LOVE HIGH STORY – 65 – It’s Too Late |สายเกินไป20:13 น.
เกาะล้าน พัทยา
.
.
กีต้าร์วิ่งหัวเราะร่าหนีโบ๊ทมาจากร้านอาหารโดยวิ่งออกไปทางชายหาด เลาะไปตามขอบคลื่นทะเลที่ซัดเข้าฝั่ง เอาเข้าจริงก็ไม่ได้มีที่ให้วิ่งหนีได้มากนักหรอก เพราะน้ำทะเลหนุนขึ้นสูงในยามค่ำคืนจึงเหลือพื้นที่ทรายให้วิ่งได้แค่เป็นทางแคบๆ เท่านั้น
สองหนุ่มวิ่งไล่กันจนห่างไกลแสงสว่างออกไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีแสงจากดวงจันทร์ส่องให้พอเห็นลางๆ อยู่บ้าง โบ๊ทเลยเห็นกีต้าร์ที่วิ่งอยู่ข้างหน้าเป็นเพียงเงาตะคุ่มๆ เท่านั้น... วิ่งไปวิ่งมาชักจะเริ่มจุกโบ๊ทเลยคิดว่าต้องเร่งจับตัวไอ้เจ้าเปี๊ยกให้ได้โดยเร็ว... ส่วนกีต้าร์วิ่งมานานก็เริ่มเหนื่อย มีแผ่วแรงลงไปบ้าง และเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของร่างสูงวิ่งตามมาถี่ขึ้น ก็รู้ตัวแล้วว่าขืนวิ่งตรงๆ ไปแบบนี้ต่อ เขาคงจะโดนโบ๊ทจับตัวได้ในไม่ช้านี้แน่นอน...
ว่าแล้วก็มองซ้ายขวาหาที่วิ่งหลบ... ซ้ายมือมีต้นไม้และท่าทางจะเป็นป่า ดูน่ากลัวไม่น้อย... ขวามือเป็นน้ำทะเลที่ซัดเข้าฝั่งเอื่อยๆ ก็แอบน่ากลัว แต่ก็ยังน่ากลัวน้อยกว่าป่าทางซ้ายมือ... สุดท้ายก็ตัดสินใจได้ว่าหากโบ๊ทพุ่งเข้ามา เขาจะวิ่งเบี่ยงหลบลงทะเลไปซะเลย เรียกว่ายอมเปียก แต่ไม่ยอมโดนจับ
เพียงสิ้นความคิด ร่างเล็กก็โดนแขนแกร่งเข้ารวบ แต่มีเหรอที่ไอ้เจ้าเปี๊ยกแสบมันจะยืนนิ่งๆ ให้จับได้ง่ายๆ... กีต้าร์สะบัดตัวจนหลุดแล้ววิ่งโวยวายลงทะเลไปตามที่คิดไว้... อืม ยอมเปียกจริงๆ ด้วย...
โบ๊ทเห็นเงาของร่างเล็กวิ่งลงทะเลไปพร้อมเสียงฝีเท้ากระทบคลื่น แต่ไม่แน่ใจว่าจะตามลงไปดีไหม... ลงไปก็เปียก หรือจะรอให้ไอ้เปี๊ยกมันเบื่อแล้ววิ่งขึ้นมาให้จับเองดีนะ... ยืนชั่งใจอยู่สักครู่ จนกระทั่ง
“แน่จริงก็ตามลงมาดิ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
กีต้าร์หยุดวิ่งแล้วหันมาตะโกนท้าทาย แล้วมีเหรอที่ร่างสูงจะยืนเฉย... พอสิ้นคำท้า ร่างสูงก็เลยจ้ำลงทะเลตามไอ้เปี๊ยกไป... กีต้าร์เห็นเช่นนั้นก็ตกใจ เพราะไม่คิดว่าโบ๊ทจะกล้าตามลงมา แอบได้ยินมันสบถอยู่คนเดียวว่า “ซวยแล้ว” ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาจ้ำลงทะเลไปลึกกว่าเดิมเพื่อรักษาระยะให้ห่างจากร่างสูง เมื่อร่างสูงเดินเข้าใกล้ กีต้าร์ก็ยิ่งเดินลงทะเลไปลึก... ลึกเกินเอว...
“เฮ้ย ต้าร์ ลงไปลึกเกินไปแล้ว เดี๋ยวก็จมหรอก มานี่ โบ๊ทไม่แกล้งแล้วก็ได้”
“ไม่เชื่อหรอก”
“อ้าว ไม่เชื่ออีก... จริงๆ สาบานเลย ไม่ทำอะไรหรอก กลับขึ้นฝั่งกัน”
“เชื่อก็กลัวดิ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
เมื่อเห็นว่ากีต้าร์ไม่ยอมเดินขึ้นมา โบ๊ทเลยเลือกที่จะถอยเอง เพื่อให้กีต้าร์ไม่เดินลงทะเลไปลึกกว่านี้... โบ๊ทเดินกลับขึ้นฝั่งไปยืนเท้าเอวอยู่ข้างๆ ต้นมะพร้าวริมหาดแล้วตะโกนเรียกกีต้าร์อีกครั้ง แต่กีต้าร์ก็ยังไม่ฟัง แถมยังตะโกนกลับมากวนประสาทอีกว่า
“ไปยืนข้างต้นมะพร้าวอะ จะปีนเล่นเหรอไอ้ลิงภูเขา ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“เออ เดี๋ยวจะปีนให้ดู แต่เอ็งต้องกลับขึ้นฝั่งก่อน มาเร็วๆ” โบ๊ทตะโกนกลับไป หลอกล่อให้กีต้าร์ขึ้นมาจากน้ำ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะไอ้เจ้าต้าร์ยังยืนนิ่งกวาดมือเล่นน้ำอยู่อย่างนั้น... โบ๊ทเห็นเช่นนั้นก็อ่อนใจ เลยทิ้งตัวนั่งลงบนหินข้างๆ ต้นมะพร้าว คอยให้กีต้าร์ขึ้นมาเอง
“เฮ้ยยยยยยย ไอ้ตัวแสบ โบ๊ทนั่งรออยู่ตรงนี้นะ ขี้เกียจเปียก” โบ๊ทตะโกนบอกกีต้าร์ เชื่อว่าพอเบื่อเดี๋ยวก็ขึ้นมาเองแหละ ไม่มีคนวิ่งไล่แล้วนี่นะ...
ร่างสูงนั่งรอให้ร่างเล็กเลิกเล่นอยู่อย่างนั้นได้สักพักก็เหม่อมองไปบนท้องฟ้ามองหมู่ดาวที่ส่องแสงระยิบบนผืนฟ้าสีดำสนิท ได้มานั่งมองแบบนี้แล้วก็รู้สึกผ่อนคลายที่มองไปสุดลูกหูลูกตาก็เห็นเป็นผืนฟ้าเปิดโล่ง ไม่มีตึกรามสูงๆ มาบังเหมือนในกรุงเทพ... ว่าแล้วก็นั่งไล่หากลุ่มดาวที่ตัวเองพอจะจำได้ ลองทวนความจำตัวเองดูสักหน่อย เผื่อจะเอาไว้ถามกีต้าร์ว่าจำได้บ้างไหม
.
.
อืมมมมมม อากาศดีจริงๆ เลยนะครับ ลมพัดกำลังดี ถึงจะมีกลิ่นเค็มๆ อยู่บ้าง แต่ก็นะ ได้ฟีลทะเลแบบ 100%... จะเพอร์เฟคกว่านี้ถ้าไม่มียุง ฮ่าๆๆๆๆ... เอาเหอะ ปล่อยยุงมันไป ปัดบ่อยๆ ก็ไม่โดนกัดแล้วละ... (ยิ้ม)
ผมชอบมองท้องฟ้าครับ ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน มันสวยคนละแบบ... กลางวันท้องฟ้าจะดูสดใส ดูแล้วผ่อนคลาย ประมาณว่าถึงแดดจะร้อนแต่ถ้าฟ้าสวยๆ เนี่ย ถ้าเดินไปมองท้องฟ้าไปเนนี่ย ผมจะรู้สึกสดชื่นขึ้นได้เลยนะ... ส่วนกลางคืนท้องฟ้ามืดสนิท ดูสงบดีครับ ถ้าวันไหนฟ้าเปิดก็จะเห็นดาว ผมชอบ (ยิ้ม)...
ใช่ครับ ผมชอบดูดาว ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วละครับ ในห้องนอนที่บ้านของผมเมื่อก่อนเคยมีกล้องดูดาวที่ป๊าซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดตอนอายุ 8 ขวบด้วย แต่ผมก็ดันมาทำมันตกออกนอกหน้าต่างตอน ม.3 เพราะเปิดหน้าต่างทิ้งไว้แล้วดันเดินสะดุดขาตัวเองไปชนกล้อง หลังจากนั้นก็ยังไม่ได้ซื้อใหม่มาจนทุกวันนี้แหละครับ แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ เดี๋ยวก็ซื้อใหม่ได้...
สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ว่าผมเพิ่งจะรู้ไม่นานมานี้ว่าการดูดาวคนเดียวมันไม่สนุกเท่าดูด้วยกันสองคน (ยิ้ม)... ผมว่ามันโรแมนติกดีนะ ถึงแม้ว่าไอ้เจ้าเปี๊ยกมันจะไม่ค่อยหวาน ไม่โรแมนติกอะไรเท่าไร แต่ความพยายามเล็กๆ ของมันนั่นแหละที่ทำให้ผมรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่โคตรโรแมนติกเลยละครับ (ยิ้มกว้าง)
ผมจำได้ว่าพาไอ้เปี๊ยกนั่งดูดาวครั้งแรกเมื่อตอนคริสต์มาสปีที่แล้วที่พามันไปนั่งดูดาวบนทางด่วน ที่ตลกก็คือมันเป็นคนฟอร์มจัด เวลาผมสอนอะไรเกี่ยวกับกลุ่มดาวไปแล้วจำไม่ได้มันก็จะแกล้งทำเนียนหืออือไปงั้น เห็นแล้วก็รู้สึกว่ามันน่ารักดี ขนาดง่วงจนตาแทบปิดก็ยังจะทำหืออือกับสิ่งที่ผมพล่ามไปเรื่อย... อืมมมม ถ้าจำไม่ผิดวันนั้นมันนั่งหลับซบไหล่ผมด้วยนะ ผมละใจเต้นจนหายใจไม่ทั่วท้องเลยละ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าใจเต้นเพราะอะไร... แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วนะ (ยิ้ม)
มันถามผมว่าอยู่กับมันแล้วเหนื่อยไหม... ดูเหมือนจะเหนื่อยนะครับที่ต้องอยู่กับคนเกรียนๆ อย่างไอ้เปี๊ยกทุกวัน แต่ก็แปลกที่ผมกลับไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด กลับรู้สึกมีความสุขมากๆ ซะอีก... คิดไปคิดมาก็ตลกดีนะครับที่ไอ้เปี๊ยกมันมามีอิทธิพลต่อชีวิตผมได้ขนาดนี้ ป่วนชีวิตผมซะจนผมนึกภาพชีวิตอันแสนสงบไม่ออกแล้วละครับ ตื่นมาวันไหนไม่ได้เถียงกันผมคงรู้สึกว่าชีวิตมันขาดอะไรไปสักอย่างแน่ๆ ฮ่าๆๆ... ดูเอาเถอะครับ อย่างวันนี้วันเดียวมันก็ดื้อซะจนผมอดลงไม้ลงมือไม่ไหว ไม่ใช่ชอบใช้ความรุนแรงนะครับ แต่มันน่าหมั่นไส้จนไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันอย่างไรดีต่างหาก... เอ่อ แต่ถ้าอยู่ในห้องผมก็มีอีกวิธีนะ ฮ่าๆๆๆ
ว่าแล้วก็อยากกลับห้องแล้วละครับ แต่ไอ้เปี๊ยกเนี่ยสิ ป่านนี้ยังไม่ขึ้นมาอีก... เอ๊ะ ไอ้เปี๊ยกยังไม่ขึ้นมาใช่ไหมครับ....
.
ร่างสูงทอดสายตาไปยังจุดที่กีต้าร์ยืนอยู่เมื่อครู่นี้ ...แต่กีต้าร์ไม่อยู่แล้ว... เมื่อมองหาร่างเล็กไม่เห็น ร่างสูงเลยยืนขึ้นเต็มความสูงเพื่อจะได้มองกว้างๆ และชัดยิ่งขึ้น ...แต่สิ่งที่เห็นมีเพียงคลื่นทะเลที่ซัดเข้าฝั่งเอื่อยๆ
...กีต้าร์หายไป...ใจโบ๊ทตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง พยายามกวาดตามองหาร่างเล็กไปทั่ว แต่ก็ไร้วี่แวว...
“ต้าร์!!! อยู่ไหน!!! ต้าร์!!”ร่างสูงตะโกนเรียกสุดเสียงก่อนจะออกวิ่งลงทะเลไปตรงจุดที่เขาเห็นกีต้าร์ยืนอยู่ก่อนหน้านี้... ที่ใจไม่ดีก็คือเมื่อมายืนตรงจุดเดียวกับจุดที่กีต้าร์เคยยืนก็พบว่าน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นอีกไม่น้อย จากแค่น่าจะระดับเอวของเขา แต่ตอนนี้มันขึ้นมาถึงอก นั่นก็หมายถึงว่าจะสูงอย่างน้อยๆ ก็ประมาณต้นคอของกีต้าร์
“ต้าร์!!! ไม่เล่นนะเว้ย!!! อยู่ไหน!!!!”โบ๊ทตะโกนเรียกหากีต้าร์สุดเสียงพลางเดินกวาดมือในน้ำไปทั่ว พยายามเพ่งมองด้วยแสงสว่างจากดวงจันทร์... แต่เขาก็ไม่เห็นวี่แววของต้าร์และไม่มีเสียงตอบรับ... ที่ได้ยินมีเพียงเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นระส่ำอยู่ในอก
ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก
...ใจเต้นด้วยความกลัว
...กีต้าร์หายไปไหน
...จมน้ำ?
จิตใต้สำนึกเริ่มทำร้ายกำลังใจด้วยการป้อนความคิดด้านลบเข้าสมองของโบ๊ทอย่างต่อเนื่อง... ทำเอาโบ๊ทกลัวจนตัวเริ่มสั่น... กลัวสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น... กลัวการสูญเสีย
เวลาล่วงเลยไปเกือบสิบนาที โบ๊ทยังหากีต้าร์ไม่เจอ และรอบๆ ตัวก็มีเพียงคลื่นทะเล แต่ไร้วี่แววของรุ่นน้องคนสนิท... โบ๊ทเริ่มสติแตก... ทำอะไรไม่ถูก หายใจไม่ออก...
โบ๊ทตัดสินใจว่ายออกจากฝั่งไปไกลกว่าเดิมเพื่อตามหากีต้าร์... ดำว่ายดำผุดออกไปไกลจนขาหยั่งไม่ถึงพื้นทราย... เขาว่ายวนเป็นวงกว้างๆ พยายามลืมตาในน้ำเพื่อมองหากีต้าร์จนแสบตา แต่ก็มองไม่เห็นอะไรนอกจากความมืดใต้ทะเล... โบ๊ทโผล่ขึ้นผิวน้ำเพื่อตักตวงอากาศเข้าปอดแล้วดำลงไปใหม่ ว่ายวนอยู่เช่นเดิมอยู่หลายรอบสลับกับลอยตัวบนผิวน้ำแล้วตะโกนเรียกกีต้าร์อยู่ท่ามกลางทะเลที่มืดสนิท...
...แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็ยังคงเป็นความเงียบ
ความสิ้นหวังเริ่มเข้าจู่โจมจิตใจ... โบ๊ทปล่อยตัวให้ลอยนิ่งๆ อยู่บนผิวน้ำอยู่อย่างนั้นนั้น ทอดตาขึ้นมองฟ้า... ปล่อยกายไปกับน้ำทะเลเย็นๆ... ขอบตาร้อนผ่าว... น้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
ทันใดนั้นเอง...
.
.
.
“เฮ้ยยยยยยย คุณโบ๊ททททททท ไหนว่าไม่อยากเปียกไงงงงงงงงง แล้วลงไปเล่นน้ำทำไมละนั่นนนนนนน ฮ่าๆๆๆๆๆ”.
.
.
ใจที่เต็นไม่เป็นจังหวะด้วยความกลัวและวิตกกังวลอยู่แล้วนั้น เต้นเร็วกว่าเดิมเมื่อได้ยินเสียงของคนที่เขากำลังตามหาอยู่นั้นตะโกนมาจากชายหาด... โบ๊ทหันไปตามเสียงเรียกก็เห็นร่างเล็กยืนตัวเปียกอยู่ใกล้ๆ กับต้นมะพร้าวต้นที่เขานั่งรออยู่ก่อนหน้านี้...
ความกังวลหายวับไปทันที รู้สึกโล่งขึ้นมาอย่างสุดใจ... แต่มันไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้ เพราะความรู้สึกด้านลบทุกอย่างที่โจมตีเขาเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนกลับกลายเป็นเชื้อเพลิงที่สุมใจร่างสูงให้รู้สึกโกรธ... โกรธมาก
ว่าแล้วก็ว่ายน้ำเข้าฝั่งด้วยใบหน้าบึ้งตึงและฉุนเฉียว... เมื่อไปถึงก็ไม่พูดไม่จา จ้ำอ้าวมุ่งหน้าไปทางร้านอาหารทันที...
“เดี๋ยวคุณโบ๊ท”
กีต้าร์งง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงวิ่งตามไป เขาเอ่ยเรียกร่างสูงแต่ร่างสูงก็ไม่หยุด
“เดี๋ยว หยุดก่อนดิคุณโบ๊ท!!”
ร่างเล็กวิ่งเข้าไปขวางหน้าร่างสูงก่อนจะใช้มือดันไหล่กว้างให้หยุดเดิน... โบ๊ทยืนนิ่ง หันหน้าฉุนเฉียวออกทะเล ไม่มองหน้ากีต้าร์สักนิด
“เป็นอะไรเหรอคุณโบ๊ท”
“...”
“โกรธผมเหรอ”
“...”
“โกรธผมใช่ไหม”
“...”
“บอกมาดิ ผมทำอะไรผิด”
“...”
“เฮ้ยยยย คุณโบ๊ท พูดมาดิ เงียบแบบนี้แล้วผมจะรู้เหรอ”
“...”
“...”
“ไปไหนมา...” ร่างสูงถามเสียงเรียบ ไร้วี่แววการล้อเล่นอย่างที่ต้าร์คุ้นเคย
“ผม... ผมไปเข้าห้องน้ำมา”
“...”
“...”
“แล้วทำไมไม่บอก... อยู่ๆ ก็หายไป... ทำคนอื่นเป็นห่วงแทบตาย รู้ตัวไหมเนี่ย”
“ผม... ขอโทษ... ผมปวดท้อง แต่เห็นคุณโบ๊ทกำลังนั่งดูดาวเพลินๆ... ก็เลยเดินเลาะไปเรื่อยๆ จนถึงร้านอาหาร... แต่พอเข้าเสร็จแล้วก็รีบวิ่งกลับมาเลยนะ” กีต้าร์กล่าวเสียงอ่อยพลางดึงชายเสื้อร่างสูงไว้... รู้สึกผิดที่ทำให้โบ๊ทต้องเป็นห่วงขนาดนี้
“...”
“ผมขอโทษ...”
“...”
“อย่าโกรธดิ”
“...”
“...”
“กลับเถอะ... โบ๊ทเหนื่อยแล้ว... อยากนอน”
.
.
.
ตลอดทางกลับโรงแรม ไม่มีใครพูดอะไรแม้แต่คำเดียว... จนกระทั่งถึงโรงแรม โบ๊ทก็เดินนำขึ้นห้องไปอย่างเงียบๆ... เดินไม่รอกีต้าร์ด้วยซ้ำ... เมื่อกลับถึงห้องโบ๊ทก็ออกไปนั่งอยู่นอกระเบียงแล้วปิดประตูระเบียง ถึงแม้จะไม่ได้ล็อค แต่ก็เป็นสัญญาณที่บอกแล้วว่าห้ามกีต้าร์ตามออกไปที่ระเบียงเป็นอันขาด
กีต้าร์เห็นเช่นนั้นก็เข้าใจ เขาเลยเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอย่างเงียบๆ ด้วยใจที่เป็นกังวล...
...ใจหายที่เห็นโบ๊ทโกรธจริงจังแบบนี้...
กีต้าร์อาบน้ำเสร็จก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของตัวเอง พยายามบอกให้ตัวเองหลับ ส่วนเรื่องโบ๊ทก็รอให้โบ๊ทใจเย็นลงกว่านี้ก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยคุยกัน... แต่ถึงจะบอกอย่างนั้น กีต้าร์ก็นอนไม่หลับอยู่ดี...
*ครืดดดดดด*เสียงประตูระเบียงเลื่อนเปิดออก... กีต้าร์ก็เลยแกล้งหลับ... ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องแกล้งหลับ...
เขานอนนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น ถึงตาจะปิดแต่หูก็คอยฟังความเคลื่อนไหวของรุนพี่ร่างสูงอยู่ตลอดเวลา... รู้สึกได้ว่าโบ๊ทเดินไปเดินมาก่อนจะมาหยุดที่ปลายเตียงของเขา ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นสักพักก็เดินห่างออกไปก่อนจะได้ยินเสียประตูห้องน้ำปิดเบาๆ แล้วตามด้วยเสียงฝักบัว
.
.
เฮ้ออออ ไอ้คุณโบ๊ทมันว่ายออกไปไกลมากเลยนะ ตอนแรกผมก็นึกว่าว่ายน้ำเล่น... ที่ไหนได้... ออกไปไหว้น้ำตามหาผมต่างหากละ... ผมนี่มันโง่จริงๆ ใครมันจะว่ายน้ำเล่นออกไปไกลขนาดนั้นกัน นี่มันมืดแล้วนะ...
ผมไม่เคยเห็นคุณโบ๊ทเขาทำหน้าเครียดแบบนี้มาก่อนเลย... ใจหายนะ มันโหวงๆ ชอบกล... แต่จะให้ผมทำไงละ ผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจทำให้เป็นห่วงสักหน่อยนิ... ที่ไม่บอกก่อนก็เพราะเห็นว่ากำลังดูดาวเพลินๆ... ผมไม่อยากไปขัดอารมณ์สีหน้าคนกำลังมีความสุขขนาดนั้นหรอก... ก็ไอ้คุณโบ๊ทนะ ชอบดูดาวมาก... ผมรู้
แต่ผมก็ไม่ได้ไปไหนไกลสักหน่อย แค่ไปเข้าห้องน้ำเอง... ดูดิ ดันมาโกรธเป็นจริงเป็นจัง ท่าทางจะง้อยากด้วยแฮะคราวนี้... เฮ้ออออออ ลิงแก่ขี้งอนเอ้ย!!.
.
ร่างสูงออกจากห้องน้ำโดยใส่เพียงกางเกงบ๊อกเซอร์เพียงตัวเดียว เดินเช็ดผมออกมาด้วยสีหน้าที่ดูเครียดน้อยลง... สิ่งที่เห็นคือร่างเล็กนอนหลับตาแผ่หราอยู่บนเตียง... ความรู้สึกใจหายเมื่อตอนที่ร่างเล็กหายไปกลับเข้ามาตอกย้ำว่าไอ้ตัวแสบคนนี้มีความหมายต่อเขาแค่ไหน... แต่ก็ยังมีอารมณ์ขุ่นมัวอยู่ในใจ...
“ทำอะไรไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะเป็นห่วงแค่ไหน”
โบ๊ทบ่นอยู่ในใจพลางเช็ดหัวตัวเองจนหมาดแล้วเดินเอาผ้าเช็ดตัวไปตากก่อนจะปิดไฟในห้องแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของตัวเอง...
โบ๊ทนอนหลับตาคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นานกว่าจะรู้สึกง่วง แต่พอใกล้จะหลับสนิทก็รู้สึกว่ามีคนมาเปิดผ้าห่มแล้วแทรกตัวเข้ามาเบียดจนรู้สึกได้ถึงความอุ่นจากร่างของอีกคน... กลิ่นผิวกายอันคุ้นเคยลอยแตะจมูกทำให้ไม่ต้องลืมตาก็รู้ว่าใครที่แอบมานอนเบียด...
ร่างเล็กพยายามเขยิบตัวเข้าหาอกกว้าง จนโบ๊ทอดไม่ได้ที่จะขอวางฟอร์มอีกสักหน่อย เลยแกล้งทำเป็นพลิกตัวหันหลังให้ร่างเล็ก... และก็คงจะได้ผล เพราะได้ยินกีต้าร์ทำเสียงจิ๊จ๊ะอยู่ในลำคอ... แต่กีต้าร์ไม่หยุดความพยายามอยู่แค่นั้น เมื่อเห็นว่ารุ่นพี่คนสนิทนอนหันหลังให้ เขาก็เลยพาดแขนเข้ากอดเจ้าของเตียงแล้วซุกตัวเข้าซบไหล่กว้างจากด้านหลัง
“คุณโบ๊ท...” กีต้าร์เอ่ยเสียงแผ่ว
“...”
“รู้นะ ว่ายังไม่หลับ”
“...”
“จะโกรธผมไปถึงไหนเนี่ย”
“...”
“ทำหน้าบึ้งมาตั้งนานแล้ว ไม่เมื่อยแก้มบ้างเหรอ”
“...”
“คุณโบ๊ท...”
“...”
“ผมขอโทษแล้วไง หายโกรธเถอะนะ... นะ... หายโกรธนะ”
“...”
“คุณโบ๊ททททททท”
“...”
“...”
“...”
“ผมขอโทษแล้วไง ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย... รู้ว่าเป็นห่วง แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้สักหน่อยนี่...”
“เฮ้ออออ เอ็งนี่มัน พูดมากจริง” ร่างสูงไม่พูดเปล่า ปั้นหน้าบึ้งหันกลับมาหาร่างเล็ก... จงใจให้เห็นว่าหน้ายังบึ้งตึงอยู่.. จริงๆ แล้วก็ใจอ่อนตั้งแต่ไอ้ตัวแสบมันเบียดตัวมาอ้อนแล้วแหละ แต่ก็พยายามแข็งใจไม่ใจอ่อน
“...”
“...”
“หายโกรธผมได้ยัง”
“...”
“เงียบอีก”
“ดึกแล้ว นอนเหอะน่า”
“ไม่เอาอะ คุณโบ๊ทต้องหายโกรธผมก่อนดิ นะ นะ นะ”
“...”
“...”
“...”
โบ๊ทยังนิ่ง กีต้าร์เลยเริ่มทำอะไรไม่ถูก ปกติก็ไม่ใช่คนที่ง้อใครเป็นสักเท่าไร สุดท้ายก็เลยตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะทำมาก่อน... ว่าแล้วก็เงยหน้าแล้วค่อยๆ เลื่อนตัวขึ้นไปจูบคางของรุ่นพี่ร่างสูง...
*จุ๊บ*ร่างสูงอึ้งกับสัมผัสที่ได้รับจากร่างเล็กจนต้องลืมตา... สิ่งที่เห็นคือใบหน้าของรุ่นน้องร่างเล็กที่อยู่ห่างเพียงคืบ... ดูสิ ทำหน้าอย่างกับลูกแมวสำนึกผิด
“เลิกโกรธผมได้ยัง”
“ยัง”
“โอยยยยยย คุณโบ๊ทอะ... ถ้าโกรธแล้วง้อยากแบบนี้ ทีหลังอย่าโกรธผมอีกนะ”
“...ไอ้เกรียน”
“สรุปว่าหายโกรธผมแล้วใช่ไหม”
“ยัง”
“...”
“...”
“แล้วเมื่อไรถึงจะหายโกรธ”
“...” ร่างสูงไม่ตอบ แต่ตีหน้านิ่งแล้วชี้นิ้วไปที่ริมฝีปากของตัวเองเป็นเชิงสั่ง
“...” กีต้าร์หรี่ตาไม่พอใจ แต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี
ร่างเล็กเลื่อนมือไปจับหน้าของร่างสูงเอาไว้... เลื่อนเข้าหาริมฝีปาก แล้วบรรจงประทับจูบ... ช้าๆ ไม่รีบร้อน...
แต่ทันใดนั้นเอง...
*หมับ* “เฮ้ย!!”
ร่างเล็กเหวอ เมื่อร่างสูงฉวยโอกาสกอดแล้วประกบจูบก่อนจะพลิกตัวขึ้นทาบทับโดยไม่ทันให้กีต้าร์ได้ตั้งตัว
“เฮ้ยๆๆๆๆๆ เดี๋ยวๆๆๆๆๆ” กีต้าร์ร้องห้ามพลางพยายามดันร่างสูงไว้
“...” โบ๊ทยังเงียบ แต่แววตาเปลี่ยนเป็นไป จากนิ่งบึ้งตึง กลับฉายแววเจ่เล่ห์ออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“หายโกรธผมแล้วเหรอ”
“อือ”
“จริงอ่ะ?”
“ไม่โกรธแล้ว”
“ดี... งั้น ผมไปนอนก่อนนะ” กีต้าร์ตีเนียน พูดพลางพยายามเลื่อนตัวออกจากเตียง แต่...
“คิดเหรอว่าอ้อยเข้าปากช้างแล้วมันจะยอมคาย หึหึ”
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก นี่มันกล้วยเข้าปากลิงแล้วต่างหาก!!! ปล่อยนะ!!!”
.
.
ไอ้เปี๊ยกเอ้ย เอ็งพลาดตั้งแต่คิดจะไปง้อเขาถึงเตียงแล้วล่ะ แต่กว่าจะรู้ตัวว่าพลาดก็สายเกินไปเสียแล้ว ฮ่าๆๆๆ
ในขณะที่โบ๊ทกำลังปลุกปล้ำไอ้เจ้าตัวแสบอยู่นั้นเอง โทรศัพท์ของโบ๊ทก็สั่นครืดครืดอยู่ในกระเป๋าสะพายที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง ทำเอาทั้งสองหนุ่มชะงักโดยอัตโนมัติ
*ควับ*กีต้าร์หันไปตามเสียงก่อนจะหันมามองโบ๊ทด้วยสีหน้าสงสัยสุดชีวิต ว่าแล้วก็จะเอ่ยถามให้หายสงสัย
“เสียงอะไ... อุ๊บ!!”
แต่โบ๊ทไม่ปล่อยให้ถามหรอก และก็รู้ใช่ไหมว่าโบ๊ทปิดปากต้าร์ด้วยอะไร หึหึหึ
.
.
.
ในกระเป๋าสะพาย โทรศัพท์ของโบ๊ทที่ปิดเสียงไว้ สั้นอยุ่สักพักใหญ่ๆ โดยเป็นข้อความเตือนจากเฟซบุค โดยมีข้อความหนึ่งขึ้นมาเตือนว่า
“โปรดติดตามตอนต่อไป”---------------------------------------------------
[Bonus หลังไมค์]
ในขณะที่เต็มกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่ที่บ้าน โทรศัพท์มือถือเขาดังขึ้นด้วยริงโทนเพลงแด๊นซ์บีทหนัก หน้าจอโชว์รูปเพื่อคนสนิทพร้อมชื่อ “ว่าน”
เต็ม : โหล
ว่าน : เฮ้ย มึง... ไอ้เชี่ยโบ๊ทมันหายไปไหนวะ โทรไปแม่งไม่รับเลย
เต็ม : โอยยยยย มึงไปอยู่ไหนมาครับ ไอ้เชี่ยว่าน... ตอนนี้ไอ้โบ๊ทมันพาไอ้เปี๊ยกสุดที่รักของมันไปฮันนีมูนอยู่เกาะล้านนุ้นน
ว่าน : จริงดิ?
เต็ม : เออดิ มึงไปดูเฟซบุคเลย ไอ้เชี่ยโบ๊ทมันอัพรูปแฟนเด็กมันพร้อมเช็คอินไปตั้งแต่บ่ายๆ แล้ว
ว่าน : โห เดี๋ยวนี้แม่งเปิดเผย
เต็ม : เออดิ ทีเมื่อก่อนละปากแข็งตลอดดดด
ว่าน : เออ ก็จริง ไม่ปิดบังแต่เมื่อก่อนแม่งก็ไม่ยอมรับ
เต็ม : มึงเข้าไปแซวมันดิ กูจัดไป 3 เม้นท์ละ ฮ่าๆๆๆๆ
ว่าน : เออ เดี๋ยวกูไลน์ระดมพลก่อน จะถล่มให้เป็นร้อยเม้นท์เลย ฮ่าๆๆๆๆๆ
หลังจบบทสทนาของเต็มและว่านได้ไม่ถึง 3 นาที โทรศัพท์ของโบ๊ทก็สั่นรัวด้วยกองทัพ notification จากเฟซบุค...---------------------------------------------------
FlapJack Corner;
ซินเจียยู่อิ่ ซินนี่ฮวดไช้
สวัสดีปีใหม่จีนนะครับ สำหรับปีงูเล็กนี้ ก็ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียน การงาน และความรักนะครับ ขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจนะ มั่งมีศรีสุขกันถ้วนหน้านะครับ
และที่สำคัญ ขอให้สนุกกับการอ่านนะครับ