LOVE HIGH STORY – 27 – On Their Way | ระหว่างทาง~ติ๊ดติ๊ด ติ๊ดติ๊ด ติ๊ดติ๊ด ติ๊ดติ๊ด ติ๊ดติ๊ด~.
.
~กริ๊ก~.
.
ร่างสูงเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกที่ทำหน้าที่ปลุกเขาในตอนเช้าอย่างตรงเวลาตามที่ได้รับมอบหมายไว้... วันนี้โบ๊ทต้องตื่นเช้าเพราะว่ามีเรียนตอนสิบโมงครึ่ง แต่ที่เขาต้องตื่นมาตั้งแต่หกโมงครึ่งเช่นนี้ก็เพราะว่าไอ้เจ้ารุ่นน้องร่างเล็กมีเรียนตอนเก้าโมงตรง เขาเลยต้องไปมหาวิทยาลัยก่อนเก้าโมง... ก็นะ ไป-กลับด้วยกันก็แบบนี้แหละ
โบ๊ทตื่นแล้วก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่งมาหาวปากกว้างอยู่บนเตียง ต่อด้วยการบิดตัวยืดเส้นยืดสายสักหน่อยก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มือถือมากดโทรออกไปปลุกรุ่นน้องห้องตรงข้าม... รอสายอยู่สักพักใหญ่ๆ ปลายสายก็รับสาย... ร่างสูงพูดงึมงำๆ อยู่สองสามประโยคก็ว่างสายก่อนจะเดินหัวยุ่งเข้าห้องน้ำไปจัดการธุระส่วนตัว... พร้อมรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าใส
.
.
ปกติถ้าไม่ขี้เกียจเดินก็จะไปเคาะประตูเองเลย แต่ถ้าขี้เกียจเดินก็ใช้โทรศัพท์มือถือนี่แหละไว้ติดต่อสื่อสารกัน ส่วนโทรศัพท์ห้องมีไว้ก็ไม่ใช้กันสักเท่าไร เพราะว่าไอ้เจ้าเปี๊ยกมันปิดเสียงโทรศัพท์ห้องด้วยข้ออ้างที่ว่า “เคยโดนโรคจิตโทรมาขอเซ็กส์โฟน” ตอนนี้โทรศัพท์ห้องก็เลยมีไว้เพื่อต่ออินเตอร์เนทเพียงอย่างเดียว...
อาจจะมีคนสงสัยว่า... ทำไมไม่นอนห้องเดียวกันไปซะเลย ไหนๆ ก็ต้องตื่นไปมหาวิทยาลัยพร้อมกันอยู่แล้ว?... หึ อันที่จริงเมื่อคืนนี้นายโบ๊ทเขาก็ตั้งใจว่าจะให้ต้าร์นอนห้องเขานั่นแหละ ตอนเช้าจะได้ปลุกง่ายๆ หน่อย เพราะถ้าต้าร์มัวแต่งัวเงียงอแงจะโดนงัดออกจากเตียงแล้วโยนเข้าห้องน้ำไปซะเลย... ใกล้ไม้ใกล้มือว่างั้นเถอะ ฮ่าๆ... แต่เมื่อคืนนี้มีคนโทรมาหาต้าร์หลังจากที่ทีและโจกลับไปได้ไม่นาน ไอ้เจ้าต้าร์ก็เลยแอบเนียนเดินกลับห้องไปซะได้... ท่าทางจะเป็นยอดชายนายโต้งที่โทรมาเพราะว่าต้องแอบกลับห้องไปคุยห่างๆ ไอ้คุณโบ๊ท... อืมมมมม
คุยอะไรกัน?
อืมมมม... ไม่บอกหรอก ไม่อยากขัดใจแม่ยก!
.
.
.
ทางด้านทีและโจ... ในขณะที่กำลังขับรถไปมหาวิทยาลัย...
.
“ไอ้โจ” ทีทำหน้าที่สารถีอยู่ดีๆ ก็หันมาเรียกเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างๆ
“หือ?” โจขานรับโดยที่ไมได้ละสายตาออกจากหนังสือการ์ตูนที่ถืออ่านมาตั้งแต่ขึ้นรถ
“กูว่า... ใช่วะ”
“ห๊ะ? ใช่อะไรของมึง”
“ใช่ ต้องใช่แน่ๆ มันเป็นอะไรที่พูดยาก ต้องให้เธอแก้...” เอ่อ... เพลงเก่าไปไหม
“...รู้ก็รู้ว่าชอบแต่ใจมันพูดไม่ได้ ถ้าให้เธอช่วยมันก็ง่าย อะไรก็คงไม่แย่... ถุ๊ย!!! อะไรของมึง!!”
“ฮ่าๆ ไอ้ฟาย มึงก็ร้องต่อกูเหอะ”
“แม่ง เก่าสัด”
“เขาเรียกว่าคลาสสิคเว้ย”
“เออ...”
“...”
“สรุปว่าไอ้ [ใช่] ของมึงเนี่ย มีแค่นี้? แค่อยากร้องเพลง?”
“ฮ่าๆๆๆๆ กูไม่เกรียนขนาดนั้นหรอกมึง”
“มึงอย่าบอกว่ามึงไม่เกรียน กูไม่อยากเปิดประเด็นใหม่”
“เชี่ย”
“ตกลงมึงจะพูดต่อป่าว ไม่งั้นกูจะอ่านการ์ตูนต่อแล้ว กำลังลุ้นเลย เสียเวลากู”
“คือ... ที่คุยกันเมื่อคืนนี้อะมึง... กูว่าพี่โบ๊ทกับไอ้ต้าร์อะ... มันใช่วะ”
“เฮ้ย!!!”
“หรือมึงไม่คิดเหมือนกู”
“กูคิด”
“แล้วมึงจะ [เฮ้ย!!!] เพื่อ?”
“กูก็ตกใจให้ตื่นเต้นไปงั้นอะ ฮ่าๆ”
“ไอ้ห่า”
“ฮ่าๆๆๆ... กูก็สังเกตมาหลายทีแล้วแต่ก็ไม่ค่อยแน่ใจวะ เคยถามไอ้เชี่ยต้าร์มันก็ตอบหน้าตาเฉยว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“มันก็งี้แหละ แม่งไม่เคยรู้ตัว ไม่เคยรู้อะไรกับเขาหรอก... ตอนกับไอ้บาสมันก็แบบนี้แหละ เป๊ะเลย”
“เออ กูก็ว่า... แล้วพี่โบ๊ทกับไอ้บาสแม่งยิ่งคล้ายๆ กันอยู่ด้วย ทั้งหน้าตาทั้งนิสัย”
“แล้ว... ถ้า... ไอ้ต้าร์มันเป็นแฟนกับพี่โบ๊ทขึ้นมาจริงๆ... มึงจะว่าไงวะ”
“กู... อืมมมมม ก็ไม่รู้วะ... คงไม่ว่าไง... ก็... เรื่องของมันมั้ง... อืมมมมม อันที่จริงไอ้ที่เป็นอยู่นี่กูก็รับได้นะ เหมือนจะชินแล้ววะ”
“แล้ว [ไอ้ที่เป็นอยู่] ของมึงเนี่ย มันนับรวมนอนกอดกันกับอาบน้ำด้วยกันป่าววะ”
“เอ่อออออ...” โจเริ่มทำหน้าไม่แน่ใจ
“เฮ้ย ไอ้โจ มึงอย่าเพิ่งเอ๋อดิวะ”
“เออๆๆๆๆๆ ได้หมดแหละ... จะมากกว่านั้นก็เรื่องของมัน... มั้ง”
“ฮ่าๆๆๆๆ มึงเอาไงกันแน่วะ สาดดดด”
“เออน่า เอาเป็นว่ากูรับได้ละวะ”
“อืม กูก็รับได้นะ... แต่ปัญหาคือว่าไอ้ต้าร์มันไม่ยอมรับอะดิ”
“มันคงไม่รู้ตัวอะมึงว่าตัวเองรู้สึกยังไง”
“เออ แล้วพี่โบ๊ทละวะ...”
“กูก็ไม่ใช่พี่โบ๊ทอะนะ กูคงตอบอะไรไม่ได้”
“...สัด”
“เอางี้ไหมละ... มึงกับกูช่วยกันทำให้สองคนนั้นรู้สึกตัว”
“ยังไง?”
“อืมมมมม... นั่นสิ ยังไง”
“เอ้า เชี่ยโจ กูก็นึกว่ามึงมีแผน”
“เออกูก็คิดว่ากูมี แต่กูไม่มีวะ ฮ่าๆ”
“เฮ้ออออออออ... มึง”
“ขอเวลากูคิดก่อนดิ สาดดดด”
“เออ คิดให้ไวนะมึง ให้ได้แผนก่อนถึงมหาลัยนะเว้ย”
“มึงพูดอย่างกับให้กูคิดเองคนเดียว... จะไม่ช่วยกูคิดเลยเรอะ”
“เออ เดี๋ยวกูช่วยคิด”
ว่าแล้วก็ระดมสมองเพื่อคิดหาวิธีมาสะกิดใจไอ้เปี๊ยกกับไอ้คุณโบ๊ทให้รู้ตัวกันสักที... ตั้งใจกันมากถึงขั้นว่าไปถึงมหาวิทยาลัยแล้ว จอดรถแล้ว แต่ก็ยังนั่งคุยกันต่อไม่ยอมลงรถกันเลยทีเดียว จนกระทั่งโจปวดฉี่นั่นแหละถึงลงจากรถกันได้... แม้แต่เข้าห้องน้ำ ยืนฉี่กันไปก็ยังคงถกกันไป
.
.
.
เอาละ ปล่อยให้ “คู่หูรัก-ยม” เขาถกกันไปก่อนก็แล้วกัน...
เราไปแอบดูคู่ซี้ “หนุ่มหล่อมาดคุณชายกับสาววายสุดสวย” ในรถมินิคูเปอร์สีเทาควันบุหรี่กันบ้างดีกว่า...
.
ร่างโปร่งเพิ่งจะขับรถไปรับเพื่อนสาวที่บ้านเพื่อไปมหาวิทยาลัยได้ไม่ถึงห้านาทีนี้เองและหัวข้อสนทนาก็ไม่พ้นเรื่องไอ้คุณโบ๊ทอีกนั่นแหละ...
“เป็นไงบ้าง ไม่อัพเดตฉันเลยนะแก” ขึ้นรถมาได้แปบเดียว เบาะยังไม่ทันอุ่นเลย เธอก็ยิงคำถามเข้าประเด็นเลย
“ก็สบายดีนิ ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร” ร่างโปร่งตอบหน้าตาย
“อย่ามาเนียนเลยยยยย ฉันรู้นะว่าแกรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร”
“ฮ่าๆๆๆ”
“อย่า อย่ามาขำกลบเกลื่อน ตอบมาซะดีๆ... พัฒนาบ้างไหม ไปถึงขั้นไหนแล้ว”
“แฮะๆ... ก็... ไม่ได้พัฒนาไปไหนหรอก... ตอนแรกวันอาทิตย์พี่โบ๊ทกับต้าร์จะไปเซ็นทรัลลาดพร้าว แล้วพอดีโทรไปคุยกับพี่โบ๊ทมา พี่เขาเลยชวนให้ไปเซ็นทรัลด้วยกัน...”
“เหรอ พี่เขาชวนเองเลยเหรอ” น้ำเสียงตื่นเต้นยิ่งกว่าแม่ค้าถูกหวยอีกนะเธอ!!
“อืม... ก็พอดีว่าชวนพี่เขาคุยเรื่องหนังซีรี่ส์นะ เลยหาเรื่องไปยืมของพี่เขาแล้วก็แกล้งๆ ถามให้พี่เขาพาไปซื้อ พี่เขาเลยบอกว่าจะไปเซ็นทรัลพอดี เขาก็เลยชวนให้ไปด้วยกัน จะได้ใช้บัตรสมาชิกแมงป่องของพี่ลดราคาได้อีกนิดหน่อย”
“ว๊ายยย อย่างกับไปเดทกันเลยอะ... แต่ เอ๊ะ ต้าร์ก็ไปด้วยเหรอ”
“ตอนแรกต้าร์ก็จะไปด้วย แต่ว่าพอดีมีนัดกับทีอยู่แล้ว ก็เลยจะไม่ไปแล้วปล่อยให้เราไปกับพี่โบ๊ทกันสองคน”
“กิ๊บกิ๊วสุดๆ อะ... แล้วเป็นไงบ้างแก เล่ามาๆ”
“จะเป็นไงละ... พี่โบ๊ทเขาเปลี่ยนใจไม่ไปซะงั้นเลยอะดิ”
“อ้าว สรุปว่าไม่ได้ไป?”
“อืมดิ ไม่ได้ไป...” โต้งตอบหน้าเซ็ง
“โธ่เอ้ยยยยย ฉันก็ตื่นเต้น คิดว่าแกได้ไปเดทกับพี่โบ๊ทซะแล้ว”
“อดวะ ฮ่าๆๆ”
“ยังจะมาขำอีก... จะได้เขาไหมเนี่ยแก... ไม่ได้ดั่งใจคนสวยเลยอะ” ดรีมพูดแล้วก็กอดอกแถมพ่นลมออกจมูก... ทำท่าทางเหมือนนางร้ายโดนขัดใจ
“ก็ค่อยเป็นค่อยไป... มือใหม่หัดจีบนะเว้ย ไม่ใช่คาสโนว่าตัวพ่อ”
“เฮ้ออออ ฉันละเสียดายความหล่อเลิศเลอของแกจริงๆ... ฉันเป็นแกนะ ป่านนี้ฉันได้พี่เขามาเป็นภรรยาในอ้อมอกฉันแล้วละ... แกช้าอะโต้ง ไม่ทันใจฉันเลยอะ”
“ฮ่าๆ เอาน่า... มันก็มีอะไรคืบหน้าอยู่บ้างแหละ เมื่อวานตอนกลางคืนก็เพิ่งโทรไปหาพี่เขามา”
“เหรอ แล้วเป็นไงบ้าง”
“ไม่เป็นไงอะ... โทรไปแล้วไม่รู้จะคุยอะไรกับพี่เขา ไม่รู้จะชวนคุยอะไรก็เลยถามเรื่องรถนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็วางไป”
“เนี่ยนะเรียกว่าคืบหน้า... แกสอบตก ฉันไม่ให้แกผ่าน ไปซ่อมมา”
“เฮ้ยยยย ใจร้ายวะดรีม กดดันกันแบบนี้เลยอะ... ทีต้าร์ยังไม่กดดันกันแบบนี้เลย”
“ห๊ะ? นี่แกโทรไปปรึกษาต้าร์ด้วยเหรอ”
“อืม ก็โทรหาพี่โบ๊ทได้สักพักก็โทรไปเล่าให้ต้าร์ฟัง”
“แล้วต้าร์ว่าไงบ้างอะ”
“ต้าร์ก็ให้กำลังใจแหละ แบบว่าให้สู้ๆ อะไรแบบนั้นแหละ แต่ก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้อะไรมากมาย นิดๆ หน่อยแล้วก็คุยกันไปเรื่องอื่น”
“เหรอ... อืมมมม แล้วแกคุยกับพี่โบ๊ทนานแค่ไหน”
“วันเสาร์โทรไปประมาณยี่สิบนาที”
“อืมมม ก็นานอยู่นะ ไม่เลวเลยสำหรับครั้งแรก”
“แต่เมื่อวานนี้แค่ประมาณสิบนาที”
“แค่สิบนาที... แต่แกบอกฉันในเฟซบุคว่าจะไปโทรศัพท์ตั้งแต่สองทุ่มกว่าแล้วแกกลับมาอีกทีก็เกือบห้าทุ่มเนี่ยนะ”
“ก็... คุยกับพี่โบ๊ทเสร็จแล้วก็โทรหาต้าร์ไง”
“เดี๋ยวนะโต้ง... แกบอกว่าแกคุยกับพี่โบ๊ทแค่สิบนาที งั้นก็แปลว่าแกคุยกับต้าร์...”
“...สองชั่วโมง”
“...” ดรีมปั้นหน้าเหนื่อยใส่โต้งหลังจากได้ยินคำตอบแสนขัดใจ
“อะไร?”
“ยังจะมาถามอีก... แกคุยกับพี่โบ๊ทแค่สิบนาที แต่คุยกับต้าร์สองชั่วโมง... ตกลงว่าแกจะจีบใครกันแน่วะโต้ง”
“พี่โบ๊ท” ร่างโปร่งตอบเสียงอ่อย
“เฮ้ออออออ... แก!!!” เอาละสิ สาวดรีมหน้าเซ็งแต่เช้าเล๊ย... เพื่อนไม่ได้ดั่งใจละสิ
.
.
.
ทางด้านต้าร์กับโบ๊ทที่กำลังจะไปมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกัน...
.
“เอ่อ... คุณโบ๊ท... นี่มันรอยตีนแมวปะ?” ร่างเล็กเดินไปชี้รอยเท้าแมวที่ประทับฝุ่นไว้บนฝากระโปรงรถ BMW สีดำคันคุ้นตา
“เฮ้ยยยยย ไอ้แมวเวร!!!” ร่างสูงโวยวายทันทีที่เห็นรอยเท้าแมวบนฝากระโปรงรถตัวเอง
“แถวนี้มีแมวด้วยเหรอ”
“อือ เมื่อวานเจอตัวนึง... มันน่านักเชียว อุตส่าห์ให้ขนมมันกิน ไอ้แมวเนรคุณ”
“ฮ่าๆๆๆ โดนแมวหลอกแด๊กส์ละสิ”
“หึ ไม่ค่อยเดือดร้อนหรอก เพราะว่าที่มันแด๊กส์ไปนั่นนะ... ป๊อกกี้รสกล้วยที่ซื้อไว้ให้ไอ้เกรียนบางคนแถวนี้ หึหึหึ” ว่าแล้วก็ยักคิ้วให้ร่างเล็กก่อนจะเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ... ต้าร์ไม่ได้ตอบอะไร แค่หุบยิ้มกระทันหันเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่ากำลังด่าหรือสาปแช่งแมวตัวนั้นในใจอยู่รึเปล่า... ของโปรดโดนแมวคาบไปแด๊กส์ ฮ่าๆๆๆๆ
โบ๊ทขับรถออกจากคอนโดฯ มุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยได้สักพัก ต้าร์ก็รู้สึกว่าวันนี้รถของโบ๊ทดูวิ๊งวิ๊งปิ๊งปิ๊งเป็นพิเศษ... คือปกติก็สะอาดเอี่ยมและเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่แล้ว แต่วันนี้มันดูสะอาดเงางามกว่าปกติ ก็เลยนึกสงสัย...
“เอารถไปทำอะไรมาปะ ทำไมดูปิ๊งปิ๊ง”
“เมื่อวานนี้เอาไปล้างที่เซ็นทรัลมา จัดหนักเลยทั้งห้องเครื่องทั้งในรถ”
“อ้อ... ที่ไปกับโต้งอะเหรอ”
“เปล่า”
“อ้าว?”
“อ้าวไร”
“ก็ไหนว่านัดกับโต้งไว้ไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ได้ไปอะ... แค่เอารถไปล้างแล้วก็กลับ”
“อ้าว” จะงงก็คงไม่แปลกหรอกต้าร์เอ้ย เพราะเมื่อวานนนี้คุยกับโต้งอยู่ตั้งนาน โต้งไม่เห็นบอกเลยว่าไอ้ลิงภูเขานี่ยกเลิกนัด
“ทีบางคนมันยังเบี้ยวนัดชิ่งไปบ้านไอ้ทีได้เลย แล้วทำไมโบ๊ทจะเบี้ยวนัดบ้างไม่ได้ละ” พูดหน้าตาเฉยเลยนะคุณ!
“โหยยยย ทำเป็นงอนไปได้นะลิงภูเขาน้อย”
“เดี๋ยวเอ็งจะโดนไม่ใช่น้อย”
“ฮ่าๆๆๆ... ว่าแต่... แล้วของขวัญละ ไหนๆ ก็ไปแล้วน่าจะให้โต้งช่วยเลือกไปเลยก็ได้นิ ไปยกเลิกนัดเขาทำไม”
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยววันนี้ค่อยไปเดินดู เลิกเรียนแล้วเราแวะเซ็นทรัลกันก่อนกลับคอนโดฯ ก็แล้วกัน... โอเคป่าว”
“โอเค” ร่างเล็กตอบพร้อมรอยยิ้มสดใสบนใบหน้า... อืมมมม แปลกแต่จริง ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาจึงรู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ ที่โบ๊ทไม่ได้ไปเซ็นทรัลกับโต้งตามที่นัดไว้...
"ฮัดชิ่ว!!" ร่างสูงจาม
"เอ้า จามซะงั้น สงสัยกำลังโดนนินทาแน่ๆ ฮ่าๆ สมน้ำหน้... ฮ้าดดดดด ชิ่ว!!!"
"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ เอ็งก็จามเหอะ สม!"
.
.
เมื่อร่างสูงขับรถมาถึงมหาวิทยาลัยก็พบว่าที่จอดของมหาวิทยาลัยเต็มเสียแล้ว เขาเลยต้องเข้าไปจอดรถที่ลานจอดรถที่ข้างมหาวิทยาลัยแทน... ระหว่างที่โบ๊ทและต้าร์กำลังเดินเข้ามหาวิทยาลัยนั้นเอง โบ๊ทก็สังเกตได้ว่าร่างเล็กที่เดินอยู่ข้างๆ เขานี้นั้นมีรอยยิ้มบางๆ อยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ระหว่างทางมามหาวิทยาลัยแล้ว... เห็นแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่ายิ้มอะไรนักหนา
“มองอะไร” ร่างเล็กรู้สึกได้ว่าโดนร่างสูงมองก็เลยหันไปถาม
“เปล่า... แค่นึกสงสัยว่าทำไมเอ็งถึงยิ้มอยู่ตลอด”
“ก็ไม่มีอะไรนิ แค่รู้สึกว่าเช้านี้มันเป็นเช้าที่สดใสดีนะ”
“ฮ่าๆๆๆ อย่างนั้นเหรอ... อืมมมมม ดูๆ ไปมันก็สดใสจริงๆ แหละ”
“ใช่ปะละ คริคริ”
“คริคริเหรอ... หึหึ เพี้ยนวะเอ็ง”
อย่าว่าแต่เขาเลยไอ้โบ๊ทเอ้ยยยย พวกเอ็งมันก็เพี้ยนกันทั้งสองคนนะแหละ วันนี้ฟ้าปิดมีเมฆหนาแน่นเต็มท้องฟ้าขนาดนี้ ยังจะบอกว่าวันนี้ดูสดใสกันได้อีก... สรุปว่าไอ้ที่สดใสนะ หัวใจหรืออากาศกันแน่ ~*
.
.
.
ร่างสูงกับร่างเล็กแวะซื้อขนมโตเกียวร้านประจำก่อนเข้ามหาวิทยาลัย... ขนมโตเกียวคงเป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่โบ๊ทและต้าร์จะเห็นชอบตรงกัน เพราะว่าทั้งสองคนชอบกินใส้ไข่-หมูสับเหมือนกัน และที่สำคัญ ต้องใส่พริกไทยกับซอสแม็กกี้เยอะๆ ด้วยนะ... เมื่อซื้อขนมโตเกียวไว้รองท้องรอข้าวเที่ยงกันแล้ว ก็ต้องหาซื้อน้ำไว้ล้างปากกันด้วย กว่าจะได้เข้ามหาวิทยาลัยก็ใช้เวลาอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงได้
“คุณโบ๊ท”
“หืม”
“วันนี้เข้าไปนั่งเล่นในห้องผมก่อนไหม” จู่ๆ ก็ถามขึ้นมาทั้งๆ ที่มือและสายตายังง่วนอยู่กับขนมโตเกียวในถุงกระดาษของตัวเองอยู่เลย
“คลาสเก้าโมงเนี่ยเหรอ”
“อืม”
“อาจารย์เขาให้เข้าได้เหรอ”
“เขาไม่ว่าหรอก”
“แล้ว... อยากให้เข้าไปนั่งด้วยรึเปล่าละ” ร่างสูงพูดน้ำเสียงนุ่มทุ้มผ่านรอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้า
“ก็... แล้วแต่ดิ” นี่นาย อยากให้เขาไปด้วยหรือไม่อยากก็ตอบให้เต็มๆ เสียงหน่อยสิ... แล้วนั่นนะ ขนมโตเกียวในถุงนั้นมันหายากนักเหรอ เห็นทำท่ามองหาอะไรสักอย่างในถุงนั่นมาสักพักแล้วนะ!
