*ฉัน(กรู)..มีค่าแค่ไหน...?
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *ฉัน(กรู)..มีค่าแค่ไหน...?  (อ่าน 132092 ครั้ง)

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
*ฉัน(กรู)..มีค่าแค่ไหน...?
« เมื่อ07-10-2007 15:44:35 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ









เรื่องใหม่ครับผม...

ออกแนวไซโคฯนิด แฮ่ๆๆ

ฝากกันเอาไว้อีกเรื่องนะครับ



*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2010 15:36:34 โดย THIP »

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
Re: *** ฉันมีค่ามากแค่ไหน...? ( 1 ) ***
«ตอบ #1 เมื่อ07-10-2007 15:47:33 »

ฉันมีค่าแค่ไหน  ( 1 )


แปลกนะคนเรา... ในชีวิตนี้...
มีเรื่องราวดีๆต่างๆมากมายให้จดจำ แต่ทำไมกลับไม่จำ
เรื่องที่ไม่น่าจดจำ  แต่ทำไมกลับจำฝังใจ
ทั้งร่างกาย  ทั้งหัวใจ  ซึมซับเอามันไว้ทุกส่วน
แทรกซึมไปทุกรูขุมขน  ไปทุกตารางนิ้ว

เหยียบย้ำกันเข้าไปสิ  ข่มเหงรังแกกันให้มากกว่านี้อีก
ฆ่ากันให้ตายคามือไปเลยก็ได้
เรื่องราวของคุณ สัมผัสของคุณ และตัวตนของคุณ
จะได้ลบเลือน  ไม่ต้องจดจำอีกต่อไป

ความรู้สึกที่มีให้ ก็จะมลายหายไปด้วยเช่นกัน

เหตุผล...ของการมีชีวิตอยู่ของฉัน  จะได้สิ้นสุดลงเสียที...
...

คมมีดกรีดลึกลงช้าๆ... ค่อยๆ กดผ่านผิวหนังลงสู่เนื้อใน ปล่อยของเหลวสีแดงฉีดทะลักพุ่งออกมา

รอยแรก บาดลึกนึกถึงความข่มขื่น ร้าวรานทั้งหลายแหล่ที่ได้รับ ...ยัง...มันยังไม่พอ เจ็บแค่นี้มันยังไม่สาสมเพียงพอกับความทุกข์ระทม ทรมานนั้น

ประทับคมมีด กรีดผ่านสร้างรอยใหม่ลงไปอีก...เรื่อย เรื่อย...อีกรอย..อีกรอยสิ...สาม...สี่...ห้า.. เรื่องราวร้าวฉาน ชีวิตที่น่าอดสู จะมีค่าอะไร อยู่ไปก็แค่นั้น

เอามันออกมา...ออกมาจากตัว ไหลออกมาอีก...ม่านตาเริ่มพล่ามัว น้ำตามากมายไหลออกมาไม่สามารถห้ามได้

...สาแก่ใจคุณหรือยัง...   ...ยัง...ยังอีกใช่ไหม...

รอยลึกบาดหัวใจ แผลสุดท้ายช่วยปลดปล่อยสู่อิสระ…

ลำแขนตกลงข้างกาย ของเหลวแห่งความน้อยใจ เสียใจ และทรมาน ไหลไปตามข้อมือ ฝ่ามือ ง่ามนิ้ว ลงสู่ผืนผ้าสีขาวเป็นรอยแดงขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ


อ่อนล้า เจ็บข้างในมากกว่าเจ็บที่กายยิ่งนัก ...น้ำตานี่จะไหลทำไมกัน?

ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของบุรุษเพศ คิ้วสวยเรียวหนา แววตาคมกริบ เจ้าของบรรยากาศเถื่อนดิบและกดดันคนนั้น จะไปคิดถึงทำไม! น้ำตานี่ไหลให้กับความเย็นชาแข็งกร้าวอย่างนั้นหรือ..?.


หนาวทั้งกายและหัวใจ สะท้านเจ็บปวดไปทั้งทรวง...

ไร้เรี่ยวแรงที่จะสู้ทนหรืออยู่ต่อไปได้อีกโกรธ เกลียด ฉุนเฉียว เกรียวกราด อากัปกิริยาและวาจาเฉยชาที่แช่แข็งหัวใจ...พอกันเสียที จะไม่ต้องกลัวและหวาดผวาอีกต่อไป


เรือนกายสวยงาม ผิวขาวเนียนละเอียด ...เรือนร่างนี้ไร้ความหมาย

ความต้องการอย่างบ้าระห่ำ กอดที่ไร้ความทะนุถนอม จูบเพื่อกิจกรรมกามารมณ์ ถูกเคล้นคลึงด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ทั้งหมดทั้งมวลนี้ปราศจากความรัก นอนกับเขา...มีเซ็กส์เพื่อสนองตัณหาเท่านั้น


ผม...มันก็มีค่าแค่นี้เอง... มีค่าแค่...สิ่งของระบายอารมณ์…
เป็นได้ก็แค่เท่านี้...
...............
.......................
..........................
..............................

“กรี๊ดดดด! คุณโทชิยะ!!! ตายแล้ว โธ่!คุณโทชิยะ! ไม่นะคะ ช่วยด้วยใครก็ได้อยู่ข้างล่างตามคุณดายที!!ช่วยด้วย! คุณโทชิยะๆๆ !!!” เสียงเอะอะ อึกทึกดังอยู่ข้างๆหู

...ไม่นะอย่าตามเขา ไม่...ผมไม่ต้องการให้เขามาช่วย...

ดวงตาพร่าพราย ลำคอแหบแห้งเป็นผง ส่ายหน้าปฏิเสธความหวังดีนั้น

...อยากจะบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงผมอีกแล้ว แต่ก็ไม่สามารถเปล่งคำใดออกมาได้

“ไม่นะคะคุณโทชิยะ!คุณต้องไม่เป็นอะไรนะคะ ได้ยินที่ป้าพูดไหมค่ะ? ได้ยินไหม? ฮึก!”

...ได้ยินซิครับ ผมได้ยินแล้ว...ขอบคุณป้ามากที่ดูแลผมมาตลอด...ขอบคุณป้ามากที่คอยเป็นห่วงเป็นใยผม...แต่นับจากนี้ต่อไปอย่าเป็นห่วง ร้องไห้ให้ผมอีกเลยนะครับ...

ฝ่ามือยกขึ้นลูบใบหน้าของหญิงวัยกลางคนได้อย่างยากเย็นเหลือเกิน ร่างกายเริ่มอ่อนแรงเต็มที อีกแค่อึดใจเดียว...อีกนิดเดียวเขาจะทำสำเร็จ หลุดพ้นจาก....

“ปะ...ป้า มาอิ ...ฝากบอก...บอก ดายด้วย ผะ..ผม...”น้ำเสียงที่ขาดหายเป็นช่วงๆ  วาจาเอื้อนเอ่ยออกมาได้อย่างตะกุกตะกัก ...อยากฝากบอกถึงคนนั้น...อยากบอก...แต่คงไม่สามารถแล้ว!

ขอโทษ!!!!

ใบมีดหลุดลงจากมือ ตกลงพื้นไร้ประโยชน์อีกต่อไป

“ฮึก!เมื่อไหร่คุณดายจะมาซักทีนะ มาเร็วๆซิค่ะ คุณต้องไม่เป็นอะไรนะคะคุณโทชิยะ ทำใจดีๆไว้ คุณโทชิยะๆไม่นะคะ”ป้ามาอิร้องไห้คร่ำครวญด้วยความกระวนกระวายใจ เพราะรอบบ้านแทบไม่มีใครอยู่ หล่อนจะทำเช่นไรดี ลำพังตัวหล่อนเองคงไม่สามารถพาคุณโทชิยะไปโรงพยาบาลได้

โธ่!ทำอะไรลงไปนะคุณโทชิยะ!!!

ผ้าห่มถูกดึงขึ้นมาคลุมร่างเปลือยเปล่าแน่นิ่งที่สลบไปนั้นเอาไว้ลวกๆทันที น้ำหูน้ำตาไหลพราก มือไม้สั่นรนทำอะไรไม่ถูก

...เจ้าลูกตัวดี เวลาแบบนี้มันหายไปไหนกันนะ

“คาโอรุๆๆ มาช่วยแม่ที!” นางร้องตะโกนหาลูกชาย แข่งกับการเต้นของชีพจรจากร่างบางที่อยู่ต่อหน้า...ลมหายใจแผ่วลงไปทุกขณะ ที่ข้อมือเลือดก็ไหลออกมาไม่หยุด

“เอะอะอะไรกันมาอิ!!”เสียงตวาดดังขึ้นข้างหลัง ชายหนุ่มไม่ทันได้เอะใจกับร่างเพรียวสวยที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงแต่อย่างใด

“คุณดายๆ  คุณโทชิยะค่ะ คุณโทชิยะเธอ…เร็วค่ะ”ด้วยสภาพที่น้ำตานองหน้าของมาอิ บวกกับอาการควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้ดายรีบสาวเท้าจ้ำไปที่เตียงทันที ...

รอยเลือดซึมกว้างออกมานอกผ้าห่ม...ใบมีดขาววาววับสะท้อนความคมมีเลือดติดตกอยู่บนพื้น...ใบหน้าที่เคยมีเลือดฝาด บัดนี้กลับซีดเผือด ลมหายใจที่โรยริน บ้าที่สุด!มันน่านัก!!

“ป้าไปบอกให้คาโอรุเอารถออกเลยนะ!นายทำอะไรลงไปโทชิยะ!ทำบ้าอะไร!!อยากตายมากนักใช่ไหม!!!”

น้ำเสียงตวาดถามพร้อมกับตะคอกใส่ร่างที่นอนนิ่ง  สองมือเขย่าร่างที่ห่อหุ้มด้วยผ้าห่มขึ้นมาถามใหญ่ แม้กระทั่งผ้าห่มหลุดกระจายลงข้างเตียงก็หาได้สนใจใยดีไม่ ร่างบางทำได้ก็แค่ปรือตาขึ้นมองเขาแค่นั้น แล้วก็สลบไปอีก

“โธ่โว้ย!อยากตายมากนัก ทำไมไม่กรีดให้มันลึกกว่านี้!เชือดเส้นเลือดใหญ่ให้มันขาดไปเลยซิ!! แค่นี้มันไม่ทำให้นายตายได้หรอก!!!”วาจาเกรียวกราดตะโกนบอก คิ้วเข้มตวัดขึ้น ขบกรามแน่นด้วยอารมณ์ที่เดือดพล่าน แสดงท่าทางที่ไม่ยี่ระต่อร่างเพรียวเบื้องหน้า ดึงตัวขึ้นมาตะคอกถามอีกครั้งด้วยโทสะที่ลิ่วสูงก่อนที่จะคว้าเอาร่างที่ไม่รู้สึกรู้สมนั้นมาไว้ใต้วงแขน ตรวจดูบาดแผลที่ข้อมือพลางกดรอยแผลเอาไว้แน่น

“คุณหนูอย่าค่ะ พอเสียทีนะคะคุณหนู แค่นี้คุณโทชิยะเธอก็..”มาอิร้องห้ามใหญ่ หันรีหันขวางยิ่งเห็นตามเนื้อตัวของคนที่เธอเป็นห่วงนักหนา เต็มไปด้วยร่องรอยจากคุณหนูตัวเองแล้วก็ยิ่งร้องไห้สงสารแทบขาดใจ ผิวพรรณขาวเนียนแดงซ้ำเป็นปื้นใหญ่จนมองเห็นชัดเจน

“ฉันบอกให้รีบไปตามคาโอรุเตรียมเอารถออกมาอิ!”ดายตวาดลั่นอีกครั้ง จนมาอิลนลานวิ่งลงไปทำตามคำสั่ง เขาจึงสาวเท้าไปที่ตู้ยาข้างห้องน้ำแล้ว ค้นหาผ้ากอซเอาออกมาพันห้ามเลือดไว้ก่อนที่จะถลาหยิบเอาผ้าห่มมาคลุมร่างเพรียวลวกๆรีบอุ้มเอาร่างเพรียวขึ้น วิ่งตามมาอิลงไปทันที


...
ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำลายทาง สวมทับด้วยเสื้อกราวน์สีขาวยืนหันข้างให้กับเตียงผู้ป่วย กำลังตรวจดูปริมาณน้ำเกลือในขวดที่แขวนอยู่ใกล้เตียง

ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของบุรุษเพศ คิ้วสวยเรียวหนา แววตาคมกริบ เจ้าของบรรยากาศเถื่อนดิบและกดดันคนนั้น!!!

เรียวนิ้วขาวสะอาดจดบันทึกอาการและผลการรับน้ำเกลือลงในสมุดประจำตัวผู้ป่วย ทรงผมสั้นตัดซอยเรียบรับกับใบหน้า เรือนผมเงางามทอประกายแดงยิ่งเสริมให้ใบหน้าคมเข้ม ดูขรึมสะดุดตายิ่งขึ้น กรอบแว่นบางใสที่สวมรับกับจมูกคมโด่งนั้นไม่สามารถปิดบังแววตาเย็นชานั้นได้เลย

ร่างเพรียวบนเตียงกัดริมฝีปากอิ่มของตัวเองเอาไว้ คับแคนที่ใจ เจ็บปวดไปทั้งตัว หันหน้ามองไปทางอื่นเสีย หลับตาลงอีกครั้ง...ไม่อยากเห็น ก่อนที่จะเค้นเสียงถามออกไป

“ช่วยฉันไว้ทำไม?”ไหนว่าโกรธ เกลียดนักหนา หน้าก็ยังไม่อยากจะมองด้วยซ้ำ

“อยากตายมากนักใช่ไหม!”ใบหน้าคมหันมามองนิ่ง อารมณ์ที่ข่มจนสงบลงไปแล้วนั้น ค่อยๆปะทุขึ้นมาอีก แววตาวาวโรจน์ ขยับตัวมาจนชิดขอบเตียงไม่สนใจตอบคำถามเรื่องที่ก่อขึ้นเมื่อคืน นึกแล้วยังโกรธไม่หาย

“ก็ดีไม่ใช่เหรอ ไปให้พ้นๆ...มันไม่ดีหรือไง!?”โทชิยะพยายามประคองตัวเองลุกขึ้นนั่ง เพื่อประจันหน้ากับอีกฝ่าย เรียกความกล้าด้วยการประสานสายตากับดวงตาคมดุนั้น บังคับข่มความรู้สึกเอาไว้ แต่กระนั้นสองมือก็กำไว้แน่นกดลงกับเตียง นัยน์ตาเริ่มสั่นระริกห้ามไม่อยู่

ในที่สุดก็ยังหนีไม่พ้น...

“ตาย..มันยังเร็วไปสำหรับคนอย่างนาย”ฝ่ามือแกร่งคว้าจับสันคางมนบีบแน่นด้วยความโกรธก่อนที่จะใช้สายตาถากถางให้เจ็บปวด ยอมปล่อยมือให้ใบหน้ามนสะบัดหันไปตามแรง เชือดเฉือนด้วยการกระทำและคำพูดให้อีกฝ่ายเจ็บซ้ำมากที่สุด

“ทำไม ฉันไม่เข้าใจ คุณมันใจร้าย!ทำไมไม่ปล่อยฉันให้ตายๆไปซะ!!จะกักขังหน่วงเหนี่ยวฉันไว้ทำไม!!!?”ร่างเพรียวงดงามสั่นไหวด้วยแรงอารมณ์ น้ำตารินไหลอาบปางแก้มซีดเผือดทันที

...ร้องไห้ทุกครั้งที่คุยกับคนๆนี้ ฝ่ามือที่กำแน่นทุบลงบนเตียงด้วยความอึดอัดไม่มีทางออก ไม่เข้าใจ และไร้หนทางระบาย


“จนกว่า...ข้างในนี้ของฉันจะหายนะสิ...หยุดนะ!ฉันบอกให้หยุด!!” ดายตวาดใส่ร่างเพรียว เข็มน้ำเกลือหลุดกระเด็นตกลงบนพื้นเมื่อโทชิยะเริ่มสติขาดไม่ยอมนั่งนิ่งอยู่เฉยๆ เข้าทุบตีดายใหญ่ด้วยความอัดอั้นตันใจอยากที่จะกลั้นไว้ได้อีกต่อไป

...เป็นเขาทุกครั้งที่อ่อนแอ
...เป็นเขาทุกครั้งที่ร้องไห้
...เป็นเขาทุกครั้งที่เสียใจ
...เป็นเขาทุกครั้งที่ผ่ายแพ้ต่ออีกฝ่าย
...เป็นเขาทุกครั้งที่เจ็บใจ!!
...มันจะเป็นแบบนี้ตลอดไปหรือไงกัน?
...แพ้ใจตัวเองทุกครั้งอะไรกันนักหนา
...ไม่เข้าใจ!และไม่อยากเข้าใจ!!!
...บ้าที่สุด!!!

“คนบ้า!ใจร้ายที่สุด!ไม่มีหัวใจ!”สำหรับคนๆนี้เขาทนมามากพอแล้ว จะต้องกลัวอะไรอีก มีอะไรที่ต้องให้กลัวอีก!

“หัวใจฉันมันตายไปนานแล้ว!ตายไปพร้อมๆกับเรื่องที่นายทำขึ้นนั้นแหละ!! นายมันชั่วช้า ใจร้ายยิ่งกว่าฉันเสียอีก!!!”ดายทั้งตวาดทั้งตะคอก รุกไล่เข้าไปชิดตัวหมายทำให้คนตรงหน้าเจ็บปวดอย่างที่เขาเคยเป็น


“ฉันไม่ได้ตั้งใจ!บอกกี่ครั้งแล้วว่าฉันขอโทษ ฉันไม่ได้เจตนาให้มันเป็นแบบนั้น!!คุณมันบ้า ไม่มีเหตุผล ฉันเกลียดคนอย่างคุณที่สุด!!! ได้ยินมั๊ยว่าเกลียด!!!!”โทชิยะแผดเสียงใส่ลั่นเท่าที่จะเปล่งออกมาได้ในขณะนี้

 ...ซาตานในคราบของนักบุญคนนี้ไร้หัวใจ ใจร้ายกับเขายิ่งนัก!

ความผิด ข้อต้องหาที่พยายามยัดเยียดให้ จะต้องให้บอกกี่ครั้งว่าเขาไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น!


“อย่าเข้ามานะ ไม่!!!”น้ำเสียงห้ามสั่นรน ร่างเพรียวถอยกรูดชิดหัวเตียงอย่างจนตรอกทั้งหวาดกลัวและผวาต่อแรงอารมณ์ของอีกฝ่าย หมอนถูกเหวี่ยงใส่หน้าดาย ออกอาการดิ้นรนเอาตัวรอดจากมือที่จะเข้ามายื้อจับตัวเขาไว้ จนแทบตกเตียงแต่ดีที่ดายคว้าจับเอาไว้ได้ทัน


“เกลียดมากนัก ก็อยู่กับคนที่นายเกลียดต่อไปเถอะ!”ดวงตาคมโตดุดันน่ากลัว ฝ่ามือแกร่งไล่จับข้อมือของโทชิยะที่กำลังเริ่มทุบลงบนอกเขาอีกครั้ง กดข้อมือบางลงกับพื้นเตียงเผลอบีบบาดแผลของอีกฝ่ายจนเลือดไหลซึมออกมา

สะใจ!!
อยากทำให้เจ็บเหมือนกับที่เขาเคยเจ็บ!!!
อยากทำให้ปวดเหมือนกับที่เขาเคยเป็น!!!
ทรมาน...จนแทบบ้า
คลุ้มคลั่งแทบไม่เป็นผู้เป็นคน
ทั้งหมดทั้งมวล มันจะต้องรับเอาจากเขาไป!

“ไม่!ไม่!!ปล่อยชั้น!!!”โทชิยะฟิวส์ขาดกระจายดิ้นรนขัดขืนใหญ่  ความเจ็บที่ข้อมือไม่ได้สนใจ ในเวลานี้สิ่งที่ต้องการก็คือ หลุดพ้นจากความใจร้ายใจดำและความเย็นชานี้ การถูกมองด้วยสายตาแบบนี้มันเจ็บมากกว่ากลัวความตายเสียอีก...หวาดผวา กลัว คนตรงหน้ายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

ตะเกียกตะกายดิ้นหนีลงจากเตียง เมื่อเห็นอีกฝ่ายเป็นดั่งปีศาจหรือซาตาน

“หยุดบ้าได้แล้ว!หยุดโทชิยะ!!”ดายตวาดซ้ำลั่นอีกครั้งก่อนที่ฝ่ามือจะตามลงมา ประทับบนใบหน้าซีดเซียวให้รู้สึกตัวได้สติ ตามลากแขนอีกฝ่ายถลาเข้าหาตัวเองโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเจ็บมากแค่ไหน จนโทชิยะเสียหลักร่างเพรียวปะทะกับหน้าอกของดายเข้าเต็มแรง

ได้ผล...การดิ้นรนขัดขืนทั้งหมดหยุดลง แต่เสียงสะอื้นก็ดังอยู่ตลอดเวลา

ไม่มีเสียงร้องห้ามจากเขา ไม่มีเสียงครางของความเจ็บปวดที่ได้รับให้ได้ยิน สะบัดใบหน้าหันมามองด้วยสายตาวาวโรจน์แต่กระนั้นก็ยังฉายแววหวาดหวั่นออกมาชัด สันคางสั่นจนควบคุมไม่ได้ น้ำตาไหลไม่ยอมหยุด เนื้อตัวก็สั้นไหวแต่ก็ยังสบตากับอีกฝ่ายไม่ลดละ 

น้ำตานี่...ไม่เคยทำให้ใจอ่อนลงเลย...ซักครั้งใช่มั้ย...?
ไม่เคยทำให้ใจสั่นคลอนเลยลงหรือไง...?

ไอ้บ้าๆๆ!!!!
ไอ้งี่เง่า !!
ไอ้ทุเรศ!!
 ไอ้สันดาน!!

ไม่นะ!
ปล่อย!!
ไม่เอา!!!

พยายามหันหน้าหนีใบหน้าคมที่โน้มลงมา แต่ก็...ทำไม่สำเร็จ!
ริมฝีปากแห้ง เรียวลิ้นร้อนผ่าวมันรับเอาสัมผัสของคนที่บอกว่าเกลียดคนนี้เข้ามา...จนได้

ดายบดเบียดริมฝีปากลิ้มรสจากอีกฝ่าย...ไร้ซึ้งความอ่อนโยน บดขยี้ดูดซับเรียวปากอิ่มจนร่างเพรียวแสบร้อนรอบๆบริเวณที่ถูกรสจูบบดเบียด เสียงครางอู้อี้ได้แต่ร้องประท้วงอยู่ในลำคอ เรียวแขนที่แทบไม่เหลือแรงยกขึ้นผลักหน้าอกอีกฝ่ายออกห่างแต่ก็ไร้ผล

ร่างแกร่งหาได้สนใจไม่...สอดมือสอดเข้าใต้สาบเสื้อชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาล เข้าเคล้นคลึงผิวเนียนนิ่มมือด้วยอารมณ์โกรธที่คั่งค้างและที่พึ่งถูกก่อขึ้น ริมฝีปากลากผ่านลำคอลงมาขบเม้มแรงๆจนขึ้นรอยเด่นชัด กัดงับดูดเม้มผิวขาวผ่องหมายสั่งสอนให้หลาบจำ

...อย่าได้คิดทำอะไรบ้าบอ งี่เง่าแบบนี้อีกเป็นอันขาด!

“ที่โดนมามันน้อยไปหรือไง หรืออยากให้ฉันทำมากกว่านี้!”ฟันคมกัดซ้ำลงบนรอยเก่าที่ยังไม่ทันจางหายบนแผ่นอกขาวเนียน โทชิยะกัดฟันทน ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ

รอยที่หนึ่ง....สอง...สาม...ซ้ำรอยเก่าลงไปเรื่อยๆ...จะอีกกี่รอย จะอีกกี่ครั้ง มันก็ตราตรึงฝังแน่นให้ใจได้ตระหนักทุกครั้งไป

.......................

..............................................

“พะ...พอ...พอทีดายย...”ครางบอกเสียงแผ่ว แทบนับครั้งได้ที่เขาเอ่ยชื่อคนๆนี้ เรี่ยวแรงที่เหลือแทบประคองตัวเองไม่อยู่ หลังจากที่ดายยอมถอนริมฝีปากออกไปแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยตัว ใบหน้าที่ซีดเซียวอยู่ก่อนหน้า บัดนี้กลับยิ่งเผือดสีลงไปยิ่งกว่าเดิม ลมหายใจขาดห้วง ที่ข้อมือบาดแผลแยกปริ เลือดไหลเป็นทางลงมาอีกครั้ง


“นายต้องอยู่กับฉัน!จำไว้อย่าได้พยายามทำอะไรงี่เง่าแบบนี้อีก!!ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน นายจะเจ็บมากกว่านี้อีกร้อยเท่า จำไว้!!!” ดายสบถใส่หน้า ขู่เขา ดวงตากร้าวจนน่ากลัว เขารู้ว่าดายทำได้ และทำจริงๆ

“จะทำ..ฉันจะทำอีก..  ....จะทำ...จะทำ!...จ-”น้ำเสียงตะคอกกลับขาดหายลงไปในลำคอ หูตาเริ่มอื้ออึ้ง อาการหน้ามืดเข้ามาเยือน...ถึงต้องเสียเลือดเสียเนื้ออีกกี่ครั้ง...แต่ถ้ามันสามารถหลุดจากความเจ็บที่เหมือนกับตายทั้งเป็นนี้ได้…เขายอมแลกมันมา

“ถ้าคิดว่าทำได้...ก็ลองดูโทชิยะ!”ดายยิ้มเหี้(ย)ม ขู่ด้วยการลูบไล้ที่ต้นคอ แล้วค่อยๆออกแรงบีบช้าๆให้หายใจไม่ออก

“ฉัน..จ.-จะทำ..”ร่างสูงแค่นยิ้มให้อีกครั้งก่อนที่จะคลายแรงที่บีบอีกฝ่ายนั้นออก พร้อมกับนัยน์ตาสวยของโทชิยะที่ปรือปิดลง หมดสติไปด้วยอาการอ่อนเพลีย แผ่นหลังบางหงายหลังจะล้มลงไปดีที่ดายรับไว้ได้ทัน

 
“ฉันคงยอมให้นาย...ตายได้ง่ายๆหรอกนะ...”เสียงแผ่วผิวที่เผลอพูดออกมากับอีกฝ่ายที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวไปแล้วเล็ดรอดอกมาจากริมฝีปากสวย

จัดการให้ร่างเพรียวนอนลงบนเตียงผู้ป่วย คลุมผ้าให้ เรียวนิ้วลูบไล้ริมฝีปากอิ่มช้าๆ สายตาที่เจ็บปวดรวดร้าว ฉายชัด สายตาที่ไม่เคยแสดงให้อีกฝ่ายได้เห็น


เขาสะบัดหัว ไล่ความรู้สึกและจิตใจที่แอบซ่อนเร้นแฝงไว้ให้หลุดไป ก่อนที่จะกดสัญญาณข้างหัวเตียง เรียกพยาบาลมาจัดการดูแลแทนต่อจากเขา

“ดะ...ดายยย”

เรียวขายาวชะงักอยู่ที่หน้าเตียง ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าออกเดินเสียงเรียกชื่อผะแผ่วที่นานครั้งร่างเพรียวจะยอมเอ่ยเรียกให้ได้ยิน เขาก้มลงแนบใบหูกับริมฝีปากของอีกฝ่ายอยู่นาน แต่ก็ไม่มีสุ่มเสียงใดเล็ดรอดออกมาอีก

“บ้าจริง!!!” นายหวังอะไรกันดาย ...สบถด่าตัวเองด้วยอาการหัวเสีย ก่อนที่จะหันหลังเดินออกห้องไป

....................
...........................
......................................


“อ้าวคาโอรุ! ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ?”เมื่อเปิดประตูห้องออกมาก็พบกับใบหน้าร้อนรนของผู้ที่เป็นทั้งลูกน้องคนสนิทและเป็นทั้งเพื่อนเล่นมาตั้งแต่เด็กๆนั่งรออยู่

“ยัง...เอ่อ...โทชิยะเป็นยังไงบ้างดาย”ชายหนุ่มอดถามด้วยความร้อนใจไม่ได้ เมื่อคืนไม่ได้อยู่เฝ้า เช้านี้เขาก็เลยรีบมาดูว่าอีกฝ่ายปลอดภัยดีอยู่หรือเปล่า

“ทำไม? ...เป็นห่วงเหรอ...สลบไปแล้ว เข้าไปเยี่ยมสิ แต่ว่าเยี่ยมได้ไม่นานนะ เดี๋ยวพยาบาลจะมาทำแผล”

“อื่ม...ครับ”ชายหนุ่มเพียงแค่รับคำเท่านั้น เรื่องราวระหว่างดายกับโทชิยะเขารู้เห็นมาตลอด เจ้านายเขาทำอะไร ทำไมเขาจะไม่รู้ ... นับวันๆเขาก็ไม่เข้าใจจิตใจของดายมากขึ้นไปทุกที จนเดี๋ยวนี้เขาไม่กล้าสนิทสนมหรือพูดคุยเล่นเหมือนอย่างเดิมอีก

การกระทำที่ทำกับโทชิยะสร้างความสงสารต่ออีกฝ่ายให้กับเขา...แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้

สงสารจนจับใจ แต่...เขากลัวใจตัวเอง และกลัวดายมากเกินกว่าที่จะคิดทำอะไรเพื่อโทชิยะ

“อ้อ!เย็นนี้มารับโทชิยะกลับด้วยนะคาโอรุ และให้มาอิเฝ้าเอาไว้ กวาดข้าวของที่เจ้าบ้านี่จะเอาออกมาทำร้ายตัวเองออกให้หมด อย่าให้ทำอะไรอย่างนี้อีก ขังไว้ในห้องนั้นแหละ! ฉันเข้าเวร  ดึกๆนู่นแหละถึงจะกลับ”ดายสั่ง ระบายลมหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนจากหลายเรื่องที่รุมเร้า

“ครับ” คาโอรุรับคำเบาๆ หลังจากที่ดายสั่งเสร็จแล้วเดินจากไป

“ขัง...   ...โทชิยะ”คาโอรุนิ่งเงียบ นึกสงสารและเป็นห่วงมากกว่า เขามองไม่เห็นว่าร่างเพรียวจะเลวร้ายอย่างที่เพื่อนหรือคนที่เป็นนายบอกซักนิด น้ำเสียงหดหู่ครางเปล่งออกมาก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปเยี่ยมร่างเพรียว

เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะทิฐิและความแค้นทั้งนั้น...
สาเหตุ...ที่ทำให้ชายหนุ่มอ่อนโยนและ ใจดี มีรอยยิ้มอยู่เสมอ แปรเปลี่ยนเป็นคนที่เย็นชา แข็งกร้าว มองโลกในแง่ร้ายกลายเป็นคนละคนแบบนี้

เปิดศาลเตี้ยปิดคดีความลงโทษชายหนุ่มอีกคนด้วยอารมณ์และจิตใจของตัวเองชักนำ...จนทำให้อีกฝ่ายหมดสิ้นซึ่งอิสรภาพทั้งหมดทั้งมวล...

คุณหนูที่ถูกประคบประหงม เลี้ยงดูมาด้วยความรัก ความดูแลเอาใจใส่ ความงดงาม สดใส ที่ใครเห็นเป็นต้องหลงใหล จิตใจอ่อนโยนแสนดี ...มาบัดนี้กลับถูกกระทำให้แปดเปื้อน คุณสมบัติที่ติดตัวมาต้องอันตรธานหายไปหรือไม่ก็ถูกมองเป็นตรงข้าม

 เพื่อน คนที่เป็นที่รัก พ่อแม่พี่น้อง... ไร้สิ้นหนทางที่จะติดต่อผู้คนเหล่านั้น
หรือแม้แต่ตัวเองที่เหมือนกับถูกตัดแขนตัดขาไม่ให้หนีไปไหนได้ ...ถูกจองจำให้ตายทั้งเป็น...ถูกมองเป็นวัตถุเป็นสิ่งของที่ไร้ค่าไม่มีความหมาย กักขังให้อยู่กับบทลงโทษที่แสนร้ายกาจ


เป็นคุกดีๆที่ขังทั้งตัวและหัวใจไม่ให้มีทางออกอื่นใด...นอกจาก การทรมาน
ห้ามโกรธ ห้ามเกลียด ห้ามชอบ ห้ามหลงรัก แม้กระทั้งความรู้สึกก็ยังใส่กุญแจขังเอาไว้อีก

ไม่วันใดก็วันหนึ่งที่อีกฝ่ายคงทนไม่ได้ ตรอมใจไปเสียก่อน... แล้วถ้าวันนั้นมาถึง กุญแจที่ขังเอาไว้จะยอมไข คืนอิสรภาพให้กับอีกฝ่ายหรือไม่ ...หรือว่ามันสายไปแล้ว...

“มันคงไม่สายเกินไปใช่ไหมโทชิยะ?”คาโอรุเอ่ยถามเสียงแผ่วกับร่างเพรียวที่นอนหลับสนิท

จากการได้สนิทสนมด้วย ทำให้ห่วง  และกลัวอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่สามารถเดาได้ว่าโทชิยะจะทำอะไรที่เป็นการคืนอิสระภาพให้ตัวเอง จากเหตุการณ์เมื่อคืน ภาวะจิตใจของโทชิยะคงอ่อนแอถึงที่สุดจึงได้กระทำเรื่องแบบนั้นลงไป

“ไม่สายเกินไปที่จะ...ยกโทษให้ดายนะ..?”


To be continue.


@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
Re: *** ฉันมีค่ามากแค่ไหน...?***
«ตอบ #2 เมื่อ07-10-2007 16:26:25 »

มาถึงก็ฆ่าตัวตายเลยหรอ  o21 o21 o21

อ่านแล้วเสียวอะ เสียวข้อมือมากๆ :m15: :m15: :m15:

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
Re: *** ฉันมีค่ามากแค่ไหน...?***
«ตอบ #3 เมื่อ10-10-2007 19:08:38 »

มาถึงก็ฆ่าตัวตายเลยหรอ   

อ่านแล้วเสียวอะ เสียวข้อมือมากๆ


.....................................................................................

แฮ่ๆๆ ขอโทษด้วยนะฮะ...มันโหดไปหรือครับ...?

 :try2:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: *** ฉันมีค่าแค่ไหน...?***
«ตอบ #4 เมื่อ11-10-2007 22:28:21 »

อะไรหนอทำให้ดายโหดร้ายได้ถึงเพียงนี้

แบบว่าสยดสยองมาก

รออ่านต่อ
 :m11: :m11: :m11: :m11:

papae

  • บุคคลทั่วไป
Re: *** ฉันมีค่าแค่ไหน...?***
«ตอบ #5 เมื่อ12-10-2007 08:20:47 »

 :undecided:     metoo      :m15:

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
ฉันมีค่าแค่ไหน  ( 2 )


หยาดฝนซาดกระเซ็น ลู่ไหลลงมาตามบานหน้าต่างใส
เสียงฟ้าร้องคำรามกึกก้องดังสนั่นกระทบโสตประสาท
เส้นแสงฝ่าฟาดตามลงมา สะท้อนดังเปรี้ยงให้สะท้านไปทั้งตัว

ร่างเพรียวสะดุ้งตื่น ผวาคว้าผ้าห่มมากอดไว้แน่นด้วยความหวาดกลัว

ความหนาวเย็นที่มาพร้อมความชื้นฉ่ำของสายฝนประทะสู่ผิวกายจนร่างสะท้าน สายตาระคนตื่นตกใจหันไปมองรอบๆตัว พลันเห็นเงาดำทะมึนปรากฏขึ้นหลังบานประตูห้อง การเยื่องกายของผู้บุกรุกตลอดจนบรรยากาศเย็นยะเยือกที่ปกคลุมสร้างความหวาดกลัวให้ ขดร่างกอดตัวเองเอาไว้แน่น กลัว...และเหน็บหนาวไปทั่วสรรพางค์กาย

ขโมย!!!!ที่นึกได้ในตอนนี้ก็มีเพียงอย่างเดียว วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านไปงานเลี้ยงกันหมด! คนรับใช้ก็อยู่อีกตึกหนึ่ง!

แย่แน่!!!

ร่างทะมึนเริ่มเด่นชัดปรากฏให้มองเห็นรูปพรรณสัณฐานมากยิ่งขึ้น...มากยิ่งขึ้น มันไม่มีอาวุธอะไร...และก็...ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ฉับพลันร่างสูงใหญ่ดำทะมึนเบื้องหน้าก็กลายสภาพเป็นหญิงสาวสวย ผมยาวสยายเต็มกลางหลัง ใบหน้าหวานส่งยิ้มให้เขา เธอเดินใกล้เข้ามาทุกทีๆ

ใบหน้าหวานก็เริ่มเด่นชัดให้มองดูรู้ว่าเป็นใคร

ชายหนุ่มยิ้มตอบออกไปด้วยความดีใจ รีบคว้ามือที่เธอยื่นส่งออกมาให้จับไว้ทันที กลัวว่าเธอจะหลุดลอยหายไป แต่ทันใดนั้นยังไม่ทันได้กระพริบตาด้วยซ้ำ รอยยิ้มหวานละมุนก็ยังไม่ทันจางหาย ใบหน้าสวยหวานที่ส่งยิ้มให้ก็เปลี่ยนสภาพไปในบัดดล

ดวงตาปูดโปนถลนออกมานอกเบ้า เนื้อบริเวณใบหน้าเละและหลุดออกเป็นชิ้นๆ ทั้งน้ำหนองและเลือดไหลผสมปนเปกันส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งตลบไปทั่ว

“ไม่!!!!! อย่า!!!! อย่า...!!!!” ร่างเพรียวรีบปล่อยมือด้วยความตกใจ สะบัดให้หลุดให้ได้

“ฮารุ!!!อย่าฮารุ!!!”ส่งเสียงร้องห้ามเธอเอาไว้ ...เมื่อร่างสยดสยองนั้นยังเดินเข้ามาหาไม่หยุด เขาหลับหูหลับตาไม่มอง พร่ำร้องห้ามหญิงสาว

“โทชิยะ...โทชิยะ...”น้ำเสียงเยือกเย็นจับขั้วหัวใจเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มให้ขนลุกวาบ

“อย่าเข้ามานะ!อย่า!!”ร่างเพรียวทั้งกลัวและหวาดผวา หลับตาแน่น

“ฉันเอง...”เมื่อร่างบางนั้นมาหยุดใกล้ๆ น้ำเสียงที่เอ่ยเรียกในคราแรกฟังดูช่างแตกต่างกันมากนัก...

“เดมิโกะ!! เดมิโกะ...ชะ-ช่วยฉันด้วย”และเมื่อตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมอง ร่างสยดสยองนั้นกลับกลายเป็นหญิงสาวอีกคนหนึ่งขึ้นมาแทน ทรงผมซอยสั้นสีทองพลิ้วไหว รับกับใบหน้าหวานคม ดวงตาที่เต้นระริกราวกับพูดได้...ไม่มีวันจะลืม

เธอสวยไม่แพ้ฮารุ

“เดมิโกะจัง...”โทชิยะส่งมือให้หญิงสาวจับอีกครั้ง ขยับตัวเข้าหาวงแขนที่เปิดกว้างรออยู่ แต่แล้ว...ก็ต้องรีบชักมือกลับอีกเหมือนในครั้งแรก

ใบหน้าของเดมิโกะจังเริ่มกลายสภาพไม่ต่างจากฮารุเท่าไหร่ เธอแสยะยิ้มให้เขา

“ไม่!!!!อย่า!!!!”โทชิยะร้องลั่นทันที ร่างกายสั่นไหว น้ำตาไหลออกมา ยกแขนปัดป่ายให้พ้นจากมือที่จะมาฉุดจับเขาเอาไว้

ภาพน่ากลัวชวนขนหัวลุกที่ซ้อนทับเงาดำทะมึนที่มองเห็น…เยื่องกายเข้ามาหาช้าๆ ร่างเพรียวถอยกรูดติดหัวเตียง หัวใจแทบหยุดเต้น สองมือกระชับผ้าห่มเอาไว้แน่น เหงื่อซึมเต็มใบหน้าและแผ่นหลัง ความเย็นชื้นของสายฝนไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย

ยังไม่ทันได้ลุกวิ่งหรือร้องตะโกนให้ใครช่วย มือเล็กที่เต็มไปด้วยเลือดนั้น ก็คว้าจับข้อเท้าของเขาเอาไว้ได้ทัน โทชิยะสะบัดเท้าดิ้นสุดแรง

เธอไม่ใช่ฮารุ หรือเดมิโกะ อีกต่อไปแล้ว ร่างนั้นกลายเป็นเงาร่างสูงใหญ่ดำทะมึนดุจครั้งแรก แขนแข็งแรงคว้าร่างของเขาเอาไว้ทั้งร่าง มือแกร่งดุจครีมเหล็กก็ตะปบลงมาตรงกึ่งกลางใบหน้าพร้อมกับที่เขาได้สูดหายใจเอาตัวยาบนผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กที่ตะปบลงมาพร้อมกันนั้นเข้าปอดไปเต็มๆ และก่อนที่สายตาจะปิดลง ร่างสูงใหญ่นั้นก็โน้มลงมาให้เขาเห็น ใบหน้าคมคาย สายตากร้าวดุดันยังกับโกรธเขามากมาย

ดาย!!!

“ไปชดใช้กรรมที่นายทำไว้ได้แล้ว!!” เสียงกระซิบที่มาพร้อมรอยยิ้มน่ากลัวลอยอยู่เบื้องหน้า ห่างจากร่างเพรียวไปไม่กี่เซนต์ ใบหน้าซีดเผือดไม่สามารถร้องถามหรือขัดขื่นได้อีกต่อไป สายตาเริ่มปิดลงทุกที ในที่สุดก็ไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป ปล่อยให้ร่างสูงใหญ่อุ้มหายลับไปกับความมืดของรัตติกาลและสายฝนที่โปรยปราย

….  ….

….   ….  …..

“ไม่!!!”โทชิยะปากคอสั่นร้องลั่นห้อง ร่างกายสั่นผวาหลับหูหลับตาช่วยเหลือตัวเอง เรียวแขนขาวยื่นไปข้างหน้าปัดป้องมือของใครบางคนที่ยื่นเข้ามาจะสัมผัสร่างกาย

“ออกไป!!ออกไปนะ ช่วยด้วย!” ทั้งร้องทั้งดิ้น น้ำตาไหลไม่หยุด

“เป็นบ้าหรือไง แหกปากอยู่ได้! ฉันเอง!”เสียงตวาดเฉียบขาดหยุดลง พร้อมกับไฟที่หัวเตียงสว่างวาบขึ้น

ทันใดนั้นภาพฝันที่หลอกหลอนผสมกับภาพความจริงในอดีตก็พลันจางหายไป
น้ำเสียงดุบ่งบอกอารมณ์หงุดหงิดของคนที่เข้ามาช่วยให้เขาตื่นจากฝันร้ายและมายื้อจับเขาไว้นี้ใครกัน?

“ดาย..!!.”เมื่อเปลือกตาเปิด สิ่งแรกที่เห็นก็คือใบหน้าคมดุ ของผู้ชายที่ใจร้ายกับเขาที่สุด

ชายหนุ่มนั่งทาบทับช่วงกลางลำตัวของร่างเพรียวเอาไว้ เมื่อซักครู่อีกฝ่ายทั้งดิ้นทั้งถีบ ปัดป่ายเขาพัลวันเพียงแค่เขาจะเข้ามาเช็คดูอาการไข้ให้เท่านั้น

เมื่อเห็นว่าเป็นใครโทชิยะก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก หันไปมองข้างนอกหน้าต่างห้อง ฝนตกและฝันไปนั้นเอง!.

ลมหายใจยังคงหอบอยู่ หน้าผากมนพร่างพรายไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กที่ผุดพรายขึ้นมา เข็มนาฬิกาข้างฝาผนังบอกเวลาล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่มาได้สองชั่วโมงกว่าๆ

ดายออกเวรแล้ว!

ทันทีที่สติอันเป็นที่ตั้งทั้งหมดนึกรู้ถึงสภาพความเป็นจริงขึ้นมานั้น โทชิยะก็อดที่จะขัดขื่น ถอยออกมาจากฝ่ามือของอีกฝ่ายไม่ได้ เผลอสะบัดข้อมือใหญ่ขาวสะอาดที่กำลังจับมันขึ้นมาดูร่องรอยแห่งความอดสูที่เขากระทำมันขึ้นเอง ผ้ากอซสีขาวที่พันปิดแผลเอาไว้ มีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย

ช่างมัน...ไม่เห็นจะต้องมาใส่ใจ ร่างเพรียวชักแขนกลับมาไว้ข้างกาย หันหน้าไปทางอื่น...

“อยู่เฉยๆ!”นัยน์ตาคมดุหันมาตวาด พร้อมกับคำสั่งบังคับ เข้ากระชากแขนเรียวเล็กนั้นมาข้างหน้าตนอีกครั้ง

“ปล่อยฉัน!ไม่ต้องมาสนใจ!”ถ้อยคำที่กล่าว ไม่ได้ออกมาจากข้างในซักนิด แต่...จะให้แสดงความอ่อนแอออกมาได้ยังไง ยิ่งร้องไห้ ยิ่งอ่อนแออีกฝ่ายกลับยิ่งสมน้ำหน้า และซ้ำเติม ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องเอาอะไรทั้งนั้น

“หึ!สนใจเหรอ?...อย่างนายมีอะไรให้สนใจ”ร้ายกาจ!ทั้งสายตาที่ดูถูกและถ้อยคำที่เชือดเฉือนสร้างความปวดร้าวเจ็บลงไปถึงใจ

โทชิยะกระชากมือกลับแดกดันใส่อีกครั้ง ในเมื่อไม่สนใจใยดีก็แล้วทำไมไม่ปล่อยให้เขาตายๆไปซะ จะกักขังหน่วงเหนี่ยว เพื่อดูว่าเขาจะทรมานแค่ไหนอย่างนั้นเหรอ โรคจิต!

“มีหรือไม่มี...แต่มันก็ทำให้นายเดือดพล่านได้ก็แล้วกัน...ก็เอาซี้!จะทรมาน ลงโทษยังไงก็เอาเลย!...แต่จะบอกไว้อย่างนะ...อย่าเผลอก็แล้วกัน...ซักวันฉันจะทำอีก!...ฉันจะหนีให้ได้!!” ร่างเพรียวตอบโต้ด้วยวาจาเผ็ดร้อนไม่ลดละ ยิ้มเยาะใส่หน้าอีกฝ่าย ...ข่มความรู้สึกจริงๆในใจไว้จนเรียบสนิท

“งั้น...คืนนี้ก็อย่าได้นอนมันเลย!”ดายก้าวขึ้นคร่อมร่างเพรียวอีกครั้ง กดข้อมือทั้ง 2 ข้างของลำแขนเรียวเอาไว้บนหัว ซุกไซ้ใบหน้าและจมูกลงที่ซอกคอขาวหอมละมุนด้วยความโกรธกรุ่น

เขาใช้ฝ่ามืออีกข้างถลกเสื้อนอนของอีกฝ่ายขึ้นมาพันตลบมัดข้อมือทั้งสองเอาไว้แน่นแทน ก่อนที่จะละฝ่ามือลงมาเคล้นคลึงผิวเนื้อเนียนดุจน้ำนมนั้นด้วยแรงอารมณ์ที่ประทุเดือดอยู่ข้างใน ลำคอระหง ลาดไหล่ เนินอก หน้าท้อง เอวบาง ไม่มีส่วนไหนที่จะไม่ถูกสัมผัสแตะต้อง ริมฝีปากบางลากไล้ไปทั่วบ้างขบเม้ม บ้างดึงดูดจนขึ้นรอยเด่นชัด กางเกงนอนถูกกระชากออกอย่างไม่ใยดีจนผ้าเนื้อบางบาดเข้ากับผิวเนื้อ สร้างความเจ็บจึ๊ดให้แก่ร่างเพรียว

คมเขี้ยวงับเม็ดติ่งเนื้อสีสดที่หน้าอกไปมา ดูดดึงรุนแรงจนตั้งชันและเป็นสีเข้มขึ้นมากกว่าเดิม ฝ่ามือทั้งสองข้างของร่างแกร่งไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป สะโพกเนียนแน่นนิ่มมือถูกดายเคล้นคลึงไม่หยุด อีกข้างก็เข้าครอบครองปลุกอารมณ์ของร่างเพรียวให้คล้อยตาม รูดดึง ฟอนเฟ้นจนอารมณ์เร้นของร่างเพรียวประทุขึ้นมาตามที่ควรจะเป็น

โทชิยะสะบัดใบหน้าหนีริมฝีปากของร่างแกร่งที่หมายจะจูบลงมานั้น ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นสนิท ไม่ยอมให้ดายสอดลิ้นเข้าพัวพันหรือบุกรุกได้ และการกระทำเช่นนี้มันก็ช่วยสะกดกลั้นเสียงที่เจ้าตัวกลัวว่าจะเปล่ง หรือครางเรียกชื่ออีกฝ่าย ยามเมื่อเขาไม่สามารถห้ามความรู้สึกภายในได้อีกต่อไปออกมาด้วยเช่นกัน

 ไม่ดิ้นหนี ไม่ร้องห้าม และไม่ร้องไห้ ...แต่ก็ไม่ได้ยินยอม

ทว่า...ร่างกายที่ไม่สามารถบังคับได้เหมือนจิตใจ กลับสร้างความอับอายขายหน้าให้ไม่หยุด อารมณ์ร้อนที่แสดงออกทางเบื้องล่างของร่างกายตน บอกแก่ดายได้เป็นอย่างดี และมันก็ทำให้ดายเป็นต่อ ดายรู้ว่า ที่ตรงไหน สัมผัสยังไง โทชิยะถึงจะพอใจ ไม่ทัดทานและต้องการเขา เขาจดจำมันได้ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่ร่างเพรียวตกเป็นเชลยของเขา

ชายหนุ่มก้มลงไป ประทับกดริมฝีปากลงบนแก่นกายของร่างเพรียวทันที ความร้อนผ่าวและแรงดึงดูดของปลายลิ้นที่เข้าดุนดันและหยอกล้อกับส่วนปลาย มันไปปลุกอารมณ์และประสาทสัมผัสที่ไวต่อความรู้สึกให้เลือดลมวิ่งพล่าน ความต้องการส่วนลึกตีตื้นขึ้นมาถึงขั้นกระเจิดกระเจิงไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป เผลอปล่อยริมฝีปากออกจากกัน ปล่อยเสียงครางหวานหูร้องอืออึ้งไม่เป็นศัพท์ให้ดายได้ยิน

และทันทีที่ปากอิ่มนุ่มชื้นเผยอออกจากกัน ดายก็รีบฉวยโอกาส ริมฝีปากบางละขึ้นมาเข้าสัมผัสกลีบปากอ่อนนุ่มที่เคยได้ชิมมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนนั้น ปากอิ่มถูกจูบซับ ดูดเอาความหวานด้วยอารมณ์ที่ร้อนแรง ครั้งแล้วครั้งเล่าจนแดงซ้ำ ขบเม้มดูดดึงกลีบปากทั้งบนและล่าง ส่งปลายลิ้นเข้าคว้านเคล้นซอนไซร้จนเจ้าของร่างแทบหยุดหายใจ หอบหายใจกระเส่าด้วยแรงอารมณ์ที่โหมกระพือ

ร่างเพรียวเริ่มระส่ำระส่าย เกร็งร่างหลังไม่ติดพื้นเตียง ข้อมือที่ถูกมัดยิ่งทำให้อาการทุรนทุรายมากขึ้นเมื่อไม่สามารถช่วยเหลือหรือหยุดอารมณ์ของตัวเองได้ แก่นกายเบื้องล่างที่แข็งขื่นบ่งบอกระดับอารมณ์ว่าประทุขึ้นสูงมากแค่ไหน…ยิ่งปลายนิ้วของดายลูบไล้สะกิดจิกเม็ดติ่งสีสดที่เนิ่นอกบางไปมา อีกข้างก็ลดระดับลงไปคลำแก่นกายรูดดึงฟ้อนเฟ้นไม่ออมแรง ยิ่งทำให้ร่างสวยสะบัดและครางหือไปตามแรงอารมณ์ที่ร้อนแรง เร่งเร้าอยากได้รับการปลดปล่อยออกจากอารมณ์ที่โหมกระพือเร็วๆ


ร่างบางเพรียวสวยสะกดสายตาเริ่มโอนอ่อนเบียดกายเข้าหา... ผิวกายขาวเนียนละเอียดเริ่มขึ้นรอยแดงจากฝ่ามือของเขา และใบหน้าหวานละมุนสวยจับใจที่กัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้เริ่มสะบัดไปมา
ดายยิ้ม...ผละถอนเรียวปากและหยุดการกระทำทั้งหมดลงทันที เขาละมานั่งคร่อมบดเบียดกับแก่นกายของโทชิยะเอาไว้อย่างจงใจ

มองดูใบหน้าสวยที่เม้มริมฝีปากกัดฟันแน่นสะกดกลั้นอารมณ์นั้นอย่างใจเย็น สายตาคมมองไล่ต่ำลงมาลามเลียเรือนร่างบางระหงส์ราวสตรีเพศใต้ร่างของตนด้วยอารมณ์ที่ร่างสวยไม่สามารถเดาหรือรู้ได้

 นัยน์ตาใสแดงกล่ำ...มีน้ำเอ่อคลอ เนินอกสีแดงระเรื่อชูชันท้าทายสายตาและปลายลิ้น ผิวขาวราวน้ำนมที่ยั่วอารมณ์และตื่นสัมผัสจากฝ่ามือของเขา แก่นกายเบื้องล่างแข็งขื่นยากที่จะระงับให้ดับไปได้ด้วยตัวเอง ดายยิ้มอย่างรู้ทันอีกครั้ง

มือเรียวยาวถอดเน็คไทตัวเองออกช้าๆ ก่อนที่จะตามด้วยการแกะกระดุมเสื้อทีละเม็ด...ทีละเม็ด... ไม่รีบร้อน ปลดเครื่องแต่งกายทั้งหมดออกจากร่างของตนเอง ริมฝีปากแย้มยิ้มอย่างผู้ชนะและเหนือกว่า

“อยากให้ฉันทำให้เจ็บ...หรือว่า...อยากทำให้ตัวเองเจ็บ...เลือกเอา!?” ใบหน้าคมโน้มลงมากระซิบถามด้วยถ้อยคำร้ายกาจ ปลายลิ้นร้ายตวัดจูบต้นแขนขาวเลียชิดขึ้นมาหาพวงแก้ม โทชิยะรีบเอียงใบหน้าหลบไปอีกทาง โกรธทั้งตัวเองและดาย ยิ่งเสียงหัวเราะที่ดูเหมือนเยาะเย้ยนั้นดังอยู่ข้างหูยิ่งทำให้อับอาย...ดายรู้ว่าเขาจะเลือกแบบไหน!

ทางเลือกบ้าบอ ไม่มีทางจะผละหนีไปไหนได้ทั้งนั้น

โทชิยะทั้งโกรธและอายแต่จะให้ทำยังไงได้...ร่างกายนี้จดจำความรุนแรงที่ดายหมอบให้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว...เขาไม่มีทางเลือกอีกแล้วนี่...และคงไม่มีใครอยากเจ็บตัวเพราะคนอื่นหรอก

ร่างเพรียวหันหน้ากลับมาสบสายตาอีกครั้ง ใช้ข้อศอกดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งประจันหน้ากับอีกฝ่ายที่เหมือนจะคอยอยู่แล้ว ก่อนที่ลำแขนทั้งสองข้างที่ถูกมัดติดกันจะผลักหน้าอกแกร่งให้ดายลงไปนอนหงายบนเตียงแทน คลานขึ้นคร่อมด้วยท่าทางหมิ่นเหม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“ถ้าทำให้ฉันไม่พอใจ...คงรู้นะ...ว่ามันจะไม่ใช่...แค่...ครั้ง...เดียว!”ดายยิ้มยั่ว กรอกเสียงเน้นคำขู่ทีละคำ ทำให้โทชิยะสะอึกนึกถึงทุกครั้งที่ผ่านมา...ถ้าดายไม่พอใจ...เขาก็ยังลุกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น

“วิปริต!!โรคจิต!!!”โทชิยะตวาดใส่หน้า ฝ่ามือทั้งสองข้างยันหน้าอกแกร่งเอาไว้ ยอมขยับตัวเข้าหา เลื่อนเรียวขาเพรียวยาวเข้าแนบชิดกับสะโพกของดาย

“เผอิญฉันโรคจิต กับนายคนเดียว!!... โทชิยะ!”จบคำของดาย ความแข็งขื่นทางเบื้องล่างของเจ้าตัว ก็ดันทุรังเข้ามาภายในร่างของเขาได้หมดทีเดียว โดยไม่ทันให้ได้ตั้งตัว

“อ๊ะ!!!!!...ฮึก!!!”โทชิยะเผลอร้องด้วยความเจ็บเสียด กัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น เกร็งรับสัมผัสนั้นทันที ดวงตาสวยปล่อยน้ำใสที่เอ่อคลอตั้งแต่แรกไหลออกมาตามร่องแก้มหยดลงบนหน้าอกแกร่งของดายอย่างกลั้นเอาไม่ไหวเต็มทีแล้ว

“อย่าทำเป็นปากเก่ง!...จะนั่งบื้ออยู่เฉยๆหรือไง!!ขยับสิ!”เมื่อไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ โทชิยะก็ค่อยๆยกกายขึ้นแล้วหย่อนลงช้าๆเท่านั้น...

มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกบังคับแบบนี้!

น้ำตาแห่งความน้อยเนื้อต่ำใจ เหมือนกับอีกฝ่ายได้ดูถูกเหยียดหยามไหลลงมาเป็นทางอย่างห้ามไม่อยู่....ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะใจอ่อนและเห็นใจ...น้ำตาบ้านี่ไม่สามารถสร้างความสงสารให้เกิดขึ้นซักครั้ง…ซักครั้งเดียว...ก็ไม่เคยได้รับ


เขาไม่เข้าใจว่าทำไมดายถึงต้องทำแบบนี้กับเขา สนวนก็มาจากเรื่องที่เขาไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น ทุกคนเข้าใจเขา ไม่ได้กล่าวโทษเขา ไม่ได้เกลียดเขา...ซ้ำยังพลอยสงสารเขาด้วย...แต่ทำไมดายกลับตรงกันข้าม

ความโกรธ ความเกลียด ความไม่เข้าใจไม่พอใจทั้งหลายแหล่ โยนมาให้เขารับหมด! ...ทำไมกัน?

โทชิยะกดกายเข้าแนบแน่น เร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้ขึ้นมา ไม่สนใจว่าตัวเองจะเจ็บแค่ไหน ใบหน้ามนสะบัดไปมายามเมื่อคลื่นอารมณ์โหมกระพือ พวงแก้มเป็นสีแดงระเรื่อเพราะอารมณ์เร้นของตัวเองก็ทะยานคล้อยตามไปด้วย

“อื่ม...แรงกว่านี้อีก!!” เสียงคำสั่งจากร่างแกร่งกระซิบแหบพร่า มือใหญ่วางลงบนสะโพกของเขาอย่างตั้งใจ

โทชิยะกระทั้นกระแทกกายลงเข้าหามากขึ้นกว่าเดิม ตามความต้องการของดาย...จะทำยังไงได้ สมเพชตัวเองเหลือเกิน ไม่อยากทำแบบนี้ตลอดจนไปถึงเช้า...

ความสวยงามของโทชิยะทำให้ร่างแกร่งแทบคลั่ง...เรือนร่างผอมบาง ผิวเนื้อเนียนสีน้ำนม ช่วงเอวที่บางคอดยิ่งกว่าผู้หญิงตลอดจนสะโพกเล็กแน่นนิ่มมือนั้น เมื่อได้ครอบครองหรือสัมผัสทั้งหมด มันก็อดไม่ได้ที่จะโถมแรงและความปรารถนาเข้าใส่ไม่หยุด

เมื่อคราแรกนั้นเขาไม่ได้คิดถึงตรงจุดนี้ ความโกรธมันบดบังสติและเหตุผลจนหมดสิ้น ไม่ทะนุถนอมให้เสียเวลา ไม่ออมแรงให้ได้ใจ มีแต่ความรู้สึกเกลียดและชิงชังแค่นั้นที่ครอบงำให้ทำทุกอย่างราวสัตว์ป่า และสุดท้ายโทชิยะก็ได้เลือดทุกครั้งไป...

เลือดตกยางออก...ร้องไห้ เสียใจ...เป็นที่ระบายอารมณ์ สิ่งเหล่านี้เท่านั้นที่เขาต้องการให้อีกฝ่ายรับรู้และรู้สึก

ดายไม่รู้หรอกว่า ความรู้สึกเมื่อคราแรกนั้นมันเลือนหายไปทีละนิด ความงดงามและตัวตนเนื้อแท้จริงๆของร่างเพรียวมันแทรกซึมให้ได้สัมผัสทุกวัน และทุกๆวันมันก็เริ่มแปรเปลี่ยนความรู้สึกของเขาไปเรื่อยๆ จนยากที่จะรับได้อีกต่อไป...


...ไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระไปได้หรอก

..เพราะความเห็นแก่ตัวมันมีมากกว่าเหตุผลทั้งหมด
ใช้ความใจร้ายใจดำ ความโกรธความเกลียดที่เลือนหายไปแล้วนั้นกักขังหน่วงเหนี่ยวร่างเพรียวเอาไว้กับตัวเองต่อไป...ถึงแม้จะรู้ว่ามันไม่ถูกต้องก็ตามที

ดายยกสะโพกมนลงรับกับจังหวะที่เขากระทั้นกายเข้าหา ริมฝีปากและปลายลิ้นตวัดงับยอดอกสีสดเบื้องหน้าเล่น โทชิยะไร้เรี่ยวแรงต้าน ปล่อยแขนทั้งคู่เอนราบไปเหนือศีรษะ นอนราบคร่อมอยู่บนร่างของดายให้ร่างแกร่งโหมแรงเท่าที่มีเข้าใส่ร่างของเขาไม่หยุดหย่อน กัดฟันทนและรับเอาไว้แค่นั้น

“ขยับบ้างสิ !!!”ตลอดจนเมื่อดายละริมฝีปากออกมาและหยุดจังหวะลง โทชิยะถึงได้ขยับบ้าง รุนแรง และเร็วตามที่ดายต้องการ ความร้อนจากร่างกายที่บดเบียดเสียดสีกัน สร้างกลิ่นกรุ่นละมุนของผิวเนื้ออบอวลหอมหวานโอบอุ้มร่างสองร่างที่ตวัดกอดก่ายกันเอาไว้ ให้ระอุ คุร้อนและรุนแรงเร่าร้อนจนแทบมอดไหม้ เพิ่มแรงปรารถนาให้คุโชนมากขึ้น

เสียงครางเครือแสดงความสุขสมของร่างแกร่งดังให้ได้ยิน โทชิยะกัดฟันทนต่อไป ถึงจะเจ็บเสียดทานแค่ไหนแต่ความเจ็บร้าวของเรือนกายนั้นก็ยังมีความสุขสมให้ซึมซับรู้สึกได้...เขาไม่อยากส่งเสียงให้อีกฝ่ายยิ้มเยาะหัวเราะเอา

อารมณ์และความต้องการตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นไม่อยากให้ดายรู้ว่าเขาก็ต้องการมัน

“อ่ะ!...อ๊า!!...ฮืออ...”แต่น้ำเสียงครางกระเส่าก็เล็ดรอดออกมาจนได้ เมื่อดายขยับกายแรงๆเข้าช่วย ความปรารถนาใกล้ถึงฝังทั้งของตัวเองและดาย โทชิยะเกร็งร่างเพื่อรับเอาความสุขสมของอีกฝ่ายไว้ทั้งหมด

“อ๊า!!”ร่างแกร่งเบื้องล่างตนกระตุกเฮือกพร้อมกับปลดปล่อยแรงอารมณ์ทั้งหมดออกมาในเวลาไล่เลี่ยกับเขา

โทชิยะไม่มีแรงอีกแล้ว อาการไข้ที่ยังไม่หายดีทำให้ทิ้งร่างนอนราบลงบนอกแกร่งทันทีที่อารมณ์ร้อนดับมอดไป

…………………………..

……………………………………

“ไหนว่าเก่ง ...ไม่กลัวไง ...รอบเดียวก็หมดแรงซะแล้ว”คำพูดดูถูกกระซิบที่ข้างหูพร้อมเสียงหัวเราะขื่นๆ

เขาไม่อยากสนใจ อยากพูดอะไรก็พูดไป ค่อยๆขยับถอนกายออกจากอีกฝ่ายลงมานอนข้างๆ หันหลังให้ ไม่อยากทะเลาะให้เปลืองแรงอีก จะมัดเขาให้หลับไปทั้งอย่างนี้ก็แล้วแต่เถอะ ในเมื่อเขาไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ไม่มีสิทธิ์ร้องขออะไร

โทชิยะปิดตาลงยอมรับชะตากรรมทั้งหมดเอาไว้ด้วยความข่มขื่นใจ น้ำตาที่ไหลเหือดแห้งหายไปแล้ว ปวดเมื่อแขนที่ถูกมันเอาไว้ก็ปวด...แต่ช่างมัน ให้ตายก็ไม่มีวันขอร้องให้ปล่อย...

ดายนอนมองแผ่นหลังเนียนนิ่งๆอยู่เป็นนานก่อนที่จะลุกขึ้นไปอาบน้ำ...และกลับออกมาอีกครั้งภายในเวลาไม่ถึง สิบนาที

“ฉันรู้ว่านายยังไม่หลับ” เขานั่งลงบนที่นอนข้างๆโทชิยะ

“........................................”

“หันมานี่โทชิยะ...ถ้ายัง...อยากนอนสบายๆ” น้ำเสียงบังคับข่มขู่เขาดังขึ้นมาอีก

“อะไรอีกเล่า!”แล้วก็เป็นเขาที่อดไม่ได้หันไปตวาดเข้าใส่ ลืมไปว่า...ถ้าทำให้ดายโกรธแล้วตัวเองจะเป็นยังไง

“จะเอาอะไรจากฉันอีก!!!”กรอบผมสีน้ำเงินสะบัดไปตามแรงอารมณ์ ถามออกไปด้วยความอัดอั้นตันใจ ยอมทุกอย่างแล้วยังไม่พอใจอีกหรือไง?แขนเรียวก็เผลอกระตุก...น้ำตาไหลลงมาจากตาคู่สวยอย่างเหลืออด

“แรงยังเหลือนี่...อีกรอบเป็นไง!!”ดายแค่นยิ้ม ไม่สนใจต่อสายตาโกรธแค้นไม่พอใจนั้น  คว้าเอวบางเข้าหาขึ้นทาบทับเอาไว้

“ก็เอาสิ...อยากทำอะไรก็ทำไป!” ทำให้ตายไปเลยก็ได้ไอ้หมอโรคจิต!

ตาคู่สวยมองอย่างเครียดแค้น ยกข้อมือที่ถูกมัดนั้นขึ้นมา ใช้ฝ่ามือป้ายน้ำตาให้หายไป สบสายตากับดวงตาคมดุนั้นอย่างไม่เกรงกลัว กับคนๆนี้เขาจะไม่คร่ำครวญให้เสียเวลา

มันไม่ได้ผล เขาใช้ไปหมดแล้วตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี้ถูกขัง ไม่ให้ออกไปที่ไหนได้ทั้งนั้น แล้วจะต้องร้องขอให้เปลืองน้ำลายทำไม

“อยู่เฉยๆก็แล้วกัน ถ้าเจ็บอย่ามาร้องทีหลังล่ะ!” ดายกระแทกเสียงเข้าใส่ ก่อนที่จะลุกขึ้นไป สร้างความงวยงงให้โทชิยะไม่น้อย ดายจะทำอะไรกับเขาอีก!!!

ร่างแกร่งเดินเข้าห้องมาพร้อมกับกระเป๋าสีดำคุ้นตา

เสื้อก็ไม่ใส่ กางเกงนอนเนื้อบางเบานั้นก็ไม่ได้ช่วยปกปิดส่วนไหนของร่างแกร่งเอาไว้แต่...ดายไม่สนก้าวขึ้นคร่อมร่างเพรียวอีกรอบพร้อมกับวางกระเป๋าคู่กายไว้ข้างๆ

“ฉันน่าจะปล่อยให้นายตายๆไปซะ!”ร่างสูงว่าไปพร้อมกับนั่งทับขาของอีกฝ่ายเอาไว้เมื่อเห็นว่าโทชิยะขยับตัวจะหนีให้ได้ มือใหญ่รีบฉวยข้อมือของโทชิยะขึ้นมา แกะเอาเสื้อที่มัดไว้แน่นนั้นออกให้

 คำพูดเจ็บแสบทำเอาใจกระตุก กระบอกตาคลอไปด้วยน้ำใสอีกครั้งพยายามไม่ให้มันหลั่งลงมาด้วยความน้อยใจ

“นั้นนะสิ...ทำไม? เสียดายหรือไง...กับเครื่องระบายอารมณ์อย่างฉัน!”โทชิยะทำปากกล้าเถียงออกไป เน้นหนักตอกย้ำสถานะตนเอง ทั้งที่ในใจนั้นเจ็บปวดกับประโยคนั้นมากนัก

“เสียดายเหรอ?....เสียอารมณ์นะสิ!” ดายแกะผ้ากอซออกพร้อมกับบีบปากแผลเบาๆให้รู้สึกเจ็บ...ซะใจที่ได้แกล้งอีกฝ่ายให้เจ็บ

“โอ้ย!!!”ถึงกระนั้นมันก็ทำให้โทชิยะเจ็บไม่น้อยจนเผลอร้องออกมาไม่ได้...ตาหวานคู่สวยมองตวัดอย่างเครียดแค้นโกรธขึง

“หึ...เสียอารมณ์!...อย่ากลืนน้ำลายตัวเองล่ะ”โทชิยะไม่ยอมลดละ ยิ้มเย้ยบ้างอย่างเป็นต่อ …เสียอารมณ์แต่ก็ยังมีอะไรกับเขา..

“โอ้ย!!!ฉันเจ็บนะ!!!!” ดายกดปากแผลอีกครั้งก่อนที่จะล้างแผลใส่ยา ทำแผลให้ใหม่

“ดี!จะได้สงบปากสงบคำไว้บ้าง...คราวหน้าถ้าจะทำอะไรโง่ๆแบบนี้อีก...”เขาขยับเข้าใกล้ใบหน้าหวาน สายตาคมดุประทะดวงตาหวานเศร้า จมูกชนกัน ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มเยาะเย้ย

“ในห้องทำงานฉัน...ยามากมาย กรอกลงไปให้หมดสิ!!!”เป็นฝ่ายดายที่เป็นต่อบ้าง คำพูดที่ตอกย้ำว่าตัวเองไร้ค่าแค่ไหนกรีดลึกไปถึงแก่นกลางใจ โทชิยะสะอึก ลำคอแห้งผาก ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ขยับตัวละใบหน้าออกมาห่างๆ เมื่อแผลที่ข้อมือเสร็จเรียบร้อย

ที่ทำไป...ไม่เคยหวัง...ไม่ได้เรียกร้องความสนใจ แต่ก็อดคิดไม่ได้...อยากให้แคร์...แต่ก็ไม่เคยแคร์ซักนิด มันจะมีประโยชน์อะไรต่อไปอีก...จะให้ทนอยู่กับความชิงชัง เกลียด โกรธแค้นต่อไปหรือไง?!!!

“ฉันทำแน่!”น้ำเสียงตะโกนตอบกลับลั่นด้วยความร้าวรานใจ เสียงหัวใจที่กรีดร้องได้ยินแค่คนเดียว

“แล้ว...ฉันจะคอยดู...!!”เสียงกร้าวเน้นหนักท้าทายกลับมาช้าๆ สายตาที่ประสานกัน ไม่มีใครยอมลดละต่อกันซักนิด

“จะนอนหรือจะต่อ...?”ดายยืนมือเข้าเคล้นคลึงผิวเนื้อนิ่มที่หน้าอกอีกครั้ง ดวงตาแดงกล้ำไหวระริกกับสีหน้าเจ็บปวดนั้น มันทำให้เขาไม่อยากจ้องมองดวงหน้านวลนี้นานๆ…

โทชิยะไม่ตอบ แต่ผลุนผลันหันหลังให้เขา ขยับร่างลงไปนอนชิดขอบเตียงและคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเอาไว้ปิดตาลง...เมื่อมีโอกาสเลือก เขาก็ไม่ปฏิเสธ

ดายเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียงแล้วขยับตามบ้าง พาตัวเองลงไปในโปงผ้าห่มผืนเดียวกัน คว้าเอวบางลากตามเข้ามานอนกลางเตียงกว้าง วงแขนแกร่งสวมกอดร่างเปลือยเปล่าเอาไว้ ขยับตัวเข้าชิดใกล้แผ่นหลังของโทชิยะ ใบหน้าคมซ่อนลงบนเรือนผมหอมกรุ่นของร่างเพรียว

ทั้งที่โกรธเกลียด แค้นจนอยากฆ่าให้ตายคามือ อยากทรมานให้ได้รับความเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่า...ทั้งที่เขาควรจะจัดการรุนแรงกับอีกฝ่ายไปซะตั้งแต่แรก...แต่แล้วทำไมทุกครั้งมันต้องจบแบบนี้...ทำไมเขาต้องมาทำอะไรงี่เง่าบ้าบอไม่มีเหตุผลแบบนี้

ร่างเพรียวขื่นกายต่อต้านสัมผัสวงแขนของเขาตลอดเวลา


“นอนไปเลยนะ ...ถ้าพูดมาก ฉันไม่รับรองความปลอดภัย”เขากระซิบที่ริมหูเบาๆ โทชิยะเกร็งตัวด้วยความตกใจขึ้นมาอีกทันทีจนดายรู้สึกได้

...อยากขำแต่ก็ขำไม่ออก อยากหัวเราะแต่ก็ทำไม่ได้...เขาไม่เคยยิ้ม หัวเราะมานานแค่ไหนไม่เคยสนใจตัวเอง...

ได้แต่แกล้งรัดวงแขนแน่นขึ้นกว่าเดิม ขบใบหูของร่างเพรียวเบาๆ ก่อนที่จะปิดตาลงบ้างด้วยความเหนื่อยกายและเหนื่อยใจ…บอกตัวเองไม่ได้ พูดไม่ถูก...มึน บ้า เมา!!...ถ้าไม่ได้นอนกอดร่างเพรียวที่เกลียดนักเกลียดหนานี้ซักคืน...เขา...จะเป็นยังไง...?

 
To be continue....







 

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
ฉันมีค่าแค่ไหน  3

เรือนร่างผอมเพรียวสั่นสะท้าน ไหวขยับไปตามแรงอารมณ์ของร่างแกร่งที่บังคับอยู่เบื้องบน
ผิวกายขาวนวลที่ถูกแต่งแต้มด้วยรอยจูบและลูบคลำจากคนๆเดียวกันมีให้เห็นอยู่เต็มตัว
เรียวขาเล็กก็สั่นระริกยามเมื่อร่างแกร่งเบื้องบนขยับกายเข้าออกด้วยความรุนแรง
เขี้ยวคมน่ารักยามเมื่อเจ้าของแย้มยิ้มก็กัดริมฝีปากอิ่มเอาไว้แน่น เพื่อห้ามเสียงร้องของตนเอาไว้
และใบหน้าหวานซึ้งขึ้นเลือดฝาดสุกปลั่งสะบัดไปมา ตามแรงอารมณ์ที่โหมกระพือ ถึงจะดูเจ็บปวดและไม่พอใจแค่ไหนแต่ก็แฝงความเขินอายและความสุขให้เห็น....

ช่างดูสวยงามและน่าหลงใหลยิ่งนัก แต่ทำไมหนอ คนที่ได้ครอบครองใยไม่รู้จักรักษาหรือมองเห็นมันบ้าง...?

“ว่ายังไงคาโอรุ?”ร่างแกร่งเบื้องบนร้องถามพลางชำเลืองหางตามองไปยังบานประตู ไม่ได้หยุดกิจกรรมที่กำลังกระทำลงแต่อย่างใด

ชายหนุ่มเผลอกระตุกวูบอย่างตกใจ หลุดออกจากความนึกคิดกับภาพที่เห็นเบื้องหน้าและได้สติขึ้นมาทันที หลังจากที่มายืนเรียกผู้เป็นนายอยู่หน้าห้องเป็นนานกว่าจะได้รับอนุญาตให้เปิดประตูเข้ามาแล้วเห็นภาพที่น่าตกตะลึง ไม่ควรเห็นเข้า

คาโอรุหลบสายตาลงต่ำด้วยความละอาย ไม่กล้าสบตากับร่างสองร่างที่อยู่บนเตียง
เขาไม่อยากเห็น....โทชิยะถูกบังคับและไม่อยากให้ตัวเองแสดงสันดา(น)ดิบอันควรจะเป็นยามเมื่อเห็นภาพร่วมรักและร่างสวยที่ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ปกปิดสะกดสายตาอยู่ต่อหน้า

“คุณเจมาหาดาย”ชายหนุ่มตอบออกไป จิกเล็บลงบนหน้าขาตัวเองด้วยต้องการยั้งอารมณ์เอาไว้เนื่องด้วยเสียงร้องครางแหบพร่าจากผู้เป็นนาย และเสียงครางหวานหูที่เล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากอิ่มแว่วเข้าหูให้ได้ยินเป็นระยะ ตลอดเวลาที่ยืนอยู่

“อ่า..เจมาเหรอ? รู้ได้ไงว่าอยู่ที่นี่ ไปบอกว่าเดี๋ยวฉันจะลงไป”ผมสีแดงเพลิงพลิ้วไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้นของเจ้าตัว ไม่ได้หยุดการบังคับข่มเหงที่ใกล้ถึงฝั่งฝันกับอีกฝ่ายลง พลางพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะร้องบอกคาโอรุออกไป

“ฮึก!อ๊ะ...พะ-พอเถอะ..ฉันไม่ไหวแล้ว”เสียงต้านจากร่างเพรียวด้านใต้ ทำให้เท้าของชายหนุ่มที่กำลังจะเปิดประตูออกไปหยุดชะงักเพียงชั่วครู่

ไม่กล้าหันกลับไปมองดวงหน้าหวานนั้นด้วยซ้ำ...
ไม่กล้าเข้าไปช่วย... ไม่กล้าเข้าไปห้าม... อยากปิดหูตัวเองแล้ววิ่งหนีไปให้ไกลที่สุด
เขาไม่มีทางเทียบดายได้เลย ไม่ว่าจะด้านไหนทั้งนั้น แล้วอย่างนี้จะมีสิทธ์หรือเอาอะไรไปช่วยโทชิยะ…

นี่นะเหรอคนที่มีความรู้ มีการศึกษาเป็นถึงระดับนายแพทย์เขาทำกัน หึ!...น่าสังเวชสิ้นดี!

“ฮึก...เจ็บ...พอที ...พอเสียที อ๊า...”

เสียงประตูห้องปิดลงพร้อมกับเสียงร้องที่ทำให้ชายหนุ่มแทบคลั่งตาย หลับตาลงด้วยความเจ็บปวด แผ่นหลังแกร่งพิงประตูเอาไว้ กำหมัดแน่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ

“ขอโทษนะโทชิยะ ...ฉันขอโทษ...ขะ...ขอโทษ...” 

................................................................................................

………………………..

“จะหนีไปไหนโทชิยะ” ดายตามกระชากแขนและกดลำตัวทาบทับร่างเพรียวเอาไว้ เบื้องล่างยังคงโหมกำลังเข้าใส่

“พอที...ได้โปรด....ฉันไม่ไหวแล้ว...”โทชิยะดิ้นและขยับหนีเท่าที่จะทำได้จนหลังติดหัวเตียง

เมื่อคืนทั้งที่อีกฝ่ายอ่อนโยนด้วยแท้ๆนึกว่าจะไม่ต้องมาทนรับอะไรแบบนี้อีก แต่พอตื่นขึ้นมาก็ทะเลาะกันด้วยเรื่องเดิมๆ เขาทนไม่ไหวแล้ว ถูกทำตั้งแต่เช้าจนเกือบจะบ่าย...จะทำกันให้ตายไปข้างหนึ่งหรือไงกัน!

“ทำไม...พอเห็นเจ้านั้นทำสำออยหรอไง!”ยิ่งร้องขอ ยิ่งอ่อนแอ อีกฝ่ายก็ยิ่งรุนแรงใส่ไม่ยั้งและไม่ปราณี

“ฮื้อ!...อ๊ะ...ไม่....ๆ”ดวงหน้าใสแดงเรื่อส่ายหน้าปฏิเสธไปมา เปลือกตาปิดแน่น น้ำตาไหลเอ่อคลอเบ้าอยู่ตลอดเวลา เรียวนิ้วยาวทั้งจิกดึงทึ้งผ้าปูที่นอนเพื่อระบายความเจ็บปวด เรียวขายาวสวยสั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้ เกร็งรับตลอดช่วงเวลาที่ดายกดกายแนบแน่น

ไม่ได้สำออยเพื่อให้ใครมาสงสาร แต่เขาอาย...อายคาโอรุ อายอีกฝ่ายถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกแต่จะยังไงมันก็ไม่เคยชิน และที่สำคัญเขาอายตัวเองที่สุด อายที่ต้องมามีสภาพน่าทุเรศแบบนี้!

“อ่า!!...”เสียงห้าวทุ้มครางต่ำๆด้วยความพอใจ เมื่อปลดปล่อยความต้องการสู่ร่างเพรียวด้านใต้ตน ก่อนจะพลิกตัวลงนอนข้างๆ ไม่สนใจอีกฝ่ายอีกต่อไป

สีหน้าสุขสมของดาย..มีความสุขมากซินะ พอใจมากซิที่ได้ทำแบบนี้กับเขา

โทชิยะหันไปมองวิวข้างนอกหน้าต่างด้วยสายตาเลื่อนลอยแทน นอนนิ่งๆหยุดอาการทุกอย่างไว้กับตัวเองเงียบๆ แต่ทว่าน้ำตาเจ้าปัญหายังคงไหลออกมาไม่หยุด เรียวขาขาวชุ่มไปด้วยหยาดความใคร่ของดายที่ปลดปล่อยทิ้งไว้ในร่าง...ครั้งแล้วครั้งเล่าผสมปนเปกับของเหลวสีแดงขุ่นที่หลีกเลี่ยงไม่ให้มีไม่ได้... ในเมื่อดายไม่คิดจะอ่อนโยนหรือทนุถนอมเขาอยู่แล้ว...แต่เขาก็ไม่มีกะจิตกะใจจะสนใจมัน

“หยุดร้อง!บอกว่าให้หยุดไง!!จะร้องคร่ำครวญหาใคร มันจะมีหน้าไหนมาให้นายหลอกอีก!”ร่างสูงทนฟังเสียงสะอื้นไม่ไหว ตะคอกใส่ด้วยความหัวเสีย สายตาอ้อนวอน ขอร้องที่ส่งให้ลูกน้องข้างกายเมื่อกี้ยังติดตา

มารยา...อย่าหวังว่าจะช่วยออกไปได้!อย่างคาโอรุมันจะมีปัญญาช่วยได้แค่ไหนกัน!

“น่ารำคาญ!”ลำแขนแข็งแรงดึงกระชากร่างสวยติดมือขึ้นมาจนร่างสวยสะดุ้งสุดตัว พลางขยับถอยหนีโดยอัตโนมัติเมื่อดายก้าวคร่อมลำตัวอีกครั้ง สบถกร้าวใส่หน้าในระยะประชิด ดวงตาดุดันจ้องมองดวงตาใสอย่างเหลืออด ก่อนที่นิ้วมือขาวสะอาดจะเกลี่ยเช็ดน้ำตาให้อย่างเสียมิได้

คลุ้มดีคลุ้มร้ายจนตามไม่ทัน...

 “เมื่อไหร่จะเลิกโกรธ!เกลียด!!เรื่องแบบนี้พอเสียที!!!เมื่อไหร่จะปล่อยฉันไปเสียที!!!”โทชิยะตะโกนก้องใส่หน้าบ้างด้วยอารมณ์ที่ขาดสะบั้น ร้องไห้ไม่หยุดอย่างคนเสียสติด้วยความอัดอั้นไร้ทางระบาย จิกเล็บลงบนลำแขนแข็งแรงของดายโดยไม่รู้ตัว

 หึ!น่ารำคาญ แต่ก็ยังหาความสุขจากเขาได้ทุกเวลา

“เมื่อไหร่จะปล่อยให้ฉันไปพ้นๆนายซะ!ปล่อยให้ตายไปเลยซี้!!ให้อยู่ขวางหูขวางตาทำไม ฮึก!!!”เสียงสะอื้นจนตัวโยนปนกับเสียงตะคอกดังลั่น ปัดป้องเรียวนิ้วที่เช็ดน้ำตาออกไปให้พ้น

ไม่ต้องการความเห็นใจ แรงเกลียดชังที่ส่งผ่านปลายนิ้วรับรู้ได้ ฮึ!แบบนี้แล้ว จะทำให้เสียมือทำไม?!!

คับที่อก เจ็บที่ใจ กายที่ทรมาน กักขังหน่วงเหนี่ยวเพื่อให้เขารับรู้สิ่งเหล่านี้งั้นเหรอ?

“ไอ้คนโรคจิต!ไอ้คนไร้หัวใจ!!!”คำผรุสวาสตวาดใส่ชายหนุ่มผมแดงไม่หยุด หลงลืมความเกรงกลัวต่ออีกฝ่ายว่าจะโกรธซักแค่ไหนไปเสียสิ้น ฝ่ามือประเคนใส่ใบหน้าคมดุและตามลำตัวเท่าที่จะทำได้ด้วยยับยั้งอารมณ์ไม่อยู่แล้ว

ดายพยายามรวบข้อมืออีกฝ่ายเอาไว้ด้วยความโกรธ แต่เมื่อเห็นท่าว่าทำยังไงก็ไม่มีทางห้ามอาการขาดสติจากร่างสวยได้แน่แล้ว และเขาก็ไม่ได้มีน้ำอดน้ำทนกับอีกฝ่ายมากนักยามเมื่อร้อนด้วยกันทั้งคู่เช่นนี้ จึงกระแทกฝ่ามือลงบนใบหน้านวลนั้นอย่างช่วยไม่ได้ เพื่อหวังจะให้มันหยุดอาการคลุ้มคลั่งของร่างสวยลง

“อยากเจ็บตัวมากกว่านี้หรือไงกัน!”เขย่าแขนถามจนร่างสวยสั่นคลอน มุมปากอิ่มขึ้นรอยแดงพร้อมกับเลือดสีสดไหลซึมออกมาทันตาเห็น

โทชิยะหันกลับมามองด้วยสายตาแค้นเคืองไม่พอใจ หยุดอาละวาดลงไป

ไม่ว่าจะตบให้ดิ้นตายแค่ไหน น้ำตานี้ก็ยังคงไหลไม่หยุดอยู่ดี…เจ็บมากกว่านี้ก็เคยโดนมาแล้วนี่!

“นายไม่มีสิทธิ์มาร้องขออะไรทั้งนั้น จำไว้!!!”เป็นอีกครั้งที่ดายยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้ พร้อมกับไล้ฝ่ามือลงมาตรงมุมปากเพื่อลบเอาเลือดที่ซึมออกมาให้หายไป ดึงลำแขนเพรียวเอาตัวเข้ามาประชิด ขู่กลับไปก่อนที่จะปล่อยให้ร่างสวยล้มลงบนเตียง สะบัดหน้าหนีอย่างไม่อยากมองหน้า ลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมข้างเตียงมาใส่ก่อนที่จะเดินออกไป

"ไอ้คนบ้าๆ..ไอ้คนบ้า!!!"

หมอนนิ่มใบโตถูกปาตามหลังดายออกไปติดประตูด้วยความคับแค้นใจ ไม่เข้าใจความรู้สึกที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของอีกฝ่าย คิดหาเหตุผลมาอ้างอิงความใจร้ายใจดำของดายไม่ได้ซักข้อ ร้องไห้คร่ำครวญกับฝ่ามือของตัวเองอย่างข่มขื่น...

ซักวันถ้าดายไม่ทรมานเขาให้ถึงตายก่อน...คงได้รู้กระมัง

...

“หน้าตาหงุดหงิด บอกบุญไม่รับ ไปหัวเสียอะไรมา?”หลังจากที่ทักทายกันไปเสร็จสรรพ เสียงห้าวกลั้วเสียงหัวเราะจึงเอ่ยถามขึ้นบ้าง

ดายตวัดสายตามองคนที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและพี่ชายที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็กๆอย่างไม่สบอารมณ์นัก เพราะสนิทมาก เห็นไส้และกำพรืดกันมาหมด เขาจึงไม่คิดที่จะรักษามารยาทกับอีกฝ่ายแต่อย่างใด

“อย่ายุ่งน่า ไม่ใช่เรื่องของนาย”คำตอบตัดปัญหาในใจเพื่อน ตอบฉับขึ้นทันควัน กระแทกตัวลงนั่งบนโซฟาพลางควานหาบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบเพื่อดับอารมณ์ร้อนของตัวเองลง

“ฮ่าๆๆ อะไรกันวะ ได้ข่าวว่าไปแอบขโมยกระต่ายป่ามาเลี้ยงไว้ ยังไม่ทำให้หายเครียดได้อีกเหรอไง?”เจหัวเราะลั่นอดเอ่ยแซวอีกไม่ได้

ที่มานี่ใช่จะไม่รู้เรื่องอะไรเลย ที่...เพื่อนหัวแดงของเขาก่อเอาไว้

“นายรู้อะไร?”ดายชำเลืองมองอย่างไม่ไว้ใจ

เรื่องอะไร? รู้มาจากใคร? รู้มากแค่ไหน? แม้แต่ครอบครัวเขายังหาทางปิดเอาไว้ไม่ให้รู้

เจหรี่ตามองอีกฝ่ายก่อนจะพูดขึ้นช้าๆ

“อย่าลืมซิดาย...ครอบครัวนายกับฉันเคยเป็นอะไรมาก่อน...เรื่องที่นายก่อ...พ่อนายรู้ดีที่สุด ก็อยู่ที่ท่านจะพูดหรือว่าทำมองไม่เห็นเท่านั้น...ว่าไงคุณหมอไฟแรงจะไม่ยอมให้กันชมกระต่ายป่าตัวเขื่องเชียวหรือ?”และก็หัวเราะตบท้ายประโยคอย่างสบายอารมณ์ สร้างความหัวเสียกับอีกฝ่ายที่มีเป็นทุนอยู่แล้วให้ขุ่นมัวมากขึ้นไปอีกทบ

เจพูดออกมาแบบนี้...ดายก็รู้ทันทีว่าเรื่องที่เขาทำ...มันจะ ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป

“บ้าชะมัด!”ร่างแกร่งเผลอตบฉาดลงบนโซฟา พร้อมกับสบถออกมาอย่างฉุนเฉียวด้วยไม่นึกว่าจะมีใครรู้เรื่องเจ้าคิดเจ้าแค้นของเขาเข้า ลืมไปเสียสนิทว่าครอบครัวที่เคยเป็นถึงพรรคยากูซ่าของพ่อ ท่านจะไม่ให้คนสืบว่าเขาทำอะไรอยู่

“พ่อนายเป็นห่วง... ยังไงก็ให้แล้วกันไป... ไม่อยากถ่อสังขารไปถึงโรงพยาบาลแล้วตะบันหน้านายเข้า... ท่านฝากมาบอกแค่นี้แหละ”

“แล้วกันไปอย่างนั้นเหรอ!?”น้ำเสียงกระชากถามรอดไรฟันออกมาอย่างข่มขื่น พลางนึกไปถึงใบหน้าของหญิงสาว 2 คนที่เป็นที่รักด้วยกันทั้งคู่ขึ้นมา สายตาดุดันอ่อนแสงลงแสดงความเสียใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง

“เรื่องมันผ่านมาจะครึ่งปีแล้วนะดาย ปล่อยวางเสียบ้างเถอะ... หรือไม่...ก็...ให้ฉันจัดการ...”เจตบไหล่อีกฝ่ายปลอบเบาๆ ก่อนที่จะถามความเห็นที่เป็นทางออกให้กับเพื่อนหรือน้องชายในเวลาเดียวกัน

“จัดการยังไง?”ดายหันขวับด้วยความสงสัย จะจัดการยังไง? วีธีไหน? ไม่มีทาง ยังไงเขาก็ไม่ยอมปล่อย...
 
ชายหนุ่มก้มหน้าลงมองพื้นพรมที่เท้าตัวเองนิ่งๆ นึกตกใจกับความคิดกะทันหันของตัวเองขึ้นมาชั่วครู่

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของชั้น...ในเมื่อทั้งโกรธและเกลียดมันปิดบังหูตานาย...ก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันจะเอาตัวปัญหาไปกำจัดยังไง”เสียงห้าวบวกหน้าตาดุดันอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ ไม่ได้แฝงรอยยิ้มหรือหัวเราะกลับมาเหมือนทุกครั้ง...

กลับกันมันกับทำให้ชายนุ่มขนลุกซ่านไปทั้งตัว...ด้วยนิสัยใจคอที่ถูกเลี้ยงมาต่างกัน ถึงจะสนิทกันแค่ไหนเป็นถึงระดับลูกของหัวหน้าพรรคด้วยกันทั้งคู่ แต่ครอบครัวเขาก็ไม่เคยสอนหรือบังคับให้ทำร้ายใครโดยไม่มีความผิด หรือฆ่าใครมาก่อน ศิลปะการต่อสู้ทุกอย่างที่เรียนรู้ก็เพื่อดำรงรักษาไว้ เพื่อเอาไว้ป้องกันตัวเองเท่านั้น ตัวเขาเองมีความคิดและอิสระพอที่จะเลือกอาชีพให้ตัวเอง ไม่ได้รับช่วงสานต่อแต่อย่างใด

แต่ว่ากับเจมันไม่ใช่ ...เจผ่านทุกอย่างมาอย่างช่ำซองและโชกโชน ไม่มีเหตุผลในการทำความดีความเลว...ด้วยฐานะเพื่อนที่เห็นมาตั้งแต่เล็กๆ มันจึงทำให้เขาจุกจนพูดไม่ออกขึ้นมา...ปัจจุบันเจยังคงรักษาตำแหน่งหัวหน้าพรรคเอาไว้…สะสางเรื่องทุกอย่างเอง ถึงจะทำกันอย่างลับๆ...แต่เบื้องหลัง...เขารู้ดีว่าเจเป็นคนบงการ

ส่งโทชิยะให้เจจัดการ...ก็มีแต่...

“ไม่เป็นไร ปัญหาของฉัน ฉันจัดการเองได้”ดายปัดมือของเพื่อนออกจากไหล่ ยกบุหรี่อัดเข้าปอดไปเต็มๆลำคอแห้งผากขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

“อะไร?...เครียดเชียว...อยากเห็นหน้าเสียแล้วซิ...จัดการยังไงน้าให้ผ่านมาได้ถึงครึ่งปี”เจแกล้งล้อดายเล่น ไม่มีทีท่าเครียดขึงเหมือนอีกฝ่าย

“ขอดูหน้าหน่อยนะ” โดยที่ไม่ต้องรอคำตอบ ร่างบึกบึนของเจก็ก้าวขาขึ้นบันใดไปยังชั้นบนทันทีและด้วยความตกใจทำให้ดายรีบสาวเท้าจ้ำตามเพื่อนร่างบึกไป

“อะไรกัน...ถึงกับขนาดต้องขังเชียวหรือวะ?ท่าทางจะไม่ใช่เล่น...”เมื่ออีกฝ่ายล้อและส่งสัญญาณให้เขาไขกุญแจให้ ดายก็อดที่จะปรามด้วยสายตาดุเข้าใส่อีก
…………..

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
……………………


และทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดออกสิ่งแรกที่เจเจอก็คือ หมอนหนุนใบโตปลิวติดหน้าของเขาเต็มแรง และตามมาติดๆด้วยนิตยสารอ่านเล่นเล่มขนาดย่อมๆที่วางอยู่บนหัวเตียงปลิวผ่านหัวเขาไปอย่างหวุดหวิด เร็วและแรงจนตั้งรับแทบไม่ทัน ข้าวของภายในห้องก็ระเกะระกะ จากฝีมือของร่างสวยบนเตียงกว้าง หัวไหล่เปลือยเปล่ามีแต่ผ้าห่มคลุมเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ ไม่บอกก็รู้ว่าด้านล่างลงไปมันจะไม่เหลืออาภรณ์ชิ้นใดปกปิดร่างสวยนี้เอาไว้เลย

ดวงตาหวานคู่สวยฉายแววหม่นหมอง ใบหน้านวลแดงซ่านไปด้วยเลือดฝาดกระจ่างสายตาหันมามองเขาอย่างตกใจ ก่อนที่จะสะบัดหันหนีไปทางอื่นเมื่อเห็นว่า...เป้าหมายที่ต้องการให้โดนมันผิดพลาด

ทั้งใบหน้าและรูปร่างที่โดดเด่นสะดุดตากับบางอย่างที่เจรู้สึกได้จากร่างสวยทำให้เขาพอจะสรุปพฤติกรรมของดายได้...ตรงสเป็คผู้หญิงที่ดายชอบ!

ความงามที่กินขาดเกินผู้หญิง ...สวยชะมัด!...สวยจริงๆด้วย แบบนี้นี่เอง มิน่า...

เจยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ไม่ให้เพื่อนเห็น ก่อนที่จะหันไปพูดกับดาย

“นี่นะเหรอที่ทำให้ไอ้สุหงิมันคลั่ง...และที่สำคัญทำให้ฮารุและเดมิโกะ...”นิ้วชี้ยกขึ้นทำสัญญาลักษณ์บางอย่างที่ลำคอของคนพูด

“ฉันไม่ได้ทำให้ใครตายทั้งนั้น หยุดกล่าวหากันเสียที!!”น้ำเสียงกร้าวแทรกขึ้นเฉียบขาดตะโกนลั่นกลับมาให้ทั้งดายและเจได้ยิน …เป็นการบอกว่าคำสนทนาของทั้งคู่ร่างบางก็ได้ยินด้วย

ไม่ต้องกระซิบหรือนินทาระยะเผาขน...จะยังไงเขาก็ได้ยิน แล้วเขาก็ไม่ได้ทำ…มันเป็นแค่ความบังเอิญ...เขาไม่ได้ตั้งใจ!

"หยุดเสียที!!!...ฉันไม่ได้ฆ่าใคร!!!...มันไม่ใช่ความผิดของชั้น!!!"

แล้วประโยคกล่าวหาลอยๆของเจ กับประโยคตอกกลับด้วยความไม่พอใจของร่างสวยก็ส่งผลให้ดายโกรธขึ้นมาแทบจะทันที

เจแอบยิ้มที่มุมปาก พูดแค่นี้ก็เท่ากับจุดไฟให้ดายอีกครั้ง...อยากจะรู้นัก...อะไรกันแน่ที่ทำให้ดายไม่กลับบ้านเกือบครึ่งปี...เขาเชื่อว่าดายรู้สึกกับอีกฝ่ายมากกว่าที่เขาเห็น...เพราะดายไม่ใช่คนที่จะแสดงออก...กับร่างสวยตรงหน้าที่ปากบอกว่าแค้นนักหนายิ่งเป็นไปไม่ได้ที่ดายจะพูดออกมาตรงๆ

สายตาคมดุตวัดมองอย่างโกรธแค้น ในเวลานี้ความเสียใจจากการสูญเสียเมื่อในอดีตผุดพรายและเกาะกินหัวใจอีกครั้งเข้ามาบดบังความมีเหตุผลกับร่างเพรียวไปจนหมดสิ้น

ชายหนุ่มถลาเข้าหาร่างเพรียว ขึ้นนั่งคร่อมจับหัวไหล่บางบีบไว้แน่น สายตาดุดันน่ากลัว... ความรู้สึกทั้งหมดของดายที่ร่างเพรียวสัมผัสและรับรู้ได้ก็คือ... ดายแทบจะฆ่าเขาให้ตายคามือ

“เจ้าเล่ห์เพทุบาย ทั้งผู้ชายผู้หญิง ทำไม!..ทำไมนายไม่ตายไปซะ!!ทำไมต้องเป็น...ทำไม๊!!!น้องฉัน คนรักฉันเอาคืนมาซี้!!!...คนที่ตาย...ทำไมไม่ใช่นาย!!!ทำไม๊?!!!”ชายหนุ่มตวาดถาม ตะคอกใส่ด้วยอารมณ์รุนแรง สติขาดสะบั้น ความโมโหและแค้นเคืองทำให้หน้ามืดตามัว ระเบิดอารมณ์ที่จางลงไปมากแล้วปะทุเข้าใส่ร่างเพรียวจนสั่นผวา


โทชิยะปลิวติดมือดายอย่างง่ายดาย ร่างเพรียวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บจากฝ่ามือแกร่งที่บีบแน่น สายตาเครียดแค้น ชิงชังและแรงอารมณ์ของดายที่เกินกว่าปกติหลายเท่า ทำให้ชายหนุ่มน่ากลัวมากนัก ร่างเพรียวสะท้านขึ้นมาทันใด สั่นไหวไปกับแรงอารมณ์ที่เคยได้รับจากอีกฝ่าย เมื่อครั้งที่ดายพาเขามาที่นี้ใหม่ๆ ด้วยเหตุผลที่ถูกยัดเยียดให้ว่าเขาเป็นตัวต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด

“ไอ้หน้าตาแบบนี้...รูปร่างแบบนี้...มันมีดีอะไร!?ทำให้หลงจนหัวปักหัวปำเลยเหรอไง!?ทำไม...ใครๆถึงพากันชอบนัก? ทำไมคนรอบกายฉันถึงได้ทิ้งฉันไปด้วย!!!?”เรียวนิ้วแกร่งเลื่อนขึ้นจับสันคางกลมมนบีบแน่น มองใบหน้าขาวนวลด้วยสายตาดูถูกและเหยียดหยามก่อนที่จะละลงมาเขย่าแขนตะคอกถามจนร่างทั้งร่างสั่นคลอนไปตามแรงอารมณ์ของเขา


โทชิยะพยายามกัดฟันแน่นถึงแม้ว่ามันจะขบกันจนเกิดเสียงดังพาลทำให้คางมันสั่นตามไปด้วยเพราะความกลัวอีกฝ่ายก็เถอะ แต่ดวงตาใสยังคงมองจ้องลึกไปยังดวงตาดุดันของดายไม่ลดละ ทำเป็นปากกล้าโต้ตอบกลับไปทันทีทันใด

 “ดีไม่ดี...มันก็ทำให้คนอย่างนาย...ขาดมันไม่ได้แม้แต่คืนเดียว…ก็แล้วกันหึ!”วาจาถากถาง เสียงหัวเราะเย้ยหยัน แววตาร้ายกาจ และรอยยิ้มกวนโมโหเปลี่ยนร่างเพรียวให้กลายเป็นอีกคน...ไม่เคยคิดที่จะทำ...แต่ในเวลานี้มันช่วยไม่ได้ ...จะยอมทนอารมณ์ของอีกฝ่ายทำไม!!


ได้ยินและได้เห็นดังนั้น ดายแทบจะเค้นคออีกฝ่ายให้แหลกเสียให้ได้ แรงอารมณ์ประทุขึ้นสูงเกินยั้งได้อีกต่อไป ฝ่ามือแกร่งเข้าประทะใบหน้านวลตรงหน้าเต็มแรง

“อย่างนาย...”ไม่วายที่ดวงตาคมดุจะไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาดูถูก

“...มัน...ไม่ได้มีค่าอะไรกับฉันเลย...”

“ชิ!!!”จบคำพูดของดาย ร่างเพรียวก็สบถคำด่าด้วยความโกรธพร้อมกับสะบัดฝ่ามือเข้าใส่ใบหน้าคมบ้างอย่างรวดเร็วด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจกับคำพูดนั้น

ไม่ต้องตอกย้ำ..อย่างเขามันก็เป็นได้แค่คู่นอน...ที่รองรับอารมณ์เท่านั้น...จะให้เป็นมากกว่านี้ ก็คงไม่มีทาง!

ดายโกรธขบฟันจนคางขึ้นสันนู่น เขาไม่รีรอที่จะสั่งสอนตอบกลับไปอีกครั้ง...อย่างนี้จะให้ปราณี ใจอ่อนด้วยอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีทาง!!

“มันน่านัก!! สำคัญตัวเองผิดไปเหรอ?...หึ...ขอโทษด้วยนะ...อีตัวยังรู้สึกดีมากกว่านายหลายขุม...นายมันไม่มีดีอะไรเลย...โทชิยะ!!!”

*** ผวั๊ะ***

“สวะ!!!...โรคจิต!!...เซ็กซ์ของนายมันก็เหมือนกัน!!!.”เกินคาดโดยที่ดายไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าทำ โทชิยะก็ชกกลับสวนคืนมาอย่างรวดเร็วอีกครั้ง

ไม่ทนอีกแล้ว...หันมาโต้กลับบ้าง พร้อมกับที่มุมปากอิ่มของร่างเพรียวเริ่มมีเลือดซึมออกมาให้เห็นอีกรอบ

“กระจอก!!..เด็ก!ไร้ประสบการณ์สิ้นดี!!!นายมันก็ทำได้แค่นี้แหละ!!”อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดเถอะ...จะมีอะไรที่เขายังไม่เคยถูกดายข่มเหงอีก...ไม่มีอีกแล้ว พอๆกับที่สายตาดายมันก็ไม่ได้เห็นเขาดีเด่อะไรอยู่แล้ว!!

เอาให้พัง เอาให้ตายๆกันไปซะ...เขาจะได้หลุดพ้นมันเสียที...

ในขณะนี้ไม่มีใครสังเกตเห็นรอยยิ้มของอีกคนที่ดูเหตุการณ์อยู่ภายในห้องแต่อย่างใด

โทชิยะยิ้มเยาะดายอย่างเป็นต่อ ถึงแม้สถานการณ์มันจะทำให้ยิ้มไม่ออกก็ตามที...เขาไม่เคยขัดขื่นหรือต่อสู้เอาตัวรอดกับดายจริงๆซักครั้ง...ดูดายตะลึงไปบ้าง...แต่ก็ช่าง... จะอ่อนให้ดายตลอดไปทำไม?

และมันก็ได้ผล ดายสุดจะทนแล้วเช่นกัน ชายหนุ่มเดือดดาลกับคำพูดดูถูกของร่างเพรียวตรงหน้าจนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ไว้ได้อีก...ความคิดที่จัดการอีกฝ่ายตามทางของตัวเองมันหายไปทันที

แรงโกรธและเกลียดที่มีอยู่ก่อนหน้าทำให้หน้ามืดตามัว หมดความอดทนกับร่างเพรียวอีกต่อไป กระชากเรียวแขนอีกฝ่ายเข้าหาตัวเต็มแรง ก่อนที่จะแนบจูบลงบนริมฝีปากอิ่มอย่างรวดเร็วไม่ทันให้ตั้งตัว ดุดันและเร่าร้อน ดูดดึงและขบกัดปากอิ่มจนร่างเพรียวเจ็บและปวดแสบปวดร้อนไปทั่วบริเวณ ก่อนที่ดายจะผละออกมาด้วยความรวดเร็วพร้อมกับทำสีหน้าที่ทำให้ร่างเพรียวเจ็บและจำไปจนวันตาย

“ฮึ!ไร้รสชาติสิ้นดี!เจ....”เรียวนิ้วขาวสะอาดลูบไล้และบีบเคล้นให้เจ็บเล่นจนแดงซ้ำ ไล่สายตาไปทั่วเรือนร่างเปลือยเปล่าก่อนที่จะหันไปเรียกอีกคนที่เข้ามาด้วยกัน

“อยากจัดการยังไงก็เชิญ...ฉันอนุญาต!!!”ทันทีที่พูดจบดายก็กระชากโทชิยะออกจากตัว ดันร่างเพรียวให้ไปประทะกับร่างของเจด้วยท่าทางรังเกียจไม่ยีระอีกฝ่ายอีกต่อไป

“แน่ใจ…?”เจไม่วายแกล้ง หันมาถามด้วยสีหน้าอ่านไม่ออก วงแขนหนาแน่นรีบรับร่างเพรียวเอาไว้

“อยากทำอะไร ก็ทำไป!!!”และดายก็ไม่รีรออะไรอีก หมดความอดทน หมดความใจอ่อน...ยุติความรู้สึกที่คุกคามในใจเอาไว้แค่นี้...พอกันเสียที!!

“หึ.. ก่อนที่จะจัดการ ขอฉัน...”ไม่ต้องพูดคำต่อไปก็เป็นอันรู้กันว่าเจหมายถึงอะไร  สายตาที่ลามเลีย และกริยาวาจานั้นทำให้โทชิยะยืนไม่ติด ความกลัวที่ข่มจนสงบแล้วฉายชัดออกมาทางใบหน้าและแววตา

ร่างเพรียวเริ่มออกแรงดิ้นรนออกจากวงแขนแข็งแรงของเจ ถีบเตะอีกฝ่ายเท่าที่แรงจะเหลือให้สู้...แต่ทว่าก็ไม่เป็นผลเมื่อเจจับแขนของเขาล็อคไพล่หลังเอาไว้ได้

“ไม่นะ!พวกนายจะทำอะไรชั้น!!อย่า...ฮึก!!!”เมื่อรู้ตัวว่าไม่มีทางหนีแน่นอนแล้วความกลัวจับหัวใจก็แล่นเข้าควบคุมจนทำอะไรไม่ถูก

เรือนร่างที่กำลังถูกเจสัมผัสและลูบไล้อยู่นั้น..สร้างความรู้สึกขยะแขยงและหวาดกลัวไปหมด

“ทำบ้าอะไร!ไม่นะ...อย่าทำฉัน!!”ทั้งร้องทั้งดิ้นมองเห็นดายสะบัดหน้าพรืดหนีไปอีกทางก็ยิ่งใจหาย ....สายตาคู่นั้น...เกลียดเขาจนถึงกับ...ทำกันขนาดนี้เลยหรือ...?

ปวดหน้าอก หายใจแทบไม่ออก...เจ็บที่กายไม่เท่าไหร่...แต่เจ็บที่ใจ...เกินจะเยียวยา...
เมื่อมันไม่มีค่า ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว...จะยกให้ใครก็ได้...กับใครก็ได้ ...ช่างไม่มีค่าอะไรเอาเสียเลย ไม่ต่างกับของใช้ที่พังแล้วซินะ...

“อยู่เฉยๆนะคนสวย...รับรอง...ฉันถึงใจกว่าดายแน่”เจตีหน้าตายทั้งที่อยากหัวเราะให้ฟันหักเมื่อเห็นว่าดายเริ่มยืนไม่ติด หันหลังไม่ยอมมองมายังเขาและโทชิยะ...ทนได้ทนไปดาย!...ใจร้ายให้มันได้ตลอดรอดฝั่งแล้วกันไอ้น้องชาย...


“ฮึก!ไอ้บ้า! ไอ้คนใจร้าย!...เกลียดนักก็ฆ่าชั้นให้ตายไปเลยซิ!..ปล่อยชั้น!ฮึก!”ขาคู่สวยยันถูกท้องของเจเข้า  ทำให้เจเสียหลักเผลอปล่อยแขนที่ล็อคเอาไว้ โทชิยะรีบผลุนผันลงจากเตียง น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วไหลออกมาอีก ตะโกนด่าดายไปด้วย..

ถ้าคิดจะข่มเหงรังแกกันแบบนี้...ก็ตายกันไปข้างหนึ่งเถอะ!!!
เลิกสำออย น้อยใจ เสียใจได้แล้วโทชิยะ!!!
ความแข็งแรง ความแข็งแกร่งของนายหายไปไหนหมด!!!

ร่างเพรียวหันซ้ายหันขวาคิดหาทางรอดให้ตัวเอง เมื่อเห็นว่าที่หน้าห้องมีดายยืนอยู่ เท้ามันก็เบี่ยงเบนไปยังประตูห้องน้ำตามสัญชาติญาณเอาตัวรอดทันที

“ฤทธิ์เยอะนักนะ!...ไม่ว่าอะไรใช่ไหมดาย ถ้าฉันเอาจริง!”เจลูบท้องตัวเอง พลางสบถออกมา...จากที่คิดว่าจะแกล้งเล่นเพื่อพิสูจน์ความจริงที่ซ่อนไว้แต่เมื่อเห็นว่าร่างเพรียวไม่ได้ให้ความร่วมมือด้วย...เขาก็ไม่รั้งรอให้เสียเวลาอีกต่อไป

ขืนรอให้ดายตกหลุมพรางได้ เขาก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะมีน้ำอดน้ำทนกับร่างเพรียวได้นานนัก...ยิ่งโทชิยะต่อต้านเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเหนื่อยเปล่าและเจ็บตัวฟรี...ไม่คุ่มค่า ดีไม่ดี...ร่างสวยอาจได้ตายคามือของเขามากกว่า

เมื่อเห็นว่าดายไม่ตอบและเบื่อนหน้าหนี ก็เป็นอันเข้าใจว่า อีกฝ่ายตามใจเขา...ปล่อยให้เขาจัดการ...

เจตามไปกระชากแขนของร่างเพรียวเอาไว้ได้ทันก่อนที่โทชิยะจะปิดประตูห้องน้ำใส่หน้า เหวี่ยงร่างเพรียวไปติดผนังอีกด้านของห้องเต็มแรง

“ไม่อยากให้รุนแรงด้วย...ก็ทำตัวให้มันว่านอนสอนง่ายหน่อย...หนูน้อย”เสียงขู่กระซิบรอดไรฟันอยู่ต่อหน้าห่างไปไม่ถึงคืบ เมื่อเจเอาตัวเข้ามาประชิดกดร่างเอาไว้ ฝ่ามือหยาบกระด้างลูบไล้ที่ลำคอช้าๆ ออกแรงบีบน้อยๆให้โทชิยะกลัวมากขึ้น ก่อนที่จะลามลงไปยังหน้าท้องเนียนเรียบลูบคลำเล่นอย่างหยามใจ

“ชิ...ดูถูกกันเกินไปแล้ว!!”โทชิยะสบถโต้กลับถุยน้ำลายใส่หน้าด้วยความเกลียดชังในพฤติกรรมหยาบโลนพร้อมกันนั้นก็กระแทกเข่าเข้ากลางลำตัวของเจและตามด้วยการกระทืบหลังเท้าของเจไปเต็มแรง ท่าทางมันดูไม่เอาเรื่องเท่าไหร่ แต่เวลานี้ถ้ามันจะทำให้เขาเอาตัวรอดจากมือเจและดายได้...ไม่ว่าจะต้องตายเขาก็ยอม

รู้ตัวเองแน่ๆว่าสู้อีกฝ่ายไม่ได้...เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่น้อยนิดก็ไม่รู้จะต้านเจไว้ได้นานแค่ไหน...แต่จะให้อยู่นิ่งๆยอมให้ข่มเหงกันง่ายๆอย่างนั้น ไม่มีซะล่ะ

“โอ้ย!!!....ดื้อชะมัด!อย่าให้จับได้นะ ....”เจเผลอร้องด้วยความจุกบวกความเจ็บที่ฝ่าเท้า

“แน่จริงก็เข้ามา...ฉันไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครบางคนใช้สมองส่วนล่างคิดหรอก!”คำพูดท้าทายพร้อมคำด่าเอ่ยประชดร่างแกร่งที่ยืนนิ่งพิงกำแพงห้องดังขึ้นอย่างจงใจ...ทำให้ดายหันไปมองตาขวาง

ให้ตายเถอะ!แค่ดายคนเดียวก็ว่าแย่สุดๆแล้ว!!ถ้าต้องถูกไอ้ถึกนี่ทำอะไรล่ะก็...เป็นยังไงก็เป็นกัน...กับดายยอมรับว่าเขาไม่ได้ต่อต้านสู้ยิบตาขนาดนี้...เป็นเพราะอะไรนั้นเขารู้ตัวเองดี

...จะเป็นใครก็ได้ยังงั้นเหรอ...ให้นอนกับใครก็ไม่แยแสว่างั้นสิ…บ้าชิบ!มีแต่ไอ้คนพูดไม่รู้เรื่องอย่างดายเท่านั้นแหละที่เขาจะยอมให้

แต่นี่ดายทำกันแบบนี้...ให้ตาย!ไม่น่าหลงผิดเลย...

เสื้อคลุมอาบน้ำของดายที่พาดอยู่บนเก้าอี้ข้างตัวถูกคว้าเอามาสวมปกปิดร่างกายเอาไว้อย่างลวกๆ ร่างเพรียวใช่จะชอบชกต่อยกับใคร แต่นี่เป็นเพราะสถานการณ์มันบังคับให้ทำ ข้างหน้าเขามีดายคอยยืนคุมเชิง ข้างหลังเขาก็มีไอ้ถึกที่เตรียมจะตะครุบเขาได้ทุกเมื่อ

ตัวต่อตัวกับดายก็มีแต่จะแพ้ใจตัวเอง ....แต่ถ้าคว่ำเจได้...

“เข้ามาสิ...ถ้าคิดว่านายทำได้...”โทชิยะร้องท้า ถึงฝีมือในเรื่องชกต่อยจะไม่เก่งกาจอะไรมากนัก แต่เขาก็พอจะมีเอาไว้ป้องกันตัวบ้างล่ะ

ดายมองอย่างสนใจ ท่าทางร้ายกาจของร่างเพรียว เอาเรื่องอย่างไม่เคยเห็น...รูปร่างอ้อนแอ้นอย่างนี้ชกต่อยกับใครเขาเป็นด้วยเหรอ?....เลยเผลอยกมือลูบตรงมุมปากที่โทชิยะชกกลับคืนมา รสเลือดยังไม่จางหาย หมัดนักเอาการ....แล้วทุกครั้งกับเขาที่บังคับและบางครั้งถึงกับต้องลงไม้ลงมือล่ะ...ทำไมถึงไม่โต้ตอบ?

“เฮ้!มั่นใจขนาดนั้นเลยคนสวย...ถ้าล้มฉันได้เธอก็หนีจากเจ้านั้นได้สบายเลยล่ะ แต่ว่า...อย่าดีกว่ามั้ง?...ฉันไม่ได้ใจดีเหมือนดายนะ...อย่าให้จับได้เชียว...เดียวจะลุกจากเตียงไม่ได้ไปหลายวัน”เจเอ่ยล้ออีก ท่าทางไม่ได้บอกว่าโกรธร่างเพรียวมากนัก เดินเข้าหาร่างเพรียวอย่างใจเย็น ไม่คิดว่าโทชิยะจะมีพิษสงอะไรอย่างที่พูด

“สบประมาทกันเกินไปแล้ว พล่ามอยู่ได้ เข้ามา!!”

“ฮ่าๆๆ ดุจังแฮะ ....ถ้างั้น...ขอโทษด้วยนะหนูน้อย”
เจหัวเราะลั่นด้วยความถูกใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่เคร่งขรึม แกล้งคนนี่มันสนุกจริงๆ... ดายหน่อดาย

ฝ่ามือใหญ่ยื่นเข้าหมายจะจับเอวบางกระชากตัวเข้ามาหา แต่ทว่าโทชิยะก็เอี่ยวตัวหลบด้วยความว่องไวพร้อมกับหมัดฮุกที่ปล่อยออกมา เป้าหมายอยู่ที่ปลายคางของเขาคงกะจะให้เขาลงไปนอนนับดาวตั้งแต่ยกแรกกระมัง มันยังเร็วไปสิบปีหนูน้อย

ประเมินจากสายตาร่างสวยตรงหน้าคงไม่ล้อเล่นกับเขาแน่ ถึงจะดูเพลียแค่ไหนแต่ความคล่องตัวท่าทางเอาเรื่องนั้นประสบการณ์ของเขามันก็บอกว่าอย่าได้คิดเผลอโทชิยะซักนิดเพราะถ้าไม่อย่างนั้นละก็...อาจเป็นเขาเองที่หัวเราะไม่ออก...


โทชิยะตวัดลิ้นชิมรสเลือดของตัวเองตรงมุมปากที่เริ่มขึ้นรอยเขียวคล้ำขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอกย้ำว่า...ไอ้คนไร้หัวใจดาย...มันรุนแรงกับเขาแค่ไหน...เจ็บใจดีพิลึก...ไม่ได้สำคัญตัวเองผิดจริงๆ...

แต่ไม่ได้สำคัญตัวเองผิด แล้วทำไมต้องเจ็บ เสียใจด้วย ไอ้อาการแน่นหน้าอกร้าวรานที่รุ่มเร้าอยู่นี่ มันอะไรกัน?

บ้าสิ้นดีโทชิยะ!

ร่างเพรียวแค่นหัวเราะให้ตัวเองอย่างข่มขื่น หันไปมองดายที่ไม่มีทีท่าแยแสเขา สายตาที่มีแต่แววเครียดแค้น ชิงชัง ไม่มีช่องว่างให้เขาเข้าไปอยู่ได้เลยซินะ ...เขาอยากหลุดออกไปจากที่นี้!ทำยังไงก็ได้...ตอนนี้เขาอยากออกไปจากที่นี้ที่สุด!!!

สาวเท้าก้าวถอยหลัง คว้าหยิบแจกันดอกไม้ตรงมุมห้อง ที่เป็นแก้วใสๆทรงสูงขึ้นมาไว้ในมือ ดวงตาใสมีน้ำตาไหลลงมาอย่างสุดกลั้น



“หน้าไหนเข้ามาฉันฟาดกบาลแตกแน่!”จะเอายังไงก็เอากัน ก่อนที่ความอึดอัดจะทำให้เขาคลั่ง เสียสติทำอะไรบ้าๆออกไป...ม่านตาที่มีแต่น้ำตากลบเบ้า เริ่มมองไม่เห็นใครเป็นใคร ...ในหัวมีแต่ภาพที่ถูกดายทำร้ายลอยอยู่เต็มไปหมด..ซ้ำยังเรื่องราวเลวร้ายที่ดายปรักปรำเขาอีก อุบัติเหตุ คนตาย เลือด!!! ไม่!!! เขาไม่อยากเห็นอีกแล้ว!!!!

เจกับดายหันมามองหน้ากัน จากที่ทำไม่สนใจร่างเพรียวตรงหน้าว่าจะเป็นยังไงนั้นหยุดชะงักไปชั่วครู่เมื่อเห็นอาการของโทชิยะที่เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้

เรียวแขนขาวที่จับแจกันส่ายไปมาอยู่ข้างหน้านั้น อันตรายกับตัวโทชิยะมากกว่ากับเขาและเจเสียอีก...ร่างเพรียวไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นยังไงอยู่แล้วนี่ ...ทำร้ายตัวเอง ร้องไห้ฟูมฟาย คลุ้งคลั่งเสียสติ...จนล่าสุดฆ่าตัวตาย!
……………..



To Be Con...


ฝากเรื่องนี้กันด้วยนะครับ

ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านครับ!!


jammy

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อไวๆนะครับเด๋วค้างหุๆ :m5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






niph

  • บุคคลทั่วไป
 :o11: :o11: :o11:
อ่านไปอ่านมา
รู้สึกอึดอัดตามไปด้วย

ทำไมน๊าาาาาา ใจร้ายกันจัง

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ดุเดือดเลือดพล่านหายใจไม่ออกเลยทีเดียว
ความแค้นมันมีแต่ทำให้คนเราเจ็บมากขึ้น
 :a6: :a6: :a6:

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
ฉันมีค่าแค่ไหน  4

“เฮ้!ใจเย็นๆคนสวย…”เจสาวเท้าเข้าหา ยกมือขึ้นห้ามเมื่อเห็นว่ามันชักจะยุ่งไปกันใหญ่

“ถอยไป!...อย่าเข้ามานะ!!...ออกไปให้หมด อย่ามายุ่งกับชั้น!!!...ออกไป!...บอกให้ออกไป!!!”ร่างเพรียวแผดเสียงลั่น ตาคู่สวยกรอกกลิ้งไปมาระหว่างดายกับเจ ไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น

ทั้งคู่หยุดชะงักเท้าไว้กับที่ทันที เจนั้นไม่เข้าใจอาการของร่างเพรียวเท่าไหร่นัก แต่ก็พอจะตีเอาคราวๆได้

“บ้าเอ้ย!นายทำอะไรไปบ้างเนี้ยดาย ถึงได้เป็นอย่างนี้!”พลางร้องถามอีกฝ่ายที่หน้าเริ่มซีด สายตาคมดุจ้องมองอาการของร่างเพรียวไม่กระพริบ

“อย่าพูดมากน่า!ช่วยกันเอาให้อยู่แล้วกัน ทำไมมันต้องมาเป็นตอนนี้ด้วยวะ?!!”ดายก็ตะคอกตอบกลับอย่างไม่เต็มใจ พร้อมกับสบถด่าออกไปด้วยความหัวเสีย ก้าวเข้าหาร่างเพรียวโดยไม่สนใจคำร้องของเจ้าตัว

“วางลงซะโทชิยะถ้าไม่อยากเจ็บตัว!!”พร้อมกับคำขู่กรายๆ สายตาคมเริ่มหันมามองแจกันใบโตบ้างอย่างไม่ไว้ใจ...อาการทางจิตที่เขาเคยสงสัยว่าร่างเพรียวเป็นเริ่มแสดงออกมาให้เห็นชัดเจน

“บอกว่าอย่าเข้ามา!..ได้ยินไม๊!!...ออกไป!!!...ออกไป๊!!!!”จะทำอะไรเขาอีก แค่นี้ยังไม่พออีกหรือไงกัน?


น้ำตาไหลห้ามไม่อยู่แล้ว...ดายใจร้าย ใจร้ายกับเขานัก...เรื่องราวเมื่อวันวานไหลย้อนให้นึกถึง ...มันเจ็บปวดมากแค่ไหนเคยนึกถึงเขาบ้างไหม?...เขาก็คนหนึ่งนะที่เจ็บไม่แพ้กัน!เสียใจ ร้องไห้ ทรมานเหมือนกัน!!ทำไมต้องทำกันเหมือนคนไม่มีหัวใจด้วย!!!

สายตาคู่นี้...จ้องมองด้วยความโกรธเกลียด...แผดเผาเขาให้กลายเป็นจุล...ไม่เคยมองด้วยความรู้สึกอย่างอื่น...คำว่าเข้าใจ  สงสาร อ่อนโยน ต้องการแค่เท่านี้!...เคยรู้สึกกับเขา...เคยมีให้กันบ้างไหม?...
ดาย..?ไม่เลย...ไม่มีเลยซักครั้ง!!!

ริมฝีปากหยักสวยนี้...จิกตีด้วยคำพูดเจ็บแสบ...แต่ละคำ ปรักปรำ ตอกย้ำ ฝังลึกถึงแก่นกลางใจ ไม่เคยพูดดีด้วยซักครั้ง!...

แม้แต่...จูบ...อยากจูบหรือแค่จูบไปงั้นๆเพราะมันก็เป็นแค่ส่วนประกอบหนึ่งของเซ็กซ์?...ถ้าเป็นแบบนั้นจะจูบให้เสียปากทำไม!!?...เคยจูบด้วยความรู้สึกบ้างไหม...?ไม่เลย!...ไม่เลยซักครั้ง!!!

มือคู่นี้...ยื่นเข้ามา...จะฆ่ากันใช่มั๊ย?...กระชาก บีบเคล้น ตบตี...จะเอาให้ตายคามือใช่มั๊ย?...เอาสิ ถ้ามันทำให้หายแค้น หายโกรธ เกลียด ก็ทำ......คอยบีบให้ทรมานเล่น คอยเคล้นให้บอบซ้ำทีละนิด ตบตีให้หวาดกลัวยิ่งขึ้น...มันได้ผลนะ...เขาหวาดกลัวขึ้นทุกวัน สั่นรนทุกครั้งที่ถูกสัมผัส...ทรมานทุกครั้งที่ถูกกอด!

รู้ไหม...? ทั้งหมด...มันเจ็บปวดชะมัด...เจ็บปวดแทบขาดใจ...เจ็บปวดแทบกระอักเลือด...ทุรนทุรายปางตาย...ที่ถูกสัมผัสด้วยความเกลียด!

ทำไม?...ทำไม!?ต้องให้เขาทำยังไงถึงจะหลุดพ้นมันสักที!......เมื่อไหร่วันนั้นมันจะมาถึง …?

สะใจหรือยัง!?...พอใจหรือยัง!?เลือดเนื้อ จิตวิญญาณ หัวใจ ได้ไปหมด...ยังจะเอาอะไรอีก?!!

ได้โปรดนะ...ทั้งหมด...ขอ...อย่าทำกัน...อย่าทำกับเขาแบบนี้...อย่า...อย่าทรมานกันแบบนี้!!...อย่าบังคับกันแบบนี้!!!

*** เพล้ง ***

“อ๊าคคคคค ฮึก!!!”เสียงแจกันกระทบกับขอบโต๊ะดังขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องด้วยความทรมานของร่างเพรียว เรียกความตกอกตกใจจากดายและเจจนตะลึงงันชั่วครู่

โทชิยะลงไปนั่งกองกับพื้นด้วยอาการสะอึกสะอื้น ในมือยังคงถือแจกันที่แตกกลางเอาไว้แน่นจนส่วนที่เหลือแทบแหลกคามือ ใบหน้าหวานก้มหน้าร้องไห้โฮก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองทั้งสองคนด้วยน้ำตานองหน้า ในหัวมองเห็นภาพเลวร้ายสารพัดที่ดายทำกับตัวเองอย่างเด่นชัด

“ฮึก!นายมันบ้า!นายมันไม่มีหัวใจ!!เอาซี้อยากทำอะไรก็ทำไป!!แต่อย่านึกว่าฉันจะยอมให้ง่ายๆไม่มีวัน...ไม่มีวันหรอก เข้าใจมั๊ยยยย!!”น้ำตาไหลตลอด ฝ่ามือทุบลงบนพื้นระบายอารมณ์ที่อัดอั้นไปด้วย

“ดายเอาไงวะ?”เจไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้ร่างเพรียวแม้แต่น้อย ไม่ได้กลัวแจกันนั้น แต่ที่เขากลัวคือไอ้อาการที่เดาไม่ออกบอกไม่ถูกของร่างเพรียวต่างหาก

“เคยเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นบ้างไหม?!แล้วเคยมองสิ่งที่ตัวเองทำบ้างไหม?!!มีหัวใจแค่นายคนเดียวเหรอไง!!!เลวสิ้นดี!!!..อย่าเข้ามา!...บอกว่าอย่าเข้ามาได้ยินไม๊!!!...ฮึก!”เสียงกรีดร้องถามของโทชิยะดังก้อง มือที่ถือแจกันเอาไว้ชี้กราดใส่หน้าดายอย่างเอาเรื่อง

“เอะอะอะไรกัน!”คาโอรุที่ป้วนเปื้อนอยู่หน้าห้องถลาเข้ามาถามและมองสิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้องด้วยความตื่นตกใจ

“หยุดเดี๋ยวนี้นะโทชิยะ!ฉันบอกให้หยุด!วางแจกันลงซะ เดี๋ยวนี้ วางลง!!”ดายขยับเดินเข้าไปหาช้าๆ หวังจะเข้าใกล้ในระยะประชิดเพื่อที่จะล็อคข้อมือบางบังคับให้ปล่อยแจกันลง

“ไม่!ออกไป..ออกไปให้หมด!!ออกไป๊”โทชิยะทั้งกรีดร้องและตะโกน ความอัดอั้นภายใน ปวดใจแทบกระอัก ปวดหัวแทบระเบิด ควบคุมความรู้สึกไม่ได้อีกต่อไป ส่ออาการจิตวิปลาสขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว สายตาคู่งามเห็นใบหน้าของดายนับสิบหน้าลอยใกล้เข้ามาจะทำร้ายเขา

“โทชิยะ ใจเย็นๆนะ ...หายใจช้าๆๆ...นายไม่เป็นอะไร...ไม่มีใครทำอะไรนะ...”หลังจากที่หายตกใจ คาโอรุก็อีกคน พยายามขยับเท้าเข้าใกล้ เอ่ยปลอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล โดยที่ไม่ให้ร่างเพรียวรู้สึกตัว

“คาโอรุ...ฮึก! ฉันไม่อยากอยู่แล้ว...ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วอึก!...เข้าใจชั้นไหม?...นายเข้าใจชั้นใช่ไหม?!!!”โทชิยะพาลตะคอกถามเอากับคาโอรุ มีเพียงคนเดียวที่ห่วงใยเขาที่สุดตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี้

มือที่ถือแจกันไว้เริ่มแกว่งเข้าหาตัวเองบ้าง แกว่งไปรอบๆบ้างอย่างไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น

“เข้าใจ ชั้นเข้าใจนายนะ...ใจเย็นๆ...ไม่อยากอยู่ที่นี้ก็ไม่เป็นไร ...วางลงนะ แล้วเราค่อยคุยกันโทชิยะ...นะ”ชายหนุ่มพยายามเจรจาและปลอบอย่างใจเย็นที่สุด ทั้งที่ภายในโกรธผู้เป็นนายจนเนื้อเต้น..แต่เพราะความเป็นห่วงร่างเพรียวที่บอบซ้ำทั้งกายและใจเป็นทุนอยู่แล้วนั้นกลัวว่าจะเป็นอะไรมากขึ้นไปอีก ทำให้เขาไม่สนใจสายตาขวางโลกของดายซักนิด

“ไม่เอา!..ไม่มีใครอยากคุยกับฉัน...มีแต่คนข่มเหงฉัน!!”ร่างเพรียวร้องไห้และดื้อเหมือนเด็กที่ต้องการใครซักคนปลอบและเอาใจ ยังคงนั่งขดตัวอยู่กับพื้น สายตาหวานจ้องมองไปที่ดายอย่างเจ็บปวด

“มีสิ...ฉันนี้ไงโทชิยะ...ฉะ...ฉันจะพานายไปจากที่นี้นะ...ไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่ที่นี้ดีมั๊ย?”

ดวงตาคมกระตุกวูบ...เขาเห็นนะ...แววตานั้น...เห็นและรับรู้มาตลอด...หวงของเล่นชิ้นโปรดหรือไงกัน?โปรดปรานนักแล้วทำไมถึงไม่รู้จักรักษา?!

คาโอรุหันหน้าหนีดายซะ กลับมาสนใจร่างเพรียวแทน เพียงอีกนิดที่คาโอรุจะถึงตัวร่างเพรียว ประโยคที่ไม่เคยคิดจะพูดให้ดายได้ยินเอ่ยออกมาด้วยความไม่มั่นใจนัก...แต่ในเวลานี้คงเป็นสิ่งเดียวที่โทชิยะจะดีใจและต้องการมัน

ดายขยับเท้าตามคาโอรุไปด้วย...ในใจนึกเคืองลูกน้องคนสนิทอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง  เขาไม่ไว้ใจอาการคลุ้มร้ายของโทชิยะอยู่แล้ว...ปล่อยให้คาโอรุจัดการแล้วกัน ร่างเพรียวก็ดูจะฟังแต่หมอนั้นเท่านั้นในเวลานี้

“จริงๆนะคาโอรุ...นายอย่าโกหกฉันนะ...ฮึก!ฉันไม่อยากอยู่ที่นี้อีกแล้ว!”รอยยิ้มสวยคลี่ยิ้มส่งให้ทั้งน้ำตา เผลอหันไปมองคาโอรุด้วยความดีใจ

ไม่สบอารมณ์!...มันจะเป็นไปได้ยังไง..ที่พูดออกไปคิดดีแล้วหรือคาโอรุ?....รอยยิ้มและความเชื่อใจของโทชิยะที่มีให้คาโอรุดูขัดหูขัดตาดายยิ่งนัก ไม่อยากเห็น!!

เลยพาลทำให้สาวเท้าเข้าหาร่างเพรียวด้วยความเร็ว หลงลืมอันตรายต่อตัวเองกับตัวร่างเพรียวไปเสียสิ้น

“ไม่อยากอยู่!...แต่ก็ต้องอยู่มันที่นี้นั้นแหละ!!...เลิกสำออยได้แล้ว ปล่อยลงเดี๋ยวนี้!!!”เพราะหันเหความสนใจไปที่คาโอรุหมดทำให้ดายเข้าชาร์จถึงตัวร่างเพรียวได้ก่อนคาโอรุ  มือแกร่งทั้งสองข้างล็อคมือไม้ของโทชิยะเอาไว้ อีกข้างบีบบังคับข้อมือของโทชิยะให้ปล่อยแจกันลง

“ไม๊!...ปล่อยชั้น!!...ปล่อย!!!...ฮึก!!!!”โทชิยะดีดดิ้นใหญ่ ขัดขืนแรงของดายสุดฤทธิ์ กรีดร้องอย่างคนเสียสติ

ทั้งใบหน้าและร่างกายของผู้ชายคนนี้ ทำให้เขาเจ็บปวดมากนัก จะมาทำให้เขาเจ็บมากไปกว่านี้อีกแน่ๆๆ...ไม่เอา เขาไม่เอา...เขากลัว...ไม่เอาแล้ว...เขากลัวดาย…กลัวที่สุด!

“จนได้!”คาโอรุเผลอสบถเบาๆ ก่อนที่จะรีบเข้าไปช่วยดายจับร่างเพรียวที่ตะเกียกตะกายหนีและตบตีทำร้ายต่อสู้ดายไปด้วย

“ปล่อย...ปล่อยฉัน!!คาโอรุปล่อยฉัน!!!ฮึก!”ยิ่งดายและคาโอรุออกแรงยึด โทชิยะก็ยิ่งออกแรงยื้อ กรีดร้องและถีบตัวดิ้นรนขัดขืนไม่หยุด และไม่มีทีท่าว่าจะวางแจกันลงง่ายๆด้วย ทั้ง 3 คน เลยดูนัวเนียพัลวัล ตีกันจนยุ่ง

เจตบหน้าผากตัวเองด้วยความรู้สึกยุ่งยากใจ มองดูทั้ง 3 อย่างตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเข้าไปช่วยอีกแรงไหม?

*** อัก ***

แล้วคาโอรุก็เป็นคนแรกที่ถูกลูกถีบของร่างเพรียวกระแทกเข้าที่หน้าอกเต็มแรงจนกระเด็นออกมา

“หยุดเดี๋ยวนี้นะโทชิยะ!ฉันบอกให้หยุด!!”ดายตะคอกสั่งทั้งที่รั้งตัวอีกฝ่ายเอาไว้ในวงแขน จับล็อคเอาไว้จากทางด้านหลังของร่างเพรียว

“ไม่!!...อย่า...อย่าทำ ไม่!!”ยิ่งดายตะคอกร่างเพรียวก็ยิ่งเตลิดขวัญกระเจิงกรีดร้องถีบตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ข้อมือตวัดขึ้นเอาส่วนที่แหลมคมของแจกันปัดแฉลบถูกต้นแขนของดายจนได้แผลเรียกความโกรธให้กับชายหนุ่มในความบ้าคลั่งไม่ได้สติของโทชิยะขึ้นมาอีก

“โธ่เว้ย!บอกให้หยุดไง หยุดโว้ย!!”และโดยที่ไม่มีใครคาดคิดอีกเหมือนกัน ฝ่ามือแกร่งก็ตบฉาดเข้าที่ใบหน้างามอีกครั้งอย่างเหลืออด พร้อมกับสบถเข้าใส่ ออกแรงดันให้โทชิยะลงไปนอนกับพื้นห้อง คร่อมเอาไว้โดยไม่สนใจความเจ็บและเลือดที่เริ่มไหลเป็นทางออกมาจากแผลที่ต้นแขนของตัวเอง

“เจ!...อย่ายืนดูเฉยๆไปหยิบกระเป๋าฉันที่โต๊ะทำงานให้ที เร็ว!”

“อะ...เอ่อ...ก็ได้วะ”เจรีบสาวเท้าไปยังโต๊ะทำงานของดายที่อยู่อีกฝั่งในห้องนอน คว้าเอากระเป๋าสีดำบนโต๊ะมาด้วยความไว

“ตัวบางแทบจะหักออกอย่างนี้ แรงเยอะชะมัด!คาโอรุมาช่วยจับแขนกดเอาไว้ที!!”

“ฮึก!...อ๊าคคคค!!...ปล่อย!...ปล่อยฉัน!!!....ดาย ไอ้คนบ้า!ไม่มีหัวใจ...ปล่อยฮืออ!!!”

“ทนหน่อยโทชิยะ....ควบคุมสตินะ...ใจเย็นๆ..ไม่มีใครทำอะไรนายนะ”มือไม้ที่สั่นรนของคาโอรุทำอะไรไม่ถูก สงสารร่างเพรียวจับใจ...โทชิยะดูเหมือนแก้วบางๆที่แทบจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ ทั้งๆที่จับแขนเรียวเอาไว้แต่มืออีกข้างก็อดที่จะลูบผมดำเงางามเบาๆปลอบโยนไปด้วย

“ดายนี่ใช่ไหม?”เจชูกระเป๋าให้ดูก่อนที่จะเข้ามาช่วยจับอีกแรง

“นั้นแหละ!จับขากดไว้เจ...อยู่เฉยๆโทชิยะ อย่าดิ้นให้มันมากนัก!”น้ำเสียงที่ไร้ความสงสารไร้ความอ่อนโยน ตะคอกสั่งร่างเพรียวให้สงบสติอารมณ์ลง ก่อนที่ชายหนุ่มจะละออกมาค้นกระเป๋าประจำตัว หยิบเอาเข็มฉีดยาออกมาพร้อมกับขวดยาเล็กๆ

“ไม่เอา...พวกนายจะทำอะไรฉัน ไม่เอา!!!ปล่อย!!บอกให้ปล่อย!!! ”โทชิยะร้องไห้ด้วยความน่าสงสาร กรีดร้องด้วยความคลุ้งคลั่ง ทั้งยังฝืนแรงคนทั้ง 3 ที่รุมเขาคนเดียว สายตาเหลือบแลมองที่เข็มฉีดยาอย่างหวาดกลัว

“ฮือ...ไม่เอานะ...ไม่เอา ฮึก!...จะ...เจ็บ...ฮึก! เจ็บ!”ร่างกายของร่างเพรียวส่ออาการออกมามากขึ้น เมื่อความกดดันมันกดทับอยู่ในสมอง..โทชิยะหน้านิ่วคิ้วขมวดปวดศีรษะอย่างรุนแรงจนตาเริ่มพร่า

แน่นอนอาการของร่างเพรียวก็อยู่ในสายตาดายด้วยเช่นกัน

“ไม่เอา...อย่า...ฮึก! …เจ็บ...จะ...เจ็บ!...ดะ...ดายยยย ....ฉะ..ฉัน  เจ็บ ชะ...ช่วยที...ชะ…อ๊าคคคคคค”

คำพูดร้องขอเอ่ยออกมาจากปากอิ่มอีกครั้งก่อนที่ร่างกายจะทนไม่ไหว กระตุกอย่างแรง คดคู้นอนงอตัวอย่างทรมาน มือบางปล่อยแจกันลงข้างๆอย่างไม่รู้สึกตัว เปลี่ยนมาจับศีรษะกุมเอาไว้อย่างเจ็บปวดแทน เรียวนิ้วขยุ้มเส้นผมจนยุ่งไปหมด ร้องเรียกร่างแกร่งอย่างน่าสงสารก่อนที่จะร้องขอและดิ้นอย่างทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดทรมาน

“เจ คาโอรุกดเอาไว้! ...ทำไมนะ ทำไมฉันต้องช่วยนายทุกครั้งด้วย!!...บ้าบอสิ้นดี เอากัดไว้!”ดายเอ่ยบอกทั้ง 2 คนพร้อมกับรำพึงรำพันอย่างหัวเสียเสียงดังอย่างไม่เข้าใจกับการกระทำของตัวเองนัก ก่อนที่จะหยิบผ้ากอซขึ้นมาแล้วใส่เข้าไปในปากของร่างเพรียว

“ดายยย....ฮึก”ริมฝีปากอิ่มยังร้องเรียกพลางสะอื้นไห้ไม่รู้สึกตัว

“แผลนี่ ...เอาไว้ลงโทษกันวันหลัง...อย่าคิดที่จะหนีให้ยาก!”เลือดที่ไหลเป็นทางออกจากบาดแผลของดาย ตกกระทบลู่ไหลถูกปลายคางมนของโทชิยะจนเลอะ

“ดะ...ดาย”โทชิยะยังคงร้องไห้ครางเรียก เมื่อดายใช้สำลีล้างแผลเช็ดเลือดของเขาออกให้...มือบางเผลอยื่นมาสัมผัสบริเวณแผลที่ตัวเองทำอย่างแผ่วเบาโดยไม่รู้ตัว...

เจ็บมากไหม? ...เขาอยากขอโทษ...

“จะเรียกทำไม? แค่นี้...ฉันไม่ตายหรอก!ว่าแต่นายเถอะอย่าชักตายไปก่อนล่ะ...แข็งใจเอาไว้ ยานี้จะช่วยให้นายไม่ต้องคิดถึงความผิดที่มันติดตัวนายไปหลายชั่วโมง”ทั้งๆที่กำลังรักษาให้แต่ดายก็อดที่จะประชดประชันด้วยความโกรธไม่ได้อีกอยู่ดี...

ดายดึงเข็มฉีดยาที่ฉีดลงไปที่ใต้ท้องแขนออกช้าๆ…นิ้วขาวสะอาดกดคลึงเบาๆบริเวณรอยฉีดเพื่อไปกระตุ้นให้ตัวยาทำงานเร็วขึ้นก่อนที่จะล้วงเอาผ้ากอซออกจากในปากให้ร่างเพรียว

เมื่อเห็นท่าว่า...จะสงบแล้วเจก็ละออกมายืนดูอยู่ห่างๆ ส่วนร่างสวยนั้นหมดฤทธิ์เดชลงไปนอนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยในวงแขนของคาโอรุที่ประคองเอาไว้เรียบร้อย

แต่กระนั้นเจก็ยังอดอมยิ้มไม่ได้...เมื่อผู้ที่เป็นทั้งน้องชายและเพื่อนในเวลาเดียวกันสาวเท้ายาวๆไปหยิบผ้าห่มที่กองหล่นอยู่แถวหน้าห้องน้ำเอามาคลุมให้ร่างบางสวยจับใจที่ปากบอกว่าเกลียดนักเกลียดหนานั้น

“หายใจช้าๆ...เป็นจังหวะ...เข้า...ออก...เข้า...ออก...นั่นอย่างนั้นแหละ...อย่ารีบร้อน...”ดายยังคงนั่งอยู่ข้างๆเพื่อดูอาการของโทชิยะต่อ อาการทางจิตเบื้องต้น...ที่โทชิยะเป็นให้เขาเห็นมาสองสามครั้งแล้ว

“ดะ...ดายยย”น้ำตาใสพรั่งพรูลงเป็นสาย ทำตามที่ชายหนุ่มบอกไปด้วย มือบางยกขึ้นจากข้างลำตัวได้เพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะยื่นออกไป เรียกร้องสัมผัสที่โหยหา เรียวปากอิ่มชื้นไร้สีเลือดเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่ตนมีกับอีกฝ่าย

“ดายยย...”ให้ตาย...ความรู้สึกกับอีกฝ่ายมันรุนแรงจนเขาไม่อยากยอมรับ...ถ้าดายไม่โกรธ เกลียดเขา ดายต้องรู้สึกได้แน่นอน...

“อยู่นิ่งๆ...จะเรียกทำไม!”น้ำเสียงต่ำตะคอกเบาๆ ก่อนที่จะหันหน้าหนี ไม่ยอมมองสบตากับร่างบาง ทำเป็นไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะร้องไห้เสียใจแค่ไหน

โทชิยะนอนนิ่งร้องไห้เงียบๆ ก้มหน้า ปล่อยน้ำตามันไหลออกมาอย่างไม่คิดที่จะเก็บกักเอาไว้อีก

เขามันบ้าเอง...เขามันโง่เอง...ทั้งๆที่ดายใจร้าย ทั้งๆที่ดายเกลียดเขายิ่งกว่าอะไร...แต่ทำไมเขากลับ...

งี่เง่า! งี่เง่าชะมัดโทชิยะ!! นายมันโง่งี่เง่าที่สุด!!!

“ดะ...ดายยย”ปากยังคงร้องเรียกร่ำไห้ไม่หยุด

“โธ่เว้ย!จะเรียกทำไม!!”ดายหันกลับมาตะคอกกลับอย่างรำคาญลูกกะตา...

ไม่อยากรับรู้...ไม่อยากสนใจ จะเป็นอะไรก็ช่าง!!

มือบางยกขึ้นอีกครั้ง...ความหวังก็แค่ ร่างแกร่งด้านหน้าจะอ่อนโยนกับเขาบ้างแค่เพียงซักนิดก็ยังดี

คาโอรุสะบัดหน้าหนีอย่างไม่อยากมอง...ทำไมเขาจะอ่านสายตาและความรู้สึกของคนทั้งคู่ไม่ออก

แล้วโทชิยะ...ก็ทำได้แค่นั้น ก่อนที่ตาคู่หวานจะปิดปรือลงและเรียวแขนจะตกลงข้างลำตัวเหมือนเดิม

ดวงตาคมดุไหววูบด้วยความใจอ่อนเกือบเอื้อมมือออกไปตอบรับสัมผัสนั้นแต่แล้วก็ต้องสะบัดหน้าหนี ไม่อยากเห็นกริยาที่คิดว่าเป็นจริตมารยาของร่างสวยขึ้นมา

“เอาไปนอนที่เตียง ฉันจะออกไปข้างนอกกับเจ คืนนี้...อาจจะไม่กลับ”แล้วก็หันกลับไปสั่งลูกน้องข้างตัวที่ยังประคองร่างสวยเอาไว้ในวงแขน

“นายให้ยาอะไรกับโทชิยะ...?”ความอ่อนน้อมที่เคยมีให้ผู้เป็นนายเริ่มหายไปทุกทีตั้งแต่โทชิยะเข้ามาอยู่ที่นี้ คาโอรุเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว ค่อยๆประคองร่างเพรียวขึ้นอุ้มไปวางลงบนเตียง

“ทำไม...?...เป็นห่วงหรอคาโอรุ...?ฉันก็แค่ฉีดยานอนหลับอ่อนๆให้เท่านั้น...”ดายหันมาตั้งคำถามแทงใจดำกับตัวเองก่อนที่จะยอมตอบไป

“ครับ เป็นห่วง...เป็นห่วงมาก”ชายหนุ่มเอ่ยตอบอย่างมั่นใจ ห่มผ้าให้ร่างสวยเรียบร้อย แล้วหันมาสบตากับผู้เป็นทั้งนายและเพื่อน

“เหรอ..?...ก็ดี!”ดายแค่นยิ้มเย็นให้...ไม่ต่อประโยคอะไรอีก ก่อนที่จะพาเจเดินออกจากห้องไปด้วยกัน


...................

.................

“ดีแน่...เพราะฉันจะไม่ยอมให้โทชิยะถูกนายทำอะไรอีกต่อไป...”

…..


………………..

To be continue.

ออฟไลน์ cargo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

jammy

  • บุคคลทั่วไป
ใครก็ได้มาช่วยปายที :sad4:

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
น่าสงสาร  มาต่อด่วน :m8: :m8: :m8:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
โหดร้ายเหลือเกิน โทชิยะไปทำไรไว้กันหนอ
 :a6: :a6: :a6: :a6:

sooyuu

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2: อ๊ากกกกกกกกกกกก กรีดร้องอย่างย้าคลั่ง นิยายเรื่องนี้มันโฮกฮากกระชากใจเมิ่กๆๆๆๆๆ

heart my and Soul สุดๆๆๆๆ ชอบเมิ่กๆๆ ค่า นายเอกช่างน่าสงสานเป็นที่สุด โดนทำร้ายเยี่ยงคนไม่มีชีวิตเลยทีเดียว
พระเอกก็เลวสมใจมั่กๆๆๆ อยากกรี๊ดดดร้องเป็นภาษาตุรกีมันถูกใจมากๆ ค่า (เเอบเป็นคนโรคจิต)

ฮุ้ยยย ที่จริงอ่านทีเดียวสี่ตอนรวดไปตั้งเเต่เมื่อคืนประมานตีหนึ่ง อ่านก่อนนอนเลยด้วยซ้ำ อ๊ากกกก ทำให้นอนไม่หลับกันเลยทีเดียวเรืองนี้ เครียดฝังใน

โฮฮฮฮฮฮ อยากบอกว่าชอบเรื่องนี้มากๆ ค่า อ่านบอร์ดนี้มาหลายอาทิตย์เเล้ว ยังไม่เคยรีพายให้ใครเลย
เช้ามาตั้งใจสมัครมสมาชิคเเล้วมารีพลายให้เลย ไม่ไหว ชอบมั่กๆๆ(ตรูรู้เเล้ว/คนเเต่ง)

ขอบคุณที่เเต่งนิยายโหดโซโคเเรงอย่างนี้มาให้อ่านน่ะค่ะ ตามหามานานเเล้วเรื่องเเบบนี้
เเล้วรีบมาอัพตอนต่อไปค่า รออย่าใจจดใจจ่อ คนเเต่งสู้ (>_<)Y

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
แวะมาให้กำลังใจเพื่อนนะคับ  สู้ๆๆ :a2: :a2: :a2: :a2:


Kambattekudasai

ออฟไลน์ cargo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

        รอเจ้าของเขา  หน่อยนะ   ถ้าเขามาช้า จาแอบเอามาฟากอะ    :m26: :m26:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
ก่อนอื่น...ขอตอบ Reply ก่อนนะครับ

Cargo // ขอบคุณมากนะครับ ตอนนี้มาต่อแล้วนะครับ!(ยิ้ม)

Jammy // กร๊าซซซซซซซซซซซ  ตอนนี้คุณคาโอรุมาช่วยแล้ว แต่ไม่สำเร็จ เอิ๊กส์!!สะใจ ข้าน้อยยังได้แกล้งโทชิยะ ต่อปายยย :a6:

 55+ (ขอบคุณมากครับที่ติดตามอ่าน)

@PeaZa@ // อ่า...ก่อนอื่นต้องขอบคุณ คุณPeaza ก่อนที่ติดตามนิยายและฟิคของผมทุกเรื่องเลยก็ว่าได้ ขอบคุณมากๆครับ มันทำให้ไอ้เอ็มมีกำลังใจขึ้นตั้งเยอะเลยครับ ตอนนี้เอามาต่อแล้วนะฮะ


blueBoYhUb  // กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ ดีใจจนเนื้อเต้น ไอ้เอ็มพึ่งรู้ว่าท่านอ่านนิยายและฟิคของไอ้เอ็มทุกเรื่องเช่นกัน ขอบคุณมากคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ (555+)ขอบคุณกับกำลังใจและการติดตามอ่านมาเรื่อยๆนะครับ ฮี่ๆๆ

ตอนนี้เฉลยแล้วว่าท่านหญิงโทชิยะเธอไปทำอะไรไว้ (อ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่าเหตุผลมันเน่าอย่างแรง กรั๊กๆๆ)

ขอบคุณมากครับ!!

Sooyuu // ก่อนอื่น...(วิ่งกลับไปอ่านรีพลายอีกครั้ง )หลังจากที่เห็นรีพลายยาวๆแล้วใจหายนะ กลัวถูกว่าเรื่องความโหด แฮ่ๆๆ

เป็นรีพลายที่ยาวที่สุดเท่าที่ได้รับมา ขอบคุณคุณ sooyuu มากๆเลยนะครับ รีพลายของคุณทำให้ไอ้เอ็มนั่งยิ้มได้เลยนะ 

แฮ่ๆๆ อ่านแล้วมันโฮกฮากกระชากใจมากเลยหรือครับ...ถึงกับขนาดที่ทำให้นอนไม่หลับเลยหรือ.. เครียดฝั่งใน!!!

55++ ไอ้เอ็มอ่านแล้วมีความสุขครับ ดีใจที่มีคนชอบ ทีแรกยังกลัวจะถูกด่าซะอีก (มันออกโรคจิตนิดๆอะ) เวลาแต่งต้องนั่งบิวอารมณ์อย่างแรง กระซิกๆๆ สงสารโทชิยะครับ อยากบอกว่าจริงๆแล้วเรื่องนี้ เป็นฟิคชั่นของวง Dir en grey ที่แต่งลงในบอร์ดเดอฟิค ชื่อตัวละครทั้งหมดเอามาจากชื่อจริงล้วนๆเลยครับ

อยากเห็นคุณหมอดายผู้ใจดำ ก็ดูเอานะครับ อีตาหัวแดงใส่เสื้อสีฟ้ายืนเก๊กหล่อที่กำลังใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปอยู่นั้นแหละฮะ คุณหมอดายล่ะ อี่ๆๆ (ที่รักของกระผมเอง)

ขอบคุณมากครับ วันหลังจะเอารูปคุณโทชิยะมาฝากนะครับ รับรอง งามแต้ๆๆ...55+

Toshinya  //  อ่า...อึ้งนะเนี้ย เห็นชื่อแอมแล้วอึ้งเล็กน้อย ไม่นึกว่าแอมจะเข้ามาครับ (ยิ้ม) ไม่ได้คุยกัน

ตั้งนานเรายังเหมือนเดิมใช่มั้ยครับ...?555+แอมงง??

ขอบคุณแอมมากนะครับสำหรับนิยายที่ส่งเมล์มาให้กันนั่งยิ้มได้เสมอ ตอนนี้ไม่ค่อยมีเวลาได้เสพเท่าไหร่ แต่ก็หวังว่าแอมยัง

จะใจดีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆนะครับ

Cargo
อ้างถึง
รอเจ้าของเขา  หน่อยนะ   ถ้าเขามาช้า จาแอบเอามาฟากอะ     

อ่า...ไอ้เอ็มงงครับ...คุณ cargo ช่วยตอบผมด้วย!!!


*** ตอนที่ 5 ขอเตือน!!!

เน่าสนิท ศิษย์ส่ายหน้า!!!***







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2007 20:26:46 โดย Red....[em] »

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
…..

ฉันมีค่าแค่ไหน  5

เสียงเพลงคลาสสิคที่ดังคลอเคล้าฟังแล้วช่างรื่นหูถูกเปิดบรรเลงผ่านไปเพลงแล้วเพลงเล่า เพื่อขับกล่อมความเพลิดเพลินและจรรโลงใจให้แก่แขกหรือนักท่องเที่ยวชายหญิงทั้งหลายที่ต่างก็พากันมาแสวงหาความสุขในบาร์เหล้าชื่อดังย่านใจกลางเมืองแห่งนี้

ชายหนุ่ม 2 คนเลือกที่จะนั่งโซฟาเล็กๆอยู่ในมุมอับที่แขกเรื่อดูไม่พลุ่กพล่านตามากนัก และในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเพลงที่เปิดนั้นมันไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ของคุณหมอหนุ่มและเพื่อนชายของตนอีกคนสดชื่นหรือกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาได้เลย

2 คนต่างนั่งด้วยอาการและความรู้สึกบ้าใบ้ด้วยกันทั้งคู่ ความคิดถูกควบคุมให้ดำดิ่งถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาและรับรู้ได้ในสภาพอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป

ดาย...เครียด แค้น โกรธ สับสน ความคิดและความรู้สึกดูวุ่นวายไม่เข้าใจตัวเอง
ส่วนอีกคนก็มีแต่ความสงสารและเห็นใจเจ้าของสายตาหวานเศร้าคู่สวยเท่านั้น

.........

..............

“ถามจริงๆเถอะ จะทำแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกันวะดาย?”แล้วในที่สุดความอดทนของเจก็หมดลง ความรู้สึกของดายที่เจรับรู้ได้มันสร้างแรงกดดันให้เขาอึดอัดจนทนไม่ไหวที่จะนิ่งอีกต่อไป

พูดหรืออธิบายอะไรซักอย่างซิวะ!

คุณหมอหนุ่มที่นั่งเงียบขรึม เอาแต่ดื่มและสูบบุหรี่ลูกเดียว ไม่มีกะจิตกะใจสนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากเรื่องที่ตนก่อขึ้นมา แทบลืมไปสนิทว่ามีเพื่อนหัวทองของตนนั่งอยู่ด้วยอีกคน จนเมื่อเจเอ่ยถามขึ้นนั้นแหละชายหนุ่มถึงได้หันไปมอง

คิ้วเข้มขมวดกึกหน้าตาบอกบุญไม่รับตั้งแต่ออกจากบ้านมาดูขึงขังบึ้งตึงมากกว่าเดิมเสียอีก ตาคมได้แต่จ้องเพื่อนกลับไม่กล่าวตอบอันใด

“ฉันว่ามันไม่ชักจะสนุกอย่างที่คิดแล้ะนะดาย ฉันไม่เห็นว่ามันจะได้อะไรขึ้นมา นายไม่เห็นหรือไงไอ้หมอนั้นมันจะเป็นบ้าอยู่แล้ว!! มันเจ็บตัว นายเจ็บใจ  ยิ่งทำก็มีแต่จะทรมานด้วยกันทั้ง 2  ฝ่าย ...ฉันไม่เห็นด้วยแล้วว่ะ ...สงสารเจ้าสวยนั้น ...”

กักขัง หน่วงเหนี่ยว ข่มขืน ขืนใจ ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ...เจส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย  เขารู้สึกว่าดายเปลี่ยนไปมาก โหดร้าย และใจดำอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

ชายหนุ่มเอามือลูบหน้า หลับตาอย่างไม่อยากคิดถึงเรื่องที่เพื่อนของตนเปลี่ยนไป

“อันที่จริงฉันมันก็ไม่ค่อยมีมนุษยธรรมกับเขาซักเท่าไหร่หรอกนายก็น่าจะรู้ แต่บอกตรงๆนะดายสภาพของโทชิยะที่ฉันเห็นและไอ้ที่นายทำๆกับเขาไปวันนี้...ทนไม่ได้ว่ะ!....เป็นบ้าอะไรไปวะ?...นายเคยใจดี เป็นคนที่มีเหตุผลมากกว่านี้นะดาย”ฝ่ามือหยาบกร้านบีบหัวไหล่ดายอย่างอ่อนแรง ดายที่เขารู้จักไม่เคยข่มเหงรังแกใคร ถึงแม้เมื่อก่อนตัวเขาเองจะเที่ยวทำตัวอันธพาลเพื่อสร้างบารมีให้ตัวเองแต่ดายก็ไม่เคยทำตามหรือเอาเป็นเยี่ยงอย่างซักครั้ง และทุกครั้งก็มีแต่จะห้ามเขาด้วยซ้ำไป

“หยุดเถอะดาย...ตอนนี้ยังทัน ก่อนที่หมอนั้นจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้...แต่ถ้านายหยุดไม่ได้จริงๆ...ก็ปล่อยให้ฉันจัดการ...นะ ฉันจะไม่ให้เรื่องมันบานปลาย เจ้าสวยนั้นจะกลับไปครบ 32 ประการนะดาย ให้เป็นหน้าที่ฉัน...”เขาคิดว่าตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยขอร้องอะไรดายมาก่อน บางทีดายอาจจะ...

“ถ้าขืนนายยังดันทุรังจะทำเรื่องบ้าๆนี้อยู่ต่อไปล่ะก็...โธ่เว้ย!ทำไมถึงได้ดื้อด้านแบบนี้วะให้ตายสิ!”นิ้วมือทั้งห้าของเจเข้าขยุ้มหัวตัวเองด้วยอาการหัวเสียเมื่อสบตากับดาย แล้วอ่านความคิดของเพื่อนได้ทะลุปรุโปร่ง

“คิดถึงครอบครัว หน้าที่การงาน และคนที่เขารักนายไว้ซิวะ...ถ้าเจ้านั้นหลุดไปแจ้งตำรวจ อนาคตของนายทั้งชีวิตเลยนะดาย!”

“หมอนั้นไม่มีวันที่จะได้ไปไหนทั้งนั้น!”น้ำเสียงกร้าวแทรกขึ้น มือที่ถือแก้วเหล้าเอาไว้เผลอบีบแน่นตามแรงอารมณ์ของตัวเอง

หลังจากที่ทำไม่สนใจสิ่งที่เจพูดอยู่นานในที่สุดชายหนุ่มก็ทนไม่ไหว

“จะเป็นยังไงฉันไม่สนใจ  สิ่งที่หมอนั้นได้รับมันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับชีวิตคน 2 คน!”

“แต่มันไม่ใช่เรื่องที่นายจะไปลงโทษเขา มันเป็นเรื่องสุดวิสัย มันเป็นอุบัติเหตุนายเข้าใจมั๊ย!”

“ไม่ใช่อุบัติเหตุ ไม่ใช่! หมอนั้นตั้งใจ ฉันรู้ โทชิยะอยากเอาชนะชั้น!”

“ดาย...กลับมามองโลกในแง่ดีได้แล้ว เขาจะอยากเอาชนะนายไปทำไม!นายลองลบความโกรธเกลียดออกไป แล้วลองเอาเหตุและผลมาคิดดูใหม่ เรื่องทั้งหมด โทชิยะไม่ได้ทำซักนิด”

“แล้วไง...?นายจะให้ฉันปล่อยโทชิยะไปมีความสุข เที่ยวหลอกใครต่อใครให้หลงรัก...พอเขาติดกับดักก็ทิ้งไปอย่างนั้นเหรอ?”

“นั้นมันก็เรื่องของโทชิยะมัน นาย...”

“หยุดเจ!...นายหยุดพูดซักที ...รู้สึกว่านายจะพูดมากเกินไปด้วยซ้ำ ฉันอยากอยู่เงียบๆ...คนเดียว...ขอบใจมากที่หวังดี ขอบใจเพื่อน”ดายยกมือขึ้นห้าม เพื่อหยุดสิ่งที่เจกำลังจะกล่อมเขาให้ทำตาม

“โอเค.!....งั้นนายก็อยู่คนเดียว...ถามตัวเอง ถามใจนายดูนะดาย”พูดกันไปตอนนี้ก็มีแต่ตัวเขาเองที่จะทนไม่ไหว

“ฉันจะทำ จะทรมานจนกว่ามันจะแหลกลาน...!”แววตาน่ากลัวดูมุ่นมั่นกับสิ่งที่พูดจนเจอดไม่ได้ที่จะหันกลับมามองด้วยความตกใจ

ความโกรธให้เจ้าเพื่อนตัวดีที่พูดแทบตายยังไงก็ไม่ฟังกันนั้นคุกรุ่นขึ้นมาทันตาเห็น

“เอ่อดี!วันไหนที่โทชิยะมันทนไม่ไหวเป็นบ้าหรือตายไปเมื่อไหร่ วันนั้นฉันหวังว่าแกคงจะยิ้มให้กับชัยชนะที่น่าภูมิใจของแก ...แกคงจะมีความสุขมากที่ไม่มีหมอนั้นอยู่บนโลกนี้คอยขัดหูขัดตาแกอีก ฉันขอภาวนาให้แกทำสำเร็จไวๆดาย!”

เจอดพูดกระแทกกระทั้นแดกดันด้วยความโกรธไม่ได้ ทั้งๆที่มันไม่ใช่นิสัยของเขาแต่มันก็ทนไม่ได้จริงๆ
เขาส่ายหน้าก่อนที่จะตัดสินใจเดินออกไป..สภาพแบบนี้...เกินเยียวยา...เห็นทีงานนี้จะไม่พ้นสุหงิโซ...

ชายหนุ่มลุกขึ้นตบบ่าเพื่อนที่เขารักดั่งน้องชาย โกรธกับความคิดดื้อด้านรั้นแต่จะเอาทิฐิของดายโดยที่เจ้าตัวไม่สนใจจะฟังเสียงของหัวใจตัวเองบ้างเลย

นี่ถ้าดายไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับโทชิยะตามที่เขาเห็นและรู้สึกได้ล่ะก็...จ้างให้เขาก็คงไม่ทำตัวเป็นนักบุญมาพล่ามอะไรยาวๆแบบนี้ให้ใครรู้สึกดีหรือสำนึกผิดเป็นอันขาด

ดายไม่ได้กล่าวอะไรกับเจอีก ได้แต่ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มจนหมดภายในพริบตา

“ความรู้สึกกับการกระทำมันฝืนกันได้ แต่หัวใจมันฝืนกันไม่ได้ ฉันอยากให้นายลองเปิดตาเปิดใจยอมรับเรื่องในอดีต มันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขหรือเอามันกลับมาได้อีกแล้ว...ยอมรับหัวใจตัวเอง ฟังเสียงหัวใจของนายเอง แล้วชีวิตนายจะมีความสุข...ดาย ฉันอยากได้น้องชายที่อ่อนโยน ใจดีกลับมา...เข้าใจที่ฉันพูดนะ”แววตาจริงจังสบตากับดายด้วยความหวังดีและเป็นห่วงจากใจจริง ก่อนที่จะส่งยิ้มบางๆให้แล้วเดินจากไป

…… ……………………………………………………………

“ฉันยังสามารถทำแบบนั้นได้อีกเหรอ...?”แก้วเหล้าในมือถูกหมุนเล่นช้าๆ มันไม่ใช่เรื่องที่เขาจะยอมรับได้ง่ายๆ ความโกรธ เกลียด ทรมานเท่านี้มันยังไม่สาสมกับสิ่งที่หมอนั้นทำกับเขาซักนิด...ทำกับคนที่เขารัก...แม้ซักนิดเดียว

ชีวิตของเขาที่เคยมีแต่ความสุข ทุกๆวันมีแต่เสียงหัวเราะและเรื่องสนุกสนาน  แปรเปลี่ยนไปหมด นับตั้งแต่ที่เขาได้รู้จักกับโทชิยะ

สุหงิโซพี่ชายคนโตในบ้าน เก่ง ฉลาด รอบรู้ ใจเย็นและสง่างาม หลงรักใครคนหนึ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นและรู้จักมาก่อน

ดาย...ตัวเขาเคยเป็นคนที่อ่อนโยน ใจดี เป็นคุณหมอหนุ่มไฟแรงที่ใครๆเห็นก็ต่างพากันอยากรู้จัก มีคนรักที่เขารักและทุ่มเททุกอย่างให้กับเธอ...

ฮารุ...เธอสวย อ่อนหวาน เรียบร้อย ดายรักเธอหมดหัวใจ...แต่...สุดท้ายเธอกลับเปลี่ยนใจไปรักคนอื่น

เดมิโกะน้องสาวสุดท้องที่ทั้งเขาและสุหงิโซ ห่วงและรักมาก... เดมิโกะ สวยน่ารักในแบบฉบับของเธอ เธอรักผู้ชายคนหนึ่ง...คนที่เขาไม่ได้รักเธอตอบ....

...............

เล่าให้ใครฟังใครจะเชื่อ มันยิ่งกว่านิยายรักสามเศร้าเสียอีก

โทชิยะเข้ามาในบ้านและรู้จักทุกคนได้ด้วยการแนะนำจากสุหงิโซ ทั้ง 2 คนทำงานที่เดียวกัน สนิทสนมกันถึงขั้นไหนไม่มีใครล่วงรู้ได้ หน้าตาดี สวย เท่ห์ เก่ง ฉลาด น่ารัก สรรพคุณแค่นี้ก็สามารถมัดใจใครๆที่บ้านของเขาได้หมด ทุกคนสนิทสนมกลมเกลียวกันเป็นอย่างดีจนกระทั่ง...วาเลนไลท์เมื่อต้นปี

“คอยดูนะพี่ ฉันจะสารภาพรักกับเขาให้ได้เลย ...เขาจะต้องรับรักฉัน แล้วฉันก็จะให้ดอกไม้ช่อนี้...อ่า..หอมจังคิกๆๆ แล้วจากนั้นฉันก็จะยื่นช็อกโกแล็ตนี่ให้ แล้วก็บอกกับเขาว่าฉันทำเองเลยนะสุดฝีมือเลย ...จากนั้นเขาก็จะต้องรีบแกะชิมแล้วเขาก็จะต้องชมว่าฉันทำเก่งที่สุดในโลกเลย...ว่ามั๊ยพี่ดาย?...คิกๆๆ”น้ำเสียงหวานเอ่ยบอกอย่างมีความสุขพร้อมเสียงหัวเราะสดใสบอกว่าคนพูดอารมณ์ดีแค่ไหนนั้น มันทำให้พี่ชายอย่างเขาพลอยยิ้มตามไปด้วย

“มาแล้วไม่ใช่เหรอพี่...ทำงานอยู่ในห้องพี่สุหงิแน่ะ...ไปๆไปเป็นเพื่อนฉันหน่อย วันนี้แหละฉันจะต้องสารภาพให้ได้ เป็นไงเป็นกัน เนอะ” น้องสาวหน้าตาบ้องแบ้วหันมายักคิ้วลิ่วตาพร้อมกับยิ้มให้เขาอีก ก่อนที่เขาจะตั้งตัวไม่ทันถูกยัยน้องสาวตัวดีลากขึ้นไปยังห้องของพี่ชายคนโต

“จริงๆเลยน้า เราเนี้ย!”ดายยิ้มแหย่ตอบพร้อมกับขยี้หัวทองของน้องสาวเล่นไปด้วย และในระหว่างที่เดินขึ้นบันไดบ้าน

**** เพล้ง**** 

เสียงอะไรบ้างอย่างตกกระทบพื้นดังออกมาจากภายในห้องของสุหงิโซ เรียกความตกใจและสนใจจากสองพี่น้องให้ขยับเท้าเร็วขึ้นกว่าเก่า

ประตูห้องปิดไม่สนิท และมันก็เปิดแง้มเอาไว้กว้างพอที่จะเห็นเหตุการณ์ข้างในนั้นได้

“ฉันขอโทษสุหงิ...” เขากับน้องตาไม่ฝาดแน่ โทชิยะร้องไห้ พี่ชายของเขายืนหันหลังให้โทชิยะ ด้วยท่าทางและหน้าตาที่กำลังโกรธอีกฝ่ายไม่น้อย

 เขาไม่รู้ว่าทั้งสองทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร

“เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทาง!”สุหงิโซหันกลับมาตวาดใส่โทชิยะด้วยความโกรธที่ควบคุมไม่อยู่

“แต่มันเป็นไปแล้วสุหงิ...ฉะ...ฉัน”

***เพี๊ยะ*** ท่ามกลางความตกใจและตกตะลึงยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะพูดจบฝ่ามือของสุหงิก็ตบลงบนใบหน้าของโทชิยะเต็มแรง

“นายต้องรักฉัน! นายต้องรักฉันเท่านั้นโทชิยะ!”ช่อดอกไม้และช็อกโกแล็ต ตกลงจากมือของน้องสาวเขาไปตอนไหน เจ้าตัวคงไม่รู้สึกตัวแน่ ดายจับแขนน้องเอาไว้แน่นอยากพาหนีออกไปจากตรงนั้น แต่ไม่สามารถทำได้ดังที่คิด ภาพของสองคนข้างหน้ามันตรึงสายตาของเขาและน้องให้หยุดนิ่ง ตกตะลึงยิ่งกว่าเก่าเมื่อสุหงิโซกล้าทำในสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน


ร่างเพรียวถูกผลักติดผนังห้อง มือใหญ่จับเรียวแขนยึดเอาไว้ให้ไม่สามารถดิ้นหนีไปทางไหนได้ พี่ชายของเขากำลังกอดและจูบกับผู้ชายเหมือนกัน!

โทชิยะถูกสุหงิโซจูบ!!!

ดายเอามือปิดตาน้องสาวตัวเองและกอดปลอบเอาไว้แน่น ได้ยินเสียงเดมิโกะร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด

“พี่..พี่ดาย ไปช่วยโทชิยะที ช่วยเขาทีพี่ ฮื้อ...”ชายหนุ่มไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้เลย ทั้งเขาและน้องหรือทุกคนไม่มีใครคิดมาก่อนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสอง ไม่มีใครเคยระแคะระคายมาก่อนว่าพี่ชายของเขากับโทชิยะจะ...คบกัน

“เดมิโกะ!”ไม่ทันแล้ว

“หยุดเดี๋ยวนี้นะค่ะพี่สุหงิ...หยุด!ปล่อยโทชิยะเดี๋ยวนี้!”เดมิโกะได้ทำในสิ่งที่ทำให้เขาตกใจอีกรอบ เธอวิ่งเข้าไปห้ามพี่ชายและผลักสุหงิโซออกต่อหน้าต่อตาโทชิยะที่กำลังช่วยตัวเองไม่ได้

“เดมิโกะ!...ดาย!...”ดูเหมือนจะเป็นเสียงร้องด้วยความตกใจของทั้ง 2 คนที่ดังขึ้นพร้อมกัน

“โทชิยะๆโทชิยะ!”และก็ดูเหมือนว่าคนที่ได้สติก่อนทุกคนจะเป็นโทชิยะ ที่ตอนนี้ไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น

โทชิยะร้องไห้ วิ่งหนีออกไปโดยที่ไม่หันกลับมามองเดมิโกะซักนิด อยากออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ร่างเพรียววิ่งชนเขาที่หน้าประตูก่อนที่จะลุกขึ้นมองหน้าเขานิ่งๆ ริมฝีปากอิ่มสั่นเครือ แววตาสวยสั่นระริก น้ำตาใสพรั่งพรูลงมาเป็นสายไร้คำพูดหรืออธิบายอะไรออกมาจากปากบางอิ่ม มือเย็นเฉียบผลักเขาที่ยืนขวางประตูให้หลีกไปทางอื่น ก่อนที่ร่างเพรียวจะวิ่งหนีไป

ได้ยินเสียงสุหงิโซและเดมิโกะยังคงร้องเรียกชื่อของโทชิยะไม่ขาดปาก

ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง  ควรจะเข้าไปปลอบใครระหว่างเดมิโกะ หรือสุหงิโซ ไม่มีใครมีกะจิตกะใจสนใจใคร เดมิโกะรู้สึกจะช็อกกว่าเขาเธอเข้าไปตบตีสุหงิโซอย่างไร้เหตุผลด้วยความโกรธปากก็พร่ำต่อว่า ถามคำว่าทำไมๆอยู่ตลอดเวลา

เสียงฟ้าร้องดังลั่น ข้างนอกบ้านฝนกำลังจะตก ลมกรรโชกแรงออกขนาดนี้พายุกำลังจะเข้าแน่นอน ดายรีบสาวเท้าตามร่างเพรียวออกไปทันที เขาไม่รู้ว่าทำไม เพราะอะไรถึงได้อยากตามร่างเพรียวไป เขานึกหาเหตุผลไม่ออกทั้งๆที่จริงๆแล้วเขาควรจะอยู่เป็นเพื่อนน้องสาวเขามากกว่า

เขาตามร่างเพรียวทันที่หน้าบ้าน แต่ว่าโทชิยะไม่ได้ยืนอยู่เพียงลำพัง ข้างหน้าของโทชิยะมีแฟนของเขายืนอยู่ด้วย...ฮารุ...ในมือของเธอมีช็อกโกแล็ตกล่องใหญ่

ตะ...แต่ว่า ทำไมฮารุต้องร้องไห้ด้วย ใบหน้าสวยดูหม่นหมอง ดวงตาหวานดูเศร้าสร้อยและเว้าวอนอยู่ในที ฮารุเป็นอะไร...?

ดายสาวเท้าเข้าไปใกล้พอที่จะได้ยินคำสนทนาของทั้งคู่ชัดเจน

“จะให้บอกซักกี่ครั้งว่าฉันไม่ได้รักเธอฮารุ ฉันไม่ได้รักเธอ!”โทชิยะตวาดลั่น ร้องบอก ท่าทางไม่ได้สนใจความรู้สึกของฮารุซักนิด

จะให้บอกซักกี่ครั้งว่าฉันไม่ได้รักเธอฮารุ ฉันไม่ได้รักเธอ!

จะให้บอกซักกี่ครั้งว่าฉันไม่ได้รักเธอฮารุ ฉันไม่ได้รักเธอ!

จะให้บอกซักกี่ครั้งว่าฉันไม่ได้รักเธอฮารุ...

จะให้บอกซักกี่ครั้ง...

อย่างงั้นเหรอ...?

“แต่ว่าฉันรักเธอนี่โทชิยะ ฉันรักเธอๆ ได้ยินมั๊ย!”ฮารุก็ไม่ยอมแพ้ เธอร้องตะโกนก้องอย่างคับใจแข่งกับสายฝนที่เริ่มตกลงมา

อย่างนี้ใช่มั้ย...?

แต่ว่าฉันรักเธอนี่โทชิยะ ฉันรักเธอๆ ได้ยินมั๊ย!

ฉันรักเธอนี่โทชิยะ ฉันรักเธอๆ

เขาปิดหูตัวเองรู้สึกหัวใจถูกกระชากอย่างรุนแรงจนต้องเอามือกุมไว้...

“ทำไมๆมันต้องเป็นฉันด้วย!”ร่างเพรียวโอดครวญอย่างเจ็บปวด...

“ฉันรักเธอโทชิยะ ได้โปรด...อย่า...”

“ไม่!เธอไม่ได้รักฉัน แล้วฉันก็ไม่ได้รักเธอด้วย! เราเป็นเพื่อนกันฮารุ! เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน!”

“ขะ..ขอโทษ...แต่ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลยโทชิยะ...ฉัน”

“ไม่นะ!ได้โปรด...อย่าเอาฉันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยอีกเลย ฉันรักเธอไม่ได้จริงๆฮารุ”

“ทำไมโทชิยะๆทำไม!”

“เธอรักชั้นไม่ได้ เธอจะทำยังงั้นได้ยังไง!!...ดาย!...เธอเอาดายไปไว้ที่ไหน!!”

ใช่ ละ...แล้วเขาไปอยู่ที่ไหน...ตอนนี้ในหัวของเขามันอื้ออึงด้วยคำถามของโทชิยะดังก้องไปหมด ความรู้สึกของเขาคงไม่ต่างอะไรกับคนที่กำลังจมน้ำตาย จ้องหน้าคนรักตาไม่กระพริบ อยากเข้าไปถาม อยากรู้สาเหตุ เพราะอะไร เขาทำผิดอะไร ทำไมถึงทำกับเขาแบบนี้!

สาวเท้าเข้าหาคนทั้งคู่ช้าๆด้วยจิตใจที่ล่องลอยตกไปอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้

“ดะ...ดายยย”เป็นโทชิยะที่หันมาเห็นดายเข้า...และจากท่าทางของเขา เขาก็คิดว่าโทชิยะคงจะรู้แล้วว่าเขาได้ยินที่สองคนคุยกันทั้งหมด

“ฉันขอโทษดาย...ขอโทษทุกคน ขอโทษ!”โดยที่ไม่ต้องรอฟังคำยกโทษ โทชิยะก็ผลุนผลันออกจากบ้านไปทันทีในขณะที่ฝนเริ่มลงเม็ดมากขึ้น

“ดาย...ฉัน”ดายยกมือขึ้นห้ามคำที่จะหลุดออกมาจากปากของฮารุได้ทัน คำแก้ตัวถึงสาเหตุทั้งหมดที่เขาอยากจะฟังมาถึงตอนนี้ ตอนที่อยู่ต่อหน้าคนรักดายกลับไม่อยากได้ยินได้เห็นอะไรทั้งนั้น...เขากลัว...กลัวที่จะได้ยิน ...กลัวที่จะรับไม่ได้...กลัวจะทำใจไม่ได้ …กลัวจนไม่อยากมองหน้าใครได้ในตอนนี้

ดายเดินกลับเข้าบ้านโดยไม่ได้สนใจหญิงสาวอีกเลย

ได้แต่ขังตัวเองอยู่ในห้อง  คิดแค่ว่าทำไมถึงได้เกิดเรื่องบ้าบอคอแตกแบบนี้ขึ้น แล้วทำไมเขาถึงต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับมันด้วย เขาคงไม่สามารถไปปลอบใจใครได้แน่ในเวลาเช่นนี้ ทั้งสุหงิโซ เดมิโกะ ฮารุ หรือแม้แต่โทชิยะเอง ทุกคนคงกำลังคิดและทำแบบเขาอยู่แน่ๆ เขาคิดเช่นนั้น

แต่ดายไม่รู้เลยว่าในขณะที่เขาจมปลักอยู่กับความคิดมืดมนและดำดิ่งกับมันอยู่นั้น ทั้งเดมิโกะและฮารุได้ขับรถออกไปตามหาโทชิยะด้วยกัน

ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองหายไปทั้งคืนโดยที่ไม่กลับเข้าบ้าน ทุกคนมารู้เรื่องเข้าก็ต่อเมื่อมีโทรศัพท์จากโรงพยาบาลโทรมาแจ้งข่าวอันโหดร้ายแก่ครอบครัวเขาในตอนสายของวันใหม่

ฝนที่ตกหนักทำให้ถนนลื่น รถที่ขับสวนทางมาข้างหน้าเบรคไม่ทัน ฮารุเป็นคนขับรถไวพอตัวอยู่แล้ว ยิ่งมามีเรื่องและเจอปัญหาที่แก้ไม่ตกแบบนี้เข้าอีก...ให้ตายเขาไม่ยากคิดถึงมันอีกเลย ...

ดายกำหมัดแน่น มืออีกข้างกระดกเหล้าในแก้วเข้าปากรวดเดียวหมด ก่อนที่จะหลับตาลงไม่ยากนึกถึงเรื่องราวในอดีตให้เจ็บซ้ำใจมากไปกว่านี้

ทั้งหมดจะไม่ให้เขาโทษว่าเป็นความผิดของโทชิยะคนเดียวได้ยังไง...ถ้าไม่มีโทชิยะ ทุกคนในบ้านเขาก็คงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์บ้าบอคอแตกแบบนี้ ต้นเหตุ สาเหตุทั้งหมดมันมาจากตัวโทชิยะคนเดียว

ฮารุและเดมิโกะจากเขาไปแล้ว ไม่มีวันกลับมาอีก ไม่มีคำอำลา ไม่มีคำชี้แจงหรืออธิบาย จะมีก็แต่ความเสียใจและอาลัยจากดายเท่านั้น

สุหงิโซก็หายตัวไป...พวกเขารับรู้แค่ว่า พี่ชายยังอยู่ แต่อยู่ที่ไหน อย่างไรนั้น ไม่มีใครรู้เลย...

หมอนั้นแย่งทุกอย่างไปจากเขา...พี่ น้อง คนรัก ความรัก โทชิยะแย่งเอาจากเขาไปหมด!
 สิ่งที่เจต้องการบอกกับเขา...เขากำลังจะเป็นเหมือนกับฮารุ สุหงิโซ และเดมิโกะอย่างนั้นเหรอ?
จะต้องให้เขาทำยังไง? จะต้องให้เขาทรมานไปอีกนานเท่าไหร่ ? จะต้องให้เขาอยู่อย่างเจ็บปวดแบบนี้ตลอดไปหรือไง...?

นึกถึงหน้าฮารุครั้งสุดท้าย...สายตาคู่นั้น...เจ็บปวดเหลือเกิน ...เขาไม่ต้องการได้ยินคำว่าขอโทษ เขาไม่อยากฟัง ที่เขาอยากรู้มีแค่ว่าทำไมคนนั้น ต้องเป็นโทชิยะ!ทำไมต้องให้โทชิยะไปแทนที่เขา!

ผู้ชายในโลกนี้มีเป็นร้อยเป็นพันทำไมต้องเจาะจงแค่โทชิยะด้วย!ทั้งสุหงิโซ...ทั้งเดมิโกะ...ทำไมต้องเป็นโทชิยะด้วย!


ทำไม...?!...ดายไม่เข้าใจ...และก็ไม่เข้าใจมาถึงทุกวันนี้

.................................................................


Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
.................................................................


ฝ่ามือหนานุ่มลูบไล้ที่ใบหน้างามของร่างเพรียวตรงหน้าอย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะคว้าเอาเสื้อคลุมตัวโคร่งมาสวมทับร่างบอบบางให้อีกชั้น เขาทนรอแบบนี้ต่อไปไม่ไหว โทชิยะหลับไปหลายชั่วโมงไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาซักที...ถ้าขืนรอให้ตื่นเองไม่ทันแน่...ดีไม่ดีดายจะกลับมาเสียก่อน

“ขอโทษด้วยนะโทชิยะ...ถึงจะไม่แน่ใจว่านายต้องการให้มันเป็นแบบนี้หรือเปล่า...?แต่ชั้นก็ไม่อาจทนรอเห็นนายมีสภาพอย่างนี้ตลอดไปได้อีกแล้ว ...”

แววตาแข็งกร้าวดูไม่มั่นใจกับสิ่งที่ตัวเองพึมพำกับร่างสวยนักทอดมองร่างเพรียวสวยด้านหน้าตน

ชายหนุ่มพยุงร่างบางปานจะหักขึ้นจากที่นอน เขาต้องรีบพาโทชิยะหนีไปก่อนที่ดายจะกลับเข้ามา

คาโอรุรู้อยู่แก่ใจ ถ้าเขาทำแบบนี้เขาจะไม่มีโอกาสกลับมาที่บ้านนี้ได้อีก รู้ว่าดายจะไม่พอใจและโกรธมากแค่ไหน รู้ว่าแม่จะเสียใจกับการกระทำของเขามากแค่ไหน และรู้ว่าจริงๆแล้วโทชิยะอาจจะเสียใจมากด้วยเช่นกัน ...แต่เขาคงไม่มีทางเลือกอื่นใดอีก นอกจากวิธีนี้เท่านั้น มันเป็นทางออกที่ดีที่สุดกับตัวโทชิยะในเวลาเช่นนี้

สภาพร่างกายและจิตใจที่ย่ำแย่ของร่างบางที่เขาเห็น มันมากเกินกว่าที่เขาจะอยู่เฉยๆได้อีกต่อไป

ขอโทษด้วยนะโทชิยะ...
ขอโทษด้วยนะดาย...
ขอโทษด้วยนะครับแม่...ผมขอโทษ...ยกโทษให้ผมด้วย...ลาก่อนครับ

คำกล่าวลาและสารภาพความผิดผุดขึ้นในใจก่อนที่ชายหนุ่มจะตัดสินใจแน่วแน่ อุ้มร่างบางขึ้นพาดบ่าเพื่อพาออกไปให้พ้นจากที่ตรงนี้ให้เร็วที่สุด...ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

.............

“ทำอะไรคาโอรุ!”แต่ทว่า...ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพาร่างบางเหยียบย่างออกจากเตียง เสียงร้องตวาดถามก็ดังลั่นขึ้นข้างหลัง เสียงเข้มเต็มไปด้วยอำนาจหยุดขาทั้งคู่ของเขาให้ชงักนิ่งอยู่กับที่ทันที

“ฉันถามว่าทำอะไร!”คาโอรุรู้ได้ในทันที ด้วยน้ำเสียงที่เอ่ยถามมันบ่งบอกระดับอารมณ์ของดายให้เขาไม่กล้าที่จะขยับขา..ดายกำลังโกรธมาก

ชายหนุ่มไม่แม้แต่จะเอ่ยตอบ ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปสบตาด้วยซ้ำ จากที่คิดว่าก่อนหน้านี้เขารวบรวมความกล้าว่าจะไม่หวั่นเกรงหรือกลัวดายอีกต่อไป แต่ตอนนี้รู้สึกมันจะใช้ไม่ได้ผลแม้แต่น้อยเมื่อต้องมาอยู่ต่อหน้าดายแบบนี้...เขาจะยอมให้ดายอีกครั้ง...ยอมให้โทชิยะกลับไปเป็นเหมือนเดิม...ยอมให้ดายข่มเหงน้ำใจโทชิยะเหมือนที่ผ่านมาอย่างนั้นใช่ไหม?...แล้วร่างบางที่อยู่ในวงแขนของเขาตอนนี้ล่ะ....จะรู้สึกยังไง...ไม่ได้!

“โทชิยะจะต้องไม่เป็นแบบนี้อีก!”ไวเท่าความคิด คาโอรุโพล่งคำที่ไม่สมควรพูดออกไปอย่างคับแค้นใจ แววตาแข็งกร้าวหันไปจ้องดายไม่กระพริบ วงแขนแกร่งก็ไม่ยอมปล่อยร่างบางให้ห่างตน

“ผมจะพาเขาไปจากที่นี้”คาโอรุไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว ยิ่งร่างบางในอ้อมแขนขยับตัวเหมือนจะตื่นชายหนุ่มก็ยิ่งกระชับวงแขนให้แน่นมากขึ้นอย่างหวงแหน

และโดยที่ดายก็ไม่คิดว่าลูกน้องข้างกายจะกล้าพูดกล้าหือกับเขาเช่นนี้เหมือนกัน คุณหมอหนุ่มขบกรามแน่น ยิ่งสายตาหันไปเห็นกิริยาของคาโอรุที่แสดงต่อโทชิยะ เลือดในกายก็ร้อนระอุแทบไหลทะลักออกมาเสียให้ได้

“ปล่อยโทชิยะลงซะคาโอรุ!”ดายต้องระงับอารมณ์อย่างมากที่จะไม่ระเบิดกับลูกน้องคนสนิท...โทสะที่พร้อมจะแผดเผาให้ทุกอย่างกลายเป็นจุล...ถูกข่มเอาไว้อย่างที่สุด

เผลอคิดไปว่า...ถ้าหากเขามาช้าไปกว่านี้อีกนิดเดียว...เขาอาจจะไม่เห็นใบหน้าหวานขาวเนียนนั่นอีกเลย

“จะไม่มีใครไปไหนทั้งนั้น ฉันบอกให้ปล่อยโทชิยะลง!แล้วนายก็ออกไปจากห้องนี้ได้แล้วคาโอรุ!”น้ำเสียงต่ำลอดไรฟันข่มและอดกลั้นแรงอารมณ์เอาไว้อย่างที่สุดแล้ว จนคาโอรุก็รู้สึกได้ว่าดายยังต้องการรักษาน้ำใจของเขาอยู่บ้าง

“ดาย...”ชายหนุ่มเกิดความลังเลยากที่จะตัดสินใจว่าจะทำยังไงต่อไป ข้างหลังดายตอนนี้ไม่ได้มีแค่บานประตูกั้นเอาไว้แล้วแค่นั้น แต่ชายหนุ่มมองเห็นแม่ของตัวเองที่กำลังยืนอยู่ ...เขาเห็นแม่ร้องไห้...เขาเห็นว่าแม่เสียใจมากแค่ไหน...

“ออกไปคาโอรุ!”เป็นอีกครั้งที่ดายตวาดย้ำด้วยน้ำเสียงที่ข่มไว้เต็มที่

คาโอรุก้มลงมองร่างในวงแขนอีกครั้ง...เขาอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นอีกเลยนับจากเรื่องวันนี้ผ่านไป ชายหนุ่มวางร่างเพรียวลงบนเตียงอย่างเบามือที่สุดก่อนที่จะตัดสินใจ พาตัวเองออกมาจากห้องนั้นให้ไวเท่าที่จะทำได้...

ไม่มีใครเห็นว่าเขาเสียใจแค่ไหน! ไม่มีใครรู้ว่าเขาเจ็บใจมากเท่าไหร่..!.ไม่มีใครรู้ว่าเขาแค้นใจมากขนาดไหน!
แล้วเมื่อไหร่เขาถึงจะหลุดพ้นจากมัน!

ชายหนุ่มปล่อยเสียงสะอื้นที่อัดอั้นทนเก็บเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป สองมือทุบตีผนังห้องด้วยความเจ็บใจ...เจ็บใจดายที่เหนือกว่าเขาทุกอย่าง เจ็บใจตัวเองที่ไม่เข้มแข็งพอ…เจ็บใจที่เขายอมแพ้อีกครั้ง

ทรุดลงกับพื้นอย่างอ่อนล้าหัวใจเต็มที ไม่อายสภาพที่ตัวเองเป็น น้ำตา เสียงสะอื้นไม่คิดที่จะกักเก็บไว้อีก

ภายในห้องของชายหนุ่ม ดูเหมือนเสียงสะอื้นจะดังขึ้นกว่าเดิมเมื่อผู้เป็นแม่เข้าไปปลอบ...สองแม่ลูกกอดกันร่ำไห้อย่างน่าสงสาร ไม่มีอะไรจะอบอุ่นและปลอดภัยที่สุดเท่ากับอ้อมกอดของแม่อีกแล้ว คาโอรุร่ำไห้อย่างไม่อาย...ซักวันเขาจะต้องเข้มแข็งให้ได้

.....................

เมื่อเสียงประตูปิดสนิทลงและชายหนุ่มต้องยืนอยู่นิ่งๆพักใหญ่เพื่อระงับและควบคุมอารมณ์ของตนให้สงบนิ่ง จนเขาแน่ใจว่าจะไม่ไปลงเอากับร่างบางข้างหน้านั่นแหละ ชายหนุ่มถึงได้ก้าวเท้าเข้าไปหา พาตัวเองลงไปนอนข้างๆร่างเพรียว พลางก็นึกถึงคำพูดของเจ และนึกไปถึงว่าทำไมเขาต้องโกรธคาโอรุมากมายขนาดนั้นด้วย

ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะหันไปแอบมองใบหน้าหวานที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวด้านหน้าตน

“ฉันใจร้ายกับนายมากไปหรือเปล่านะ...?”โดยที่ไม่รู้ตัวฝ่ามือแกร่งก็เผลอยกขึ้นลูบไล้และเกลี่ยเส้นผมมันเงางามที่ตกลงมาละใบหน้าออกให้อย่างไม่รู้ตัว

“หน้านายถึงได้เขียวซ้ำแบบนี้”ยิ่งพูดดายก็ยิ่งไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป ฝ่ามือที่ลูบไล้เรือนผมนั้นเล่นละมาสัมผัสที่ปรางแก้มเนียนที่ขึ้นรอยเขียวคล้ำนั้นอย่างเบามือที่สุด เขากลัวว่าสัมผัสของเขาจะทำให้เจ้าของเจ็บมากกว่าเดิม

“เจ็บมากใช่มั้ย?”น้ำเสียงที่ถามกระซิบแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน มุมปากอิ่มที่ขึ้นรอยจากฝ่ามือเขา...ดายขยับเข้าใกล้ร่างบางเพื่อสังเกตสิ่งที่เขาไม่เคยมองให้ชัดและเต็มตามาก่อน

ผิวหน้าเนียนกลมกลึง คิ้วสวยเรียวบาง ขนตาหนาเป็นแพ จมูกโด่งคมสวย และริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อ...ทั้งหมดสวยลงตัวอย่างไม่มีที่ติ...นี่ถ้าไม่มีแผลจากการกระทำของเขาเด่นชัดให้เห็นอยู่แบบนี้...เขาก็ไม่อยากเชื่อว่าใบหน้านี้จะเป็นของผู้ชายเหมือนกัน

“เราเคยพูดกันดีๆซักครั้งบ้างหรือเปล่า...?”

“อื้อ...”เป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างเพรียวพลิกตัวพลางส่งเสียงครางอืออย่างขัดใจเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรมารบกวนการนอนของตัวเองเล่นเอาดายตกอกตกใจขยับตัวออกห่างทันที

ชายหนุ่มนอนมองร่างเพรียวที่นอนพลิกตัวเองไปมาไม่ยอมนอนนิ่งๆซักทีจนเขาเกร็งตัวตามไปด้วย ไม่กล้าขยับไปทางไหนเพราะกลัวว่าจะกวนจนอีกฝ่ายตื่นขึ้นมาเสียก่อน

แต่แล้วดูเหมือนเขาจะคิดผิดเมื่อเจ้าหน้าหวานข้างหน้าเขากลับมุดตัวเข้ามาหาซะงั้น

“นี่...ฉันไม่ใช่หมอนข้างนายนะ”ดายแกล้งพูดเบาๆที่ใบหูเล็กน่าขบแกล้งเล่นนั้น

“อื้ออ...”โทชิยะเองก็ขานรับอย่างไม่รู้เรื่องราวยังขยับตัวเองเข้าหาอกของเขาแล้วซุกหน้าลงมุดมันซะอย่างนั้นเลย แขนและขาคู่เรียวยาวก็เกาะกอดเขาเอาไว้แน่นจนดายรู้สึกว่าตัวเองเหมือนหมอนข้างไปเรียบร้อย

“โทชิยะ...”ดายครางนอนตัวแข็งทื่อ เขาไม่เคยถูกอีกฝ่ายทำอะไรแบบนี้มาก่อน ถึงจะเคยโดนกอด...แต่มันก็ไม่ให้ความรู้สึกอย่างในตอนนี้

โทชิยะระแวง และกลัวเขาอยู่ตลอดเวลาจนร่างเพรียวไม่เป็นตัวเอง กอด จูบ ทุกอย่างทำตามที่เขาสั่ง

ฝ่ามือแกร่งอดที่จะเลื่อนกระชับเอวบางเข้ามาใกล้ตัวเองขึ้นมากอีกนิด...นึกอย่างแกล้งขึ้นมาซะอย่างนั้น

“นี่...โทชิยะ”ใบหูเล็กถูกขบงับเบาๆ ปอยผมที่ละลงมาถูกเก็บขึ้นทัดใบหูให้ เผยให้เห็นซีกแก้มเนียนขาวผ่องน่าหลงใหลและอยากสัมผัส

จมูกคมโด่งแตะลงทันทีอย่างที่ใจคิดทั้งปลายจมูกและริมฝีปากจูบและหอมเล่นวนเวียนอยู่แบบนั้น จนคนตัวบางชักจะรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้ว

“อาราย...นายจะทำอะไรฉันอีก...อย่า...อย่า”ทีแรกดายก็นึกว่าโทชิยะจะรู้สึกตัวขึ้นมาจริงๆเสียอีก แต่เมื่อเขาลองนิ่งดู.....ดายก็นึกขำ เจ้าหน้าหวานนี้เหมือนเด็กไม่มีผิด...หมอนี่ละเมอนั้นเอง

“ฉันร้ายกาจ ใจดำกับนายมากซินะ”แวบหนึ่งที่ดายรำพันกับตัวเองอย่างสับสน ถอดถอนลมหายใจอย่างอ่อนล้าอยู่บนหน้าผากเนียนของอีกฝ่าย

มาคิดดูแล้วเขายังไม่เข้าใจหลายสิ่งหลายอย่างกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่มาก เหตุผลที่โทชิยะกับสุหงิโซทะเลาะกัน หรือว่าเขาจะเข้าใจผิดไปเองคิดว่าสองคนนั้นรักกัน...หรือว่า โทชิยะจริงๆแล้วรักกับฮารุ...มาถึงตอนนี้ดายก็ยังไม่สามารถตอบตัวเองได้เหมือนกัน เขาไม่กล้าถามเอาความจริงกับโทชิยะ

“อื้อ...”แล้วก็เหมือนกับร่างเพรียวจะเกิดอาการหายใจไม่ออกขึ้นมา เมื่อทั้งหน้ามันมุดอยู่กับอกของดายแบบนั้น โทชิยะครางอย่างขัดใจ ดิ้นขลุกขลักอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าเจ้าเอวบางข้างตัวเขาจะดิ้นนานมากเกินไปแล้วนะ

ดายนอนดูอยู่นิ่งๆ เมื่อเห็นว่าโทชิยะทำท่าจะตื่นขึ้นมาจริงๆตาคู่สวยกระพริบพรือขึ้นลงช้าๆ เขาไม่ได้คลายอ้อมแขนออก เพียงแต่กอดไว้หลวมๆคอยดูอาการของอีกฝ่ายเท่านั้น

“ดาย!”จริงดังคาด โทชิยะไม่เพียงแต่จะตกใจเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นเขาอยู่ข้างหน้า ทั้งมือไม้ก็เหมือนจะขัดขืนเขาอยู่ตลอดเวลานั้นก็ผลักเขาออกห่างตัวเองทันที

ร่างเพรียวคู้กายลงไปจนเขารู้สึกว่าโทชิยะตัวลีบเล็กลงไปเกือบเท่าตัวด้วยความกลัวหรือไม่กล้าสบตาเขา แขนขาคู่สวยที่เกาะกอดเขาเอาไว้ในทีแรกตอนนี้ถูกเจ้าตัวเก็บสนิทเกร็งร่างไม่ให้โดนตัวเขาเข้าเลยว่างั้นเถอะ

“อะไร?”ยิ่งต่อต้านดายก็เหมือนจะยิ่งแกล้งขยับกายเข้าหา พลางถามเน้นเสียงเข้มเข้าใส่ โทชิยะขยับตัวจะหันหลังให้เขาเสียให้ได้

“มะ...ไม่มีอะไร”ทั้งที่เอ่ยตอบ แต่เจ้าตัวก็ไม่มีทีท่าว่าจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาซักนิด ไม่ยอมนอนนิ่งๆ เอาแต่ดิ้นเพื่อที่จะให้ตัวเองหลุดออกจากแขนเขาให้ได้อย่างเดียว

“นอนนิ่งๆ...ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”เน้นเสียงแข็งเข้าใส่ขู่อีกฝ่ายให้กลัว เขารู้ว่าโทชิยะต้องเข้าใจความหมายของมันดี

ได้ผล...เจ้าเอวบางด้านใต้นอนนิ่งให้เขากอดจนแทบลืมหายใจเลยก็ว่าได้...แต่ว่ามันนิ่งเกินไปจนเขารู้สึกว่ามันเหมือนขาดอะไรไปซักอย่างหนึ่งหรือเปล่า...สิ่งที่เขาขาดไม่ได้ยามเมื่อแตะต้องร่างหมอนี้

...มันเป็นนิสัย สัน(ด)าน หรือความต้องการกันแน่

แล้วถ้าเขาถามตอนนี้ จะได้คำตอบไหมนะ...?

“โทชิยะ...นายเคยรักใครบ้างมั้ย?”

ระหว่าง สุหงิโซ เดมิโกะ หรือฮารุ 3 คนนี้ใครกันที่นายรัก ...
นายรักใครกันแน่ระหว่าง 3 คนนี้...

 ดายพึมพำเบาๆอยู่ที่กระหม่อมของคนที่ถาม หลับตาลงช้าๆรอฟังคำตอบของร่างเพรียว จะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่คลั่งค้างอยู่ในกระแสเลือดหรือไม่ที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้...ในตอนนี้เขาไม่อยากจะสนใจมันนัก...เขาก็แค่อยากรู้

ได้ยินเสียงหายใจของโทชิยะก่อนที่เจ้าตัวจะเอ่ยออกมาเบาๆเหมือนกัน

“เคยหรือ...?”ร่างเพรียวไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองดาย โทชิยะกลัวว่าถ้าสบสายตาคู่นั้นแล้ว เขาจะตอบคำถามของอีกฝ่ายไม่ได้…และอีกอย่างที่เขาสังเกตได้...ดายผิดปกติจนเขาไม่กล้าคุยด้วย

เรื่องเมื่อวานยังวนเวียนอยู่ในหัว ดายร้ายกาจกับเขาได้อย่างน่ากลัวที่สุด!!
เขามองเห็นแววชิงชังและความเกลียดของดายในแววตากร้าวนั้นได้ติดตา...

"เคยรักมั้ย...?"น้ำเสียงนุ่มทุ้มที่ยังไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองกล่าวย้ำถามขึ้นอีกรอบ...

.............

....................

“อื้อ...เคยรักใครมั้ย?”ดูเหมือนนี่จะเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคุยกันดีๆได้มั้ง..ดายยังคงจะเอาคำตอบให้ได้

โทชิยะหลับตาลง...ดายคงเมา
ลมหายใจที่ผสมกลิ่นเหล้าบอกเขาอย่างนั้น
นึกอยากให้ดายเมาทุกวัน...แต่มันคงเป้นไปไม่ได้...

“เคยรักสิ..."เสียงกระซิบตอบลอดออกมาเพียงแผ่วเบาเท่านั้น

ได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกันจนรู้สึกอึดอัด

"แต่ว่า...ตอนนี้ก็ยังรักอยู่มาก....”แขนคู่เรียวโอบกอดร่างแกร่งโดยที่ไม่รู้ตัว ขยับตัวซุกซบเข้าหาเพื่อแสวงหาไออุ่นที่ลึกสุดของหัวใจนั้นต้องการมันแค่ไหน

อยากให้มันเป็นความฝันที่เขาปรารถนา

…ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้จนแน่นหน้าอก สงสารตัวเองจับใจ เขาไม่กล้าแม้แต่จะร้องไห้เมื่ออยู่ต่อหน้าดาย...เพราะทุกครั้งที่ร้องไห้อีกฝ่ายก็จะโกรธเขาทุกทีไป...ยิ่งนึกถึงเรื่องเมื่อตอนหัวค่ำก็ยิ่งสะท้านใจตัวเอง...ดายเกลียดเขา แม้แต่หน้าเขาก็ยังไม่อยากจะมองด้วยซ้ำที่ทำกับเขาไปตอนนี้คงเป็นเพราะดายเมาแน่ๆ

ยิ่งคิดก็ยิ่งจมปลักด่ำดิ่งลึกลงไปเรื่อยๆจนรู้สึกหนาวสะท้านเผลอกอดรัดอีกฝ่ายแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว...

แล้วดายก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายคงคิดถึงคนรัก คนนั้นมาก มากถึงขนาดกับที่เขาจับความรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว โหยหาใครคนนั้นได้เป็นอย่างดีจากวงแขนคู่ที่รัดเขาเอาไว้แน่นอยู่นี้

กี่ชั่วโมง กี่วัน กี่เดือนมาแล้ว ที่เขาพรากโทชิยะมาแบบนี้...ตลอดระยะเวลาหลายเดือนมานี่โทชิยะเคยพบใครอื่นอีกบ้างไหมนอกจากเขาและคนที่บ้าน...ไม่มีเลย...เขาทำบ้าอะไรลงไป!ทำอะไรลงไปรู้สึกตัวบ้างไหมดาย!

ถ้าจะสำนึกผิด...ถ้าจะปล่อยให้โทชิยะไปอย่างที่เจบอก...ถ้าเขาจะลองมองสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง...เขาต้องยอมรับไอ้ความเจ็บปวดที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเองนี้ให้ได้ใช่ไหม?

ปล่อยให้โทชิยะกลับไปหาครอบครัว หาคนที่รัก...

ดายส่ายหน้าอย่างไม่ยอมรับใจตัวเอง พลิกตัวหันหลังให้ร่างเพรียวไปทั้งอย่างนั้นกลับไปนอนตะแคงโดยที่ไม่ยอมพูดคุยหรือขยับตัวแม้แต่น้อยได้แต่ปล่อยให้วงแขนเรียวกอดเขาจากทางด้านหลังอยู่อย่างนั้น

โทชิยะไม่กล้ากอดแน่นไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่กล้าปล่อยแขนตัวเองออกจากแผ่นหลังแกร่งนี้ด้วย ทำอะไรไม่ถูก...ความรู้สึกกลัวว่าอีกฝ่ายจะโกรธเมื่อเขาขัดใจยังฝังแน่น

ไม่อยากทำให้ไม่พอใจ
ไม่อยากให้โกรธ
ไม่อยากให้เกลียด
ไม่อยากให้ชิงชัง
ไม่อยากให้รุนแรง..กับเขามากไปกว่านี้
แค่นี้...มันก็ทั้งทรมานและเจ็บจนเขาจะบ้าตายอยู่แล้ว!!

แต่กระนั้นถึงจะกลัวดายมากแค่ไหนแต่ในตอนนี้เขากลับรับรู้ความรู้สึกบางอย่างของอีกฝ่ายได้...ความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่เคยได้รับจากดาย...

ดูอ่อนโยน ดูใจดี และดูสับสน ดายไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน...ดูแปลกไปจนน่าใจหาย

....

...
...
...

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
...
...
...

“อยากกลับบ้านมั้ย...?”เป็นดายอีกครั้งที่เอ่ยถามขึ้นมาเบาๆหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบไปนาน
...

...

โทชิยะเลือกที่จะไม่ตอบ...ไม่ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกยังไง หรือคิดอะไรอยู่ถึงได้ถามเขาแบบนี้ออกมา ในตอนนี้เขาไม่อยากรับรู้คำพูดอะไรที่จะออกมาจากปากของดายอีก...

เขาไม่เข้าใจดาย ไม่เคยเข้าใจอีกฝ่าย ไม่เข้าใจว่าดายพูดอะไรอยู่หรือคิดอะไรอยู่...และดายก็ไม่เคยเข้าใจเขา เขารู้สึกยังไง คิดอะไร ดายไม่เคยเข้าใจและรับรู้มัน

"โทชิยะ...?"เขาตอบไม่ได้หรอก...จะเค้นเอาคำตอบให้ตายคามือเขาก็ตอบไม่ได้...เขาจะต้องทนให้ถึงที่สุด

...คางมนสั่นระริกอย่างห้ามไม่อยู่ ซบหน้ากับแผ่นหลังของอีกฝ่ายแบบนั้นอยู่เป็นนานจนในที่สุดกลับเป็นฝ่ายดายที่หันกลับมาอีกครั้งอย่างแปลกใจ

“กลับบ้านมั้ย?”โทชิยะคิดว่าตัวเองฟังไม่ผิดหรือว่าหูไม่ฝาดแน่ แล้วก็คิดว่าเขาไม่ได้สายตาฟ่าฟางด้วยที่เห็นดายยิ้มบางๆให้ตรงหน้า

ใบหน้าเนียนจับจ้องดายนิ่งด้วยความรู้สึกล้นอกก่อนที่จะหลับตาลง...

ขอให้ภาพที่เห็นอยู่นี้อย่าพึ่งหลุดหายไป...
ขอให้ภาพที่เห็นมันไม่ใช่แค่ความฝัน...
ขอให้ดายเป็นแบบนี้ไปอีกนานๆ...
ขอให้ดาย...ยิ้มให้เขาบ้าง...
ขอให้ดาย...รู้สึกดีๆกับเขาบ้าง...
ขอแค่นี้...แล้วเขาจะไม่ดื้อดึง..
ไม่ทำให้โกรธอีก...

เพียงแค่นี้..น้ำตามากมายที่โทชิยะกักเก็บไว้ต่างก็พรั่งพรูลงมาอย่างห้ามเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป มือใหญ่ลูบหัวเบาๆอย่างไม่เคยทำมาก่อน ไม่รู้จะทำยังไงดี...ยิ่งอีกฝ่ายร้องไห้เสียงดังเขาก็รู้สึกว่าฝ่ามือตัวเองมันสั่นตามไปด้วย...ใจเสีย

วงแขนรีบคว้าเอาคนขี้แยมากอดไว้แนบอก

โทชิยะหลับตาแน่นขอคิดเอาว่าตัวเองนอนหลับฝันไปยังจะดีกว่าถ้าหากว่าตื่นขึ้นมาพบว่ามันไม่ใช่ความจริง...แต่ถ้าฝันก็คงเป็นฝันที่เขาปรารถนาเป็นที่สุด

โทชิยะไม่ตอบคำใดเอาแต่ร้องไห้ลูกเดียว...หลายเดือนที่ผ่านมาความกดดันจากดายมันมากแค่ไหนคงไม่ต้องบอก ไม่เคยมีรอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะหรือแม้กระทั่งจะพูดกันดีๆไม่มีเลย... ไม่มีซักครั้งเดียว...

แล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้นกับดาย...?

เขาไม่อยากรู้คำตอบอีกแล้ว...ช่างหัวมัน จะอะไรก็แล้วแต่ ขอแค่ตอนนี้ดายอย่าพึ่งอารมณ์เสียหรือโกรธอะไรเขาขึ้นมาอีกเท่านั้น พระเจ้าโปรดเห็นใจและสงสารเขาด้วยเถิด...

“โทชิยะ...”มือใหญ่พยายามยึดใบหน้าของคนเอวบางขึ้นมามอง จ้องลึกไปถึงข้างใน อยากรู้ว่าโทชิยะจะตอบว่ายังไง...ครางผะแผ่วเมื่อได้มองหน้าอีกฝ่ายชัดตา

ใบหน้าหวานสวยซึ้งที่สุด...
ตาโตดำขวับหลับตาแน่น...
ขนตายาวติดกันเป็นแพเปียกชื้นไปด้วยน้ำตาของเจ้าของ...
พวงแก้มอิ่มมีคราบน้ำตาเต็มไปหมด...
จมูกโด่งเล็กที่รับกับริมฝีปากอิ่มสีแดงระเรื่อ...
ไม่น่าเชื่อว่าองค์ประกอบทุกอย่างนี้จะมีอยู่ในตัวผู้ชายเหมือนกัน...
ไม่น่าเชื่อว่าเขาเคยทำร้ายใบหน้านี้ได้อย่างร้ายกาจ...
เคยใจดำกับสภาพของอีกฝ่ายในตอนนี้...
น้ำตาที่เคยเห็นเป็นจริตมารยา...
มาบัดนี้...มันกำลังฆ่าเขาชัดๆ

โทชิยะ...อย่าร้อง...

ก้อนแข็งๆมันจุกอยู่ที่ปาก ไม่สามารถเอ่ยปลอบได้อย่างที่ใจคิด...ปลายนิ้วแกร่งไล้วนคราบน้ำตาให้แผ่วเบาอย่างไม่เข้าใจตัวเอง


ความเปราะบางอ่อนแอของโทชิยะที่รับรู้ได้อย่างรุนแรง ไม่เคยรู้สึกได้ด้วยใจชัดขนาดนี้

ร่างบางอยู่มาได้ด้วยความใจร้ายใจดำของเขา...
อยู่มาได้ด้วยความโกรธและเกลียดแทบฆ่าให้ตาย...
อยู่มาได้ด้วยการทรมาน...
จะแตกสลายหรือดับไปก็ด้วยน้ำมือของเขาเอง...

"ฉัน...ขะ.-"

สามัญสำนึกที่ตะหนักได้สั่งการให้ปากเอ่ยอย่างคิด แต่ยังไม่ทันที่ดายจะได้กล่าวคำใดออกมาริมฝีปากอิ่มสวยนั้นก็เลื่อนเข้าหาเขาอย่างคาดไม่ถึง..

ช้าเกินไปที่เขาจะเอ่ยบอกกับอีกฝ่าย และช้าเกินไปที่เขาจะห้ามได้ทัน แล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะห้ามโทชิยะ ก็ในเมื่อความรู้สึกของเขาเองมันก็ต้องการสัมผัสจากเจ้าเอวบางมากมายด้วยเหมือนกัน

เพียงแค่โทชิยะแตะริมฝีปากลงประกบเบาๆเท่านั้นอีกฝ่ายที่รออยู่แล้วก็ตอบรับสัมผัสนั้นทันที เรียวลิ้นเข้ารุนรานล้ำลึกอย่างเสาะแสวงหาความจริงจากอีกฝ่าย ดูดเม้ม ดึงดูด ลึกล้ำค่อยเป็นค่อยไป รสลิ้นที่หอมหวานไม่ยอมผละออกจากกันง่ายๆ ลำแขนโอบกอดกันและกันอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ดูดดื่ม ล่ำลึก ดำดิ่ง โหยหาตัวตนของกันและกัน สร้างความรู้สึกดีๆมากมายก่อตัวขึ้นมา

“ดาย...”โทชิยะถอนริมฝีปากออกมาเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่ล้นอก น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นและรู้สึกได้จากดาย แต่ถึงกระนั้นตัวเขาเองก็ยังคงต้องการ...

บ้าหรือโง่ไม่รู้...ที่ข้างในเขาไม่เคยเกลียดดายได้อย่างที่ปากว่าซักครั้ง...ไม่เคยใจร้ายใจดำกับดายได้เลย...ถึงอีกฝ่ายจะโกรธจะเกลียดเขามากแค่ไหน จะทรมานแม้นว่าฆ่าให้ตาย...แต่เขาก็คงเกลียดดายไม่ได้อยู่ดี ...เขาปรารถนาดาย

มัน…เป็นความจริงที่หลีกไม่พ้น เป็นความจริงที่เขาหลีกเลี่ยงไม่ได้...โทชิยะตะหนักได้เป็นอย่างดี

ยิ่งดายอ่อนโยนกับเขามากเท่าไหร่เขาก็รู้สึกใจหาย...เพราะอีกฝ่ายไม่เคยทำแบบนี้กับเขา...นิ้วมือ ปลายลิ้น ริมฝีปากและปลายจมูกที่ปลอบโยนเขานั้น รู้สึกดีมากแค่ไหน...เกินบรรยาย...

จูบที่เป็นมากกว่าจูบ..เพราะมันมาจากความรู้สึกของเขาทั้งหมดที่มีให้อีกฝ่าย ตักตวง ดูดดื่มเท่าที่จะสามารถทำได้ ล้ำลึก ซอกซอนเท่าที่จะไปถึง ทุกตารางนิ้ว ทุกพื้นผิว ทุกรูขมขน ลามเลียจนแทบมอดไหม้ ขอแค่ครั้งเดียวที่เขาจะฝังร่างด้วยความเต็มใจกับร่างกายของดาย

โทชิยะละริมฝีปากขึ้นมาประกบปากกับดายอีกครั้ง แลกรส กลิ่น เสียงอีกรอบด้วยความรู้สึกที่ว่าจูบนั้นไม่เพียงพอ ต่างฝ่ายต่างดูดเม้ม ควานเคล้น ดื่มด่ำหาความหอมหวานอย่างไม่สิ้นสุด

เขาไม่เคยกอดกับดายด้วยความรู้สึกล้ำลึกเป็นหนึ่งเดียวซักครั้ง ...ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่รู้สึกได้อย่างนั้นจริงๆ...น้ำตารินรดลงมาอีกเมื่อร่างกายรับเอาดายเข้ามาด้วยความสมัครใจและต้องการอีกฝ่ายมากมายเหลือเกิน สวมกอดชายหนุ่มเอาไว้แน่น เพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาก็มีตัวตนอยู่ มีเลือดเนื้อ มีลมหายใจและความรู้สึกตลอดเวลา

ขาเรียวเกร็งรับเมื่อตัวตนของดายอยู่ข้างใน ความอึดอัดและคับแน่นสร้างความรู้สึกดีๆให้เกินล้นหลาม ริมฝีปากสวยละขึ้นมาจูบอีกครั้งเพื่อเล้าโลมและปลอบใจ มือใหญ่ประคองเอวบางเอาไว้แน่นเมื่อเขาขยับกายเข้าหา...ครั้งแล้วครั้งเล่า...เท่าที่ต้องการ

ร่างเพรียวดูงดงามยามที่พลิ้วไหวไปตามอารมณ์และความต้องการของตัวเองอยู่บนร่างของดาย
ใบหน้าหวานสวยเศร้าสื่ออารมณ์และความรู้สึกไม่ปิดบังเรียกร้องความต้องการให้ดายไม่สิ้นสุด
เสียงร้องครางผสานเข้าด้วยกันไม่รู้เสียงใครเป็นเสียงใคร
ความต้องการที่ยังคงแหวกว่ายและดิ้นรนไปให้ถึงฝั่ง
ปรารถนาให้สิ้นสุดและจบลงด้วยความสุขสมตราตรึงและสวยงาม


โทชิยะหวังไว้เท่านี้....พรุ่งนี้ถ้าดายตื่นขึ้นมา...หวังว่า...จะไม่โกรธหรืออารมณ์เสียใส่เขาอีก…ขอให้มีรอยยิ้มให้เขาเท่านั้นก็พอ...

To be con…


อ่า...ยาวสะจายยย อ่านกันมาราธอนเลย

ขอบคุณทุกคนมากๆครับ



ออฟไลน์ cargo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

                เหอะ เหอะ มาแย้ว  ๆๆๆ    อยากอ่านต่อมากๆ   กำลังซึ้ง   :give2: :o8: o17
 
         

sooyuu

  • บุคคลทั่วไป
 :a11:  กิ๊ชชชชชชช อิดายน่ารักขึ้นมา(จิ๊ดนึง) อย่างไม่น่าเชื่อ อ๊าชชชชช
เค้าบอกคนเราเมื่อกินเหล้าเเล้วจะเผยธาตุเเท้
นี้คือธาตุเเท้ของอิดายซิน่ะ ออกจะรักโทชิยะซะขนาดนั้น ไม่ได้รู้ตัวเองเล๊ยยยย

เอิ๊กกก เเล้วเพิ่งจะมาสังเกตุอะไรเอาตอนนี้ ช้าไปไหมเธอ ดายเอ๊ย ตบเค้าซะบอบช้ำขนาดนั้นเเล้ว
เขียวอี๊เลยไหมนั้น น่าสงสานเป็นที่สุด เพิ่งจะมารู้ตัว เเม่อยากจับบีบคอนัก

โอ้ว ที่เเท้เรื่องราวที่ทำให้ดายชิงชังโทชิยะมันก็เป็นเช่นนี้เอง โทชิยะก็น่ะ ไม่มีเหตุผลเลย โกรธเข้าไปได้ยังไงกัน
โถ่ๆๆๆ ToT โทชิยะชั้น ไม่ได้รักคนพวกนั้น เค้ารักเเกเฟ้ย (โหมดอินจัดขออภัยเคอะ เหอๆ)
เเล้วนี้มีลางสังหรณ์ว่าความดีที่ดายทำนั้นจะอยู่ไม่คงทนละ โฮกกกกก(ถูกใจเเม่ยกโรคจิต)
เเต่จะรอลุ้นอ่านตอนหน้าน่ะค่ะ ^^

โฮกกกก ตอนเเรกตกกะใจมากๆ ที่คาโอรุพาโทชิยะหนี นึกว่าจะสำเร็จซะเเล้ว ไม่อาววน่า เค้าชอบพระเอกเถื่อนๆ
(โรคจิตได้อีก ชั้นเริ่มกลัวเเกเเล้วน่ะเฟ้ย/ คนเเต่ง)
ดีใจนายเอกยังไม่รอดพ้นมือมารของอิดายไปได้ง่ายๆ ฮ่าๆๆๆ *หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง*

เพิ่งรู้น่ะค่ะเนี่ย ว่าเรื่องนี้เป็นฟิค Dir en grey เงอออ บอกตามตรงไม่ค่อยได้ติดตามวงเจร็อคซะเท่าไหร่ค่ะ เเต่ดูจากภาพเเล้วเท่ใช่ได้เลย (ตอนเเรกเเอบคิดว่าเป็นคุณคนเเต่งซะอีก อิอิ) เเต่ก้อรู้จักวงนี้น่ะค่ะ เเต่จำหน้าใครไม่ได้เท่านั้นเอง อิอิ

อยากบอกว่าเข้ามารอฟิคคุณพี่เอ็มทุกวันเลยค่า เปิดมาไม่เจอก้อเป็นอันสลดกลับไป เเบบว่าติดมากๆ เลยค่า
นานเเล้วน่ะเนี่ยไม่ได้รู้สึกอย่างนี้ เอิ๊กๆๆ ดีใจที่วันนี้มาต่อซะที รอกันใจเเทบขาดเลยทีเดียว เป็นกำลังใจให้คนเเต่งน่ะค่ะ สู้ๆ ค่า รออ่านอย่างเเบบว่าใจจดใจจ่อ เรียกว่าเป็นเเม่ยกเลยก็ว่าได้ อยากให้มาต่อซะวันละสามตอนจริงๆ เเต่ชอบมากๆ เลยตอนนึงที่ยาวจุใจ คนอ่านปลื้มค่า

มองกลับไปดูที่เขียน เม้นยาวไปไหมค่ะเนี่ย ราวกับกำลังเขียนฟิค คุณเอ็มคงไม่เบื่ออ่านน่ะค่ะ
เเบบว่าฟิคมันโฮกกกก ค่า ^^

เเล้วจะรอตอนต่อไปน่ะค่ะ รักคนเเต่งค่า จุ๊บๆๆๆๆ  :a4:
(เข้ามาดูทุกวันเลยจริงๆ น่ะเนี่ย)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2007 21:40:47 โดย sooyuu »

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22

ขอให้ดายคิดได้จริงๆเสียทีเตอะ
เผื่อความจริงจะปรากฎ
 :m15: :m15: :m15: :m15:

คงต้องรอคนที่มาเฉลยความจริงสินะ
 :m21: :m21: :m21: :m21:
กว่าจะถึงเวลานั้น โทชินยะเข้มแข็งไว้นะ
:m8: :m8: :m8:

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
โห นิยายเรื่องนี้ผมยอมรับเลยว่า

บรรยายออกมาแต่ละตัว ใจสั่น ใจหาย ขนลุกอย่างบอกไม่ถูกเลยคับ

มันเสียวแบบกลัวใจตัวเองเหมือนเปนอารมเดียวกับ โทชิยะ เลยคับ

เจอเหตุการณ์ต่างๆมา แล้วเจอความอ่อนโยน มันเหมือนชีวิตจริงมากๆ

มาต่ออีกนะคับ ผมอย่ารุ้ว่า ดาย จะทำยังไงต่อไป



ถูกใจมากคับ +1 ไปเลย

naitae.ks

  • บุคคลทั่วไป
เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น
ปรักปรำฉันเป็นจำเลยของคุณ นี่หรือพ่อนักบุญ
แท้จริงคุณคือคนป่า
ไม่ขอคุกเข่าเฝ้าง้องอน แม้ใจขาดรอนขอตายดีกว่า
ไม่ขอร้องใครให้กรุณา ไม่ขอเศร้าโศกา หรือบีบน้ำตาอ้อนวอนใครๆ

**เชิญคุณลงทัณฑ์บัญชา จนสมอุราจนสาแก่ใจ
ไม่มีวันที่ฉันจะร้องไห้ ร่ำไรเพราะฉันมิใช่หญิงเจ้าน้ำตา
กักขังฉันเถิดกักขังไป ขังตัวอย่าขังหัวใจดีกว่า
อย่าขังหัวใจให้ทรมา ให้ฉันเศร้าโศกา
เหมือนว่าฉันเป็นเช่นดังจำเลย...

@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
คุนพี่คับช่วยมาต่อทีคับผม คุนน้องยังรอเสมอๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด