:: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]  (อ่าน 64043 ครั้ง)

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เกิดอะไรขึ้น
ใจร่มๆ
พี่ด้าอาจจะมีแฝดก็ได้ :m21:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เรื่องชักจะยุ่งแล้ว

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
กัสใจเย็น ๆ นะ เอาเวลาน้อยใจไปนึกวิธีจีบพี่ด้าเถอะ
กับพี่ด้าก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน พี่เขาก็มีสิทธิไปไหน ทำอะไรกะใครก็ได้

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
วันรุ่งขึ้น ผมออกจากบ้านแต่เช้า โดยบอกแม่ว่าผมนัดเรียนกับพี่ด้าเร็วขึ้น แต่ที่จริงผมไม่คิดที่จะไปเรียนกับเขาตั้งแต่แรกแล้ว ผมส่งข้อความไปบอกเขาว่าผมรู้สึกไม่ค่อยสบาย และจะไม่ไปเรียน แต่ผมกลับไปเดินเล่นแถวสยามคนเดียว ดูหนังฆ่าเวลา แล้วจึงกลับบ้านในตอนเย็น

แต่ทว่าผมก็ไม่สามารถหลบหน้าพี่เขาไปได้ตลอด เพราะไม่ว่าอย่างไร วันพุธพี่เขาก็จะต้องมาสอนผมที่บ้านอยู่ดี และเมื่อวันนั้นมาถึง ผมก็พยายามทำตัวเป็นปกติ พยายามที่จะพูดคุยและมองหน้าพี่เขาให้ได้เหมือนปกติ แต่เมื่อใดก็ตามที่ผมนึกขึ้นมาว่าพี่เขามีแฟนอยู่แล้ว เขาไม่ได้รู้สึกสนใจอะไรในตัวของผมเลย หนำซ้ำเขายังโกหกผมในเวลาที่เขาอยู่กับแฟนแบบนั้นด้วย ผมก็ไม่รู้สึกอยากจะสนใจและใส่ใจในสิ่งที่พี่เขากำลังสอนผมอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว

วันถัดมา ผมก็ยังคงนั่งเรียนกับพี่เขาแบบขอไปทีอีกหนึ่งวัน เสียงหัวเราะ ความรู้สึกสนุกสนานที่เคยมีมันดูเหมือนจะหายไปจนหมด พี่ด้าเองก็ถามผมเหมือนกัน ว่าผมเป็นอะไร มีปัญหาอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า เพราะว่าผมดูแปลกไป แต่จะให้ผมตอบอย่างไรได้ล่ะ นอกจากคำว่า “ไม่มีอะไร” อันแสนจะคลาสสิค

เวลาผ่านเวียนไปจนวันเสาร์วนมาถึงอีกครั้ง และก็เป็นอีกวันที่ผมนั่งเรียนกับพี่ด้าแบบไม่ได้สนใจฟังสิ่งที่พี่เขาสอนเลย หลังจากเรียนเสร็จ ผมก็กลับบ้านแบบหัวสมองว่างเปล่า และถึงแม้ว่าผมจะพอดูออกว่าพี่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจที่เห็นผมเป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมก็รู้สึกเซ็งและน้อยใจพี่เขามากเกินกว่าจะใส่ใจความรู้สึกของเขามากไปกว่าความรู้สึกของตัวเอง
ในวันอาทิตย์ ผมกับไอ้เมษไปนั่งอยู่ที่บ้านของไอ้ตุลย์เกือบทั้งวันโดยที่ผมไม่ได้บอกพี่ด้าเอาไว้ก่อนว่าผมจะไม่ไปเรียน และพี่เขาก็ไม่ได้โทรมาตามผมแม้แต่ครั้งเดียวเลยด้วย ซึ่งถึงแม้ผมจะรู้สึกโอเคอยู่กับการที่ไม่ต้องโกหกพี่เขา แต่ลึกๆ แล้ว ผมก็อดรู้สึกหงุดหงิดและน้อยใจไม่ได้ที่เขาแสดงออกเหมือนไม่ได้สนใจอะไรผมเลยแบบนี้

“เป็นไงมั่งล่ะ เรียนวันนี้ เหนื่อยมั้ย หน้ามุ่ยมาเชียวนะ” แม่ทักผมขึ้นหลังจากที่ผมก้าวเท้าเดินเข้าไปในบ้าน

“นิดหน่อยอะครับ” ผมสะดุ้งเบาๆ

“สู้ๆ หน่อยลูก อดทนอีกนิดเดียว เดี๋ยวพอสอบเอ็นท์ฯ ติดก็สบายแล้ว” พ่อพูดขึ้นด้วยอีกคน

ผมไม่คิดว่าทั้งสองคนกำลังประชดหรือพยายามจับผิดผมอยู่นะ เนื่องจากตอนแรกผมก็กลัวว่าแม่จะคุยกับพี่ด้าแล้วรู้ว่าผมไม่ได้ไปเรียนมาเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ดูเหมือนว่าวันนี้แม่จะไม่ได้โทรไปหาพี่เขาอย่างที่ผมกังวลมาตลอดทั้งวัน

“ครับ” ผมตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินหนีกลับขึ้นไปบนห้อง

หลังจากที่โยนกระเป๋าลงบนเตียงได้ไม่นาน โทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น ในตอนแรกผมคิดว่าจะเป็นพี่ด้าโทรมา ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งนั้นจะเรียกว่าเป็นความคาดหวังได้หรือเปล่า แต่เมื่อผมเห็นชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอแล้ว ผมก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ... ซึ่งก็อีกนั่นแหละ ผมไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าผมถอนหายใจเพราะผมรู้สึกโล่งอกหรือว่ารู้สึกเสียดายกันแน่

“หวัดดีคร้าบบบ พี่ต้า ว่าไงพี่”

“งายย อ้วน อยู่ไหนแล้วเนี่ย”

“อยู่บ้านแล้วพี่ เพิ่งกลับมาถึงสักแป๊บเดียวเนี่ย”

“ไปไหนมาอะ.... อ่อออ ไปเรียนกับไอ้ด้ามาใช่ป่าว”

“อืมมม.... ครับ” ผมจำเป็นต้องโกหกออกไป

“แล้วเป็นไงมั่งอะ แฮปปี้ดีมั้ย โอเครึเปล่า”

“ก็ดีอะครับพี่ ก็สนุกดี เหมือนเดิมนั่นแหละ”

“โกหก”

ผมนิ่วหน้าทันที “อะไรนะ พี่”

“อ้วน อ้วนก็รู้ใช่มั้ยว่าอ้วนคุยกับพี่ได้ทุกเรื่องน่ะ ไม่ใช่เห็นว่าพี่เป็นเพื่อนไอ้ด้ามันแล้วอ้วนเลยไม่อยากให้พี่รู้ เลยต้องมาโกหกพี่อะไรแบบนี้ มันไม่ใช่นา ปกติเราเองก็ไม่ใช่คนที่จะพูดโกหกอยู่แล้วด้วยนี่หว่า อืมมม ก็นอกจากโกหกพ่อกับแม่น่ะนะ แต่ก็นั่นแหละ อย่างน้อยๆอ้วนก็ไม่เคยโกหกพี่เลยไม่ใช่เหรอครับ เพราะงั้นบอกพี่มาเถอะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมวันนี้ถึงไม่ได้ไปเรียนอีกแล้ว”

ผมอึ้งไปครู่หนึ่ง “พี่ คือ กัสไม่ได้......”

“ไอ้ด้ามันเครียดนะเว้ย อ้วน มันเห็นพี่สนิทกับเรา วันนี้มันก็เลยโทรมาเล่าให้พี่ฟังเนี่ยแหละ ว่าเราไม่ไปเรียน และพักหลังๆ ก็ดูเหมือนไม่ใส่ใจเรียนเลยด้วย มันคิดว่าพี่อาจจะรู้ว่าเราเป็นอะไรน่ะ”

“โอ๊ยยยย กัสไม่ได้เป็นอะไรหรอกพี่ ก็แค่เซ็งๆ เรื่องบางเรื่องคนบางคนนิดหน่อย”

“ใครวะ เพื่อนที่โรงเรียนเหรอ”

“ก็..... ประมาณนั้นมั้ง”

“เออ ก็แล้วไป เพราะไอ้ด้ามันกังวลอยู่ มันกลัวว่ามันจะทำอะไรให้เราไม่ชอบใจรึเปล่า”

“พี่เค้าบอกแบบนั้นเหรอ”

“อือ ก็ใช่อะดิ มันเป็นคนขี้กังวลนะเว้ย เห็นแบบนั้นก็เหอะ ถึงมันจะไม่ค่อยพูดความรู้สึกของตัวเอง ไม่ค่อยแสดงออกอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้าเวลามันไม่สบายใจเรื่องความรู้สึกของคนอื่นนะ มันจะเครียดมากๆ เพราะมันเป็นคนแคร์เพื่อนเหี้ยเหี้ยยยยยยยย”

“เหอะๆ แต่กัสก็แค่คนอื่นเองนะพี่ ไม่ได้เป็นเพื่อนพี่เค้าสักหน่อย แค่เรียนพิเศษด้วยเฉยๆ พี่เค้าจะมาใส่ใจอะไรกัสมากมายทำม๊ายยยย”

“อย่าพูดแบบนั้นน่า ไอ้อ้วน ไอ้ด้ามันก็ชอบเรามากนา มันยังเคยชมเราให้พี่ฟังเลยว่าเป็นเด็กน่ารัก ช่างคุย เข้ากับคนง่าย อะไรแบบนี้น่ะ”

“โอ๊ยยยย ได้ยินจนเบื่อแล้วเหอะ เรื่องพวกนั้นน่ะ กัสโดนคนพูดคนชมแบบนี้จนชินละ”

“แหมเว้ย น้องกูนี่มันช่าง.......”

“น่ารักอะไรจะขนาดนี้ ใช่มะ” ผมต่อประโยคให้จนจบ

“หลงตัวเองอะไรได้ขนาดนี้ต่างหาก” พี่ต้าหัวเราะเบาๆ “เอาเถอะๆ พี่ก็เป็นห่วง เลยโทรมาถามแค่นี้แหละ แต่หลังจากนี้ก็ไปเรียนปกติได้แล้วนะ มีอะไรก็คุยกับไอ้ด้ามันได้ มันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ต้องไม่สบายใจ”

ผมถอนหายใจเบาๆ “เคๆ ครับพี่ กัสจะพยายามละกัน”

“เออๆ ดีแล้วๆ โอเค งั้นแค่นี้แหละ”

“ครับ...... เฮ้ย! เดี๋ยวๆๆ พี่ต้า”

“หือ ว่าไง”

“เอ่อออ ก็ไม่มีไรหรอกพี่ คือพอกัสมานึกๆ ดูอะ ตกลงว่าพี่ด้าเนี่ย เค้ามีแฟนรึยังวะพี่”

“ก็ไม่มีนิ ถามทำไมอะ”

“แล้วแบบว่า คนที่มาจีบหรือมาคบๆ กับพี่เค้าอะ มีมะ”

“โอ๊ยยย ถ้างั้นก็เพียบล่ะ พี่ว่า” พี่ต้าตอบแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย “หมายถึงคนที่มาชอบมันน่ะนะ แต่คนที่กำลังคบกันอยู่นี่..... ก็ไม่น่าจะมีว่ะ”

“อืมมมม เหรอครับ”

“ทำไมอะ ทำไมทำเสียงงั้นวะ อ้วน”

“เปล่าพี่ ไม่มีอะไร ก็แค่สงสัยน่ะ เพราะกัสรู้สึกเหมือนพี่เค้าจะมีแฟนแล้วเลยว่ะ”

“เหอออ ทำไมรู้สึกแบบนั้นล่ะ มีอะไรรึไง”

“ไม่มีหรอก แค่รู้สึกน่ะครับ พี่อย่าสนใจเลย”

“หืมมมม....”

“อะไรพี่”

“เปล่า..... เออๆ งั้นแค่นี้แหละ แต่อย่าลืมแล้วกันว่าถ้ามีปัญหาอะไรน่ะ ให้บอกพี่ได้นะเว้ย ไม่ต้องเกรงใจ รับรองว่าพี่ไม่เอาไปบอกใครหรอก พี่เองก็รักอ้วนเหมือนน้องแท้ๆ พี่เหมือนกัน”

“ค้าบบบบ ขอบคุณครับ พี่ต้า”

“คราวหลังก็ระวังๆ หน่อยเว้ย อ้วน ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ไปถึงหูไอ้อาร์มขึ้นมาล่ะก็ มันอาจจะแย่ลงกว่านี้ก็ได้นา เกิดแม่เรารู้ขึ้นมาจะซวย และที่สำคัญ นี่ถ้าวันนี้ไอ้ด้ามันไม่ช่วยโกหกว่าเราไปเรียนกับมันปกติล่ะก็ ป่านนี้เราโดนแม่แหกอกไปแล้วนะ จะบอกให้”

“พี่ด้าเค้าบอกแม่เหรอ ว่ากัสไปเรียนน่ะ”

“ก็ใช่น่ะสิ ก็แม่เราเค้าก็โทรไปหาไอ้ด้าไง ว่านัดอ้วนออกจากบ้านไปเรียนเร็วขึ้นเหรอ แล้วจะกลับกี่โมง อ้วนเรียนเป็นไงบ้าง อะไรแบบนี้น่ะแหละ เพราะวันนี้เราไม่ได้รับสายแม่เค้าเลยนี่ ใช่ปะล่ะ”

“อืออออ กัสไปบ้านเพื่อนมาน่ะ ก็เลยไม่ได้รับ แต่แม่เค้าก็โทรหากัสแค่สองครั้งเองนะ”

“นั่นแหละๆ ไอ้ด้ามันก็แปลกใจเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ได้พูดอะไร มันก็เลยช่วยเออออไปให้ และพอบ่ายๆ เย็นๆ มันก็โทรมาถามพี่นี่แหละ ว่ารู้รึเปล่าว่าเราเป็นอะไร”

ผมนิ่งไป เพราะไม่รู้จะตอบอะไรกลับไปดี

“เอาเถอะๆ” พี่ต้าพูดต่อหลังจากที่เห็นว่าผมเงียบไป “งั้นแค่นี้ก็แล้วกันนะ ถ้ามีอะไรไม่พอใจเรื่องไอ้ด้าหรืออยากปรึกษาอะไรพี่ก็รีบบอก เข้าใจรึเปล่า อย่าปล่อยไว้นาน พี่เองก็ไม่อยากเห็นน้องพี่เครียดเหมือนกัน เดี๋ยวไม่มีสเตตัสเสี่ยวๆ ให้อ่านอีก รู้สึกจะหายไปหลายวันแล้วนี่ หึๆ”

ผมหน้าแดงขึ้นเล็กน้อยเพราะคำพูดสุดท้ายของเขา “โอเคๆ รับทราบแล้วคร้าบบบ ถ้ามีอะไรแล้วกัสจะรีบบอกพี่ก็แล้วกัน ขอบคุณมากนะครับ พี่ต้าาาาา”

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
วันพุธเวียนผ่านมาถึงอีกครั้ง และครั้งนี้ผมก็กลับมาถึงบ้านไวกว่าพี่ๆ ทั้งสองคนเหมือนเดิม หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ ผมก็นั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่นรอเวลา และเมื่อผมได้ยินเสียงเครื่องยนต์จากรถของไอ้อาร์มเลี้ยวเข้ามาจอดที่โรงรถเรียบร้อยแล้ว ผมก็เริ่มรู้สึกกังวลว่าจะมองหน้าพี่ด้ายังไงขึ้นมาทันที

“พี่ด้า หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้พี่ด้าหลังจากที่เขาและไอ้อาร์มเดินเข้ามาในบ้านแล้ว

“เออดี มันไหว้เพื่อนกู แต่มันไม่เคยไหว้กูเลยสักครั้งเว้ย”

ผมไม่สนใจคำพูดของไอ้อาร์ม “เหนื่อยมั้ยพี่ หิวป่าว วันนี้จะกินข้าวก่อนเลยมั้ย แล้วค่อยเรียน หรือยังไงดี”

พี่ด้ายิ้มให้ผม “ไม่เหนื่อยเท่าไหร่หรอก ไม่เป็นไร ว่าแต่กัสเองเถอะ หิวรึยัง ถ้าหิวก็กินข้าวก่อนได้เลยนะ”

“ยังอะครับ กัสกินขนมไปตั้งเยอะแล้วเรียบร้อย ถ้างั้นอีกเดี๋ยวกัสจะไปนั่งรอในห้องก็แล้วกันนะ”

“ได้ครับ”

“ไอ้อ้วน มึงไปบอกใครให้เอาน้ำเย็นๆ กับขนมขึ้นไปให้กูสองคนบนห้องด้วย”

“มึงนี่มันคุณหนูจริงๆ เลยนะ ไอ้อาร์ม ไม่ทำเหี้ยอะไรเองสักอย่าง” ผมส่ายหน้าเบาๆ อย่างหงุดหงิด แต่ก็เดินไปจัดการให้มันตามที่มันขอ แล้วจากนั้นจึงเดินขึ้นไปนั่งรอพี่ด้าอยู่ในห้องของตัวเอง

ผมนั่งดูนั่นดูนี่ในคอมพิวเตอร์อย่างไร้จุดหมายอยู่ราวๆ สิบนาที พี่ด้าก็มาเคาะประตูที่ห้องของผม

“เข้ามาเลยครับพี่ ประตูไม่ได้ล็อค”

พี่ด้าเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับหนังสือและชีทอีกปึกหนึ่งในมือเหมือนอย่างเคย

“เป็นไงครับ พร้อมจะเรียนเลยรึยัง”

ผมมองหน้าพี่เขาแล้วนิ่งไปพักหนึ่ง “.....ไม่อะครับ กัสยังไม่พร้อมอะ”

“อ้าว” พี่ด้าทำหน้างงๆ

“กัสมีเรื่องอยากคุยกับพี่น่ะครับ แล้วก็.... อยากจะขอโทษพี่ด้วย”

พี่ด้าเดินมานั่งลงบนขอบเตียงแล้วมองหน้าผม ก่อนจะยิ้มออกมาน้อยๆ “ไม่เป็นไรครับ พี่เข้าใจ ไอ้ต้ามันบอกพี่แล้วล่ะ ว่ากัสกำลังทะเลาะกับเพื่อนอยู่ เลยอารมณ์ไม่ดี แล้วก็ไม่ค่อยอยากเรียน เรื่องธรรมดาครับ พี่ก็เคยเป็นเหมือนกัน”

“อืมมมม” ผมครุ่นคิด รู้สึกสับสนและกังวลว่าตัวเองควรจะพูดยังไงดี

“แล้วตอนนี้สบายใจขึ้นรึยังล่ะ พี่เห็นเราไม่สบายใจแล้วพี่ก็เครียดตามนา พี่อยากให้กัสร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนมากกว่านะครับ”เขายิ้มออกมาอีกครั้ง และคราวนี้มันก็ทำให้ผมแทบจะละลาย

“เอาเป็นว่า ก่อนอื่น กัสขอโทษพี่ก่อนละกัน ที่ไม่ตั้งใจเรียน แล้วก็ที่ทำให้พี่ต้องโกหกแม่เพื่อกัสอะ”

“หืออ ไอ้ต้ามันบอกกัสเรื่องนั้นด้วยเหรอ”

“ครับ ก็บอกอะ”

“โหหห นี่มันพูดอะไรไปมั่งวะเนี่ยยย”

“แล้วก็.... ไม่รู้ดิ นึกไรไม่ออกแล้วอะพี่”

“เอ้า นึกอะไรไม่ออกครับ”

“ก็นั่นอะดิ คือจู่ๆ ก็นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรแล้วอะ ช่างเหอะๆ มาๆ เรามาเรียนกันเลยก็แล้วกันครับ”

สรุปว่าคืนนั้นก็ผ่านพ้นไปพร้อมกับความรู้สึกที่ยังครึ่งๆ กลางๆ อยู่ แถมพอหลังจากเรียนเสร็จ เราก็ไม่ได้นั่งคุยกันต่อที่ห้องของผมเหมือนเดิมด้วย เพราะฉะนั้นถึงบรรยากาศระหว่างเราสองคนจะเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่ผมก็ยังไม่สามารถพูดว่าความรู้สึกของผมที่มีต่อพี่ด้านั้นกลับมาเป็นเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ได้

วันถัดมาเราเริ่มเรียนหนังสือกันตามปกติ แต่ผมกลับรู้สึกไม่ค่อยมีสมาธิเท่าใดนัก ผมไม่ได้อยากจะไม่ตั้งใจเรียนเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้อีกแล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อคืนผมก็นอนคิดมาตลอดแล้วว่าผมอยากจะคุยกับพี่ด้าให้มันรู้เรื่องมากกว่านี้สักหน่อย และพอมาในวันนี้ ใจของผมมันก็เลยรู้สึกสับสนและเป็นกังวลถึงแต่เรื่องที่ผมอยากจะคุยกับเขา จนทำให้ผมไม่ค่อยมีสมาธิเท่าใดนัก

“เป็นอะไรรึเปล่า กัส ทำไมดูเหม่อๆ ชอบกลอีกแล้ว”

“อะ.... อ๋ออ เปล่าครับพี่” ผมก้มลงมองดูดินสอกดที่ถืออยู่ในมือ

“เอาล่ะ ถ้างั้นวันนี้เราพอแค่นี้ก็ได้ครับ ยังไงก็จะหมดเวลาอยู่แล้วด้วย ถ้าเกิดกัสเหนื่อย เราพอก่อนก็ได้” พี่ด้าพูดพร้อมกับปิดหนังสือลง

“พี่ด้า พี่บอกว่าพี่เคยมีแฟนตอนสมัยม. ปลายแล้วเลิกกันไปตอนพี่มาเข้ามหาลัยที่นี่ใช่ปะครับ”

“อื้อ ใช่ครับ ทำไมเหรอ”

“แฟนคนแรกด้วยปะพี่”

“อืมม ใช่ครับ”

“แล้ว.... ตอนนั้นพี่รู้สึกยังไงเหรอ แบบว่า พี่รู้สึกยังไงอะ ถึงได้รู้ว่า ‘เนี่ย มันคือความรัก’ อะไรแบบเนี้ย แล้วก็ตอนคบกัน ใครบอกรักใครก่อนเหรอ พี่จีบเค้าก่อนเหรอ หรือยังไง”

“อืมมมม....” พี่ด้าทำหน้านึก “เอาแบบนี้ก่อนแล้วกัน คือพี่ก็ไม่รู้แบบเป๊ะๆ หรอกนะ ว่าพี่รู้ได้ยังไงว่ามันเรียกว่าความรัก เพราะพี่ก็คบกันตั้งแต่ม. 4 น่ะ ก็ยังเด็กอยู่เลย มาเลิกกันก็ตอนราวๆ ม. 6 เทอมหนึ่งได้ แต่ตอนอยู่ด้วยกัน มันมีความสุขน่ะครับ ก็รู้สึกเหมือนอยู่กับเพื่อนที่เราสนิทมากๆ นั่นแหละ เพียงแต่มันมีความห่วงใย ความหึงหวง เพิ่มเข้ามามากขึ้น อะไรแบบนั้นน่ะ แต่ที่จริงพี่ก็ไม่ใช่คนขี้หึงอะไรมากมายหรอกนะ”

“แล้วตอนนั้นพี่เริ่มชอบผู้หญิงคนนั้นก่อนเหรอครับ พี่เป็นคนบอกรักก่อน ไปจีบเค้าก่อน ไรงี้เหรอ แล้วพี่จีบเค้ายังไงอะ”

“หึๆ จริงๆ แล้วเค้ามาชอบพี่ก่อนน่ะ แล้วเพื่อนๆ มันยุ พี่ก็เลยคุย และเราก็คบกัน คือเค้าเป็นคนนิสัยดีนะ ร่าเริง มีน้ำใจ แล้วนอกจากนั้น อะไรหลายๆ อย่างมันก็เข้ากันได้ ที่จริงมันเริ่มต้นจากคำว่าเพื่อนน่ะครับ ก็เลยไม่มีว่าใครจีบใครก่อน อะไรแบบนั้นเลย”

“หืมมมม.....” ผมนั่งฟังอย่างตั้งใจ “แล้วทำไมพี่เลิกกันอะ”

“เรื่องนั้นพี่ขอไม่พูดถึงก็แล้วกันนะครับ” เขาตอบยิ้มๆ

“โอเค โทษทีพี่ กัสถามมากไปหน่อย”

“จริงๆ มันก็ไม่ใช่ความลับอะไรหรอก แต่เราเลิกกันไม่ค่อยดีน่ะครับ ทะเลาะกันแบบค้างคา มีปัญหาผิดใจกันเพราะเรื่องเพื่อน แล้วเรื่องมันก็เลยยาว ถ้าให้เล่า พี่คงต้องเล่าเยอะและยาวมาก ซึ่งพี่เองก็ไม่ค่อยอยากนึกถึงมันซะด้วย”

“ไม่เป็นไรครับ พี่ กัสไม่ได้ซีเรียส ถ้าพี่ไม่สบายใจ กัสก็ไม่อยากรู้หรอก”

“แล้วทำไมจู่ๆ มาถามพี่เรื่องพวกนี้ได้ล่ะ กำลังมีความรักอยู่รึเปล่า”

ผมอ้าปากจะตอบปฏิเสธ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ “.....ไม่รู้ดิพี่ บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ก็คงพอจะเรียกว่า ‘ความรัก’ ได้เหมือนกันล่ะมั้ง”

“อ้าว ไหงงั้นล่ะ”

“ถ้าเกิดว่าการที่กัสได้อยู่กับเค้าแล้วกัสมีความสุข รู้สึกดีที่ได้อยู่ด้วย รู้สึกเหงาและคิดถึงเวลาไม่ได้เจอหน้า รู้สึกอยากคุย อยากส่งเมสเสจหา อยากจูงมือ อยากหอมแก้ม แต่กัสไม่กล้าทำแบบนั้น แล้วก็รู้สึกเสียใจเมื่อเห็นเค้าเดินกับคนอื่น รู้สึกน้อยใจเวลาเค้าโกหก แบบนี้เนี่ย มันจะเรียกว่ากัสกำลังมีความรักได้รึเปล่าล่ะครับ”

พี่ด้ามองหน้าผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าออกมาเบาๆ “อืมมม.... พี่ว่ามันก็คงเป็นความรักล่ะมั้ง กัสคงรู้สึกชอบคนๆ นั้นมากเลยนะเนี่ย”

“มากๆ ครับพี่” ผมพูดเสียงเข้ม “แต่กัสไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครนะ กัสก็กลัวว่ามันจะไม่ใช่ความรัก และกลัวว่ากัสจะต้องเสียใจด้วยนี่ดิ”

“ความรู้สึกอยากมีความรัก อยากได้คนๆ นึงมาเป็นแฟน กัสต้องไม่กลัวที่จะเจ็บ ต้องไม่กลัวผิดหวังดิ พี่ว่านะ”

“อืมมมมม” ผมนิ่วหน้า

“แต่พี่ว่ากัสปรึกษาเรื่องพวกนี้กับไอ้อาร์มมันจะดีกว่านะ พี่ว่ามันเชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิงกว่าพี่เยอะเลยว่ะ” พี่ด้าหัวเราะเบาๆ

“โอ๊ยยยยย ไม่มีทางหรอกพี่ ที่กัสจะคุยเรื่องพวกนี้กับมันน่ะ”

“แล้วสรุป ไปหลงรักสาวสวยที่ไหนเข้าล่ะเรา หืมมม”

“ไม่สวยหรอกพี่” ผมตอบแบบเซ็งๆ นี่ตกลงพี่เขาจะไม่รู้ตัวให้ได้เลยใช่มั้ยเนี่ย ว่าผมกำลังหมายถึงเขาอยู่น่ะ

“เอาเถอะ ถ้าไงพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ เจอกันอีกทีตอนเช้าแล้วกันนะครับ” พี่ด้าลุกขึ้นยืน

“โอเคครับ พี่”

ผมมองดูพี่ด้าเดินออกจากห้องไป และเมื่อประตูถูกปิดลง ผมก็เดินไปล้มตัวนอนลงบนเตียงแล้วถอนหายใจแรงๆ ด้วยความเซ็งและเหนื่อยอ่อน

“แม่งเอ๊ยยยยย!! ทีเรื่องเรียนเรื่องสอนล่ะเก่งนัก แต่เรื่องอ่านความรู้สึกคนอื่นนี่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ใช่มั้ยวะ!!”

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
เวลาผ่านไปอีกสัปดาห์กว่าๆ และจนถึงตอนนี้ ผมก็ยังคงไม่รู้อยู่ดีว่าผู้หญิงคนที่ผมเห็นเดินอยู่กับพี่ด้าในตอนนั้นคือใคร เพราะเมื่อผมถามเขาว่าตกลงเขากำลังดูใจกับใครอยู่หรือเปล่า คำตอบก็คือ “ไม่มี” เหมือนเดิม

ที่จริงผมก็พยายามมองอะไรในแง่ดีขึ้นเยอะมากแล้วนะ ผมพยายามจะไม่อคติ และพยายามจะคิดให้ได้ว่าพี่เขาอยากจะไปไหนทำอะไรกับใครมันก็เรื่องของเขา เราไม่ได้เป็นแฟนกัน และพี่เขาก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย ไม่ได้คิดสนใจอะไรในตัวผมเลย แต่ถึงอย่างไรก็มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าผมจะพยายามมากขนาดไหน ผมก็ไม่เคยเข้าใจได้เลยแม้แต่นิดเดียว นั่นคือ พี่เขาจะโกหกผมว่าเขาอยู่สยาม แถมยังโกหกว่าไม่ได้ไปกับผู้หญิงทำไม

“โอเค งั้นวันนี้เราพอแค่นี้ก่อนแล้วกันนะครับ” พี่ด้าพูดพร้อมกับปิดหนังสือลง “สองชั่วโมงกว่าแล้ว แถมวันนี้เรื่องยากด้วย คงจะเหนื่อยแล้วล่ะสิ”

ผมถอนหายใจพร้อมกับเอนหลังบิดขี้เกียจ “เฮ้อออออ....”

“เป็นไง ไหวมั้ย”

ผมบิดคอไปมา “ก็ไหวอะพี่ ยังไม่ถึงตาย แค่เกือบๆ”

พี่ด้าหัวเราะเบาๆ “หิวข้าวรึเปล่า ไปหาอะไรกินด้วยกันก่อนกลับบ้านมั้ย พี่เลี้ยงเอง”

ผมดีดตัวขึ้นนั่งหลังตรงทันที “พี่ด้าจะเลี้ยงน้องกัสเหรอ งั้นไป!”

“งั้นไปไหนดีล่ะ ไปเดินเล่นสยามกันมั้ย”

“ไปครับ ไปหมดทุกที่แหละ” ผมยิ้มกว้าง

“โอเค งั้นขอเวลาพี่เปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บนึง” พี่ด้าลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าออก

ผมลุกออกจากเก้าอี้ของตัวเองแล้วล้มตัวนอนลงบนเตียงของเขา ซึ่งเขาก็ไม่ว่าอะไรผมสักคำ แถมยังหันมามองหน้าผมแล้วยิ้มๆ เป็นเชิงอนุญาตอีกด้วย

“เตียงพี่นอนสบายดีเนอะ” ผมพูดพร้อมกับกลิ้งตัวไปมา

“เหรอ ไม่รู้ดิ พี่เฉยๆ อะ แต่ระวังเหอะ กลิ้งไปกลิ้งมาแบบนั้น นอนสบายมากๆ ระวังจะหลับเอานะเว้ย”

“ปลุกด้วยก็แล้วกันนะ ถ้างั้นอะ” ผมหลับตา

“พี่ไม่แต่งตัวนานขนาดนั้นหรอกน่า” เขาพูดทิ้งท้ายไว้พร้อมกับหัวเราะหึๆ ในลำคอเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป

หลังจากที่ผมได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดลง ผมก็หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดเล่นเรื่อยเปื่อยสักพัก ก่อนที่จะต้องดีดตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ ก็มีคนมาเคาะลงบนประตูห้องของพี่ด้า

“พี่ด้า! มีคนมาอะ”

“หือออ ใครวะ กัสเปิดให้พี่หน่อยครับ แล้วบอกไปว่าพี่เข้าห้องน้ำอยู่”

ผมเดินไปเปิดประตูห้องออก แล้วก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งดูมีท่าทางตกใจเมื่อเธอเห็นว่าคนที่มาเปิดประตูห้องรับเธอนั้นไม่ใช่เจ้าของห้องอย่างที่เธอคิด

“พี่ด้าเข้าห้องน้ำอยู่น่ะครับ” ผมพูด

“อะ อ๋ออ ค่ะ ถ้าไงฝากบอกด้วยนะคะ ว่าแก้วเอาหนังสือมาคืนให้แล้ว ขอบคุณมาก” เธอยื่นถุงใส่หนังสือเรียนเล่มใหญ่เล่มหนึ่ง กับหนังสือที่น่าจะเป็นนิยายอะไรสักอย่างอีกเล่มให้ผม “แล้วก็.... แก้วซื้อขนมที่พี่ด้าชอบมาให้เป็นการขอบคุณด้วย นี่ค่ะ”

ผมรับถุงขนมอีกถุงมาถือไว้ในมือ “ครับ ได้ครับ”

“ขอบคุณมากนะคะ”

“ครับ” ผมตอบรับอีกครั้งก่อนจะปิดประตูลง

ผมเดินเอาถุงหนังสือมาวางลงบนเตียง แล้วก็ลองเปิดดูว่าผู้หญิงคนเมื่อกี้ซื้อขนมอะไรมาให้พี่ด้า ผมจึงพบว่ามันคือคุ้กกี้ช็อคโกแล็ตกับพายกรอบจากร้านที่ผมไม่รู้จักชื่อ

“พี่ด้าครับ คนที่ชื่อแก้วเอาหนังสือมาคืน แล้วก็ฝากบอกขอบคุณพี่ด้วยครับ”

“อ๋อออ.... ครับ”

“ใครเหรอพี่”

“รุ่นน้องที่มหาลัยน่ะครับ ห้องน้องเค้าก็อยู่ชั้นล่างนี่แหละ”

“อืมมม ครับ เค้าฝากขนมมาให้ด้วยนะ”

“ขนมเหรอ ขนมอะไรอะ”

“เค้าบอกว่าเป็นขนมที่พี่ชอบน่ะ เค้าเอามาให้เป็นการขอบคุณ”

เมื่อผมพูดจบ พี่ด้าก็เปิดประตูห้องน้ำออกพอดี เขาเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อโปโลสีครีม และกางเกงยีนส์ขาเดฟสีเทาอ่อน

“คุ้กกี้กับพายกรอบน่ะครับ” ผมยื่นถุงขนมให้พี่ด้า “กัสเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพี่ชอบคุ้กกี้ช็อคโกแล็ตกับพายกรอบอะ”
พี่ด้าไม่ได้ตอบอะไร แต่แค่ยิ้มๆ แล้วก็รับขนมถุงนั้นไปวางไว้บนหลังตู้เย็น

“พี่เค้าก็หน้าตาน่ารักดีนะพี่”

“กัสชอบเหรอ”

“โอ๊ยยยยย กัสไม่สนผู้หญิงแก่กว่าหรอกพี่ ก็แค่พูดเฉยๆ แค่นั้นเองเหอะ และที่สำคัญ กัสไม่แย่งพี่หรอกน่าาาา”

“เฮ้ยย แย่งอะไร”

“อ้าว พี่แก้วอะไรนั่นไม่ใช่เด็กพี่เหรอ”

“บ้าแล้ววว แค่รุ่นน้องเฉยๆ เองเว้ย”

“อ้าวว แต่กัสว่าเค้าน่าจะคิดอะไรกับพี่รึเปล่า ไม่งั้นเค้าคงไม่ซื้อขนมอะไรมาให้แบบนี้หรอกม้างง”

“เรื่องนั้นพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” พี่ด้ายิ้มอายๆ ถึงปากจะพูดว่าไม่รู้ แต่สีหน้าของเขามันบอกอย่างชัดเจนเลยล่ะว่าเขารู้ดีอยู่แก่ใจว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังคิดอย่างไรกับเขาอยู่

“พี่ต้ากับไอ้อาร์มก็เคยบอกว่าพี่อะ มีคนมาชอบเยอะแยะเต็มไปหมด จริงอ๊ะป่าว”

“อย่าไปเชื่อพวกแม่งงง กัส พวกมันก็เวอร์ไปงั้นแหละ ไม่ได้เยอะแยะอะไรขนาดนั้นหรอก คนอย่างพี่ใครมันจะมาชอบจริงๆ จังๆ”

คนๆ นั้นก็อยู่ตรงหน้าพี่แล้วนี่ไงคนนึง ทำไมพี่ถึงไม่รู้ตัวสักทีล่ะ

“อ้าว ทำไมพี่พูดงั้นอะ”

“โถ่ ถ้าพี่มีคนมาชอบเยอะแยะขนาดนั้น ตัวเลือกพี่มันก็คงเยอะใช่มะ แล้วพี่จะโสดอยู่อย่างนี้รึไง”

“อ้าววว แต่ไอ้อาร์มมันเคยบอกว่าพี่ไม่ได้สนใจจะมีใครเองไม่ใช่เหรอ พี่พูดแบบนี้ก็เหมือนพี่เองก็อยากมีอะดิ”

“ก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากมีเลย แล้วก็ใช่ว่าพี่อยากจะมีอะไรมากมายขนาดนั้นด้วยเหมือนกัน คือ.... พี่ว่าพี่ดูคนออกน่ะครับ ว่าคนไหนที่จริงจังจริงใจกับพี่บ้าง และเท่าที่ผ่านมา พี่ก็ยังไม่เจอคนที่จะชอบพี่จริงๆ และพี่ก็รู้สึกชอบเค้าด้วยเลยน่ะสิ.....” พี่ด้ามองหน้าผม “หรือต่อให้ถ้าตอนนี้พี่เจอแล้ว แต่ถ้าเค้าคนนั้นไม่พูดออกมาก่อน พี่ก็ไม่กล้าเริ่มเหมือนกันนั่นแหละ เห็นพี่เป็นแบบนี้ พี่แสดงออกไม่เก่งนะเว้ยย พี่ขี้อายนา จะบอกให้”

“อะคร้าบบบ โอเคๆ พ่อคนขี้อายยยยย” ผมทำเสียงล้อเลียน แต่พี่ด้าก็กำลังหน้าแดงอยู่จริงๆ “อะไรๆ แค่นี้ก็เขินซะแล้ววว”

“พอเลย! ปากดีจริงๆ นะเราเนี่ย” พี่ด้าเดินเข้ามาตบบ่าผมเบาๆ “ไปกันเถอะครับ ไปเดินเล่นหาอะไรกินกัน แต่อย่าลืมโทรบอกแม่ซะก่อนล่ะ”

ผมยิ้มกว้าง “โอเคคร้าบบ”

นี่เป็นแค่ครั้งที่สองเท่านั้นที่ผมได้เดินเล่น ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับพี่ด้านอกเหนือไปจากห้องนอนของผม ห้องของเขา และกองชีทกับกองหนังสือตรงหน้าในเวลาสองเดือนกว่าสามเดือนที่เรารู้จักกันมา

ที่จริงผมคงจะรู้สึกมีความสุขกับ “การเดทแบบคิดไปเองคนเดียว” ครั้งนี้ของเรามากกว่านี้นะ ถ้าหากว่าเราไม่ได้ไปเจอคนรู้จักของพี่เขาถึงสามครั้ง และมันจะไม่ทำให้ผมรู้สึกอะไรเลยถ้าหากสองในสามครั้งนั้นจะไม่ใช่พวกรุ่นน้องที่เข้ามาทักทายพี่ด้าด้วยความกระดี๊กระด๊าอย่างออกนอกหน้า และหนึ่งในสองครั้งนั้นก็ยังเป็นเกย์ออกสาวสองคนที่มาจีบปากจีบคอกับพี่ด้าอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย

หึงเว้ย!!

“พี่นี่คนรู้จักเยอะแฟนคลับเยอะจริงๆ ด้วยนะเนี่ย”

“เฮ้ยย บ้าเหรออ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก พวกนี้ก็พวกรุ่นน้องที่คณะที่พี่เคยติวให้ อะไรแบบนั้นน่ะ”

“แล้วไอ้อาร์มมันคนรู้จักเยอะแบบนี้มั้ยเนี่ย”

“เยอะๆ มันก็คนรู้จักเยอะเหมือนกัน แต่พี่เนี่ย คือ.... ฮะๆ ตอนปีหนึ่งพี่เคยทำกิจกรรมไง ปีนี้พี่ก็ไปคุมไปดูแลน้องด้วย คนก็เลยรู้จักเยอะหน่อย”

“ปีที่แล้วพี่ทำไรอะ”

พี่ด้ายิ้มอายๆ “พี่ประกวดเดือนของคณะน่ะครับ แล้วก็ไปประกวดของมหาลัยด้วย แต่ไม่ได้หรอกนะ ไม่ต้องคิดอะไรไกลขนาดนั้น”

“โหๆๆ สมแล้วจริงๆ” ผมพยักหน้าหงึกๆ

“สมแล้วอะไร”

“อ้าวว ก็พี่น่ารักออกขนาดนี้ ได้เป็นเดือนคณะก็ไม่น่าแปลกใจอยู่แล้ว แต่ที่ไม่ได้เดือนมหาลัยเนี่ย สงสัยเพราะส่วนสูงไม่ถึงล่ะม้างงง”

“เดี๋ยวเหอะ! เดี๋ยวจะโดน!” พี่ด้าหัวเราะ

“อ๊ะ แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้ามีประกวด ‘เดือนไซส์มินิ’ แบบเป็นขนาดพกพาอะไรแบบเนี้ย พี่คงได้เข้าชิงแน่ๆ อะ กัสว่า”

“เอออออ ใครมันจะไปหล่อรวยสูงยาวเข่าดีเหมือนเราล่ะ คุณออกัสสส!”

“อ๊ะแน่นอน” ผมยักไหล่ “แต่ถ้าสมมติกัสมีแฟนแบบพี่นะ กัสคงต้องหึงตายแน่ๆ เลยว่ะ” ผมลองปล่อยหมัดแย๊บออกไปอีกหนึ่งหมัด “แบบว่า แฟนเป็นดาวเป็นเดือนของคณะ หน้าตาดี เรียนเก่ง มีคนรู้จักเยอะ มีคนชอบแยะ อะไรแบบเนี้ย โหยยยย แค่คิดก็หึงๆๆๆ แล้ว!!”

“โอ๊ยยย พี่ไม่น่าหึงหรอกครับ เพราะพี่ไม่ใช่คนที่จะคุยอะไรกับใครแบบนั้นอยู่แล้วด้วย ปกติถ้าใครเข้ามาใกล้พี่มากๆ แล้วพี่ไม่ได้คิดอะไรกับเค้านะ พี่ก็จะถอยห่างออกไปทุกทีแหละ”

ผมนึกถึงผู้หญิงคนนั้นที่พี่ด้าเคยปล่อยให้เดินควงแขนกลางจตุจักรแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า แปลว่าที่พี่ด้ายอมให้เธอคนนั้นใกล้ชิดได้ขนาดนี้ ก็แปลว่าเขามีใจให้ด้วยอย่างนั้นสินะ

ที่จริงหากผมจะยอมรับว่าผมกำลังรู้สึกอึดอัดกับความรู้สึกนี้มากอย่างที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะทุกๆ วัน ผมเอาแต่นึกถึงเรื่องของพี่ด้า และผมก็ไม่มีคนคอยให้คำปรึกษาได้เลยนอกจากไอ้เมษกับไอ้ตุลย์แค่สองคน เนื่องจากพวกมันเป็นเพื่อนที่สนิทกับผมมากที่สุด และก็เป็นคนเพียงกลุ่มเดียวที่รู้ว่าผมชอบผู้ชาย แต่ว่ามันสองคนที่ถึงแม้จะรักและห่วงใยผมมาก ก็ไม่ใช่คนที่ให้คำปรึกษาอะไรใครได้ดีสักเท่าไหร่ อย่างเช่นไอ้เมษที่เป็นประเภทขาดความกล้าแต่ปากดีและใจร้อน ส่วนไอ้ตุลย์ก็ออกแนวขี้อายปากหนักไปเลยอีก ดังนั้นจะเรียกว่าที่ผ่านๆ มามันอยู่คอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษาผมก็ไม่ถูกนัก ผมคิดว่าสิ่งที่พวกมันทำให้ได้มากที่สุดก็คือรับฟังผมบ่นและระบายความในใจออกไปบ้างเท่านั้นเอง
ผมเริ่มจะรู้สึกอึดอัดกับการที่ไปหลงชอบใครแล้วเขาไม่รู้ตัวเลยแบบนี้ขึ้นมาอีกครั้ง และนอกจากนั้น ผมก็ยังรู้สึกอึดอัดกับการที่ไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นเกย์แบบนี้ด้วยเหมือนกัน อย่างน้อยๆ ถ้าคนที่สามารถให้คำปรึกษาผมได้มาตลอดอย่างพี่ต้ารู้ เรื่องมันก็คงจะง่ายกว่านี้เยอะ และผมก็คงจะสามารถปรึกษาปัญหาเหล่านี้กับพี่เขาได้ไม่มากก็น้อยล่ะนะ

นั่นน่ะสิ... ตกลงว่านี่ผมจะมัวรออะไรอยู่ ในเมื่อปกติผมก็เป็นคนที่มักจะพูดสิ่งที่ตัวเองคิดและรู้สึกกับคนที่ผมไว้วางใจออกไปตรงๆ ตลอดอยู่แล้ว และพี่ต้าเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ผมรู้สึกไว้ใจมากที่สุดด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น ทางแก้ปัญหามันก็มีอยู่ตรงหน้าผมมาตั้งนานแล้วนี่ไง เพียงแต่ผมไม่เคยที่จะคิดถึงมันเองเลยต่างหาก
เมื่อคิดได้ดังนั้น ผมจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์ของพี่ต้าทันที

“ว่าไง อ้วน” พี่ต้ารับสายอย่างอารมณ์ดี

“พี่ต้า กัสมีเรื่องอยากบอกแล้วก็อยากปรึกษาพี่หน่อยอะ”

“ว่าไงๆ” พี่เขาตอบกลับมาเหมือนกำลังกินขนมอะไรบางอย่างอยู่ไปด้วย

“พี่จำไอ้เมษกับไอ้ตุลย์ได้ใช่ปะ”

“ได้ๆ ทำไมเหรอ”

“พี่ดูออกมะว่ามันสองคนเป็นแฟนกัน”

เขาอึ้งไปเล็กน้อย “....เหอะ เหออ ก็ไม่ออกนะ น้องสองคนมันเป็นแฟนกันเหรอ”

“อื้ออ จริงๆ ก็เพิ่งคบกันได้ไม่นานน่ะนะ”

“อ๋อออ เออๆ แล้วไงอะ แล้วมันยังไงเรอะ อ้วนกำลังไม่สบายใจเรื่องเพื่อนสองคนนี้อยู่เหรอ”

“เปล่า ไม่ใช่เลยครับ”

“อ้าว แล้วเรื่องอะไรอะ สองคนนั้นมันเกี่ยวอะไร ถ้าอย่างนั้น.....”

“ก็ไม่เกี่ยวหรอก แค่จะถามว่าพี่ดูออกมั้ยว่ามันสองคนเป็นเกย์ แล้ว..... พี่ดูออกมั้ย ว่ากัสก็เป็นเหมือนกัน”

ผมได้ยินเสียงพี่ต้าสำลักขนมที่ตัวเองกำลังกินอยู่ทันที

“โขลก!! ค่อกก!”

“เอ้าๆ ใจเย็นพี่”

“แค่กๆ!! เดี๋ยว....! เดี๋ยวนะ พี่ขอกินน้ำแป๊บ.....”

ผมนั่งรอพี่ต้าดื่มน้ำจนเสร็จ

“ฮัลโหล”

“ครับพี่”

“เอออ ค่อยยังชั่ว แต่.... เมื่อกี้อ้วนว่าไงนะ”

“ป๊าววว ไม่มีอารายย กัสก็แค่อยากรู้ไง ว่าพี่ดูออกมั้ยว่ากัสเป็นเกย์รึเปล่า”

“อ้วนชอบผู้ชายเหรอ”

“อือออ ใช่พี่”

“แน่ใจนะ” เขาถามย้ำ

“พี่จะบ้าเร้ออออ! ของแบบนี้มันจะไม่แน่ใจได้ด้วยเหรอ และถ้าไม่แน่ใจ กัสจะกล้าเอามาบอกพี่แบบนี้รึไงเล่า”

“อ่าาาา.... โอเคๆ โทษทีๆ” พี่ต้ากระแอมเบาๆ “ไม่นะ พี่ดูไม่ออกอะ และพี่ว่าคนอื่นก็คงดูไม่ออกเหมือนกันนั่นแหละว่ะ”

“ก็นั่นอะดิ เพราะงั้นเมื่อกี้พี่ถึงได้ตกใจขนาดนั้นใช่มะ”

“เปล่า พี่ไม่ได้ตกใจที่อ้วนเป็นเกย์”

“อ้าว!”

“พี่ตกใจที่จู่ๆ อ้วนก็พูดเรื่องนี้ออกมาต่างหาก คือ พี่อะ ดูไม่ออกหรอกว่าอ้วนเป็นเกย์ เพราะอ้วนก็ไม่ได้แสดงออกนี่ แต่ถ้าอ้วนบอกว่าอ้วนเป็น พี่ว่าพี่ก็ไม่แปลกใจอะวะ อะไรประมาณเนี้ย งงมะ”

“อ้าววว มันหมายความว่ายังไงวะพี่ งงว่ะครับ”

“เดี๋ยวไว้ค่อยว่ากัน เอาเป็นว่า ที่จู่ๆ อ้วนมาคุยเรื่องนี้กับพี่เนี่ย แปลกว่าอ้วนกำลังมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ใช่มั้ยล่ะ พี่ว่าเราคุยเรื่องนั้นกันก่อนดีกว่า”

“พี่ไม่ได้รังเกียจที่กัสเป็นแบบนี้ใช่ปะ”

“เฮ้ย!! พี่จะรังเกียจได้ไง พี่ไม่คิดแบบนั้นหรอกน่า ของแบบนี้มันเรื่องธรรมดาเหอะ แถมกัสเองก็น้องชายพี่ และที่สำคัญ พี่เองก็เป็นเหมือนกันนั่นแหละ”

คราวนี้ถึงคราวของผมที่ต้องตกใจบ้างแล้ว “ห๊าาาา!! พี่พูดเล่นรึเปล่าเนี่ย!!”

พี่ต้าหัวเราะในลำคอเบาๆ “เปล่า พี่จะล้อเล่นทำไม เรื่องนี้ไอ้อาร์ม ไอ้ด้า เพื่อนๆ พี่คนอื่นในกลุ่มมันก็รู้”

“ไอ้อาร์มก็รู้เหรอ!”

“ใช่ แต่ก็แค่คนในกลุ่มนะ พี่ไม่ได้บอกทุกคนหรอก อย่างกับอ้วนเองพี่ก็ยังไม่เคยบอก เห็นปะล่ะ”

“กัสเองก็มีแค่ไอ้เมษกับไอ้ตุลย์ที่รู้แค่สองคนเหมือนกัน..... เออ แต่พูดถึงชื่อไอ้อาร์มขึ้นมา พี่อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกมันหรือบอกใครนะพี่ กัสยังไม่พร้อมอะ”

“อืมม พี่เข้าใจๆ เอ้า สรุปว่ากำลังไม่สบายใจเรื่องอะไร แค่รู้สึกอึดอัด หรือว่าไปรู้สึกชอบใครเข้าล่ะ”

“ทั้งสองอย่างแหละพี่.... แต่พี่อย่าเอาไปบอกใครนะ กัสไว้ใจพี่มากๆ เลยนะเนี่ย”

“พี่รู้น่า อ้วนไว้ใจพี่ใช่มั้ยล่ะครับ”

“ครับ คือออ.... กัสว่ากัสรู้สึกชอบพี่ด้าอะ”

“อ่าฮะ”

“หือออ....” ผมนิ่วหน้าให้กับปฏิกิริยาที่ผมได้รับตอบกลับมาจากที่ต้า ทำไมมันถึงได้ดูเรียบง่ายและปกติขนาดนี้ล่ะเนี่ย “ทำไมพี่ทำเสียงเหมือนพี่ไม่แปลกใจเลยอะ”

“ก็ไม่แปลกใจน่ะสิ พี่คิดว่าพี่รู้อยู่แล้วเหอะ ยิ่งพออ้วนโทรมาบอกว่าอ้วนชอบผู้ชายแบบนี้ พี่ก็ยิ่งมั่นใจเข้าไปใหญ่ว่าอ้วนต้องกำลังชอบไอ้ด้ามันจริงๆ แน่ๆ”

“เฮ้ยยย! พี่รู้ได้ไง”

“ไอ้อ้วนนนน พี่เพิ่งบอกเราไปเองนะว่าพี่ก็ชอบผู้ชายเหมือนกัน ไอ้ความรู้สึกแบบที่อ้วนกำลังรู้สึกน่ะ พี่ผ่านมาหมดแล้วเหอะ และที่ผ่านๆ มา พอไอ้ด้ามันเล่าเรื่องอ้วนแบบนั้นแบบนี้ให้พี่ฟัง พี่ก็มีคิดๆ อยู่บ้างนั่นแหละว่า ‘น้องมันกำลังชอบเพื่อนกูอยู่รึเปล่าวะ’ อะไรแบบเนี้ย”

“เรื่องอะไรมั่งวะพี่ พี่ด้าเค้าเล่าอะไรให้พี่ฟังมั่ง”

“โอ๊ยยยย เอาชัดๆ เลยก็อย่างเรื่องที่อ้วนดูเหมือนจะโกรธๆ มันนั่นแหละ พอเอามารวมๆ เข้ากับทั้งสเตตัสในเฟซบุ๊ค ชื่อเอ็ม แล้วไหนจะยังเมสเสจที่เราขยันส่งหามันบ่อยๆ กับขนงขนมที่ซื้อไปให้มันกินอีกอะ”

ผมชักรู้สึกเขินขึ้นมาเล็กๆ แฮะ นี่ผมแสดงออกชัดเจนขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย และนี่ขนาดพี่ต้ายังไม่รู้นะว่าผมเคยใช้ไอ้แผนวับๆ แวมๆ นั่นไปอีกแล้วด้วยน่ะ

“แล้วพี่ด้าเค้าเป็นเกย์มั้ยอะพี่”

“เอาจริงๆ นะ อันนี้พี่ก็ไม่รู้ว่ะ พี่เองก็เคยสงสัยมานานแล้วเหมือนกัน”

“เนี่ยแหละ ปัญหาใหญ่เลยพี่ แถมอีกเรื่องนะ นี่ขนาดพี่ต้ายังดูออกว่ากัสชอบเค้า ทำไมเค้าไม่เห็นจะดูออกเลยสักนิดอะวะ กัสเริ่มเครียดแล้วนะเนี่ย”

“อ้าว ใช้คำว่าเครียดเลยเหรอ ทำไมอะ เกิดอะไรขึ้น”

“ก็เครียดเพราะกัสไม่รู้ว่าพี่ด้ากำลังคิดอะไรของเค้าอยู่กันแน่น่ะสิพี่ บางทีก็ดูเหมือนรู้ แต่ส่วนมากก็จะดูเหมือนไม่รู้อะ แล้วอีกอย่าง ตอนนั้นกัสเองก็....”

“ก็อะไรวะ อ้วน”

ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเล่าเรื่องที่ผมเจอพี่ด้าเดินควงแขนกับผู้หญิงคนนั้นที่จตุจักรให้เขาฟัง รวมทั้งเรื่องที่เขาโกหกผมว่าเขาอยู่สยามกับเพื่อนผู้ชายพวกนั้นทั้งหมดอีกด้วย

“อืมมมม.....” พี่ต้าทำเสียงในลำคอเบาๆ หลังจากที่ฟังผมพูดจนจบ “นี่คือเหตุผลที่อ้วนไม่ตั้งใจเรียนตอนนั้นใช่มั้ย”

“ก็..... ใช่อะครับ” ผมยอมรับ

“ว่าแต่อ้วนจำหน้าผู้หญิงคนนั้นได้รึเปล่าว่าเป็นยังไง”

“โหยยย จำไม่ได้ขนาดนั้นหรอกพี่ แต่ถ้าเห็นก็คงจำได้อะ แค่คุ้นๆ แต่อธิบายรายละเอียดไม่ถูกหรอก”

“คือเรื่องนี้พี่ว่ามันก็พูดยากนะ อ้วน พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันต้องโกหกเรานะ แต่ถ้าจะให้ดี พี่ว่าอ้วนคุยกับมันตรงๆ เลยดีกว่ามั้ย หรือจะให้พี่ไปคุยให้”

“คุยตรงๆ ยังไงพี่ จะให้กัสไปบอกพี่เค้าเอาตอนนี้น่ะเหรอว่า ‘พี่ด้า ที่จริงเมื่อเดือนก่อนอะ กัสรู้นะว่าพี่โกหกกัสและไปเดินเจเจกับผู้หญิงคนนึง เพราะกัสเห็นพี่ด้วยตาของกัสเองเลยนะ’ แบบเนี้ยอะเหรอ คือเรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วนะพี่ มันจะไปพูดได้ยังไง และที่สำคัญ กัสจะมีเหตุผลอะไรที่จู่ๆ ถึงจะยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอะ”

“อ้วนเคยคิดอยากจะสารภาพกับมันรึเปล่าล่ะ”

“เคยครับพี่ เคยจริงๆ” ผมยอมรับตรงๆ “แต่มันก็พูดไม่ออกอะ เพราะแม่งดูไม่มีหวังเลย และกัสกลัวด้วยว่าถ้าเกิดพี่เค้ารู้ขึ้นมาแล้วพี่เค้าจะรับไม่ได้ จะถอยห่างจากกัสไป อะไรแบบนี้น่ะ”

“แล้วอ้วนจะให้พี่ทำไง ให้พี่ลองคุยกับไอ้ด้าให้ดีมั้ยล่ะ”

“โหหห ไม่ต้องหรอกพี่ พี่จะไปคุยยังไงอะ พี่รู้จักกันมาปีกว่า พี่ยังไม่รู้เลยว่าพี่ด้าเค้าชอบผู้ชายรึเปล่า แล้วจู่ๆ ตอนนี้ไปพูดเรื่องนี้มันก็แปลกแย่อะดิ”

“ไอ้เรื่องนั้นมันก็จริง แต่พี่ว่ามันก็น่าจะมีทางที่พี่ช่วยเราได้บ้างดิ ใช่มะ พี่เห็นน้องพี่ไม่ค่อยสบายใจแบบนี้ พี่ก็พลอยเครียดตามไปด้วยนา”

“ไม่เป็นไรหรอกพี่ กัสแค่อยากให้พี่รู้ไว้น่ะครับ กัสจะได้มีเพื่อนไว้คอยรับฟังและให้คำปรึกษาได้อีกคนนึง เพราะบางทีกัสก็แค่อึดอัดน่ะ พวกไอ้เมษมันก็ไม่ได้รู้จักกับพี่ด้าเหมือนอย่างพี่ไง”

“พี่เข้าใจ แต่เอาเป็นว่าพี่จะลองหาวิธีคุยแย็บๆ กับไอ้ด้ามันดูให้ด้วยก็แล้วกัน แต่มีอยู่สองเรื่องที่พี่อยากจะบอกอ้วนไว้ให้อ้วนสบายใจขึ้นนะ เรื่องแรกเลยคือ ไอ้ด้าน่ะ มันไม่ใช่คนเจ้าชู้ที่จะเดินควงคนนั้นคนนี้ได้ง่ายๆ จริงๆ มันอาจจะเป็นคนขี้เกรงใจ แต่มันไม่ใช่คนที่ฉวยโอกาสจากผู้หญิงหรือใครคนไหนอย่างแน่นอน ส่วนอีกเรื่อง อ้วนไม่ต้องกังวลเลยว่าถ้าเกิดไอ้ด้ารู้ว่าเราไปชอบมันแล้วมันจะรู้สึกอึดอัดหรือตีตัวออกห่างไปน่ะ เพราะการที่พี่ยังเป็นเพื่อนสนิทกับมันอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์อันนึงแล้วไม่ใช่รึไง”

“ฮะ! พี่เคยชอบพี่ด้าเหมือนกันงั้นเหรอ!” ผมตกใจ

“เปล่าๆ พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่พี่เองก็เป็นเกย์ไง พี่ไม่เห็นมันจะมีท่าทีรังเกียจหรืออะไรพี่เลยแม้แต่นิดเดียวนะ ตั้งแต่แรกเลยด้วย และมันเองก็มีทั้งเพื่อน ทั้งรุ่นพี่ผู้ชายเข้ามาจีบอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่มันก็ไม่เคยบอกว่ารังเกียจคนพวกนั้นหรืออะไรสักครั้งเลยนะเว้ย เว้นแต่มันจะวางตัวต่างออกไปหน่อยเท่านั้นเอง”

“คือยังไงพี่”

“ไม่รู้สิ ประมาณว่ารักษาระยะห่างเอาไว้จนกระทั่งคนพวกนั้นต่างก็ถอดใจกันไปเองน่ะ”

ก็นั่นแหละ คือสิ่งที่ผมกลัวที่สุด เพราะผมไม่อยากจะห่างกับพี่เขาไปมากกว่านี้เลย... นี่ผมคงจะเห็นแก่ตัวมากเกินไปอย่างนั้นสินะ

สรุปว่าคืนนั้นผมก็คุยกับพี่ต้าเสียจนดึก และถึงแม้ว่าผมจะปิดไฟเตรียมตัวเข้านอนแล้ว ผมก็ยังคงนอนไม่หลับอยู่ดี ล่าสุดที่ผมพลิกตัวดูนาฬิกาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหลับลงไปก็เป็นเวลาตีสามกว่าๆ เข้าไปแล้ว

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
วันถัดมา ผมไปเรียนกับพี่ด้าด้วยสภาพสะโหลสะเหล ผมยอมรับกับพี่เขาไปตามตรงว่าเมื่อคืนผมนอนดึกมากและนอนไม่ค่อยหลับ จึงทำให้ผมอยู่ในสภาพแบบนี้ พี่ด้าที่เห็นผมนั่งสัปหงกตั้งแต่ยังไม่ถึงชั่วโมงแรกดีคงจะทนสภาพแบบนี้ของผมต่อไปอีกไม่ไหว เขาจึงบอกให้ผมไปนอนหลับสักงีบบนเตียงของเขาก่อนก็ได้

“จะดีเหรอพี่ เพราะกัสนอนจริงๆ นะเว้ย และเวลากัสนอนนี่อย่างน้อยก็ทีละสองชั่วโมงเลยนะ กว่ากัสจะตื่นอะ” ผมถามกลับ

“นอนไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก เพราะถึงไงฝนก็ทำท่าจะตกอยู่แล้วด้วย เรียนเสร็จกัสก็คงยังกลับบ้านไม่ได้อยู่ดี เดี๋ยวพี่โทรบอกแม่ให้ ไม่ต้องห่วงหรอกน่ะ”

“งั้นกัสไม่เกรงใจนะพี่ ไม่ไหวจริงๆ แล้วว่ะ ง่วงโฮกกกกก”

ผมลุกออกจากเก้าอี้แล้วเดินโงนเงนไปล้มลงบนเตียง จากนั้นก็ค่อยๆ คืบไปหนุนหมอนและดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเอาไว้

“ตามสบายเลย เดี๋ยวพี่ปิดไฟให้”

“แล้วพี่จะทำไรอะ”

“พี่คงนั่งเล่นคอมฯ เรื่อยเปื่อยนี่แหละครับ ไม่ต้องกังวลหรอก นอนไปเถอะ เดี๋ยวพอได้เวลาแล้วพี่จะปลุกเราเอง”

“อืมมมม....”

ที่จริงแล้วผมก็รู้สึกตื่นเต้นและกังวลนิดหน่อยเหมือนกันนะ ที่ได้มานอนอยู่บนเตียงของพี่ด้าแบบนี้ แต่เนื่องจากความง่วงที่มีมากกว่าไม่รู้กี่สิบเท่ามันเข้ามารุมทำร้ายผมจนไม่สามารถทนฝืนเปิดเปลือกตาได้อีกต่อไปแล้ว สุดท้ายผมจึงผมค่อยๆ หลับลงไปในที่สุด

ผมหลับไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้ได้ แต่ครั้งแรกที่ผมตื่นขึ้นมาก็คือตอนที่ผมกำลังพลิกตัวและเห็นพี่ด้ากำลังนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ของตัวเองอยู่ หลังจากนั้นผมก็หลับลงไปอีกครั้ง และเมื่อผมลืมตาขึ้นอีกก็เป็นตอนที่ผมรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวหนักๆ บนเตียง

“อืมมมมม.....” ผมหยีตาและบิดตัวไปมาเล็กน้อย “กี่โมงแล้วอ่าครับพี่”

“เพิ่งจะบ่ายโมงกว่าเองครับ” พี่ด้าที่นั่งลงข้างๆ ผมตอบ

“หือออ.... ฝนตกเหรอฮะ”

“ใช่ครับ หนักมากด้วย ข้างนอกมืดไปหมดเลยเนี่ย พี่โทรบอกแม่เราให้แล้วนะว่าฝนตกหนักมาก กัสคงยังกลับไม่ได้ พี่เลยจะให้เราอยู่ที่นี่ไปก่อนน่ะ”

“งืมมมมม.... ครับ” ผมพยักหน้าเบาๆ “หนาวอะ”

“คงเพราะฝนตกด้วยน่ะ จะให้พี่เบาแอร์ลงหน่อยมั้ย”

“ไม่เป็นรายยย ไม่ต้องเบาแอร์หรอกครับ......” ผมขยับผ้าห่มให้กระชับขึ้นเล็กน้อย “แค่พี่ด้ากอดกัสก็พอและ”

พี่ด้ายิ้มกว้างออกมาพร้อมกับหัวเราะในลำคอเบาๆ “ทะลึ่งละ ไอ้เด็กคนนี้ กล้าพูดเรื่องแบบนี้ได้หน้าตาเฉยเลยนะ พี่ว่ากัสเองก็คงเจ้าชู้ไม่แพ้ไอ้อาร์มมันเหมือนกันนะเนี่ย” เขาขยี้หัวผมเบาๆ

“ม่ายยย กัสไม่เคยพูดแบบนี้กับใครนะพี่” ผมรีบปกป้องตัวเองทันที แต่แล้วพอหลังจากที่ผมพูดจบไปได้อึดใจหนึ่ง ผมถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่านี่มันก็เท่ากับผมกำลังสารภาพรักกับเขากลายๆ อยู่เลยนะเนี่ย
จากตอนแรกที่ผมยังรู้สึกงัวเงียอยู่ ก็กลายเป็นผมตื่นขึ้นเต็มตาแทบจะในทันที
“พี่ขอนอนด้วยคนก็แล้วกัน เห็นกัสนอนแล้วพี่ก็อยากจะนอนมั่งว่ะ”

สิ่งที่ผมเพิ่งได้ยินยิ่งทำให้ผมตื่นเต้นหนักมากขึ้นไปอีก

“เอ่อออ แล้วใครจะปลุกกัสอะคราวเนี้ย”

“พี่ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้แล้ว ไม่เป็นไรหรอก” เขาพูดพร้อมกับสอดตัวเข้ามาใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับผม

“อืออออ อะไรวะ เป็นครูสอนพิเศษแต่จะมานอนซะเองนะ”

“หึๆ ก็ลูกศิษย์เล่นนอนยั่วอยู่บนเตียงขนาดนี้นี่หว่า จะให้ครูทำไงอะ ครูก็ง่วงเป็นเหมือนกันนะเว้ย” เขาตอบ จากนั้นก็หันหน้ามาหาผม “และฝนก็ท่าทางจะตกอีกนาน ยังไงกัสก็ต้องอยู่ที่หอพี่อีกสักพักนั่นแหละ”

“เออ ก็จริงแฮะ” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ

“และที่สำคัญ พี่มีเรื่องอยากคุยกับกัสด้วย เรามานอนคุยกันหน่อยดีมะ ตื่นแล้วรึยังล่ะ”

ผมส่ายหน้า “ป๊าววว หลับอยู่”

พี่ด้ายิ้มชอบใจ “งั้นตอนนี้ก็ละเมออยู่อะดิ”

“อือออ ช่ายยยย”

“ดีแล้ว งั้นก็หลับไปนะ พี่จะถือว่าพี่พูดคนเดียวก็แล้วกัน....” พี่ด้าหันกลับไปนอนมองเพดานเหมือนอย่างเคย แก้มของเขาช่างขาวนวลจนผมอยากจะชะโงกหน้าเข้าไปจุ๊บเสียจริงๆ

“อ้าวว แล้วไหงไม่พูดอะ” ผมถามขึ้นหลังจากที่เห็นว่าเขาเงียบไปนาน

“ใจเย็นดิ กำลังเรียบเรียงอยู่”

“ฮ่าๆๆ ก็งี้แหละ คนแก่แต่ใช้ซีพียูเซเลรอน วินโดว์สเก้าเจ็ด เลยประมวลผลช้าาาา อะๆๆ รอๆๆ”

พี่ด้าหัวเราะในลำคอเบาๆ “คือ.... เอางี้ดีกว่า พี่อยากรู้ว่ากัสคิดว่าพี่เป็นคนยังไงอะ”

เมื่อเจอกับคำถามที่ไม่ได้คาดคิดแบบนี้ ผมก็ถึงกับอึ้งไปทันที “หะ เหอออ หมายความว่าไงพี่ ไหนตอนแรก.... เฮ้ยยย! ไม่ดิ ตอนนี้กัสหลับอยู่นะพี่! พี่มาถามกัสได้ไง” ผมหลับตาลงแล้วแกล้งทำเสียงกรน

“ไอ้ตูดหมึกเอ๊ยยย! ไม่ต้องมาทำฟอร์มเลย เร็วเข้า พี่ถามไปแล้วก็ตอบมาเร็วๆ”

ผมลืมตาขึ้น “ตอบไหนอะพี่ โหหห ก็ถ้าให้กัสตอบ กัสก็คงบอกว่าพี่เป็นคนหน้าตาดี น่ารัก เรียนเก่ง สอนหนังสือเก่ง มีน้ำใจมากๆ อารมณ์ดี กวนตีนนิดๆ แต่ก็สุภาพ อัธยาศัยดี อะไรแบบเนี้ยยย”

“โหห นี่พี่ดูเป็นคนดีขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย ฮ่าๆๆ”

“ช่ายยย แต่อย่าเพิ่งเหลิงอย่าเพิ่งหลงตัวเองไปพี่ กัสเป็นคนดีกว่าพี่อีก เพราะกัสอะ ทั้งหล่อ ทั้งน่ารัก เล่นกีฬาเก่ง หัวก็.... โอเคอะ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะกัสยังร่าเริง ตลก คุยเก่ง มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เข้ากับคนง่าย เป็นที่พึ่งพาได้ ไม่ชอบโกหก รักเพื่อน รักครอบครัว รักลูกหมารักลูกแมว รักเด็ก อยากให้โลกสงบสุข แล้วก็ยังรักเดียวใจเดียวอีกด้วยนะ” ผมยกนิ้วขึ้นนับ “แล้วยังมีอะไรอีกวะ.... โอ๊ยยย! เยอะแยะอะพี่ ให้เขียนเป็นเรียงความใส่เอสี่แปดแผ่นก็ยังไม่หมดหรอก”

“เรานี่มันเป็นเด็กอารมณ์ดีจริงๆ เลยนะ” พี่ด้าตะแคงตัวหันมาฉีกยิ้มกว้างให้ผม

“ก็บอกแล้วว่ากัสน่ารักจะตายยย ใครๆ ก็หลงร๊ากกก”

“อะเหรอออออ แล้วถ้างั้นทำไมไม่มีแฟน”

ผมหุบยิ้มลงแล้วยักไหล่เบาๆ “สงสัยเพราะไม่ค่อยมีใครเห็นส่วนดีของกัสล่ะมั้ง และที่สำคัญ คนที่กัสไปชอบ เค้าก็ดูจะไม่สนใจในตัวกัสเลยอะดิ”

“หือออ ทำไมถึงดูแน่ใจขนาดนั้น”

“ม่ายยยรู้” ผมหันจากใบหน้าของพี่เขาไปมองเพดานห้องแทน

“คือเรื่องของเรื่องน่ะ พี่เห็นกัสชอบถามแล้วก็ชอบพูดถึงเรื่องแฟนพี่ เรื่องที่พี่กำลังชอบใครรึกำลังคบกับใครอยู่รึเปล่าอะไรแบบนี้บ่อยๆ ไง พี่ก็เลยอยากรู้ว่ากัสเห็นว่าพี่เป็นคนเจ้าชู้เหรอ”

“ก็ไม่นะครับ กัสทำให้พี่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ อะ”

“ประมาณนึงมั้ง”

“เอ้า เวรรร ขอโทษทีพี่ด้า กัสไม่ได้ตั้งใจจะสื่อออกไปแบบนั้น” ผมหันกลับไปหาเขา “คือกัสไม่ได้มองว่าพี่เจ้าชู้นะเว้ย แต่แบบ กัสไม่รู้ไงว่าพี่คิดยังไงกันแน่ อะไรแบบเนี้ยไง กัสว่าพี่เป็นคนดูยากอะ ไม่รู้ว่ากำลังคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่ในใจจริงๆ กันแน่ เพราะพี่เอาแต่ยิ้มเอาแต่หัวเราะแล้วไม่ค่อยแสดงออกล่ะมั้ง ไม่เหมือนกัสที่จะพูดหมด แสดงออกหมด คิดยังไงก็บอก อะไรแบบนี้อะ เพื่อนกัสส่วนมากมีอะไรมันก็จะพูดๆ กันหมดเลยว่ากำลังชอบใคร ไม่ชอบใคร คิดอะไรยังไงกับใครรึเรื่องอะไรอยู่ อะไรแบบเนี้ย กัสก็เลยไม่ค่อยชินล่ะมั้งครับ”

“อืออ ใช่ กัสเป็นคนช่างพูดแล้วก็แสดงออกจริงๆ นั่นแหละ พี่อยู่ด้วยแล้วรู้ดีเลย”

“ใช่มะล่ะ เนี่ย บางทีเพื่อนกัสที่โรงเรียนมันยังเคยบอกเลยว่ากัสอะ พูดมาก แล้วก็ซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองจนเกินไป แบบว่าบางทีก็เก็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่น่ะครับ บทจะดีก็ดี และถ้าไม่พอใจอะไรกัสก็จะโวยวายแม่งเลย เงี้ย”

“งั้นเหรอ แต่พี่ว่าก็ดีนะ มันทำให้คนอื่นเข้าใจเราในสิ่งที่เราเป็นจริงๆ แล้วก็จะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดกัน”

“ก็คงแบบนั้นแหละฮะ”

“จริงๆ พี่คิดว่าพี่คงต้องหัดเป็นคนที่มีอะไรก็พูดตรงๆ บ้างแล้วล่ะ.....” จู่ๆ น้ำเสียงของพี่เขาก็ดูจริงจังมากขึ้น “พี่คิดว่าพี่ต้องขอโทษกัสอย่างนึงนะ”

“เหอออ เรื่องอะไรพี่”

“พี่เคยโกหกกัสไปครั้งนึง”

หัวใจของผมเริ่มเต้นแรงขึ้นเล็กน้อยทันที “เรื่องอะไรอะครับ”

“ตอนนั้นที่พี่บอกว่าพี่ไปธุระกับเพื่อนที่สยามน่ะ จริงๆ ตอนแรกพี่ก็นึกว่าแบบนั้นเหมือนกัน แต่ไปๆ มาๆ มันกลายเป็นว่าพี่ต้องไป....” เสียงของเขาค่อยๆ จางหายไป ก่อนที่เขาจะเริ่มพูดต่อ “คืองี้ เรื่องของเรื่องคือมันมีผู้หญิงคนนึง เป็นรุ่นน้องของเพื่อนในกลุ่มพี่นี่แหละ มาชอบพี่ และเราก็คุยกันมาสักพักแล้วล่ะ แล้วก็สนิทกันประมาณนึง ตอนนั้นเค้าชวนพี่ไปทำธุระแถวสยามเป็นเพื่อน แล้วเพื่อนพี่มันฝากให้พี่เนี่ย ช่วยดูแลรุ่นน้องคนนี้ของมันด้วย พี่ก็เลยตอบตกลงไป แต่พอถึงวันนั้นขึ้นมาจริงๆ เค้าดันมาบอกพี่ว่าอยากไปเดินสวนแทน พี่ก็เลยต้องไปเพราะรับปากเค้าไว้แล้ว และแบบ.... เค้าก็แอบแรงนะ แสดงออกถึงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจนมากกกก และพี่ก็เคยบอกกัสไปแล้วว่าถ้าใครเข้ามาอะไรกับพี่มากๆ แต่ถ้าพี่ไม่คิดจะเล่นด้วย พี่ก็จะถอยห่างออกมาเลยน่ะ เพราะงั้นหลังจากนั้น พี่ก็ไม่เคยไปเจอเค้าอีกเลยอะ พยายามคุยให้น้อยลงด้วยอะไรด้วย พี่ไม่ไหวว่ะ ผู้หญิงแรงๆ แบบนี้ บอกตรงๆ ว่าพี่กลัว”

“อ่ออออ นี่คือเรื่องตอนที่พี่บอกกัสว่าพี่อยู่สยามกับเพื่อน แต่จริงๆ แล้วคือพี่ไปเดินสวนอยู่กับน้องคนนั้นใช่มะครับ”

“ใช่ครับ”

“แล้วพี่ไม่รู้มาก่อนเลยเหรอว่าไอ้น้องคนนั้นอะไรเนี่ย มันชอบพี่อะ”

“จริงๆ พี่ก็พอรู้แหละ แต่พี่ไม่คิดไงว่าเค้าจะกล้าขนาดนั้น จะทำขนาดนั้นน่ะ”

“อ่อออออ..... แล้วว่าแต่นี่พี่จะบอกเรื่องนี้กับกัสทำไมอะเนี่ย จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลยนะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่บังคับให้ฟังดูเหมือนผมไม่รู้สึกใส่ใจเลยมากที่สุด

“ไม่สำคัญจริงเหรอ.......” พี่กัสหันมาหาผม “แล้วทำไมตอนนั้นกัสต้องโกรธพี่ขนาดนั้น มันไม่ใช่เพราะว่ากัสเห็นพี่เดินกับน้องคนนั้นที่เจเจรึไง”

ผมหน้าแดงและไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี ที่จริงเขาไม่ควรจะรู้เรื่องนี้ได้นี่นา

“ไอ้ต้ามันบอกพี่น่ะ” พี่ด้าตอบเหมือนกับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ “พี่เพิ่งได้คุยกับมันเรื่องนี้ และพี่คิดว่าพี่คงต้องพูดให้กัสเข้าใจ เพราะพี่รู้ว่ากัสไม่ชอบคนโกหกใช่มั้ยล่ะ และพี่ก็เลยอยากให้กัสรู้ว่าพี่เองก็ไม่ได้อยากจะโกหกกัสเหมือนกัน”

“คือ กัสก็ไม่ได้........”

“เอาจริงๆ พี่ว่าพี่กำลังเขินมากเลยว่ะ ตอนนี้น่ะ”

“เอ่อออ นะ แล้วพี่จะให้กัสทำไงล่ะเนี่ย”

“ไม่ต้องทำไงหรอก.... ตกลงว่า กัสคิดกับพี่ยังไงกันแน่ครับ”

หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเพราะคำถามนี้ทันที

“เอ้า ก็กัสบอกไปแล้วไง เมื่อกี้อะ”

“พี่ไม่ได้ถามว่าเห็นว่าพี่เป็นคนยังไงนะ แต่พี่ถาม.... เอ่ออ... ว่ากัสคิดยังไงกับพี่ที่เป็นคนแบบนี้น่ะ”

ผมรู้สึกเขินจนหน้าแดงไปหมด แต่เมื่อลองมองดูหน้าของพี่ด้าดีๆ ผมก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่าระหว่างผมกับเขา ใครมันจะหน้าแดงกว่ากัน เพราะถึงแม้ว่าห้องจะค่อนข้างมืด ผมก็ยังเห็นเลยว่าเขาหน้าแดงมากจริงๆ

ผมว่านี่แหละ คือโอกาสเพียงครั้งเดียวของผม ถ้าผมปล่อยให้มันหลุดลอยไป ผมก็ไม่รู้แล้วว่าจะมีวันได้ไขว่คว้ามันไว้อีกครั้งเมื่อไหร่

“กัสก็เพิ่งบอกไปไม่ใช่เหรอ พี่ ว่ากัสไม่เคยขอใครกอดแบบเมื่อกี้มาก่อนเลยอะ และกัสก็เป็นคนรักเดียวใจเดียวซะด้วย....”

“กัส.... พูดแบบนี้ แปลว่า.... กัสชอบพี่เหรอ”

เอาแล้วไง!

ผมนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้าออกมาเบาๆ “ใช่ครับ.....”

หลังจากสิ้นเสียงอันแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบของผม ความเงียบก็เข้ามาปกคลุมระหว่างเราสองคนทันที เสียงของพายุฝนและลมกรรโชกที่พัดโหมกระหน่ำอยู่ข้างนอกคือเพียงสิ่งเดียวที่ช่วยเตือนผมว่าผมยังคงตื่นอยู่ และนี่คือความจริง ไม่ใช่เพียงแค่ฝันไป

“ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”

“เอาจริงๆ ปะพี่.... ก็ตั้งแต่เราจะเดินชนกันที่หน้าห้องน้ำนั่นแล้วแหละ แบบว่า รักแรกพบโคตรๆ อะ แต่กัสรู้ว่าพี่ไม่ได้คิดอะไรกับกัสหรอก กัสรู้ว่าพี่ไม่ได้เป็นเกย์ ไม่ได้ชอบผู้ชาย พี่ต้ามันเคยบอกกัสแล้ว และที่สำคัญ พี่ก็เห็นกัสเป็นเหมือนน้องชายแบบที่พี่ต้ามันคิดกับกัสนั่นแหละ กัสรู้ครับ”

“เรานี่เป็นคนคิดอะไรแล้วก็พูดหมดจริงๆ ด้วยนะ” เขายิ้มน้อยๆ พร้อมกับหัวเราะในลำคอเบาๆ ไปด้วย

“เหออ ยังไงน่ะ พี่”

“กัสคิดว่าทำไมพี่ถึงรู้ว่ากัสชอบพี่อะ”

“ก็พี่ต้ามันเป็นคนบอกพี่เองไม่ใช่เหรอ ก็เมื่อกี้พี่บอกเองอะว่าพี่คุยกับพี่ต้ามาแล้ว”

“ก็ใช่ แต่เมื่อกี้มันแค่บอกพี่ว่ากัสเห็นพี่ที่สวน ไม่ได้บอกพี่หรอกนะว่ากัสคิดยังไงกับพี่น่ะ”

“อ้าววว”

“ก็ใช่อะดิ แต่พี่อะ รู้มาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เราเริ่มเรียนกับพี่ตอนแรกๆ แล้วนั่นแหละ”

“พี่รู้ได้ไงอะ”

“โอ๊ยยยย กัส พี่ไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะครับ ใครมันจะไม่รู้บ้าง ทั้งเมสเสจ ทั้งเวลาที่กัสอยู่กับพี่ รวมถึงท่าทางคำพูดอะไรพวกนั้น พี่ก็ดูออกครับ และที่สำคัญ กัสเองก็ยั่วพี่ตั้งหลายครั้งเหอะ คิดว่าพี่ดูไม่รู้เหรอว่ากัสจงใจทำผ้าเช็ดตัวหลุด จงใจไม่ใส่เสื้อเดินไปเดินมา ไม่ใส่กางเกงใน นั่งอ้าขา เกาไข่ อะไรต่ออะไรน่ะ”

“อะไรพี่!! ไม่มีเหอะ!!” ผมเขินจนหน้าแดง ทั้งๆ ที่ผมยังไม่อายที่จะเล่าเรื่องพวกนี้ให้ไอ้เมษฟัง แต่พอรู้ว่าที่จริงพี่เขาดูแผนการของผมออกหมดมาตั้งแต่แรก มันก็ทำให้ผมรู้สึกเขินจนแทบอยากจะมุดแผ่นดินหนีไปเลยเหมือนกัน

“โกหกชัดๆ” เขาหัวเราะเบาๆ

“เออๆๆ!! โอเคๆ! ยอมรับก็ได้ว่าก็มีมั่งอะแหละ ก็กัสอยากรู้นี่หว่าว่าพี่จะชอบผู้ชายรึเปล่าน่ะ”

“แล้วตกลงตอนนี้รู้รึยัง”

“ไม่รู้ดิ ก็คงไม่ได้ชอบใช่มั้ยล่ะ”

“แล้วกัสคิดว่าทำไมตอนนั้นพี่ถึงต้องโกหกกัสว่าพี่ไม่ได้ไปกับผู้หญิงน่ะครับ”

“ไม่รู้อะ กัสจะรู้ได้ไงล่ะ เพราะงั้นกัสถึงได้หงุดหงิดอยู่ตั้งนานไง”

“งั้นถ้าพี่บอกว่า พี่โกหกเพราะพี่ไม่อยากให้กัสรู้ว่าพี่ไปกับผู้หญิงคนอื่น พี่กลัวกัสจะไม่สบายใจล่ะ กัสจะว่ายังไง”
ผมตาโต “หะ.... หาาาา!”

“พี่เคยบอกกัสแล้วนี่ ว่าพี่อะ ไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มก่อนหรอก พี่ไม่กล้าขนาดนั้น และที่สำคัญ พี่ก็เคยบอกกัสไปแล้วนี่ครับว่าถ้าพี่รู้ว่าใครมาชอบพี่ รุกใส่พี่มากๆ แล้วพี่ไม่ได้สนใจไม่คิดอะไรกับคนๆ นั้นเลย พี่ก็จะถอยห่างออกมา แล้วกัสว่าที่ผ่านๆ มา กับที่พี่มานอนอยู่บนเตียงเดียวกับกัสตอนนี้เนี่ย มันดูเหมือนว่าพี่ถอยหนีห่างจากกัสมั้ยล่ะ” พี่ด้าพูดไปยิ้มไปแบบอายๆ
ยิ่งเวลาเห็นพี่เขาเขินแบบนี้ ผมก็ยิ่งอยากจะรวบตัวเขาเข้ามากอดแล้วระดมจูบลงบนแก้มของเขามากขึ้นไปอีก คนอะไรทำไมมันจะน่ารักได้ขนาดนี้วะเนี่ย!

“แล้วที่สำคัญนะ กัสเป็นคนที่รุกใส่พี่หนักที่สุดเท่าที่เคยมีคนมาจีบพี่เลยด้วยเหอะ ขอบอก”

“เดี๋ยวนะๆ พี่ด้า ตอนนี้กัสกำลังงงๆ อะ สรุปว่าพี่ด้ารู้อยู่แล้วใช่มั้ย ว่ากัสชอบพี่อะ”

“อืมม รู้มานานแล้วด้วย”

“แต่พี่ไม่ได้รังเกียจ ไม่ได้คิดจะถอยห่างกัสไปเลย”

“ไม่เคยสักนิด”

“แล้วถ้าแบบนั้นทำไมพี่ไม่แสดงออกอะไรให้มากกว่านี้หน่อยเล่า!! โหหหห!! ปล่อยให้กัสเครียดอยู่ได้คนเดียวตั้งนาน!” ผมลุกขึ้นโวย

“เอ้า! พี่ก็แสดงออกในแบบของพี่แล้วนะว่าพี่ไม่ได้รังเกียจที่กัสชอบพี่และมาจีบพี่เลยน่ะ” พี่ด้าเองก็ชันตัวขึ้นนั่งท่าเดียวกับผม

“อย่างในสเตตัสเราในเฟซบุ๊ค พี่ก็ยังไปตอบเลยไม่ใช่รึไง”

ผมนึกย้อนกลับไป “ไอ้ตอบด้วยหน้าอิโมยิ้มกว้างนั่นน่ะนะ”

“ก็นั่นแหละ”

“โอเคๆ แล้วสรุปที่พูดๆ มาทั้งหมดเนี่ย พี่แค่ไม่ได้รังเกียจที่กัสรู้สึกแบบนั้นกับพี่เฉยๆ เหรอ”

“คือออ..... ก็.....จะให้พี่พูดยังไงดีล่ะ” เขาก้มหน้าลงนิดหน่อย

“เอาเหอะ กัสเข้าใจครับพี่..... ก็งี้แหละ กัสเข้าใจว่ามันพูดยาก”

“นั่นสินะ บางทีการกระทำมันก็อาจจะง่ายกว่าและบอกความหมายได้ดีกว่าคำพูดจริงๆ ใช่มั้ยล่ะ”

พี่ด้าเงยหน้าขึ้นสบตากับผม เขายิ้มให้ผมเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ชะโงกหน้าเข้ามาหาผม ด้วยความตกใจ ผมจึงทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งตัวแข็งเกร็งอยู่แบบนั้น และเมื่อรู้สึกตัวอีกที ริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของเขาก็ประทับลงบนริมฝีปากของผมอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยนแล้วเรียบร้อย

“แบบนี้ชัดรึยัง” พี่ด้าพูดขึ้นหลังจากที่จุ๊บปากผมเรียบร้อยแล้ว

“อะ.... เอ่ออ....”

“ว่าไง พี่แสดงออกชัดพอรึยังว่าคิดยังไงน่ะ” เขาพูดทั้งๆ ที่หน้าแดงก่ำ

“เอ่อออ..... ก็ยังไม่ชัดเท่าไหร่อะพี่ ขออีกสักทีได้ปะ เผื่อจะชัดมากกว่านี้อะ”

“เฮ้ย! ไอ้ทะลึ่ง!”

“น่าาาา นะ ก็มันยังไม่ชัดจริงๆ นี่หว่า เมื่อกี้มันแค่จุ๊บแป๊บเดียวเอง กัสขออีกทีดิ” ผมชูนิ้วชี้ขึ้นและทำหน้าอ้อน “น่านะ นะครับ! สุดหล่อ! ขอกัสหน่อยนะๆ”

“พอแล้ว!” เขาตีมือลงบนแก้มของผมเบาๆ “เอาไว้เป็นแฟนกันก่อน แล้วถึงจะให้อีก”

“อ้าวววว! นี่เรายังไม่ได้เป็นแฟนกันเหรอเนี่ย”

“ก็แล้วกัสเคยบอกรักพี่สักครั้งรึยังเหอะ คำว่า ‘ชอบ’ พี่ยังไม่เคยได้ยินเลยด้วยซ้ำ จู่ๆ จะมาขอเป็นแฟนได้ไงวะ มันจะข้ามขั้นไปรึเปล่า”

“โอเคๆ งั้นกัสจะพูดให้ฟังบ่อยๆๆ เลย กัสชอบพี่ด้านะคร้าบบบ ชอบมากๆๆๆ ชอบมากที่สุดในโลกเลยยย” ผมยิ้มกว้างพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้พี่เขา “กัสไม่เคยรู้สึกชอบใครเท่านี้เลยจริงๆ นะ เพราะงั้น..... มามะ! ขอหอมแก้มทีนึง!”
พี่ด้ายิ้มและส่ายหน้าเบาๆ ผมจึงรีบฉวยโอกาสนี้ขโมยจุ๊บแก้มซ้ายของเขาเสียเลย

“เฮ้ยยย! ง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ!!”

“ง่ายบ้าอะไรพี่! กว่าจะได้ทำแบบนี้เนี่ย กัสต้องพยายาม ต้องเครียด ต้องเปลืองตัวขนาดไหนเหอะ โถ่”

“แล้วคุ้มมั้ยล่ะ”

ผมยิ้มกว้าง “คุ้มขนาดเอาล็อตเตอรี่รางวัลที่สองมาแลกยังไม่ยอมเล้ยยยย!!”

“อ้าว แล้วรางวัลที่หนึ่งล่ะ”

“อันนั้นอาจจะต้องลองขอคิดดูก่อนอะ”

พี่ด้าหัวเราะชอบใจ “เนี่ยนะ รักมากๆๆ ของกัสน่ะ”

“แหมมม โถ่เอ๊ยยย ด้าก็จะเอาเงินรางวัลที่หนึ่งมาปรนเปรอพี่ไงเล่าาาา”

“เอาเหอะๆ พี่ยอมแพ้ก็ได้วะ แล้วนี่ตกลงจะลุกขึ้นมาเรียนต่อได้รึยัง น่าจะหายง่วงแล้วใช่มั้ยล่ะ”

“ม่ายยยอะ ขออีกแป๊บนึงงง” ผมเอนตัวกลับลงนอนในท่าเดิม “กัสหนาวอะคร้าบบบบ ที่รัก”

“แล้วจะให้พี่ทำยังไง เบาแอร์ให้เอามั้ย”

“บอกแล้วไงว่าไม่อาววว.... พี่แพนด้ากอดน้องออกัสหน่อยยย”

พี่ด้าไม่ตอบอะไร แต่ค่อยๆ เลื่อนตัวลงมานอนอยู่ข้างๆ ผมอีกครั้ง แต่คราวนี้ร่างกายของเราเขยิบเข้ามาอยู่แนบชิดติดกัน และจากนั้น เขาก็ยกแขนขึ้นมาพาดลงบนลำตัวของผม ผมจึงเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคงหันหลังให้กับเขา เพื่อที่เขาจะได้กอดผมได้อย่างถนัดมากขึ้น

 “เฮ้อออ ถ้าหัดแสดงออก หัดทำแบบนี้มาตั้งแต่แรก กูก็คงไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้แล้ววว.....” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ

“ก็แล้วใครมันจะไปด้านเหมือนเราล่ะ ไอ้อ้วน!”

“แหะ ได้ยินด้วยเหรอเนี่ย ไรว้าาาาา มีแฟนหน้าตาดีแล้วยังหูดีอีก แบบนี้กัสก็ยิ่งต้องระวังตัวเยอะๆ เลยดิเนี่ย”

“ใช่ ระวังไว้เยอะๆ น่ะ ดีแล้ว เดี๋ยวพี่จะให้ไอ้ต้าเป็นสายสืบให้พี่ด้วยอีกคน”

“คร้าบบบบบ แต่กัสไม่กล้าหรอกกก มีแฟนน่ารักขนาดนี้แล้วใครจะไปนอกใจได้ลง”

“พอๆๆ นอนได้ละ พูดมากจริงเว้ย เด็กคนนี้นี่”

ผมจุ๊บลงบนหลังมือของพี่ด้าเบาๆ แล้วจึงหลับตาลง ผมว่าหลังจากนี้ที่ผมหลับลงไปแล้ว ผมก็คงต้องนอนหลับไปทั้งๆที่ มีรอยยิ้มตลกๆ แบบนี้อยู่บนใบหน้าแน่นอน

(จบจ้า)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-08-2011 22:38:47 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ลงรวดเดียวจบเลยนะครับ พักนี้ไม่ค่อยมีเวลาเลย ไม่อยากให้รออ่านกันนานๆ ชอบไม่ชอบก็บอกกันได้นะครับ ติเตียนเพื่อให้เอาไปปรับปรุงสำหรับเล่มต่อๆไปนะครับ ^____^

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ชอบเรื่องนี้จ้ะ เรื่องราวน่ารักดีจัง

Benze030

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ohm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
น่ารักมากครับ ชอบเรื่องแนวนี้
อ่านง่าย ไม่เครียด หวานๆ สบายๆ

ขอตอนพิเศษได้ไหมครับ ตอนเป็นแฟนกันแ้วอะ

mamaUM

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักมากเลยค๊า  พึ่งเข้ามาอ่านครั้งแรก เหอะ ๆ   เข้ามาตอนจบแล้วเลย  = =^

ชอบมาก ๆ เลยค่ะ  คิดเหมือนคุณ "ohm" เลย คือ อยากอ่านตอนพิเศษอยู่เหมือนกันนะคะ  ตอนที่ทั้ง 2 คนคบกันไปแล้วอ่าค่ะ ^^

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
มีต่ออีกมั้ยอ่า
อยากอ่านต่อ

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  เขิลกันไปเขิลกันมา   


ขอตอนพิเศษๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ wisky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 529
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-18
จบแบบไม่ทันตั้งตัวเลยอ่ะ ถึงจะหวานแบบเบาเบาแต่อยากได้หวานกว่านี้อีกได้ไหมล่ะน้องต้นขา

schteuben

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักค่อดๆ อ่ะ ยิ่งตอนท้ายยิ้มไม่หุบเลย เห็นภาพชัดเจนมากๆ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
จริงๆมีตอนพิเศษครับ แต่แบบว่า แหะๆ แต่งไว้สำหรับรวมเล่มน่ะครับ อืมมมมม... เดี๋ยวขอดูก่อนแล้วกันนะครับว่าจะทำอะไรได้บ้าง แต่ยังไม่ขอรับปากเน้อออ เพราะส่วนตัวผมคิดว่าถ้าเป็นตอนที่คบกัน มันก็เหมือนเรื่องราวจะยังไม่จบน่ะครับ คือแบบว่า ถึงนิยายจะจบ แต่เรื่องราวความสัมพันธ์ของสองคนนี้เพิ่งจะเริ่ม เลยอยากให้ไปจินตนาการต่อกันเอาเอง อะไรแบบนี้น่ะครับ ^__^"

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ชอบมากจ้า  ใสๆน่ารักดี 
น้องกัสน่ารักดี  พี่ด้าปากแข็งไปหน่อย  ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นว่าน้องกัสจะสมหวังไหมเนี่ย
พี่ต้าน่ารักมาก  เป็นที่ปรึกษาที่ดีของน้องกัส
ขอบคุณคุณต้นที่นำเรื่องราวน่ารักๆ  มาให้อ่านกัน  ขอบคุณจ้า

ขอตอนพิเศษด้วยจ้า  (ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ  รอซื้อตอนเป็นเล่มก็ได้จ้า)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อ่านไปยิ้มไป ในที่สุดไอ้น้องอ้วนก็สมหวัง ต้องยกนิ้วให้พี่ต้าที่ช่วยเป็นพ่อสื่อ ประสานความเข้าใจ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
จบได้น่ารักสุดๆครับ
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
คาดหวังตอนพิเศษนะครับ 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
น่ารักอ่า ชอบๆมากๆเลย

ออฟไลน์ ThE_PaRaN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
น่ารักทั้งคู่เลย

แต่แอบปันใจให้น้องกัสมากกว่านิดหน่อย (ที่จริงก็ไม่นิดล่ะ)
เพราะน้องเป็นคนเล่าไง ทำให้ได้รู้ว่าน้องคิดอะไรอย่างไง

อยากอ่านตอนพิเศษจัง
แบบน้องด้าเป็นคนเล่าบ้างอ่ะจ้ะ อยากอ่านจริงๆ >< :impress2:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
แย้บว่าตอนพิเศษที่เขียนไว้เป็นตอนที่ด้าเล่าครับ กะไว้สมนาคุณคนซื้อน่ะครับ แหะๆ
อยากจะแต่งตินพิเศษให้อีกเหมือนกันนะครับ แต่มันจะต้องเอาไปลงในรวมเล่มด้วยแล้วเดี๋ยวจะมีปัญหา
ที่สำคัญยังคิดไม่ออกว่าจะแต่งอะไรด้วยนี่สิ 55555 แต่เอาไว้จะลองไปคิดดูนะครับ
ขอบคุณทุกคนมากสำหรับฟีดแบ็ค ขอเป็นติเยอะๆ ชมน้อยๆ ก็ได้ครับ จะได้เอาไว้ปรับปรุงสำหรับ love is 3 ต่อไป (ซึ่งตอนนี้ไปได้ ราวๆ70% แล้ว)

ขอบคุณมากครับ

ปล. คนที่เคยซื้อ love is แรกเมษกับตุลย์ โอเคมั้ยครับ? แล้วคนที่ไม่เคยอ่านก็ไม่รู้สึกสับสนหรือต่อไม่ติดใช่ป่าว?

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ลืมมมม!!!

สรุปว่าอ่านจบแล้ว คิดว่าความรักของออกัสกับแพนด้าคืออะไรครับ??

^___________^

ออฟไลน์ iota

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
 :L1: Love is... เล่มสองจ๋า เล่มหนึ่งรออยู่นะจ๊ะ :L1:
สวัสดีครับ น้องต้น^^

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ตอนอ่านเมษกับตุลย์ เรายังไม่รู้เลยว่าความรักของทั้งคู่คืออะไร
อ่า..เขาเปล่าโง่นะ :o12:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
อิอิ แต่เล่มแรกมีเฉลยอยู่นะครับ QR code ท้ายเล่มไง  >__<

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เดี๋ยวจะกลับไปดูค่ะ
ตอนนี้หนังสือไม่อยู่ในมือ
ถ้ายังหาคำตอบไม่ได้ค่อยตามจิกคุณต้นอีกที

ออฟไลน์ boboaje

  • ไม่ชอบหวาน ชอบครบรส
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
คิดว่าความรักคือ ความเข้าใจ กว่าจะเข้าใจกันลุ้นซ้า อยากอ่านอีกจังค่ะ ยังเลิฟๆ กันน้อยเกินไปอ๊า

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด