หวาดดีผู้อ่านทุกท่าน อิอิ ขออภัยแบบว่าเว้นช่วงโพสต์นานไปหน่อย เหอ เหอ คอมพ์เดี้ยง จิตตก ไปหน่อย อย่าโกรธกันน๊า 
ปล. ฉลองอีโม่ไหม่ 5555 น่ารักโคตๆๆอ่ะ
ชอบอันนี้สุดๆๆ
ผู้อ่านทุกคนจงมาๆๆๆๆๆๆ 5555555 :เตะ1: ไอ้คนโพสต์พูดมาก เอานี้ไปก่อน **กระโดดหลบอย่างรวดเร็ว
***
ความเดิมตอนที่แล้ว
เมื่อฮวยตามมาเดียร์ถึงกาญจนบุรี (ตามเสียงหัวใจเรียกร้อง) แล้ว คืนนี้จึงเป็นคืนแรกที่ทั้งสองคนจะได้กลับมาทำความเข้าใจกันอีกครั้ง
เออ ยั่วโมโหกันเข้าไปสิวะ ทำได้ทำไป ทำไปเลย ให้กูประสาทเสียไปเลยยิ่งดี
เก่งมากนักใช่มั้ยไอ้ฮวย เก่งมากคอยดูแล้วกัน คืนนี้กูจะไปนอนห้องแม่กู ดูซิมึงจะทำอะไรได้
แล้วคอยดูก็แล้วกัน ว่าจะทำยังไง เอาสิ ยั่วได้ยั่วไป แน่จริงยั่วให้ตลอดนะโว้ยยยยยย
อยากมากนักใช่มั้ย ไอ้จูบรสเลมอนที่ว่าน่ะ นอนกอดหมอนข้างไปเถอะมึง ดูซิจะทำอะไรได้
อยากแกล้งดีนัก แกล้งมาก็ต้องเอาคืนซะบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้มันลอยหน้าลอยตาทำให้โมโหอยู่ฝ่ายเดียว
แผนการณ์คิดเอาไว้ในใจเสร็จสรรพ
แอบคิดว่ายังไงตัวเองก็หาทางหนีทีไล่ไม่ให้โดนแกล้งได้อย่างเรียบร้อย คอยดูแล้วกันไอ้ฮวย คอยดูแล้วกัน ดูซิคราวนี้มึงจะทำยังไง สะใจจริงโว้ยยยยยยยยยย ฮ่า ฮ่า ฮ่า
อย่าหวังจะได้เอาคืนเลยไอ้ฮวย ไม่มีทางหรอก ไม่มีทาง รับรองยังไงก็ไม่มีทางไอ้ฮวย
คืนนี้มึงเซ็งแน่เชื่อกู แล้วมึงคอยดูต่อไปก็แล้วกัน ถึงเวลาเอาคืนแล้วเฟ้ยยยยยยยยยย [/color]
เรื่องสั้นคั่นเวลา.....ก็แค่ผู้ชายหยอกล้อกัน ตอน บอก
"ถ้าคิดว่าเป็นไอ้บ้ากามที่คอยคิดแต่จะทำอย่างว่าขนาดนั้นล่ะก็ ไม่ต้องมาสนใจกันอีกก็ได้ เดียร์อยากทำอะไรก็แล้วแต่เถอะ"
อ้าว.....
เอ่อ แล้ว แล้ว คราวนี้จะให้ทำยังไงล่ะเนี่ย ไหงอยู่ดี ๆ มันเล่นง่ายแบบนี้ล่ะ ก็ใครจะไปรู้ว่าแค่แกล้งหยอกหรือเอาจริง ดูเวลามันแกล้งสิ ทำหน้าแบบนั้น แล้วยังคำพูดบ้า ๆ บอ ๆ ประหลาด ๆ อีก
แล้วจะไม่ให้คิดได้ยังไง แค่บอกว่าจะไปนอนห้องแม่แค่นั้นแหละ จากหน้าระรื่นยิ้มกริ่มอยู่ตลอดเวลาก็เลยกลายเป็นหน้าเฉยและอยู่ในอารมณ์ที่ไม่พร้อมจะคุยกับใครขึ้นมาอย่างกะทันหัน
คนที่มีแผนการณ์เอาไว้ในใจ ไม่ว่ายังไงคืนนี้ก็ไม่นอนห้องของตัวเองแน่ ในเวลานี้ก้าวเท้ากลับมานั่งบนเตียงเงียบ ๆ สายตาจับจ้องไปที่คนบางคนที่ทำท่าเหมือนกำลังค้นหาบางอย่างจากกระเป๋า ทั้งที่กระเป๋าใบแค่นั้นมันจะไปมีอะไรได้ แล้วไอ้ฮวยมันจะค้นอะไรของมันขนาดนั้นวะเนี่ย
"ทำไม จะไปนอนห้องแม่ผิดหรือไง แค่นี้ทำเป็นโมโห นึกว่าสนใจเหรอวะ"
ไม่มีคำว่ายอมแพ้ และมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าอีกฝ่ายคงจะต่อปากต่อคำด้วย ไม่จบง่าย ๆ
แต่กลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด เพราะนอกจากการที่ฮวยเงยหน้าขึ้นมองแค่แว่บเดียวก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำเหมือนกำลังค้นหาของบางอย่างจากกระเป๋าอย่างเอาเป็นเอาตาย แถมซ้ำยังไม่ยอมพูดอะไรอีกเลยสักคำ
โกรธ จริงหรือเปล่า
หรือว่ามันแกล้งอีก ก็ทุกทีคงได้เถียงกันชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใครแล้วแท้ ๆ แต่คราวนี้ทำไมเงียบไปขนาดนั้นล่ะ
หรือว่า.....โกรธจริง ๆ
"ไม่ได้อยากง้อหรอกนะ ก็ใครล่ะที่มัน.........มันอยากพูดอะไรไม่ดีก่อนทำไมล่ะ"
ตั้งท่าจะหาข้ออ้าง แล้วสุดท้ายกลายเป็นตัวเองที่ต้องเงียบเสียงลง เมื่อหันไปสบตากับคนที่เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะก้มหน้าลงอย่างช้า ๆ และเปลี่ยนเป็นนั่งนิ่งเฉยไม่ได้ค้นหาของในกระเป๋าอีก
นั่งนิ่ง
นิ่งจริง ๆ
นิ่งเงียบ จนเดียร์นึกกลัวขึ้นมา
ทำไมถึงได้เฉยขนาดนั้นล่ะ น่ากลัวนะโว้ยยยยย บรรยากาศภายในห้องชวนอึดอัดใจขึ้นมาทันที
ไอ้ฮวยมันคิดจะทำอะไรของมันวะ เล่นสงครามประสาทหรือไง อยากจะเล่นก็ได้ เล่นด้วยก็ได้วะ
นึกว่ากลัวเหรอ ไม่เคยกลัวเลยโว้ย จะบอกให้
ต่างฝ่ายต่างเงียบ เดียร์นั่งอยู่บนเตียงของตัวเอง ส่วนใครอีกคน นั่งเงียบอยู่บนพื้นที่ปูฟูกนอนเอาไว้เรียบร้อย
คงไม่ดีถ้าจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป นาเดียร์คงโกรธจริง ๆ แกล้งมากเกินไปใช่มั้ยถึงได้โกรธขนาดนี้ ถ้าไม่อยากอยู่ใกล้กัน บอกมาตรงๆ อย่าหนี เพราะแบบนี้ทำให้รู้สึกว่า เดียร์ไม่คิดจะเชื่อใจกัน
ช่วยไม่ได้ ทำแบบนี้เอง แกล้งมากเกินไปจนอีกฝ่ายคิดว่าเป็นเรื่องจริงไปแล้ว ก็สมควรที่จะถูกโกรธ
"ไปเถอะ นอนคนเดียวก็ได้ ลืมคิดไปว่านาไม่ได้กลับบ้านบ่อย ๆ ที่มาหาก็มาเป็นภาระพออยู่แล้ว ขอโทษเรื่องที่แกล้งก็แล้วกัน ถ้านาโกรธ ก็สมควร...อยากปากหมาเองทำไมช่วยไม่ได้"
แปลได้ใจความว่า งอนเล็ก ๆ บวกอาการน้อยใจ ตามมาด้วยการพยายามปฎิเสธความต้องการที่แท้จริงของตัวเองด้วยการพยายามเข้าใจว่าเพราะอะไรเดียร์ถึงไม่ยอมอยู่ใกล้ ๆ กัน
แต่เพราะคำพูดเรียบเรื่อย และท่าทีนิ่งเฉยของคนที่เตรียมตัวจะเอนกายลงนอนบนฟูกนอนทำให้เดียร์ต้องหันกลับไปมองคนพูดอีกครั้ง
ทำไมถึงไม่เคยเข้าใจกันสักทีวะ ไม่รู้ว่าไอ้ฮวยมันคิดอะไรของมันกันแน่ บางทีมันก็แกล้งให้โมโห
แล้วเวลานี้มันก็ทำให้รู้สึกผิด กูรู้สึกผิดเข้าใจมั้ย แล้วใครใช้ให้มึงพูดอะไรแปลก ๆ ล่ะ
กูไม่ผิดนะโว้ย แล้วก็ไม่ชอบให้ใครเห็นเป็นตัวตลกเอาไว้แกล้งเล่นด้วย
ถ้าอยากจะทำอย่างนั้นนักล่ะก็........เอาเลยตามสบาย ไม่เคยคิดจะสนใจหรอก จำเอาไว้เลย
เดียร์คว้าหมอนมาถือเอาไว้ในมือ ก่อนจะลุกพรวดพราดขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จ้องมองหน้าของคนที่เอนกายลงนอนและหลับตาแน่นทำเหมือนว่าตัวเองหลับแล้ว ยิ่งมองก็ยิ่งอยากจะเตะคนที่แกล้งหลับให้หายแค้น
ช่างหัวมึงเถอะ กูไม่แคร์มึงหรอก อยากทำแบบนี้ก็ทำไปเลย ไม่สนใจหรอกโว้ยยยยยยย ไอ้บ้าฮวย
คิดอย่างนั้น และพร้อมที่จะทำอย่างนั้น แต่เมื่อก้าวขาเดินออกเดินก็ต้องชะงักเท้ายืนนิ่งเพราะคำพูดของฮวยที่ทำให้ไม่สามารถเดินหนีไปได้
"ไม่เคยง้อใครเหมือนง้อนาหรอก แต่ใจจริงที่อยากจะพูดคืออยากให้นานอนห้องนี้ แต่ถ้าไม่ได้ก็จะบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร..เพราะปากเสียเอาไว้เยอะ นาเลยโกรธมันก็สมควรต้องเจอแบบนี้บ้างช่วยไม่ได้ทำตัวเอง"
ก็เพราะอย่างนี้ เล่นพูดอย่างนี้ มาทิ้งระเบิดเอาไว้ แล้วไอ้ฮวยมันก็แกล้งนอนเฉยแบบนั้น แล้วจะไม่ให้เป็นบ้าได้ยังไง
หมอนหนุนที่ถือเอาไว้ในมือถูกโยนใส่คนที่แกล้งหลับ จนฮวยถึงกับสะดุ้งสุดตัวและลุกขึ้นนั่งทันที
"ไอ้ฮวย โธ่โว้ย มาทำไมเนี่ย ถามจริง ๆ มาแกล้งกันถึงนี่จริง ๆ ใช่มั้ย ตกลงนี่คิดยังไงกันแน่วะ เล่นหมาหยอกไก่หรือไง อะไรจริงอะไรหลอกแยกไม่ออกแล้วนะ หัดพูดอะไรที่มันเป็นจริงบ้างไม่ได้หรือไงวะ"
แล้วคราวนี้เดียร์โกรธอะไรอีก เล่นปาหมอนลงมาใส่หน้ากันแบบนี้ คราวนี้โกรธเรื่องอะไรไม่พอใจอะไรกันแน่
"หัดเข้าใจบ้างว่าแยกไม่ออก เดี๋ยวก็แกล้งเดี๋ยวก็พูดจริง ไม่รู้หรือไงว่าเครียดเป็นเหมือนกัน สนุกอยู่คนเดียวไม่เคยคิดถึงใจคนอื่นเลย ถามจริง ๆ เถอะนะ วัน ๆ ถ้าไม่ได้ทำให้เป็นบ้านี่จะตายหรือไง"
คนพูดพูดจบไปแล้ว และคว้าหมอนขึ้นมาถือไว้อีกครั้งเตรียมจะเดินหนีออกจากห้องจริง ๆ
เรื่องบางเรื่องเก็บกดเอาไว้ในใจตลอดเวลาจนต้องระเบิดออกมาเมื่อทนไม่ได้
เรื่องที่ฮวยไม่เคยรับรู้ เรื่องที่ฮวยไม่เคยรู้แม้แต่น้อยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร และเวลานี้ถึงเพิ่งได้รู้
ไม่ใช่เลย แค่หยอกล้อบ้างเท่านั้น แค่อยากให้หัวเราะบ้าง หรือทำหน้าหลากหลายที่ไม่เคยได้เห็น
ไม่เคยคิดไม่ดีเลยสักนิด ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจใช่ แต่ถ้าเวลานี้ไม่มีทางที่จะกลับไปคิดอย่างนั้นอีกแล้ว
เครียดเหรอ เครียดงั้นเหรอ ไม่เคยรู้ว่าเดียร์ไม่ชอบ ถ้ารู้อย่างนี้จะไม่ทำเลย จะไม่ทำแบบนี้สักนิดเดียว
จะไม่ทำให้ต้องเป็นทุกข์ใจเลยจริง ๆ
"เฮ้ย นา เดี๋ยวก่อน ขอโทษ ขอโทษ นี่คิดแบบนี้จริง ๆ เหรอเนี่ย คิดมานานแค่ไหนแล้ว นา คุยกันก่อนเร็วนาไม่เอาแล้ว อย่าทำหน้าแบบนี้สิ ขอโทษแล้วไง พูดกันก่อน อย่าเลี่ยงสิ"
รีบลุกขึ้นคว้าข้อมือของคนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาจะเดินหนีห่าง แล้วก็ต้องใช้ร่างกันเอาไว้ไม่ให้เดียร์ก้าวออกจากห้องไปได้
"หลีกสิวะ นอนไปเลย นอนคิดให้พอเลยว่าจะแกล้งอะไรอีก อยากจะพูดอะไรก็เอาเลย เวลาพูดก็ไม่ต้องสนใจหรอกว่าคนฟังจะคิดยังไง ไม่ต้องแคร์ด้วยนะ ว่าคนฟังจะเสียใจหรือเปล่า ทำแบบนั้นจนชินแล้วนี่แล้วจะมาสนใจทำไม"
บ้า.....บ้าสิ....ใครจะไปคิดอย่างนั้น นี่ทำแบบนั้นจริง ๆ เหรอเนี่ย ไม่เคยรู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไปบ้างถ้าเดียร์ไม่พูดออกมาวันนี้ก็คงไม่รู้ ว่าตัวเองเป็นมนุษย์ที่ปากเสียขนาดไหน
"นา...."
เรียก และรั้งไว้ไม่ยอมให้คนที่เอาแต่คิดหนีต้องเดินจากไป เรียกด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่า และยิ่งมองหน้าของคนที่ยืนนิ่งแล้วก็ต้องยอมรับว่าตัวเองทำไม่ดีเอาไว้จริง ๆ
"มาทำไมวะ มาเพื่อมาแกล้งให้สนุกแบบนี้จะมาทำไม"
คำถามของเดียร์ทำให้ฮวยต้องยืนนิ่งอึ้งและกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก มาทำไมงั้นเหรอ ทำไมถึงได้ถามแบบนี้ ถามเพราะไม่รู้ หรือว่าถามเพราะอยากจะลองใจ นี่ไม่รู้จริง ๆ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่
ไม่รู้เลยเหรอว่าหลายวันที่ผ่านมา คน ๆ นี้ต้องอยู่ในสภาพแบบไหน ไม่รู้เลยเหรอ ว่าต้องทนกับความทุกข์ใจอยู่เพียงลำพังคนเดียวมากขนาดไหน
"มาหาเพราะว่าคิดถึง.....ที่มาหาเพราะว่าคิดถึง....อยู่ห่าง ๆ แล้วคิดถึง..อยู่ใกล้แค่นี้ยังคิดถึง...อยู่คนเดียวนอนไม่ได้ นารู้มั้ยว่าโทรหากี่ร้อยกี่พันรอบ นารู้มั้ยว่าไม่เป็นอันกินอันนอนตอนที่หานาไม่เจอ แล้วนารู้มั้ยว่านั่งรถมาหาด้วยความรู้สึกแบบไหน มาด้วยความกลัว ....... รู้มั้ยว่ากลัว...กลัวว่าจะไม่ได้เจอ....
เห็นหน้ามั้ย....เห็นหน้าผมตอนนี้มั้ย ........ หน้าเฉย ๆ หน้าตาแบบที่นาไม่ชอบ....แต่เมื่อหลายวันที่ผ่านมานาคงไม่รู้ว่าไอ้คนหน้าตาแบบนี้....หน้าตาแบบที่นาไม่ชอบ..มันร้องไห้เพราะคิดถึงนามาแล้ว.....รับรู้เอาไว้ด้วยเถอะ...นา"
ได้แต่ยืนนิ่งค้าง และไม่กล้าพูดอะไรอีก หลังจากได้รับรู้ทุกคำพูดและความรู้สึกของฮวยจนหมดสิ้น
ดวงตาคมที่สบนิ่งมองมา คำพูดที่จริงจัง ท่าทางที่ทำให้เดียร์ต้องหยุดฟังนิ่ง ๆ และไม่กล้าคิดอะไรไม่ดีอีก
มาหา.....เพราะว่าคิดถึง......ฟังแล้วรู้สึกอุ่นวาบไปถึงหัวใจ
กลัวว่าจะไม่ได้เจอ.....ยิ่งตอกย้ำให้รู้ว่าตัวเองกลายเป็นคนสำคัญและมีค่ากับอีกฝ่ายมากแค่ไหน
ร้องไห้ด้วยเหรอ...............ทำไมถึงได้.....คนอย่างไอ้ฮวย....ร้องไห้เป็นด้วยเหรอ คนอย่างนี้ร้องไห้เพราะว่าคิดถึงใครสักคน...ไม่น่าเชื่อ... ไม่อยากจะเชื่อเลย แล้ว....คน ๆ นั้นก็คือ...........
"นอนห้องแม่....ต้องไปนอนห้องแม่แล้ว....ตะ...ต้องไป...เดี๋ยว...เดี๋ยวนี้เลยไปนอนห้องแม่แล้วนะ"
รีบร้อน ลนลาน ไม่นึกว่าตัวเองจะต้องเจอกับคำพูดแบบนี้ มันแปลกยิ่งกว่าแปลก
แปลกใจตัวเองที่หน้าร้อนผ่าว และลุกลี้ลุกลนจนต้องพยายามหนีห่างออกมาให้ได้
เขิน.....รู้แล้วว่าคนเขินเขาเป็นยังไง ทำตัวไม่ถูก คิดอะไรไม่ออก และควบคุมตัวเองไม่ได้
อยากจะก้าวขาเดินหนีออกไป แต่สุดท้ายก็กลับมายืนที่เดิมไม่ได้ทำอย่างที่ใจคิด
"เอ่อ ห้อง...ห้องแม่.....อยู่ไกล...เดินนาน......ง่วง....ง่วงนอนแล้ว...ปิดไฟ...นอนกันเถอะนะฮวย"
TBC.....