[แจ้งข่าวหน้า1]红孔雀 นกยูงแดง (มาเฟีย?vsตำรวจ SMนะ!-จบ) แปะรูปp40 :9/9/2554
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ระหว่างพญานกยูงแดง หงคงฉ่วย กับนายตำรวจเถรตรง ลู่อี้เผิง ท่านๆ ชอบใครมากกว่ากันคะ^^

ต้องหงคงฉ่วยอยู่แล้ว ราชินีฉัน เริ่ด และแสบสนิทขนาดนี้!!
ต้องเผิงเผิงน้อยอยู่แล้ว เมะอะไร มันจะน่ารักน่าแกล้งขนาดนี้!!

ผู้เขียน หัวข้อ: [แจ้งข่าวหน้า1]红孔雀 นกยูงแดง (มาเฟีย?vsตำรวจ SMนะ!-จบ) แปะรูปp40 :9/9/2554  (อ่าน 616143 ครั้ง)

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
โธ่ ท่านสารวัตรลู่ โดนหลอกอีกแล้ว  :เฮ้อ:
แต่ก็ได้กำไรใช่ไหมล่ะ ได้อยู่กับคนที่ชอบ(เหรอ)
ได้จับโจรตัวจริงด้วย
ไม่เห็นจะน่าโมโหตรงไหน 555

ออฟไลน์ FRODO

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เฮ้อ!  ซักวันนึงเผิงเผิงคงตายด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตกแน่นอน  ไม่ใช่ผู้ร้ายยิงตายนะ   :m20:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
สงสารเผิงเผิงอ่ะ

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

โดนหลอกตลอดเลย

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
ขอจิ้ม :z13: แล้ววิ่งดุ๊กดิ๊ก ไปอ่านเผิงเผิงน้อยก่อนน๊า
=======
หงคงฉ่วยแกล้งแหย่เสี่ยวเผิงเผิงเล่นอีกแล้ว
 :a5:อ๊ากกก กำลังคำนวนอายุของคงฉ่วยแบบเล่นๆ ตะลึงตึงตึ๋ง o22
แต่อายุเค้าดูกันที่หน้าตาเนอะ ออดอ้อนท่างคงฉ่วยสุดๆ(เค้ากัวโดนตัดนิ้วเหมือนกันนะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-08-2011 15:15:13 โดย nolirin »

ออฟไลน์ ErosAmor

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 851
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
ดูอายุก๋งก๋งเเล้ว โอ้วว ตะลึง!!

ออฟไลน์ pure_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
แบบนี้คงต้องร้องเพลง  50 ยังแจ๋ว ให้ คงฉ่วยซะแล้ว 555
เม้นท์เสร็จรีบหนี  เด่วโดนตัดลิ้น

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้
แต่ยังอ่านไม่ทันเลย
เด๋วค่อยๆตามไปนะ
นั่งอ่านหลังสอบเสร็จ
เมื่อคืนก็แทบไม่ได้นอน
จะน็อกอยู่แล้ว(แต่ก็ยังนั่งอ่านอยู่55+)
 :really2: :really2: :really2:

 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ทำไมต้องหลอก เผิงเผิงอย่างนี้ด้วยล่ะ

น่าสงสารเผิงเผิงอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
หงคงฉ่วย ศิษย์พี่ของเถียนซาน...

กรี๊ดดดดดดดด จะอายุเท่าไหร่กันเนี่ย :z3:

โคแก่กินหญ้าอ่อนสุดๆ สงสารเผิงๆ

ZuuZuu

  • บุคคลทั่วไป
เผิงเผิงของเค้าโดนหลอกซะเปื่อยเลยอ่ะ น่าสงสารจัง
เปลือยตัวมากมายเลยด้วย เฮ้อออออออ

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :impress3:

อายุของหงคงฉ่วยเริ่มโผล่มาทีนิด


เมื่อไหร่จะรักกันล่ะเนี่ย

zhiki

  • บุคคลทั่วไป
ตายๆ ดันอ่านเรื่องนี้เรื่องแรกด้วย จะย้อนกลับไปอ่าน คงสนุกสมองดีพิลึกกึกกือ  :เฮ้อ:

akike

  • บุคคลทั่วไป
อ้าว เป็นอาจารย์กับลูกศิษย์หรอกหรอเนี่ย

เผิง ๆ ดีใจช่ายม่า  มาอยู่กับนกยูงบ๋องตั้งหลายวัน

ตกลงว่าอาแปะแกเป็น...เหมือนกับเจ้านายช่ายม่ะ  ถึงไม่เลิปซีนกับนกคู่สักกาที

แปะเป็นเกย์ไปแว้วววววว

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
โฮวว สงสารเผิงเผิงน้อย
โดนปั่นหัวอีกแล้ว รอบนี้คูณ 2 เลยอ่ะ
เจ้หงแกเอ็นดูเผิงเผิงเหลือเกิน
ปล. ไม่ขอเดาอายุเจ้แกนะ หนูกลัวววววว

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
จุดอ่อนของหงคงฉ่วย คือ กลัวคนว่าแก่ที่ซู้ดดด

ออฟไลน์ reborn23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3

ออฟไลน์ Pepor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-3
เผิงเผิงโดนหลอกอีกแล้ว น่าสงสารจัง
เอ๊หรือรู้ว่าเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอกนะ เพราะอยากอยู่กับคงฉ่วยเหรือเปล่า

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
จริงๆ แหละ หลานเผิงเผิงเริ่มหลงเสน่ห์กงคงฉ่วยซะแล้ว ซึมลึกแบบไม่รู้ตัวแล้วน้า  :m1:
ว่าแต่คงฉ่วยเถอะ เอ็นดูหลานเผิงเผิงบ้างมั้ย  :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






fOnfOn :D

  • บุคคลทั่วไป
เผิงเผิงน้อยที่น่าสงสาร   :laugh: :laugh:


อืมมมมม เห็นแล้วไม่อยากเดาอายุพ่อนกยูงเลยแหะ  o22

ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
ภูมิคุ้มกันแข็งแรงปานกำแพงเมืองจีนจริงๆ เผิงเผิงเอ๊ยย

ว่าคราวนี้โดนหลอกหนัก นึกว่าความดันจะขึ้นจนเส้นเลือดแตกแล้วนะเนี่ย

 :laugh:

*บำนาญ
*ตอนที่ 11 คำว่า "คุณ" ลืมเปลี่ยนภาษาใช่ม้า 86I เด้งมาเชียว อิอิ หวยงวดนี้~

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
สุดท้ายก็กลายเป็นเผิงเผิงที่น่าสงสารที่สุด โดนทั้งนกยูงทั้งจิ้งจอกรวมหัวกัน เล่นเอามึนไปเลย 5555

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
ภูมิคุ้มกันแข็งแรงปานกำแพงเมืองจีนจริงๆ เผิงเผิงเอ๊ยย

ว่าคราวนี้โดนหลอกหนัก นึกว่าความดันจะขึ้นจนเส้นเลือดแตกแล้วนะเนี่ย

 :laugh:

*บำนาญ
*ตอนที่ 11 คำว่า "คุณ" ลืมเปลี่ยนภาษาใช่ม้า 86I เด้งมาเชียว อิอิ หวยงวดนี้~

แก้ไขให้แล้ว ขอบคุณค่ะ :impress2:

paradoxxx

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ wanderer

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3
ตอนนี้เผิงเผิงน่าสงสารแฮะ โดนหลอก โฮ๊ะๆๆ

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
红孔雀นกยูงแดง 13

   คดีขนย้ายอวัยวะผิดกฎหมายจบลงไปได้ด้วยดี งานนี้คนได้รับคำชมเชยมากที่สุดดูจะไม่พ้นลู่อี้เผิง ซึ่งเจ้าตัวเองท่าทางจะไม่ค่อยยินดีกับเรื่องนี้เท่าไหร่ ก็ถูกหลอกอยู่คนเดียวทั้งแผนการมันน่ายินดีตรงไหนเนี่ย?!
   “สารวัตรลู่” ต้วนเฟิงเอ่ยทักทันทีที่เห็นลู่อี้เผิงเดินเข้ามาในห้องทำงาน หลังจากถูกเรียกไปทำหนังสือ เพื่อส่งไปพิจารณาความดีความชอบในการเลื่อนขั้นเงินเดือน พอเห็นต้วนเฟิงจะอ้าปากต่อ ลู่อี้เผิงรีบพูดดักทันที “ถ้าคดีของลีไป๋หู่น่ะ ไม่ต้องพูดเลยนะ”
   ต้วนเฟิงที่โดนขัดจังหวะ อ้าปากพะงาบๆ ก่อนจะสั่นศีรษะ “เปล่าครับ ผมกำลังจะบอกสารว่า มีคนฝากต้นไม้มาให้นะครับ” พูดพลางชี้มือไปที่โต๊ะทำงานของลู่อี้เผิง นายตำรวจหนุ่มจึงหันตามไป และพบต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงกระถางหนึ่งวางอยู่
   “ใครส่งมาน่ะ?” ลู่อี้เผิงถามทันที คนถูกถามสั่นศีรษะ “มีการ์ดติดอยู่นะครับ แต่ผมไม่กล้าถือวิสาสะเปิดอ่านหรอก”
   ลู่อี้เผิงเดินเข้าไป มีการ์ดสีขาวใบหนึ่งเสียบอยู่จริงๆ ในนั้นเขียนข้อความสั้นๆ ง่ายๆ
   “ถึงเผิงเผิง”
   ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครส่งมา การ์ดไม่มีอะไรระบุไว้อีก ลู่อี้เผิงอยากจะโยนเจ้าต้นไม้นี่ทิ้งถังขยะจริงๆ ติดแต่มันเป็นแค่ต้นไม้ ไม่ได้มีความผิดอะไรสักหน่อย อีกอย่าง หม้อสีเขียวลายแดงของมันก็ดูสวยแปลกตาดี กลมๆ น่ารักไม่น้อย ดังนั้น... เก็บเอาไว้ก่อนก็ได้
   ถึงอย่างนั้นสารวัตรหนุ่มก็ยังอุตส่าห์อุ้มกระถางต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงไปกองพิสูจน์หลักฐาน
   “คราวนี้อะไรอีกล่ะ สารวัตร?” จ้าวจื่อเหวิน พนักงานประจำกองทักทันทีที่เห็นลู่อี้เผิงเดินเข้ามาพร้อมกับกระถางต้นไม้ ก่อนจะเลิกคิ้วสูง “อะไรเนี่ย ต้นไม้กินแมลงจากแถวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เหรอ? เดี๋ยวนี้สารวัตรหันมาปลูกต้นไม้แล้วเหรอ?”
   “เปล่า มีคนเอามาให้ผม คุณช่วยตรวจสอบหน่อยสิว่ามีอะไรน่าสงสัยหรือเปล่า?”
   “แหม.. ของหงคงฉ่วยอีกล่ะสิ” จ้าวจื่อเหวินว่า ลู่อี้เผิงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจทันที “อืมใช่ รู้ได้ไงน่ะ?”
   คนถูกถามตอบยิ้มๆ “ก็ของที่คุณเอามาให้ตรวจ ส่วนใหญ่ก็เป็นของจากหงคงฉ่วยตลอดนี่นา ท่าทางเขาจะชอบคุณนะ ส่งอะไรมาให้บ่อยเลย”
   ลู่อี้เผิงปั้นหน้าเป็นสิงโตหินหน้าวัด ก่อนจะพูดเสียงเรียบ “ช่วยตรวจดูให้หน่อยก็แล้วกัน เขาทำอะไรชอบมีแผนตลอดนั่นแหละ”
   จ้าวจื่อเหวินหัวเราะ “ได้ๆ เฮ้อ... แต่ตรวจทุกทีก็ไม่เห็นเจออะไรเลยนี่นา คุณระแวงไปเองนะเนี่ย ผมว่า” พูดจบก็ใช้ไม้เขี่ยดินในกระถางออกไปหน่อยหนึ่ง แล้วเอาไปผสมน้ำในหลอดทดลอง จากนั้นก็แยกออกเป็นสองหลอด แล้วหยดสารบางอย่างลงไป
   “ไม่มีพิษในดินหรอก ใบไม้ก็ไมได้เคลือบอะไร ดูแข็งแรงดีด้วย ระเบิดคงไม่ต้องพูดถึงนะ เพราะด้านล่างมีเครื่องตรวจจับอยู่แล้ว ท่าทางคนปลูกจะเลี้ยงต้นไม้เก่งนะเนี่ย”
