พิมพ์หน้านี้ - :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: ExecutioneR ที่ 11-07-2011 10:08:59

หัวข้อ: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 11-07-2011 10:08:59
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออก ไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2. ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ดโดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคล ที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

จิ้มเบาๆ ที่นี่ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)
หัวข้อ: Re: :: love is ... >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 11-07-2011 10:09:21
สวัสดีครับ

Love is … คือเรื่องสั้นจบในตอนแนวใหม่ (สำหรับผม) ที่ผู้อ่านจะต้องค้นหาคำตอบเองว่า “นิยามความรัก” ของตัวละครในแต่ละตอนนั้น คืออะไร

love is … ตอนของ “แพนด้ากับออกัส” นี้เป็นเล่มที่ 2 แล้วครับ แต่ว่าเนื้อหาในแต่ละตอนจะไม่ต่อเนื่องกัน ซึ่งเล่มที่ 1 (เมษกับตุลย์) นั้นผมเคยพิมพ์ขายไปแล้วรอบหนึ่ง และผมคงจะไม่เอามาแปะนะครับ เพื่อไม่ให้ผู้ที่ซื้อไปแล้วรอบแรกรู้สึกถูกเอาเปรียบ

และที่ผมตัดสินใจเอาตอนที่ 2 มาแปะนั้น เจตนาของผมคือ “ความอยากจะแบ่งปัน” จริงๆ ครับ ทั้งๆ ที่ตอนแรกว่าจะไม่ลงในเล้าแล้วนะ แต่ก็อยากให้คนอื่นๆ ที่ไม่ได้ซื้อหนังสือได้อ่านด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าหากใครที่อ่านแล้วชอบใจ จะไปอุดหนุนผม ผมก็ยินดีครับ แต่ถ้าใครที่มีความสุขกับการอ่านนิยายของผม แต่ไม่สะดวกซื้อหนังสือ ก็ติดตามได้ในเล้านี่เลยนะครับ ขอบคุณมากๆ เลย ที่ติดตามและเสียสละเวลามาอ่านเรื่องสั้นของผม ^___^

บอกตรงๆ ว่าตอนแรกที่จะลงเรื่องนี้ ผมปรึกษาพี่ๆ หลายคนและตัดสินใจอยู่นานมากเลยครับ ยังไงก็หวังว่าจะเข้าใจ จปส และเจตนาของผมเน้อออ ไม่อยากให้มีกรณีแรงๆ แบบ “ลบเรื่องหลังรวมเล่ม” แล้วนะ เพราะผมอะ ตั้งใจจะสวนกระแส “รวมเล่ม แล้วเอามาแปะ” ด้วยซ้ำ กรั่กๆๆ เพราะว่าผมไม่ได้คิดจะแสวงหากำไรจริงๆ แค่อยากให้ได้อ่านและติชมกันมานะครับ ผมจะได้เอาไว้ปรับปรุงในเรื่องอื่นๆ ต่อๆ ไป

ขอบคุณครับ

.....................................................................................

อัพครั้งที่ 1+2  -  12/7/11  ::  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27818.0
อัพครั้งที่ 3  -  15/7/11  ::  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27818.30
อัพครั้งที่ 4  -  19/7/11  ::  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27818.30
อัพครั้งที่ 5  -  22/7/11  ::  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27818.60
อัพครั้งที่ 6  -  26/7/11  ::  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27818.60
หัวข้อ: Re: :: love is ... >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 11-07-2011 10:09:28
ผมชื่ออ้วนครับ เพื่อนๆ ที่โรงเรียนต่างก็เรียกผมว่าอ้วน แต่จริงๆ ผมไม่ได้เป็นคนอ้วนเลยแม้แต่นิดเดียวนะ ผมสูง 178 เซนติเมตร หนัก 65 กิโลกรัม ซึ่งมีแต่กล้ามเนื้อที่เกิดจากการเล่นกีฬาล้วนๆ แถมนั่นยังเป็นแค่ชื่อที่แม่ของผมเป็นคนตั้งให้เท่านั้นด้วย ที่บ้าน แม่กับพี่ชายจะเรียกผมว่าอ้วน ส่วนพ่อกับญาติคนอื่นๆ จะเรียกผมว่ากัส มาจากคำว่า ออกัส ซึ่งเป็นเดือนเกิดของผม แต่สาเหตุที่เพื่อนของผมแทบไม่มีใครเรียกผมว่าออกัสเลยสักคนเดียว ก็เพราะพวกมันเห็นพ้องตรงกันว่า ชื่อนั้นมันแบ๊วเกินไปสำหรับคนหน้าตาอย่างผม

แหมมม อะไรวะ ผมว่าที่จริงผมออกจะน่ารัก แบ๊วๆ ใสๆ เหมาะกับชื่อออกัสมากกว่าเสียขนาดนี้

ผมเรียนอยู่ชั้น ม. 5 โรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง และมีเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่ผมสนิทมากกว่าคนอื่นๆ ชื่อว่าไอ้เมษ ผมรู้จักกับมันมาตั้งแต่ตอนเรียนม. 1 แล้ว แต่เราเพิ่งจะมาสนิทกันมากก็ตอนราวๆ ม. 2 หรือม. 3 นี่แหละ ไอ้ผมน่ะ ก็รู้ตัวอยู่แล้วล่ะว่าตัวเองชอบผู้ชาย แล้วก็เผลอชอบไอ้เพื่อนคนนี้ไปแล้วด้วย แต่ผมก็ไม่ใช่คนที่แสดงออกว่าชอบผู้ชาย และก็ไม่อยากจะให้เพื่อนคนอื่นๆ รู้ด้วยว่าผมเป็นแบบนี้ คือผมก็ไม่ได้อยากจะโกหกหรือปิดบังอะไรพวกมันนะ แต่ผมรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อม และไม่เห็นความจำเป็นที่ผมจะต้องป่าวประกาศให้ใครต่อใครรู้ด้วยว่าผมเป็นเกย์ เมื่อเวลาที่ผมมีแฟนหรืออะไรมาถึง ผมก็จะบอกพวกมันเอง

แต่ทว่าด้วยความที่ตอนนั้นผมกำลังหงุดหงิดตัวเองอยู่พอสมควรกับการที่เผลอไปหลงชอบไอ้เมษมันเข้า ในวันหนึ่ง ผมจึงตัดสินใจสารภาพกับมันไปตรงๆ แบบฟ้าผ่าเลยว่าผมเป็นเกย์ การที่ผมทำแบบนั้น นอกจากจะเพื่อระบายความอัดอั้นในใจของตัวเองแล้ว ยังเพื่อเป็นการทดสอบดูปฏิกิริยาของมันด้วยว่าตกลงมันเองก็ชอบผู้ชายเหมือนกันหรือเปล่า เพราะว่าแม่งเป็นคนที่ดูยากมากจริงๆ บางทีมันก็มีชมผู้ชายให้ผมฟังบ้าง แต่หลายทีที่มันไม่ได้แสดงออกมาเลยว่าสนใจใคร ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม

หลังจากที่ผมสารภาพกับมันไปแล้วว่าผมชอบผู้ชาย และถึงแม้ว่าผมจะเห็นแล้วว่ามันไม่ได้แสดงท่าทีสนใจในตัวของผมสักนิด เราสองคนก็ยังสามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้เหมือนเดิม และเผลอๆ จะยิ่งสนิทมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีกด้วยซ้ำ

เมื่อเวลาผ่านไป ผมเริ่มเห็นว่านอกจากไอ้เมษจะยอมรับในสิ่งที่ผมเป็นได้แล้ว มันยังเริ่มเปิดใจให้เรื่องพวกนี้มากขึ้นทีละน้อยด้วยเช่นกัน จนในที่สุด เมื่อไม่นานมานี้ มันก็ยอมรับตัวเองว่ามันเป็นเกย์ และไปตกลงคบกับไอ้ตุลย์ เพื่อนที่เรียนอยู่ห้องเดียวกับเราไปจนได้

โอเค เรื่องของไอ้เมษมันก็เรื่องหนึ่ง แต่แล้วเรื่องของผมล่ะ จะเอายังไงแน่

บอกตรงๆ ว่ามันก็ลำบากนะ กับการเกิดมาเป็นเกย์ที่ไม่แสดงออกและไม่ได้บอกให้ใครรู้เลยด้วยเนี่ย เพราะเวลาจะจีบใคร ผมก็ทำไม่ได้ วางตัวลำบาก และคนที่จะมาจีบผมนั้นก็ยิ่งแทบจะไม่มี เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าผมเป็น จริงๆ มันก็เคยมีอยู่เหมือนกัน ที่มีรุ่นพี่หรือรุ่นน้องในโรงเรียนมาแอบชอบผม หรือแม้แต่แสดงออกอย่างชัดเจนเลยว่าชอบผมมากๆ แต่ผมก็ตอบกลับหรือแสดงท่าทีอะไรกลับไปไม่ได้ เนื่องจากว่าในตอนนั้น เพื่อนๆ ของผมคนอื่นนอกจากไอ้เมษแล้วก็ยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ และถ้าหากว่าผมทำเป็นเล่นกับใครคนไหนแล้วเราไปกันไม่รอดจนต้องเลิกกันแล้วเกิดคนๆ นั้นเอาเรื่องของผมไปโพนทนาล่ะก็ ผมคงซวยตายห่า เพราะผมอยากจะให้คนอื่นรู้จากปากของผมเองเท่านั้น ไม่ใช่จากสถานการณ์ที่บีบบังคับ

ใช่ว่าผมอยากจะปิดบังคนอื่นแบบนี้ไปตลอด เชื่อเถอะว่าผมก็อยากจะบอกให้คนอื่นรู้กันไปให้หมดเหมือนกัน เพราะผมเป็นคนที่ชอบแสดงความรู้สึกและความคิดของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่อะไรบางอย่างมันคอยจะรั้งผมเอาไว้ตลอด และคอยแต่จะบอกผมว่า “มันยังไม่ถึงเวลา.....”

ดังนั้นผมจึงปฏิญาณกับตัวเองเอาไว้ว่า ผมจะบอกเพื่อนๆ เรื่องของผม ก็ต่อเมื่อผมเจอคนที่ใช่จริงๆ เท่านั้น

แต่คราวนี้เรื่องของเรื่องก็คือ พอหลังจากที่ไอ้เมษมันมีแฟนไปแล้ว ผมก็เริ่มคันอยากจะมีบ้างแล้วน่ะสิ คนที่เคยผ่านๆ เข้ามาจากตามพวกเว็บไซต์ที่ให้ลงอีเมลหรืออะไรพวกนั้นก็มีแต่มาแล้วไป อย่างกล้ามากที่สุดที่ผมเคยทำก็แค่โผล่หน้าไปเจอหน้ากันครั้งสองครั้ง ดูหนัง แล้วก็เท่านั้น จบ ไม่มีอะไรอีกเลย เพราะแม่งส่วนมากก็เข้ามาคุยกับผมเพราะชอบหน้าตาของผมเท่านั้นเอง ซึ่งผมไม่ได้ต้องการอะไรแต่เพียงแค่นั้น ผมต้องการความจริงใจ ไม่ใช่แค่อยากจะฟันผมแล้วทิ้งไป หรือมาชอบผมก็เพราะเพียงหน้าตาหล่อๆ นี่เท่านั้น ดังนั้นผมจึงไม่เคยคุยกับคนทางอินเตอร์เน็ตอย่างนั้นอีกเลย

“กัส ทำไมเดี๋ยวนี้พ่อไม่ค่อยเห็นไอ้เมษมันมาเที่ยวที่บ้านเลยล่ะ” พ่อของผมถามขึ้นในเย็นวันหนึ่ง ตอนที่เรากำลังกินข้าวเย็นกันอยู่อย่างพร้อมหน้า

“โอ๊ยยยย! มันจะมาบ้านเราทำม๊ายยย เดี๋ยวนี้มันไปบ้านแฟนมันนู่นแล้ววว”

“อ้าว เมษมีแฟนไปแล้วเหรอ” แม่ถามขึ้นบ้าง

“ช่ายยย เพิ่งคบกันไม่นานหรอกฮะ ช่วงนี้เลยกำลังอยู่ในช่วงสวีวี่วีวี้ดวิ้ววว”

“ภาษาเหี้ยอะไรของมึงวะ ไอ้อ้วน” ไอ้อาร์ม พี่ชายของผมหัวเราะในลำคอเบาๆ

“แล้วแฟนไอ้เมษคือใครล่ะ เด็กที่ไหน รู้จักกันยังไง” พ่อถามอีก

“ก็เพื่อนๆ กันนั่นแหละฮะ พ่อ มันก็รู้จักกันมาสักพักแล้ว แต่เพิ่งจะได้คบกัน เป็นเพื่อนของเพื่อนอีกที อะไรแบบเนี้ย” ผมตอบแบบกว้างๆ

“แล้วเมื่อไหร่แกจะมีบ้างล่ะ อ้วน แม่ไม่เห็นแกจะมีแฟนกะเค้าสักทีเลยนะ”

“อ้าวแม่ อาร์มเพิ่งรู้ว่าแม่สนับสนุนให้ลูกมีเมียนะเนี่ย” ไอ้อาร์มหัวเราะ

“ฉันไม่ได้สนับสนุนย่ะ! ฉันแค่ส่งเสริมให้ลูกๆ มีความรัก และอกหัก”

“อ้าววววว!!” ผมกับพี่ชายร้องออกมาพร้อมๆ กัน ส่วนพ่อกลับกำลังนั่งหัวเราะ

“เพื่อที่พวกแกจะได้เรียนรู้ไว้ไงว่า ในโลกนี้น่ะ จะไม่มีใครรักพวกแกจริงเท่าพ่อกับแม่อีกแล้ว” แม่พูดต่อ

“โหยยยย เรื่องนั้นน่ะ ไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้วล่ะคร้าบบบ แต่ที่กัสยังไม่มีน่ะ เพราะกัสยังไม่เจอคนที่ใช่มากกว่า คือแม่เข้าใจปะ เนื้อคู่อะ กัสมี แต่สงสัยว่าเค้าจะยังไม่มีที่ให้เกิด ฮ่าๆๆๆ”

“เออ งั้นเนื้อคู่กูก็คงอารมณ์เดียวกับของมึงอะว่ะ ไอ้อ้วน สงสัยจะยังไม่เกิดเหมือนกัน”

“ของพ่อด้วยๆ” พ่อพยักหน้า

“ให้มันน้อยๆ หน่อย คุณ” แม่หันไปมองค้อนพ่อ “อยากได้เนื้อคู่มากนัก เดี๋ยวเอาเนื้อดิบในตู้เย็นยัดปากให้ซะหรอก เดี๊ยะๆ”

“โอ๋ๆ ผมแค่ล้อเล่นน่าาาา” พ่อโอบไหล่แม่

“ไม่ต้องมายุ่งเลย” แม่สะบัดตัวออก

“พอละๆ พ่อ แม่ อาร์มกับไอ้อ้วนไม่อยากมีน้องอีกคนแล้วนะ” ไอ้อาร์มกลอกตา

“แกอย่ามาพูดดีเลย ไอ้อาร์ม ฉันรู้นะว่ากิ๊กแกเยอะน่ะ ระวังอย่าไปทำผู้หญิงที่ไหนท้องกลับมาบ้านก็แล้วกัน ฉันไม่รับเลี้ยงดูให้นะ ขอบอก”

“โหหห แม่!! นี่มันชีวิตจริงนะ ไม่ใช่ละคร! แม่ดูทีวีมากไปป่าวววว และที่สำคัญ อาร์มไม่ได้มีกิ๊กเยอะสักหน่อย แม่อย่าไปเชื่อไอ้ต้ากับไอ้ด้ามันพูดมาก แม่งชอบปากดีตลอดอะ ชอบเอาอาร์มมาเผาเหอะ”

“เออ พูดถึงเรื่องนี้ ตกลงว่าจะเอายังไง เรื่องไอ้แพนด้าน่ะ ยังจะให้มันมาสอนพิเศษให้ไอ้อ้วนอยู่รึเปล่า” พ่อถาม

ไอ้อาร์มเป็นพี่ชายที่แก่กว่าผม 3 ปี ตอนนี้มันอายุ 20 เรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่ง และมีเพื่อนสนิทอยู่หลายคน คนหนึ่งในนั้นที่ผมเคยได้ยินชื่อบ่อยๆ แต่ยังไม่เคยเจอตัวจริง ก็คือพี่ที่ชื่อด้านี่แหละ เรื่องของเรื่องมันก็ไม่ใช่อะไรหรอก ก่อนหน้านี้ ตอนมันอยู่ปี 1 ไอ้อาร์มมันเคยไปนอนหออยู่กับพี่คนนี้แหละ และพ่อกับแม่ก็เคยไปรับ ไปส่ง และเจอพี่เขาอยู่บ่อยๆ บางทีเขาก็มาที่บ้านของเราบ้าง แต่ก็มักจะสวนกับผมตลอด เพราะผมมันก็ไม่ใช่คนอยู่ติดบ้านเสียด้วยสิ ผมก็เลยยังไม่เคยได้เจอหน้าเขาจริงๆ สักที

ส่วนประเด็นของเรื่องที่พ่อกำลังพูดถึงอยู่นี้มันก็คือว่า ด้วยความที่ไอ้อาร์มมันสอบเอ็นท์ฯ ติดได้เอง ผมก็เลยถูกคาดหวังให้ต้องเอ็นท์ฯ ติดไปด้วยอีกคน และผมก็อยู่ม. 5 แล้ว พ่อกับแม่ก็เลยอยากให้ผมขยันๆ เรียนพิเศษให้มากขึ้น แต่ก็กลัวผมจะเถลไถล เลยคิดจะจ้างครูมาสอนตัวต่อตัวที่บ้าน ซึ่งไอ้อาร์มมันก็เลยเสนอชื่อเพื่อนของมันคนนี้ขึ้นมา เพราะพี่ด้าเป็นคนเรียนดีถึงดีมาก และก็เคยสอนพิเศษเด็กมัธยมมาก่อนด้วย ส่วนถ้าถามว่าทำไมผมถึงไม่เรียนกับพี่ชายของตัวเองไปเลย จะได้ไม่ต้องเสียเงินจ้างคนอื่นมาสอน..... แหมนะ ก็น่าๆ จะรู้กันอยู่ว่าทำไม ลองนึกภาพดูสิครับ พี่ชายกับน้องชาย ปากดีทั้งคู่ โง่แต่อวดฉลาดทั้งคู่ ถูกจับให้มาอยู่ห้องเดียวกัน เรียนหนังสือด้วยกันอย่างตั้งอกตั้งใจ มันจะเป็นไปได้ยังไงกันล่ะคร้าบบบ

“เออ อาร์มก็คุยกับมันแล้วนะครับ มันก็บอกว่ามันโอเคนะ จะให้มันมาสอนที่บ้านก็ได้ จะไปเรียนหอมันก็ได้ หรือจะไปนัดเรียนกันข้างนอกก็ได้อีกอะ แล้วแต่พวกเราตัดสินใจเลย มันได้หมด”

“ประเด็นที่แม่อยากให้อ้วนเรียนพิเศษกับด้าเนี่ย ก็เพราะอยากจะให้อยู่ที่บ้าน ใกล้หูใกล้ตา ไม่ให้มันไปเถลไถลที่ไหนนะ”

“โหหห แม่อะ”

“แต่ถ้ามันไปเรียนกับไอ้ด้าที่หอ แม่ก็เช็คได้นี่ ถ้ามันโดดหรือเถลไถลก็ค่อยเล่นงานมันทีหลังไง”

“โหหห มึง ไม่ช่วยกูเลยนะ” ผมหันไปมองหน้าไอ้พี่ชายตัวดีของผม

“ว่าแต่ตอนนี้ด้ามันย้ายออกจากหอเดิมไปอยู่หอใหม่คนเดียวแล้วใช่มั้ย” แม่ถาม

“ใช่ครับ”

“แล้วกัสล่ะ ยังอยากเรียนอยู่รึเปล่า” คราวนี้พ่อหันมาถามผมบ้าง

“โถ่ พ่อครับ พ่อถามว่ากัสอยากเรียนรึเปล่าเนี่ยนะ เอาตรงๆ เลยปะ กัสว่ามันจะมีเด็กสักกี่คนในโลกนี้ที่อยากเรียนหนังสือวะครับพ่อออออ เอาจริงๆ บอกตรงๆ เลยนะ กัสไม่อยากเรียนหรอกอะ แต่กัสอยากฉลาด”

“เออ พูดเหมือนอยากกิน ไข่ดาว แต่ไม่อยากตอกไข่”

“โหหห พ่ออ่าาาา เรียนก็ได้ๆ กัสก็อยากเอ็นท์ฯ ติดเหมือนกันล่ะน่า แต่คือกัสยังไม่เคยเจอพี่ด้าคนนี้เลยไง พี่เค้าสอนดีมั้ย นิสัยยังไง อะไรกัสก็ยังไม่รู้อะ”

“เฮ้ยยย สอนดีเว้ย มันเก่งจริง กูผ่านแคลฯ มาได้ก็เพราะมันนี่แหละ” ไอ้อาร์มหันมาหาผม “มันสอนเข้าใจง่ายเว้ย หัวมันดี มันถ่ายทอดดี สอนดีกว่าอาจารย์ที่มหาลัยกูอีก”

“ไอ้เจ้าแพนด้ามันน่ารักดีนะ แม่ชอบ ผิวพรรณดี ยิ้มก็หวาน แถมตางี้ใสเชียว แถมหน้ามันก็ยังกะเด็กม. ปลายแน่ะ แบบนี้เค้าเรียกอะไรนะพ่อ อะไร แบ้วๆ นะ”

“แบ๊ว!!” ผมกับไอ้อาร์มพูดออกมาพร้อมกัน

“เออๆ นั่นแหละๆ หน้ามันแบ๊วจริงๆ นะ สงสัยแฟนคงเพียบเลยสิท่า สาวๆ ท่าทางจะติดตรึมเลยสิ”

“ก็ไม่รู้มันเหมือนกันอะ แม่” ไอ้อาร์มยักไหล่ “อาร์มก็เคยเห็นมีคนมาชอบมันอยู่นะ พวกเพื่อนๆ กันเองบางคนยังเพ้อๆ ถึงมันกันเลย แต่ดูเหมือนมันจะตั้งใจเรียนมากกว่าสนใจเรื่องพวกนี้น่ะครับ”

“แกก็น่าจะเป็นแบบนั้นบ้างนะ อาร์ม”

“โหหหห แม่ไม่ต้องมากัดลูกเลยยย และอีกอย่าง ที่อาร์มพูดเนี่ย ก็หมายถึงมันเมื่อก่อนหรอกนะ ตอนนี้อาร์มก็ไม่รู้มันมีแฟนไปรึยังเหมือนกัน คนเข้ามาคุยกับมันเยอะแยะจะตายห่าไป”

ผมฟังแม่กับไอ้อาร์มคุยกันแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนพี่ชายของผมคนนี้มันจะหล่อสักขนาดไหนกันเชียว เพราะถ้าหากเขาหล่อเวอร์มากๆ อย่างที่แม่บอกจริง ผมก็ยินดีที่จะเรียนด้วยอย่างเต็มใจเลยล่ะ

บ้านของผมมีกันสี่คน แล้วก็ร่าเริงครื้นเครงกันแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว บ้านของเราเคยเงียบกันลงไปนิดหน่อยตอนที่ไอ้อาร์มเอ็นท์ติดแล้วไปอยู่หอมาหนึ่งปี แต่พอมันเริ่มปรับตัวกับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยได้ มันก็โดนแม่ลากให้กลับมานอนที่บ้านเหมือนเดิมทันที เนื่องจากเกรดมันตกลงจากเทอมหนึ่งที่ได้สามกว่าๆ เหลือแค่ราวๆ สองจุดห้า ซึ่งสาเหตุก็ไม่ใช่อะไร แต่เป็นเพราะพักหลังๆ มันติดหญิงเกินไปนี่แหละ กิ๊กเยอะเหลือเกิน ถึงมันจะพยายามไม่ให้พ่อกับแม่รู้ แต่พวกเขาก็รู้นิสัยลูกชายตัวเองกันดีอยู่แล้ว แต่ที่จริง ทั้งบ้านนี่ก็คงมีแค่ผมคนเดียวนี่แหละมั้ง ที่เห็นและได้ยินมันคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงแต่ละวันแทบไม่ซ้ำคน
หัวข้อ: Re: :: love is ... >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 11-07-2011 10:09:48
ส่วนผมเองกลับตรงกันข้ามเลย ผมรู้ตัวว่าผมเป็นเกย์ แต่ดันไม่แสดงออก ไม่มีแฟน ไม่เคยคุยโทรศัพท์กับใครแบบเปิดเผย ไม่เจ้าชู้ และถ้าพูดถึงเรื่องเรียน ผมก็ไม่ได้เรียกว่าเป็นคนเรียนแย่นะ ก็ระดับกลางๆ แต่ผมคงติดเพื่อน ติดเล่นกีฬา และติดเที่ยวเล่นเสียมากเกินไปหน่อย พ่อกับแม่ก็เลยอยากจะจับผมเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัว เพื่อที่ว่ามันอาจจะดัดนิสัยของผมได้บ้างล่ะมั้ง

ผมเคยเจอและเคยคุยกับเพื่อนของไอ้อาร์มมันอยู่บ้างนะ อย่างพี่ต้านี่ผมก็รู้จักดีเลย ที่จริงต้องบอกว่า ผมสนิทกับพี่เขามากพอสมควรเลยด้วยซ้ำ ถึงแม้เราจะไม่ค่อยได้คุยโทรศัพท์กัน แต่ผมก็คุยกับพี่เขาในเอ็มเอสเอ็นอยู่เรื่อยๆ มีอะไรก็เล่าให้พี่เขาฟัง และพี่เขาก็มักจะเล่าเรื่องของเขาให้ผมฟังตลอดด้วยเหมือนกัน

“เฮ้ยย ไอ้ด้ามันสอนดีจริงๆ อ้วน พี่การันตี” พี่ต้าบอกผมตอนที่เราคุยกันทางโทรศัพท์

“อือออ ไอ้อาร์มมันก็บอกอยู่เหมือนกัน”

“แล้วตกลงเราจะเริ่มเรียนเมื่อไหร่”

“ยังไม่รู้เลยว่ะ พี่ กัสต้องรอให้แม่ตัดสินใจอะ แม่ใหญ่สุดในบ้าน”

“เออ อันนั้นพี่ไม่เถียงว่ะ” พี่ต้าหัวเราะ

“ทำไมพี่ต้าไม่มาสอนกัสเองวะ”

“เฮ้ยยย ไอ้อ้วน! มึงอยากเอ็นท์ไม่ติดเหรอวะ ฮ่าๆๆ”

“ป่าววววว แต่ก็แบบ กัสสนิทกับพี่ไง ถ้าเรียนกับพี่ กัสก็คงไม่เกร็ง ไรงี้อะ”

“ไม่หรอกกก ไอ้ด้ามันโอเคนะ มันน่ารักเลยล่ะ นิสัยมันก็ดี พี่ว่าเดี๋ยวอ้วนก็คงจะสนิทกับมันเองแหละ”

“อือออ เห็นแม่ก็บอกว่าพี่เค้าน่ารัก หน้าตาดี นู่นนี่นั่นเยอะแยะ อะไรมันจะขนาดนั้นเลยเหรอพี่”

“เออ ไอ้ด้ามันก็น่ารักจริงๆ ตัวเล็กๆ ตาใสๆ ยิ้มเก่ง ขี้เล่น คนชอบมันเยอะจะตายห่า”

แหมเว้ย ผมชักอยากจะเจอพี่คนนี้ไวๆ เสียแล้วสิ

“แล้วพี่เค้าไม่มีแฟนเหรอฮะ เห็นไอ้อาร์มบอกว่ามันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“อืมมมมม เรื่องนี้ก็พูดยากนะ”

“เหอ ยังไงอะ”

“คือพี่เห็นมันก็คุยๆ กับผู้หญิงคนนึงอยู่นะ เป็นเพื่อนกันที่คณะนี่แหละ แต่ประเด็นคือเค้าลือกันว่า อีเนี่ย ไปชอบไอ้ด้าเอง ไอ้ด้า
ไม่ได้คิดอะไรด้วยหรอก แต่พี่ก็ไม่ได้แน่ใจซะด้วยดิ เพราะไอ้ด้ามันเป็นคนไม่ค่อยพูดถึงเรื่องพวกนี้น่ะ ถามมัน มันก็จะเอาแต่ยิ้มกับหัวเราะอย่างเดียว”

“เหรอๆ เออ แต่ช่างมันเหอะ จริงๆ มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกัสหรอก”

“เอ้อออ จริงสิ พรุ่งนี้เราว่างปะล่ะ ตอนเย็นอะ พวกพี่ว่าจะไปดูหนังกินข้าวกันพอดี เราก็ไปด้วยกันเลยมั้ยล่ะ จะได้เจอไอ้ด้าด้วยไง”

“พี่ไปกันกี่คนอะ”

“ก็พวกพี่สามสี่คนนี่แหละ ไม่เกินนี้หรอก ส่วนไอ้อาร์มมันจะไปกับเด็กมัน อ้วนก็ชวนเพื่อนมาอีกสักคนสองคนก็ได้”

“โอเคๆ งั้นเดี๋ยวกัสลองถามเพื่อนกัสดู แล้วกัสจะส่งเมสเสจไปบอกพี่อีกทีก็แล้วกันฮะ”

หลังจากวางสายลง ผมก็โทรไปคุยกับไอ้เมษ และมันก็ตกลงที่จะไปกับผม แต่มันขอลากไอ้ตุลย์ไปกับเราด้วย ซึ่งผมก็ไม่ว่าอะไร ดีเสียอีก ที่มันจะได้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ จะได้ชินและหายเขินกันเองสักที เพราะมันก็เพิ่งจะเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนเป็นแฟนกันได้ไม่นาน จึงยังทำตัวกันไม่ค่อยจะถูก

วันถัดมาหลังเลิกเรียน ผมกับไอ้เมษ และไอ้ตุลย์ ก็นั่งรถไปหาพี่เขาที่ห้างสรรพสินค้ากลางใจเมืองที่เรานัดกันเอาไว้
เอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับการนัดเจอครั้งนี้เท่าไหร่หรอก ก็แค่อารมณ์แบบว่า ไปไหนก็ไป ทำอะไรก็ทำ ผมไม่ซีเรียสอยู่แล้ว ผมเป็นคนง่ายๆ นะ ยังไงก็ได้ ขอแค่ได้ไปสนุกกับเพื่อนๆ ก็โอเคแล้ว ผมแทบไม่ได้นึกถึงเรื่องการไปเจอพี่ด้าที่จะสอนพิเศษผมนี่เลยด้วยซ้ำไป

พวกเราสามคนที่ไปถึงก่อนเวลา ตัดสินใจไปนั่งหาอะไรกินรอพวกพี่ๆ เขาที่ร้านแม็คโดนัลด์ เราคุยกันสารพัดเรื่องจนผมแทบจะลืมเวลาและจุดประสงค์หลักของการมาเถลไถลครั้งนี้ไปเสียสนิท

“เฮ้ยย กูไปเยี่ยวแป๊บว่ะ เดี๋ยวมา” ผมบอกเพื่อนทั้งสองคนพร้อมกับลุกขึ้นยืน

“เยี่ยวเหนียวป่าววะมึง” ไอ้เมษปากดีขึ้นทันที

“ให้กูลองเอามาป้ายปากมึงดูมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่าเหนียวรึเปล่าน่ะ สาดดดดด ไอ้หน้าครกแตก”

“ยังไม่แตกเว้ยยย!! กูยังอั้นไหวอยู่” มันหัวเราะ

“เออออออ ไอ้หัวจู๋!!” ผมชูนิ้วกลางให้มันก่อนจะเดินออกจากโต๊ะไป

พอผมเดินออกมาจากร้าน ผมก็มองกลับเข้าไปในกระจกและเห็นไอ้สองคนนั้นกำลังพูดคุยและหยอกล้อเล่นกันอยู่ ไอ้เมษมันเป็นคนปากแข็ง ปากดี และผมไม่เคยเห็นมันมีท่าทางแบบนี้มาก่อนเลย ผมยิ้มให้กับตัวเองและมันสองคนน้อยๆ ก่อนจะออกเดินต่อ และสอดส่ายสายตามองคนนู้นคนนี้ไปเรื่อยเปื่อย

พอเห็นคนอื่นเขาเดินกันเป็นคู่ๆ ไม่ว่าจะคู่หญิง-ชาย หรือ ชาย-ชาย ผมก็ชักรู้สึกน้อยใจตัวเองขึ้นนิดๆ อีกครั้ง ไม่รู้สิ คือผมก็ไม่ได้อยากมีแฟนมากมายขนาดนั้นหรอก แต่ผมแค่รู้สึกอิจฉาที่พวกเขาได้แสดงออกว่ารักกัน ได้แสดงออกถึงความรักของพวกเขาที่มีต่อคนรัก และได้มีคนรับรู้ถึงการแสดงออกนั้นๆ ของพวกเขามากกว่า

ผมเป็นคนเปิดเผยนะ เป็นคนค่อนข้างจะตรงไปตรงมา และเป็นคนไม่ค่อยเก็บความรู้สึกสักเท่าไหร่ คิดยังไง ก็พูดแบบนั้น รู้สึกอย่างไร ก็แสดงออกไปตามที่รู้สึก บางทีอาจจะเป็นเพราะผมถูกที่บ้านเลี้ยงดูมาแบบนี้ก็ได้ ผมถูกพ่อแม่สอนมาว่า หากรู้สึกอะไรดีๆ กับใคร ก็ให้แสดงออกและบอกเขาไปก่อนที่เราจะไม่มีโอกาส ไม่ว่าจะกับเพื่อน แฟน หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับครอบครัว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเราสี่คนพ่อแม่ลูกสนิทสนมกันมาก และจะหยอกล้อเล่นกันตลอดเวลา

ผมเดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยมาจนมาถึงหน้าห้องน้ำ และในตอนที่ผมกำลังจะยื่นมือออกไปผลักประตูห้องน้ำนั้น ก็มีคนๆ หนึ่งกำลังผลักประตูออกมาพอดี ผมจึงรีบกระโดดถอยไปข้างหลังเพื่อหลบไม่ให้ถูกประตูกระแทกหน้าแทบไม่ทัน

“ขอโทษครับ!” ชายคนนั้นรีบพูดขึ้นเมื่อเขาเห็นผมยืนอยู่อีกฝั่งของประตู

“ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบแบบไม่ได้คิดอะไร

แต่เมื่อผมเห็นหน้าของเขาแล้ว ผมก็แอบอยากให้ตัวเองถูกประตูกระแทกหน้าจนล้มลงจริงๆ เพื่อที่เขาคนนี้จะได้รีบวิ่งมาประคองตัวของผมเอาไว้ก่อนที่ร่างของผมจะร่วงลงถึงพื้น จากนั้นเขาก็จะเขย่าตัวของผมในอ้อมแขนเบาๆ แล้วถามออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลว่าผมเป็นอย่างไรบ้าง ถัดมา ผมก็จะสลึมสลือตื่นขึ้นมาเห็นหน้าของเขาอย่างพร่ามัวในตอนแรก แล้วภาพถึงค่อยๆ ชัดเจนขึ้น จนกระทั่งเมื่อสายตาของเราประสานกัน เราต่างก็อึ้งกันไปสักพัก มีเสียงระฆังวิวาห์ดังก้องเป็นแบ็คกราวด์มิวสิค และเราต่างก็รู้ตัวเลยว่า “กูได้พบรักแท้แล้ว”

อะไรประมาณนั้นเลยยยย...!!!

“เมื่อกี้ประตูกระแทกรึเปล่าครับ” เขาพูดพร้อมกับก้มหน้าลงน้อยๆ ปลุกให้ผมตื่นจากฝันกลางวัน

“อะ.... อ๋ออ ไม่ครับ ไม่โดน”

“อ่อ ครับ ถ้าไงก็ขอโทษอีกครั้งแล้วกันนะครับ” เขายิ้มหวานให้กับผม ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ผมยืนงงๆ เบลอๆ กับความฝันนางเอกละครไทยอยู่แบบนั้นครู่หนึ่ง

ผมส่ายหน้าให้กับความคิดงี่เง่าของตัวเองเบาๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป แต่ในขณะที่ผมกำลังยืนฉี่อยู่นั้น ผมก็อดคิดถึงน้ำเสียงและใบหน้าของเขาคนนั้นไม่ได้ เขาคนนั้นตัวเล็กกว่าผม ซึ่งก็เป็นอะไรที่สเป๊กผมเลย เพราะผมไม่ค่อยชอบคนตัวใหญ่กว่าผมนักหรอก เขามีใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตที่ใสเป็นประกาย คิ้วที่ชี้ขึ้นนิดๆ เป็นแนวตรง จมูกขนาดเล็ก แต่โด่งและแหลมชี้ได้รูป ปากบางๆ ดัดฟัน ผิวขาว... โอ๊ยยยยยยย!!

ตอนที่ผมล้างมือ ผมก็บอกตัวเองว่าให้เลิกเพ้อได้แล้ว ผมนี่ชักจะไปกันใหญ่แล้วนะเนี่ย กับอีแค่คนที่เดินสวนกันแป๊บเดียว ผมจะเป็นอะไรเอามากถึงขนาดนี้ และที่สำคัญ เขาคนนั้นก็ดูไม่ได้มีท่าทีสนใจอะไรผมเลยแม้แต่นิดเดียวด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่ผมเองก็ออกจะหน้าตาดี หุ่นดี ดูดีน่ากินขนาดนี้

เอ่อออ..... นี่ผมติดนิสัยหลงตัวเองมาจากไอ้เมษมากเกินไปมั้ยเนี่ย ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 11-07-2011 10:26:06
มา รอ ของ ที่จะปล่อยนะครับ สู้ ๆ ครับ พี่ เป็นกำลังใจให้ครับ  o13
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: jira ที่ 11-07-2011 11:31:31
อร้ายยยย อดเจิมอ่ะ!
รอด้วยคนนะคะ555+
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 11-07-2011 12:08:32
ดูปก และอ่านก่อนใครได้ ที่นี่ที่เดียว (http://www.facebook.com/ExecutionerNovel) 55555
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 11-07-2011 19:12:34
ออกเล่มสองแล้วเหรอ
โฆษณาไว้ตรงไหนเอ่ย
แล้วจะอุดหนุนนะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 11-07-2011 20:35:38
โห เล่นจองกันงี้เลยอะ
กูเลยอดจิ้มประเดิมเลย
ฮ่าๆ
 :mc4:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 11-07-2011 22:37:24
หนังสือ ขาย เมื่อใด แจ้งด่วนนะครับ  o13
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 11-07-2011 23:01:31
มารอด้วยคน
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 11-07-2011 23:36:57
เข้ามารอ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 11-07-2011 23:43:10
เข้ามาปูเสื่อรอด้วยคนค่ะ ^_____________^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 12-07-2011 08:42:24
เล่มสองอยู่ระหว่างทำครับผม น่าจะเสร็จพอๆกับลงเรื่องนี้จบครับ ^^

อัพตอนแรกแล้วนะครับ เรื่องสั้นชุดนี้ ผมไม่ได้แต่งเป็นตอนๆ นะครับ เพราะฉะนั้นผมจะต้องเลือดตัดมาลงเรื่อยๆ
บางตอนอาจสั้นบ้างยาวบ้านตามความเหมาะสมนะครับ และผมจะอัพสารบัญให้หน้าแรกและเปลี่ยนหัวกระทู้บอกให้นะครับผม

ปล. คิดว่าจะลงอาทิตย์ละสองตอนครับ ก็ขอดูความเหมาะสมให้จบพอๆ กับที่ทำเล่มเสร็จพอดีด้วยละกันเนอะ ^^

ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1
เริ่มหัวข้อโดย: jira ที่ 12-07-2011 14:10:09
 :z13: เน้น ๆ 55+
อ่านแล้วจิแอบสงสัยในสถานภาพการดำรงตนของน้องอ้วนกับแพนด้า  อ้วนรับใช่ป่ะคะคุณต้น >///<
จะว่าไป..จิยังไม่ได้เข้าเมืองตามหาหนังสือคุณต้นเลยค่ะ  ติดไว้ก่อนเนอะ
 :o8: :pig4:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 12-07-2011 15:05:41
 :z13:จิทะลุต้น
สนุกจัง จบไม่เศร้าใช่มั้ยจ๊ะ
ปล.ขอเป็นสัปดาห์ละ3วันได้มั้ย อยากได้หนังสือเร็วๆอ่ะ o18
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 12-07-2011 16:16:39
ตอนนี้เน้นฮาครับ อ่านสบายๆ เพราะไอ้อ้วนมันแรดดดด 5555

ปล. พี่อยากได้หนังสือไวๆ ต้องเร่งเจ๊แป๋มครับ อิอิ เพราะปกเสร็จแว้วว เหลือจัดหน้า
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 12-07-2011 17:29:29
เมื่อผมเดินกลับมาถึงที่แม็คโดนัลด์ ผมก็เล่าให้ไอ้เพื่อนทั้งสองคนของผมฟังว่าผมเจอผู้ชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่หน้าห้องน้ำ และพอผมบอกพวกมันว่า ผมอยากให้เขาเปิดประตูชนผมจนล้ม แล้ววิ่งเข้ามาประคองตัวของผมเอาไว้พร้อมกับถามอาการด้วยความเป็นห่วง พวกมันก็หัวเราะเยาะผมกันใหญ่ หาว่าผมตัวโตเป็นควาย แต่ดันทำตัวแอ๊บสวยเหมือนนางเอกละครเสียอย่างนั้น

“สวยเหี้ยไร เดี๋ยวกูตบคว่ำเลย ไอ้สัตว์! มึงเห็นกูสาวรึไงวะ ไอ้เหี้ยยย!” ผมยกมือขึ้นทำท่าจะตบหัวไอ้เมษ

“เปล่า กูไม่ได้บอกว่ามึงสาว แต่กูจะบอกว่ามึงอะ ‘แรด’ เว้ย!” มันหัวเราะ

“แรดเหี้ยไร กูไม่ได้แรดนะเว้ย แต่แค่เป็นคนซื่อตรงกับความรู้สึก”

“ถุ๊ยย! ฮ่าๆๆ นี่ พวกกูถามมึงจริงๆ ว่ะ ไอ้อ้วน มึงเป็นรุกหรือเป็นรับวะ”

ผมสะอึกไปนิดหน่อย “เหี้ยไรของมึงวะ ไอ้สัตว์”

“อ้าว กูถามจริงเว้ย ก็มึงยังไม่เคยบอกกูเรื่องนี้เลยนี่หว่า”

“มึงไม่ต้องมาเสือกกะกู ไอ้เหี้ย มึงสองคนนั่นแหละ ใครรุกใครรับวะ มีอะไรกันไปรึยัง ว่าแต่ทำกันเป็นรึเปล่าเหอะ”

ไอ้เมษหน้าแดงขึ้นบ้างทันที ส่วนไอ้ตุลย์น่ะเหรอ อายม้วนไปตั้งนานแล้ว

“ครวยยย! กูถามมึงก่อนนะเว้ย มึงก็บอกมาก่อนดิ แล้วกูจะบอกมึงทีหลังเอง”

“จะให้กูบอกเหี้ยอะไรมึงวะ ไอ้หน้าหลอดตะเกียบ เช็ดเข้! ก็กูยังไม่เคยนี่หว่า!!” ผมพูดผ่านไรฟันทั้งๆ ที่เขินจนหน้าร้อนผ่าวไปหมด นี่ขนาดปกติผมไม่ค่อยจะรู้สึกเขินหรืออายอะไรกับเขานะเนี่ย

“นั่นไง กูว่าแล้วว่ามึงก็ต้องยังไม่เคย ไอ้อ้วน” ไอ้เมษยักไหล่เบาๆ แบบคนไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก “แล้วว่าแต่ว่ามึงอยากจะทำแบบไหนวะ”

“ถ้ากูทำเหี้ยไรให้ได้กูก็ทำหมดนั่นแหละว่ะ ขอให้ได้ทำก่อนเหอะมึง! เช็ดเข้ ถามกูจัง!”

“มึงพูดเบาๆ หน่อย ไอ้อ้วน! คนมองเว้ยเฮ้ย!” ไอ้ตุลย์รีบปราม

“ก็พวกมึงแหละ เป็นคนเริ่มถามอะไรเหี้ยๆ ก่อนอะ สาดดดดด”

“อ้าวๆๆ มึงยังซิงแล้วเกี่ยวอะไรกับพวกกูวะ”

“หุบปากเลย ไอ้เมษ ไอ้หน้าขี้ไคล! เช็ดเข้ เพราะมึงนั่นแหละ ทำให้กูหลุดพูดอะไรแปลกๆ ออกไปอะ ปกติกูออกจะแบ๊วๆ ใสๆ แม่งงงงง”

“เออ ใส ใสฉิบหาย ใสยังกะขี้เปียกแน่ะ!”

“พอๆๆ พวกมึงสองคนจะกัดกันอีกนานมั้ยเนี่ยยยย” ไอ้ตุลย์ทำหน้าที่เป็นกรรมการห้ามมวย “ว่าแต่พวกพี่ๆ มึงอะ ไอ้อ้วน ใช่คนกลุ่มนั้นป่าววะ ที่เพิ่งเดินเข้ามาอะ กูเห็นเค้าเหมือนมองๆ หาใครอยู่”

ผมหันกลับไปมองทางด้านหลังของตัวเอง ก็เห็นพวกพี่ต้ากำลังยืนหันไปมาอยู่ตรงหน้าประตูร้าน ก่อนที่พี่เขาจะล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง เมื่อเห็นดังนั้น ผมจึงรีบลุกขึ้นยืนแล้วโบกมือเรียกพวกเขาทันที

“พี่ต้าๆๆ!! ทางนี้ๆ!”

“โอย เวร....” ไอ้เมษครางเบาๆ

“เป็นเหี้ยไร มึง” ผมหันมาหามัน

“กูก็อายมึงน่ะสิวะ สาดดดดด”

“อายครวยไร สาดดด แค่ตะโกนเรียกคนรู้จักแค่นี้เอง ทำหน้าบาง ถุ๊ยยย ไอ้หน้ากระเบื้องบาดเอ๊ยยยย”

“โอ๊ยย เวรรรรรร! กูไหว้ล่ะพวกมึง” ไอ้ตุลย์ยกมือขึ้นทำท่าไหว้เราสองคน “ช่วยหยุดกัดกันสักห้านาทีจะได้มั้ยวะ!”

“ว่าไงๆ มาถึงนานยัง อ้วน” พี่ต้าที่เดินเข้ามาถึงที่โต๊ะแล้วถามผม

“ไม่นานมากอะพี่ แค่จะฆ่ากันตายกับไอ้เชี่ยเมษไปหลายรอบแล้วเนี่ย” ผมตอบพลางย้ายที่ไปนั่งลงอีกฝั่ง ข้างๆ ไอ้เมษ “เออ พี่ยังไม่เคยเจอหน้าไอ้สองคนนี้นี่หว่า นี่ไอ้เมษครับ ส่วนนี่ไอ้ตุลย์” ผมแนะนำเพื่อนทั้งสองคนของผม จากนั้นก็หันไปหาพวกมันบ้าง “มึง นี่พี่ต้า นั่นพี่เอ แล้วก็พี่ฝน เพื่อนๆ พี่ชายกู”

“หวัดดีคร้าบบบบ” ไอ้สองตัวยกมือขึ้นไหวพี่ๆ ทุกคนจนครบ

“อ้าว แล้วพี่นก กับพี่แพนด้าอะไรนั่นอะ” ผมถาม “กัสเพิ่งเคยเจอพี่นกเค้าครั้งเดียวเองด้วยนี่ ใช่มะ ทำไมวันนี้พี่เค้าไม่มาเหรอ”

“ช่ายย เพราะไอ้นกมันต้องรีบกลับบ้านอะ พี่ก็เลยกลายเป็นชะนีน้อยฉายเดี่ยวคนเดียวเลยวันนี้ สวยๆ” พี่ฝนตอบพลางทำท่าสะบัดผม

“ส่วนไอ้ด้า เดี๋ยวมันตามมา เมื่อกี้มันแยกไปเข้าห้องน้ำอะ และก็เดินไปซื้อของเหี้ยไรของมันไม่รู้” พี่ต้าพูดขึ้นบ้าง

“ครับ” ผมพยักหน้า ในบรรดากลุ่มเพื่อนที่สนิทที่สุดของไอ้อาร์ม พี่ชายของผมนี่ ผมจะคุ้นเคยกับพี่ต้ามากที่สุดอย่างที่บอก แต่ผมก็เคยเจอพี่คนอื่นๆ อยู่บ้าง โดยเฉพาะพี่ฝน กับพี่เอ ผมก็เคยเจออยู่ห้าหกครั้งแล้ว เว้นก็แต่พี่นกคนที่ไม่ได้มาวันนี้ที่เคยเจอแค่ครั้งเดียวตอนที่พี่เขาไปทำงานกันที่บ้าน แล้วก็พี่ด้าที่ผมไม่เคยได้เจอสักทีนี่แหละ

“เอ้ออ แล้วไอ้พี่ชายตัวดีผมอะ สรุปว่ามันไปไหน”

“ไปดูหนังเหมือนกันนี่แหละ แต่ไปที่อื่นนะ” พี่เอตอบ

“ไปกับคนอื่นด้วย” พี่ฝนพูดเสริม “กูล่ะเบื่อ กิ๊กแม่งเยอะจริงๆ”

“ใช่มะๆ กิ๊กมันเยอะจริงๆ ใช่มะพี่ กัสก็ว่าแล้ว แต่แม่งก็ปฏิเสธตลอดอะ ปากดีฉิบหายยย กูล่ะเบื่ออออ” ผมส่ายหน้าเบาๆ

“ไม่เห็นเหมือนน้องชายเลยเนอะ พี่ นอกจากไม่มีแฟน ไม่มีกิ๊กแล้ว ยังไม่มี ‘คนเอา’ ด้วย” ไอ้เมษสบโอกาสกัดผมทันที

“เดี๋ยวกูเอาตีนลูบหน้าเลย ไอ้สัตว์!!”

“ดูดิพี่ แม่งกัดกันประจำอะ ผมควรทำไงดีครับเนี่ย พี่ว่าก่อนกลับบ้านแวะซื้อตะกร้อมาครอบปากมันสองคนไว้จะดีมั้ย” ไอ้ตุลย์ส่ายหน้า

“เออ ก็ดีนะ พี่ว่า” พี่ต้าหัวเราะชอบใจ

“กูว่าก็พอกันทั้งพี่ทั้งน้องอะ พูดเก่งปากดีพอกันทั้งคู่”

“โหยยยยย ไรอะ พี่ฝน กัสออกจะน่ารัก เรียบร้อย แถมยังหล่ออย่างกับมาริโอ้ขนาดนี้ พี่เอากัสไปเปรียบเทียบกับไอ้เชี่ยอาร์มมันได้ยังงายยยย” ผมโวย

“เห็นมะ ปากดีพอกันทั้งพี่น้องจริงๆ ว่ะ” พี่ฝนหัวเราะ

“เฮ้ย สงสัยไอ้ด้าโทรมาแล้วว่ะ” พี่เอพูดขึ้นพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อ จากนั้นพี่เขาก็กดปุ่มรับสาย “เออ กูอยู่ในแม็คฯ มึงเดินเข้ามาเลย โต๊ะฝั่งซ้ายมือนะ”

“มันอยู่ไหนละ” พี่ต้าถามหลังจากที่พี่เอวางสายแล้วเรียบร้อย

“จะถึงหน้าร้านแล้วว่ะ”

เมื่อพี่ด้า คนที่ผมเคยได้ยินแต่ชื่อเสียงมานานกำลังจะมาถึงเข้าจริงๆ ผมก็ชักเริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นเล็กน้อย  แต่ไม่ใช่ตื่นเต้นที่จะได้เจอพี่เขาหรืออะไร ที่จริง เรียกว่าผมตื่นเต้นเพราะคาดหวังเอาไว้มากจะดีกว่า ก็แหมนะ คนนั้นก็ชมว่าหล่อ คนนี้ก็ชมว่าน่ารัก ผมก็ยิ่งอยากจะเห็นน่ะสิว่าตัวจริงเขาจะหล่อน่ารักเมพขิงๆ อย่างที่เขาว่าสักขนาดไหนกันเชียว

เนื่องจากคราวนี้ผมนั่งหันหน้าออกไปทางประตู จึงสามารถเห็นได้ทันทีว่าใครคนไหนที่กำลังเดินเข้าเดินออก และเมื่อผมเห็นชายกับหญิงคู่หนึ่งกำลังจะเดินเข้ามาในร้าน ผมก็ตาโตและรีบหันไปแอบสะกิดไอ้เมษทันที

“ไอ้เมษๆ!! คนนั้นไงมึง คนที่กูเจอที่หน้าห้องน้ำอะ!” ผมกระซิบลงข้างหูของมัน

“ไหนๆ คนไหนวะ”

“ก็คนที่เพิ่งเดินเข้ามาไง ไอ้ควาย! ที่มากับผู้หญิงอะ”

“อ๋อออ เออๆ เห็นละๆ ที่กำลังเดินมาตรงนี้ใช่มะ”

“ใช่ๆ ที่กำลังเดินมาแถวโต๊ะเรานี่แหละ น่ารักมั้ยมึง!”

“เออ ก็หน้าตาดีจริงๆ อะว่ะ” ไอ้เมษพยักหน้าเห็นด้วย

“ใช่มะๆๆ ไอ้เหี้ยยยยย!!”

“แต่เค้ามากับเมียนะเว้ย” ไอ้เมษหัวเราะในลำคอเบาๆ

“พอเลย ไอ้สัตว์!” ผมต่อยแขนมันก่อนจะผละตัวออกด้วยความเซ็ง

ผู้ชายคนที่ผมเจอหน้าห้องน้ำ เดินตรงเข้ามาแถวๆ โต๊ะของพวกเราพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่ผมเห็นเขามองมาที่ผมและกลุ่มของพวกเรานานจนผิดสังเกต แถมผมยังรู้สึกว่าเขามองผมด้วยสายตาแปลกๆ อีกด้วย

“อ้าววว ไอ้เชี่ยด้า มาแล้วเหรอวะ!” พี่ต้าหันไปกวักมือเรียกผู้ชายคนนั้น

ผมตาโตยิ่งกว่าเดิมเสียอีก “พี่ด้าเหรอ!”

“พรู่ดดดด!!!” ไอ้เมษสำลักน้ำเป๊ปซี่ที่มันเพิ่งดูดลงคอไป

“เอ้ามาๆๆ มึง นี่ไง น้องคนนี้แหละ น้องชายไอ้อาร์มมัน ชื่ออ้วน หรือมึงจะเรียกออกัสก็ได้ น้องมันมีสองชื่อ” พี่ต้าแนะนำ

“เวลาเราไปบ้านไอ้อาร์มมัน มึงก็สวนกับน้องมันตลอดเลยนี่หว่า เลยไม่ได้เจอกันสักที” พี่เอพูด

พี่ด้ามองหน้าผมแล้วยิ้มๆ ดูเหมือนว่าพี่เขาเองก็ตกใจและแปลกใจกับความบังเอิญนี้อยู่เหมือนกัน แต่ผมนี่สิ ทั้งอึ้ง ทั้งใบ้แดก ทั้งเขิน จนไม่รู้จะทำหน้ายังไงดีแล้ว

“อ้าว อีฝ้าย ตกลงมึงมาด้วยเหรอวะ ไหนตอนแรกบอกจะไปซื้อของกับพวกอีมุกไง” พี่ฝนถามพี่ผู้หญิงคนที่มาด้วยกันกับพี่ด้า

“เออ ตอนแรกกูก็ว่าจะไปแหละ แต่ว่าขี้เกียจแล้วว่ะ” พี่ฝ้ายนั่งลงข้างๆ พี่ฝน “เออนี่ กูมีเรื่องจะเมาท์ มึงรู้เรื่องของอีปูเมื่อบ่ายนี้ป่าว”

“อะไรวะ อะไร” พี่ฝนหันไปให้ความสนใจพี่ฝ้ายอย่างเต็มที่ จากนั้นทั้งสองคนก็เริ่มเข้าสู่โลกส่วนตัวกันไปทันที

“ไอ้ด้า มึงมานั่งนี่” พี่เอเรียกให้พี่ด้าไปนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ พี่เขา “นั่นน้องอ้วน อย่างที่ไอ้ต้าบอก ส่วนน้องสองคนนี้ก็เพื่อนน้องเค้าอีกที ชื่อเมษกับตุลย์ น้องๆ ส่วนนี่ก็ไอ้แพนด้า และอีที่นั่งเมาท์อยู่นั่นชื่อฝ้าย เพื่อนพวกพี่ที่มหาลัย”

“หวัดดีครับพี่” ทั้งสองคนยกมือไหว้พี่ด้า แต่ไอ้เมษก็ต้องใช้กระดาษทิชชู่เช็ดน้ำเป๊ปซี่ที่ไหลอยู่ตรงมุมปากให้เสร็จเรียบร้อยก่อนอย่างทุลักทุเล

ผมนั่งมองหน้าพี่ด้าอย่างอึ้งๆ และทำตัวไม่ถูก ถ้าเมื่อกี้ตอนที่ไอ้เมษมันแซวผมทำให้ผมรู้สึกเขินแล้ว ผมก็ต้องบอกเลยว่า ตอนนี้ผมรู้สึกเขิน อาย และทำตัวไม่ถูกกว่าเมื่อกี้ไม่รู้กี่ร้อยเท่า!

“ว่าแต่มึงไปซื้ออะไรมาวะ ไอ้ด้า แล้วนี่ไปเจอไอ้ฝ้ายมันได้ยังไง” พี่ต้าถาม

“อ๋อ กูยังไม่ได้ซื้ออะไรหรอก ก็ว่าจะซื้ออยู่เหมือนกัน แต่แล้วพอดีตอนเข้าห้องน้ำ ฝ้ายก็โทรมาว่ากำลังมาถึงที่นี่แล้ว กูก็เลยเดินไปรับมาอะ”

ผมนั่งมองใบหน้าด้านข้างของพี่ด้าแล้วก็รู้สึกสั่นๆ หวิวๆ ชอบกล นี่ผมจะต้องเรียนพิเศษกับพี่เขาจริงๆ เหรอเนี่ย

“แล้วพวกมึงกินไรกันมารึยัง”


“ยังว่ะ พวกมึงอะ”

“ยังเหมือนกัน ก็มีแต่พวกน้องๆ นี่แหละ ที่กินกันไปแล้ว งั้นเราไปซื้ออะไรมานั่งกินกันมั่งดีกว่าว่ะ กว่าหนังจะเข้ายังมีเวลาเหลือเฟือ พอใกล้ๆ แล้วค่อยไปซื้อตั๋วก็ได้” เมื่อพูดจบ พี่ต้าและพี่เอก็ลุกขึ้นยืน จากนั้นพวกพี่ๆ เขาทั้งหมดทุกคนก็เดินออกจากโต๊ะตรงไปยังเคาน์เตอร์เพื่อสั่งอาหาร

“เอาแล้วไงมึง ไอ้อ้วน พี่เค้าคือคนที่มึงบอกจริงๆ ใช่มั้ยวะ” ไอ้เมษหันมาถามผม

“เออดิ มึงงงงงงงงงง....!! เช็ดแม่ม! กูชอบพี่เค้าว่ะ!!!”

“เฮ้ยย อะไรๆ พวกมึงคุยอะไรกัน” ไอ้ตุลย์ยื่นหน้าเข้ามา

“ก็พี่ด้าคนนี้แหละ คือคนที่ไอ้อ้วนมันเดินเกือบจะชนกันที่หน้าห้องน้ำเมื่อกี้อะ”

“เฮ้ยยย จริงเหรอวะ”

“เออ กูตกใจฉิบหายเลยเนี่ย”

“เหี้ยเหอะ ไอ้เมษ มึงบอกมึงตกใจเหรอวะ มึงลองจับหน้าอกกูดูมั้ย สาดดดด หัวใจแทบหยุดเต้น! เหี้ยเอ๊ยยยยย!! พวกมึง กูอยากได้ๆๆๆๆ คนนี้อ่าาาาา!!”

“ไอ้เชี่ยอ้วน คนนะเว้ย ไม่ใช่คริสปี้ครีม จะได้ต่อคิวสองชั่วโมงแล้วได้แดกเลยน่ะ ถ้ามึงอยากได้ ก็นี่ไง โอกาสมึงแล้วอะ มึงก็ชวนพี่เค้าคุยสิวะ ตอนที่มึงเรียนกับพี่เค้า มึงก็จีบเลยยยย”

“เหี้ย ไอ้เมษ ถ้ามันทำได้ง่ายๆ กูจะโสดมาตั้งนานมั้ยวะมึง แล้วทีมึงสองคนอะ กว่าจะได้คบกัน มัวแต่มองกันไปมองกันมากี่ปี แถมยังทะเลาะกันอีก โถถถ สาดดดดด”

“เฮ้ย กูไม่ได้ทะเลาะกับมันนะเว้ย ไอ้เมษต่างหาก เสือกหาเรื่องกูแล้วงอนกูไปเองอะ” ไอ้ตุลย์รีบออกตัว

“พอเลย ไอ้ปากดี มึงต้องเข้าข้างกูสิ ไม่ใช่มัน” ไอ้เมษหันไปเคาะหัวแฟนมันเบาๆ

ผมหันไปมองที่เคาน์เตอร์ก็เห็นพวกพี่ๆ เขากำลังต่อคิวสั่งอาหารกันอยู่ โดยมีพี่ฝนและพี่ฝ้ายยืนคุยกันอยู่รั้งท้ายสุด พี่เอกำลังยืนมองเลือกเมนูอาหารบนบอร์ดคนเดียวเงียบๆ ส่วนพี่สุดหล่อของผมนั้น กำลังยืนคุยอยู่กับพี่ต้าอยู่ที่หัวแถว
คนอะไรมันจะน่ารักได้ขนาดนี้วะ! ทั้งหน้าตา ทั้งชื่อ ทั้งเสียง ทั้งนิสัย ทุกอย่างของเขามันดูน่ารักไปเสียหมด! นี่ขนาดเพิ่งจะเจอหน้ากันแค่ไม่ถึงสิบนาที ผมก็หลงเขาขนาดนี้แล้วนะเนี่ย ถ้าเกิดว่าเราต้องเรียนด้วยกันทุกอาทิตย์จริงๆ ผมจะหลงเขาแทบตายขนาดไหน ไม่อยากจะนึกเลยยยย

ในตอนหัวค่ำ หลังจากที่พวกเราทยอยออกมาจากโรงหนังกันแล้ว ผมกับพี่ด้าก็แลกเบอร์กันเอาไว้ พี่เขาบอกว่าเอาไว้เขาจะโทรมาคุยกับผมเรื่องเรียนอีกที เพราะวันนี้เราก็แทบไม่ได้คุยกันเท่าไหร่เลย ไอ้ผมก็มัวแต่เขินและกัดอยู่กับไอ้เมษ ส่วนพี่เขาก็คุยกับเพื่อนๆ เสียเป็นส่วนมาก เราจึงยังไม่ค่อยได้ทำความรู้จักกันเท่าไรนัก แต่บอกตรงๆ ว่าแค่เพียงเท่านี้ ผมก็รู้สึกปลื้มใจและทำเอาผมเพ้อไปตลอดทั้งคืนแล้ว
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 12-07-2011 17:53:54
ลุ้นนนนนนนนนนนนน
งานนี้อ้วนต้องเลิกเป่าสากแล้ว
ว่าแต่จะรุกรอดไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 12-07-2011 21:09:22
น่ารักจังอ้วนเนี๊ย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 12-07-2011 21:44:30
เขิน กับ อ้วน ไปด้วยคน :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 12-07-2011 21:50:16
อย่างงี้จะเรียกว่า " รักแรกพบ " ได้เปล่าเนี่ย ต่นต๊น
+1 เป็นกำลังใจให้ รอฉากต่อไป  :z2:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 12-07-2011 22:19:49
อยากกินไข่ดาวแต่ไม่อยากตอกไข่

ให้คนอื่นตอกก็ได้นะ 55+
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 12-07-2011 22:34:29
แอร๊ย...สนุกอ้ะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 12-07-2011 22:40:50
อ๊ายยจะจีบยังไงหล่ะเนี้ยยยย  :impress2:
อย่าเขินมากนะ อิอิ :กอด1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: Ramika ที่ 13-07-2011 01:03:51
ขอเจิมหน้าแรกด้วยคน ว่างๆ เดี๋ยวจะกลับมาอ่าน
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: butterfly_bee ที่ 13-07-2011 03:40:27
อ้วนน่ารักอ่ะ  :man1:
ชอบพี่เค้าก็ลุยเลยอ้วนคุง  :a2:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: Gulp ที่ 13-07-2011 03:55:50
โอ๊ย แค่นี้ก็สนุกแล้วอ่ะ รอตอนต่อไปครับๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1
เริ่มหัวข้อโดย: wisky ที่ 13-07-2011 08:39:07
แค่เริ่มต้นก็น่าลุ้นแล้ว^^ สนใจหนังสือนะแต่อยู่ ตจว.อ่ะสั่งไงล่ะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-07-2011 12:17:21
สนุกมาก ชอบอ้วน ท่าทางแรดจริง
อยากรู้จะจีบกันยังไง

ไปเดินชั้น 7 mbk แต่หาร้านไม่เจอ เซ่อได้อีก
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 13-07-2011 16:14:42
ตามมาอ่านด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 13-07-2011 20:50:22
ตามต่อไป สนุกๆชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 15-07-2011 04:35:42
เนื้อเรื่องน่ารักมากกกกก

จะว่าไป แอบเขินแทนออกัสเหมือนกันนะเนี่ย ถ้าต้องอยู่ใกล้คนที่แอบชอบมากๆทั้งๆที่เพิ่งเคยเจอกันขนาดนี้
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 15-07-2011 09:39:58
เป็นเด็กเตรียมเอนท์ที่น่ารักมาก "พี่เป็นรักแรกของผม". อ๊าย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 15-07-2011 20:35:32
@wisky ถ้าจะสั่ง สั่งได้ครับผม ส่งไปรษณีย์ได้ ^^
@malula ร้านอยู่แถวๆโซนเกมส์น่ะครับ ตรงข้ามกับท่าสยาม แต่อยู่มุมๆหลืบๆนิดนึง >__<"
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 15-07-2011 20:36:35
วันถัดมา หลังเลิกเรียน ผมที่เอาแต่เพ้อถึงพี่ด้าให้ไอ้สองคนนั้นฟัง ก็ถูกพวกมันยุให้เป็นฝ่ายเริ่มโทรไปหาพี่เขาก่อน และผมมันก็เป็นพวกยุขึ้นเสียด้วยสิ ดังนั้นหลังจากที่ผมกลับถึงบ้าน คุยกับแม่นิดหน่อย ผมก็รีบขึ้นห้อง ควักมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วกดโทรหาพี่ด้าทันที

“ฮัลโหล ครับ”

โอ๊ยยยยยยยย.....!! ขนาดเสียงในโทรศัพท์ยังหล่อเลย!!

“ฮัลโหล พี่ด้าครับ นี่กัสนะ”

“ครับน้องกัส ว่าไงครับ สบายดีมั้ย”

“สบายดีครับพี่ แล้วพี่อะ เป็นไงมั่ง คุยได้รึเปล่า กัสกวนพี่รึเปล่าเนี่ย”

“ก็ดีครับ พี่ไม่ได้ทำอะไร นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องเฉยๆ”

“โหหห โคตรขยันเลยพี่! นี่กัสเพิ่งกลับถึงบ้านก็ง่วงแล้วเรียบร้อย นี่ว่าจะนอนสักหน่อยด้วยซ้ำ พี่ทำกัสอายเลยนะเนี่ย รู้ปะ”

พี่ด้าหัวเราะในลำคอเบาๆ “มิน่าล่ะ แม่ถึงได้อยากจ้างครูมาสอนพิเศษ ที่แท้ก็ขี้เซาอย่างนี้นี่เอง”

“โหยยยย พี่อย่าเรียกว่าขี้เซาเลย ชี้หน้ากัสแล้วเรียกกัสว่า ‘ไอ้ขี้เกียจ’ เลยจะเหมาะกว่า ฮ่าๆๆๆ”

เขาหัวเราะชอบใจ แค่พอผมนึกถึงรอยยิ้มของพี่เขา ผมก็ตัวอ่อนระทวยย้วยลงไปนอนอยู่บนเตียงทันที

“แล้วว่าแต่ที่กัสโทรหาพี่เนี่ย มีธุระอะไรรึเปล่าครับ”

“อ๋อออ เออ ใช่ๆ คือกัสคุยกับแม่แล้ว ก็ตกลงนะครับ กัสอยากเรียนกับพี่ด้าอะ ทั้งคณิต ทั้งฟิสิกส์เลย ถ้าเป็นไปได้นะ ว่าแต่พี่เองอะแหละ จะสะดวกวันไหน เมื่อไหร่ กี่โมง ที่ไหนดี อะไรแบบเนี้ยอะครับ”

“โหห จะว่าไปพี่ก็ยังไม่ได้คิดเลยว่ะ คือ พี่อะ ไม่มีเรียนเสาร์อาทิตย์ แล้วก็วันธรรมดา พี่เรียนทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร ส่วนพฤหัสกับศุกร์ พี่ไม่มีเรียนบ่ายน่ะ แม่บอกกัสรึยังล่ะ ว่าอยากจะให้เรียนวันไหนตอนไหนบ้าง แต่ถ้าเรียนสองวิชา มันก็ต้องเพิ่มจำนวนวันเข้าไปอีกนะ กัสจะไหวเหรอ”

ไม่ใช่แค่ไหวเหรอหรอกครับพี่ แทบจะอดใจไม่ไหวเลยมากกว่า ฮ่าๆๆๆ

“แล้วเรื่องที่เรียนอีกอะ กัสอยากเรียนที่ไหน”

“อืมมมม..... เอางี้มั้ยพี่ พี่สะดวกมาสอนที่บ้านกัสมั้ยล่ะ วันธรรมดาอะ พี่ก็เลือกวันที่พี่สะดวกมาสองวัน เอาเป็นวันพุธกับพฤหัสก็ได้ แล้วพี่ก็มานอนกับกัสที่นี่เลย เอ๊ยไม่ใช่! หมายถึงว่า พี่ก็มานอนที่บ้านกัสที่นี่เลย มานอนกับไอ้อาร์มมันอะ แล้วออกไปเรียนตอนเช้าพร้อมมัน ไรงี้ไง จะได้ไม่เหนื่อย เพราะแม่กัสเค้าก็อยากให้กัสเรียนที่บ้านด้วย แต่กัสก็เกรงใจพี่นะ มาที่นี่ตลอดฝ่ายเดียวก็คงไม่ดี เพราะงั้นเสาร์อาทิตย์ กัสขอเวลาพี่วันละแค่สองชั่วโมง ไปเรียนที่หอพี่ก็ได้ จะได้คนละครึ่งๆ โอเคมั้ยครับ แบบนี้พี่สะดวกรึเปล่าล่ะ”

พี่ด้าเงียบลงไปพักหนึ่ง ผมเองก็ได้แต่นอนลุ้นว่าแผนของผม เอ๊ย ผมหมายถึง สิ่งที่ผมเสนอไป จะโอเคสำหรับพี่เขาหรือไม่

“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ห้องพี่รกหน่อยนา ถ้ากัสจะมาจริง พี่ก็คงต้องรีบเก็บห้องแล้วล่ะ” เขาหัวเราะเบาๆ

หัวใจของผมพองโตขึ้นทันที “ม่ายยยย กัสไม่ถือเลยครับพี่ ห้องกัสดิ รกยิ่งกว่า แม่เคยบอกว่าห้องกัสอะ ถ้างูเลื้อยเข้ามามันยังต้องตกใจเลย ฮ่าๆๆ”

“แหม ก็เวอร์ไปมั้ง ว่าแต่แล้วกัสอยากจะเริ่มเรียนเมื่อไหร่ล่ะ”
แหมเว้ยยย วันนี้เลยได้ปะล่ะ ขนาดไม่ได้เจอกันแค่วันเดียว ผมก็คิดถึงแทบจะลงแดงตายอยู่แล้วนะเนี่ย!

“เอาเป็นอาทิตย์หน้าดีมั้ยครับ เดี๋ยวกัสกลับไปคุยกับแม่ดูอีกทีก่อน.....” เอาน่า คนเรามันก็ต้องมีไว้ท่ากันบ้างสิ “และที่สำคัญ กัสจะได้เก็บห้องก่อนด้วย ฮ่าๆๆ”

“โอเคๆ ได้ๆ พี่จะได้ไปเดินหาซื้อหนังสือแล้วจะได้เตรียมตัวด้วย กัสอยากเน้นเรื่องไหนเป็นพิเศษรึเปล่า”

“เน้นทุกเรื่องเลยครับ กัสโง่ ฮ่าๆๆ แต่ถ้าพี่ด้าจะไปซื้อหนังสือ กัสขอไปด้วยคนได้มั้ยอะครับ อยากไปเดินๆ ดูเหมือนกัน แล้วก็จะได้บอกพี่ถูกด้วยว่ากัสโง่เรื่องไหนเป็นพิเศษ”

“โอ๊ยยยย น้องก็พูดไป ไอ้อาร์มมันยังไม่เคยเห็นบอกพี่สักคำเลยว่าน้องชายมันโง่น่ะ เห็นบอกแต่น้องมันติดเที่ยว ติดเพื่อนเล่นกีฬาเยอะ แล้วก็ติดผู้หญิงอะไรแบบเนี้ย”

“โหหหห ติดผู้หญิงนี่ตัดไปให้ไกลๆ เลยครับพี่ ตัดแรงๆ แล้วเอาไปปาใส่หน้าไอ้อาร์มมันนั่นแหละ สาดดดด กัสเนี่ยนะ จะติดหญิง ไม่มีทางๆ”

“โอเคๆ สรุปว่าเราจะไปซื้อหนังสือด้วยกันใช่มั้ย แล้วจะไปเมื่อไหร่ดี”

“พรุ่งนี้วันศุกร์ พี่ไม่มีเรียนบ่ายใช่มั้ยล่ะครับ เราไปกันตอนเย็นๆ หลังกัสเลิกเรียนเลยดีมะ”

“อืมมม พรุ่งนี้เลยเหรอ พี่ว่าพี่ยังไม่ค่อยสะดวกน่ะครับ”

ผมใจแป้วไปเล็กน้อย “อ้าวเหรอครับ”

“เปลี่ยนเป็นวันเสาร์แทนได้มั้ยล่ะ พี่ว่างทั้งวัน”

“โอเคเลยครับพี่!” ผมรับคำด้วยความดีใจ

“หึๆ โอเค งั้นตกลงตามนั้นนะครับ ถ้าไงพี่ขอตัวก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวจะอาบน้ำและออกไปหาอะไรกินสักหน่อย”

“ได้ครับๆ แล้วไว้คุยนัดกันอีกทีแล้วกัน”

“ได้เลยครับ ยังไงก็โทรมาแล้วกัน อ้อ แล้วก็มีอีกเรื่องนึง พี่ขอโทษเรื่องเมื่อวานที่หน้าห้องน้ำอีกครั้งนะ”

“ฮ่าๆๆๆ ไม่เป็นไรครับพี่ กัสก็มัวแต่เหม่ออยู่เองแหละ”

“ไม่หรอก พี่เองแหละที่มัวแต่เหม่อ มัวแต่กดมือถืออยู่ พอดีพี่เพิ่งวางสายจากฝ้ายน่ะ ก็เลยไม่ทันได้ระวัง ผลักประตูเปิดไปซะเต็มที่เลย เกือบทำตัวเองเสียลูกค้าไปซะแล้วมั้ยล่ะ” เขาหัวเราะ

“ถ้ากัสโดนกระแทกจนเป็นลมล้มไปหรือความจำเสื่อม ไรงี้ พี่ด้าต้องรับผิดชอบด้วยนะ ฮ่าๆๆ เอากัสไปเลี้ยงดูคอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้เลย”

“โหหห ขนาดนั้นเลยเหรอ งั้นพี่ก็โชคดีนะเนี่ย ที่กัสไม่เป็นอะไรน่ะ” เขาหัวเราะหึๆ ในลำคอเบาๆ “เอ้อ ว่าแต่ตกลงพี่ควรจะเรียกเราว่าอะไรกันแน่เนี่ย เห็นเราแทนตัวเองว่ากัสก็จริง แต่เพื่อนๆ พี่ กับเพื่อนๆ เรา ดูเหมือนจะเรียกเราว่าอ้วนหมดเลยนี่”

“ใช่ครับ คือที่บ้านอะ พ่อกับพวกคนงาน แล้วก็ญาติคนอื่นๆ จะเรียกกัสว่า กัส ไม่ก็ออกัส จะมีก็แต่แม่กับไอ้อาร์มแหละ ที่เรียกว่าอ้วน แล้วก็พวกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนส่วนมากก็เลยเรียกอ้วนด้วยเหมือนกัน แต่ถ้านับจริงๆ คนที่เรียกว่ากัสก็มีหลายคนเหมือนกันนะ จริงๆ เยอะกว่าคนเรียกอ้วนด้วยซ้ำ”

“แล้วงี้พี่จะเรียกเราว่าอะไรดีล่ะ กัส หรือว่า อ้วน แบบไหนดีกว่ากัน”

“เรียกกัสแหละพี่ กัสชอบชื่อนี้มากกว่าอะ ก็กัสไม่อ้วนสักหน่อย จริงปะล่ะ แถมชื่อออกัสก็ออกจะน่ารัก เหมาะกะหน้าตาและบุคลิกของกัสจะตายยย”

“ฮ่าๆๆ โอเคๆ ขอมาก็จัดไปครับ งั้นพี่ไปก่อนละนะ ไว้คุยกันใหม่นะครับ น้องออกัส” พี่เขาปิดท้ายด้วยน้ำเสียงขี้เล่น

“ได้เลยครับ พี่แพนด้า” ผมยิ้มกว้างจนปากแทบจะฉีกถึงรูหู

หลังจากวางสายไปแล้ว ผมก็คว้าหมอนข้างขึ้นมากอด แล้วก็กลิ้งตัวไปมาบนเตียง ยิ้มคนเดียว เขินคนเดียว มีความสุขคนเดียวอยู่แบบนั้น ผมรู้สึกหัวใจมันพองโตไปหมด รู้สึกตัวเองราวกับฝันไปที่ได้คุยกับคนน่ารักถึงขนาดนี้ และรู้สึกขอบคุณโชคชะตาจริงๆ ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสได้รู้จักกับพี่คนนี้

