B9
คิดๆแล้วผมก็โคตรเซ็ง ไม่รู้จะทำไงกะแหวนดี อยากให้แหวนเลิกคิดว่าผมเป็นแฟนไปซะทีว่ะผมจะได้เป็นอิสระไม่ต้องมาเจออะไรยังงี้ แต่ก็คงป่วยการเพราะคุยกันเป็นล้านหนได้แล้วเรื่องว่าผมไม่ได้คิดอะไรกะแหวนเนี่ย แต่เค้าตอบว่าไงรู้มั๊ย
" ตอนนี้ไม่คิดก็ไม่เห็นเป็นไร แหวนคิดคนเดียวก่อนก็ได้ สักวันฮัทก็จะรู้เองว่าเราน่ะเกิดมาคู่กัน ยังไงก็ต้องลงเอยกันได้ในที่สุดอยู่ดี" เนี่ยล่ะครับ คุณเธอคิดยังงี้จริงๆ ผมพูดแล้วพูดอีกว่าอย่ามายึดกะเรานักเลยไปมองใครอื่นมั่งเหอะ เราเองสักวันก็อาจจะไปชอบคนอื่นเหมือนกันเพราะชีวิตมันอีกตั้งยาวไกลขนาดนั้น แค่แหวนก็ไม่เคยฟังผมหรอก
หรือผมจะผิดเองวะที่ไม่คุยเรื่องนี้ให้เด็ดขาดไปซะที เหมือนกับไปให้ความหวังแหวนซะงั้น ก็โอเคว่ะ ถ้างั้นผมก็คงต้องให้แหวนตัดใจให้ได้ล่ะ เรื่องนี้มันจะได้จบซะที ว่าแต่... ผมจะทำยังไงดีวะ
เออ... ใช่ งั้นก็บอกแหวนไปละกันว่าผมชอบคนอื่นแล้ว จริงด้วยว่ะ มันก็สมเหตุผลดีแล้วนี่ ทีนี้แหวนจะได้เลิกหวังอะไรกะผมซะที แต่ก็ไม่แน่ใจว่ะว่าแหวนจะยอมง่ายๆมั๊ย กลัวแต่ว่าเดี๋ยวจะทำประชดก่อนเรื่องอะไรขึ้นมาอีกน่ะสิ เฮ้อ... แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว งั้นก็ลองปรึกษาไอ้วินไอ้ป่านดูก่อนละกัน
-
-
เที่ยงกว่าแล้วผมกินข้าวกับอาวดีแล้วก็เตรียมตัวว่าจะไปหาฮิ้นท์มัน วันนี้ต้องฝึกเบสิคให้เยอะๆเลย
" ทำไรอยู่ฮิ้นท์" ผมลองโทรไปหามันดูก่อน เพราะตอนนี้ขนของลงมาที่รถแล้วกำลังจะขับไปบ้านมันเนี่ยแหละ
" ............" เสียงมันเงียบๆไป แต่ผมว่าผมได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกันอยู่ตรงนั้นให้ได้ยิน แต่ทำไมมันรับแล้วไม่พูดล่ะวะเนี่ย
" ฮิ้นท์ ฟังอยู่ป่าว"
" อ้อ... ระฆัง เอ้ย... ฟังๆ" งงแดรกทันที อยู่ๆก็ระฆังอะไรของมันวะเนี่ย
" ฮ่าๆๆ เหม่ออะไรเนี่ย ขนาดรับโทรศัพท์ยังเหม่อเลยนะ"
" เราจะ.................." อะไรอีกวะทำไมเสียงมันเบาจนผมไม่ได้ยินเลยเนี่ย หรือว่าสัญญาณไม่ดีวะ
" ฮิ้นท์เราไม่ได้ยินเลยอ่ะ งั้นเดี๋ยวเราโทรหาใหม่นะ" เออ... วางก่อนก็ได้ คงไม่มีสัญญาณมั๊ง
จากนั้นผมก็ขับไปหามันที่บ้านแต่กลายเป็นว่าผมเจอแม่มันทำงานบ้านอยู่ ถามไปแม่เค้าก็บอกว่ามันเข้ากรุงเทพฯไปแล้ว พี่สะใภ้มารับไปกับไอ้ทัก อะไรวะเนี่ย งง... ก็นัดกันแล้วนี่หว่า หรือว่ามันลืม
ลองโทรไปอีกทีก็ไม่มีใครรับอีก แบตหมดหรือว่าไม่มีสัญญาณวะ เซ็งเลย... เอาไงล่ะทีนี้
" แม่ครับ งั้นเดี๋ยวผมกลับก่อนละกัน ขอบคุณมากนะครับ" ผมไหว้ลาแม่แล้วขับออกมา ยังงงๆอยู่หน่อยนึงว่ามันจะเข้ากรุงเทพฯปุบปับไปทำไม
ผมเองตอนนี้ไม่รู้จะไปไหนเลยตัดสินใจแวะไปหาไอ้ป่านที่บ้านมันซะหน่อย ว่าจะไปปรึกษาเรื่องแหวนนี่แหละ พอไปถึงบ้านมันผมก็เห็นมันนั่งอยู่หน้าบ้านพอดี
" อ้าวเฮ้ย.... มาไงวะมึง"
" ขับรถมาดิ... เออ... กูมีเรื่องอะไรปรึกษาหน่อยว่ะ" ผมบอกมันแล้วก็เดินเข้าไปไหว้ป๊ากะม๊ามันในบ้าน จากนั้นก็ออกมานั่งกะมัน
" กูกลุ้มใจเรื่องแหวนว่ะ นับวันยิ่งจะแย่ลงๆทุกที สงสัยกูคงต้องเคลียร์กะแหวนซะทีว่ะ ว่าให้ตัดๆใจจากกูเหอะ ยังไงกูก็ไม่เคยคิดกะแหวนเป็นแฟนหรอก แล้วก็คงไม่มีวันคิดด้วยเป็นแค่เพื่อนยังงี้มันก็ดีแล้วล่ะ"
" เฮ้อ... ก็มึงคุยเรื่องนี้กันมากี่ครั้งแล้วล่ะวะ ไม่เคยสำเร็จซะทีอ่ะแหวนมังฟังใครซะที่ไหน"
" ก็คราวนี้กูจะลองพยายามอีกที ต้องให้เด็ดขาดกันไปจริงๆไม่งั้นก็เหมือนกะว่ากูให้ความหวังแหวนยังไงไม่รู้"
" ก็แปลก... แหวนนี่มันฝังจิตฝังใจจังนะว่าต้องเป็นแฟนกะมึงเนี่ย"
" ก็ทั้งพ่อกูพ่อแหวนอ่ะกรอกหูอยู่ทุกวันนี่หว่า นี่เค้าจะให้กูหมั้นกันด้วยซ้ำไป แต่กูไม่เอาด้วยหรอก"
" แล้วมึงจะกล้าขัดพ่อมึงเหรอวะ"
" คราวนี้คงต้องขัดแล้วล่ะ ไม่งั้นกูคงจบเห่เหมือนกัน กูต้องพยายามอธิบายให้เค้าเข้าใจและยอมรับกูให้ได้เลย"
" งั้นลองหาเหตุผลดีๆละกันมึง พ่อมึงเค้ายิ่งเอาแต่ใจอยู่ด้วยอ่ะ งานใหญ่นะเนี่ย"
" เออ... มันก็ต้องลองดู แต่เรื่องแหวนนี่กูไม่รู้จะทำไงแล้ว กะว่าจะบอกไปเลยว่ากูชอบคนอื่นแล้ว จะดีมั๊ยวะ"
" เฮ่ย... คนอื่นไหนวะมึง" ไอ้ป่านทำหน้าตกใจนิดนึง
" กูมั่วๆขึ้นมาเองน่ะ แค่บอกว่าชอบคนอื่นไปก่อนแหวนจะได้ตัดใจไปซะที"
" แล้วมึงจะอ้างไปลอยๆเนี่ยเหรอ กูว่ามันไม่สมจริงหรอก"
" แล้วจะทำไงอ่ะ ต้องไปหาคนมารับสมอ้างเหรอวะ"
" เออดิ... งานนี้มันต้องมีคนมาเล่นละครกะมึงด้วยมันถึงจะน่าเชื่อ แต่กูว่าแหวนต้องอาละวาดแน่ และคนที่จะโดนก็คือคนที่รับสมอ้างมึงนี่แหละ"
" จริงว่ะ... จะเท่ากะว่ากูหาเรื่องเดือดร้อนให้คนอื่นอีก เอาไงดีวะ"
" ก็ไม่ยาก แค่มึงหาคนที่แรงพอจะรับมือแหวนได้ไงล่ะ ฮ่าๆๆ"
" หา... เฮ้ย มึงอย่าบอกนะว่า....." ผมรีบถามมันทันที มันก็ยิ้มแป้นพยักหน้ารับ
" ใช่... มึงคิดถูกแล้ว กูหมายถึงยัยวิวยัยแจงนั่นไง"
" มึงบ้าและ พวกนั้นยิ่งไม่ถูกกะแหวนอยู่ แล้วที่กูทำนี่มันก็เหมือนกูทิ้งแหวนไปหาเค้านะ ถ้าเป็นงั้นคงได้มีตบตีกันเละแน่"
" หรือมึงจะไปหาคนอื่นล่ะ ถ้าเป็นคนอื่นอ่ะโดนแหวนตามไปแหกอกแน่ๆ มึงจะให้เป็นงั้นเหรอ" มันลอยๆหน้าพูดซะจนผมตระหนักเลย ว่าคงไม่มีทางที่ดีกว่านี้
" เฮ้อ... จะเอาไงดีว้า แม่ง....ง" ผมยิ่งเซ็งหนัก
" เอาเหอะ... เชื่อกู แบบนี้อ่ะเวิร์คแล้ว ลองดูก่อนเหอะ"
" แล้วถ้าสมมติว่าแหวนยิ่งไปอาละวาดตบตีกะพวกนั้นอีกล่ะ มึงจะว่าไง"
" ก็ถ้างั้นจะเอางี้มั๊ยล่ะ มึงไม่ชอบแผนเองั้นกูมีแผนบีอีกแผนว่ะ" ไอ้ป่านยิ้มอย่างมีเลศนัย
" แผนอะไรอีกวะ"
" แผนนี้อ่ะมึงต้องยอมเสียภาพพจน์นิดนึงนะ บอกแหวนมันไปเลยว่ามึงอ่ะเป็นเกย์ไม่ได้ชอบผู้หญิง ฮ่าๆๆ" ไอ้ห่าป่านตบไหล่ผมแล้วก็หัวเราะลั่นเลย
" ไอ้สัดนี่... มึงจะบ้าเรอะ กูยิ่งกลุ้มๆยังจะมาล้อเล่นอีก" ผมตบกบาลมันไปทีนึง
" เอ๊า... ไอ้นี่ หน้ากูดูเหมือนจะล้อเล่นเหรอ วิธีนี้อ่ะแรงก็จริง แต่รับรองได้ผลชัวร์นะเว้ย"
" พอเลยๆ สัด... หาเรื่องให้กูจังนะ ขืนถ้ารู้ถึงหูพ่อกูดิเป็นเรื่องแน่"
" มึงก็แค่บอกแหวนแล้วกำชับว่าอย่าบอกคนอื่นก็สิ้นเรื่อง แต่ถ้าพ่อมึงรู้จริงๆก็ค่อยบอกว่ามึงกุเรื่องขึ้นมา ก็เท่านั้นอ่ะจะเป็นไรไปวะ"
" เออ... มันก็จริงของมึง แต่... แหวนจะเชื่อง่ายๆเหรอวะ"
" ถ้าไม่เชื่อมึงก็ต้องลงทุนอีกหน่อย อ้างไปว่าชอบใครอยู่ก็ได้"
" หา... อีกแล้วเหรอวะ หาคนมารับสมอ้างอีกละ"
" ฮ่าๆ ใช่แล้ว แต่... ต้องไม่ใช่กูนะ ก๊ากๆๆ"
" ถุย... มันก็ต้องไม่ใช่มึงอยู่แล้วล่ะ สัด... แค่คิดว่ามึงเป็นแฟนกูๆก็จะอ้วกแล้ว"
" เอ้าๆ เชี่ยนี่.... ดูถูกกูละ ทำไมวะ กูมันเป็นยังไง ออกจะหล่อเท่ขนาดนี้" มันว่าพลางเสยผมทีนึง หล่อตายห่านะมึงอ่ะ
" เออ.... มึงอ่ะ หล่อมาก....ก สัด.... ว่าแต่... มันไม่มีวิธีอะไรดีกว่านี้แล้วจริงๆเหรอวะ" ผมบ่นไปมันก็ส่ายหน้า
" ช่วยไม่ได้จริงๆ มึงต้องเลือกเอาเองว่ะ ว่าจะเอาวิธีไหนแต่ที่รู้ๆงานนี้มึงต้องใจแข็งมากหน่อยนะ ทำอะไรก็ทำให้มันเด็ดขาดไปเลย อย่าปล่อยให้คาราคาซังเหมือนเดิมอีกล่ะ" ไอ้ป่านสรุป ผมก็ส่ายหน้าไปเหมือนกัน มันรู้สึกปลงๆยังไงไม่รู้อ่ะ
" อืม... งั้นกูจะลองไปคิดดูก่อน"
" เออ... อย่างที่กูบอกนะ มึงต้องทำให้มันเด็ดขาดนะเว้ย ไม่งั้นมันก็จะไม่จบอีก" ไอ้ป่านย้ำ ผมก็พยักหน้าอย่างเซ็งๆแล้วก็กลับมาที่บ้านผม
ผมคิดไปต่างๆว่าจะทำไง จะทำแบบที่ไอ้ป่านบอกดีมั๊ยวะ บอกว่าชอบยัยวิวอยู่แต่สงสัยคงเกิดสงครามแน่ๆ อาจจะไม่เวิร์ค
แต่ถ้าบอกไปเลยว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิงล่ะ แหวนต้องรับไม่ได้แน่ๆแล้วคงรังเกียจผมเลยมั๊งซึ่งมันก็ตรงตามจุดประสงค์ที่ต้องการแต่ถ้าเกิดแหวนดันไปบอกพ่อผมล่ะ งานจะเข้าผมทันทีแน่ๆ แต่ไอ้ป่านบอกนี่ว่าถ้าเป็นงั้นผมก็แค่บอกพ่อว่าผมไม่ได้เป็นเกย์แต่แค่กุเรื่องขึ้นมาก็น่าจะจบ อืม.... ก็น่าคิดว่ะ
เอาล่ะ ผมคิดออกละ เอาทั้งสองวิธีนี่มารวมๆกันดีกว่า ว่าแล้วก็ลงมือเลยละกัน
" แหวน... เรามีเรื่องจะคุยด้วยหน่อยนะ" ผมโผล่ไปหาแหวนที่บ้าน แล้วชวนออกมาคุยกันที่สวนหน้าบ้าน
" มีอะไรอ่ะ"
" คือ... เราต้องบอกแหวนไว้ก่อนน่ะ เราลองมาคิดๆดูแล้วเราอยากให้แหวนทำใจเรื่องเราซะเหอะนะ ระหว่างเราเป็นแค่เพื่อนยังงี้ก็ดีแล้ว เพราะตอนนี้เราชอบคนอื่นอยู่นะ"
" อะไรนะ... ฮัทชอบคนอื่นเหรอ เป็นไปได้ยังไงกัน แล้วมันเป็นใคร หา...." เริ่มล่ะครับ เสียงร้อยเดซิเบลดังขึ้นทันทีอ่ะ
" จะเป็นใครแหวนยังไม่ต้องรู้ตอนนี้หรอก แต่เอาเป็นว่าเรามีคนที่ชอบแล้วล่ะ เราก็คบกันเป็นเพื่อนเหมือนเมื่อก่อน แค่นั้นละกัน"
" เอ๊ะ... แหวนไม่ยอมนะ ฮัทต้องบอกมาเดี๋ยวนี้เลยว่ามันเป็นใคร บอกมานะ" คุณเธอยังไม่ยอม ยิ่งคาดคั้นผมใหญ่ เฮ้อ....
" จะเป็นใครก็ช่างเหอะแหวน ประเด็นคือเราไม่อยากให้แหวนมาหวังอะไรลมๆแล้งๆกะเราอีกแล้วมันเสียเวลาเปล่าๆ ตัดใจจากเราไปเหอะ ในรร.ก็ยังมีคนหน้าตาดีนิสัยดีอีกตั้งเยอะนะ สวยๆอย่างแหวนอ่ะกระดิกนิ้วทีเดียวเค้าก็มาเรียงคิวให้เลือกแล้ว"
" นี่... ถ้ามันตัดใจกันได้ง่ายๆยังงั้นก็คงดีหรอก ฮัทไม่ได้มาเป็นแหวนก็พูดได้สิ ฮือๆ" เฮ้อ... มีน้ำตามาอีกแล้ว ใจแข็งๆไว้หน่อยเว้ย ไอ้ฮัท
" แหวน... ฟังเรานะ ตอนนี้มันอาจจะยากแต่เชื่อเราเหอะ นี่มันเป็นทางที่ดีสุดแล้ว ระหว่างเรายังไงมันก็ได้แค่นี้จริงๆอ่ะ เราไม่เคยคิดกะแหวนมากกว่าเพื่อนจริงๆ แหวนต้องเข้าใจนะ แต่เชื่อเหอะสักวันแหวนก็ต้องเจอคนที่ใช่เองแหละ และเราก็จะอยู่เป็นเพื่อนแหวนยังงี้แหละนะ ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่นา" ผมพูดไปก็จับไหล่แหวนไว้เพื่อปลอบ แหวนก็สะอื้นอยู่ยังงั้นแต่ก็ดูท่าทางเหมือนใจเย็นลงไปเยอะนะ
" ตกลงฮัทชอบคนอื่นแล้วจริงๆเหรอ"
" อืม... ก็แค่ชอบนะ แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกเลยว่าเวลารักใครมันจะเป็นยังไงน่ะ"
" แล้วตกลงคนๆนั้นคือใครล่ะ"
" โทษทีนะ เราบอกใครไม่ได้จริงๆ แหวนอย่าถามเราอีกเลย"
" ทำไมล่ะ....."
" เราต้องเก็บเป็นความลับน่ะ ขอร้องนะแหวน ตอนนี้เราบอกใครไม่ได้เลยจริงๆแต่ถ้าพร้อมจะบอกได้เมื่อไหร่เราบอกแหวนคนแรกก็ได้" ผมพยายามเกลี้ยกล่อมแหวนไป ก็ไม่มีอะไรมาก ผมแค่อยากเบรคอารมณ์แหวนไว้ก่อน เพราะแค่ไม่อยากปั้นเรื่องบอกไปตอนนี้ว่าผมเป็นเกย์ไม่ได้ชอบผู้หญิง ผมเลยต้องแกล้งอุบไว้ก่อนละกัน แต่ถ้าแหวนถามผมมากๆผมก็ค่อยใช้เหตุผลนี้มาอ้างไง ว่าเพราะคนที่ผมชอบมันเป็นผู้ชาย มันจะดูสมเหตุสมผลและน่าเห็นใจมากกว่านะ
" อืม... ก็ได้ แต่..." แหวนอึ้งไปก่อนจะเม้มปากหลุดคำนี้ออกมา ผมกำลังดีใจที่แหวนเหมือนยอมรับ แต่พอเจอคำว่าแต่เข้าไปนี่สะดุดกึกเลยว่ะ
" หือ..."
" ก็ใครๆเค้าก็รู้กันหมดนี่นาว่าแหวนเป็นแฟนฮัท แล้วถ้าฮัททิ้งแหวนไปแหวนจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะ"
" อ้าว... ก็ถ้างั้นจะให้ทำไงอ่ะ"
" ก็แหวนอยากให้ฮัทแค่ช่วยยังทำตัวเหมือนเดิมไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วถ้าฮัทจะไปชอบใครแหวนไม่ว่าก็ได้แต่อย่าทำเหมือนกะว่าเราเลิกคบกันเพราะฮัททิ้งแหวนได้มั๊ย ให้แหวนยังพอเหลือศักดิ์ศรีที่จะมองหน้าคนอื่นได้บ้างเหอะ ได้มั๊ยล่ะ"
" ก็โอเคแหละแหวน เราเข้าใจ ว่าแต่... แหวนจะห่วงเรื่องนี้มากไปป่าวเนี่ย เรื่องจะเสียหน้าเนี่ย"
" ก็แหวนไม่อยากให้อีคนไหนมันมาดูถูกแหวนได้นี่นาว่าโดนฮัทเขี่ยทิ้งแล้ว ฮัทต้องช่วยแหวนนะ ได้มั๊ย...."
" ก็ได้ๆ แต่เอาเป็นว่าเราคุยกันเข้าใจแล้วนะ เรากลับมาเป็นแค่เพื่อนกันแล้วแหวนก็อย่าทำตัวเหมือนกะว่าเป็นเจ้าของเรายังงั้นอีกเลย เราขอแค่นี้แหละ"
" โอเค... แต่เราก็มีอีกอย่างนะที่จะขอฮัท ว่าเรื่องที่เราคุยกันนี่อ่ะ ฮัทห้ามบอกใครนะว่าเราตกลงกันยังงี้ โอเคนะ"
" อืม... ยังงั้นก็ได้ แค่นี้ใช่ป่ะ" ผมยิ้มอย่างสบายใจเพราะรู้สึกว่าอะไรๆจะง่ายกว่าที่คิด
" ใช่... สัญญาแล้วนะ ว่าห้ามบอกใครเรื่องที่เราจะเป็นแค่เพื่อนกันน่ะ ให้คนอื่นคิดว่าเรายังเหมือนเดิมละกัน แหวนขอแค่นี้แหละ" แหวนยิ้มด้วยท่าทางที่ดูจะเข้าใจและยอมรับทุกอย่างได้ดี โล่งใจไปทีเว้ย ยังงี้ต้องฉลองล่ะมั๊ง
To Be Continued