“ปะ” ร่างสูงยิ้มให้กับท่าทีของร่างเล็กก่อนจะพาดแขนกอดคอแล้วเดินเข้าตึกเรียนไปด้วยกัน...
.
.
ที่หน้าห้องเรียน มีป้ายประกาศติดอยู่เพื่อประกาศให้กับชนกลุ่มน้อยทุกคนรู้ว่า “ตอนนี้จบแล้วนะ โปรดติดตามตอนต่อไป”
.
.
.
-----------------------------------------------------------
[BONUS หลังไมค์]
ที่ร้านขนมโตเกียวหน้ามหาวิทยาลัย... ในขณะที่กำลังรอคนขายทำขนมโตเกียวอยู่นั่นเอง ร่างสูงก็มองไปเห็นแพนเค้กรูปซานต้าคลอสกับกวางเรนเดียร์วางอยู่ในถาดข้างๆ ขนมโตเกียวไส้ต่างๆ
โบ๊ท: เปี๊ยก ดูนี่ดิ (//ชี้ไปที่แพนเค้กรูปซานต้าคลอสกับกวางเรนเดียร์)
กีต้าร์: เฮ้ยยยย เจ๋งอะ!
โบ๊ท: ดูกวางตัวนี้ดิ หน้าเหมือนเอ็งเลยวะ ฮ่าๆๆๆ
กีต้าร์: ยังไง?
โบ๊ท: หน้าตามันกวนตีนดีอะ
กีต้าร์: เหรอออออ... โธ่ หน้าคุณโบ๊ทก็เหมือนซานต้าคลอสนี่เหมือนกันแหละ
โบ๊ท: เหมือนยังไง?
กีต้าร์: แก่เหมือนกัน
โบ๊ท: เหรอออออ... โธ่ ใครมันจะไป “เด็ก” เหมือนเอ็ง (//มองตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อเน้นย้ำความสูงมาตรฐานเด็กมัธยม)
กีต้าร์: นี่!! อย่ามามองกันด้วยตาตี่ๆ แบบนั้นนะ... *โป้ก!!*... โอ้ย
คนขายขนมโตเกียว: อย่าตีกันนนนนนน อะๆ พี่ให้ไปชิมละกัน เป็นแพนเค้กซานต้า-เรนเดียร์ ทำมารับคริสต์มาสเลยนะ
กีต้าร: หุยยยย พี่...
คนขายขนมโตเกียว: ไม่ต้องเกรงใจหรอกน้อง เอาไปเหอะ พี่ให้
กีต้าร์: เปล่าพี่ ไม่ใช่ว่าเกรงใจหรอกครับ... แต่ผมขอสองคู่ได้ไหมอะ
โบ๊ท: ไอ้เปี๊ยก!!!!
คนขายขนมโตเกียว: ... โอเคๆ สองก็ได้จ๊ะ
กีต้าร์: ---------------------------------------------------
FlapJack's Corner:
มาแล้วครับ ขอบคุณที่รอกันนะครับ
จริงๆ แล้วผมเขียนตอนคริสต์มาสไว้ตอน คิดไว้ว่าอยากมีตอนคริสต์มาสให้เข้ากับเทศกาลสักหน่อยแต่ว่าก็ติดธุระนิดหน่อยเลยไม่ได้ลงให้อ่านกันในวันคริสต์มาส... เอาเป็นว่าผมจะเอามาลงให้เป็นโบนัสควันหลงก็แล้วกันเนอะ
สำหรับตอนนี้ผมขอไม่ตอบเม้นท์รายคนนะครับ เพราะว่าเม้นท์ของตอนที่แล้วมันก็ผ่านมาเป็นสัปดาห์แล้ว จะมานั่งตอบมันก็ดูเก้อๆ เขินๆ ยังไงก็ไม่รู้ ฮ่าๆ (แต่ผมอ่านของทุกๆ คนนะ )
ต้องขอขอบคุณทุกๆ คนนะครับที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้กับนิยายเล็กๆ เรื่องนี้นะครับ
ปล. บวกกันไปเช่นเคย