มาต่อรอบดึกจ้า
=======================================================================
“กาย! โทรศัพท์ดังว่ะ”
“รับให้หน่อยสิ” ผมบอกขณะซุกหน้าอยู่กับหมอน ได้กลิ่นอาหารโชยมาจากในครัว เสียงโทรศัพท์มือถือผมยังคงดังไม่หยุด แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันอยู่ไหน สมองผมมึนตื้อไปหมด
“ลำบากฉันอีกแล้วนะ อ่ะ ฮัลโหลครับ ครับๆคุณพ่อบ้าน คุณชายกายมันนอนอยู่นี่แหละครับ” เสียงเรโอดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ผมลืมตาหันไปมองมัน เห็นสีหน้าของเรโอที่คุยโทรศัพท์อยู่ เปลี่ยนเป็นยุ่งยาก หัวคิ้วขมวดกันมุ่น ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจ
“คุณพ่อบ้านไม่ต้องมารับมันหรอกครับ มันไม่สบายอยู่คงไปไม่ไหว” จากคำพูดของมันทำให้ผมเริ่มสงสัย ผมค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่ง ส่งสายตาเป็นคำถามให้กับมัน
เจ้าเรโอเอามือถือออกห่างใช้มือป้องไว้ไม่ให้ปลายสายได้ยิน แล้วหันมาบอกผมด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“พ่อแกมาแล้วว่ะ พ่อบ้านจะมารับแกไปสนามบิน รู้สึกว่าคู่หมั้นของแกก็มาด้วย”
“หา! ไหนพ่อบอกว่าจะไปพักร้อนที่ฮาวายไง ทำไมจู่ๆถึงกลับมา”
“จะไปรู้เรอะ! แกคุยเองแล้วกัน แต่บอกไว้ก่อนนะว่าอย่าฝืนสังขารไปเด็ดขาด” เรโอยื่นโทรศัพท์มือถือให้ผม แล้วเดินออกไปจากห้อง
“ฮัลโหล พ่อบ้านโทรมาหาผมมีธุระอะไรเหรอครับ”
[“อ่ะ คุณชายเหรอครับ เป็นยังไงบ้างครับ”]
“ก็ไม่สบายนิดหน่อย”
[“งั้นเหรอครับ คือว่า... คุณท่านโทรมาสั่งผมให้พาคุณชายมารับคุณท่านกับคุณหนูหยกที่สนามบินน่ะครับ”]
“มาถึงแล้วเหรอ?”
[“ยังครับ แต่เครื่องลงบ่ายสองโมง”]
“อืมม์ ตอนนี้พ่อบ้านอยู่ไหนครับ”
[“ผมรออยู่ที่ล็อบบี้ข้างล่างแล้ว แต่ถ้าคุณชายไม่ไหวก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะเรียนคุณท่านให้เอง”]
“งั้นก็ฝากด้วยละกันนะครับ” ผมกดวางสายแล้วล้มตัวลงนอน
ความสงสัยวนเวียนอยู่ในสมอง ทำไมน้องหยกถึงมากับพ่อได้? เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?
แต่ที่แน่ๆ ผมคิดว่าหลังจากนี้ต่อไปชีวิตผมคงต้องวุ่นวายแน่ ไม่รู้ว่าคราวนี้พ่อผมจะมาไม้ไหน คงจะหนีไม่พ้นต้องมาวุ่นวายเรื่องชีวิตของผมอีก แล้วคราวนี้ยังพาน้องหยกมาด้วย ผมรู้สึกว่าจุดประสงค์ของพ่อต้องไม่ใช่เรื่องดีสำหรับผมและน้องหยกแน่
“กายมากินข้าว!”
เมื่อได้ยินเสียงเจ้าเรโอเรียก ผมก็ค่อยๆลุกขึ้นจากเตียง ลากสังขารไปที่ห้องครัว เห็นเรโอกำลังตักอาหารที่ทำใส่ชาม ผมจึงทรุดนั่งลงที่โต๊ะอาหาร แล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
“ข้าวต้มกุ้งร้อนๆ มาแล้วครับคุณชาย” มันวางชามข้าวต้มหอมกรุ่นลงตรงหน้าผม
ผมเงยหน้าขึ้นมองมันอย่างแปลกใจ
“นอกจากอาหารอินตาเลี่ยนแล้ว แกทำอย่างอื่นเป็นด้วยเหรอวะ?”
“อย่าดูถูก ก็เห็นนายบ่นว่าไม่อยากกินอาหารอิตาเลี่ยน ฉันก็เลยทำอย่างอื่นให้ทานไง หรือไม่พอใจอีก?”
“เปล่าๆ ก็แค่แปลกใจ”
“ฉันกำลังหัดทำอาหารไทยอยู่น่ะ แล้วไอ้ข้าวต้มเนี่ย เป็นอย่างแรกที่แม่ฉันสอน”
“เหรอ อร่อยดีนี่” ผมตักข้าวต้มเข้าปากหลายคำ รู้สึกว่ามันอร่อยกว่าราซานญ่าเมื่อเช้านี้เยอะ
“ของมันแน่อยู่แล้ว ฮ่าๆ” เจ้าเรโอมันยิ้มแก้มปริเชียว สงสัยจะดีใจมากที่ผมชม
พอทานข้าวกินยาเสร็จ ผมก็เดินโต๋เต๋กลับห้องนอน เพราะยังรู้สึกเพลียๆอยู่ เลยกะจะนอนต่ออีกหน่อย
แต่เรโอก็เข้ามาขัดขวางการนอนของผมเสียก่อน
“มากาย เดี๋ยวเช็ดตัวให้”
“เฮ้ย! ไม่ต้อง จะนอนแล้ว”
“ไม่ต้องเลยไม่เหนียวตัวบ้างรึไง เดี๋ยวเช็ดตัวให้จะได้นอนสบาย” เจ้าเรโอเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ แล้วกลับมาอีกครั้งพร้อมผ้าขนหนูชุบน้ำหมาด
“ถอดเสื้อผ้าสิ”
“ไม่เป็นไร ฉันว่าฉันอาบน้ำเลยดีกว่า” ผมทำท่าจะลุกไปอาบน้ำ คิดว่าตัวผมสกปรกแล้ว เพราะว่าตั้งแต่เมื่อวานก็ไม่ได้อาบเลย ฉะนั้นถ้าจะเช็ดตัวก็อาบน้ำไปเลยดีกว่า
“หยุดเลย แกอยากเป็นปอดบวมรึไง แกไม่สบายอยู่นะ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า”
“ไม่เป็นไรได้ไง พอๆไม่ต้องพูดแล้ว ฉันบอกจะเช็ดตัวให้ ก็ต้องเช็ดตัว” แล้วมันก็ตรงเข้ามายื้อถอดเสื้อผมออก โดยที่ผมขัดขืนมันไม่ไหว
“เฮ้ย!” เรโอทำหน้าตาตื่นตกใจ หลังจากที่มันถอดเสื้อผมได้แล้ว
“อะไรวะ? ร้องซะดัง...”
“ก็นี่ไง!” มันชี้มาที่หน้าอกผม ผมจึงมองตามที่มันชี้ด้วยความสงสัย
“เฮ้ย!!” คราวนี้เป็นผมเองที่ร้องขึ้นมาบ้าง ก็จะไม่ให้ตกใจได้ไงล่ะ ผมลืมไปเลย ลืมร่องลอยหลักฐานที่ไอ้หนุ่มฝรั่งนั่นมันทำไว้กับผมเมื่อวานไปเสียสนิท
ความกลัวเริ่มครอบงำผม ผมกลัวว่าเรโอจะรู้ กลัวคำถามของเรโอที่กำลังจะตามมาหลังจากนี้ แล้วผมจะตอบมันไปว่าอย่างไรดี?
ด้วยความรวดเร็ว ผมรีบกระชากเสื้อของผมที่อยู่ในมือมันมาสวมใส่อีกครั้ง พยายามไม่มองสบตามัน เพราะผมรู้สึกได้ว่าสายตาของมันที่กำลังมองผมอยู่ตอนนี้ เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย...
“กาย...”
ผมล้มตัวลงนอนหันหลังให้มัน พยายามไม่สนใจในสิ่งที่มันจะพูด
“นั่นมันรอยคิสมาร์กนี่?”
_________จบตอน_________
========================================================================
ติดตามตอนต่อไปได้ในวันพรุ่งนี้....

สำหรับตอนหน้า ปริศนาที่มีในตอนแรกจะได้เฉลยกันสักที(ถ้าใครจำได้นะ

)