   ลู่อี้เผิงพยักหน้า ไม่อยากจะพูดเลยว่า หงคงฉ่วยเอาแมลงไปป้อนต้นไม้พวกนี้อย่างกับป้อนข้าวลูก ก็คงไม่แปลกที่พวกมันจะดูสวยและแข็งแรงขนาดนี้
------------------------------------------------
   นายตำรวจหนุ่มพาต้นไม้กลับมาตั้งที่โต๊ะ บนการ์ดไม่มีอะไรเขียนไว้อีก วิธีเลี้ยงก็ไม่ได้เขียนเอาไว้ มองอยู่ได้สักพัก ลู่อี้เผิงก็เงยหน้าขึ้นถามต้วนเฟิงที่กำลังจะเดินออกไปข้างนอกพอดี
   “ผู้กองต้วน ไอ้ต้นนี่มันเลี้ยงยังไงน่ะ”
    ต้วนเฟิงมองต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง แล้วสั่นศีรษะ “ไม่รู้สิครับ ผมไม่เคยปลูกเหมือนกัน สารวัตรลองค้นในอินเทอร์เน็ตดูสิ แต่.. หม้อมันดูน่ารักดีเนอะ อย่างกับของปลอมเลย” พูดแล้วก็ก้มลงมอง “จับได้มั้ยครับ?”
   “เอาสิ” ลู่อี้เผิงว่า ต้วนเฟิงเลยเอานิ้วเขี่ยหม้อกลมๆ เล็กๆ ที่ปลายใบเบาๆ “อ้าว ใส่น้ำเอาไว้ด้วยนี่นา ถึงว่า ทำไมดูหนักๆ ”
   “เอ๋ ต้องใส่น้ำด้วยเหรอ?” ลู่อี้เผิงถามอย่างแปลกใจ ต้วนเฟิงสั่นศีรษะอีกครั้ง “ไม่รู้สิครับ สารวัตรลองหาวิธีดูก็แล้วกัน ผมออกไปตามแฟ้มคดีฉินเม่ยที่แผนกของสารวัตรหู่แป๊บหนึ่งนะ”
   “อืมๆ ” ลู่อี้เผิงพยักหน้า และยกแฟ้มคดีที่กองอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดูบ้าง ดูอยู่ได้สักพัก ก็อดมองต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงต้นนั้นไม่ได้ หงคงฉ่วยนึกอะไรถึงได้ส่งมาให้เขานะ อยากจะง้อเรื่องหลอกต้มเมื่อคราวก่อนหรือยังไง.. แต่ในการ์ดก็ไม่ได้เขียนบอกไว้นี่ คนอย่างเจ้าหมอนั่นเคยคิดจะง้อใครกับเขาด้วยหรือ....
   นั่งอ่านแฟ้มคดี สลับกับมองต้นไม้พลางคิดนั่นคิดนี่จนถึงเวลาพักเที่ยง ลู่อี้เผิงก็แวะซื้อขนมปังกับน้ำชา แล้วก็เดินไปที่แผนกคอมพิวเตอร์ เพื่อขอยืมใช้เครื่องต่อเข้าอินเทอร์เน็ตไปดูวิธีเลี้ยงต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง
   พอเปิดเข้าไป ลู่อี้เผิงถึงได้รู้ว่า ต้นไม้พวกนี้ มีสารพัดแบบ สารพัดสายพันธุ์ สายพันธุ์แปลกๆ หลายสายพันธุ์ เขาเคยเห็นในเรือนเพาะเลี้ยงของหงคงฉ่วยด้วย
   ที่หงคงฉ่วยให้มารู้สึกจะเป็นพันธุ์ N. Viking x Ampullaria ขึ้นอยู่แถบประเทศไทยเสียด้วย ทำให้ลู่อี้เผิงพาลนึกไปว่า หงคงฉ่วยทำธุรกิจผิดกฎหมายอะไรอยู่ที่นั่นรึเปล่า แต่ก็หวังว่าต้นไม้พวกนี้จะไม่ได้นำเข้ามาโดยผิดกฎหมายหรอกนะ
   ในที่สุดลู่อี้เผิงก็ได้วิธีเลี้ยงต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงมา ดูไปก็ยุ่งยากไม่น้อย ต้องรดน้ำเวลาเดียวกันตลอด แถมต้องวางไว้ในที่ที่มีแดดอีก ซึ่งท่าทางคงจะตั้งเอาไว้บนโต๊ะทำงานไม่ได้แน่ สรุปแล้วตลอดบ่ายวันนั้น นายตำรวจหนุ่มง่วนอยู่กับการนึกสถานที่ที่จะเอาต้นไม้ไปวาง
   สุดท้าย ลู่อี้เผิงก็หอบต้นไม้กลับมาที่บ้าน ตัดสินใจว่าจะวางเอาไว้ตรงระเบียงห้องนอน เพราะคงมองเห็นได้ง่ายทำให้ไม่ลืมรดน้ำ ในวิธีเลี้ยงไม่ได้บอกว่าต้องป้อนแมลงให้ ดังนั้น เขาคงไม่ต้องสละเวลาหาแมลงมาป้อนต้นไม้พวกนี้หรอก
   เจ้าหม้อข้าวหม้อแกงลิงต้นนั้นชูใบหราอยู่นอกหน้าต่าง ท่าทางสดชื่นแข็งแรงเหมือนเจ้าของมันจริงๆ ลู่อี้เผิงเปิดดูวิธีเลี้ยงต่ออีกจนดึก จึงเข้านอน ตั้งใจว่าถ้ามันสวยกว่านี้เมื่อไหร่จะเอาไปอวดหงคงฉ่วยสักหน่อย
   ไม่ต้องป้อนแมลงให้มันก็โตได้เหมือนกันล่ะน่า
--------------------------------------------------------
   “พักนี้รีบกลับจังนะครับ” ต้วนเฟิงทัก เมื่อเห็นลู่อี้เผิงลุกจากโต๊ะทำงานในช่วงหัวค่ำ คนถูกทักยิ้มเขินๆ
   “กลับไปดูต้นไม้เหรอครับ?” คนเป็นลูกน้องว่า ลู่อี้เผิงอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่พักหนึ่ง ก็พยักหน้า “อืม... มันเลี้ยงยากอยู่น่ะ”
   ต้วนเฟิงทำหน้าโล่งใจ “ดีนะที่สาวที่ผมจีบไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้น ไม่งั้นลำบากแน่ๆ เลย”
   ลู่อี้เผิงได้แต่หัวเราะเบาๆ แล้วออกจากแผนกไป
   เกิดมายี่สิบเจ็ดปี ลู่อี้เผิงไม่นึกเหมือนกันว่าตัวเองจะมาบ้าเห่อต้นไม้เหมือนลูกเอาตอนนี้ ท่าทางคงจะเพราะอยากพิสูจน์ให้หงคงฉ่วยเห็นว่าไม่ต้องทำพฤติกรรมอำมหิตขนาดดักจับแมลงไปป้อน ต้นไม้ก็โตเองได้แน่ๆ
   ลู่อี้เผิงตัดสินใจรดน้ำต้นไม้ตอนเช้า เพราะช่วงเย็นบางวันก็กลับไม่ตรงเวลา วันนี้กลับมา เปิดไฟตรงระเบียง เห็นเหมือนในหม้อหม้อหนึ่งมีอะไรดำๆ อยู่ด้านใน พอหยิบมาดูก็เห็นแมลงวันตัวหนึ่งลอยน้ำอยู่ด้านใน ท่าทางจะบินหลงมาแน่ๆ ลู่อี้เผิงอึ้งหน่อยๆ แมลงวันที่ปกติจะตียังตีไม่ถูก ดันมาหลงติดกับต้นไม้ที่อยู่นิ่งๆ แบบนี้ โลกเรานี่มันก็มีอะไรที่ง่ายๆ แบบนี้อยู่เหมือนกัน
   หลังจากนั้น กลับมาทีไร นายตำรวจหนุ่มจะมาส่องดูว่าวันนี้มีตัวอะไรหล่นลงไปในหม้อบ้าง สองสามวันมานี้นอกจากแมลงวันแล้ว ยังมีมดเพิ่มมาด้วย
   เออแน่ะ ไม่ต้องลำบากออกไปจับตัวอะไรมาหย่อนลงไป มันก็หากินของมันเองได้เหมือนกันนั่นแหละ
   เห็นมันตั้งอยู่ต้นเดียวมาหลายวัน ลู่อี้เผิงชักนึกอยากหาต้นอื่นมาปลูกเป็นเพื่อน พอดูราคาต้นไม้พวกนี้ในอินเทอร์เน็ต ก็ต้องยกเลิกแผนการ เพราะแพงจนนายตำรวจกินเงินเดือนต๊อกต๋อยอย่างเขาไม่ควรจะเบียดเบียนเงินเดือนอันน้อยนิดไปซื้อหามา ปล่อยให้หงคงฉ่วยเลี้ยงเป็นสวนต่อไปก็แล้วกัน พอมานึกๆ แล้ว ลู่อี้เผิงก็นึกสงสัยอีกว่า เจ้าหมอนี่เลี้ยงขายด้วยรึเปล่า
   ปรากฏว่าหลังจากนั้นไม่กี่วัน ลู๋อี้เผิงจำต้องค้างที่กรมหลายวัน เพื่อปิดคดีปล้นคดีหนึ่ง กลับมาที่บ้านพักอีกที เจ้าหม้อข้าวหม้อแกงลิงต้นนั้นก็เหี่ยวหมดแล้ว ลู่อี้เผิงใจหายวาบ สองสามวันนี้มัวแต่วุ่นกับคดีจนลืมไปสนิท เห็นทั้งใบทั้งหมอเหี่ยวแห้งขนาดนี้ก็นึกเสียใจขึ้นมา พยายามรดน้ำเพิ่มไป แต่สองสามวันให้หลังท่าทางมันก็ดูไม่ดีขึ้น ในที่สุดลู่อี้เผิงก็ตัดสินใจโทรไปหาหงคงฉ่วยในเย็นวันหนึ่ง
   “ไง เผิงเผิง คราวนี้คดีอะไรอีกล่ะ คดีปล้นปิดไปแล้วไม่ใช่หรือไง?” หงคงฉ่วยเอ่ยทักผ่านสายโทรศัพท์หลังจากให้ลู่อี้เผิงรออยู่พักหนึ่ง นายตำรวจหนุ่มส่งเสียงตอบกลับไป
   “เปล่า ไม่ใช่เรื่องคดีหรอก... คือ....” เว้นระยะไปพักหนึ่ง เพราะนึกขึ้นมาได้ว่าหงคงฉ่วยดูจะรักต้นไม้พวกนี้อย่างกับลูก ถ้าบอกว่าต้นที่ให้มาจะตายเสียแล้ว เขาจะถูกทำทารุณกรรมอะไรอีกหรือเปล่านะ?!
   “นี่... มีเรื่องอะไรล่ะ?” หงคงฉ่วยเร่งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ ลู่อี้เผิงกลืนน้ำลาย แล้วตัดสินใจว่า ไหนๆ มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาแค่อยากจะถามว่าเจ้าต้นนี้มันจะมีโอกาสฟื้นอีกรึเปล่าก็แค่นั้นเอง ไม่อยากรออย่างไร้ความหวัง แล้วก็ไม่อยากปล่อยให้มันตายโดยไม่ทำอะไรด้วย
   “คือผมต้องไปค้างที่กรมหลายวันน่ะ เลยไม่ได้รดน้ำต้นไม้ที่คุณให้มา..... แต่ผมกลับมารดน้ำมันแล้วนะ... มันจะฟื้นอีกไหม?”
   ได้ยินเสียงหงคงฉ่วยถอนหายใจเฮือก แล้วพูดตอบกลับมาสั้นๆ “เดี๋ยวไปหาก็แล้วกัน” จากนั้นก็วางสายไป ลู่อี้เผิงอึ้งอยู่สักพัก ก็นึกสันหลังหวะขึ้นมา หรือหงคงฉ่วยจะมาคิดบัญชีเรื่องต้นไม้กับเขานะ
-------------------------------------------
   นายตำรวจหนุ่มนึกวางแผนรับมือไปต่างๆ นานา ว่าถ้าหงคงฉ่วยมาคิดบัญชีกับเขาจริง เขาจะเอาตัวรอดยังไงดี แล้วเสียงมอเตอร์ไซค์ก็ดังขึ้นหน้าบ้าน ตามด้วยเสียงออด ลู่อี้เผิงเดินไปเปิดประตู แล้วก็ต้องเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
   “ขี่มอเตอร์ไซค์มาหรือ?”
   หงคงฉ่วยพยักหน้า วันนี้เจ้าตัวสวมเสื้อแจ๊กเก็ตทับเสื้อยืดมา ดูแล้วก็เหมือนพวกแก๊งเด็กแว้นจริงๆ ลู่อี้เผิงอยากจะทักอยู่หรอกว่าช่วยทำอะไรดูอายุบ้างเถอะ แต่เพราะตัวเองก็ทำเรื่องเอาไว้ เลยไม่อยากจะกวนประสาทของหงคงฉ่วยตอนนี้ เดี๋ยวจะโดนหนักกว่าเก่า
   “ไหนต้นไม้ล่ะ?” ฝ่ายนั้นถาม ลู่อี้เผิงเลยจำต้องพาเจ้าตัวไปที่ห้องนอน ไปดูต้นไม้ต้นนั้น พอหงคงฉ่วยเห็นก็ถอนหายใจเฮือก
   “น่าสงสารจริงๆ ” จากนั้นก็ลูบมือลงไปบนใบเหี่ยวๆ พวกนั้นอย่างทะนุถนอม ลู่อี้เผิงขบริมฝีปากล่าง แล้วถามออกไป “มันจะตายรึเปล่าน่ะ?”
   หงคงฉ่วยนิ่งไปพัก แล้วเรียกให้เขานั่งลงข้างๆ
   “ใบเขียวๆ ยังมีอยู่นะ ถ้ารดน้ำดีๆ ไม่หายไปอีก มันคงไม่ตายหรอก” เจ้าตัวว่า และชี้ให้ดูใบยอดอ่อนที่ยังดูสดใสอยู่ ลู่อี้เผิงยิ้มขึ้นทันที ได้ยินเสียงหงคงฉ่วยพูดต่อ “แต่ใบเหี่ยวๆ พวกนี้คงต้องตัดทิ้ง เอาไว้ก็ดูไม่สวย มีกรรไกรไม่ก็มีดรึเปล่า?”
   นายตำรวจหนุ่มเดินเข้าไปหยิบกรรไกรมาให้เล่มหนึ่ง จากนั้นก็นั่งมองหงคงฉ่วยเล็มใบต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงออก
   “นี่ วันก่อนมีแมลงวันบินมาติดด้วยล่ะ” ลู่อี้เผิงเล่า หงคงฉ่วยพยักหน้า แล้วหันมายิ้ม “ติดใจแล้วล่ะสิ”
   นายตำรวจหนุ่มรีบสั่นศีรษะ “ผมไม่ได้ชอบอะไรอำมหิตแบบคุณหรอกนะ แค่รู้สึกแปลกใจเท่านั้นแหละ มันอยู่เฉยๆ ก็ล่อตัวอะไรมาติดกับได้ คุณไม่ต้องลำบากให้คนไปจับตัวอะไรมาป้อนมันหรอก”
   “ฉันชอบของฉัน” หงคงฉ่วยว่า ลู่อี้เผิงเลยตัดสินใจว่าตัวเองควรสงบปากสงบคำเอาไว้ดีกว่า หงคงฉ่วยเล็มใบไม้เสร็จ ก็ลุกขึ้น “เรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ดูแลให้ดีๆ ล่ะ ไม่อย่างนั้นก็เอาไปคืนฉัน”
   ลู่อี้เผิงอึ้งๆ ไปพักหนึ่ง “ผมดูแลได้ล่ะน่า วันหลังจะเอาไปที่กรมด้วย”
   หงคงฉ่วยหันมายิ้มให้เขา “งั้นฉันกลับนะ” พูดจบก็เดินเข้ามาในห้องนอน ลู่อี้เผิงพูดขึ้นทันที “จะกลับเลยหรือ?”
   “อืม..” ฝ่ายนั้นพยักหน้า “ก็เธอไม่ชอบให้ฉันอยู่ที่บ้านเธอไม่ใช่หรือไง?”
   นายตำรวจหนุ่มอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนจะถามออกมา “คุณมาเพราะต้นไม้แค่นั้นจริงๆ ?”
   หงคงฉ่วยหันหน้ากลับมา แล้วถอนหายใจอีก “สี่ปีแล้ว เธอยังจะถามอีกหรือ..”
   นายตำรวจหนุ่มอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดออกมา “ผมเป็นตำรวจนะ”
   “อืม.. รู้แล้ว” อีกฝ่ายตอบสั้นๆ
   “ผมอยากจะจับคุณเข้าคุกนะ”
   “อืม”
   “...................”
   “ฉันไม่อยากเข้าคุกหรอกนะ” หงคงฉ่วยว่า แล้วยกมือขึ้นจับใบหน้าของชายหนุ่ม “แต่ถ้าเป็นเธอ ฉันอาจจะยอมก็ได้”
   ลู่อี้เผิงจับมือของฝ่ายนั้นเอาไว้ ก่อนจะพูดออกมา “นี่หลังเวลางานผมแล้วล่ะ”
   นัยน์ตาสีดำของหงคงฉ่วยเบิกกว้าง ก่อนที่ร่างจะถูกอีกฝ่ายรวบเข้าไปกอด “คืนนี้อยู่กับผมเถอะนะ”
   “...................” หงคงฉ่วยเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมา “วางแผนอะไรไว้อีกเนี่ย”
   ลู่อี้เผิงไม่ตอบทันที แต่ดึงหน้าเขาขึ้นมาจูบ “คืนนี้เดือนเพ็ญ คุณไม่ชอบอยู่คนเดียวคืนนี้ไม่ใช่หรือ?”
   หงคงฉ่วยเงียบไปอีกพัก ก่อนจะถอนหายใจออกมา “ฉันต้องโทรบอกหลี่คงก่อน เดี๋ยวจะเป็นห่วงกัน”
   ลู่อี้เผิงคลายวงแขนออก รอให้หงคงฉ่วยโทรศัพท์บอกพ่อบ้านจนเสร็จ จากนั้นก็พูดขึ้นต่อ “อาบน้ำกันเถอะ”
---------------------------------------------

kisz

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนแรก ทำเอางง ใครรุกใครรับ ฮ่าาาาาา

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
เผิงเผิง ไม่เคยตามคงฉ่วยทันจริงๆเลย น่าสงสาร ห้าห้าห้า

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
   ห้องน้ำที่บ้านของลู่อี้เผิง แคบกว่าที่คฤหาสน์ของหงคงฉ่วยหลายเท่า อ่างจากุชชี่ไม่ต้องพูดถึง มีฝักบัวที่เปิดได้ ไม่รั่วไม่ซึมออกมาก็นับว่าบุญ
   หงคงฉ่วยถอดเสื้อออกจนเปลือย จากนั้นก็เดินเข้ามาใต้ฝักบัว โดยมีลู่อี้เผิงเดินตามหลัง
   “นี่ ไม่กลัวถูกฉันข่มขืนในห้องน้ำหรือไง” หงคงฉ่วยว่า พลางยกนิ้วดีดแผงอกกำยำของชายหนุ่ม ลู่อี้เผิงตอบสั้นๆ “ถ้ากลัว ผมไม่อยู่มาได้สี่ปีหรอก”
   แผงอกกำยำเลยถูกดีดดังเพี๊ยะอีกครั้ง
“เธอเป็นแบบนี้ทุกคืนเดือนเพ็ญรึเปล่าเนี่ย?” อีกฝ่ายถาม ขณะเปิดฝักบัว สายน้ำเย็นๆ ไหลรดร่าง แทบจะพร้อมๆ กับท่อนแขนที่โอบเข้ามา
“ไม่รู้สิ” ลู่อี้เผิงตอบ และถามต่อ “คุณล่ะ ทำไมถึงกลัวคืนเดือนเพ็ญ”
“มันเหงาน่ะ” หงคงฉ่วยตอบ และยกมือขึ้นลูบหน้า “ฉันชอบที่มืดๆ มากกว่า”
“คุณนี่แปลกจัง ผมเคยได้ยินแต่คนกลัวความมืด” ลู่อี้เผิงว่า หงคงฉ่วยหันมาแล้วพูดยิ้มๆ “ฉันกลัวที่สว่าง กลัวจะมองเห็นอะไรที่ไม่อยากเห็นล่ะมั้ง”
ลู่อี้เผิงเลิกคิ้วขึ้น “คุณกลัวจะเห็นอะไรน่ะ?”
“ความจริง” หงคงฉ่วยว่า และหันหน้ากลับมาหาเขา “เผิงเผิง บางทีสิ่งที่รับได้ยากที่สุดในโลกนี้คือความจริงนี่แหละ”
“อืม” ลู่อี้เผิงรับคำในลำคอ และพูดต่อ “แต่ถ้าไม่ยอมรับความจริง มันไม่ทรมานกว่าหรือไง?”
   หงคงฉ่วยพยักหน้า ก่อนจะยกมือขึ้นจับใบหน้าเขาเอาไว้ “แต่บางทีฉันก็ชอบความทรมานแบบนี้นะ หากฉันยอมรับความจริง ตัวตนของฉันอาจจะพังทลายลงไปก็ได้ ฉันยังจำเป็นต้องอยู่ จำเป็นจะต้องมีชีวิตอยู่ แม้จะต้องใช้ทั้งภาพลวงตา และคำโกหกก็ตาม”
   “คงฉ่วย...” ลู่อี้เผิงเรียก “ผมไม่เข้าใจ อันไหนคือตัวตนจริงๆ ของคุณกันแน่”
   “ในคำโกหกมีความจริงอยู่เสมอๆ ” หงคงฉ่วยตอบ “สักวันเธอคงจะเข้าใจ และเห็นเองนั่นแหละ เหมือนอย่างที่ฉันเห็นตอนนี้ไง เธอเองก็โกหกเพื่อรักษาตัวตนเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”
   ลู่อี้เผิงเม้มปาก จากนั้นก็ดึงมือของอีกฝ่ายมาจูบ “คุณที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้เป็นความจริงรึเปล่านะ?”
   หงคงฉ่วยยิ้ม แล้วตอบกลับสั้นๆ “เธอล่ะ ใช่ความจริงรึเปล่า?”
   ลู่อี้เผิงไม่ได้ตอบ เขาดึงใบหน้านั้นเข้ามาจูบอีกครั้ง จากนั้นก็โอบรัดร่างนั้นไว้แน่น สายน้ำจากฝักบัวยังคงไหลรดร่างของทั้งคู่ ระหว่างที่กอดรัดกันอยู่นั้นเอง ในที่สุด หงคงฉ่วยก็พูดออกมา “ฉันหนาวแล้ว ไปที่เตียงได้ไหม?”
   ลู่อี้เผิงมองหน้าฝ่ายนั้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือไปปิดฝักบัว จากนั้นก็ช้อนตัวหงคงฉ่วยขึ้น
   “เอ่อ... ฮ่ะๆ ” คนถูกอุ้มตวัดมือโอบรอบคอร่างสูงใหญ่ ก่อนจะหัวเราะออกมา จากนั้นก็เอนหน้าลงไปซบแผงอกเปลือยที่ยังชื้นอยู่
---------------------------------------------------
   เตียงนอนของลู่อี้เผิงไม่แคบไม่กว้าง ขนาดคนเดียวนอนสบาย ถ้าผู้ชายสองคนนอนด้วยกันอาจจะเบียดอยู่สักหน่อย นี่เป็นครั้งแรกที่แผ่นหลังของหงคงฉ่วยสัมผัสฟูกบนเตียงนอนหลังนี้
   “คงฉ่วย คืนนี้ให้ผมอยู่ข้างบนเถอะ” ลู่อี้เผิงพูดและขยับตัวขึ้นคร่อมร่างที่นอนอยู่ จับขาทั้งสองข้างยกขึ้น หงคงฉ่วยมองเขาพักหนึ่งแล้วตอบยิ้มๆ “ปิดไฟก่อนสิ ฉันไม่ชอบที่สว่างๆ ”
   นายตำรวจหนุ่มเดินไปปิดสวิตช์ไฟ พอหันกลับมาอีกทีก็เห็นหงคงฉ่วยเอาผ้าห่มมาห่อตัวเอาไว้ ขณะที่กำลังจะอ้าปากถาม ทางนั้นก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน “ฉันหนาวน่ะ”
   ลู่อี้เผิงยิ้มออกมา “ผมคิดว่าคุณเขินซะอีก”
   หงคงฉ่วยไม่ตอบโต้อะไร แต่ขยับตัวหนี ลู่อี้เผิงเลยขยับไปคร่อมเอาไว้ แล้วก้มลงจูบริมฝีปากนั้น
   เคล้าริมฝีปากกันไปได้สักพัก ผ้าห่มก็ถูกดึงหลุดออกจากตัวของหงคงฉ่วยเสียที ในความมืดที่มีเพียงแสงสลัวของดวงจันทร์ที่ส่องลอดหน้าต่างเข้ามา ใบหน้าของหงคงฉ่วยเหมือนกลายเป็นสีแดงเรื่อ ลู่อี้เผิงก้มลงจูบไล่ตั้งแต่ปลายจมูก ริมฝีปาก ซอกคอ หัวไหล่ ไล่ไปจนถึงยอดอกทั้งสองข้าง ต่ำลงไปจนถึงท้องน้อย พอถึงตรงนั้น หงคงฉ่วยก็เอามือมาปิดไว้ “ห้ามตรงนี้นะเผิงเผิง”
   สี่ปี ลู่อี้เผิงมีเซ็กซ์กับหงคงฉ่วยนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยได้แตะต้องส่วนนี้มาก่อนเลย กระทั่งคราวนี้ก็ด้วย
   “ไม่ไว้ใจผมหรือ?” นายตำรวจหนุ่มถาม และจูบขาอ่อนนั้นเบาๆ ได้ยินเสียงอีกฝ่ายยอมรับออกมา “อืม”
   “แต่คืนนี้ไว้ใจให้ผมอยู่ด้านบนใช่ไหม?”
   “นั่นก็ต้องดูก่อนนะว่าเธอไว้ใจได้ขนาดไหน” อีกฝ่ายตอบ ลู่อี้เผิงขยับหน้าเข้าไปใกล้ และบดริมฝีปากเข้ากับร่างนั้นอีกครั้ง
   “ทั้งผมทั้งคุณต้องกำลังฝันอยู่แน่ๆ ”
   หงคงฉ่วยหัวเราะหึๆ แล้วผลักใบหน้านั้นออก “ในฝันก็ต้องใส่ถุงยางด้วยนะ”
   ลู่อี้เผิงเอื้อมมือไปหยิบซองถุงยางที่วางอยู่ตรงหัวเตียง จากนั้นก็ฉีกมันออก “อยากใส่ให้ผมด้วยรึเปล่า?”
   หงคงฉ่วยยกมือขึ้นตบแก้มเขาเบาๆ “ทะลึ่งใหญ่แล้ว”
   ชายหนุ่มดึงมือนั้นเข้ามาจูบ แล้วอ้าปากกัดนิ้วของอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะจัดการสวมถุงยางให้ตัวเอง
   “คงฉ่วย” ลู่อี้เผิงกระซิบเรียกชื่อร่างนั้นอีกครั้ง ก่อนจะเบียดตัวเสียดสีกันอย่างร้อนรน ได้ยินเสียงหงคงฉ่วยพูดขึ้น “เผิงเผิงใจเย็นๆ ก็ได้ ในฝันจะรีบไปทำไม”
   ลู่อี้เผิงบดจูบเข้ากับริมฝีปากนั้นอีกครั้ง ก่อนจะพูดตอบ “ผมใกล้ทนไม่ไหวแล้ว”
   ดวงตาดำวาวที่จ้องลงมา พลอยทำให้หงคงฉ่วยสะท้านสันหลังไปด้วย จากนั้นลู่อี้เผิงก็ยกมือขึ้นลูบไปตัวร่าง ทั้งจูบทั้งกัดเบาๆ เสียงหอบหายใจถี่หนักของฝ่ายนั้นยิ่งทำให้หงคงฉ่วยหัวใจเต้นแรง
   “เผิงเผิง”
   ริมฝีปากถูกประกบอีกครั้ง สองร่างเสียดสีกันจนร้อนผะผ่าว จากนั้นขาทั้งสองข้างของหงคงฉ่วยก็ถูกจับแยกออก
   ส่วนร้อนจัดเบียดแทรกเข้ามาช้าๆ ลู่อี้เผิงหอบหายใจเสียงหนัก จับจ้องร่างเบื้องล่างไม่วางตา ถึงแม้จะไม่ได้เปิดไฟ แต่แสงสลัวของดวงจันทร์ที่ส่องลอดเข้ามา พอจะสะท้อนให้เห็นเครื่องหน้าสมบูรณ์หมดจดของร่างเบื้องล่างที่กำลังบิดเกร็งตามแรงอารมณ์ที่กำลังโหมกระพืออยู่ คิ้วของหงคงฉ่วยขมวดมุ่น ริมฝีปากขบกันน้อยๆ เหมือนกำลังพยายามอดทนอยู่เหมือนกัน ลู่อี้เผิงอดไม่ได้ต้องจูบร่างนั้นอีกครั้ง
   “คงฉ่วย”
   เสียงที่ได้รับกลับมาคือเสียงสูดหายใจเฮือก ตามด้วยอาการสะดุ้ง เมื่อปลายยอดของส่วนร้อนจัดนั้นผลุบเข้าไปด้านใน ลู่อี้เผิงสูดปากด้วยความเสียวซ่าน ก้มลงมองอีกทีก็เห็นหงคงฉ่วยกำลังจ้องเขาอยู่ ดวงตาสีดำสนิทนั้นเป็นประกายในความมืด ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
   ลู่อี้เผิงนึกวิเคราะห์อะไรเกี่ยวกับความคิดของผู้ชายคนนี้ไม่ค่อยออก อยู่ต่อหน้าหงคงฉ่วย เขาก็เหมือนเด็กอมมือคนหนึ่ง ที่โดนหลอกจนหัวปั่นอยู่เสมอๆ สำหรับหงคงฉ่วยแล้ว เขาคงเหมือนของเล่นชิ้นหนึ่ง แต่......
   ชายหนุ่มก้มลงจูบริมฝีปากของร่างเบื้องล่างอีกครั้ง ถ้าในสายตาหงคงฉ่วย เขาเป็นแค่ของเล่นชิ้นหนึ่ง แล้วในสายตาเขาล่ะ หงคงฉ่วยเป็นอะไรกันแน่...?
   คนร้ายที่เขาต้องหาหลักฐานมาจับให้ได้ง้นหรือ....
   “คงฉ่วย” ลู่อี้เผิงกระซิบถามเสียงแห้ง ทั้งๆ ที่ยังขยับสะโพกสอดประสานความต้องการกับร่างนั้นไม่ยั้ง หงคงฉ่วยปรือตามองเขา แล้วขมวดคิ้วหน่อยๆ “หืม?”
   “เราสองคนเป็นอะไรกันแน่...”
   หงคงฉ่วยไม่ได้ตอบ เพียงแต่ส่งเสียงครางเป็นห้วงๆ ในลำคอ ลู่อี้เผิงหอบหายใจหนัก ถามอะไรไม่ออกอีก เพราะส่วนล่างถูกตอดรัดจนซ่านไปหมด
   “คงฉ่วย คืนนี้ถึงพร้อมกันเถอะนะ” ลู่อี้เผิงกระซิบ แล้วแนบมือเข้ากับมือของหงคงฉ่วยที่กุมส่วนนั้นอยู่ จากนั้นก็เริ่มขยับ แรงกระแทกจากด้านล่างทำเอาร่างของหงคงฉ่วยสั่นไปหมด พอทางนั้นทำท่าจะอ้าปากพูดอะไร ลู่อี้เผิงก็รีบใช้ปากปิดเอาไว้
   จู่ๆ เขาก็เกิดกลัวคำพูดจากปากของหงคงฉ่วยขึ้นมา
   เขายังไม่เก่งพอจะแยกความจริงออกจากคำโกหกของผู้ชายคนนี้ได้หรอก
   หรือบางที... เขาอาจจะไม่อยากรู้ความจริงจากปากของผู้ชายคนนี้ก็เป็นได้........
   !!
   เสียงครางและเสียงหอบหายใจหนักดังขึ้นแทบจะพร้อมกัน ลู่อี้เผิงซบหน้าลงกับซอกคอชื้นเหงื่อของร่างด้านล่างที่กำลังสั่นกระตุกน้อยๆ ชายหนุ่มลูบไล้ร่างนั้นด้วยมือสั่นเทา ก่อนจะฝังจูบลงไปตามซอกคอนั้น แล้วกอดเอาไว้แน่น
----------------------------------------------------
   ลู่อี้เผิงตื่นเช้าขึ้นมาด้วยอาการมึนๆ งงๆ เหมือนคนเมาค้าง พอรู้สึกตัวก็ควานเปะปะไปข้างตัว เจอแต่ฟูกกับหมอนข้าง นายตำรวจหนุ่มพยายามจะเรียกสติของตัวเองกลับมา ก่อนจะมองไปรอบๆ ตัว
   ไม่มีใครอยู่บนเตียง ไม่มีใครอยู่ในห้อง....
   พอมองดูตัวเองก็ยังสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยดี งั้นเรื่องเมื่อคืน... แค่ฝันหรอกรึ?
   ลู่อี้เผิงลุกขึ้นจากเตียง ยังคงรู้สึกมึนๆ อยู่ แต่พอมองไปที่หน้าต่าง เห็นต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงต้นนั้นเหลือแต่ใบอ่อน ชายหนุ่มก็ยิ้มออกมา
-----------------------------------------------------
   “คงฉ่วย โทรศัพท์จากสารวัตรลู่ครับ”
   หงคงฉ่วยกำลังจิบยาสมุนไพรอยู่บนเตียงในตอนที่หลี่คงเอาโทรศัพท์มาให้ เขากรอกเสียงตอบไป “มีอะไรอีกล่ะ สารวัตรลู่”
   “อ้อ เปล่า” ลู่อี้เผิงว่า ได้ยินเสียงหงคงฉ่วยตอบกลับมา “แล้วโทรมาทำไม นึกอยากเลียนแบบพฤติกรรมพวกโรคจิตชอบโทรป่วนหรือไง?”
   “เปล่า” นายตำรวจหนุ่มตอบ แล้วหัวเราะเขินๆ “เมื่อคืนผมฝันถึงคุณล่ะ”
   “อ้อ...” หงคงฉ่วยลากเสียง ขณะที่หลี่คงเดินออกไปแล้วปิดประตูเบาๆ “เมื่อคืนฉันก็ฝันถึงสารวัตรลู่เหมือนกันนะ”
   “เอ๋!” ลู่อี้เผิงอุทานเสียงตื่นเต้น “ฝันว่าอะไรหรือ?”
   “ฝันไม่ค่อยดีเท่าไหร่” หงคงฉ่วยว่า และก้มลงจิบยาอีกอึกหนึ่ง “ฝันว่าเผิงเผิงน้อยจู่ๆ ก็กลายเป็นเด็กปากมาก ถามนั่นถามนี่จนวุ่นวายไปหมด ตื่นมาเลยเดือดร้อนต้องให้หลี่คงไปต้มยาเพิ่ม เพราะเผิงเผิงน้อยในฝันกวนประสาทแท้ๆ เชียว”
   ลู่อี้เผิงหัวเราะเจื่อนๆ “โทษที พอดีผมคิดนั่นคิดนี่มากไปหน่อย” หยุดไปพักหนึ่งจึงพูดต่อ “แต่เมื่อคืนผมฝันดีนะ”
   “อ้อ... ดีใจด้วยนะ” หงคงฉ่วยว่า พักจิบยาอีกอึก แล้วพูดต่อ “สารวัตร ต้นไม้น่ะ ถ้าไม่ได้อยู่บ้านหลายๆ วันล่ะก็ เอาน้ำแช่เอาไว้ก็ได้ มันจะได้ไม่เหี่ยวอีก”
   “อ้อ อืม” ลู่อี้เผิงส่งเสียงตอบกลับ สักพักก็พูดขึ้นบ้าง “ทำอะไรอยู่น่ะ”
   “จิบยา” หงคงฉ่วยตอบ แล้วถามกลับ “แล้วสารวัตรยังไม่ไปทำงานหรือไง หรือว่ายังอยู่นอกเวลางาน เลยโทรมาคุยเล่นกับฉันล่ะ”
   “อ้อ กำลังจะไปแล้วล่ะ” ลู่อี้เผิงตอบ แล้วเงียบไปพักหนึ่ง “ผมว่าสักวันผมคงจะจับคุณได้แน่ๆ ”
   หงคงฉ่วยหัวเราะหึๆ ในคอ “ขอให้จริงเถอะสารวัตร ฉันจะยื่นมือรอให้จับเลย กลัวแต่ถึงเวลาเธอจะจับฉันไม่ลงน่ะสิ”
   “ทำไมผมถึงจะจับคุณไม่ลงน่ะ” อีกฝ่ายย้อนถาม หงคงฉ่วยหัวเราะอีกแล้วตอบกลับไป “เพราะท่าทางเธอเริ่มจะหลงเสน่ห์ฉันแล้วน่ะสิ”
   ได้ยินอีกฝ่ายแค่นเสียงขึ้นจมูก “ได้เวลาทำงานแล้ว ผมไปก่อนนะ เตรียมยื่นมือรอไว้ล่ะ สักวันผมจะไปจับคุณ”
   “ต้องจับในเวลาราชการด้วยสินะ คุณตำรวจ” หงคงฉ่วยเย้า ลู่อี้เผิงแค่นเสียงหน่อยหนึ่ง แล้ววางโทรศัพท์ทันที
-------------------------------------------------------------
** ตอนที่แล้วมีแต่คนสงสารเผิงเผิง แอบงอนแทนหงคงฉ่วยจริงๆ  :m16: (โดนคนอ่านโบก) ที่จริงคงฉ่วยหลงเผิงเผิงจะตาย ทำไมทุกคนดูไม่ออก (ใครเขาจะไปดูออกกับหล่อนย๊าาาาา :m31:)

เนื่องจากหงคงฉ่วยเป็นอาจารย์ปู่ของเรา (โดนคงฉ่วยตัดนิ้วทิ้ง!! :serius2:) เรายอมให้อาจารย์ปู่โดนหาว่ารังแกเด็กน้อย(?)ไม่ได้หรอก.... ดังนั้น ยอมลดระดับความโหดของนกยูงลงหน่อยหนึ่ง(หนึ่งตอน) ก็ได้ (ถึงแม้เราจะอยากให้หงคงฉ่วยปั่นหัวเผิงเผิงไปตลอดจนถึงตอนจบเรื่องก็เถอะ!!"

เผิงเผิงได้คนอ่านช่วยไว้แท้ๆ นะเนี่ย (แอบเสียใจที่บุคลิกคงฉ่วยหลุดๆ นิดหน่อย? ในตอนนี้<<วิ่งหนีคนอ่่าน)

ตอนนี้เหมือนจะแอบดราม่าหน่อยหนึ่ง (โถ.... นิยายเรื่องนี้SMนะคะ อย่าสงสารพระเอกเลย ฮ่าๆๆๆ :laugh:)

ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ :3123:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด