“เหวอ ทำไมมันปีนยากแบบนี้ว่ะ”
“เฮ้อ ได้สักที” ผมนั่งหอบอยู่พลางมองลงไปข้างล่างสูงเหมือนกันแหะ ถ้าตกลงไปคงไม่สวยแน่
เอ๊ะ! คงสงสัยใช่มั้ยว่าผมอยู่ที่ไหน เอ่อ คือ เอ่อ ผมอยู่เอ่อ
อยู่บนต้นมะม่วงครับ แหะๆๆๆ เดี๋ยวครับอย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าผมเชื่อยัยป้านั่นนะ
ผมไม่ได้เชื่อ จริงจิ๊งงงงงงงงงงงง ก็แค่ทดสอบดูเฉยๆว่าจะแม่นจริงหรือเปล่าแค่นั้นเอง
3 ชั่วโมงผ่านไป
ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการคันยิบๆตามตัว แถมด้วย อาการเจ็บๆแสบๆ
“โอ้ย ไอ้มดบ้ากัดมาได้ ” ผมรีบปัดมดออกจากตัว แต่ดันลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองอยู่บนต้นมะม่วง
“เหวอ” O_O ผมตะโกนพร้อมกับร่างกายที่ตกไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก
แว๊กกกกกกกกตายแน่ ผม พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วยลูกยังไม่อยากตาย
ตุ๊บ นุ่มเว้ยผมสำรวจเนื้อตัวทันที เฮ้อโล่งอกนอกจากจุกแล้ว ตามตัวไม่มีบาดแผล^^
“เอ่อ คุณจะลุกได้รึยังครับ คือผมจุก”
“เฮ้ย” (ทำไมช่วงนี้อุทานบ่อยจังว่ะ) ผมรีบลุกออกจากตัวผู้ชายคนนั้นทันที มิน่าล่ะตอนตกแรกๆมันนุ่มๆ
“เอ่อ ขอโทษนะครับที่ผมทับคุณ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเองก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร ว่าแต่คุณเถอะเป็นอะไรไหมครับ” เขาถามกลับพร้อมๆกับรอยยิ้มกว้าง
แหมดูๆไปนายคนนี้ก็หน้าตาใช้ได้นะเนี่ย ถ้าบอกว่าเป็นนายแบบผมยังเชื่อเลย หน้าตี๋ๆหุ่นล่ำๆ สไตล์นี้พิมพ์นิยม ฮ่าๆๆ
“ผมไม่เป็นไรหรอกครับ คงเพราะคุณช่วยรับน่ะเลยไม่บาดเจ็บ ขอบคุณนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ อืม ว่าแต่คุณขึ้นไปทำอะไรบนนั้นครับ”
“เอ่อ…..คือ”ผมจะตอบยังไงดีล่ะครับถ้าตอบว่าขึ้นไปสะเดาะเคราะห์เขาจะหาว่าผมบ้ารึเปล่า
“ลำบากใจก็ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องตอบก็ได้” เขายิ้ม แหมอีตานี่น่าจะไปเป็นพรีเซนเตอร์ยาสีฟันนะ
ยิ้มบ่อยไปแล้วแต่ผมชอบนะผมว่าเขายิ้มสวยดี อ่า มันดูมีเสน่ห์น่าค้นหาดี
“เอ่อ คุยกันมาตั้งนานแล้วคุณชื่ออะไรเหรอครับ” จู่ๆเขาก็ถามขึ้น
“เคนครับ คุณล่ะ”
“แมทครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับเคน” ^^ ยิ้มอีกแล้ว เหอๆ หมอนี่จะรู้หรือเปล่าว่า ใจผมมันสั่นเพราะรอยยิ้มเขาเนี่ย
…………………………………………………………………………………………………………………
หลังจากวันที่ผมสร้างวีรกรรมดิ่งนรกวันนั้น ผมกับแมทก็มีโอกาสเจอกันตลอดด้วยความบังเอิญ
ไม่ว่าจะเป้นห้าง รถเมล์ รถไฟฟ้า ตลาดนัด เรียกได้ว่าทุกทีที่ผมไป แมทจะบังเอิญอยู่ที่นั่นตลอด
จนในที่สุดเราสองคนก็เริ่มคุยแล้วก็สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆจนตอนนี้เอ่อ เขินนนนนนนนนนนนอ่า อิอิ^^
ตอนนี้เราสองคนตกลงเป็นแฟนกันได้เกือบเดือนแล้วครับ และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เราสองคนมาเดินเล่นที่
สวนสาธารณะแห่งความทรงจำ ^^
“คิดอะไรอยู่ครับเคน”
“เปล่าหรอกแมท เราแค่คิดว่า เราสองคนเจอกันแปลกดีเนาะ”
“ผมก็ว่างั้น ว่าแต่เคนจะบอกผมได้รึยังว่าขึ้นไปทำอะไรบนต้นมะม่วง” ฮ่วยนี่แมทสุดที่รักยังไม่หายสงสัยอีกเหรอเนี่ย
“บอกก็ได้แต่แมทต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่หัวเราะ”
“สัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือสำรองเลยครับ” แมทว่าพลางทำท่าชูสองนิดแบบลูกเสือ เว้ย น่ารักจริงจิ๊งแฟนใครหว่า
“คือว่ามีป้าคนนึงบอกเราว่าถ้าเราไปนอนบนต้นมะม่วง เราจะเจอเนื้อคู่น่ะ” ผมพูดพลางเตรียมใจรับเสียงหัวเราะจากแมทแต่ผิดคาด แทนที่จะหัวเราะ แมทกลับทำท่าทางเหมือนจะช๊อคไปแล้วครับ
“เคนพูดจริงเหรอ!!!” แอร้ยยยยยยยจะตะโกนทำไมเนี่ยตกใจนะ เว้ยT^T
“อือ”
“ผมดีใจจัง” เอ๋ อะไรกันเนี่ย งง สิครับ จู่ๆแมทก็ดึงผมไปกอดซะงั้น เง้อเค้าปรับอารมณ์ตามตัวเองไม่ถูกแล้วนะเนี่ยจะช๊อคหรือจะดีใจเลือกเอาสักอย่างเซ่ สับสน
“เอ่อ แมท เรางงน่ะ อธิบายหน่อยได้ไหม แมทดีใจอะไร”
“คือว่าวันที่เราเจอกันครั้งแรกน่ะมีป้าคนนึงบอกผมเหมือนกันว่าให้ผมมายืนที่ต้นมะม่วงแล้วจะเจอเนื้อคู่แล้ววันนั้นผมก็เจอเคนจริงๆด้วย ผมดีใจมากเลยรู้ไหมที่วันนั้นตัดสินใจทำตามที่ป้าคนนั้นบอก ” แมทพูดพลางกระชับอ้อกอดแน่นขึ้น ผมกอดตอบความรุ้สึกอบอุ่นค่อยๆซึมไปในหัวใจ
“แมทรักเคนนะ” แมทกระซิบเบาๆที่ข้างหูผม
“อือ เคนก็รักแมท แมทคือพรมลิขิตของเคน และจะเป็น พรหมลิขิตของเคนตลอดไปเลยครับ”
ขอบคุณนะป้าที่แนะนำวิธีให้ผม ไม่ว่าป้าจะเป็นใครผมก้ขอบคุณมากที่ทำให้ผมได้เจอกับคนดีๆ
และรักผมอย่างแมทถ้าผมเจอป้านะผมจะบอกป้าว่า “ป้าเป็นหมอดูที่แม่นที่สุดในโลกเล๊ยยยยยยยย”
…………………………………………………………………………………
“เฮ้อ ในที่สุดก็เสร็จงานซะที” ร่างของหญิงชราบ่นรำพึงกับตัวเองหลังจากที่แอบมองสองหนุ่มอยู่นาน
“ถึงเวลาต้องกลับแล้ว” ว่าจบร่างเหี่ยวย่นก็ค่อยกลายสภาพเป็นเด็กผู้ชายอายุประมาณสิบขวบในมือถือธนูบนบ่าสะพายกระบอกใส่ลูกธนูรูปหัวใจก่อนที่ร่างนั้นจะค่อยๆลอยขึ้นบนฟ้าแล้วหายเข้าไปในกลีบเมฆ
จบเหอะหนูอาย แหะๆเรื่องมี้เขียนจากอารมณ์ไหนไม่รู้จู่ๆมันก็จับปากกามาเขียนซะงั้น โห่ๆๆ อิอิ แต่มีคนทายถูกด้วยอ่า
หมดทางทำมาหากินเลยหนู

ู่