ดีใจจังเข้าเล้าเป็ดได้แล้ว 
ต้องขอขอบคุณคุณเรย์มากที่สุดสำหรับการคงอยู่ของเล่าเป็ด เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนทัศนะคติและความคิดเห็นกัน
ความเดิมตอนที่แล้ว
หลังจากปรับความเข้าใจกันแล้ว แต่นู๋เดียร์ยังคงมีบางอย่างค้างคาอยุ่ในใจ มาลุ้นกันดีกว่าว่านู๋จะจัดการอย่างไรกับความรู้สึกตัวเอง
หลายวันก่อนที่ผ่านมาไม่ทันคิด เวลานี้เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองคิดถึงไอ้ฮวยมากจนไม่เป็นอันกินอันนอน
คิดถึงจนไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่นั่งหน้าเศร้าทุกข์ทรมานใจ..........เวลาที่ผ่านไปแต่ละนาทีแสนเชื่องช้า
แต่เวลานี้ เวลาที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของคน ๆ นี้ เวลาที่รู้สึกว่าตัวเองมีความสุขที่สุด
กลับผ่านไปอย่างรวดเร็ว รวดเร็วจนน่ากลัว รวดเร็วจนตกใจ
รวดเร็วซะจนเวลานี้ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เป็นอยู่นี้ ใช่อย่างที่คิดเอาไว้แน่แล้วใช่มั้ย......
ลังเลใจที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง......แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจทำในสิ่งที่ต้องการจะทำทั้งที่ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นเรื่องที่สมควรจะทำหรือไม่
โทรศัพท์ในมือถูกกดโทรหาคนที่ต้องการจะติดต่อด้วย
ใบหน้าของเดียร์กำลังเคร่งเครียด และรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังสับสนเรื่องบางอย่างที่ไม่เข้าใจ
หัวใจเต้นระทึก เมื่อมีสัญญาณตอบรับกลับมา
ใจเต้นไม่เป็นส่ำมากขึ้นเมื่อปลายสายกรอกเสียงตอบกลับ
กลั้นใจกรอกเสียงลงไปทั้งที่รู้สึกถึงความรู้สึกบางอย่างที่กำลังถาโถมเข้ามาอย่างช้า ๆ
"ฮาโหลนี่เดียร์พูดนะ.....คือว่า............." เรื่องสั้นคั่นเวลา.....ก็แค่ผู้ชายหยอกล้อกัน ตอน โง่ว่ะ คุยมาตั้งนานแล้วก็โดนด่าจากปลายสาย ตกลงนี่มึงจะให้คำปรึกษากูหรือมึงจะมาเป็นพ่อกูกันแน่เนี่ยไอ้รัก
ทีมึงมีปัญหาปรึกษากูตลอด มีอะไรก็กู แดกข้าวไม่ได้ ก็กู ทำงานก็กู การบ้านก็กู
อะไรก็ให้กูช่วยตลอด ถามแค่นี้ ทำเป็นด่า เดี๋ยวเหอะมึง เดี๋ยวเหอะอย่าให้กูเจอที่กรุงเทพนะ จะเตะให้
โทษฐานที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือและไม่ยอมอธิบายให้ถ่องแท้ แล้วเมื่อเป็นเยี่ยงนี้ตัวกูจะทำเยี่ยงไรหรือวะมึงไอ้รักเพื่อนเวร
"ตกลงมึงว่าไงเนี่ย มึงว่ากูกับน้อง....เอ่อ...น้องคนนี้จะ...จะพอคบกันได้มั้ยวะ คือแบบว่ากูก็เคยทะเลาะกับน้องเขาบ่อย ๆ แล้วแบบว่าไม่ค่อยชอบหน้ากัน ตอนนี้เขาบอกชอบกู กูจะทำยังไงดีวะ คือกูก็ชอบเขานิด ๆ แหละ เออ ก็ไม่นิดก็ได้ ก็ชอบ ..... โว้ย...เออ กูชอบก็ได้วะ แต่กูไม่แน่ใจเพราะกูเพิ่งอกหักมึงเข้าใจกูมั้ย กูกลัวไม่รักน้องเขาจริง ๆ อ่ะ มึงเข้าใจมั้ยวะเนี่ย"
ในเวลาดึกสงัดคืนหนึ่ง ชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งกอดหมอนและพูดจาเพ้อเจ้อกับเพื่อนทางโทรศัพท์อยู่ที่หน้าระเบียงบ้าน ปรึกษากับเพื่อนแบบวกวน จนเพื่อนจับใจความไม่ได้ว่าตอนนี้ เดียร์ต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ เพราะเนื่องจากในเวลาดึกดื่นค่อนคืนป่านนี้แล้วไม่ควรจะไปรบกวนการนอนของชาวบ้านแต่เดียร์ก็กระทำการอาจหาญด้วยการโทรไปหารักชาติเพื่อนรักเพื่อพูดจาเพ้อเจ้อซึ่งแม้แต่ตัวเองยังไม่เข้าใจว่าจะทำไปทำไม
"เออ แค่นี้แหละ นอนไปเลยมึง เซ็ง ไม่ได้ช่วยอะไรกูเลย ห่า อะไรนะ ให้กูเอาสาลี่ไปฝากมึงด้วย บ้านกูอยู่เมืองกาญไม่ใช่สุพรรณไอ้โง่ นอนไปเลยมึง ไร้ประโยชน์จริง ๆ แค่นี้แหละ"
ดึกสงัดคืนนั้น เดียร์กดวางโทรศัพท์ไปแล้วและกำลังนั่งหน้าหงิกหน้างออยู่ที่ระเบียงบ้านของตัวเอง
กอดหมอนที่ถือติดมือมาด้วยและกำลังบ่นพึมพำกับตัวเองเหมือนคนบ้า
"แล้วจะรู้ได้ไงวะว่าไม่ใช่แค่อาการเผลอใจชั่วครั้งชั่วคราว เฮ่อ กลุ้มโว้ยยยยยยยย ทำไงดีวะมึงคนเดียวเลยไอ้ฮวย พากูเครียด คอยดูเหอะ คอยดูทีกูมั่งแล้วกัน โอ้ยยยย เครียดโว้ย"
เดียร์ที่น่าสงสารถูกความสับสนทางความคิดเล่นงาน คิดไม่ตกและคิดไม่ออกว่าเวลานี้จะทำยังไงกันแน่
คิดไปคิดมาก็พาลไม่กล้ากลับเข้าไปนอนในห้องของตัวเองที่มีใครบางคนยึดเตียงนอนเอาไว้
ขืนกลับไปนอนไม่รู้ว่าจะคิดเพ้อเจ้ออะไรอีก แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นบ้าอะไรนักหนาแล้ว
มันเล่นนอนกอดซะแน่นแบบนั้น หน้าห่างกันแค่คืบ นอนใกล้กันจนรู้สึกถึงลมหายใจ
เดี๋ยวก็ได้มีรายการเฮขึ้นมาจนได้หรอก ไอ้ฮวยแม่งก็บ้า มันชอบจริงหรือเปล่าเนี่ย
จะให้เป็นผู้หญิงของมันจริง ๆ หรือไงวะ ไม่เอาโว้ยยยยยยยยยย ไม่อยากเป็น
กำลังนั่งคิดเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ ของตัวเอง คิดไปคิดมา วกไปวนมา นั่งหน้าเครียด แล้วก็บ่นพึมพำอยู่คนเดียวในความมืด และเมื่อหันกลับไปมองที่ข้างตัวก็ถึงสะดุ้งสุดตัวและตกใจสุดขีดเมื่อพบว่ามีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวมานั่งอยู่ข้างๆ จนต้องเผลอตะโกนเสียงดังลั่น
