วันถัดมา หลังเลิกเรียน ผมที่เอาแต่เพ้อถึงพี่ด้าให้ไอ้สองคนนั้นฟัง ก็ถูกพวกมันยุให้เป็นฝ่ายเริ่มโทรไปหาพี่เขาก่อน และผมมันก็เป็นพวกยุขึ้นเสียด้วยสิ ดังนั้นหลังจากที่ผมกลับถึงบ้าน คุยกับแม่นิดหน่อย ผมก็รีบขึ้นห้อง ควักมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วกดโทรหาพี่ด้าทันที
“ฮัลโหล ครับ”
โอ๊ยยยยยยยย.....!! ขนาดเสียงในโทรศัพท์ยังหล่อเลย!!
“ฮัลโหล พี่ด้าครับ นี่กัสนะ”
“ครับน้องกัส ว่าไงครับ สบายดีมั้ย”
“สบายดีครับพี่ แล้วพี่อะ เป็นไงมั่ง คุยได้รึเปล่า กัสกวนพี่รึเปล่าเนี่ย”
“ก็ดีครับ พี่ไม่ได้ทำอะไร นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องเฉยๆ”
“โหหห โคตรขยันเลยพี่! นี่กัสเพิ่งกลับถึงบ้านก็ง่วงแล้วเรียบร้อย นี่ว่าจะนอนสักหน่อยด้วยซ้ำ พี่ทำกัสอายเลยนะเนี่ย รู้ปะ”
พี่ด้าหัวเราะในลำคอเบาๆ “มิน่าล่ะ แม่ถึงได้อยากจ้างครูมาสอนพิเศษ ที่แท้ก็ขี้เซาอย่างนี้นี่เอง”
“โหยยยย พี่อย่าเรียกว่าขี้เซาเลย ชี้หน้ากัสแล้วเรียกกัสว่า ‘ไอ้ขี้เกียจ’ เลยจะเหมาะกว่า ฮ่าๆๆๆ”
เขาหัวเราะชอบใจ แค่พอผมนึกถึงรอยยิ้มของพี่เขา ผมก็ตัวอ่อนระทวยย้วยลงไปนอนอยู่บนเตียงทันที
“แล้วว่าแต่ที่กัสโทรหาพี่เนี่ย มีธุระอะไรรึเปล่าครับ”
“อ๋อออ เออ ใช่ๆ คือกัสคุยกับแม่แล้ว ก็ตกลงนะครับ กัสอยากเรียนกับพี่ด้าอะ ทั้งคณิต ทั้งฟิสิกส์เลย ถ้าเป็นไปได้นะ ว่าแต่พี่เองอะแหละ จะสะดวกวันไหน เมื่อไหร่ กี่โมง ที่ไหนดี อะไรแบบเนี้ยอะครับ”
“โหห จะว่าไปพี่ก็ยังไม่ได้คิดเลยว่ะ คือ พี่อะ ไม่มีเรียนเสาร์อาทิตย์ แล้วก็วันธรรมดา พี่เรียนทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร ส่วนพฤหัสกับศุกร์ พี่ไม่มีเรียนบ่ายน่ะ แม่บอกกัสรึยังล่ะ ว่าอยากจะให้เรียนวันไหนตอนไหนบ้าง แต่ถ้าเรียนสองวิชา มันก็ต้องเพิ่มจำนวนวันเข้าไปอีกนะ กัสจะไหวเหรอ”
ไม่ใช่แค่ไหวเหรอหรอกครับพี่ แทบจะอดใจไม่ไหวเลยมากกว่า ฮ่าๆๆๆ
“แล้วเรื่องที่เรียนอีกอะ กัสอยากเรียนที่ไหน”
“อืมมมม..... เอางี้มั้ยพี่ พี่สะดวกมาสอนที่บ้านกัสมั้ยล่ะ วันธรรมดาอะ พี่ก็เลือกวันที่พี่สะดวกมาสองวัน เอาเป็นวันพุธกับพฤหัสก็ได้ แล้วพี่ก็มานอนกับกัสที่นี่เลย เอ๊ยไม่ใช่! หมายถึงว่า พี่ก็มานอนที่บ้านกัสที่นี่เลย มานอนกับไอ้อาร์มมันอะ แล้วออกไปเรียนตอนเช้าพร้อมมัน ไรงี้ไง จะได้ไม่เหนื่อย เพราะแม่กัสเค้าก็อยากให้กัสเรียนที่บ้านด้วย แต่กัสก็เกรงใจพี่นะ มาที่นี่ตลอดฝ่ายเดียวก็คงไม่ดี เพราะงั้นเสาร์อาทิตย์ กัสขอเวลาพี่วันละแค่สองชั่วโมง ไปเรียนที่หอพี่ก็ได้ จะได้คนละครึ่งๆ โอเคมั้ยครับ แบบนี้พี่สะดวกรึเปล่าล่ะ”
พี่ด้าเงียบลงไปพักหนึ่ง ผมเองก็ได้แต่นอนลุ้นว่าแผนของผม เอ๊ย ผมหมายถึง สิ่งที่ผมเสนอไป จะโอเคสำหรับพี่เขาหรือไม่
“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ห้องพี่รกหน่อยนา ถ้ากัสจะมาจริง พี่ก็คงต้องรีบเก็บห้องแล้วล่ะ” เขาหัวเราะเบาๆ
หัวใจของผมพองโตขึ้นทันที “ม่ายยยย กัสไม่ถือเลยครับพี่ ห้องกัสดิ รกยิ่งกว่า แม่เคยบอกว่าห้องกัสอะ ถ้างูเลื้อยเข้ามามันยังต้องตกใจเลย ฮ่าๆๆ”
“แหม ก็เวอร์ไปมั้ง ว่าแต่แล้วกัสอยากจะเริ่มเรียนเมื่อไหร่ล่ะ”
แหมเว้ยยย วันนี้เลยได้ปะล่ะ ขนาดไม่ได้เจอกันแค่วันเดียว ผมก็คิดถึงแทบจะลงแดงตายอยู่แล้วนะเนี่ย!
“เอาเป็นอาทิตย์หน้าดีมั้ยครับ เดี๋ยวกัสกลับไปคุยกับแม่ดูอีกทีก่อน.....” เอาน่า คนเรามันก็ต้องมีไว้ท่ากันบ้างสิ “และที่สำคัญ กัสจะได้เก็บห้องก่อนด้วย ฮ่าๆๆ”
“โอเคๆ ได้ๆ พี่จะได้ไปเดินหาซื้อหนังสือแล้วจะได้เตรียมตัวด้วย กัสอยากเน้นเรื่องไหนเป็นพิเศษรึเปล่า”
“เน้นทุกเรื่องเลยครับ กัสโง่ ฮ่าๆๆ แต่ถ้าพี่ด้าจะไปซื้อหนังสือ กัสขอไปด้วยคนได้มั้ยอะครับ อยากไปเดินๆ ดูเหมือนกัน แล้วก็จะได้บอกพี่ถูกด้วยว่ากัสโง่เรื่องไหนเป็นพิเศษ”
“โอ๊ยยยย น้องก็พูดไป ไอ้อาร์มมันยังไม่เคยเห็นบอกพี่สักคำเลยว่าน้องชายมันโง่น่ะ เห็นบอกแต่น้องมันติดเที่ยว ติดเพื่อนเล่นกีฬาเยอะ แล้วก็ติดผู้หญิงอะไรแบบเนี้ย”
“โหหหห ติดผู้หญิงนี่ตัดไปให้ไกลๆ เลยครับพี่ ตัดแรงๆ แล้วเอาไปปาใส่หน้าไอ้อาร์มมันนั่นแหละ สาดดดด กัสเนี่ยนะ จะติดหญิง ไม่มีทางๆ”
“โอเคๆ สรุปว่าเราจะไปซื้อหนังสือด้วยกันใช่มั้ย แล้วจะไปเมื่อไหร่ดี”
“พรุ่งนี้วันศุกร์ พี่ไม่มีเรียนบ่ายใช่มั้ยล่ะครับ เราไปกันตอนเย็นๆ หลังกัสเลิกเรียนเลยดีมะ”
“อืมมม พรุ่งนี้เลยเหรอ พี่ว่าพี่ยังไม่ค่อยสะดวกน่ะครับ”
ผมใจแป้วไปเล็กน้อย “อ้าวเหรอครับ”
“เปลี่ยนเป็นวันเสาร์แทนได้มั้ยล่ะ พี่ว่างทั้งวัน”
“โอเคเลยครับพี่!” ผมรับคำด้วยความดีใจ
“หึๆ โอเค งั้นตกลงตามนั้นนะครับ ถ้าไงพี่ขอตัวก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวจะอาบน้ำและออกไปหาอะไรกินสักหน่อย”
“ได้ครับๆ แล้วไว้คุยนัดกันอีกทีแล้วกัน”
“ได้เลยครับ ยังไงก็โทรมาแล้วกัน อ้อ แล้วก็มีอีกเรื่องนึง พี่ขอโทษเรื่องเมื่อวานที่หน้าห้องน้ำอีกครั้งนะ”
“ฮ่าๆๆๆ ไม่เป็นไรครับพี่ กัสก็มัวแต่เหม่ออยู่เองแหละ”
“ไม่หรอก พี่เองแหละที่มัวแต่เหม่อ มัวแต่กดมือถืออยู่ พอดีพี่เพิ่งวางสายจากฝ้ายน่ะ ก็เลยไม่ทันได้ระวัง ผลักประตูเปิดไปซะเต็มที่เลย เกือบทำตัวเองเสียลูกค้าไปซะแล้วมั้ยล่ะ” เขาหัวเราะ
“ถ้ากัสโดนกระแทกจนเป็นลมล้มไปหรือความจำเสื่อม ไรงี้ พี่ด้าต้องรับผิดชอบด้วยนะ ฮ่าๆๆ เอากัสไปเลี้ยงดูคอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้เลย”
“โหหห ขนาดนั้นเลยเหรอ งั้นพี่ก็โชคดีนะเนี่ย ที่กัสไม่เป็นอะไรน่ะ” เขาหัวเราะหึๆ ในลำคอเบาๆ “เอ้อ ว่าแต่ตกลงพี่ควรจะเรียกเราว่าอะไรกันแน่เนี่ย เห็นเราแทนตัวเองว่ากัสก็จริง แต่เพื่อนๆ พี่ กับเพื่อนๆ เรา ดูเหมือนจะเรียกเราว่าอ้วนหมดเลยนี่”
“ใช่ครับ คือที่บ้านอะ พ่อกับพวกคนงาน แล้วก็ญาติคนอื่นๆ จะเรียกกัสว่า กัส ไม่ก็ออกัส จะมีก็แต่แม่กับไอ้อาร์มแหละ ที่เรียกว่าอ้วน แล้วก็พวกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนส่วนมากก็เลยเรียกอ้วนด้วยเหมือนกัน แต่ถ้านับจริงๆ คนที่เรียกว่ากัสก็มีหลายคนเหมือนกันนะ จริงๆ เยอะกว่าคนเรียกอ้วนด้วยซ้ำ”
“แล้วงี้พี่จะเรียกเราว่าอะไรดีล่ะ กัส หรือว่า อ้วน แบบไหนดีกว่ากัน”
“เรียกกัสแหละพี่ กัสชอบชื่อนี้มากกว่าอะ ก็กัสไม่อ้วนสักหน่อย จริงปะล่ะ แถมชื่อออกัสก็ออกจะน่ารัก เหมาะกะหน้าตาและบุคลิกของกัสจะตายยย”
“ฮ่าๆๆ โอเคๆ ขอมาก็จัดไปครับ งั้นพี่ไปก่อนละนะ ไว้คุยกันใหม่นะครับ น้องออกัส” พี่เขาปิดท้ายด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
“ได้เลยครับ พี่แพนด้า” ผมยิ้มกว้างจนปากแทบจะฉีกถึงรูหู
หลังจากวางสายไปแล้ว ผมก็คว้าหมอนข้างขึ้นมากอด แล้วก็กลิ้งตัวไปมาบนเตียง ยิ้มคนเดียว เขินคนเดียว มีความสุขคนเดียวอยู่แบบนั้น ผมรู้สึกหัวใจมันพองโตไปหมด รู้สึกตัวเองราวกับฝันไปที่ได้คุยกับคนน่ารักถึงขนาดนี้ และรู้สึกขอบคุณโชคชะตาจริงๆ ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสได้รู้จักกับพี่คนนี้
ผมอยากรู้จริงๆ ว่าคนหน้าหวาน น่ารัก เรียนดี และเรียบร้อยแบบพี่เขานี้ จะเป็นเกย์ด้วยเหมือนกันหรือเปล่า