ตอนที่ ๑๖“อะไรพูดแค่ทำหน้าบึ้ง งอนเหรอ ไม่ง้อนะ” พูดแค่นี้ทำหน้าบึ้ง
“ไม่กินเหรอ กินสิ มัวแต่มองผมจะอิ่มไหม” และแล้วอาหารทุกอย่างก็ถูกลำเลียงลงท้องของผมและพี่เป้ ผมจะเอาจานไปล้างแต่พี่เป้ก็ปฏิเสธอบอกให้ผมไปดูทีวีหรือจะไปนอนก็ได้ ผมเลยเดินออกมานั่งดูทีวี ที่โซฟา ดูได้ซักพักผมก็ไม่สามารถต้านทานพลังแห่งการหลับใหลได้ จึงหลับไปอีกครั้ง ไม่รู้ว่านานเท่าไรพอผมลืมตาขึ้น ก็เห็นพี่เป้ล้างรถที่หน้าบ้าน อืมๆ ไปช่วยหน่อยดีกว่าเดี๋ยวจะว่าเรามานอนสบายเกินไป
“พี่เป้ผมช่วยนะ”
“ไม่ต้องติณนอนต่อเถอะ พี่ล้างเอง”
“ไม่เป็นไรผมช่วย” ผมเดินเข้าไปแย่งฟองน้ำจากพี่ปีย์แล้วบรรจงช่วยล้างอย่างชมักเขม้น จนเรียบร้อยทั้งผมและพี่เป้เปียกไปด้วยน้ำ
“ไปติณขึ้นอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า”
“แล้วพี่ละ”
“เดี๋ยวพี่ตามขึ้นไป ติณเลือกชุดของพี่นะอยู่ในตู้ เสื้อผ้าติณพี่ซักคงยังไม่แห้ง” ผมเดินขึ้นมาบนห้อง กำลังจะเข้าไปอาบน้ำโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น
“เหี๊ยะติณ มึงอยู่หน่ายยย”
“มีอะไรไอ้ชาติหมา”
“ตอบกูมาก่อนมึงอยู่ที่ไหน ทำไม่มาเรียนหนังสือ แม่เสือ(อาจารย์ที่ปรึกษาของผม)ถามหามึงใหญ่เลย พรุ่งนี้มึงโดนเชือดแน่”
“เหรอ แล้วพวกมึงบอกป่าวว่ากูไปไหน”
“ก็บอกว่ามึงป่วยไง สรุปว่ามึงอยู่ที่ไหนตอนนี้” ดีมากเพื่อนรัก
“อืม ก็ดีแล้ว กูอยู่บ้านพี่เป้”
“เฮ้ยๆ ไอ้นี้เอาจริงเว่ย เปแนไงมันมากไหม”
“ปากหมาสมชื่อนะมึง กˆไม่ได้มีอะไรกับพี่เขา”
“อย่ามา ๆ ทำอย่างกับกูจะเชื่อ ไปอยู่ถึงบ้านพี่เขาทั้งวันทั้งคืน กูว่าพี่เขาไม่ปล่อยมึงให้หลุดมือหรอก555”
“ไอ้เหี๊ยะนี้ มึงพูดมาเลยว่ามึงโทรมาทำไม”
“เห็นมะๆ ร้อนตัวเปลี่ยนเรื่องเลยนะมึง555”
“เดี๋ยวมึงได้เลือด กลบปากแน่ ว่ามามีไร”
“ป๊าว แค่เห็นว่ามึงไม่ได้มาเรียนเพื่อนที่แสนดีอย่างกูเลยเป็นห่วง”
“ดีมากเดี๋ยวกูซื้อเพ็ดดีกรีไปฝาก”
“ขอบจาย...เฮ้ย กูไม่ใช่หมา ไอ้ห่านี้ บ้านพี่เป้อยู่ตรงไหนวะ”
“หมู่บ้าน.............มึงจะทำมาย”
“เดี๋ยวกูกับไอ้อ้นไปหามึงที่นั้นนะ”
“มึงจะมาทำไม เดี๋ยวกูจะกลับแล้ว”
“อย่า ๆ อย่ามาหวงพี่เขากับเพื่อนกับฝูงกูไม่แย่งพี่เป้มึงหรอก” กูไมได้หวงโว้ย ไอ้ห่านิ
“ไม่ต้องเลย ไม่ต้องเข้ามา”
“ไม่เกิน 20 นาที กูไปถึง” แล้วมันก็วางสายไปเชื่อกูมาก น่าร๊ากที่สุด ผมรีบเข้าไปอาบน้ำกลับเข้าเปิดตู้เสื้อผ้า อืม ๆ ๆ ใส่ชุดบาสก็ได้ รู้สึกมันจะดีกว่าชุดอื่น ๆ ผมลงมาข้างล่างพี่เป้เปลี่ยนชุดเรียบร้อยสงสัยแกไปเปลี่ยนอีกห้อง
“พี่เดี่ยวไอ้ชาติกับไอ้อ้นจะมาหาผมที่นี้นะ”
“อืมได้สิ แล้วถ้าเพื่อนมาติณจะกลับกับเพื่อนเลยหรือว่าคืนนี้” ก้มมองตีนตัวเองอีกแล้วพี่เป้
“จะให้ผมนอนที่นี้อีกเหรอ”
“ก็ถ้าติณ........”
“ดูก่อนแล้วกัน” กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เสียงโทรศัพท์สุดคราสสิคของผมก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“อืม ว่าไงไอ้ชาติหมา”
“กูมาถึงแล้วบ้านพี่เป้หลังไหนอะ”
“อะพี่เป้มีคนจะคุยด้วย” ผมยื่นโทรศัพท์ไปให้พี่ เป้
“ครับ ๆ ตรงเข้ามาเลยครับซอย 5 หลังขวามือสุดท้าย” พูดเสร็จพี่เป้ก็คืนโทรศัพท์ให้ผม
“เพื่อนติณมาถึงแล้ว”
“รู้ ไม่ต้องบอกหรอก ไม่ได้โง่” พี่เป้ หน้าเหวอไปเลย
“ครับ งั้นพี่ไปยืนรอเพื่อนติณที่หน้าบ้านนะ” สงสัยจะแรงไปแหะ แต่ก็ช่างเถอะ พี่เป้เดินคอตกไปยืนที่หน้าบ้าน ชั่วอึดใจต่อมาผมก็ได้ยินเสียงมอไซด์ ของไอ้ชาติกำลังใกล้เข้ามา ผมชะโงกหัวออกไปดู ไม่ผิด พี่เป้กำลังพามันทั้งสองเข้ามา
“กี่รอบเมื่อคืน” เป็นคำถามแรกที่ไอ้อ้นมันถามผม
“ไอ้สัตว์ คำถามีเยอะแยะไม่ถาม”
“5555 อ้าวก็พวกกูอยากรู้ พี่เป้เมื่อคืนไอ้ติณมันเอาพี่เป้กี่รอบ” คงได้คำตอบมาก เพราะพี่เป้ก้มหน้าก้มตาเดินไปหลังบ้านแล้ว
“ไอ้เหี๊ยะนี้ เล่นไม่เลิกนะ เอาว่ามาพวกมึงมากันทำไม”
“ไม่มีอะไรแค่อยากมาดูบ้านพี่เป้ อืมหลังใหญ่นี้หว่า สงสัยจะรวยมาก แล้วพี่เขาอยู่กับใครละ”
“คนเดียว”
“เยี่ยมเลย มึงก็ย้ายมาอยู่กับพี่เป้ดิ”
“เพี๊ยะ” ผมประเคนฝ่ามือ ไป1ฉาดใหญ่ให้กับไอ้ชาติ
“กูจะมาอยู่กับพี่เขาทำไม” ก่อนที่พวกผมจะเถียงอะไรกันอีก พี่เป้ก็เดินออกมาจากหลังบ้านพร้อมกับเหล้าอีกแล้ว
“โห้ พี่เป้ ไม่น่าลำบากเลย” ไม่น่าลำบากเลย แต่มึงกลับรีบเข้าไปรับมาเลยนะไอ้อ้น
“สวิงซะด้วย สงสัยคืนนี้พี่เป้คงอยากสวิงกับไอ้ติณอีกละสิ555” ผมได้แต่ส่ายหัวไปมากับคำพูดของไอ้ชาติหมา
“ชาติพดูดอะไร พี่ไม่ได้คิดแบบนั้นซักหน่อย”
“ไม่ได้คิดทำไมหน้าแดงละพี่เป้555 พี่เป้น่ารักนะ ถ้าเป็นผู้หญิงผมจีบแล้ว ไม่น่าเรียนช่างเลยน่าจะเรียนด้านบัญชี หรือว่าคอมฯ มากกว่า”
“ไม่รู้สิ พี่เรียนอิเล็กฯ ก็สนุกดี มามา พี่ชงเหล้าให้”
“พี่เป้ มีคาราโอเกะ ด้วยเหรอ” ไอ้ชาติชี้ไปที่เครื่องเล่นใต้จอแอล ซี ดี
“มีสิ จะร้องเหรอ”
“ครับๆๆ” เอาใหญ่เชียวนะ จากนั้นบทเพลงต่าง ๆ ก็ถูกทยอย ออกมาจากปากของไอ้สองตัวนั้น ส่วนผมกับพี่เป้ไม่ได้ร้องหรอกครับ นั่งกินเหล้าไปเรื่อย ๆ ผมประเภทไม่เมาร้องไม่เป็น 555 จนพวกมันทั้งสองคงคิดเพลงอะไรไม่ออกแล้วจึงหยุดร้อง
“เฮ้อ กูละโล่งอก”
“อะไรไอ้ติณ”
“ก็โล่งอกที่พวกมึงหยุดเห่าหอนซักที”
“อะไร ๆ พวกกูไม่ใช่แมวนะเฟ้ย”
“หมา” พวกผมออกเสียงพร้อมกันพร้อมกับตะโดนใส่หน้าชาติ
“พี่เป้ร้องเพลงซักหน่อยสิครับซักเพลงนะๆๆ” ไอ้ชาติอ้อนพี่เป้ให้ร้องเพลง ไม่ได้อ้อนเฉย ๆ นะครับ เอาหัวมันมาถูๆ ไถ ๆ ที่ไหล่ของพี่เป้ เดี๋ยวกูจะถ่ายรูปไปให้เมียมึงดู หุหุหุ
“ไม่ดีกว่าพี่ร้องไม่เพราะ”
“ร้องเถอะพี่ขนาดเสียงไอ้ชาติเหมือนหมาหอนมันยังภูมิใจเลย”
“ไอ้เหี๊ยะอ้น มึงมากับกูนะ เข้าข้างกูหน่อย”
“ไม่เว่ย ถ้าจะเข้ากูเข้าข้างหลังมึงได้ไหมวะ ข้าง ๆ มันไม่มีรูให้เข้า”
“ไอ้สัตว์นิ กูไม่ใช่เกย์ นิจะมาเข้าข้างหลังกู ใช่ไหมพี่เป้” พี่เป้หน้าสลดลงอีกครั้ง
“โทษครับ พี่ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่เป็นไร” พี่เป้ พยายามฝืนยิ้มขึ้นมาคงจุกกับคำพูดของไอ้ชาติหมาเมื่อกี้ไม่หาย
“งั้นพี่ร้องเพลงก็ได้” พี่เป้เริ่มคีย์หาชื่อเพลงจนแกได้เพลงที่ต้องการ เสียงดนตรีเริ่มบรรเลงขึ้น เพลงนี้ผมเหมือนเคยได้ยินแต่มันนานมากแล้ว ก่อนที่พี่เป้จะร้องแกยกเหล้าขึ้นดื่มพร้อมกับหันหน้ามามองผม
ฉันลองถามตัวเองในเหตุผลที่ยังรักเธอ ฉันยังหาไม่เจอว่าทำไม
มันเกิดจากอะไรฉันยังตอบไม่ได้ รู้แค่เพียงว่าฉันรักเธอ
ก็คนมันรักจะทำยังไงก็รัก จะเจ็บยังไงก็รัก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
แต่เธอไม่รักจะทำยังไงไม่รู้ ให้เธอมามองเหลียวดู ดูแลความรักฉันบ้าง
เธอจะหันมองใครจะปล่อยทิ้งให้ฉันเดียวดาย แค่เธอนั้นพอใจไม่เป็นไร
เธอไม่มีเหตุผลฉันก็ทนรับได้ เพียงอย่าจากไปไหนฉันยอม
ก็คนมันรักจะทำยังไงก็รัก จะเจ็บยังไงก็รัก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
แต่เธอไม่รักจะทำยังไงไม่รู้ ให้เธอมามองเหลียวดู ดูแลความรักฉันบ้าง
ยอมทำทุกอย่างที่โง่งมยอมทำทุกความผิด เพื่อให้ชีวิตวันนี้ยังมีเธอต่อไป
ก็คนมันรักจะทำยังไงก็รัก จะเจ็บยังไงก็รัก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
แต่เธอไม่รักจะทำยังไงไม่รู้ ให้เธอมามองเหลียวดู ดูแลความรักฉันบ้าง.
ผมนั่งฟังจนเพลงจบ ไอ้ชาติและไอ้อ้นตบมือกันใหญ่ ผมหันไปมองพี่เป้ รู้สึกเหมือนแกจะร้องไห้
“โห้พี่เป้ร้องเพราะจังเลยครับ น่าจะไปเป็นนักร้องนะเนี๊ยะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”
“มึงร้องบ้างดิไอ้ติณ โชว์หน่อยๆ”
“ยัง พวกมึงร้องไปก่อน” กริ๊งงงงงงงงงงงงงงง โทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมหยับขึ้นมาดู เบอร์พี่โจนี้
“ไงพี่โจ” พี่เป้หันมามองผมทันทีที่ผมเอ่อยชื่อพี่โจออกมาก
“มึงอยู่ที่ไหนเนี๊ยะ”
“แถว ๆ นี้แหละ”
“กวนตรีนกูอีกนะ คืนนี้มีลูกค้า จะรับปะ” พี่เป้หันมามองผม แต่ตอนนี้ไม่ใช่มองธรรมดา แต่กลับจ้องผมด้วยสายตาที่เศร้ายิ่งนัก พี่เป้คงรู้ว่าพี่โจโทรมาหาผมทำไม
“........................” พี่เป้ยืนมือมาแกะแขนผมไว้ พร้อมสายตาที่วิงวอน
“เงียบ จะรับไหม จ่ายหนักนะมึงรายนี้ เร็วตอบกูม๊า ไอ้ติณ” พี่เป้เหมือนจะขยับปากเบาๆ “อย่าไปได้ไหม”
“ผม..........................”