ผมอยากรู้จริงๆ ว่าคนหน้าหวาน น่ารัก เรียนดี และเรียบร้อยแบบพี่เขานี้ จะเป็นเกย์ด้วยเหมือนกันหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน1+2
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 15-07-2011 20:43:13
พออ่านจบก็ม้วนตัวบนเตียงตามไปด้วย
น้องกัสช่างพูดช่างคุยไม่เบาเลย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 3
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 15-07-2011 21:29:31
แผนสูงจริงๆ เลยนะกัสเนี๊ย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 3
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 15-07-2011 21:44:53
ออกัสนี่ขนาดเด็กมัธยมนะ ยังแพรวพราวขนาดนี้ โหย..พี่ด้าจะทันน้องมันปะเนี่ย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 3
เริ่มหัวข้อโดย: butterfly_bee ที่ 15-07-2011 22:10:45
น้องกัสช่างพูดนะเนี่ย
ชวนคุยใหญ่เลย
ขอให้จีบพี่แพนด้าติดไวๆนะน้องออกัส
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 3
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 15-07-2011 22:52:49
 :z1:  เขินอ่ะ   
แต่เขินยังไงก็มารอตอนต่อไปนะครับ o13
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 3
เริ่มหัวข้อโดย: pimkung ที่ 15-07-2011 23:10:19
โฮ่ กัสร้ายไม่เบาเลยนะ
น่าหนุกดีค่ะ อยากอ่านต่อแล้ว  :really2:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 3
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 15-07-2011 23:36:59
เอาตรงๆ น้องกัสแมร่ง "เยอะ" หว่ะ 5555
เรื่องนี้อ่านแล้วเพลินดีครับ
ผ่อนคลายสมองจากน้องโจน้องนนท์ ^^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 3
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-07-2011 00:34:49
ออกัสเด็กจอมวางแผน
คิดภาพตามแล้วยิ้มแก้มปริ มีความสุขไปด้วย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 3
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-07-2011 08:18:55
 :L1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 3
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 16-07-2011 09:25:23
ไอ้ม้วนตัว ตว้ดหมอน กลิ้งไปมาบนเตียงนี่ เห็นภาพเลย ชอบทำเหมือนกัน

ความรักของเด็กๆนี่ยังไงมันก็น่ารักเนอะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 3
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 17-07-2011 10:43:27
จะมาลงตอนใหม่ให้วันอังคารนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 3
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 17-07-2011 15:46:07
น้องกัสนี่มันไวจริงๆแฮะ  รุกไม่ยั้งเลย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 3
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 18-07-2011 19:19:56
โห ตกไปหน้า 3

o__O
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 3
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 19-07-2011 17:19:47
วันศุกร์ผ่านไปอย่างเชื่องช้า จนผมแทบรอให้ถึงวันเสาร์ไม่ไหว และเมื่อเช้าของวันที่ผมรอคอยมาถึง ผมก็ตื่นแต่เช้ามาแต่งองค์ทรงเครื่องแบบเต็มที่ ผมเกรียนๆ ที่มีอยู่หน่อยเดียวบนหัว ก็ต้องถูกแว็กซ์ปาดให้เข้าทรงที่สุดเท่าที่จะทำได้แบบไม่ให้ผิดธรรมชาติ น้ำหอมที่ผมเลือกใช้ ก็เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบที่ผมชอบที่สุด ผมกะว่าเจอกันครั้งนี้ ผมจะต้องทำให้พี่เขาประทับใจอะไรบางอย่างในตัวของผมให้ได้ และที่สำคัญ ผมก็จะต้องพยายามรู้ให้ได้ด้วยว่าพี่เขาชอบผู้ชายเหมือนกันรึเปล่า

ผมนั่งรถไฟฟ้าไปเจอพี่ด้าที่สยามตามที่นัดกันเอาไว้ ซึ่งผมก็ไปถึงก่อนเวลานัดนิดหน่อยอย่างที่ตั้งใจ ผมนั่งรออยู่ในร้านโดนัทที่มีคนพลุกพล่านประมาณหนึ่งอยู่ไม่นาน ก็เห็นพี่เขาเปิดประตูร้านเข้ามา แต่ดูเหมือนเขาจะยังไม่เห็นว่าผมนั่งอยู่โต๊ะไหน ผมจึงถือโอกาสนี้แทะโลม เอ๊ยย มองพี่เขาได้อย่างเต็มตาและอย่างสบายใจ

พี่ด้าเป็นคนน่ารักมากจริงๆ ดูแล้วพี่เขาคงสูงแค่ราวๆ 170 เซนติเมตรต้นๆ หรืออาจจะน้อยกว่านิดหน่อยเท่านั้น แต่ก็ดูเหมาะสมกับหน้าตาและบุคลิกของเขาดีแล้ว ผมว่าเขาดูเหมือนเป็นคนเหนือนะ ผิวขาว หน้าเด็ก จมูกเล็ก หูเล็ก ตากลมใสเป็นประกาย ริมฝีปากก็บาง ดัดฟัน ตัดสกินเฮด และแถมยังมีลักยิ้มอีก ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้เขาดูน่ารักเวลาที่ยิ้มหรือหัวเราะมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังดูมีบุคลิกเป็นคนกวนๆ ขี้เล่น และทะเล้นแฝงอยู่ด้วยเหมือนกัน ไม่ได้ดูเป็นผู้ชายตัวเล็กหน้าหวานที่ใครจะฟันธงว่าเป็นเกย์อะไรแบบนั้นได้เลย คือจะเรียกว่ายังไงดีล่ะ ผมคิดว่าพี่เขาดูแมนมาก ไม่ออกสาวเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นที่ไอ้อาร์มเคยบอกผมว่าเขามีผู้หญิงมาชอบเยอะแยะ และถ้าหากแม้ว่าพี่เขาจะมีแฟนเป็นผู้หญิงจริง ผมว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่เพราะด้วยหน้าตาของเขาบวกกับการที่เขาตัวเล็กเป็นแบบนี้ จึงทำให้ผมรู้สึกสงสัยว่าเขาคนนี้ “เป็นเกย์” หรือเปล่า และผมว่าคนเป็นรุกอีกหลายๆ คนก็คงต้องคิดเหมือนผมแน่นอน

หืมมมม.... นี่ตกลงว่าผมเป็นรุกอย่างนั้นเหรอเนี่ย

พี่ด้ายืนหันไปหันมามองหาผมอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สายตาของเราจะพบกัน เมื่อเขาเห็นผมแล้ว เขาก็ยิ้มกว้างและเดินตรงเข้ามาหาผมทันที ใจของผมเต้นแรงไปหมด รู้สึกอยากจะรวบตัวของเขาเข้ามากอดเสียให้รู้แล้วรู้รอด!

“มาถึงนานรึยังครับ โทษทีนะ พี่มัวแต่เก็บห้องอยู่น่ะ” พี่ด้าเลื่อนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับผมแล้วนั่งลง

“ไม่เป็นไรครับพี่ ว่าแต่ทำไมพี่รีบเก็บจังอะ กว่ากัสจะไปก็ตั้งอาทิตย์หน้า”

“เปล่าหรอก คือเย็นนี้เพื่อนพี่คนนึงจะไปที่ห้องน่ะ ก็เลยต้องเก็บไว้หน่อย”

“เหรอๆ กี่โมงอะครับ”

“ก็ช่วงๆหัวค่ำแหละมั้ง ทำไมเหรอ”

“เปล่าหรอกครับ ก็แค่ถามดูเฉยๆ ใช่พวกพี่ต้ารึเปล่า”

“เปล่าๆ ไม่ใช่พวกไอ้ต้าหรอก เพื่อนคนอื่นน่ะ”

“อืมมม ครับ แล้วนี่พี่กินไรมายัง”

“ยังเลย พี่ตื่นสายไปหน่อยน่ะ เลยรีบๆ จัดห้อง แล้วอาบน้ำแต่งตัวออกมาเลย แล้วกัสล่ะ กินอะไรมารึยัง”

“ยังเลยครับ งั้นเราหาอะไรกินกันก่อนดีมั้ย พี่จะต้องรีบกลับห้องรึเปล่าอะ”

“ไม่หรอก พี่เรื่อยๆ อยู่ได้จนกระทั่งถึงเย็นนั่นแหละ ว่างทั้งวันอยู่แล้ว”

“ถ้างั้นพอซื้อหนังสือเสร็จแล้ว พี่ไปดูหนังกับกัสหน่อยมั้ยครับ” ผมรีบฉวยโอกาสนี้ไว้ทันที “ไปดูเป็นเพื่อนกัสหน่อยนะ ไหนๆ กัสก็ออกจากบ้านมาแล้วด้วยอะ ไม่อยากรีบกลับว่ะพี่”

“เฮ้ยย จะดูอีกแล้วเหรอ เมื่อวันก่อนก็เพิ่งดูไปเองไม่ใช่รึไง”

“ก็กัสชอบดูหนังอะ แต่ถ้าพี่ไม่อยากดูก็ไม่เป็นไรนะครับ กัสไปดูคนเดียวก็ได้”

“โอเคๆ ไปดูก็ได้ครับ อย่าเพิ่งทำหน้าน้อยใจดิ พี่ก็ยังไม่ได้บอกว่าจะไม่ไปเลย แถมพี่เองก็ยังว่างอยู่แล้วด้วย”

โอววววว สวรรค์!!

“ขอบคุณมากครับพี่!!” ผมยิ้มกว้าง

“เฮ้ยย ขอบคุณอะไรกัน พี่ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” พี่ด้าหัวเราะเบาๆ

ผมว่าสักวันผมคงจะต้องตายเพราะรอยยิ้มของพี่เขาจริงๆ นะเนี่ย

หลังจากนั้นเราสองคนก็ไปหาร้านอื่นนั่งเพื่อกินข้าวเช้ามื้อสายด้วยกัน ในระหว่างนั้นเราจึงได้คุยกันหลายเรื่องมากมาย ถึงแม้ผมจะเป็นฝ่ายพูดมากกว่า แต่เราก็แลกเปลี่ยนเรื่องราวและประวัติสั้นๆ เกี่ยวกับชีวิตของตัวเองกันหลายเรื่อง

ผมได้รู้ว่า พี่ด้าเป็นคนจากจังหวัดน่าน ที่มาสอบติดอยู่มหาวิทยาลัยใจกลางเมืองแถวสยามนี่เช่นเดียวกันกับพี่ชายของผม เขาเป็นลูกคนกลาง มีพี่สาวหนึ่งคน และน้องชายอีกหนึ่งคน เขารู้จักกับพี่ชายของผมตอนช่วงก่อนรับน้องนิดหน่อย และพอคุยกันถูกคอ ก็เลยตัดสินใจย้ายออกจากหอพักเก่า มาอยู่หอพักแถวมหาวิทยาลัยด้วยกันกับมันเสียเลย ซึ่งพี่เขาบอกว่า ที่จริงแล้วไอ้อาร์มมันก็เป็นคนนิสัยดีมากและเรียนดีพอใช้ได้อยู่เหมือนกัน เพียงแต่เสียที่มันดันติดเที่ยวเล่นและติดหญิงมากไปหน่อยเท่านั้นเอง จึงทำให้การเรียนค่อยๆ ตกลง จนพ่อกับแม่ของผมตัดสินใจให้มันกลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิมแทน

แน่นอนว่าเมื่อสบโอกาส ผมจึงถามคำถามที่ผมรู้สึกสงสัยอยู่ออกไปทันที

“พี่ กัสถามไรหน่อยดิ พี่มีแฟนยังอะ”

“โหยยย ยังไม่มีหรอกครับ”

“จริงอะ” ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

“เออออ ก็จริงดิ พี่จะโกหกทำไมเล่า” เขายิ้มกว้างโชว์เหล็กดัดฟันสีน้ำเงินเข้ม

“คร้าบบบบ กัสก็ยังไม่ได้ว่าพี่โกหกสักหน่อย” ผมยักไหล่ พลางคิดในใจว่าถ้าเป็นแบบที่พี่เขาว่าจริงก็เยี่ยมไปเลย

ที่เขาว่ากันว่า เวลามักจะผ่านไปเร็วในยามที่เรามีความสุขเนี่ย มันเป็นความจริงอย่างที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกรณีของผมในวันนี้ด้วยแล้ว ผมยิ่งรู้สึกว่าเวลาเดินเร็วเกินไปมาก จนผมอยากจะหยุดมันเอาไว้หรืออยากจะให้วันหนึ่งมีสัก 48 ชั่วโมงจริงๆ

หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้ว เราก็ไปเดินเลือกซื้อหนังสือด้วยกันกันต่อ จากนั้นก็ไปกินข้าวกลางวัน ต่อด้วยดูหนัง และตบท้ายด้วยการนั่งกินไอศกรีมกันสองคน จนเมื่อผมรู้สึกตัวอีกที ก็เป็นเวลาหกโมงกว่าเกือบจะทุ่มนึงแล้ว และก็เป็นเวลาที่พี่ด้าต้องกลับหอแล้วด้วยเช่นกัน

“เพิ่งจะหกโมงเองนะพี่ ไหนตอนแรกพี่บอกว่าเพื่อนพี่จะมาช่วงหัวค่ำไง”

“แต่นี่มันก็หกโมงสี่สิบห้าแล้วนา พี่ว่าก็ใกล้ได้เวลาแล้วล่ะ และที่สำคัญคือ ไอ้หอพี่น่ะ มันก็อยู่ไม่ได้ไกลจากแถวนี้เท่าไหร่หรอก แต่กัสที่ต้องนั่งรถกลับบ้านอีกตั้งไกลนี่น่ะสิ กลับดึกมากมันจะไม่ดีรึเปล่า เดี๋ยวพ่อแม่จะว่าเอานะ”

“โอ๊ยยยยยย ไม่มีใครเค้าห่วงกัสแล้ว พี่ กลับดึกจนเค้าชินกันหมดแล้วอะ”

“โหหหห เด็กไม่ดีนะเนี่ย”

“อะไรๆ ไม่จริ๊งงงงไม่จริงงงง กัสออกจะเป็นเด็กดีเหอะ แต่ที่กัสกลับดึกเนี่ย เพราะกัสเล่นกีฬาไงพี่ ไม่เคยไปเที่ยวเถลไถลที่ไหนนะ จะบอกให้”

“โอเคๆ เข้าใจแล้วคร้าบบบ แต่พี่กลัวว่าแม่หรือพ่อเค้าจะหาว่าพี่ ที่กำลังจะเป็นครูสอนพิเศษกัสเนี่ย พากัสไปเถลไถลน่ะสิ แล้วคราวนี้เค้าจะยอมให้กัสมาเรียนกับพี่อีกเหรอ”

“โหยยย พี่ คิดมากไปน่าาาา แต่ถ้าพี่พูดขนาดนั้น กัสกลับเลยก็ได้ เฮ้ออออ สงสัยว่าคนที่จะมาหาพี่ที่ห้องนี่จะเป็นผู้หญิงซะล่ะม๊างงงง”

“อะไร ทำเป็นรู้ดีนะเรา” เขาหัวเราะเบาๆ

ใจของผมกระตุกวูบทันที แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังคงพยายามรักษารอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้เหมือนเดิม

“อ้าวๆๆ ไม่ปฏิเสธด้วย แปลว่าเป็นผู้หญิงจริงๆ ล่ะสิเนี่ย พี่”

“มันก็ใช่อยู่หรอก......”

“อะไรวะ แล้วไหนบอกไม่มีแฟนไง โหๆๆ ร้ายนะเนี่ยยย กิ๊กเหรอพี่”

“ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่ทั้งแฟน แล้วก็ไม่ใช่ทั้งกิ๊กด้วย ก็เพื่อนกันธรรมดาๆ นี่แหละ” พี่ด้ายิ้มตอบกลับ แต่ทว่ารอยยิ้มครั้งนี้ของเขากลับทำให้ผมรู้สึกเจ็บแปลบในอก “พอๆๆ ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ไปๆ กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่รถไฟฟ้า”

“โอเคครับ......” ผมรับคำ จากนั้นก็หยิบกระเป๋าขึ้นสะพาย

เราสองคนเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ และหลังจากที่พี่ด้าได้รับเงินทอนเรียบร้อยแล้ว เขาก็หันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง

“ไปกันเถอะ”

ผมส่ายหน้าเบาๆ “ไม่เป็นไรดีกว่าพี่ กัสว่าพี่รีบกลับไปดีกว่า กัสเดินไปเองได้ครับ”

“อ้าวเฮ้ย ไม่เป็นไร เค้ายังไม่ได้โทรมาตามด้วย พี่ไปส่งกัสก่อนก็ได้”

“ไม่ต้องถึงขนาดให้เค้าโทรมาตามหรอกพี่ เดี๋ยวจะทะเลาะกันเปล่าๆ กัสไปละครับ วันนี้ขอบคุณมากนะพี่ แล้วไงไว้วันหลังค่อยคุยกันใหม่ก็แล้วกัน หวัดดีฮะ ไปละๆ บายพี่” ผมยกมือขึ้นไหว้พี่เขาเร็วๆ จากนั้นก็โบกมือสองสามที แล้วรีบหันหลังเดินจากไปทันที

คืนนั้นหลังจากกลับถึงบ้าน ผมก็หยิบมือถือขึ้นมา คิดอยากจะกดโทรหาพี่เขาตั้งหลายครั้ง แต่ก็ทำได้เพียงแค่คิดเท่านั้น และเมื่อผมลองออนเอ็มเอสเอ็นดู ก็ไม่เห็นพี่เขาออนไลน์อยู่อีกต่างหาก ผมรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านไปหมด ในหัวมันเอาแต่คิดถึงว่าพี่เขาจะกำลังทำอะไรกับ “เพื่อน” ผู้หญิงคนนั้นของเขาอยู่รึเปล่า และยิ่งพอผมคิดแบบนั้น คิดถึงหน้าขาวๆ ตาใสๆ ของพี่เขาตอนกำลังมีอะไรกับคนอื่นอยู่ ผมก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก

“เฮ้ย! ไอ้อ้วน.... ไอ้กัส.... ไอ้อ้วนกัส! ไอ้กัสอ้วน!” เสียงของไอ้พี่ชายตัวดีของผมดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง “เปิดประตูหน่อยเด๊ะ”

“อะไร!” ผมกระชากประตูออก “กูเคยบอกมึงแล้วไง จะเรียกกูว่าอะไรก็เรียกสักอย่าง อย่ากวนตีน กูไม่ชอบ”

“เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะ” มันนิ่วหน้าด้วยความสงสัย “ไปโมโหใครมารึไง”

“เปล่า ตกลงมึงมีอะไร เรียกกูทำไมเนี่ย”

“ก็ไม่มีอะไรหรอก กูขอยืมเสื้อแขนยาวสีชมพูตัวนั้นของมึงหน่อยเด่ะ กูจะใส่พรุ่งนี้ว่ะ”

“เออๆ” ผมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าออก แล้วหยิบเสื้อตัวที่มันต้องการมายื่นให้กับมัน

“ขอบใจเว้ย” ไอ้อาร์มรับเสื้อไปถือไว้ในมือ แต่แล้วในตอนที่มันกำลังหมุนตัวกลับไปอยู่นั้น มันก็ดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงชะงักฝีเท้าลงแล้วหันกลับมาหาผมอีกครั้ง “เออ จะว่าไป วันนี้มึงไปซื้อหนังสือกับไอ้ด้ามานี่หว่า แล้วเป็นไงมั่งวะ”

“มึงรู้ได้ไงวะ”

“ก็แม่บอกกูอะ เมื่อเช้ามึงเป็นคนบอกแม่เองไม่ใช่รึไงว่าจะไปซื้อหนังสือกับครูสอนพิเศษในอนาคตของมึงน่ะ”

“เออ ก็ใช่.....”

“แล้วไง สรุปเป็นไง ได้อะไรมามั่ง แล้วไอ้ด้ามันเป็นยังไงมั่งวะ”

ผมยักไหล่ “ก็ดีอะ เรื่อยๆ.....”

ไอ้อาร์มเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างข้องใจ “มึงเป็นอะไรของมึงวะ ไอ้อ้วน เออ ว่าแต่ มึงบอกให้ไอ้ด้ามันเรียกมึงว่าอะไร เรียกกัสใช่มะ”

“เออๆ ก็งั้นแหละ แล้วตกลงหมดธุระยัง กูจะคุยโทรศัพท์”

“เออๆ ก็ได้วะ” มันตั้งท่าเดินจากไป

“เฮ้ย เดี๋ยวดิ๊ ไอ้อาร์ม”

“อะไรวะ”

ผมอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง “.....เปล่าๆ ช่างมันเหอะ”

“เอ้า เชี่ยไรของมึงวะ ไอ้อ้วน”

ผมปิดประตูห้องลง จากนั้นก็เดินกลับมามองรายชื่อเพื่อนในเอ็มเอสเอ็นเพื่อเช็คดูว่าพี่ด้าออนหรือยัง แต่ก็ต้องผิดหวังอีกครั้ง
ผมไล่สายตาไปเรื่อยๆ และเห็นว่าพี่ต้ากำลังออนไลน์อยู่ ผมจึงทักพี่เขาไป

“พี่ต้า ทำไรอยู่”

“นั่งฟังเพลงอะ ว่าไง ไอ้อ้วน วันนี้เป็นไงมั่ง ไปเที่ยวกับไอ้ด้ามาไม่ใช่เหรอ”

“เฮ้ย พี่รู้ได้ไงอะ”

“อ้าว ก็ไอ้ด้ามันบอกพี่เอง”

“บอกเมื่อไหร่พี่”

“เมื่อคืนอะ มันบอกว่าจะไปเดินซื้อหนังสือกับเรา แล้วเมื่อตอนหัวค่ำนี่มันก็โทรมาทีนึงด้วย ทำไมเหรอ”

“เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอกพี่ ก็แค่ถามเฉยๆ” ผมกดปุ่มเอ็นเตอร์ แล้วนั่งใช้นิ้วเคาะแป้นพิมพ์เบาๆ อยู่สองสามครั้ง ก่อน
จะเริ่มพิมพ์ประโยคต่อไป

“พี่ว่างปะ ไว้กัสโทรไปคุยแทนได้มะ ฝนเหมือนจะตกอะ เน็ตแม่งห่วยแตกมาก ตอนนี้”

“โอเค ได้ๆ อีกสักห้านาทีโทรมาแล้วกัน”

“งั้นเดี๋ยวโทรไป พี่” ผมกดปุ่มเอ็นเตอร์อีกครั้ง แล้วจากนั้นก็ลงชื่อออกจากโปรแกรม ก่อนจะเดินไปเอนตัวลงนอนหงายรอเวลาอยู่บนเตียง
แล้วผมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่านี่ผมจะคุยอะไรกับพี่เขาดีเนี่ย

อีกไม่กี่นาทีถัดมา พี่ต้าก็เป็นฝ่ายโทรมาหาผมด้วยตัวเอง

“เออ ว่าไงๆ พี่คิดว่าพี่โทรเองดีกว่าน่ะ จะได้ไม่ต้องเปลืองเงินเราไง” พี่เขาทักขึ้นทันทีที่ผมรับสาย “ตกลงว่าไง มีไรจะคุยกับพี่”

“โอ๊ยยย ไม่มี๊ ก็แค่คิดถึงเฉยๆ เลยอยากคุย แต่แบบว่าขี้เกียจพิมพ์ อะไรแบบนี้ เน็ตแม่งห่วยด้วย ฟ้าแม่งก็ร้องครืนๆ อยู่เนี่ย แถวหอพี่ฝนตกป่าวอะ”

“หืมมมม ก็ไม่นะ ก็แค่ลมพัดแรงอะ แต่ยังไม่ตกหรอก”

“แล้วพี่ทำไรอยู่”

“ไม่ได้ทำไร คือเมื่อกี้เล่นคอมใช่มะ แล้วก็ลุกไปฉี่มา พอสะบัดเสร็จและล้างมือเสร็จแล้วก็เลยโทรมาหาเราเนี่ยแหละ”

“โหๆๆ ไม่ต้องบอกรายละเอียดมากนักก็ได้! แหมเว้ย พี่กู”

“เอ้า ก็นึกว่าอยากรู้” พี่ต้าหัวเราะเบาๆ

“เออนี่ กัสสงสัยว่ะ ว่าหอพี่กับหอพี่ด้าเนี่ย อยู่ไกลกันมากปะ”

“ก็ไม่ไกลนะ แป๊บเดียวก็ถึงอะ เออ ใช่ๆ แล้วนี่ ตกลงวันนี้เป็นไงมั่ง ไปทำไรกันมามั่งล่ะ ไอ้ด้ามันก็ไม่ได้เล่าให้พี่ฟังด้วยดิ”

“ก็ไม่ได้ทำไรอะพี่ ก็แค่เดินดูหนังสือด้วยกัน กินข้าว กินติม ดูหนัง ไรเงี้ย”

“โหหหห ยังกะไปเดทกันเลยเว้ยเฮ้ยยย”

“เดทบ้าไรพี่! ผู้ชายทั้งคู่นะเว้ย! และที่สำคัญ พี่ด้าเค้าก็มีแฟนอยู่แล้วไม่ใช่รึไง”

“ใคร ไอ้ด้าเนี่ยนะ มีแฟน มันบอกเราเหรอ”

“เปล่าหรอก คือ.... ก็ไม่เชิงอะครับ คือเค้าก็ดูเขินๆ ตอนที่ยอมรับว่าวันนี้จะมีผู้หญิงมาหาที่ห้อง ไรเงี้ย”

“ห๊าาาาา!! วันนี้มีผู้หญิงมาหามันที่ห้องเหรอ! ไอ้ด้าเนี่ยนะ!”

“อ้าว พี่ไม่รู้เหรอ”

“เฮ้ยยย พี่จะไปรู้ได้ไง แล้วใครไปหามันที่ห้อง มันได้บอกรึเปล่า แล้วมันพูดยังไงเนี่ย เอาละเอียดๆ ซิ”

“ก็ไม่มีไรหรอกพี่ พี่ด้าเค้าก็แค่บอกว่าเค้านัดเพื่อนไว้ตอนเย็น เพื่อนจะไปหาที่ห้อง และคุยไปคุยมา กัสก็เลยรู้ว่าเป็นเพื่อนผู้หญิง ก็ลองแซวๆ ดู แล้วปรากฏว่าพี่เค้าก็ไม่ได้ปฏิเสธไง แต่เค้าก็ยังบอกอะนะว่าไม่ได้เป็นแฟนไม่ได้เป็นกิ๊ก ไรงี้อะ”

“เฮ้ยยย คนอย่างไอ้ด้าเนี่ยนะ จะพาผู้หญิงเข้าห้อง ใครวะเนี่ย กูชักอยากรู้แล้วดิ”

“ไม่ใช่แฟนเค้าจริงๆ เหรอ พี่ต้า”

“ไม่นะ พวกพี่ยังไม่เคยเห็นว่ามันจะคุยกับใครเป็นพิเศษขนาดเรียกว่าแฟนได้เลย หรือว่าจะเป็นกิ๊กมันที่ไหนวะ......”

“แต่พี่เค้าบอกว่าไม่ใช่กิ๊กด้วยอะ”

“ก็นั่นน่ะสิ ถ้ามันไม่โกหก ก็คงจะไม่มีอะไรจริงๆ ล่ะมั้ง เพราะเท่าที่รู้ พี่ว่าไอ้ด้ามันก็ไม่มีนิสัยหว่านเสน่ห์หรือนอนกับใครไปทั่วอะไรแบบ
นั้นด้วยดิ ไม่ใช่ไอ้อาร์มมันสักหน่อย”

“พอเลยๆ พี่ ไม่ต้องพูดถึงไอ้พี่ชายกัสเลย ไม่อยากฟังง่ะ เบื่ออออ”

พี่ต้าหัวเราะเบาๆ “โอเคๆ โทษทีๆ แล้วสรุปเป็นไง คิดว่าไอ้ด้ามันนิสัยโอเคมั้ย ยังอยากเรียนกับมันอยู่รึเปล่า”

“โอเคดิพี่ เอ่ออ กัสหมายถึงพี่เค้าก็นิสัยดีจริงๆ ดูร่าเริงดีนะ แต่ไม่เห็นจะคุยเก่งเหมือนที่พี่ๆ เคยบอกเลยอะ กัสว่าวันนี้ส่วนมากพี่เค้าจะฟังกัสพูดซะมากกว่าว่ะ”

“นั่นก็เพราะอ้วนแม่งพูดโคตรเก่งเวอร์ๆ เลยไง ไอ้ด้ามันคงพูดแข่งไม่ทันน่ะ ฮ่าๆๆ” พี่ต้าหัวเราะชอบใจ “แต่จริงๆ ไอ้ด้ามันคุยเก่ง แต่ไม่ใช่คนช่างพูดน่ะ มันอัธยาศัยดีไง ก็เลยจะชอบยิ้มชอบหัวเราะมากกว่าจะเป็นคนที่แบบว่า โหวกเหวกเสียงดังพูดเยอะๆ อะไรแบบนี้ ไม่เหมือนเราหรอก อ้วน”

“โหหห พี่ก็พูดเกินไป กัสออกจะเป็นคนเรียบร้อย พูดน้อย ขี้อาย ใสๆ”

“เออๆ กูเชื่ออออ ฮ่าๆๆๆ”

พี่ต้าเป็นเพื่อนของพี่ผม ที่ผมรู้สึกสนิทกับเขามาก เวลามีอะไรผมก็จะเล่าจะคุยกับพี่เขาได้แทบทุกเรื่อง จนบางทีผมยังแอบเห็นเขาเป็นพี่ชายแท้ๆ มากกว่าไอ้อาร์มเสียอีกด้วยซ้ำ ไม่ใช่ว่าผมไม่รักไอ้อาร์มหรืออะไรแบบนั้นนะ แต่เป็นเพราะว่าบางที เราสองคนพี่น้องก็ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนกันเสียมากกว่า ซึ่งต่างจากพี่ต้าที่ผมยังรู้สึกเคารพ และเกรงใจเขาอยู่บ้าง มันเลยทำให้บางทีผมรู้สึกสงสัยว่า พี่น้องกันจริงๆ มันก็น่าจะมีการเคารพยำเกรงกันอยู่บ้างแบบที่ผมมีกับพี่ต้านี่หรือเปล่า

“สรุปแล้วใครไปหามันที่ห้องวะ พี่เองก็สงสัยเหมือนกันนะเนี่ย”

ก็นี่แหละ ประเด็นที่ผมโทรหาพี่เขาก็เพราะอยากให้เขารู้สึกสงสัย แล้วก็จะได้ไปสืบมาให้ผมนี่ไง

“อ้าว พี่ถามกัสแล้วกัสจะรู้มะเนี่ย” ผมพูดด้วยน้ำเสียงอินโนเซนท์สุดๆ

“งั้นพี่ลองโทรหามันดูดีกว่าว่ะ ไม่ได้ละ เรื่องนี้ปล่อยไปเฉยๆ ไม่ได้เด็ดขาด ฮ่าๆๆ”

“โอเคๆ ก็แล้วแต่พี่ดิ งั้นก็แค่นี้แหละครับ กัสไม่กวนละ”

“เออๆ งั้นไว้ค่อยคุยกันน้อง แล้วถ้าพี่รู้เรื่องอะไรแล้วพี่จะบอกอีกทีแล้วกัน”

เยสสสส!! มันต้องอย่างนี้สิ!!

“ก็ได้ๆ แต่จริงๆ กัสก็ไม่ได้อยากรู้อะไรเท่าไหร่หรอกนะ” ผมพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนที่พี่ต้าจะวางสายไป
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 4
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 19-07-2011 17:36:33
กัส ยืมมือพี่ต้าเห็นๆ  เจ้าเล่ห์จริงๆ
ว่าแต่คู่นี้จะสมหวังไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 4
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 19-07-2011 18:00:42
หัวแหลมจังน้อง!!!!!
เนียนอีกต่างหาก
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: wisky ที่ 19-07-2011 20:18:55
ออกแนวมัธยมเปรี้ยวอมหวาน>o< น้องกัสนี่น่ารักช่างคุยจนนึกอยากได้น้องชายแบบนี้บ้างจัง
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 4
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 19-07-2011 20:55:00
ฉลาด สุด ๆ ออกัส

อีกไม่นาน พี่ ด้า จะตกเป็นของเรา 5555
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 4
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 19-07-2011 21:40:03
น้องกัส..ร้ายนะเราน่ะ แหมเข้าใจหาข่าวสืบความแบบเนียนๆเชียว
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 4
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 20-07-2011 15:42:03
กัสแผนสูงจริงๆ ยืมมือคนอื่นไปสืบข่าว หุหุ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 4
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-07-2011 19:12:08
กัสร้ายจริง ๆ
พี่ด้าแอบเสียวสันหลังมั่งมั๊ย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 4
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 20-07-2011 21:43:47
แอบร้ายนะเรา 55+
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 4
เริ่มหัวข้อโดย: pimkung ที่ 20-07-2011 22:08:19
โห ร้ายเหมือนกันนะกัส
เราก็อยากรู้เหมือนกันว่าพี่ด้าพาใครเข้าห้อง
ไม่เชิงผู้หญิงนี่ เมบี จะกระเทยนะ  :z3:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 4
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 20-07-2011 23:49:58
อย่างแรก กัสเจ้าเล่ห์มาก
และอย่างสอง กัสพูดมากสุดๆ 5555
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 4
เริ่มหัวข้อโดย: ღiสุดขอบiღ ที่ 22-07-2011 14:14:23
กัสน่ารักเว่อร์ๆอ่ะ แต่แบบนี้อิเจ๊เลยอยากให้น้องกัสผันตัวเองเป็นอุเคะจริงๆ แบบมีพระเอกแมนๆออกมากำหลาบ หึหึ

อ๊าย~ จิ้นไปไกลแล้วจ้า~
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 4
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 22-07-2011 21:04:18
ในช่วงหัวค่ำของวันถัดมา พี่ต้าก็มาทักผมในเอ็มเอสเอ็นและบอกว่าคนที่ไปหาพี่ด้าที่ห้องก็คือพี่ฝ้ายกับเพื่อนพี่เขาอีกคนเท่านั้นเอง ไม่ใช่ใครคนอื่นอย่างที่ผมสงสัย พี่เขายังบอกอีกว่ารู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่เรื่องมันไม่เป็นอย่างที่พี่เขาคิด แต่ผมกลับรู้สึกดีใจและโล่งใจอย่างสุดๆ เพราะคราวนี้ ผมจะได้กล้าที่ลองเสี่ยงกับคนที่ผมรู้สึกชอบโคตรๆ คนนี้ดูอีกตั้ง

แต่แหม ความรักมันก็ต้องมีอุปสรรคกันบ้างใช่มั้ยล่ะครับ ความคิดถึงก็ต้องมีระยะทางและความห่างไกลด้วยเหมือนกัน ผมคิดว่าตั้งแต่วันที่เราไปซื้อหนังสือด้วยกัน พี่ด้าก็คงรู้สึกถูกชะตากับผมบ้างไม่มากก็น้อยล่ะ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะไม่คุย ไม่ทักพี่เขาในเอ็มเอสเอ็น ไม่ส่งข้อความอะไรหาพี่เขาเลยสักพัก เพื่อที่พี่เขาจะได้รู้สึกนึกถึงผมบ้าง และคำว่าสักพักของผมนั้น ก็เริ่มต้นตั้งแต่วันหลังจากวันที่เราไปเที่ยวด้วยกันมานั่นแหละ และผมก็สามารถทำอย่างนั้นอยู่ได้เป็นเวลานานถึง... สองวัน
สุดท้าย ความตั้งใจของผมมันก็ค้องพังครืนลงไปพร้อมหัวใจที่หลอมละลายเมื่อพี่ด้าทักผมมาในเอ็มเอสเอ็นด้วยข้อความว่า

“เป็นยังไงบ้าง ไอ้รูปหล่อ หายไปเลยนะ”

ผมที่กำลังนั่งเครียดๆ ค้นหาข้อมูลทำรายงานส่งอาจารย์อยู่กลับต้องยิ้มกว้างจนปากแทบจะฉีกถึงรูหูราวกับคนบ้า แค่ถ้อยคำไม่กี่คำที่ร้อยเรียงเป็นประโยคสั้นๆ แบบนี้ ก็ทำให้ผมรู้สึกดีใจได้มากเพียงนี้ ความคิดที่จะทำเล่นตัวของผมหายไปทันทีนับตั้งแต่วินาทีแรกที่ผมอ่านข้อความนั้นจบ

“ไม่ได้ทำอารายคับ แค่นั่งหล่ออยู่หน้าคอมเฉยๆ” ผมพิมพ์ลงบนคีย์บอร์ดและกดเอ็นเตอร์

“อะนะ” พี่เขาตอบกลับมา

“แล้วก็กำลังคิดถึงพี่แพนด้าอยู่พอดีเหมือนกานนนน” ผมส่งไปอีกข้อความ

“แหมมม นะ 5555 จะมาคิดถึงพี่ทำไม”

“ก็คิดเรื่องเรียนพิเศษนั่นแหละคร้าบบ ตื่นเต้นไง”

“อ้าว จะตื่นเต้นทำไม”

“ไม่รู้สิ ก็มันตื่นเต้นอะ อิอิ” ผมนั่งอมยิ้ม คิดในใจว่าอยากจะพิมพ์ต่อไปเหลือเกินว่า ‘ก็ตื่นเต้นที่จะได้เรียนกับครูหล่อๆ แบบพี่นั่นแหละ’ แต่ก็รู้สึกว่าคงจะแรงเกินไปหน่อย เลยห้ามตัวเองไว้

พี่ด้าเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะพิมพ์มาหาผมต่อ “อีกไม่กี่วันแล้วนี่นะ ตกลงเป็นวันเสาร์นี้นะครับ”

“ช่ายยยยครับ เก็บห้องเรียบร้อยแล้วใช่มะ”

“55555 เรียบร้อยแล้วๆ สะอาดทุกมุมห้องแน่นอน”

“แล้วบนเตียงอะ สะอาดมะ มีรอยเปื้อนอะไรปะเนี่ย”

“เฮ้ยยย ทะลึ่งละ ไอ้เด็กคนนี้ 55555”

“เบาๆ อิอิ กัสทะลึ่งตรงไหน กัสออกจะใสซื่อบริสุทธิ์ แบ๊วๆ”

“ใสมากเลยนะ มาถึงก็มารอยป้งรอยเปื้อนบนเตียงอะไรพี่เลยเนี่ย 5555”

“อ๊าววว ก็แบบ รอยคราบน้ำลายไรงี้ไง นึกว่าเป็นคนนอนน้ำลายยืด อะไรเงี๊ย”

“ไม่ยืดเว้ยย ไม่มีๆ อะ แล้วต่อให้ถ้ามีแล้วจะทำไม ก็เตียงพี่อะ พี่นอนคนเดียว โถ่”

“กัสไง เดี๋ยวกัสจะไปนอน 555555”

“อะนะ ตกลงจะมาเรียนหรือจะมานอน”

“เรียนก่อน แล้วพอง่วงค่อยนอน แต่ตอนนอนพี่ด้าต้องร้องเพลงกล่อมกัสนะ ไม่งั้นกัสนอนไม่หลับบบ”

“55555 ไอ้เด็กคนนี้นี่”

“ตีตูดกัสเบาๆ ด้วยนะ เพลินๆๆ คริๆ”

“5555555 ทำไมนิสัยคนเป็นน้องมันไม่เหมือนนิสัยพี่มันเลยวะ”

“ก็แหงล่ะ พี่ด้าาาาา เอาเด็กดีอย่างกัสไปเปรียบเทียบกับไอ้อาร์มมันได้ยังไง ถือว่าหมิ่นประมาทกันได้เลยนะเนี่ย”

“อะครับบบ ขอโทษๆๆ หึหึ”

“เอากัสไปเทียบกับมันก็เหมือนเอาทองคำแท้ไปเทียบกับทองคำเปลวนะพี่”

ผมคุยกับพี่ด้าทางเอ็มเอสเอ็นแบบนี้อีกพักใหญ่ๆ อย่างมีความสุข นี่ถ้าไอ้เมษมันมาเห็นผมตอนนี้หรือรู้ว่าผมคุยอะไรกับพี่เขานะ มันจะต้องว่าผมว่าแรดมากแน่นอน เชื่อผมสิ

ผมขอยืนยันว่าผมเป็นเด็กชายไทยแท้ร้อยเปอร์เซนต์ที่ไม่แรดนะครับ แต่ผมแค่เป็นเด็กหนุ่มลั้ลลาที่ชอบผู้ชายและเก่งเรื่องการแสดงออกถึงความรักเท่านั้นเอง

แหม... ก็นะ ผมไม่อยากจะอึดอัดกับความรู้สึก “แอบชอบ” ใคร แล้วเขาไม่รับรู้เลยแบบตอนที่ผมแอบชอบไอ้เมษมันอีกแล้วนี่นา และที่สำคัญผมก็ยังไม่เคยรู้สึกชอบใครและอยากได้ใครมาเป็นเจ้าของหัวใจมากเท่าที่ผมกำลังรู้สึกกับพี่ด้าอยู่นี่เลยแม้แต่คนเดียวด้วย

และแล้ว วันแรกที่ผมจะได้เรียนพิเศษกับพี่แพนด้าก็มาถึง ผมตื่นขึ้นมาแต่เช้าด้วยความสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า หลังจากที่แปรงฟันเสร็จ ผมก็วิ่งลงบันไดไปยังชั้นล่างเพื่อหาน้ำส้มเย็นๆ ดื่มสักแก้วหนึ่ง

“อะไรกัน ทำไมตื่นแต่เช้าได้ขนาดนี้ล่ะ นี่เพิ่งจะเจ็ดโมงครึ่งเองนะ” แม่ที่กำลังยืนทำกับข้าวอยู่ในครัวหันมาเลิกคิ้วใส่ผมด้วยความประหลาดใจ

“อ้าว แม่ลืมไปแล้วเหรอว่าวันนี้กัสต้องไปเรียนพิเศษกับพี่ด้าอะ” ผมตอบพลางเปิดตู้เย็นออก

“แต่แกเรียนกับพี่เค้าบ่ายโมงนะ!”

ผมเทน้ำส้มคั้นสดลงในแก้ว “อารายล่ะแม่ก็ กัสตื่นเช้าไม่ดีรึงายยย แถมแม่พูดเหมือนปกติกัสเป็นคนขี้เกียจนอนกินบ้านกินเมืองอย่างนั้นแหละ”

“ก็ใช่น่ะสิยะ ปกติเห็นตื่นสิบโมงสิบเอ็ดโมงตลอด”

ผมยกน้ำส้มขึ้นดื่มอึกใหญ่ ซึ่งการดื่มน้ำส้มหลังจากที่เพิ่งแปรงฟันเสร็จมาใหม่ๆ นี่นับได้ว่าเป็นอะไรที่เลวร้ายมากจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังชอบดื่มน้ำส้มและน้ำผลไม้ทุกชนิดมากอยู่ดี

ผมหันไปมองหน้าแม่แล้วทำตาใสวิ้งๆ พร้อมกับเบ้ปากเล็กน้อย “แม่พูดแบบนี้กัสเสียใจนะเนี่ยยย.....”

“ทุเรศ! ดูทำหน้าเข้า!” แม่หัวเราะพร้อมกับชูมีดที่ถืออยู่ขึ้น “ไปๆ จะไปไหนก็ไป ฉันล่ะหมั่นไส้แกจริงๆ เอ้อ แล้วไปตามใครก็ได้มาเก็บกวาดเช็ดล้างในครัวนี่หน่อยซิ พี่เอ๋ก็ได้ ไป”

“โอเคครับพ้ม!” ผมกระดกน้ำส้มที่เหลืออยู่อีกครึ่งแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด จากนั้นก็เดินออกจากห้องครัวไปตามคนรับใช้ที่บ้านให้เข้าไปช่วยงานแม่อย่างที่แม่สั่ง แล้วจึงเดินกลับขึ้นห้องของตัวเองอีกครั้ง

ผมนั่งลงที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ เปิดคอมฯ ขึ้น ออนเข้าโปรแกรมเอ็มเอสเอ็น และแน่นอนว่ากวาดสายตาหารายชื่อของผู้ชายคนนั้นของผม แต่ทว่าเขาก็ยังไม่ได้ออนไลน์ ผมจึงเปิดเฟซบุ๊ค อ่านฟีดข่าวของเพื่อนๆ รวมทั้งเข้าไปในหน้าวอลล์ของพี่ด้า เพื่อดูความเคลื่อนไหวล่าสุดของเขาด้วย แต่ก็เป็นอย่างที่พี่ต้าและไอ้อาร์มเคยบอกจริงๆ ว่าพี่เขาเป็นคนไม่ค่อยเล่นเฟซบุ๊คเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยอัพเดทสถานะ และไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอะไรมากมายนัก นอกจากเพื่อนๆ ของเขาที่มาโพสท์ทักทาย ส่งรีเควสท์เกม หรือพูดคุยเรื่องงานบ้างเท่านั้น

ผมเคาะนิ้วลงบนแป้นพิมพ์เบาๆ ใจก็นึกอะไรเรื่อยเปื่อยไปด้วย ผมยิ้มให้กับตัวเอง ก่อนจะขยับเก้าอี้ แล้วพิมพ์อัพสถานะของตัวเอง จากนั้นก็เปลี่ยนชื่อเอ็มเอสเอ็นเป็นประโยคเดียวกันด้วย ผมคิดว่าไม่ช้าก็เร็ว ยังไงพี่ด้าก็จะต้องได้อ่านสิ่งๆ นี้แน่ๆ และถึงแม้ว่าเพื่อนของผมจะมาอ่านเจอและถามผม ผมก็จะไม่ตอบอะไร แต่จะปล่อยให้พวกมันสงสัยไปแบบนั้นแหละ

หลังจากที่เวลาผ่านไปสักพัก ผมก็ลุกจากหน้าจอคอมฯ ไปอาบน้ำแต่งตัว จากนั้นก็ได้เวลากินข้าว ซึ่งนี่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ที่ผมได้นั่งร่วมโต๊ะกับทั้งพ่อและแม่ในตอนเช้าแบบนี้ ส่วนไอ้อาร์มน่ะเหรอ ยิ่งมันเพิ่งไปเที่ยวมาเมื่อคืนแบบนี้ด้วยแล้ว ถ้าไม่หลังเที่ยงเป็นต้นไปล่ะก็ มันก็ยังไม่มีทางตื่นหรอก

“เห็นตอนแรกยังทำท่าเหมือนไม่อยากไปเรียนอยู่เลย แล้วนี่อะไรเนี่ย ตื่นมาแต่เช้า แถมยังแต่งตัวซะหล่อขนาดนี้” พ่อผมแซว

“อารายย พ่ออ คือที่จริงลูกชายพ่อหล่ออยู่แล้วต่างหากปะครับ” ผมยักไหล่

“เออ ได้เชื้อพ่อมาเยอะก็งี้แหละ” พ่อยิ้ม

“ฉันอยากจะบ้าตายกับพ่อลูกบ้านนี้” แม่ส่ายหน้าเบาๆ “แล้วนี่จะออกไปกี่โมง อ้วน”

“ก็ราวๆ สิบโมงครึ่ง ไม่ก็สิบเอ็ดโมงมั้งครับ”

“เออ งั้นออกไปพร้อมพ่อเลยก็ได้ พ่อจะออกไปธุระพอดี เดี๋ยวพ่อแวะไปส่งที่รถไฟฟ้าให้”

“โอเคครับ สรุปตามนั้น สบายกัสไป แถมประหยัดค่ารถด้วย ฮ่าๆๆ” ผมลุกออกจากโต๊ะกินข้าว

“แล้วก่อนจะออกไปก็อย่าลืมบอกแม่ด้วยล่ะ อ้อนี่ แล้วพอเรียนเสร็จแล้วก็ห้ามเถลไถลนะ เข้าใจรึเปล่า แม่มีเบอร์เจ้าแพนด้าอยู่นะ แม่โทรเช็คได้ตลอดเวลานะจะบอกให้ แล้วที่สำคัญ อย่าไปกวนประสาทพี่เค้ามากนักล่ะ”

“แม่คร้าบบบบบบ กัสอยู่ม. 5 แล้วนะ! และที่สำคัญ กัสก็ยังไม่ได้ไปตอนนี้สักหน่อย แม่จะรีบเทศน์กัสทำไมเนี่ยยยย”

“ฉันไม่ได้เทศน์แก ฉันเตือนแกเอาไว้ก่อนต่างหาก ไปๆๆ อิ่มแล้วจะไปไหนก็ไป แต่ก่อนออกจากบ้านอย่าลืมมาหาแม่อีกทีล่ะ จะได้ให้เงินติดตัวไว้”

“แหมมม กัสรักแม่ที่สุดก็ตรงนี้แหละ!” ผมเดินเข้าไปกอดและหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่

“ย่ะ ฉันรู้! คนบ้านนี้รักกันเพราะผลประโยชน์ล้วนๆ ทั้งนั้นแหละ!”

ผมหัวเราะและหอมแก้มแม่อีกครั้ง ก่อนจะเดินกลับขึ้นห้อง และเมื่อผมลองอ่านในเฟซบุ๊คของตัวเอง ก็เห็นว่ามีคนมากดไลค์และคอมเมนต์สถานะของผมหลายคน โดยคนที่มาตอบคนแรกเลยนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นไอ้เมษ เพื่อนตัวดีของผมนี่เอง มันไม่ได้ตอบอะไรยาวมากมาย นอกจากคำว่า “แรด” สั้นๆ เพียงคำเดียว

ผมไล่สายตาอ่านคอมเมนต์ลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงคนสุดท้าย และคนๆ นั้นก็คือพี่ด้าของผมนี่เอง
ผมรีบเปิดหน้าต่างโปรแกรมเอ็มเอสเอ็นขึ้น และเมื่อผมเห็นว่าพี่เขากำลังออนไลน์อยู่จริงๆ ผมก็รีบทักเขาไปทันที

“ตื่นแล้วเหรอครับ พี่แพนด้าาาา”

“ตื่นแล้วครับ เมื่อกี้นี้เอง”

“แล้วพี่ทำอะไรอยู่อะ”

“ไม่ได้ทำไรครับ เพิ่งตื่นเนี่ย ว่าจะเก็บห้องอีกสักหน่อย ยังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันเลย 5555”

“อี๊ๆๆ เหม็นนนน 5555”

“เวอร์ละๆ ไม่เหม็นเหอะ”

“ไหนๆๆ ขอดมหน่อยซิ ของแบบนี้ต้องพิสูจน์” ผมแกล้งแหย่

“จะบ้าเรอะ จะดมได้ยังไง”

“งั้นเจอตัวจริงแล้วจะดม” ผมกดปุ่มเอ็นเตอร์แล้วใช้นิ้วเคาะแป้นพิมพ์เบาๆ รอพี่เขาตอบกลับมา

“เหอๆ” คือคำตอบจากพี่ด้า ซึ่งมันก็ทำให้ผมใจแป้วลงไปเล็กน้อย

ผมกำลังเริ่มคิดที่จะพิมพ์อย่างอื่นแทน เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แต่แล้วพี่ด้าก็ส่งข้อความใหม่มาอีกหนึ่งข้อความ

“ถ้ากล้าดมก็ลองดูเด่ะ”

ผมกลับมายิ้มกว้างอีกครั้งทันที

“น่านนนน ท้าหราาาาาา”

“ไม่ได้ท้าเว้ยยย ว่าแต่ว่า สเตตัสในเฟซบุ๊คเมื่อเช้าน่ะ ตกลงหมายถึงใคร นี่กำลังมีความรักงั้นเหรอครับ”

“ป๊าวววว ก็ตั้งไปงั้นแหละครับ ขำๆ”

“อ้อออ”

“ก็แค่กำลังรู้สึกดีๆ กับหัวใจเฉยๆ” ผมพิมพ์ต่อ

“หืมมมม”

“อิอิ ไม่มีอะไรหรอกพี่ ว่าแต่พี่ไม่ไปอาบน้ำกินข้าวเหรอ อีกเดี๋ยวกัสก็อาจจะออกไปแล้วนะ”

“อ้าว ทำไมออกมาเร็วอะ”

“ก็พ่อจะให้ออกไปพร้อมพ่อน่ะครับ ยังไงกัสอาจไปถึงเร็วหน่อยนะพี่”

“อะ โอเคๆ ได้ๆ พอขึ้นรถไฟฟ้าแล้วยังไงก็อย่าลืมโทรหาพี่แล้วกันนะครับ”

“อ้าววว พูดแบบนี้ พี่จะไปแล้วเหรอ”

“อ้าว อะไรยังไง ก็เมื่อกี้กัสเพิ่งบอกว่าใกล้จะออกจากบ้านแล้วและให้พี่ไปอาบน้ำอยู่เลยไม่ใช่เหรอ”

“อ๋อออ ป่าวค้าบบ กัสจะออกไปก็อีกราวๆชั่วโมงกว่าๆ นั่นแหละ แต่พี่ด้าไปอาบน้ำก็ด้ะ”

“อืมมๆ โอเคครับ”

“แต่ต้องรีบกลับมาคุยกะกัสต่อนะ เหงาว่ะ เพื่อนยังไม่ค่อยตื่นกันเลย”

“55555 โอเค ได้ๆ เดี๋ยวพี่จะรีบอาบน้ำก็แล้วกัน”

ผมยิ้มให้กับตัวเอง และนั่งรอพี่ด้ากลับมาจากอาบน้ำพักใหญ่ๆ เราสองคนนั่งคุยกันต่อจนกระทั่งผมลืมเวลาไปเลย ผมมารู้สึกตัวอีกทีว่าได้เวลาที่ต้องออกจากบ้านแล้วก็ตอนที่พ่อมาเคาะประตูห้องนั่นแหละ

ที่จริง ผมก็คิดเอาไว้อยู่แล้วล่ะว่าจะไปถึงให้เร็วกว่าที่ตั้งใจไว้ในตอนแรกประมาณหนึ่ง เพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่กับพี่เขานานขึ้นอีกนิด แต่ยิ่งพอพ่อขับรถออกมาส่งผมถึงที่สถานีรถไฟฟ้าแบบนี้ ผมก็ยิ่งไปถึงหอของพี่ด้าเร็วขึ้นกว่าที่คิดเยอะ
หลังจากที่ผมลงรถไฟฟ้าแล้ว ผมก็โทรหาพี่ด้าเพื่อบอกเขาว่าผมใกล้ถึงที่หมายแล้ว พี่ด้าบอกทางและวิธีไปหอของเขาให้ผมฟัง ผมเดินอีกนิด นั่งรถอีกหน่อย และจากนั้นก็เดินต่ออีกนิดเดียว จนในที่สุด ผมก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าหอของพี่ด้าจนได้

“ฮาโหลลล กัสมาถึงหน้าหอแล้วครับ พี่” ผมโทรขึ้นไปหาพี่เขาอีกครั้ง “ลงมารับกัสหน่อยแน”

“โอเคๆ ครับ รอพี่สามนาทีนะ”

ผมเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงและยืนรอพี่เขาอย่างตื่นเต้น ทั้งๆ ที่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมจะได้เจอเขา แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมผมถึงรู้สึกลิงโลดมากขนาดนี้

เวลาผ่านไปเพียงครู่สั้นๆ ก่อนที่ผมจะเห็นร่างเล็กๆ ของพี่เขาเดินลงมาจากบันไดและตรงมายังประตูหน้าหอ เสื้อยืดแขนสั้นและกางเกงบอลสีขาวทั้งชุดที่พี่ด้าใส่อยู่ในวันนี้ยิ่งทำให้เขาดูเปล่งประกายขาวเจิดจ้ายิ่งกว่าในโฆษณาผงซักฟอกเสียอีก

“เป็นไร ยืนอยู่ทำไมอะ เข้ามาสิครับ เร็ว” พี่ด้าเปิดประตูออกแล้วกวักมือเรียกผมพร้อมรอยยิ้มสว่างไสว

“หวัดดีฮะ พี่ด้า” ผมยกมือไหว้ “วันนี้แต่งตัวชิวจริงๆ เลยนะ พี่”

“อ้าว ก็ไม่ได้ไปไหนนี่นา จะให้ใส่ชุดอะไรล่ะครับ ร้อนจะตาย ใส่แบบนี้แหละ สบายตัวสุดละ”

ผมเดินตามหลังพี่ด้าขึ้นบันได และก็ฉวยโอกาสนี้มองก้นกลมๆ ของพี่เขาส่ายซ้ายส่ายขวาในยามที่เขาเดินไปด้วยอย่างเต็มตา

“ห้องพี่อยู่ชั้นสี่นะครับ เดินไหวป่าว”

“โอ๊ยยยพี่! กัสไม่ได้ง่อยแดกนะครับ!”

เขาหัวเราะ “ล้อเล่นน่าาาา”

“แล้วว่าแต่นี่พี่กินข้าวรึยังเนี่ย”

“ยังเลย แล้วกัสล่ะ”

“ยังเหมือนกันครับ” ผมหมายถึงข้าวเที่ยงน่ะนะ

“แล้วหิวรึยังล่ะ”

“นิดหน่อยอะครับ แล้วพี่อะ หิวยัง”

“อืมมม ก็หิวนะ แต่เดี๋ยวเข้าห้องก่อนก็แล้วกันนะ วางกระเป๋าอะไรให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยคิดว่าจะออกไปกินอะไรกันดี ดีมะ” พี่เขาหันมายิ้มให้ผมเมื่อเรามาถึงยังชั้นสี่เรียบร้อยแล้ว

“ได้ครับ กัสยังไงก็ได้อยู่แล้ว” ผมยักไหล่

พี่ด้าพาผมเลี้ยวซ้ายที่หัวมุมบันได จากนั้นก็เดินไปอีกสามห้อง ก่อนจะเปิดประตูห้องหนึ่งออกโดยที่ไม่ต้องไขกุญแจ
ห้องของพี่ด้าก็เป็นเหมือนหอพักนักศึกษาเอกชนทั่วๆ ไปที่ผมเคยเห็นมานิดหน่อย ห้องขนาดไม่กว้างมากมายนัก แต่ก็น่าจะกว้างพอให้เพื่อนกลุ่มหนึ่งมานั่งสุมกันอยู่ได้แบบสบายๆ มีเตียงขนาดหกฟุตอยู่ทางซ้ายมือถัดจากประตูห้อง โต๊ะเขียนหนังสือสองตัวทางฝั่งขวา แต่ตัวหนึ่งถูกใช้วางทีวีแทน ตู้เสื้อผ้าสองตู้ที่มุมห้องด้านใน ตู้เย็นหนึ่งตัว เตาไมโครเวฟ ชั้นวางหนังสือที่มีหนังสือวางเรียงอยู่เต็มถึงสองชั้น และของใช้อื่นๆ ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตถูกวางอยู่ตามริมผนัง ชั้นวางของ พื้นห้อง และมุมห้องต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ

“โหห นี่พี่มีรองเท้ากี่คู่เนี่ย” ผมถามขึ้นเมื่อเห็นจำนวนรองเท้าที่ถูกถอดวางเรียงอยู่บนพื้นห้องและบนชั้นวางรองเท้า

“ฮ่าๆๆ ก็ไม่เยอะมากหรอก ใส่จริงๆ ไม่กี่คู่เอง ส่วนรองเท้าแตะ ที่มันเยอะก็เพราะมีของเพื่อนๆ พี่ด้วยน่ะ จริงๆ มีของไอ้อาร์มด้วยนะ คู่นึง คู่สีดำคาดขาวคู่นั้นน่ะ”

“เออ จริงด้วย กัสจำได้ๆ”

“กัสวางกระเป๋าไว้บนเตียงก็ได้นะครับ”

ผมเดินไปโยนกระเป๋าลงบนเตียงแล้วก็นั่งลงพร้อมกับที่พี่ด้าเดินไปเปิดทีวีแล้วก็หยิบรีโมทหันมายื่นให้กับผม

“อ้ะ จะดูช่องไหนก็เลือกเอาได้เลย”

ผมยื่นมือออกไปจะหยิบรีโมท แต่แล้วจู่ๆ ก็นึกสนุกขึ้นมา จึงเปลี่ยนใจไปจับข้อมือของพี่ด้า และดึงตัวเขาเข้ามาพร้อมกับลุกขึ้นยืนแทน

“ไหนๆ ขอดมหน่อย” ผมยื่นหน้าเข้าไปหาพี่เขาเล็กน้อย

“เฮ้ยยยย!!!” พี่ด้าสะดุ้งโหยงพร้อมกับหัวเราะออกมา “เล่นอะไรเนี่ย! ฮ่าๆๆๆ”

“อ้าว ก็ไหนบอกให้ดมได้ไง”

“พี่พูดเล่นเว้ย! ใครจะไปคิดว่าเราจะดมจริงเล่า” เขายังคงหัวเราะอยู่

“อ้าว แล้วนี่พี่หน้าแดงทำไมเนี่ย” ผมแซว

“ก็คนมันตกใจนี่หว่า! นั่งรออยู่นี่แหละ ไอ้ตัวดี เดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึง” เขาตีหน้าผากผมเบาๆ

“โอ๊ยยยย ไรอ่าาา รังแกน้องกัสที่อ่อนแอกว่าได้ยังงายย” ผมยกมือขึ้นลูบหน้าผาก

“ตรงไหนของเราวะที่อ่อนแอน่ะ” เขาหัวเราะ ก่อนจะเดินจากไป “อะไรวะ เจอกันแค่สองสามครั้ง จะจับกูดมซะและ” ผมได้ยินพี่เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ

“สะบัดให้เกลี้ยงๆ ด้วยนะคร้าบบบ” ผมนั่งลงบนเตียงเหมือนเดิม

“ไม่ต้องมายุ่งเลย! ปากดีนัก ไอ้เด็กคนนี้” พี่ด้าหันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง ก่อนจะเข้าห้องน้ำไปและปิดประตูลง

ผมนอนหงายลงบนเตียงอย่างอารมณ์ดี อย่างน้อยๆ เมื่อกี้พี่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจผมล่ะนะ แล้วไหนจะยังอาการเขินอายจนหน้าแดงเมื่อกี้นี้อีก โอ๊ยยยย ยิ่งคิดผมก็ยิ่งคึกนะเนี่ย!

ครู่หนึ่ง ผมก็ได้ยินเสียงกดน้ำ และอีกอึดใจเดียว ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก

“กินน้ำอะไรมั้ย กัส แต่พี่มีแค่โค้ก น้ำส้ม แล้วก็น้ำเปล่านะ ไม่ได้ซื้ออะไรติดห้องไว้เลย”

“งั้นเอาโค้กแล้วก็ได้ครับพี่ ขอบคุณครับ” ผมชันตัวขึ้นนั่ง

“โอเคครับผม” พี่ด้ายิ้มให้ผมอีกครั้ง ก่อนจะหยิบขวดน้ำออกมารินใส่แก้วที่วางคว่ำไว้อยู่บนหลังตู้เย็น

โอยยยย ทำไมเขาคนนี้ถึงได้ยิ้มเก่งขนาดนี้นะเนี่ย

“เอ้อ จะว่าไป......” พี่ด้าพูดพร้อมกับปิดประตูตู้เย็นลง จากนั้นเขาก็เดินถือแก้วน้ำมาให้ผม “ไอ้สเตตัสในเฟซบุ๊คเมื่อเช้าน่ะ ตกลงหมายถึงใคร นี่เรามีแฟนแล้วเหรอเนี่ย”

“หืออ สเตตัสอะไรพี่”

“ก็ไอ้ที่ตั้งเมื่อเช้าว่า ‘กำลังตกอยู่ในสภาวะที่หัวใจมีใครให้รัก มีใครให้คิดถึง’ อะไรนั่นไง” เขายิ้ม “เจ้าสำบัดสำนวนจริงๆ นะ เรา”

“ฮ่าๆๆ โอ๊ยยยย กัสก็ตั้งไปแบบนั้นแหละพี่ จะไปมีใครที่ไหนเล่า สร้างกระแสเฉยๆ”

“อะนะ แน่ใจ๊”

“ก็ใช่อะดิพี่ กัสจะไปมีแฟนได้ยังง๊ายยย คนอย่างกัสใครมันจะมาเอา ไอ้เมษมันยังแซวอยู่เลย จำไม่ได้เหรอ” ผมยักไหล่

“หึๆ เอาเถอะๆ ตกลงเราไปกินข้าวกันก่อนดีมั้ย แล้วค่อยกลับขึ้นมาเรียนกัน อยากกินอะไรล่ะ”

“อะไรก็ได้พี่ กัสเลี้ยงง่ายยย แล้วแต่พี่เลยแล้วกัน พากัสไปได้เลย ไปไหนไปหมดแหละ”

“อืมมมม.... งั้นกินไรดีล่ะ พี่ไม่ค่อยอยากกินอะไรหนักๆ มากด้วย กำลังรู้สึกมึนๆ หัวนิดหน่อย คล้ายๆจะแฮ้งค์”

“อ้าววว เมื่อคืนไปกินเหล้ามาเหรอ”

“ช่าย ก็ไปกับพี่ชายเรานั่นแหละ พวกไอ้ต้าก็ไป แต่พี่กลับก่อนไง เที่ยงคืนกว่าๆ พี่ก็กลับแล้ว”

“อี๊ๆๆ เด็กไม่ดี ขี้เหล้าง่ะ อะไรเนี่ยยยยย”

“ไม่ได้ขี้เหล้าเว้ย ไม่ได้เมาด้วย” พี่ด้าหัวเราะ “แค่กึ่มๆ พี่ก็หยุดกินแล้ว เพราะพี่จะต้องสอนเราไง เลยไม่ได้กินมาก ไปเต้นๆ
สนุกๆ กับพวกมันเฉยๆ แค่แป๊บเดียวเอง”

“โหยยๆ เต้นด้วยเหรอเนี่ย ไหนๆ เต้นให้กัสดูหน่อยซิ”

“ไม่เอาเว้ยยย พี่ไม่ได้เต้นแบบนั้นนะ”

“งั้นเต้นแบบไหนอะ แบบ ‘บราวน์ อายด์ เกิร์ล’ เหรอ รึแบบ ‘ทูพีเอ็ม’ ไรงี้”

“ตลกมากปะ แบบนี้ไม่ต้องเอ็นท์แล้วมั้ง พี่ว่า ไปเล่นตลกเถอะไป” เขาหัวเราะ “เอ้า ตกลงกินไรดี
ไปนั่งกินข้าวร้านอาหารตามสั่งข้างล่างหอนี่ละกันเนอะ ไม่ต้องไปไหนไกล รสชาติโอเคอยู่ด้วย”

“โอเคครับ งั้นไปกันเล้ยย จะได้รีบกลับมาเรียน ตัวเนื้อสั่นอยากได้ความรู้ใจจะขาดอยู่แล้ววว” ผมพูดพร้อมกับสั่นตัวเบาๆ
พี่ด้าหัวเราะชอบใจก่อนจะจับหัวผมโยกไปมาเบาๆ แต่ที่เขาทำแบบนี้ได้ ก็เพราะผมกำลังนั่งอยู่หรอกนะ
ถ้าหากผมยืนขึ้นเมื่อไหร่ล่ะก็ พี่เขาคงไม่มีทางเล่นหัวผมได้แบบนี้แน่นอน

หลังจากที่เรากินข้าวเสร็จแล้ว เราก็กลับขึ้นมานั่งเรียนกันอย่างจริงๆ จังๆ สองชั่วโมงผ่านไปไวราวกับโกหก ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการเรียนหนังสือมันจะสนุกและเข้าใจง่ายได้ขนาดนี้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นวิชาฟิสิกส์ที่ผมเคยเกือบตกมาหลายครั้งแล้วก็ตาม

พี่ด้าเป็นคนคุยเก่ง ร่าเริง และสามารถถ่ายทอดความรู้ได้เข้าใจง่ายอย่างที่พี่ต้าและไอ้อาร์มเคยบอกจริงๆ นอกจากนั้น ระหว่างเรายังมีบรรยากาศที่เป็นกันเอง ทำให้เมื่อผมไม่เข้าใจอะไร ผมก็สามารถถามเขาได้ทันทีแบบไม่ต้องเกร็งหรืออาย ส่วนพี่ด้าเองก็อธิบายให้ผมฟังอย่างใจเย็นได้หลายรอบจนกว่าผมจะเข้าใจเช่นกัน

มันก็ใช่ที่ผมก็มีหลุดเหม่อหรือเผลอเคลิ้มไปกับหน้าหล่อๆ และดวงตาใสๆ ของพี่เขาบ้างในบางครั้ง แต่ว่าผมก็สามารถดึงสมาธิกลับมายังหนังสือและบทเรียนตรงหน้าได้อย่างรวดเร็ว เพราะว่าผมไม่อยากให้ความตั้งใจที่จะสอนของพี่เขาต้องสูญเปล่า

เมื่อถึงเวลาสามโมงนิดๆ พี่ด้าก็ปิดหนังสือลงและหลังจากตรวจแบบฝึกหัดข้อสุดท้ายของผมเสร็จ เขาหันมายิ้มให้กับผมและเอ่ยปากชมว่าผมเก่งมาก ซึ่งนี่นับเป็นครั้งแรกเลยที่ผมถูกชมแบบนี้ ผมจึงอดที่จะรู้สึกเขินนิดๆ ไม่ได้

หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 5
เริ่มหัวข้อโดย: woodong ที่ 22-07-2011 22:25:05
 :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 5
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-07-2011 22:59:33
ตอนแรกนึกว่าจะไม่มีสมาธิในการเรียนเสียอีก
กะว่ากัสไปนั่งน้ำลายไหลย้อยประมาณเห็นเครื่องบินอยู่ลิบๆ
ได้แต่หวังว่าพี่ด้าจะแอบมีใจให้บ้าง
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 5
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 22-07-2011 23:20:01
 :z1:  น่ารักอ่ะ  :impress2:

เขินไปด้วยคน
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 5
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 23-07-2011 02:24:51
มีความสุขไปด้วยเลย   

มาต่อเร้วๆๆ  นะครับบบบ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 5
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 23-07-2011 11:42:16
ช่างเป็นการเรียนพิเศษที่บรรยากาศดีที่สุดในสามโลก

 :impress2:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: wisky ที่ 23-07-2011 12:06:54
น้องกัสลั้นล้าได้ใจจริงๆน๊า ชอบอ่ะ>///<
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 5
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-07-2011 15:01:20
วันนี้น้องกัสมีความสุข คนอ่านก็มีความสุขไปด้วย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 5
เริ่มหัวข้อโดย: butterfly_bee ที่ 23-07-2011 15:07:08
น้องกัสแรดได้ใจ แต่พี่ชอบมากก 555+
พี่ด้ามีแอบหน้าแดงด้วยนะเนี่ย มีหวังๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 5
เริ่มหัวข้อโดย: ohm ที่ 23-07-2011 19:50:52
ชอบน้องกัส ลุยแหลก


ขอบคุณคนเเต่งคับ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 5
เริ่มหัวข้อโดย: schteuben ที่ 24-07-2011 03:45:08
อ่านแล้วมีความสุข เหมือนมีความรักเข้ามาในชีวิตเหมือนกัส

ครอบครัวกัสน่ารักดีนะครับ น่าจะไปเปิดร้านอาหาร มีโชว์ตลกครอบครัวเนาะ ชอบพ่อกับแม่จัง
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 5
เริ่มหัวข้อโดย: keang ที่ 24-07-2011 22:12:12
หลงเข้ามา นิยายเรื่องที่ 2 ที่เราจะอ่านแล้ว สินะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 5
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 25-07-2011 15:13:24
โอยกัส  เริ่มแผนอ่อยเหยื่อให้ตายใจก่อนขม้ำ
แล้วพี่หมีจะหนีทันไหมนะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 5
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 26-07-2011 18:13:52
วันถัดมาซึ่งเป็นวันอาทิตย์ เราก็ทวนกิจกรรมทุกสิ่งที่ทำกันไปแบบเดิมซ้ำอีกครั้ง เริ่มด้วยผมมาถึงที่หน้าหอของพี่เขาก่อนเวลา เราลงไปนั่งกินข้าวและนั่งพูดคุยกันที่ร้านอาหาร ก่อนจะขึ้นมาเรียนอีกสองชั่วโมง และหลังจากนั้นผมก็กลับบ้าน ซึ่งสองวันที่ผ่านมานี้ นับเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุด จนตอนกลางคืนผมแทบจะนอนหลับไม่ลงเพราะเอาแต่คิดถึงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของพี่เขาตลอดเวลาเลยทีเดียว
ที่จริง ในเย็นวันอาทิตย์ ในขณะที่ผมอยู่บนรถไฟฟ้าเพื่อกลับบ้าน ผมก็ใช้มือถืออัพสถานะของตัวเองด้วยว่า
“มีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ เศร้าใจทุกครั้งที่ต้องจากลา”

และพอตกกลางคืน นอกจากเพื่อนๆ ของผมที่เข้ามาถามมาแซว รวมทั้งไอ้เมษที่มาด่าผมว่า “แรด” เป็นครั้งที่สองแล้ว พี่ด้าเองก็ยังเข้ามาตอบด้วยอิโมหน้ายิ้ม ^__^ อีกด้วย ซึ่งเขายิ่งทำให้ผมต้องเพ้อหนักเข้าไปใหญ่ เพราะผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะรู้หรือยังว่าผมกำลังหมายถึงเขาอยู่นั่นแหละ

หลังจากนั้น ผมก็รออย่างใจจดใจจ่อให้ถึงวันพุธที่พี่เขาจะมานอนที่บ้านของผม เพราะคราวนี้ก็เท่ากับว่า เราจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานมากขึ้น ถึงแม้ว่านั่นจะหมายถึงการมีไอ้อาร์ม กับพ่อและแม่อยู่ใกล้ๆ ด้วยก็ตาม

....................................................

“แม่คร้าบบบ! ลูกชายสุดหล่อกลับมาแล้ววว! ไอ้อาร์มยังไม่กลับมาอีกเหรอ!” ผมตะโกนเข้าไปในบ้านทันทีที่ถอดรองเท้านักเรียนออกเสร็จ

“ยัง! แล้วใครสั่งใครสอนให้แกตะโกนแหกปากแบบนี้หา อ้วน!” เสียงของแม่ดังออกมาจากทางหลังบ้าน

“อารายยย! แม่ก็ตะโกนเหมือนกันนั่นแหละ!”

“เถียงเรอะ!”

“เปล่าคร้าบบบ! ใครจะไปกล้า!” ผมตะโกนตอบกลับไปอีกครั้งพร้อมกับหัวเราะในลำคอเบาๆ

“เดี๋ยวจะโดน!”

“โดนหอมแก้มเหรอออออออ!!”

“มาในครัวนี้สิ! ฉันจะเอาปังตอหอมแก้มแกให้!”

“กลัวตายแหละ!” ผมพูดทิ้งท้ายไว้แล้วรีบวิ่งขึ้นชั้นสองอย่างรวดเร็วก่อนที่แม่จะเดินถือปังตอออกมาจากห้องครัว

เมื่อผมปิดประตูห้องลงแล้ว ผมก็ลองยกแขนเสื้อขึ้นดมกลิ่นเหงื่อของตัวเอง และสุดท้ายก็ต้องนิ่วหน้าออกมาด้วยความเหม็น
วันนี้คือวันพุธ และก็ใกล้ได้เวลาที่ไอ้อาร์มจะกลับมาถึงบ้านพร้อมกับพี่ด้าแขกคนสำคัญของผมแล้วด้วย แต่ตอนนี้ผมยังอยู่ในสภาพที่ชุดนักเรียนเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นและคราบเหงื่อจากการเล่นบอลกับเพื่อนและแดดร้อนๆ หลังเลิกเรียนอยู่เลย
ผมมองดูนาฬิกาที่บอกเวลาห้าโมงกว่าแล้ว ก็ตัดสินใจที่จะรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็วเพราะไม่อยากจะให้พี่ด้ามาเห็นผมในสภาพเหม็นเหงื่อแถมยังมอมแมมแบบนี้

หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วและยังคงพันผ้าเช็ดตัวส่องกระจกในห้องน้ำอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงของไอ้อาร์มกับพี่ด้าเดินคุยกันผ่านหน้าห้องน้ำไป ด้วยอารามดีใจ ผมรีบคว้าลูกบิดประตูและเกือบจะเปิดประตูออกไปแล้ว แต่โชคยังดีที่ฉุกนึกขึ้นได้ว่าสภาพของผมในตอนนี้ก็แทบไม่ต่างอะไรจากกำลังแก้ผ้าอยู่นั่นแหละ เพราะผมไม่ได้เอาผ้าคลุมอาบน้ำเข้ามาด้วย ดังนั้นผมจึงรอให้ทั้งสองคนเดินเข้าห้องของไอ้อาร์มไปก่อน แล้วค่อยเดินออกจากห้องน้ำกลับเข้าไปในห้องของตัวเองเพื่อแต่งตัว
ผมก็รู้ตัวดีนะว่าผมเป็นประเภทที่แสดงออกความรู้สึกทั้งทางคำพูด สีหน้า และอาการเอามากๆ แต่ในตอนนี้ ผมเริ่มอยากจะชะลอความรู้สึกและการแสดงออกของผมให้น้อยลงและช้าลงอีกสักเล็กน้อยแล้วสิ เพราะถึงผมจะรู้จากปากพี่เขาเองแล้วว่าเขาไม่มีแฟน และก็ไม่มีแฟนมาตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลายแล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าแฟนที่เขาเคยพูดมานั้นเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาจะเป็นเกย์หรือไม่ หรือถ้าหากเขาไม่ได้เป็นแล้วเขาจะรู้สึกอย่างไรกับการที่มีผู้ชายมาแอบชอบ.... ผมหมายถึง มี “ผม” มาชอบและทำตัวอย่างนั้นอย่างนี้กับเขา

หลังจากที่แต่งตัวเสร็จ ผมก็เดินลงไปยังชั้นล่าง ทำเหมือนไม่รู้ว่าพี่ด้าและไอ้อาร์มกลับบ้านมาแล้ว และนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่นครู่หนึ่ง

“อ้าว อาบน้ำแล้วเหรอ อ้วน เมื่อกี้เจ้าอาร์มกับครูเราเค้ามาถึงแล้วนะ ตอนนี้คงอยู่บนห้องนั่นแหละ”

“อ่อ ครับ” ผมตอบแบบไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก แม้ว่าที่จริงในใจของผมนั้นมันสุดแสนจะลิงโลดอยากเจอหน้าและอยากคุยกับพี่ด้าใจแทบขาดแล้วก็ตาม

“แล้วเราจะเรียนกันกี่โมง ได้คุยกับพี่เค้ารึยัง จะเรียนก่อนกินข้าวหรือกินข้าวก่อนแล้วค่อยเรียน”

“เออออ ก็ไม่รู้เหมือนกันอะ แม่ แต่เราจะกินข้าวกันตอนทุ่มกว่าๆ หลังจากพ่อกลับมาเลยไม่ใช่เหรอ แต่ตอนนี้มันก็ห้าโมงกว่าจะหกโมงแล้วนะ จะเอาไงดีอะ”

“เอ้า มาถามแม่แล้วแม่จะรู้เหรอ ลองไปคุยกับพี่ด้าเค้าดูก่อนสิ อืมมม.... แต่ให้เค้านั่งพักหายใจหายคอสักแป๊บก่อนก็ได้มั้ง”

“อือออ ครับ” ผมพยักหน้า ก่อนจะดีดตัวลุกออกจากโซฟาและเดินขึ้นไปยังชั้นสอง

ผมเคาะลงบนประตูห้องของไอ้อาร์มสองสามที และอีกอึดใจต่อมา ประตูห้องก็ถูกเปิดออก

“เออ มีไรมึง”

“แล้วพี่ด้าอะ.... คือแม่ให้มาถามว่าจะพี่เค้าจะสอนกูกี่โมงน่ะ”

“เฮ้ย ไอ้ด้า ไอ้อ้วนมันมาถามว่ามึงจะสอนมันกี่โมง” ไอ้อาร์มเปิดประตูออกให้กว้างขึ้นพร้อมกับหันกลับไปถามเพื่อนของมันที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง

ผมมองเข้าไปในห้องแล้วก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นว่าพี่ด้าที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงนั้นไม่ได้สวมเสื้ออยู่ ผิวของเขาขาวเนียนละเอียดราวกับแป้ง และแถมหัวนมทั้งสองข้างก็เป็นสีชมพูรับกับผิวขาวๆ ของเขาเป็นอย่างดี ไม่เหมือนหัวนมดำๆ บอดๆ ของไอ้อาร์มที่ผมเห็นเป็นประจำสักนิดเดียว

ที่จริงผมก็ถอดเสื้อเดินไปเดินมาออกจะบ่อยนะ ไม่ว่าจะที่บ้านตัวเอง บ้านเพื่อน หรือแม้แต่ที่โรงเรียน รวมทั้งผมก็เคยเห็นคนอื่นๆ แก้ผ้าเปลี่ยนเสื้อผ้ามาตั้งหลายครั้งแล้วด้วยเหมือนกัน แต่ไม่มีครั้งไหนหรือเพื่อนคนไหนเลยที่ทำให้ผมรู้สึกแบบที่กำลังรู้สึกอยู่ในตอนนี้ได้

“เอ่ออ แต่แม่บอกว่าถ้าพี่ด้าเหนื่อยก็ให้นั่งพักไปก่อนก็ได้นะครับ”

“ไม่เป็นไรๆ ถ้าเกิดว่ากัสจะเรียนเลยก็ได้นะ พี่ไม่ได้เหนื่อยอะไรมากมายหรอก วันนี้วิชาตอนบ่ายมันเรียนสบายๆ ด้วย”

“แล้วข้าวเย็นอะมึง มึงหิวรึยังวะ ไอ้ด้า แดกข้าวก่อนก็ได้นะเว้ย”

“ยังๆ กูยังไม่หิวว่ะ ปกติกูก็กินดึกอยู่แล้ว”

“งั้นตกลงมึงสองคนจะเอาไง จะเรียนกันไปก่อนเลยมั้ยล่ะ”

“งั้นเรียนก่อนสักชั่วโมงก็ได้มั้ง แล้วพอพ่อมาก็พักกินข้าวพร้อมกัน แล้วค่อยกลับมาเรียนต่อ” ผมเสนอ

“เออ งั้นมึงก็ไปบอกใครให้เตรียมหาขนมอะไรมาให้ไอ้ด้ามันแดกหน่อย ไป”

“เดี๋ยวพี่แต่งตัวแป๊บนึงนะ กัส แล้วเดี๋ยวพี่ไปหาที่ห้อง” พี่ด้าพูดกับผม

“เคครับพี่” ผมตอบกลับ จากนั้นก็เดินลงไปบอกพี่ๆ ที่ชั้นล่างว่าอีกเดี๋ยวให้ใครเตรียมน้ำกับของว่างอะไรขึ้นไปให้บนห้องด้วย
ผมกลับขึ้นมานั่งเล่นอยู่ในห้องของตัวเองได้แค่เพียงไม่ถึงห้านาที พี่ด้าก็มาเคาะประตูเรียกผม เมื่อครู่นี้เขายังใส่กางเกงนักศึกษาตัวเดียวอยู่เลย แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเรียบร้อยแล้ว

ผมชอบเวลาที่เขาใส่ขาสั้นแบบนี้จริงๆ เพราะมันยิ่งทำให้เขาดูตัวเล็ก กะทัดรัด และยิ่งดูเด็กลงกว่าเดิมเสียอีก

“มาๆ เริ่มเรียนกันเลยนะครับ” เขายิ้มให้ผม

จากนั้นเวลาหนึ่งชั่วโมงก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในตอนที่แม่ของผมเปิดประตูห้องเข้ามาเพื่อตามให้เราลงไปกินข้าวเย็นนั้นก็เป็นตอนที่เราสองคนกำลังจะหยุดพักกันอยู่พอดี

“เป็นยังไงบ้างล่ะ ด้า ไอ้อ้วน ลูกชายแม่” แม่ของผมเปิดประเด็นขึ้นกลางโต๊ะอาหาร “โง่มากเลยใช่มั้ย”

“โหหห! แม่!!”

พี่ด้าหัวเราะเบาๆ “ไม่หรอกครับ ด้าว่าน้องเค้าหัวโอเคนะ แต่ด้าคิดว่าที่น้องเค้าอ่อนพวกฟิสิกส์กับคณิตฯ เนี่ย น่าจะเป็นเพราะว่าไม่มีพื้นมาจากที่โรงเรียนตั้งแต่แรกมากกว่า เพราะพอสอนๆ ไป เค้าก็ทำโจทย์อะไรได้ไวดีนะครับ เป็นคนคำนวณเร็วและเข้าใจอะไรได้เร็วพอสมควรเลยล่ะ”

“มันจะมีพื้นได้ยังไงล่ะ ก็มันขี้เกียจจะตายไป” คราวนี้พ่อพูดขึ้นบ้าง “วันๆ เอาแต่เล่นกีฬา เอาแต่ไปเที่ยวกับเพื่อน หนังสือหนังหาไม่เคยจะอ่าน ขนาดตอนสอบ  แม่มันยังแทบจะต้องเอาไม้เรียวมายืนเฝ้าแบบเด็กๆ เลยนะ”

“เอ้อออ ดี เอาเข้าไป ช่วยกันรุมลูกชายให้ตายคาจานข้าวกันไปเลย” ผมวางช้อนกับส้อมลงแล้วเอนหลังในท่ายอมแพ้

“หึๆ ไม่หรอกครับ เวลาเรียนกับด้า กัสเค้าก็ตั้งใจเรียนอยู่นะ”

“ไอ้กัสเนี่ยนะ ตั้งใจเรียน” พ่อถามซ้ำ “พูดเล่นรึเปล่า ด้าตอบเอาใจพ่อกับแม่ใช่มั้ยเนี่ย”

“จริงๆ นะครับ น้องเค้าตั้งใจเรียนจริงๆ ถึงบางทีจะมีเหม่อๆ นิดหน่อย แต่เค้าก็ไม่เคยแสดงท่าทีขี้เกียจหรือไม่อยากเรียนเลยนะครับ”

ผมนั่งฟังพี่ด้าชมผมแบบเขินๆ นิดๆ เขาจะรู้ไหมล่ะว่าไอ้ที่ผมเคยเหม่อๆ ไปบ้างเนี่ย ก็เป็นเพราะความผิดของพี่เขานั่นแหละ

“สงสัยมันจะชอบด้ามากเป็นพิเศษจริงๆ เลยนะ พ่อ” แม่ผมพูดขึ้น ทำเอาผมต้องสะดุ้งโหยง
“นั่นสิ ปกติไม่เคยเห็นมันจะตั้งใจอยากเรียนพิเศษขนาดนี้มาก่อนเลยนะ”

“ด้ารู้อะไรมั้ย ตั้งแต่วันเสาร์วันอาทิตย์แล้วนะ ที่พอลูกชายแม่มันกลับบ้านมา มันก็อารมณ์ดี ยิ้มแฉ่ง ไม่มีบ่นเหนื่อย ไม่มีบ่นกระปอดกระแปดที่โดนบังคับให้ไปเรียนเลยแม้แต่นิดเดียว”

“แถมยังกลับบ้านเร็วขึ้น รู้จักเก็บห้องเอง จะได้รอรับพี่ด้าให้มานั่งสอนมันในห้องได้อีกด้วยนะ” พ่อพูดเสริม

“ที่สำคัญ ดูซิเนี่ย วันนี้มันอาบน้ำสะอาดสะอ้านเรียบร้อยเลยนะ ปกติแม่ต้องปากเปียกปากแฉะขนาดไหน กว่าจะบอกไล่ให้มันไปอาบน้ำได้แต่ละทีน่ะ”

“พ่อ!! แม่!!” ผมเขินจนรู้สึกร้อนฉ่าไปทั้งหน้าหมดแล้ว “จะเผาลูกอีกนานมั้ยเนี่ย!!”

“อะไร คนอย่างมึงรู้จักอายเป็นด้วยเหรอวะ ไอ้อ้วน” ไอ้อาร์มหันมาหัวเราะเบาๆ

“หุบปากเลย ไอ้อาร์ม เดี๋ยะเหอะมึง นอกจากไม่ช่วยและยังจะเสือกซ้ำเติมกูอีก”

“นี่ๆ พูดจาระวังปากคำด้วย อ้วน!”

ผมก้มหน้างุด “ขอโทษครับ....”

“อย่าไปว่าแต่น้องมันเลยเหอะ เจ้าอาร์ม เราเองก็เถอะ เป็นพี่มันน่ะ เข้ามหาวิทยาลัยได้แล้วก็ตั้งใจเรียนให้สบกับที่เข้าไปได้ด้วย ไม่ใช่เอาแต่เที่ยวเล่นติดผู้หญิงอยู่ได้”

“อ้าวววว พ่อออ! เกี่ยวอะไรกับอาร์มอะ!”

“แม่ว่าต่อจากนี้ไป แม่คงต้องฝากให้ด้าช่วยดูแลไอ้ลูกชายแม่ทั้งสองคนนี่ให้มากขึ้นแล้วสิเนี่ย” แม่ส่ายหน้าเบาๆ “คนนึงก็ติดเพื่อน อีกคนนึงก็ติดแฟน เฮ้ออออ”

“ไม่หรอกครับ แม่ เวลาสอบไอ้อาร์มมันก็ตั้งใจอ่านหนังสืออยู่เหมือนกันนะครับ”

“เห็นมั้ยๆ นี่ๆ ไอ้ด้านี่สิ รู้จริง”

“แต่เสียแค่ว่ามันโดดเรียนบ่อยกับไม่ค่อยส่งงานน่ะครับ คะแนนเก็บก็เลยไม่ค่อยจะมี” พี่ด้าหัวเราะเบาๆ

“อ้าวววว ไอ้เพื่อนทรยศ!”

“กูพูดความจริงเหอะมึง น้องมึงยังตั้งใจเรียนกว่าตั้งเยอะว่ะ ขอบอก นี่ถ้ากูเข็นกัสมันดีๆ นะ กูว่ามันหัวดีกว่ามึงอีกด้วยซ้ำ ไอ้อาร์ม” พี่ด้าพูดแล้วก็หันมายักคิ้วให้ผม

ผมว่าผมชักรู้สึก...... กินข้าวไม่ลงเสียแล้วล่ะครับ เพราะมันรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจบอกไม่ถูก!

หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้ว ผมกับพี่ด้าก็กลับขึ้นห้องมาเรียนหนังสือกันต่อ เวลาอีกหนึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว และหลังจากที่พี่เขาสอนผมจบแล้ว เราก็นั่งคุยเล่นกันต่ออีกพักใหญ่ๆ ในห้องของผมนั่นแหละ จนพอถึงตอนสี่ทุ่มกว่าๆ ไอ้อาร์มถึงได้มาตามเพื่อนของมันให้ไปอาบน้ำได้แล้ว

หลังจากที่พี่ด้าออกจากห้องไป ผมก็เปิดคอมฯ เข้าเฟซบุ๊ค และอัพสถานะล่าสุดอีกว่า

“รอยยิ้มของเธอช่างบาดจิต ดวงตาของเธอช่างบาดใจ”

ไม่กี่นาทีถัดมา คนก็มากดถูกใจให้ผมกันเพียบ แถมยังมีคนมาคอมเมนท์กันอีกมากมาย แต่ผมก็ไม่ได้ตอบใครกลับไปเป็นพิเศษอีกเหมือนเคย

ผมล้มตัวลงนอนลืมตามองเพดานห้องแล้วยิ้มให้กับตัวเองน้อยๆ ถึงแม้ตอนแรกผมคิดว่าผมจะชะลอความรู้สึกนี้ของตัวเองเอาไว้ แต่จากที่ผมได้นั่งคุยกับพี่เขาเมื่อครู่ ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าความตั้งใจนั้นของผมมันดูจะเป็นไปได้ยากเหลือเกิน

วันถัดมา และสัปดาห์ถัดๆ มา กิจกรรมการเรียนของผมกับพี่ด้าก็เริ่มกลายเป็นกิจวัตรที่ผมคุ้นเคยไป แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะรู้สึกเคยชินกับการได้เจอเขาบ่อยๆ จนความรู้สึกชอบพี่เขาจะลดลงแม้แต่นิดเดียว กลับกัน ยิ่งผมได้ใช้เวลากับเขามากขึ้นเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้สึกชอบเขาและอยากได้เขามาเป็นเจ้าของหัวใจมากขึ้นเท่านั้น

หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: wisky ที่ 26-07-2011 18:57:52
โอ้วน้องกัสกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก น่ารักอย่างนี้ให้ตลอดน๊า^_^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 6
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 26-07-2011 19:16:06
โอ้วววว Puppy Love!!!!!
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 6
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 26-07-2011 20:54:48
น่ารักทั้งคู่เลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 6
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 26-07-2011 22:12:18
น้องกัสเพ้อใหญ่ละ
ว่าแต่ถ้าพี่ด้าเข้าข้างตัวเองนิดนึงก็คงจะคิดว่าน้องกัสชอบแน่ๆ
ดูต่อไปแล้วกันว่าจะเป็นยังไง??
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 6
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 26-07-2011 23:29:38
เริ่มทุรนทุรายอยากเป็นเจ้าของแล้ววววว
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 6
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 27-07-2011 00:25:15
ความแรดและความร้ายของมันจะเริ่มมาในตอนหน้าครับ ^^"

ปล. ประมาณครึ่งเรื่องแล้วมั้งนิ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 6
เริ่มหัวข้อโดย: butterfly_bee ที่ 27-07-2011 00:30:51
น้องกัสน่ารักอ่ะ  :o8:
พี่ด้าจะระแคะระคายบ้างมั้ยเนี่ยว่ามีเด็กแอบชอบอยู่
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 6
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 27-07-2011 00:35:06
ชอบเด็กสดใส ใฝ่เรียนรัก เอ้ย เรียนรู้ อิอิ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 6
เริ่มหัวข้อโดย: silver998 ที่ 27-07-2011 02:57:38
อ่านไปเขินไป มีความสุขไป ไม่อยากรีบอ่านให้จบเร็วๆ เลยอะครับ ^_^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 6
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 28-07-2011 03:41:37
ขอเป็นเเฟนไปเลยย   

ห้าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 6
เริ่มหัวข้อโดย: jira ที่ 28-07-2011 16:31:59
อร๊ายยยยย  จิพลาดความน่ารักและความแรดของอ้วนไปหลายตอนเลยค่ะ
มันช่าง..น่ารักมาก ๆ  ไงดีอ่ะ  มันน่ารักอ่ะ  จิคิดคำไหนไม่ออกเลยค่ะ  น่ารักชะมัดอ่ะ
รออ่านตอนหน้านะคะ  รอเสพความแรดของจริงที่อ้วนจะสำแดงค่ะ555+
จิ้มบวกเป็นกำลังใจให้นะคะคุณต้น
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 6
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 31-07-2011 00:59:21
อ่านแล้วรู้สึกโลกเป็นสีชมพูแทนกัส หุหุ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 6
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 03-08-2011 19:24:24
โลกนี้สีชมพูสินะ 555+

แอบขำตอนมองก้น แหมนะ ไม่หื่นเลยนะแก
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 6
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 04-08-2011 17:24:44
เวลาผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว ที่ผมรู้จักกับพี่ด้า ผมรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างในตัวผมที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ผมรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมากขึ้น ขยันเรียนมากขึ้น เถลไถลกับเพื่อนน้อยลง จากผมคนที่เคยเล่นสนุกไปวันๆ ไม่ได้สนใจใครหรืออะไรนอกจากเพื่อนและครอบครัวมากนัก ก็เริ่มที่จะอยากทำตัวดีๆ เพื่อให้พี่ด้าเห็นและให้เขารู้สึกดีๆ กับผมมากขึ้นไปด้วย
หลายครั้ง เวลาที่ผมเดินห้างกับเพื่อน แล้วเห็นขนมหรือของเล็กๆ น้อยๆ อะไรที่น่าสนใจ ผมก็มักจะซื้อติดมือกลับไปฝากพี่เขาเสมอ ผมส่งข้อความหาพี่เขาทุกวัน และก็ชอบที่จะถ่ายรูปส่ง MMS หาพี่เขาบ่อยๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งพี่ด้าก็จะตอบกลับมาหาผมแทบทุกครั้ง ถึงแม้ว่าหลายครั้งผมจะไม่ได้คาดหวังให้พี่เขาต้องตอบผมกลับมา แต่เขาก็ยังตอบ ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกดีมากจริงๆ

วันเสาร์หนึ่ง หลังจากที่ผมเรียนกับพี่ด้าเสร็จแล้ว ผมก็ชวนพี่เขาไปดูหนังด้วยกัน แต่เขากลับปฏิเสธและบอกว่าไม่สะดวก เพราะติดธุระที่จะต้องไปกับเพื่อนต่อในตอนเย็น ผมที่รู้สึกเซ็งๆ เลยโทรหาไอ้เมษและชวนมันไปเดินจตุจักรด้วยกันแทน

“แล้วสรุปเป็นไงวะมึง กล้าบอกรักพี่เค้าไปรึยัง” ไอ้เมษถามผมขณะที่เรากำลังเดินดูเสื้อผ้าอยู่ด้วยกัน

“บอกเหี้ยอะไร! บอกรักนะเว้ย ไม่ใช่บอกว่าหิวข้าว จะได้พูดกันง่ายๆ น่ะ ทีมึงเองกว่าจะกล้าพูดน่ะ ต้องให้กูยุแทบตาย ไอ้ห่า”

“เออออ กูรู้เว้ยยย ว่ามันไม่ง่ายและมึงก็ยังไม่ได้บอกพี่เค้าด้วย กูก็แค่แซวเล่นเหอะ! ไอ้หวมโป่ง!” ไอ้เมษสวนกลับ “แต่ก็อีกอะ นี่แหละเว้ย ประเด็นของกูเลย ทีตอนกูกับไอ้ตุลย์นะ มึงก็ยุได้ยุดี ปากดีสารพัด แต่พอเป็นเรื่องของตัวเอง แม่งกลับไม่กล้าซะอย่างนั้นน่ะเหรอวะ”

ผมอึ้งๆ ไป “.....เออๆ เชิญมึงด่ากูได้เลยตามสบาย ไอ้จิ้งจกเรือน ไอ้ตุ๊กแกกระท่อม เหี้ยยยแม่งงงง....!! แต่จริงๆ ถ้ากูแค่ไม่กล้าพูด ไม่กล้ายอมรับความรู้สึกของตัวเองแบบที่มึงเคยเป็นนะ กูจะไม่เครียดเท่านี้เลยเว้ย”

“อะไรวะ ยังไง กูงง”

“ก็อย่างที่กูเล่าให้มึงฟังมาตลอดนั่นแหละว่ะ ไอ้เมษ แล้วคือมึงก็รู้นิสัยกูเหอะ กูอะ เป็นคนแสดงออกเว้ย กูว่ากูทั้งแสดงออก ทั้งพูดเล่น แล้วก็ทำทีเล่นทีจริงไปหลายรอบเหี้ยๆ แล้วเหอะ แต่แม่งงงง กูก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าพี่เค้ารู้รึยังว่ากูคิดยังไงกับเค้าอะ คือแบบ เค้าไม่ได้มีท่าทีรังเกียจอะไรกูเลยนะเว้ย ซ้ำยังสนิทกับกู ยังหัวเราะ ยังเล่นกับกูปกติดีด้วยซ้ำ แต่กูไม่แน่ใจเลยว่าเค้าคิดยังไงกับกู เพราะบางทีแม่งก็ดูเหมือนจะรู้ แต่บางทีแม่งก็ดูไม่คิดอะไรแม้แต่นิดเดียว กูก็เลยกลัวไง ทั้งกลัวว่าเค้าจะเห็นกูเป็นแค่น้องชาย และกลัวว่าถ้าหากเค้ารู้ว่ากูชอบเค้าแล้วอะไรๆ มันจะเปลี่ยนไปอะดิ”

“เออ กูเข้าใจว่ะ.....” ไอ้เมษพยักหน้าเบาๆ “และกูว่ามึงก็แสดงออกเยอะแล้วจริงๆ นั่นแหละว่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนะ ไอ้ตอนที่มึงเคยจงใจทำผ้าเช็ดตัวหลุดตอนนั้นน่ะ อย่าเรียกว่าแค่ ‘แสดงออก’ เลย กูว่าเรียก ‘ยั่ว’ เลยดีกว่าเหอะว่ะ!” มันหัวเราะ

“ครวยเหอะ สาดดดดดดดดด!! เค้าไม่ได้เรียกว่ายั่วเว้ย!! เค้าเรียก ‘ลองใจ’ ต่างหาก!”

ไอ้เมษมันกำลังพูดถึงเรื่องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนที่พี่ด้ามาสอนหนังสือผมที่บ้านตามปกติ และตอนนั้นผมขอช่วงเวลาเบรคระหว่างชั่วโมงไปอาบน้ำ เพราะผมอ้างไปว่าผมเริ่มรู้สึกง่วง ซึ่งหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ผมก็กลับเข้ามาแต่งตัวในห้อง โดยที่พี่ด้าเองก็ยังคงนั่งรอผมอยู่เหมือนเดิม และเมื่อสบโอกาสตอนที่เรากำลังคุยกันอยู่นั้น ผมก็หันหลังให้เขาและจงใจแกล้งทำผ้าเช็ดตัวหลุดลงจากเอว แต่ก็รีบคว้ามันเอาไว้ได้ทันก่อนที่มันจะหล่นลงไปกองที่พื้น ทำให้พี่เขาน่าจะเห็นก้นของผมแว้บๆ แต่นอกจากที่พี่เขาจะยิ้มเขินๆ และหัวเราะไปกับท่าทางลุกลี้ลุกลนของผมแล้ว ผมก็ยังดูไม่ออกอยู่ดีว่าพี่เขามีท่าทีสนใจหรือปฏิกิริยาแนวนั้นกับผมบ้างหรือเปล่า

“เออๆ ลองใจก็ลองใจวะ ถุ๊ยยยยยย! แล้วถ้างั้นตอนที่มึงใส่กางเกงบาสแล้วไม่ใส่กางเกงใน และมึงจงใจนั่งอ้าขาให้ขากางเกงมันเปิดๆ อะ มึงยังจะเรียกว่าลองใจอีกมั้ยวะ กูว่ามันเรียก ‘แรด’ แล้วก็ ‘ยั่ว’ เหี้ยๆ เลยเหอะว่ะ”
ผมยักไหล่ “แต่กูเรียกว่า ‘พยายามทำทุกทางเพื่อที่จะรู้ว่าใจของเธอคิดยังไง’ ว่ะ”

คราวนี้มันพูดถึงเมื่อวันพุธที่ผ่านมานี่เอง หลังจากที่ผมแกล้งทำผ้าเช็ดตัวหลุดไปในครั้งก่อนนั้นแล้ว ผมก็อยากจะลองใจพี่เขาให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกนิดหน่อย ดังนั้น ก่อนที่เราจะเริ่มเรียนกัน ผมก็อาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จเรียบร้อยก่อน แต่ว่าวันนั้นผมเลือกใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงบาสซึ่งเนื้อผ้าค่อนข้างจะเบาและขากางเกงค่อนข้างกว้าง และแน่นอนว่าผมก็จงใจไม่ใส่กางเกงในอย่างที่ไอ้เมษบอกนั่นแหละ

ผมสังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้วล่ะว่าตอนแรกพี่ด้าเองก็มีมองตรงเป้ากางเกงของผมตอนที่ผมเดินไปเดินมาอยู่เหมือนกัน แต่ทว่ามันก็เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ดังนั้นในตอนที่เรานั่งเรียนด้วยกันอยู่ และตอนที่เราพักเบรคเพื่อกินขนมและพูดคุยกันนั้น ผมจึงลองแหย่เขาดูด้วยการนั่งยกขา หรือไม่ก็นอนลงบนเตียงโดยชันเข่าขึ้นพร้อมกับลอบมองดูปฏิกิริยาของเขา ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิม นั่นคือถึงเขาจะมีเหลือบมองในจุดที่ผมอยากให้เขามองอยู่บ้าง แต่ผมก็คิดว่ามันเป็นการมองเพราะสัญชาติญาณมากกว่าที่จะมองแบบอยากรู้อยากเห็นหรืออะไรอย่างนั้น เพราะเขามองแค่ครู่สั้นๆ เพียงครั้งหรือสองครั้ง ก่อนจะทำเหมือนไม่สนใจและไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ซึ่งผมเองก็ดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าพี่เขารู้สึกเขินอะไรมั่งหรือเปล่า เพราะผมก็ไม่อยากจะคิดว่าไอ้ที่เขามีหน้าแดงๆ บ้างเล็กน้อยนั่นจะเป็นการหมายความว่าเขาคิดอะไรกับผมทุกครั้งหรอกนะ เนื่องจากว่าปกติพี่เขาก็เป็นคนขี้อายและหน้าแดงบ่อยมากอยู่แล้วด้วย

“กูขอพูดอะไรจริงๆ จากใจอย่างนึงดิวะ ไอ้อ้วน.... กูว่ามึงนี่มันแรดเรียกพ่อจริงๆ เลยว่ะ ไอ้เชี่ย!”

“ครวยเถอะ! อย่างกูอะเค้าเรียกว่ากล้าแสดงออกเว้ย ไม่เหมือนมึงกับไอ้ตุลย์หรอก ชอบกันแต่เสือกไม่กล้าทำเหี้ยอะไรสักอย่างตั้งนาน สาดดดด”

“เอออออ กูผิดอีก เชร็ดเข้! แต่อย่างน้อยกูก็ได้ไอ้ตุลย์มานอนกอดแล้วล่ะวะ เหลือแต่มึงนี่แหละ แสดงออกแทบตายแต่ก็ยังไม่ได้แม้แต่จะจับมืออะ ไอ้สาดดดด”

“โหหห มึงพูดแบบนี้ มึงไม่เอามีดมาแทงกูซะเลยล่ะ ไอ้คางคกป่วย!” ผมต่อยลงบนหัวไหล่ของมัน

“และไหนยังจะสารพัดสเตตัสเฟซบุ๊คกับหัวเอ็มเอสเอ็นที่มึงช่างสรรหาคำมาตั้งนั่นอีกอะ ไอ้ล่าสุดนี่อะไรนะ อิจฉาเส้นเลือดใหญ่อะไรนะวะ กูลืม”

“อิจฉาปรอทที่ได้อยู่ใกล้คนไข้.....”

“อิจฉาเส้นเลือดใหญ่ที่อยู่ใกล้หัวใจเธอ” ไอ้เมษต่อประโยคจนจบ “เออ กูจำได้และ เสี่ยวมากกกกกเหอะว่ะ สาดดดดดดดด”

“ครวยไร มึงอย่ามาพูดจาดูถูกแผนการของกูนะเว้ย”

“แผนเหี้ยอะไรของมึง”

“ก็แผนการครอบครองหัวใจพี่แพนด้าไง กูขอตั้งชื่อปฏิบัติการนี้ว่า ‘แผนการตีหน้าซื่อ ทำตาใส ใช้ความใกล้ชิด บวกความวับๆ แวมๆ นิดหน่อย สร้างความหวั่นไหว เพื่อให้ได้หัวใจเธอมาครอบครอง’ เนี่ย อีกเดี๋ยวกูจะไปจดลิขสิทธิ์ชื่อนี้แล้วนะเว้ย”
“ฮ่าๆๆๆ ไอ้บ้า! ก่อนมึงจะเพ้อเจ้อไปจดลิขสิทธิ์น่ะ มึงลองทวนชื่อแผนการเหี้ยอะไรนั่นของมึงใหม่ให้ถูกอีกครั้งก่อนเหอะว่ะ ห้ามเพี้ยนนะเว้ย”

“ไม่เว้ย กูพูดได้ครั้งเดียว ไม่ใช่จำไม่ได้ แต่มันเป็นความลับทางการค้า เดี๋ยวใครที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมานี่ได้ยินแล้วจะก๊อปเอาของกูไปใช้ว่ะ”

ผมเดินดูของและพูดคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้กับไอ้เมษไปอีกพักใหญ่ๆ ซึ่งถึงแม้ว่าจตุจักรในวันเสาร์เย็นนี้จะมีคนมาเดินเยอะแสนจะเยอะ แต่ผมว่ามันก็ยังไม่เยอะมากพอจะที่บดบังโชคชะตาหรือหรหมลิขิตของคนเราได้จริงๆ

ในตอนที่เราสองคนกำลังแวะซื้อน้ำดื่มและไอ้เมษกำลังรอเงินทอนจากพ่อค้าอยู่นั้น สายตาของผมก็มองกวาดผ่านผู้คนที่เดินสวนไปสวนมามากมาย จนไปสะดุดกับแผ่นหลังของคนๆ หนึ่งที่ผมรู้สึกคุ้นตา

“เฮ้ยๆๆๆ! ไอ้เมษๆๆ!!” ผมรีบสะกิดไอ้เพื่อนตัวดีของผม

“อะไรของมึง!”

“นั่นใช่พี่ด้ารึเปล่าวะ!” ผมชี้ไปยังผู้ชายเสื้อยืดสีขาวที่กำลังยืนหันหลังให้พวกเราอยู่ “กูว่าใช่แน่เลยว่ะมึง!”

“เหอะ กูก็ไม่รู้ว่ะ มึงลืมไปป่าววะว่ากูเพิ่งเคยเจอพี่เค้าแค่ครั้งเดียวเองนะเว้ย”

“กูว่าใช่ว่ะ แต่พี่เค้าบอกว่าต้องไปธุระกับเพื่อนนี่หว่า”

“สงสัยจะเป็นธุระมาเจเจนี่แหละมั้ง”

เมื่อไอ้เมษพูดจบ ผู้ชายคนนั้นก็หมุนตัวหันมาทางพวกเรา ทำให้เราสามารถมองเห็นหน้าของเขาได้ชัดๆ และเขาก็คือพี่แพนด้าของผมจริงๆ ด้วย

“ใช่จริงๆ ด้วยว่ะ! งั้นกูไปทักพี่เค้าก่อนนะมึง เดี๋ยวกูมา”

“เฮ้ยเดี๋ยว ไอ้อ้วน!”

ผมผละออกจากไอ้เมษ และเดินตรงเข้าไปหาพี่ด้าที่ยังคงมองไม่เห็นผม แต่ทว่ายังไม่ทันที่ผมจะเดินไปใกล้ตัวพี่เขา ผมก็ต้องหยุดฝีเท้าลง เมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินตรงเข้าไปหาเขาเช่นเดียวกัน

ผู้หญิงคนนั้นยื่นขวดน้ำขวดหนึ่งจากสองขวดที่เธอถือมาให้กับพี่ด้า พี่ด้ายิ้มและพูดขอบคุณ ก่อนที่ทั้งสองคนจะหันหลังให้กับผมและเดินจากไป

ที่จริงเรื่องมันก็น่าจะจบลงอยู่แค่นั้น กับไอ้แค่การที่พี่ด้ามาเที่ยวกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง มันไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรมากมายเลย..... ถ้าหากว่าเพื่อนผู้หญิงคนนั้นจะไม่เดินควงแขนพี่ด้าแบบที่ผมกำลังเห็นอยู่นี่ไปด้วย

“เฮ้ย ไอ้อ้วน” ไอ้เมษเดินมาสะกิดแขนผม “ไปเหอะว่ะ มึงยืนขวางทางคนอื่นอยู่นะเว้ย”

แต่ผมก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไอ้เมษจึงต้องจับแขนของผมแล้วออกแรงลากให้ผมเดินไปกับมันด้วย

“เมื่อกี้มึงเห็นแบบที่กูเห็นใช่มั้ยวะ ไอ้เมษ”

“เออ.... พี่เค้าก็อาจจะมากับเพื่อนน่ะมึง อย่าเพิ่งคิดมากเหอะว่ะ”

“เพื่อนกันมันเดินควงแขนกันแบบนั้นด้วยเหรอวะ”

“ก็.... เพื่อนสนิทมั้งมึง กูก็ไม่รู้ว่ะ แต่กูว่ามันก็ไม่แปลกหรอกนะเว้ย”

“กูจะโทรหาพี่ด้า” ผมหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง

“มึงจะโทรไปทำไมวะ”

“กูก็ไม่รู้ แต่กูจะโทร” ผมกดเบอร์ของพี่ด้าอย่างรวดเร็ว เพราะผมจำเบอร์ของพี่เขาได้ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ผมได้มาแล้ว
ผมรอสายอยู่ครู่หนึ่ง

“ฮัลโหลครับ”

“ว่างายยพี่ด้า เป็นไงมั่งเนี่ยพี่ ตอ.....”

“แป๊บนึงนะ กัส” พี่เขารีบพูดขึ้นก่อนที่ผมจะทันได้พูดประโยคถัดไป

“ครับ” ผมตอบรับแบบเซ็งๆ

“ฮัลโหล เอ้อ ว่าไงครับ มีอะไรรึเปล่า”

“โอ๊ยยย ป่าววว ไม่มีอะไรหรอกพี่ กัสแค่จะ.... เอ่ออ จะคุยเรื่องเรียนพรุ่งนี้หน่อยน่ะครับ แต่ตอนนี้พี่อยู่ไหนเนี่ย เสียงดังเหมือนกันนะเนี่ย เหมือนคนเยอะๆ”

“อ๋ออ เอ่ออ ตอนนี้พี่มาธุระอยู่ข้างนอกกับเพื่อนน่ะครับ”

“อ๋ออ ที่พี่บอกกัสเมื่อกลางวันน่ะเหรอ แล้วนี่พี่อยู่ไหนล่ะเนี่ย”

“อืมมม ก็ อยู่แถวๆ นี้แหละครับ ไม่ได้ไปไหนไกลหรอก”

“แถวนี้นี่คือสยามเหรอ”

“อื้ออ.... ครับ”

ผมรู้สึกว่าหน้าของผมมันชาวาบ และรู้สึกราวกับหัวใจของผมมันหยุดเต้นไปชั่วขณะหนึ่งก่อนที่มันจะร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทีเดียว

“สยามเหรอ.... ฮั่นแน่! แหมๆ ไปกับสาวล่ะซี๊” ผมฝืนยิ้มและแกล้งแซวออกไป

“เปล่าๆ ไม่ใช่แบบนั้นเลย ทำมาเป็นแซวพี่น่าาา” เขารีบตอบ “เอ่อออ ถ้าไงเอาไว้เราค่อยคุยกันคืนนี้แล้วกันนะครับ กัส พี่ยุ่งๆ อยู่น่ะ โทษทีนะ” และเมื่อพูดจบ เขาก็ตัดสายทิ้งไปเลยทันที

“ยุ่งเหี้ยไรวะ! ยุ่งเดินควงกันอยู่มือก็เลยไม่ว่างน่ะสิ!” ผมพูดอย่างหงุดหงิด

“สรุปว่าไงวะ ไอ้อ้วน”

“ไม่ว่าไงอะ แม่งโกหกกูด้วย บอกว่าอยู่สยามกับเพื่อนผู้ชาย บอกว่าไปธุระ เหี้ยไรเนี่ย แม่งงงงง สยามพ่อมึงสิ! ก็กูเพิ่งเห็นมันเดินควงกับคนอื่นอยู่เมื่อกี้เนี้ย!!”

“เฮ้ยย มึงใจเย็นก่อน ไอ้อ้วน มึงเสียงดังไปแล้วเว้ย คนอื่นเค้ามอง ไอ้เหี้ย”

“กูหงุดหงิดเว้ย!”

“กูรู้น่ะ แต่มึงใจเย็นก่อนเหอะ อย่างเมื่อกี้น่ะ พี่เค้าพูดเหรอว่าเค้าอยู่กับเพื่อนผู้ชายอะ”

“ก็.... เปล่าหรอก แต่คือกูถามไง ว่า ‘ไปกับสาวเหรอ’ มึงก็ได้ยินไม่ใช่เหรอวะ แต่แม่งปฏิเสธกูอะ แล้วจะให้กูคิดยังไง”

“เอาเป็นว่า ตอนนี้มึงกำลังคิดนั่นคิดนี่ไปเองหนักแล้วนะเว้ย ไอ้อ้วน อะไรๆ มันก็ยังไม่แน่ว่าจะเป็นแบบที่มึงคิดสักหน่อย”

“มันจะไม่เป็นได้ไงวะ ก็ในเมื่อเราเห็นๆ กันอยู่ และพี่เค้าก็โกหกกูจริงๆ น่ะ!”

ไอ้เมษนิ่วหน้าด้วยความเสียอารมณ์ และผมก็รู้ดีว่ามันเองก็ไม่ใช่คนที่ปลอบใครเป็นเท่าไหร่เหมือนกัน

“เออช่างเหอะ.... โทษทีว่ะมึง กูไม่น่าอารมณ์เสียใส่มึงเลย” ผมถอนหายใจ “แต่กูหมดอารมณ์เดินแล้วว่ะ เราแยกย้ายกันกลับบ้านเหอะ”

“อืมม ก็แล้วแต่มึงอะว่ะ”

คืนนั้นพี่ด้าโทรกลับมาหาผม แต่ผมไม่ได้รับสายเขาเพราะผมกำลังอาบน้ำอยู่ และหลังจากนั้นเขาก็ยังโทรกลับมาหาผมอีกถึงสองครั้ง แต่ผมก็ไม่ได้รับสายเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ที่จริงเขาจะไปเดินกับใคร ทำอะไรกับใคร มันก็เรื่องของเขานะ ผมคิดว่าผมคงจะไม่รู้สึกแย่กับพี่เขามากขนาดนี้หรอก ถ้าหากว่าเขาไม่โกหกผมแบบนั้น เพราะผมไม่อยากให้คนที่ผมชอบมากขนาดนี้มาโกหกผมเลย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: wisky ที่ 04-08-2011 17:45:08
พี่ด้าทำไมทำกับน้องกัสแบบนี้อ่ะแอบเสียความรู้สึกอย่างแรงและรู้สึกค้างด้วยรีบมาเคลียร์
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 7
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 04-08-2011 17:54:56
เกิดอะไรขึ้น
ใจร่มๆ
พี่ด้าอาจจะมีแฝดก็ได้ :m21:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 7
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 04-08-2011 21:04:10
เรื่องชักจะยุ่งแล้ว
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 7
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-08-2011 16:20:15
กัสใจเย็น ๆ นะ เอาเวลาน้อยใจไปนึกวิธีจีบพี่ด้าเถอะ
กับพี่ด้าก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน พี่เขาก็มีสิทธิไปไหน ทำอะไรกะใครก็ได้
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 7
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 13-08-2011 21:13:20
วันรุ่งขึ้น ผมออกจากบ้านแต่เช้า โดยบอกแม่ว่าผมนัดเรียนกับพี่ด้าเร็วขึ้น แต่ที่จริงผมไม่คิดที่จะไปเรียนกับเขาตั้งแต่แรกแล้ว ผมส่งข้อความไปบอกเขาว่าผมรู้สึกไม่ค่อยสบาย และจะไม่ไปเรียน แต่ผมกลับไปเดินเล่นแถวสยามคนเดียว ดูหนังฆ่าเวลา แล้วจึงกลับบ้านในตอนเย็น

แต่ทว่าผมก็ไม่สามารถหลบหน้าพี่เขาไปได้ตลอด เพราะไม่ว่าอย่างไร วันพุธพี่เขาก็จะต้องมาสอนผมที่บ้านอยู่ดี และเมื่อวันนั้นมาถึง ผมก็พยายามทำตัวเป็นปกติ พยายามที่จะพูดคุยและมองหน้าพี่เขาให้ได้เหมือนปกติ แต่เมื่อใดก็ตามที่ผมนึกขึ้นมาว่าพี่เขามีแฟนอยู่แล้ว เขาไม่ได้รู้สึกสนใจอะไรในตัวของผมเลย หนำซ้ำเขายังโกหกผมในเวลาที่เขาอยู่กับแฟนแบบนั้นด้วย ผมก็ไม่รู้สึกอยากจะสนใจและใส่ใจในสิ่งที่พี่เขากำลังสอนผมอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว

วันถัดมา ผมก็ยังคงนั่งเรียนกับพี่เขาแบบขอไปทีอีกหนึ่งวัน เสียงหัวเราะ ความรู้สึกสนุกสนานที่เคยมีมันดูเหมือนจะหายไปจนหมด พี่ด้าเองก็ถามผมเหมือนกัน ว่าผมเป็นอะไร มีปัญหาอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า เพราะว่าผมดูแปลกไป แต่จะให้ผมตอบอย่างไรได้ล่ะ นอกจากคำว่า “ไม่มีอะไร” อันแสนจะคลาสสิค

เวลาผ่านเวียนไปจนวันเสาร์วนมาถึงอีกครั้ง และก็เป็นอีกวันที่ผมนั่งเรียนกับพี่ด้าแบบไม่ได้สนใจฟังสิ่งที่พี่เขาสอนเลย หลังจากเรียนเสร็จ ผมก็กลับบ้านแบบหัวสมองว่างเปล่า และถึงแม้ว่าผมจะพอดูออกว่าพี่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจที่เห็นผมเป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมก็รู้สึกเซ็งและน้อยใจพี่เขามากเกินกว่าจะใส่ใจความรู้สึกของเขามากไปกว่าความรู้สึกของตัวเอง
ในวันอาทิตย์ ผมกับไอ้เมษไปนั่งอยู่ที่บ้านของไอ้ตุลย์เกือบทั้งวันโดยที่ผมไม่ได้บอกพี่ด้าเอาไว้ก่อนว่าผมจะไม่ไปเรียน และพี่เขาก็ไม่ได้โทรมาตามผมแม้แต่ครั้งเดียวเลยด้วย ซึ่งถึงแม้ผมจะรู้สึกโอเคอยู่กับการที่ไม่ต้องโกหกพี่เขา แต่ลึกๆ แล้ว ผมก็อดรู้สึกหงุดหงิดและน้อยใจไม่ได้ที่เขาแสดงออกเหมือนไม่ได้สนใจอะไรผมเลยแบบนี้

“เป็นไงมั่งล่ะ เรียนวันนี้ เหนื่อยมั้ย หน้ามุ่ยมาเชียวนะ” แม่ทักผมขึ้นหลังจากที่ผมก้าวเท้าเดินเข้าไปในบ้าน

“นิดหน่อยอะครับ” ผมสะดุ้งเบาๆ

“สู้ๆ หน่อยลูก อดทนอีกนิดเดียว เดี๋ยวพอสอบเอ็นท์ฯ ติดก็สบายแล้ว” พ่อพูดขึ้นด้วยอีกคน

ผมไม่คิดว่าทั้งสองคนกำลังประชดหรือพยายามจับผิดผมอยู่นะ เนื่องจากตอนแรกผมก็กลัวว่าแม่จะคุยกับพี่ด้าแล้วรู้ว่าผมไม่ได้ไปเรียนมาเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ดูเหมือนว่าวันนี้แม่จะไม่ได้โทรไปหาพี่เขาอย่างที่ผมกังวลมาตลอดทั้งวัน

“ครับ” ผมตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินหนีกลับขึ้นไปบนห้อง

หลังจากที่โยนกระเป๋าลงบนเตียงได้ไม่นาน โทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น ในตอนแรกผมคิดว่าจะเป็นพี่ด้าโทรมา ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งนั้นจะเรียกว่าเป็นความคาดหวังได้หรือเปล่า แต่เมื่อผมเห็นชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอแล้ว ผมก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ... ซึ่งก็อีกนั่นแหละ ผมไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าผมถอนหายใจเพราะผมรู้สึกโล่งอกหรือว่ารู้สึกเสียดายกันแน่

“หวัดดีคร้าบบบ พี่ต้า ว่าไงพี่”

“งายย อ้วน อยู่ไหนแล้วเนี่ย”

“อยู่บ้านแล้วพี่ เพิ่งกลับมาถึงสักแป๊บเดียวเนี่ย”

“ไปไหนมาอะ.... อ่อออ ไปเรียนกับไอ้ด้ามาใช่ป่าว”

“อืมมม.... ครับ” ผมจำเป็นต้องโกหกออกไป

“แล้วเป็นไงมั่งอะ แฮปปี้ดีมั้ย โอเครึเปล่า”

“ก็ดีอะครับพี่ ก็สนุกดี เหมือนเดิมนั่นแหละ”

“โกหก”

ผมนิ่วหน้าทันที “อะไรนะ พี่”

“อ้วน อ้วนก็รู้ใช่มั้ยว่าอ้วนคุยกับพี่ได้ทุกเรื่องน่ะ ไม่ใช่เห็นว่าพี่เป็นเพื่อนไอ้ด้ามันแล้วอ้วนเลยไม่อยากให้พี่รู้ เลยต้องมาโกหกพี่อะไรแบบนี้ มันไม่ใช่นา ปกติเราเองก็ไม่ใช่คนที่จะพูดโกหกอยู่แล้วด้วยนี่หว่า อืมมม ก็นอกจากโกหกพ่อกับแม่น่ะนะ แต่ก็นั่นแหละ อย่างน้อยๆอ้วนก็ไม่เคยโกหกพี่เลยไม่ใช่เหรอครับ เพราะงั้นบอกพี่มาเถอะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมวันนี้ถึงไม่ได้ไปเรียนอีกแล้ว”

ผมอึ้งไปครู่หนึ่ง “พี่ คือ กัสไม่ได้......”

“ไอ้ด้ามันเครียดนะเว้ย อ้วน มันเห็นพี่สนิทกับเรา วันนี้มันก็เลยโทรมาเล่าให้พี่ฟังเนี่ยแหละ ว่าเราไม่ไปเรียน และพักหลังๆ ก็ดูเหมือนไม่ใส่ใจเรียนเลยด้วย มันคิดว่าพี่อาจจะรู้ว่าเราเป็นอะไรน่ะ”

“โอ๊ยยยย กัสไม่ได้เป็นอะไรหรอกพี่ ก็แค่เซ็งๆ เรื่องบางเรื่องคนบางคนนิดหน่อย”

“ใครวะ เพื่อนที่โรงเรียนเหรอ”

“ก็..... ประมาณนั้นมั้ง”

“เออ ก็แล้วไป เพราะไอ้ด้ามันกังวลอยู่ มันกลัวว่ามันจะทำอะไรให้เราไม่ชอบใจรึเปล่า”

“พี่เค้าบอกแบบนั้นเหรอ”

“อือ ก็ใช่อะดิ มันเป็นคนขี้กังวลนะเว้ย เห็นแบบนั้นก็เหอะ ถึงมันจะไม่ค่อยพูดความรู้สึกของตัวเอง ไม่ค่อยแสดงออกอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้าเวลามันไม่สบายใจเรื่องความรู้สึกของคนอื่นนะ มันจะเครียดมากๆ เพราะมันเป็นคนแคร์เพื่อนเหี้ยเหี้ยยยยยยยย”

“เหอะๆ แต่กัสก็แค่คนอื่นเองนะพี่ ไม่ได้เป็นเพื่อนพี่เค้าสักหน่อย แค่เรียนพิเศษด้วยเฉยๆ พี่เค้าจะมาใส่ใจอะไรกัสมากมายทำม๊ายยยย”

“อย่าพูดแบบนั้นน่า ไอ้อ้วน ไอ้ด้ามันก็ชอบเรามากนา มันยังเคยชมเราให้พี่ฟังเลยว่าเป็นเด็กน่ารัก ช่างคุย เข้ากับคนง่าย อะไรแบบนี้น่ะ”

“โอ๊ยยยย ได้ยินจนเบื่อแล้วเหอะ เรื่องพวกนั้นน่ะ กัสโดนคนพูดคนชมแบบนี้จนชินละ”

“แหมเว้ย น้องกูนี่มันช่าง.......”

“น่ารักอะไรจะขนาดนี้ ใช่มะ” ผมต่อประโยคให้จนจบ

“หลงตัวเองอะไรได้ขนาดนี้ต่างหาก” พี่ต้าหัวเราะเบาๆ “เอาเถอะๆ พี่ก็เป็นห่วง เลยโทรมาถามแค่นี้แหละ แต่หลังจากนี้ก็ไปเรียนปกติได้แล้วนะ มีอะไรก็คุยกับไอ้ด้ามันได้ มันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ต้องไม่สบายใจ”

ผมถอนหายใจเบาๆ “เคๆ ครับพี่ กัสจะพยายามละกัน”

“เออๆ ดีแล้วๆ โอเค งั้นแค่นี้แหละ”

“ครับ...... เฮ้ย! เดี๋ยวๆๆ พี่ต้า”

“หือ ว่าไง”

“เอ่อออ ก็ไม่มีไรหรอกพี่ คือพอกัสมานึกๆ ดูอะ ตกลงว่าพี่ด้าเนี่ย เค้ามีแฟนรึยังวะพี่”

“ก็ไม่มีนิ ถามทำไมอะ”

“แล้วแบบว่า คนที่มาจีบหรือมาคบๆ กับพี่เค้าอะ มีมะ”

“โอ๊ยยย ถ้างั้นก็เพียบล่ะ พี่ว่า” พี่ต้าตอบแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย “หมายถึงคนที่มาชอบมันน่ะนะ แต่คนที่กำลังคบกันอยู่นี่..... ก็ไม่น่าจะมีว่ะ”

“อืมมมม เหรอครับ”

“ทำไมอะ ทำไมทำเสียงงั้นวะ อ้วน”

“เปล่าพี่ ไม่มีอะไร ก็แค่สงสัยน่ะ เพราะกัสรู้สึกเหมือนพี่เค้าจะมีแฟนแล้วเลยว่ะ”

“เหอออ ทำไมรู้สึกแบบนั้นล่ะ มีอะไรรึไง”

“ไม่มีหรอก แค่รู้สึกน่ะครับ พี่อย่าสนใจเลย”

“หืมมมม....”

“อะไรพี่”

“เปล่า..... เออๆ งั้นแค่นี้แหละ แต่อย่าลืมแล้วกันว่าถ้ามีปัญหาอะไรน่ะ ให้บอกพี่ได้นะเว้ย ไม่ต้องเกรงใจ รับรองว่าพี่ไม่เอาไปบอกใครหรอก พี่เองก็รักอ้วนเหมือนน้องแท้ๆ พี่เหมือนกัน”

“ค้าบบบบ ขอบคุณครับ พี่ต้า”

“คราวหลังก็ระวังๆ หน่อยเว้ย อ้วน ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ไปถึงหูไอ้อาร์มขึ้นมาล่ะก็ มันอาจจะแย่ลงกว่านี้ก็ได้นา เกิดแม่เรารู้ขึ้นมาจะซวย และที่สำคัญ นี่ถ้าวันนี้ไอ้ด้ามันไม่ช่วยโกหกว่าเราไปเรียนกับมันปกติล่ะก็ ป่านนี้เราโดนแม่แหกอกไปแล้วนะ จะบอกให้”

“พี่ด้าเค้าบอกแม่เหรอ ว่ากัสไปเรียนน่ะ”

“ก็ใช่น่ะสิ ก็แม่เราเค้าก็โทรไปหาไอ้ด้าไง ว่านัดอ้วนออกจากบ้านไปเรียนเร็วขึ้นเหรอ แล้วจะกลับกี่โมง อ้วนเรียนเป็นไงบ้าง อะไรแบบนี้น่ะแหละ เพราะวันนี้เราไม่ได้รับสายแม่เค้าเลยนี่ ใช่ปะล่ะ”

“อืออออ กัสไปบ้านเพื่อนมาน่ะ ก็เลยไม่ได้รับ แต่แม่เค้าก็โทรหากัสแค่สองครั้งเองนะ”

“นั่นแหละๆ ไอ้ด้ามันก็แปลกใจเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ได้พูดอะไร มันก็เลยช่วยเออออไปให้ และพอบ่ายๆ เย็นๆ มันก็โทรมาถามพี่นี่แหละ ว่ารู้รึเปล่าว่าเราเป็นอะไร”

ผมนิ่งไป เพราะไม่รู้จะตอบอะไรกลับไปดี

“เอาเถอะๆ” พี่ต้าพูดต่อหลังจากที่เห็นว่าผมเงียบไป “งั้นแค่นี้ก็แล้วกันนะ ถ้ามีอะไรไม่พอใจเรื่องไอ้ด้าหรืออยากปรึกษาอะไรพี่ก็รีบบอก เข้าใจรึเปล่า อย่าปล่อยไว้นาน พี่เองก็ไม่อยากเห็นน้องพี่เครียดเหมือนกัน เดี๋ยวไม่มีสเตตัสเสี่ยวๆ ให้อ่านอีก รู้สึกจะหายไปหลายวันแล้วนี่ หึๆ”

ผมหน้าแดงขึ้นเล็กน้อยเพราะคำพูดสุดท้ายของเขา “โอเคๆ รับทราบแล้วคร้าบบบ ถ้ามีอะไรแล้วกัสจะรีบบอกพี่ก็แล้วกัน ขอบคุณมากนะครับ พี่ต้าาาาา”
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 7
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 13-08-2011 21:15:10
วันพุธเวียนผ่านมาถึงอีกครั้ง และครั้งนี้ผมก็กลับมาถึงบ้านไวกว่าพี่ๆ ทั้งสองคนเหมือนเดิม หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ ผมก็นั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่นรอเวลา และเมื่อผมได้ยินเสียงเครื่องยนต์จากรถของไอ้อาร์มเลี้ยวเข้ามาจอดที่โรงรถเรียบร้อยแล้ว ผมก็เริ่มรู้สึกกังวลว่าจะมองหน้าพี่ด้ายังไงขึ้นมาทันที

“พี่ด้า หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้พี่ด้าหลังจากที่เขาและไอ้อาร์มเดินเข้ามาในบ้านแล้ว

“เออดี มันไหว้เพื่อนกู แต่มันไม่เคยไหว้กูเลยสักครั้งเว้ย”

ผมไม่สนใจคำพูดของไอ้อาร์ม “เหนื่อยมั้ยพี่ หิวป่าว วันนี้จะกินข้าวก่อนเลยมั้ย แล้วค่อยเรียน หรือยังไงดี”

พี่ด้ายิ้มให้ผม “ไม่เหนื่อยเท่าไหร่หรอก ไม่เป็นไร ว่าแต่กัสเองเถอะ หิวรึยัง ถ้าหิวก็กินข้าวก่อนได้เลยนะ”

“ยังอะครับ กัสกินขนมไปตั้งเยอะแล้วเรียบร้อย ถ้างั้นอีกเดี๋ยวกัสจะไปนั่งรอในห้องก็แล้วกันนะ”

“ได้ครับ”

“ไอ้อ้วน มึงไปบอกใครให้เอาน้ำเย็นๆ กับขนมขึ้นไปให้กูสองคนบนห้องด้วย”

“มึงนี่มันคุณหนูจริงๆ เลยนะ ไอ้อาร์ม ไม่ทำเหี้ยอะไรเองสักอย่าง” ผมส่ายหน้าเบาๆ อย่างหงุดหงิด แต่ก็เดินไปจัดการให้มันตามที่มันขอ แล้วจากนั้นจึงเดินขึ้นไปนั่งรอพี่ด้าอยู่ในห้องของตัวเอง

ผมนั่งดูนั่นดูนี่ในคอมพิวเตอร์อย่างไร้จุดหมายอยู่ราวๆ สิบนาที พี่ด้าก็มาเคาะประตูที่ห้องของผม

“เข้ามาเลยครับพี่ ประตูไม่ได้ล็อค”

พี่ด้าเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับหนังสือและชีทอีกปึกหนึ่งในมือเหมือนอย่างเคย

“เป็นไงครับ พร้อมจะเรียนเลยรึยัง”

ผมมองหน้าพี่เขาแล้วนิ่งไปพักหนึ่ง “.....ไม่อะครับ กัสยังไม่พร้อมอะ”

“อ้าว” พี่ด้าทำหน้างงๆ

“กัสมีเรื่องอยากคุยกับพี่น่ะครับ แล้วก็.... อยากจะขอโทษพี่ด้วย”

พี่ด้าเดินมานั่งลงบนขอบเตียงแล้วมองหน้าผม ก่อนจะยิ้มออกมาน้อยๆ “ไม่เป็นไรครับ พี่เข้าใจ ไอ้ต้ามันบอกพี่แล้วล่ะ ว่ากัสกำลังทะเลาะกับเพื่อนอยู่ เลยอารมณ์ไม่ดี แล้วก็ไม่ค่อยอยากเรียน เรื่องธรรมดาครับ พี่ก็เคยเป็นเหมือนกัน”

“อืมมมม” ผมครุ่นคิด รู้สึกสับสนและกังวลว่าตัวเองควรจะพูดยังไงดี

“แล้วตอนนี้สบายใจขึ้นรึยังล่ะ พี่เห็นเราไม่สบายใจแล้วพี่ก็เครียดตามนา พี่อยากให้กัสร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนมากกว่านะครับ”เขายิ้มออกมาอีกครั้ง และคราวนี้มันก็ทำให้ผมแทบจะละลาย

“เอาเป็นว่า ก่อนอื่น กัสขอโทษพี่ก่อนละกัน ที่ไม่ตั้งใจเรียน แล้วก็ที่ทำให้พี่ต้องโกหกแม่เพื่อกัสอะ”

“หืออ ไอ้ต้ามันบอกกัสเรื่องนั้นด้วยเหรอ”

“ครับ ก็บอกอะ”

“โหหห นี่มันพูดอะไรไปมั่งวะเนี่ยยย”

“แล้วก็.... ไม่รู้ดิ นึกไรไม่ออกแล้วอะพี่”

“เอ้า นึกอะไรไม่ออกครับ”

“ก็นั่นอะดิ คือจู่ๆ ก็นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรแล้วอะ ช่างเหอะๆ มาๆ เรามาเรียนกันเลยก็แล้วกันครับ”

สรุปว่าคืนนั้นก็ผ่านพ้นไปพร้อมกับความรู้สึกที่ยังครึ่งๆ กลางๆ อยู่ แถมพอหลังจากเรียนเสร็จ เราก็ไม่ได้นั่งคุยกันต่อที่ห้องของผมเหมือนเดิมด้วย เพราะฉะนั้นถึงบรรยากาศระหว่างเราสองคนจะเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่ผมก็ยังไม่สามารถพูดว่าความรู้สึกของผมที่มีต่อพี่ด้านั้นกลับมาเป็นเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ได้

วันถัดมาเราเริ่มเรียนหนังสือกันตามปกติ แต่ผมกลับรู้สึกไม่ค่อยมีสมาธิเท่าใดนัก ผมไม่ได้อยากจะไม่ตั้งใจเรียนเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้อีกแล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อคืนผมก็นอนคิดมาตลอดแล้วว่าผมอยากจะคุยกับพี่ด้าให้มันรู้เรื่องมากกว่านี้สักหน่อย และพอมาในวันนี้ ใจของผมมันก็เลยรู้สึกสับสนและเป็นกังวลถึงแต่เรื่องที่ผมอยากจะคุยกับเขา จนทำให้ผมไม่ค่อยมีสมาธิเท่าใดนัก

“เป็นอะไรรึเปล่า กัส ทำไมดูเหม่อๆ ชอบกลอีกแล้ว”

“อะ.... อ๋ออ เปล่าครับพี่” ผมก้มลงมองดูดินสอกดที่ถืออยู่ในมือ

“เอาล่ะ ถ้างั้นวันนี้เราพอแค่นี้ก็ได้ครับ ยังไงก็จะหมดเวลาอยู่แล้วด้วย ถ้าเกิดกัสเหนื่อย เราพอก่อนก็ได้” พี่ด้าพูดพร้อมกับปิดหนังสือลง

“พี่ด้า พี่บอกว่าพี่เคยมีแฟนตอนสมัยม. ปลายแล้วเลิกกันไปตอนพี่มาเข้ามหาลัยที่นี่ใช่ปะครับ”

“อื้อ ใช่ครับ ทำไมเหรอ”

“แฟนคนแรกด้วยปะพี่”

“อืมม ใช่ครับ”

“แล้ว.... ตอนนั้นพี่รู้สึกยังไงเหรอ แบบว่า พี่รู้สึกยังไงอะ ถึงได้รู้ว่า ‘เนี่ย มันคือความรัก’ อะไรแบบเนี้ย แล้วก็ตอนคบกัน ใครบอกรักใครก่อนเหรอ พี่จีบเค้าก่อนเหรอ หรือยังไง”

“อืมมมม....” พี่ด้าทำหน้านึก “เอาแบบนี้ก่อนแล้วกัน คือพี่ก็ไม่รู้แบบเป๊ะๆ หรอกนะ ว่าพี่รู้ได้ยังไงว่ามันเรียกว่าความรัก เพราะพี่ก็คบกันตั้งแต่ม. 4 น่ะ ก็ยังเด็กอยู่เลย มาเลิกกันก็ตอนราวๆ ม. 6 เทอมหนึ่งได้ แต่ตอนอยู่ด้วยกัน มันมีความสุขน่ะครับ ก็รู้สึกเหมือนอยู่กับเพื่อนที่เราสนิทมากๆ นั่นแหละ เพียงแต่มันมีความห่วงใย ความหึงหวง เพิ่มเข้ามามากขึ้น อะไรแบบนั้นน่ะ แต่ที่จริงพี่ก็ไม่ใช่คนขี้หึงอะไรมากมายหรอกนะ”

“แล้วตอนนั้นพี่เริ่มชอบผู้หญิงคนนั้นก่อนเหรอครับ พี่เป็นคนบอกรักก่อน ไปจีบเค้าก่อน ไรงี้เหรอ แล้วพี่จีบเค้ายังไงอะ”

“หึๆ จริงๆ แล้วเค้ามาชอบพี่ก่อนน่ะ แล้วเพื่อนๆ มันยุ พี่ก็เลยคุย และเราก็คบกัน คือเค้าเป็นคนนิสัยดีนะ ร่าเริง มีน้ำใจ แล้วนอกจากนั้น อะไรหลายๆ อย่างมันก็เข้ากันได้ ที่จริงมันเริ่มต้นจากคำว่าเพื่อนน่ะครับ ก็เลยไม่มีว่าใครจีบใครก่อน อะไรแบบนั้นเลย”

“หืมมมม.....” ผมนั่งฟังอย่างตั้งใจ “แล้วทำไมพี่เลิกกันอะ”

“เรื่องนั้นพี่ขอไม่พูดถึงก็แล้วกันนะครับ” เขาตอบยิ้มๆ

“โอเค โทษทีพี่ กัสถามมากไปหน่อย”

“จริงๆ มันก็ไม่ใช่ความลับอะไรหรอก แต่เราเลิกกันไม่ค่อยดีน่ะครับ ทะเลาะกันแบบค้างคา มีปัญหาผิดใจกันเพราะเรื่องเพื่อน แล้วเรื่องมันก็เลยยาว ถ้าให้เล่า พี่คงต้องเล่าเยอะและยาวมาก ซึ่งพี่เองก็ไม่ค่อยอยากนึกถึงมันซะด้วย”

“ไม่เป็นไรครับ พี่ กัสไม่ได้ซีเรียส ถ้าพี่ไม่สบายใจ กัสก็ไม่อยากรู้หรอก”

“แล้วทำไมจู่ๆ มาถามพี่เรื่องพวกนี้ได้ล่ะ กำลังมีความรักอยู่รึเปล่า”

ผมอ้าปากจะตอบปฏิเสธ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ “.....ไม่รู้ดิพี่ บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ก็คงพอจะเรียกว่า ‘ความรัก’ ได้เหมือนกันล่ะมั้ง”

“อ้าว ไหงงั้นล่ะ”

“ถ้าเกิดว่าการที่กัสได้อยู่กับเค้าแล้วกัสมีความสุข รู้สึกดีที่ได้อยู่ด้วย รู้สึกเหงาและคิดถึงเวลาไม่ได้เจอหน้า รู้สึกอยากคุย อยากส่งเมสเสจหา อยากจูงมือ อยากหอมแก้ม แต่กัสไม่กล้าทำแบบนั้น แล้วก็รู้สึกเสียใจเมื่อเห็นเค้าเดินกับคนอื่น รู้สึกน้อยใจเวลาเค้าโกหก แบบนี้เนี่ย มันจะเรียกว่ากัสกำลังมีความรักได้รึเปล่าล่ะครับ”

พี่ด้ามองหน้าผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าออกมาเบาๆ “อืมมม.... พี่ว่ามันก็คงเป็นความรักล่ะมั้ง กัสคงรู้สึกชอบคนๆ นั้นมากเลยนะเนี่ย”

“มากๆ ครับพี่” ผมพูดเสียงเข้ม “แต่กัสไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครนะ กัสก็กลัวว่ามันจะไม่ใช่ความรัก และกลัวว่ากัสจะต้องเสียใจด้วยนี่ดิ”

“ความรู้สึกอยากมีความรัก อยากได้คนๆ นึงมาเป็นแฟน กัสต้องไม่กลัวที่จะเจ็บ ต้องไม่กลัวผิดหวังดิ พี่ว่านะ”

“อืมมมมม” ผมนิ่วหน้า

“แต่พี่ว่ากัสปรึกษาเรื่องพวกนี้กับไอ้อาร์มมันจะดีกว่านะ พี่ว่ามันเชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิงกว่าพี่เยอะเลยว่ะ” พี่ด้าหัวเราะเบาๆ

“โอ๊ยยยยย ไม่มีทางหรอกพี่ ที่กัสจะคุยเรื่องพวกนี้กับมันน่ะ”

“แล้วสรุป ไปหลงรักสาวสวยที่ไหนเข้าล่ะเรา หืมมม”

“ไม่สวยหรอกพี่” ผมตอบแบบเซ็งๆ นี่ตกลงพี่เขาจะไม่รู้ตัวให้ได้เลยใช่มั้ยเนี่ย ว่าผมกำลังหมายถึงเขาอยู่น่ะ

“เอาเถอะ ถ้าไงพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ เจอกันอีกทีตอนเช้าแล้วกันนะครับ” พี่ด้าลุกขึ้นยืน

“โอเคครับ พี่”

ผมมองดูพี่ด้าเดินออกจากห้องไป และเมื่อประตูถูกปิดลง ผมก็เดินไปล้มตัวนอนลงบนเตียงแล้วถอนหายใจแรงๆ ด้วยความเซ็งและเหนื่อยอ่อน

“แม่งเอ๊ยยยยย!! ทีเรื่องเรียนเรื่องสอนล่ะเก่งนัก แต่เรื่องอ่านความรู้สึกคนอื่นนี่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ใช่มั้ยวะ!!”
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 7
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 13-08-2011 21:20:32
เวลาผ่านไปอีกสัปดาห์กว่าๆ และจนถึงตอนนี้ ผมก็ยังคงไม่รู้อยู่ดีว่าผู้หญิงคนที่ผมเห็นเดินอยู่กับพี่ด้าในตอนนั้นคือใคร เพราะเมื่อผมถามเขาว่าตกลงเขากำลังดูใจกับใครอยู่หรือเปล่า คำตอบก็คือ “ไม่มี” เหมือนเดิม

ที่จริงผมก็พยายามมองอะไรในแง่ดีขึ้นเยอะมากแล้วนะ ผมพยายามจะไม่อคติ และพยายามจะคิดให้ได้ว่าพี่เขาอยากจะไปไหนทำอะไรกับใครมันก็เรื่องของเขา เราไม่ได้เป็นแฟนกัน และพี่เขาก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย ไม่ได้คิดสนใจอะไรในตัวผมเลย แต่ถึงอย่างไรก็มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าผมจะพยายามมากขนาดไหน ผมก็ไม่เคยเข้าใจได้เลยแม้แต่นิดเดียว นั่นคือ พี่เขาจะโกหกผมว่าเขาอยู่สยาม แถมยังโกหกว่าไม่ได้ไปกับผู้หญิงทำไม

“โอเค งั้นวันนี้เราพอแค่นี้ก่อนแล้วกันนะครับ” พี่ด้าพูดพร้อมกับปิดหนังสือลง “สองชั่วโมงกว่าแล้ว แถมวันนี้เรื่องยากด้วย คงจะเหนื่อยแล้วล่ะสิ”

ผมถอนหายใจพร้อมกับเอนหลังบิดขี้เกียจ “เฮ้อออออ....”

“เป็นไง ไหวมั้ย”

ผมบิดคอไปมา “ก็ไหวอะพี่ ยังไม่ถึงตาย แค่เกือบๆ”

พี่ด้าหัวเราะเบาๆ “หิวข้าวรึเปล่า ไปหาอะไรกินด้วยกันก่อนกลับบ้านมั้ย พี่เลี้ยงเอง”

ผมดีดตัวขึ้นนั่งหลังตรงทันที “พี่ด้าจะเลี้ยงน้องกัสเหรอ งั้นไป!”

“งั้นไปไหนดีล่ะ ไปเดินเล่นสยามกันมั้ย”

“ไปครับ ไปหมดทุกที่แหละ” ผมยิ้มกว้าง

“โอเค งั้นขอเวลาพี่เปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บนึง” พี่ด้าลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าออก

ผมลุกออกจากเก้าอี้ของตัวเองแล้วล้มตัวนอนลงบนเตียงของเขา ซึ่งเขาก็ไม่ว่าอะไรผมสักคำ แถมยังหันมามองหน้าผมแล้วยิ้มๆ เป็นเชิงอนุญาตอีกด้วย

“เตียงพี่นอนสบายดีเนอะ” ผมพูดพร้อมกับกลิ้งตัวไปมา

“เหรอ ไม่รู้ดิ พี่เฉยๆ อะ แต่ระวังเหอะ กลิ้งไปกลิ้งมาแบบนั้น นอนสบายมากๆ ระวังจะหลับเอานะเว้ย”

“ปลุกด้วยก็แล้วกันนะ ถ้างั้นอะ” ผมหลับตา

“พี่ไม่แต่งตัวนานขนาดนั้นหรอกน่า” เขาพูดทิ้งท้ายไว้พร้อมกับหัวเราะหึๆ ในลำคอเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป

หลังจากที่ผมได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดลง ผมก็หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดเล่นเรื่อยเปื่อยสักพัก ก่อนที่จะต้องดีดตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ ก็มีคนมาเคาะลงบนประตูห้องของพี่ด้า

“พี่ด้า! มีคนมาอะ”

“หือออ ใครวะ กัสเปิดให้พี่หน่อยครับ แล้วบอกไปว่าพี่เข้าห้องน้ำอยู่”

ผมเดินไปเปิดประตูห้องออก แล้วก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งดูมีท่าทางตกใจเมื่อเธอเห็นว่าคนที่มาเปิดประตูห้องรับเธอนั้นไม่ใช่เจ้าของห้องอย่างที่เธอคิด

“พี่ด้าเข้าห้องน้ำอยู่น่ะครับ” ผมพูด

“อะ อ๋ออ ค่ะ ถ้าไงฝากบอกด้วยนะคะ ว่าแก้วเอาหนังสือมาคืนให้แล้ว ขอบคุณมาก” เธอยื่นถุงใส่หนังสือเรียนเล่มใหญ่เล่มหนึ่ง กับหนังสือที่น่าจะเป็นนิยายอะไรสักอย่างอีกเล่มให้ผม “แล้วก็.... แก้วซื้อขนมที่พี่ด้าชอบมาให้เป็นการขอบคุณด้วย นี่ค่ะ”

ผมรับถุงขนมอีกถุงมาถือไว้ในมือ “ครับ ได้ครับ”

“ขอบคุณมากนะคะ”

“ครับ” ผมตอบรับอีกครั้งก่อนจะปิดประตูลง

ผมเดินเอาถุงหนังสือมาวางลงบนเตียง แล้วก็ลองเปิดดูว่าผู้หญิงคนเมื่อกี้ซื้อขนมอะไรมาให้พี่ด้า ผมจึงพบว่ามันคือคุ้กกี้ช็อคโกแล็ตกับพายกรอบจากร้านที่ผมไม่รู้จักชื่อ

“พี่ด้าครับ คนที่ชื่อแก้วเอาหนังสือมาคืน แล้วก็ฝากบอกขอบคุณพี่ด้วยครับ”

“อ๋อออ.... ครับ”

“ใครเหรอพี่”

“รุ่นน้องที่มหาลัยน่ะครับ ห้องน้องเค้าก็อยู่ชั้นล่างนี่แหละ”

“อืมมม ครับ เค้าฝากขนมมาให้ด้วยนะ”

“ขนมเหรอ ขนมอะไรอะ”

“เค้าบอกว่าเป็นขนมที่พี่ชอบน่ะ เค้าเอามาให้เป็นการขอบคุณ”

เมื่อผมพูดจบ พี่ด้าก็เปิดประตูห้องน้ำออกพอดี เขาเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อโปโลสีครีม และกางเกงยีนส์ขาเดฟสีเทาอ่อน

“คุ้กกี้กับพายกรอบน่ะครับ” ผมยื่นถุงขนมให้พี่ด้า “กัสเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพี่ชอบคุ้กกี้ช็อคโกแล็ตกับพายกรอบอะ”
พี่ด้าไม่ได้ตอบอะไร แต่แค่ยิ้มๆ แล้วก็รับขนมถุงนั้นไปวางไว้บนหลังตู้เย็น

“พี่เค้าก็หน้าตาน่ารักดีนะพี่”

“กัสชอบเหรอ”

“โอ๊ยยยยย กัสไม่สนผู้หญิงแก่กว่าหรอกพี่ ก็แค่พูดเฉยๆ แค่นั้นเองเหอะ และที่สำคัญ กัสไม่แย่งพี่หรอกน่าาาา”

“เฮ้ยย แย่งอะไร”

“อ้าว พี่แก้วอะไรนั่นไม่ใช่เด็กพี่เหรอ”

“บ้าแล้ววว แค่รุ่นน้องเฉยๆ เองเว้ย”

“อ้าวว แต่กัสว่าเค้าน่าจะคิดอะไรกับพี่รึเปล่า ไม่งั้นเค้าคงไม่ซื้อขนมอะไรมาให้แบบนี้หรอกม้างง”

“เรื่องนั้นพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” พี่ด้ายิ้มอายๆ ถึงปากจะพูดว่าไม่รู้ แต่สีหน้าของเขามันบอกอย่างชัดเจนเลยล่ะว่าเขารู้ดีอยู่แก่ใจว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังคิดอย่างไรกับเขาอยู่

“พี่ต้ากับไอ้อาร์มก็เคยบอกว่าพี่อะ มีคนมาชอบเยอะแยะเต็มไปหมด จริงอ๊ะป่าว”

“อย่าไปเชื่อพวกแม่งงง กัส พวกมันก็เวอร์ไปงั้นแหละ ไม่ได้เยอะแยะอะไรขนาดนั้นหรอก คนอย่างพี่ใครมันจะมาชอบจริงๆ จังๆ”

คนๆ นั้นก็อยู่ตรงหน้าพี่แล้วนี่ไงคนนึง ทำไมพี่ถึงไม่รู้ตัวสักทีล่ะ

“อ้าว ทำไมพี่พูดงั้นอะ”

“โถ่ ถ้าพี่มีคนมาชอบเยอะแยะขนาดนั้น ตัวเลือกพี่มันก็คงเยอะใช่มะ แล้วพี่จะโสดอยู่อย่างนี้รึไง”

“อ้าววว แต่ไอ้อาร์มมันเคยบอกว่าพี่ไม่ได้สนใจจะมีใครเองไม่ใช่เหรอ พี่พูดแบบนี้ก็เหมือนพี่เองก็อยากมีอะดิ”

“ก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากมีเลย แล้วก็ใช่ว่าพี่อยากจะมีอะไรมากมายขนาดนั้นด้วยเหมือนกัน คือ.... พี่ว่าพี่ดูคนออกน่ะครับ ว่าคนไหนที่จริงจังจริงใจกับพี่บ้าง และเท่าที่ผ่านมา พี่ก็ยังไม่เจอคนที่จะชอบพี่จริงๆ และพี่ก็รู้สึกชอบเค้าด้วยเลยน่ะสิ.....” พี่ด้ามองหน้าผม “หรือต่อให้ถ้าตอนนี้พี่เจอแล้ว แต่ถ้าเค้าคนนั้นไม่พูดออกมาก่อน พี่ก็ไม่กล้าเริ่มเหมือนกันนั่นแหละ เห็นพี่เป็นแบบนี้ พี่แสดงออกไม่เก่งนะเว้ยย พี่ขี้อายนา จะบอกให้”

“อะคร้าบบบ โอเคๆ พ่อคนขี้อายยยยย” ผมทำเสียงล้อเลียน แต่พี่ด้าก็กำลังหน้าแดงอยู่จริงๆ “อะไรๆ แค่นี้ก็เขินซะแล้ววว”

“พอเลย! ปากดีจริงๆ นะเราเนี่ย” พี่ด้าเดินเข้ามาตบบ่าผมเบาๆ “ไปกันเถอะครับ ไปเดินเล่นหาอะไรกินกัน แต่อย่าลืมโทรบอกแม่ซะก่อนล่ะ”

ผมยิ้มกว้าง “โอเคคร้าบบ”

นี่เป็นแค่ครั้งที่สองเท่านั้นที่ผมได้เดินเล่น ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับพี่ด้านอกเหนือไปจากห้องนอนของผม ห้องของเขา และกองชีทกับกองหนังสือตรงหน้าในเวลาสองเดือนกว่าสามเดือนที่เรารู้จักกันมา

ที่จริงผมคงจะรู้สึกมีความสุขกับ “การเดทแบบคิดไปเองคนเดียว” ครั้งนี้ของเรามากกว่านี้นะ ถ้าหากว่าเราไม่ได้ไปเจอคนรู้จักของพี่เขาถึงสามครั้ง และมันจะไม่ทำให้ผมรู้สึกอะไรเลยถ้าหากสองในสามครั้งนั้นจะไม่ใช่พวกรุ่นน้องที่เข้ามาทักทายพี่ด้าด้วยความกระดี๊กระด๊าอย่างออกนอกหน้า และหนึ่งในสองครั้งนั้นก็ยังเป็นเกย์ออกสาวสองคนที่มาจีบปากจีบคอกับพี่ด้าอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย

หึงเว้ย!!

“พี่นี่คนรู้จักเยอะแฟนคลับเยอะจริงๆ ด้วยนะเนี่ย”

“เฮ้ยย บ้าเหรออ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก พวกนี้ก็พวกรุ่นน้องที่คณะที่พี่เคยติวให้ อะไรแบบนั้นน่ะ”

“แล้วไอ้อาร์มมันคนรู้จักเยอะแบบนี้มั้ยเนี่ย”

“เยอะๆ มันก็คนรู้จักเยอะเหมือนกัน แต่พี่เนี่ย คือ.... ฮะๆ ตอนปีหนึ่งพี่เคยทำกิจกรรมไง ปีนี้พี่ก็ไปคุมไปดูแลน้องด้วย คนก็เลยรู้จักเยอะหน่อย”

“ปีที่แล้วพี่ทำไรอะ”

พี่ด้ายิ้มอายๆ “พี่ประกวดเดือนของคณะน่ะครับ แล้วก็ไปประกวดของมหาลัยด้วย แต่ไม่ได้หรอกนะ ไม่ต้องคิดอะไรไกลขนาดนั้น”

“โหๆๆ สมแล้วจริงๆ” ผมพยักหน้าหงึกๆ

“สมแล้วอะไร”

“อ้าวว ก็พี่น่ารักออกขนาดนี้ ได้เป็นเดือนคณะก็ไม่น่าแปลกใจอยู่แล้ว แต่ที่ไม่ได้เดือนมหาลัยเนี่ย สงสัยเพราะส่วนสูงไม่ถึงล่ะม้างงง”

“เดี๋ยวเหอะ! เดี๋ยวจะโดน!” พี่ด้าหัวเราะ

“อ๊ะ แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้ามีประกวด ‘เดือนไซส์มินิ’ แบบเป็นขนาดพกพาอะไรแบบเนี้ย พี่คงได้เข้าชิงแน่ๆ อะ กัสว่า”

“เอออออ ใครมันจะไปหล่อรวยสูงยาวเข่าดีเหมือนเราล่ะ คุณออกัสสส!”

“อ๊ะแน่นอน” ผมยักไหล่ “แต่ถ้าสมมติกัสมีแฟนแบบพี่นะ กัสคงต้องหึงตายแน่ๆ เลยว่ะ” ผมลองปล่อยหมัดแย๊บออกไปอีกหนึ่งหมัด “แบบว่า แฟนเป็นดาวเป็นเดือนของคณะ หน้าตาดี เรียนเก่ง มีคนรู้จักเยอะ มีคนชอบแยะ อะไรแบบเนี้ย โหยยยย แค่คิดก็หึงๆๆๆ แล้ว!!”

“โอ๊ยยย พี่ไม่น่าหึงหรอกครับ เพราะพี่ไม่ใช่คนที่จะคุยอะไรกับใครแบบนั้นอยู่แล้วด้วย ปกติถ้าใครเข้ามาใกล้พี่มากๆ แล้วพี่ไม่ได้คิดอะไรกับเค้านะ พี่ก็จะถอยห่างออกไปทุกทีแหละ”

ผมนึกถึงผู้หญิงคนนั้นที่พี่ด้าเคยปล่อยให้เดินควงแขนกลางจตุจักรแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า แปลว่าที่พี่ด้ายอมให้เธอคนนั้นใกล้ชิดได้ขนาดนี้ ก็แปลว่าเขามีใจให้ด้วยอย่างนั้นสินะ

ที่จริงหากผมจะยอมรับว่าผมกำลังรู้สึกอึดอัดกับความรู้สึกนี้มากอย่างที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะทุกๆ วัน ผมเอาแต่นึกถึงเรื่องของพี่ด้า และผมก็ไม่มีคนคอยให้คำปรึกษาได้เลยนอกจากไอ้เมษกับไอ้ตุลย์แค่สองคน เนื่องจากพวกมันเป็นเพื่อนที่สนิทกับผมมากที่สุด และก็เป็นคนเพียงกลุ่มเดียวที่รู้ว่าผมชอบผู้ชาย แต่ว่ามันสองคนที่ถึงแม้จะรักและห่วงใยผมมาก ก็ไม่ใช่คนที่ให้คำปรึกษาอะไรใครได้ดีสักเท่าไหร่ อย่างเช่นไอ้เมษที่เป็นประเภทขาดความกล้าแต่ปากดีและใจร้อน ส่วนไอ้ตุลย์ก็ออกแนวขี้อายปากหนักไปเลยอีก ดังนั้นจะเรียกว่าที่ผ่านๆ มามันอยู่คอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษาผมก็ไม่ถูกนัก ผมคิดว่าสิ่งที่พวกมันทำให้ได้มากที่สุดก็คือรับฟังผมบ่นและระบายความในใจออกไปบ้างเท่านั้นเอง
ผมเริ่มจะรู้สึกอึดอัดกับการที่ไปหลงชอบใครแล้วเขาไม่รู้ตัวเลยแบบนี้ขึ้นมาอีกครั้ง และนอกจากนั้น ผมก็ยังรู้สึกอึดอัดกับการที่ไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นเกย์แบบนี้ด้วยเหมือนกัน อย่างน้อยๆ ถ้าคนที่สามารถให้คำปรึกษาผมได้มาตลอดอย่างพี่ต้ารู้ เรื่องมันก็คงจะง่ายกว่านี้เยอะ และผมก็คงจะสามารถปรึกษาปัญหาเหล่านี้กับพี่เขาได้ไม่มากก็น้อยล่ะนะ

นั่นน่ะสิ... ตกลงว่านี่ผมจะมัวรออะไรอยู่ ในเมื่อปกติผมก็เป็นคนที่มักจะพูดสิ่งที่ตัวเองคิดและรู้สึกกับคนที่ผมไว้วางใจออกไปตรงๆ ตลอดอยู่แล้ว และพี่ต้าเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ผมรู้สึกไว้ใจมากที่สุดด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น ทางแก้ปัญหามันก็มีอยู่ตรงหน้าผมมาตั้งนานแล้วนี่ไง เพียงแต่ผมไม่เคยที่จะคิดถึงมันเองเลยต่างหาก
เมื่อคิดได้ดังนั้น ผมจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์ของพี่ต้าทันที

“ว่าไง อ้วน” พี่ต้ารับสายอย่างอารมณ์ดี

“พี่ต้า กัสมีเรื่องอยากบอกแล้วก็อยากปรึกษาพี่หน่อยอะ”

“ว่าไงๆ” พี่เขาตอบกลับมาเหมือนกำลังกินขนมอะไรบางอย่างอยู่ไปด้วย

“พี่จำไอ้เมษกับไอ้ตุลย์ได้ใช่ปะ”

“ได้ๆ ทำไมเหรอ”

“พี่ดูออกมะว่ามันสองคนเป็นแฟนกัน”

เขาอึ้งไปเล็กน้อย “....เหอะ เหออ ก็ไม่ออกนะ น้องสองคนมันเป็นแฟนกันเหรอ”

“อื้ออ จริงๆ ก็เพิ่งคบกันได้ไม่นานน่ะนะ”

“อ๋อออ เออๆ แล้วไงอะ แล้วมันยังไงเรอะ อ้วนกำลังไม่สบายใจเรื่องเพื่อนสองคนนี้อยู่เหรอ”

“เปล่า ไม่ใช่เลยครับ”

“อ้าว แล้วเรื่องอะไรอะ สองคนนั้นมันเกี่ยวอะไร ถ้าอย่างนั้น.....”

“ก็ไม่เกี่ยวหรอก แค่จะถามว่าพี่ดูออกมั้ยว่ามันสองคนเป็นเกย์ แล้ว..... พี่ดูออกมั้ย ว่ากัสก็เป็นเหมือนกัน”

ผมได้ยินเสียงพี่ต้าสำลักขนมที่ตัวเองกำลังกินอยู่ทันที

“โขลก!! ค่อกก!”

“เอ้าๆ ใจเย็นพี่”

“แค่กๆ!! เดี๋ยว....! เดี๋ยวนะ พี่ขอกินน้ำแป๊บ.....”

ผมนั่งรอพี่ต้าดื่มน้ำจนเสร็จ

“ฮัลโหล”

“ครับพี่”

“เอออ ค่อยยังชั่ว แต่.... เมื่อกี้อ้วนว่าไงนะ”

“ป๊าววว ไม่มีอารายย กัสก็แค่อยากรู้ไง ว่าพี่ดูออกมั้ยว่ากัสเป็นเกย์รึเปล่า”

“อ้วนชอบผู้ชายเหรอ”

“อือออ ใช่พี่”

“แน่ใจนะ” เขาถามย้ำ

“พี่จะบ้าเร้ออออ! ของแบบนี้มันจะไม่แน่ใจได้ด้วยเหรอ และถ้าไม่แน่ใจ กัสจะกล้าเอามาบอกพี่แบบนี้รึไงเล่า”

“อ่าาาา.... โอเคๆ โทษทีๆ” พี่ต้ากระแอมเบาๆ “ไม่นะ พี่ดูไม่ออกอะ และพี่ว่าคนอื่นก็คงดูไม่ออกเหมือนกันนั่นแหละว่ะ”

“ก็นั่นอะดิ เพราะงั้นเมื่อกี้พี่ถึงได้ตกใจขนาดนั้นใช่มะ”

“เปล่า พี่ไม่ได้ตกใจที่อ้วนเป็นเกย์”

“อ้าว!”

“พี่ตกใจที่จู่ๆ อ้วนก็พูดเรื่องนี้ออกมาต่างหาก คือ พี่อะ ดูไม่ออกหรอกว่าอ้วนเป็นเกย์ เพราะอ้วนก็ไม่ได้แสดงออกนี่ แต่ถ้าอ้วนบอกว่าอ้วนเป็น พี่ว่าพี่ก็ไม่แปลกใจอะวะ อะไรประมาณเนี้ย งงมะ”

“อ้าววว มันหมายความว่ายังไงวะพี่ งงว่ะครับ”

“เดี๋ยวไว้ค่อยว่ากัน เอาเป็นว่า ที่จู่ๆ อ้วนมาคุยเรื่องนี้กับพี่เนี่ย แปลกว่าอ้วนกำลังมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ใช่มั้ยล่ะ พี่ว่าเราคุยเรื่องนั้นกันก่อนดีกว่า”

“พี่ไม่ได้รังเกียจที่กัสเป็นแบบนี้ใช่ปะ”

“เฮ้ย!! พี่จะรังเกียจได้ไง พี่ไม่คิดแบบนั้นหรอกน่า ของแบบนี้มันเรื่องธรรมดาเหอะ แถมกัสเองก็น้องชายพี่ และที่สำคัญ พี่เองก็เป็นเหมือนกันนั่นแหละ”

คราวนี้ถึงคราวของผมที่ต้องตกใจบ้างแล้ว “ห๊าาาา!! พี่พูดเล่นรึเปล่าเนี่ย!!”

พี่ต้าหัวเราะในลำคอเบาๆ “เปล่า พี่จะล้อเล่นทำไม เรื่องนี้ไอ้อาร์ม ไอ้ด้า เพื่อนๆ พี่คนอื่นในกลุ่มมันก็รู้”

“ไอ้อาร์มก็รู้เหรอ!”

“ใช่ แต่ก็แค่คนในกลุ่มนะ พี่ไม่ได้บอกทุกคนหรอก อย่างกับอ้วนเองพี่ก็ยังไม่เคยบอก เห็นปะล่ะ”

“กัสเองก็มีแค่ไอ้เมษกับไอ้ตุลย์ที่รู้แค่สองคนเหมือนกัน..... เออ แต่พูดถึงชื่อไอ้อาร์มขึ้นมา พี่อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกมันหรือบอกใครนะพี่ กัสยังไม่พร้อมอะ”

“อืมม พี่เข้าใจๆ เอ้า สรุปว่ากำลังไม่สบายใจเรื่องอะไร แค่รู้สึกอึดอัด หรือว่าไปรู้สึกชอบใครเข้าล่ะ”

“ทั้งสองอย่างแหละพี่.... แต่พี่อย่าเอาไปบอกใครนะ กัสไว้ใจพี่มากๆ เลยนะเนี่ย”

“พี่รู้น่า อ้วนไว้ใจพี่ใช่มั้ยล่ะครับ”

“ครับ คือออ.... กัสว่ากัสรู้สึกชอบพี่ด้าอะ”

“อ่าฮะ”

“หือออ....” ผมนิ่วหน้าให้กับปฏิกิริยาที่ผมได้รับตอบกลับมาจากที่ต้า ทำไมมันถึงได้ดูเรียบง่ายและปกติขนาดนี้ล่ะเนี่ย “ทำไมพี่ทำเสียงเหมือนพี่ไม่แปลกใจเลยอะ”

“ก็ไม่แปลกใจน่ะสิ พี่คิดว่าพี่รู้อยู่แล้วเหอะ ยิ่งพออ้วนโทรมาบอกว่าอ้วนชอบผู้ชายแบบนี้ พี่ก็ยิ่งมั่นใจเข้าไปใหญ่ว่าอ้วนต้องกำลังชอบไอ้ด้ามันจริงๆ แน่ๆ”

“เฮ้ยยย! พี่รู้ได้ไง”

“ไอ้อ้วนนนน พี่เพิ่งบอกเราไปเองนะว่าพี่ก็ชอบผู้ชายเหมือนกัน ไอ้ความรู้สึกแบบที่อ้วนกำลังรู้สึกน่ะ พี่ผ่านมาหมดแล้วเหอะ และที่ผ่านๆ มา พอไอ้ด้ามันเล่าเรื่องอ้วนแบบนั้นแบบนี้ให้พี่ฟัง พี่ก็มีคิดๆ อยู่บ้างนั่นแหละว่า ‘น้องมันกำลังชอบเพื่อนกูอยู่รึเปล่าวะ’ อะไรแบบเนี้ย”

“เรื่องอะไรมั่งวะพี่ พี่ด้าเค้าเล่าอะไรให้พี่ฟังมั่ง”

“โอ๊ยยยย เอาชัดๆ เลยก็อย่างเรื่องที่อ้วนดูเหมือนจะโกรธๆ มันนั่นแหละ พอเอามารวมๆ เข้ากับทั้งสเตตัสในเฟซบุ๊ค ชื่อเอ็ม แล้วไหนจะยังเมสเสจที่เราขยันส่งหามันบ่อยๆ กับขนงขนมที่ซื้อไปให้มันกินอีกอะ”

ผมชักรู้สึกเขินขึ้นมาเล็กๆ แฮะ นี่ผมแสดงออกชัดเจนขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย และนี่ขนาดพี่ต้ายังไม่รู้นะว่าผมเคยใช้ไอ้แผนวับๆ แวมๆ นั่นไปอีกแล้วด้วยน่ะ

“แล้วพี่ด้าเค้าเป็นเกย์มั้ยอะพี่”

“เอาจริงๆ นะ อันนี้พี่ก็ไม่รู้ว่ะ พี่เองก็เคยสงสัยมานานแล้วเหมือนกัน”

“เนี่ยแหละ ปัญหาใหญ่เลยพี่ แถมอีกเรื่องนะ นี่ขนาดพี่ต้ายังดูออกว่ากัสชอบเค้า ทำไมเค้าไม่เห็นจะดูออกเลยสักนิดอะวะ กัสเริ่มเครียดแล้วนะเนี่ย”

“อ้าว ใช้คำว่าเครียดเลยเหรอ ทำไมอะ เกิดอะไรขึ้น”

“ก็เครียดเพราะกัสไม่รู้ว่าพี่ด้ากำลังคิดอะไรของเค้าอยู่กันแน่น่ะสิพี่ บางทีก็ดูเหมือนรู้ แต่ส่วนมากก็จะดูเหมือนไม่รู้อะ แล้วอีกอย่าง ตอนนั้นกัสเองก็....”

“ก็อะไรวะ อ้วน”

ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเล่าเรื่องที่ผมเจอพี่ด้าเดินควงแขนกับผู้หญิงคนนั้นที่จตุจักรให้เขาฟัง รวมทั้งเรื่องที่เขาโกหกผมว่าเขาอยู่สยามกับเพื่อนผู้ชายพวกนั้นทั้งหมดอีกด้วย

“อืมมมม.....” พี่ต้าทำเสียงในลำคอเบาๆ หลังจากที่ฟังผมพูดจนจบ “นี่คือเหตุผลที่อ้วนไม่ตั้งใจเรียนตอนนั้นใช่มั้ย”

“ก็..... ใช่อะครับ” ผมยอมรับ

“ว่าแต่อ้วนจำหน้าผู้หญิงคนนั้นได้รึเปล่าว่าเป็นยังไง”

“โหยยย จำไม่ได้ขนาดนั้นหรอกพี่ แต่ถ้าเห็นก็คงจำได้อะ แค่คุ้นๆ แต่อธิบายรายละเอียดไม่ถูกหรอก”

“คือเรื่องนี้พี่ว่ามันก็พูดยากนะ อ้วน พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันต้องโกหกเรานะ แต่ถ้าจะให้ดี พี่ว่าอ้วนคุยกับมันตรงๆ เลยดีกว่ามั้ย หรือจะให้พี่ไปคุยให้”

“คุยตรงๆ ยังไงพี่ จะให้กัสไปบอกพี่เค้าเอาตอนนี้น่ะเหรอว่า ‘พี่ด้า ที่จริงเมื่อเดือนก่อนอะ กัสรู้นะว่าพี่โกหกกัสและไปเดินเจเจกับผู้หญิงคนนึง เพราะกัสเห็นพี่ด้วยตาของกัสเองเลยนะ’ แบบเนี้ยอะเหรอ คือเรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วนะพี่ มันจะไปพูดได้ยังไง และที่สำคัญ กัสจะมีเหตุผลอะไรที่จู่ๆ ถึงจะยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอะ”

“อ้วนเคยคิดอยากจะสารภาพกับมันรึเปล่าล่ะ”

“เคยครับพี่ เคยจริงๆ” ผมยอมรับตรงๆ “แต่มันก็พูดไม่ออกอะ เพราะแม่งดูไม่มีหวังเลย และกัสกลัวด้วยว่าถ้าเกิดพี่เค้ารู้ขึ้นมาแล้วพี่เค้าจะรับไม่ได้ จะถอยห่างจากกัสไป อะไรแบบนี้น่ะ”

“แล้วอ้วนจะให้พี่ทำไง ให้พี่ลองคุยกับไอ้ด้าให้ดีมั้ยล่ะ”

“โหหห ไม่ต้องหรอกพี่ พี่จะไปคุยยังไงอะ พี่รู้จักกันมาปีกว่า พี่ยังไม่รู้เลยว่าพี่ด้าเค้าชอบผู้ชายรึเปล่า แล้วจู่ๆ ตอนนี้ไปพูดเรื่องนี้มันก็แปลกแย่อะดิ”

“ไอ้เรื่องนั้นมันก็จริง แต่พี่ว่ามันก็น่าจะมีทางที่พี่ช่วยเราได้บ้างดิ ใช่มะ พี่เห็นน้องพี่ไม่ค่อยสบายใจแบบนี้ พี่ก็พลอยเครียดตามไปด้วยนา”

“ไม่เป็นไรหรอกพี่ กัสแค่อยากให้พี่รู้ไว้น่ะครับ กัสจะได้มีเพื่อนไว้คอยรับฟังและให้คำปรึกษาได้อีกคนนึง เพราะบางทีกัสก็แค่อึดอัดน่ะ พวกไอ้เมษมันก็ไม่ได้รู้จักกับพี่ด้าเหมือนอย่างพี่ไง”

“พี่เข้าใจ แต่เอาเป็นว่าพี่จะลองหาวิธีคุยแย็บๆ กับไอ้ด้ามันดูให้ด้วยก็แล้วกัน แต่มีอยู่สองเรื่องที่พี่อยากจะบอกอ้วนไว้ให้อ้วนสบายใจขึ้นนะ เรื่องแรกเลยคือ ไอ้ด้าน่ะ มันไม่ใช่คนเจ้าชู้ที่จะเดินควงคนนั้นคนนี้ได้ง่ายๆ จริงๆ มันอาจจะเป็นคนขี้เกรงใจ แต่มันไม่ใช่คนที่ฉวยโอกาสจากผู้หญิงหรือใครคนไหนอย่างแน่นอน ส่วนอีกเรื่อง อ้วนไม่ต้องกังวลเลยว่าถ้าเกิดไอ้ด้ารู้ว่าเราไปชอบมันแล้วมันจะรู้สึกอึดอัดหรือตีตัวออกห่างไปน่ะ เพราะการที่พี่ยังเป็นเพื่อนสนิทกับมันอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์อันนึงแล้วไม่ใช่รึไง”

“ฮะ! พี่เคยชอบพี่ด้าเหมือนกันงั้นเหรอ!” ผมตกใจ

“เปล่าๆ พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่พี่เองก็เป็นเกย์ไง พี่ไม่เห็นมันจะมีท่าทีรังเกียจหรืออะไรพี่เลยแม้แต่นิดเดียวนะ ตั้งแต่แรกเลยด้วย และมันเองก็มีทั้งเพื่อน ทั้งรุ่นพี่ผู้ชายเข้ามาจีบอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่มันก็ไม่เคยบอกว่ารังเกียจคนพวกนั้นหรืออะไรสักครั้งเลยนะเว้ย เว้นแต่มันจะวางตัวต่างออกไปหน่อยเท่านั้นเอง”

“คือยังไงพี่”

“ไม่รู้สิ ประมาณว่ารักษาระยะห่างเอาไว้จนกระทั่งคนพวกนั้นต่างก็ถอดใจกันไปเองน่ะ”

ก็นั่นแหละ คือสิ่งที่ผมกลัวที่สุด เพราะผมไม่อยากจะห่างกับพี่เขาไปมากกว่านี้เลย... นี่ผมคงจะเห็นแก่ตัวมากเกินไปอย่างนั้นสินะ

สรุปว่าคืนนั้นผมก็คุยกับพี่ต้าเสียจนดึก และถึงแม้ว่าผมจะปิดไฟเตรียมตัวเข้านอนแล้ว ผมก็ยังคงนอนไม่หลับอยู่ดี ล่าสุดที่ผมพลิกตัวดูนาฬิกาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหลับลงไปก็เป็นเวลาตีสามกว่าๆ เข้าไปแล้ว
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) ตอน 7
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 13-08-2011 21:26:29
วันถัดมา ผมไปเรียนกับพี่ด้าด้วยสภาพสะโหลสะเหล ผมยอมรับกับพี่เขาไปตามตรงว่าเมื่อคืนผมนอนดึกมากและนอนไม่ค่อยหลับ จึงทำให้ผมอยู่ในสภาพแบบนี้ พี่ด้าที่เห็นผมนั่งสัปหงกตั้งแต่ยังไม่ถึงชั่วโมงแรกดีคงจะทนสภาพแบบนี้ของผมต่อไปอีกไม่ไหว เขาจึงบอกให้ผมไปนอนหลับสักงีบบนเตียงของเขาก่อนก็ได้

“จะดีเหรอพี่ เพราะกัสนอนจริงๆ นะเว้ย และเวลากัสนอนนี่อย่างน้อยก็ทีละสองชั่วโมงเลยนะ กว่ากัสจะตื่นอะ” ผมถามกลับ

“นอนไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก เพราะถึงไงฝนก็ทำท่าจะตกอยู่แล้วด้วย เรียนเสร็จกัสก็คงยังกลับบ้านไม่ได้อยู่ดี เดี๋ยวพี่โทรบอกแม่ให้ ไม่ต้องห่วงหรอกน่ะ”

“งั้นกัสไม่เกรงใจนะพี่ ไม่ไหวจริงๆ แล้วว่ะ ง่วงโฮกกกกก”

ผมลุกออกจากเก้าอี้แล้วเดินโงนเงนไปล้มลงบนเตียง จากนั้นก็ค่อยๆ คืบไปหนุนหมอนและดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเอาไว้

“ตามสบายเลย เดี๋ยวพี่ปิดไฟให้”

“แล้วพี่จะทำไรอะ”

“พี่คงนั่งเล่นคอมฯ เรื่อยเปื่อยนี่แหละครับ ไม่ต้องกังวลหรอก นอนไปเถอะ เดี๋ยวพอได้เวลาแล้วพี่จะปลุกเราเอง”

“อืมมมม....”

ที่จริงแล้วผมก็รู้สึกตื่นเต้นและกังวลนิดหน่อยเหมือนกันนะ ที่ได้มานอนอยู่บนเตียงของพี่ด้าแบบนี้ แต่เนื่องจากความง่วงที่มีมากกว่าไม่รู้กี่สิบเท่ามันเข้ามารุมทำร้ายผมจนไม่สามารถทนฝืนเปิดเปลือกตาได้อีกต่อไปแล้ว สุดท้ายผมจึงผมค่อยๆ หลับลงไปในที่สุด

ผมหลับไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้ได้ แต่ครั้งแรกที่ผมตื่นขึ้นมาก็คือตอนที่ผมกำลังพลิกตัวและเห็นพี่ด้ากำลังนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ของตัวเองอยู่ หลังจากนั้นผมก็หลับลงไปอีกครั้ง และเมื่อผมลืมตาขึ้นอีกก็เป็นตอนที่ผมรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวหนักๆ บนเตียง

“อืมมมมม.....” ผมหยีตาและบิดตัวไปมาเล็กน้อย “กี่โมงแล้วอ่าครับพี่”

“เพิ่งจะบ่ายโมงกว่าเองครับ” พี่ด้าที่นั่งลงข้างๆ ผมตอบ

“หือออ.... ฝนตกเหรอฮะ”

“ใช่ครับ หนักมากด้วย ข้างนอกมืดไปหมดเลยเนี่ย พี่โทรบอกแม่เราให้แล้วนะว่าฝนตกหนักมาก กัสคงยังกลับไม่ได้ พี่เลยจะให้เราอยู่ที่นี่ไปก่อนน่ะ”

“งืมมมมม.... ครับ” ผมพยักหน้าเบาๆ “หนาวอะ”

“คงเพราะฝนตกด้วยน่ะ จะให้พี่เบาแอร์ลงหน่อยมั้ย”

“ไม่เป็นรายยย ไม่ต้องเบาแอร์หรอกครับ......” ผมขยับผ้าห่มให้กระชับขึ้นเล็กน้อย “แค่พี่ด้ากอดกัสก็พอและ”

พี่ด้ายิ้มกว้างออกมาพร้อมกับหัวเราะในลำคอเบาๆ “ทะลึ่งละ ไอ้เด็กคนนี้ กล้าพูดเรื่องแบบนี้ได้หน้าตาเฉยเลยนะ พี่ว่ากัสเองก็คงเจ้าชู้ไม่แพ้ไอ้อาร์มมันเหมือนกันนะเนี่ย” เขาขยี้หัวผมเบาๆ

“ม่ายยย กัสไม่เคยพูดแบบนี้กับใครนะพี่” ผมรีบปกป้องตัวเองทันที แต่แล้วพอหลังจากที่ผมพูดจบไปได้อึดใจหนึ่ง ผมถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่านี่มันก็เท่ากับผมกำลังสารภาพรักกับเขากลายๆ อยู่เลยนะเนี่ย
จากตอนแรกที่ผมยังรู้สึกงัวเงียอยู่ ก็กลายเป็นผมตื่นขึ้นเต็มตาแทบจะในทันที
“พี่ขอนอนด้วยคนก็แล้วกัน เห็นกัสนอนแล้วพี่ก็อยากจะนอนมั่งว่ะ”

สิ่งที่ผมเพิ่งได้ยินยิ่งทำให้ผมตื่นเต้นหนักมากขึ้นไปอีก

“เอ่อออ แล้วใครจะปลุกกัสอะคราวเนี้ย”

“พี่ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้แล้ว ไม่เป็นไรหรอก” เขาพูดพร้อมกับสอดตัวเข้ามาใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับผม

“อืออออ อะไรวะ เป็นครูสอนพิเศษแต่จะมานอนซะเองนะ”

“หึๆ ก็ลูกศิษย์เล่นนอนยั่วอยู่บนเตียงขนาดนี้นี่หว่า จะให้ครูทำไงอะ ครูก็ง่วงเป็นเหมือนกันนะเว้ย” เขาตอบ จากนั้นก็หันหน้ามาหาผม “และฝนก็ท่าทางจะตกอีกนาน ยังไงกัสก็ต้องอยู่ที่หอพี่อีกสักพักนั่นแหละ”

“เออ ก็จริงแฮะ” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ

“และที่สำคัญ พี่มีเรื่องอยากคุยกับกัสด้วย เรามานอนคุยกันหน่อยดีมะ ตื่นแล้วรึยังล่ะ”

ผมส่ายหน้า “ป๊าววว หลับอยู่”

พี่ด้ายิ้มชอบใจ “งั้นตอนนี้ก็ละเมออยู่อะดิ”

“อือออ ช่ายยยย”

“ดีแล้ว งั้นก็หลับไปนะ พี่จะถือว่าพี่พูดคนเดียวก็แล้วกัน....” พี่ด้าหันกลับไปนอนมองเพดานเหมือนอย่างเคย แก้มของเขาช่างขาวนวลจนผมอยากจะชะโงกหน้าเข้าไปจุ๊บเสียจริงๆ

“อ้าวว แล้วไหงไม่พูดอะ” ผมถามขึ้นหลังจากที่เห็นว่าเขาเงียบไปนาน

“ใจเย็นดิ กำลังเรียบเรียงอยู่”

“ฮ่าๆๆ ก็งี้แหละ คนแก่แต่ใช้ซีพียูเซเลรอน วินโดว์สเก้าเจ็ด เลยประมวลผลช้าาาา อะๆๆ รอๆๆ”

พี่ด้าหัวเราะในลำคอเบาๆ “คือ.... เอางี้ดีกว่า พี่อยากรู้ว่ากัสคิดว่าพี่เป็นคนยังไงอะ”

เมื่อเจอกับคำถามที่ไม่ได้คาดคิดแบบนี้ ผมก็ถึงกับอึ้งไปทันที “หะ เหอออ หมายความว่าไงพี่ ไหนตอนแรก.... เฮ้ยยย! ไม่ดิ ตอนนี้กัสหลับอยู่นะพี่! พี่มาถามกัสได้ไง” ผมหลับตาลงแล้วแกล้งทำเสียงกรน

“ไอ้ตูดหมึกเอ๊ยยย! ไม่ต้องมาทำฟอร์มเลย เร็วเข้า พี่ถามไปแล้วก็ตอบมาเร็วๆ”

ผมลืมตาขึ้น “ตอบไหนอะพี่ โหหห ก็ถ้าให้กัสตอบ กัสก็คงบอกว่าพี่เป็นคนหน้าตาดี น่ารัก เรียนเก่ง สอนหนังสือเก่ง มีน้ำใจมากๆ อารมณ์ดี กวนตีนนิดๆ แต่ก็สุภาพ อัธยาศัยดี อะไรแบบเนี้ยยย”

“โหห นี่พี่ดูเป็นคนดีขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย ฮ่าๆๆ”

“ช่ายยย แต่อย่าเพิ่งเหลิงอย่าเพิ่งหลงตัวเองไปพี่ กัสเป็นคนดีกว่าพี่อีก เพราะกัสอะ ทั้งหล่อ ทั้งน่ารัก เล่นกีฬาเก่ง หัวก็.... โอเคอะ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะกัสยังร่าเริง ตลก คุยเก่ง มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เข้ากับคนง่าย เป็นที่พึ่งพาได้ ไม่ชอบโกหก รักเพื่อน รักครอบครัว รักลูกหมารักลูกแมว รักเด็ก อยากให้โลกสงบสุข แล้วก็ยังรักเดียวใจเดียวอีกด้วยนะ” ผมยกนิ้วขึ้นนับ “แล้วยังมีอะไรอีกวะ.... โอ๊ยยย! เยอะแยะอะพี่ ให้เขียนเป็นเรียงความใส่เอสี่แปดแผ่นก็ยังไม่หมดหรอก”

“เรานี่มันเป็นเด็กอารมณ์ดีจริงๆ เลยนะ” พี่ด้าตะแคงตัวหันมาฉีกยิ้มกว้างให้ผม

“ก็บอกแล้วว่ากัสน่ารักจะตายยย ใครๆ ก็หลงร๊ากกก”

“อะเหรอออออ แล้วถ้างั้นทำไมไม่มีแฟน”

ผมหุบยิ้มลงแล้วยักไหล่เบาๆ “สงสัยเพราะไม่ค่อยมีใครเห็นส่วนดีของกัสล่ะมั้ง และที่สำคัญ คนที่กัสไปชอบ เค้าก็ดูจะไม่สนใจในตัวกัสเลยอะดิ”

“หือออ ทำไมถึงดูแน่ใจขนาดนั้น”

“ม่ายยยรู้” ผมหันจากใบหน้าของพี่เขาไปมองเพดานห้องแทน

“คือเรื่องของเรื่องน่ะ พี่เห็นกัสชอบถามแล้วก็ชอบพูดถึงเรื่องแฟนพี่ เรื่องที่พี่กำลังชอบใครรึกำลังคบกับใครอยู่รึเปล่าอะไรแบบนี้บ่อยๆ ไง พี่ก็เลยอยากรู้ว่ากัสเห็นว่าพี่เป็นคนเจ้าชู้เหรอ”

“ก็ไม่นะครับ กัสทำให้พี่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ อะ”

“ประมาณนึงมั้ง”

“เอ้า เวรรร ขอโทษทีพี่ด้า กัสไม่ได้ตั้งใจจะสื่อออกไปแบบนั้น” ผมหันกลับไปหาเขา “คือกัสไม่ได้มองว่าพี่เจ้าชู้นะเว้ย แต่แบบ กัสไม่รู้ไงว่าพี่คิดยังไงกันแน่ อะไรแบบเนี้ยไง กัสว่าพี่เป็นคนดูยากอะ ไม่รู้ว่ากำลังคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่ในใจจริงๆ กันแน่ เพราะพี่เอาแต่ยิ้มเอาแต่หัวเราะแล้วไม่ค่อยแสดงออกล่ะมั้ง ไม่เหมือนกัสที่จะพูดหมด แสดงออกหมด คิดยังไงก็บอก อะไรแบบนี้อะ เพื่อนกัสส่วนมากมีอะไรมันก็จะพูดๆ กันหมดเลยว่ากำลังชอบใคร ไม่ชอบใคร คิดอะไรยังไงกับใครรึเรื่องอะไรอยู่ อะไรแบบเนี้ย กัสก็เลยไม่ค่อยชินล่ะมั้งครับ”

“อืออ ใช่ กัสเป็นคนช่างพูดแล้วก็แสดงออกจริงๆ นั่นแหละ พี่อยู่ด้วยแล้วรู้ดีเลย”

“ใช่มะล่ะ เนี่ย บางทีเพื่อนกัสที่โรงเรียนมันยังเคยบอกเลยว่ากัสอะ พูดมาก แล้วก็ซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองจนเกินไป แบบว่าบางทีก็เก็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่น่ะครับ บทจะดีก็ดี และถ้าไม่พอใจอะไรกัสก็จะโวยวายแม่งเลย เงี้ย”

“งั้นเหรอ แต่พี่ว่าก็ดีนะ มันทำให้คนอื่นเข้าใจเราในสิ่งที่เราเป็นจริงๆ แล้วก็จะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดกัน”

“ก็คงแบบนั้นแหละฮะ”

“จริงๆ พี่คิดว่าพี่คงต้องหัดเป็นคนที่มีอะไรก็พูดตรงๆ บ้างแล้วล่ะ.....” จู่ๆ น้ำเสียงของพี่เขาก็ดูจริงจังมากขึ้น “พี่คิดว่าพี่ต้องขอโทษกัสอย่างนึงนะ”

“เหอออ เรื่องอะไรพี่”

“พี่เคยโกหกกัสไปครั้งนึง”

หัวใจของผมเริ่มเต้นแรงขึ้นเล็กน้อยทันที “เรื่องอะไรอะครับ”

“ตอนนั้นที่พี่บอกว่าพี่ไปธุระกับเพื่อนที่สยามน่ะ จริงๆ ตอนแรกพี่ก็นึกว่าแบบนั้นเหมือนกัน แต่ไปๆ มาๆ มันกลายเป็นว่าพี่ต้องไป....” เสียงของเขาค่อยๆ จางหายไป ก่อนที่เขาจะเริ่มพูดต่อ “คืองี้ เรื่องของเรื่องคือมันมีผู้หญิงคนนึง เป็นรุ่นน้องของเพื่อนในกลุ่มพี่นี่แหละ มาชอบพี่ และเราก็คุยกันมาสักพักแล้วล่ะ แล้วก็สนิทกันประมาณนึง ตอนนั้นเค้าชวนพี่ไปทำธุระแถวสยามเป็นเพื่อน แล้วเพื่อนพี่มันฝากให้พี่เนี่ย ช่วยดูแลรุ่นน้องคนนี้ของมันด้วย พี่ก็เลยตอบตกลงไป แต่พอถึงวันนั้นขึ้นมาจริงๆ เค้าดันมาบอกพี่ว่าอยากไปเดินสวนแทน พี่ก็เลยต้องไปเพราะรับปากเค้าไว้แล้ว และแบบ.... เค้าก็แอบแรงนะ แสดงออกถึงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจนมากกกก และพี่ก็เคยบอกกัสไปแล้วว่าถ้าใครเข้ามาอะไรกับพี่มากๆ แต่ถ้าพี่ไม่คิดจะเล่นด้วย พี่ก็จะถอยห่างออกมาเลยน่ะ เพราะงั้นหลังจากนั้น พี่ก็ไม่เคยไปเจอเค้าอีกเลยอะ พยายามคุยให้น้อยลงด้วยอะไรด้วย พี่ไม่ไหวว่ะ ผู้หญิงแรงๆ แบบนี้ บอกตรงๆ ว่าพี่กลัว”

“อ่ออออ นี่คือเรื่องตอนที่พี่บอกกัสว่าพี่อยู่สยามกับเพื่อน แต่จริงๆ แล้วคือพี่ไปเดินสวนอยู่กับน้องคนนั้นใช่มะครับ”

“ใช่ครับ”

“แล้วพี่ไม่รู้มาก่อนเลยเหรอว่าไอ้น้องคนนั้นอะไรเนี่ย มันชอบพี่อะ”

“จริงๆ พี่ก็พอรู้แหละ แต่พี่ไม่คิดไงว่าเค้าจะกล้าขนาดนั้น จะทำขนาดนั้นน่ะ”

“อ่อออออ..... แล้วว่าแต่นี่พี่จะบอกเรื่องนี้กับกัสทำไมอะเนี่ย จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลยนะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่บังคับให้ฟังดูเหมือนผมไม่รู้สึกใส่ใจเลยมากที่สุด

“ไม่สำคัญจริงเหรอ.......” พี่กัสหันมาหาผม “แล้วทำไมตอนนั้นกัสต้องโกรธพี่ขนาดนั้น มันไม่ใช่เพราะว่ากัสเห็นพี่เดินกับน้องคนนั้นที่เจเจรึไง”

ผมหน้าแดงและไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี ที่จริงเขาไม่ควรจะรู้เรื่องนี้ได้นี่นา

“ไอ้ต้ามันบอกพี่น่ะ” พี่ด้าตอบเหมือนกับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ “พี่เพิ่งได้คุยกับมันเรื่องนี้ และพี่คิดว่าพี่คงต้องพูดให้กัสเข้าใจ เพราะพี่รู้ว่ากัสไม่ชอบคนโกหกใช่มั้ยล่ะ และพี่ก็เลยอยากให้กัสรู้ว่าพี่เองก็ไม่ได้อยากจะโกหกกัสเหมือนกัน”

“คือ กัสก็ไม่ได้........”

“เอาจริงๆ พี่ว่าพี่กำลังเขินมากเลยว่ะ ตอนนี้น่ะ”

“เอ่อออ นะ แล้วพี่จะให้กัสทำไงล่ะเนี่ย”

“ไม่ต้องทำไงหรอก.... ตกลงว่า กัสคิดกับพี่ยังไงกันแน่ครับ”

หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเพราะคำถามนี้ทันที

“เอ้า ก็กัสบอกไปแล้วไง เมื่อกี้อะ”

“พี่ไม่ได้ถามว่าเห็นว่าพี่เป็นคนยังไงนะ แต่พี่ถาม.... เอ่ออ... ว่ากัสคิดยังไงกับพี่ที่เป็นคนแบบนี้น่ะ”

ผมรู้สึกเขินจนหน้าแดงไปหมด แต่เมื่อลองมองดูหน้าของพี่ด้าดีๆ ผมก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่าระหว่างผมกับเขา ใครมันจะหน้าแดงกว่ากัน เพราะถึงแม้ว่าห้องจะค่อนข้างมืด ผมก็ยังเห็นเลยว่าเขาหน้าแดงมากจริงๆ

ผมว่านี่แหละ คือโอกาสเพียงครั้งเดียวของผม ถ้าผมปล่อยให้มันหลุดลอยไป ผมก็ไม่รู้แล้วว่าจะมีวันได้ไขว่คว้ามันไว้อีกครั้งเมื่อไหร่

“กัสก็เพิ่งบอกไปไม่ใช่เหรอ พี่ ว่ากัสไม่เคยขอใครกอดแบบเมื่อกี้มาก่อนเลยอะ และกัสก็เป็นคนรักเดียวใจเดียวซะด้วย....”

“กัส.... พูดแบบนี้ แปลว่า.... กัสชอบพี่เหรอ”

เอาแล้วไง!

ผมนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้าออกมาเบาๆ “ใช่ครับ.....”

หลังจากสิ้นเสียงอันแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบของผม ความเงียบก็เข้ามาปกคลุมระหว่างเราสองคนทันที เสียงของพายุฝนและลมกรรโชกที่พัดโหมกระหน่ำอยู่ข้างนอกคือเพียงสิ่งเดียวที่ช่วยเตือนผมว่าผมยังคงตื่นอยู่ และนี่คือความจริง ไม่ใช่เพียงแค่ฝันไป

“ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”

“เอาจริงๆ ปะพี่.... ก็ตั้งแต่เราจะเดินชนกันที่หน้าห้องน้ำนั่นแล้วแหละ แบบว่า รักแรกพบโคตรๆ อะ แต่กัสรู้ว่าพี่ไม่ได้คิดอะไรกับกัสหรอก กัสรู้ว่าพี่ไม่ได้เป็นเกย์ ไม่ได้ชอบผู้ชาย พี่ต้ามันเคยบอกกัสแล้ว และที่สำคัญ พี่ก็เห็นกัสเป็นเหมือนน้องชายแบบที่พี่ต้ามันคิดกับกัสนั่นแหละ กัสรู้ครับ”

“เรานี่เป็นคนคิดอะไรแล้วก็พูดหมดจริงๆ ด้วยนะ” เขายิ้มน้อยๆ พร้อมกับหัวเราะในลำคอเบาๆ ไปด้วย

“เหออ ยังไงน่ะ พี่”

“กัสคิดว่าทำไมพี่ถึงรู้ว่ากัสชอบพี่อะ”

“ก็พี่ต้ามันเป็นคนบอกพี่เองไม่ใช่เหรอ ก็เมื่อกี้พี่บอกเองอะว่าพี่คุยกับพี่ต้ามาแล้ว”

“ก็ใช่ แต่เมื่อกี้มันแค่บอกพี่ว่ากัสเห็นพี่ที่สวน ไม่ได้บอกพี่หรอกนะว่ากัสคิดยังไงกับพี่น่ะ”

“อ้าววว”

“ก็ใช่อะดิ แต่พี่อะ รู้มาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เราเริ่มเรียนกับพี่ตอนแรกๆ แล้วนั่นแหละ”

“พี่รู้ได้ไงอะ”

“โอ๊ยยยย กัส พี่ไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะครับ ใครมันจะไม่รู้บ้าง ทั้งเมสเสจ ทั้งเวลาที่กัสอยู่กับพี่ รวมถึงท่าทางคำพูดอะไรพวกนั้น พี่ก็ดูออกครับ และที่สำคัญ กัสเองก็ยั่วพี่ตั้งหลายครั้งเหอะ คิดว่าพี่ดูไม่รู้เหรอว่ากัสจงใจทำผ้าเช็ดตัวหลุด จงใจไม่ใส่เสื้อเดินไปเดินมา ไม่ใส่กางเกงใน นั่งอ้าขา เกาไข่ อะไรต่ออะไรน่ะ”

“อะไรพี่!! ไม่มีเหอะ!!” ผมเขินจนหน้าแดง ทั้งๆ ที่ผมยังไม่อายที่จะเล่าเรื่องพวกนี้ให้ไอ้เมษฟัง แต่พอรู้ว่าที่จริงพี่เขาดูแผนการของผมออกหมดมาตั้งแต่แรก มันก็ทำให้ผมรู้สึกเขินจนแทบอยากจะมุดแผ่นดินหนีไปเลยเหมือนกัน

“โกหกชัดๆ” เขาหัวเราะเบาๆ

“เออๆๆ!! โอเคๆ! ยอมรับก็ได้ว่าก็มีมั่งอะแหละ ก็กัสอยากรู้นี่หว่าว่าพี่จะชอบผู้ชายรึเปล่าน่ะ”

“แล้วตกลงตอนนี้รู้รึยัง”

“ไม่รู้ดิ ก็คงไม่ได้ชอบใช่มั้ยล่ะ”

“แล้วกัสคิดว่าทำไมตอนนั้นพี่ถึงต้องโกหกกัสว่าพี่ไม่ได้ไปกับผู้หญิงน่ะครับ”

“ไม่รู้อะ กัสจะรู้ได้ไงล่ะ เพราะงั้นกัสถึงได้หงุดหงิดอยู่ตั้งนานไง”

“งั้นถ้าพี่บอกว่า พี่โกหกเพราะพี่ไม่อยากให้กัสรู้ว่าพี่ไปกับผู้หญิงคนอื่น พี่กลัวกัสจะไม่สบายใจล่ะ กัสจะว่ายังไง”
ผมตาโต “หะ.... หาาาา!”

“พี่เคยบอกกัสแล้วนี่ ว่าพี่อะ ไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มก่อนหรอก พี่ไม่กล้าขนาดนั้น และที่สำคัญ พี่ก็เคยบอกกัสไปแล้วนี่ครับว่าถ้าพี่รู้ว่าใครมาชอบพี่ รุกใส่พี่มากๆ แล้วพี่ไม่ได้สนใจไม่คิดอะไรกับคนๆ นั้นเลย พี่ก็จะถอยห่างออกมา แล้วกัสว่าที่ผ่านๆ มา กับที่พี่มานอนอยู่บนเตียงเดียวกับกัสตอนนี้เนี่ย มันดูเหมือนว่าพี่ถอยหนีห่างจากกัสมั้ยล่ะ” พี่ด้าพูดไปยิ้มไปแบบอายๆ
ยิ่งเวลาเห็นพี่เขาเขินแบบนี้ ผมก็ยิ่งอยากจะรวบตัวเขาเข้ามากอดแล้วระดมจูบลงบนแก้มของเขามากขึ้นไปอีก คนอะไรทำไมมันจะน่ารักได้ขนาดนี้วะเนี่ย!

“แล้วที่สำคัญนะ กัสเป็นคนที่รุกใส่พี่หนักที่สุดเท่าที่เคยมีคนมาจีบพี่เลยด้วยเหอะ ขอบอก”

“เดี๋ยวนะๆ พี่ด้า ตอนนี้กัสกำลังงงๆ อะ สรุปว่าพี่ด้ารู้อยู่แล้วใช่มั้ย ว่ากัสชอบพี่อะ”

“อืมม รู้มานานแล้วด้วย”

“แต่พี่ไม่ได้รังเกียจ ไม่ได้คิดจะถอยห่างกัสไปเลย”

“ไม่เคยสักนิด”

“แล้วถ้าแบบนั้นทำไมพี่ไม่แสดงออกอะไรให้มากกว่านี้หน่อยเล่า!! โหหหห!! ปล่อยให้กัสเครียดอยู่ได้คนเดียวตั้งนาน!” ผมลุกขึ้นโวย

“เอ้า! พี่ก็แสดงออกในแบบของพี่แล้วนะว่าพี่ไม่ได้รังเกียจที่กัสชอบพี่และมาจีบพี่เลยน่ะ” พี่ด้าเองก็ชันตัวขึ้นนั่งท่าเดียวกับผม

“อย่างในสเตตัสเราในเฟซบุ๊ค พี่ก็ยังไปตอบเลยไม่ใช่รึไง”

ผมนึกย้อนกลับไป “ไอ้ตอบด้วยหน้าอิโมยิ้มกว้างนั่นน่ะนะ”

“ก็นั่นแหละ”

“โอเคๆ แล้วสรุปที่พูดๆ มาทั้งหมดเนี่ย พี่แค่ไม่ได้รังเกียจที่กัสรู้สึกแบบนั้นกับพี่เฉยๆ เหรอ”

“คือออ..... ก็.....จะให้พี่พูดยังไงดีล่ะ” เขาก้มหน้าลงนิดหน่อย

“เอาเหอะ กัสเข้าใจครับพี่..... ก็งี้แหละ กัสเข้าใจว่ามันพูดยาก”

“นั่นสินะ บางทีการกระทำมันก็อาจจะง่ายกว่าและบอกความหมายได้ดีกว่าคำพูดจริงๆ ใช่มั้ยล่ะ”

พี่ด้าเงยหน้าขึ้นสบตากับผม เขายิ้มให้ผมเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ชะโงกหน้าเข้ามาหาผม ด้วยความตกใจ ผมจึงทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งตัวแข็งเกร็งอยู่แบบนั้น และเมื่อรู้สึกตัวอีกที ริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของเขาก็ประทับลงบนริมฝีปากของผมอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยนแล้วเรียบร้อย

“แบบนี้ชัดรึยัง” พี่ด้าพูดขึ้นหลังจากที่จุ๊บปากผมเรียบร้อยแล้ว

“อะ.... เอ่ออ....”

“ว่าไง พี่แสดงออกชัดพอรึยังว่าคิดยังไงน่ะ” เขาพูดทั้งๆ ที่หน้าแดงก่ำ

“เอ่อออ..... ก็ยังไม่ชัดเท่าไหร่อะพี่ ขออีกสักทีได้ปะ เผื่อจะชัดมากกว่านี้อะ”

“เฮ้ย! ไอ้ทะลึ่ง!”

“น่าาาา นะ ก็มันยังไม่ชัดจริงๆ นี่หว่า เมื่อกี้มันแค่จุ๊บแป๊บเดียวเอง กัสขออีกทีดิ” ผมชูนิ้วชี้ขึ้นและทำหน้าอ้อน “น่านะ นะครับ! สุดหล่อ! ขอกัสหน่อยนะๆ”

“พอแล้ว!” เขาตีมือลงบนแก้มของผมเบาๆ “เอาไว้เป็นแฟนกันก่อน แล้วถึงจะให้อีก”

“อ้าวววว! นี่เรายังไม่ได้เป็นแฟนกันเหรอเนี่ย”

“ก็แล้วกัสเคยบอกรักพี่สักครั้งรึยังเหอะ คำว่า ‘ชอบ’ พี่ยังไม่เคยได้ยินเลยด้วยซ้ำ จู่ๆ จะมาขอเป็นแฟนได้ไงวะ มันจะข้ามขั้นไปรึเปล่า”

“โอเคๆ งั้นกัสจะพูดให้ฟังบ่อยๆๆ เลย กัสชอบพี่ด้านะคร้าบบบ ชอบมากๆๆๆ ชอบมากที่สุดในโลกเลยยย” ผมยิ้มกว้างพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้พี่เขา “กัสไม่เคยรู้สึกชอบใครเท่านี้เลยจริงๆ นะ เพราะงั้น..... มามะ! ขอหอมแก้มทีนึง!”
พี่ด้ายิ้มและส่ายหน้าเบาๆ ผมจึงรีบฉวยโอกาสนี้ขโมยจุ๊บแก้มซ้ายของเขาเสียเลย

“เฮ้ยยย! ง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ!!”

“ง่ายบ้าอะไรพี่! กว่าจะได้ทำแบบนี้เนี่ย กัสต้องพยายาม ต้องเครียด ต้องเปลืองตัวขนาดไหนเหอะ โถ่”

“แล้วคุ้มมั้ยล่ะ”

ผมยิ้มกว้าง “คุ้มขนาดเอาล็อตเตอรี่รางวัลที่สองมาแลกยังไม่ยอมเล้ยยยย!!”

“อ้าว แล้วรางวัลที่หนึ่งล่ะ”

“อันนั้นอาจจะต้องลองขอคิดดูก่อนอะ”

พี่ด้าหัวเราะชอบใจ “เนี่ยนะ รักมากๆๆ ของกัสน่ะ”

“แหมมม โถ่เอ๊ยยย ด้าก็จะเอาเงินรางวัลที่หนึ่งมาปรนเปรอพี่ไงเล่าาาา”

“เอาเหอะๆ พี่ยอมแพ้ก็ได้วะ แล้วนี่ตกลงจะลุกขึ้นมาเรียนต่อได้รึยัง น่าจะหายง่วงแล้วใช่มั้ยล่ะ”

“ม่ายยยอะ ขออีกแป๊บนึงงง” ผมเอนตัวกลับลงนอนในท่าเดิม “กัสหนาวอะคร้าบบบบ ที่รัก”

“แล้วจะให้พี่ทำยังไง เบาแอร์ให้เอามั้ย”

“บอกแล้วไงว่าไม่อาววว.... พี่แพนด้ากอดน้องออกัสหน่อยยย”

พี่ด้าไม่ตอบอะไร แต่ค่อยๆ เลื่อนตัวลงมานอนอยู่ข้างๆ ผมอีกครั้ง แต่คราวนี้ร่างกายของเราเขยิบเข้ามาอยู่แนบชิดติดกัน และจากนั้น เขาก็ยกแขนขึ้นมาพาดลงบนลำตัวของผม ผมจึงเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคงหันหลังให้กับเขา เพื่อที่เขาจะได้กอดผมได้อย่างถนัดมากขึ้น

 “เฮ้อออ ถ้าหัดแสดงออก หัดทำแบบนี้มาตั้งแต่แรก กูก็คงไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้แล้ววว.....” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ

“ก็แล้วใครมันจะไปด้านเหมือนเราล่ะ ไอ้อ้วน!”

“แหะ ได้ยินด้วยเหรอเนี่ย ไรว้าาาาา มีแฟนหน้าตาดีแล้วยังหูดีอีก แบบนี้กัสก็ยิ่งต้องระวังตัวเยอะๆ เลยดิเนี่ย”

“ใช่ ระวังไว้เยอะๆ น่ะ ดีแล้ว เดี๋ยวพี่จะให้ไอ้ต้าเป็นสายสืบให้พี่ด้วยอีกคน”

“คร้าบบบบบ แต่กัสไม่กล้าหรอกกก มีแฟนน่ารักขนาดนี้แล้วใครจะไปนอกใจได้ลง”

“พอๆๆ นอนได้ละ พูดมากจริงเว้ย เด็กคนนี้นี่”

ผมจุ๊บลงบนหลังมือของพี่ด้าเบาๆ แล้วจึงหลับตาลง ผมว่าหลังจากนี้ที่ผมหลับลงไปแล้ว ผมก็คงต้องนอนหลับไปทั้งๆที่ มีรอยยิ้มตลกๆ แบบนี้อยู่บนใบหน้าแน่นอน

(จบจ้า)
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 13-08-2011 21:29:38
ลงรวดเดียวจบเลยนะครับ พักนี้ไม่ค่อยมีเวลาเลย ไม่อยากให้รออ่านกันนานๆ ชอบไม่ชอบก็บอกกันได้นะครับ ติเตียนเพื่อให้เอาไปปรับปรุงสำหรับเล่มต่อๆไปนะครับ ^____^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 13-08-2011 22:30:09
ชอบเรื่องนี้จ้ะ เรื่องราวน่ารักดีจัง
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Benze030 ที่ 13-08-2011 23:34:32
^^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ohm ที่ 13-08-2011 23:39:39
น่ารักมากครับ ชอบเรื่องแนวนี้
อ่านง่าย ไม่เครียด หวานๆ สบายๆ

ขอตอนพิเศษได้ไหมครับ ตอนเป็นแฟนกันแ้วอะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: mamaUM ที่ 14-08-2011 00:24:15
น่ารักมากเลยค๊า  พึ่งเข้ามาอ่านครั้งแรก เหอะ ๆ   เข้ามาตอนจบแล้วเลย  = =^

ชอบมาก ๆ เลยค่ะ  คิดเหมือนคุณ "ohm" เลย คือ อยากอ่านตอนพิเศษอยู่เหมือนกันนะคะ  ตอนที่ทั้ง 2 คนคบกันไปแล้วอ่าค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแ
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 14-08-2011 01:13:56
มีต่ออีกมั้ยอ่า
อยากอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 14-08-2011 01:47:34
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  เขิลกันไปเขิลกันมา   


ขอตอนพิเศษๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแ
เริ่มหัวข้อโดย: wisky ที่ 14-08-2011 02:15:31
จบแบบไม่ทันตั้งตัวเลยอ่ะ ถึงจะหวานแบบเบาเบาแต่อยากได้หวานกว่านี้อีกได้ไหมล่ะน้องต้นขา
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: schteuben ที่ 14-08-2011 03:00:23
น่ารักค่อดๆ อ่ะ ยิ่งตอนท้ายยิ้มไม่หุบเลย เห็นภาพชัดเจนมากๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 14-08-2011 07:59:05
จริงๆมีตอนพิเศษครับ แต่แบบว่า แหะๆ แต่งไว้สำหรับรวมเล่มน่ะครับ อืมมมมม... เดี๋ยวขอดูก่อนแล้วกันนะครับว่าจะทำอะไรได้บ้าง แต่ยังไม่ขอรับปากเน้อออ เพราะส่วนตัวผมคิดว่าถ้าเป็นตอนที่คบกัน มันก็เหมือนเรื่องราวจะยังไม่จบน่ะครับ คือแบบว่า ถึงนิยายจะจบ แต่เรื่องราวความสัมพันธ์ของสองคนนี้เพิ่งจะเริ่ม เลยอยากให้ไปจินตนาการต่อกันเอาเอง อะไรแบบนี้น่ะครับ ^__^"
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 14-08-2011 10:50:47
ชอบมากจ้า  ใสๆน่ารักดี 
น้องกัสน่ารักดี  พี่ด้าปากแข็งไปหน่อย  ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นว่าน้องกัสจะสมหวังไหมเนี่ย
พี่ต้าน่ารักมาก  เป็นที่ปรึกษาที่ดีของน้องกัส
ขอบคุณคุณต้นที่นำเรื่องราวน่ารักๆ  มาให้อ่านกัน  ขอบคุณจ้า

ขอตอนพิเศษด้วยจ้า  (ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ  รอซื้อตอนเป็นเล่มก็ได้จ้า)
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 14-08-2011 11:02:04
อ่านไปยิ้มไป ในที่สุดไอ้น้องอ้วนก็สมหวัง ต้องยกนิ้วให้พี่ต้าที่ช่วยเป็นพ่อสื่อ ประสานความเข้าใจ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 14-08-2011 12:34:32
จบได้น่ารักสุดๆครับ
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
คาดหวังตอนพิเศษนะครับ 55555
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 14-08-2011 13:23:09
น่ารักอ่า ชอบๆมากๆเลย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ThE_PaRaN ที่ 14-08-2011 13:28:54
น่ารักทั้งคู่เลย

แต่แอบปันใจให้น้องกัสมากกว่านิดหน่อย (ที่จริงก็ไม่นิดล่ะ)
เพราะน้องเป็นคนเล่าไง ทำให้ได้รู้ว่าน้องคิดอะไรอย่างไง

อยากอ่านตอนพิเศษจัง
แบบน้องด้าเป็นคนเล่าบ้างอ่ะจ้ะ อยากอ่านจริงๆ >< :impress2:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 14-08-2011 14:58:12
แย้บว่าตอนพิเศษที่เขียนไว้เป็นตอนที่ด้าเล่าครับ กะไว้สมนาคุณคนซื้อน่ะครับ แหะๆ
อยากจะแต่งตินพิเศษให้อีกเหมือนกันนะครับ แต่มันจะต้องเอาไปลงในรวมเล่มด้วยแล้วเดี๋ยวจะมีปัญหา
ที่สำคัญยังคิดไม่ออกว่าจะแต่งอะไรด้วยนี่สิ 55555 แต่เอาไว้จะลองไปคิดดูนะครับ
ขอบคุณทุกคนมากสำหรับฟีดแบ็ค ขอเป็นติเยอะๆ ชมน้อยๆ ก็ได้ครับ จะได้เอาไว้ปรับปรุงสำหรับ love is 3 ต่อไป (ซึ่งตอนนี้ไปได้ ราวๆ70% แล้ว)

ขอบคุณมากครับ

ปล. คนที่เคยซื้อ love is แรกเมษกับตุลย์ โอเคมั้ยครับ? แล้วคนที่ไม่เคยอ่านก็ไม่รู้สึกสับสนหรือต่อไม่ติดใช่ป่าว?
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 14-08-2011 15:08:23
ลืมมมม!!!

สรุปว่าอ่านจบแล้ว คิดว่าความรักของออกัสกับแพนด้าคืออะไรครับ??

^___________^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: iota ที่ 14-08-2011 15:15:04
 :L1: Love is... เล่มสองจ๋า เล่มหนึ่งรออยู่นะจ๊ะ :L1:
สวัสดีครับ น้องต้น^^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 14-08-2011 15:24:30
ตอนอ่านเมษกับตุลย์ เรายังไม่รู้เลยว่าความรักของทั้งคู่คืออะไร
อ่า..เขาเปล่าโง่นะ :o12:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 14-08-2011 16:00:05
อิอิ แต่เล่มแรกมีเฉลยอยู่นะครับ QR code ท้ายเล่มไง  >__<
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 14-08-2011 16:48:34
เดี๋ยวจะกลับไปดูค่ะ
ตอนนี้หนังสือไม่อยู่ในมือ
ถ้ายังหาคำตอบไม่ได้ค่อยตามจิกคุณต้นอีกที
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 14-08-2011 18:43:37
คิดว่าความรักคือ ความเข้าใจ กว่าจะเข้าใจกันลุ้นซ้า อยากอ่านอีกจังค่ะ ยังเลิฟๆ กันน้อยเกินไปอ๊า
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-08-2011 19:27:32
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: iota ที่ 14-08-2011 21:33:37
ถ้าจะให้นิยามความรักของ ออกัสกับแพนด้า
พี่ว่าน่าจะเป็น "ความเข้าใจ" นะครับ
เข้าใจตัวตนของกันและกัน

โดยรวมแล้ว Love is... พี่ชอบนะ ดีมากในความรู้สึก ทั้งภาษา ทั้งสำนวน
หยิบขึ้นมาอ่านเมื่อไหร่ก็เรียกรอยยิ้มได้เมื่อนั้น..
ไม่รู้จะติอะไรเพราะยังหาข้อบกพร่องไม่เจอ

มีคนแซวเหมือนกันที่อ่านหนังสือเล่มนี้อยู่
คงเป็นเพราะเล่มมันเล็กแต่ขอบอกเล่มนี้ กูหวงมาก

"ไอ้กู๋ อ่านอะไรอยู่ ท่องคำศัพท์หรือไง"  ดีมากหลานบังเกิดเกล้าเรียกไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่
"อ่านหนังสือ รัก คือ..." พร้อมชูหนังสือให้ดู

"หนังสือรักอะไรวะ เล่มนิดเดียว" หลานถามแต่มันก็ไม่ได้ขออ่านนะ
"รักน้อยๆ แต่รักนานๆ ไง " :laugh3: เสี่ยวแดก
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: winamp ที่ 14-08-2011 23:57:26
 :o8: :o8: :-[ :-[ :impress2:สนุกสุดๆ น่ารักมากอ่ะ ชอบบบบบบๆๆๆ  :pig4:  :pig4: o13
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: yotsaput ที่ 15-08-2011 01:05:00
น่ารักอ๊ะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 15-08-2011 16:07:24
น่ารักกกกกจัง :กอด1:..แอบฮาวิธีอ่อยของอิน้องกัสแกล้งไม่ใส่กางเกงในเนี่ยช่างกล้าน๊อน้องเอ๊ยยย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: simplydelicious ที่ 15-08-2011 20:46:44
สมัครสมาชิกเพื่อเข้ามาบอกว่าชอบเรื่องนี้มากจริงๆครับ  o13
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 15-08-2011 22:05:17
 :o8:

เรื่องนี้น่ารักมากกกก

อิอิ

แม้จะปากแข็ง(มาก)ทั้งคู่ก็ตาม
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 16-08-2011 21:04:34
ขอบคุณมากครับ ^__^

ไม่รู้คู่นี้ กับคู่ เมษกับตุลย์ ใครน่ารักกว่ากันเนอะ :-[
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 16-08-2011 23:05:39
เรื่องราวน่ารักมากเลยค่ะ แต่แหม นึกว่าพี่ด้าจะไม่กล้าพูดเปิดใจซะอีก แฮปปี้ๆ ดีใจๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: iota ที่ 17-08-2011 00:05:41
กด+ พร้อมกับบอกว่า "น่ารักทั้ง 2 คู่ครับต้น"  :man1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: chochang99 ที่ 17-08-2011 09:08:53
น่ารักดีครับ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 17-08-2011 13:03:15
กัสหมึนแล้วเก็บไปคิดมากคนเดียวสินะ

แต่สุดท้าย ก็รักกันจนได้
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Gulp ที่ 17-08-2011 13:07:17
ขาดฉากNCรึเปล่าครับเลยทำให้ยังไม่จบ :haun4:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: jira ที่ 19-08-2011 15:38:20
 :กอด1: หานานมากค่ะ  เอะใจเลยเปิดกลับมาห้องนิยายแล้วไล่ดูตตั้งแต่ที่ปักหมุดถึงได้เห็นอ่ะ
อ่านแล้วยิ้มแก้มป่อง  น่ารักอ่ะค่ะ  อ้อนแรดมากแล้วก็แอบน่าสงสารด้วย  การแอบรักมันน่าอึดอัดใจนะคะ  การได้บอกไปมันทำให้เราโล่งใจก็จริง  แต่ผลที่ได้มันอาจจะไม่สมหวังไปซะทุกคน  น้องมันโชคดีค่ะ  ที่ได้รับรักตอบ
สำหรับคู่นี้  จิว่า..
รักคือความแร่ดค่ะ555+
กอดส่งพลังให้กับ love is ... โปรเจค  3 ค่ะ
 :pig4: :o8:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 19-08-2011 19:40:48
น่ารักใสๆอ่ะค่ะชอบจังเลยเรื่องนี้

เป็นการแอบรักที่สมหวัง o13
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: 20227ple ที่ 20-08-2011 21:47:52
ชอบอ่ะ หนุกมากค่ะ o13
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 22-08-2011 20:53:11
อ่า เป็นความรักแบบเรื่อยๆมาเรียงๆดีค่ะ หุๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 22-08-2011 23:06:05
น่ารัก  :-[
น่าจับมาฟัดสักทีสองที
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: EunSung87 ที่ 23-08-2011 11:20:33
รักคือ.........กัสกับด้า
อิอิอิอิ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 24-08-2011 01:53:17
"รักน้อยๆ แต่รักนานๆ ไง " :laugh3: เสี่ยวแดก

เสี่ยวแดกแต่แอบชอบ แอร๊ยยยยยยยยย :impress2:

ลป.คิดว่ารักคือ... "ตับไตไส้พุง" กร๊ากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 24-08-2011 14:04:20
น่ารัก :pig4:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: -~iK@iZ_KunG~- ที่ 28-08-2011 20:55:11
น่ารักดีครับ
อยากมีบ้าง อิอิ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: nano ที่ 29-08-2011 22:50:55
น่ารักงะ ชอบๆๆๆ o13
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: suginosama ที่ 09-09-2011 16:08:56
น่ารักมากเลยค่ะ คู่นี้ ชอบมากเลยค่ะ
อ่านไปก็ยิ้มไปค่ะ^^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Dongmin ที่ 09-09-2011 19:14:57
อยากโชคดีแบบออกัส
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: pidoma2009 ที่ 10-09-2011 01:19:58
 :pig4:

 o13
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 14-09-2011 04:18:52
เป็นคู่ที่น่ารักดีแฮะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จบแว้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 14-09-2011 16:06:16

เลขาฯมาทำหน้าที่เหมือนเดิมค่ะ :mc4:

เปิดจองและโอนเงินสำหรับเรื่องสั้น love is... (2)

love is... เป็นเรื่องสั้นที่ว่าด้วยความรักฉบับมินิ แต่งโดยExecutioneR
แต่ละเล่มจะนิยามความรักแตกต่างกัน และจบในเล่ม
love is... (1) เคยมีการรวมเล่มและจำหน่ายไปแล้ว (เรื่องนี้ไม่ได้ลงในเล้า)
ส่วน love is... (2) เคยเอามาลงในเล้าแล้ว

*เนื้อหาในแต่ละเล่มไม่ต่อเนื่องกัน*

(http://image.free.in.th/z/iq/loveis2.jpg)

ขนาด A6
จำนวนหน้า 250 หน้า
เนื้อหาเหมือนที่ลงในเล้า+ตอนพิเศษสั้นๆ
ราคา 200 บาท
ค่าจัดส่ง 20 บาท
รวม 220 บาท

เปิดให้จองและโอนเงินตั้งแต่วันนี้-15ตุลาคม 2554 ค่ะ

การสั่งจองทำได้ดังนี้
1. สั่งจองผ่านทางอีเมลโดยแจ้งใช้หัวข้ออีเมลว่า "สั่งจองlove is "
2. แจ้งชื่อและลอคอินที่อยู่ในเล้า (ถ้ามี)
3. แจ้งชื่อเรื่องที่ต้องการจอง และ จำนวนชุดที่จอง
4. อีเมลมาที่ bluesky-whitecloud[at]windowslive.com
5. รออีเมลตอบกลับเรื่องรายละเอียดการโอนเงิน

นอกจากนี้ยังมีรีปริ้นรวมเรื่องสั้น เวลาที่ถูกหยุดเอาไว้ และ love is ... (1) ด้วยค่ะ

(http://image.free.in.th/z/il/loveis1.jpg)

(http://image.free.in.th/z/in/4aog1.jpg)

รายละเอียดสอบถามได้ทางอีเมลเดียวกันเลยค่ะ

 :pig4:

*แก้ไขคำผิดและเวลาเปิดโอนเงินค่ะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: ljk_sj_lovelove ที่ 15-09-2011 00:31:00
น่ารักมากค่าา แอบอยากให้คนเขียนเขียนเป็นเรื่องยาวเลยนะเนี่ย

ยังไม่เคยอ่า love is ... 1 เลยค่ะ อยากอ่านบ้างจัง

เดี๋ยวขอเวลาเก็บเงินซักนิดเเล้วเดี๋ยวมาอุดหนุนนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: Nineน้อย ที่ 26-09-2011 17:41:07
น่ารักมากครับ ชอบจัง อ่านง่ายๆ ไม่เครียด หวานๆ สบายๆ

ขอบคุณมากมายครับผม
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 18-10-2011 16:53:24
 :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 02-11-2011 22:55:46
เตรียมพบกับ love is คู่ต่อไปได้เร็วๆ นี้นะครับ ^__^

รายละเอียดความคืบหน้าจะแจ้งเป็นระยะๆ ที่เพจ http://www.facebook.com/ExecutionerNovel เน้ออ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 06-11-2011 14:42:21
ตอนใหม่ครับ ตามไปเสพกันได้ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,29807.0.html :)
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 06-11-2011 20:05:59
น่ารักจัง :กอด1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: watcharet ที่ 13-11-2011 02:08:40
ชอบมากๆๆ อยากได้อ่ะ แต่มันสายไปแล้วๆ หือๆ มีพิมพ์อีกรอบไหมคับๆ อยากได้ๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: peppier ที่ 05-12-2011 21:10:01
น่ารักอ่ะครับ ชอบๆ  ^____^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 21-12-2011 09:14:30
ตอนนี้ยังไม่ได้แต่งคู่ต่อไปเลยครับ อิอิ มัวแต่แต่งนิยายเรื่องใหม่อยู่ >w<
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 05-01-2012 09:42:59
ขออนุญาตอัพเดทนะครับ เรื่องใหม่มาแว้วเน้อ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31090.0 ^___^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 07-01-2012 13:51:05
 o13 :L2:

ผมเองก็ยังอยากหานิยามของคำว่ารักของตัวเองบ้างแล้วหล่ะครับ

ผมว่าผมเองยังไม่แน่ใจในคำว่า "รัก" เลยสักนิด

 :pig4: มากนะครับ เรื่องนี้น่ารักมาก  :L2:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 08-01-2012 16:22:49
พี่คร้าาา หนูพลาดดดดด อยากได้หนังสืออย่างแรว๊งงงง :z3:
น่ารักมากๆเลยง่า ตามไปอ่านทุกเรื่องก่อนน้า
จิ้มบวกจึกๆๆ :z13:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: janek_alo ที่ 03-03-2012 20:52:07
คู่นี้

เค้ามาแบบเนียนๆทั้งคู่

น่าร้ากอ่ะ :mc4:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 30-06-2012 15:50:01
สมหวังซะทีนะน้องกัส

ปล ช่วงหวานมันสั้นจัง
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 20-09-2012 16:43:13
ด้าก็เจ้าเล่ห์นะนั่น พูดเปรยจนกัสยอมพูดจนได้ แต่การแสดงท่าทีของด้านี่ก็ดูยากจริงๆ  นั่นแหละ ส่วนกัสอะไรจะชัดแจ้งปานนั้น
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: HoAo ที่ 13-10-2012 06:59:22
ชอบงานเขียนของคุณครับ อ่านแล้วให้ความรู้สึกดีๆฯฯ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง
เริ่มหัวข้อโดย: ^^KENTA^^ ที่ 13-10-2012 13:23:48
เรื่องนี้น่ารักมากครับ....ถึงจะเป็นเรื่องสั้นก็ทำให้ประทับใจได้^^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: gustova ที่ 28-10-2012 02:09:03
 :o8: :o8:

ขอบคุณก๊าบบบบบ
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: seacow ที่ 29-10-2012 18:25:04
แรกๆ  :man1:

กลางเรื่อง :o12:

ตอนจบ :o8:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 04-11-2012 15:48:34
เป็นเรื่องที่รักไปอีกแบบ กัสน่ารักสดใส บ่งบอกถึงความจริงใจ
ด้านั้นไม่กล้าแสดงออก แต่มีใจให้ มันเป็นความรักที่สดใสเลยทีเดียว
น่ารักมากๆเลยนะครับ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: HaLF333 ที่ 15-11-2012 15:44:46
อ่านไปนั่งยิ้มไปคนเดียวหยั่งกะคนบ้า (เพื่อนแซว เพราะแอบอ่านที่ทำงาน ฮา ช่างกล้าจริงตู) ..
น้องออกัสน่ารักมากอ่ะ แพนด้าไม่รักคงไม่ได้แล้ว
สนุกมากๆ เลยค่ะ
 o13

กำลังตามอ่านงานของคุณต้นอยู่ ชอบและประทับใจมากๆ สำหรับการดำเนินเรื่อง..
ลักษณะนิสัยตัวละครแต่ละตัว มีที่มาที่ไป อ่านแล้วอินเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะตามอ่านได้แค่ไม่กี่เรื่อง แต่ก็สนุกทุกเรื่องเลยค่ะ
ขอบคุณคุณต้นมากเลยนะคะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 05-01-2013 15:55:47
อ่านจบแล้วคร้าบ :-) เป็นเรื่องที่สองของพี่ต้นที่ผมอ่าน
ขอบคุณคร้าบ....

ดันๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 19-10-2013 19:15:02
ขอบคุณพี่ต้นสำหรับเรื่องน่ารักๆนะคะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 22-02-2014 22:12:34
กรี๊ดๆๆๆ  แบบว่าหลงเสน่ห์น้องกัสมากอ่ะ
เด็กอะไรก็ไม่รู้ "แรด" มั่กๆ  อิอิ
แล้วก็น่ารักมากๆๆๆๆๆด้วย ^^

ขอบคุณคนเขียนนะค๊าบบบบบ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: sasaka8 ที่ 07-11-2014 19:14:31
ขอบคุณค่ะ นิยายน่ารักมากๆ ไม่เครียดดี น่ารักทั้งคู่เลย
ตามอ่านต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆ :bye2:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 07-02-2015 21:10:36
สนุกมาก ๆ ครับ อ่านแล้วอารมณ์ดียิ้มได้  ออกัส กับ แพนด้า น่ารักมาก เอ่อ แต่ออกัส แรดจริง ๆ อ่ะ 555

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 12-08-2015 18:28:53
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 02-12-2015 13:11:41
ออกัสในจินตนาการนี่ นึกถึง "พละ" ใน ฮอร์โมนส์ ขึ้นมาเป็นฉากๆเลยค่ะ ดูน่ารัก สดใส ขี้เล่นดี  :impress2:

ขอบคุณคุณต้นที่เขียนเรื่องสนุกๆมาให้อ่านนะคะ  ติดตามอ่านผลงานอยู่ค่ะ ตอนนี้อ่านไปหลายเรื่องละ ชอบฝีมือการเขียนมว๊ากกก  :L2:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueWizard ที่ 28-06-2016 23:47:40
ขอบคุณมากนะครับกับเรื่องสนุกๆ     ชอบอีกแล้ว :กอด1:  รอเรื่องต่อไป
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: b02290 ที่ 25-11-2016 18:22:19
 :-[
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> ออกัสกับแพนด้า (รักคือ...) [จอง p5]
เริ่มหัวข้อโดย: Kimmiku ที่ 30-07-2021 23:07:37
น่ารัก