ขอโทษที่มาลงให้ช้า แฮะๆ
เอ็มยังไม่กลับจากบ้านลยอ่า คงเร็วๆนี้นี่แหละนะ วันนี้ก็เพิ่งโทรคุยกัน
ใครที่รอฟิคของเอ็มอยู่ก็ขอให้ช่วยรอปก่อนนะ รับรองว่าเอ็มกลับมาแล้วจะรีบมาต่อให้
จากแอมเพื่อนเอ็ม ผู้สนับสนุนให้ทอดจิแดรกดาย มากกว่าให้ถูกดายแดรก
++++++++++++++++++++++++++++
“ขอบใจมากนะเจ...”เสียงปลายสายตอบกลับมาเพียงแค่สั้นๆ...ไม่เป็นไร เพียงเท่านั้น
“แล้วฉันจะรีบไป”ชายหนุ่มกรอกเสียงลงย่ำอีกครั้ง เพื่อความสบายใจของปลายสายที่อุตสาห์เป็นธุระโทรมาบอกกล่าว
[ ได้ความว่าไง ก็โทรมาบอกกันมั้งล่ะ...]
“โอ.เค. ขอบใจอีกครั้งเพื่อน...ขอบใจนายจริงๆ”
ปลายสายตัดไปแล้ว แต่ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม คำบอกเล่าของเพื่อนหนุ่มเกี่ยวกับคนที่เขารักยังคงดังก้อง ซ้ำไปมาอยู่ในหัวราวกับจะสะท้อนให้เห็นสภาพคนที่เขารักชัดตา
เจบอกให้ไปช่วยคนที่เขารักออกมาจากดาย...น้องชายของเขา
แล้ว...จะให้เขาเข้าไปในสถานะอะไร...?
ให้เขาเข้าไปช่วยยังไง...?
นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปที่นั่นอีก...?
นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่เคยพบกับดาย...กับคนที่เขารัก...?
เขาพาตัวเองหนีออกมานานเกินไป
นับตั้งแต่วันนั้น...
เขาก็รู้ตัวเองมาตลอด...ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำแบบนั้นได้เลย เขามองไม่เห็นหนทาง...ที่จะพาคนรักออกมาจากดายได้
แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร...เดินเข้าไปให้ตัวเองเจ็บอีกครั้งอย่างนั้นเหรอ...?
ชายหนุ่มกุมขมับตัวเอง เคยตั้งมั่นเอาไว้ เขาจะลืมคนที่เขารักให้ได้ จะไม่ขอยุ่งวุ่นวายอะไรด้วยอีก แล้วนี่อะไร...เพียงแค่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับคนนั้น ทำไมหัวใจถึงได้สั่นคลอนเช่นนี้...แน่ใจแล้วเหรอว่าเขาตัดใจจากคนที่รักได้ขาดจริงๆ…แล้วความรู้สึกคิดถึง เป็นห่วงมากมายนี่มันอะไร...มันมาจากไหน....?
โทชิยะจะอยู่ยังไง จะเป็นยังไงบ้าง....?
...
ร่างบางอมยิ้มอย่างมีความสุข...กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงใหญ่กลางห้อง บนตักมีวรรณกรรมเรื่องโปรดกางเอาไว้รอให้เจ้าของติดตามและค้นคว้าต่อ...
แต่ทว่า ที่รวมของสายตาทั้งหมด มันไม่ได้อยู่ที่เรื่องราวในหนังสือเล่มนั้นเลย...
แววตาอ่อนโยนทอดมองหรือจะเรียกให้ถูกก็คงจะเป็นเผลอจับจ้อง เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่นั่งทำงานอยู่ตรงโต๊ะทำงานริมระเบียงห้องนั้นต่างหาก
ทรงผมสั้นสีแดงเงางามพลิ้วไหวไปตามแรงลมที่พัดผ่านหน้าต่างเข้ามา
ดวงตาดุดูมีอำนาจภายใต้กรอบแว่นใสนั้นก็กำลังจดจ่ออยู่กับกองงานมากมายที่รอสรุป
ริมฝีปากหยักสวยพึมพำขมุบขมิบกับตัวเองเบาๆในบางครั้งที่รายงานที่สรุปออกมามันไม่ได้รู้เรื่องเอาซะเลย
นิ้วมือเรียวตวัดปากกาไปมาอย่างตั้งใจ สมาธิแน่วแน่อยู่กับงานที่ทำอย่างเดียว
ริมฝีปากอิ่มเผลอยิ้มออกมาอีกครั้ง เมื่อนึกไปถึง สามสี่คืนที่ผ่านมา...ดายดูเปลี่ยนไปราวคนละคน อ่อนโยน ใจดี ถึงจะไม่ค่อยพูดแต่ก็ไม่ตะคอกหรือดุด่า ให้เขาเจ็บซ้ำน้ำใจเหมือนอย่างที่ผ่านมา ไม่บังคับฝืนใจให้ร่างกายเขาเจ็บซ้ำ...ทุกอย่างเปลี่ยนไป
ถึงไม่มีอะไรกับเขา แต่ทุกคืนก็ไม่ได้หมายความว่าดายไม่ได้กลับมานอนด้วย...เรียวแขนและแผ่นอกยามที่โอบกอดเขาเอาไว้นิ่งๆเขาจำได้ ...ดายออกเวรตอนตีหนึ่งกลับถึงบ้านก็ตีสองทุกคืน...และสามสี่คืนที่ผ่านมา ดายก็ไม่เคยทำอย่างว่ากับเขาเลยซักครั้ง ...จะมีก็แค่ดึงเข้าไปหอมและกอดเอาไว้เท่านั้น
ดายไม่กล่าวถึงเรื่องที่เกิดกับเขาคืนนั้นอีก แล้วเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเขาก็ไม่อยากคิด...ไม่ว่ามันจะเกิดจากอะไรก็แล้วแต่ ...เขาก็ได้แต่ภาวนาให้ดายเป็นแบบนี้ตลอดไป ใจดีกับเขาแบบนี้ตลอด อย่าให้มีอะไรดลบันดาลให้ดายใจร้ายใจดำกับเขาอีกเลย....
“อมยิ้มอะไร...?”น้ำเสียงดุเอ่ยถามเสียงดังเรียกความตกอกตกใจจากร่างบาง จากแก้มที่แดงระเรื่อเปลี่ยนแปลงไปทันที
“ปะ...เปล่า”ตอบออกไปอย่างตะกุกตะกักด้วยความคาดไม่ถึงว่าดายจะหันมามองเขาเข้าโดยบังเอิญ
“เปล่าอะไร...ก็เห็นอยู่”เพียงแค่เขาจะหันมาดูซะหน่อยว่าโทชิยะทำอะไรอยู่ จู่ๆทำไมเสียงโทรทัศน์มันถึงได้หยุดไป แต่เขาก็ดันเจอกับความความ...เอ่อ...น่ารัก...ที่คาดไม่ถึงของคนบนเตียงเข้าให้...
รอยยิ้มถูกใจที่โชว์ฟันเขี้ยวประจำกาย กับดวงตาหวานที่ทอแสงระยิบระยับ ไม่หม่นหมองหรือเศร้าสร้อยอย่างที่เคยเห็น
“ไม่มีอะไร...เพียงแค่คิดอะไรเล่นๆเท่านั้น”ร่างเพรียวจำใจตอบไปเพียงแค่เห็นสายตาคาดคั้นของดาย โทชิยะก็ก้มหน้าหนี ในใจก็นึกไปถึงความเถื่อนและวาจาหยาบกระด้างของดายเช่นที่แล้วๆมาว่ามันจะต้องกลับมาเป็นแบบเก่าอีกแล้วแน่ๆ
“เหรอ....?”
“อื่ม...”ก้มหน้าก้มตามองหนังสือบนตักของตัวเองอย่างเดิม ร่างกายเกร็งขึ้นมาโดยอัตโนมัติรู้สึกริมฝีปากแห้งผากจนต้องเอาลิ้นเลียเบาๆ
แล้วการเคลื่อนไหวของดายก็ทำให้เขาตกใจเป็นคำรบสอง โทชิยะขยับตัวเผลอถอยไปชิดหัวเตียงทันที เมื่อเห็นดายลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหา ชายหนุ่มถอดแว่นออกวางไว้บนหัวเตียงก่อนที่จะเชยคางมนขึ้น เรียวนิ้วยาวบีบบังคับให้สบตา
แล้วริมฝีปากสวยก็ประกบลงเข้าหาทันทีไม่ให้รู้ตัว
ให้ตาย!...จากที่ตั้งใจว่าจะไม่ยุ่งและแตะต้องโทชิยะอีก...แต่เขาก็พ่ายแพ้อย่างราบคาบให้กับท่าทางของร่างบางตรงหน้า...เพียงแค่เผลอสบตาและเผลอจ้องมองเท่านั้น
เรียวลิ้นดุนดันควานหาความหอมหวานครั้งแล้วครั้งเล่า จากที่แค่คิดเอาไว้ อยากจูบ...ขอแค่จูบบางๆเพียงเท่านั้น...แต่ มันคงจะไม่ได้แล้ว เกินห้ามใจจริงๆ
สัมผัสที่ต้องการ ทั้งโหยหาและปรารถนาอยู่ต่อหน้า เก็บเกี่ยวและตักตวงให้มากถึงมากที่สุด เท่าไหร่ก็ไม่พอ ลมหายใจร้อนผ่าว เสียงหอบครางกระเส่า ปลายจมูกที่สัมผัสกัน เรียวลิ้นที่ดุนดันเข้าตอบ ฟันเขี้ยวที่งบขับกลีบปากเขาเล่น รวมถึงวงแขนที่โอบกระชับรอบคอของเขา ...ทั้งหมดเขารับรู้ได้เป็นอย่างดี
แล้วแบบนี้เขาจะเอาอะไรไปหักห้าม ยั้งใจได้ ...ถ้าเขาจะกอดโทชิยะขึ้นมาจริงๆ...ไม่มีทาง
มันจะไม่มีทางเป็นแบบนั้นได้อีก...ไม่เด็ดขาด...
“ตั้งใจ อ่านหนังสือของนายต่อไปซะ...”จู่ๆเรียวลิ้นก็ถอนออกอย่างรวดเร็วในขณะที่ร่างบางแทบจะถูกดันลงไปนอนอยู่รอมมะร่อ
วรรณกรรมเรื่องเดิมถูกยัดลงในมือ ในขณะที่เจ้าของกำลังงงและสับสนเต็มที่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น!
รู้สึกเหมือนถูกแกล้ง ไอ้หมอบ้า!อ่านรู้เรื่องที่ไหนกันเล่า!
ในหัวนั้นขาวโพลนเต็มไปด้วยรสจูบที่ยังไม่เลื่อนหายไปไหน ลมหายใจยังคงหอบด้วยความกระเสร่า...ปรางแก้มและเรียวลิ้นยังคงตราตึงเต็มไปด้วยสัมผัสของชายหนุ่มผมแดงจนรู้สึกได้เป็นอย่างดีแม้ว่าดายจะถอนเรียวลิ้นออกไปแล้วก็ตามที
งี่เง่าชะมัดโทชิยะ!หลงคิดอะไรอยู่!
เสื้อยืดตัวบางที่ถูกถลกขึ้นมาถึงหน้าอก ซิปกางเกงที่ดายปลดออกเองกับมือ ผิวขาวเนียนที่ขึ้นรอยแดงจากมือเขา รวมทั้งใบหน้า ริมฝีปากก็แดงพอๆกัน ส่วนดวงตานั้น...บ้าชะมัด!
… ต้องการเขามากเหรอโทชิยะ...ถึงได้มองเขาแบบนั้น...
ดายผลุนผลันคว้าแว่นตามาสวมแล้วลงจากเตียงเดินออกไปทันที ทิ้งให้โทชิยะเรียบเรียงลมหายใจและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงลำพัง
“...ให้เวลาครึ่งชั่วโมง จัดการตัวเองให้เรียบร้อย”แต่ก่อนที่ดายจะออกไปพ้นประตูดี ใบหน้าคมคายนั้นก็หันกลับมาบอกอย่างเผด็จการ
“ทำไม..?”โทชิยะอดเอ่ยถามด้วยความสงสัยไม่ได้แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่กล้าสบตากับดายก็ตาม มือบางกระชับผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเองลวกๆ