตาใส่คนพูด ก่อนจะคว้าซองนั้นมา แล้วเดินงุดๆ ไปที่เตียง เอาผ้าห่มมาพันท่อนล่างเอาไว้ “แหม.. อายอะไรกันเล่า ของเขาดูไปแล้ว ปิดตอนนี้ก็ไม่ช่วยอะไรหรอก”
   “เรื่องของผมน่า” ลู่อี้เผิงว่า และเปิดซองนั้นออกมา ดูเอกสารพวกนั้นอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงหันมาพูดตอบ “ผมต้องส่งเอกสารพวกนี้ไปตรวจสอบก่อน”
   “ตามสบายเลย” หงคงฉ่วยว่า “ถ้าเธอไม่พอใจ จะมาที่นี่อีกก็ได้ มาทางประตูนั้นแหละ ไม่ก็โทรเข้ามาบอกก่อน”
   ลู่อี้เผิงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจทันที หงคงฉ่วยเดินเข้ามา แล้วตะปบมือลงไปบนต้นขาของเขา “เธอมีใบผ่านทางอยู่แล้ว อย่าเที่ยวไปเอาออกหรือทำให้เสียซะล่ะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าเธอทิ้ง”
   คนถูกจับขาอ่อนสะดุ้งเฮือก ยังไม่ทันที่จะยกมือปัด ทางนั้นก็ชิงยกออกไปก่อน จากนั้นก็ยกมือขึ้นจับคางเขาให้เงยขึ้น “เดี๋ยวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ ฉันจะบอกเบอร์โทรศัพท์ให้ จำให้แม่นล่ะ ห้ามจด ห้ามเมมเอาไว้ในเครื่อง ฉันจะบอกแค่ครั้งเดียว จำไม่ได้ก็มาตะโกนเรียกเอาแล้วกัน สักสามชั่วโมงคงมีคนได้ยินหรอก”
   ลู่อี้เผิงพยายามสะบัดหน้าหนี “รู้แล้ว ปล่อยผมสักที”
   หงคงฉ่วยหัวเราะหึๆ แล้วดึงทางนั้นเข้ามาจูบ ลู่อี้เผิงที่ถูกจู่โจมกะทันหัน ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกล้วงลิ้นเข้ามาแล้ว เกิดมายังไม่เคยถูกใครจูบจนหน้ามืดตาพร่าขนาดนี้เลย
   บดริมฝีปากกันได้สักพัก หงคงฉ่วยก็พูดยิ้มๆ “ฉันอยากให้เธอแวะมาบ่อยๆ นะ ไปแล้วก็อย่าลืมกันเสียล่ะ”
   ลู่อี้เผิงถลึงตาใส่ฝ่ายนั้น ก่อนจะโพล่งออกมา “ผมสาบานว่าจะไม่มาเหยียบที่นี่อีก”
   “อืม... ฉันจะรอดูก็แล้วกัน” หงคงฉ่วยว่า ยืนมองนายตำรวจหนุ่มด้วยสายตาแทะโลม จนคนถูกมองต้องรีบเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ข้างๆ ทันที
--------------------------------------------------
   “ยิ้มอะไรของคุณน่ะ” ลู่อี้เผิงอดเอ่ยทักขึ้นมาไม่ได้ เมื่อเห็นคนนั่งร่วมโต๊ะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาตั้งแต่หลายนาทีก่อนแล้ว หงคงฉ่วยมองมือของลู่อี้เผิงที่กำลังตักโจ๊ก แล้วพูดยิ้มๆ “ฉันกำลังนึกถึงตอนแรกๆ ที่เราเจอกันอยู่ ตอนนั้นเธอทานโจ๊กอย่างกับเครื่องบดขยะแน่ะ”
   ลู่อี้เผิงถลึงตาใส่คนพูดทันที “อ้อ... นั่นเป็นเรื่องที่ผมไม่อยากนึกถึงที่สุดเลยล่ะ”
   “ทำไมล่ะ เผิงเผิงเขินล่ะสิ” หงคงฉ่วยว่า แล้วเอาตะเกียบที่ใช้คีบกับ คีบปลายจมูกชายหนุ่มเบาๆ
   “นี่ จมูกผมไม่ใช่ปูนึ่งนะ” ลู่อี้เผิงตอบ พลางยกมือปัดตะเกียบออก ซึ่งก็ไม่ทันเหมือนเคย “แล้วผมก็ไม่ได้เขิน เรื่องเลวร้ายขนาดนั้นผมเขินไม่ออกหรอกนะ”
   “จริงเร้อ” หงคงฉ่วยว่า พลางยิ้มกริ่ม ลู่อี้เผิงถลึงตามองเขาอีกครั้ง ก่อนจะวางช้อนตักโจ๊กลง “ผมไปล่ะ กินไม่ลงแล้ว”
   “โถ... อะไรกัน โตป่านนี้แล้ว ยังอยากจะให้ฉันป้อนอีกรึ?” หงคงฉ่วยว่า แล้วทำหน้ากลุ้มอกกลุ้มใจเสียเต็มประดา ลู่อี้เผิงถลึงตาใส่เขา “คำพูดของคุณทำให้ผมกินไม่ลงต่างหาก”
   “แหม... ฉันก็ไม่ได้พูดถึงอะไรที่น่าคลื่นไส้อย่างไส้เดือนกิ้งกือเสียหน่อย เผิงเผิงอยากให้ป้อนก็บอกสิ เดี๋ยวฉันจะให้หลี่คงอุ่นโจ๊กมาใหม่ เอาแบบกำลังร้อนๆ เลย คงทานสนุกดี เอาไหมล่ะ? ไม่อย่างนั้นก็ทานต่อให้หมด ทิ้งอาหารไม่ดีหรอกนะ”
   ลู่อี้เผิงขบริมฝีปากล่าง ก่อนจะจับช้อนขึ้นมาตักโจ๊กต่อ ทานจนหมด นายตำรวจหนุ่มก็ผุดลุกขึ้น
   “อ้าว จะไปแล้วเหรอ ไม่อยู่เล่นกับเสี่ยวชิกก่อนหรือไง” หงคงฉ่วยพูดอีก ลู่อี้เผิงยกมือขึ้นจัดเสื้อแล้วหันมาพูดตอบ “ผมจะสายแล้ว เพราะคุณนั่นแหละ ไม่พอสักที ขย่มผมจนเช้าอีกแล้ว วันนี้ผมต้องไปทำงานนะ”
   “แหม.. บ่นเป็นคนแก่ไปได้ อายุยังไม่เท่าไหร่เสียหน่อย” หงคงฉ่วยว่า และยกมือขึ้นดีดสะโพกแน่นของนายตำรวจหนุ่มที่อยู่ใต้กางเกงดังเพี๊ยะ
   “โอ๊ย นี่.. หยุดทำตัวเป็นตาแก่ลามกสักทีเถอะ” ลู่อี้เผิงว่า หงคงฉ่วยหัวเราะคิกคัก “ฉันลามกตรงไหนกัน เผิงเผิงคิดมากไปเองนะ”
   ลู่อี้เผิงถลึงตาใส่อีกรอบ จากนั้นก็พูดต่อ “ผมไปล่ะ”
   “อืม.. เย็นนี้จะมาหรือเปล่า”
   “ไม่มา ผมต้องไปรดน้ำต้นไม้ เดี๋ยวน้ำที่หล่อไว้จะแห้ง” คนถูกถามตอบ หงคงฉ่วยพยักหน้า “ว่างๆ ก็เอามาให้ดูบ้างสิ”
   “อืม... รับรอง คุณต้องอึ้งแน่” ลู่อี้เผิงว่า แล้วเดินออกไป
   “แล้วไม่ต้องส่งอะไรแปลกๆ ไปให้ผมอีกนะ สงสารกองพิสูจน์หลักฐานบ้างเถอะ” นายตำรวจหนุ่มพูดต่อ หงคงฉ่วยถอนหายใจเฮือก “ฉันก็ไม่ได้ส่งอะไรแปลกๆ สักหน่อยนี่นา เผิงเผิงระแวงไปเองต่างหาก”
   ลู่อี้เผิงปิดประตูดังปึง
-------------------------------------------------------
** สรุป... สรุปได้ว่าเผิงเผิงหื่นค่ะ!! ปริศนาไขกระจ่างแล้ว (โดนโบก)

 :laugh: เผิงเผิงซวยเพราะท่อนล่างจริงๆ ก๊ากกก ชอบตอนนี้จัง หงคงฉ่วยช่าง ราชินีมาเกิด เหยียบเลยค่า คุณปู่ขา (โดนตัดลิ้น แอ่ก!! o22)

ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ^^

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
นอกจากอยากเห็นคงฉ่วยหวงเผิงเผิงแล้ว อยากเห็นฉากเผิงเผิงหวงคงฉ่วยเหมือนกันนะ555

 
อ้างถึง
ลู่อี้เผิงชักนึกสงสัยว่า ถ้าปู่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ จะทำตัวน่ารำคาญแบบเจ้านกยูงบ้านี่ไหม
แอบฮาประโยคนี้สุดๆ แรงงงงงงงง

ออฟไลน์ wanderer

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3
 :m25: ปริศนาไขกระจ่างแล้ว คงฉ่วยท่านราชินีจริงๆ  o22

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80

ออฟไลน์ reborn23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ข้าน้อยขอยอมแพ้ กับนกยูงแดงตัวพ่อ คนนี้ ปั่นหัว กวนอารมณ์  :pigha2:

akike

  • บุคคลทั่วไป
คนมันจะคู่กาน  มันก้อมีอารายคล้ายกันบ้างล่ะน่า

ตกลงแปะจะไม่มีคู่แล้วใช่ไหมเนี่ย เฮ้อ..แปะนะแปะ

ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
5555 "เหยียบเลยค่าคุณปู่ขา~" 5555

นึกออกแล้วว่า หงคงฉ่วยทำให้นึกถึงอะไร

หน้ากากโซโรนี่เอง

กำลังเดาว่า มันน่าจะสืบเป็นรุ่นต่อรุ่นแบบนั้นรึเปล่าน้า?

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
หงคงฉ่วย นี่ช่างยั่วโมโหเด็กจริงๆ
สงสัยชอบดูเวลาเผิงๆ โกรธ อาย เขิน
คงจะถูกใจ จนเรียกใช้มาตลอด

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
แบบว่า หลงเสน่ห์นกยูงไปเต็มๆ จะทำอะไรได้อีก
ปากแข็งต่อไปแล้วกัน

zhiki

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยยยย ขย่มเลยคับ ขย่มเรยย  :oo1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เผิงเผิง โดนทารุณกรรมทางเพศ  :m25:  แบบเต็มใจสินะ  :laugh:

คนทางฝั่งตำรวจ กะ ลูกน้องคงฉ่วย ไม่มีใครนึกอิจฉา เผิงเผิง มั้งเหรอ ที่สามารถเข้านอกออกใน อยู่ใกล้ชิดสนิทสนมกับมาเฟียระดับเจ้าพ่อได้แบบนี้  แถมยังได้เจ้าพ่อคอยช่วยหนับหนุนด้วยอีกตะหาก   

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
กรี๊ดดด ดด ด ด!!~ ราชินีมากกกกกค่ะปู่ฉ่วย ฮ่าๆ

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
แหมๆๆๆ เผิงเผิงน่าจะชินได้แล้วนะ
เห็นมาหาคุณปู่ทีไรก็โดนขย่มยันเช้าทุกทีอ่ะ (โดนโบก)

ZuuZuu

  • บุคคลทั่วไป
ยิ่งอ่านก็ยิ่งอบคงฉ่วย ราชินีได้ใจมากๆค่าาา

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
หงคงฉ่วยเป็นราชินีแต่แมนกว่าเผิงเผิง

ออฟไลน์ jojobuffy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-4

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :z1:

เผิงๆหื่นตั้งแต่ไร  555


อยากเห็นสองคนนี่เปิดใจกันจิงๆ

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
เหยียบเลยค่า คุณปู่ขา กรี๊ดดดดด  :z1: ชอบ :impress2:
ขย่มกันจนเช้าอีกล่ะ เผิงเผิงน้อยร้อนแรงจริงๆ

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
โว้วววว ตอนที่เจอกันครั้งแรกเป็นอย่างงี้นี่เอง เผิงเผิงเป็นวัยรุ่นใจร้อนน่าดู บุกเดี่ยวเข้าไป กล้าจิงๆ  :laugh:
อยากรู้เรื่องตอนที่คงฉ่วยไปบ้านเผิงเผิงครั้งแรกด้วยอ่ะ   :impress: เห็นเผิงเผิงทำท่าเหมือนจะกลัว (ตอนแรกๆ)

ออฟไลน์ jojobuffy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-4
อ้อ  เพิ่งจะเข้าใจว่า คงฉ่วยเป็นรับ แล้ว เผิงเผิง เป็นรุก ที่ผ่านมาคิดว่า... เผิงเผิง โดนรุกตลอด5555

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ทีนี้รู้เรื่องราวที่พบกันครั้งแรกแล้ว
ตอนนี้โลภอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้เผิงเผิงต้องกลับมาขอความช่วยเหลือจากปู่เคะ หลังจากลั่นวาจาว่าจะไม่กลับมาอีก คนแต่งเฉลยหน่อยนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด