สรุปผมข้อมือขวาแตก หัวแตกเย็บไปเจ็ดเข็ม
ต้นขาขวาบวม แล้วก็ถลอกตามตัว
หนักเอาการอยู่ แค่ให้มันออกแค่ค่ารักษาให้จะคุ้มมั้ยว่ะ(แต่ก็คุ้มครับ เพราะว่ามันหมดไปแสนกว่าๆ เพราะถ้าแจ้ง
ความคงปรับไม่เท่าไหร่ แล้วอีกอย่างมันคงไม่เข้าคุกคงแค่
รอลงอาญา จริงๆผมก้มีประกันฯนะครับ แต่ไม่ใช่ )
ผมมารู้สึกตัวอีก ใครแมร่งมาลูบหัวกูว่ะ
เจ็บอยู่นะเว้ย
"ตื่นแล้วหรอ"ไอ้เต้ย
"อย่าลูบหัว เจ็บ"
"เจ็บหรอ ไม่ลูบแล้ว ไม่ลูบแล้ว"ไอ้เต้ยเอามือออก จากหัวผม
"กินบัวลอยมั้ย"มึงมาอารมณ์ไหนของมึงว่ะ
"บัวลอย"
"อืม บัวลอย กินมั้ย"
"มีหรอ"ไม่ได้กินนานล่ะ คิดถึงเหมือนกัน
"อืม เพิ่งซื้อมา กินมั้ย"
"อืม"อ้าวกู ก็มันอยากกินนี่หว่า ไม่ได้กินนานแล้ว
แล้วมันก็หายไปเอาบัวลอยมาให้ผมกิน
"มากินกัน เด๋ยวป้อนนะ"มันทำท่าจะป้อนผม
"กินเองได้"
"จะกินเองได้งัย มือเข้าเฝือกอย่างนี้อ่ะ"เออ จริงของมัน
"ไม่ดูสภาพตัวเองเลย"ด่ากูอีก กูตกอยู่ในสภาพนี้เพราะคนของมึงนะอย่าลืมสิ
"จะป้อนหรือจะด่า"กวนตีนจริงๆ
"ป้อนครับ ป้อน"
"ขอโทษนะ"อยู่ดีๆไอ้เต้ยก็พูดขึ้นระหว่างป้อนบัวลอยผม
ตอนนั้นผมไม่รู้จะพูดอะไรดีครับ
ก็คงได้แต่เงียบแหละครับ
"ยังโกรธอยู่หรอ"มันถาม
ไม่รู้ดิ โกรธอยู่รึป่าวก็ไม่รู้
ที่กูโดนแบบนี้ก็เพราะมึงเป็นสาเหตุ
แต่กูรู้ว่ามึงก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้
แล้วเหตุผลอะไรที่กูต้องโกรธมึงว่ะ
"โกรธจริงๆด้วย"มันพูดต่อ แถมทำหน้าเศร้าอีก
"ไม่ได้โกรธแล้ว"ผมบอกมันไป
"จริงหรอ"
"อืม"มันยิ้มครับ
"งั้น สร้อยเส้นนี้เต้ยใส่ได้มั้ย"มันชูสร้อยเส้นนึงขึ้นมา
ผมจำมันได้ดีครับสร้อยเส้นนั้น
เป็นสร้อยที่ผมสั่งให้พีทำให้
และที่ทำให้ผมจำได้แม่นเลยก็คือจี้ที่ผมออกแบบเอง
"ไปเอามาได้งัย"ที่จริงนพน่าจะทิ้งให้ผมไปนานแล้ว
"พี่นพเอามาให้ บอกว่ามีบางคนทำให้"
"ทำให้เต้ยหรอ"หมั่นใส้มันว่ะ ตอนนี้หมั่นใส้ชะมัด
"เอาคืนมา"
"เรื่องอะไรจะให้คืน ให้เค้าแล้ว"
"ใครให้มึง"
"อ้าว ก็นี้มันตัว T มันก็ต้องเต้ยดิ"
"ไม่เอา ไม่ให้แล้ว"
"ทำไมล่ะ"
"ก็ กูจะให้แฟนกู มึงไม่ใช่"มันชะงักครับ
"เต้ยขอโทษ เต้ยขอโทษ เรากลับมาเป้นแฟนกันต่อนะ"
"ไม่"
"กานต์อ่ะ ก็เต้ยขอโทษแล้วงัย เต้ยรักกานต์นะ นะ นะ เรากลับมาคบกันต่อนะ"มันตีหน้าเศร้าครับ
ไม่หรอ กูไม่ใจอ่อนง่ายๆหรอก
"เด๋ยวค่อยคุยกันเรื่องนี้ ตอนนี้พากูไปเยี่ยวก่อน"
ตอนนี้ปวดฉี่มากครับ
ไม่ได้ฉี่มาตั้งแต่เมื่อคืน
"ได้"เหมือนมันไม่พอใจครับ
"กูเข้าเองก็ได้ แม่ง"
"โอ้ยอย่างอนสิ มาๆๆ เด๋ยวเค้าพยุงไปนะ"ลำบากเหลือทนครับ
ตอนนี้ขาผมบวมมากเลยครับ
ปวดมากด้วย เดินแต่ล่ะก้าวสุดแสนจะทรมาน
"ให้พยุงมั้ย"มันถาม
"ไม่อ่ะ ออกไป"มันก้ว่างายครับเดินออกไปจากห้องน้ำ
แต่ปัญหามันก็เกิดครับ
ก็อีตอนแก้เชือกกางเกงเนี้ยสิ ลำบากชะมัด
ไอ้แก้ไม่เท่าไหร่ ฉี่เสร็จอีตอนผูกกลับเนี้ยสิ
ทำยังงัยก็ผูกไม่ได้ครับ
ก็ได้แค่ม้วนๆไป
"เต้ย"เรียกมันมาพยุงออกจากห้องน้ำครับ
แต่ไม่ได้กลับขึ้นเตียงนะครับ เบื่อครับ นอนๆอย่างเดียว ก็เลยบอกมันให้ไป
นั่งที่โซฟา ผมนั่งลงที่โซฟาได้ไม่นาน
ก็มีผู้ชายกับผู้หญิงมีอายุคู่หนึ่งเดินเข้ามา
ผมเห็นไอ้เต้ยไหว้สองคนนั้น
มันรู้จักสองคนนั้นด้วยหรอว่ะ
"กานต์ใช่มั้ยจ๊ะ"ผู้หญิงคนนั้นถามผมขึ้น
"ใช่ครับ"
"ป้ากับลุงเป็นพ่อและแม่ของส้ม คือป้าอยากจะมาขอโทษหนูกานต์
อย่าเอาเรื่องเค้าเลยนะลูก"แม่ส้มพูดขึ้น
"ผมไม่เอาเรื่องครับ"ผมบอกแม่ของส้มไป
"จริงหรอจ๊ะ ป้าขอบใจหนูมากเลยนะ"
"แต่ผมขอแค่อย่างเดียว"
"ได้จ๊ะได้ กี่อย่างก็ได้"แม่ของส้มพูด
"อย่างเดียวพอครับ แค่จ่ายค่ารักษาผมทั้งหมด"ผมพูดออกไป
"ได้ๆๆๆ"แม่ของส้มตอบรับ
"แล้วส้มไม่มาหรอครับ"ผมถามออกไป
"อ้อ ส้มเค้าไม่กล้ามานะจ๊ะ"แม่ส้มตอบ
"เค้าจะไม่มาขอโทษผม หรือว่ามาดูหน่อยหรอครับว่าผมเป็นงัยบ้าง"ผมพูดออกไป
ดูพ่อกับแม่ส้มดูตกใจไปนิดๆ
"เค้าไม่กล้ามานะจ๊ะ แต่ยังงัยแม่ก็ขอโทษแทนเค้าด้วยนะกานต์
เรื่องค่ารักษาไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ งั้นแม่กลับก่อนนะ"พูดเสร็จพ่อกับแม่ส้มก็ออกไป
ผมคิดถูกแล้วหรอเนี้ยที่ไม่เอาเรื่องส้มมัน เพราะแค่ขนาดมาสำนึกผิด
ขอโทษผมมันยังทำไม่ได้เลย ระหว่างที่ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเรื่องส้ม
"คิดอะไรอยู่ครับคนดี"มึงจะมาไม้ไหนว่ะไอ้เต้ย พูดซะเพราะเชียว
"อย่าคิดมากสิครับ คนป่วย"ชักแปลกๆ
"อย่าคิดว่าพูดเพราะแล้วจะยอมกลับมาเป็นแฟนนะ"
"รู้ทันที"ไม่พูดป่าวเอามือมาป้วนเปี้ยนแถวๆหน้าอีก
"ทำอะไร"
"ก็จะดูหน้าว่า เสียโฉมป่าว"
"ทำไม เสียโฉมแล้วจะไม่เอากูเป็นแฟนแล้วว่างั้น"
"นั้นๆๆๆ เห็นม่ะ ก็ยังให้เค้าเอาอยู่"เวรกรรมกู ไม่น่าเลย ปากไวกว่าความคิด
"หน้าแดงเลย พูดแทงใจอ่ะดิ อยากให้เค้ากลับมาเป็นแฟนก็บอกมาเหอะ"อ้าวไอ้นี้ กลายเป็นกูง้อมึงหรอว่ะเนี้ย
"กูไม่คุยกับมึงแล้ว พากูไปเตียงดิ จะนอน"ตัดปัญหาครับ
"แหม ใจเร้วใจ ชวนขึ้นเตียงซะแล้ว"
"อย่ามากวนตีน"
"แหมๆๆ อย่าหงุดหงิดสิจ๊ะ"กูเดินไปเองก็ได้ว่ะ ชักอารมณ์เสีย
ผมลุกขึ้นเลยครับ ด้วยความลืมตัวว่าขาตัวเองบวมอยู่
พอลุกขึ้นได้ก็ทรุดเลยครับ ไอ้ทรุดไม่เท่าไหร่ แต่ล้มลงไปทับไอ้เต้ยพอดี
(อะไรจะพอเหมาะขนาดนั้น) แภมกางเกงที่ม้วนๆไว้ก็หลุดครับ ฉิบหายบังเกิด
ดีนะที่เอามืออีกข้างจับไว้ทัน
"แหมใจร้อนจริงนะ"ไอ้เต้ยปากหมา แล้วมันก็กอดผมทันที
"ปล่อย จะไปนอน"
"อยู่นิ่งๆสิ ขอกอดหน่อยนะ"แล้วไอ้เต้ยก็กอดผม
"เด๋ยว"
"อะไร"
"ผูกกางเกงให้หน่อย"
แล้วมันก็ผูกกางเกงให้ผม
แถมยังปากหมาอีก
"แหม ให้ผูกกางเกง คิดว่าจะอ๋อยเค้าได้หรอ"กวนตีนมั้ยครับ
แล้วมันก็กอดผมไว้อีกครั้ง
อ้อมกอดที่คุ้นเคย
อ้อมกอดที่อุ่นเสมอ
ขออยู่อย่างนี้สักแป้ปล่ะกัน...................................
ปล.ดีนะที่ส้มไม่ใช่พี่อ่ะ ไม่งั้นผมคง...ไม่อยากจะคิด