[แจ้งข่าวหน้า1]红孔雀 นกยูงแดง (มาเฟีย?vsตำรวจ SMนะ!-จบ) แปะรูปp40 :9/9/2554
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ระหว่างพญานกยูงแดง หงคงฉ่วย กับนายตำรวจเถรตรง ลู่อี้เผิง ท่านๆ ชอบใครมากกว่ากันคะ^^

ต้องหงคงฉ่วยอยู่แล้ว ราชินีฉัน เริ่ด และแสบสนิทขนาดนี้!!
ต้องเผิงเผิงน้อยอยู่แล้ว เมะอะไร มันจะน่ารักน่าแกล้งขนาดนี้!!

ผู้เขียน หัวข้อ: [แจ้งข่าวหน้า1]红孔雀 นกยูงแดง (มาเฟีย?vsตำรวจ SMนะ!-จบ) แปะรูปp40 :9/9/2554  (อ่าน 612174 ครั้ง)

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
โฮๆๆ  มาม่าอืดจนกินอย่างอื่นม่าลงแว้ว  :monkeysad:
อ่า ตกลงว่าหงคงฉ่วยยังไม่ตายใช่ ก่
แต่ก็รอตอนต่อไปนะเจ้า  :z3:

ออฟไลน์ w1234

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ดีใจเว่ยยย ยังไม่ตาย 555+ เมื่อไหร่จะได้เจอกันเนี่ยยยย :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ Heisei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
บีบคั้นอารมณ์จริงๆ  คิดว่าเผิงเผิงจะได้ครองรักกับนกกระตั้วจนตัวตายซะแล้ว

หวังว่าตอนหน้าจะได้เจอกัน  คราวนี้...อยากพูดอะไรก็รีบพูดนะ พ่อสารรวัตรปากหนัก

babyfaibossy

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
มาม่าถ้อยนี้กลมกล่อมมาก ซึ้งเลย
คงฉ่วยกลับมาไำด้แล้ว มีคนรู้ตัวว่ารักแล้ว

ออฟไลน์ FRODO

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เฮ้อ!  ค่อยยังชั่วหน่อย ขอบคุณ คุณ juon เจ้าของเรื่องค่ะ ที่หาลิ้งค์มาให้ด้วยตัวเอง  ตอนนี้อิ่มเต็มพุงแล้ว คืนนี้นอนหลับฝันดีแต่  แล้วจะฝันถึงคงฉ่วยกับเผิงเผิงนะจ๊ะ   :bye2:

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อ หมดชามซักที แบบว่า อิ่มเกินไป น้ำตาหมดไปหลายก๊อกอ๊ะค่ะ

kisz

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดด มาม่าหมดแล้วววว ดีใจๆ ><

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
เหงาแทนเผิงเผิง ช่วง 70% แรกของบทนี้ทำเอาเราร้องให้เลย นึกถึงเพลงนี้ ของ โรส ศิรินทิพย์ และไปเปิดฟังคลอไปด้วย
http://www.youtube.com/v/MlMovOLOTOo
ปรากฏว่าน้ำตาไหลพราก  :o12: คงฉ่วยคงไม่ทิ้งเผิงเผิงไปใช่มั้ย เริ่มต้นกันใหม่เถอะ  :monkeysad:

ออฟไลน์ Cc-kun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ฉากเดผิงๆร้องไห้สะเทือนอารมมากเขียนออกมารุ้สึกได้เลยว่าเสียใจจะขาดใจมันเปนยังงัย

คำนับงามๆ

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
มาม่าหมูสับ สับเละจนจำสภาพไม่ได้กันเลย  o22 
ดีนะที่เผิงเผิงฉลาด  :laugh:

lovevva

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
** สองตอนที่ผ่านมา เราได้เพลงใหม่ๆ จากนักอ่านสองท่าน เอาไว้ใช้ประกอบอารมณ์ดราม่าของคู่นี้มาล่ะค่ะ

เพลงแรก.. : วันแห่งการจากลา (เจมส์-เรืองศักดิ์) จากคุณ i2212

(อิฉันไปหาลิ้งเพลงจากยูทูปมาแปะให้นะคะ เผื่อใครอยากเอาไปประกอบฉาก) http://www.youtube.com/watch?v=5xFRrTsPdtc

เพลงที่สอง : นอนกับความเหงา (โรส-ศิรินทิพย์) จากคุณsilverspoon

อันนี้คุณsilverspoon ได้แปะเพลงเอาไว้แล้วในหน้า35 (หน้านี้แหละ) ลองเลื่อนๆ ขึ้นไปหาฟังดูนะคะ ทั้งสองเพลงสะเทือนอารมณ์ดีมากค่ะ (ทั้งๆ ที่คนเขียน ตอนเขียน ฟังเพลงสารพัด และแทบไม่เกี่ยวข้องเลย<<มันไม่เข้าไปในหูหล่อนสินะ!!)

---------------------------------------------------

红孔雀นกยูงแดง 26
   การผ่าตัดของต้วนเฟิงเป็นไปอย่างเรียบร้อย และประสบผลสำเร็จพอสมควร นายตำรวจหนุ่มกลับมามีความรู้สึกที่ขาอีกครั้ง สัปดาห์หน้าหลังแผลหายเรียบร้อย เขาจะเริ่มทำกายภาพบำบัด ส่วนแผลไฟไหม้บนใบหน้า หมอบอกว่าผิวหนังของเขาฟื้นตัวดีพอสมควร ทำศัลยกรรมตกแต่งนิดหน่อย ใบหน้าก็คงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้
   พอได้ยินว่าต้องทำศัลยกรรม ต้วนเฟิงก็จัดแจงมองหาใบหน้าหนุ่มๆ อันเป็นที่ชวนฝันของสาวๆ ถึงกับขอร้องให้ลู่อี้เผิงที่ไปเยี่ยมเป็นประจำพริ๊นต์ออกมาเป็นแคตตาล็อกเพื่อจะได้เลือก ลู่อี้เผิงฟังแล้วก็ต้องถอนหายใจด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ
   “ผู้กองต้วน หน้าเดิมคุณก็ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปเลียนแบบหน้าคนอื่นหรอก”
   ต้วนเฟิงส่งเสียงอย่างไม่เห็นพ้องด้วย “ไม่นะ ผมว่าหน้าเดิมผมดั้งยังโด่งไม่พอ สารวัตรว่าเสริมดั้งหน่อยดีมั้ย เอาประมาณสารวัตรดีกว่า ผมว่ากำลังดี”
   ลู่อี้เผิงกะพริบตาปริบๆ ก่อนที่เจ้านกกระตั้วในกรงจะร้องแทรกขึ้น “ไม่หล่อ ไม่หล่อ”
   “โห... เสี่ยวชิกทำไมพูดแบบนี้” ต้วนเฟิงหันไปเอาเรื่องกับนก หลังผ่าตัดและแผลไฟไหม้หายดีแล้ว ลู่อี้เผิงก็พาแปะชิกชิกมาเยี่ยมต้วนเฟิงทุกวัน จนหนึ่งคนกับหนึ่งตัวเริ่มจะสนิทกันแล้ว
   “ที่ว่าไม่หล่อน่ะ ฉันหรือสารวัตรลู่กันแน่”
   “ไม่บอก ไม่บอก” เจ้านกน้อยว่า ต้วนเฟิงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “หนอยเอาเปรียบกันนี่ ที่จริงจะพูดว่าสารวัตรไม่หล่อใช่ไหมล่ะ?!!”
   “เอาเปรียบ เอาเปรียบ” แปะชิกชิกร้องต่อ ลู่อี้เผิงหัวเราะออกมา ตั้งแต่เขาพาแปะชิกชิกมาเยี่ยม ต้วนเฟิงก็ดูท่าทางจะร่าเริงขึ้น ตอนแรกทุกคนเป็นห่วงว่าเขาจะมีภาวะซึมเศร้าเพราะเรื่องขาที่อาจจะไม่สามารถกลับมาเดินเหินได้อย่างปกติ ซ้ำยังเรื่องหน้าเสียโฉมอีก แต่ต้วนเฟิงมีพื้นฐานจิตใจเข้มแข็งน่าดู เขาซึมไปหลายวัน แต่หลังจากนั้นก็พอจะทำใจรับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ และพยายามจะปลอบใจตัวเองไปในตัว ลู่อี้เผิงนับถือผู้ชายคนนี้ขึ้นมามากจริงๆ
   ทะเลาะกับนกอยู่ได้สักพัก ต้วนเฟิงก็หันกลับมาพูดกับนายตำรวจหนุ่ม “สารวัตร ขนมันเริ่มขึ้นแล้วนะครับ ตอนแรกผมคิดว่าเป็นคนละตัวกับวันนั้นซะอีก”
   “อืม.. เห็นว่ามันถอนขนตัวเองเพราะไม่เจอเจ้าของน่ะ” ลู่อี้เผิงตอบ ต้วนเฟิงพยักหน้า สักพักก็พูดขึ้นมา “แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้มันมีสารวัตรแล้ว มันคงไม่ถอนขนแล้วล่ะ”
   ลู่อี้เผิงยิ้มออกมา ก่อนจะพูดต่อ “ผู้กองต้วน คุณอยากจะทำศัลยกรรมอะไรก็ตามใจแล้วกัน แต่ผมชอบหน้าคุณแบบเดิมมากกว่า”
   “โห... นี่ถ้าเป็นผู้หญิง ผมต้องคิดว่าสารวัตรสารภาพรักกับผมแน่ๆ ” ต้วนเฟิงพูด และหัวเราะก๊ากทันทีที่เห็นหน้าของลู่อี้เผิง “สารวัตรอย่าทำหน้าเหมือนเห็นผีแบบนั้นซี่ ผมไม่อยากเป็นเมียสารวัตรจริงๆ หรอกน่า เห็นว่าพยาบาลที่ห้องกายภาพบำบัดสวยน่าดู... ท่าทางผมจะต้องทำกายภาพบำบัดนาน ไม่แน่นะสารวัตร ผมอาจจะได้แต่งเมียก่อนเดินได้ก็ได้”
   “เดินได้ก่อน เดินได้ก่อน” แปะชิกชิกพูดแทรกขึ้น ต้วนเฟิงหันไปพูดกับมันอีก “ใช่ๆ เดินได้ก่อน แล้วค่อยแต่งเมีย”
   “ไม่แต่ง ไม่แต่ง” เจ้านกน้อยร้อง และกระโดดโลดเต้นอยู่ในกรง ลู่อี้เผิงจึงได้ดูคนกับนกทะเลาะกันอีกครั้ง
   ต้วนเฟิงทะเลาะกับนกแล้วก็หัวเราะเอง พลอยทำให้ลู่อี้เผิงหัวเราะไปด้วย พอถึงเวลาฉีดยาแก้อักเสบ นายตำรวจหนุ่มถึงได้ขอตัวกลับ
   “สารวัตรเริ่มไปทำงานวันนี้แล้วใช่ไหมครับ” ต้วนเฟิงถาม ขณะที่ลู่อี้เผิงเตรียมจะเดินออกจากห้อง คนถูกถามพยักหน้า ต้วนเฟิงเงียบไปพักหนึ่ง
   “สารวัตร... ถ้าสามเดือนผมยังเดินไม่คล่อง สารวัตรขอผู้ช่วยคนใหม่เลยนะ อย่าลืมถามก่อนล่ะว่าเขานั่งรถไฟเหาะตีลังกาไหวรึเปล่า เขาจะได้ไม่ตกใจกลัวเวลานั่งรถกับสารวัตร”
   ลู่อี้เผิงหัวเราะออกมา “ผมไม่มีคู่หูคนใหม่แล้วล่ะ”
   “?!”
   “ผมไปทำงานนะ หายไวๆ ล่ะผู้กอง”
--------------------------------------------------
   ลู่อี้เผิงกลับไปทำงานวันแรก ก็ได้ยินข่าวลือซุบซิบเรื่องเขากับหงคงฉ่วยพอสมควร แต่นายตำรวจหนุ่มไม่สนใจ ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างขยันขันแข็งเหมือนเดิม หนังสือพิมพ์หลายฉบับติดต่อมาขอสัมภาษณ์เขาเป็นการส่วนตัว เกี่ยวกับเรื่องคดีระเบิดเรือ และเรื่องที่เขาเป็นคนรักลับๆ ของหงคงฉ่วย ซึ่งลู่อี้เผิงปฏิเสธไปทุกฉบับ แต่เจ้าพวกนั้นก็ยังตามวุ่นวายกับเขาได้ไม่เว้นแต่ละวัน
   บางครั้งลู่อี้เผิงนึกในใจว่า ถ้าหงคงฉ่วยยังอยู่ เจ้าพวกนี้จะกล้าไล่ตามถ่ายรูป กล้าไล่สัมภาษณ์เขาขนาดนี้ไหม
   แต่ตอนนี้หงคงฉ่วยไม่ได้อยู่แล้ว....

   ผ่านไปหนึ่งเดือน ขนของแปะชิกชิกเริ่มจะงอกขึ้นมาใหม่ แน่นและขาวเป็นเงามันเหมือนสมัยอยู่กับเจ้าของเดิมแล้ว ขณะที่ต้วนเฟิงดูมีความสุขกับการทำกายภาพบำบัด ท่าทางจะจีบพยาบาลที่เล็งเอาไว้ติดจริงๆ
   คดีฆ่าล้างตระกูลหรง คดีวางระเบิดรถ และคดีระเบิดเรือ ยุติการสืบสวนลงด้วยเหตุผลที่ว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดเสียชีวิตและหายสาบสูญ แฟ้มคดีถูกเก็บเข้าห้องรวบรวมเพื่อเอาไว้เป็นกรณีศึกษา รูปถ่ายเมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้วของหงคงฉ่วยถูกเก็บเงียบเอาไว้อีกครั้ง
   มานึกดูแล้วก็น่าใจหายจริงๆ เขาใช้ชีวิตใกล้ชิดกับหงคงฉ่วย แต่ไม่เคยมีรูปถ่ายของผู้ชายคนนั้นเก็บไว้เลย
   ที่มีก็แค่รูปถ่ายที่ถ่ายมาจากภาพถ่ายเมื่อสามสิบกว่าปีก่อนซึ่งอยู่ในแฟ้มคดีอีกทีหนึ่ง...
   รูปถ่ายในวัยเด็กของหงคงฉ่วย ถูกพี่ชายสั่งทำลายทิ้ง หงคงฉ่วยที่แยกตัวออกมาได้ ใช้ชีวิตลึกลับ กระทั่งรูปถ่ายไว้ประดับบารมีในคฤหาสน์อย่างที่พวกมาเฟียหรือคนใหญ่คนโตชอบวางหรือแขวนโชว์ ยังไม่มีให้เห็นสักรูป มีเพียงตัวอักษรจีนสามคำแขวนประดับอยู่
   红孔雀 (หงคงฉ่วย=นกยูงแดง)
   บางครั้งเวลาอาบน้ำ ลู่อี้เผิงอดไม่ได้ต้องลูบมือไปบนโคนขาอ่อนด้านในของตน บนขาของเขาก็มีคำสามคำนั้นเขียนอยู่...
หงคงฉ่วยทิ้งเอาไว้เพียงชื่อ ที่จะกลายเป็นเรื่องเล่าขานไปอีกนานแสนนาน.....   
---------------------------------------------------
   วันนี้ลู่อี้เผิงเลิกงานก็แวะไปเยี่ยมต้วนเฟิง ทานอาหารเย็น และกลับมาที่บ้านพัก กลับมาถึงเขาก็วางกรงแปะชิกชิกที่พาไปที่ทำงานด้วยเป็นประจำออก เจ้านกน้อยดูจะเป็นที่นิยมที่แผนกของเขา แม้หลายคนจะนึกสงสัยว่ามันอาจจะเป็นนกของหงคงฉ่วยก็ตาม ลู่อี้เผิงไม่เคยตอบรับหรือปฏิเสธ เขาไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องของหงคงฉ่วยเลยถ้าไม่จำเป็น ไม่ว่าก่อนหน้านี้ หรือในตอนนี้ก็ตาม
   แปะชิกชิกออกจากกรงได้ก็บินมาเกาะไหล่เขา เอาศีรษะถูไถอย่างที่ชอบทำประจำ แล้วค่อยๆ สางผมของเขาด้วยจะงอยปาก ลู่อี้เผิงเล่นกับนกอยู่สักพักก็เดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ บนโต๊ะนอกจากจะมีหนังสือด้านนิติเวช กฎหมาย และอาชญวิทยาแล้ว ยังมีรูปถ่ายใส่กรอบเล็กๆ วางเอาไว้หลายรูป ไม่ว่าจะเป็นรูปพ่อที่อุ้มเขาซึ่งแต่งเครื่องแบบตำรวจจำลอง รูปตัวเองในวัยเด็กที่สวมหมวกยืนยืดทำท่าราวกับนายตำรวจใหญ่ รูปถ่ายกับเครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจที่ถ่ายกับเพื่อนตอนเรียนจบ รูปถ่ายในเครื่องแบบเต็มยศสีดำในวันที่ได้รับเข้าบรรจุ กระทั่งชุดสีฟ้าที่เป็นเครื่องแบบของสายตรวจก็มีถ่ายเอาไว้
   นี่คืออาชีพที่เขาใฝ่ฝัน นี่คือความฝันในวัยเด็กที่เขาไล่คว้าเอาไว้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
   ลู่อี้เผิงมองดูรูปถ่ายพวกนั้น จากนั้นน้ำตาก็ไหลหยดออกมาอาบแก้ม
   อากาศยังคงหนาวเย็นอยู่พอสมควร แม้จะอยู่ในบ้าน ลู่อี้เผิงกระชับเสื้อกันหนาวเข้ากับตัว ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่มีอะไรไหลออกมาอีก
   รอจนคราบน้ำตาแห้ง นายตำรวจหนุ่มหยิบกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งขึ้นมา จากนั้นก็บรรจงเขียนข้อความบางอย่างลงไปบนนั้น
   ท้องฟ้าด้านนอกมืดสนิทนานแล้ว อากาศหนาวเย็นลงเรื่อยๆ แปะชิกชิกบินจากกรงที่เปิดอยู่มาเกาะใกล้ๆ กับโป๊ะไฟเขียนหนังสือ เพื่ออิงไออุ่นจากหลอดไฟ พลางมองดูคนบนโต๊ะเขียนข้อความลงไปในแผ่นกระดาษ
   ลู่อี้เผิงเขียนตัวอักษรลงบนกระดาษอย่างบรรจง เมื่อเขียนเสร็จแล้วก็พับทบเข้าหากัน พับอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นก็หยิบซองสีขาวซองหนึ่งขึ้นมา สอดกระดาษที่พับแล้วแผ่นนั้นเข้าไป จากนั้นวางมันไว้บนโต๊ะ
   กว่าลู่อี้เผิงจะเขียนจดหมายเสร็จ ก็เป็นเวลาค่อนข้างดึกพอสมควรแล้ว นายตำรวจหนุ่มลุกขึ้นจากโต๊ะ แต่เปิดโป๊ะไฟเอาไว้แบบนั้น เพราะเห็นเจ้านกสีขาวกำลังหลับสบาย ท่าทางจะอุ่นกำลังดี
   ลู่อี้เผิงลุกจากโต๊ะเขียนหนังสือก็ตรงไปยังตู้เสื้อผ้า เปิดมันออกและเอื้อมมือไปหยิบเสื้อตัวหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มต้นเปลี่ยนเสื้อผ้า
   
   ใกล้เที่ยงคืนเต็มทีแล้ว บ้านทั้งบ้านเงียบสนิท ทั้งเงียบทั้งหนาว ลู่อี้เผิงยืนอยู่หน้ากระจก อาศัยแสงไฟสลัวจากโคมเขียนหนังสือที่เปิดทิ้งเอาไว้ มองดูตัวเองในชุดเครื่องแบบตำรวจเต็มยศสีดำสนิท มีตราประจำกรมประดับอยู่ที่อกด้านซ้าย
   นี่คือเครื่องแบบที่เขาเคยใฝ่ฝันจะใส่ และเคยสวมใส่มันอย่างเต็มภาคภูมิ....
   บนเครื่องแบบชุดนี้ แทบทุกอณู มีความฝันและความตั้งใจของเขาสอดแทรกอยู่ เขารักการเป็นตำรวจ รักมากกว่าสิ่งใดๆ หลังจากได้รับเครื่องแบบนี้มา ลู่อี้เผิงตั้งใจว่าคงจะได้สวมใส่มันอย่างภาคภูมิในทุกงานพิธีการ ในทุกครั้งที่ได้รับมอบหมายอย่างเป็นทางการจากกรมตำรวจ
   เขาไม่เคยถอดเครื่องแบบนี้ต่อหน้าใครเลย ไม่เคยมีเลยสักครั้ง กระทั่งผู้บังคับบัญชาก็ไม่เคยสั่งให้เขาถอด
   แต่เขากลับถอดมันออก... ต่อหน้าคนคนหนึ่ง.....
   ลู่อี้เผิงค่อยๆ ถอดหมวกออก จากนั้นก็ดึงเน็กไทสีดำ เขาค่อยๆ ถอดเครื่องแบบเต็มยศนั้นออกอีกครั้ง
   ไม่ใช่เพราะคำสั่งจากใคร หรือเป็นการบีบบังคับจากไหน
   เขาถอดมันออก เพราะเสียงหัวใจของตัวเขาเอง
--------------------------------------------
   “โอ้โห... สารวัตร มาแต่เช้าเลยนะเนี่ย” ต้วนเฟิงเอ่ยทักคนที่เปิดประตูเข้ามาด้วยน้ำเสียงร่าเริง “สารวัตรมาได้จังหวะจริงๆ มาเป็นประธานตัดไหมให้ผมใช่ไหมล่ะครับ”
   ลู่อี้เผิงยิ้มออกมา “อืม ผมอยากดูว่าหน้าคุณจะกลับหล่อเหมือนเดิมรึเปล่า”
   ต้วนเฟิงหัวเราะออกมา “แน่นอนสิครับ ระวังนะ สารวัตรอาจจะหลงรักผมก็ได้ โอ๊ย... พูดไปได้นะผม ฮ่าๆ ”
   ลู่อี้เผิงพลอยหัวเราะออกมาด้วย สักพักหนึ่งแพทย์ก็เดินเข้ามาพร้อมกับพยาบาลและถาดเครื่องมือ จากนั้นผ้าพันแผลบนหน้าของต้วนเฟิงก็ถูกแกะออก แล้วไหมที่เย็บเอาไว้บางๆ ก็ถูกดึงออกทีละเส้น ตัดไหมเสร็จ แพทย์ก็ส่งกระจกให้เขาถือเพื่อมองหน้าตัวเอง
   “โอ้โห... ขอบคุณครับหมอ เรียบเนี๊ยบอย่างกับไม่เคยไปโดนอะไรมาเลยแน่ะ”
   แพทย์เจ้าของไข้ยิ้มให้เขา คุยอะไรกันอยู่สองสามคำ จากนั้นก็ออกจากห้องไป ต้วนเฟิงหันมามองลู่อี้เผิง “สารวัตรไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยหรือครับ”
   “อืม... ผมดีใจที่หน้าคุณกลับมาเหมือนเดิมนะ” ลู่อี้เผิงว่า ต้วนเฟิงทำหน้าผิดหวัง “โธ่ ผมอุตส่าห์ให้หมอเสริมดั้งขึ้นมานิดหนึ่งนะเนี่ย สารวัตรจะชมว่าหล่อขึ้นก็ไม่ได้”
   “ปกติคุณก็หล่ออยู่แล้วล่ะ” ลู่อี้เผิงพูดยิ้มๆ ต้วนเฟิงมองเขาอีกครั้ง แล้วถามออกมา “วันนี้ไม่ได้พาเสี่ยวชิกมาด้วยหรือครับ?”
   “อ้อ.. เปล่า ผมให้มันอยู่ที่บ้านก่อนน่ะ เพราะเดี๋ยวคงต้องขับรถทางไกล”
   “?!” ต้วนเฟิงมองหน้าเขาอีกครั้งด้วยสีหน้าแปลกใจทันที “สารวัตรจะไปไหนน่ะครับ”
   “ยังไม่รู้เลย” ลู่อี้เผิงตอบไปตามตรง ก่อนจะยิ้มให้ต้วนเฟิงอีกครั้ง “ผู้กอง กว่าผู้กองจะเดินคล่อง คงจะมีสารวัตรคนใหม่มาทำหน้าที่แทนผมแล้วล่ะ ไม่ต้องไปตั้งกฎหาคนที่ไม่กลัวรถไฟเหาะตีลังกาหรอกนะ”
   “สารวัตรหมายความว่าไงครับเนี่ย?!” ต้วนเฟิงพูดด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ลู่อี้เผิงมองหน้าเขาอีกครั้ง “ความจริงผมเพิ่งตัดสินใจเด็ดขาดเมื่อคืนนี้เอง เห็นว่าคุณสนิทกับผมมากที่สุด เลยมาบอกคุณก่อนไป”
   “สารวัตร!” ต้วนเฟิงเรียกชื่อเขาอีกครั้ง และพยายามลุกขึ้นมาจากเตียง “เกิดอะไรขึ้นน่ะครับ ทำไมจู่ๆ ถึงได้.....”
   ลู่อี้เผิงเดินไปประคองตัวเขาเอาไว้ “ขอโทษนะผู้กอง ที่ผมอาจจะทำให้ผิดหวัง แต่ผมตัดสินใจแล้ว”
   ต้วนเฟิงมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ “เพราะอะไรน่ะครับสารวัตร คุณจะไปไหนกันแน่?”
   ลู่อี้เผิงยิ้มบางๆ บนใบหน้า “ผมจะไปตามหานกน่ะ”
--------------------------------------------------------
   จดหมายลาออกในซองสีขาวถูกวางอยู่บนโต๊ะของเฉินฉิน กว่าเขาจะเห็น นายตำรวจหนุ่มก็ขับรถออกจากเมืองไปแล้ว ทิ้งบ้านพักของตัวเองเอาไว้พร้อมกับเครื่องแบบเต็มยศที่แขวนอยู่หน้าตู้
   ตอนที่เห็นจดหมายลาออกของลู่อี้เผิง ในมือของเฉินฉินมีจดหมายอยู่อีกสองฉบับ ฉบับแรกเป็นหนังสือปรับเพิ่มขั้นเงินเดือน ซึ่งมีชื่อของลู่อี้เผิงอยู่ด้านบนสุด ส่วนอีกฉบับ เป็นรายงานจากกองชันสูตรและกองพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับศพขึ้นอืดในวันนั้น
   รายงานในจดหมายสรุปโดยใจความว่า ลักษณะการสวมกางเกงและเข็มขัดของศพผิดปกติ เหมือนเพิ่งถูกคนอื่นสวมให้หลังจากเสียชีวิตแล้ว
   ทันทีที่เห็นจดหมายลาออกของลู่อี้เผิง เฉินฉินเก็บรายงานฉบับนี้ไว้ในส่วนลึกสุดของลิ้นชักโต๊ะทันที ก่อนจะถอนหายใจออกมา
-------------------------------------------------------
   ลู่อี้เผิงขับรถที่มีประวัติว่าเข้าอู่บ่อยที่สุดไปตามถนนเส้นเล็กๆ ภายในรถนอกจากกระเป๋าเดินทางที่ใส่เสื้อผ้านิดๆ หน่อยๆ และเต็นท์สำหรับพักค้างคืนแล้ว ก็มีนกตัวหนึ่งอยู่ในกรงที่วางอยู่ตรงเบาะหน้า คาดเข็มขัดนิรภัยซะด้วย ด้านหลังยังมีกระถางใส่ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่กำลังออกหม้อสวย วางอัดเอาไว้กับกระเป๋าเดินทางและถุงเสบียงอย่างแน่นหนา เพื่อกันมันล้มคว่ำ
   ลู่อี้เผิงทิ้งความฝันของเขาเอาไว้ที่บ้านพักหลังเดิม ทิ้งทุกอย่างที่เขาคว้ามาได้เอาไว้เบื้องหลัง มุ่งหน้าตรงไปยังสถานที่ที่เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าตั้งอยู่ตรงไหนกันแน่ เพียงแต่นายตำรวจหนุ่มรู้ว่าเขาจะต้องไปยังสถานที่นั้นให้ได้
ทำงานมาห้าปี ลู่อี้เผิงมีเงินเก็บอยู่พอสมควร พอจะใช้เดินทางได้ในช่วงเวลาหนึ่ง วางแผนใช้ดีๆ อาจจะเดินทางได้เป็นปีๆ เลยก็ได้
   เขายอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อตามหานกยูงตัวใหญ่ที่โบยบินพาหัวใจหนีจากเขาไป
   นายตำรวจหนุ่มขับรถมุ่งหน้าลงไปทางใต้ ไปยังทีที่เขาเองคิดว่าจะมีนกอยู่
   หวังว่านกยูงสีแดงตัวนั้นจะยังรอเขาอยู่นะ
------------------------------------------------------
   อากาศในยามเช้าตรูสดชื่นเย็นสบาย บรรดานกน้อยใหญ่ต่างร้องกันเสียงระงม โผบินออกจากรัง ดำเนินกิจวัตรต้อนรับวันใหม่อย่างเช่นทุกวันที่เคยผ่านมา
   บนลานกว้างหน้าบ้านพักที่พอจะเรียกได้ว่าคฤหาสน์หลังย่อมๆ ที่สร้างอยู่บนหน้าผาสูง ผู้ชายคนหนึ่งนอนเอนกายอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ตัวยาว เขาสวมเสื้อผ้าไหม ทับด้วยเสื้อขนสัตว์สีขาวอีกชั้นหนึ่ง ผิวของชายคนนั้นขาวละเอียดเหมือนหิมะ แสงแดดอ่อนๆ ทาบทาลงบนเค้าหน้าหมดจดคมคาย ดวงตาคู่นั้นปิดสนิท ลมหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ราวกับกำลังดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบตัวอย่างมีความสุขก็ไม่ปาน
   นกกระตั้วสีขาวสะอาดตัวหนึ่งก็บินพึ่บๆ เข้ามา ดวงตาที่ปิดสนิทคู่นั้นเบิ่งโพลงขึ้นทันที นกตัวนั้นบินมาเกาะที่ไหล่ของเขา ก่อนจะเอาศีรษะถูไถอย่างรักใคร่
   “คงฉ่วย คงฉ่วย”
   ใบหน้าได้รูปปรากฏรอยยิ้มละมุน ในเงาของแสงอาทิตย์ยามเช้า ร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม
-------------------------------------------------------
-จบ-

.
.
.
.
.
.
.
** ทุกคนเห็นคำว่า"จบ"ด้านบน ต้องเอามือทุบจอแล้วอยากเอาเลือดหัวข้าพเจ้าออกมาแน่ๆ เลย!!!

อันที่จริงเรื่องยังมีต่อ แต่พอดีโปรโมชั่นนี้ไม่ได้รวมของหวานเอาไว้ (มีแต่มาม่าไซส์บิ๊ก ชามโตขนาดพิเศษ!!!!<<โดนโบก :beat:) อนึ่ง รายการของหวานขอสงวนสิทธิ์เอาไว้เป็นของสมน้ำหน้าคุณ เอ๊ย ของสมนาคุณในรวมเล่มนะคะ...

แต่.... จากคอมเม้นต์(แทบทุกคอมเม้นต์) ทุกคนดูหวังกับของหวานเอาไว้มาก... ไหนๆ ก็ไหนๆ ท่านผู้อ่านอุตส่าห์กล้ำกลืนทานมาม่าแสนอร่อยของอิฉัน (ไม่อร่อยย่ะ!!! เอามาม่าหล่อนไปเททิ้งเลยป๊ายย<<ปิดหู ไม่รับรู้) อิฉันเลย... เอาบางส่วนของขนมหวาน (หวานจริงเดะ?) ที่จะอยู่ในรวมเล่มมาให้อ่านกันเป็นที่ให้โล่งใจ(แน่รึ?) ก่อนนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2011 12:27:43 โดย juon »

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
- ตย. ตอนที่จะลงในรวมเล่ม-


   ลู่อี้เผิงขับรถโดยมีเพื่อนร่วมทางเป็นนกกระตั้วที่ชื่อแปะชิกชิกตัวนั้น และมีต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงแกว่งหม้อไหวไปตางอาการสั่นโคลงของรถ เป็นกำลังใจอยู่ด้านหลังคนขับ
   ที่ที่เขาจะไปเป็นสถานที่ที่เขาเคยไปเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และเส้นทางเลือนรางเต็มที สถานที่ที่ตำรวจไม่ได้มาตรวจสอบ สถานที่ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปในทะเลกว้าง
   เกาะซึ่งเต็มไปด้วยฝูงนกที่หงคงฉ่วยเคยพาเขาไปขังไว้ บังคับให้เขาให้อาหารนกพวกนั้นอยู่หลายวัน
   พอนึกย้อนไปแล้ว นั่นไม่ใช่ความทรงจำสวยงามแสนสุขเลยสักนิด แต่ทำไมกันนะ... ภาพนกฝูงใหญ่สารพัดชนิดที่บินพรึบขึ้นมาด้านหลังผู้ชายคนนั้นถึงได้ฝังใจเขานัก
   การที่เขาถึงกับทิ้งความฝัน ลาออกจากราชการ เพื่อตามหานกยูงบ้าตัวนั้น ใครรู้คงบอกว่าเขาบ้าบอเต็มที และลู่อี้เผิงก็เริ่มคิดแล้วว่าเขาคงบ้าจริงๆ
   แต่จะให้เขาบอกว่าเสียใจอีกครั้ง ไม่มีทางเสียล่ะ
   นายตำรวจหนุ่มขับรถลงใต้ แวะพักเล่นกับนกเพื่อช่วยมันจากอาการเครียดในการนั่งรถระยะทางยาวเป็นระยะๆ แปะชิกชิกทำท่าจะเมารถในช่วงแรกๆ แต่หลังผ่านไปครึ่งวัน เจ้านกตัวเดิมก็เริ่มเลียนเสียงร้องเพลงตามแผ่นซีดีเพลงที่เขาเปิด เลยกลายเป็นว่าลู่อี้เผิงได้ฟังทั้งนกทั้งวิทยุร้องเพลงไปพร้อมกัน
   นึกๆ แล้ว นกนี่ช่างอึดพอๆ กับเจ้าของมันจริงๆ
   ถ้าไม่ได้เห็นศพศพนั้น ลู่อี้เผิงคงไม่มีวันรู้ได้อย่างเด็ดขาด ว่านกยูงตัวนั้นยังมีชีวิตอยู่ ไม่มีคนร่อแร่ปางตายคนไหนมีเวลาเปลี่ยนกางเกงตัวเองให้ศพหรอก
   ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือการวางแผนเอาไว้ทั้งหมด บนเรือนั่นแค่การลองใจเขาอย่างนั้นหรือ?
   ลู่อี้เผิงตอบไม่ได้ บอกว่าเป็นการลองใจมันก็ดูจะอลังการงานสร้างเสียเหลือเกิน พอรู้ว่านกยูงนั่นน่าจะยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง หัวใจของเขาก็คันยิกๆ อยากจะไปถามเอาเองจากปากเจ้าตัวให้ได้ ว่าทั้งหมดนี่มันเป็นยังไงกันแน่
   ปัญหาคือ เจ้านกยูงตัวนั้นคงไม่ยอมออกมาพบเขาเองแน่
   ลงทุนเผาคฤหาสน์เขาวงกตหลังนั้นทิ้ง สั่งอพยพบริวารออกไปหมด และยังทิ้งนกกระตั้วที่ตัวเองรักอย่างกับลูกไว้กับเขาแบบนี้.........
   แสบจริงๆ !!
   ลู่อี้เผิงอธิบายไม่ถูกว่าตอนนี้เขารู้สึกอย่างไรกับหงคงฉ่วยกันแน่ อาจจะแค้นนิดๆ เคืองหน่อยๆ แต่คำพูดไหนที่เขาเคยคิดอยากบอกกับเจ้านกยูงนั่นก่อนหน้านี้ เขาก็ยังอยากบอกอยู่...
   แต่ก่อนจะบอก ขอเขาได้กัดคอเจ้านกยูงนั่นสักทีเถอะ ค่าที่ทำให้เขาวุ่นวายใจเจียนคลั่งขนาดนี้...
   ไม่ว่าทั้งหมดจะเป็นแผนลองใจหรืออะไรก็ตาม... ท้ายที่สุด หงคงฉ่วยก็ปลดเขาออกจากเครื่องแบบ ลากเขาออกจากความฝันเดิมสำเร็จจนได้
   งานนี้ลู่อี้เผิงแพ้ราบคาบจริงๆ
   สารพัดแผนการที่หงคงฉ่วยสรรหามาจัดการกับเขา เล่นงานเขาซะอ่วม ทำเอาหัวใจของเขากระเด็นกระดอนออกไปโดยไม่รู้ตัว แล้วซ้ำเขาอีกครั้ง ทำเอาเขาถอนตัวไม่ขึ้น...
   ถ้าคิดว่าตำรายุทธพิชัยของซุนวูลึกลับซับซ้อนแล้ว ตำราพิชัยรักของหงคงฉ่วยคงลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนยิ่งกว่าอีกหลายสิบเท่า มีหรือขุนพลมือใหม่อย่างลู่อี้เผิงจะไปเอาชนะได้
   เอาเถอะ แพ้ให้กับอภิมหาอัจฉริยะขนาดนี้ คงไม่มีใครสมน้ำหน้าเขานักหรอก

   ลู่อี้เผิงแวะพักค้างคืนในปั้มน้ำมัน จอดรถนอนเอาแรงคืนหนึ่ง เช้าวันรุ่งขึ้นจึงขับรถมาถึงท่าเรือที่เป็นความทรงจำลางๆ ของเขาจนได้
   ชายหนุ่มมาถึงท่าเรือสักราวๆ เก้าโมงเช้า แต่ต้องใช้เวลาเจรจากับคนเรืออยู่นาน กว่าที่ทางนั้นจะยอมหาเรือลำใหญ่กับปั้นจั่นที่พอจะยกรถของเขาขึ้นเรือไปได้ แต่ที่ยากยิ่งกว่า คือการหาคนขับเรือที่จะพาเขาไปยังเกาะลึกลับนั่นต่างหาก
   อย่างกับฉากเก่าๆ ในหนังกำลังภายใน อยากจะสำเร็จวิชาจากวัดเส้าหลิน จะต้องผ่านด่านสิบแปดมนุษย์ทองคำไปก่อน ลู่อี้เผิงอยากล่องเรือไปหานกบนเกาะ ยังต้องผ่านด่านสิบห้านายเรือสุดโหด เพราะบังเอิญนกที่เขาตามหา ดันเป็นนกสายพันธุ์หายากสุดๆ เรียกว่าไม่รู้กี่ปีจะมาลงมาเกิดอีกสักตัวหนึ่ง แต่คิดว่าคงไม่น่าจะมีอีกแล้ว เพราะแค่ตัวเดียวก็เกินรับประทาน
   ลู่อี้เผิงหมดที่ถอย ทั้งรถทั้งข้าวของถูกยกขึ้นเรือไปหมดแล้ว เหลือแต่กรงใส่นก และนกที่อยู่ด้านใน เพราะเขาเอาออกมาก่อนรถจะถูกยก
   ดังนั้น ลู่อี้เผิงจึงจำต้องรับมือกับนายเรือสิบห้าคน โดยมีเจ้าแปะชิกชิกคอยกระโดดโลดเต้นอยู่ในกรง ส่งเสียงร้องแกว๊กๆ บ้าง พูดบ้างสลับกันไป บางทีก็ไม่รู้ว่าจะเชียร์หรือจะแช่งเขากันแน่ ยกตัวอย่างเช่น...
   “เอาเลย เอาเลย”
   “ไม่พ้น ไม่พ้น”
   “ตายแน่ ตายแน่”
   ลู่อี้เผิงฟังไปหลบมือหลบเท้าเป็นสามสิบข้างคูณสองพวกนั้นไป พลางนึกว่าเขาต้องเข้าใกล้เจ้านกหายากนั่นแล้วแน่ๆ เพราะตอนเจ้านกกระตั้วตัวนี้อยู่กับเขา ไม่เคยปากเสียพูดอะไรพล่อยๆ แบบนี้ ท่าทางเจ้านกจะมีเรดาร์พิเศษ จับสัญญาณเจ้านายเก่าตัวเองได้ล่ะมั้ง ถึงได้ปากเสียขนาดนี้
   กว่าที่ลู่อี้เผิงจะล้มนายเรือทั้งสิบห้าคนลงได้ นาฬิกาก็เกือบจะบอกเวลาเที่ยงตรงพอดี ทั้งคนทั้งนก ทั้งหอบทั้งหิวด้วยกันทั้งสิ้น ลานกว้างกลางท่าเรือที่เมื่อครู่ถูกใช้เป็นสังเวียนต่อสู่ ไม่ถึงสิบห้านาที ก็เป็นที่ที่คนสิบหกคนกับนกหนึ่งตัว นั่งรับประทานอาหารเที่ยงไปด้วยกัน
   เพราะคุยกันในตอนทานอาหารนั่นแหละ ลู่อี้เผิงถึงได้รู้ ทั้งหมดนี่เป็นคนที่หงคงฉ่วยเคยช่วยไว้ แต่ละคนโชว์รอยแผลเป็นที่เขียนคำว่าหงคงฉ่วยที่ขา บางคนก็เป็นรอยจี้ บางคนก็เป็นรอยสัก ที่แขนบ้าง ขาบ้าง บางคนก็ที่หน้าอก หลังคอก็มี แต่ไม่ยักอยู่ในที่น่าอายอย่างเขาเลยสักที่
   พอถึงเวลาโชว์รอยแผลของตัวเอง ลู่อี้เผิงเกิดอาการกระอั่กกระอ่วนถึงที่สุด จะให้ถอดกางเกงต่อหน้าคนมากมายที่ตั้งหน้าตั้งตามองขนาดนี้ ต่อให้เขาหน้าหนาเป็นฝาตึก ก็คงทำไม่ไหวหรอก ดังนั้น ลู่อี้เผิงจึงต้องเข้าห้องน้ำ แล้วออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนหนึ่ง จากนั้นก็ค่อยเปิดโคนขาอ่อนด้านในให้ทั้งหมดดู โดยที่พยายามจะปิดส่วนนั้นเอาไว้ให้มิดชิดที่สุด
   คนมองมีปฏิกิริยาแตกต่างกันไป บางคนเบิ่งตากว้าง บางคนก็ขมวดคิ้ว แต่ที่น่าหมั่นไส้ที่สุดไม่ใช่คน ดันเป็นเจ้านกกระตั้วตัวนั้นต่างหาก
   “เซ็กซี่ เซ็กซี่”
   ลู่อิ้เผิงนึกอยากหักคอนกมาปิ้งกินจริงๆ ค่าที่ทำการคิดคดทรยศต่อเขา พอเข้าใกล้เจ้านายเก่าล่ะปากเสียขึ้นมาผิดหูผิดตาเลยทีเดียวเชียว
   ตาสิบห้าคู่มองแผลเป็นบนขาอ่อนเขาแล้วก็ส่งเสียงชื่นชมออกมา บอกว่าบริเวณนี้เป็นที่ที่พวกเขาอยากจะจี้ตัวหนังสือนั้นลงไปมากที่สุด เรียกว่าเป็นตำแหน่งสำคัญที่ไม่ใช่ว่าหงคงฉ่วยจะให้ใครจี้ง่ายๆ ที่เขามีรอยแผลตรงนี้ แปลว่าเขาเป็นคนพิเศษจริงๆ
   ลู่อี้เผิงคันยิกๆ อยู่ในอก อดไม่ได้ต้องถามออกไปว่า แล้วบนเกามีคนที่มีแผลเป็นที่โคนขาเหมือนเขาอีกมั้ย ทั้งหมดสั่นศีรษะ แล้วบอกอีกว่า คนที่มีรอยแผลตรงนี้ ส่วนใหญ่ไม่ตายก็หายสาบสูญไปหมดแล้ว
   แทนที่ชายหนุ่มจะนึกตกใจหรือกลัวอะไร ดันถามย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก พอได้รับคำยืนยันว่าพวกที่มีรอยแผลแบบนี้ ไม่ตายก็หายตัวไปหมดแล้ว ลู่อี้เผิงจึงพอจะชื้นใจขึ้นหน่อย ถ้าขึ้นไปถึงเกาะแล้วดันเจอหงคงฉ่วยเลี้ยงคนอื่นเอาไว้อีกล่ะก็.............
   ดูแผลเรียบร้อย ลู่อี้เผิงก็ไปเปลี่ยนเป็นกางเกง กันเจ้านกปากเสียนั่นพูดอะไรชวนให้ขายหน้าอีก จากนั้นก็เอ่ยปากถามถึงกำหนดออกเรือ ปรากฏว่าจะไปที่เกาะนั้น ยังต้องรอเวลาน้ำขึ้นสูงสุดของวันอีก ซึ่งเวลาที่ว่ามีแต่ช่วงสาย กับช่วงดึกเท่านั้น ประเด็นคือช่วงสายที่น้ำขึ้น ลู่อี้เผิงเสียเวลาไปกับการต่อสู้ และทานข้าว ดังนั้นเขาจึงต้องแกร่วอยู่แถวนั้น รอเวลาดึกเพื่อออกเรือ
   หนทางหานก ทำไมมันยากเย็นแบบนี้นะ
   ลู่อี้เผิงรอไปนึกวิธีจัดการนกตัวนั้นอยู่ในใจ ถ้าเจอจะจับมาต้มยำทำแกง ฟัดเสียให้เข็ดให้หลาบ แต่ก็รู้เต็มอกว่าคิดไปก็เท่านั้น ขนาดจะไปหายังยากเย็นขนาดนี้ เจอแล้วก็อย่าหวังว่าเขาจะทำอะไรได้ ไม่ถูกทารุณกรรมทำมิดีมิร้ายให้อับอายชาวประชาก็นับว่าบุญเป็นนับต่อนับ ดังนั้น แทนที่จะคิดหาวิธีต้มยำทำแกงนก ซึ่งคงไม่มีวันทำได้ สู้วางแผนรับมือกับนกจะดีกว่า เผื่อถูกนกเล่นงานกะทันหัน จะได้ไหวตัวทัน
   นั่งวางแผนไปสักพัก นายเรือพวกนั้นจึงเข้ามาชวนเขาคุยอีก ลู่อี้เผิงถึงรู้ว่า แต่ละคนเคารพนับถือหงคงฉ่วยเป็นพ่อบ้าง เป็นพี่บ้าง บางคนก็เป็นน้า เป็นอา หงคงฉ่วยช่วยเหลือคนพวกนี้ในภาวะวิกฤติของชีวิต ทั้งหมดเลยตอบแทนด้วยการมาทำอาชีพเดินเรือ และคอยเฝ้าทางเข้าออกเกาะแห่งนั้นเอาไว้
   ฟังแล้วนึกถึงผู้ทรงอิทธิพลในหนังกำลังภายในไม่มีผิด จะผิดก็ตรง ที่ลู่อี้เผิงเจอไม่ใช่หนัง แต่เป็นเรื่องจริงต่างหาก
   คุยกันอยู่จนค่อนดึก หัวหน้าคนเรือจึงส่งสัญญาณว่าได้เวลาออกเรือแล้ว นั่นแหละ ลู่อี้เผิงถึงได้ขึ้นเรือเสียที
------------------------------------
-จบ.ตย.ค่ะ-
-------------------------------------------------
**** แอ่ก!!! (โดนคนอ่านสามัคคีกันรุมกระทืบ!! แต่อิฉันหน้าด้านค่ะ อึด... ทน.. <<ยังจะมีหน้าภูมิใจ)

ถึงบรรทัดนี้แล้ว ท่านผู้อ่านคงมีคำถามต่อว่า แล้วหล่อนจะรวมเล่มเมื่อไหร่ยะ?!!!

เอ่อ... นับตามคิวแล้ว กระหน่ำเต็มที่ว่าข้าพเจ้ารวมเล่มมันทุกเดือน (ซึ่งตอนนี้ก็รวมมันทุกเดือน) เรื่องนี้กำหนดรวมเล่มจะอยู่ที่เดือนมีนา-เมษาปีหน้าค่ะ (ปี55 ถ้าโลกยังไม่แตกนะคะ) ใครเห็นว่านาน!! ก็จงซื้อรวมเล่มที่ออกอยู่ตอนนี้ (อันได้แก่ My neighbor ซึ่งยาวเป็นมหากาพย์ทุบปลวก) เอาไปอ่านกันก่อน แล้วท่านจะรู้สึกว่า ไม่นานเลย (เออ แต่ตรูไม่อ่านเฟ้ย!!<<เสียงคนอ่าน)

ไงๆ ก็ตามกำหนดรวมเล่มเอาในเว็บ หรือว่าในนี้ก็ได้ค่ะ  สำหรับราคาและอีกสารพัด ไว้เปิดแล้วจะแจ้งอีกทีนะคะ

ถึงเวลาุคุยกันท้ายเรื่องสักที....(จะมีใครอ่านไหมหนอ)

มีอะไรอยากพูดมากมายเกี่ยวกับเรื่องนกยูงแดงนี้.... แบบว่าเหลือเชื่อที่เขียนจบได้ภายใน1เดือน ทั้งๆ ที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะเขียนไปเรื่อยๆ เพราะอึดอัดกับอีกเรื่องที่เขียนอยู่ ซึ่งนายเอกหื่นค่ะ แต่.. พระเอกไม่ใช่พระเอก มันเป็นพระอิฐต่างหาก!!! (ใครเคยอ่านแล้วน่าจะเดาได้)

ความจริงตอนแรกตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้สนองตัณหา แบบจบในตอน SMขำๆ ไปวันๆ แต่พอเขียนไปๆ มันชักจะติด... และตัน.. เป็นลำดับต่อมา เพราะเรื่องจบในตอนมันต่อยากจริงๆ นะคะ แล้วก็ไม่อยากจะเล่นมุขซ้ำๆ (แบบการ์ตูนหลายๆ เรื่องที่เล่มแรกๆ ชอบนะ แต่พอติดตลาดก็เล่นมุขเดิมไป ไม่จบไม่สิ้น เสียใจ ไม่ชอบค่า!!!!) ดังนั้น ตอนจบจึงถูกวางแผนเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่เผิงเผิงกับคงฉ่วยไปเที่ยวภูเก็ตกันแล้ว (จะเห็นว่าตอนนั้นคงฉ่วยพูดถึงพี่ชายบุญธรรมแล้วนะคะ <<ใครจะจำได้ไหมนี่) สรุปว่าอิฉันซื้อมาม่ามาตุนรอท่านผู้อ่านไว้นานแล้ว... ไม่ต้องตกใจว่าทำไมมันชามใหญ่ขนาดนี้นะคะ (โดนโบก)

อยากเขียนอะไรเยอะมาก.. แต่เอาไปเขียนในรวมเล่มดีกว่า

เรื่องนี้เราชอบคงฉ่วยมากสุดค่ะ (ส่วนจินหยิน ยกเอาไว้นะคะ เพราะเป็นสุดที่รักตลอดกาล อั้งงง :-[) เผิงเผิงรองลงมา ส่วนผู้กองต้วน หลังๆ เริ่มรู้สึกบทจะเด่น+น่ารักขึ้น ฮ่าๆ

ไม่อยากพูดถึงเจ้านกแปะชิกชิก ที่ดูจะเด่นเป็นที่สุด (สารภาพว่าชื่อนกตัวนี้ดันไปใช้เสียงแต้จิ๋วด้วยความเคยชิน เช่นเดียวกับชื่อตัวประกอบอีกหลายตัวที่เผลอใช้ไปTTATT) นกที่คนอ่านเรียกร้องอยากให้มีบท แต่คนเขียนรู้สึกว่าเขียนยากเป็นที่สุด!! เขียนคนแก่อายุสี่สิบ ห้าสิบทำมาแล้ว มาเฟีย เจ้าพ่อ สายลับ คนสติเฟื่อง ฆาตกรโรคจิต อิฉันทำมาแล้ว แต่เขียนบทสัตว์ ฉันเพิ่งลองค่ะ ยากนะคะคุณ!!!!

สุดท้าย...

ขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่าน ที่มาลุ้นกันหน้าจอทุกวัน โค้งงามๆ เลยค่ะ

และที่ต้องขอบคุณเป็นที่สุด เพราะถ้าไม่มีท่านๆ เหล่านี้ อิฉันคงไม่มีเวลามานั่งเขียนนิยายทั้งวัน ลงกันวันต่อวันแบบนี้ได้

ท่านที่ได้อุดหนุนนิยายของอิฉันในตอนนี้ ทั้งที่ร้านและสั่งตรง ขอบพระคุณมากจริงๆ นะคะ อันนี้ไม่ได้โฆษณาให้ซื้อ แต่ซึ้งจริงๆ เพราะตอนนี้ฉันอาศัยรายได้จากการขายหนังสือเป็นหลักแล้วจริงๆ ค่ะ (หลังจากร่างกายไปกับงานประจำไม่ไหว พังพินาศอย่างหนัก)

ขอบคุณสำหรับทุกคำติชม ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นนะคะ...

เจอกันเรื่องหน้าค่ะ^^

Ju~oN 1/09/2554
---------------------------------------

ปล. พิจารณาว่าอาจจะมีตอนพิเศษที่จะเอามาลงในนี้สักตอนอยู่เหมือนกันนะคะ อาจจะไม่หวานเท่าไหร่ (แต่SMแน่นอน) ^^

ปล.2 ฉันเกือบลืมแปะรูปคู่นี้เอาไว้ให้หายคิดถึงล่ะค่ะ แปะๆๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2011 11:34:45 โดย juon »

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
 :z13: จิ้มๆคุณ Juon อ่านก่อนเด่วกลับมาเม้น
================
ได้เจอกันแล้วววว คงฉ่วยสุดที่เลิฟได้ออกมาจี๊ดดดเดียวเอง
ค้างมาม่าให้คาถ้วยอยู่อีกหน่อย อ๊ากกก อยากอ่านต่อ
จะรอรวมเล่ม :a2: (ถึงจะต้องรอนานสักนิด แค่เค้าอยากได้อ่า)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2011 11:30:13 โดย nolirin »

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ฆ่านักเขียนเป็นบาปไม๊เนี่ย

 :z1:

Ai_Rong_Kun

  • บุคคลทั่วไป
โอ้วววววววว ม่ายยยยยยยย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :sad4:

ได้โปรดอย่าจากไปหนุงหนิงกันสองคน แล้วทิ้งซากมาม่าไว้คาปากคนอ่านเลย pleaseeeeeeeeeeeeee

กอดคนแต่ง  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2011 11:10:57 โดย Ai_Rong_Kun »

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
ในที่สุด ก็จบแล้ว  o7
จบดีประทับใจมากแต่ค้างซะ
รวมเล่มเมื่อไรแจ้งเลย ขอซักชุด
อ่านบทระทมขมขื่นมานานแล้ว
หวานๆก็ไม่ได้อ่านกะเค้า มาจบซะแล้ว
อยากอ่านหวานๆอ่ะ  :z3: :z3: :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Forget_Me_Not

  • ความศรัทธา ความหวัง และรักแท้ ™
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-13
 :sad4:  รอรวมเล่มนะ

ส่วนตอนนี้รอหนังสือที่สั่งไป :z1:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

+1  จ้า
 :L2: :L2:

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
จบแบบตัดฉับจริงๆๆ  :z3: เอาไว้เราไปคุยหลังไมค์ดีกว่า ขออ่านต่ออะ กำลังติด



ปีหน้ามีนาก้อวันเกิดเราพอดี จะซื้อให้เป็นของขวัญตัวเองสักเล่มละกัน
(ซื้อแน่นอนจ๊ะ ชอบมากๆๆเลยคงฉ่วยเนี้ย เทียบกับท่านสี่ได้เลย ชอบแนวนี้ :กอด1:)

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
แว๊กกกกกกกกกกกกไม่ให้จบบบบจะอ่านต่องะ หึๆ

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
+1 ให้ค่ะ
ชอบเรื่องนี้มากๆเลย แล้วก็ชอบ คงฉ่วยมากๆด้วย
ดีใจจริงๆที่ได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง
ที่เหลือจะหวานยังไง ต้องตามในรวมเล่มสินะ
งื้ออออ นานไปปปปป แต่จะรอนะคะ!!!!
เผิงเผิงลงทุนลาออกเลยอ่ะ เหอะๆ ดีมากกกกก
><  ขอให้มีความสุขทั้งคู่นะะ

ออฟไลน์ reborn23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
คงฉ่วย แผนสูงสุดดดดดด  o13
เผิงเผิงที่น่ารักต้องออกมาตามหานกตัวสำคัญ  :m20:
ขอฉาก SM ตามชื่อเรื่องเป็นของหวานหลังซดมาม่า
 :pig4:

ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4
 :a5: จบแล้วววววว เผิงเผิงที่น่ารักจบไปแล้ว :m15: :m15: :m15:ไม่อยากให้จบเลยอบากให้มีต่อไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆ แล้วปีหน้าถึงจะได้รวมเล่ม  :z3: นานมากกกกกแต่ก้อจะรอค่ะ ขอตอนพิเศษในเล่มเยอะๆเลยนะคะ  จะให้ดีแจ้งกำหนดการรวมเล่มล่วงหน้านานนิ้ดนึงนะคะ เพราะอย่างเราเองเข้าบอร์ดไม่สม่ำเสมอแล้วแต่งานและเวลาว่างนะค่ะไม่อยากพลาดจริงๆเสียดายค่ะ :impress2:

akike

  • บุคคลทั่วไป
ยังมีความลัยอาไรซ่อนไว้อีกหรือเปล่าน๊า
เผิง ๆ นอ้ยดูน่ารักขึ้นมาทันที
รักจริงหวังฟัดนะเนี่ย 55+

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
จบได้ดี  รอรวมเล่มแล้วกัน  ไม่รีบ ๆ เพราะรูฟัสก็ตามเก็บอยู่เนือง ๆ พร้อม ๆ กับอีกหลายเรื่อง  อ่านไม่ทันเหมือนกัน อิ อิ

Ai_Rong_Kun

  • บุคคลทั่วไป
เห็นด้วยกับ reply ข้างบนทั้งหมด ขอตอนพิเศษหวานๆ ในรวมเล่มเยอะๆ แล้วก็แจ้งล่วงหน้านานๆ ด้วย เรื่องนี้ไม่อยากพลาดจริงๆ

ยอมรับว่าเป็นนิยายเรื่องแรกที่คิดว่าต้องซื้ออย่างจริงจังที่สุด และที่สำคัญ รักคงฉ่วยที่สุด (อร๊ากกกกกกกกก เขิล)  :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2011 11:42:26 โดย Ai_Rong_Kun »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด