
เพิ่งโพสครั้งแรก ยังไงๆก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะฮะ
--------------------------------------------------------------
ผมไม่ใช่คนที่มีเพื่อนเยอะแยะมากมายมาตั้งแต่เด็กหรอกนะครับ
ตรงกันข้าม... ผมกลับไม่มีเพื่อนในวัยเดียวกันเสียเลย
เพื่อนข้างบ้านก็ไม่มี
เพราะสมัยเด็กๆผมขี้โรคมาก แม่ไม่ยอมให้ออกจากบ้านไปเล่นคลุกดินคลุกทราย
เพื่อนที่โรงเรียนอนุบาลก็ไม่มี เพราะผมเข้ากับเด็กวัยเดียวกันไม่ค่อยได้
...
...ผมไม่เคยได้เรียนชั้นอนุบาล1
อยู่ดีๆก็โดนจับพาสมาอยู่อนุบาล2
จำไม่ได้แล้วว่าเป็นเพราะอะไร
ผมไม่รู้จะเรียกตัวผมในสมัยเด็กๆว่ายังไงดี
...แก่แดด หรือฉลาดเกินตัว อย่างใดอย่างหนึ่งนี่แหละ
ที่โรงเรียนอนุบาล มีเด็กผู้ชายอยู่คนหนึ่งชื่อโอ๊ต
คอยมาหาเรื่อง ตามรังควาญผมตลอด
บางทีก็แกล้งจนผมแทบร้อง แต่ผมไม่ร้องหรอกนะ
...สมัยเด็กๆ ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ตี ผมไม่ร้องหรอก
หลังจากนั้น... พอผมเข้าป.1 ที่โรงเรียนเอกชน
ตาโอ๊ตก็ยังตามมารังควาญผมอีก
แต่แปลก... คราวนี้ไม่ได้มาหาเรื่อง
คราวนี้มาแบบมิตร ผมพูดอะไรก็ฟังหมด
แล้วในที่สุด ผมก็มีเพื่อนคนแรกเป็นตาโอ๊ต
(ขนาดแม่ผมยังตกใจเลย)
โอ๊ตมันตัวใหญ่ สูงที่สุดในห้อง
ขณะที่ผมเป็นเด็กอ่อนแอขี้โรค
โอ๊ตมันเลยเรียกผมว่า "ตัวเล็ก" จนติดปาก
ตอนป.1...
ผมลืมเอาหนังสือภาษาไทยมา
ตาโอ๊ตก็ยอมเอาหนังสือภาษาไทยให้ผม
"ตัวเล็กบอกครูว่านี่ของตัวเล็กนะ"
"ไม่เอา เดี๋ยวโอ๊ตโดนตี"
"ตัวเล็กป่วยง่ายจะตาย ถ้าโดนตีแล้วเป็นไข้ ตัวเล็กต้องฉีดยานา..."
ผมหน้าซีด... แล้วก็ยินยอมรับหนังสือของโอ๊ตแต่โดยดี
แล้วตาโอ๊ตก็โดนตีแทนผม...
ป.2
พ่อกะแม่ผมไปอินเดีย
พี่สาวผมต้องมารับผมกลับบ้าน
คนที่ยอมนั่งอยู่รอเป็นเพื่อนผมจนฟ้ามืดเป็นเดือนๆก็ไม่ใช่ใคร
ตาโอ๊ตอีกอ่ะแหละ
ป.3
ผมต้องไปกรุงเทพฯบ่อยๆ(ไปหาหมอ)
ตาโอ๊ตเป็นคนที่ทำการบ้านให้ผมตลอด
โดยที่การบ้านตาโอ๊ตยังส่งไม่ครบเลย...
แล้วจะใครล่ะ...ที่ต้องมาทนอ่านการ์ตูนหัดวาดห่วยๆของตัวเล็ก
ถ้าไม่ใช่ตาโอ๊ต...
ป.4
ฝีมือการวาดการ์ตูนของผมดีขึ้น
เพื่อนๆในห้องเริ่มมาพูดคุย ทำความรู้จัก
ผมเริ่มได้คุยกับตาโอ๊ตน้อยลง...
ป.5
ผมมีเพื่อนเยอะแยะแล้วตอนนี้
ตาโอ๊ตก็เริ่มๆ...เงียบหายไปจากชีวิตผม
จนวันหนึ่ง ผมโดนพี่ม.1 ท้าต่อย(...คิดว่าผมไปจีบแฟนมัน เอ้อ ไร้สาระว่ะ)
ผมไม่ค่อยอยากจะยุ่ง เลยเดินหนี
แล้วผมก็โดนยันโครมลงพื้น...
รู้สึกตัวอีกที หมัดตาโอ๊ตไม่รู้ลอยมาจากไหน
ต่อยใส่หน้าพี่เค้าเต็มๆ
พี่คนนั้นต่อยตาโอ๊ตกลับไปหมัดนึง
ตาโอ๊ตถลึงตาใส่...
ตาโอ๊ต ถึงจะอยู่แค่ป.5 แต่ตัวก็ใหญ่พอๆกะพี่ม.2-3 ด้วยซ้ำไป
พี่ม.1คนนั้นเกิดกลัวขึ้นมาไม่กล้ามีเรื่องต่อ เลยหนีไป...
"ตัวเล็ก... เจ็บตรงไหนบ้างรึเปล่า?"
อยู่ดีๆผมก็รู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมา
คงเป็นเพราะกลัว + เจ็บ
ตาโอ๊ตเลยได้เห็นน้ำตาผมเป็นครั้งแรกก็ตอนนี้ล่ะ
ป.6
ในที่สุดเราก็ต้องจากกัน
ตาโอ๊ตเขียนสมุดเฟรนด์ชิพให้ผมว่า
"ไม่รู้ว่าจะเขียนว่าอะไรดี
รู้จักกันมานานเกินไปจนพูดไม่หมดแล้ว
ดูแลรักษาตัวเองให้ดีๆด้วย
ต่อไปนี้ไม่เจอตัวเล็กแล้วเราคงเหงาน่าดู
ขอบคุณนะ ที่เกิดมาเป็นเพื่อนเรา"
.
.
.
ตาโอ๊ตย้ายไปหลายจังหวัด จนผมหาตัวไม่เจอ
ส่วนผมเองก็ยังอยู่ที่เก่า...
เหมือนโชคชะตาเล่นตลก... หลังจากนั้นอีก 4 ปีให้หลัง
ผมไปเยี่ยมอาม่าที่โรงพยาบาล
และเจอกับแม่โอ๊ตที่หน้าลิฟท์
...โชคดีที่คุณน้ายังจำผมได้
คุณน้าเล่าให้ฟังว่าเพิ่งย้ายกลับมาเมื่อไม่นานมานี้
ตาโอ๊ตเรียนในโรงเรียนสายอาชีพ
และซ้อนมอเตอร์ไซค์เพื่อนไปเที่ยวด้วยกันวันก่อน
แล้วรถเกิดชนขึ้นมา
...เพื่อนตาโอ๊ตตาย ตาโอ๊ตรอดแต่เจ็บหนัก
นอนในโรงพยาบาลมาได้หลายเดือน ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว...
พอผมได้ไปเจอโอ๊ตอีกครั้งหลังจากไม่เจอมันมาหลายปี
โอ๊ตน่าสงสารมาก มีแผลเต็มไปหมด
ผมน้ำซึมอีกแล้ว...
ตาโอ๊ต พอได้เห็นผมก็มีสีหน้าประหลาดใจปนดีใจ
"ตัวเล็กโตขึ้นเยอะเลยนะ..."
ในที่สุดผมก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จนได้...
เรานั่งคุยกันเป็นชั่วโมงๆ
โอ๊ตเล่าให้ผมฟังว่าช่วงที่เราไม่ได้เจอกัน เป็นยังไงบ้าง
แล้วก่อนผมกลับ ตาโอ๊ตก็เรียกผมมาใกล้ๆ
ก่อนจะเอามือมาขยี้หัวผมเบาๆ
"ตอนเราโดนรถชน เรานึกว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอตัวเล็กแล้ว..."
โอ๊ตยิ้มให้ผมอีกครั้ง แล้วน้ำตาผมก็มาอีกระลอก...
โอ๊ตเป็นทั้ง พี่ชาย และ เพื่อน ที่คอยดูแลห่วงใยผมมาตลอด
จนผมไม่รู้ว่าจะวัดระดับความสนิทระหว่างผมกับโอ๊ตยังไงแล้ว...
วันนี้ คุณมองข้ามคนที่รักคุณไปหรือเปล่า? คุณถึงได้บอกว่าตัวคุณไม่มีใครรัก?
กลับไปมองอดีตสักนิด ว่าคุณลืมเพื่อนเก่าคนไหนไว้ในความทรงจำรึเปล่า
...แล้วมันสายไปไหม ที่จะเรียกเพื่อนของคุณคนนั้นให้กลับมาจากความทรงจำอีกครั้ง...
ลองเอากลับไปคิดดูเป็นการบ้านนะครับ