"โว้ยยยยยยยยยยย ผีหลอก พ่อแก้วแม่แก้ว ผีหลอก โว้ยยยยยยยยยยย"
กระโดดลุกขึ้นยืนและหลับตาแน่น เตรียมเผ่นอย่างรวดเร็ว แต่ผีที่อยู่ไม่ห่างออกไปก็รีบคว้าร่างของคนเตรียมหนีผีเอาไว้ก่อนจะหัวเราะดังลั่นด้วยความขบขันกับท่าทางของคนที่ดิ้นรนหนี
"กลัวแล้วกลัวแล้ว เดี๋ยวจะทำบุญไปให้อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย สาธุ"
ตลก เป็นใครก็ต้องขำ เป็นใครก็ต้องหัวเราะ และฮวยก็หยุดเสียงหัวเราะของตัวเองไม่ได้เพราะคนที่ดิ้นรนไปมาในอ้อมแขนคนนี้
"ผีอะไรจะหล่อขนาดนี้......พอแล้ว ไม่ใช่ผี...เนี่ยอะคน...หล่อด้วย มองดี ๆ ซิไม่เห็นหรือไง"
กลัวแทบตายแต่ได้ยินเสียงของผีแล้วก็แทบอยากจะกระโดดเตะผี โทษฐานทำให้เสียฟอร์ม
"แม่งมึง มาเงียบ ๆ แบบนี้ตกใจหมด เอ้าปล่อยซะทีสิวะ มึงนะมึงไอ้ฮวยมึงจำเอาไว้เลย"
จำอะไร จะให้จำอะไร ไม่เห็นมีอะไรน่าจำเลย
เผลอหลับไปนิดเดียว นึกว่าจะได้นอนกอดคนบางคนให้ชื่นใจซะหน่อย ดันหนีออกมาตอนไหนไม่รู้
เลยลุกขึ้นไปตามหา นึกว่าจะหนีไปนอนห้องแม่จริง ๆ ที่ไหนได้ แอบมานั่งคุยกับใครไม่รู้ที่นอกระเบียง
แล้วเรื่องอะไรจะไม่ฟังว่าเดียร์คุยอะไรกับใคร อยากรู้เรื่องของคนที่ตัวเองชอบทำไมจะทำไม่ได้เรื่องปกติจะตาย ฟังไปฟังมาถึงได้รู้ว่ามีสาวน้อยนางหนึ่ง.............ที่ทะเลาะกับคนบางคนอยู่
แล้วก็เหมือนว่าเพิ่งจะชอบกัน.................แต่ขอโทษเถอะครับคุณ นี่น่ะมันน้องตรงไหน ไม่น้องล่ะนะ
โกหกทั้งที ทำไมไม่เนียนเลยล่ะหนูเอ้ย บอกไปเลย ว่าถูกพี่ฮวยสุดหล่อตามจีบอยู่ แค่เนี้ยแหละเพื่อนมันก็เข้าใจ ทำไมต้องพูดอะไรให้มันยากมากมายขนาดนั้น
"ไม่ปล่อยหรอก บอกมานะ เมื่อกี้แอบคุยกับใคร คิดนอกใจหรือไง แอบคบน้องคนไหนอยู่บอกมา"
ฮวยกำลังพยายามปั้นเสียงให้เคร่งขรึมมากที่สุด และทำเหมือนจริงจังกับเรื่องที่ได้ยิน
"ไม่มีเลยน้องอะไร ทำไม ไม่มีเลยน้องเนิ้งอะไร บ้าป่าววะนั่งอยู่เฉย ๆ มาน้งมาน้องอะไรท่าจะประสาทปล่อยเด่ะ จะไปนอนแล้วไอ้ฮวย เร็ว"
ไม่รู้ด้วยหรอกว่าน้องอะไรของมัน ขืนมันรู้ว่าน้องที่ว่าก็คือตัวมันนั่นแหละ คราวนี้นะ ถ้ามันรู้เข้าไม่ใช่แค่อายนะ ที่เอาเรื่องของมันไปปรึกษาชาวบ้าน คราวนี้คงถึงกับต้องเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีแน่ ทุเรศจริงโว้ยกู ทำไมต้องไปปรึกษาเรื่องของไอ้ฮวยกับชาวบ้านด้วยวะ แม่งเอ้ย
"ไม่เอา....บอกมาเดี๋ยวนี้น้องอะไร....ยังไม่ทันไรคิดจะนอกใจแล้วเหรอ ...กล้าดีนักนะ...."
แกล้งทำเสียงเข้ม และเอ่ยบอกเสียงหนัก ๆ แต่ไม่ยอมคลายอ้อมแขนจากคนตัวเล็กกว่าที่พยายามใช้มือรั้งฝ่ามือของฮวยออกจากเอว
ไอ้ฮวย ไอ้บ้าเอ้ย ทำไมชอบกอดเอวนักวะ โธ่โว้ยยยยยยยยยยยยย ไอ้ห่านี่มันจะทำไมวะเนี่ยปล่อยซะทีสิโว้ยยยยยยยย กูไม่รู้จะตอบอะไรแล้วนะ อย่ามารุกไล่กันแบบนี้ได้มั้ยคิดคำตอบไม่ทันเว้ย
"ไม่มี ก็บอกว่าไม่มี ฮื่อ ไม่เชื่อแล้วจะถามทำไม เดี๋ยวต่อยตาแตกเลยมึง จะปล่อยได้ยังเนี่ย"
เรื่องอะไรจะตอบคำถามของไอ้ฮวยง่ายๆ ก็บอกแล้วว่าขืนบอกออกไปก็ได้เสียฟอร์มกันพอดี หาทางเลี่ยงไปให้พ้น ๆ ดีกว่า ไม่อยากอยู่ใกล้มันมาก เพราะว่ามันชักไม่ยอมกอดแค่เอวซะแล้ว
ก้มหน้าลงมาหาบ่อย ๆ แบบนี้หมายความว่าไงวะ ถึงจะมืดจนมองแทบไม่เห็นหน้า แต่ก็เห็นแววตานะโว้ย
ไอ้ตาใส ๆ ระยิบระยับนั่นน่ะ คิดจะมองกันแบบนี้จริง ๆ หรือไง
"คราวหน้าถามกับเจ้าตัวเขาเองว่าเขาล้อเล่นหรือเปล่า......คนไม่ชอบหน้ากันเขาไม่ถ่อมาหากันถึงนี่หรอก ไม่ได้ว่างขนาดอยากเล่นวิ่งไล่จับกับใครนะ ....จะกลัวอะไร.......ถ้าเรื่องนี้เป็นเพราะเดียร์เผลอใจ....งั้นถ้าคิดอะไรออกเมื่อไหร่ ให้เดียร์ไปได้ตลอดเวลาเลย ไม่ต้องแคร์กันเลยก็ได้ แบบนี้สบายใจมั้ย....ยังจะกลัวอะไรอีกหรือเปล่า....."
อะไรนะ
อะไรของมัน
ไอ้..........ไอ้ฮวย...........ไอ้บ้า
อย่ามาพูดแบบนี้นะ.......พูดมาได้ยังไงแบบนี้.........พูดแบบนี้พูดออกมาได้ยังไง
แปลว่าอะไรที่ว่า คิดได้เมื่อไหร่ให้ไปจากกันได้เลย
หมายความว่าอะไรที่ว่า..........ไม่ต้องแคร์........ไม่ต้องแคร์แปลว่าไม่ต้องสนใจ
ทำได้เลยเหรอ ถ้ารักจริง ๆ ชอบกันจริงๆ ยอมปล่อยไปง่าย ๆ แบบนั้นเลยเหรอ
ถ้ารักกันแล้วต้องเสียไป มันทุกข์ทรมานใจแทบตาย คนไม่เคยรักใครมันจะไปรู้ได้ยังไงว่าการต้องปล่อยคนที่ตัวเองรักจากไปต่อหน้าต่อตามันเจ็บปวดแค่ไหน
กินข้าวไม่ได้
นอนไม่ได้
คิดอะไรไม่ออก
โลกทั้งโลกกลายเป็นสีเทา อยากจะร้องไห้ตลอดเวลา ภายในใจเหมือนมีอะไรมากดทับจนหายใจแทบไม่ออก เพียงเพราะว่า..............ปล่อยให้คนที่รักจากไป.......แล้วตัวเองมานั่งเสียใจคนเดียวงั้นเหรอ
"ไม่กลัวอกหักหรือไง........คนที่ไม่กลัว....ก็เพราะว่าไม่ได้ชอบตั้งแต่แรก...จะให้ไปง่าย ๆ ก็แปลว่าจะไปตอนไหนก็ได้ไม่ต่างกัน........เพราะไม่ได้ชอบจริงๆ แค่เล่นสนุก ๆ ใช่มั้ยถึงได้พูดแบบนี้ออกมา"
เดียร์นิ่งเงียบ และตั้งใจฟังทุกคำพูดของฮวย แต่เวลานี้ทนไม่ไหว เก็บความรู้สึกเอาไว้ไม่ได้จนต้องระบายเป็นคำพูดออกมา
กลัวเพราะเคยเจ็บปวด ถึงพยายามคิดอะไรให้ถี่ถ้วน เพราะกลัวว่าจะต้องเสียใจอีก
เป็นคนคิดมาก คิดไปคิดมาก็คิดในแง่ลบ กลัวถูกหลอกแล้วต้องมานั่งร้องไห้คนเดียวอีกครั้ง
ถึงอยากชอบใครก็ไม่กล้าชอบให้มาก เพราะกลัวว่าจะกลายเป็นความรักอีกครั้งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว กลัวเจ็บเหมือนคราวก่อน กลัวต้องเป็นแบบนั้นอีกครั้ง จึงหันเหความสนใจของตัวเอง ด้วยการบอกตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่าครั้งนี้อาจเป็นแค่เผลอใจไปเท่านั้น ถ้าหากคิดถอนตัวเวลานี้ก็คงทัน.....................
นิ่งเงียบไปนานจนชั่วอึดใจใหญ่ ฮวยถอนหายใจยาวเหยียด ก่อนจะเลื่อนแขนขึ้นมากอดรัดร่างของคนในอ้อมแขนให้มากขึ้น กอดเอาไว้ และกดศรีษะของเดียร์ให้แนบซบลงที่แผ่นอก
คิดแบบนี้เองเหรอ เดียร์มันคิดขนาดนี้เลยเหรอ สงสารแล้วนะ แบบนี้ใครมันจะกล้าทำให้เสียใจวะ
"เจ็บจนตายก็ช่างหัวแม่งเหอะ.........ใครจะไปคิดว่าตัวเองจะมาชอบคนบางคนได้.....นึกว่าตัวเองกลัวเป็นคนเดียวงั้นสิ คนอื่นกลัวไม่เป็นเลย.......เนี่ยจนถึงวันนี้คนบางคนยังไม่เคยตอบกลับมาว่าชอบเลยสักคำ
ใครกันแน่ที่ต้องกลัว........ถามจริงๆ นะว่าใคร"
จะทำยังไงดีล่ะ เดียร์ก็ช่างคิดเหลือเกิน คนมันเคยเจ็บมาก่อน จะเร่งรัดตอนนี้เพื่ออะไร ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปคงดีที่สุด จะให้แน่ใจขึ้นมาตอนนี้แบบรวดเร็วทันใจก็คงไม่ได้ ตีกันแทบตาย ด่ากันแทบตาย ปุบปับจะให้รักกันหวานจ๋อย เดียร์คงยังทำใจไม่ทันล่ะมั้ง
"ขี้เกียจพูดว่ะ กอดมาก ๆ เดี๋ยวเคลิ้มกันตรงนี้มันจะยุ่ง.....นอนได้ยัง ง่วงจะตายชัก ยุงก็ชุม ออกมาได้ยังไงดึกดื่นป่านนี้ เดี๋ยวก็โดนยุงหามกันพอดี"
ไอ้ฮวยปากมันเสีย ปากคอน่าเตะชะมัด พูดห่าอะไรก็ฟังไม่ค่อยเข้าหู แต่ก็ทำให้บรรยากาศเขิน ๆ อาย ๆ แบบนี้บรรเทาลงได้บ้าง
อ้อมแขนที่กอดรัดเอาไว้คลายออกและเปลี่ยนเป็นเลื่อนลงมาเกาะกุมที่ฝ่ามือเย็นชื้นของเดียร์เอาไว้แน่น
"ป่ะ....ไปนอนเหอะเนอะ.....เอาหมอนมานี่มา ถือให้"
ก็แค่คำพูดแก้เขิน....ของใครบางคนที่เพิ่งรู้สึกว่า ตัวเองพูดอะไรหน่อมแน้มที่สุดในชีวิตเข้าซะแล้ว
ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ
ไม่อยากคิดว่าเป็นเรื่องจริง แต่ก็ทำไปแล้ว
เออ ใครมันจะไปรู้ว่าเวลากอดเดียร์แล้วมันยิ่งอยากทำมากกว่ากอด เมื่อก่อนมือมันยังไม่เคยคิดจะแตะ
แต่ตอนนี้กุมซะแน่นกลัวเดียร์หนี หน้ามันเมื่อก่อนไม่คิดอยากจะมอง ที ตอนนี้อยากจะจูบอยากจะฟัดซะให้หนำใจ
ที่แย่กว่านั้น...........เวลาพูดว่าชอบทีไร ก็เขินทุกที ยิ่งเห็นดวงตากลม ๆ ใส ๆ ที่เงยหน้าขึ้นจ้องมองเวลาพูดแล้ว ยิ่งพาลไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะพูดออกไปได้ขนาดนั้น
"แล้วอย่าให้รู้นะว่านอกใจแอบคุยกับกิ๊กคนนั้นคนนี้......"
จูงมือเดียร์ให้เดินเข้าบ้านมาด้วยกัน แต่ปากก็ยังพร่ำพูดอะไรไปเรื่อย มีแต่คำพูดที่น่าหมั่นไส้ไม่เข้าหูคนฟังแต่ก็ทำให้เดียร์ที่คิดเรื่องโง่เง่าบ้อบอทั้งวัน แอบอมยิ้มขึ้นมาเล็ก ๆ โดยไม่รู้ตัว
"ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่หว่า มีสิทธิ์จะคุยกับใครก็ได้ ไหนบอกว่าพร้อมอกหักตลอดเวลาไงแล้วจะทำไมล่ะ"
พูดออกไปแล้วก็แอบหัวเราะเล็ก ๆ จ้องมองที่มือของตัวเองที่ถูกกุมเอาไว้แน่นเพราะคนที่จับไม่คิดจะยอมปล่อย ทำไมยอมให้มันจับมือง่าย ๆ แบบนี้หว่า
เดียร์อมยิ้มแต่ฮวยกำลังคิดเรื่องของตัวเองในเวลาเดียวกัน
พูดไปได้นะ ชอบพูดแบบนี้แหละ ชอบทำแบบนี้ด้วย ชอบทำร้ายจิตใจกัน ขอให้ได้กัดเถอะมันชอบนักแหละ ขี้โมโหก็เท่านั้น บางทีก็งี่เง่า ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้หลงผิดได้ขนาดนี้
แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย ว่าชอบคนงี่เง่าอย่างไอ้เด็กตาขวางคนนี้ได้
ตอบออกมาได้ว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน เออ ไม่ได้เป็นล่ะสิ ไม่ได้เป็นซักอย่างเลยนี่ พูดว่าชอบยังไม่เคยเลย
หาเรื่องหนีหน้ากันก็มี หนีออกมาจากห้องก็ทำ แล้วจะไปทำอะไรได้ จะไปกล้าทำอะไรเดียร์ล่ะ
ฮวยหยุดเดิน และยืนนิ่ง หัวคิ้วขมวดมุ่น เพราะได้ฟังคำพูดใจร้ายของคนที่ยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ จ้องหน้าอีกฝ่ายตาไม่กระพริบ ขบริมฝีปากแน่นเหมือนอยากจะบอกให้รู้ว่ากำลังน้อยใจกับสิ่งที่เดียร์ทำ
มองทำไมครับนาเดียร์ ชอบทำตาใสซื่อ ทำหน้าเหมือนไม่รู้เรื่องว่าทำอะไรลงไป แอบยิ้มอยู่ในใจล่ะสิ
ชัวร์แล้วแบบนี้ คงแอบยิ้มอยู่ในใจ ไอ้เด็กตาขวางนี่มันร้ายนัก ถือว่าเรารักเลยชักได้ใจ ก็ให้มันรู้กันไปเลย ให้มันรู้กันไป ว่าพูดแบบนี้ออกมาแล้วต้องเสียใจภายหลังแน่
ไม่ทำอะไรหรอก จะไปทำอะไรได้ล่ะ อยากจะมีก๊งมีกิ๊ก อยากคุยกับใครก็เอาเลยตามสบายจะไปทำอะไรได้ ยอมให้อยู่แล้วนี่ คนมันรักไปแล้วจะให้ทำยังไงล่ะ
"ตามใจเถอะ.....อยากจะทำอะไรก็ทำ......ถ้าอยากเห็นควายยืนร้องไห้ให้ดูต่อหน้าตอนนี้นะ....เดียร์ก็ทำไปเลย"
TBC....